[Au S.Fic HBD.Hibari][1859] Alice in Vongola World =[ ]=!!!
: KHR fanfiction Au
: All59 [1859]
: RomanticComedy
: PG
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
“ สึน้า~~~~”
เฮือก!
มาแล้ว....มันมาอีกแล้ว.....
“ ไปโรงเรียนก่อนละนะคร้าบบบบ ฮะ ฮะ วันนี้ต้องรีบไปเพราะเป็นเวรแต่เช้าเลย” ถึงเสียงของผมจะหัวเราะไปพูดไป แต่มือเล็กกลับรีบผูกเชือกรองเท้าอย่างเอาเป็นเอาตาย จะเสร็จไม่เสร็จ จะหลุดจะลุ่ยจนอาจทำให้ผมเหยียบมันจนล้มหน้าทิ่ม แต่ก็จำต้องละทิ้งมันแล้ววิ่งออกจากบ้านอย่างไม่คิดชีวิต
“ โชคดีครับรุ่นที่สิบ!” เสียงของเจ้ากระต่ายอลิสเอ่ยอย่างแข็งขันส่งผมออกจากบ้าน ก่อนที่อีกเสียงสดใสที่เพิ่งวิ่งมาถึง จะเอ่ยออกมาด้วยความเสียดาย....
“ ว้า....ไปแล้วหรอ.....” เพราะแกนั่นแหละ! ฉันถึงได้ตาลีตาเหลือกวิ่งออกมาจากบ้านทั้งๆที่ยังไม่ได้ร่ำลาลูกสาวกระต่ายสุดโมเอ้ของฉันน่ะ!
วิ่งไปก็น้ำตาไหลพรากไป...ไหนไอ้หมาสองบุคลิกนั่นมันบอกว่าจะเลิกลอบฆ่าผมแล้วไงล่ะฟะ!
ใช่....มันเลิกลอบฆ่า แต่เปลี่ยนมาตั้งหน้าตั้งตาฆ่าผมแบบซึ่งๆหน้าเลยต่างหากเล่า!
ก็จะอะไรซะอีกล่ะ...ถ้าไม่ใช่ไอ้น้ำยาแปลกๆที่มันบอกว่าจะย่อขนาดให้ผมตัวเล็กลงแล้วพวกเราจะได้เกี่ยวก้อยกันกลับไปอยู่ที่Vongola world ได้ อะไรของมันนั่นแหละ....แต่ผมว่าแทนที่จะเกี่ยวก้อยกันไป Vongola world คงได้เกี่ยวก้อยกันไปยมโลกมากกว่า....เพราะไอ้ส่วนผสมที่ขาดๆเกินๆแถมน่าสยองจนพ่อมดอย่างสเนปยังไม่กล้าจะหยิบไปใช้...ที่ไอ้หมาดาร์กเนียนนั่นไปสรรหามาจากไหนก็ไม่รู้พวกนั้น.....ผสมกันออกมาแล้วคงเป็นยาพิษกินแล้วตายชัวร์แบบไม่ต้องรอฟังผลแน่ๆ
เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่ข่าวโคมลอยที่ผมแต่งขึ้นมาเองนะ แต่ผมมีหลักฐาน เป็นใบรับรองแพทย์ตลอดชีพที่ผมเพิ่งได้มาหลังจากอาหารเป็นพิษขั้นโคม่าจากการกินไอ้ยาลดขนาดอะไรของมันเข้าไปโดยบังเอิญนี่แหละ....
แถมไอ้หมาตัวแสบยังมีหน้ามายืนเกาท้ายทอยหัวเราะแหะๆ แล้วบอกว่า....”สงสัยจะจำส่วนผสมผิดไปละมั้ง...ฮะฮะ แต่ไม่ต้องห่วง คราวหน้าฉันต้องปรุงมันสำเร็จแน่สึนะ!”
อยากจะบอกว่า....ไม่มีคราวหน้าสำหรับแกหรอกเว้ยเฮ้ย!
แต่มันก็สะเทือนใจอยู่อย่างตรงที่เจ้ากระต่ายอลิสดันเห็นดีเห็นงามด้วยนี่สิ.... ” ไม่ต้องห่วงนะครับรุ่นที่สิบ ถึงจะเป็นหมาบ้าๆเอ๋อๆแบบนี้ แต่มันก็เป็นถึงศิษย์เอกของพ่อมดนักปรุงยาแห่งVongola world เชียวนะครับ เวลาผมไม่สบายก็ได้ยาของมันช่วยมาตั้งหลายครั้งแล้วแหละครับ” ........ผมถึงได้สงสัยนี่ไงล่ะว่าเจ้าหมาสองบุคลิกนั่นมันยังแอบคิดที่จะลอบฆ่าผมอยู่หรือเปล่า ขนาดปรุงยามันยังสองมาตรฐานได้เลยครับ ฮืออออ!
ว่าแต่...ศิษย์เอกยังเป็นขนาดนี้....แล้วอาจารย์พ่อมดของมันจะเป็นขนาดไหนเนี่ย...สาธู๊....ขออย่าได้โผล่ออกมาจากหนังสือนั่นอีกเล้ยยยย....
มัวแต่คิดเพลินจนเพิ่งได้สังเกตเห็นว่า....วันนี้มันเป็นวันเด็กผู้ชายนี่หว่า...ทุกๆบ้านถึงได้ประดับธงรูปปลาคาร์ฟเป็นทิวแถวแบบนี้....แล้วทำไม....โรงเรียนนามิโมริของเราถึงยังเปิดเรียนในวันที่ชาวบ้านเขาถือว่าเป็นวันหยุดแบบนี้อยู่อี๊ก!
