[Au S.Fic HBD.namiB][D59] Alice in Vongola World =[ ]=!!!
: KHR fanfiction Au
: All59 [D59]
: RomanticComedy
: PG
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
นี่มันกลิ่นอะไรน่ะ ?
จะว่าเหม็นเน่ามันก็ไม่เชิง...เหมือนเป็นกลิ่นของอะไรสักอย่างที่เป็นจุดรวมของเศษของหวาน...ชื้นแชะ...ฝุ่นดิน....แล้วก็ยา?
ผมเดินทำจมูกฟุดฟิดไปทั่วห้องนอนของตัวเองซึ่งตอนนี้ครึ่งหนึ่งถูกยึดพื้นที่โดยเจ้ากระต่ายอลิสกับเจ้าหมายามาโมโตะ ซีกนึงเป็นกองผ้าที่ทั้งคู่ใช้นอน...ก็ไม่อยากบอกหรอกนะว่านอนอยู่ด้วยกัน....แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน...ไอ้หมาดาร์กเนียนนั่นก็จะใช้ลูกอ้อนบ้าง เล่ห์กลมารยาบ้างแล้วก็เนียนนอนอยู่ข้างๆลูกสาวกระต่ายของผมตลอด!
ผมไม่เชื่อหรอกว่าหน้าอย่างมันจะกลัวผีจนนอนคนเดียวไม่ได้อย่างที่มันบอก!
แล้วก็ไม่เชื่อด้วยว่าในโลกนี้จะมีโรคขาดความอบอุ่นเวลานอนต้องกอดใครซักคนไม่งั้นจะขาดใจตายอย่างที่มันบอกว่ามันเป็นอยู่!
ส่วนอีกซีกนึงเป็นราวแขวนชุดของโกคุเดระคุง....
ปกติแล้วเจ้ากระต่ายอลิสก็ใส่ชุดเอี้ยมตัวเก่งของตัวเองตามปกตินั่นแหละ....
แต่ทุกๆสองสามวันมานี้....
จู่ๆก็มีเสื้อผ้าปริศนามาวางเอาไว้ที่หน้าบ้าน...
ซึ่งดูจากขนาดและป้ายราคาที่ติดอยู่ก็เดาได้ไม่ยากละครับว่าของใครส่งมา?
แต่ไอ้จะให้ทิ้งไป....กระโปรงเมดฟูฟ่องกับถุงน่องนางพยาบาลพวกนั้นก็ทำให้จำต้องเก็บเอาไว้
อ้า....จริงๆแล้วได้เห็นซักครั้งก็ดีเหมือนกันน้า.....
ก่อนที่จะเพ้อไปมากกว่านั้น...เจ้ากลิ่นประหลาดก็ทำให้ผมหันกลับมาหาต้นตอของมันต่อ...
ยิ่งเดินเข้าไปใกล้กองผ้าหรือก็คือที่นอนของทั้งสองคนนั่น กลิ่นก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นจนผมเผลอยกมือขึ้นอุดจมูก....ตอนนี้มีร่างของเจ้าหมาป่าจอมดาร์กเนียนนอนหลับปุ๋ยอยู่ในกองผ้าเพียงลำพัง...ถ้าไม่เห็นหน้ากับหูของมันโผล่ออกมาผมก็คงมองไม่เห็นว่ามันหลับอยู่นั่นแน่ๆ....
นี่มันก็สายแล้วนี่นะ...โกคุเดระคุงคงจะลงไปช่วย(ป่วน)แม่ผมทำงานบ้านอยู่เป็นแน่....ส่วนไอ้เจ้าหมาสองบุคลิกนี่สงสัยว่าเมื่อคืนมันคงออกไปหาส่วนผสมประหลาดๆอะไรมาอีกแล้วถึงได้หลับเป็นตายขนาดนี้
เอ๊ะ!....ส่วนผสมแปลกๆ....ยะ...อย่าบอกนะว่า.....ในกองผ้านั่นจะมีหางจิ้งจกเน่าหมักสามวันอะไรที่มันเคยบอกว่าจะเอามาปรุงยาให้ผมน่ะ.....มะ.....ไม่นะ.....
แต่คิดอีกที....ตรงนี้มีโกคุเดระคุงเคยนอนอยู่นี่นะ...อย่างไอ้หมานี่ไม่มีวันเอาอะไรเน่าๆแบบนั้นเข้าไปใกล้กระต่ายสุดรักของมันแน่....ชิ
แล้วถ้างั้นมันกลิ่นอะไรกัน ?
ผมยืนมองสำรวจอยู่ไกลๆ เพราะไม่อยากเข้าใกล้ระยะละเมอแบบหวังผลของมัน....ก็ไม่มีอะไรแปลกๆนี่นา....ก็มีแต่กองผ้า....ชุดเอี้ยมที่ไอ้หมานั่นใส่อยู่....หางฟูๆสีดำก็ดูสะอาดดี....มือไม้หน้าตาก็ล้างแล้วเรียบร้อย....ไล่ตามองไปตามตัวเล็กๆนั่นเรื่อยๆ แล้วสายตาของผมก็สะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง...
ยื่นจมูกเข้าไปใกล้...อื้อหื๋อ.....กลิ่นไอ้สิ่งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย!
ไอ้กระเป๋ารูปหมาป่าหน้าตาเบี้ยวๆงงๆที่มันหวงนักหวงหนา!
หลังจากที่โดนฉกไปเมื่อครั้งที่แล้ว มันก็แทบไม่ยอมปล่อยกระเป๋าเจ้ากรรมใบนั้นอีกเลย ไม่ว่าจะไปไหน ทำอะไร มันก็จะพกไปด้วยตลอด ไม่เว้นแม้แต่ตอนอาบน้ำ...
จนตอนนี้....กระเป๋าที่ว่าหน้าตาเบี้ยวๆงงๆอยู่แล้วเสริมออปชั่นเขรอะๆเลอะเทอะแถมกลิ่นหึ่งเข้าไปอีก..........ใครช่วยเสี่ยงชีวิตมาฉกแล้วเอาไปทำลายทิ้งทีเถอะ....ผมจะตบรางวัลอย่างงาม!
ผมลองเอามือแหย่เข้าไปใกล้ๆดู ทั้งๆที่ตามันปิดสนิทแต่สองแขนมันตวัดกอดกระเป๋าเน่าใบนั้นแน่นแล้วพลิกตัวไปอีกข้างทันที....ไอ้หมานี่มันละเมอ?...
ผมเดินไปอีกฝั่งแล้วลองยื่นมือเข้าไปใกล้กระเป๋ากลิ่นฉึ่งที่เจ้าหมามันกอดเอาไว้แน่น
ฉั๊วะ!!!
