KHR Au S.fic [8059] พราว : 01


KHR Au S.fic [8059]   พราว : 01

: KHR Au Fanfiction
: 8059  feat. 1896   1002769
: Dark Drama  
: NC-17

คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ









“ ยามาโมโตะ  ทาเคชิ...”       รูปของเด็กหนุ่มชาวเอเชียคนหนึ่งถูกโยนลงมาตรงหน้า  สิ่งเดียวที่มองเห็นคือดวงตาสีเปลือกไม้ที่ไร้หัวใจ...ไม่มีแม้แต่แววตาแห่งความมีชีวิตชีวาเฉกเช่นเด็กหนุ่มทั่วไป


“ นี่คืองานแรก และจะเป็นงานเดียวของเธอ...โกคุเดระ ฮายาโตะ...หากเธอบอกว่าอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของแฟมมิลี่เรา”       ก้มมองใบหน้าของคนในรูปอีกครั้ง...น่าแปลกที่อะไรบางอย่างกลับรบกวนจิตใจหากแต่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร







“ จงผูกมัด...ให้เขา...อยู่กับเรา”



                                        
.
.
.
.
.
.
.
.





นัยน์ตาสีมรกตเปิดขึ้นอย่างช้าๆท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆที่ส่องกระทบใบหน้า


ฝัน...

ถึงวันนั้นอีกแล้ว....


ทั้งๆที่ผ่านมาตั้งปีกว่าๆ แต่ภาพในวันนั้นยังคงชัดเจน...กับคำสั่งให้มาปฏิบัติภาระกิจเดียวในชีวิต


ใบหน้าสวยเรียบเฉยหันมองไปรอบๆตัวก่อนจะพบเพียงความเงียบและความว่างเปล่า ทั้งๆที่ร่างกายยังคงรู้สึกได้ถึงไออุ่นของคนที่กอดเขาเอาไว้ทั้งคืน...ผู้ชายคนนั้น....


ยามาโมโตะ ทาเคชิ....มีฝีมือดาบอันร้ายกาจ มีร่างกายที่เคลื่อนไหวได้อย่างยอดเยี่ยม มีความเลือดเย็นดังเช่นนักฆ่า มีเปอร์เซ็นต์ของการสังหารสำเร็จเป็นหนึ่งร้อย และเป็นตัวอันตรายในอันดับต้นๆของวงการมาเฟีย....


ยามาโมโตะ ทาเคชิ มีความจำเป็นต่อแฟมมิลี่




ไม่ใช่เขา....







ร่างโปร่งบางลุกขึ้นจากเตียง ความรุนแรงของอารมณ์ที่ดำมืดยังคงชัดเจนอยู่บนร่างกาย และต่อให้น้ำสีขาวขุ่นจะยังคงไหลลงมาตามเรียวขาก็ไม่อาจรั้งให้หยุดก้าวเดินต่อไปได้ จนกระทั่งความเย็นของสายน้ำกระทบมายังลำตัวที่เต็มไปด้วยรอยจูบ ถึงได้เพิ่งรู้สึกว่าร่างกายนี้คือของของเขาเอง


มือบางเช็ดน้ำหยดสุดท้ายที่เกาะอยู่บนใบหน้าก่อนจะมองภาพของตัวเองในกระจก แปรงสีฟันสองอันที่สะท้อนอยู่ในนั้นบ่งบอกได้ดีถึงความเป็นจริง....ปีกว่าแล้วที่ถูกส่งตัวมาอยู่ที่นี่...มาอยู่ในฐานะพันธนาการที่จะต้องทำยังไงก็ได้ให้หมอนั่นคงอยู่กับแฟมมิลี่  ก่อนที่จะจากอิตาลีมาเขาเฝ้าคิด ถึงวิธีการมากมายที่จะฉุดรั้งผู้ชายคนนั้นเอาไว้ให้ได้ แต่สุดท้าย....


มือยกขึ้นลูบใบหน้าตัวเองในกระจกเงา....


สุดท้ายก็มีเพียงร่างกาย....ที่ผู้ชายคนนั้นต้องการ









ถึงแม้ว่าเบื้องหลังจะเป็นคนที่อันตรายติดอันดับ แต่กับเบื้องหน้าแล้ว...เราสองคนก็เป็นแค่นักเรียน ม.ปลายธรรมดาๆ


ร่างโปร่งบางเดินออกไปยังห้องนั่งเล่นทั้งชุดนักเรียน มือยกกระเป๋าขึ้นสะพายบ่าโดยที่ไม่ได้สนใจว่าจะมีใครอีกคนนั่งอยู่ที่โซฟา  เช่นเดียวกับนัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่ยังคงเหม่อมองออกไปยังท้องฟ้าอย่างไร้จุดหมาย....ความเงียบงันคือเรื่องที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว...


นัยน์ตาสีมรกตปรายกลับมามองร่างสูงใหญ่ที่ยังคงนั่งหันหลังให้อยู่ที่โซฟา....หมอนั่นไม่เคยแม้แต่จะเรียกชื่อเขาด้วยซ้ำ










เสียงประตูปิดลงทำให้ใบหน้าคมหันกลับมาจากภาพของท้องฟ้าที่อยู่ภายนอก....ต่อให้พยายามไขว่คว้าเท่าไหร่...คนอย่างเขาคงไม่มีทางได้ออกไป….


นัยน์ตาสีเปลือกไม้เหลือบมองแก้วกาแฟสองใบที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ครัว


แล้วยิ่งถูกโซ่เส้นนี้รัดพันเอาไว้...คำว่าอิสระก็คงเป็นแค่ความฝัน....


ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นจากโซฟาก่อนจะคว้ากระเป๋านักเรียนและถุงใส่ดาบมาสะพายไว้ที่หัวไหล่...มันหนัก...จนรู้สึกได้


ขายาวก้าวตามอีกคนออกไป ถึงระยะจะห่างพอสมควรแต่เขาก็ยังคงมองเห็นแผ่นหลังบาง...แผ่นหลังของคนที่ถูกเขาใช้กำลังบังคับเอาร่างกายบางๆนั่นมาเป็นของตัวเองตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน


ก็แค่ตุ๊กตาที่ถูกส่งมาให้เล่น....ถ้าเบื่อก็ฆ่าทิ้ง...เขาเคยคิดแบบนั้น.....











นัยน์ตาสีมรกตลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้ม...เขาหนีคาบเรียนที่น่าเบื่อขึ้นมานอนรับลมอยู่บนดาดฟ้า และเมื่อแหงนหน้ามองขึ้นไปยังหลังคาของโถงบันไดซึ่งนับเป็นจุดที่สูงที่สุดของดาดฟ้า เงาร่างที่คุ้นตาก็นั่งอยู่บนนั้นตามคาด


ดวงตาสีเปลือกไม้คู่นั้นยังคงเหม่อมองออกไปที่สนามเบสบอล ถึงแม้ใบหน้าคมของยามาโมโตะ ทาเคชิ จะเรียบเฉย แต่เขาก็รับรู้ได้ว่า หมอนั่นกำลังสนใจกีฬาชนิดนั้นอยู่


ทำไมเขาถึงได้รู้น่ะหรอ?