ในขณะที่สึนะผู้อับโชค กำลังตั้งหน้าตั้งตาไปโรงเรียนอยู่นั้น.........
“ โกคุเดระ! ฉันเห็นกล่องอะไรวางอยู่บนโต๊ะในครัวแน่ะ มันเกะกะการปรุงยาของฉันมากเลย เอาไปทิ้งได้เปล่าอ่ะ” เจ้าหมาผู้เป็นเหตุแห่งความยุ่งเหยิงก็ตะโกนเรียกกระต่ายอลิสซึ่งกำลังขะมักเขม้นกับการกระโดดเหยงๆเช็ดกระจกฝาบ้านอยู่ ใบหน้าสวยขนาดจิ๋วที่มีผ้าผืนเล็กผูกเป็นสามเหลี่ยมคาดอยู่ที่หัวเพื่อรวบผมด้านหน้าตามประสาแม่บ้านที่ดี(?)หันมามองด้วยแววตาสงสัย
“ หรือว่าจะเป็น......”
“ หื๋อ?...หรือว่าจะเป็น ?!”
“ กล่องข้าวของท่านรุ่นที่สิบ!”
มือเล็กเหวี่ยงผ้ากันเปื้อนและผ้าคาดผมออกทันที แล้ววิ่งตรงดิ่งไปยังห้องครัว ยืนมองกล่องข้าวที่ใหญ่กว่าตัวอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเอ่ยออกมาว่า
“ ยามาโมโตะ!”
“ จ๋า....”
“ แกแบกกล่องนี่แล้วตามฉันมา!”
“ เจอรึยัง? “
“ ยังเลยอ่ะ”
“ แกเป็นหมานำทางประสาอะไรวะ กับอีแค่สิ่งที่เรียกว่าโรงเรียนของท่านรุ่นที่สิบ ยังหาไม่เจอซักที” เจ้ากระต่ายอลิสหน้าตาบูดบึ้งเนื่องจากเดินหลงทางวนไปวนมาเพราะการนำทางของคนข้างกายยกมือเล็กขึ้นปาดเหงื่อปนหน้าผาก
“ ก็ที่นี่ไม่ใช่ Vongola world นี่นา....แล้วก็นะโกคุเดระ....ไอ้โรงเรียนนี่มันเป็นยังไงอ่ะ” สมแล้ว...ที่จะหาไม่เจอ.....ขนาดเป้าหมายเป็นยังไงมันยังไม่รู้เล้ย
“ อืม.....ท่านรุ่นที่สิบบอกว่า....มันคือสถานที่ ที่เอาไว้สอนวิชาความรู้ต่างๆ” มือเล็กของกระต่ายอลิสเปิดสมุดจดประจำตัวขึ้นมาแล้วหาสิ่งที่เรียกว่า “โรงเรียน” ที่เคยบันทึกเอาไว้
“ งั้นมันก็คงเหมือนกับเห็ดยักษ์สินะ”
“ คงงั้นละมั้ง....” ** หมายเหตุ** สถานที่ที่สอนเด็กๆใน Vongola world คือที่ใต้ต้นเห็ดมัตซึทาเกะยักษ์
“ ได้เลย! งั้นเราก็มาตามหาเห็ดยักษ์กัน!” .....จะเจอไหมเนี่ย.....
แต่ก่อนที่จะหลงทางกันไปมากกว่านั้น ราวกับสวรรค์มีตามาทรงโปรดสึนะให้ได้กินข้าวกล่องภายในวันนี้....ลมลูกใหญ่ก็พัดมาแต่ไกลแล้วหอบหิ้วเอาธงปลาคาร์ฟสีแดงสดตัวหนึ่งมาด้วย ก่อนที่จะม้วนตัวอย่างสวยงามสองตลบ แล้วปากอันกว้างใหญ่ของปลาคาร์ฟก็งาบลำตัวเล็กของเจ้ากระต่ายอลิสเข้าไปทั้งตัว ด้วยน้ำหนักที่ต่างจากเดิมเล็กน้อยทำให้มันไม่ปลิวหวือเหมือนที่ผ่านๆมา แต่กลับกลิ้งกลุกๆลงไปตามถนนจากเนินด้านบนลงสู่ปลายถนนด้านล่าง
“ โกคุเดร้า~~~” เจ้าหมาดาร์กเนียนตะโกนร้องเรียกพร้อมแบกกล่องข้าววิ่งตามก้อนปลาคาร์ฟสีแดงไป
“ บังอาจมากินโกคุเดระของชั้น เตรียมตัวตายซะเถอะแก!” ดาบญี่ปุ่นคมกริบที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหนอยู่ในมืออีกข้างของเจ้ายามาโมโตะ สายตาจับจ้องอยู่ที่ปลาคาร์ฟสีแดงอย่างโกรธแค้น เตรียมร่ายเพลงดาบ “ฝนชำแหละปลาห้าซีก(?)” อย่างเดือดดาล
ตุบ!
