KHR Au.fic [8059] IF ; I LOVE [23] END



: KHR Fanfiction Au
: 8059  186927  XS
: Romantic
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ 







: ยามะดาร์กใสกิ๊ง....(อะไรของมันวะนั่น?).....  ส่วนหนูฮายาโตะนิสัยจะไม่ตรงกับคาร์แรคเตอร์หลักนะตัวเอง...^ ^...ก็เค้าอยากเห็นหนูฮายาโตะเวอร์ชั่นน่ารักๆเอ๋อๆมั่งอ่ะ
.
.
.
.
.
.
.


จากเสียงครางต่ำสม่ำเสมอของเครื่องจักรที่ขับเคลื่อนให้ขบวนรถไฟนี้พุ่งทะยานไปข้างหน้า ค่อยๆถูกกลบทับด้วยเสียงพูดคุยกันจอแจ นัยน์ตาสีน้ำตาลเปลือกไม้ลืมขึ้นอย่างช้าๆ  คนที่นั่งอยู่ข้างๆลุกขึ้นยืนเตรียมหยิบข้าวของที่ขนมาเต็มสองมือ สายตามองออกไปข้างนอกหน้าต่างรถไฟ ก็พบกับภาพทิวทัศน์ที่คุ้นเคย ....นามิโมริ.....เมืองที่เป็นทุกอย่างสำหรับเขา กับความทรงจำกว่ายี่สิบปี มีทั้งความทุกข์ ความเจ็บปวดทรมานกับสิ่งที่ต้องพบเจอ และความสุขที่สุดจากคนที่เขารักแสนรักที่ยังคงรอคอยการกลับมาของเขาเสมอ


ร่างกายสูงใหญ่สมส่วนของเขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เมื่อรถไฟเริ่มชะลอความเร็วลง จนกระทั้งหยุดนิ่งอยู่กับที่ในที่สุด ร่างกายที่ผ่านการใช้งานมายี่สิบห้าปีเต็มก้าวเดินอย่างสง่าผ่าเผยออกไปจากขบวนรถไฟ บนบ่ากว้างมีสายสะพายของกระเป๋ากีฬาใบใหญ่พาดอยู่ สายตาหลายๆคู่ยังคงจ้องมองมาที่เขา บางคนก็โบกไม้โบกมือให้ บางคนก็แค่ยิ้มน้อยๆแล้วเดินจากไป....ไม่ว่าจะเมื่อไหร่....เขาก็ยังคงเป็นจุดสนใจอยู่เสมอ....


ขายาวก้าวเดินไปในเส้นทางที่คุ้นเคย ต่อให้ต้องหลับตาเดิน เขาก็มั่นใจว่าเขาจะเดินไปถูกทางแน่นอน เพราะเส้นทางนี้เขาใช้มันมานับพันนับหมื่นครั้ง ...ตั้งแต่วันที่ตัดสินใจที่จะทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง ถึงแม้ว่าร่างกายจะต้องไปไกลแค่ไหน แต่ในเมื่อหัวใจของเขาอยู่ที่นี่ ร่างกายก็ยังคงต้องกลับมาเพื่อรับพลังจากหัวใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน....


แสงแดดอ่อนๆส่องให้เมืองดูสว่างเจิดจ้า ร้านรวงต่างๆที่อยู่รอบๆสถานีรถไฟยังคงมีคนผ่านเข้าออกอย่างคึกคักไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อสมัยก่อนเลยสักนิด สายตาเหลือบไปเห็นนิตยสารเล่มหนึ่งบนแผงหนังสือหน้าสถานี....นิตยสารเบสบอลรายสัปดาห์ที่เมื่อสมัยก่อนเขาเองก็เคยวิ่งมาซื้อที่นี่เป็นประจำ....ใครจะคิดว่า...ในวันหนึ่งข้างหน้า จากคนที่อ่านจะกลายมาเป็นคนที่ถือไม้เบสบอลยืนยิ้มอยู่บนปกหนังสือนี้แทนกันล่ะ....ใบหน้าเผลออมยิ้มน้อยๆ....นายจะภาคภูมิใจในตัวฉันบ้างไหมนะ ...พี่ชายของฉัน


แต่กว่าจะมายืนอยู่บนจุดนี้ได้....มันไม่ง่ายเลยสักนิด.....