นั่นก็เพราะว่า ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สิ่งที่รบกวนจิตใจนั้นทำให้เขาเฝ้ามองผู้ชายคนนี้....เช่นเดียวกับที่หมอนั่นเฝ้าเขาอยู่ห่างๆทั้งๆที่ไม่เคยมองเขาเลย


ไม่เคยรู้เลยจริงๆว่าในหัวสีดำๆนั่นกำลังคิดอะไรอยู่...


ร่างโปร่งบางของโกคุเดระ ฮายาโตะลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินตรงไปยังประตูดาดฟ้า เสียงเอี๊ยดๆของประตูดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงของอีกคนที่กระโดดลงมาจากหลังคา


ถึงระยะจะห่างแต่เขาก็รู้ว่ายามาโมโตะเดินตามเขามา....เหมือนทุกๆครั้ง


ขาเรียวก้าวฝ่าผู้คนไปเรื่อยๆ ใบหน้าสวยยังคงเฉยเมย ไม่ยิ้มให้ใคร ไม่ทักทายใคร ไม่พูดกับใคร ไม่...แม้แต่จะหาเรื่องใคร....ซึ่งมันไม่ใช่วิสัยของเขาเลยแม้แต่น้อย กับคนขี้โวยวาย ใจร้อนและไม่ว่าอะไรที่ขัดใจเขาก็พร้อมที่จะถล่มมันให้ราบคาบ....แต่ตอนนี้กลับ....


*ตุบ*


เขารู้สึกได้ว่าใครบางคนเดินชนเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่หันหน้าไปมอง หนำซ้ำยังรีบเดินจ้ำออกไปจากตรงนั้น....อย่า...


“ เฮ้! เป็นอะไรหรือเปล่า?”       .....อย่ามาทัก...อย่ามาพูดคุยกับเขา......


“ เฮ้?!       ได้ยินเสียงผู้ชายคนนั้นตะโกนไล่หลังมา ทั้งๆที่เขาพยายามจะเดินหนี...อีกแค่นิดเดียว...อพาทเม้นต์ของเขามองเห็นอยู่ตรงหน้า...ถ้าไม่ติดที่ว่า


“ เป็นอะไรไป?”      แรงฉุดที่แขนทำให้เขาต้องชะงักและหันตัวกลับไปด้วยนัยน์ตาเบิกกว้าง ใบหน้าของผู้ชายคนนั้นจะเป็นยังไงเขาก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะวินาทีที่หันกลับไป




เลือดก็สาดกระเด็นมาเต็มหน้า…..



ร่างของผู้ชายคนนั้นค่อยๆทรุดลงไป เผยให้เห็นคมดาบแวววับกับคนที่ยืนอยู่เบื้องหลัง


ยามาโมโตะ  ทาเคชิ เป็นคนลงดาบฆ่าอย่างไม่มีปราณี....


ได้แต่ยกมืออันสั่นระริกขึ้นปิดปาก มองซากศพที่ไม่มีแม้แต่ความผิด




มือใหญ่เก็บดาบแล้วลากผู้ชายคนนั้นเข้าไปที่โรงเก็บรถใต้อพาท์เม้นต์ แน่นอนว่าไม่มีใครสงสัย ไม่มีใครทัก


เพราะว่าที่นี่...โกคุเดระ ฮายาโตะ อยู่กับ ยามาโมโตะ ทาเคชิ แค่สองคน...




หลังจากจัดการลากร่างไร้วิญญาณเข้าไปไว้ที่ประโปรงหลังของรถ มือใหญ่ที่เต็มไปด้วยเลือดก็คว้ามาที่แขนเล็กก่อนจะโยนร่างโปร่งบางเข้าไปในรถ เสียงสตาทเครื่องดังขึ้นก่อนที่รถจะถูกขับออกไป...ไม่ช้า...ไม่เร็ว....แต่ทว่ามันกลับคืบคลานราวกับมัจจุราชที่ค่อยๆเคลื่อนกายอยู่ภายใต้ความมืด


โกคุเดระ ฮายาโตะ ได้แต่นั่งเงียบอยู่ที่เบาะข้างๆ นัยน์ตาสีเปลือกไม้ของเขาไม่ได้หันไปมองแต่ทว่าก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายจะมีปฏิกิริยายังไง


ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องสนใจ...


ภายใต้แสงสลัวๆของช่วงพลบค่ำ พลั่วถูกเสียบลงไปในพื้นก่อนจะงัดดินสีดำขึ้นมากองเอาไว้ เหงื่อเม็ดเล็กๆเกาะอยู่ที่ใบหน้าคมซึ่งไม่มีปฏิกิริยาสะทกสะท้านใดๆ....ฆ่า...แล้วก็เอามาฝังทิ้งไว้ที่นี่....เขาทำแบบนี้มาตั้งแต่จำความได้


เพียงแต่ในความทรงจำที่ผ่านมา...ไม่เคยมีสายตาของใครอีกคนมานั่งจับจ้องมองเขาอยู่แบบนี้










เรียวขายกขึ้นมาชันเข่าก่อนที่คางมนจะเกยลงไป นัยน์ตาสีมรกตเฝ้ามองร่างสูงใหญ่ที่กำลังฉีดน้ำล้างคราบเลือดที่ท้ายรถด้วยความเหม่อลอย


กี่ครั้งกันแล้วที่หมอนั่นลงมือฆ่าคนที่แม้แต่จะแค่เข้ามาพูดคุยกับเขาโดยบังเอิญ


เขาเป็นมาเฟีย...เขาเคยเห็นคนตายต่อหน้ามานักต่อนักกับอีแค่ใครจะมาตายต่อหน้าอีกซักคนสองคนเขาก็ไม่ได้สนใจ...แต่ที่อยากรู้คือหมอนั่น....ทำไปเพื่ออะไร...


เคยเป็นห่วงเขาบ้างไหม? เคยหวงเขาบ้างไหม? หรือเคยรู้สึกอะไรกับเขาอย่างที่เขารู้สึกบ้างหรือเปล่า?


ถึงแม้ว่าทุกๆครั้งที่ถามออกไป จะมีเพียงความเงียบงันที่ตอบกลับมา


ถึงจะเป็นแบบนั้น แล้วมันจะผิดไหมถ้าเขายังหวังว่าสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นทำลงไปเป็นเพราะว่ายังมีความรู้สึกอะไรให้กับเขาบ้าง...




ไม่ใช่มีเพียงแค่ร่างกาย...ที่อีกฝ่ายต้องการ...












