Bleach S.FicSeries [Hyourinmaru x Hitsugaya] ศักดิ์ศรีในคมดาบ : 01


[S.FicSeries]   ศักดิ์ศรีในคมดาบ  : Pride on the Blade : 01 [Hyourinmaru x Hitsugaya]


: Bleach  Fanfiction
: [Byakuya x Rukia] [Renji x Rukia] [Senbonsakura x SodenoShirayuki] [Hyourinmaru x Hitsugaya]
: Romance and Comedy
: PG


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ


 




.
.
.
.
.
.


ชื่อของเจ้าคือ เฮียวรินมารุ


และนายของเจ้าคือข้า ฮิตสึกายะ โทชิโร่! ’

.
.
.
.
.
.
.
.


นึกให้ออกสิ...ว่าที่ที่เจ้าตามหา ที่ที่เจ้าควรอยู่คือที่ไหน เฮียวรินมารุ!


.
.
.
.
.
.
.


ตอนนี้ข้ารู้แล้ว....ว่าที่ที่ข้าตามหา....


คือที่ว่างที่อยู่ข้างกายท่าน.....

.
.
.
.
.
.
.



ที่กองบัญชาการหน่วยสิบในยามค่ำคืนเช่นนี้ช่างเงียบสงบต่างจากตอนกลางวันซึ่งมักมีเสียงดังโหวกเหวกจากทั้งลูกน้องและรองหัวหน้าหน่วยให้คนที่เป็นหัวหน้าต้องปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่ตลอดทั้งวัน....แต่ในยามที่ทุกคนต่างหลับใหลอยู่ในบ้านของตัวเอง...กลับมีคนคนหนึ่งซึ่งยังคงนั่งทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยอยู่ที่กองบัญชาการเช่นนี้



ทั้งๆที่เป็นแค่เด็กชายตัวเล็กๆ แต่กลับเข้มแข็งและทำตัวเป็นผู้ใหญ่ยิ่งกว่าใคร



บางครั้งข้าก็สงสัย....ว่าท่านเคยอยากใช้ชีวิตเยี่ยงเด็กทั่วไปบ้างหรือไม่



มือที่เป็นน้ำแข็งลูบลงไปบนใบหน้าเนียนของคนที่ฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะทำงานแต่กลับต้องชะงักเมื่อผิวแก้มนั้นขยับหนีเมื่อรู้สึกถึงความเย็น  เรียวนิ้วที่มีกงเล็บเยี่ยงมังกรกำเข้าหากันก่อนจะละจากใบหน้าของผู้เป็นนาย....ข้าสัมผัสหัวใจของท่านได้.....แต่ข้ากลับไม่อาจสัมผัสร่างกายของท่านได้.......



ร่างสูงใหญ่ค่อยๆยกหัวหน้าหน่วยตัวน้อยออกจากกองเอกสารและโต๊ะทำงานก่อนจะอุ้มไปยังโซฟาที่มักจะถูกยึดไปโดยรองหัวหน้าหน่วย แสงจันทร์จากหน้าต่างสาดส่องลงมากระทบผิวนุ่มของโซฟาและในไม่ช้าร่างเล็กของหัวหน้าหน่วยสิบก็ถูกวางลงไปแทน มือที่เป็นน้ำแข็งเกลี่ยเส้นผมสีขาวของผู้ที่หลับใหลให้พ้นใบหน้า.....ข้าเห็นใบหน้านี้มาตั้งแต่ยังเล็ก.....เห็นมันอยู่ภายในจิตใจของท่าน....และไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้ออกมามองใบหน้านี้ด้วยตาของตัวเอง



ผ้าห่มผืนบางถูกกางออกก่อนจะคลุมร่างที่นอนนิ่ง กลีบซากุระปลิวมาตามสายลมจากทางหน้าต่างก่อนจะหยุดลงที่ตรงมือเล็กซึ่งยังวางอยู่ที่กลางลำตัว สีชมพูอ่อนของมันสะท้อนเงาจันทร์ช่างสวยงาม......งดงามเฉกเช่นเดียวกับท่าน....เจ้าของของข้า



ร่างสูงใหญ่คุกเข่าลงที่ข้างโซฟา นัยน์ตาสีน้ำแข็งจ้องมองใบหน้ายามหลับและร่างกายที่สงบนิ่งท่ามกลางแสงจันทร์.....



