KHR Au.fic [805918] ความหวังครั้งสุดท้าย : Black SNOWDROP : 17


: KHR Fanfiction Au
: 8059  6927  XSD
: Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ


ตอนคิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็แค่อยากอ่านฟิคที่มีสองด้าน ก็แค่นั้นเองค่ะ เพราะงั้น....นี่คือ ฟิคคู่แฝดค่ะ.....เรื่องราวที่เกิดขึ้นเหมือนๆกัน แต่ความรู้สึกนั้นช่างต่าง......พบกับอีกด้านของเรื่องนี้ได้ที่......


[AuFic][805918] The Last SNOWDROP....



.
.
.
.
.


สมการสามเส้า ของพวกเขาสามคู่

กับความรักของคน 9 คน กับความรู้สึกและเหตุผลของแต่ละคนใน 9 ด้าน

กับความต้องการและความปรารถนาที่จะครอบครองบุคคลอันเป็นที่รัก

สุดท้าย.......

ดอกไม้แห่งความหวังจะเบ่งบานแย้มยิ้มให้แก่....ผู้ใดกัน


By : K_Guardian_7

.
.
.
.
.
.
.








มืออันสั่นเทายืนไปหาสร้อยข้อมือเส้นนั้น....



มีหรือที่เขาจะจำไม่ได้ว่ามันเป็นของใครในเมื่อเขาเป็นคนสวมมันให้กับคนผู้นั้นด้วยมือคู่นี้ของเขาเอง สองขาที่เคยยืนหยัดอยู่เหนือซากศพนับพันกลับทรุดลงตรงหน้าหลุมศพของบุคคลผู้เป็นดั่งหัวใจ.....ฮายาโตะ.....เจ้าจากข้าไปแล้วจริงๆใช่ไหม.....



หัวใจราวกับกำลังจะสูญสลาย....ร่างกายนั้นไร้ซึ่งเรี่ยวแรง



เพราะเขามั่นใจในกำลังและอำนาจของตนเองว่าจะสามารถปกป้องและแย่งชิงร่างบอบบางเอาไว้ให้เป็นของเขาตลอดไปได้...แต่ทว่าตอนนี้....กลับรู้ดียิ่งกว่าใครว่าเขาก็เป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดาๆที่ไม่สามารถจะต่อกรอะไรกับยมทูตได้เลย



ข้าแย่งลมหายใจของเจ้ามาจากยมทูตไม่ได้เลย.....ฮายาโตะ



น้ำตาที่พยายามกักเก็บเอาไว้ไหลลงรดแผ่นดิน....มันจะเป็นน้ำตาครั้งสุดท้ายที่ข้าจะมอบให้ใคร



ต่อจากนี้ต่อไป....



ข้าจะไม่มีวันรักใครอีก....



ต่อให้เจ้าจะสลายหายไปเป็นอากาศที่ข้ามองไม่เห็น...



แต่เจ้าก็จะยังคงเป็นคนที่ข้ารักสุดหัวใจของข้าตลอดไป....ฮายาโตะ










เมื่อหยาดน้ำตาแห้งเหือดไปภายในใจที่หมดสิ้นแล้วซึ่งความหวังกำลังก่อตัวขึ้นมาด้วยรูปแบบที่ดำมืดและอำมหิต



ร่างแข็งแกร่งของเจ้าของแผ่นดินสีดำลุกขึ้นยืนช้าๆต่อหน้าหลุมศพของบุคคลอันเป็นที่รัก



ข้าจะไม่มีวันให้อภัยใครก็ตามที่มันบังอาจมาพรากเจ้าไปจากข้า...ข้าจะทำให้พวกมันรู้ซึ้งถึงความสิ้นหวังอย่างที่ข้าได้รับ.....



