: KHR Fanfiction Au
: 8059 186927 XS
: Romantic
: NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
นับตั้งแต่จำความได้...เราสองคนอยู่ด้วยกันตั้งแต่เกิด
เสียงกระดิ่งเล็กๆที่ติดอยู่ที่ประตูส่งดังขึ้นเมื่อมีใครสักคนเปิดประตูเข้ามา...
ผมรู้...ว่าในเวลานั้น คนที่ก้าวเข้ามาจะเป็นใคร แต่ด้วยประโยคที่พูดมาโดยอัตโนมัติราวกับถูกตั้งเวลาไว้ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงนั้น มันทำให้ต้องเอ่ยออกไปราวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์
“ เชิญครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ ตอนนี้ใกล้จะปิดร้านแล้ว ขนมปังเลยมีให้เลือกไม่มากแล้วนะครับ...”
“ ฮายาโตะ “
นึกแล้วไม่ผิด...เสียงทุ้มอ่อนโยน ไม่เคยเปลี่ยนเลยจากในอดีตจวบจนถึงปัจจุบัน และผมก็เชื่อว่ามันจะยังคงเป็นอย่างนั้นไปจนถึงอนาคตดังขึ้น และเมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับดวงตาสีน้ำตาลสดใสที่สะท้อนภาพของผมอยู่เต็มสองตาในนั้น
ทาเคชิเป็นน้องชาย ไอ้น้องชายตัวโตที่เหมือนหมาตัวใหญ่ๆ บางครั้งมันก็เป็นเหมือนหมาเชื่องๆที่ตามเจ้าของต้อยๆอย่างตามใจ แต่บางครั้งมันก็กลายเป็นหมาดุที่คอยปกป้องภัยทุกอย่างที่เฉียดเข้าใกล้ผม
เรากลับบ้านท่ามกลางอากาศหนาว สายลมพลิ้วผ่านยามเมื่อจักรยานผุ่งไปข้างหน้า ผมซบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างที่แสนอบอุ่น อดนึกไม่ได้ว่าทั้งๆที่เมื่อก่อนเจ้านี่ตัวเล็กกว่าผมแท้ๆ แต่ไหงถึงโตมาได้สูงใหญ่ขนาดนี้ ผมหลับตาลง ปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับเส้นทางข้างหน้า เหนือขึ้นไปบนฟ้ากว้างไกล ตราบใดที่ผมยังอยู่กับแผ่นหลังนี้...ก็ไม่ต้องกลัวถยันตรายใดๆที่มาแผ้วพาน
...บางครั้งผมก็คิดว่าตัวเองเป็นคนเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ...
ผมไม่อยากจากความอบอุ่นนี้ไป ผมไม่อยากให้ใครได้มันไป...
แต่เพราะทาเคชิเป็นน้องชาย ดังนั้นมันก็คงจะต้องมีสักวันที่เขาจะมีคนรัก...
....แต่จนกว่าจะถึงเวลานั้น...ขอให้ผมได้ยึดครองแผ่นหลังนี้ไว้ก่อนได้ไหม?
........................................
"โอ๊ยย!! ปล่อยนะเว๊ย!! ไอ้งี่เง่า"
...กลัว...ใช่.....ถึงไม่อยากจะยอมรับแต่ตอนนี้ก็รู้สึกอย่างนี้จริงๆ
ผู้ชายตรงหน้านี้คือฮิบาริ เคียวยะ หัวหน้ากรรมการคุมกฎผู้ที่ใครๆต่างกล่าวขวัญถึงความโหดร้ายของหมอนั่น
มือที่แข็งราวคีบเหล็กกำลังจับแขนผมอยู่ ดวงตาดุดันแข็งกร้างราวปีศาจร้ายกำลังจ้องหน้าผมอยู่..
......กลัว......
"...คะ...คุณฮิบาริ....ผมไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษด้วยครับ" เสียงระล่ำระลักของสึนะที่ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าดังข้างๆ แต่กับฮิบาริ เคียวยะหมอนั่นไม่ใช่คนดีที่ขนาดจะยอมอภัยได้กับความน่าสงสารนี้
"หึ....พวกสัตว์กินพืชชอบสุมหัว..จะต้องถูก 'ขย้ำ' " ทำไมนะ...ทำไมคำว่าเวลาที่พูดคำว่าขย้ำ ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าสายตานั่นมันพุ่งตรงมาที่ใบหน้าของผม
"ยะ....อย่านะ....!!"
นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่หลุดออกจากลำคอ ก่อนที่ความรู้สึกราวดิ่งลงมาจากที่สูงจะวูบเข้าจับขั้วหัวใจ....
วินาทีนั้น...
ภาพใบหน้าร่าเริงของใครบางคนแวบเข้ามาในหัว
...ทาเคชิ...
*ตุ้บ*
มะ....ไม่เจ็บเลย ไม่เจ็บเลยซักนิด....ทั้งๆที่พร้อมเตรียมใจไว้แล้วแท้ๆ ผมปรือตาขึ้นมอง ก่อนที่หัวใจจะกระตุกวูบราวกับถูกกระแทกให้หลุดออกมา เมื่อพบว่าเจ้าของอ้อมแขนอุ่นที่รองรับร่างกายอยู่นี้เป็นใคร
“ อูย....ปะ..เป็นอะไรหรือเปล่า...ฮายาโตะ...”
ผมค่อยๆยกมือขึ้นลูบใบหน้าที่มักจะมีแต่รอยยิ้มเสมอนั้นพร้อมกับส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“ ฮายาโตะคุง เป็นอะไรหรือเปล่า! ขอโทษนะ...ขอโทษ เพราะฉันซุ่มซ่ามเอง...ขอโทษนะ “ สึนะวิ่งลงบันได มาหาพวกเรา พร้อมกับเจ้ามุคุโร่อีกคนที่วิ่งตามลงมาด้วยใบหน้าตกใจไม่แพ้กัน
“ ฉะ...ฉันไม่เป็นอะไร...แต่ทาเคชิ...ทาเคชิ แก...แกเจ็บตรงไหน...”
...ใจที่หายไปยังไม่สามารถกลับเข้าที่เดิมได้ มันปลิดปลิวลอยหายไปที่แห่งหนใดก็ไม่รู้ได้ ทำไมล่ะ? ทุกครั้งที่ผมคิดถึงทาเคชิ เจ้านี่ก็จะมาปรากฎกายราวกับหยั่งรู้เสียงเรียก ทั้งๆที่บางครั้ง ผมก้ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น
...เหมือนกับคราวนี้
ผมอยากจะร้องไห้ แต่ถ้าผมร้องแต่ทาเคชิจะต้องเป็นห่วง จึงได้แต่ส่งสายตาอาฆาตแค้นไปให้กับปีศาจในคราบมนุษย์ที่ยืนค้ำตระหง่านอยู่
...ผมช่างเป็นพี่ชายที่ไม่ได้ความจริงๆ
........................................
บางครั้งผมก็คิดว่าผมเกิดมาทำไม
ทั้งร่ายกายที่อ่อนแอจนดูเหมือนเป็นตัวถ่วงแข้งขาใครต่อใคร ทั้งพ่อที่ต้องคอยเป็นห่วงเป็นใย ทั้งทาเคชิที่ต้องคอยดูแล
จนบางครั้ง ผมก็นึกอยากจะไปให้พ้นๆจากโลกใบนี้
แต่ว่า...
“ นี่ ...ฮายาโตะ“ เสียงเรียกที่ยังคงอ่อนโยนเสมอไม่สร่างซาดังขึ้น และเมื่อผมหันไปก็ต้องตกใจเล็กน้อยกับมือใหญ่ที่ยกขึ้นลูบใบหน้า “ ฉัน...ตัดสินใจแล้ว...ต่อให้ต้องเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก ฉันก็จะปกป้องนาย จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายนาย“
...มันคงจะดีถ้ามีใครซักคนพูดแบบนี้และมองด้วยสายตาที่มีแต่เงาของตัวเองสะท้อนอยู่เต็มสองข้างในนั้น ...บางอย่างในอกรู้สึกหวามไหว บางอย่างในส่วนลึกของใจกระตุกสั่น แต่ว่า...
แต่ว่า....
“ เจ้าน้องบ้า แกพูดอย่างกับฉันเป็นเจ้าหญิงอย่างงั้นแหละ“ ผมเสหันหลังเงยหน้าเหม่อมองกิ่งก้านไร้ใบของต้นไม้ใหญ่ คิดถึงชีวิตของตัวเองที่คล้ายๆกับต้นไม้ต้นนี้ ซักวันหนึ่งคงร่วงโรย...
