KHR AuS.Fic [8059] --- Shiki : เลือดหยดที่หนึ่ง ---
: KHR feat. Shiki Fanfiction
: 8059
: Horror Romance
: NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
หมู่บ้านโซโตบะ...
เป็นหมู่บ้านในชนบทที่ผู้คนต่างใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย พื้นที่ราบกว้างซึ่งมีภูเขาโอบล้อมเอาไว้ทั้งสามด้านนั้นมีประชากรอาศัยอยู่เพียง1,300คน บนภูเขาเหล่านั้นเต็มไปด้วยต้นสนซึ่งเติบโตขึ้นมาเพื่อที่จะถูกนำมาแปรรูปให้เป็นโลงศพสำหรับบรรจุผู้คนที่ล้มตายจากภายในหมู่บ้านแห่งนี้ ที่ยังคงมีความเชื่อกันว่า...คนตายอาจฟื้นคืนชีพขึ้นมา...เช่นนั้นจึงนำศพไปฝังเอาไว้ ไม่ยอมเผา...ที่ใต้เงาของต้นสนคือหลุมศพมากมาย....ราวกับหมู่บ้านแห่งนี้ถูกล้อมรอบเอาไว้ด้วยความตาย....
ถนนใหญ่เพียงเส้นเดียวถูกตัดผ่ากลางหมู่บ้าน ครัวเรือนต่างอาศัยอยู่กระจายกันไปในเขตต่างๆ และส่วนที่นอกเหนือไปจากนั้นบนพื้นที่ราบจะเป็นทุ่งนาสีเขียวขจีที่ความเจริญใดๆของเมืองใหญ่ยังไม่เข้ามาแปดเปื้อน ชาวบ้านต่างยังคงใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติอันสวยงามและแทบจะไม่สนใจความเป็นไปของโลกภายนอก...หากตัดปลายถนนเส้นนี้ทิ้ง....หมู่บ้านโซโตบะก็จะถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง....
ถนนเส้นนั้นทอดยาวไปจรดภูเขา ที่ปลายจรดกับเชิงบันไดซึ่งตั้งชันขึ้นไปหาประตูของวัดเพียงหนึ่งเดียวของหมู่บ้านแห่งนี้.....
กริ๊งๆๆๆๆ!!!
เสียงกริ่งรถจักรยานดังระรัวก้องให้ผู้คนที่เดินอยู่ตามท้องถนนแหวกหลบกันชุลมุน ก่อนที่จักรยานคันเล็กจะเซไปเซมาแล้วถลาลงไปเสียบอยู่กับแง่งไม้ที่ข้างทางด้วยเสียงดังโครม!
“ อูยยย...เจ็บๆๆ” ร่างเล็กบางในชุดกิโมโนสีดำเครื่องแบบประจำกายของพระจากที่วัดเพียงแห่งเดียวนั้นนั่งแปะอยู่ข้างๆจักรยานพลางลูบข้อเท้าไปมา นัยน์ตาสีมรกตปิดลงข้างหนึ่งเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบ
“ อา...ท่านยังขี่จักรยานไม่เป็นอีกหรือ...ฮะฮะ...” เสียงหัวเราะขำอย่างเอ็นดูจากแม่เฒ่าที่เดินผ่านมาทำให้ใบหน้าสวยของคนที่ถูกทักถึงกับบูดสนิท
“ ฉันขี่เป็น! แต่ไอ้จักรยานซังกะบวยนี่ต่างหากที่มันใกล้จะพังแล้วน่ะ!” เส้นผมสีเงินขยับไหวไปตามใบหน้าสวยที่ยังคงเถียงฉอดๆไม่ได้สมกับฐานะของตัวเองเล้ย....ใช่แล้ว...ร่างเล็กบางที่นั่งกุมข้อเท้าอยู่นี่คือ พระ...จะเรียกให้ถูกก็น่าจะเรียกว่าเณรเสียมากกว่า...ซึ่งอยู่ที่วัดบนเชิงเขาแห่งนั้นนั่นเอง วัดแห่งนี้เป็นวัดในนิกายมหายานเพราะฉะนั้นพระเองก็สามารถมีภรรยาได้และไม่ต้องโกนหัวเหมือนพระในนิกายอื่น
“ เอ้าๆ ขี่ไม่เป็นเองแล้วยังไปโทษจักรยานอีกแน่ะ...ฮะฮะ” อ้อมแขนของใครบางคนช้อนลำตัวบางขึ้นอย่างง่ายดาย ใบหน้าสวยตวัดไปมองอย่างไม่พอใจ
“ รีบพาพระท่านไปหาหมอเถอะ...ท่าทางจะเจ็บน่าดูนะนั่น” หญิงชรายังคงยิ้มแย้มอย่างใจดีตามประสาคนชนบทมาให้ถึงแม้จะโดนโวยใส่แต่ไม่ว่าใครๆต่างกลับเอ็นดูพระตัวเล็กคนนี้มากกว่า ร่างสูงที่อุ้มอีกคนที่ตั้งท่าจะโวยวายหันมาพยักหน้าให้
“ ปล่อยชั้นลงนะไอ้บ้ายามาโมโตะ!”
