[Au S.Fic HBD.Mukuro][6959] Alice in Vongola World =[ ]=!!!
: KHR fanfiction Au
: All59 [6959]
: RomanticComedy
: PG
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
เงียบ.....
มันเงียบผิดปกติเกินไปแล้ว......
ทำไม...
ทำไมถึงไม่มีเสียงอะไรเลย ?
แต่แทนที่ความสงบสุขจะเอ่อล้นขึ้นมาในจิตใจ ไหงผมถึงได้วิตกจริตหนักกว่าเดิมขนาดนี้....
ปกติมันต้องมีเสียงโหวกเหวกโวยวายของเจ้ากระต่ายอลิสที่มักจะตกลงไปในหม้อไหกล่องอะไรต่อมิอะไรอยู่ทุกเช้า
หรือไม่งั้นก็ต้องมีเสียงเปรี๊ยะ(?) เพล้ง(?) ปุ้ง(?) บรึ้ม(?) จากการผสมยาลดขนาดของเจ้าหมายามาโมโตะ
แต่วันนี้กลับเงียบสนิท.....
น่าแปลกเกินไปแล้ว!
หรือว่า....
เจ้าลูกสาวกระต่ายสุดโมเอ้ของผมจะตกเครื่องซักผ้าตายโดยที่ยังไม่ทันได้ร้องออกมา!
หรือว่า....โดนหมาบางตัวคาบไปกิน!
หรือว่า.....มีนกสายพันธุ์โหดมาโฉบไป!
หรือว่า......หรือว่า!............หรือว่า!!!!
แล้วผมก็รีบเด้งตัวออกจากที่นอนเพราะทนต่อความวิตกจริตจิตจะเป็นบ้าของตัวเองไม่ไหว สายตาสอดส่องมองหาเจ้ากระต่ายอลิสทั่วทุกมุมห้อง ก่อนจะพบว่ามันว่างเปล่า ร่างเล็กๆของผมวิ่งลงบันไดไปอย่างไม่รอช้า กวาดสายตามองที่ห้องรับแขก โถงหน้าบ้าน ห้องน้ำ ....ไม่มี....
ไม่มี....
ไม่มี๊!!!!
สองมือยกขึ้นกุมหัวราวกับคนบ้า ขาเล็กวิ่งตึงตังไปยังห้องครัว...ที่สุดท้ายแล้ว....ถ้ายังไม่มีอีกผมจะทำยังไง ผมคงจะเหมือนคนไม่มีกำลัง และหมดแรงจะยืนจะลุกจะเดินไป ผมเหมือนคนกำลังจะตาย ที่ขาดอากาศจะหายใจ ผมเหมือนคนที่โดนเธอแทงข้างหลัง แล้วมันทะลุถึงหัวใจ เธอจะให้ฉันมีชีวิตต่อไปอย่างไร ไม่มีอีกแล้ว ไม่มีเหลือสักอย่าง .... อยากตาย....?!
ปึง!!!
หลังจากเปิดประตูพรวดพราดเข้าไปก็ต้องถอนหายใจโล่งอก เมื่อร่างเล็กจิ๋วของเจ้ากระต่ายอลิสเข้ามาอยู่ในสายตา ร่างที่สูงแค่สองคืบกำลังเดินอย่างเชื่องช้าในมือจับผ้าผืนใหญ่ที่จำได้ว่าเป็นเสื้อของผมเองลากไปกับพื้นมุ่งหน้าไปยังตะกร้าผ้าที่อยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง....ฟู่วววว โล่งอกไปที....
แต่ว่านะ....
ทำไมวันนี้มันดูแปลกๆ ?
“ อ่ะ....อรุณสวัสดิ์ครับรุ่นที่สิบบบบ” นั่นไง...ผมเปิดประตูเข้ามาดังสนั่นหวั่นไหวซะขนาดนั้นแต่เจ้ากระต่ายตรงหน้ากลับรู้ตัวช้ากว่าเดิมตั้งหลายเท่า แถมเสียงเรียกยังยานคางแปลกๆ....
แผละ....!?
ร่างเล็กๆพยายามลากเสื้อที่ใหญ่กว่าตัวหลายเท่าเดินไปสองก้าว แล้วก็ล้มแผละหน้าคะมำ จากนั้นก็ลุกขึ้นมาสะบัดหัวไปมาจนหูสะบัดตามแล้วเดินอีกสามก้าวก่อนที่จะล้มแผละ ก่อนที่จะลุกขึ้นมาเดินอีกก้าวครึ่งแล้วก็ล้มแผละ.....ปะ...เป็นอะไรไปละนั่น ?