เจ้าของแผ่นดินสีดำเดินกลับมาที่ค่ายทหารซึ่งเต็มไปด้วยความอึมครึมด้วยใบหน้าเย็นชานิ่งสนิท คำสั่งออกรบทำให้เหล่าทหารที่เริ่มจะท้อกลับมามีชีวิตชีวากันอีกครั้ง กองทัพสีดำเคลื่อนพลขึ้นไปทางเหนืออย่างบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม



ข้าจะฆ่าพวกมันให้หมด แล้วเอาเลือดมารดที่หน้าหลุมศพของเจ้า!








...............................................................................................................................................................................................








ทั้งสายหมอกทั้งดอกไม้ทำให้มองอะไรไม่เห็น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้ว่าแผนการที่วางเอาไว้กำลังใกล้จะสำเร็จเต็มที...ใบหน้าสีขาวลอบยิ้มโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น



เพราะทั้งสามง่ามและดาบสั้นคู่นั้นกำลังพุ่งเข้าหากันอย่างรวดเร็ว....





อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น.....



ใช่....



อีกแค่นิดเดียว….



ที่สามง่ามจะฝังคมลงไปที่ลำคอของร่างเล็ก และคมดาบจะเสียบลงไปที่กลางลำตัวของร่างโปร่ง



อีกแค่นิดเดียว.....



แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับนิ่งงัน....





เมื่อมุคุโร่นั้นไม่อาจลงมือได้ในวินาทีสุดท้าย

และสึนะโยชิมองเห็นร่างกายและใบหน้าของอีกฝ่ายที่อยู่ใกล้เข้ามาจนเต็มตา






“ มุคุโร่!!!!        ร่างเล็กตะโกนออกมาพร้อมทั้งนัยน์ตาเบิกกว้าง...ทำไม....ทำไมถึงเป็นเจ้า....ความสับสนลนลานที่ตนเกือบจะพลั้งมือฆ่าคนที่ตนรักทำให้มือเล็กผวาปล่อยดาบสั้นทิ้งไป แต่คมของสามง่ามยังคงพาดอยู่ที่ลำคอระหงไม่เปลี่ยนแปลง



“ ทำไมเจ้า....”



“ ควรจะเป็นข้ามากกว่าที่ต้องถาม....เจ้าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกันครับ สึนะโยชิคุง”      นัยน์ตาสองสีที่เคยสั่นไหวกลับละทิ้งทุกอย่างไปแล้วมองใบหน้าของคนที่เคยอยู่เคียงข้างกันด้วยความกดดัน ร่างเล็กตรงหน้าทำท่าทางเหมือนกับว่าไม่เข้าใจถึงสิ่งที่ตนถามออกไป ใบหน้าเล็กมีแต่ความสงสัยและสับสน



แต่จะให้ข้าเชื่อเจ้าได้อย่างไร....ว่าสิ่งที่เจ้าแสดงออกมาจะไม่ใช่แค่การแสดง....



“ ข้า...ทำอะไร?”      ดอกไม้มรณะยังคงไม่เข้าใจในสิ่งที่ร่างโปร่งพูด นั่นยิ่งทำให้ใบหน้าเรียวเผยยิ้มละไมด้วยความเย็นชามาให้



“ คึหึหึ.....เจ้าใจร้ายจริงๆนะสึนะโยชิ”      ใจร้ายที่ต้องให้ข้าสาธยายความผิดของเจ้าซึ่งมันกรีดลงไปที่หัวใจของข้าทุกถ้อยคำที่ข้ากำลังจะเอ่ยออกไป



“ เจ้าร่วมมือกับนาง...เป็นไส้ศึกก่อกบฏเพื่อที่จะแย่งแผ่นดินของน้องชายข้า....ข้าไม่รู้ว่าเจ้าต้องการจะแก้แค้นเขาหรือว่าเจ้าแค้นเคืองข้ากันแน่....แต่ว่าข้าจะไม่ให้อภัยในสิ่งที่เจ้าทำอย่างแน่นอน”       นัยน์ตาสองสีมองประสานสายตากับนัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ที่แสดงออกชัดเจนว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่ตนพูด....ทำไมทีตอนนี้เจ้าถึงไม่กล้ายอมรับในสิ่งที่เจ้าทำกันเล่า สึนะโยชิ



“ ข้าไม่รู้เรื่อง....ไม่เข้าใจในสิ่งที่เจ้าพูดมาเลยสักนิดมุคุโร่...”