เขาพยายามพัฒนาฝีมือและพละกำลังอยู่ตลอดเวลา มันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่หลังจากที่เรียนจบ ม.ปลายแล้วเขาจะมีทีมเบสบอลอาชีพติดต่อมาให้เข้าร่วมทีมในทันที ตอนนั้นพี่ชายของเขาไม่ได้เรียนต่อเพราะอาการทางร่างกายที่ทรุดลงอย่างหาสาเหตุไม่ได้ ร่างบอบบางนั่นจำเป็นต้องอยู่ที่นี่...ที่นามิโมริแห่งนี้....ที่ที่คุ้นเคย ที่ที่มีชามาล ที่ที่มีบ้าน.....มีเขาและพ่อคอยดูแลอย่างใกล้ชิด....


เขาเกือบที่จะละทิ้งความฝันของตัวเอง....เพราะไม่อยากอยู่ห่างจากร่างกายบอบบางที่รักแสนรักนั่นแม้แต่วินาทีเดียว....ถ้าจะเป็นนักเบสบอลมืออาชีพ ก็จำเป็นจะต้องไปอยู่ในที่ที่ทีมตัวเองอยู่ ต้องฝึกซ้อมร่วมกับทีม...แต่ตอนนั้น เขายอมรับว่า ทำใจไม่ได้จริงๆที่จะต้องแยกกับพี่ชายของเขา...ยิ่งอาการของร่างบางไม่ดีขึ้นเลยแบบนั้น มันทำให้เขาแทบจะไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น....


ก่อนวันนัดตรวจร่างกายและเซ็นต์สัญญาแค่ไม่กี่วัน... เขาไปโรงพยาบาลที่พี่ชายนอนอยู่ตามปกติ เขายังจำได้ดี กับมือบางอุ่นร้อนที่จับมาที่แขนของเขากับดวงตาสีเขียวมรกตที่มองมาอย่างอ่อนโยน.....


อย่าให้ฉันรู้สึกผิดไปมากกว่านี้เลย...อย่าให้ฉันต้องรู้สึกว่าฉันเป็นคนทำลายความฝันของแกด้วยมือคู่นี้ของฉัน....ขอร้องละทาเคชิ...ไปทำในสิ่งที่แกต้องการบ้าง...แล้วฉันจะสัญญา...ว่าฉันเองก็จะสู้ ฉันจะไม่เป็นอะไร....เพราะฉันจะอยู่กับแก....


คำพูดที่ยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของเขาตลอดมา....และร่างบอบบางนั่นก็รักษาสัญญา....หลังจากที่เขาตัดสินใจที่จะไปเข้าร่วมทีมที่มีอดีตกัปตันตลอดกาลของเขาอยู่...หลังจากนั้นไม่นาน ชามาลก็ค้นพบไวรัสชนิดหนึ่งในร่างกายของพี่ชายและหาวิธีรักษามันจนหายขาด....


เขาต้องเดินทางไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ตอนกลางวันก็ฝึกซ้อมกันอย่างหนักกับเพื่อนร่วมทีมจนไม่มีเวลาจะคิดอะไรทั้งสิ้น แต่ยามกลางคืนเล่า...จะมีใครรู้บ้างไหมว่าเข้าต้องทนทรมานกับความคิดถึงที่ส่งไปหาใครบางคนอย่างไม่มีลดลงเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หรือจะมีคนเดินผ่านเข้ามาในชีวิตมากมายยังไง แต่คนที่เขารักที่สุด ยังคงเป็นร่างบอบบางคนนั้นคนเดิม....


ช่วงเวลาวันหยุด หรือ ต้องเรียกว่าแทบจะตลอดเวลาที่หาเวลาว่างได้ เขาก็จะตรงดิ่งกลับมาที่นามิโมริทันที ถึงแม้ว่าจะได้เจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมง...เขาก็ยังเลือกที่จะกลับมาอยู่ดี...แค่ได้เห็นว่าร่างบอบบางนั่นยังมีความสุขดี แค่ได้เห็นรอยยิ้มจากริมฝีปากนุ่นนิ่มนั่น แค่นั้นมันก็ทำให้เขามีแรงที่จะกลับไปต่อสู้กับทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว....