แต่ก่อนที่เพลงดาบจะได้ฟาดออกไป เจ้าปลาคาร์ฟที่ถูกพันเป็นก้อนกลมๆก็กระแทกเข้ากับอะไรบางอย่างที่ทั้งนุ่มทั้งแข็งจนหยุดลง เจ้ากระต่ายอลิสที่นั่งแปะอยู่ภายในค่อยๆยกมือขึ้นแหวกปากปลาจนโผล่หัวสีเงินและหูยาวๆสีขาวออกมา ใบหน้าน่ารักดูวิงเวียนเล็กน้อย จึงไม่ได้สนใจว่า “ไอ้ของนุ่มๆแข็งๆ” ที่หยุดตัวเองเอาไว้คืออะไรกันแน่
ต่างจากเจ้าของ “ไอ้ของนุ่มๆแข็งๆ” ที่ยืนค้ำหัวจ้องมองเจ้ากระต่ายอลิสตาเขม็ง
จากตอนแรกที่โมโหอยากขย้ำเจ้าของธงปลาคาร์ฟอันนี้ที่ทำตัวผิดระเบียบเพราะไม่ยอมเอาธงไปปักบนยอดเสาแต่ปล่อยให้มาปลิวระพื้นอยู่แถวนี้ จากตอนแรกที่คิดแค่ว่าจะหยิบธงขึ้นมาดูชื่อที่บังคับให้ทุกบ้านปักเอาไว้ว่าธงเป็นของใคร จากตอนแรกที่เตรียมหยิบทอนฟาขึ้นมาให้พร้อมไปขย้ำเมื่อเห็นชื่อเจ้าของธง......
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะถูก สิ่งมีชีวิตเล็กๆตรงหน้านี้หยุดเอาไว้ได้หมด.....
ตัวที่เล็กกะจิดริดสูงไม่น่าจะเกินสองคืบ ใบหน้าน่ารักเล็กๆ ผมสีเงินเส้นเล็กๆ นัยน์ตาสีเขียวมรกตคู่เล็กๆ ที่สำคัญคือ หูกระต่ายสีขาวคู่เล็กๆ......เจ้านี่....ตรงกับคอนเซ็ปต์สิ่งมีชีวิตเล็กๆที่น่าหลงใหลของเขาทุกอย่าง!!!
นัยน์ตาคมกริบสีดำสนิทเบิกกว้างอย่างที่จะกว้างได้ มีแววระยิบระยับประดับอยู่อย่างปิดไม่มิด ใบหน้าเย็นชาหล่อคมยังคงนิ่งเฉยแต่สองแก้มก็แอบมีสีแดงเป็นแถบ ริมฝีปากแสยะยิ้มราวกับได้เจอของที่ถูกใจ นิ้วเรียวสั่นระริกค่อยๆยื่นไปยังสิ่งมีชีวิตเล็กๆตรงหน้า โดยที่เจ้ากระต่ายอลิสซึ่งยังคงวุ่นวายกับการทำให้ตัวเองหลุดออกมาจากปากปลาคาร์ฟก็ไม่ได้รู้ตัวเล้ย...
“ โกคุเดระ!!!” เสียงเจ้าหมาป่าทำให้มือที่คิดจะคว้าตัวกระต่ายอลิสนั้นหยุดนิ่งลง นัยน์ตาคมกริบหันไปมองเจ้าหมาหูดำที่วิ่งแบกกล่องข้าวตามมาอย่างมีแววไม่พอใจ นัยน์ตาสองคู่สบประสานกันท่ามกลางเสียงดังเปรียะๆของประกายไฟที่ส่งไปให้แก่กัน ทอนฟาและดาบญี่ปุ่นในมือต่างเตรียมพร้อม
“ อ๊ะ! เจอแล้ว! โรงเรียนของท่านรุ่นที่สิบ!” แต่ก่อนที่จะเกิดศึกระหว่างคนกับหมา เจ้ากระต่ายอลิสผู้ไม่รู้เรื่องอีกตามเคยก็ชี้นิ้วเล็กไปที่ป้ายหน้าโรงเรียน ร่างเล็กบางลุกขึ้นแล้วเดินตรงดิ่งเข้าไปด้านในทันที เจ้าหมาป่าเลยจำต้องเก็บดาบแล้ววิ่งตามเข้าไป
ทิ้งให้เจ้าของกักกุรันที่มีแถบป้ายว่า “รักษากฎ” ที่แขนซ้ายยืนมองด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก รอยยิ้มน้อยๆผุดพรายที่ริมฝีปาก..... ”เจอเป้าหมายแล้ว....เจอเป้าหมายแล้ว” .....เสียงนกป้อมสีเหลืองร้องออกมาในขณะที่บินวนเวียนอยู่เหนือหัว......หึหึ.....ใช่....เจอเป้าหมายแล้ว!!!
ดูเหมือนสิ่งที่เรียกว่า “โรงเรียน” นี่จะเป็นที่นิยมมากกว่าที่คิดเพราะมีคนมากมายเดินกันให้ขวักไขว่ ทำให้การตามหาสึนะนั้นยากกว่าที่คิด ร่างเล็กบางของเจ้ากระต่ายอลิสเดินนำหน้าพร้อมกับสอดส่ายสายตามองหารุ่นที่สิบของตน ส่วนเจ้าหมาสองบุคลิกก็เดินแบกกล่องข้าวตามมา
“ โฮ่ย ยามาโมโตะ!” กระต่ายอลิสหันไปเรียกเจ้าหมาป่าที่ยืนนิ่งอยู่ที่หน้าห้องๆหนึ่ง
“ ถ้าเป็นที่นี่....ถ้าเป็นที่นี่ละก็........” นัยน์ตาสีเปลือกไม้ส่งประกายวิบวับ พร้อมกับน้ำลายไหลย้อยที่มุมปาก ด้วยความสงสัย กระต่ายอลิสจึงมองตามเข้าไปในห้อง.....เป็นห้องที่มีอุปกรณ์มากมาย รวมไปถึงขวดใส่น้ำสีแปลกๆที่ตั้งอยู่เต็มข้างฝา ดูๆไปแล้วก็เหมือนกับห้องปรุงยาของไอ้พ่อมดจอมซุ่มซ่ามที่ Vongola World ไม่มีผิด
“ ถ้าเป็นที่นี่ ฉันจะต้องปรุงยาลดขนาดสำเร็จแน่ๆเลยโกคุเดระ!” ไม่รอช้า....ไอ้หมาดาร์กเนียนก็ตรงดิ่งเข้าไปในห้องพร้อมหยิบขวดที่มีรูปกะโหลกไขว้ เทใส่บิกเกอร์พร้อมจุดไฟตะเกียงทดลองเรียบร้อย ดูท่าทางจะเพลิดเพลินจนกระต่ายอลิสเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมออกมา
“ เชอะ! งั้นแกก็รออยู่นี่ล่ะ เดี๋ยวฉันไปหารุ่นที่สิบเองก็ได้” แล้วเจ้ากระต่ายอลิสก็เดินตัวปลิว ทิ้งกล่องข้าวเอาไว้กับตัวอันตรายซึ่งถึงแม้มันจะไม่ได้คิดร้ายแล้วก็เถอะ....นะ?
