KHR Au S.fic [805980] มือข้างนั้น ขอให้ฉันได้ไหม


เห็นชื่อเรื่องแล้วอย่าเพิ่งคิดว่ามันจะเป็นฟิกซาดิสแต่อย่างใด (ประมาณว่า...มือข้างนั้น ตัดมาให้ฉันซะดีๆ....อะไรแบบนี้ไม่ใช่นะ!) ถึงแม้ว่าเจ้าของวันเกิดอาจจะผิดหวังอยู่เล็กๆก็ตาม กร๊ากกกก (รู้หรอกน่า...ว่าใจจริงพี่โก้อยากอ่านฟิกแบบนั้น...แต่พี่สาวคนสวยแต่งฟิกซาดิสไม่เป๊น วะฮะฮะ)
  

[AuS.Fic][805980]     มือข้างนั้น ขอให้ฉันได้ไหม  

: KHR Fanfiction Au
: 805980
: Romance Dark Drama   
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายเล็กน้อย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ









ยามาโมโตะ.......

ไม่ว่าใครในโรงเรียนม.ปลายนามิโมริแห่งนี้ก็รู้จักดี ในฐานะมือหนึ่งของชมรมเบสบอล....

รูปร่างสูงสมส่วนและใบหน้าหล่อเหลาคมคายจึงไม่ยากเลยที่จะเป็นที่หมายตาของสาวๆทั่วโรงเรียน…..

นิสัยร่าเริงกับรอยยิ้มสดใสที่มีให้กับทุกคนแบบนั้น มันก็ไม่ยากเลยที่จะมีเพื่อนฝูงรายล้อมมากมาย....

แต่จะมีใครรู้บ้างไหม....ว่าภายใต้หน้ากากที่เป็นมิตรพวกนั้น....มันจะซุกซ่อนอีกด้านที่ดำมืดจนมองไม่เห็นสิ่งใดเอาไว้.....






แล้วทำไม....

คนที่จะต้องมารับรู้ความมืดมนของหมอนั่น....

คนที่จะต้องถูกทำร้ายด้วยสายฝนเย็นเฉียบพวกนั้น.....

ถึงต้องเป็น.............ผม






..................................................................................................................................................






เสียงพื้นรองเท้าเสียดสีไปกับโถงทางเดินไร้ผู้คน ร่างสองร่างเดินอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็นที่ฉาบไล้ทุกอย่างให้กลายเป็นสีส้ม แม้แต่เส้นผมสีเงินของคนที่เดินอยู่ตรงหน้าก็เช่นกัน นัยน์ตาสีเปลือกไม้ซึ่งเคยสดใสร่าเริงอยู่เสมอกลับมีแววของความสั่นไหว มือใหญ่เอื้อมออกไปก่อนที่จะฉุดรั้งข้อมือเล็กของโกคุเดระเอาไว้



ให้ร่างของทั้งคู่หยุดลงท่ามกลางความเงียบงัน.....



“ เย็นนี้.....ฉันอยากให้นายไปด้วย....”       นัยน์ตาสีเปลือกไม้มองใบหน้านิ่งของคนตรงหน้าด้วยสายตาเว้าวอน  เขารู้...ว่าโกคุเดระรู้ดีว่าสิ่งที่เขาพูดหมายถึงอะไร ....เขารู้...ว่าโกคุเดระรู้ดีว่าความรู้สึกที่เขามีให้มันไม่เหมือนกับที่เขามีให้คนอื่น เพราะทุกการกระทำของเขามันแสดงออกอย่างชัดเจน



“ ชั้นไม่ว่าง”     ข้อมือเล็กสะบัดมือของเขาออกก่อนที่ร่างบางๆจะหันหลังแล้วเดินจากไป  เขาได้แต่ยืนมองแผ่นหลังเล็กนั่นเดินหายไปกับแสงสีส้มของดวงอาทิตย์อย่างช้าๆ ขาทั้งสองข้างหมดแรงจะก้าวเดินตามไป



เขารู้...ว่าโกคุเดระรู้ดีทุกอย่าง......แต่กลับเป็นเขาเอง....ที่ไม่รู้เลยว่าโกคุเดระคิดอย่างไรกันแน่....เพราะไม่ว่าเขาจะแสดงออกไปยังไงอีกฝ่ายก็ไม่เคยตอบสนองสิ่งใดกลับมา...















ร่างทั้งร่างพยายามเดินต่อไปให้ปกติที่สุดทั้งๆที่ใจนั้นหลุดลอยไปไกล แผ่นหลังเล็กหยุดนิ่งแล้วเอนพิงไปกับผนังตึก มือข้างที่เคยถูกจับเอาไว้ด้วยมือคู่ใหญ่นั่นยกขึ้นทาบที่แผ่นอก  แรงสั่นสะเทือนจากหัวใจยังคงเต้นระรัว  ความร้อนผ่าวบนใบหน้ายังคงชัดเจน



“ เย็นนี้.....ฉันอยากให้นายไปด้วย....”        ดีใจ....ที่ได้ยินคำคำนี้ 



“ ชั้นไม่ว่าง”     นั่นไม่ใช่คำตอบที่อยากจะตอบออกไป....แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถที่จะทำให้ปากตรงกับใจของตัวเองได้



เพราะไม่เคย.....ถูกรัก......



เลยไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไร จะยื่นมือไปให้หรือจะตอบสนองยังไง....ไม่เคยรู้เลย....














แสงไฟทำให้ที่หน้าร้านดูสว่างไสว ป้ายร้านทาเคซูชิมีกระดาษแผ่นเล็กติดเอาไว้ว่า “วันนี้ปิดบริการ” ทั้งๆที่ในร้านมีเสียงเฮฮาดังลอดออกมาไม่ขาดสาย นัยน์ตาสีเปลือกไม้เหลือบขึ้นมองไปที่ชั้นสองของร้านก่อนจะค่อยๆไล่สายตาลงมาเรื่อยๆ



“ เฮ้ย...มายืนทำอะไรตรงนี้วะ วันนี้นายเป็นเจ้าภาพนะเว้ยยามาโมโตะ!      แขนแข็งแรงของนักเรียนชายคนหนึ่งพาดมาที่หัวไหล่ เขาจึงทำแค่หันไปยิ้มก่อนจะโบกมือให้อีกฝ่ายเข้าไปในบ้าน



ใช่....เขามาทำอะไรอยู่ตรงนี้......



ในเมื่อวันนี้เป็นวันฉลองชัยชนะของทีมเบสบอลนามิโมริ....



เงาใครสักคนพาดผ่านมาที่ถนนทำให้เขาหลบเข้าไปที่หลังต้นไม้ สายตาพลันเบิกกว้างเมื่อมองเห็นว่าเงานั้นเป็นของใคร.....













เงาเล็กบางตกกระทบอยู่ที่บานประตู  นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองไปรอบกาย ป่านนี้แล้วทุกคนคงจะเข้าไปในร้านเพื่อดื่มฉลองให้กับชัยชนะกันหมดแล้ว เขาที่มาเอาป่านนี้คงไม่ต้องหวังว่าเจ้าของบ้านจะยังคงยืนรอต้อนรับอยู่



ร่างบางเดินวนไปวนมาอยู่ที่หน้าร้าน....ไม่ได้อยากจะเข้าไป...ก็แค่อยากมาแสดงความยินดีด้วยก็เท่านั้น



ใบหน้าสวยเงยหน้ามองที่ชั้นสองของร้านก่อนจะไล่สายตาลงมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่ประตูร้านด้วยแววตาสั่นไหวพอๆกับหัวใจที่เต้นระรัว



ขาเรียวก้าวเดินเข้าไปหามันอย่างช้าๆ มือยกขึ้นไปทาบอยู่ที่ประตูเนิ่นนาน แต่จนแล้วจนรอดก็ดึงมันกลับมาไว้ที่ข้างลำตัวเหมือนเดิม



“ ยะ...ยินดีด้วยนะ”      เสียงแผ่วเบาเอ่ยบอกกับประตูก่อนที่ร่างบางจะหันหลังแล้วเดินจากไป















ร่างสูงมือหนึ่งของชมรมเบสบอลยกถาดอาหารมาวางไว้บนโต๊ะ เวลาล่วงเลยผ่านไปจนอาหารนั้นแทบจะไม่เหลือหรอ ใบหน้ายิ้มแย้มของทุกคนทำให้เขาพลอยยิ้มไปด้วย แต่รอยยิ้มก็พลันหายไปเมื่อนึกถึงใครบางคน...



รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่หมั่นเดินออกมาดูที่หน้าร้าน  แต่มันก็มีเพียงความว่างเปล่า ไร้เงาของคนที่เขาหวังว่าจะเจอ



แล้วนายก็ไม่เข้ามา.....



ชั้นควรจะตัดใจ หรือควรจะใช้กำลังบังคับให้นายเป็นของชั้นดีนะ โกคุเดระ...



มือใหญ่กำหมัดแน่นด้วยระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ในจิตใจ...ไม่ได้อยากจะให้เป็นแบบนี้เลย ไม่อยากให้นายได้เห็นว่าตัวตนที่แท้จริงของฉันมันน่ารังเกียจขนาดไหน...แต่บางที...นี่อาจจะเป็นหนทางสุดท้ายที่จะได้ตัวนายมา....



ขายาวก้าวเดินออกไป....ด้วยการตัดสินใจที่แน่วแน่.....














ฉันหลงใหลในดวงตาสีมรกตที่งดงามราวกับอัญมณีของนาย.....ฉันหลงใหลในเส้นไหมสีเงินที่พลิ้วไหวไปตามสายลมของนาย....ฉันหลงใหลในรูปร่างบอบบางและผิวสีขาวราวกับน้ำนมของนาย.....ฉันหลงรักนายตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ทั้งๆที่นายเป็นใครฉันก็ไม่รู้จัก



ฉันเฝ้ามองนายมาตลอดโดยที่นายคงจะไม่รู้ตัว....



ฉันอยากได้ความรักของนายแต่โดยดี....แต่สิ่งที่นายเฝ้ามองอยู่กลับไม่ใช่ฉัน....



จนในที่สุดความอดทนของฉันมันก็จบสิ้นลง...



หากสายตาของนายจะสนใจฉันบ้าง....ฉันก็คงไม่คิดที่จะทำแบบนี้.....