ในขณะที่ดวงตาสีมรกตปิดลงพร้อมๆกับหัวใจที่พยายามจะผ่อนคลาย แต่แล้วต้นแขนก็ถูกยามาโมโตะ ทาเคชิกระชากให้ลุกตามไป...บางครั้งเขาก็อยากจะขัดขืน อยากจะหนีไปให้ไกล...แต่หน้าที่ของ “พันธนาการ” ก็ทำให้ไม่อาจหนีไปไหนได้...ไม่อาจต่อต้านหรือแม้แต่จะร้องขอความเห็นใจจากผู้ชายที่ทำร้ายเขาครั้งแล้วครั้งเล่า...ผู้ชาย...ที่เอาทุกอย่างมาระบายไว้ที่ร่างกายของเขา


ภายในรถนั้นยังคงเงียบงัน....


ใช่ว่าเขาจะไม่เคยพูด ไม่เคยตะโกนโวยวาย ไม่เคยด่าทอ...แต่ทุกอย่างที่เคยเป็นตัวเขา พายุที่เคยถล่มทุกอย่างให้ราบคาบ กลับถูกกลืนกินด้วยความมืดมิดของผู้ชายคนนี้...เขาเหนื่อย...ที่ต้องตะโกนโวยวายราวกับเป็นคนบ้าอยู่คนเดียว...ทุกวันนี้จึงมีเพียงความเงียบ...ที่อยู่รอบกายของพวกเรา


ยามาโมโตะ ทาเคชิ จอดรถลงที่ใต้อพาทเม้นต์ก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับว่าไม่ได้เพิ่งฆ่าคนแล้วเอาศพไปฝังทิ้งไว้ที่ชายป่า...


เขาได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างนั่นไปอย่างเฝ้าคิด...ว่าสักวันเขาจะเป็นหนึ่งในศพพวกนั้นหรือเปล่า


หากวันไหนที่ผู้ชายคนนั้นเกิดเบื่อเขาขึ้นมาจะฆ่าเขาโดยไม่ลังเลเลยหรือเปล่า


แล้วหน้าที่พันธนาการของเขาก็จะได้จบลง





พอนึกถึงตรงนี้ที่ไร หัวใจมันก็เจ็บแปลกๆ


บางทีอาจจะกลับกัน...


แทนที่เขาจะเป็น “ผู้พันธนาการ” แต่อาจจะถูกดวงตาที่เฉยชานั่นพันธนาการเอาไว้เองก็เป็นได้













เสียงประตูห้องปิดลงหลังจากที่โกคุเดระ ฮายาโตะเดินเข้ามา ร่างโปร่งบางเดินไปที่ตู้เย็นก่อนจะหยิบอาหารแช่แข็งใส่เข้าไปในไมโครเวฟ เขาได้แต่เอนกายแล้วจ้องมองเจ้าของเส้นผมสีเงินคนนั้นอยู่ที่โซฟา


ต้องยอมรับว่าตุ๊กตาที่ได้รับมาตัวนี้...สวย...เหลือเกิน


สวยจนไม่อยากให้ใครแตะต้อง ไม่อยากให้ใครมองเห็น จนบางครั้ง...ก็อยากจะขัง....เอาไว้ที่นี่


เสียงไมโครเวฟร้องเตือนว่าอาหารอุ่นเสร็จแล้ว แผ่นหลังบางนั่งลงที่เก้าอี้หนึ่งในสองตัว ใบหน้าสวยไม่ได้หันกลับมามองเขา ริมฝีปากสีระเรื่อไม่ได้เรียกให้เขาไปกินด้วย และมือบางๆคู่นั้นก็ไม่ได้ทำอาหารเผื่อเขาอีก


แต่ก็ไม่ใช่ว่าโกคุเดระ ฮายาโตะ จะไม่เคยทำให้เขา...


แต่เป็นเขาเองที่เลือกที่จะเมินเฉย...กับอาหารและอะไรอีกหลายๆอย่างที่อีกฝ่ายทำให้


ไม่ต้องการที่จะผูกพันกันไปมากกว่านี้


ไม่อยากถูกโซ่เส้นนี้รัดพันไปจนวันตาย...




เขาอยากเป็นอิสระ













ยามาโมโตะ ทาเคชิ ยังคงนั่งอยู่ที่โซฟา...กับดาบที่ไม่เคยห่างจากข้างกาย...


เขาก็รู้ว่ามันคงเป็นวิสัยของนักดาบ แต่อีกแง่หนึ่งก็คือผู้ชายคนนั้นไม่เคยไว้ใจเขา


เลื่อนสายตากลับมามองที่ซองบุหรี่ในมือ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงปามันทิ้งอย่างหงุดหงิด แต่ตอนนี้เขากลับทิ้งมันลงถังขยะ แล้วหยิบเสื้อโค้ทขึ้นมาสวมเพื่อจะออกไปซื้อบุหรี่ซองใหม่


หันไปมองนาฬิกา ตอนนี้ปาเข้าไปเกือบห้าทุ่มแล้ว แต่เพราะเป็นญี่ปุ่น...ประเทศที่เขาไม่คิดว่าจะมีอันตรายอะไรเลย...นอกไปเสียจากผู้ชายที่ชื่อยามาโมโตะ ทาเคชิ


แต่ในขณะที่มือกำลังจะสัมผัสลูกบิดประตู แรงมหาศาลจากฝ่ามือใหญ่ก็ทำเอาไม่สามารถที่จะเปิดมันออกไปได้


“ ฉันจะไปซื้อบุหรี่”        เขาบอกด้วยเสียงต่ำๆโดยที่ไม่ได้หันกลับไปมอง และเมื่อพยายามที่จะเปิดประตูต่อไป มือใหญ่ข้างนั้นก็ลากตัวเขาเข้าไปโยนไว้ที่โซฟา


ยามาโมโตะ ทาเคชิ กดเขาเอาไว้ด้วยขาข้างหนึ่ง ก่อนที่ซอกคอจะถูกกดจูบลงมาอย่างรุนแรง มือของเขาพยายามที่จะผลักไส เพราะรู้แล้วว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น


ริมฝีปากถูกประกบก่อนที่จะถูกเรียวลิ้นของหมอนั่นแทรกผ่านเข้ามาอย่างเอาแต่ใจ ยิ่งดึงดันเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งต่อต้านมากเท่านั้น


กางเกงที่สวมอยู่ถูกดึงออกไปทั้งๆที่เครื่องแต่งกายท่อนบนยังคงอยู่ เรียวขาถูกจับแยกออกจากกันทั้งๆที่ริมฝีปากยังคงพันพัว


ไม่มีแม้แต่นิ้ว...สิ่งที่แทรกเข้ามาในช่องทางคับแน่นคือแกนกายของผู้ชายคนนั้น....มันจุก...จนแทบจะขยับไม่ไหว


เขาเป็นผู้ชาย....และเคยเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆมาก่อน...ต่อให้โดนทำแบบนี้มากี่ร้อยกี่พันครั้งก็ไม่มีทางเคยชิน


“ อึก...อ๊ะ....ฮ้า....”       มีแต่เสียงของเขาที่ร้องออกไป แต่อีกฝ่ายกลับมีเพียงสายตาเย็นชาที่ส่งกลับมา ถ้าร่างกายของเขามันเร้าอารมณ์ไม่ได้ขนาดนั้นก็ช่วยเลิกทำแบบนี้สักที