เดินไปล้มไปก็ว่าอาการน่าเป็นห่วงแล้ว ใบหน้าเล็กๆยังแดงระเรื่อ หูสองข้างตกลู่ ตาจะปิดมิปิดแหล่ ร่างสั่นระริกแทบจะทรงตัวไม่อยู่....เฮ้ย! นี่มันไม่ธรรมดาแล้ว!
“ โกคุเดระคุง! เป็นอะไรน่ะ” ผมรีบเข้าไปใกล้พรางจับตัวเล็กๆนั่นเอาไว้ไม่ให้ล้มหน้าฟาดพื้นอีก เดี๋ยวจะเสียสวยแล้วความโมเอ้มันจะลดลง เฮ้ย! ไม่ใช่! เพราะเป็นห่วงในความปลอดภัยของเจ้ากระต่ายอลิสนี่ต่างหาก....แล้วนัยน์ตาเชื่อมปรอยใสแจ๋วสีเขียวมรกตก็มองมาที่ผม....โอ้ววววว....โมเอ้แอทแทค....
“ ผมหรอครับ? ผมก็เป็นอลิสไง...” ไม่ได้หมายความว่าอย่างง้านนน มือของผมจับไปที่หน้าผากเนียนใต้เส้นผมสีเงิน....หว๋า...
ตัวร้อนจี๋เลย!
“ แย่แล้ว! นายไม่สบายนี่ สงสัยจะเป็นไข้ ตัวร้อนมากๆเลย”
เคร้ง!! เสียงราวกับหม้อหรือกระทะร่วงกระทบพื้น
“ โกคุเดระ!!!” นั่นไง...ผมถึงได้บอกว่าไอ้หมานี่มันมีญาณรับรู้ ถึงได้รู้ทุกครั้งเวลาที่ผมกับเจ้ากระต่ายอลิสอยู่ด้วยกันสองต่อสอง และมันก็เป็นอันต้องแสล๋น เข้ามาขัดขวางความรักระหว่างพ่อลูก(?)ซะทุกทีไป
“ นายเป็นอะไรไปน่ะ ฉันแค่ออกไปหาหางจิ้งจกแค่ครึ่งคืน กลับมานายก็ไม่สบาย....เจ็บใจนักคนรักโดนรังแก...ข้าจะเผาบ้านแกให้มันวอดวาย.....” เพลงอะไรของแกน่ะไอ้หมาวายร้าย! แล้วไอ้หางจิ้งจกน่ะจะไปหามาทำม๊ายยย....เดี๋ยวก่อน...ยะ...อย่าบอกนะว่า....
เมื่อหันไปมองยังทิศทางที่หม้อมันตกลงกระทบพื้น สิ่งที่เห็นนั้นเล่นเอาลมแทบจับ....หางจิ้งจกนับร้อยสั่นดุ๊กดิ๊กกระจัดกระจายเต็มพื้น.....ว๊ากกกกก
ไม่ใช่สิ! สิ่งที่ต้องห่วงตอนนี้คือลูกสาวกระต่ายสุดโมเอ้ที่กำลังจับไข้นี่ต่างหาก.....ผ้าชุบน้ำๆๆ....ยาๆๆ....ไปหาหมอๆๆๆๆ....ทำอะไร....จะต้องทำอะไรก่อนดีๆ....ในขณะที่ผมกำลังลนลาน....แต่ไอ้เจ้าหมาสองบุคลิกกลับนิ่งแล้วจับชีพจรของกระต่ายอลิสที่นอนหนุนกองผ้าหน้าแดงระเรื่อหายใจหอบน้อยๆริมฝีปากแดงเผยอหน่อยๆ....อ้า....เฮ้ย....อะแฮ่ม....เจ้าหมายามาโมโตะที่มีใบหน้าเคร่งขรึมต่างจากที่เคยเห็นยามปกติ ใบหน้าที่ไม่เอ๋อเนียน แล้วก็ไม่ดาร์กเนียน...ใบหน้าเป็นการเป็นงานที่ตรวจดูอาการของเจ้ากระต่ายอลิสทำให้หมอนั่นค่อยดูเหมือนศิษย์เอกของพ่อมดนักปรุงยาของวองโกเล่เวิลด์ขึ้นมาหน่อย....