“ นายเนี่ยน้า...หัดทำตัวให้มันสมกับที่เป็นพระเสียหน่อยเหอะ...ดูอย่างรองเจ้าอาวาสสิ...ทั้งเรียบร้อยอ่อนโยนและเป็นที่พึ่งพาได้...โอ๊ย!!”
“ ฮึ...ขอโทษนะที่ชั้นมันไม่เรียบร้อย!” ใบหน้าหล่อคมก้มลงไปมองรอยฟันที่เรียงสวยอยู่บนต้นแขนตัวเองก่อนจะมองให้อีกคนที่ยังคงถูกอุ้มอยู่ในอ้อมแขน....นี่ไม่กลัวว่าเขาจะปล่อยให้ตกลงไปบ้างเลยใช่ไหมเนี่ย...
“ จักรยานก็ปล่อยไว้งั้นก่อนแล้วกันนะ ไปให้หมอดูข้อเท้าให้ก่อนแล้วกัน”
“ ถ้าแกอุ้มฉันไปและจ่ายตังค์ให้ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก”
“ ฮะฮะ อะไรกัน...เงินเดือนฉันมันน้อยกว่าเงินบริจาคที่นายได้รับมาเสียอีกนา....”
เสียงหัวเราะและโต้เถียงดังสอดประสานกันไปตามสายลมที่เงียบสงบของหมู่บ้าน แสงแดดยามเย็นฉาบไล้ให้ทุกอย่างดูงดงามราวกับที่นี่จะมีแต่ความสุขแบบนี้ตลอดไป....หากไม่ใช่เพราะ....
“ เบาๆหน่อยสิ!” พระตัวเล็กยังคงวีนใส่แม้แต่หมอใหญ่เจ้าของคลินิกเพียงแห่งเดียวของหมู่บ้านอย่างคลินิกโอซากิแห่งนี้ ใบหน้าคมที่รกไปด้วยหนวดเคราดูไม่สมกับที่เป็นหมอลอบยิ้มที่มุมปากก่อนจะกดสำลีลงไปที่ข้อเท้าเล็กจนเจ้าเด็กจอมโวยวายนั่นร้องออกมาอย่างเจ็บแสบ
“ แก๊!!!” น้ำตาเม็ดเล็กปริ่มออกมาจากดวงตาสีมรกต สองมือเล็กเกาะอยู่ที่เสื้อของยามาโมโตะที่ได้แต่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ ทั้งๆที่ใบหน้าสวยหันมาแยกเขี้ยวใส่คุณหมอประจำคลีนิค
“ แหกปากได้แบบนี้คงไม่เป็นไรแล้วละ...ว่าแต่นายนี่โตขนาดนี้ยังขี่จักรยานไม่เป็นอีกเร๊อะ” คุณหมอโอซากิส่งยิ้มกวนประสาทมาให้...กับคนไข้รายอื่นๆเขาคือหมอผู้ใจดีแต่กับเจ้าเด็กนี่ที่เห็นมาตั้งแต่ยังเล็กๆกลับน่าเอ็นดูจนอยากจะแกล้งซะทุกครั้งไป
“ ก็บอกแล้วไงว่า!”
