KHR fic [8059] วิชาเนียน ร้อยเล่มเกวียน : 04


[Fic][8059] วิชาเนียน ร้อยเล่มเกวียน [04]

[Yamamoto Takeshi's Part  by kuwa[R]i...]

: KHR  Fanfiction
: 8059 
: NC-17
: Romantic Comedy



คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ





หวาน.....



ยิ่งกว่าผลไม้สดฉ่ำในชามฟรุ๊ตสลัด มากกว่าไอศครีมสีสวยในถ้วยพาเฟต์ เกินกว่าน้ำตาลกรวดในขวดโหลคริสมาสต์



แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า นี่จะเป็นรสสัมผัสที่เกินกว่าจินตนาการของมนุษย์คนหนึ่งจะฝันไกลไปถึงได้ ถึงแม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นมนุษย์เบสบอลสมองถั่วอย่างผมก็เถอะ...



นุ่ม....



ละมุนละไมหอมกรุ่นจนแสบจมูก จนน่ากลัวว่าค่าน้ำตาลในเลือดจะพุ่งขึ้นสูงเกินพิกัด



ปลายลิ้นเล็กๆนั้นแข็งทื่อไร้ชีวิตชีวาในคราแรกแต่เมื่อถูกชักพาโอบอุ้มโบยบินไปตามท่วงทำนอง ความเร่าร้อนจึงแทรกเข้าแทนที่ความอ่อนโยน



อุณหภูมิในร่างกายเราขึ้นสูง ไม่เพียงแต่ใบหน้าแต่ลามปามไล่ทั่วทั้งตัว ผมรับรู้ได้จากแผ่นหลังบางที่ฝ่ามือเลื่อนเข้าสัมผัสใต้เสื้อหลวมโพรกซึ่งอีกฝ่ายสวมใส่ เสียงหัวใจที่ไม่รู้ว่าของใครกันแน่กำลังดังระรัวแข่งกันท่ามกลางความเงียบงันไร้ซึ่งคำพูดใดๆ มีแค่เพียงเสียงหอบหายใจซึ่งกำลังสั่นไหวในความรู้สึก



สติของผมคงจะหลุดหายไปทันทีที่ได้รับเอาความนุ่มเนียนจากริมฝีปากสีระเรื่อนั้น แต่ทุกอย่างมันก็ดำเนินไปอย่างไม่อาจห้ามปรามได้ ไม่รู้สิ บางทีผมน่าจะหยุดตัวเองไว้แค่นี้ก่อน แต่เพราะลมหายใจหอบถี่ของร่างในอ้อมกอดนั้นฉุดลากการกระทำให้พุ่งตรงไปข้างหน้า มันก็เหมือนกับว่าเมื่อไฟติดขึ้นมาบนกองเชื้อเพลิงชั้นดีแล้วก็ไม่มีทางที่จะมอดดับไปโดยง่าย



...ผมควรจะ...ไปต่อหรือเปล่า?



แน่นอนว่าคำถามนั้นผุดขึ้นจากความคิดเลือนรางฝ่ายดี มันควรจะจบลงแค่ที่ตรงนี้ แต่เมื่อผมยอมละริมฝีปากออกมา หูเจ้ากรรมดันได้ยินเสียงบางอย่างเครือขึ้นแผ่วเบาจากลำคอระหง



"อื้อ..."



มันคืออาวุธอันร้ายกาจที่สุดในโลกซึ่งสามารถฆ่าคนได้ในพริบตา (โดยเฉพาะเมื่อคนคนนั้นชื่อว่า ยามาโมโตะ ทาเคชิ ) หากโกคุเดระจะรู้ว่าเขาสามารถทำได้  ใบหน้าหวานขึ้นสีเรื่อ ดวงตาสีมรกตฉ่ำเยิ้มกับริมฝีปากเผยอน้อยๆแบบนั้น...



...ผมอยากจะไปต่อ...ไม่อยากหยุดอยู่แค่นี้....



...แต่ว่า....



"ฮะๆ ข้าวติดปากนายแน่ะ โกคุเดระ"


"อ๊ะ! เฮ้ย!" ดวงตาสีสวยปรือปรอยในทีแรกกลับมารวมศูนย์โฟกัสภาพตรงหน้าอย่างรวดเร็ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพนั้นก็คือใบหน้าแป้นแล้นของผมด้วยแล้ว....



*ผลั่วะ!!*



ไม่ทันตั้งตัวเลยครับ คราวนี้หมัดเล็กๆซัดเอาข้างแก้มผมพอดีพอดี


"โอ๊ย..เจ็บน๊า~ โกคุเดระ"


"กะ......แกทำบ้าอะไรของแกวะ!!" ร่างบอบบางผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ใบหน้าสวยนั้นแดงจัดไม่รู้ว่าเพราะโกรธหรืออาย เพราะถึงแม้จะเสียงตวาดจะกระโชกโฮกฮาก แต่ไอ้แววตาแบบนั้นมันอะไรกันน่ะ...


"ก็เค้าบอกแล้วไงว่าข้าวติดปาก" ผมตอบทั้งๆที่มือยังกุมแก้มตัวเองอยู่ พยายามแทนตัวให้น่ารักเข้าว่า


"ก็เอาออกแบบปกติซิโว๊ยย!! ปกติน่ะ!!!" น้ำเสียงแปดพันห้าสิบเก้าหลอดตะเบ็งใส่หู ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบวิ่งผลุนผลันกลับเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็วและออกมาอีกครั้งด้วยเสื้อผ้าในแบบของตัวเองอันมีอยู่น้อยนิดที่ติดมาด้วย


"เดี๋ยว....โกคุเดระ จะไปไหน?" ผมตะโกนถามอย่างงุนงง


"เรื่องของฉัน!! ไม่ต้องมายุ่ง!!"