เมื่อเดินเลี้ยวมาอีกหัวมุมหนึ่ง ร่างเล็กของเด็กชายผมสีน้ำตาลฟูฟ่องที่คุ้นตาก็ปรากฏขึ้นมา
“ ท่านรุ่นที่สิบครับ!”
“ เอ๋...โกคุเดระคุง!!!” เจ้ากระต่ายอลิสวิ่งเข้ามาหาท่ามกลางความดีใจ แต่คนที่ยืนอยู่โดยรอบต่างฮือฮาเมื่อมองมาเห็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกตัวนี้
“ มะ...มาได้ยังไงน่ะ....แล้วนี่เจ้ายามาโมโตะ.....” นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้เหลือบมองไปรอบกายอย่างหวาดระแวง แต่ดูท่าว่าตอนนี้เสียงซุบซิบนินทารอบๆนี่จะน่ากลัวกว่ายังไงไม่รู้แหะ
“ ผมเอากล่องข้าวที่ท่านรุ่นที่สิบลืมไว้มาให้ครับ” ใบหน้าเล็กยิ้มมาให้....อ้า....น่ารักจริงๆ.....แต่ไหนล่ะกล่องข้าวที่ว่า? ไม่เห็นถืออะไรมาเลยนี่?
“ แล้วกล่อง....แอ่ก!” ในขณะที่กำลังจะถาม อะไรบางอย่างก็ฟาดเข้ามาที่หน้าผมเต็มๆ ทำเอาลำตัวที่ทรงตัวได้ยอดแย่อยู่แล้วถึงกับล้มคว่ำลงที่พื้น เมื่อเหลือบตาขึ้นไปดู....
“ ฮี้! คะ...คุณฮิบาริ!!!” ไหงคุณท่านถึงมาปรากฏตัวอยู่แถวนี้โดยไร้ร่องรอยการแหวกทางจากเหล่าผู้คนอย่างที่ผ่านๆมา ราวกับว่าแอบย่องตามอะไรมาโดยไม่ให้ใครเห็นงั้นแหละ
“ เจ้านั่น...ผิดระเบียบ!” แล้วนิ้วของคุณท่านก็ชี้ไปที่เจ้ากระต่ายอลิสตัวจิ๋ว........ว่าไงน๊า!!!
“ อยู่ในโรงเรียน ไม่อนุญาตให้ใส่หูกระต่าย...เพราะงั้น......ฉันจะยึดเอาไว้” แล้วมือที่เร็วยิ่งกว่าจรวด ยั๊วเยี้ยยิ่งกว่าหนวดปลาหมึก และเหนียวยิ่งหว่าคีมเหล็กนั่นก็คว้าหมับที่กลางลำตัวเล็กของกระต่ายอลิสแล้วหิ้วไปหน้าตาเฉย.....เดี๋ยวก่อนเซ่!!!....มันผิดที่หูก็เอาหูไปอย่างเดียวเซ่ะ จะเอาตัวลูกสาวผมไปไหน!
“ รุ่นที่สิบครับ!!!” มือคู่เล็กไขว่คว้ามาที่ผม.........ดังนรกชัง ฤ สวรรค์แกล้ง ....
“ โกคุเดระคุง!!!” เช่นเดียวกับมือข้างที่ยังพอขยับได้ของผมที่ไขว่คว้าหาร่างเล็กๆ........ เวรกรรมหรือไร แต่ปางไหนนั่น ให้ห่างไกล สุดฟ้า อาดูร .....
“ รุ่นที่สิบครับ!!!!!” มือเล็กที่ห่างออกไปเรื่อยๆ ....... อธิษฐานจิตใจ หากเกิดชาติไหน .......
“ โกคุเดระคุง!!!!!!” ร่างกายที่พยายามตะเกียกตะกายไขว่คว้า ........ ฐานันดรใดๆทุกสถานนนน .........
“ รุ่นที่สิบครับ!!!!!!!!!” แต่ก็โดนหิ้วไปจนลับสายตา ....... ดลให้เราได้พบเจอเป็นคู่กัน...วอนสวรรค์ได้ไหมมมม .......
“ โกคุเดระคุง!!!!!!!!!!!!” ร่างที่สิ้นหวังได้แต่นอนก้มหน้าซับน้ำตาอย่างสิ้นแรง(?) ........ วิญญาณฉันรอที่ทางช้างเผือกกกกก ........นะจ๊ะ (?!)