“ น่าๆ...” ยังไม่ทันจะได้พูดจนจบ ร่างสูงที่ได้แต่ยืนเหงื่อหยดอยู่ข้างๆจำต้องรีบเข้ามาห้ามทัพ
“ ว่าแล้วเชียว...ว่าท่านโกคุเดระมาแน่ๆ เสียงถึงได้ดังไปถึงห้องผู้ป่วยด้านในแบบนี้” พยาบาลสาวเดินถือแฟ้มเข้ามาพร้อมส่งยิ้มมาให้
“ นี่เธอหาว่าชั้นเป็นเครื่องขยายเสียงอย่างงั้นหรอ?!” นี่ก็หาเรื่องเค้าไปทั่ว....แต่ถึงอย่างงั้นกลับไม่มีใครโกรธได้ลง...เพราะใบหน้าน่ารักน่าเอ็นดูบวกกับนิสัยตรงไปตรงมาไม่มีลับลมคมใน ทำให้คนในหมู่บ้านชนบทกลับรักพระตัวเล็กคนนี้มากกว่าจะชิงชัง
“ ว่าแต่คุณหมอคะ...เมื่อกี้คุณป้าจากร้านขายข้าวสารเล่าให้ฟังในขณะที่รอตรวจว่า...เมื่อคืนคนที่คาเนมาซะย้ายเข้ามาอยู่แล้วนะคะ เห็นว่าเป็นคู่สามีภรรยากับลูกสาว...แปลกจังน้า...ทำไมถึงย้ายเข้ามากลางค่ำกลางคืนก็ไม่รู้....” คำพูดธรรมดาๆของพยาบาลสาวกับเรื่องราวที่ไม่มีอะไรทำให้คนที่ได้ฟังต่างไม่มีใครติดใจสงสัย
แต่หากใส่ใจกับมันอีกสักนิด....โศกนาฏกรรมคงจะไม่มาเยือนหมู่บ้านโซโตบะเป็นแน่....
“ มันกระเทือนนะ! ขี่ให้มันนิ่มนวลกว่านี้หน่อยสิ!” เสียงโวยจากด้านหลังทั้งๆที่มือเล็กๆยังคงจับที่เอวเขาแน่น
“ คนที่ขี่จักรยานไปเสียบคาต้นไม้อย่างนายไม่มีสิทธิ์มาว่าฉันหรอกนะ ฮะฮะ” ใบหน้าคมยิ้มร่าเริงเป็นปกติให้คนที่นั่งซ้อนจักรยานที่ยืมมาจากคลินิกถึงกับหน้าบูดสนิท
เขาทั้งสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ....ในวันที่ฝนตกอย่างบ้าคลั่ง เขาไปช่วยพ่อซึ่งเป็นผู้ดูแลวัดเก็บข้าวของเข้าหลบฝน....เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วจนเด็กตัวเล็กๆอย่างเขาในตอนนั้นกลัวจนตัวสั่น แสงสว่างวาบฉายอยู่เบื้องหลังเงาร่างสองร่างที่เดินเข้ามาในวัดอย่างช้าๆ...เงาหนึ่งคือเงาที่คุ้นเคยของรองเจ้าอาวาสซึ่งเป็นผู้สืบทอดของวัดตั้งแต่ยังหนุ่ม ร่างโปร่งบางจูงมือเล็กๆของเด็กน้อยคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยกัน...ใบหน้าน่ารักที่เต็มไปด้วยรอยแผลและดวงตาสีมรกตที่มีแต่คราบน้ำตาทำให้เขาอดยื่นมือเข้าไปหาไม่ได้...เด็กที่อายุน้อยกว่าเขาราวๆห้าปี...คนที่รองเจ้าอาวาสบอกว่าถูกทิ้งอยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้าน
แต่เด็กคนนั้นกลับไม่ได้ทำตัวให้น่าสงสารหรือน่าสมเพช...แต่กลับเติบโตขึ้นมาอย่างสดใสท่ามกลางความรักของคนทั้งหมู่บ้าน...และรับสืบทอดวัดด้วยการเป็นพระตั้งแต่ยังเด็กโดยไม่ลังเล....เช่นเดียวกับเขาซึ่งเกิดอยู่ที่นี่และเราทั้งคู่ก็คงจะตายอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ไม่หนีไปไหน...