พายุเจ้าอารมณ์พัดออกนอกประตูร้านไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งเพียงกลิ่นของความรัญจวนใจจากเหตุการณ์เมื่อครู่ไว้อย่างอ้อยอิ่ง


ว่าแต่หมอนั่นจะไปที่ไหนนะ?


หวังว่าที่หนีออกไปน่ะเป็นเพราะอายมากกว่าโกรธ


เพราะถ้าเป็นอย่างแรกนั้น


มันก็น่าดีใจสุดๆไปเลย...



...............




"เอ๋? โกคุเดระคุงไม่ได้มาที่นี่หรอกนะ"
คำพูดของสึนะเมื่อผมไปหาที่บ้านทำเอาประหลาดใจเป็นล้นพ้น ทั้งๆที่นึกว่าจุดหมายปลายทางจะถูกแล้วแท้ๆ แต่ไหงผิดคาดไปได้ล่ะเนี่ย?


"งั้นเหรอ? ฮะๆ ขอบใจนะสึนะ"
ผมรีบลาเพื่อนตัวเล็กของเราก่อนจะกลับเข้าสู่ทางเดินหลัก ถ้าไม่ใช่ที่บ้านสึนะ แล้วหมอนั่นยังมีที่ไปอื่นอีกงั้นเหรอ? โรงเรียน? ไม่ใช่แน่ๆเพราะมีฮิบาริอยู่ที่นั่น ถึงจะอยากตายแค่ไหนแต่โกคุเดระก็คงไม่หาเรื่องใส่ตัวขนาดนั้น แล้วมันที่ไหนล่ะ? ที่ไหน?
พยายามบีบเนื้อสมอง(อันน้อยนิด)เค้นคิดออกมา ใช่แล้ว เมื่อคืนหมอนั่น...




.............




"ทำไมเสื้อผ้าแกมีแต่ตัวใหญ่ๆทั้งนั้น จะหลุดอยู่แล้วเนี่ย"
คนเดินตัวหอมฟุ้งออกมาจากห้องน้ำบ่นแบบนี้ มีหรือจะไม่...



*หมับ*



"เฮ้ย!!"
ได้ยินโกคุเดระร้องเสียงหลงก่อนจะรีบตะบบเข้าที่กางเกงขายาวตัวหลวมนั้นไว้ได้อย่างหมิ่นเหม่ แหม ก็ทำไงได้ละครับในเมื่อจู่ๆผมก็ลุกพรวดขึ้นทำให้เกิดหน้าหื่น เอ๊ย หน้ามืด อย่างกะทันหัน เลยต้องหาอะไรคว้าไว้ก่อนจะล้มฟาดกับพื้นน่ะสิ


"ไอ้บ้าเบสบอล!!"


"อ่ะ โทษทีๆ สะดุดขาตัวเองน่ะ กะระยะผิดไปหน่อย ฮะๆ" เสียงหัวเราะใสๆไร้มลพิษพร้อมรอยยิ้มจริงใจ โลกนี้จะมีใครทำได้ นอกจาก ยามาโมโตะ ทาเคชิ น่ะ


"รีบๆปล่อยเลยแก"


"ก็ได้ๆ อ๊ะ"


"เฮ้ย!"



โกคุเดระร้องเสียงหลงเป็นครั้งที่สองเมื่อผมลุกขึ้นแล้วมือที่ยังจับกางเกงของเขาอยู่เกิดใส่แรงกระตุกลงมาโดยไม่ได้ตั้งใจแม้แต่น้อย (แต่ตั้งใจมาก) เก๊าะ...แหม... เวลาคนจะยืนมันต้องเอามือท้าวไว้กับพื้นนี่ครับไม่งั้นมันก็จะเสียหลัก...ล้ม...



*โครม!!* ว๊า...ดันเสียหลักซะแล้วสิ แถมยังล้มพอดิบพอดี หน้าแปะลงไปบนต้นขาขาวๆที่เผยให้เห็นเพราะถูกดึงกางเกงลงมาแล้วน่ะ อื้ม....หอมชื่นจาย~



"ไอ้!! ทำอะไรของแกวะ!!!!!!" เสียงตวาดดังลั่นกรอกใส่หู ไม่ต้องเงยหน้าดูก็รู้ว่าตอนนี้หน้าขาวๆคงแดงแปร็ดอย่างไม่ต้องสงสัย โอย อยากเงยหน้าขึ้นจริงจัง แต่ทำไม่ได้เนี่ยสิ ยังเสียดายพื้นที่ตรงนี้อยู่..


"ออกไปเดี๋ยวนี้นะแก ก่อนที่ฉันจะเป่าบ้านแกให้กระจุย ออกไปๆๆๆๆๆ" มือเรียวพยายามดันหัวชี้ๆสีดำของผมให้ออกห่างอย่างสุดชีวิต แหม~ไม่ต้องทำท่ารังเกียจกันออกนอกหน้าอย่างนั้นก็ได้นี่นา


"อื้อๆ โทษทีนะ ขาฉันก็ยาวเกินเลยเสียหลัก อ๊ะ พื้นอยู่ตรงนี้สินะ" ว่าแล้วมือก็แปะลงไปบนต้นขาเปลือยนั่น โอ้ว นิ่มเหลือเกิน


"นั่นขาฉัน" โกคุเดระพูดเสียงเรียบ แต่ท่าทางว่าจะพยายามทำให้ตัวเองใจเย็นอยู่ "ลุกลำบากมากใช่มั๊ย? ได้..."