ชื่อของข้านั้นคือ เฮียวรินมารุ....



ข้าคือดาบฟันวิญญาณสายน้ำแข็งที่แกร่งที่สุด...... 



พลังที่ยากจะหยั่งถึงนั้นมีมหาศาลและการควบคุมก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ความซับซ้อนในการดูแลแรงดันวิญญาณให้สามารถใช้ข้าได้นั้นไม่ใช่ว่าใครๆจะทำกันได้ .....ใช่.....เพราะแบบนั้นข้าจึงได้เฝ้าตามหามาตลอด.....ที่ที่เป็นที่สำหรับข้า....ที่ที่ข้าจะถูกควบคุมให้อยู่ได้อย่างสงบ



ข้าเฝ้าตามหา....คนที่จะเรียกชื่อของข้าได้....



แล้ววันหนึ่งข้าก็ได้พบ.....



เด็กชายตัวน้อยที่มีเส้นผมสีขาวราวกับหิมะ.....ฮิตสึกายะ โทชิโร่



เขาเรียกชื่อของข้า....เขาได้ยินเสียงข้า.....



เด็กน้อยที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะสามารถใช้พลังของข้าและกวัดแกว่งข้าได้ในฐานะดาบฟันวิญญาณ....เด็กน้อยที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเพราะมีพลังที่อันเย็นเฉียบและน่ากลัวเช่นนั้น...เด็กน้อยที่ราวกับถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อข้า....



นับแต่วันนั้นมาข้าจึงสาบานว่าจะมีชีวิตอยู่เพื่อเป็นคมดาบให้แก่เด็กน้อยผู้นั้น....ผู้ที่ใช้ทั้งพลังวิญญาณและ....หัวใจ....ในการเรียกชื่อของข้า



ข้าเฝ้าดูการเติบโตของเขาอยู่ภายในจิตใจที่เติบใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าร่างกายจะยังเป็นเหมือนเด็ก แต่จิตใจและความสามารถใดๆก็แสดงให้ประจักษ์ต่อสายตาใครๆแล้วว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน  เพราะฉะนั้นเด็กอัจฉริยะจากสถาบันวิญญาณคนนี้จึงถูกคัดเลือกให้เป็นยมทูตทันทีที่เรียนจบหลักสูตรและด้วยความสามารถนั้น ในไม่ช้าเขาจึงขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่10 ทั้งๆที่ยังเป็นเด็ก



ข้ากับเขาอยู่ด้วยกันและสื่อสารกันภายในจิตใจมาโดยตลอด....หากยามใดที่เขาต้องการใช้พลังของข้า เขาจะร้องเรียกชื่อของข้าพร้อมกับปลดปล่อยดาบ...แล้วข้าจึงจะสามารถออกมาช่วยเขาด้วยรูปแบบพลังวิญญาณของมังกรน้ำแข็ง....



แต่ใครจะรู้....ว่าวันหนึ่ง....



ข้าจะสามารถออกมายืนอยู่เคียงข้างเขาโดยมีรูปลักษณ์เฉกเช่นมนุษย์....ข้าสามารถปกป้องเขาเท่าที่ใจข้าอยากทำ มิใช่เฉพาะเวลาที่เขาเรียกชื่อของข้ายามเมื่อเดือดร้อนแต่เพียงเท่านั้น









ครั้งแรกที่ออกมาข้าอาจจะทำร้ายท่านไปบ้าง....แต่นับจากวินาทีที่ข้าจำท่านได้....อยากให้ท่านรู้ไว้ว่าข้ายินดีเป็นที่สุดที่ได้กลับมาอยู่ข้างกายท่านด้วยกายของข้าเอง