มือที่เคยจับแต่ดาบไม้เคาะลงไปที่บานประตู ไม่นานเสียงที่ฟังดูแล้วติดจะรำคาญก็ขานรับพร้อมกับบานประตูที่เปิดออก ใบหน้าของเจ้าของห้องมีแววประหลาดใจ นัยน์ตาสีมรกตมองมาที่เขาอย่างสงสัย ก่อนที่จะทักออกมาว่า....













“ ยามาโมโตะ?....ทำไมแก.......”       ทำไมแกถึงมาอยู่ที่นี่....ทั้งๆที่ตอนนี้แกน่าจะยังฉลองกับเพื่อนๆอยู่ที่ร้านไม่ใช่หรอ?



ใบหน้าคมที่รู้จักดีทำให้เขาประหลาดใจไม่ใช่น้อยเมื่อเปิดประตูห้องออกมาแล้วปรากฏว่าร่างสูงยืนอยู่ตรงนั้น รอยยิ้มถูกส่งมาให้ตามปกติถึงแม้วูบหนึ่งจะดูต่างไป....เช่นเดียวกับหัวใจของเขาที่นอกเหนือจากความประหลาดใจแล้วมันยังมีอีกความรู้สึกหนึ่งที่แอบแฝงเคลือบแคลงเข้ามา.......ดีใจ



“ ฮายาโตะ.....”       เสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกชื่อเขาตรงๆนั้นทำให้เผลอมองหน้าอีกฝ่ายอย่างสงสัย มือใหญ่ของยามาโมโตะจับมาที่ข้อมือของเขาก่อนจะดันตัวเราทั้งคู่เข้ามาในห้องอย่างสมบูรณ์



“ จากนี้ไปฉันจะเรียกนายว่า ฮายาโตะ”      อะไรบางอย่างในแววตาของดวงตาสีเปลือกไม้นั่นเปลี่ยนไป....จากความสดใสมันกลับมืดมนจนมองไม่เห็นอะไร



“ แกเป็นบ้าอะไรของแก ไอ้บ้าเบสบอล!



“ เรียกฉันว่ายามาโมโตะ....”      เสียงทุ้มที่ได้ยินเป็นประจำกลับออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงนิ่งสนิท มือใหญ่บีบลงมาที่ข้อมือจนรู้สึกเจ็บ



“ อะ....อะไรของแก...โอ้ย!      แรงบีบที่ข้อมือเพิ่มมากขึ้นจนเผลอนิ่วหน้า ก่อนแรงมหาศาลจะลากตัวเขาจนก้าวเดินตามไปแทบไม่ทัน รู้สึกตัวอีกทีก็โดนเหวี่ยงลงมาที่เตียงของตัวเองไปแล้ว....เกิดอะไรขึ้นกับหมอนี่?....จะว่าเมาแต่ก็ไม่ได้กลิ่นของเหล้าเลยสักนิด



“ ฮึ...”      เสียงหัวเราะในลำคอเปล่งออกมาพร้อมกับใบหน้ายิ้มร้ายอย่างที่เขาไม่เคยเห็น แรงกดทับที่ต้นขาทำให้รู้ว่าหมอนี่กำลังก้าวคร่อมเขาอยู่    



“ ฉันเบื่อที่จะเล่นละครเป็นคนดีเพื่อรอนายแล้วละ ฮายาโตะ....นายควรจะดีใจนะ ที่ฉันเลือกนาย....”       อะ....อะไรกัน.....สิ่งที่ได้ยินจากปากของคนที่มอบความรู้สึกดีๆให้นั้นทำเอาหัวใจชาวาบ....เกิดอะไรขึ้น? ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็จับต้นชนปลายไม่ถูก.....



“ หมายความว่ายังไง....แกพูดอะไรของแก ฉันไม่เข้าใจ....”      สองแขนแข็งแรงทิ้งน้ำหนักยันกับพื้นนุ่มของเตียงเพื่อกักขังเขาเอาไว้ให้อยู่ใต้อาณัติ ใบหน้าคมที่ก้มลงมามองนั้นราวกับไม่ใช่คนรู้จัก ความอ่อนโยนนั้นหายไป ความสดใสนั้นไม่มีอยู่.........ทำไม....เกิดอะไรขึ้นกันแน่?



“ ฮะฮะ....นายนี่มันไร้เดียงสาดีนะ......ฉันก็แค่ชอบหน้าสวยๆของนาย ชอบรูปร่างของนาย แล้วก็แค่พยายามทำทุกอย่างให้นายชอบฉัน เพื่อให้ได้ครอบครองร่างกายของนายไงล่ะ....แต่ว่านายนี่ก็เล่นตัวเป็นบ้าเลยน้า...ฉันเบื่อที่จะรอแล้วละ”        ถ้อยคำที่พูดออกมามีแต่จะยิ่งทำให้สับสน....ไม่จริงใช่ไหม....มันไม่จริง....ใช่ไหม....



มือใหญ่ฉีกกระชากเสื้อเชิ้ตจนขาดออกจากกัน สายตาโลมเลียที่มองมายังแผ่นอกเปลือยเปล่าของเขานั้นมันทำให้รู้สึก.......กลัว......



“ หยุดนะ! แกคิดจะทำอะไร!       มือของคนที่อยู่ด้านบนปลดตะขอกางเกงของเขาก่อนจะพยายามกระชากมันออก ตอนนี้เริ่มรู้สึกถึงอันตรายจะร่างกายของชายตรงหน้านี้แล้ว...ไม่ใช่...หมอนี่ต้องไม่ใช่ยามาโมโตะที่เขารู้จัก....คนคนนั้นไม่มีวันทำแบบนี้......มันต้อง......ไม่ใช่......



“ ฮึ....”     มีเพียงรอยยิ้มถูกใจกับใบหน้าเย็นชาเท่านั้นที่ส่งกลับมา เสื้อผ้าทุกชิ้นที่อยู่บนร่างกายของเขาถูกกระชากออกไปจนหมด สองมือที่พยายามจะสู้ก็ถูกจับมัดเอาไว้กับหัวเตียง  ตอนนี้มีแต่ความตื่นตระหนกและหวาดกลัวต่อชายตรงหน้า ทั้งความสับสนทำให้เริ่มจะดิ้นรนให้รอดพ้นจากอะไรก็แล้วแต่ที่คนคนนี้คิดจะทำ เส้นผมสีดำระอยู่ที่ใบหน้าเมื่อยามาโมโตะก้มลงมาและเล็มอยู่ที่ลาดไหล่ของเขา



“ อึ๊ก”     เผลอสะดุ้งเมื่อจู่ๆก็ถูกกัดที่ซอกคอ ร่างทั้งร่างพยายามดิ้นต่อต้านเมื่อริมฝีปากถูกปิดด้วยปากของอีกฝ่ายในที่สุด



“ อื้ออออออ!      พยายามจะสะบัดหน้าหนีเมื่อรู้สึกเจ็บที่ช่วงล่าง อะไรบางอย่างสอดใส่เข้ามาที่ช่องทางด้านหลังที่ยังไม่ทันจะได้เตรียมพร้อมเลยสักนิด ข้อมือที่ถูกมัดขยับจนถูกบาดจนเลือดซิบ



“ ฮึ....”     แต่คนกระทำก็ยังคงยิ้มได้อยู่ รอยยิ้มที่ทำให้น้ำตาไหลลงไปเป็นทางด้วยไม่คิดว่า คนที่เชื่อใจจะทำกันได้แบบนี้....



........เพราะเชื่อใจถึงปล่อยให้เข้ามาใกล้....เพราะเชื่อใจจึงไม่ได้ระแวดระวังอะไร......

........แล้วแบบนี้.....เขาควรจะเอาความเชื่อใจนั้นไปไว้ที่ไหนดี........















มือบางเผลอกระชับกระเป๋านักเรียนเมื่อเดินเข้าสู่รั้วของโรงเรียน ทั้งๆที่เดินเข้าออกที่นี่มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่จะลำบากใจเท่าครั้งนี้.....



เพราะไม่รู้ว่าจะทำหน้ายังไง....เมื่อต้องเจอกับคนคนนั้น....คนที่ทำร้ายเขาจนสลบไปเมื่อคืน....



ตื่นขึ้นมาตอนเช้าที่ข้างกายก็ว่างเปล่าไร้เงาของผู้ใด มีเพียงร่องรอยบนร่างกายเท่านั้นที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ความเจ็บปวดที่แล่นลิ่วขึ้นมาจากช่วงล่างนั้นไม่เท่าที่ส่งตรงมาจากหัวใจ.....เจ็บ.....เพราะโดนทำร้ายจากคนที่ชอบ



แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังต้องฝืนสังขารลุกขึ้นมาโรงเรียน....วันนี้มีสอบย่อยซึ่งจะขาดไม่ได้.....ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าจะมองหน้ายามาโมโตะได้อย่างไรก็เถอะ



สนามเบสบอลคือที่ที่เขาตั้งหน้าตั้งตาเดินผ่านไปให้เร็วที่สุด แต่ก็ราวกับถูกพระเจ้ากลั่นแกล้ง เมื่อคนที่ควรจะอยู่ที่สนามเบสบอลดันมาเดินลอยชายอยู่ที่ลอคเกอร์สำหรับเปลี่ยนรองเท้า และตอนนี้เขาก็กำลังยืนเผชิญหน้ากับยามาโมโตะอยู่จนได้



“ อรุณสวัสดิ์...โกคุเดระ”         อะ....อะไรกันน่ะ.....สายตาและท่าทางเหมือนไม่อยากจะทักเขาแบบนั้น.....แล้วยังชื่อนั่นอีก....



“ อะ...เออ....”      เขาตอบไปได้เท่านั้นก่อนที่ใบหน้าคมจะยิ้มฝืนๆส่งมาให้ แล้วร่างสูงในชุดเบสบอลก็เดินจากไป



ไม่มี......

ไม่มีคำทักทายไร้สาระที่ส่งมาพร้อมกับรอยยิ้มสดใสเช่นทุกวัน.....

ไม่มีแขนแข็งแรงที่ชอบพาดมาที่ไหล่โดยไม่ได้รับอนุญาต.....

ไม่มีสายตาอ่อนโยนที่มองมาที่เขาพร้อมกับเงาสะท้อนเพียงหนึ่งเดียว......

ทำไม.....มันเกิดอะไรขึ้น......

ถ้าเป็นเพราะเรื่องเมื่อคืน.....นายก็น่าจะยิ้มร้ายกาจหรือส่งสายตาดำมืดเย็นชานั่นมาก็ได้....

แต่นี่มันไม่ใช่.....