แค่ปีเดียวเขาก็สร้างชื่อได้ในฐานะนักเบสบอลดาวรุ่ง เรื่องฝีมือที่เขาแสนจะภาคภูมิใจนั้นเป็นที่จับตามองไปทั่วทั้งวงการเบสบอลของญี่ปุ่น ....แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดนั่นก็คือ...รูปร่างและหน้าตาของเขาดันไปเป็นที่ต้องตาต้องใจของสาวๆอีกมากมายจนชื่อของเขาเริ่มแพร่กระจายไปในวงการอื่นๆอย่างรวดเร็ว....


และนั่นมันก็เริ่มที่จะก่อปัญหาตามมา....จนหลายๆครั้งเขาก็อยากจะเลิกล้มความตั้งใจที่จะเดินตามฝันของตัวเอง.....


ถ้าสนใจกันแค่เรื่องฝีมือเบสบอลเขาจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่เขากลายเป็นที่สนใจไปในแทบจะทุกเรื่อง....ประวัติที่ผ่านมาของเขาถูกขุดคุ้ยขึ้นมาเขียนเป็นสกู๊ปข่าวเด็ด ทั้งเรื่องพื้นฐานทั่วไป การใช้ชีวิตที่ผ่านมา เพื่อนฝูง โรงเรียนเก่า ครอบครัว หรือแม้แต่เรื่อง....คนรัก....


........เปิดเผยแล้ว!!! ยามาโมโตะ ทาเคชิ นักเบสบอลดาวรุ่ง ที่ว่าไม่เคยสนใจใคร เพราะมีตัวจริงที่เป็นทั้งพี่ชายและคนรักอยู่แล้ว!!!........


เมื่อข่าวนี้ถูกพาดหัวนิตยสารเบสบอลแทบทุกฉบับและกำลังเริ่มลามไปถึงหนังสือพิมพ์รายวัน มันก็ทำให้แทบจะทุกคนที่อ่านตกตะลึง นักข่าวมากมายต่างยกขบวนมาที่นามิโมริเพื่อค้นหาตัวพี่ชายของเขา ....เหตุการณ์เหล่านี้มันวนกลับมาอีกครั้ง....เหมือนเมื่อตอนแรกที่คนทั้งเมืองนามิโมริรู้เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพี่ชาย....แต่คราวนี้มันแตกต่างกันก็ตรงที่....มันกลายเป็นคนทั้งประเทศที่สงสัยและมองไปต่างๆนานากับความสัมพันธ์ที่ดูจะผิดบาปของพวกเรา.....


เขาเองก็โดนผู้จัดการทีมเรียกตัวไปพบ และบอกให้ออกมาปฏิเสธข่าวไปซะ ถ้าเขายังอยากจะสร้างชื่อต่อไปในฐานะนักเบสบอลมืออาชีพ....ข่าวแย่ๆแบบนั้นมันมีแต่จะทำให้เขาตกต่ำลง....แต่เขาจะทำได้ยังไงล่ะ...จะต้องโกหกคนทั้งประเทศเพื่อให้ตัวเองมีชื่อเสียงต่อไปงั้นหรอ...แต่เรื่องนั้นเขาไม่ได้สนใจมันมากไปกว่าความรู้สึกของพี่ชายของเขาหรอก....เขาจะไม่ทรยศ เขาจะไม่หักหลังร่างบอบบางนั่น ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม....ถ้าเขาผ่านมันไปไม่ได้ เขาก็ยอมที่จะละทิ้งมัน เพื่อให้ตัวเองได้กลับไปอยู่กับร่างบอบบางนั่น ถึงแม้จะไม่มีชื่อเสียง ไม่มีรายได้มากมายอย่างที่เป็นอยู่ ....แต่ขอแค่ได้อยู่ด้วยกัน ในบ้านหลังเล็ก ในเมืองเล็กๆของเรา เท่านั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา....


เขาปฏิเสธผู้จัดการทีมไป....ข่าวที่ออกตามมาคือ.....เขาเลือกพี่ชายคนรัก มากกว่าการเป็นนักเบสบอลมืออาชีพ....


นั่นยิ่งทำให้ความสงสัยเพิ่มมากขึ้น ผู้คนมากมายต่างอยากเห็น.....ว่าคนที่มัดตัวและหัวใจของเขาเอาไว้ได้อย่างอยู่หมัดขนาดนี้จะเป็นผู้ชายแบบไหนกัน....