ข้าดีใจ....ที่จะได้ปกป้องท่าน.....เจ้าของของข้า











“ อือ....เฮียวริน....มารุ ?”         นัยน์ตาสีเขียวเปิดขึ้นช้าๆ ร่างเล็กๆตรงหน้าลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย



“ ข้าหลับไปนานรึยัง?”      ท่าทางขยี้ตาแบบนั้นดูสมกับที่เป็นเด็ก



“ ครู่เดียวเอง ท่านควรจะพักผ่อนอีกสักหน่อยนะ”       รอยยิ้มเอ็นดูกับดวงตาอบอุ่นถูกส่งไปให้แต่เจ้านายตัวน้อยก็ส่ายหน้าก่อนจะลุกขึ้นเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานอีกครั้ง



“ ท่านไม่ควรจะหักโหมมากเกินไป...เราเพิ่งจะได้พักจากศึกที่ดาบฟันวิญญาณก่อการกบฏ”       ถึงแม้ข้าจะเอ่ยเตือนอย่างเป็นห่วงเป็นใยแต่ร่างเล็กๆนี่ก็ไม่เคยเชื่อฟัง ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไป หากไม่ใช่คนที่ใจเย็นและสุขุมเช่นข้า ป่านนี้ท่านคงโดนลากไปทำโทษให้สมกับที่เป็นเด็กแล้วละ.....ได้แต่เฝ้ามองแผ่นหลังเล็กนั่นอย่างนึกปลง



“ พรุ่งนี้ข้าจะออกไปตรวจที่ทิศตะวันตกของเซเรเทย์ ตอนนั้นค่อยพัก....”       หัวหน้าหน่วยตัวน้อยพูดลอยๆออกมา คงอยากจะบอกว่ารู้....ว่าข้าเป็นห่วงเช่นนั้นใช่หรือไม่



“ ถ้าเช่นนั้นข้าจะไปชงชามาให้ท่าน”       ส่งรอยยิ้มน้อยๆให้กับนัยน์ตาสีเขียวกลมโตที่ลอบมองมาที่ข้าก่อนจะเดินออกจากห้องไป ใบหน้าที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับการที่มีใครสักคนคอยดูแลอยู่ใกล้ๆแบบนั้นมันทำให้ข้าดีใจ......ดีใจที่ได้ออกมามาเห็น










เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับกลีบซากุระที่โปรยปรายไปทั่ว.....เหล่ายมทูตในชุดฮากามะสีดำต่างทยอยกันเข้ามายังกองบัญชาการให้อาคารที่เงียบเชียบกลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง



“ เฮียวรินมารุ!!!       ร่างเล็กของหัวหน้าหน่วยสิบเด้งขึ้นมาจากที่นอนในห้องพักสำหรับหัวหน้าหน่วยก่อนจะตะโกนเรียกให้ร่างสูงหันไปมองด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยจะแปลกใจเท่าไหร่



“ ข้ามานอนอยู่นี่ได้ไง? แล้วสายป่านนี้ทำไมเจ้าไม่ปลุกข้า?!      ใบหน้าเล็กออกอาการหงุดหงิดและมีเส้นเลือดปูดอยู่ที่หน้าผากแต่กระนั้นร่างสูงก็ยังคงมองด้วยสายตาอ่อนโยนก่อนจะหันกลับมาชงชาในถ้วยต่อ



“ ข้าอุ้มท่านมาตอนรุ่งสาง เพราะเห็นว่านอนอยู่ตรงนั้นอาจจะทำให้ไม่สบายเอาได้”      ถ้วยชาหอมกรุ่นถูกยื่นไปให้ร่างเล็กที่ยังคงเดือดปุดๆ