จริงสินะ....ก็ให้เจ้ายามาโมโตะปรุงยาให้ก็ได้นี่นา....ไอ้เจ้าหมาสองบุคลิกนี่น่าจะรู้อาการของโกคุเดระคุงดีที่สุดอยู่แล้ว....อืม...มันก็ดูจะพึ่งพาได้ก็ตอนนี้เอง แล้วอีกอย่างถ้าเป็นโกคุเดระ ต่อให้ตายยังไงมันก็ไม่มีวันผสมยาพลาดเด็ดขาด
“ อื้ม อื้ม....” ใบหน้าหล่อคมของเจ้าหมายามาโมโตะพยักหน้าหงึกหงักอยู่คนเดียว ดูท่าทางคงจะรู้แล้วสินะว่าจะต้องรักษายังไง
“ ไม่ต้องเป็นห่วงสึนะ! โกคุเดระแค่เป็นไข้ธรรมดาๆ เดี๋ยวฉันไปหาสมุนไพรมาปรุงยาให้ก็คงหายแล้ว!” ...เฮ้อ...โล่งอกไปที....
“ ว่าแต่....บ้านนายมีลูกท้อสวรรค์พันปีที่เคี่ยวด้วยไฟบรรลัยกัลป์เป็นเวลา50วันในถ้วยหยกหิมะของเซียวเล่งนึ่ง (หมายเห็ด เซียวเล่งนึ่งคือภรรยาสุดสวยของเอี้ยก้วย ณ มังกรหยกสุดโฮก) บ้างหรือเปล่า ฉันจำเป็นต้องใช้มันมาเป็นส่วนผสมน่ะ”
หวี๋~~~.....เสียงแมลงวันบินผ่านปากที่อ้าค้างของผมไป........ไอ้ของแบบนั้นมันจะไปมีอยู่บนโลกได้ยังไงเล่า!!!
“ เอ๊ะ แต่บ้านนายไม่มีต้นท้อนี่นะ งั้น....เดี๋ยวฉันออกไปหา....” หยุดเลย! ต่อให้แกไปหาอีกสามชาติก็ไม่เจอหรอกโว้ย! ผมได้แต่น้ำตาไหลพรากแล้วคว้าคอเสื้อของมันเอาไว้....ไร้ประโยชน์....ที่แท้แกมันก็แค่ไอ้หมาไร้ประโยชน์!!!.....รึว่าผมควรจะไสหัวมันไป....ให้มันไปหาท้อสวรรค์อะไรของมันนั่นซักสามชาติเป็นไง มันจะได้ไม่มาวุ่นวายกับผมอีก....ฮืออออ
ว่าแต่....ทีปรุงยาให้โกคุเดระคุงส่วนผสมมันฟังดูอลังการจังฟะ แล้วไหงเวลาปรุงยาให้ผม ส่วนผสมแต่ละอย่างของมัน.....หางจิ้งจกงี้ อุ้งตีนคางคกงี้ ปลาร้าหมักสิบปีงี้....สองมาตรฐานชัดๆ!
ผมตัดสินใจอุ้มเจ้ากระต่ายตัวน้อยขึ้นแนบอกอย่างทะนุถนอม ตอนนี้โกคุเดระคุงครางหงิงๆไร้สติ อยู่ในอ้อมแขนของผม ใบหน้าน่ารักดูทรมานเพราะพิษไข้ หูยาวสีขาวที่เคยตั้งตรงกลับตกลู่ สีชมพูที่เคยออกระเรื่อกลับเข้มขึ้น....ไม่ได้การละ....ต้องไปหยิบกล้อง....ไม่ใช่!....ต้องพาไปหาหมอ!
ผมรีบวิ่งออกจากบ้านโดยมีเจ้าหมาสองบุคลิกวิ่งตามมาติดๆ เหมือนจะมีเงาดำๆอะไรแว่บๆอยู่ที่หางตา แต่ผมก็ไม่ได้หันไปสนใจมัน เพราะตอนนี้ผมกำลังคิดอย่างเอาเป็นเอาตายว่าโรงพยาบาลที่เปิดวันอาทิตย์มันมีที่ไหนบ้าง!
.....ขออภัย...ปิดบริการชั่วคราวเนื่องจากหมอไปฮันนีมูนที่เกาะมักดริฟท์(?).....
จะมาไปฮันนีมูนอะไรเอาตอนนี้ฟะ! แก่หงำเหงือกกันทั้งคู่ขนาดนั้น ผมแอบเคืองหมอที่รักษาผมเป็นประจำตั้งแต่เด็กๆอยู่เล็กน้อย ก่อนที่จะตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปยังคลินิกต่อไป....