สิ่งที่แกทำมันเหมือนกับว่า.....กำลังเมินฉันแบบนั้นแหละ.....






เจ็บแหะ.......

ที่หัวใจนี่น่ะ......








ชั่วโมงพละชั่วโมงนี้เป็นอะไรที่ยากลำบากที่สุดเท่าที่เคยเจอมา  ร่างกายที่แม้แต่จะเดินยังลำบากกลับต้องฝืนเพราะไม่อยากให้ใครรู้ นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองคนที่ทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้ด้วยความรู้สึกสับสน....ยามาโมโตะยังคงยิ้มแย้มให้กับคนอื่นๆด้วยท่าทางปกติ....แต่กับเขา.....วันนี้ทั้งวันหมอนั่นไม่เข้ามาใกล้เลยแม้แต่นิดเดียว



“ อย่ามัวแต่เล่นกัน ไปวอล์มรอบสนามได้แล้ว!     ครูพละตะโกนบอกก่อนที่นักเรียนชายที่แยกออกมาเรียนฟุตบอลจะเริ่มวิ่งเหยาะๆไปรอบสนาม เขาวิ่งตามออกไปเป็นคนสุดท้ายอย่างช่วยไม่ได้....แสงแดดที่ร้อนแรงวันนี้รู้สึกว่ามันเจิดจ้ากว่าปกติหรือเปล่านะ....เพราะยิ่งวิ่งเข้าหามันเท่าไหร่...สายตาของเขาก็มีแต่จะพร่ามัว   “เฮ้....เป็นอะไรรึเปล่า.....โกคุ..........เดระ.........”       เหมือนจะได้ยินใครร้องเรียกอยู่ในที่ที่ไกลแสนไกล....ก่อนจะไม่รับรู้สิ่งใดอีก.....










เขาเป็นลมล้มลงไปในชั่วโมงพละ.....



และในตอนนี้ที่รอบตัวกลายเป็นสีส้ม เขาก็กำลังลืมตาขึ้นมาท่ามกลางความเงียบเชียบ เพดานห้องสีขาวที่คุ้นตาเพราะมาที่นี่บ่อยๆ....ห้องพยาบาล.....และเมื่อหันไปมองที่ข้างเตียงใบหน้ารกไปด้วยหนวดเคราของเจ้าชามาลก็ยิ้มอย่างเหนื่อยหน่ายมาให้ตามปกติ



“ ชั้นมาอยู่นี่ได้ไง?”    



“ ห๋า?...มันก็ต้องเป็นไอ้ครูพละนั่นหิ้วมาน่ะสิ จะมีใครได้...”      นั่นสินะ...จะมีใครได้......นี่เขากำลังหวังให้เป็นใครอย่างนั้นหรือ?



“ ถ้าหายแล้วก็รีบๆกลับบ้านไปได้แล้ว แกรู้ไหมว่าชั้นต้องยกเลิกนัดไปกี่คนตอนที่ต้องนั่งเฝ้าแกอยู่นี่น่ะ”      เจ้าหมอประจำห้องพยาบาลยังคงบ่นกวนประสาทไปตามเรื่องตามราว แต่เขาก็ไม่มีแรงจะต่อล้อต่อเถียงด้วยอย่างที่ทำเป็นประจำ จึงได้แต่ลุกขึ้นเดินออกจากห้องมาอย่างช้าๆ ให้คนที่เอาแต่ยืนบ่นมองตามมาด้วยดวงตาประหลาดใจ



“ ฮายาโตะ!      เสียงเรียกของเจ้าชามาลนั่นแต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาหันกลับไป



“ ร่างกายของแกมันแย่กว่าที่คิดนะ....ดูแลตัวเองซะบ้าง.....”       เสียงค่อยๆจางหายไป...เหมือนกับตัวเขาที่ไม่คิดจะสนใจอะไร.....














มือหยิบกุญแจขึ้นมาไขก่อนจะตรงดิ่งเข้าไปในห้องแล้วทิ้งตัวลงกับที่นอน ความสับสนเพราะคนคนหนึ่งมันทำให้สมองที่เอาแต่ขบคิดมาทั้งวันเริ่มจะเหนื่อยล้า เปลือกตาจึงปิดลงได้อย่างง่ายดาย ทุกๆอย่างจมลึกสู่ความมืดมิดอีกครั้ง



จนกระทั่งสัมผัสเปียกแฉะแตะต้องลงมาที่ซอกคอทำให้ลืมตาตื่นจากนิทราอย่างช่วยไม่ได้ น้ำหนักกดทับที่อยู่บนแผ่นหลังทำให้พยายามพลิกตัวกลับอย่างรวดเร็ว และเมื่อมองเห็นใบหน้าของคนที่บุกเข้ามาในห้องของเขาแล้วก็ต้องเบิกตากว้าง



ยามาโมโตะ!!!



จากสายตาที่เมินเฉยต่อเขามาทั้งวันแต่ตอนนี้มันกลับมาส่องประกายหิวกระหายและดำมืด มือใหญ่กดลงมาที่ข้อมือเขาให้ลำตัวแทบจะจมหายไปกับเตียงนุ่ม



เสียงเสื้อผ้าถูกฉีกขาดดังก้องอยู่ในโสตประสาท ความรุนแรงที่ยังจำได้ดีทำให้ร่างกายเริ่มจะสั่นระริก ไม่รู้ว่าตะโกนด่าอะไรออกไปบ้าง ไม่รู้ว่าฝ่ามือต่อต้านไปนานแค่ไหน แต่อีกฝ่ายก็แข็งแกร่งและด้านชาพอที่จะไม่รู้สึกอะไร......



ทุกสิ่งทุกอย่างจบลงด้วยรอยเลือดที่ต้นขาและคราบน้ำตาของเขาอีกครั้ง













เช้าวันนี้หมอนั่นไม่ได้หายไปไหน....



แต่ยังคงนอนกอดเขาเอาไว้หลวมๆ ใบหน้ายามหลับนั้นช่างแตกต่างจากตอนตื่น....แต่ตอนนี้เขาก็ไม่รู้แล้วว่า....ใบหน้าแบบไหน....คือใบหน้าที่แท้จริงของชายที่ชื่อ ยามาโมโตะกันแน่....



เขาพยายามผลักอ้อมแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแบบนักกีฬาออกไปให้พ้นตัว แต่นั่นก็เป็นการปลุกอีกฝ่ายให้ตื่นขึ้นมาด้วยเช่นกัน นัยน์ตาสีเปลือกไม้คู่นั้นมองมาที่เขาก่อนที่รอยยิ้มที่มุมปากจะปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ....ไม่น่าไว้ใจ.....เขาจึงตั้งท่าจะถอยหนี....แต่มือที่ราวกับรู้ดีนั่นก็จับที่ต้นแขนเอาไว้เสียก่อน  มือใหญ่อีกข้างกดลงมาที่ต้นคอให้ใบหน้าของเขาขยับเข้าไปหาใบหน้าคมก่อนที่ริมฝีปากจะแนบชิดซึ่งกันและกัน แล้วหมอนั่นก็ช่วงชิงอากาศไปจนเขาแทบจะหายใจไม่ทัน



Morning Kiss....”       เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่คงไม่มีใครเคยเห็น เขาสะบัดหน้าหนีและยกมือขึ้นมาถูริมฝีปาก.....ถ้าหากเป็นยามาโมโตะคนเดิม....เขาคงจะยินดีกับรอยจูบนี้แน่ๆ....แต่นี่ไม่ใช่......



“ ไสหัวกลับไปได้แล้ว!      หมอนใบใหญ่ถูกปาเข้าใส่ใบหน้าคมที่ยังคงยิ้มเย็น มือใหญ่กระชากแขนของเขาให้ลำตัวเซถลาไปปะทะแผงอกแข็งแกร่ง ปลายคางถูกยึดเอาไว้ด้วยมืออีกข้างก่อนที่ริมฝีปากของหมอนั่นจะประทับลงมาที่ริมฝีปากของเขา ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาควานหาความหวาน แต่จูบเอาแต่ใจนั้นก็ไม่ได้รับการต้อนรับเมื่อเขาผลักไสจนอีกฝ่ายยอมถอนลิ้นออกไป



นายตัวร้อนนี่ฮายาโตะ?       มือที่เคยยึดคางของเขาไว้ย้ายไปจับอยู่ที่หน้าผาก



“ ยาอยู่ที่ไหน?”     



“ ไม่ต้องมายุ่ง!     มือปัดมือใหญ่ออกไปจากหน้าผาก



“ ยา...อยู่ที่ไหน....”     เสียงทุ้มกดต่ำลงทำให้เขาเผลอสะดุ้ง.....ไม่อยากจะยอมรับว่ากลัว....แต่นิ้วก็ยอมชี้ไปที่ลิ้นชักแต่โดยดี



ยามาโมโตะลุกออกไปสวมกางเกงลวกๆ ก่อนจะกลับมาอีกครั้งพร้อมยาและน้ำอีกแก้ว นิ้วยาววางเม็ดยาลงที่ในปากของเขาก่อนจะยกแก้วน้ำตามมาให้  น้ำที่มากเกินไปไหลเอ่อล้นออกจากปากลงไปตามคางและลำคอ ใบหน้าคมจ้องมองปฏิกิริยานั้นด้วยดวงตานิ่งสนิท ขอบแก้วถูกละออกไปจากริมฝีปากของเขาก่อนที่ลิ้นของเจ้าคนตรงหน้าจะลากเลียหยดน้ำที่ปลายคาง  มือเขาผลักไหล่หนาทั้งที่รู้ว่าไม่ได้ผล



“ อื้อ”     มันกำลังจะเริ่มต้นอีกครั้ง....และอีกครั้ง.....เมื่อร่างทั้งร่างของเขาถูกหมอนั่นยกขึ้นไปนั่งบนตัก



“ อย่า...”     ทั้งพิษไข้ทั้งความรุนแรงที่ได้รับทำเอาสมองมึนเบลอจนไม่อาจรับรู้สิ่งใดได้อีก ทุกอย่างดูเหมือนจะเบาโหวงและขาวโพลนอีกครั้ง....












ความมืดโรยตัวลงมาอีกรอบ.....เขาหลับไปนานแค่ไหนกัน?.....



สัมผัสเปียกชื้นทำให้รู้สึกสบายตัวจนไม่อยากจะลืมตาขึ้นมา ใครบางคนกำลังเช็ดตัวให้เขาอย่างแผ่วเบา....