ฮี้!!!!!
คราวนี้ไม่ใช่แค่พลิกตัวหนี แต่มีดาบคมกริบตัดฉับลงมาระหว่างปลายนิ้วผมกับกระเป๋าใบนั้นทันที....ผมแน่ใจว่าตามันยังปิดอยู่แน่ๆ.....แบบนี้มันไม่ใช่ละเมอหวงของธรรมดาๆแล้ว!
“ รุ่นที่สิบทำอะไรอยู่หรอครับ ?” เจ้ากระต่ายอลิสเดินลากไม้ปัดขนไก่เข้ามาในห้อง.....ผ้ากันเปื้อนสีชมพูอ่อนที่แม่ผมเย็บให้ถูกใส่อยู่นอกชุดเอี้ยม.....อ้า....รู้งี้ไปสั่งไม้ปัดขนไก่ทำพิเศษเอาขนสีขาวจะได้เข้ากับลูกสาวกระต่ายสุดโมเอ้เวลายกขึ้นปัดนู่นปัดนี่.......ไม่ใช่สิ......นี่ไม่ใช่เวลาจะมาคิดเรื่องนี้!....ยังมีเรื่องที่สำคัญต่อมวลมนุษยชาติมากกว่านั้นรออยู่นะ!
“ นะ....นี่...โกคุเดระคุง....คือ....ฉันว่ากระเป๋าของยามาโมโตะมันน่าจะเอาไปซักสักหน่อยนะ”
“ ได้เลยครับ!” เจ้ากระต่ายอลิสตอบรับแข็งขันก่อนที่มือเล็กจะคว้าหมับลงไปที่กระเป๋าเน่ากลิ่นหึ่ง ก่อนที่จะดึงมันออกมาจากตัวของเจ้าหมาสองบุคลิกได้อย่างง่ายดาย....เฮ้ย!...ทำไมไม่เห็นมีดาบฉับลงมาหรือว่าพลิกตัวหนีอะไรแบบนี้มั่งอ่ะ.......แม้แต่ละเมอ......มันก็ยังสองมาตรฐานได้อีก!!!
หลังจากผ่านการขัดสีฉวีวรรณจนแปรงพังไปหลายอัน...ในที่สุดกระเป๋าเน่าใบนั้นก็กลับมาวิ้งวับตากลมชิลๆอยู่ที่ราวหลังบ้าน
ผ่านไปนานพอดู...........
“ ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!”
เสียงแหกปากราวกับโลกจะแตกเพราะกองทัพชาวเคโรน(?)จะบุกเข้ายึดของเจ้าหมายามาโมโตะทำเอาคนทั้งบ้านวิ่งเก็บของกันให้จ้าละหวั่น........ไม่ใช่สิ.....ต้องขึ้นไปดูไอ้ตัวต้นเหตุก่อนว่ามันแหกปากทำไม?
“ ไม่มี.....หายไปไหน.....ใครเอาของชั้นไป!!!!!!” เมื่อก้าวขาเข้าไปในห้องผมก็พบกับสิ่งที่สยองที่สุดในสามโลกเข้าจนได้...เมื่อเจ้าหมาหน้าตาดาร์กสุดหูรูดกำลังขยุ้มผมสีดำแล้วส่ายหัวไปมาพลางกวาดสายตามองรอบๆห้องราวกับหมาบ้า(?)....ยะ....อย่าบอกนะว่า....ที่มันอาการหนักขนาดนี้......
“ อะ...เอ่อ....ยามาโมโตะ....ถ้านายหากระเป๋าใบนั้นอยู่ละก็...โกคุเดระคุงเค้าเอาไปซักให้ด้วยความรัก(?)เลยนะ...ตอนนี้ตากอยู่ที่หลังบ้านแน่ะ....” โกหกครับ...ผมโกหกแน่นอน! แต่ใครมันจะไปกล้าบอกละว่าคนที่จะเอาไปซักจริงๆคือผมน่ะ....
ตึง ตึง ตึง!!!
เจ้าหมาสองบุคลิกวิ่งโครมครามลงไปทางหน้าต่าง(?)แล้วกระโดดพรวดเดียวถึงราวตากผ้า.....สุดยอด.....ดีแล้วละที่ผมไม่ได้เป็นคนหยิบไปซักเอง.....มันรีบกระตุกกระเป๋าที่โดนหนีบหูอยู่ที่ราวลงมาแล้วเอาหน้าคลอเคลีย....จะว่าน่ารักหรือว่าโรคจิตดีล่ะ ?
“ เฮ้ย! นี่แกทำอะไรน่ะ ฉันอุตส่าห์ซักซะสะอาด อย่าเพิ่งเอาหน้าไปถูเซ่ ไอ้หมางี่เง่านี่” โกคุเดระคุงที่ลากตระกร้าผ้าผ่านมาพอดีเห็นเข้าจึงชี้หน้าด่าเจ้าหมานั่น
“ โกคุเดระซักด้วยความรักเลยหรอ?” ใบหน้าเอ๋อสนิทต่างจากเมื่อกี้ลิบลับเงยหน้ามองเจ้ากระต่ายอลิสด้วยสองแก้มแดงระเรื่อ
“ ห๊ะ ?!” ต่างจากอีกคนที่มองกลับไปอย่างงงๆ
“ ขอบใจนะ...อ๊ะ.....แต่อย่างงี้กลิ่นของโกคุเดระก็หายไปน่ะสิ” ไอ้หมานั่นทำหูลู่หางตกใบหน้าอย่างกะจะร้องไห้.....ว่าแต่......แกเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? ลูกสาวชั้นไม่ได้เน่าขนาดนั้นนะ ?!
“ งี่เง่า! แกก็อยู่กับฉันตลอด เดี๋ยวกลิ่นมันก็ติดเองนั่นแหละ” พูดเหมือนขุดหลุมฝังตัวเองยังไงไม่รู้นะลูกสาวผม....
“ งั้นขอก่อนซักหน่อยนะ” แล้วเจ้าหมาเอ๋อเนียนก็เอากระเป๋าไปแปะๆตามตัวของเจ้ากระต่ายอลิส...เฮ้ย! นี่มันกำลังลวนลามแบบเนียนๆอยู่นี่!
“ น่ารำคาญจริง...เสร็จแล้วแกต้องช่วยฉันเก็บผ้าด้วยล่ะ”
“ จ้า....”