*โครม!!*



ฝ่าเท้างามๆยกขึ้นประทับหน้าหล่อของผมก่อนจะถูกยันกระเด็นออกไปแบบไม่เกรงใจกันแม้แต่น้อย ทำเอาผมกระเด็นหลุดจากร่างหอมๆนั่นอย่างน่าเสียดาย เอาเถอะ...วันนี้แค่นี้ก่อนก็ได้ เพราะเจ้าตัวคงไม่รู้หรอกนะว่าตอนนี้กางเกงหลวมๆแต่ละตัวที่ผมสรรหามาให้ใส่ บัดนี้มันถูกรูดมากองที่ข้อเท้า ทำให้ดูเหมือนกับว่าร่างบางมีเพียงเสื้อตัวโคร่งตัวเดียวคลุมหมิ่นเหม่แค่ต้นขา เรียวขาขาวราวกับหยวกเนื้อดีไร้รอยตำหนิ กับใบหน้าหวานขึ้นสีเรื่อแบบนั้น  โอย...สวรรค์เนี่ย มันสวยแบบนี้อ้ะเปล่า



มือถือผมอยู่ที่หนาย~



"ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ" ไม่ได้คร้าบ ต้องรีบห้ามใจก่อนที่จะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้แบบกู่ไม่กลับ แล้วไก่จะตื่นซะก่อน ...แต่ปากแดงๆนั่น เห็นแล้วมันอยากจะลองลิ้มรสซักทีชะมัด เอาล่ะ...เป็นไงเป็นกัน ยังไงพรุ่งนี้ต้องหาทาง...ทำให้ได้



พรุ่งนี้ป๋าไม่อยู่ด้วยสินะ เจ๋งเป้ง!



กำลังคิดแผนเพลินๆ แล้วจู่ๆก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงตะโกนมาจากในห้อง



"ว๊ากกกซ์!! ไอ้บ้าเบสบอลถั่วเน่า!! แกดึงกางเกงฉันลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่! โธ่เว๊ย ไอ้เสื้อผ้าแบบนี้ไม่ใส่ซะจะดีกว่า!!"



โอ้ อยากจะเข้าไปช่วยทำตามความต้องการนั้นจริงๆ



แต่เอาไว้...พรุ่งนี้ดีกว่า ฮะๆๆ




...........
.........................



นั่นสินะ...ถ้าคิดจากรูปการณ์เมื่อคืนแล้ว...



หมอนั่นอาจจะไปหาซื้อเสื้อผ้า เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบเมื่อวานหรือเปล่า?



ยังไงก็ช่างเหอะ ผมรู้ว่าร้านเจ้าประจำหมอนั่นอยู่ที่ไหน ก็ไอ้การที่เนียนตามไปทุกที่มันจะมีประโยชน์ก็ตรงนี้แหละ




...................



....แล้วก็....อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด



ผมมองเห็นใครบางคนที่แสนคุ้นตากำลังยืนเลือกซื้ออะไรบางอย่างอยู่ในร้านนั้น ผมยังไม่เข้าไปหรอกครับได้แต่แอบมองอยู่ข้างนอกก่อน
จนกระทั่ง เห็นเขายืนเลือกเสื้อผ้าหอบใหญ่แล้วเดินเข้าไปห้องลองด้านในนั่นแหละ ผมก็เลยได้โอกาส



สายตามองหาอะไรบางอย่างในร้าน ก่อนจะยิ้มกับตัวเองแล้วคว้าหมับเข้าให้



*ก๊อกๆ*



"ใคร!?" น้ำเสียงห้วนๆกระชากมาจากด้านใน ไม่บอกก็รู้ว่าหงุดหงิด


"คุณลืมเสื้อไว้ตัวนึงครับ คุณลูกค้า ผมเลยเอามาให้" ผมแกล้งดัดเสียงเป็นพนักงาน และแน่นอนหมอนั่นไม่มีทางส่งสัยอะไรหรอก


"งั้นเหรอ? ส่งมาสิ"
บานประตูแง้มออกแล้วด้วยสเต็ปขั้นเทพตระกูลยามาโมโตะ แน่นอนครับว่าผมแทรกตัวเข้าไปในนั้นได้อย่างรวดเร็ว จนแทบจะกลั้นหัวเราะไม่ทันเมื่อเห็นอาการอ้าปากค้างแบบตกใจสุดๆของใครบางคน


"กะ...แก....ไอ้...."


"ชู่ว...เงียบก่อน โกคุเดระ" ผมเข้าประชิดด้วยสีหน้าจริงจังที่สุดเท่าที่ดาร์กยามาโมโตะจะทำได้ "มีเรื่องเกี่ยวกับสึนะน่ะ"


"หา" ทันทีที่ได้ยินชื่ออันแสนศักดิ์สิทธิ์ กิริยาก็ต่างไปจากหน้ามือเป็นหลังเท้า มือเรียวคว้าคอเสื้อผมหมับทันที "ท่านรุ่นที่สิบเป็นอะไร?"


