KHR fic [8059] วิชาเนียน ร้อยเล่มเกวียน : 06 END


[Fic][8059] วิชาเนียน ร้อยเล่มเกวียน [06]

[Yamamoto Takeshi's Part  by kuwa[R]i...]


 : KHR  Fanfiction
: 8059 
: NC-17
: Romantic Comedy

คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ







...บางครั้ง...

ผมก็คิดเหมือนกันนะว่าตัวเองทำเกินไปหรือเปล่า?

ผมอาจจะแกล้งเกินไป ทำบางอย่างมากเกินไป

แต่ทั้งหมดนั่นน่ะ..ก็เพราะรักทั้งนั้นนี่นา...

ดังนั้น....ผมไม่ผิดใช่ป่าว......

ไม่ผิดเลย..................

เนาะ............



.................................




หลังจากที่เราเดินกลับเข้ามาในบ้าน ผมก็ถูกพ่อรั้งตัวไว้ช่วยงานในร้านเล็กๆน้อยๆ โดยยังไม่ทันขึ้นไปข้างบน ได้แต่ปล่อยให้คนหน้าแดงวิ่งหนีไปอาละวาดใส่ข้าวของในห้องแต่เพียงลำพัง
อา...ไม่ต้องพึ่งจินตนาการสมองถั่วก็พอจะรู้ชะตากรรมของห้องนอนอันแสนสุขของผมได้ล่ะนะ ว่ามันคงยิ่งกว่ามีพายุมหาศาลพัดกวาดล้างไปขนาดไหน



เอาเหอะนะ ตอนนี้หมอนั่นก็ยังคงอารมณ์เสียหนักจากเรื่องที่เกิดขึ้น ผมจะปล่อยให้อยู่คนเดียวไปซักพักก่อนแล้วกัน



แล้วหลังจากนั้นน่ะ จะเกาะติดเอาชนิดที่ว่าต่อให้อยากหนีก็ไม่มีทางหนีได้เลย คอยดู...




.......




*แอ๊ด*



ผมค่อยๆแง้มบานประตูในห้องเข้ามาอย่างระแวดระวังเพื่อที่จะได้ตั้งรับกับอะไรบางอย่างที่อาจลอยมาใส่สวัสดิภาพของผมได้ ก็ตั้งแต่ที่ผมช่วยป๋าอยู่ในร้าน ตอนแรกคาดหวังว่าจะได้ยินเสียงตะโกนตึงตังหรืออะไรก็ตามทีดังมาจากคนข้างบน แต่สุดท้ายมันก็เงียบกริบ...กริบเกินไปแล้ว...


"โกคุเดระ?" ไฟในห้องมืด นั่นหมายถึงเจ้าของชื่ออาจจะอยู่ในห้องน้ำหรือนอนหลับไปซึ่งผมมั่นใจในข้อหลังมากกว่าก็เลยก้าวเท้าเข้ามาโดยไม่คิดจะหาแสงสว่างซักนิด
แต่แล้ว...



*โป๊ก!*



"โอ๊ยย!!"



ท่ามกลางความมืดอันเงียบงัน อะไรบางอย่างไม่มีที่มาที่ไปพุ่งมากระแทกหัวของผมอย่างแรงเข้าเป้าเหมาะเหม็งอย่างกับว่าคนปามองเห็นได้ในความมืดงั้นแหละ



มันเจ็บครับ เจ็บมากเสียด้วย แต่ก็แน่นอนครับว่ามันทำอะไรผมไม่ได้ แต่ผมก็ยัง...