.....ขออภัย...ปิดบริการชั่วคราวเนื่องจากพยาบาลไม่อยู่หมอเศร้าใจจนรักษาใครไม่ได้.....
ฮึ่ม...ให้พ่อเป่าด้วยเอ๊กซ์เบิร์นเนอร์ให้หายเศร้าไปทั้งร้านเลยดีมั๊ย! ยิ่งเสียงหงิงๆในอ้อมแขนร้องมากขึ้นเท่าไหร่ผมก็ยิ่งหงุดหงิดและลนลานกับสถานพยาบาทที่ไม่ยอมเปิดบริการพวกนี้!
ไม่ว่าจะวิ่งไปกี่ที่กี่ที่....ก็ไม่มีที่ไหนเปิดเลย....เอาวะ!....ลองไปเสี่ยงที่โรงพยาบาลดูดีกว่า....ถึงแม้จะรู้ดีว่าปกติวันอาทิตย์มักจะปิดทำการก็เหอะนะ แต่ถ้าเจอหมอซักคนคงต้องลองขอร้องดู....
ผมวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลที่เงียบเชียบ....สงสัยจะปิดจริงๆ....หลังจากยืนชะเง้อชะแง้อยู่พักใหญ่ก็ไม่เห็นมีใครสักคน...ในขณะที่ผมกำลังจะหันหลังกลับด้วยความสิ้นหวัง....
โครม! เพล้ง!!!
เสียงการต่อสู้ก็ดังอยู่ข้างในห้องหมอเวร....แล้วจากนั้นไม่นานหมอหนุ่มที่ใบหน้าเขียวช้ำราวกับไปโดนเหล็กอะไรบางอย่างฟาดหน้ามาก็ตาลีตาเหลือกวิ่งออกมาเรียกผมเอาไว้
“ ยะ...อย่าเพิ่งไป....หะ...ให้ผมรักษาคุณกระต่ายตัวนั้นก่อน......” มือที่สั่นระริกคว้ามาที่ขาของผม ทำเอางงไปถ้วนหน้า....ปกติหมอเค้าง้อคนไข้กันแบบนี้ด้วยหรอนี่....
“ ถะ...ถ้าผมไม่รักษาจะต้องเจอขย้ำตาย....ช่วยผมด้วย! ให้ผมรักษาคุณกระต่ายเถอะนะ....” อ้อ...ที่แท้ไอ้เงาดำๆที่ตามสโตรกอยู่รอบๆบ้านผมก็คือคุณฮิบารินี่เอง...ว่าแต่ตามมาข่มขู่หมอถึงนี่เลยเร๊อะ....ในขณะที่ผมกำลังจะส่งเจ้ากระต่ายอลิสให้หมอ....
วี๊หว่อ....วี๊หว่อ....วี๊หว่อ......
เสียงโหยหวนของไซเรนดังกระหึ่มก็ดังขึ้นมาขัดขวาง รถพยาบาลห้าคันแทบจะพุ่งเข้ามายังห้องฉุกเฉิน เตียงคนไข้เลือดอาบถูกเข็นเข้ามาจ่ออยู่ตรงหน้า สภาพที่จะตายมิตายแหล่ของคนอีกนับสิบที่อ้าปากพะงาบๆนอนเลือดพุ่งราวกับเปิดก๊อกแบบนั้น.....
ถ้าเทียบกับใบหน้าแดงระเรื่อร้องหงิงๆของเจ้ากระต่ายอลิส.....ทางนี้ดูท่าทางจะตายได้ยากกว่าอยู่เยอะอ่ะนะ.....
“ คะ...คุณหมอไปช่วยชีวิตพวกเค้าก่อนเถอะครับ....” ผมจำใจต้องพูดออกไปอย่างนั้น ด้วยรังสีแห่งมนุษยธรรมจากสายตาญาติพี่น้องของเหล่าคนที่ร้องโอดโอยกระแทกมาที่ตาผมอย่างจัง...เฮ้อ...เอาวะ...ลองวิ่งไปหาคลินิกข้างนอกดูอีกซักรอบฆ่าเวลาก่อนก็แล้วกัน...
แล้วผมกับเจ้าหมาป่ายามาโมโตะก็ออกวิ่งกันอีกครั้ง....
แฮ่ก...แฮ่ก.....