“ เฮอะ....ก็ชั้นไม่ใช่ครูพละบ้าพลังร่างกายถึกเหมือนแกนี่”
“ ฮ่าๆ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับขี่จักรยานไม่ได้ซักทีทั้งๆที่หัดขี่มาตั้งหลายปีแล้วกันล่ะ โอ๊ย!” มือเล็กทุบไปที่กลางหลังโดยที่ไม่ยั้งมือ....ใช่...ไอ้คนที่ขี่จักรยานหน้าบานอยู่นี่คือครูในโรงเรียนประถมเล็กๆประจำหมู่บ้าน หมอนี่คงตั้งใจจะใช้ชีวิตอยู่ในที่ที่สงบเงียบแห่งนี้ไปจนวันตายถึงได้เลือกที่จะเป็นครูอยู่ที่นี่แทนที่จะออกไปเป็นนักเบสบอลมืออาชีพอย่างที่ใฝ่ฝันเอาไว้เมื่อตอนยังเด็ก
หมู่บ้านแบบนี้มันมีอะไรดีกันน้า...ทั้งเขาทั้งเจ้าบ้านี่ถึงได้ไม่อยากจากไปไหน....
นัยน์ตาสีมรกตเหลือบไปมองบนเนินเขาอีกฝั่งที่อยู่ถัดไปจากวัด....คาเนมาซะ...ชื่อเขตเขตหนึ่งของหมู่บ้านโซโตบะ...เดิมทีมันเป็นบ้านหลังใหญ่ที่ร้างไร้คนอยู่มานานจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้บ้านหลังนั้นกลับถูกรื้อถอนแล้วถูกปลูกสร้างเป็นปราสาทแบบยุโรปขึ้นมาแทน....คนพวกนั้นเองก็คงหลงใหลในหมู่บ้านแห่งนี้เช่นกันสินะ...ถึงได้ย้ายเข้ามา
แสงแดดยามโพล้เพล้ส่องกระทบยอดปราสาทเกิดเงาวูบไหวราวกับใครบางคนกำลังจ้องมองลงมา....นัยน์ตาที่ราวกับกำลังจ้องมองคนทั้งหมู่บ้าน....
“ อยู่นิ่งๆสิ” สองแขนแข็งแรงอุ้มร่างเล็กบางที่เริ่มดิ้นขลุกขลักขึ้นบันไดหินของวัดมาเรื่อยๆ
“ ก็มันกลัวตกนี่ ขาชั้นก็เดี้ยงไปข้างนึงแล้วนะ ถ้าแกทำชั้นตกอีกต้องแย่แน่ๆ แกวางชั้นลงแล้วแบกขึ้นหลังดีกว่า” ใบหน้าคมได้แต่ยิ้มแห้งๆ...เอาแต่ใจได้น่ารักเป็นบ้าเลยนะ
“ จะถึงอยู่แล้วน่า...ถ้าจะทำตกก็เพราะนายดิ้นนี่แหละ”
“ ชิ...” นัยน์ตาสีมรกตเอาแต่ใจมองขึ้นมาจากด้านล่างให้เขาจำต้องเงยหน้ามองทางไม่รู้ไม่ชี้ ได้ยินเสียงโกลาหลของคนบนวัด ทำให้ขารีบก้าวเดินขึ้นไป
“ เกิดอะไรขึ้นกันน่ะ เซอิชิน!” ร่างในอ้อมแขนตะโกนถามพระหนุ่มที่เดินอย่างเร่งรีบอยู่ที่อาคารหนึ่งของวัด...ที่เจ้าพระตัวเล็กนี่เรียกอยู่น่ะ....คือ มุโรอิ เซอิชิน รองเจ้าอาวาสของวัดผู้ซึ่งเป็นคนเก็บตัวเองมาเลี้ยงแท้ๆ ไม่เคยมีคำว่าท่านหรือหลวงพี่ แต่กลับเรียกชื่อเขาตรงๆแบบไม่ได้กลัวเกรงอะไรเล้ย...