“ แต่ฉัน...ก็ดีใจนะ...ดีใจที่ตลอดมามีแกคอยอยู่ข้างๆ....พูดตามตรง ฉันเองก็ยังจินตนาการไม่ออกเลย...วันที่ฉันไม่มีแก....”
“ ถ้าฉันจะไม่ไปไหน....ถ้าฉันจะขออยู่ข้างๆนายตลอดไป จะได้ไหม“
“ ฮิ ฮิ...จะอยู่ไปจนเป็นคุณปู่เลยก็ได้ ตามสบาย ตราบใดที่แกยังปั่นจักยานให้ฉันซ้อนอยู่น่ะนะ“ ผมยิ้มให้เขา แล้วก็ต้องตกใจเมื่อถูกรวบตัวเข้ามากอด ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ ทั้งๆที่ตอนเด็กเราก็กอดกันออกบ่อย แต่เมื่อโตขึ้นมา ราวกับว่าพฤติกรรมนั้นจะหายไป
...อุ่น....อบอุ่นเหลือเกิน....ไม่ใช่แค่เพียงแผ่นหลัง แต่อ้อมอกของทาเคชินั้นก็อุ่นร้อนราวหลอมละลาย ความเห็นแก่ตัวอันร้ายกาจสร้างมโนภาพปีศาจร้ายในจิตใจของผม ไม่อยากยกอ้อมกอดนี้ให้ใคร ไม่อยากจะให้ใครได้มันไป...
....ฉันผูกมัดนายได้หรือเปล่า?...ทาเคชิ...
....ผูกมัดด้วยคำว่า 'พี่ชาย'....
ขอบคุณคุวาริคุงอีกครั้งนะค้า...สำหรับพาร์ทของฮายาโตะ >w< ประโยคท้ายสุดนี่มันช่างโฮกโดนใจ
สำหรับพาร์ทของฮายาโตะนี้ อ้างอิงมาจากพาร์ทของยามะตั้งแต่ตอนที่ 1-3 นะคะ เผื่อใครอ่านแล้วไม่รู้ว่ามันคือตอนไหนอย่างไร แบบว่า...อ่านคู่กันไปจะได้อารมณ์มากกกกทีเดียวเลยละค่ะ อิอิ
อ๋าาาา พาร์ทของฮายาโตะมาแล๊ววววววว
ตอบลบอันที่จริงก็รักเค้ามาตั้งนานแล้วอ่ะเด๊
แต่แค่ยังไม่ยอมรับ แต่ฮายาโตะก็น่ารัก ><
ไม่อยากร้องไห้เพราะยามะจะห่วง
นึกหน้าฮิบาริตอนพูดคำว่าขย้ำแล้วจงใจหันมาทางฮายาโตะแล้วพอเข้าใจอารมณ์
คงขนลุกอยู่ซักหน่อย = =;;
ชอบที่เปรียบเทียบว่ายามะเป็นหมา 55555
คิดมาตลอดเหมือนกันว่ายามะเหมือนหมามากๆ - - !!
บุคลิกขี้เล่นเหมือนหมาน้อย แต่พอโหมดดาร์กก็กลายเป็นหมาดุ
แหงอ่ะซี๊ เจ้านายน่ารักแบบนี้ก็ต้องดุเป็นธรรมดาาา
ผูกมัดด้วยคำว่าพี่สาวไม่ได้หรอ....อยากเห็นนิยาย
ตอบลบโกคุสายcมั่ง555+(คุณคุวาริก็แต่งเก่งนะคะแต่ส่วนตัวหนูจัดให้อยู่ที่2คว้ารางวัลแต่งนิยาย8059ได้สนุกอันดับสองถ้าไม่หนุกคงไม่อ่านซ้ำหรอก....)
ผูกมัดด้วยคำว่าพี่สาวไม่ได้หรอ....อยากเห็นนิยาย
ตอบลบโกคุสายcมั่ง555+(คุณคุวาริก็แต่งเก่งนะคะแต่ส่วนตัวหนูจัดให้อยู่ที่2คว้ารางวัลแต่งนิยาย8059ได้สนุกอันดับสองถ้าไม่หนุกคงไม่อ่านซ้ำหรอก....)