หลังจากวิ่งมารอบเมืองก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอคลินิกที่ไหนจะเปิดอีก สงสัยคงต้องกลับไปโรงพยาบาลซะแล้วละมั้ง
“ สึนะ....” เสียงเรียกพร้อมกับแรงเขย่าที่ขากางเกงทำให้ผมต้องก้มลงไปดูเจ้าหมาตัวจิ๋ว
“ นั่นน่ะ...ใช่ที่นายกำลังตามหาอยู่หรือเปล่า?” และเมื่อมองตามนิ้วเล็กๆนั่นไป....
โอ้วววววว....สวรรค์ทรงโปรดดดดด....
ในที่สุดก็หาเจอแล้ว....คลินิกที่ติดป้ายว่า....เปิดตลอดกาล..............เลยเร๊อะ!
[ Nappo Clinic ] ยินดีให้ความสำราญ...คึหึหึ....?!
คะ...แค่ป้ายก็ไม่น่าไว้ใจสุดหูรูดแล้ว!!!
แต่ก็...ช่วยไม่ได้ละนะ...ในเมื่อที่ไหนๆก็ไม่เปิด...ผมจำใจต้องเดินก้าวเข้าไป....
โบร๋วววววววว.....
ฮี้!!! หอนทักทายกันอย่างงี้เลยเร๊อะ! เสียงแรกที่ได้ยินหลังจากที่เปิดประตูเข้าไปคือเสียงหมาร้องโหยหวน ไอ้เจ้าหมายามาโมโตะก็ดันไปเห่าตอบอีกแน่ะ ....รีบวิ่งออกไปตอนนี้ยังทันไหมนะ อ๊ากกกก
ตะ...แต่เมื่อมองดีๆ....จะมีแต่เสียงหมาเห่ามันก็ไม่แปลก....ในเมื่อรอบกายของผมในตอนนี้มันมีแต่...หมา แมว กระต่าย นก ช้าง ม้า วัว ควาย ...ไม่ใช่ละ....
จะบอกว่ายังไงดี....ที่นี่มันเป็นคลินิกก็จริง....
แต่มันดันเป็นคลินิกรักษาสัตว์น่ะเซ่!!!
แต่เอ๊ะ....จะว่าไปแล้วอย่างโกคุเดระคุงนี่....เป็นคนหรือเป็นสัตว์กันแน่ ?....
อืม...บางทีอาจจะรักษาเหมือนกระต่ายทั่วไปก็ได้มั้ง ?...
“ ยินดีต้อนรับค่ะ...” เสียงเล็กๆน่ารักดังแว่วมาจากประตูที่จะเชื่อมไปด้านใน เมื่อหันกลับไปก็พบกับหญิงสาวร่างเล็กบางคนหนึ่งซึ่งอยู่ในชุดนางพยาบาล(?)สีเขียวขี้ม้าแปลกๆ ใบหน้าเล็กๆนั้นจัดได้ว่าน่ารักมาก ดวงตาข้างหนึ่งถูกปิดไว้ด้วยผ้าคาดตา แต่ที่เด่นสะดุดยิ่งกว่าคือทรงผมที่ดูๆไปแล้วทำให้นึกไปถึงป้ายชื่อร้านอย่างน่าประหลาด....หรือว่าการแต่งกายแบบนี้จะเป็นยูนิฟอร์มของคลินิกนี่ ?
“ วันนี้เรามีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้ารายแรกในรอบหนึ่งปี...รักษาฟรีไม่คิดเงินค่ะ” ฟะ....ฟังดูแล้วโคตรไม่น่าไว้ใจเลยอ่ะคร้าบบบ
“ และพิเศษสุดๆ คุณหมอเพิ่งกลับมาจากภพที่หก เพราะฉะนั้นเชิญเข้าไปรักษาได้เลยไม่ต้องจับบัตรคิวค่ะ” ผะ...ผมถอยตอนนี้ยังทันไหมนะ....ภพที่หกอะร๊ายยยย
“ เชิญค่ะ....” มือเล็กผายไปยังห้องชั้นใน
“ คร้าบบบบบ” อ้าวเฮ้ย! ไอ้เจ้ายามาโมโตะเดินยิ้มไม่รู้เรื่องรู้ราวเข้าไปแล้ว รอก๊อนนนน....เอ๊ะ! แต่ปล่อยให้มันเข้าไปเป็นหนูทดลองก่อนก็ดีมั้ง
“ เชิญค่ะ....” หญิงสาวยังคงบอกเน้นกับผมราวกับรู้ว่าคนที่ป่วยไม่ใช่ไอ้หมานั่น....ยังไงก็ลองแหย่ขาเข้าไปดูก่อนก็แล้วกัน....