"สึนะมีเรื่องขอให้ช่วย ถ้าไม่ใช่นายคงจะไม่มีใครทำได้หรอก ฉันเลยต้องมาตามหา" หยอดเข้าไปแบบนี้รับรองไม่มีสงสัยอะไรทั้งนั้นล่ะ


"ถ้าไม่ใช่ฉัน...." ท่าทางจะเคลิ้มแล้ว "ว่าแต่ท่านรุ่นที่สิบมีเรื่องอะไร? แกบอกฉันมาเร็วๆ"


"อ่ะ...ได้สิ แต่ตอนนี้นายรีบใส่ชุดนี้นะ แล้วรีบออกมาเลย ฉันจะอธิบายระหว่างทาง" ผมรีบยัดเยียดอะไรบางอย่างใส่มืออีกฝ่าย ก่อนที่ทำทีเปิดประตูออกไปอย่างรวดเร็ว "ฉันจะรอข้างนอกล่ะ"


"เออๆ"
ทันทีที่ผมออกมายืนพิงหน้าประตูห้องแต่งตัว มือก็ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงมาทำทีเป็นเปิดเสียงเรียกเข้าเหมือนมีคนโทรเข้ามา


"อื้อ สึนะเหรอ? โกคุเดระกำลังใส่ชุดที่นายตั้งใจเลือกให้อยู่" ผมเน้นที่คำว่า ตั้งใจเลือกให้ แล้วเอาปากไปพูดใกล้ๆ จงใจให้ข้างในได้ยินชัดๆ "เดี๋ยวจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ"
บานประตูเลื่อนออกทันควันแล้วร่างบอบบางร่างหนึ่งก็รีบพรวดพราดออกมา "ไปกันเลย ไอ้บ้าเบสบอล!"


"อื้อ"



ไม่มีใครเห็นรอยยิ้มกว้าง ดาร์กเนียน ในใจผมใช่ไหม?




.........................




...ใครๆที่เดินผ่านไปมาต่างก็มองเราสองคนอย่างเหลียวหลัง



แน่นอนครับว่าเขาไม่ได้มองผม แต่หมายถึงคนข้างๆนี่ต่างหาก ความจริงผมก็หวงไม่อยากจะให้สายตาคู่ไหนมาจ้องของของผมนักหรอกนะ แต่ก็เข้าใจอยู่ว่า...



คนสวยขนาดนี้น่ะ ไม่มองก็คงจะไม่ได้แล้ว



โกคุเดระกำลังหน้าบูดบึ้งอย่างถึงขีดสุด เมื่อเจ้าตัวพบความจริงหลังออกจากร้านขายเสื้อผ้ามาไกลโขว่าตัวเองสวมใส่เสื้อผ้าชนิดไหนอยู่



มันคือกี่เผ้าคอจีนสีแดงสดแบบประยุกต์ที่มีซิบผ่าทางด้านหลังซึ่งมีด้ายสีทองเล็กๆร้อยไขว้กันอย่างสวยงาม กระโปรงยาวกรอมเท้าปักด้วยไหมดิ้นเงินและทองสวยงามผ่าสูงถึงต้นขาขาวทำให้การก้าวย่างเป็นไปได้สะดวก ชุดเน้นส่วนสัดทั้งเอวคอด รูปร่างเพรียวบางจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นของผู้ชาย และยิ่งมันรับกับใบหน้าหวานของเจ้าตัวด้วยแล้ว สาบานเถอะครับว่าชาตินี้ผมไม่เคยเจอใครที่สวยพาใจสั่นสะท้านอย่างนี้มาก่อนเลย



เขาคงคิดอยากจะถอดชุดนี้เขวี้ยงทิ้งพร้อมกับระเบิดเผาสาปส่งมัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ นั่นก็เพราะ...



"รุ่นที่สิบพูดอย่างนั้นจริงๆเรอะ?" เขาถามคำถามนี้กับผมมาเป็นร้อยครั้งแล้วตั้งแต่เดินด้วยกันมา


"อื้อ" ผมพยักหน้า "สึนะขอร้องให้ฉันบอกกับนาย วันนี้เป็นวันเกิดเพื่อนสมัยเด็กคนสำคัญของซาซางาวะ แล้วสึนะก็เลยอยากช่วยด้วยการให้เราไปส่งซูชิที่บ้านเป็นการเซอร์ไพรส์น่ะ"


"แล้วทำไมฉันต้องแต่งตัวแบบนี้ด้วยวะ?"


"ก็เพราะมันเป็นงานแฟนซีไง สึนะเขาคิดว่าแบบนี้เหมาะกับนาย ก็เป็นการปลอมตัวเป็นผู้หญิงแบบที่มือขวาสมควรทำเพื่อตบตาศัตรูไง" ผมอธิบายอย่างจริงจัง


"เออ นั่นสินะ"
ผมลอบยิ้ม โกคุเดระไม่มีทางรู้และก็คงไม่มีวันรู้ว่าความคิดมากของเขามันส่งผลคือการขุดหลุมฝังตัวเองเสมอ และผมก็ไม่มีวันบอกหรอกนะ ฮะๆ


"งั้น เดี๋ยวแวะไปเอาซูชิที่บ้านฉัน แล้วเราก็ไปกันเลยนะ"


"เออ"
ก็ไอ้ท่าทางจริงจังและชื่อของสึนะที่เป็นเหมือนคาถาอันศักดิ์สิทธิ์ช่วยสะกดให้อยู่หมัด เป็นอะไรที่ใช้ได้ผลเสมอ ต้องขอบคุณความคิดมากนั่นจริงๆที่ทำให้โกคุเดระหมกมุ่นได้จนลืมกระทั่งเรื่องจูบที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวันน่ะ



...............



"นายถืออันนี้นะ อันนี้มันหนัก ฉันถือเอง" ผมยื่นถาดใส่ซูชิกล่องเล็กสำหรับส่งตามบ้านให้อีกคนที่ทำหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด


"หมายความว่ายังไง? แกคิดว่าฉันถือไม่ไหวอย่างนั้นเหรอ? จะดูถูกมือขวามากเกินไปแล้วนะ"


"ฉันไม่ได้พูดอย่างนั้นซะหน่อย" ผมแกล้งทำหน้าน้อยใจ


"เอามานี่" เขาฉวยของไปจากในมือผม แล้วผมก็เห็นนะว่าคิ้วเรียวนั่นแอบกระตุกน้อยๆเมื่อรับรู้ถึงน้ำหนักของมัน
หากยังจำได้ก็คงจะรู้ว่าวันนี้น่ะป๋าของผมไม่ได้อยู่บ้าน แล้วใครเป็นคนทำซูชิพวกนี้น่ะเหรอ? มันจะไปมีได้ยังไงล่ะครับ นอกจากในนั้นน่ะ มันเป็นหินล้วนๆ!