มันเนียนขั้นเทพจริงๆครับ......เนียนจนผมอยากจะรู้จริงๆว่ามันไปฝึกมาจากไหนหรือว่ามันอยู่ในสายเลือดกันแน่! แต่จะว่าไปแล้ว....ก็ไม่มีใครรู้จักภูมิหลังของสองคนนี้เลยนี่นะ...ทั้งคู่มาอยู่ในโลกที่ไม่รู้จักกันแค่สองคน....ทั้งๆที่ทุกสิ่งล้วนแปลกใหม่และใหญ่โต แต่สองคนนี้ก็ปรับตัวและใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างแนบเนียนจนผมไม่ได้เอะใจเลยว่า....ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขาเลย....
ครึก.....ครึก........................
รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่ฝ่าเท้า...ราวกับว่ากำลังจะมีแผ่นดินไหว
ครึก......ครึก.............ครื้นนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!
แผ่นดินไหวจริงๆด้วย! แถมรุนแรงใช่เล่นเลยนะ ทำไมไม่มีประกาศเตือนออกมาก่อนละเนี่ย...ผมทรุดลงที่กลางห้องพร้อมทั้งเอามือกุมหัว รอบๆตัวล้วนสั่นสะเทือนไปหมด
ตู้มมมมมมม!!!
เสียงระเบิด ?
ตูม ตูม ตูม บู้มมมมมมม!!!!
ระเบิดอีกแล้ว?....แผ่นดินไหวไม่น่าจะมีเสียงแบบนี้นี่ ?
เคร้งๆๆๆ...........
เสียงเหมือนหม้ออะไรซักอย่างตกกระทบพื้น?
เพล้ง!!! โครม!!!!
คราวนี้เสียงเหมือนแก้วแตก และอะไรซักอย่างหล่นลงมา
“ อูยยยย...เจ็บจัง.....”
เสียงคน ? เสียงนุ่มๆทุ้มๆปนสดใสอยู่ในตัวเรียกเอาความสงสัยบังเกิดในหัวใจผมทันที.....
เดี๋ยวนะ.....ไอ้เอฟเฟคเปิดตัวแบบนี้.....เสียงคนแปลกหน้าแบบนี้....และผมที่ก้มหัวหลบอะไรบางอย่างอยู่แบบนี้.....
มันเหมือนตอนที่ไอ้หมาสองบุคลิกนั่นเดินทางมายังโลก(?)เลยนี่!
แล้วทันทีที่คิดได้ผมก็เหลือบตาขึ้นไปดูที่โต๊ะหนังสือทันที....Alice in wonderland version Vongola มันก็ยังตั้งอยู่ดีนี่หว่า แล้วบนโต๊ะหรือบนพื้นมันก็ไม่มีใครมายืนดาร์กอยู่ด้วย
“ อะ...อูยยย” ก็แล้วเสียงโอดโอยนี่มาจากไหน? หวังว่าคงไม่ใช่วิญญาณผีที่ Vongola World มาโผล่ที่นี่หรอกนะ.....ผมรีบกวาดตามองไปรอบๆห้องแล้วจึงเพิ่งสังเกตเห็นตัวอะไรอยู่ในกองผ้าที่เจ้าหมาและเจ้ากระต่ายใช้นอน
ผมค่อยๆย่องเข้าไปใกล้......กองผ้าขยุกขยิกไปมาพร้อมกับประกายสีทองของเส้นผมโผล่ออกมาจากผ้าเล็กน้อย.....ไม่มีหู ?.....
ผมตัดสินใจคว้าอะไรไม่รู้นั่นแล้วยกพรวดให้มันลอยเท้งเต้งอยู่ในอากาศ
“ หว๋า......” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยออกมาพร้อมใบหน้าตกใจ สิ่งที่ผมคว้าได้คืนข้อเท้าของอีกฝ่าย ทำให้ตอนนี้ตัวเล็กๆนั่นกำลังลอยห้อยหัวไปมา ดูจากหน้าตาหล่อเหลาที่ไม่มีพิษภัยแถมดูใจดีแล้วผมจึงยอมปล่อยตัวเล็กๆนั่นลง
“ ขะ...ขอบคุณ.....” สิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ตัวที่สามมาปรากฏกายอยู่ตรงหน้าผมแล้ว! เจ้าตัวนี้ดูจะเป็นผู้เป็นคนที่สุดในบรรดาสามตัว ดูๆไปแล้วน่าจะสูงกว่ายามาโมโตะเล็กน้อย รูปร่างสูงใหญ่นั่นก็ดูสมส่วนสมเป็นผู้ชาย ติดอยู่ที่เจ้าตัวสวมเสื้อคลุมแปลกๆอย่างกะพวกพ่อมดสีเขียวขี้ม้ายาวถึงพื้นแถมบนหัวที่มีเส้นผมสีทองยาวปรกหน้าระต้นคอนั่นก็มีฮูทซึ่งมีขนฟูๆติดอยู่ มือเล็กยกขึ้นลูบหัวไปมาสงสัยว่าจะยังไม่หายมึน เลยทำให้แขนเสื้อคลุมยาวนั้นร่นลงให้ผมได้เห็นรอยสักเป็นทางยาวตั้งแต่ปลายนิ้วเข้าไปจนถึงต้นคอ
“ อ่ะ....นายคือเจ้าของบ้านหรอ? ฉันชื่อ ดีโน่ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” มือเล็กยื่นออกมาให้....ว่าแต่คุณท่านจะเป็นมิตรกับคนทั่วไปมากไปหน่อยปะเนี่ย ?
“ เอ่อ.....” ผมยังไม่กล้ายื่นมือเข้าไปจับ เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ผมรู้ว่า ไอ้ตัวที่โผล่ออกมาแบบนี้มันไม่ธรรมดาซักคน
ตึง ตึง ตึง ตึง ตึง.....
เสียงฝีเท้าสองคู่แข่งกันวิ่งขึ้นมาจากด้านล่าง ไม่นานประตูก็เปิดพรวดเข้ามาพร้อมกับร่างของเจ้ากระต่ายอลิสและเจ้าหมายามาโมโตะ
“ อาจารย์!!!” เป็นเจ้าหมาป่าที่ร้องออกมาอย่างดีใจ....หรือไม่นั้นผมก็ไม่อาจทราบได้....แต่เอาเป็นว่ามันตะโกนเรียกเจ้าคนผมทองตรงหน้าแบบนั้นละกัน...หื๋อ?....อาจารย์งั้นหรอ?....งั้นก็แปลว่า ไอ้เจ้าหมอนี่เองสินะ....พ่อมดแห่ง Vongola World!
ผมกวาดสายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าใหม่อีกที....นอกจากชุดคลุมแบบพ่อมดแล้ว ดูยังไงๆเจ้านี่ก็ไม่ได้มีแววชั่วร้ายแบบพ่อมดในนิทานนั่นเลยสักนิด....แล้วไอ้คนแบบนี้น่ะหรอที่จะเสี้ยมสอนลูกศิษย์ให้ร้ายกาจอย่างเจ้ายามาโมโตะได้....มันต้องเป็นที่สายเลือดแหงแซะ!