“ คึ....หึ....หึ.............” ขนแขนพร้อมใจกันลุกขึ้นยืนโดยที่ไม่ได้นัดหมายทันทีที่ก้าวเข้ามา เสียงหัวเราะโรคจิตดังก้องไปทั่ว ห้องสลัวๆมีควันลอยละล่องที่ดูยังไงๆมันก็ไม่เหมือนกับห้องรักษาโรคเลยแม้แต่น้อย...หรือว่าไอ้หมอนี่มันแปะป้ายร้านผิด....ความจริงต้องเป็น....หมอ[ดู]สัปป้า....อะไรประมาณนี้มากกว่าหรือเปล่า ?
“ พาน้องหมาหรือน้องแมวมารักษาหรือครับ....” ก่อนจะถาม แกช่วยปรากฏตัวก่อนได้ไหม! ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ไม่เห็นเจ้าคนต้นเสียงเลยแม้แต่น้อย...
“ ว้าว....ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์อะไรเช่นนี้ครับ....” ฮี้!!! จู่ๆใบหน้าเรียวก็โผล่พรวดมาที่ด้านหลังของผม นัยน์ตาสองสีแปลกประหลาดจ้องมองกระต่ายอลิสในอ้อมแขนผมด้วยดวงตาเป็นกระกายระยับ ผมรีบหันหน้าไปเผชิญหน้าจึงได้เห็นว่าเจ้าของคลินิกสุดพิสดารนี่คือร่างสูงโปร่งใบหน้าเรียวหล่อเหลาผู้มีนัยน์ตาสองข้างคนละสี แต่ก็ดูเข้ากับทรงผมราวกับพืชไร่สายพันธุ์หนึ่งได้อย่างดี เสื้อกราวด์สีขาวคลุมทับเสื้อปกตั้งสีเขียวขี้ม้าเสื้อยืดข้างในเป็นลายทหาร มือถือสามง่ามดูทรงอำนาจ....สรุปแล้วคนคนนี้โรคจิตได้อย่างสมบูรณ์แบบสุดๆ....ว่าแต่สามง่ามนั่น...มันคือเครื่องมือแพทย์ด้วยหรอน่ะ ?
“ ในหกภพนี้ผมไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์ขนาดนี้มาก่อน...ถ้าผมได้เก็บตัวอย่างร่างกายนี้เอามาทำวิจัยละก็...วิวัฒนาการขั้นสูงสุดของโลกจะต้องถือกำเนิดขึ้นอย่างแน่นอนครับ!” ผมตัดสินใจอุ้มเจ้ากระต่ายอลิสออกจากห้อง....กลับไปที่โรงพยาบาลคงจะปลอดภัยกว่านะ....ทนหน่อยนะลูกสาวกระต่ายของฉัน....
เคร้ง!!! โครม!!! เพล้ง!!!
เอาแล้วไหมล่ะ....
จะไปตีกะเค้าทำม๊ายยยย.....
ไอ้เจ้าหมาหวงก้างกำลังใช้ดาบญี่ปุ่นไล่ฆ่าฟันกับเจ้าหมอโรคจิตโดยไม่สนใจว่าข้าวของในห้องมันจะวินาศสันตะโลยังไง ใบหน้าดาร์กแสยะยิ้มนั่นไม่ได้ต่างไปจากใบหน้าจิตๆยิ้มละไมนั่นเลยซักนิด....นี่ถ้ามีใบหน้าโหดๆของคุณท่านฮิบาริมาร่วมแจมอีกคนนี้คงไม่ต้องผุดต้องเกิดกันละร้านนี้....ได้ลงไปอยู่ในภพที่เจ็ดแน่....