*ตึง!*



...ล้มไปกองกับพื้น



"เชอะ ไอ้เบสบอลสมองถั่วก็ยังเป็นสมองถั่ววันยังค่ำ" ได้ยินเสียงของโกคุเดระพูดในความมืด
เอาล่ะครับ ไหนๆผมก็นอนแล้ว ไอ้ครั้นจะลุกขึ้นก็ชักขี้เกียจ แถมท่าทางว่าโกคุเดระจะอยากให้ผมแน่นิ่งเสียเหลือเกิน แหม สามีที่ดีก็ต้องตามใจภรรยาสินะครับ ผมก็เลยนอนมันอยู่อย่างนั้นแหละเอ้า สมใจนายล่ะสิที่รัก


"เฮ่ย ไอ้บ้าเบสบอล" รู้สึกเหมือนมีอะไรมาเขี่ยๆที่ข้างตัว เมื่อเวลามันผ่านไปชักจะนานพอสมควร "ไม่ต้องมาทำนอนเลยนะ คนที่สิบล้อทับยังไม่เป็นไรอย่างแกจะมาล้มกะอีแค่นาฬิกาปลุกเรอะ!?" อ้อ นี่เองที่มาของของปริศนาเมื่อครู่
ท่าทางว่าคนในห้องคงจะรู้สึกว่ามันนานไปแล้วล่ะ ท่ามกลางความเงียบและมืดสลัว ในห้องแคบๆเนี่ยมันชวนน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก..สินะ...


"ฮะ...เฮ้ย!" โกคุเดระเอื้อมมือมาเขย่าผม แล้วก็คงพบว่ามือเขาเปื้อนคราบเหนียวๆของน้ำอะไรบางอย่างที่อยู่บนหัวของผม ซึ่งมันกำลังไหลนองเลอะพื้นอยู่ในเวลานี้


*พรึ่บ*


เสียงไฟนีออนในห้องเปิดขึ้นสว่างจ้า แล้วเสียงตะโกนปานฟ้าร้องก็ดังขึ้นจนแก้วหูแทบแตก
"เฮ้ยยยยยยย!!!!!!!!"



คุณคิดว่าเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?



ผมมองไม่เห็น ผมไม่รู้ว่าภาพตรงหน้าที่โกคุเดระเห็นนั้นเป็นแบบไหน



แต่ที่แน่ๆ ผมมั่นใจว่าไอ้ที่เขาแหกปากลั่นขึ้นมาก็เพราะของเหลวบางอย่างที่สีแดงข้นปนดำซึ่งกำลังเลอะใบหน้าซีกหนึ่งของผมและไหลนองพื้น



"อะ...อะ...ไอ้บ้าเบสบอล!" ดูท่าว่าภาพมันอาจจะหยดหยองพอดูจนต้องเจ้าตัวถึงกับติดอ่าง แน่ล่ะสินะ เด็กผู้ชายตัวสูงนอนแน่นิ่งกลางห้อง เลือดไหลนองเลอะพื้นมันน่ามองซักที่ไหน แถมที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะตัวเองเป็นคนทำอีกต่างหาก



แน่นอน อย่างน้อยโกคุเดระจะต้องนึกว่าตัวเองเป็นคนทำ



ถ้าหมอนั่นจะฉุกใจคิดซักนิดนะ...




...........................




เสียงไซเรนรถพยาบาลกรีดร้องจนแสบแก้วหู ไฟสีแดงแวบวับหน้าร้านช่วงหัวค่ำเรียกความสนใจจากญี่ปุ่นมุงแถวนั้นได้มากพอดู ฮะๆ ดูท่าทางมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้วสินะ แต่จะว่าไปแล้วมันก็ใหญ่มาตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วนี่นา จะประกาศให้โลกรู้  ก็ให้มันรู้กันทั้งโลกไปเล้ย!
ผมไม่รู้ว่าใครขึ้นรถพยาบาลมากับผม แต่ที่แน่ๆคือไม่ใช่พ่อ เพราะสัมผัสของฝ่ามืออุ่นนุ่มนิ่มที่กำมาตลอดทาง
แย่ล่ะสิ...ทั้งๆที่คิดว่าจะแกล้งอำซักหน่อยให้ตกใจเล่น แต่ในเมื่อเรื่องมันถึงขั้นนี้แล้ว..