“ ฮึก...”       น้ำตาเผลอไหลออกมา...เจ็บ....จากแรงกระแทกที่ด้านล่าง...แล้วมันก็เจ็บ....จากสายตาไร้ความรู้สึกที่มองลงมา


ความอุ่นวาบไหลเข้ามาในร่างกาย เมื่อผู้ชายคนนั้นถึงจุดสิ้นสุดของความต้องการ น้ำสีขาวขุ่นไหลเลอะไปตามเรียวขา....ของของผู้ชายคนนั้นที่จงใจปล่อยเอาไว้ในร่างกายของเขา จงใจทำให้แปดเปื้อน...โดยที่เขาไม่อาจขัดขืน


และเมื่ออีกฝ่ายถอนกายออกไป...ไม่มีแม้แต่คำปลอบโยน ไม่มีแม้แต่อ้อมแขนที่จะโอบกอด....ผู้ชายคนนั้นมักจะทิ้งเขาเอาไว้ตามลำพัง


ค่อยๆพยุงร่างกายให้ลุกขึ้นช้าๆ หยิบกางเกงที่ถูกถอดออกมาสวมใส่อีกครั้ง แล้วยังคงตั้งใจจะเดินออกไป


เขาไม่ได้อยากจะท้าทาย


แต่ถ้าไม่อยากให้ไปก็บอกเขามาสักคำสิ....แค่พูดออกมาเขาก็จะยอมทำตาม แต่นี่เป็นเพราะผู้ชายคนนั้นไม่เคยพูด  ไม่เคยบอกกับเขาสักครั้ง...แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ได้คิดไปเอง ไม่ได้เข้าข้างตัวเองว่าสิ่งที่อีกฝ่ายทำลงไปนั้นเป็นเพราะว่าเป็นห่วงไม่อยากให้เขาออกไปเดินกลางค่ำกลางคืน


และยังไม่ทันที่จะเดินถึงหน้าประตู อ้อมแขนแข็งแกร่งก็โอบตวัดร่างกายของเขาก่อนที่มันจะลอยหวือขึ้นไปอยู่บนบ่าของหมอนั่น


เขารู้ตัวอีกทีเมื่อถูกโยนลงไปที่....เตียง










เป็นเช้าของอีกวันที่เขาตื่นขึ้นมาด้วยร่างกายที่อ่อนล้า....


หันไปมองปฏิทินก่อนที่จะเดินออกมาจากห้อง...วันนี้ยามาโมโตะ ทาเคชิ ไม่อยู่


ผู้ชายคนนั้นจะต้องเข้าไปรายงานตัวกับแฟมมิลี่ที่สาขาญี่ปุ่นทุกๆวันนี้ของทุกเดือน พร้อมกับไปรับงานที่จะต้องจัดการด้วย


และเพราะรู้ว่าหมอนั่นไม่อยู่ เขาจึงหันหลังให้กับทางที่จะไปโรงเรียน


ขาพาตัวเองมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าร้านกาแฟเล็กๆร้านหนึ่ง หันซ้ายหันขวาให้แน่ใจว่ายามาโมโตะ ทาเคชิ ไม่ได้ตามเขามาแน่ๆ ก่อนที่มือจะผลักบานประตูเข้าไป


กริ๊งๆ


มีเพียงเสียงกระดิ่งที่ดังต้อนรับ ต่างจากปกติที่จะมีเสียงของใครบางคนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสดใส


แต่ตอนนี้มีเพียงเงาร่างที่คุ้นตายืนกำโทรศัพท์มือถือแน่นอยู่ที่หลังเคาน์เตอร์ ใบหน้าน่ารักนั่นกำลังอมทุกข์ น้ำเสียงที่กรอกลงไปในโทรศัพท์ดูเหมือนกำลังทะเลาะกับคนที่ปลายสายอยู่....เขาไม่ได้อยากจะแอบฟัง แต่เสียงมันเข้ามาในหูเอง


“ หยุดสงสัยเขาซักทีเถอะมุคุโร่! นายจะมารู้จักเขาดีไปมากกว่าฉันได้ยังไง?!


ซาวาดะ สึนะโยชิ....เจ้าของร้านกาแฟเล็กๆกำลังทำสีหน้าเจ็บปวด เสียงที่ตะโกนใส่โทรศัพท์นั้นสั่นเครือแต่ก็แฝงเอาไว้ด้วยความเด็ดเดี่ยว


“ ฉันไม่อยากฟังอีกแล้ว...แล้วอีกอย่างที่อยากจะบอกเอาไว้เผื่อว่านายจะลืมมันไปแล้ว....ว่าฉันกับนายไม่ได้เป็นอะไรกัน....”


เรื่องของเจ้านั่นอีกแล้วงั้นหรอ? 


นัยน์ตากลมโตที่เคยสดใสกลับเศร้าหมองยามเมื่อมองโทรศัพท์ที่เพิ่งวางสายไป และเมื่อเหลือบมาเห็นเขาเข้า เจ้าของร้านร่างเล็กก็สะดุ้งโหยง


“ อ๊ะ...อ่า...โกคุเดระคุง...มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แหะแหะ ขอโทษที่ให้คอยนานนะ”      มือเล็กๆลนลานเก็บมือถือลงผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลก่อนจะหันมาฝืนยิ้มให้กับลูกค้าอย่างเขา


เขามาที่นี่เสมอ....ยามที่ยามาโมโตะ ทาเคชิ ไม่อยู่...


เริ่มแรกเขาก็แค่อยากจะทดสอบดูว่า กับคนที่ดูจะไม่มีพิษมีภัยอย่างซาวาดะ สึนะโยชิ คนนี้....ผู้ชายคนนั้นจะลงมือฆ่าได้หรือเปล่า...แต่เอาเข้าจริงเขากลับติดใจรอยยิ้มที่อ่อนโยนและสดใสราวกับฟากฟ้าของเจ้าของร้านร่างเล็กคนนี้เสียเอง


จนกลายเป็นว่า...เขาต้องแอบมาหาโดยที่จะให้หมอนั่นรู้ไม่ได้...เพราะเขาไม่อยากเสี่ยง...ให้คนคนนี้ต้องโดนทำร้ายไปด้วย


“ วันนี้...รับอะไรดี?”       ซาวาดะ สึนะโยชิยิ้มให้เขา...ทั้งๆที่อายุมากกว่าหลายปี แต่เพราะใบหน้าที่ดูเด็กจนถึงร่างกายที่เล็กกว่าเขา ทำให้ราวกับว่าเป็นรุ่นราวคราวเดียวกัน


“ ขอเป็น...เอสเปรสโซแล้วกันครับ”      และเพราะแบบนั้น...มันเลยทำให้เจ้าของร้านร่างเล็กผู้นี้ มีเด็กม.ปลายเช่นเดียวกับเขามาติดพัน...จะว่าติดพันหรือเปล่าเขาก็ไม่แน่ใจ เพราะดูเหมือนว่าเจ้ามุคุโร่นั่นจะก้าวเข้ามาเป็นมือที่สามเสียมากกว่า...นั่นก็เพราะว่า


เขาเหลือบมองร่างเล็กๆที่กำลังชงกาแฟง่วน...ที่หลังเคาน์เตอร์มีรูปถ่ายของคนสองคนที่ดูยังไงก็น่าจะเป็นคนรักกัน....รูปของซาวาดะ สึนะโยชิกับ....