“ อะ...อื้อ.....” เสียงครางแบบทรมานนิดๆของเจ้ากระต่ายในอ้อมแขน ถึงแม้ว่ามันจะเบามากกก แต่ก็ทำให้การต่อสู้นั้นหยุดชะงักลงทันที ผมเองก็เริ่มจะกลับมาลุกลี้ลุกลนอีกครั้ง ทำไงดีล่ะ จะกลับไปโรงพยาบาลหรือว่าไงดี...เอาไงดีๆๆ
“ คึหึหึ....พักรบกันแค่นี้ก่อนก็แล้วกันนะครับ....ช่วยพาคุณกระต่ายน้อยมาตรงนี้ทีครับ” เจ้าหมอโรคจิตกลับมาเข้าสู่โหมดคนปกติเสียที
ใบหน้าที่ดูตั้งอกตั้งใจตรวจรักษาเจ้ากระต่ายอลิสนั้นช่างดูต่างจากคนโรคจิตเมื่อครู่ราวกับฟ้ากับเหว....เออน่ะ...ตั้งใจแบบนี้เสียตั้งแต่แรก ผมก็คงจะไม่ใช่ลูกค้าคนแรกในรอบปีแบบนี้หรอก
หลังจากฉีดยาเข็มเล็กลงไปที่ข้อพับที่แขนของโกคุเดระคุง ไม่นานอาการไข้ก็ดูสงบลงให้ใบหน้าสวยน่ารักนั้นหลับปุ๋ย ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ดูแล้วสบายกว่าเมื่อเช้านี้มากมายนัก
“ ค่ารักษาเท่าไหร่ครับ” ผมถามออกไปเพราะไม่อยากติดหนี้บุญคุณและไม่ต้องการจะยุ่งเกี่ยวกับเจ้าหมอโรคจิตสุดเพี้ยนคนนี้อีก
“ คึหึหึ....ไม่ต้องหรอกครับ....นี่เป็นโปรโมชั่นพิเศษ รักษาฟรีแถมบริการเยี่ยมไข้ถึงบ้านทุกวันเป็นเวลาครึ่งปีให้ด้วยนะครับ” .....นั่นแหละที่ฉันไม่ต้องการ!!!....
“ วันนี้เอง ก็ควรจะปล่อยให้นอนให้น้ำเกลืออยู่ที่นี่นะครับ...ผมจะได้ผ่าวิจัย...อ้า....ผมจะได้ดูแลอย่างใกล้ชิดได้ยังไงล่ะครับ.....”
“ลาก่อนครับ”
ปึ้ง!!!!
ผมรีบคว้าตัวเจ้ากระต่ายอลิสแล้วชิ่งหนีออกมาทันที...ใครจะปล่อยให้แกผ่ากระต่ายน้อยน่ารักแบบนี้ได้ลงเล่า!
“ นี่!!! ฉันได้ยินมาด้วยละว่าไอ้หัวสับปะรดนั่นมันจะจับโกคุเดระผ่าน่ะ!” หื๋อ ?....ไอ้เจ้าหมายามาโมโตะมันพูดกับใคร ?
โครม!! เพล้ง!!! เคร้ง!!!
อ้า....ร้ายนักนะแก...ไอ้หมาเจ้าเล่ห์....
คุณฮิบาริที่แอบตามสโตรกอยู่ได้ฟังประโยคเมื่อครู่คงจะหูผึ่งแล้ววิ่งเข้าไปไล่ขย้ำไอ้หมอโรคจิตที่ก็ดันรับมือได้แบบพอฟัดพอเหวี่ยงกัน....นั่น.....ไล่ตีกันไปนู้นนนนแล้ว
เอาเหอะ....คราวนี้ฉันสนับสนุนแกเต็มที่เลยยามาโมโตะ.....
“ ผมไม่เป็นไรแล้วครับรุ่นที่สิบ ขอบพระคุณมากนะครับที่กรุณาเป็นห่วง” ใบหน้าเล็กแดงระเรื่อเล็กน้อย ที่หน้าผากใสมีผ้าชุบน้ำวางแปะอยู่ ร่างเล็กๆนอนอยู่บนกองผ้าห่มในห้องของผมตามปกติ
“ ไม่เป็นไรหรอก...นายต้องนอนพักเยอะๆนะ ห้ามลุกขึ้นมาทำงานล่ะ จะได้หายไวๆ” ถึงแม้ว่าใบหน้าอ่อนระโหยโรยแรงกับริมฝีปากแดงๆกับนัยน์ตาสีมรกตหวานเยิ้มนี่มันจะน่ามองสุดๆก็เหอะนะ
“ ข้าวต้มมาแล้วจ้า....” เจ้าหมาป่าเดินเข้ามาพร้อมด้วยถ้วยข้าวต้มหอมกรุ่น
กิ๊งก่อง....กิ๊งก่อง....กิ๊งก่องๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โห....กดให้มันพังติดนิ้วไปเลยสิ....ใครมันกดออดได้โรคจิตขนาดนี้เนี่ย....
“ งั้นนายป้อนโกคุเดระคุงไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันลงไปดูเอง” ผมลุกเดินลงบันไดมา รังสีไม่น่าไว้วางใจบางอย่างแผ่ซ่านลอดบานประตูบ้านเข้ามาทันที....
ราวกับว่า....
แอด....