ก็ต้องเอาให้สุดๆ!!



เล่นหนังอินเดียกันแล้วใช่ไหม? ได้เลย!



เราจะต้องโกอินเตอร์!!



"ทาเคชิ"
ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาเมื่อถึงเวลาอันพอเหมาะ หลังจากปล่อยให้หมอทำแผลเรียบร้อย แน่นอนครับ มันไม่ใช่แผลที่ใหญ่โตอะไรมากนักหรอก กะอีแค่นาฬิกาปลุกก็ไม่ได้ทำให้เลือดไหลโจ๊กถึงขั้นนอนสลบด้วย แล้วไอ้สีแดงๆที่ไหลเยอะๆนั่นอะไรน่ะเหรอ?



มันคือน้ำเชื่อมสตรอเบอรี่ผสมช๊อคโกแลตครับ



แล้วมันมาจากไหน? ก็ผมถือขนมขึ้นมากะว่าจะเอามาง้อโกคุเดระ แต่ว่าโดนป้องเสียก่อน เนื้อขนมที่เหลือผมแอบกินเข้าไปในความมืดทำลายซากหลักฐาน ให้มีแค่น้ำหวานมันดูสมจริงสมจัง



ผมก็บอกแล้วว่าถ้าโกคุเดระฉุกใจคิดซักนิดว่าในห้องมันมีกลิ่นหวานๆ เขาก็คงรู้ว่ามันไม่ใช่เลือด เพียงแค่หมอนั่นคงจะตกใจมากไปหน่อย ว่าแต่...โกคุเดระอยู่ไหนล่ะนี่? เอาเหอะ ขอเนียนตามบทไปก่อนละกันนะ



"เป็นไงบ้าง เจ้าทาเคชิ" ป๊ะป๋าชะโงกหน้าเข้ามาใกล้เตียงที่ผมนอนอยู่ หน้าตาดูไม่ค่อยห่วงแต่ออกแนวสงสัย ฮะๆ เอาไว้เจรจากันตอนหลังนะป๋า แต่ตอนนี้น่ะ...



"ที่นี่...ที่ไหนเหรอครับ?"



...........................



"เจ้าบ้าเบสบอลความจำเสื่อม!!!"



เสียงตะโกนคุ้นหูดังจากข้างนอกห้อง ถึงมองไม่เห็นก็สามารถเดาใบหน้าตกใจนั้นออกได้ แน่ล่ะ ก็ใครมันจะไปคิดว่าแค่เอานาฬิกาปลุกเขวี้ยงหัวจะถึงขั้นกระเทือนจนสมองเสื่อม
ป๋าตอบว่าอะไรผมไม่รู้ล่ะ แต่ว่าหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีบานประตูก็เปิดผลั่วะเข้ามาทันที


"ไอ้บ้าเบสบอล!" โกคุเดระเรียกเสียงลั่นราวกับลืมไปว่าที่นี่น่ะโรงพยาบาล แถมกลางดึกเสียด้วยนะ
ผมเบือนหน้าหันไปช้าๆ ยิ้มให้ชนิดที่เรียกว่าไร้เดียงสาที่สุดเท่าที่ออสการ์จะให้รางวัลใครซักคนได้


"เอ๋? นายเป็นใครเหรอ?"
เขานิ่งครับ ท่าทางจะช๊อคกับคำพูดของผมพอดู ร่างบางแทบจะกระโจนเข้ามากระชากคอเสื้อผมในทันที


"แก...นี่มันไม่ตลกนะโว๊ย!!" เขากระชากเสียงใส่ แต่ทำไมล่ะ? ในดวงตานายมันถึงเหมือนจะร้องไห้แบบนี้ นี่ผมทำเกินไปหรือเปล่าเนี่ย?