“ โอ้! ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ยามาโมโตะ โกคุเดระด้วย!” ใบหน้าหล่อเหลายิ้มใสๆให้ศิษย์เอกและเจ้ากระต่ายอลิส
“ อาจารย์มาจริงๆด้วย....ฉันเห็นกองสัมภาระที่อยู่ในสวนหลังจากที่แผ่นดินไหวก็ค่อนข้างจะแน่ใจแล้วละว่าต้องเป็นอาจารย์” ศิษย์อาจารย์เดินเข้าไปพูดคุยกัน แต่ประโยคนั้นๆทำให้ผมสงสัยจนชะโงกหน้าไปดูที่สวนหลังบ้าน
โอ้ม่ายยยยยยยย....นั่นมันอะไรก๊านนนนนนนนนนน!!!!
ใครมันยกห้องวิทยาศาตร์มาไว้ในสวนของผมเนี่ยยยย! จากสวนที่เคยโล่งเรียบเขียวขจีไปด้วยผืนหญ้า บัดนี้มันกลับเต็มไปด้วยกองอุปกรณ์อะไรไม่รู้มากมาย...มีทั้งแบบปกติและแบบไม่น่าไว้ใจราวกับหลุดมาจากเรื่องแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ยังไงอย่างงั้น แถมมันยังมีมากจนกองเป็นภูเขาทอง(?)อีกต่างหาก
“ ว่าแต่แกมาอยู่ที่นี่ได้ไงน่ะ” เจ้ากระต่ายอลิสเอ่ยถาม
“ ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อเช้าฉันก็ทดลองยาตัวใหม่ตามปกติ แล้วพอจะใส่หญ้าลุ่มน้ำเฮปัสซางาโรงิริสป่นสำเร็จรูป(?)แค่สองช้อนแต่ฉันบังเอิญสะดุดล้มจนทำหกลงไปทั้งขวด มันก็เกิดระเบิดครั้งใหญ่ที่ Vongola World แล้วฉันพร้อมกับห้องอุปกรณ์ก็ถูกดูดเข้าไปในมิติที่แปลกประหลาดมีแต่อะไรใหญ่ๆ เดินไปเดินมาก็มาเจอพวกนายเข้านี่แหละ....”
“ ถามหน่อย....แกเคยสะดุดหัวทิ่มแล้วทำให้เกิดระเบิดแบบนี้กี่ครั้งแล้ว?”
“ ฮะ ฮะ...ถ้าเป็นระเบิดเล็กน้อยก็ทุกวันแหละ แต่ถ้าใหญ่ๆก็...ครั้งนี้ครั้งที่.....สาม”
แหงแซะ.....ไอ้พ่อมดเป๋อตรงหน้านี่แหละ....ต้นเหตุทั้งหมดของฟิกเรื่องนี้!!!
“ นาย...สึนะ....สินะ” ขณะนี้ผมกำลังนอนคว่ำพังพาบอยู่บนพื้นห้องนั่งเล่นโดยมีเจ้ากระต่ายอลิสเดินเหยียบไปมาอยู่บนหลังของผมตามวิธีการนวดแผนไทย(?) เจ้าพ่อมดที่หายเข้าไปในกองอุปกรณ์ปริศนาในสวนหลังบ้านนานหลายชั่วโมงจนผมนึกว่ามันคงถล่มข้างในทับหมอนี่ตายไปแล้ว ในที่สุดก็กลับมายืนอยู่ตรงหน้าผม
“ อะ อื้อ”
“ ได้ข่าวว่ายามาโมโตะกำลังทำยาลดขนาดให้นายอยู่สินะ...ไม่ต้องเป็นห่วง...อีกไม่นานมันต้องสำเร็จแน่เพราะว่าเขาเป็นศิษย์เอกของฉัน” นั่นแหละที่ผมเป็นห่วง....ดูจากสภาพเยินเกินเยียวยาของท่านอาจารย์แล้วก็ไม่แปลกใจเลยว่าศิษย์มันจะผิดๆถูกๆขนาดไหน....บางที.....เจ้ายามาโมโตะอาจจะจำผิด....ว่าต้องใส่ส่วนผสมแค่หนึ่งช้อน แต่เพราะเจ้าอาจารย์นี่ดันสะดุดแล้วทำหกพรวดลงไปทั้งขวด....เจ้ายามาโมโตะเลยอาจจะจำผิดว่ามันต้องใส่ทั้งขวดแทนที่จะเป็นหนึ่งช้อน....
“ อาจารย์....นี่ไงยาที่ฉันปรุงให้สึนะ” เจ้าหมาสองบุคลิกเดินถือขวดแก้วบรรจุน้ำสีดำเมี่ยมมาจากทางห้องครัว.....แกผสมเองหรือว่าไปตักมาจากบ่อดักไขมันกันแน่?
แล้วดีโน่ก็ถือขวดขึ้นพิจารณา ก่อนที่จะเปิดขวดและกระดกเข้าปากไป....เฮ้ย!!! ไม่กลัวตายเลยเร๊อะนั่น!!!
“ ไม่ต้องห่วงครับรุ่นที่สิบ....เจ้านั่นกินยาที่ตัวเองผสมขึ้นมาทุกวันจนร่างกายมันมีภูมิต้านทาน พิษพันหมื่นลี้ยังทำอะไรมันไม่ได้เลยครับ” เจ้ากระต่ายอลิสเปลี่ยนจากเดินมาเป็นกลิ้งไปกลิ้งมาบนหลังผม....อร๊ายยยย....นวดด้วยตัวนิ่มๆของนายนี่มันสุดยอดจริงๆ
“ เห....นี่มันก็เกือบจะใช้ได้แล้วนี่นา...แต่ฉันว่านายลืมใส่ ขนกระต่าย ลงไปนะ”
“ อ้า...ฮะฮะ....จริงๆด้วย....นึกออกแล้ว....เพราะว่าขนกระต่ายเป็นส่วนผสมที่ฉันตั้งใจไว้ว่าชาตินี้จะไม่มีวันใช้น่ะ ก็เลยไม่เคยจำได้เลยว่าต้องใส่ลงไปด้วย ขอโทษทีนะสึนะ ฮะ ฮะ...” อ๋อ...แกจะไม่มีวันทำร้ายเจ้ากระต่ายอลิสสินะ แม้แต่ขนซักเส้นแกยังไม่ยอมไปถอนให้โกคุเดระต้องเจ็บเลยสินะ....แต่คนที่ต้องเจ็บจนเครื่องในแทบจะวายป่วงเพราะยาที่ผสมผิดๆถูกๆของแกก็คือฉันเองนี่แหละโว้ย!