“ ท่านทำงานเสร็จแล้ว เพราะฉะนั้นข้าจึงอยากให้ท่านนอนต่อจึงไม่ปลุก”       ใบหน้าคมซึ่งมีรอยแผลก้มลงไปอยู่ระดับเดียวกับคนที่ยังนั่งอยู่บนเตียง นัยน์ตาสีเขียวจึงเสไปมองอย่างอื่นก่อนจะเหลือบมองใบหน้าที่จ้องอยู่ไม่ห่างอย่างไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี......เพราะท่านอยู่คนเดียวมาโดยตลอดยามเมื่อมีข้ามาอยู่ใกล้ๆจึงไม่รู้ว่าควรจะทำเช่นไร.....แต่ข้าเอง...ถึงแม้จะอยู่คนเดียวมาตลอดเช่นกันแต่กลับรู้ว่าจะอยู่เคียงข้างท่านได้อย่างไร....นั่นเพราะว่าข้าเฝ้ามองท่านมานานแสนนาน....จากภายในจิตใจของท่าน....



“ ท่านจะเปลี่ยนชุดก่อนหรือไม่ ข้าเตรียมเอาไว้ให้แล้ว”       ใบหน้าเล็กก้มลงมองชุดฮากามะสีดำ ก่อนจะเงยหน้ามองร่างสูงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ



“ เจ้าออกไปรอข้างนอกก่อนไป”



“ ไม่ให้ข้าเปลี่ยนชุดให้ท่านหรอ?”      แค่นั้นแหละ....ใบหน้าเล็กก็เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีแดง จากสีแดงเป็นสีขาวสลับไปมาและในไม่ช้าก็พ่นไฟจนอีกคนลอบยิ้ม



“ นะ....นี่เจ้าเป็นดาบฟันวิญญาณนะ! ไม่ใช่พ่อบ้านหรือภรรยาของข้า!!!       หัวหน้าหน่วยตัวน้อยพ่นไฟไล่ดาบของตัวเองที่เดินออกมาจากห้องด้วยท่าทางปกติ ใบหน้าคมแอบอมยิ้ม....เพราะท่านทำตัวเป็นผู้ใหญ่ได้น่าเอ็นดูแบบนี้แหละนะ ใครๆเขาถึงอยากจะแกล้ง....อาจจะรวมไปถึงข้าที่ท่านเห็นว่าสุขุมเยือกเย็นนี่ก็ด้วย....









“ หัวหน้า~~~......”     เสียงเรียกยานคางดังมาจากรองหัวหน้าหน่วยที่วิ่งมาแต่ไกลก่อนจะสไลด์ตัวจนส่วนที่ใหญ่ที่สุดของร่างกายไปหนีบที่หัวเล็กสีขาวนั่นเข้า



“ มัต...สึ...โม...โต้!!!!      เสียงเรียกชื่อรองหัวหน้าหน่วยด้วยความดังแปดหลอดแบบนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของหน่วยที่สิบ



“ วันนี้ท่านจะออกไปตรวจข้างนอกใช่ไหม ให้ข้าไปด้วยน้า~~~      เส้นเลือดที่ขมับของท่านหัวหน้าหน่วยเต้นตุบๆอย่างเห็นได้ชัด กับอาการระงับความโมโหแบบนี้คงจะมีอยู่คนเดียวเท่านั้นแหละที่มองไม่เห็น



“ น้าๆๆ....”    



“ ไม่ได้!!! เจ้าอยู่ทำงานของเจ้าที่นี่แหละ ถ้าวันนี้ยังไม่เสร็จก็ไม่ต้องออกไปไหน!!!       และการใช้เสียงแปดหลอดในคำสั่งปะกาศิตจากหัวหน้าผู้จริงจังสั่งรองหัวหน้าที่ไม่ค่อยจะได้ความนี่ก็นับว่าเป็นเรื่องธรรมดา



“ ใจร้าย~~~ ข้าก็อยากไปด้วยนี่นา~~~      ไม่ว่าเปล่าสาวเจ้ายังลงไปนอนดิ้นไปมากับพื้นราวกับเป็นเด็กให้หัวหน้าหน่วยตัวน้อยกุมขมับพรางถอนหายใจ....ไม่รู้ว่าใครโตกว่าใครกันแน่?