เสียงเปิดประตูทำให้เขาตัดสินใจเปิดเปลือกตาขึ้น....แผ่นหลังกว้างที่คุ้นตากำลังจะเดินหายออกไป.....



กับดาบไม้ไผ่ที่สะพายอยู่ที่หลัง.....



ทำไมไม่ใช่...........ไม้เบสบอล ?.....












สองวันที่ขาดเรียนไปด้วยพิษไข้ ทำให้ไม่รู้ว่าเจ้าคนสองหน้านั่นจะยังคงแสดงตัวว่าเป็นคนดีอยู่หรือเปล่า?



กลุ่มเพื่อนร่วมชั้นยืนพูดคุยเล่นหัวกันอยู่ที่ระเบียงทางเดิน ร่างสูงของยามาโมโตะก็อยู่ในนั้นด้วย เขาปั้นสีหน้าให้ปกติที่สุดแล้วเดินผ่านไป....ชั่วครู่ที่สวนกันนั้นไม่มีแม้แต่เสียงทักทายหรือแววตาที่มองมา.....ทำเหมือนเป็นคนไม่รู้จัก....ทั้งๆที่ทุกๆคืนกลับทำแบบนั้นกับเขา



สองมือกำหมัดแน่น.....



แกเห็นฉันเป็นตัวอะไรกันแน่.....ยามาโมโตะ....



แต่ถึงอย่างนั้นก็ได้แต่หันไปมองแผ่นหลังกว้างด้วยดวงตาที่เจ็บปวด....











คาบนี้เป็นคาบว่างที่ปล่อยให้ไปทำรายงานในห้องสมุด



เขายืนอยู่หน้าตู้หนังสือตู้นี้มาพักใหญ่ เงยหน้าขึ้นไปก็ได้แต่ลอบถอนหายใจในความเตี้ยของตัวเอง....แต่หากเป็นเมื่อก่อนคงมีมือของใครบางคนเอื้อมขึ้นไปหยิบมาให้ แล้ววางลงไปที่หัวของเขา....แต่ตอนนี้ที่ข้างกายนั้นว่างเปล่า....



“ ยามาโมโตะคุง! รบกวนนิด ช่วยหยิบเล่มนั้นให้หน่อยสิ”     เสียงของเด็กสาวที่อยู่ไม่ไกลทำให้ร่างของเขานิ่งชะงัก ใบหน้าหันเข้าหาตู้โดยไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบสายตาไปมอง...อย่างหมอนั่นต้องรู้แน่ว่าเขากำลังต้องการความช่วยเหลือ....แต่ไม่ว่าจะผ่านไปนานกี่นาที.....ที่ตรงนี้ก็ยังมีเพียงเขากับตู้หนังสือเพียงแค่นั้น........



ทำไม....เพราะอะไร.....มีแต่คำถามที่หาคำตอบไม่ได้ทั้งนั้น....














เสียงเสียดสีและร่างกายที่เหมือนจะตอบสนองอีกฝ่ายด้วยดีนั้นทำให้รู้สึกรังเกียจตัวเอง  ทั้งๆที่หัวใจปฏิเสธคนคนนี้แต่ร่างกายกลับขาดไม่ได้



“ อ๊ะ....อา......”        เสียงครางครั้งสุดท้ายเปล่งออกมาเมื่อร่างกายโดนกระแทกเข้าใส่ด้วยความหนักหน่วงและรุนแรง แขนแข็งแรงกอดไหล่เขาให้เข้าไปแนบชิดมากยิ่งขึ้น ทั้งๆที่ใช้กำลังบังคับ แต่ในบางครั้งกลับรู้สึกถึงความอ่อนโยนที่ดูเหมือนจะต่อต้านกันอยู่ในภายในใจของหมอนั่นเอง รุนแรงกับเขาแต่ก็ยังมอบอ้อมกอดและจุมพิตที่อบอุ่นมาให้



ร่างทั้งร่างได้แต่ทรุดลงนอนหมดแรงอยู่บนเตียง ใบหน้าตะแคงมองร่างสูงที่ลุกขึ้นสวมเสื้อผ้ากลับไปเหมือนเดิม....ยามาโมโตะไม่เคยมาที่นี่ในชุดนักเรียน....ทั้งๆที่น่าจะซ้อมเบสบอลจนเย็นแต่ก็ยังอุตส่าห์กลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า....แกไม่อยากให้ใครรู้เรื่องของเราขนาดนั้นเลยหรอ?



ร่างสูงมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าเตียงก่อนจะคุกเข่าลงไปที่พื้น มือใหญ่เชยคางเขาขึ้นก่อนจะก้มลงมาจูบเอาแต่ใจ



“ ราตรีสวัสดิ์ฮายาโตะ”      แล้วร่างสูงก็เดินออกไป ทิ้งไว้เพียงความเงียบและบานประตูที่ปิดลง



นัยน์ตาสีมรกตเหม่อมองไปในอากาศที่ว่างเปล่า....เขารู้แล้วว่าหมอนั่นมาที่นี่ก็เพื่อมีเซ็กซ์ เสร็จแล้วก็กลับไป....ก่อนหน้านี้ที่พยายามทำให้เขารักก็เพื่อจะได้ใช้ร่างกายของเขาได้อย่างเปิดเผยงั้นสินะ....แต่ในเมื่อมันไม่ได้ดั่งใจ เลยใช้วิธีนี้แทน...





กลางวันเราคือคนที่ไม่รู้จักกัน....

แต่กลางคืนฉันก็จะถูกใช้เพื่อสนองอารมณ์ของนาย....





สองมือยันร่างกายให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะเหม่อมองออกไปที่ท้องฟ้ายามราตรีที่มีแต่ดวงดาว....



สิ่งที่เรียกว่าความรักมันไม่มีอยู่จริง....เพราะอย่างนั้นฉันก็จะทิ้งมันไป.....










พอกันที.....














ไม่อยากกลับไปที่ห้อง.....



เขาจึงเลือกที่จะเดินเตร็ดเตร่อยู่ในย่านร้านค้ารอจนกว่าจะค่ำมืด



ไม่อยากกลับไปพบเจอ...ใบหน้าของคนที่ไร้หัวใจคนนั้น....



ปึ้ก!!



เพราะมัวแต่เหม่อเลยทำให้เดินไปชนใครสักคนเข้า ร่างของเขาเซถอยหลังเพราะอีกฝ่ายตัวใหญ่กว่ามาก ใบหน้าที่บ่งบอกสัญชาติอันธพาลกำลังมองมาที่เขาอย่างหาเรื่อง คนที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนไอ้ยักษ์นั่นเดินมารุมล้อมพร้อมกับแสยะยิ้ม



“ ว่าไงหนูน้อย...เดินชนกันแล้วก็ชดใช้ค่าเสียหายมาซะดีๆ....มีเงินเท่าไหร่ก็ส่งมาให้พี่ๆให้หมด....”       รอยยิ้มเหี้ยมแบบอันธพาลชั้นปลายแถวส่งมาพร้อมกับร่างทั้งสามที่ย่างสามขุมเข้าหาเขา



“ ฮึ....”     ก็ดีเหมือนกัน อัดไอ้พวกนี้ฆ่าเวลาก็คงไม่เลว  ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายเข้ามา เขาก็พุ่งไปหาพร้อมหมัดเล็กแต่หนักหน่วงจนคนโดนสอยร่วงลงไปกับพื้น



“ หนอยยยย ไอ้เด็กนี่!!     เพื่อนของเจ้านั่นอีกสองคนวิ่งเข้ามาพร้อมกัน เขาก้มหลบหมัดตรงทื่อๆนั่นก่อนจะวาดขาเตะกวาดให้อีกฝ่ายล้มลง เหลืออีกคนที่ทำท่าเหมือนจะพุ่งเข้ามา แต่ทว่าในขณะที่เขากำลังจะปล่อยหมัด แรงยึดที่หัวไหล่ทำให้ไม่อาจขยับไปไหนได้....ไอ้หมาลอบกัดตัวที่ล้มไปตัวแรกนั่นเอง!



“ อุก...”     หมัดหนักๆของคนตรงหน้าที่ต่อยลงมาที่หน้าท้องทำเอาตัวชา จุกจนเรี่ยวแรงที่มีดูเหมือนจะโดนสะกด แค่มือที่ยึดหัวไหล่ปล่อยออก ร่างทั้งร่างของเขาก็ทรุดฮวบลงไปที่พื้นทันที มองเห็นแต่ขาที่กำลังจะเงื้อมาที่เขา



ผลั๊วะ!!



แต่แล้วกลับเป็นอีกฝ่ายที่ล้มลงมาแทน เสียงหนักๆของไม้ฟาดไปที่ร่างของเจ้าพวกนั้นจนสะบักสะบอมก่อนที่พวกมันจะวิ่งหนีไป



“ โกคุเดระ!!    แล้วก็เป็นคนที่เขาไม่อยากเจอที่สุดที่มาช่วยเขาเอาไว้ มือใหญ่วางไม้เบสบอลไว้ข้างตัวก่อนจะพยุงให้เขาลุกขึ้นนั่ง



“ ไม่ได้การ...ตำรวจจะแห่กันมาแล้ว....”     ไม้เบสบอลถูกวางมาบนลำตัวให้เขาถือเอาไว้ก่อนจะรู้สึกว่าตัวมันลอยขึ้นจากพื้นด้วยวงแขนแข็งแรง....ยามาโมโตะกำลังอุ้มเขาแล้ววิ่งฝ่าฝูงชนออกไป....



“ เป็นไงบ้าง โกคุเดระ...”       นัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่เมินเฉยต่อเขามาตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมากลับกำลังจ้องมองเขาอย่างห่วงใย มือใหญ่วางเขาลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่งในสวนสาธารณะ



“ เราไม่รู้จักกันไม่ใช่รึไง แล้วแกจะมาช่วยชั้นทำไม”     สองมือของเขากำแน่น ก้มลงแล้วหันใบหน้าไปทางอื่น....ไม่อยากเห็น.....ใบหน้าที่ราวกับว่ากำลังเล่นตลกกับเขาอยู่.....พอแล้ว.....พอกันที



.........โกคุเดระ.....



หยุด!!!! อย่ามาเรียกชื่อชั้น!!”      เขาตะโกนออกไปโดยที่ไม่รู้ตัวด้วยความเหลืออด...เมื่อคืนแกยังเรียกชื่อชั้นด้วยเสียงบังคับอยู่เลย ตอนนี้ก็อย่ามาใช้เสียงอ่อนโยนแบบนั้นกับชั้นอีก!