ฉากการจากลาที่กระชากอารมณ์ยิ่งกว่าโกโบริกับอังศุมาลิน ที่ญี่ปุ่นมุงจากหลืบต่างๆของอาคารเรียนต่างร้องไห้น้ำตาไหลพรากนั้นไม่ได้ทำให้หัวหน้าคณะกรรมการคุมกฎสุดโหดคนนั้นสะทกสะท้านแต่อย่างใด ใบหน้าคมแสนเย็นชายังคงเดินลิ่วๆมุ่งสู่ห้องรับแขกที่คงจะรับแขกเพียงในนาม ร่างเล็กๆที่หิ้วมาด้วยดิ้นพล่าน โวยวายตลอดทาง
มือแกร่งเปิดประตูห้องเข้าไปแล้วตรงดิ่งไปยังตู้ที่ตั้งอยู่ติดกับโต๊ะทำงานเพียงตัวเดียวภายในห้อง ที่ฝาตู้มีอักษรที่เขียนด้วยพู่กันไว้อย่างงดงาม มีนามว่า.... ”ตู้ของ ฮิบาริ เคียวยะ!” ....ไม่อยากเจอขย้ำกรุณาอย่าเปิด....ถึงแม้จะไม่ได้เขียนไว้แต่ใครๆก็คงจะคิดต่อได้ทันที
ไม่ต้องบอกก็คงเดาได้ ว่าภายในคงเต็มไปด้วยอุปกรณ์(?)แหงแซะ
แอดดดดดด.....
ขนาดเสียงเปิดตู้ยังเหมือนกับเสียงเปิดประตูสู่แดนนรกขนาดนั้น....ไอ้ของที่อยู่ข้างในต้องไม่ธรรมดาชัวร์!!
“ โอ๊ย! เบาๆหน่อยสิฟะ! ละ...แล้วนี่มัน.....อะ...อะไรกันเนี่ย!!!” เสียงเจ้ากระต่ายอลิสร้องโวยวายออกมาเมื่อร่างเล็กๆถูกเหวี่ยงให้นั่งลง
ใช่....ของในตู้มันไม่ธรรมดาจริงๆ....เพราะแต่ละชั้นมันแน่นขนัดไปด้วย...กรง....กรงรูปแบบต่างๆทั้งกรงเหล็กสีขาวดูหลุยส์ๆ กรงซี่ๆจากไม้ไผ่ กรงเหล็กสนิมเขรอะ กรงพลาสติก ฯลฯ มากมายบรรยายไม่หมด.....มีขนาดตั้งแต่ฝ่ามือไปจนถึงกระดาษ A4 แต่ไม่มีใหญ่ไปกว่านั้น....
และตอนนี้เจ้ากระต่ายอลิสก็ถูกจับเข้าไปยัดเอาไว้ในกรงเหล็กดัดสีขาวอลังการใบหนึ่ง ที่พื้นกรงเป็นพื้นนิ่มๆเพราะถูกปูด้วยขนนกสีขาว....
“ ปล่อยชั้นออกไปนะเฟ้ย! ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้สโตรกเกอร์ ไอ้ฯลฯ....” นี่ก็ด่ามากมายบรรยายไม่หมดเช่นกัน.....
“ เป็นกระต่ายก็ต้องอยู่ในกรงสิ” คุณท่านก็รู้นี่ว่าสิ่งมีชีวิตตรงหน้าเป็นกระต่าย แล้วกระต่ายมันก็ต้องมีหูยาวๆสีขาวแบบนั้น แล้วมันผิดระเบียบตรงหน๊ายยย!
“ เอ้านี่!” มือแกร่งจับยอดผักบุ้ง(?) ยื่นเข้ามาในกรง พร้อมด้วยดวงตาสีดำสนิทเป็นประกายที่มองตามมา ทำเอาเจ้ากระต่ายอลิสถึงกับอ้าปากค้าง
แล้วคุณท่านก็นั่งลงที่เก้าอี้ ดึงแฟ้มเอกสารมาเปิดอ่านบังหน้า ทั้งๆที่จริงๆแล้วกำลังแอบมองเจ้ากระต่ายอลิสที่ดูท่าทางจะไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับยอดผักบุ้งปริศนานั่นดี ร่างเล็กบางนั่งจ้องก็แล้ว นอนจ้องก็แล้ว...ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าไอ้ผักบุ้งนี่มันมีความหมายอะไร ? ...ส่วนคนให้ก็ลุ้นจนตัวโก่ง ว่าเมื่อไหร่เจ้ากระต่ายนั่นจะยอมกินยอดผักบุ้งชั้นดีที่ถูกสั่งปลูกโดยเฉพาะซึ่งถูกซุกซ่อนเอาไว้เตรียมพร้อม(?)เสมออยู่ในตู้ (ใบนั้นแหละ)
อีกฝ่ายก็จ้องจนหลับไป ส่วนอีกฝ่ายก็ลุ้นจนหมดแรง.....ฮิบาริ เคียวยะ หันมามองเจ้ากระต่ายตัวน้อยที่นอนขดตัวหลับสบายอยู่บนกองขนนกในกรง แล้วถอนหายใจออกมา ดูท่าทางจะเลี้ยงยากกว่าสิ่งมีชีวิตเล็กๆตัวอื่นของเขา เพราะงั้นต้องออกไปหาข้อมูลซักหน่อย แล้วร่างแกร่งก็เดินออกจากห้องไป....