เบียคุรัน....


อาจารย์มหาวิทยาลัยที่ดูสว่างไสวไปทั้งตัว


แล้วก็เป็นเพราะเขาไม่อยากทำลายความสุขของคนที่เป็นดั่งดอกไม้อ่อนโยนผู้นี้ เขาจึงไม่อาจจะบอกออกไปได้ว่า แท้ที่จริงแล้วสิ่งที่ร่างเล็กเห็นว่ามันสว่างไสวนั้น....




มันดำมืด....





“ โกคุเดระคุงนี่...อยู่โรงเรียนเดียวกับโคลมสินะ”        น้ำเสียงสดใสที่พยายามจะเรียกกลับคืนมาเอ่ยทักในเรื่องสรรเพเหระ ในขณะที่มือวางแก้วกาแฟลงตรงหน้าเขา


“ ....โคลม.....?”        บอกตามตรงว่าเขาไม่รู้จัก....เพราะว่าตอนที่อยู่ในโรงเรียนเขาจะไม่พยายามทักหรือพยายามรู้จักใคร...จะมีก็แต่ฮิบาริ เคียวยะ ที่เข้ามาหาเรื่องจับผิดแล้วลากเขาไปทำโทษอย่างที่ไม่เกรงกลัวต่อสายตาของยามโมโตะ ทาเคชิเลยสักนิด


“ อ่า...น้องสาวของ...มุคุโร่น่ะ”        หื๋อ?....หมอนั่นไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกับเขานี่? แล้วทำไมน้องสาวถึงได้....


“ ดูเหมือนพ่อกับแม่จะเลิกกัน...ก็เลย....”       ใบหน้าเล็กยิ้มเฝื่อน


“ เด็กคนนั้น...น่าสงสารนะ.....”       นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้เหม่อลอยในขณะที่พูดถึงเด็กผู้หญิงคนนั้น เป็นเพราะว่าเขาไม่รู้จัก เลยไม่เข้าใจว่าน่าสงสารยังไง....แต่ในขณะที่จะเอ่ยอะไรออกไป เสียงกระดิ่งหน้าร้านก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณว่ามีใครสักคนก้าวเข้ามา


“ ยินดีต้อนรับครับ”       เสียงเจ้าของร้านร่างเล็กดังขึ้นโดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกับเขาที่หันไปมองโดยอัตโนมัติ


แล้วก็ต้องนัยน์ตาเบิกกว้าง เมื่อมองเห็นว่าคนที่กำลังก้าวเดินเข้ามานั้นเป็นใคร....


ยามาโมโตะ ทาเคชิ มองตรงไปที่ร่างเล็กที่ยืนยิ้มกว้างอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่อยู่หลังเคาน์เตอร์ด้วยสายตามืดมน


เขารีบวางเงินเอาไว้แล้วผลุนผลันลุกออกมาจากเก้าอี้จนคนตัวเล็กคงได้แต่งงงวย


มือคว้าท่อนแขนแข็งแรงของคนที่กำลังเต็มไปด้วยรังสีอำมหิตให้ออกไปให้ห่างจากร้าน....ตรงกลับไปที่บ้าน


“ อยากจะทำอะไรกับฉันก็ได้....แต่ขอร้อง....อย่าทำร้ายเขา...อย่าทำร้ายซาวาดะ สึนะโยชิ....เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย อ๊ะ”      เสียงอ้อนวอนหยุดลงแค่นั้น เมื่อหมอนั่นทำตามที่ผมขอร้อง....


จะทำอะไรกับร่างกายของฉันก็ได้.....



แล้วยามาโมโตะ ทาเคชิ ก็ทำในสิ่งที่อยากทำ....กับร่างกายของเขา








ถึงจะถูกข่มเหงรังแก แต่ทำไมพอนึกถึงสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ทำเขากลับเข้าข้างตัวเองว่า ยามาโมโตะ ทาเคชิ อาจจะแค่หวง


สายตาพยายามปรับให้เข้ากับแสงแดดยามเย็นที่ส่องเข้ามาจากบานหน้าต่าง ก่อนจะมองใบหน้าคมที่ยังคงหลับใหลอยู่ใกล้ๆ มือเผลอยกขึ้นไปลูบเสี้ยวใบหน้าที่ดูเย็นชาอยู่เสมอนั่นช้าๆ ยามาโมโตะ ทาเคชิ สมบูรณ์แบบทุกอย่าง ทั้งรูปหน้าทั้งร่างกาย จะมีก็แต่แววตาและหัวใจเท่านั้นที่หายไป...


เขาลุกขึ้นนั่งช้าๆก่อนที่จะพยายามยกท่อนแขนที่พาดผ่านลำตัวของเขาออกโดยไม่ทำให้อีกฝ่ายตื่นขึ้นมา


แต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นซองเอกสารที่หล่นลงมาจากเสื้อโค้ทของยามาโมโตะ


หันหน้ากลับไปมองคนที่ยังหลับสนิท....ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เอื้อมมือออกไปที่ซองเอกสาร


ข้างในซองก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ในเมื่อมันก็มีแต่รูปของเป้าหมายที่ต้องกำจัด...เมื่อหมดความสนใจเขาก็เก็บซองนั้นเข้าไปในเสื้อโค้ทตามเดิม...และนั่นมันทำให้ซองอีกซองที่ถูกซ่อนอยู่ด้วยกันนั้นหล่นลงมา


ที่หน้าซองเขียนเอาไว้ว่า “Complete


ซองนี้คืองานที่เสร็จสิ้นไปแล้ว? คือเหล่าผู้คนที่ผู้ชายคนนั้นฆ่าไปหมดแล้ว?


มือแอบหยิบรูปถ่ายพวกนั้นออกมาดู....


แล้วยิ่งดูมันก็ยิ่งหยุดไม่ได้...จนต้องพลิกรูปทุกใบดูไปเรื่อยๆ...เรื่อยๆ....รูปถ่ายทุกใบคือคนที่เขาเคยเห็นหน้ามาแล้วทั้งนั้น...


ยิ่งพลิกดูมากเท่าไหร่...เขาก็ยิ่งรับรู้ได้ถึงความสิ้นหวังของตัวเอง...


ยิ่งรูปในมือมีมากเท่าไหร่...เขาก็ยิ่งเห็นถึงความไร้ค่าของตัวเอง....


หัวใจเจ็บแปลบจนเกือบจะร้องไห้ออกมา


เพราะว่ารูปถ่ายเหล่านั้นคือรูปของคนที่เข้ามาตอแยเขา และเขาก็เข้าใจว่าที่ยามาโมโตะ ทาเคชิลงมือฆ่าคนพวกนั้นไปเพราะว่ามีความรู้สึกอะไรให้กับเขาบ้าง



แต่มันไม่ใช่...