.............นาย....      ดูเหมือนคนตรงหน้าจะนิ่งอึ้งไป



อย่ามายุ่งกับชั้นอีก! พอกันที ชั้นจะไม่ยอมแกอีกแล้ว!”       ถึงแม้จะยังจุกอยู่บ้างแต่ร่างกายก็ลุกขึ้นจากม้านั่งแล้วตั้งใจจะเดินหนีไปให้พ้นๆ



เดี๋ยวสิ!”      แต่มือใหญ่ก็จับข้อมือของเขาเอาไว้ นัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่มองมานั้นมีแววอ้อนวอนอย่างที่เขาไม่เคยได้เห็นมันมานาน....อย่าไปเชื่อ!.....อย่าไปหลงกลแววตาแบบนั้นอีก ฮายาโตะ!



โกคุเดระชั้นขอโทษ....คือ....ชั้นคิดว่าถ้าทำแบบนั้นแล้ว....นายอาจจะยอมบอกว่า....ชอบชั้น....       ถ้อยคำที่ออกมาจากปากของอีกฝ่ายทำเอาเขาอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก.....ชอบ.....ที่แกทำนั่นต้องการให้ชั้นชอบ?....คิดออกมาได้ยังไง แกมันบ้าไปแล้ว!



ได้....ฉันจะบอกแก.....      สองมือกำหมัดแน่นกว่าเดิม.....



ฉันเกลียดแก! เกลียดแกที่สุดยามาโมโตะ!!!”













ไม่ไหวแล้ว.....



ในหัวเหมือนจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ....



สับสนจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว....แกจะเอายังไงกับชั้นกันแน่ ยามาโมโตะ....



แกอยากให้ฉันรักแกหรือว่าเกลียดแกกันแน่....หรือแค่ต้องการล้อเล่นกับความรู้สึกของฉันก็เท่านั้น......



เกลียดแก....ชั้นเกลียดคนอย่างแกที่สุด.....



ถึงจะบอกกับตัวเองแบบนั้น แต่น้ำตากลับไหลลงมาไม่หยุด.....



ในหัวใจไม่อยากเกลียด.......





ร่างบางเดินโซเซผ่านผู้คนมากมายด้วยสติที่เลื่อนลอย ตึกน้อยใหญ่ที่รายรอบและเสียงดังเซ็งแซ่กลับเป็นเพียงอากาศธาตุที่ว่างเปล่า....นัยน์ตาสีมรกตเอ่อคลอจนมองไม่เห็นอะไร...ถึงแม้หัวไหล่จะชนกับใครเข้าก็เดินผ่านไปโดยไร้ซึ่งความรู้สึก....



เหมือนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใกล้จะแตกสลายซึ่งเดินอยู่ท่ามกลางเขาวงกตที่ไม่อาจค้นพบทางออก.....













นัยน์ตาสีมรกตที่เจ็บปวดแบบที่เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะได้เห็นนั่นมันคืออะไร....ถึงจะถูกปฏิเสธแต่เขากลับกังวลกับนัยน์ตาสีมรกตคู่นั้นมากกว่า



หรือว่าจะมีอะไรมากกว่าแผนการตื้นๆที่เขาวางเอาไว้.....



ใบหน้าของโกคุเดระเมื่อครู่ยังตราตรึงอยู่ในสมอง....น่าเป็นห่วงอย่างที่สุด.....



ขายาววิ่งออกไป นัยน์ตาสีเปลือกไม้ก็สอดส่องมองหาร่างบางที่คุ้นตา....ใบหน้าแบบนั้นคงปล่อยไว้ไม่ได้.....ในใจรู้สึกสังหรณ์ไม่ดีเลยสักนิด....เป็นห่วง......














มือกระชับกระเป๋าใส่ดาบไม้ไผ่ที่สะพายอยู่ที่หลัง ก่อนจะเดินผ่านผู้คนมากมายในย่านการค้าของเมือง



ปล่อยหัวใจดำมืดให้พาร่างกายเดินไปเรื่อยๆ



ความรู้สึกกระอักกระอ่วนและไม่สบายใจในวันนี้มันเป็นเพราะอะไรกัน



อยากจะรีบๆไปที่นั่น....ห้องๆนั้นที่มีร่างบางของฮายาโตะอยู่....จะได้รู้ว่ายังปลอดภัยดี......













โกคุเดระ!


ขาวิ่งให้เร็วขึ้นอีกเมื่อมองเห็นแผ่นหลังบางของคนที่ตามหากำลังยืนโงนเงนอยู่ตรงทางข้ามถนน...สัญญาณไฟเขียวสำหรับคนข้ามกำลังกระพริบเพื่อจะเปลี่ยนเป็นสีแดง.....หัวใจหล่นวูบเมื่อมองเห็นขาเรียวกำลังจะก้าวเดินต่อไปด้วยใบหน้าเหม่อลอย











ฮายาโตะ!


นัยน์ตาสีเปลือกไม้เบิกกว้างเมื่อมองเห็นใบหน้าที่คุ้นตาของคนที่กำลังคิดถึงมายืนอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางเลื่อนลอย ขาเรียวที่กำลังจะก้าวออกไปยังถนนทำเอาขายาวของตนพุ่งออกไปโดยไม่ลังเล หัวใจแทบหล่นหายเมื่อเห็นรถแล่นมาด้วยความเร็ว และอีกไม่นานมันก็จะ.....





“ โกคุเดระ!!!

“ ฮายาโตะ!!!






เอี้ยดดดดดดดดดดดดดด!





เสียงตะโกนเรียกชื่อของเขาที่แตกต่างกันดังขึ้นพร้อมกันก่อนที่เสียงรถเบรกจนสุดตัวจะดังตามมา.....อ้อมแขนโอบรัดทั้งข้างหน้าและข้างหลังทำให้มองไม่เห็นอะไรก่อนที่จะรู้สึกว่าลำตัวกลิ้งไปกับพื้นถนนพร้อมๆกับอ้อมแขนทั้งคู่นั้น



เมื่อทุกอย่างเงียบลง สติที่ดูเหมือนจะกลับคืนมาพาให้นัยน์ตาสีมรกตของเขากระพริบปริบๆอยู่กับแผ่นอกของใครบางคน ส่วนที่แผ่นหลังก็รับรู้ถึงอ้อมกอดของใครอีกคน



“ ไม่เป็นอะไรใช่ไหมโกคุเดระ!

“ เจ็บตรงไหนหรือเปล่าฮายาโตะ!



นะ....นี่มันอะไรกัน......



สิ่งที่มองเห็นทำให้นัยน์ตาเบิกกว้าง....จะไม่ให้ตกใจอย่างที่สุดได้ยังไง....ในเมื่อ.......



เจ้าของอ้อมแขนทั้งสอง.....มองมุมไหนก็เป็นคนคนเดียวกัน........














“ ฝาแฝด ?!



ถึงไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ ในเมื่อคนสองคนที่กำลังทำแผลให้เขาอยู่นั้นมีรูปร่างและหน้าตาที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก.....ไม่มีอะไรที่ต่างกันเลยแม้แต่นิดเดียว....หากบอกว่าทั้งคู่คือคนคนเดียวกันก็เชื่อได้อย่างสนิทใจ



“ ใช่.....ฉันคือคนพี่....ส่วนเจ้านี่...ทาเคชิ...เป็นคนน้อง”     ยามาโมโตะคนที่อยู่โรงเรียนเดียวกับเขาเอ่ยแนะนำตัวให้อีกคน



“ พ่อแม่แยกกันน่ะ พวกเราก็เลยไม่ได้ถูกเลี้ยงอยู่ด้วยกัน ฉันอยู่กับพ่อที่ร้านซูชิ แล้วก็เรียนอยู่ที่นามิโมริ...ที่เดียวกับนาย....ส่วนทาเคชิ....อยู่อีกโรงเรียนแล้วก็อยู่กับแม่....ไม่ค่อยมีใครได้เห็นเวลาเราสองคนอยู่ด้วยกัน เพราะงั้นเรื่องที่เราเป็นฝาแฝดจึงแทบไม่มีใครรู้......เหมือนกันมากใช่ไหมล่ะ....ฉันกับหมอนี่น่ะ”       ยามาโมโตะคนพี่ยิ้มสดใสมาให้เหมือนเมื่อก่อน......รอยยิ้มและความอบอุ่นที่เขาหลงรัก.....



“ อื้อ....เหมือน....จนคิดว่าเป็นคนคนเดียวกันเลยล่ะ....พวกแก....ทำให้ชั้นแทบจะเป็นบ้า จะรับผิดชอบยังไงวะ!        มือบางกระชากคอเสื้อของคนพี่ ที่ยกมือขึ้นยอมแพ้ แล้วหันไปมองแฝดน้องของตัวเองด้วยสายตาเอาเรื่อง



“ เล่าความจริงมานะ ทาเคชิ....ว่าแกทำอะไรโกคุเดระ....ของฉัน”      ถึงแม้จะทำใบหน้านิ่งสนิทเหมือนกัน แต่ยามาโมโตะคนพี่กลับมีบรรยากาศที่แตกต่างกว่า.....ตรงจุดนี้ละมั้งที่ทำให้ทั้งคู่ไม่เหมือนกัน.....คนน้องนั้นมีบรรยากาศที่มืดมนและกดดันมากกว่า....รอยยิ้มที่เผยออกมามันจึงทำให้น่าขนลุก.....รอยยิ้มร้ายที่เขาไม่ต้องการแต่กลับขาดไม่ได้.....



“ ฉันขอโทษ...ฮายาโตะ.....”      มือใหญ่ที่เคยใช้กำลังบังคับเขามากมายหลายต่อหลายครั้งจับลงมาที่สองมือของเขา



“ ฉันยอมรับผิด....แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่คิดจะปล่อยนายไป....”      นัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่เคยร้ายกาจเสมอคู่นั้นกลับอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด



“ ทุกๆอย่างเป็นแผนการของฉันเอง....พี่น่ะ....ก็แค่ถูกฉันชักใยโดยที่ไม่รู้ตัว”     คำสารภาพทำเอาทั้งเขาทั้งยามาโมโตะคนพี่ถึงกับเบิกตากว้าง



“ นายเคยช่วยพาผู้หญิงที่เป็นลมคนหนึ่งไปส่งที่บ้านใช่ไหม....ผู้หญิงคนนั้นคือแม่ของฉันกับพี่เอง....”       ภาพเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อนย้อนมาในหัว...มันนานจนเขาเองก็เริ่มจะลืมเลื่อน



“ นายคงไม่รู้...ว่าวันนั้นฉันวิ่งตามนายไปเพื่อจะขอบคุณ....แต่ฉันก็เห็นเพียงแค่ใบหน้าของนายในขณะที่ประตูรถไฟกำลังจะปิด....”      ใช่  เขาไม่รู้เลย.....