แขนเล็กของเจ้ากระต่ายอลิสยืดออกอย่างบิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนที่จะพลิกตัวไปอีกด้านทำให้คนที่เฝ้ามองอยู่ถึงกับสะดุ้งโหยง แต่ความนุ่มนิ่มของขนนกกับบรรยากาศเย็นสบายและเงียบสงบเนื่องจากไม่มีใครกล้ามาแหกปากส่งเสียงแถวๆห้องแห่งความตายนี้ จึงทำให้เจ้ากระต่ายตัวน้อยยังคงหลับต่อไปได้อีก
“ เบาๆสิวะ เดี๋ยวมันก็ตื่นมาโวยวายหรอก” เสียงปริศนา A พูดกระซิบกระซาบออกมา
“ แกจะบ้าเร๊อะ นี่มันเป็นกระต่ายนะโว้ย มันจะโวยวายได้ไง” ....ไม่รู้อะไรซะแล้ว....เสียงปริศนา B
“ ว่าแต่นี่เป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของเจ้าฮิบาริแน่หรอฟะ แกแน่ใจนะว่าไอ้ตัวนี้คือตัวเดียวกับที่มันร้อง....ฮิบาริ ฮิบาริ....น่ะ”
“ เออน่ะ....ใช่อยู่แล้ว ชัวร์ไม่มั่วนิ่มหรอกน่ะ(มั่วเห็นๆไม่ใช่รึนี่) รีบๆหิ้วมาเถอะน่า เดี๋ยวลูกกระจ๊อกแก๊งค์เราที่ส่งไปเป็นเหยื่อล่อก็โดนขย้ำตายหมดซะก่อนหรอก”
“ ฮ่าๆๆ แค่มีเจ้าตัวนี้อยู่ ฮิบาริ เคียวยะ ก็ ฮิบาริ เคียวยะเถ๊อะ...จะให้ก้มลงมากราบงามๆเลยคอยดู!”
แล้วเจ้ากระต่ายอลิสก็โดนหิ้วไปอีกครั้ง......
เหลือทิ้งไว้เพียงแผนที่และคำขู่อะไรไม่รู้ยืดยาวแต่มีใจความสำคัญว่า.... ”เจ้ากรรมการคุมกฎเฮงซวย คราวที่แล้วแกทำไว้เจ็บแสบมากนะ คราวนี้พวกชั้นจะเล่นงานจุดอ่อนของแก ถ้าช้าแม้แต่ก้าวเดียวเจ้ากระต่ายนี่ ตาย!” ที่วางแปะอยู่บนโต๊ะ......
สำหรับคนอื่นคงคิดว่ามันคือเรื่องไร้สาระ แต่สำหรับ ฮิบาริ เคียวยะผู้หลงใหลในสิ่งมีชีวิตเล็กๆอย่างหนักแล้ว.....
“ จะขย้ำให้ตาย....ไอ้พวกสัตว์กินพืช!!!”
ประตูโกดังร้างสนิมเขรอะถูกถีบให้เปิดออกอย่างช้าๆ แสงสว่างจากภายนอกส่องเป็นทางเข้าไปด้านใน เผยให้เห็นกรงสีขาวที่คุ้นตาถูกวางไว้บนแท่นที่กลางโกดัง ร่างเล็กๆในนั้นยังคงหลับปุ๋ย....หลับลึกซะจนไอ้คนที่ลักพาตัวมาเริ่มจะหนาวๆร้อนๆ เพราะถ้าไอ้ตัวประกันรุ่นจิ๋วนี่มันตายขึ้นมา มีหวังได้โดนขย้ำของแท้ไปเจ็ดชั่วโคตรแน่
“ ไง! มาแล้วหรอ ฮิบาริ เคียวยะ เร็วดีนี่” เสียงเหี้ยมๆของคนหน้าโหดๆตะโกนทักทาย หลังจากที่ร่างแกร่งผมสีดำเดินเข้ามาข้างในแล้วประตูโกดังก็ปิดลงทันที แต่มีหรือที่คนอย่างคุณท่านฮิบาริจะกลัวเกรง
“ หึ....” เสียงหัวเราะในลำคอเปล่งออกมาอย่างเย้ยเหยัน นั่นทำเอากลุ่มคนนับร้อยที่อยู่รายรอบเริ่มมีเหงื่อหยด
“ กะ....กล้ามากนะ...ทะ...ที่มาคนเดียว” กลับเป็นฝ่ายคนมากที่เริ่มจะลุกลี้ลุกลนเพราะคนคนเดียว
“ ต้องการอะไร?” น้ำเสียงเย็นชานิ่งสนิทเอ่ยถาม ดวงตาคู่สีดำคมกริบจับจ้องสำรวจไปยังตามตัวเจ้ากระต่ายอลิสที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่อง....ดูท่าทางจะยังปลอดภัย(ดีมาก)อยู่สินะ
“ กะ...ก้มหัวแล้วร้องขอชีวิต ซะ...ซะสิ....” แน่ใจนะว่านั่นคือคำสั่ง ช่างไม่มั่นคงเอาซะเล้ย...
“ หึ....สัตว์กินพืชต้องเจอขย้ำ!” แล้วก็ไวกว่าความคิด ร่างแข็งแกร่งแต่ก็รวดเร็วกว่าสายลมเคลื่อนที่ไปด้านข้างพร้อมกับทอนฟาฟ้าประทานในมือ ความโกลาหลจากทั้งพวกที่เข้ามารุมทั้งพวกที่จะวิ่งหนีเกิดขึ้นทันที แล้วใครบางคนก็ล้มฟาดลงไปที่แท่นที่กลางโกดังจนทั้งกรงทั้งกระต่ายอลิสกระเด็นออกไป นัยน์ตาสีดำสนิทมองค้างอย่างแค้นเคือง
“ ว๊ากกกกกกก” แล้วเจ้ากระต่ายอลิสที่เพิ่งจะรู้ตัวก็ตื่นเต็มตาเมื่อกรงสีขาวหมุนตีลังกาสามตลบ ขนนกสีขาวปลิวว่อนไปทั่วโกดัง
“ เฮ้ย!” ตัวประกอบปริศนา C กระโดดคว้ากรงเอาไว้ได้ พร้อมกับป่าวประกาศออกมาเสียงเหี้ยม
“ หยุดนะ! ไม่งั้นเจ้ากระต่ายนี่ตาย!” กระต่ายอลิสดูท่าทางจะยังงงๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อีกคนนี่สิถึงกับยืนนิ่ง ใบหน้าคมนิ่งสนิท
“ แก...ปล่อยชั้นออกไปนะ!” เสียงโวยวายจากในกรงไม่ได้ทำให้ชายโฉดเหล่านั้นสะทกสะท้าน
“ คุกเข่าลงสิ!” .....ชั้นหรอ?.....กระต่ายอลิสมองใบหน้าโหดอย่างงงๆแต่ก็ยอมคุกเข่าลง
“ ไม่ช่าย....หมายถึงหมอนั่นตะหาก!” มือหนาชี้ไปที่ชายผมสีดำ...ฮิบาริ เคียวยะกัดฟันกรอด....ทุกคนต่างรู้ดีว่าเขารักศักดิ์ศรีมากแค่ไหน แล้วการที่จะต้องมาคุกเข่าให้ไอ้พวกสัตว์กินพืชที่หน้าไม่อายขนาดจับกระต่ายมาเป็นตัวประกันพวกนี้น่ะหรอ....มือใหญ่กำทอนฟาแน่น......