แต่ว่า...ขออีกนิด....อีกนิดเดียวเท่านั้น...



"เอ่อ...ขอโทษนะ แต่นายเป็นใครอ่ะ?"
ผมรู้ว่าคำพูดของผมมันช่างทำร้ายจิตใจสิ้นดี นึกเหรอว่าคนที่พูดอะไรแบบนี้จะไม่ทำร้ายจิตใจตัวเองเหมือนกัน...
หมอนั่นอึ้งไปอีกครั้ง และอีกครั้งที่ผมเห็นความเศร้าในแววตานั้นที่ฉายชัด
นี่ผม....ทำตัวเป็นพระเอกซีรีย์เกาหลีไปหรือเปล่า?
แต่ว่า.. ถ้าไม่ด้านหนา ก็ไม่ได้ตุ๊กตาทองน่ะสิ!
โกคุเดระยังคงนิ่ง หน้าสวยๆที่ผมชอบฉายแววตกตะลึงอย่างปิดไม่มิด หมอนั่นอาจจะตกใจจนช๊อคไปแล้วก็เลยไม่มีคำพูดโวยวายอะไรออกจากริมฝีปากนั่นอีก มือที่กำแน่นบนเสื้อผมค่อยๆคลายลง แล้วผมก็พบสิ่งที่ไม่คาดคิด...
น้ำตาเม็ดโตค่อยๆร่วงเผาะจากดวงสีมรกตน้ำงาม ซึ่งภาพที่เห็นนั้นมันสวยเกินบรรยาย ด้วยความลืมตัว ผมค่อยๆรั้งร่างบางเข้าในวงแขน จรดริมฝีปากลงแนบบนแก้มนิ่ม รับรู้รสเค็มของหยาดน้ำตา



...นี่...นี่ผมแกล้งเขาเกินไปหรือเปล่า? ผมทำตัวเนียนเกินไปมั๊ย?



"....ร้องไห้ทำไม?" ผมกระซิบที่ข้างหูของเขา ความรู้สึกผิดมันเอ่อท้นขึ้นมาทันที



...แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้...
แล้วเมื่อไหร่จะได้รู้ความในใจของนาย...โกคุเดระ...



"...ฮึก..." ได้ยินเสียงสะอื้นของคนในอ้อมแขนแล้วก็ยิ่งเจ็บปวด ผมเลื่อนตระกรองกอดร่างตรงหน้าแน่นขึ้น โน้มหน้าลงหมายจุมพิตปากแดงเรื่อนั้นอีกครั้ง...



*โป๊ก!!!!*




"นึกว่าฉันจะเชื่อแกเรอะ! ไอ้สมองถั่ว!!!!!!!!!!!! ไอ้ตอแหล!!!!!!!!!!"



เสียงตะโกนแปดพันห้าสิบเก้าหลอดปรี๊ดใส่หูลั่นจนเนื้อสมองที่แทบไม่ค่อยมีอยู่แล้วเกือบระเบิด โกคุเดระประเคนหมัดใส่หน้าผมอย่างจังซึ่งคราวนี้มันแรงจนแทบจะเห็นดาวทีเดียว


"ง่ะ....ตัวเองพูดอารายอ่ะ" ผมกุมหน้าที่เจ็บแปล๊บจากการถูกต่อยเอาไว้ พยายามที่จะแถต่อไป แต่ว่า...