ในเมื่อตอนนี้รูปถ่ายทุกใบมันฟ้องออกมาได้เป็นอย่างดี


ว่าคนพวกนั้นก็เป็นแค่เป้าหมายที่ต้องกำจัด เป็นแค่คำสั่งที่ถูกส่งมาจากแฟมมิลี่




หมอนั่นก็แค่ทำตามหน้าที่....




ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรให้กับเขาเลย



ไม่มีเลย....



เจ็บ...จนแทบกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ไม่อยู่





และเมื่อหันหลังกลับไปก็เห็นว่าผู้ชายคนนั้นยืนมองเขาอยู่ด้วยดวงตาที่เดาไม่ออก...ว่ารู้สึกยังไงกันแน่


รู้แต่ว่าตอนนี้เขาไม่อยากจะยืนอยู่ตรงนี้อีกต่อไป....ไม่พร้อม...ที่จะเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้...คนที่เห็นว่าเขาเป็นเพียงแค่...ตุ๊กตา







เขาปารูปในมือใส่หน้ายามาโมโตะ ทาเคชิ ก่อนจะหลับหูหลับตาวิ่งออกมาจากห้อง


ความพร่ามัวทำให้เดินชนใครต่อใครไปบ้างก็ไม่รู้ตัว


เขามันบ้าไปเอง....บ้าไปเองที่คิดว่าคนเย็นชาอย่างหมอนั่นจะมีหัวใจ...บ้าไปเองที่คิดว่า “เครื่องพันธนาการ” อย่างตัวเองจะได้รับความรัก



ไม่ไหว...




ไม่ไหวแล้ว....




ทำยังไงน้ำตาก็ไม่หยุดไหล


ทำยังไงหัวใจที่แตกสลายก็ไม่อาจจะหยุดเจ็บได้สักที





ในค่ำคืนแห่งพระเจ้าที่เหล่าผู้คนต่างร่วมเฉลิมฉลอง...รอบกายที่เต็มไปด้วยแสงไฟสว่างไสว...เสียงเพลงของวันคริสต์มาสดังควบคู่ไปกับรอยยิ้มของใครต่อใคร


ทำไม...



ถึงได้มีแต่เขา...




ที่นั่งร้องไห้อยู่เพียงลำพัง....



.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be Continue







ครึ ครึ แซงทุกงานให้เลยค่ะ


HAPPY BIRTHDAY น้องไอซ!!!


ย้อนหลังไปหลายวันมากกกกกก โปรดให้อภัยพี่สาวคนนี้ด้วย แบบว่า จะโดนงาน Double dateทับตายอยู่แล้ว แฮ่ก แฮ่ก แต่เพื่อคำขอที่ว่า ขอยามะโฉดๆนะค้า ของหนู...รีบจัดให้ก่อนเลยอ่ะ แบบว่าข้าพเจ้าก็อยากเห็น (เฮ้ย) ว่าแต่นี่มันไม่ค่อยโฉดเลยเนอะ มันออกแนวดาร์กน่าตบมากกว่า *กัดผ้าเช็ดหน้า* มาทำกับหนูก๊กแบบนี้ได้ง๊ายยยยย แล้วนี่มันฟิควันเกิดอีท่าหน๊ายยยย ...สไลด์ตัวลงพื้นแล้วเอาหัวจรดลงไป...ขอโทษค่า TT[ ]TT...

แต่เรื่องนี้มันโรแมนติกนะ! ไม่งั้นมันคงไม่ชื่อ “พราว” >w<

ตอนหน้าๆๆ

สองตอนแรก เป็นของ 8059 ก๊ะ ส่วนตอนต่อไปจะไปลงที่คู่ไหนในสองสมการหลังหว่า? แล้วแต่พระเจ้าอามาโนะจะประทานละค่ะงานนี้ ฮี่ๆๆ แอบกระซิบ ความจริงไม่ได้ตั้งใจจะ 1002769 หรอกค่ะ    “พราว” น่ะจริงๆเริ่มแต่งเพราะ 1896ค่ะ แต่ทว่าเจอสปอยด์จากภาคเซอร์วิสนี่เข้าไป โฮกกกกกกกกก ไม่ 1002769 ยังไงไหวค้า....


เอ๊ะ เอ๊ะ...แล้วก็นะ....ถึงจะเลยมาแล้ว (โดนโบก) แต่ก็...


Merry Christmas กันนะคะทุกคน =w=


อยาก Happy New Year ด้วยอ่ะ...จะทันไหมนะ...คืนนี้แล้วสินะ....ถ้าไม่ทันก็เอาส้ม(?)ไปกินแทนของขวัญปีใหม่ไปก่อนละกันเน้...

ส้ม(?)โมเอ้แบบนี้มีที่เดียว อ๊ากกกก อยากแต่งกระต่ายอลิส!!!!







แล้วเจอกันตอนหน้าค่า...




8 ความคิดเห็น:

  1. พราว *[]*

    โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ช่างดำทะมึนทึนทึกได้ใจจริงๆเลยพับผ่าสิ! ชอบอ่ะ ดาร์กดราม่าอย่างนี้ ไม่ต้องมีคำพูดมาก บรรยายล้วนๆให้เห็นถึงสีหน้าคร่าตาของอิดาร์กเนียนมัน แล้วก็ความเจ็บปวด ฝืนทนของหนูก๊ก จะว่าไปแล้วไม่ค่อยเห็นดาร์กดราม่าบรรยายแล้วรู้สึกตัวเองกำลังลงแดง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ช่างโผล่มาได้ตรงจังหวะ โฮกกกกกก (อินี่นิ)

    อะไรก็ไม่เจ็บเท่าตอนหนูก๊กเห็นรูปอีกแล้วค่ะ โฮกกกกกกกกกกกกกกกก หนูอย่าเพิ่งไปคิดอะไรอย่างนั้น ที่อิเนียนมันทำไปมันหวงหนูแน่ๆล่ะ หม่ามี้ฟันธง! แต่ที่มันซ้ำกับเป้าหมายน่ะเรื่องบังเอิญญญญ โฮกกกกกกกกกกกกก กำลังหาข้อแก้ตัวให้อิเนียนเพราะสงสารหนูก๊กเหลือขนาด ยอมรับจริงๆว่าเรื่องนี้อิเนียนน่ากลัว

    พระเอกนางเอกแทบไม่เปิดปากพูดคุยกันอย่างนี้แหล่ะมันเร้าใจดีค่ะ ชอบประโยคนี้มาก

    บางทีอาจจะกลับกัน...