“ ไปกันเถอะ เฮียวรินมารุ....”



“ ใจร้าย~~ ทำไมเฮียวรินมารุได้ไป แต่ข้าไม่ได้ไปล่ะ มาเปลี่ยนตัวกับข้าเดี๋ยวนี้เลยน้า~~



“ ไม่ได้!!!!      แล้วเสียงดังก็ยังคงอยู่คู่กับหน่วยที่สิบไปอีกพักใหญ่.....










“ ให้ตายสิ....”        ใบหน้าเล็กถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายให้ร่างสูงที่เดินเคียงข้างหัวเราะน้อยๆออกมา



“ หัวเราะอะไรของเจ้า”      นัยน์ตาสีเขียวเหล่มองคนข้างๆ



“ พวกท่านดูสนิทกันดี”        และข้าก็ดีใจที่ท่านได้พบกับเพื่อนพ้องที่ดีเช่นนี้



“ ดีแต่สร้างเรื่องเดือดร้อนละสิไม่ว่า...”       ถึงจะพูดแบบนั้นแต่แววตายามที่พูดออกมากลับเป็นประกายที่สวยงาม…..



หมู่บ้านที่เดินตรวจตราอยู่นั้นดูท่าทางว่าจะสงบสุขดี ไม่มีฮอลโล่หรือเหตุการณ์ใดๆให้หัวหน้าหน่วยตัวน้อยต้องปวดหัว ภารกิจจึงเสร็จเร็วกว่าที่คิด



“ จะไปตรงนั้นได้หรือไม่....”      ร่างสูงถามขึ้นมาในขณะที่ร่างเล็กตั้งท่าจะกลับไปที่หน่วย มือใหญ่ที่เป็นน้ำแข็งชี้ไปยังแง่งผาที่อยู่ไกลออกไปจากหมู่บ้าน



“ มันก็ได้อยู่หรอก...แต่จะขึ้นไปยังไง...เหวอ!!!      ถามยังไม่ทันขาดคำร่างเล็กก็ถูกอุ้มขึ้นก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะกระโดดขึ้นไปในท้องฟ้าราวกับว่ามันอยู่ใกล้ ปีกน้ำแข็งงอกออกมาให้บินไปได้สบายๆ แค่พริบตาเดียวร่างทั้งสองก็มาถึงยังแง่งผาหินสูงชัน



“ เลือกสถานที่ได้สมกับที่เป็นมังกรจริงๆนะเจ้า”      หัวหน้าหน่วยตัวน้อยถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ที่ด้านหลังคือภูเขาหินสูงขึ้นไปอีก ส่วนที่เบื้องหน้าคือหน้าผาที่มองเห็นเบื้องล่างอยู่ลิบๆ    “ แล้ว....จะมาทำอะไรบนนี้ล่ะ?”



“ ท่านบอกว่าจะพัก หากตรวจพื้นที่เสร็จ”      ใบหน้าคมมองมาด้วยสายตาอ่อนโยนจนคนที่โดนจ้องถึงกับปฏิเสธไม่เป็น



“ นั่งลงข้างๆข้านี่เถอะ”      ร่างสูงใหญ่นั่งลงไปกับพื้นหิน ให้อีกคนจำต้องนั่งลงไปตาม



“ เจ้านี่ละก็น้า....”       ใบหน้าเล็กถอนหายใจ แต่ก็รู้ดีว่าคนข้างๆเป็นห่วงตนแค่ไหน ถึงจะยังไม่ชินกับการมีใครสักคนแบบมีตัวตนจริงๆมาดูแลอยู่ข้างๆ แต่กับความห่วงใยนั้นรู้สึกได้มานานแล้ว....เพราะว่าตนกับคนข้างๆไม่เคยอยู่ห่างกันเลย มานับแต่จำความได้



“ หากเป็นที่ตรงนี้ละก็....ท่านจะได้เห็นพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุด”     



“ ถ้างั้น....เจ้าก็ปลุกข้าขึ้นมาดูด้วยล่ะ”       หัวเล็กเอนซบมาที่หัวไหล่ให้นัยน์ตาสีน้ำแข็งเบิกกว้าง