“ คึหึหึ....นอกจากใจร้ายแล้วเจ้ายังปากแข็งอีกหรือครับ สิ่งที่เจ้าปิดบังเอาไว้มันกลับเป็นหลักฐานให้ข้ารู้ให้ข้าเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าทำ....แล้วแบบนี้เจ้ายังจะไม่ยอมรับอีกหรือ”



คำพูดนั้นทำให้ร่างเล็กถึงกับนิ่งงัน....หรือว่าสิ่งที่ข้าทำไป........



“ เจ้ากำลังเข้าใจผิด!!! ข้าไม่ได้ร่วมมือกับนาง!  แต่ข้ากำลังตามดูพฤติกรรมน่าสงสัยของนางต่างหาก! นางกับเบียคุรันลอบติดต่อกันด้วยท่าทางมีพิรุธ ข้ากลัวว่ามันจะเกี่ยวกับสงครามที่น้องชายของเจ้ากำลังยกกองทัพออกไป กลัวว่าแผ่นดินสีขาวจะจ้องเล่นงานแผ่นดินสีดำ ข้าเลยตามดูให้รู้ความจริง....เชื่อข้าสิมุคุโร่!



“ พอแก้ตัวอะไรไม่ได้ก็โยนความผิดมาให้ข้าเลยหรือ...ร้ายจังน้า...สึนะโยชิคุง”      เสียงสบายๆของชายผู้อยู่ในชุดสีขาวดังออกมาทันทีให้ใบหน้าของร่างเล็กหันกลับไปมองด้วยความโกรธแค้น



“ เจ้าต่างหากที่วางแผนใส่ความข้า!!!      ดอกไม้มรณะหันไปตะโกนใส่ดอกกล้วยไม้สีขาวโดยไม่ได้กลัวว่าคมของสามง่ามจะบาดคอเลยสักนิด



“ คนที่เจ้าควรจะเชื่อเป็นใคร เจ้าคงจะรู้ดีนะมุคุโร่คุง.....เจ้าก็เห็นแล้วนี่....ว่าคนคนนี้ทำอะไรไว้บ้าง.....เจ้าเห็นด้วยตาของเจ้าเองตั้งแต่อดีตมาแล้ว...ว่าเขาร้ายกาจยังไง”      รอยยิ้มสบายๆของเจ้าของแผ่นดินสีขาวนั้นแสดงความมั่นใจ และนั่นมันยิ่งทำให้มือที่จับสามง่ามอยู่ถึงกับสั่นไหว....ข้าควรจะเชื่อใคร ?



“ มุคุโร่....”      นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้หันกลับมามองด้วยแววตาอ้อนวอน



“ สิบกว่าปีที่เราอยู่ด้วยกัน เจ้าไม่เชื่อข้าเลยหรือยังไง ว่าข้าไม่มีวันทรยศต่อเจ้าได้....”       น้ำตาใสไหลคลอดวงตากลมโต สามง่ามที่ลำคอกำลังสั่นระริกด้วยความไม่มั่นคงทางอารมณ์ของคนที่ถือมันอยู่



“ มุคุโร่.....”        ข้ารู้ว่าข้าทำผิดต่อเจ้าจนเจ้าอาจจะละไว้ซึ่งความเชื่อใจข้า...แต่ว่าข้าก็ยังวอนขอ.....ได้โปรดเชื่อเถิดว่าความรู้สึกที่ข้ามีให้เจ้านั้นคือเรื่องจริง....ข้ารักเจ้าและมันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง.....