“ กลับมาแล้วหรอฮายาโตะ...มาทางนี้สิ” ร่างสูงโปร่งติดจะแบบบางอยู่ในชุดกิโมโนสีดำเครื่องแบบประจำกายของพระในวัด ใบหน้าเรียวสวยดูสงบเยือกเย็น นัยน์ตาอ่อนโยนเบื้องหลังกรอบแว่นมองมาก่อนจะพยักหน้าให้เส้นผมสีเงินพลิ้วไหวให้พวกเขาเดินเข้าไปหา
“ ผมกำลังเตรียมตัวไปทำพิธีในงานศพน่ะ” รองเจ้าอาวาสนั่งลงทับส้นบนเบาะรองนั่ง ก่อนจะพิจารณาร่างเล็กบางที่ถูกวางลงบนเบาะฝั่งตรงข้าม
“ อืม...ข้อเท้าเจ็บแบบนี้พักอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน...ยามาโมโตะคุงอยู่เป็นเพื่อนเขาหน่อยได้ไหมครับ” ใบหน้ายิ้มแย้มมองมาไม่ว่ายังไงเขาก็คงไม่ปฏิเสธ
“ มีคนตายหรอ?”
“ ครับ...” ใบหน้าเรียวสวยพยักหน้าน้อยๆก่อนที่จะลุกออกไป
“ หมู่นี้....เซอิชินต้องออกไปแทบทุกวันเลย...มีคนตายบ่อยจังนะ....” นัยน์ตาสีมรกตเหม่อมองตามแผ่นหลังของรองเจ้าอาวาสไป...เท่าที่รู้มา...สภาพการตายดูไม่ค่อยจะปกติเท่าไหร่....บางคนก็ตายทั้งๆที่ยังเด็กและไม่มีบาดแผลใดๆ...
“ โอ๋ๆ กลัวหรอ...วันไหนท่านรองเจ้าอาวาสไม่อยู่นายก็โทรไปบอกให้ฉันมาอยู่เป็นเพื่อนก็ได้นี่” มือใหญ่ยังไม่ทันจะได้ลูบหัวสีเงิน ใบหน้าสวยก็หันมาแยกเขี้ยวใส่เสียก่อน
“ กลัวบ้านแกน่ะสิ! ถ้าเป็นพระแล้วกลัวผียังจะมีหน้าเป็นอยู่ได้เร๊อะ!”
“ ฮ่าๆๆ มันก็จริง”
“ นี่ โกคุเดระ....”
“ อะไร”
“ ถ้าสักวันหนึ่งชั้นตายแล้วกลายเป็นผี...นายจะไม่กลัวชั้นใช่ไหม....”
“ พูดอะไรบ้าๆ...ผีหน้าบานอย่างแกใครจะไปกลัว”
“ ฮ่าๆๆ นั่นสินะ”
ถ้าหากวันนั้น....พวกเราใส่ใจกับมันสักนิด...
และไม่คิดเอาแต่หนีความจริง....
หมู่บ้านโซโตบะ...ก็คงจะไม่หายไปจากแผนที่และมีจุดจบแบบนั้น.....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เลือดหยดที่สอง.....
To be continue….
ขะ...ขอบคุณมากๆเลยค่ะ....ดีใจจังที่มีคนมากมายมาแฮปให้ทั้งๆที่บ้างคนก็ไม่เคยพบกันเลยด้วยซ้ำ >////<
อ่านทุกข้อความ รับของขวัญทุกชิ้นมานั่งมองพรางน้ำตาจะไหลพราก...ก็คนมันดีใจอ่ะ ฮือออ ซับน้ำตาด้วยความปลาบปลื้ม
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ โค้งงามๆ
และจากกำลังใจทำให้ไฟลุกท่วม ฮ่าๆๆ เลยปั่นฟิกครอสโอเวอร์เรื่องนี้ขึ้นมาแบบไม่ยั้งคิด อย่างที่เห็นกันที่หัวกระทู้ว่าฟิคเรื่องนี้คือฟิกชั่นของทั้งเรื่อง รีบอร์นและเรื่อง ชิกิ ...แบบว่า...ตอนนี้กำลังคลั่งเพราะเพิ่งดูชิกิจบมาหมาดๆเลยค่ะ เป็นอนิเมะที่สนุกมากกกกหลอนเลือดสาดได้ใจสุดๆ เพราะงั้นเลยนั่งจิ้น...ว่าถ้าหากจับ 8059 ไปใส่ไว้ในเรื่องนี้บ้างจะเป็นไงนะ...ครึ ครึ....
แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ จะพยายามเขียนให้คนที่ไม่เคยดูเรื่องนี้ (หรือบางคนที่ดูไม่ได้เพราะเลือดสาดซาดิสโรคจิตเกินไป กร๊ากกก) อ่านแล้วรู้เรื่อง เพราะข้าพเจ้ายืมชิกิมาใช้แค่ฉาก ตัวละครบางตัว และพล็อตพื้นฐานเท่านั้น ตัวละครหลักของฟิคเรื่องนี้คือ 8059 ที่เรารู้จักกันดีนี่และ ^ ^
ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนึงนะค้า....เหะเหะ...
อ๊ะ! ข้าพเจ้าแปะรูปช่วยส่งเสริมจินตนาการเอาไว้ให้....ถ้าอยากรู้ว่าหมู่บ้านโซโตบะเป็นยังไง...หมอโอซากิหน้าตายังไง...รองเจ้าอาวาส(โฮกกกก)น่ารักขนาดไหน...ตามไปส่องกันได้ที่นี่นะคะ ฮี่....(ไม่มีอะไรเลือดสาดน่า...คุณเปาดูได้ อิอิ)
โฮะโฮะ คึหึหึ ฮ่าฮ่า คุณพระก๊ก !!
ตอบลบบุคลิกครอสโอเวอร์กับอาชีพชะมัดด กร๊ากกก
แต่ก็นะ น่ารักอย่างที่ทุกคนบอกไว้ในเรื่อง
ทั้งรองเจ้าอาวาสและเณร น่ารักแพ็คคู่
คุณหมอโอซากิจากชิกิก็มีบุคลิกเหมือนคุณหมอชามาลเหมือนกันนะ
ไว้หนวดหรอมแหรมพอๆกัน ฮ่าฮ่า
เณรน้อยฮายาโตะซัง!! ยามะเป็นครูพละ
ไปดูภาพประกอบมาแล้วน๊า ฮะฮะ มีบอกไว้ด้วยว่าไม่เลือดสาดด้วย
กำลังจะถามเลย ชี้แจงไว้เสร็จสรรพ อิอิ ขอบคุณมากกกค่า
.
.
“ ถ้าสักวันหนึ่งชั้นตายแล้วกลายเป็นผี...นายจะไม่กลัวชั้นใช่ไหม....”
“ พูดอะไรบ้าๆ...ผีหน้าบานอย่างแกใครจะไปกลัว”
.
.
แต่ถ้าเป็นปีศาจหื่น ก๊กอาจจะเป็นกลัวก็ได้นะ คึหึหึ
นึกว่าเป็นฟิคเพ้อๆแบบตอนเดียวจบซะอีก ที่ไหนได้เรื่องยาวเร๊อะ!!
แล้วเจ้าพ่อหล่ะค๊าา แต่อันนี้ก็หนุกอ่ะ อยากเห็นฉากดูดเลือดด คึหึหึ
รออ่านตอนต่อไปค่าาาา << หลังๆมานี้ไม่ได้พูดคำนี้เลยแฮะ ตั้งกะบอร์ดปิดไป..
เห็นเณรน้อยน่ารักกับอรองเจ้าอาวาสเอวบางย่างนี้แล้วอยากเข้าวัดจังเลยน้า ฮ่าๆ
ตอบลบมาตามอ่านแล้วค่า มาช้าดีกว่าไม่มาน้า //อย่าโกรธกันน๊า
ตอบลบหืม ผสมกันไปเลยสิน้าพี่กวาง
ขำก๊กอ่ะ แอบมีด่ายามะหน้าบานด้วย๕๕๕ แสดงว่าเรื่องนี้ก๊กอายุน้อยกว่ายามะ?
หลวงพี่ยังคงมาแบบสาวงามเบณจกัลยาณี??? ทำศพเยอะท่าจะคิดมากน้า
อิหมอยังไม่โผล่ความโฉดสินะ (ว่าแต่เรื่องนี้จะให้อิหมอโฉดมั้ยเนี่ย)
ก๊กลูกรักออกแล้ว หลวงพี่โมเอ๊มาแล้ว เหลือนัทซีโนะสุดที่รัก....รอๆค่า
อ้ากกกกก ก๊กน่ากินจริงๆ 5555+
ตอบลบยามะอย่าพูดเป็นลางเซ่
แนวระทึกขวัญหรอ น่ากลัวอยู่นะ
ตอบลบ