และดูท่าทางว่าหมอนั่นจะลืมเรื่องนี้ไปด้วยสินะ ก็เลยไม่ติดใจสงสัยอะไรซักอย่าง แหม...ช่างน่ารักจริงๆ



"ทำไมมันหนักอย่างกับหินอย่างนี้วะ" โกคุเดระถึงกับบ่นออกมาเลยทีเดียว


"ก็ฉันบอกนายแล้วว่านายถือไม่ได้หรอก ฉันเอง"


"จะดูถูกกันไปแล้วนะเว๊ย!" เขาตวาดใส่ผม "กะอีแค่ของแค่นี้...ขืนให้คนตาบอดอย่างแกถือมีหวังมันได้หล่นทับเท้าแตกแน่"


"เป็นห่วงฉันเหรอ?" ผมถึงกับยิ้มกว้างกับประโยคนั้นทันที และยังผลให้หน้าสวยๆนั้นถึงกับแดงก่ำขึ้นมา


"มะ....ไม่ได้ห่วงว๊อยย ฉันห่วงของข้างในนี่ต่างหาก ไม่งั้นหน้าที่อันสำคัญที่ได้รับจากรุ่นที่สิบก็แย่สิ รีบไปเร็วๆเข้า ไอ้สมองถั่ว!"


"อื้อ" 
ผมรีบตามร่างบางในชุดกี่เผ้าสีแดงนั้นออกไป โดยที่ปากไม่สามารถหุบยิ้มได้



เราสองคนเดินแบกถาดใส่ซูชิหนักๆ (แน่นอนว่าของเขาคนเดียว) มาตามทางเดินที่มีเพียงไฟถนนส่องสว่าง อากาศร้อนอบอ้าวทั้งๆที่เป็นช่วงเวลาหัวค่ำ จนคนที่เดินอยู่ข้างๆอดที่จะบ่นขึ้นมาไม่ได้


"ทำไมมันร้อนอย่างนี้วะ! นี่ ไอ้บ้าเบสบอล อีกไกลมั๊ย?กว่าจะถึงน่ะ?" ปากบางๆบ่นเจื้อยแจ้ว "ไอ้ชุดบ้านี่ก็อึดอัดชะมัด เสร็จงานเมื่อไหร่ พ่อจะถอดทิ้งเลยจริงๆ" ให้ตายเหอะ...เมื่อไหร่จะเลิกพูดอะไรที่มันเหมือนเป็นการเชิญชวนนั่นซักทีนะ คนฟังจะทนไม่ไหวเข้าใจมั๊ย?


"งั้นนายนั่งพักก่อนไหมล่ะ? เดี๋ยวฉันจะแอบไปดูที่บ้านโน้นก่อน" ผมชี้ไปที่เก้าอี้ไม้ข้างทาง ในสวนสาธารณะอันเงียบสงบที่ผม(จงใจ)ใช้เป็นทางลัด "ไปถึงจะได้กะเวลาได้พอดีๆ"


"เออ งั้นก็ได้" ร่างบางทิ้งตัวลงกับเก้าอี้ ตอนแรกมีทีท่าว่าจะนั่งแบบปกติแต่ด้วยไฟลท์บังคับของเสื้อผ้า ทำให้ต้องนั่งไขว่ห้างอย่างช่วยไม่ได้ ขาเรียวน่าลูบไล้โผล่ตามรอยแหวกของกระโปรงทำให้ความขาวเตะเข้าที่เบ้าตาผมอย่างจัง


"งั้น...เดี๋ยวฉันมานะ"


"เออ"
ไม่ไหวแล้วครับ...ทั้งๆที่ตอนแรกคิดว่าจะแกล้งให้แต่งตัวแบบนี้ แต่มาตอนนี้...



...คงต้องทำอะไรซักอย่างแล้วล่ะนะ



เป็นความผิดนายเลย...โกคุเดระ...



ก็ใครใช้ให้นายเซ็กซี่จนอดใจไม่ไหวอย่างนี้ล่ะ...



"ไอ้บ้าเบสบอล...ไปนานชะมัดเลยว่ะ"
ผมได้ยินเสียงบ่นจากคนที่นั่งหงุดหงิดอยู่บนเก้าอี้ และถึงแม้ผมจะอยู่ไกลแต่ก็สามารถได้ยินมันได้อย่างชัดเจน เนื่องจากสวนสาธารณะแห่งนี้ตอนกลางคืนจะเงียบสงัดปราศจากผู้คน เพราะข่าวลือเรื่องลึกลับน่าตื่นเต้นอย่างพวกผีสางต่างๆทำให้ใครก็ไม่กล้าเฉียดใกล้ยกเว้นพวกอยากลองของดี แต่สำหรับผมที่ไม่กลัวของพรรค์นั้นแถมคิดว่าถ้าได้เจอผีซักทีก็คงน่าสนุกดีน่ะ มันไม่เป็นอุปสรรคหรอกครับ



เอาล่ะ...ผ่านไปก็นานแล้ว ได้เวลาปฏิบัติการณ์



*หมับ*



"เฮ้ย!!"