“ ถ้าไม่ยอมละก็.....”
“ ว๊ากกกกกกกกก....” กรงสีขาวถูกโยนขึ้นไปในอากาศพร้อมกับหมุนอีกสองตลบ วันนี้มันเป็นวันวิงเวียนแห่งชาติของเจ้ากระต่ายอลิสรึไง?
“ อึก...” เมื่อกรงร่วงแปะลงมาอยู่ในมือหนา เจ้ากระต่ายอลิสก็ถึงกับลงไปกองกับพื้นกรงด้วยความมึน
“ พวกแก.....” ถึงจะรักศักดิ์ศรีแค่ไหน แต่จะให้ทนยืนดูสิ่งมีชีวิตเล็กๆนั่นถูกทรมานต่อไปได้ยังไง มือที่กำทอนฟาแน่นค่อยๆผ่อนแรงลง หัวเข่ากำลังค่อยๆจะทรุดตัวลงไป...
แต่ทว่า.......
ปึง!!!
“ โกคุเดระ!!!”
“ โกคุเดระคุง!!!” สองเสียงผู้มาใหม่ตะโกนเรียกกระต่ายอลิส ทำเอาสายตาทุกคู่ที่อยู่ด้านในมองมาอย่างตกตะลึง เพราะไม่คิดว่าจะมีคนบ้ากล้าเข้ามายุ่งในศึกครั้งนี้(?)
“ ไอ้หมาบ้า! รุ่นที่สิบครับ!!! มาช่วยผมหรอครับ!!!” และคนบ้าที่ว่าก็คือเจ้าห่วยสึนะ กับเจ้าหมายามาโมโตะนั่นเอง
ทุกอย่างอยู่ในสายตาคู่คมกริบสีดำสนิท คนที่ได้ชื่อว่าห่วยและไม่กล้าสู้ใคร โดนกลั่นแกล้งรังแกสารพัดอย่างหมอนั่น กล้าเข้ามายุ่ง กล้าเข้ามาช่วย....แสดงว่าคงจะรักกระต่ายตัวนั้นมากๆสินะ แต่ที่เจ็บลึกเข้าไปในจิตใจยิ่งกว่าคือการที่เจ้ากระต่ายตัวน้อยดูจะดีใจและร้องเรียกให้คนห่วยๆอย่างนั้นมาช่วย.....
นัยน์ตาคู่สีดำสลดลง มือทั้งสองกำกระชับทอนฟาอีกครั้งก่อนที่จะระบายความแค้น ความโกรธ ความไม่พอใจทั้งหมดออกไปกับไอ้พวกเหล่าสัตว์กินพืชรอบกาย
....ว๊ากกกก โอ๊ยยยย ช่วยด้วยยยย..........
ไม่นานเสียงโหยหวนก็เงียบลง เมื่อร่างแกร่งได้ไล่ขย้ำสัตว์กินพืชที่บังอาจมากล้าสุมหัวกันทำเรื่องชั่วร้ายต่อหน้าจนหมด นัยน์ตาสีดำเหลือบมองกระต่ายอลิสที่ถูกปล่อยออกจากกรงและกำลังเอาแก้มใสไปถูกไถกับใบหน้าของเจ้าห่วยสึนะด้วยความดีใจ มีมือของเจ้าหมาหูดำลูบหัวสีเงินไปมา มันช่างเป็นภาพบาดตาบาดใจจนสุดจะทานทน ใบหน้าคมสะบัดไปอีกทางแล้วก้าวเดินออกไปท่ามกลางกลีบซากุระที่ร่วงโรยรา (มาจากไหน?)
“ เดี๋ยวก่อน!” ในขณะที่จะเดินจากไปและยอมตัดใจ(?)ถึงแม้จะยากลำบาก แต่เสียงห้าวๆของกระต่ายบางตัวก็ร้องเรียกให้ร่างแข็งแกร่งหยุดลง
“ ยังไงก็....ขอบใจนะ” กระต่ายอลิสวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้า พร้อมกับยื่นยอดผักบุ้ง(?)มาให้ราวกับกำลังมอบดอกไม้มาให้ก็ไม่ปาน
“........” ดวงตาสีดำสนิทแวววาวมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที มือแกร่งรับยอดผักบุ้งมาถือเอาไว้อย่างทะนุถนอม
“ ผมเองก็...ขะ...ขอบคุณด้วยครับ!” ร่างเล็กๆของสึนะโยชิก็ยืนขึ้นแล้วโค้งให้ด้วยเช่นกัน
“ ไปขอบคุณทำไมอ่ะ มันเป็นความผิดของเจ้านี่ไม่ใช่หรอ?” น่าน....เจ้าหมาต้นเหตุแห่งความยุ่งเหยิงของแท้กำลังจะพาทอนฟามาประทานให้แล้วไหมล่ะ มือเล็กของเจ้าห่วยสึนะรีบตระครุบปากหมาๆของเจ้ายามาโมโตะ อีกมือหนึ่งก็คว้าตัวกระต่ายอลิส ก่อนที่จะโค้งคำนับหนึ่งทีพร้อมกับวิ่งออกไปจากโกดังร้างทันที
“ หึหึ.....กระต่ายอลิสงั้นหรอ.......” และก็ดูว่าท่าทางงานนี้เจ้าห่วยสึนะของเราคงจะได้ยุ่งคูณสามแน่ๆ.....