กลีบดอกไม้ที่ไม่มีใครเห็นพุ่งเข้าเล่นงานที่ข้อมือที่ถือสามง่าม....



ในเมื่อเจ้าไม่เชื่อใจข้า...ข้าก็จะไปหาหลักฐานมาพิสูจน์ว่าตัวข้านั้นบริสุทธิ์



เมื่อสามง่ามเคลื่อนออกไปจากลำคอ ร่างเล็กของสึนะโยชิก็ถอยหลังหลบให้ร่างโปร่งนั้นตกตะลึงด้วยคิดว่าร่างเล็กคิดที่จะหลบหนี.....ทั้งๆที่เขาเกือบจะให้อภัย ทั้งๆที่เขาเกือบจะยอมลดสามง่ามลง....



เจ้าจะหลอกใช้ความเชื่อใจของข้าไปอีกแค่ไหนกัน สึนะโยชิ



และคราวนี้ประกายคมกล้าก็วาดออกไปให้อีกฝ่ายจับดาบสั้นมารับเอาไว้แทบไม่ทัน....ข้าจะไม่เชื่อเจ้าอีกแล้ว.....รังสีที่เหยียบเย็นดุจน้ำแข็งครอบคลุมไปทั่วให้สายหมอกนั้นยิ่งดูหนาวเหน็บ....ร่างเล็กๆได้แต่กระโดดหลบไปมาท่ามกลางหมอกที่หนาลงเรื่อยๆจนแทบจะมองไม่เห็นสิ่งใด




....ฉึก!!!.....




ความเจ็บแปลบที่หน้าท้องทำเอาร่างเล็กถึงกับทรุดลง ความอุ่นวาบไหลทะลักออกมาจนมือที่กดเอาไว้รับรู้ถึงมันได้ กลิ่นคาวที่คุ้นเคยทำให้น้ำตาเริ่มจะไหลลงมา



หรือว่าสุดท้าย...ข้าคงต้องตายด้วยมือของเจ้าจริงๆ....



ประกายสีเงินเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในสายหมอก ถึงจะดูไม่ออกแต่ก็รู้ดีว่าตนคงไม่อาจหลบคมของมันได้พ้น นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ได้แต่ปิดลงราวกับกำลังรับรู้ถึงชะตาของตัวเอง



ถึงข้าจะตายไป....แต่ก็ขอให้รู้เอาไว้ว่าข้าจะรักเจ้า....ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง......











เคร้ง!!!!







แต่แล้วดาบของใครบางคนกลับมารับคมของสามง่ามเอาไว้ได้ทันพอดี



เมื่อสายหมอกเริ่มจางหายไป นัยน์ตาสองสีก็ถึงกับเบิกกว้าง เมื่อใบหน้าหล่อคมคายเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นและนัยน์ตาสีโลหิตกำลังจ้องตอบกลับมาพร้อมกับริมฝีปากที่แสยะยิ้ม





จอมโจรแห่งป่าสายหมอก......แซนซัส





“ พอดีว่าเจ้านี่เป็นหมอของป่าสายหมอก...ข้าจึงปล่อยให้เจ้าฆ่าเขาไม่ได้”      ดาบสีดำผลักสามง่ามให้พ้นออกไป มุคุโร่เซไปด้านหลังเล็กน้อยด้วยแรงของอีกฝ่าย ก้มลงไปมองที่ร่างเล็กซึ่งทรุดอยู่ที่พื้น เลือดไหลออกมามากมายจนน่ากลัว สองมือของร่างโปร่งเริ่มจะสั่นสะท้าน....อยากจะเข้าไปประคอง....แต่ก็มิอาจทำได้ด้วยหัวใจอีกด้านที่เรียกร้องบอกว่าร่างเล็กนั้นกลายเป็นศัตรูกันไปแล้ว



“ เจ้าจะบ้าอะไรข้าไม่รู้หรอกนะ!!!!      เสียงดังสนั่นของฉลามร้ายตะโกนอยู่ใต้ต้นไม้ที่อยู่ไกลๆ มือของร่างโปร่งยันโคนของต้นไม้เอาไว้พรางหอบจนตัวโยน ดูท่าทางว่าจะเพิ่งวิ่งมาถึง.....ใบหน้าสวยดูแล้วไม่สบอารมณ์จนถึงที่สุด.....ไม่คิดว่างานเฝ้าคนจะทำให้ตนประสาทเสียได้ถึงขนาดนี้!