"ไม่ต้องมาเนียน!! คุณลุงบอกฉันหมดแล้วว่าแกแกล้งความจำเสื่อม นึกว่าฉันโง่นักรึไง!! ห๊า!!" หมัดชุดประเคนใส่ไม่ยั้ง แต่ผมก็หลบได้จนหมด ง่า...ป๋านะป๋า นี่ไม่เข้าข้างลูกตัวเองเลยเรอะ


"เดี๋ยว! โกคุเดระ ฟังฉันก่อน" เนียนไม่ได้ก็ไม่ต้องเนียน เอากันตรงๆแบบนี้นี่แหละ ผมรับหมัดและเลื่อนจับข้อมือเล็กกว่าทั้งสองข้างไว้ก่อนที่โน้มอีกฝ่ายให้นอนราบบนเตียงอย่างรวดเร็ว ทิ้งน้ำหนักลงบนท่อนขากันลูกเตะที่กำลังจะตามมาในอนาคต


"แกร๊!" โกคุเดระหน้าแดงแปร๊ดจากท่าทางล่อแหลมของเราทั้งคู่ "ปล่อยเดี๋ยวนี้นะว๊อย แกคิดว่าแกกำลังจะทำอะไร ห๊า!!"


"ทำไมล่ะ? โกคุเดระ" ผมพูดด้วยสีหน้าที่คิดว่าจริงจังที่สุด "ทำไมนายถึงไม่เข้าใจซักที"


"แกพูดอะไรของแกวะ?"


"นายไม่เข้าใจเหรอ? ทั้งหมดนั่น..." ผมจ้องลึกลงไปในดวงตาสีมรกตที่แสนหลงใหลตลอดมา "นายไม่รู้เหรอไงว่าทั้งหมดที่ฉันทำมันเพราะอะไร? นายมันไม่เข้าใจอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว"
ขอบตาร้อนผ่าวแล้วน้ำตาก็ค่อยๆกลั่นออกมาทีละนิดจนมันหยดลงต้องผิวแก้มเนียนใสของร่างข้างใต้ มองเห็นดวงหน้าหวานพร่ามัวที่แสดงถึงอาการตื่นตะลึง


"....อะ....ไอ้บ้าเบสบอล"


"...แม้แต่ชื่อของฉัน นายยังไม่อยากจะเรียก" เสียงของผมสั่นนิดๆจากก้อนสะอื้นที่มาจุกคอหอย "เพราะนายเกลียดฉันมาก...สินะ..."
ผมค่อยๆคลายแรงที่จับข้อมือบางออก ถอยหลังกลับไปนั่งพิงหัวเตียงแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น ผมไม่อยากให้เขาเห็นใบหน้าที่แสดงถึงความอ่อนแอ ใบหน้าที่กำลัง...



....ยิ้ม...



"มะ...ไม่ใช่...ไอ้บ้าเบส...ยามาโมโตะ..." ท่าทางคนตรงหน้าเริ่มลนลานทำอะไรไม่ถูก "ฉันก็ไม่ได้...เอ่อ....เกลียดแกซักหน่อย"


"ไม่เป็นไร ไม่ต้องปลอบฉันหรอก" ผมพยายามฝืนยิ้มทั้งน้ำตา "ขอบใจนะ โกคุเดระ"
โกคุเดระก้มหน้าลง ผมไม่รู้หรอกนะว่าเขาคิดอะไรอยู่ หรือว่าเขาอาจจะสับสน เขาอาจไม่รู้ตัวเองว่าในขณะที่ปากด่าผมปาวๆ มือตรงเข้าทำร้ายผมไม่ยั้ง แต่ทุกครั้งที่ผมโอบกอดเขาผมจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นระรัวอยู่ในอก แน่นอน ว่ามันเป็นเสียงของเราทั้งคู่...


เขาอาจะไม่รู้ตัว หรือ เขาอาจจะไม่มีวันรู้ตัว ว่าความจริงแล้วเขาคิดยังไงกับผมกันแน่


"รักนะ โกคุเดระ"


"หา?"
ใบหน้าหวานดูจะตื่นตะลึงมากขึ้นเป็นสิบเท่าเมื่อจู่ๆผมก็พูดอะไรบางอย่างออกมา


"ขอโทษที่ฉันไม่เคยบอกนาย ก็เลยอาจจะทำให้นายเข้าใจผิด ฉันรักนาย โกคุเดระ"


"หะ...."
มันคงเป็นช่วงเวลาของการสารภาพรักที่ทื่อมะลื่อที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ และมันก็แสนจะโรแมนติกสิ้นดีเมื่อสภาพที่พวกเราอยู่กันตอนนี้ก็คือเตียงในห้องของโรงพยาบาล ว่าแต่...ผมบอกพวกคุณหรือยังครับว่าห้องที่พวกเราอยู่น่ะ..


"ฉัน..." ริมฝีปากแดงขมุบขมิบอ้ำอึ้ง "....ฉันไม่รู้"
ก็เป็นคำตอบที่สมกับเป็นโกคุเดระล่ะนะ เขาคงไม่มีวันเข้าใจในตัวเองได้ตราบใดที่เขายังเป็นคนแบบนี้ คนน่ารักที่ปากหนักไม่ตรงกับใจ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างภายในมันแสดงออกมาหมดแล้วบนใบหน้าขึ้นสีเรื่อน่ามองนั่น


"ไม่เป็นไร..." ผมยิ้มกว้าง "ฉันรอได้ โกคุเดระ"
สองแขนของผมรวบร่างบางไปกอดอีกครั้ง ร่างกายที่ผมพร้อมจะปกป้องและกักขังให้อยู่แต่ในอ้อมแขนนี้ตลอดไป..


"...ฉันรักนาย"


"....อืม...."
ริมฝีปากของเราสองคนสัมผัสกันและกัน แลกเปลี่ยนรสชาติหวานล้ำ เปลือกตาหลับลงมองเห็นแพขนตายาวพริ้ม..




แล้วเสียงปรบมือหลายคู่ก็ดังขึ้นมาในห้อง




โกคุเดระเหมือนจะรู้สึกตัว เขารีบลืมตาแล้วผลักผมออกไปโดยเร็ว ดวงหน้าแดงก่ำมองไปรอบๆพลางอ้าปากพะงาบๆเหมือนปลาขาดน้ำ เมื่อเห็นคนมากมายกำลังจับจ้องมาที่พวกเราด้วยใบหน้ายิ้มๆ



...อ้าว ผมไม่ได้บอกหรอกเรอะว่าพวกเรา อยู่ในห้องรวมน่ะ



"ยินดีด้วยนะจ๊ะพ่อหนุ่ม" คุณยายที่เตียงตรงกันข้ามอวยพรด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม


"ขอให้รักกันนานๆนะจ๊ะ" นี่จากคุณผู้หญิงท้องแก่เตียงเยื้องขวา


"แหม เหมาะสมกันจัง อีกคนก็หล่อ อีกคนก็สวย" นั่นคำพูดจากคุณตาเตียงเยื้องซ้าย


"คิดถึงสมัยหนุ่มๆจริงๆ" (?) นี่ก็จากคุณลุงเตียงข้างๆ
และอีกหลายเสียงที่อวยพรให้ชีวิตคู่ของสองเรา แหม๋ ตอนนี้น่ะไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหน้าผมคงยิ้มบานเท่ากระด้ง


"ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ"


แก....." แต่ทว่าอีกคนดูท่าจะไม่ยินดีด้วยซะแล้วสิ มือเรียวกำหมัดแน่นก่อนจะประเคนใส่หน้าผมเน้นๆ "ไอ้งี่เง่า!! ฉันไม่น่าหลงไปกับแกเลย!!!"


หลังจากฝากรอยรักไว้บนหน้าแล้ว เจ้าตัวก็รีบตะกายหนีลงจากเตียงไปทันที ท่าทางจะอายพอดู หุๆ ไม่ได้หรอกครับ ของอย่างนี้มันต้องมัดมือชก!!


"เดี๋ยว โกคุเดระ!!" ผมรีบวิ่งตามไปโดยมีเสียงตะโกนให้กำลังใจตามมา


"ง้อกันดีๆนะจ๊ะพ่อหนุ่ม"


"แต่งกันเมื่อไหร่อย่าลืมบอกล่ะ" (??)