“ แล้วจากวันนั้นภาพของนายก็ตามมาหลอกหลอนจนฉันนอนไม่หลับ...ได้แต่หัวเราะกับตัวเอง ว่าดันไปตกหลุมรักคนที่ไม่รู้แม้แต่ชื่อเข้าให้ซะแล้ว...พี่เองยังขำแทบตายตอนที่ฉันเล่าให้ฟัง....ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่เราโทรคุยกันตลอดแหละ”      นัยน์ตาสีเปลือกไม้ทั้งคู่สบตากันเล็กน้อยก่อนที่แฝดคนน้องจะเล่าต่อ



“ เพราะเราคุยกันทุกเรื่อง.....วันหนึ่งพี่จึงบอกว่า.....สงสัยจะเจอคนที่ชอบแล้วละ....แล้วฉันก็ได้ฟังเรื่องราวของคนคนนั้นจากปากของพี่เอง...เป็นคนที่เข้าถึงได้ยากแต่กลับมีเสน่ห์จนทำให้พี่หลงรักจนหัวปักหัวปำ....ถึงจะขำแต่ก็อยากให้พี่มีความสุข....ตอนนั้นฉันคิดแบบนั้น....จนกระทั่ง....”



“ ได้รู้ว่า คนที่พี่ชอบคือคนคนเดียวกันกับคนที่ฉันหลงรัก.....”



“ นายคงไม่รู้หรอกฮายาโตะ....ว่าหลังจากวันนั้นฉันตามหานายจนเจอ...ได้รู้ว่านายอยู่โรงเรียนเดียวกับพี่....เรียนชั้นเดียวกันกับพี่....อยู่ห้องเดียวกันกับพี่....แต่ไม่เคยเอะใจเลยว่านายจะเป็นคนที่พี่รักอยู่เช่นกัน....”



“ แต่ถึงแม้จะได้รู้ความจริงข้อนั้นฉันก็ไม่สนใจ....จนได้เห็นแววตาที่นายมองมาที่พี่ของฉัน....ว่ามันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เรียกว่า...รัก....”



“ ทั้งๆที่ไอ้พี่บ้านี่ก็ไม่รู้สึกตัวเลยซักนิด....”



“ ฉันยอมรับ ว่าฉันอิจฉา....อิจฉามากๆจนอยากจะทำลายพวกนายทั้งคู่...ฮึ....ฉันมันร้ายกาจและเห็นแก่ตัว...ในเมื่อฉันไม่ได้ ฉันก็ไม่อยากให้พี่ได้ไปเช่นกัน....เพราะงั้นฉันจึงวางแผน.....”



“ ฉันจะทำให้นายเกลียดพี่.....เกลียดจนไม่อยากจะมองหน้า....”



“ พอดีกับที่พี่โทรมาปรึกษาว่าจะทำยังไงกับนายดี....ฉันเลยบอกไปว่า....ถ้างั้นก็ลองตีตัวออกห่างดูสิ เค้าว่ากันว่าคนเราจะเห็นค่าของสิ่งที่ตัวเองรักก็ต่อเมื่อของสิ่งนั้นมันกำลังจะจากไป....แล้วพี่ก็ทำตามที่ฉันบอก...โดยการทำเป็นไม่สนใจนาย”



“ และในระหว่างนั้นในตอนกลางคืน....ฉัน.....ก็เข้าไปทำร้ายนาย....ให้นายคิดว่าคนที่ทำคือพี่....ให้นายสับสน....ให้นายไม่มั่นคง...ไม่รักพี่....และเกลียดพี่ในที่สุด...”





ผลั๊วะ!!!!





เสียงหมัดหนักๆทำให้เขาสะดุ้ง ยามาโมโตะคนพี่ต่อยลงไปที่ใบหน้าของน้องชายจนเลือดไหลที่มุมปาก



“ อยากจะต่อยก็ทำเถอะ เพราะคนที่ผิดคือฉัน”     



“ ฉันไม่ได้ต่อยแกเพราะแผนการสารเลวที่แกทำ ไม่ได้ต่อยแกเพราะแกคิดจะแย่งโกคุเดระไป แต่ที่ชั้นต่อยแกเพราะว่าแกทำร้ายเขา! ทั้งๆที่แกบอกว่าแกรักเขา!       



“ พี่....”



“ ฉันไม่ต่อว่าหรอกนะ สำหรับคนที่พยายามจะทำเพื่อความรักของตัวเองน่ะ ไม่ว่าวิธีการจะเลวร้ายแค่ไหนเพราะฉันเองก็ทำ! แต่ที่ฉันทนไม่ได้คือ...แกทำร้ายเขา....แกทำให้เขาร้องไห้....แกทำให้เขาเกือบตาย....ทาเคชิ!



ยามาโมโตะคนพี่กระชากคอเสื้อของคนน้อง หมัดที่เงื้อขึ้นกลางอากาศหยุดค้าง ให้ร่างบางซึ่งเป็นคนกลางมองที่ทั้งคู่อย่างสับสน.....สิ่งที่ทั้งสองคนทำลงไปนั่นเพราะว่ารัก...เพราะงั้นมือบางจึงคว้ามือใหญ่ที่กำลังจะต่อยลงไปเอาไว้โดยที่ไม่รู้ตัว



อะ.....     ปฏิกิริยาของเขาทำให้สองฝาแฝดถึงกับชะงักค้าง.....เพราะอะไรถึงห้ามเอาไว้?.....ขนาดตัวเองยังไม่เข้าใจ....มือบางปล่อยมือของยามาโมโตะคนพี่ออกโดยพลัน.....ตัวเองก็ตกใจกับสิ่งที่ตัวเองทำเช่นกัน….เขาควรจะโกรธ ควรจะเกลียดทาเคชิ เพราะหมอนี่เป็นคนทำลายความรักที่เขาควรจะมี แล้วยังเฝ้าทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ....ทั้งๆที่ควรจะไม่ให้อภัย....แต่ทำไม......




แต่ปฏิกิริยานั้นมันกลับทำให้รอยยิ้มของยามาโมโตะคนน้องเผยออกมา.....




ฮายาโตะ...........เลือกสิ.......ระหว่างฉันกับพี่.....เลือกสิ....       รอยยิ้มเย็นระบายอยู่บนใบหน้าคมราวกับว่ารู้ทัน นัยน์ตาสีมรกตที่ยังคงเต็มไปด้วยความสับสนมองทั้งสองคนสลับไปมา.....



เลือก...?     เสียงเบาหวิวหลุดออกไปจากปากของเขา....ความจริงที่เพิ่งได้รับรู้ยังทำเอาสมองมึนเบลอไม่หาย ใครดีใครร้ายกันแน่เขายังไม่มีเวลาจะได้ไตร่ตรองเลยสักนิด....แล้วจะให้เลือกอะไร.....



ฉะ....ฉันไม่เลือกใครทั้งนั้น! พวกแกสองคนไสหัวออกไปจากห้องชั้นได้แล้ว!”       ไม่ใช่ว่าไม่เลือก......




แต่เลือกไม่ได้ต่างหาก........



เขาต้องการมือที่อ่อนโยนแต่อ้อมแขนที่ร้อนแรงนั่นก็ทำให้ขาดไม่ได้ไปเสียแล้ว....











ใบหน้าสวยที่เต็มไปด้วยความกังวลใจและครุ่นคิดอะไรบางอย่างของโกคุเดระทำให้นัยน์ตาสีเปลือกไม้ทั้งคู่ลอบหันมาสบตากัน.....กับฝาแฝดที่เหมือนกันมากอย่างพวกเขาสองคน.....เรื่องแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาเลย....



ปกติเราก็มักจะสนใจเรื่องเดียวกันตลอดอยู่แล้ว....



และถ้าหากว่าคนที่รักจะเป็นคนคนเดียวกัน......



เสียงหัวเราะในลำคอดังราวกับว่ากำลังขำการกระทำของตัวเอง....ถ้าหากเลือกทางนี้ตั้งแต่แรก...ฮายาโตะก็คงไม่ต้องทรมาน ใบหน้าคมเงยหน้ามองใบหน้าที่เหมือนกับตัวเองของพี่ชาย รอยยิ้มที่ราวกับจะรู้ทันก็ถูกส่งมาให้แก่กันทันที.....



ตกลงแล้วนะ........





“ นี่พี่...”       มือปัดมือของพี่ชายฝาแฝดที่ยังกำคอเสื้อของตนค้างอยู่ให้ห่างออกไป ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆแล้วเดินเข้าไปหาร่างบางที่ยังคงเอาแต่ครุ่นคิดโดยที่ไม่ได้ระวังตัว



“ อะไรหรอ ทาเคชิ?”       เสียงจากพี่ชายฝาแฝดที่ยืนอยู่เบื้องหลังฟังแล้วน้ำเสียงมันช่างคล้ายกันยิ่งนัก



“ ดูท่าว่า โกคุเดระจะลำบากใจนะ....”      ร่างสูงของยามาโมโตะคนน้องโอบเอวบางจากทางด้านหลังเมื่อร่างบางๆนั้นยังคงไม่รู้ตัว ใบหน้าคมซุกคลอเคลียอยู่ที่ซอกคอหอมกรุ่น คนโดนลวนลามที่เริ่มจะเข้าใจอะไรหลายๆอย่าง ได้แต่เอามือยันหัวสีดำๆนั่นเอาไว้



“ ผมว่า.....พวกเราก็ไม่ควรทำให้เค้าต้องเจ็บปวดที่จะต้องเลือกเราคนใดคนหนึ่งนะ....ในเมื่อ....”      เสียงพูดดังออกมาทั้งๆที่ยังคงซุกไซร้อยู่ที่ซอกคอ โกคุเดระตั้งท่าจะต่อต้านและร้องห้าม แต่ทว่ามือใหญ่ของใครอีกคนที่คิดว่ายังคงยืนอยู่ไกลกลับจับปลายคางมนเอาไว้....มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย....