“ ท่านจะหนาวเอาได้นะ หากสัมผัสตัวข้า”



“ ช่างมันเถอะน่า...เจ้าก็รู้ว่าตัวข้าเองก็ไม่ได้อบอุ่นเหมือนคนทั่วไปนักหรอก...แล้วอีกอย่าง.........”        คำพูดขาดหายไปแทนที่ด้วยลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ นัยน์ตากลมโตคู่นั้นหลับใหลไปเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าคมก้มลงมองใบหน้าเล็กก่อนจะไล่มองลงมาที่มือที่เคยจับดาบเช่นตนกวัดแกว่งมานักต่อนัก...ตอนนี้มันวางอยู่บนมือใหญ่ที่เป็นน้ำแข็ง



มือใหญ่พลิกหงายขึ้นเพื่อกระชับมือเล็กเอาไว้.....



“ แล้วอีกอย่างอะไรกัน....”       กระซิบออกมาทั้งรอยยิ้มราวกับรู้ซึ่งคำตอบ....









ตอนนี้ข้ารู้แล้ว....ว่าที่ที่ข้าตามหา....

คือที่ว่างที่อยู่ข้างกายท่าน.....




.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


Pride on the Blade : 01
FIN!









เฮ้ย!!! ฟิคเรื่องนี้มาจากไหนวะ ?! ได้ข่าวว่านั่งแต่งฟิค 8059 อยู่ดีๆไหงเรื่องนี้เสร็จก่อนได้วะ?! (อิเรื่องนั้นก็ยาวเกิ้น...ยิ่งกว่าสองสามตอนรวมกันแล้วมั้งนั่น = =” เลยไม่เสร็จซักทีงิ)

เพราะไอ้นั่นเลย! อนิเมะBleachภาคดาบฟันวิญญาณนั่นเลย! มันจะสนุกเกินไปแล้วววววว! เล่นเอาเพ้อไปหลายฉาก เพราะมันเป็นภาคที่เกี่ยวกับพี่เบีย ลูเคีย และเร็นจินิดหน่อยด้วยมั้ง ก็เลยดูไปแหกปากไป ฮ่าๆๆ เลยได้ฟิคเพ้อๆเรื่องนี้ออกมา  จะว่าไปก็มีฟิคบลีชที่เคยแต่งเอาไว้อยู่เรื่องนึงแต่ว่ามันออกแนวสับสนชีวิตเล็กน้อยเลยไม่เอามาลง แหะแหะ มาเริ่มใหม่กับซีรี่ย์นี้ดีก่า...คุฟุฟุ....

Pride on the Blade หรือ ศักดิ์ศรีในคมดาบ    เรื่องนี้จะเป็นซีรี่ย์ของฟิคบลีชค่ะ ก็น่าจะเป็นตอนๆสั้นๆในฉากหรือเรื่องราวที่อยากสครีมเกี่ยวกับบลีชแต่ละตอนเนื้อหาก็อาจจะไม่เกี่ยวกัน(บางทีก็อาจจะไม่มีเนื้อเรื่องเพราะเน้นฉาก กร๊ากกก) แพร์ริ่งคงจะมีหลายคู่ แต่ละตอนก็ต่างกันไปในแต่ละคู่ แต่เรื่องราวหลักๆน่าจะอยู่ที่บ้านคุจิกินะคะ แหะแหะ ก็คนตระกูลนี้มันน่าร้ากกกกกก แนวเรื่องเป็นอะไรที่ถนัด กร๊ากกก เพราะว่า พีเรียด โรมานซ์หวานซึ้งและบางตอนก็รั่วค่ะ (พี่เบียจะโดนทำเสื่อมก็คราวนี้แหละ วะฮะฮะ)