ผมก็ได้แต่โบกมือรับกำลังใจก่อนจะวิ่งตามไปโดยเร็ว




.....





"โกคุเดร๊า~~"



ผมวิ่งตามคนที่กำลังโกรธหรืออายจนหน้าแดงหน้าเขียวก็ไม่ทราบได้ แต่เอาเป็นว่าสุดท้ายก็มาจับตัวได้ที่บ้านผมนี่แหละ เจ้าตัวรีบวิ่งขึ้นไปคว้าเจ้ากระเป๋าใบเมื่อตอนกลางวัน ตั้งท่าจะออกไปอีกครั้งตามทำนองหนังไทย ผมก็เลยรีบคว้าแขนนั้นไว้ก่อน


"เดี๋ยว โกคุเดระ ฟังฉันก่อน"


"ไม่ฟังว๊อยยยย ฉันจะกลับบ้าน!!"


"บ้าน? นายจะกลับไปได้ยังไง? ก็บ้านนาย..."


"อพาตเม้นเขาโทรมาบอกว่าซ่อมเสร็จแล้ว ไม่รู้ล่ะ ฉันจะไปจากที่นี่ ไปนอนข้างถนนเอาก็ได้!!" เจ้าตัวโหวกเหวกโวยวายสุดฤทธิ์ "ปล่อย!!"


"ไม่ปล่อย ฉันไม่ให้นายไปหรอก" ผมทำสีหน้าจริงจัง


"ไม่ปล่อยใช่ไหม? ได้" โกคุเดระทิ้งกระเป๋าลงกับพื้น แล้วควักดอกไม้ไฟขึ้นมาเต็มกำมือ "งั้นก็ดับไปซ้า!!!"


"หวา!!!"




*ตูมมมม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!*





................

...................................




เกิดเหตุระเบิดปริศนา  ร้านซูชิหายไปครึ่งหลัง......    ผมก้มลงมองข้อความในกระดาษหนังสือพิมพ์ประจำเมืองนามิโมริ  ที่กำลังถูกมือใหญ่ๆของผมกำแน่น อย่างเบิกบาน....



แน่นอนว่า ไอ้ร้านซูชิที่ว่าเนี่ยมันก็คือร้านทาเคซูชิของพ่อผมเองน่ะสิ....



ผมยืนมองอพาร์ตเม้นที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกระเป๋าบรรจุเสื้อผ้าขนาดใหญ่แบบที่คิดจะมาอาศัยกันชั่วชีวิตเลยทีเดียว



....ก็บอกแล้ว...ว่านายหนีฉันไม่พ้นหรอก โกคุเดระ ฮะๆๆๆ








วิชาเนียนร้อยเล่มเกวียน / จบจ้า






...........................



แถม...



"ว๊อยยยยยย!!! ทำไมฉันจะต้องให้แกมาอยู่ด้วยวะ ไอ้บ้าเบสบอลถั่วหมัก!"



เด็กหนุ่มร่างบางเจ้าของเรือนผมเงินโวยเสียงลั่นเมื่อเขาเปิดประตูมาและพบคนหน้าเป็นที่ยืนยิ้มเผล่อย่างไร้ซึ่งเรื่องทุกข์ร้อน



ยามาโมโตะไได้แต่ยิ้มไม่ตอบอะไร มือใหญ่เพียงยื่นหนังสือพิมพ์ให้อีกฝ่ายเท่านั้น



"อะไรของแก...เกิดเหตุระเบิด........" จากหน้าที่ขาวอยู่แล้วยิ่งซีดสนิท เมื่อดวงตาสีมรกตกวาดข้อความอ่านไปเรื่อยๆ ก็ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะ ว่าไอ้ร้านที่ว่ามันก็คือร้านซูชิของเจ้ายามาโมโตะ แต่พูดก็พูดเหอะ ถึงแม้เขาจะเป็นคนถล่มมันด้วยไดนาไมต์เมื่อคืนก็จริง สาเหตุที่มันทำให้เขาขายหน้าต่อหน้าประชาชี แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะถึงขั้นพังร้านกันแบบนี้