“ อ่า...นั่นสินะ....”      นัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่เคยเห็นว่าอ่อนโยนและยิ้มแย้มอยู่เสมอกลับดูเจ้าเล่ห์ไม่ได้ต่างไปจากแฝดคนน้องเลยสักนิดนั้นมองจ้องลงมาในดวงตาสีมรกตที่เริ่มจะเบิกกว้าง ก่อนที่ริมฝีปากจะแนบชิดลงมาและสอดลิ้นเข้ามาควานหาความหวานในปากเล็กของคนที่ยังคงตกตะลึงและตามไม่ทัน



อื้ออออ       รสจูบที่อ่อนหวานแตกต่างจากอีกคนทำให้โกคุเดระรู้ว่าคนที่กำลังช่วงชิงลมหายใจของตนไปไม่ใช่คนเดิม ถึงจะอยากโอนอ่อนผ่อนตามแต่ความรู้สึกผิดแปลกบางอย่างก็ทำให้เริ่มต่อต้าน



แฮก แฮ่ก....พะ...พวกแก....จะทำอะไรน่ะ!”     เมื่อผลักไอ้คนที่ปิดปากตนอยู่ออกไปได้สำเร็จ ข้อศอกก็ถ่องให้ปลิงอีกตัวที่เกาะอยู่ทางด้านหลังกระเด็นออกไป นัยน์ตาสีมรกตจ้องเขม็งไปที่สองแฝดอย่างเอาเรื่อง  แต่แววตาเยี่ยงหมาป่าของทั้งคู่ที่จ้องมองมานั้นก็ทำให้ขาเรียวก้าวถอยหลังอย่างไม่ต้องคิดอะไรอีก....ไอ้แฝดนรกสองคนนี้มันเอาจริง!



ถ้าหากไม่หนี....ต้องเสร็จมันทั้งคู่อย่างไม่ต้องสงสัย.........ใครจะไปยอมกันเล่า!



เมื่อกี้มันยังทะเลาะกันอยู่เลยไม่ใช่หรอ ไอ้หมอนั่นยังอิจฉาไอ้หมอนั่นอยู่เลย ส่วนไอ้หมอนั่นก็ต่อยไอ้หมอนั่นจนปากแตก  แล้วทำไมจู่ๆมันถึงได้ร่วมมือกันมากดเขาแบบนี้!



ไม่ตลกนะ.....แค่ไอ้คนน้องคนเดียวเขาก็แทบแย่แล้วแต่ละคืน....ถ้ามีพี่มันด้วยอีกคน.....



ว๊ากกกกกก        ร่างทั้งร่างโดนตะครุบเอาไว้ด้วยอ้อมแขนของคนสองคนจนร่างทั้งสามล้มลงไปบนเตียงนุ่ม นัยน์ตาสีมรกตหลับแน่นนึกถึงสิ่งที่กำลังจะตามมาแล้วก็ให้ใจสั่นพับๆ



หื๋อ ?



แต่กลับมีแต่ความนิ่งงัน....จนเปลือกตาค่อยๆเปิดขึ้นมาช้าๆ



ภาพตรงหน้าคือใบหน้าคมของแฝดคนพี่ ที่เขารู้ก็เพราะรอยยิ้มสดใสและดวงตาที่อ่อนโยน ริมฝีปากของหมอนั่นเคลื่อนเข้ามาหาก่อนที่จะประทับลงที่หน้าผาก



ฉันรักนายนะ โกคุเดระ       น้ำเสียงอบอุ่นเอ่ยออกมาให้ใบหน้าร้อนผ่าว



อ้อมแขนของใครอีกคนที่อยู่ด้านหลังกระชับลำตัวของเขาให้แนบไปที่แผ่นอกกว้าง รู้สึกถึงลมหายใจแผ่วเบาอยู่ที่ข้างใบหู



ฉันก็รักนาย ฮายาโตะ       เสียงกระซิบแผ่วเบาให้ใบหูแดงระเรื่อ




ให้พวกเราได้รักนายเถอะนะ....โกคุเดระ ฮายาโตะ.....      




ความอบอุ่นของอ้อมแขนที่กอดกระชับทั้งข้างหน้าและข้างหลังราวกับจะช่วยชำระล้างจิตใจที่อ่อนล้าให้กลับมาเข้มแข็งขึ้นอีกครั้ง....จากที่เคยคิดจะทิ้งสิ่งที่เรียกว่าความรักไป....คงต้องเอากลับมาคิดกันใหม่อีกที



แต่ตอนนี้....



ใบหน้าสวยพยักหน้าลงน้อยๆก่อนจะหลับตาลงภายในอ้อมแขนที่แสนอบอุ่น......




จะขออยู่ที่นี่....ตลอดไป.......


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

FIN







ยาวเนอะ....^ ^”....

แต่ไม่อยากตัดเป็นหลายๆพาร์ท เพราะกลัวคนเดาถูก กร๊ากกกก เลยลงมันรวดเดียวเลยดีก่า....

ก่อนอื่น.....


HAPPY BIRTYDAY Little Punk!!!!

สุขสันต์วันเกิดจ้ะหนูก้อย...


ย้อนหลังไปเดือนนึงได้ โฮกกกกกกพี่ขอโทษน้า....>[ ]<...ถึงจะช้าแต่ก็ตั้งใจอยากจะแฮปให้ง่า....ยังไงก็ขอให้มีความสุขนะ ผ่านพ้นเรื่องอะไรที่ไม่ได้ดั่งใจไปได้ด้วยดี อย่าไปตีกับใครเค้าซะก่อนล่ะ ฮ่าๆ วันเกิดทั้งที อยากทำอะไรให้ แต่ก็ไม่รู้จะให้อะไร ก็เลยปั่นฟิคงงๆมาให้เรื่องนึง แหะแหะ....^ ^”....ถูกใจไม่ถูกใจก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้....ความจริงวางพล็อตเสร็จนานมาแล้ว แต่ติดเรื่องวิธีเขียนและหมดแรงระหว่างทาง ^ ^” มันเลยมาเสร็จเอาป่านนี้นี่แหละจ้ะ โค้งขออภัยอีกที...

โอยๆๆ มาพูดถึงฟิคกันบ้าง....

แบบว่าชิมลางแฝดยามะกันก่อนที่จะเริ่มโปรเจคเจ้าพ่อฯ แต่ขอบอกว่าเรื่องนี้คงแต่งไม่จบแน่ถ้าไม่มีของขวัญวันปีใหม่ของคุณกิตมาให้แรงบันดาลใจ....ขอบคุณโด Toxic by Nalis ที่คุณกิตส่งมาให้มากมายเลยนะค้า....มันสุดยอดมากกกกแบบว่าพลังทำลายล้างมหาศาลบานตะไท จนอินี่ปั่นฟิคลืมวันลืมคืนเพราะหลอนจากโดนั่นกันเลยละค่า....เล่นเอาแบบว่า....จะนั่งจะเดินจะนอน....ภาพหลอนของอิดาร์กเนียนที่จ้องจะกดก๊กอยู่ตลอดเวลานั่นมันก็ลอยไปลอยมาอยู่รอบตัว สะบัดหัวหลุดมันก็ยังไม่หายไป กร๊ากกก....เพราะงั้นฟิคเรื่องนี้เลยได้รับอิทธิพลไปเต็มๆอ่ะค่ะ ฮ่าๆๆ

ว่าแต่....จะมีคนรู้ไหมน้า.....ว่าช่วงต้นๆของฟิคเรื่องนี้ ยามะที่โผล่ออกมานั่นมันไม่ใช่คนคนเดียวกัน ^ ^ (ใครก็รู้ทั้งนั้นแหละ!) ความจริงแล้วมันเป็นแบบนี้.....

สีน้ำเงินเข้มคือยามะคนพี่ซึ่งเป็นคนดี......สีน้ำเงินอ่อนคือยามะคนน้องซึ่งเป็นคนกด.....







เสียงพื้นรองเท้าเสียดสีไปกับโถงทางเดินไร้ผู้คน ร่างสองร่างเดินอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็นที่ฉาบไล้ทุกอย่างให้กลายเป็นสีส้ม แม้แต่เส้นผมสีเงินของคนที่เดินอยู่ตรงหน้าก็เช่นกัน นัยน์ตาสีเปลือกไม้ซึ่งเคยสดใสร่าเริงอยู่เสมอกลับมีแววของความสั่นไหว มือใหญ่เอื้อมออกไปก่อนที่จะฉุดรั้งข้อมือเล็กของโกคุเดระเอาไว้

ให้ร่างของทั้งคู่หยุดลงท่ามกลางความเงียบงัน.....

“ เย็นนี้.....ฉันอยากให้นายไปด้วย....”       นัยน์ตาสีเปลือกไม้มองใบหน้านิ่งของคนตรงหน้าด้วยสายตาเว้าวอน  เขารู้...ว่าโกคุเดระรู้ดีว่าสิ่งที่เขาพูดหมายถึงอะไร ....เขารู้...ว่าโกคุเดระรู้ดีว่าความรู้สึกที่เขามีให้มันไม่เหมือนกับที่เขามีให้คนอื่น เพราะทุกการกระทำของเขามันแสดงออกอย่างชัดเจน

“ ชั้นไม่ว่าง”     ข้อมือเล็กสะบัดมือของเขาออกก่อนที่ร่างบางๆจะหันหลังแล้วเดินจากไป  เขาได้แต่ยืนมองแผ่นหลังเล็กนั่นเดินหายไปกับแสงสีส้มของดวงอาทิตย์อย่างช้าๆ ขาทั้งสองข้างหมดแรงจะก้าวเดินตามไป

เขารู้...ว่าโกคุเดระรู้ดีทุกอย่าง......แต่กลับเป็นเขาเอง....ที่ไม่รู้เลยว่าโกคุเดระคิดอย่างไรกันแน่....เพราะไม่ว่าเขาจะแสดงออกไปยังไงอีกฝ่ายก็ไม่เคยตอบสนองสิ่งใดกลับมา...










ร่างทั้งร่างพยายามเดินต่อไปให้ปกติที่สุดทั้งๆที่ใจนั้นหลุดลอยไปไกล แผ่นหลังเล็กหยุดนิ่งแล้วเอนพิงไปกับผนังตึก มือข้างที่เคยถูกจับเอาไว้ด้วยมือคู่ใหญ่นั่นยกขึ้นทาบที่แผ่นอก  แรงสั่นสะเทือนจากหัวใจยังคงเต้นระรัว  ความร้อนผ่าวบนใบหน้ายังคงชัดเจน

“ เย็นนี้.....ฉันอยากให้นายไปด้วย....”        ดีใจ....ที่ได้ยินคำคำนี้ 

“ ชั้นไม่ว่าง”     นั่นไม่ใช่คำตอบที่อยากจะตอบออกไป....แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถที่จะทำให้ปากตรงกับใจของตัวเองได้


เพราะไม่เคย.....ถูกรัก......


เลยไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไร จะยื่นมือไปให้หรือจะตอบสนองยังไง....ไม่เคยรู้เลย....












แสงไฟทำให้ที่หน้าร้านดูสว่างไสว ป้ายร้านทาเคซูชิมีกระดาษแผ่นเล็กติดเอาไว้ว่า “วันนี้ปิดบริการ” ทั้งๆที่ในร้านมีเสียงเฮฮาดังลอดออกมาไม่ขาดสาย นัยน์ตาสีเปลือกไม้เหลือบขึ้นมองไปที่ชั้นสองของร้านก่อนจะค่อยๆไล่สายตาลงมาเรื่อยๆ

“ เฮ้ย...มายืนทำอะไรตรงนี้วะ วันนี้นายเป็นเจ้าภาพนะเว้ยยามาโมโตะ!      แขนแข็งแรงของนักเรียนชายคนหนึ่งพาดมาที่หัวไหล่ เขาจึงทำแค่หันไปยิ้มก่อนจะโบกมือให้อีกฝ่ายเข้าไปในบ้าน

ใช่....เขามาทำอะไรอยู่ตรงนี้......

ในเมื่อวันนี้เป็นวันฉลองชัยชนะของทีมเบสบอลนามิโมริ....

เงาใครสักคนพาดผ่านมาที่ถนนทำให้เขาหลบเข้าไปที่หลังต้นไม้ สายตาพลันเบิกกว้างเมื่อมองเห็นว่าเงานั้นเป็นของใคร.....








เงาเล็กบางตกกระทบอยู่ที่บานประตู  นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองไปรอบกาย ป่านนี้แล้วทุกคนคงจะเข้าไปในร้านเพื่อดื่มฉลองให้กับชัยชนะกันหมดแล้ว เขาที่มาเอาป่านนี้คงไม่ต้องหวังว่าเจ้าของบ้านจะยังคงยืนรอต้อนรับอยู่

ร่างบางเดินวนไปวนมาอยู่ที่หน้าร้าน....ไม่ได้อยากจะเข้าไป...ก็แค่อยากมาแสดงความยินดีด้วยก็เท่านั้น

ใบหน้าสวยเงยหน้ามองที่ชั้นสองของร้านก่อนจะไล่สายตาลงมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่ประตูร้านด้วยแววตาสั่นไหวพอๆกับหัวใจที่เต้นระรัว

ขาเรียวก้าวเดินเข้าไปหามันอย่างช้าๆ มือยกขึ้นไปทาบอยู่ที่ประตูเนิ่นนาน แต่จนแล้วจนรอดก็ดึงมันกลับมาไว้ที่ข้างลำตัวเหมือนเดิม

“ ยะ...ยินดีด้วยนะ”      เสียงแผ่วเบาเอ่ยบอกกับประตูก่อนที่ร่างบางจะหันหลังแล้วเดินจากไป










ร่างสูงมือหนึ่งของชมรมเบสบอลยกถาดอาหารมาวางไว้บนโต๊ะ เวลาล่วงเลยผ่านไปจนอาหารนั้นแทบจะไม่เหลือหรอ ใบหน้ายิ้มแย้มของทุกคนทำให้เขาพลอยยิ้มไปด้วย แต่รอยยิ้มก็พลันหายไปเมื่อนึกถึงใครบางคน...

รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่หมั่นเดินออกมาดูที่หน้าร้าน  แต่มันก็มีเพียงความว่างเปล่า ไร้เงาของคนที่เขาหวังว่าจะเจอ

แล้วนายก็ไม่เข้ามา.....

ชั้นควรจะตัดใจ หรือควรจะใช้กำลังบังคับให้นายเป็นของชั้นดีนะ โกคุเดระ...

มือใหญ่กำหมัดแน่นด้วยระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ในจิตใจ...ไม่ได้อยากจะให้เป็นแบบนี้เลย ไม่อยากให้นายได้เห็นว่าตัวตนที่แท้จริงของฉันมันน่ารังเกียจขนาดไหน...แต่บางที...นี่อาจจะเป็นหนทางสุดท้ายที่จะได้ตัวนายมา....

ขายาวก้าวเดินออกไป....ด้วยการตัดสินใจที่แน่วแน่.....










ฉันหลงใหลในดวงตาสีมรกตที่งดงามราวกับอัญมณีของนาย.....ฉันหลงใหลในเส้นไหมสีเงินที่พลิ้วไหวไปตามสายลมของนาย....ฉันหลงใหลในรูปร่างบอบบางและผิวสีขาวราวกับน้ำนมของนาย.....ฉันหลงรักนายตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ทั้งๆที่นายเป็นใครฉันก็ไม่รู้จัก

ฉันเฝ้ามองนายมาตลอดโดยที่นายคงจะไม่รู้ตัว....

ฉันอยากได้ความรักของนายแต่โดยดี....แต่สิ่งที่นายเฝ้ามองอยู่กลับไม่ใช่ฉัน....

จนในที่สุดความอดทนของฉันมันก็จบสิ้นลง...

หากสายตาของนายจะสนใจฉันบ้าง....ฉันก็คงไม่คิดที่จะทำแบบนี้.....


มือที่เคยจับแต่ดาบไม้เคาะลงไปที่บานประตู ไม่นานเสียงที่ฟังดูแล้วติดจะรำคาญก็ขานรับพร้อมกับบานประตูที่เปิดออก ใบหน้าของเจ้าของห้องมีแววประหลาดใจ นัยน์ตาสีมรกตมองมาที่เขาอย่างสงสัย ก่อนที่จะทักออกมาว่า....







ครึ ครึ.......นั่นแหละ......






1 ความคิดเห็น:

  1. อ่านนนนนจบแล้วววว ยะฮุ้!!!? อ่านไปด้วยใจระทึก ยามะแมร่งน่าตบมากกกก บังอาจมาทำกับก๊กเยี่ยงนี้ โฮกกกกกกกก แต่ว่าแอบได้ใจ ช้าๆหน่ะไม่ทันกินหรอก ยิ่งซึนๆอยู่ด้วย ทำแบบนี้แหละดีแล้วเฟร้ยยย!!
    ^
    ^
    สรุปว่าจะเข้าข้างไหนกันแน่ กร๊ากกกกกกก

    อ่าาา จะบอกว่า เค้าเซฟไปอ่านในเวิดหล่ะ อ่านในนี้มันปวดตายังไงชอบกล? แถมเปลี่ยนสีตัวอักษรในเวิร์ดเป็นสีดำหมดเยย ก็เลยไม่รู้ว่าอันไหนน้ำเงินอันไหนฟ้า^^

    สรุปว่าอ่านๆไป ก็แยกไม่ออกจริงๆนั่นล่ะว่ามันมีสองคนหรือคนไหนเป็นคนไหน!!
    เพราะว่า เข้าใจว่า อิเนียนหน่ะ มันมีสองบุคลิกอยู่แล้ว ทั้งร่าเริง ทั้งดาร์ก

    นั่นล่ะ ก็เลยไม่เอะใจว่า มันมีสองคน ทั้งๆที่พอจะรู้ว่าจะแต่งประมาณแนวแฝด แต่อิเปานี่ก็อ่านไปตามเนื้อเรื่องที่มีไม่ได้เอะใจสงสัยอะไรเล๊ยย ฮ่าฮ่า

    แบบว่าอ่านไปอินไป แล้วอีกอย่างมันก็กลมกลืนกันดีออกค่ะ ไม่เห็นมีฉากไหนให้สงสัยว่าเป็นคนละคนกัน ก็เพราะเข้าใจว่ามันมีสองบุคลิกนั่นล่ะ กร๊ากกกกกก

    อ๊ะๆ แต่พอตอนท้ายๆที่สองคนมันมาจ๊ะเอ๋กัน อีกคนเรียกโกคุเดระ อีกคนเรียกฮายาโตะ ไอ้เราก็ดันไปนึกถึงชามาล ซะงั้น กร๊ากกกกกก จริงๆนะ ยิ่งขำตัวเอง ยังไงก็ไม่คิดในประเด็นแฝด ฮ่าฮ่า สงสัยลืมสนใจแพริ่งที่จั่วไว้ >///<

    พอเฉลยก็กลับกลายเป็นแผนการเสียนี่ แหมช่างเจาะจงมากก ให้ยามะมันหลบหน้า เจ้าทาเคชิช่างร้ายกาจ ส่วนเจ้ายามะตัวพี่แมร่งก็มองโลกในแง่ดีซะเกือบโดนก๊กเกลียด ฮ่าฮ่า

    แต่สุดท้ายยย คึหึหึ มันก็สามัคคีกันกดก๊ก เอ๊ยรักก๊ก รักเหมือนๆกันก็เลยแบ่งๆกัน ฮ่าฮ่า แหม ลุ้นดราม่าซะแทบแย่ จบแบบนี้ค่อยยังชั่ว โล่งอกไปที >///<

    แต่!!(อีกแล้ว) ยามะคนน้องความสัมพันธ์นำยามะคนพี่ไปแล้วนิหว่า เฮ้ยๆคนพี่อ่ะยอมหรอออ ตามคืนจะทันป่าว << เฮ้ยยไม่สนใจหนูก๊กเล๊ยย ฮ่าฮ่า

    แล้วๆบทส่งท้ายนั่นอะไรกันง่ะ เค้านึกว่าก๊อบมาไม่หมดซะอีก นึกว่าคลุมดำไว้ เห๋ๆ มีต่ออีกใช่ป่าวๆๆๆ อร๊ายๆๆๆ แล้วหลังจากนี้พวกเขาจะ3Pหรือจะแบ่งวันกันหล่ะ กร๊ากกกก จิ้นไปไหนแล้วว คึหึหึ อุ๊บ เม้นท์อะไรออกไปเนี่ย // พี่กวางเสย ฮะฮะ

    อ่านไปก็นึกภาพยามะดาร์กๆในโดนั้นไป จิ้นกระจายมากกกกกกก >///<
    ชอบทั้งฟิคทั้งโดเลยค่าาาา

    ตอบลบ