“ งั้นเอาเป็นว่า ฉันเลิกปรุงยาลดขนาดให้นายดีกว่า เพราะว่าอาจารย์ก็อยู่ที่นี่แล้ว....ให้อาจารย์ปรุงยาจนระเบิดซักครั้งสองครั้ง เดี๋ยวพวกเราก็กลับไป Vongola Worldได้เองนั่นแหละ ส่วนนายถ้าเกิดไปอยู่ที่นู่นแล้วจะกลายเป็นยักษ์มารอะไรก็ไม่แปลกไปหรอกเนอะ” ยัง....มันยังมีหน้ามาเนอะ.......พอรู้ว่าต้องใช้ขนกระต่ายเป็นส่วนผสมมันก็เลิกปรุงซะดื้อๆแบบนั้น? แล้วใครจะไปยอมให้เจ้าพ่อมดนี่ปรุงยาจนระเบิดโลกไปด้วยแบบนั้นได้อีกกันเล่า
“ อืม...แต่ฉันเองก็อยากได้ขนกระต่ายเหมือนกันนะ....ตั้งแต่โกคุเดระไม่อยู่ฉันก็ขาดส่วนผสมนี้มาตลอดเลย....จะไปถอนของ G ก็ไม่กล้า....เพราะงั้น....”
“ เราไปเล่นตรงนู้นนนน กันเถอะโกคุเดระ.....” อาจารย์มันยังพูดไม่ทันจบ เจ้าหมายามาโมโตะก็ตะล่อมพาเจ้ากระต่ายอลิสหนีไปได้อย่างเนียนๆ.....นี่ตกลงว่าแม้แต่ขนซักเส้นมันก็ยังไม่ยอมแบ่งให้ใครเลยหรอเนี่ย...ไอ้หมาขี้งก!
“ ขี้หวงจังน้า ฮ่าๆ....แต่ไม่เป็นไรหรอก....เพราะฉันก็ฉกมาได้ตั้งเป็นร้อยปีเรื่องแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอกนะสึนะ” โห....สมกับที่เป็นอาจารย์ของเจ้ายามาโมโตะ....มันหวงขนาดนั้นก็ยังอุตส่าห์ไปเอาของมันมาได้...น่านับถือจริงๆ....ว่าแต่...ใช้วิธีไหนละนั่น ?
“ เดี๋ยวฉันจะทำให้ดู...” พูดจบพ่อมดเป๋อก็เดินตามกระต่ายอลิสกับเจ้าหมาป่าไป ยังไม่ทันที่จะได้เรียกให้ทั้งคู่หันมาขาเจ้ากรรมก็เหยียบชายผ้าคลุมของตัวเองแล้วล้มหัวทิ่ม หน้าคะมำก่อนที่จะกลิ้งกลุกๆไปชนเจ้ากระต่ายอลิสแล้วเด้งเอาหน้าไปฟาดกระถางต้นไม้อย่างสวยงาม................เอ่อ............
เจ้ายามาโมโตะยื่นปลาสเตอร์ยาให้ก่อนที่จะพากระต่ายอลิสหนีไปอีกทาง.....ไอ้นี่ก็ลูกศิษย์ดีเด่นจริงจริ๊ง!
“ นี่ไงสึนะ....” พ่อมดเป๋อลุกขึ้นนั่งแปะอยู่ข้างกระถาง มือนึงอุดจมูกที่มีเลือดกำเดาไหลโจ่ก ส่วนอีกมือชูขนกระต่ายเส้นเล็กสองเส้นให้เห็นกับตาว่าไปฉกมาได้จริงๆ
.....โห......ช่างใช้วิธีได้น่าไม่อายมากเลยพระอาจารย์.....
กิ๊งก่อง.....กิ๊งก่อง.................
“ เดี๋ยวผมไปเปิดเองคร้าบบบ...รุ่นที่สิบ” มีเสียงกริ่งดังแบบนี้คงไม่ใช่ตัวอันตรายอย่างเจ้าหมอโรคจิตนั่น เพราะงั้นให้โกคุเดระไปเปิดคงไม่เป็นไร แต่ด้วยความไม่ไว้ใจผมเลยชะโงกหน้าไปดูที่หน้าต่าง
“ ใครเอาอาหารนกมาวางไว้แถวนี้เนี่ย” เสียงบ่นของเจ้ากระต่ายอลิสดังลอดเข้ามา แขนเล็กพยายามลากกระสอบอาหารนกเข้ามาในบ้าน....เฮ้ย...ในเมื่อไม่รู้ว่าของใครแล้วจะลากเข้ามาทำม๊ายยยย
“ ฮิบาริ....ฮิบาริ......” เสียงแหลมเล็กดังขึ้นเหนือหัว ก่อนที่เจ้านกป้อมตัวสีเหลืองจะบินโฉบลงมายืนมองหน้า ตาใสแจ๋วให้โกคุเดระคุง........เอาอาหารนกมาวางไว้...ไม่นานก็มีนกบินมา.....นี่มันจะไม่จัดฉากมากไปหน่อยหรอเว้ยเฮ้ย
“ แกหิวหรอ?” หลังจากยืนมองกันอยู่นาน เจ้ากระต่ายที่สูงกว่านกป้อมไม่ได้มากเท่าไหร่ ก็ล้วงมือเล็กเข้าไปในถุงอาหารนก แล้วกำอาหารออกมาวางให้ พร้อมนั่งยองๆลงไปมองเจ้านกป้อมกินอาหาร มือเล็กเท้าคางพร้อมเอียงหัว ยิ่งนั่งตัวเลยยิ่งไม่ต่างกันเท่าไหร่ ให้ภาพตรงหน้านั้นโมเอ้ขาดใจ
แชะ...แชะ.....
เสียงอะไร....ช่างคล้ายเสียงกล้องถ่ายรูป?
“ หมอนั่นก็อยากได้ขนกระต่ายอย่างงั้นหรอ?” เจ้าพ่อมดแห่งวองโกเล่มายืนอยู่ข้างๆผมตั้งแต่เมื่อไหร่ แถมบุ้ยใบ้ให้มองเงาดำๆที่กำแพงหน้าบ้าน.....คุณท่านฮิบาริจริงๆด้วยสินะ!!!
“ ไม่หรอก....คุณฮิบาริเค้าชอบสิ่งมีชีวิตเล็กๆน่ะ ก็เลยชอบโกคุเดระ”
“ เห๋....อย่างงั้นก็มีคนต้องการขนกระต่ายมากขึ้นสิ ไม่ได้การละ...ถ้าขนกระต่ายถูกชิงไปหมดแล้วฉันจะเอาอะไรปรุงยา” นี่ฟังกันบ้างไหมเนี่ยพระอาจ๊านนนน
“ เดี๋ยวฉันจัดการเอง!” แล้วขวดแก้วปริศนาก็ถูกคว้าจากในเสื้อคลุมออกมา ก่อนที่เจ้าพ่อมดจากวิ่งตรงไปที่ประตู.....อืม....บางทีมีเจ้านี่อยู่อาจช่วยผ่อนแรงผมได้บ้าง
โครม!!!!
……แต่ดูเหมือนผมจะคิดผิด!!!.......
แทนที่มันจะวิ่งออกจากประตูไป....ดันวิ่งชนผนังข้างประตูแถมทำขวดแก้วแตก ราดผนังจนเป็นรูๆอีกตะหาก!
“ มองไม่เห็นทางเลยแหะ...ทำไมบ้านนายไม่เปิดไฟล่ะสึนะ” ไฟน่ะเปิด...แต่ไอ้ที่ไม่เปิดน่ะ ฮูทบนหัวคุณท่านตะหาก!!!
“ ไปทำอะไรของแกอยู่ตรงนั้นน่ะ? อ๊ะ...ท่านรุ่นที่สิบครับ....ผมเอาอาหารนกของใครไม่รู้วางไว้ที่ชั้นรองเท้านะครับ เผื่อว่าพรุ่งนี้จะมีนกมาให้เลี้ยงอีก” เอ่อ.....สงสัยจะมาอีกแน่...ไอ้นกตัวนั้นน่ะ....ก็ในเมื่อเจ้าของมันเอาอาหารมาให้เลี้ยงทั้งกระสอบเลยนี่นะ....
ผมนั่งจิบชายามบ่ายพร้อมกับมองกองสัมภาระในสวนหลังบ้านไปด้วย….ใครก็ได้ช่วยเอามันออกไปที๊...
“ นี่ๆสึนะ....ให้ฉันอยู่ที่นี่ด้วยคนสิ ฉันตัวเล็กนิดเดียวเอง ไม่เปลืองที่หรอก” ผมเหล่ตาไปมองต้นเสียง ใบหน้าหล่อเหลาที่มองมาด้วยแววตามีความหวังอย่างกับผมจะเห็นหางกระดิกไปมาเหมือนกับหมาโกลเด้นยังไงอย่างงั้น......ใช่....คุณท่านใช้ที่ไม่เปลืองหรอก แต่ไอ้ที่เปลืองน่ะมันสัมภาระกองเท่าภูเขาทอง(?)ของคุณท่านต่างหาก!
“ แล้วฉันก็จะช่วยนายดูแลขนกระต่ายด้วย” ช่วยดูแลหรือว่าจะช่วยทำบ้านพังกันแน่?
“ ไม่ได้หรอกครับ...เพราะที่นี่มันคับแคบ....อาจจะมีผลต่อการเจริญเติบโตของโกคุเดระคุงได้ ถ้าโกคุเดระคุงไม่โตปริมาณขนกระต่ายอาจจะไม่เพียงพอต่อการปรุงยาในอนาคตได้นะครับ...” ว่าไปนั่น.....ความจริงแล้วใครจะอยากให้เจ้ากระต่ายอลิสโตไปกว่านี้กันล่ะ ตัวแค่นี้ก็กำลังน่ารักดีอยู่แล้ว
“ จริงด้วยสินะ! ฉันก็ลืมคิดไปเลย....จะว่าไปแล้วยาบางตัวที่อยู่ในกองอุปกรณ์นั่นก็ส่งผลให้สภาวะแวดล้อมเป็นพิษได้ ไม่ดีต่อขนกระต่ายแน่ๆ” แล้วทำไมเพิ่งมาบอก!!! รีบๆไสหัวออกไปเลยนะ
“ แล้วถ้างั้น ฉันจะไปอยู่ไหนดีล่ะ....” มองเห็นหน้าหงอยๆนั่นแล้วก็น่าสงสารทีเดียว
“ ผมพอจะมีคนรู้จักอยู่บ้าง เพราะงั้นเดี๋ยวผมจะเขียนที่อยู่ให้นะครับ ถ้าเค้าเห็นคุณเค้าต้องรีบต้อนรับแน่” แล้วผมก็เขียนที่อยู่พร้อมแผนที่ของคนสองคนลงไป....คึหึหึ....ผมไม่ได้ร้ายกาจขนาดจะจับสิ่งมีชีวิตเล็กๆตรงหน้าไปให้สโตรกเกอร์ หรือจับส่งห้องผ่าตัดอะไรแบบนั้นเลยนะ...ไม่เค้ย ไม่เคย....
“ ขอบใจนะสึนะ” ใบหน้าหล่อเหลายิ้มหนาบานกลับมาให้ ไออะไรบางอย่างจากใต้เสื้อคลุมที่เจ้าตัวลุกเดินออกไปทำให้พื้นที่เคยนั่งอยู่ถึงกับเป็นหลุมลงไป.....
เจ้าพ่อมดนี่ก็เป็นอีกคน....ที่ผมคิดว่าคงไม่มีใครทำอะไรมันได้...เหมือนเจ้ายามาโมโตะนั่นแหละ....เพราะงั้นคงไม่ต้องห่วงอะไร
อ้า....ตอนนี้สวนหลังบ้านผมช่างสะอาดเอี่ยม...หลังจากเมื่อสามชั่วโมงที่แล้วเจ้าพ่อมดเป๋อได้ขนสัมภาระทั้งหมดติดตัวออกไปตามหาที่อยู่ใหม่....เย็นขนาดนี้แล้วไม่รู้จะโดนผ่า...เอ้ย....จะหาที่อยู่เจอหรือยังนะ....ผมลากสายยางเตรียมไปรดน้ำไม้กระถางที่หน้าบ้านอย่างอารมณ์ดี
เคร้ง....เคร้ง....เคร้ง.....
หื๋อ ? เสียงเหมือนหม้ออะไรหล่น ?
“ สึน้า~~” เฮ้ย!! ทำไมยังไม่ไปผุดไปเกิด....ไม่ใช่....ทำไมยังอยู่ที่นี่อีกล่ะคุณดีโน่!
“ คือว่าฉันหาบ้านที่นายบอกไม่เจอ เดินหามาตลอดเลย แล้วก็กลับมายืนอยู่ตรงนี้อ่ะ” .....อย่าบอกนะว่าสามชั่วโมงที่ผ่านมาคุณท่านไปหลงทางมาน่ะ....ทั้งๆที่บ้านคุณฮิบาริกับคลีนิกสัปป้านั่นก็ไม่ได้ไกลจากที่นี่เท่าไหร่เลยนะ สองคนนั่นยังมาถึงนี่ได้ภายใน5นาทีเลย
“ ถะ...ถ้างั้น....ผมจะพาไปส่งแล้วกันนะครับ....” บางที....ความร้ายกาจของเจ้ายามาโมโตะอาจจะไม่ได้มาจากสายเลือดอย่างเดียวแล้วก็ได้...ในเมื่อต้องใช้ชีวิตแบบ “ต้องรอด” อยู่กับพระอาจารย์นี่ทุกวันขนาดนั้น...มันคงจะช่วยฝึกชีวิตเจ้าหมานั่นให้แข็งแกร่งขึ้นด้วยสินะ
รั้วสูงใหญ่ราวกับป้อมปราการตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า....ถ้ามันยังจะหลงไปไหนได้อีกนี่ก็เกินมนุษย์...เอ๊ะ...เกินพ่อมดไปละ
“ เดินเข้าไปในนี้แหละครับ...ผมส่งได้แค่นี้แหละนะครับ โชคดีนะครับคุณดีโน่” แล้วผมก็รีบชิ่งหนีทันที...ใครจะไปอยากเจอการทักทายของทอนฟาฟ้าประทานคู่นั้นกันล่ะ
ร่างเล็กๆในชุดคลุมรุ่มร่ามเดินเข้าไปในบ้านคนอื่นหน้าตาเฉย คนรับใช้ที่เดินผ่านไปมาต่างมองสิ่งมีชีวิตอัศจรรย์ตรงหน้าเป็นตาเดียว...แต่เจ้าตัวก็ยิ้มทักทายราวกับเคยรู้จักกันมานานแล้วก็เดินผ่านไปแบบเนียนๆ.......
“ อ๊ะ...นาย....เคียวยะสินะ....ฝากตัวด้วย ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปฉันจะมาอยู่กับนายที่นี่” เฮ้ย! หน้าตาเฉยเกินไปแล้ว!
“............” แต่เจ้าบ้านกลับมองสิ่งมีชีวิตเล็กๆตรงหน้าด้วยดวงตาตกตะลึง คำว่า....สิ่งมีชีวิตเล็กๆ.....สิ่งมีชีวิตเล็กๆ.......สิ่งมีชีวิตเล็กๆ....ลอยอยู่เต็มหน้า
“ แก....ไม่มีหูกระต่าย?” แต่แล้วประกายตาระยิบระยับในดวงตาสีดำคู่นั้นก็หยุดลงเมื่อค้นพบความจริงบางข้อ เมื่อมองแล้วมองเล่าเจ้าตัวตรงหน้าก็ไม่มีหูกระต่ายให้ตรงตามคอนเซ็ปต์สิ่งมีชีวิตเล็กๆที่น่าหลงใหลของเจ้าตัว
“ ก็ฉันเป็นพ่อมดนี่...ไม่ใช่กระต่าย....เพราะกระต่ายสายพันธุ์อลิสถือเป็นสิ่งมีชีวิตหายากมากๆใน Vongola World ตอนนี้มีเหลืออยู่แค่สองตัวเท่านั้น เพราะงั้นขนมันถึงได้หายากไงล่ะ ตัวแรกคือG ซึ่งเป็นกระต่ายโหดแถมมีหมาป่าดูเหมือนจะใจดีแต่ที่จริงแล้วก็โหดพอกันคอยคุ้มครองอยู่ ส่วนตัวที่สองคือหลานของG หรือก็คือโกคุเดระ ตัวนี้ถึงจะน่ารักโมเอะแต่ว่าก็มีหลานหมาป่า เจ้ายามาโมโตะซึ่งร้ายกาจมากๆเพราะเป็นศิษย์เอกของชั้นคอยดูแลอยู่ เพราะงั้นจึงแทบไม่มีใครได้แตะต้องกระต่ายของ Vongola World ได้ง่ายๆไงล่ะ” ....ว่าแต่ใครถามเนี่ย?
“ ถ้าไม่มีหูกระต่ายก็ออกไป” ไล่แบบไร้เยื่อใยมากๆเลยคุณท่านฮิบาริ
“ บ้านนายนี่กว้างดีนะ....งั้นฉันอยู่ห้องนี้ละกัน” แล้วเจ้าพ่อมดก็นั่งลงจัดเก็บอุปกรณ์ปริศนาหน้าตาเฉย
“........” รังสีอำมหิตแผ่กระจายไปทั้งบ้าน ประกายวิ้งวับของทอนฟากระหายเลือดส่องเข้าไปที่หน้าโหดๆของเจ้าของบ้าน เป้าหมายคือหัวเล็กๆสีทองนั่น ขาเรียวขยับเข้าหาเจ้าพ่อมดที่ยืนจัดของเข้าชั้นไม่ได้รู้เรื่องรู้ราว
หวืดดดดด.....
ก่อนที่ทอนฟาจะฟาดกบาลแยก เจ้าพ่อมดก็ก้มลงหยิบขวดแก้วที่พื้นให้ทอนฟาฟ้าประทานคู่นั้นเฉียดหัวไปแค่เซ็นต์เดียว
โครม!!!
เมื่อทอนฟาวกกลับมาใหม่ คราวนี้เจ้าพ่อมดก็ดันเหยียบชายเสื้อคลุมแล้วล้มหงายหลังหัวฟาดพื้น เสียงดังสนั่น แต่กระนั้นมันก็ยังลุกขึ้นมานั่งจัดของต่อหน้าตาเฉย
หวืดดดด....
คราวนี้ทอนฟามาทางซ้าย เจ้าพ่อมดก็เกิดอยากจะเปลี่ยนตำแหน่งขวดขึ้นมาจนเอี้ยวตัวไปคว้าขวด หลบทอนฟาได้แบบหวุดหวิด
เพล้ง!!!
เป้าหมายทอนฟากลับมาที่หัวอีกครั้ง แต่ขวดแก้วเจ้ากรรมก็ดันตกจากชั้นบนสุดลงมายังหัวสีทองให้เลือดโชกจนต้องย่นตัว แล้วหัวก็หลบทอนฟาได้แบบหวุดหวิดอีกครั้ง
ไม่ว่าจะสอย จะเสย เข้าไปยังไงเจ้าพ่อมดก็หลบได้หมด...
ร่างแข็งแกร่งของหัวหน้ากรรมการคุมกฎยืนหอบแฮ่กอยู่ตรงหน้าชั้นอุปกรณ์ปรุงยา เจ้าสิ่งมีชีวิตเล็กๆตรงหน้ายังนั่งจัดขวดอะไรต่อมิอะไรด้วยสภาพโชกเลือดรายล้อมไปด้วยขวดแก้วที่แตกกระจัดกระจาย..........แล้วมันต่างจากโดนอัดด้วยทอนฟายังไงฟะ!
“ ฮึ่ม....วันนี้ฉันมีนัดขย้ำสัตว์กินพืช...ไว้เสร็จธุระแล้วฉันจะกลับมาขย้ำแกต่อ....” หารู้ไม่ว่า....คุณท่านคงได้มาไล่ขย้ำกันทุกวันหลังจากนี้.....เพราะอีกคนมันขนสัมภาระเข้ามาและลงหลักปักฐานอยู่บ้านท่านอย่างถาวรแล้ว....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
จนแล้วจนรอด....
“ เคียวย๊า~~”
ทั่ก ทั่ก ทั่ก...โครม!!!
“ ฉันบอกให้แกใส่เสื้อคลุมที่ชั้นสั่งตัดให้ ไอ้ตัวนี้มันยาวรุ่มร่าม ทำให้กระต่ายนั่นรู้ตัวทุกที แล้วแบบนี้ฉันจะถ่ายรูปได้ไง!”
“ ฮะ ฮะ...มันไหม้ไปแล้วอ่ะ....เมื่อวานเจ้าหมอสับปะรดนั่นเอาไฟจากไหนไม่รู้เผาจนป่นเป็นขี้เถ้าไปแล้วอ่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะฉันใช้ยากำจัดวัชพืช(?)ฉีดใส่มันไปแล้ว คาดว่าจะเดี้ยง มากวนเราไม่ได้ไปอีกหลายวัน”
“ งั้นก็ดี...วันนี้ก็เหลือแค่ต้องจัดการเพลงดาบของเจ้าหมานั่น”
“ ไม่ต้องห่วง ฉันรู้จุดอ่อนของยามาโมโตะดี!”
“ วันนี้เราจะต้องไม่แพ้กลับมา ไม่งั้นแกนั่นแหละเจอฉันขย้ำแน่!”
“ อื้อ! วันนี้เราต้องได้ขนกระต่ายกลับมา!....ซักเส้นก็ยังดี!”
ว่าแต่....
นี่มันสงครามอะไรก๊านนนนนน
แล้วทูน่าน้อยๆอย่างผม...จะเอาอะไรไปสู้รบกับเจ้าพวกเหนือมนุษย์พวกนี้ได้....โอ้.....ลูกสาวกระต่ายสุดโมเอ้...ถึงตาย ป๊ะป๋าก็จะปกป้องหนูให้ด้ายยย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
จะมีตอนต่อไปดีไหม....ไหม........ไหม...............
>/////////<
สุขสันต์วันเกิดนะเหมียว~
อิอิ ขอมีความสุขมากๆนะเบลขา ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่มีให้กันมาโดยตลอด ถึงมันอาจจะเลทไปนิดดด แต่ก็เพราะว่ามีหลายอย่างที่อยากทำให้ แล้วก็ดันมานึกออกเอาวันสุดท้าย >[]< ปั่นกันไฟลุกไม่ต้องหลับต้องนอนกันเลยทีเดียว แต่เพื่อเบลเราทำได้! ^ ^
ฟิกนี้ก็มีพ่อม้าไปแล้ว....
แต่เราคาดว่ายังมีอีกคู่ที่เบลน่าจะอยากอ่าน และเราก็ตั้งใจเขียนให้ มันอาจจะไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่เพราะว่าเป็นนอมอลรีบอร์นเต็มๆเรื่องแรกของเค้า >w< แต่เพื่อเบลเราทำได้อีก! อิอิ....อย่าลืมตามไปอ่านนะคะ...ลงไว้ที่ห้องนี้ไม่ได้ เพราะงั้นจิ้มที่นี่โล้ด....
[S.Fic HBD.namiB] [1896] “Kizuna…แปลว่า...สายสัมพันธ์”
ชื่อเรื่องมาจากอะไรนั้น....เบลน่าจะรู้จักดี...^__^....ไม่ได้ฟัง ออเร็นจิ มานาน เปิดของวงนี้ทีไรนึกถึงเบลทุกที ฮ่าๆ
พ่อม้าไปแล้ว....คุณฮิกับหนูโคลมไปแล้ว.....แล้วทูน่าจะพลาดได้ไงละงิ
[Clips 6927???] – ทูน่าปะทะมอสก้า?!!--
ที่ช้าก็เพราะไอ้นี่นี่แหละ =[ ]= นั่งดูอนิเมะช่วงตอน 113-120 อยู่ดีๆ ทั้งๆที่ตั้งใจจะดูก๊ก แต่ความโมเอะของทูน่าก็กระแทกตาเข้าไปเต็มๆ จนทนไม่ไหว ปั่นมาให้กันคืนสุดท้ายนี่แหละ.... เบลอ....เอาเป็นว่าแค่ดูแล้วยิ้มซักนิดดด ก็ดีใจมากแล้วค่ะ ^ ^....ว่าแต่...มันจบลงที่ตรงนั้นได้ยังไง ?
มาพูดถึงฟิกกระต่ายอลิสกันบ้าง
ครึ ครึ....จะมีใครอยากอ่านตอนต่อไปไหมนะ?
“ กระจกวิเศษเอ๋ย...จงบอกข้าเถิด ใครงามเลิศในปฐพี...”
“ มันก็ต้องตัวข้าเองอยู่แล้วสิโว้ยยยย!!!”
เพล้ง!!!
“ ไอ้กระจกสวะ!”
“ ข้าจะไปหากระจกที่สวยกว่าแก น่ารักกว่าแก แต่ว่าต้องหัวสีเงินเหมือนแกนะ มาแทนที่กระจกสวะๆอย่างแก!”
“ โว้ยยยยย! มันจะไปมีกระจกที่สวยกว่าชั้นในโลกนี้ได้ยังงายยยย!”
“ หึ...งั้นก็ไปหาเอาที่โลกอื่นสิ!”
กร๊ากกกกก แต่อันนี้ยังไม่รับปากนะว่าจะเสร็จ ฮ่าๆๆ ถ้ามันเสร็จคงได้พบกับ...
Next Episode……
[X59S] Alice in Vongola World =[ ]=!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! [10 - 10 -2010]
เอ๊ะ! แล้วเรื่องนี้เดือน 9 ไม่ลงหรอ ?
ไม่รู้สิ =3= จะเอาฟิกสปีชี่เดียวกันลงพร้อมกันมันก็กะไรอยู่ จะมีใครคิดถึงอุริกับบันทึกเจ้าหญิงบ้างไหมน้า...=3=...(ฟิกวันเกิดข้ามปีข้ามชาติเรื่องนั้นน่ะ...)
-0-
ตอบลบกระจกสวะ 55555555+
น่ารักมากค่ะเรื่องนี้