"มะ...มันไม่ใช่ความผิดของฉันนะเฟ้ย! ทั้งหมดนั่นก็เพราะ...แกน่ะแหละ" นึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วก็ให้อับอายชะมัด เราทั้งกอดกับมันทั้งจูบต่อหน้าผู้คน โอยย ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้วเนี่ย



"ฉันก็ไม่ได้โทษนายนี่นา โกคุเดระ" ยามาโมโตะยังคงยิ้มแย้ม "ฉันก็แค่บ้านแตกสาเแหรกขาดไม่มีที่อยู่ กิจการต้องหยุดชะงักขาดรายได้ แถมพ่อยังต้องไปรับจ๊อบที่อื่นเพื่อหาเงินมาซ่อมแซมร้าน ฉันก็ไม่ได้บอกเลยนะว่าเป็นความผิดของนาย อ้อ แล้วที่ฉันต้องมาอยู่ที่นี่เพราะไม่อยากเป็นภาระให้พ่อที่เหนื่อยต้องทุกข์ใจ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่นายต้องรับผิดชอบเช่นกันนะ"



"อึก..." ร่างบางสะอึก รู้สึกว่าคำพูดของเจ้านี่มันจี๊ดใจยังไงก็ไม่รู้ เหมือนหลอกด่าตูเลยฟร่ะ!



"อะ...เอาเหอะ" เจ้าของเรือนผมสีเงินกัดฟันพูด "เพื่อเห็นแก่คุณลุงที่เคยมีบุญคุณกับฉัน ฉันจะรับฝากแกเอาไว้ก็ได้" ก็ไอ้หมอนี่มันตอกย้ำเหลือเกินว่าเป็นความผิดตูนี่หว่า



"เหรอ...งั้นก็ขอบใจนะ โกคุเดระ ฉันก็จะอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่ทำให้นายยุ่งยากใจหรอก"



ยามาโมโตะพูดอย่างนั้น แต่ในใจเลยใครจะล่วงรู้ กะอีแค่ดอกไม้ไฟมันจะทำให้ร้านเขาพังได้ยังไง ถ้าเขาไม่จงใจปัดมันไปโดนเตาไฟที่อยู่หลังเคาท์เตอร์น่ะ โทษนะป๋า แต่บางครั้งป๋าก็ต้องเสียสละร้านนิดหน่อยเพื่อว่าที่ลูกสะใภ้คนสวยนะ ฮะๆ



"ขอรบกวนด้วยนะครับ" เด็กหนุ่มร่างสูงพูดก่อนจะเดินตามคนงามที่เดินฮึดฮัดเข้าบ้านไป และก่อนที่ประตูจะปิดลง รับรองว่าหากโกคุเดระเห็นรอยยิ้มดาร์กๆที่ระบายอยู่บนเรียวปากแล้ว คงจะรีบไล่ตะเพิดเจ้าตัวเนียนระดับชาตินี่ออกไปแทบไม่ทัน



...แต่โกคุเดระไม่เห็น และไม่มีวันเห็น



ของมันเข้าไปแล้ว มันก็เอาออกไปไม่ได้ง่ายๆหรอกนะ ฮะๆๆ






จบจริงๆแล้ว



2 ความคิดเห็น:

  1. วิชาเนียน เนี่ย อ่านเมื่อไหร่ก็เนียนได้โล่จริงๆ รักจริงๆเลย fic เรื่ีองเนี้ย

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ1 สิงหาคม 2566 เวลา 08:21

    เนียนมากกกกกกก

    ตอบลบ