“ แต่ว่าเมืองทางเหนือที่เจ้าฮิบาริไปถล่มอยู่นั้น ไม่ใช่เมืองของนาง!!!



ถ้อยคำที่ได้ยินทำเอาใบหน้าเรียวของมุคุโร่ถึงกับชาวาบ....หมายความว่ายังไงกัน...



เช่นเดียวกับใบหน้าของเจ้าของแผ่นดินสีขาวที่เริ่มจะซีดลงถนัดตา....พวกเจ้านี่มันยุ่งจริงๆ แผนของข้ากำลังจะสำเร็จอยู่แล้วจะโผล่หัวกันมาทำไม!



“ แต่เป็นหัวเมืองที่อยู่ที่อยู่เหนือขึ้นไปอีก เพราะงั้นที่เจ้าเห็นว่านางทำลับๆล่อๆจึงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับกบฏเลยแม้แต่น้อยโว้ยยย!!!        ฉลามร้ายตะโกนดังลั่น เขาพยายามจะบอกมันมาตั้งนานแล้วแต่มันก็หายตัวไปกับสายหมอกให้เขาวิ่งไล่อยู่ได้ตั้งหลายวันแบบนี้



มุคุโร่หันไปมองท่านหญิงตำหนักซ้ายซึ่งก้มหน้าหลบสายตา ก่อนที่จะมองไปหาเบียคุรัน....คนที่บอกแผนการและการนัดแนะต่างๆให้เขารู้ทุกอย่าง....คนที่จัดฉากให้เขาเข้าใจสิ่งต่างๆผิด.....เมื่อความคิดของร่างโปร่งเริ่มจะปะติดปะต่อ นัยน์ตาสองสีก็ต้องเบิกกว้าง



นัยน์ตาสีอเมทริสที่มองสบมานั้นวูบหนึ่งเขาเห็นว่ามันอ่อนล้าแต่มันก็กลับมาแข็งกร้าวและร้ายกาจดังเดิม



ทุกอย่าง....คือสิ่งที่เจ้าสร้างขึ้นมาอย่างนั้นหรือ....เบียคุรัน......



ทั้งฉากการพบกันในที่ต่างๆระหว่างท่านหญิงตำหนักซ้ายและสึนะโยชิที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว....เจ้าคงทำให้เขาสงสัยจนลอบติดตามนาง....แล้วพาข้าไปให้เห็นในตอนที่เขาเข้ามาพัวพันโดยที่เขาก็ไม่รู้ตัว.....เจ้าทำแบบนั้นเพื่อให้ข้าเป็นคนลงมือกำจัดเขาด้วยมือของข้าเอง....เจ้าทำเพื่อให้ข้ากลับไปหาเจ้าโดยไม่มีสิ่งใดฉุดรั้งและค้างคาในหัวใจอีกอย่างนั้นใช่หรือไม่



ร่างทั้งร่างนั้นชาวาบกับความเป็นจริงของสิ่งที่เพิ่งจะรู้สึกตัว สองมือสั่นระริกไม่ยอมหยุด.....



เจ้ารักข้าถึงขนาดทำในสิ่งที่ร้ายกาจขนาดนี้เชียวหรือ....เจ้าไม่เห็นหรืออย่างไรกันว่าจุดสิ้นสุดของเรื่องนี้มันจะไปจบลงที่ตรงไหน....เจ้าไม่เห็นหรือว่าตัวอย่างมันก็มี....เจ้าไม่เห็นความสัมพันธ์ที่พังทลายระหว่างข้ากับสึนะโยชิจากเรื่องแบบนี้เมื่อสิบปีที่แล้วอย่างนั้นหรือ....