คุณผู้อ่านคิดว่าผมทำอะไรครับ? เรื่องลวนลามหรือลากไปข่มขืนน่ะตัดออกจากความคิดไปเลยนะเพราะสิ่งที่ผมทำมันร้ายกาจกว่านั้น นั่นก็คือ การขโมยซูชิยังไงล่ะ!!(อืม เป็นอาชญากรรมร้ายแรงเจรงๆ)


"เฮ้ย!! เอาคืนมานะโว๊ยย!!" โกคุเดระร้องโวยวายเสียงดังลั่น เขาพยายามจะวิ่งตามแต่ด้วยสภาพที่เป็นอยู่ให้ตายยังไงก็ตามไม่ทันหรอก และยิ่งเป็นฝีเท้าระกับนักกีฬาอย่างผมด้วยแล้ว ผมรู้ว่าเขาไม่ได้พกดอกไม้ไฟมาด้วยเสื้อผ้าที่สวมใส่ และผมก็จงใจวิ่งหายไปในเงามืดอันห่างไกลจนเขามองไม่เห็นว่าเป็นใคร
สุดท้ายแล้วผมก็รอจังหวะซักพักก่อนจะเดินกลับมาอีกครั้งโดยแสร้างทำหน้าตาเอ๋อเหรอตามปกติ


"มาแล้วล่ะ? โกคุเดระ เอ๋....เกิดอะไรขึ้น?"
ผมแกล้วถามเมือเห็นเขานั่งก้มหน้าอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม เพียงแต่ตอนนี้ที่ข้างๆไม่มีกล่องใส่ซูชิวางไว้อยู่แล้ว "อ้าว...แล้วซูชิล่ะ?" ถามหน้าตาเฉยแบบไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าเกิดอะไรขึ้นน่ะ


"หาย..."


"เอ๋?"


"มันหายไปแล้ว!! มีไอ้เลวขโมยมันไป! แล้วฉันก็ตามไม่ทัน!!" มือเรียวกระชากคอเสื้อผมเข้ามาใกล้ ก่อนจะเริ่มเขย่า "ทั้งๆที่ท่านรุ่นที่สิบไว้ใจฉันแท้ๆ บ้าเอ๊ย..." น้ำเสียงสั่นเครืออย่างคนเจ็บใจในตัวเอง
"โกคุเดระ..." ผมสะอึกในลำคอ ก่อนจะค่อยๆกอบกุมที่ข้อมือทั้งสองข้างซึ่งกำลังกำปกเสื้อเชิ้ตของผมแน่น ทั้งๆที่ตอนแรกตั้งใจจะแกล้งหยอกเล่นแท้ๆ ไม่นึกว่า...


"อย่าร้องไห้เลยนะ"
ผมค่อยๆบรรจงจูบซับน้ำตาที่ไหลมาตามร่องแก้มขาวเนียน รสเค็มปะแล่มของมันไม่ทำให้กลิ่นหอมหวานรัญจวนใจลดทอนน้อยลงไปได้เลย ริมฝีปากของผมละเรื่อยมาจนถึงพวงแก้มขาวเลือดฝาด กดจมูกลงรับความนุ่มนิ่มก่อนที่จะหยุดลงที่กลีบปากบางแดงสดนั้น
รสหวานละมุนยังคงทะลักล้นไม่ขาดสายไม่ต่างจากคราแรกที่ริมฝีปากเราแนบชิดกัน ผมไม่ลังเลที่จะส่งปลายลิ้นของตัวเองเข้าแตะสัมผัสกับของเขาซึ่งตอบรับเสียจนน่าประหลาดใจ ชะรอยว่าอะไรบางอย่างจะบันดาลให้เราสองคนดื่มด่ำราวกับตกอยู่ในห้วงฝัน ซึ่งมันอาจจะเป็นฝันดีของเราทั้งคู่หรือเปล่านั้นก็ไม่อาจทราบได้
อ้อมแขนแข็งแรงของผมกวาดร่างบางเข้ามาแนบอก มือข้างหนึ่งประคองดวงหน้าหวานให้เงยรับสัมผัสในมุมที่จะทำให้เราจมด่ำไปกับมันได้มากกว่าเดิม รับรู้ได้ว่าน้ำตาของเขาเหือดหายไปแล้ว อาจจะเพราะสัญชาติญาณหรืออะไรบางอย่างก็ตามที แต่ผมรู้แค่เพียงว่าผมไม่สามารถหยุดมันได้อีกแล้ว...
ความมืดรอบข้างเป็นใจให้ผมค่อยๆดันร่างบอบบางนั้นนอนแนบไปกับพื้นหญ้า แต่ดูเหมือนว่าใบแหลมของมันจะทิ่มแทงจนทำให้เจ้าของเรือนผมสีเงินรู้สึกตัวขึ้นมา


"เฮ้ย! ทำอะไรของแกวะ!!"
จู่ๆโกคุเดระร้องอย่างตกใจเมื่อพบว่าเขากำลังนอนราบกับพื้นโดยมีร่างกายใหญ่โตกว่ามากของผมคร่อมอยู่ในท่าทางที่หมิ่นเหม่ที่สุด ดูท่าทางเจ้าตัวจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นดวงหน้าสวยถึงได้ขึ้นสีเรื่ออีกครั้ง


"ทำอะไร? หืม? ฉันก็ปลอบใจนายไง"


"ปลอบบ้านแกสิทำแบบนี้ เขาเอาไว้ทำกับผู้หญิงโว๊ยย!!"