สำหรับคู่แรกในตอนแรกนี้....เอิ่ม...ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงแต่งคู่นี้ขึ้นมาก่อนทั้งๆที่สครีมพี่เบียลูเคียและเซมบงซากุระกับโซเดะโนะชิรายูกิหนักกว่าอีก = =” แต่ขอสารภาพตามตรง.....ว่าคู่นี้คือวายคู่แรกที่ข้าพเจ้าจิ้นในบลีชละค่า....=[ ]=...ไม่อยากจะเชื่อตัวเองทั้งๆที่เป็นเรื่องที่ชายหนุ่มหน้าตาดีก็มีเยอะแต่เพิ่งจะจิ้นวายครั้งแรก!!! (หลังจากพยายามผลักไสไล่ส่งโอริฮิเมะว่าอย่ามาอยู่ใกล้ลูกสาวตรูเดี๋ยวชาวบ้านเค้าจะจิ้นมานาน) นะ....ก็ปกติพ่อโตที่โหล่(โทชิโร่) เค้าเป็นเด็กนี่นาแล้วจะให้ไปจิ้นคู่กับฮินาโมริก็ไม่อยากสุดๆเลยยังว่างอยู่คนเดียว คุฟุฟุ แล้วทีนี้พอมีพ่อดาบเฮียวรินมาเดินตามต้อยๆ ต่อมจิ้นมันเลยทำงาน กร๊ากกกก ....แบบว่า...ดูอนิเมะแล้วมันโฮกกกกไม่ไหวแล้วค่ะ เฮียวรินมารุเป็นผู้ใหญ่แล้วก็เรียบร้อยและสุขุมเยือกเย็นมาก ถึงแม้จะตกอยู่ภายใต้การสะกดแต่ก็ยังตามหานายของตัวเองอยู่ตลอดเวลา แล้วพอจำฮิตสึกายะได้ พ่อคุณก็ดูแลแทบไม่ห่างเลยน่ะ โฮกค่ะ มันโฮก!!! แบบว่าดูแล้วสมกับเป็นดาบชั้นสูงที่จงรักภักดีต่อนายของตัวเอง จะเห็นได้ว่าเฮียวรินมารุไม่ได้จิตที่จะแยกตัวเป็นอิสระหรือคิดร้ายต่อเจ้าของตัวเองเลย เพียงแต่เค้าจำไม่ได้ว่านายของตนเป็นใครและที่ต้องสู้กับฮิตสึกายะก็เพราะว่าต้องการพิสูจน์ว่าเป็นนายของตนจริงหรือไม่ >/////<

ฮ่าๆๆ ไม่เหมือนดาบบางเล่ม....หลอกตรูซะอยู่หมัดเลย!.....ไอ้เราก็นึกว่าจะสุขุมเยือกเย็นเป็นน้ำแข็งเหมือนเจ้าของ....ที่ไหนได้...ภายใต้หน้ากากที่ดูเยือกเย็นนั้นกลับเป็นคนขี้โมโหใจร้อนไร้ความอดทนแถมทำอะไรก็จะทำให้สำเร็จโดยไม่เคยยั้งคิดว่าชาวบ้านเค้าจะเดือดร้อน เหมือนเด็กๆ แถมยังฉลาดเป็นกรดไม่เคยยอมรับความผิดแถมโบ้ยให้ชาวบ้านหน้าตาเฉย ฮ่าๆๆๆ ด่ามานี่ชอบนะ ไม่ใช่ไม่ชอบ 555 ตรูคิดว่ามันหล่อคิดว่ามันเท่ห์มาจนจบภาค พอภาคดาบอสูรเท่านั้นแหละ....อ๊ากกกก เซมบงซากุร้า....เป็นคนแบบนี้เองเร๊อะ...อย่างกะพี่เบียตอนเด็กๆน่ะ 555

ครึ ครึ ยังไงก็ฝาก ศักดิ์ศรีในคมดาบ เรื่องนี้เอาไว้ในอ้อมแขนอีกเรื่องนึงนะคะ >////< เอาไว้ถึงตอนของพี่เบียลูเคีย เราค่อยมาโฮกที่มาของชื่อเรื่องกัน อร๊ายยยย





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น