นัยน์ตาสองสีมองนิ่งไปยังนัยน์ตาสีอเมทริสด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่จะก้มลงมองไปที่มือของตนเอง



ข้าเกือบจะฆ่าเขา....ข้าเกือบจะฆ่าสึนะโยชิ.....



ร่างโปร่งหันหลังให้กับเจ้าของแผ่นดินสีขาวก่อนจะเดินไปทรุดลงตรงหน้าร่างเล็กๆที่เริ่มจะไร้สติ สองมือที่เคยทำร้ายอีกฝ่ายกลับโอบอุ้มเข้ามาไว้แนบอก



ข้าขอโทษที่เข้าใจเจ้าผิด....ขอโทษที่ไม่เชื่อใจเจ้า....ข้าขอโทษ....สึนะโยชิ










ทุกสิ่งทุกอย่างมันกำลังพังทลายลง.....



นัยน์ตาสีอเมทริสจ้องมองแผ่นหลังของคนที่รักเดินจากไปอีกครั้ง.....เจ้าคิดว่าข้าไม่เจ็บปวดหรืออย่างไรที่ต้องเห็นเจ้าเดินจากข้าไปครั้งแล้วครั้งเล่า....แต่ทุกครั้งข้าจะยังไม่ยอมแพ้...และครั้งนี้เองก็เช่นกัน



ร่างสีขาวกำลังจะหายไปกับแสงสว่าง











แต่กระนั้นฉลามร้ายก็ไม่คิดที่จะปล่อยไปง่ายๆ ร่างโปร่งผมสีเงินที่วิ่งตามไปนั่นทำให้ชายเจ้าของนัยน์ตาสีโลหิตเองก็ไม่อยู่เฉย



ที่หลังศาลเจ้าตอนนี้จึงเหลือเพียงแค่คนสองคน...



มุคุโร่อุ้มร่างเล็กที่สลบสไลขึ้นด้วยหัวใจที่เริ่มจะร้อนลน....เจ้าจะต้องไม่เป็นอะไร....จะต้องไม่เป็นอะไร........







................................................................................................................................................................................................................








กองทัพสีดำเคลื่อนพลขึ้นเหนือราวกับปิศาจร้าย...



ไม่ว่าศึกเล็กศึกใหญ่ก็ไม่มีกองทัพใดมาขวางกั้นพวกเขาได้และไม่มีคนของฝ่ายศัตรูที่จะมีชีวิตรอดแม้แต่รายเดียว



นัยน์ตาคู่สีดำสนิทของฮิบาริ เคียวยะจับจ้องมองธงผืนใหญ่ที่โบกสะบัดไปมาอยู่เหนือหลังคาปราสาทตรงหน้า....เขาไล่ต้อนพวกมันมาจนเกือบจนมุม ตอนนี้กองทัพของกบฏนั้นแตกพ่ายด้วยความกลัวจนหัวหดวิ่งกลับมายังฐานที่มั่นสุดท้าย คือปราสาทที่อยู่เหนือเนินเขาลูกนี้....ข้าจะขยี้พวกมันให้หมด....ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว!