"แต่ตอนนี้นายก็อยู่ในชุดผู้หญิงนี่นา เพราะอย่างนั้น วิธีนี้ใช้ได้" ทั้งใบหน้าและน้ำเสียงของผมจริงจังจนไม่รู้ว่าจะหาคำพูดไหนมาบรรยายได้แล้วล่ะ


"จะบ้าเรอะแก...ไม่!.....อื้อ!!!!!!..."
พอกันทีครับกับเสียงต่อต้าน ผมโน้มริมฝีปากกดแนบลงไปเพื่อกั้นถ้อยคำด่าทอให้กลืนหายไปในลำคอของเจ้าตัว โกคุเดระพยายามดิ้น ร่างกายอันบอบบางมีหรือจะสู้แรงช้างสารอย่างผมได้ แม้ว่าเขาจะพยายามดิ้นรนสุดชีวิตแล้วก็ตาม มือเรียวทุบตีผมไม่ยั้ง แต่ผมก็สามารถจับมันรวบเอาไว้ได้เหนือหัวด้วยมือข้างเดียว กวาดลิ้นเข้าไปในโพรงปากร้อนที่พยายามหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย


"อื้อ...อื้อ..!!" ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเสียงต่อต้านมันจะให้ผลตรงกันข้ามเสมอ ยิ่งหนีเท่าไหร่ ผมก็จะยิ่งตามไปอย่างไม่หยุดยั้ง ไล่ตอดลิ้นของเขากันอยู่ระหว่างปากของเราราวกับจะหลวมรวมเข้าหากัน รับรู้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจถี่รัวที่ไม่รู้ว่าเป็นของใคร
มือของผมที่ยังว่างอยู่อีกข้างหนึ่งสอดเข้าปลดซิบจากด้านหลัง ต้องขอขอบคุณคนที่ออกแบบชุดนี้จริงๆ


"จะทำอะไรของแก! ไอ้บ้าเบสบอล!! ปล่อยนะโว๊ย!!!"
โกคุเดระตะโกนขึ้นมาอีกเมื่อริมฝีปากเขาเป็นอิสระ แต่คราวนี้ผมจับได้ว่ามันเจือแววสั่นนิดๆอย่างกลัวเกรงในอะไรบางอย่าง และผมก็รู้อีกเหมือนกันว่าต่อให้ต้องกัดลิ้นฆ่าตัวตายเขาก็คงไม่มีวันยอมรับมันได้หรอก
ไหล่เปลือยเผยให้เห็นเมื่อผมดึงคอเสื้อลงมา ความขาวของมันพร่าละออตาเมื่ออยู่ท่ามกลางแสงจันทร์


"อึ้ก..." ผมได้ยินเสียงเขากลั้นอะไรบางอย่างในลำคอเมื่อริมฝีปากร้อนไปด้วยความต้องการกดเน้นฝากร่องรอยเอาไว้ ลมหายใจปะปนด้วยความกระหายใคร่รินรดผิวเนื้ออ่อนบางตรงซอกคอหอมกรุ่น แปลกใจชะมัดทั้งๆที่เราต่างก็ใช้สบู่แบบเดียวกันแท้ๆ แต่ทำไมมีแต่เขาคนเดียวนะที่ส่งกลิ่นหอมหวานยั่วยวนได้ขนาดนี้



...แย่แล้ว...แย่แล้วจริงๆด้วย ยามาโมโตะ ทาเคชิ



...นายหยุดไม่ได้แล้วล่ะ...



สภาพนายตรงหน้าฉันตอนนี้มันเกินจะทานทนจริงๆ



ดูสิ ทั้งใบหน้าเหนื่อยอ่อน ดวงตาฉ่ำเยิ้ม ปากแดงเรื่ออย่างนี้ ไหนจะต้นขาขาวๆนั้นอีก



มันทนไม่ได้จริงๆนะ



เพียงแค่เลิกขึ้นเพียงเล็กน้อย เจ้ากระโปรงยาวที่ดูจะไม่ค่อยมีประโยชน์ก็เผยให้เห็นถึงความต้องการตรงหน้าที่กำลังสั่นระริก ผมไม่รอช้าที่จะล้วงมือเข้าไปสัมผัสมันโดยตรงแล้วพบกับความลื่นเหนียวจากอะไรบางอย่าง


"อ๊ะ..." โกคุเดระสะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกสัมผัสในจุดนั้น และยิ่งโดนมัน เจ้าของเหลวที่ว่าก็ค่อยเคลื่อนตัวออกมาเชื่องช้า


"นี่นาย..." ผมจงใจก้มลงกระซิบข้างหู "ไม่เคยทำเลยงั้นเหรอ?"


"หุบปากไปเลยนะ!!" เขาตวาดด้วยน้ำเสียงที่น่าเอ็นดูยิ่ง "ใครมันจะบ้าลามกอย่างแกล่ะ!"


"น่าเสียดายจังนะ ถ้าสึนะรู้ว่ามือขวาของตัวเองเป็นคนที่อ่อนด้อยประสบการณ์อย่างนี้" ผมพูดไปทั้งๆที่มือก็ยังคงคลึงเจ้านั่นไปมาไม่ปล่อย ยังผลให้ลมหายใจอีกฝ่ายถี่กระชั้นขึ้นมาอีก "ว่าไง? ฉันสอนให้เอามั๊ย?"


".......อื้อ......." ไม่มีคำตอบจากคนที่กำลังหลับตาแน่นราวกับอดกลั้นอะไรบางอย่าง แพขนตามีหยาดน้ำเกาะปริ่มจนมันเป็นประกายสะท้อนแสงไฟอันห่างไกล


"ฉัน...ถือว่านั่นคือคำตอบนะ โกคุเดระ" ร่างอันเย้ายวนใต้ร่างของผมสะดุ้งเมื่อลิ้นร้อนเลียลงบนใบหู ผมรู้ว่าเขาอยากจะขัดขืนให้มากกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้ทำ จะเป็นเพราะแรงที่หดหายจากการแบกกล่องซูชิใส่หินหนักๆมาตลอดทางก็ตามที หรือจะเป็นเพราะคำขู่เมื่อกี้ก็ตามที...