    แทนที่เขาจะเป็น “ผู้พันธนาการ” แต่อาจจะถูกดวงตาที่เฉยชานั่นพันธนาการเอาไว้เองก็เป็นได้

    จะว่ายังไงดีล่ะ ไม่รู้ใจอิเนียนมันนี่สิ มันแค่หวงตุ๊กตามันหรือว่ามันรักไปแล้วกันแน่ฟะ ฮึ่ย! พันธนาการที่ตอนนี้ร่างกายผูกเอาไว้ได้ แต่หัวใจมันก็ยังไม่แน่ โฮกกกกกกกกกกกก ส่วนอีกคู่ก็น่าลุ้น สามพี ที่ตอนนี้ดูท่าป๋าโม่จะมีเครดิตมากกว่าคุณมุ ลุ้นต่อไปว่าจะเป็นยังไง

    แต่ตอนนี้อยากหาใครไปกอดหนูก๊กสักคน หม่ามี้ก็ได้ งืออออออออออออ หนูไม่ได้ร้องไห้อยู่ตามลำพังนะ มืดมนได้อีกอ้ะ จะมีพวกมั้ยนะลูกสาวตรูช้านนนนน แงงงงง TT[]TT โฮยยย อึดอัดแทบทำใจไม่ได้

    จริงหรอพี่กวางที่ว่าโรแมนติก จริงอ้ะ!? ถ้าอย่างนั้นต้องรออย่างใจจดใจจ่อแล้ว หึหึหึ

    จะเอาส้มไปกินที่บ้านนนนนนน เลยมาแล้วแต่ก็เมอรี่คริสต์มาสแอนด์แฮปปี้นิวเยียร์นะก๊ะ สุขสันต์วันเกิดเจ้าของวันเกิดด้วยค่ะ



    ตอบลบ
  2. บอกได้คำเดียวว่า.....ชอบอ่ะ =///.,///=

    อิเนียน แกจะดาร์กไปไหนเนี่ย~ ! ถนอมๆศรีภรรยาแกบ้างดิ! เดี่๋ยวก็ช้ำจนเจ๊ซายะ แต่งต่อไม่ได้ - -*

    ตอบลบ
  3. ^
    ^

    อ๊ะ!!!! *0*

    ปะ เป็นคนแรกที่เรียกข้าพเจ้าว่า ซายะ

    คือว่าตกใจ 555 ไม่ได้ยินมานานแล้ว (มีแต่คนที่รู้จักตัวเป็นๆตั้งแต่สมัยโบราณกาลที่เรียก เลยค่อนข้างตกใจ ว่าเป็นคนรู้จักตามมาเจอหรือเปล่า = =+)

    ดีใจที่ชอบนะคะ >///<

    ตอบลบ
  4. เอ๋....รู้สึกว่า....คาเร็คเตอร์ของยามาโมโตะเปลี่ยนอ่ะ!?

    ทั้งที่ในเรื่อง ดูร่างเริงจะตาย แล้วไหง มาเย็นชาแบบนี้ได้กันล่ะ????

    สวัสดีปีใหม่ฮับพี่ wakatsu ^ ^

    ตอบลบ

  5. มะ มันเป็นฟิค Au ค่ะ

    คือฟิคที่ไม่อ้างอิงเนื้อเรื่องออริจินัล แล้วยิ่งฟิคเรื่องนี้ แทบจะยืมมาใช้แค่หน้าตากับรูปร่างเท่านั้นเลยมั้งนะ ฮ่าๆ (แต่ยามะน่ะ ในเนื้อเรื่องออริมันก็เป็นพวกสองบุคคลิกอยู่นะ มีช่วงที่ดาร์กแบบเนียนๆอยู่เหมือนกัน)

    ฟิค Au ก็เป็นรูปแบบหนึ่งของ แฟนฟิคชั่น ค่ะ ก็แล้วแต่ความชอบอ่ะนะ ถ้าอยากเห็นตัวละครในรูปแบบอื่น มุมมองอื่นๆ หรืออยู่ในฉากใหม่ๆบ้างก็อ่านฟิคประเภทนี้ แต่ถ้าไม่ชอบให้คาแรกเตอร์เปลี่ยนไป ก็อ่านเฉพาะฟิคที่ไม่ได้เขียนหัวเรื่องไว้ว่า Au (แต่ส่วนใหญ่ฟิคข้าพเจ้าจะเป็น Au 555)

    ตอบลบ
  6. อูย กว่าจะคลานมาอ่านฟิคนี้ได้แทบตายแน่ะค่ะ...

    ขอสครีมก่อนดังๆเลยนะค้ะ
    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ฟิคเรื่องนี้เค้าเกลียดยามะที่สุดในโลกเลย!!!! ความรู้สึกพอเปิดอ่านมามันไม่เหมือนฟิคเรื่องบันทึกของพี่ชายคนเล็กเลยซักนิด
    อารมณ์ของเรื่องนี้มันประมาณว่าดาร์ก!!! มืดมน!!! ดราม่า!!!
    อ่านแล้วก็เครียดแทนจริงๆค่ะ (นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นฟิคสั้นเค้าคงคิดว่าอีกซัก10กว่าตอนมันคงจะจบแน่ๆเลย) เดาไม่ถูกเลยอ่าพี่กวาง ว่าฟิคเรื่องนี้ต่อไปมันจะเป็นยังไงต่อไป

    โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ถึงส่วนตัวจะไม่ชอบดราม่าแต่ฟิคเรื่องนี้ช่างบรรยายบรรยากาศได้มืดมนสมจริงมาก แบบว่าอ่านแล้วมันอินจนเค้าต้องกัดผ้าเช็ดหน้าตามด้วยเลย
    (จะว่าไปก็ไม่ได้อ่านฟิคที่ไม่มีคำพูดเยอะๆแบบนี้มานานแล้วด้วย...)
    แค่เปิดมาต้นเรื่องก็รู้สึกเศร้าๆแล้วล่ะค่ะ อยากจะเข้าไปปลอบก๊กจังเลย
    สงสารก๊กคุงมากๆๆๆๆๆๆ ไม่เข้าใจจริงๆทำไม๊ทำไมทุกคน(ยกเว้นสึนะ)ต้องทำเหมือนว่าก๊กเป็นสิ่งของด้วย คิดจะใช้ก๊กเอาไว้ผูกมัดยามะเนี้ยมันโหดร้ายเกินไปแล้ววววววววววว

    แกก็ด้วยนะยามะ ทำตัวเย็นชา!!! โหดร้าย!!! ป่าเถื่อน!!! ดาร์ก!!! เกินไปแล้ววววววววว
    ตอนแรกเราก็แอบลุ้นนะว่ายามะหึงโหด กล้าฆ่าทุกคนที่มาตอแยกับก๊ก แต่อันที่จริงแล้วมันไม่ใช่!!!! (ไม่จริงน่า ยังไงมันก็ต้องมีอะไรในใจยามะอยู่แน่ๆแหละ)
    หูยยยๆๆๆๆๆ มันสะเทือนใจเกินไปแล้วน้า ทั้งๆที่ก๊กอุตส่าห์แอบมีใจให้(?)แต่ยามะมันก็ดันไม่เห็นค่า ชิชะ! ทำไมทุกคนทำเหมือนกับว่าก๊กไม่มีค่าเลย!!!

    แต่ตอนที่ก๊กหยิบรูปถ่ายมาดูแล้วมันจี๊ดจริงๆค่ะ โอ๊ย คิดสภาพก๊กที่ร้องไห้ตอนนั้นแล้วสงสารจนเค้าอยากจะกระโดเข้าไปในฟิคเพื่อตบหน้าอิเนียนจริงๆ ดูๆ มันทำกันด๊ายยยยยยยยยย
    ไอ้เราก็แอบคิดนะว่ายามะมันจะวิ่งตามก๊กไป หรือไม่ก็ดึงก๊กเข้ามากอด แต่พระเจ้า!!! มันไม่เป็นอย่างที่เค้าหวังไว้เลย ยามะเย็นชาเกินไปแล้ว!!!!

    จากที่เตรียมผ้ามาซับเลือดอย่างดีแต่ตอนนี้ซับเลือดไม่ลงแล้วล่ะค่ะ
    แทนที่เลือดมันจะหก น้ำตาเค้าคงจะตกซะก่อนน่ะสิ!!!
    น้ำตามันคลอเบ้าแล้วอ่ะ พออ่านตอนท้ายๆ(นี่พูดจริงๆนะ เค้าไม่ได้โอเวอร์)
    ฮือออออออออออออออออออออออออ แงงงงงงงงงงงงงงๆๆๆๆ
    พี่กวางใจร้ายยยยยยยยยยยยยยยย (ตึง!!! โดนเตะออกจากโกดัง)
    แต่งฟิคทำร้ายจิตใจกันมากๆเลย
    ไม่ไหวแล้วๆๆๆๆ ขอนั่งไม้กวาดไปอ่านตอนต่อไปก่อนดีกว่า <ดูเหมือนจะเครียดจนเริ่มเพี้ยน

    ปล.นี่เค้าบ่นเยอะไปไหมค้ะเนี้ย (ก้มขอโทษพี่กวาง หงึกๆ)

    ตอบลบ
  7. สวัสดีปีใหม่ค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาา // เอ๋ มาผิดประเด็นหรออ ฮะฮะ
    พอดีว่า กว่าจะได้มาอ่านก็หลังปีใหม่แล้วนิหน่าา

    แล้วก็ได้มาอ่านหลังจากลงจบครบสองตอนของคู่ 8059 ซะด้วยสิ
    เพราะงั้นตอนอ่าน อ่านตอนแรกจบ รีบดิ่งไปอ่านตอนสองต่อเลย

    แล้ววกกลับมาคอมเม้นท์ให้ตอนแรกนี่ยังไงดีล่ะเนี่ย
    พอจะพิมพ์อะไรทีในหัวมีแต่เรื่องราวของครึ่งหลังงงงง ว๊ากกก

    นึกย้อนกลับไป ณ อารมณ์ความรู้สึกตอนที่อ่านครึ่งแรกจบ อืมม
    ดาร์กดีอ่ะ คิดถึงยามะแบบดาร์กๆ คิดถึงอะไรดาร์กๆ เพราะงั้นตอนที่อ่าน..
    เค้ากระตุกยิ้มอ่ะ *0* แบบว่า หึ สะใจ มืดมนดีอ่ะ ดราม่าได้อีกกก กร๊ากกกก

    สงสัยช่วงนี้ก่อนหน้านี้ไปอ่านดราม่าแบบน้ำตาไหลเป็นทาง
    จนต้องตะลุยหาแบบสดใสๆมาอ่านซะเพียบ จนเอียน กำลังโหยหาอะไรดาร์กๆ ..
    มาเจอ พราว เข้าไปเลย ได้ตัดอารมณ์ ได้จังหวะพอดี อิอิ

    เค้าก็อ่านไปวิเคราะห์ไปเดาทางโครงเรื่องไปอีกเหมือนเดิม
    คาดไว้ว่ายังไงยามะมันมีสาเหตุให้ต้องแสดงออกแบบนี้แน่ๆล่ะ
    แล้วก็คิดว่ายังไงๆมันต้องรักก๊กแน่ๆหล่ะ ได้แต่คอยจับตามองยามะอยู่ห่างๆ(อย่างห่วงๆ)

    แน่ละที่ต้องสงสารก๊ก ห่วงก๊ก แต่เค้าดันไปกังวลจุดจบของยามะมันซะก่อนนะสิ..
    ว่า..ถ้าเกิดยามะมันยอมรับหรือแสดงออกว่า รัก ก๊กขึ้นมาแล้ว มันจะปกป้องก๊กได้มั้ย
    มันจะพากันรอดมั้ย มันจะตายไปพร้อมกันมั้ยฟร่ะเนี่ย ว๊ากกกกก < อินี่ชอบคิดฉากจบ ฮ่าฮ่า

    แล้วก็โฟกัสไปที่ 1002769 นั่นมันอะไร รูปถ่ายแบบนั้น..
    แต่คนที่คุยโทรศัพท์สีหน้าท่าทางแสดงออกที่ก๊กสังเกตและบรรยายออกมานั่นมัน.. โฮกก
    ถึงจะเป็นแฟนกับคนในรูป แล้วไอ้คนที่อยู่ในโทรศัพท์เล่า สถานะใด..

    อ่าน 6927100 จากสโนดรอป ก็เชียร์ให้ 6927 เค้าลงเอยกัน แล้ว100 เค้ามาแย่งชิง
    แต่พออ่าน การบรรยาย ฉากคุยโทรศัพท์จบ + กับเซอร์วิสจากอ.อามาโนะ...
    ทำให้ อยากให้เป็น 10027 แล้วให้ 69 มาแย่งชิง มาเป็นมือที่สาม มาอ้อนวอน มาแก้แค้น..
    กรี๊ดดดดดดดดดดดด ในหัวนี่ วิ๊งๆๆ เป็นหลายมุมมองมากกกอ่ะ สลับกันไปมา กร๊ากก
    จิ้นเองซะพันกันยุ่งเหยิง รอคนแต่งมาเฉลยดีกว่า ฮ่าฮ่า เพราะงั้น ดราม่าเข้าไปค่ะ ^^

    อ่านี่ล่ะรู้สึกว่าจะเป็นความคิดในช่วงที่อ่านครึ่งแรกจบ
    อ่านย้อนๆดูแล้ว ทำไมคอมเม้นท์มันตัดกับคนอื่นจังฟร่ะ คนอื่นมาแนวเศร้า
    แต่อินี่มาแนวสะใจ แสยะยิ้ม หึหึ

    อ่ะไปเม้นท์ต่อตอนสองดีกว่า กลิ้งๆๆๆ~~~

    ตอบลบ
  8. น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
    ชอบมากยามะโหมดเนียนเนี่ยยยย
    ถึงอ่านแล้วจะชอกช้ำแทนก๊กไปนิส (?)
    แต่ยังไงก็ชอบแนวหม่นๆ แบบนี้ของคุณพี่จริงๆ ค่ะ ฮือออ T^T
    ตามอ่านต่อไปๆๆ 5555555555555

    ตอบลบ