ปกติชายผู้นั่งอยู่บนหลังม้าสีดำคนนั้นก็โหดเหี้ยมและเลือดเย็นอยู่แล้ว....แต่ตอนนี้เหล่าทหารกลับรับรู้ได้ถึงความอำมหิตที่มีมากกว่าเดิม....สาเหตุนั้นรู้แก่ใจกันดีแต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะพูดออกไป....เป็นห่วงก็แต่ว่า.....หากสงครามสงบลง....แล้วใครกันเล่าจะเข้ามาทำให้ปีศาจสีดำตนนี้กลับมาเป็นผู้เป็นคนเหมือนเดิม



สัญญาณการออกรบถูกส่งมาจากแม่ทัพในชุดเกราะสีดำสลับแดงในที่สุด เสียงโห่ร้องดังกึกก้องทั่วท้องทุ่ง ก่อนที่กองทัพสีดำจะพุ่งทยานเข้าไปยังตัวปราสาทจากรอบทิศ เสียงการต่อสู้ปะทะกันดังอย่างต่อเนื่อง เพลิงกัลป์เริ่มลุกลามจากธนูไฟจนเริ่มแผดเผาไปทั่วตัวปราสาทให้แดงฉานไม่ต่างไปจากผืนแผ่นดินที่รินรดไปด้วยสีแห่งชีวิต



การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกินเวลานานกว่าครั้งไหนๆ เพราะพวกฝ่ายเหนือเองก็ใช่ว่าจะยอมพ่ายแพ้แต่โดยดี แต่ยังคงใช้สมรภูมิที่ตนได้เปรียบมาเป็นตัวช่วยในการต่อสู้ครั้งนี้ ทหารของตนที่รู้พื้นที่ดีแอบซุ่มโจมตีทหารของกองทัพสีดำจนบาดเจ็บล้มตายไปไม่ใช่น้อย



แต่กระนั้นกองกำลังที่โหดเหี้ยมอำมหิตก็ไม่ระคายต่อความตาย แต่ยังคงมุ่งหน้าเข้าไปหาชัยชนะอย่างไม่หยุดยั้ง



หัวหน้าของฝ่ายกบฏปรากฏตัวอยู่บนหลังม้าให้เห็นได้ในที่สุดและกำลังมุ่งหน้ามาต้อนรับฮิบาริ เคียวยะด้วยคมดาบที่เป็นประกายวาววับ ไม่ต่างไปจากทอนฟาในมือของร่างสง่าเลยสักนิด ม้าสองตัวบดเบียดซึ่งกันและกันให้คนบนหลังของพวกมันต่างใช้อาวุธคู่กายเข้าห่ำหั่นกันอย่างสมศักดิ์ศรี



แต่ดูเหมือนว่าความเหนื่อยล้าจะมาเยือนหัวหน้ากบฏเร็วกว่าที่คิด เมื่อจากที่เคยปะมือกันได้อย่างสูสี อีกฝ่ายกลับเคลื่อนไหวได้ช้าลง ต่างจากเจ้าของแผ่นดินสีดำที่ยังคงใบหน้านิ่งสนิทไม่เปลี่ยนแปลง แขนยังคงหวดทอนฟาออกไปได้อย่างรวดเร็วเช่นเดิม



เมื่อฝ่ายลูกน้องกบฏเห็นท่าไม่ดี ม้าอีกสองตัวจึงเข้าไปรุมช่วย



หากสู้กันตัวต่อตัวแล้ว เจ้าของแผ่นดินสีดำคงจะไม่เคยหวั่นเกรง แต่กำลังที่เพิ่ขึ้นมาอีกสามเท่าจากคนอีกสามคน ทำให้ยากที่ฮิบาริ เคียวยะต้านไหว...แต่ถึงอย่างนั้นร่างสีดำก็ยังดึงดันที่จะสู้.....ดาบที่มาจากด้านหลังกำลังเล่นงานทีเผลอ.....









....ฉึก.....ฉึก......ฉึก............







ลูกธนูปริศนาสามดอกปักลงไปแขนซึ่งถือดาบและหัวใจของชายผู้นั้นอย่างแม่นยำ



ท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของเจ้าของแผ่นดินสีดำ ลูกธนูอีกสามดอกก็ปักลงไปที่ชายอีกสองคนที่รุมเล่นงานตนอยู่ คราวนี้ถึงจะไม่แม่นยำเท่าแต่มันก็ทำให้ชายสองคนนั้นตกลงจากหลังม้าให้การต่อสู้เหลือเพียงร่างในชุดดำกับหัวหน้ากบฏเพียงเท่านั้น และทอนฟาก็จัดการต่อได้อย่างไม่ยากเย็น




ธงสีดำโบกสะบัดเหนือดินแดนทางเหนืออีกครั้ง...