รึจะคูณสี่....คูณห้า......
คูณอะไร.....
ก็ต้องรอดูกันต่อไป....ไป....ไป......
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ รุ่นที่สิบครับ วันนี้ทานข้าวหรือยังครับเนี่ย”
“ อ๊ะ จริงสิ...ลืมไปเลย”
“ ฮะ ฮะ...ไม่ต้องห่วงหรอกสึนะ นี่ข้าวกล่องของนาย กินได้เลย!”
“ อ้า...ขอบใจนะ...ถ้างั้นก็....ทานละนะคร้าบบบบ....”
“ อ้อ...ยาลดขนาดตัวใหม่ ฉันใส่ไว้ในข้าวให้นายแล้วละ สึนะ”
โครกครากกกกก….ท้องไส้วายป่วงขึ้นมาทันตาเห็นมากกก....แล้วทำไมไม่บอกก่อนฟะไอ้หมานี่!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
และ
Next Episode……
[6959] Alice in Vongola World =[ ]=!!!!!!!!!!!!!!!!!! [09-06-2010]
อ๊ากกกกกกกก ตอนแรกตั้งใจว่าจะให้ตอนนี้เป็นฟิกวันเกิดคุณฮิ แต่ด้วยเหตุหลายประการจึงทำให้ตัดสินใจไม่เอามาลงวันที่ 5 เดือน 5
1. คือไม่เสร็จ...(ตรงๆงี้แหละเค่อะ เหอะ เหอะ)
2. คือรู้สึกว่าพ๊อยท์มันไม่ได้ลงที่คุณฮิคนเดียว เพราะงั้นก็เลย...ให้ฟิกคนอื่นๆที่เค้ามีพ๊อยท์หลักๆคือคุณฮิลงในวันนั้นน่าจะดีกว่า ^ ^”
3. คือกำลังแอบทำอะไรบางอย่างกับคุวาริคุงอยู่...ฝากติดตามข่าวของฟิกเรื่อง วิชาเนียนร้อยเล่มเกวียน ที่กำลังจะประกาศเร็วๆนี้ด้วยนะคะ...เหะ เหะ (ยังจำกันได้อยู่ใช่ไหม T^T)
4. คือ(อันนี้สำคัญ)หมดแรงจากงานหลวง....ช่วงนี้ที่ออฟฟิศยุ่งมากถึงมากที่สุด ใช้พลังไปจนหมดแรงข้าวต้มเลยค่ะแต่ละวัน เพราะงั้นถึงเมื่อวันพุธจะหยุดแต่อินี่ก็นอนไป14ชม. = =” เต็มเยียดมาก ฮ่าๆๆ วันนี้ก็ยังต้องเอางานกลับมาทำทั้งๆที่มันเป็นเสาร์อาทิตย์! อ๊ากกกก
5. คือเพราะรีโบะคอน03 เปิดเอาไว้ในขณะที่แต่งฟิก...แต่พอรู้ตัวอีกทีก็ไปนั่งดูจนจบซะงั้น ฟิกเลย....^ ^”...เป็นแบบนี้ทุกรอบ คุณโอยาม่าคนพากย์ป๋าเบียฮามากกก ใครอยากสครีมเรื่องนี้ เชิญหลังไมค์ อยากหาคนเม้าท์ด้วยใจจะขาดแล้วค่ะ555 รีโบะคอน แต่ละครั้งนี่มันสุดยอดจริงๆ ใครยังไม่ได้ดูเชิญที่ห้อง Talk club เลยจ้า...
ด้วยประการฉะนี้แล......เพราะงั้นช่วงนี้ยังไม่ได้เข้าไปอ่านฟิกหลายเรื่องก็อยากบอกให้รู้ไว้ว่าอยากอ่านแทบขาดใจแล้วค่ะ ฮือออ
มาลงช้าคงไม่ว่าเค้านะ >_< อ้า...ขอบคุณสำหรับแรงเชียร์หลังไมค์หลายๆท่านด้วยนะคะ เจอทวงฟิกรอบทิศทาง อ๊ากกก แต่นั่นแหละเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีเลยค่ะ(มาโซสินะยัยนี่) เพราะงั้นทวงมาเรื่อยๆ แล้วเรื่องนั้นจะมาลงเอง (เหมือนจะรู้ตัวว่าเรื่องไหนถูกทวงมากที่สุด ^ ^”)
สุดท้ายนี้ HAPPY BIRTHDAY KYOSAN!!! นะค้า ถึงจะช้าไปหน่อยแต่ก็อยากให้คุณฮิมีความสุขทุกวันแหละน้า...เหะ เหะ
แล้วพบกันใหม่ วันที่ 9 เดือน 6 ค่า....
น่ารั๊ก~~~
ตอบลบน่าร๊ากกกกกกกก
ตอบลบก๊กน่าซ่ำแบบไม่ไหวแล้ว
5555+