...แต่ผมอยากให้เขาทำตามส่วนลึกในใจมากกว่า อย่างที่ผมกำลังเป็นอยู่...



"อะ...อ้า...." โกคุเดระกรีดร้องเสียงแหลมเมื่อร่างกายอันไม่เคยผ่านการกระทำแบบนี้มาก่อนถูกครอบครองโดยโพรงปากของผม กลิ่นคาวบริสุทธิ์ให้รสชาติหวานล้ำแบบที่ไม่มีวันแบ่งให้ใครได้เชยชิมเป็นแน่ รสชาติของเขาจะต้องเป็นเพียงผมคนเดียวที่ได้รับรู้และครอบครองเท่านั้น ผมเพียงคนเดียว...


"อื้อ....ยามาโมโตะ...พอ........" มือเรียวขยุ้มที่กลุ่มผมสีดำสั้นๆ เสียงห้ามครางเครือแบบนั้นจะมีใครที่ไหนกันทำให้ได้ ผมเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นจนแทบจะทำให้คนตรงหน้าร้องไม่เป็นภาษา


"อะ....ไม่...มันจะ....อ๊า..."
ความเร่าร้อนทุกหยาดหยดส่งเข้าในปากจนมันแทบล้นออกมา ผมกลืนบางส่วนลงไปในคอเพื่อจดจำรสชาติปะแล่มๆของมัน ก่อนที่ใช้บางส่วนชโลมช่องทางสีหวานตรงหน้า


"ฮะ...ยามะ....แก...เจ็บ..." โกคุเดระพยายามลุกขึ้นนั่งและผลักผมออกไปแต่กลับกลายไปว่าต้องร้องออกมาแทนเมื่อถูกผมดันนิ้วเข้าไปในช่องทางของเขา "โอ๊ย! เจ็บนะไอ้บ้า!!"


"มันก็ต้องเตรียมความพร้อมก่อนนะ ไม่งั้นนายจะเจ็บกว่านี้" ผมเอ่ยอย่างพยายามใจเย็นที่สุด ก็ทั้งๆที่ของตรงหน้าพร้อมรับประทานขนาดนี้แล้ว ผมกลับต้องมานั่งเช็คอุปกรณ์อยู่ ทั้งๆที่อยากจะกระโจนเข้ากลืนกินให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย


"เตรียมอะไรของแก....อ๊ะ...." จู่ๆร่างบางก็สะดุ้งขึ้นกะทันหันเมื่อนิ้วของผมไปเจออะไรบางอย่างข้างใน


"ตรงนี้สินะ..." ผมงึมงำ ก่อนจะวนมันหนึ่งรอบและชักนิ้วของตัวเองออกมา


"ยามาโมโตะ....แกจะ...."
ผมเห็นโกคุเดระมองผมด้วยแววตาบางอย่าง แววตาที่ผมอ่านไม่ออกว่าเขารู้สึกแบบไหน? การที่เราทำแบบนี้...แน่นอนว่ามันคือสิ่งที่เกินเลยไปแล้วสำหรับเพื่อนสองคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราต่างก็เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ แต่ว่านะ...



ความรู้สึกทุกอย่างของผมก็เป็นของจริงแน่นอน



 "เอาล่ะนะ" ผมแยกขาเรียวนั้นออกกว้าง ยกสะโพกมนบอบบางจนน่ากลัวว่าจะรับแรงของผมไหวหรือเปล่าขึ้นมาแนบชิด แต่ว่า...มันก็หยุดไม่ได้จริงๆนะ


"อ๊า!!!" โกคุเดระกรีดร้องอย่างแสบสันต์เมื่อผมดึงดันที่จะแทรกตัวตนเข้าไป ช่องทางบีบรัด ร้อนผ่าว กลิ่นคาวเหนียวหนืดบ่งบอกว่าทั้งหมดนั้นเป็นครั้งแรกของคนตรงหน้า


"อะ...ไอ้บ้า!! เจ็บ...........อึ้ก!....." น้ำตาไหลออกจากดวงตาสีมรกตสวยงามอย่างห้ามไม่อยู่ ผมค่อยโน้มหน้าลงไปจนชิด จูบซับด้วยท่าทางที่อ่อนโยนที่สุด


"อย่าเกร็งนะ...ค่อยๆผ่อนลมหายใจนะ"


"อื้อ......แก.....ทำอะไรฉัน.........เจ็บ....อือ.................." ทั้งหัวดื้อ ทั้งขี้โวยวาย แม้แต่ในเวลานี้ยังไม่ยอมรับฟัง แต่ถึงอย่างนั้น...


"ไม่เอาน่ะ โกคุเดระ บอกแล้วอย่าเกร็งไง" ผมรวบมือทั้งสองข้างนั้นขึ้นมาเกาะที่ไหล่กว้าง "เกาะฉันไว้ จะจิกฉันก็ได้นะ..." จะฝากรอยที่นายตีตราฉันไว้ก็ได้...ว่าฉันเป็นของนาย


"อะ.....อ๊า..............." ร่างบางยังคงบิดเกร็งเมื่อผมเริ่มขยับ แม้สองมือจะทำตามที่พูดแต่ผมก็รู้ว่านั่นเป็นไปโดยสัญชาติญาณเสียมากกว่า



ฉันไม่รู้ว่านายคิดอะไรอยู่ โกคุเดระ



ฉันอาจจะเป็นแค่ไอ้บ้าเบสบอลสมองถั่วที่นายเห็นเป็นเพียงแค่กระดูกหัวไหล่



แต่เชื่อเถอะนะ ความรู้สึกจริงทั้งหมดของฉัน



ว่าฉัน...




...รักนาย....







TBC


1 ความคิดเห็น: