KHR Au.fic [805918] ความหวังครั้งสุดท้าย : บทย้อนอดีต : [-02]


: KHR Fanfiction Au
: 185980  1006927  XSD
: Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ


ตอนคิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็แค่อยากอ่านฟิคที่มีสองด้าน ก็แค่นั้นเองค่ะ เพราะงั้น....นี่คือ ฟิคคู่แฝดค่ะ.....เรื่องราวที่เกิดขึ้นเหมือนๆกัน แต่ความรู้สึกนั้นช่างต่าง......พบกับอีกด้านของเรื่องนี้ได้ที่......


[AuFic][805918] The Last SNOWDROP....



.
.
.
.
.




ข้าก็แค่ไปเป็นตัวประกัน...ไม่มีอะไรหรอก เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง    มือบางทั้งสองข้างยกขึ้นประคองใบหน้าน่ารักที่มองมาที่ตนอย่างเป็นห่วงเป็นใยและโหยหา....ไม่อยากจากเจ้าไปเลยสักนิด....แต่ทว่าเพื่อปกป้องแผ่นดินนี้เอาไว้ให้น้องชายเพียงคนเดียวซึ่งยังเด็ก...ยังไม่อาจต่อต้านอำนาจคุกคามของเจ้าของแผ่นดินสีขาวได้....เขาจึงต้องไปตามที่อีกฝ่ายเรียกร้องมา...



เรา...จะได้เจอกันอีกใช่ไหม มุคุโร่    นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้คลอไปด้วยหยาดน้ำตา มือเล็กๆทั้งสองข้างวางลงบนมือบางของคนตรงหน้า



ข้าสัญญา ว่าสักวันหนึ่ง...ข้าจะกลับมาอยู่ข้างๆเจ้า ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเป็นอันตรายใดๆ ข้าสัญญา    ดวงตาสองคู่สบประสานซึ่งกันและกัน ถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่างจากหัวใจไปให้กันและกัน อยากจะโอบกอดซึ่งกันและกันไม่ให้ใครหายไปจากกัน แต่ทว่าหน้าที่และความเป็นจริงนั้นช่างโหดร้าย ทั้งๆที่รู้ว่าคนที่รักอยู่ตรงหน้า แต่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ไม่อาจรักกันดั่งที่ใจปรารถนา



ข้าจะรอ...มุคุโร่...ข้าจะรอเจ้า    มือเล็กพยายามฉุดรั้งมือของอีกคนเอาไว้จนวินาทีสุดท้าย แต่ในที่สุดมันก็จำต้องแยกออกจากกัน  ร่างเล็กๆได้แต่นั่งลงกอดเข่าก้มหน้าปล่อยให้น้ำตารินไหล  แว่วเสียงใบไม้ที่ถูกเหยียบย่ำห่างหายออกไปเรื่อยๆ แต่ก่อนที่มันจะหายไปกลับมีเสียงของใครอีกคนหนึ่งค่อยๆก้าวเดินเข้ามา



เคียวยะ.....     นัยน์ตาสองสีหยุดลงอยู่ที่เด็กชายผมสีดำสนิทที่ใบหน้ายังคงเฉยชา แต่การที่เจ้าตัวออกมาตามหาเขาแบบนี้ มันก็แสดงออกได้ดีถึงความสัมพันธ์ที่เขาได้รับจากจากเด็กชายตรงหน้า ว่ามันต่างจากที่เด็กคนนี้แสดงออกต่อทุกๆคนที่อยู่รอบตัว



สิ่งที่ข้าทำทุกอย่าง ข้าทำเพื่อเจ้า ข้าจะไม่ให้ใครมาแย่งผืนแผ่นดินนี้ของเจ้าไป...เพราะฉะนั้นเจ้าสัญญากับข้าได้ไหม...ว่าเจ้าจะดูแลสึนะโยชิแทนข้า...   นัยน์ตาสองสีเหลือบไปมองร่างเล็กๆที่นั่งร้องไห้อยู่ที่บันไดศาลเจ้า พร้อมกับจับมือเล็กๆของน้องชายเพียงคนเดียวเอาไว้



ตกลง    คำมั่นสัญญาถูกส่งผ่านระหว่างมือทั้งสองข้าง  นัยน์ตาสีดำสนิทลอบมองร่างเล็กๆที่ก้มหน้าร้องไห้....ถึงไม่บอกเขาก็ตั้งใจจะดูแลเจ้าเด็กนั่นแทนอยู่แล้ว...เพราะดอกไม้เล็กๆเหล่านั้นได้สร้างสิ่งที่เขาไม่เคยได้รับ...






............................................................................................................................................................






แซ่ก...แซ่ก......



เสียงไม้กวาดกวาดกระทบใบไม้แห้งยังคงส่งเสียงดังสม่ำเสมอ ร่างเล็กๆในชุดกิโมโนสั้นเก่าซอมซ่อยังคงกวาดลานศาลเจ้าอย่างขยันขันแข็ง ถึงแม้ว่าจะต้องหยุดยืนหอบบ้างเล็กน้อยไปเรื่อยๆก็เถอะ...เสียงไม้กวาดที่คุ้นเคยส่งเสียงไปเรื่อยๆจึงไม่ทันได้ยินเสียงแปลกๆรอบๆตัว จนกระทั่งมือเล็กหยุดไม้กวาดลง เสียงอะไรบางอย่างที่เหยียบหญ้าแห้งอยู่แถวๆใต้พุ่มไม้ห่างออกไปจึงได้แว่วเข้าไปในหู



ร่างเล็กหันไปมองรอบๆกาย แต่ก็ไม่เห็นเงาของสิ่งมีชีวิตใดๆ จึงตั้งหน้าตั้งตากวาดลานของศาลเจ้าต่อ



เป็นเวลาบ่ายคล้อย ในที่สุดภารกิจประจำวันก็ได้เสร็จสิ้นลง ร่างเล็กๆลงไปนั่งยองๆมองดูแปลงดอกไม้ที่ปลูกเอาไว้....ในใจกลับนึกถึงใครบางคนที่อยู่ไกลแสนไกลขึ้นมาทันที...ป่านนี้เจ้าจะเป็นอย่างไรบ้างนะ...มุคุโร่



มือเล็กเด็ดดอกไม้ขึ้นมาหนึ่งดอก เหมือนกับที่ทำเป็นประจำอย่างลืมตัว....จริงสินะ....ข้าไม่จำเป็นต้องเก็บดอกไม้ให้เจ้าแล้วนี่....



ข้าอยากจะแข็งแกร่งมากกว่านี้...แข็งแกร่งพอที่จะสามารถยืนอยู่เคียงข้างเจ้าได้ โดยที่ไม่เป็นตัวถ่วง ไม่ต้องให้เจ้ามาคอยปกป้องข้าแต่เพียงฝ่ายเดียว....อยากมีแรงพอที่จะฉุดรั้งเจ้าเอาไว้....ถ้าดอกไม้นี้ช่วยชีวิตใครต่อใครได้...แล้วดอกไม้นี้จะคร่าชีวิตใครต่อใครได้หรือไม่กันนะ.....



นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ฉายแววมุ่งมั่น...มือเล็กวางดอกไม้ดอกน้อยเอาไว้ที่ปลายราวบันไดไม้ของศาลเจ้าก่อนที่เจ้าตัวจะเดินถือไม้กวาดไปทางด้านหลังศาลเจ้า...



มือเล็กของใครอีกคนเอื้อมมาหยิบดอกไม้ที่วางเอาไว้ นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมองดอกไม้นิ่ง....ในเมื่อเจ้านั่นไม่อยู่แล้ว...ข้า...ก็จะมารับมันด้วยตัวของข้าเอง ใบหูแว่วเสียงของคนที่มอบดอกไม้ให้เขาทุกวันเดินกลับมาทางนี้ ร่างกายจึงขยับหายเข้าไปในพุ่มไม้อีกครั้ง



นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้มองร่องรอยเศษใบไม้ที่หล่นเกลื่อนกลาดอยู่ที่เชิงบันไดศาลเจ้าด้วยความพิศวง...ก็เพิ่งกวาดไปเมื่อกี้นี้นี่นา....ดอกไม้ที่วางเอาไว้ก็หายไปด้วยเช่นกัน ถ้าเป็นลมพัดมันก็น่าจะหล่นอยู่แถวๆนี้นี่นา แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงา...ใบหน้าน่ารักส่ายหน้าไปมาช้าๆ แล้วเดินกลับไปหยิบไม้กวาดออกมาอีกครั้ง....





.....................................................................................................................................




เส้นผมยาวสีน้ำเงินเข้มของคนที่ยืนหันหลังให้กำลังพลิ้วไหว ยิ่งส่งให้ร่างโปร่งดูงดงามจนไม่อาจละสายตา....



ในที่สุดข้าก็ได้เจ้ามาจนได้....มุคุโร่คุง....ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าทำก็เพื่อวันนี้ จากกบฏที่ตัดใจจะยอมรับความตายเพราะไม่มีความหมายใดที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป...ตราบจนได้พบเจ้า ผู้ซึ่งเป็นดั่งดอกไม้แห่งความหวังเป็นผู้สร้างพลังที่จะมีชีวิตอยู่ ข้าจึงลุกขึ้นต่อสู้อีกครั้ง และช่วงชิงทุกสิ่งทุกอย่างให้กลับกลายมาเป็นของข้าไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหน มีแต่คนหวาดกลัวและกล่าวว่าข้านั้นโหดร้าย....แต่ข้าไม่สนใจหรอก....เพราะหากมันจะเป็นทางที่จะทำให้ข้าได้เจ้ามา...ข้าก็จะทำ



ร่างในชุดสีขาวเดินเข้าไปใกล้ๆร่างที่ยังคงยืนหันหลังให้....



ยินดีต้อนรับเจ้าสู่ผืนแผ่นดินสีขาว...มุคุโร่คุง     และเมื่อเสียงทักทายดังขึ้น ร่างโปร่งจึงหันหลังกลับมามองเจ้าของแผ่นดินที่ลงมารับตัวประกันอย่างเขาด้วยตัวเอง...แล้วนัยน์ตาสองสีก็ต้องเบิกกว้าง....เมื่อคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นคือคนที่ตนเคยรู้จักกันชั่วข้ามคืนของเมื่อหลายปีก่อน



เจ้า.....เบียคุรัน......        ชื่อที่เรียกออกไปเพียงแผ่วเบานั้นทำให้นัยน์ตาสีอเมทริสมีแววตกใจก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นแววตาที่อ่อนโยน....เจ้ายังจำข้าได้.....



หวังว่าเราคงจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปอีกนานๆนะ       ใบหน้ายิ้มแย้มของคนตรงหน้าทำให้ใบหน้าเรียวค่อยๆกลับไปยิ้มละไมตามที่ถนัด



ก็ไม่ค่อยอยากนักหรอกนะครับ แต่มันคงจะเลี่ยงไม่ได้...คึหึหึ....       และเขาก็ยังคงเลือกถ้อยคำร้ายกาจมาใช้กับคนตรงหน้าเหมือนเมื่อครั้งที่เคยพบเจอกัน โดยไม่รู้สึกเกรงกลัวซึ่งอำนาจของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของแผ่นดินสีขาวคนนี้เลยสักนิด.....เพราะสัมผัสที่ข้าได้รับ มันทำให้รู้ว่าเจ้ายังเป็นคนเดียวกับคนที่ข้าเคยเจอ จึงกล้าที่จะต่อล้อต่อเถียงด้วย ทั้งๆที่มันเป็นกิริยาที่เขาจะไม่ใช้กับแขกหรือใครอื่นที่ไม่สนิทชิดเชื้อ



ฮะ ฮะ ฮะ....        เพราะเจ้าเป็นแบบนี้นี่แหละ ข้าถึงได้หลงรักเจ้า....ดอกกุหลาบสีน้ำเงินที่แสนงดงามของข้า





..........................................................................................................................................





เป็นเวลานานแค่ไหนกันแล้วนะ...ที่เหมือนกับเล่นซ่อนหากันอยู่แบบนี้...



ทุกๆวันในเวลาบ่ายคล้อย....เด็กคนนั้นจะมาที่นี่....น้องชายของคนที่เขารักสุดหัวใจคนนั้น.....



ถึงจะไม่เคยได้พบหน้ากันตรงๆสักครั้ง แต่เขาก็มั่นใจได้ว่า ฮิบาริ เคียวยะ มาที่นี่...มาเพื่อนำดอกไม้ที่เขาเด็ดวางเอาไว้ที่บันไดศาลเจ้ากลับไป  ได้เห็นเพียงแค่แผ่นหลังสง่างามและเส้นผมสีดำสนิทเพียงเท่านั้น ไม่ว่าจะร้องเรียกอย่างไร เด็กคนนั้นก็ไม่ยอมปรากฏกายต่อหน้าเขาสักครั้ง



แต่ถึงจะได้พบกันอย่างแปลกประหลาดแบบนี้ เขาก็รู้สึกอุ่นใจที่มีใครสักคนคอยอยู่ใกล้ๆเขา คอยปกป้องเขาอยู่ห่างๆ ถึงจะไม่เคยพบกันก็ไม่เป็นไร...



มือเล็กวางดอกไม้น้อยๆลงที่ราวบันไดของศาลเจ้าอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน แล้วจึงเดินเข้าบ้านที่อยู่ด้านหลังศาลเจ้าไป



วันนี้ที่บ้านดูท่าทางจะยุ่งวุ่นวายเล็กน้อย ผู้ประกอบพิธีซึ่งเป็นพ่อ ลุงและอาต่างวิ่งเตรียมของกันวุ่น เขาเองซึ่งถูกมองว่าเป็นตัวเกะกะอยู่แล้วจึงถูกไล่ให้ออกไปอยู่ข้างนอก ถึงจะอยู่ไปคงไม่มีใครยอมให้เขาช่วยอะไร ร่างเล็กๆจึงได้แต่เดินออกมาที่แปลงดอกไม้อีกครั้ง...เมื่อเดินกลับมายังบันไดหน้าศาลเจ้า สิ่งที่พบเห็นนั้นสร้างความประหลาดใจให้ไม่น้อยเลยทีเดียว....ดอกไม้ยังคงอยู่.....วันนี้ ฮิบาริ เคียวยะ ไม่มาอย่างนั้นหรือ....



นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้สลดลงเล็กน้อย....ไม่หรอก...เขาอาจจะติดธุระ หรืออาจจะไม่สบาย....



ยังไม่ทันจะคิดไปได้แค่ไหน หูก็แว่วเสียงขบวนรถเทียมวัวเคลื่อนที่อย่างช้าๆตรงมายังศาลเจ้า บรรดาญาติพี่น้องของเขาต่างก็วิ่งออกมาต้อนรับจากภายในบ้าน ร่างกายของเขาจึงขยับเข้าไปด้านในอย่างรู้หน้าที่...เด็กที่ไม่เป็นที่ต้องการอย่างเขา ไม่ควรเสนอหน้ามาให้ใครได้เห็น



เสียงสวดอ้อนวอนต่อเทพให้คนที่อยู่ภายในศาลเจ้าได้รับความโชคดีดังลอดเข้ามาภายในตัวบ้านที่ไม่มีใครเหลืออยู่เลย นี่ต้องเป็นพิธีใหญ่แน่ๆคนในบ้านเขาจึงได้ต้องเข้าไปทำพิธีกันทุกคน...บางทีมันอาจจะเป็นพิธีที่ทำให้เจ้าเมืองก็เป็นได้....เจ้าเมืองงั้นหรือ....



ความอยากรู้อยากเห็นพุ่งเข้ามาในหัวใจดวงน้อยทันที...ถ้าทำให้บรรดาเจ้าเมือง บางที...เขาอาจจะได้เห็นหน้าของน้องชายของคนที่เขารักแล้วก็เป็นได้....



ร่างเล็กๆจึงมุ่งหน้าไปยังด้านหลังศาลเจ้า ค่อยๆแง้มบานประตูหลังให้เปิดออก เสียงการทำพิธีอื้ออึงออกมาจากด้านในจึงไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเลยสักคน...นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้กวาดมองภายในศาลเจ้าไปทั่ว...บุคคลที่นั่งอยู่ภายในนั้นต่างอยู่ในชุดขุนนางเต็มยศ การแต่งกายทำให้ดูละม้ายคล้ายกันไปหมด....



แต่แล้วสายตาก็ต้องไปหยุดลงที่คนกลุ่มหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าสุด......นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้เบิกกว้าง....กับความงดงามที่ไม่คิดฝันว่าจะได้พบเจอบนโลกใบนี้...หญิงสาวผมสีเงินที่ยาวสลวยเงางามราวกับเส้นไหมชั้นดี ใบหน้าเนียนใสสวยงามราวกับตุ๊กตาปั้นชั้นเลิศ นัยน์ตาสีเขียวมรกตอ่อนโยน ริมฝีปากอิ่มแดงอมยิ้มน้อยๆ...ช่างเป็นผู้หญิงที่งดงามจนสามารถสะกดได้ทุกสายตาจริงๆ กิโมโนสีขาวสะอาดตายิ่งส่งเสริมให้ผิวพรรณที่ขาวผุดผาดดูน่าสัมผัสยิ่งขึ้น มือเล็กๆของหญิงคนนั้นวางลงที่หน้าท้องที่นูนออกมาอย่างอ่อนโยนและแผ่วเบา...นางกำลังตั้งครรภ์.....อย่างนี้นี่เอง...นี่คงจะเป็นพิธีขอพรให้เด็กที่กำลังจะคลอดออกมาแข็งแรงปลอดภัยสินะ.....



แม่ยังงดงามขนาดนี้ แล้วเด็กที่กำลังจะลืมตาดูโลกคนนั้นจะงดงามขนาดไหนกัน.....

มัวแต่ตกตะลึงกับความงดงามของหญิงสาวตรงหน้า จนกระทั่งมองเห็นมือเล็กของเด็กชายอีกคนที่นั่งอยู่เคียงข้างวางลงบนมือของหญิงสาวคนนั้นราวกับกำลังให้กำลังใจ ...นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้จึงต้องเบิกตากว้างอีกครั้ง....ไม่ผิดแน่.....เด็กคนนั้นคือ.....ฮิบาริ  เคียวยะ....น้องชายเพียงคนเดียวของมุคุโร่...

เพราะมืออีกข้างของเด็กคนนั้นถือดอกไม้ที่เขาเด็ดเอาไว้อยู่!

แต่เท่าที่ได้ยินมา...ฮิบาริ เคียวยะ ไม่เคยพูดคุยกับใคร ไม่เคยสนใจหรือใส่ใจใคร ไม่เคยเป็นมิตรกับใคร....ถ้างั้นแสดงว่า หญิงสาวผู้งดงามคนนี้คงจะเป็น.....

.......ท่านหญิงแห่งตระกูลโกคุเดระ......

พี่สาวซึ่งเป็นญาติห่างๆของ ฮิบาริ เคียวยะ...หญิงสาวเพียงคนเดียวที่ฮิบาริ เคียวยะรักและยอมเปิดใจพูดคุยด้วย รักยิ่งกว่ามุคุโร่พี่ชายในสายเลือดเพียงคนเดียวเสียอีก ถึงแม้จะถูกส่งตัวไปยังตระกูลโกคุเดระ แต่ฮิบาริ เคียวยะ ก็ยังคงเห็นเธอเป็นพี่สาวคนสำคัญอยู่เรื่อยไป ...และคราวนี้เธอก็คงจะกลับมาให้กำเนิดบุตรยังบ้านของตนดั่งที่ธรรมเนียมปฏิบัติเป็นมา ฮิบาริ เคียวยะจึงอยู่เคียงข้างเธอเสมออย่างที่เห็น

แล้วถ้าเด็กคนนั้นถือกำเนิดขึ้นมา....ฮิบาริ เคียวยะ จะรักเขา อย่างที่รักแม่ของเขาด้วยหรือเปล่านะ.....


.....................................................................................................................





นี่.....เคียวยะ....    น้ำเสียงนุ่มนวลของหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆเรียกให้เด็กชายตัวเล็กหันหน้ากลับไปมอง มือนุ่มนิ่มของหญิงสาวยกขึ้นกอบกุมมือเล็กก่อนที่จะจับมันมาวางลงบนหน้าท้องที่ป่องนูนของตนเอง



ในนี้น่ะ...มีเด็กน้อยน่ารักคนหนึ่งอยู่...ข้า....ฝากเจ้าดูแลเขาได้ไหม....     นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมองไปยังใบหน้างดงามที่ยิ้มแย้มให้มา หญิงสาวเพียงคนเดียวที่กล้าเข้าใกล้เด็กชายที่ถูกกำหนดมาตั้งแต่ถือกำเนิดว่าจะต้องเป็นเจ้าเมืองคนต่อไป หน้าที่อันหนักหนาที่ทำให้เด็กชายคนหนึ่งกลายเป็นคนเลือดเย็นและเฉยชากับทุกสิ่งรอบกาย ยกเว้นแต่เธอผู้นี้....คนคนแรกที่เด็กชายยอมเปิดใจให้....



 “ ข้าให้ชื่อเขาว่า ...ฮายาโตะ.... สายลมอบอุ่นที่จะเป็นของเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น   สัมผัสนุ่มนิ่มที่ขยับไหวเล็กน้อยบนหน้าท้องที่มือเล็กสัมผัสได้นั้นช่างน่าแปลกประหลาด ราวกับมีสายใยบางเบาที่มองไม่เห็นขยับไปมาอยู่รอบๆมือและค่อยๆลุกลามตามแขนข้างซ้ายขึ้นมาถึงส่วนที่อยู่บนหน้าอก



รักเขาเหมือนที่เจ้ารักข้า...สัญญากับข้าสิ    ใบหน้าเล็กพยักหน้ารับ....นั่นคือพันธะสัญญาที่พันธนาการหัวใจของเขามาตลอด...เพราะหลังจากวันนั้น.....












เสียงสาวใช้วิ่งกันให้วุ่นอยู่ที่หน้าห้องห้องหนึ่งในตำหนักชั้นในสุด บ้างถือผ้าบ้างถืออ่างน้ำร้อนผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปด้านในห้อง ใบหน้าคมของเด็กชายผมดำเริ่มกระสับกระส่ายหลังจากมองไปที่หน้าห้องครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่มีเรื่องที่น่ายินดีออกมาบอกเสียที....และยิ่งเวลาผ่านไปมากแค่ไหนร่างกายของเด็กชายก็ยิ่งร้อนลนเพราะเริ่มจะเป็นห่วงพี่สาวคนสำคัญที่อยู่ด้านใน ว่าที่เจ้าเมืองคนต่อไปในวัยยังไม่ถึงสิบขวบเดินไปเดินมาอยู่ที่หน้าห้องที่อยู่ถัดไป ใจนั้นอยากจะเข้าไปอยู่เคียงข้าง แต่เขานั้นเป็นผู้ชายจึงไม่อาจทำได้



แว่วเสียงสวดอ้อนวอนต่อเทพคุ้มครองดังมาจากห้องที่อยู่ถัดออกไป...ผู้ทำพิธีจากศาลเจ้ากำลังทำพิธีสวดให้เทพคุ้มครองให้พี่สาวของเขาคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย เสียงสวดหยุดลงและเริ่มต้นบทใหม่วนไปเรื่อยๆ แต่กระนั้นห้องที่อยู่ตรงหน้ากลับยังไม่มีแม้แต่เสียงที่แสดงถึงชีวิตใหม่แต่อย่างใด สองมือเล็กของ ฮิบาริ เคียวยะ ยกขึ้นมากอบกุมกันอยู่ด้านหน้า เหงื่อเริ่มเกาะพราวอย่างลุ้นระทึก เสียงฝีเท้าเดินวนไปวนมาและรังสีดำทมึนทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้



แต่เสียงแปลกๆของใบไม้แห้งทำให้ใบหน้าคมหันควับพร้อมกับทอนฟาที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ยกขึ้นมาเตรียมจัดการใครก็ตามที่คิดจะมาก่อกวน แต่สิ่งที่วางอยู่บนพื้นระเบียงทำเอานัยน์ตาสีดำเบิกกว้าง...



......SNOWDROP……



.......นี่น่ะ....คือดอกไม้ที่จะบานเป็นชนิดแรกของฤดูใบไม้ผลิ...มันหมายถึงความหวัง...เพราะไม่ว่าอากาศจะเลวร้ายแค่ไหน มันก็จะยังคงแย้มบานเป็นดอกแรก...เหมือนความหวังที่จะเริ่มผลิบานไม่ว่าจะเจอเรื่องเลวร้ายแค่ไหน...



คำพูดของพี่ชายที่เคยพูดถึงเจ้าดอกไม้ที่เชื่อมโยงพวกเขาเอาไว้ดอกนี้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มลอยเข้ามาอยู่ในหัว....ดอกไม้แห่งความหวังอย่างนั้นหรือ.....




และแล้ว....เสียงของเด็กทารกก็ดังแว่วเข้ามาในหู.....




เสียงแห่งชีวิตใหม่ร้องดังขึ้นท่ามกลางความเครียดและกดดัน....ในที่สุดเด็กน้อยก็ถือกำเนิดขึ้นมาให้ใบหน้าคมหันกลับไปมอง ภายในใจนั้นเต้นระรัว....ดอกไม้สีขาวดอกน้อยที่อยู่ในมือนั้นเอนไหวตามสายลมอย่างอ่อนโยน....เหมือนความหวังที่จะเริ่มผลิบานไม่ว่าจะเจอเรื่องเลวร้ายแค่ไหน...



ก่อนที่จะเดินกลับไปตามเสียงร้อง สายตาสอดส่ายหาร่างเล็กๆที่คงจะเป็นคนนำมันมาวางไว้ตรงนี้แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา....ขอบใจเจ้าจริงๆ....สึนะโยชิ





.................................................................................................................................................................





ว่าที่เจ้าของแผ่นดินสีดำยังคงขลุกตัวอยู่กับเด็กน้อยที่เพิ่งจะคลอดออกมาเดือนกว่าๆ ดวงตาสีมรกตใสแจ๋วที่จ้องมองมานั้นราวกับลูกแก้วที่แสนงดงาม ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่มีเบื่อ เด็กชายผมดำหันไปมองรอบๆกาย...บัดนี้มีเพียงเขาและเด็กน้อยอยู่กันตามลำพัง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสายตาที่ใครจะมองมา นิ้วของเด็กชายสัมผัสลงไปที่แก้มนิ่ม ก่อนที่จะเลื่อนลงไปให้นิ้วเล็กๆของเด็กน้อยกำเอาไว้ สัมผัสอ่อนนุ่มที่ถูกส่งมานั้นทำให้หัวใจกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด ใบหน้าที่ไม่เคยยิ้มแย้มกลับอมยิ้มน้อยๆเมื่อมองไปที่เด็กน้อยที่กำลังร้องอ้อแอ้.....ข้าสัญญา....ว่าข้าจะรักเจ้า...เหมือนกับที่รักท่านแม่ของเจ้า



เสียงเลื่อนเปิดประตูดังขึ้นก่อนที่ท่านหญิงแห่งโกคุเดระจะเดินเข้ามาพร้อมด้วยใบหน้าสวยยิ้มแย้มให้เด็กชาย



“ ได้เวลาฮายาโตะกินนมแล้วจ้ะ...เคียวยะออกไปรอข้างนอกก่อนนะ”       ใบหน้าของเด็กชายผมดำพยักหน้าก่อนจะละมือออกมาจากนิ้วเล็กๆ....ช่วงเวลานี้ของทุกวัน เขาเองก็มีสิ่งที่ต้องไปทำเช่นกัน



ว่าที่เจ้าของแผ่นดินสีดำเดินลัดเลาะไปตามชายป่า....เขาเลือกที่จะไม่ใช้เส้นทางที่ตัดผ่านหมู่ตำหนักเหมือนกับพี่ชาย เพราะไม่อยากให้ร่างเล็กๆนั่นจับได้ว่าเขาแอบมาจากทางไหนและเมื่อใด....



วันนี้ที่บันไดศาลเจ้าก็ยังคงมีดอกไม้ดอกน้อยสีขาววางอยู่...แต่ที่แปลกไปกว่าเดิมคือกระดาษแผ่นเล็กๆแผ่นหนึ่งซึ่งมีตัวหนังสือโย้เย้อยู่สองสามตัว



“ มุคุโร่เป็นอย่างไรบ้าง....”



เขากลับมาที่ตำหนักแล้วนั่งอยู่หน้าโต๊ะเขียนหนังสือก่อนจะหยิบพู่กันขึ้นมาเขียนตอบกลับไปสั้นๆด้วยลายมืองดงาม



“ ไปถึงปราสาทกล้วยไม้ขาวเรียบร้อยแล้ว สบายดี”



และกระดาษแผ่นนี้จะถูกวางไว้ที่บันไดศาลเจ้าในวันถัดไป.....





...........................................................................................................................................................................





การสื่อสารในรูปแบบที่คนปกติคงไม่ทำกันนั้นทำให้ร่างเล็กได้รับรู้ข่าวคราวความเป็นอยู่ของคนที่ตนรักมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ข้อความจะถูกส่งกลับมาสั้นๆแต่อย่างน้อยมันก็ยังดีกว่าการรอคอยที่ไม่รู้อะไรเลย....



วันเวลาล่วงเลยผ่านไปเรื่อยๆ จากฤดูใบไม้ร่วงเริ่มย่างเข้าสู่ฤดูหนาว....ท่านหญิงแห่งโกคุเดระยังคงพักอยู่ที่นามิโมริเพราะร่างกายหลังจากที่คลอดยังคงอ่อนแอเกินไป นางป่วยด้วยพิษไข้จนต้องให้คนของศาลเจ้าเข้าไปทำพิธีปัดเป่าให้ที่ตำหนักบ่อยๆ และเขาเองก็จะติดตามไปด้วยในฐานะคนถือของ



วันนี้เสียงสวดก็ยังดังอย่างต่อเนื่อง...



มือเล็กๆวางดอกไม้สีขาวลงที่พื้นระเบียงเมื่อเห็นว่าเด็กชายในชุดสีดำกำลังเดินมาทางนี้ ก่อนที่ร่างเล็กจะหายตัวไป...ฮิบาริ เคียวยะ คงจะไม่รู้หรอกว่าเขามองเห็น ว่าเขารู้จักหน้าค่าตาของอีกฝ่าย....



เด็กชายผมสีน้ำตาลลอบมองเข้าไปยังตำหนักที่ร้างไร้ใครอาศัย...ทุกๆครั้งที่ได้เข้ามาที่ตำหนักชั้นใน เขามักจะแอบมาที่นี่อยู่เสมอ....สัญลักษณ์เลขหก....ที่ติดอยู่ที่ประตูรั้วทำให้รู้สึกราวกับว่ามุคุโร่ยังคงอยู่ใกล้ๆ....ทั้งๆที่ความจริงแล้วแสนจะห่างไกล....ห่างไกลเสียจนบางทีเขาก็อดคิดไปไม่ได้ว่า เราคงไม่อาจจะได้พบกันอีก.....เพราะถึงจะได้รู้จากเด็กชายผมดำว่ามุคุโร่ยังคงสบายดี แต่ทว่า เขากลับไม่อาจจะรู้ได้เลยว่ามุคุโร่ใช้ชีวิตอยู่อย่างไร เป็นที่รักของใครๆหรือว่าโดนชิงชังรังเกียจ ขึ้นชื่อว่าตัวประกันแล้วคงไม่ได้รับการปฏิบัติด้วยดีนักหรอก....เขาได้แต่นั่งถอนหายใจอยู่ที่ข้างรั้ว....ถอนหายใจให้กับความไร้กำลังของตัวเอง....ทั้งๆที่รักทั้งๆที่ห่วง แต่ก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้เลย....



แว่วเสียงคนคุยกันอยู่ที่ด้านในตำหนักของมุคุโร่ นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้จึงแอบมองเข้าไปตามช่องของรั้ว แลเห็นสาวใช้สองสามคนกำลังทำความสะอาดสวนกันอยู่พรางพูดคุยเกี่ยวกับเจ้าของตำหนัก....ถ้อยคำที่ได้ยินล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่คนพวกนั้นคาดเดาเหมือนกับที่เขากำลังคิดอยู่...แต่ทว่า.....กลับมีอยู่ประโยคหนึ่งซึ่งจนป่านนี้เขาเพิ่งจะเคยรับรู้



.....เจ้าของแผ่นดินสีขาว...เป็นคนเรียกร้องโดยเจาะจงว่าต้องเป็นมุคุโร่เท่านั้นที่จะต้องไปเป็นตัวประกัน....และนามของเขาผู้นั้นก็คือ.....เบียคุรัน...



คิ้วของใบหน้าน่ารักเริ่มจะขมวดติดกัน ร่างเล็กนั่งลงที่เดิมพรางเอนหลังแนบไปกับกำแพง ใบหน้าของชายที่ชื่อเบียคุรันลอยเข้ามาอยู่ในหัว...แต่สิ่งเดียวที่เขากลับจำได้ดีกว่าอย่างอื่น คือสายตาและความรู้สึกบางอย่างที่ชายคนนั้นมีต่อมุคุโร่....เขารู้ เขาเข้าใจสายตาแบบนั้นดี....เพราะมันช่างเหมือนกับสายตาที่เขามองมุคุโร่เช่นกัน....



มือเล็กกำแน่น.....



ถ้าเป็นชายคนนั้นคงไม่ได้ต้องการแค่ตัวประกัน.....



แต่คงจะต้องการครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างของตัวประกันอย่างมุคุโร่มากกว่า....







แล้วจะให้ข้าทำอย่างไร.....ในเมื่ออีกฝ่ายนั้นมีอำนาจและกำลังมากกว่า....ข้ามองไม่เห็นหนทางที่เราจะได้กลับมาพบกันอีกครั้งได้เลย...มุคุโร่....




.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

โปรดติดตามตอนต่อไป....ไป......ไป......




ปาดเหงื่อ...ในที่สุดก็ได้เอามาลงซักทีกับตอนย้อนอดีตอีกสองตอนสุดท้ายที่เหลือ...ว่าแต่งงกันไหมคะที่เอามาลงได้มั่วขนาดนี้ ฮ่าๆ

ก็แหม...วันนี้เป็นวันเกิดคนสำคัญของเรื่องรีบอร์นนี่นา ข้าพเจ้าก็เลยอยากมาร่วมแฮปกับเค้าด้วย อิอิ (ได้ข่าวว่าตอนวันเกิดป๋าแซนอินี่ก็ลืมแฮปทั้งๆที่ลงฟิกวันนั้น = =”)

สุขสันต์วันเกิดค่ะ อ.อามาโนะขา....>/////<....มีเรื่องจะสารภาพว่าเค้าตกหลุมรักอาจารย์มานานแล้ว เพราะงั้นปีนี้ก็ขอให้ก๊กมีบทเยอะๆและสวยวันสวยคืนยิ่งๆขึ้นไปอีกนะค้า....(นี่มันคำอวยพร? หรือว่าขอพรวะคะ?....ก็แหม...อ.อามาโนะขาคือพระเจ้าของเค้านี่นา >w<) ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงช่วยคุ้มครองให้ อ. มีสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วย มีเรี่ยวมีแรง(เขียนรีบอร์นให้เราอ่านกันต่อไป)มากมายมหาศาลเลยนะคะ....ขอให้มีความสุขมากๆของมากๆของมากๆค่ะ!!!

และ...

สุขสันต์วันเกิดรีบอร์นคุง        พระเจ้าอีกคนของการ์ตูนเรื่องนี้ ฮ่าๆๆ มีความสุขมากๆโตไวๆ(หื๋อ?)จะได้เอาหน้าหล่อๆมาให้เราโฮกฮากกันต่อไป ฮี่ๆ


และพรุ่งนี้พลาดไม่ได้เลยสินะ คุฟุฟุ....

เชิญร่วมแฮปทูน่าแบบดราม่าๆใน....ความหวังครั้งสุดท้าย (-01)....วันพรุ่งนี้ที่นี่เวลาเดิม(?)....กับบทย้อนความหลังตอนสุดท้ายแล้วค่ะ ^ ^

ขอบคุณค่า.....



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น