กองทัพของฮิบาริ เคียวยะได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด การการเด็ดหัวกบฏทุกคน







หลังจากที่ทุกอย่างสงบลง ร่างแข็งแกร่งกระโดดลงจากหลังม้าก่อนที่จะเดินอย่างรีบเร่งไปยังศพของชายผู้นั้น มือใหญ่ดึงลูกธนูออกมาจากร่างไร้วิญญาณที่นอนแน่นิ่ง



ไม่ใช่.....



ไม่ใช่ลูกธนูที่เหมือนกับของเขา.....



แต่ทว่าฝีมือการยิงธนูที่แม่นยำขนาดนี้ไม่มีใครอื่นแน่นอน....



เพราะเขาเคยเห็นมากับตาว่าร่างบอบบางยิงธนูพร้อมกันทั้งสามดอกได้แม่นยำขนาดไหน...



ฝีมือของเจ้าแน่ๆ....ฮายาโตะ....



เจ้าของแผ่นดินสีดำยืนอยู่ท่ามกลางซากศพนับพันก่อนที่จะหันไปมองรอบๆกายอย่างช้าๆ...เจ้าอยู่ที่ไหนกัน...ฮายาโตะ.....น่าแปลกยิ่งนัก....ความมืดมนความโศกเศร้าเสียใจความแค้นและไฟที่โหมกระหน่ำจิตใจของเขามาตลอดกลับมลายหายไปเพียงแค่รู้ว่าเจ้ายังมีชีวิตอยู่....



ถึงจะไม่อาจเห็นร่างกายและใบหน้าของเจ้าแต่ในใจกลับรู้สึกเบาโหวงเมื่อรับรู้ว่าข้างกายข้านั้นยังมีเจ้าอยู่.....



ใบหน้าคมเงยหน้าขึ้นสู่ฟ้า....



ภาพของหลุมศพลอยเข้ามาอยู่ในหัว....



หรือนั่นคือสิ่งที่เจ้าตั้งใจจะบอกข้า....



ว่าสร้อยหินสีดำเส้นนั้นเจ้าขอคืนมันให้แก่ข้าเหมือนเช่นความรักและทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้ามอบให้แก่เจ้า....เจ้าขอคืนมันมาและให้ข้าคิดว่าเจ้าได้ตายจากไปแล้ว....



นัยน์ตาสีดำคมกริบเหลือบไปมองศพชายอีกสองคนกับลูกธนูที่ดูเหมือนจะไม่แม่นยำ....ธนูสามลูกนั้นไม่ใช่ฝีมือฮายาโตะอย่างแน่นอน






ยามาโมโตะ ทาเคชิ.....






เจ้ากลับมาพาเขาไปจากข้าแล้วอย่างนั้นสินะ บางที...ถ้าเขาอยู่กับเจ้าอาจจะอันตรายน้อยกว่าอยู่กับข้า









ภาพของหลุมศพและสร้อยหินสีดำปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจนอีกครั้ง....



ถ้านั่นคือสิ่งที่เจ้าเลือกแล้ว....











ข้าจะปล่อยเจ้าไป.....





เพราะภายในใจของข้ายังคงมีเจ้าอยู่เคียงข้างเสมอ...ฮายาโตะ









.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


โปรดติดตามตอนต่อไป....ไป......ไป.......







 


1 ความคิดเห็น:

  1. เฮ้อ!โลงใจจนจะบอกไม่ถูกเกือบเกลียดคุณเคียวไปเเล้วโชคดีนะนั้นล่ะที่เรียกว่าความรัก

    ตอบลบ