เฮ้ย! ยังไม่ได้เปิดเลยนะ!
“ คึหึหึ....สวัสดีครับ...ผมกดออดอยู่นานแล้วแต่ไม่เห็นมีใครมาเปิด เลยสะเดาะกุญแจเข้ามาเอง....” ตำรวจ...ต้องแจ้งตำรวจๆๆๆ
“ มะ...มีอะไรครับ”
“ ผมมาเยี่ยมไข้ตามโปรโมชั่นน่ะครับ...และนี่ของฝาก....ทานสับปะรดทุกวันผิวพรรณจะสดใสนะครับกรุณาเอาให้คุณกระต่ายน้อยทานด้วยนะครับแต่จริงๆแล้วผมก็ตั้งใจจะมาปอกให้....เอ....วันนี้คุณกระต่ายน้อยทานยาหรือยังครับ งั้นผมฉีดยาให้ดีกว่านะครับ แต่ขออยู่กันสองต่อสองน่าจะสะดวกกว่า”
ปึง!!!!
ประตูปิดลงทันที ผมเดินไปดันตู้รองเท้าใกล้ๆมาขวางเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง....ไม่ว่าจะสองต่อสอง สามต่อสาม หรือห้าต่อห้า....ชั้นก็ไม่ให้เฟ้ย!
อ๊ะ!
ขอยืมมาใช้หน่อยแล้วกัน....
“ ได้ข่าวมาว่า ไอ้หัวสับปะรดนั่นจะตามมาผ่าโกคุเดระคุงถึงที่บ้านนี่ด้วยละ!” ผมตะโกนลอยๆออกไป....ไม่นาน....ไม่นานเล้ย.....
โครม!! เพล้ง!!! เคร้ง!!!!!
แล้วเสียงทอนฟาปะทะสามง่ามก็ดังแว่วจากไปพร้อมกับความสงบสุขอันน้อยนิดที่มาเยือนผมอีกครั้ง.....
แต่จะสงบสุขอยู่ได้ซักกี่น้ำกัน ?
เรื่องนั้น....
คงต้อง.....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
โปรดติดตามตอนต่อไป.....ไป........ไป........
Next Episode……
[All59] Alice in Vongola World =[ ]=!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! [24 - 07 -2010]
[D59] Alice in Vongola World =[ ]=!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! [30 - 07 -2010]
ครึ ครึ ตอนหน้าตัวเลขวันที่ลงมันแปลกๆมะ....คึหึหึ.....ขออนุญาตเจ้าของวันเกิดทั้งสอง มอบฟิกให้ร่วมกันเลยนะค้า...เพราะเชื่อว่าทั้งสองคนรู้จักกันดีและยัยหม่ามี๊นี่ขี้เกียจ (= =”) ฮ่าๆๆๆ ก็คนนึงเค้าบอกว่าเค้าชอบฟิกเรื่องนี้มากนี่นา...ส่วนอีกคนเค้าก็ชอบพ่อม้ามากนี่นา....=3=....
ว่าแต่....ยิ่งเขียนไปทำไมยิ่งรู้สึกว่า ทูน่าจะนิสัยใกล้เคียงตัวข้าเข้าไปทุกทีๆ = =”
อ้า....มาพูดถึงเรื่องนี้กันดีกว่าๆๆๆ
HAPPY BIRTHDAY NAPPO!!!!
ห๊ะ! ผิดหรอ ? อ่ะ...เอาใหม่ก็ได้ เห็นว่าเป็นเจ้าของวันเกิดนะเนี่ย ครึ ครึ....
HAPPY BIRTHDAY MUKURO!!!
ขอให้หล่อรั่วโอตาคุแบบนี้ตลอดไปนะค้า...(แน่ใจนะครับว่านั่นคำอวยพร...คึหึหึ)
เหอะ เหอะ ความจริงบทคุณมุในเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโดจินซีรี่ย์น้องกระต่ายของ Uohsaoh น่ะค่ะ ^ ^ ในโดจินซีรี่ย์นั้นคุณมุก็เป็นสัตวแพทย์(หรือว่าเจ้าของร้านขายสัตว์หว่า...ไม่แน่ใจ)
แล้วเจอกันค่ะ!
ตอนนี้จะเอาฮาไปถึงโลกไหนครับพี่
ตอบลบหัวเราะจนคนในร้านเน็ตมองหมดแล้ว -///- (อายมั๊ยล่ะนั่นน่ะ)
555555555+
ตอบลบอ่านไปขำไป
น่ารักจริงๆเลย