จนถึงตอนนี้มันยิ่งทำให้เขารักเมืองเมืองนี้ รักผู้คนของที่นี่.....ผู้คนที่เขาคิดมาตลอดว่าคงไม่ยอมรับในความสัมพันธ์ของพวกเราพี่น้อง...ผู้คนที่ต่างออกมาช่วยปกป้องเราทั้งสองคน....


คนที่ไม่ยอมรับอาจจะมีอยู่ แต่พวกเขาก็ไม่ปรากฏตัว มีเพียงผู้คนที่ออกมาแสดงความเห็นในทางที่ดี คำชื่นชมที่มีให้กับพวกเราสองคนเริ่มทำให้กองทัพนักข่าวเริ่มล่าถอย และในที่สุดความจริงที่ว่าเราไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆก็ถูกเปิดเผยสร้างเสียงฮือฮาไปได้ทั่วบ้านทั่วเมือง.....


ความคิดเห็นของผู้คนเริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง....


แต่พวกนักข่าวยังคงไม่เลิกขุดคุ้ยเรื่องเสียๆหายๆของเขา จนกระทั่งผู้คุมกฎของนามิโมริออกมาเคลื่อนไหว ....จึงไม่เหลือนักข่าวแม้แต่คนเดียวอยู่ในเมืองนามิโมริอีกเลย.....


เขาคิดอยากจะเลิกเล่นเบสบอล....บางทีอาชีพและชื่อเสียงจอมปลอมพวกนี้อาจจะไม่เหมาะกับคนที่มีบาปติดตัวอย่างเขาก็เป็นได้ ....เขากลับไปอยู่ในอ้อมแขนเล็กๆของพี่ชายอีกครั้ง...ความอบอุ่นนี้ต่างหากที่เขาต้องการ รอยยิ้มและกำลังใจที่มอบให้เขามาตลอดมันทำให้เขาอยากจะลุกขึ้นสู้อีกครั้ง....


แล้วในวันถัดมา.....กัปตันหนึ่งเดียวของเขาก็เดินมาหาพร้อมกับถามเขาว่า...


ฉันลาออกจากไอ้ทีมสวะนั่นแล้วว่ะ...แกอยากจะมาตั้งทีมใหม่ของเมืองนี้กับฉันไหมล่ะ...แล้วทำให้พวกมันเห็นว่ากล้ามีเรื่องกับคนของชมรมเบสบอลมันจะเป็นยังไง   ใบหน้าโหดๆนั่นแสยะยิ้มอย่างเอาจริง....


แล้วพวกเราก็ทำได้.....ในเวลาไม่นานทีมเบสบอลของนามิโมริก็สร้างชื่อติดอันดับต้นๆของประเทศ.....ด้วยแรงเชียร์จากผู้คนที่รักเราและแรงสนับสนุนจากผู้ดูแลเมืองอย่าง ฮิบาริ เคียวยะ....


ค่าตัวของเขาและกัปตันพุ่งสูงลิบลิ่ว....แต่ไม่ว่าเงินมากมายขนาดไหนก็สู้กำลังใจที่มีให้กันมาตลอดไม่ว่ายามที่ย่ำแย่แค่ไหนของคนที่นี่ไม่ได้เลย...เขาเลือกที่จะอยู่ที่นี่...อยู่กับคนที่รักเขา....


เรื่องของเขากับพี่ชายถูกขุดคุ้ยขึ้นมาอีกครั้ง...แต่ดูท่าทางว่าคนมากมายจะเริ่มยอมรับในความสัมพันธ์ของเรามากขึ้น....ข่าวในทางเสียหายจึงเริ่มถูกลดความสำคัญลง....แต่เรื่องราวดีๆของเส้นทางความรักที่ต้องผ่านความลำบากมาอย่างไรบ้างถูกตีแผ่ขึ้นมาแทน โดยสำนักพิมพ์ที่เพื่อนตาสองสีของพี่ชายเป็นเจ้าของอยู่....ภาพพี่ชายของเขาถูกเปิดเผยออกมาเป็นภาพแรก....ภาพที่เราสองคนอยู่ด้วยกันที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมแม่น้ำที่ไหลเอื่อยเฉื่อย เขาที่นอนหนุนตักของร่างบอบบาง ดวงตาจ้องมองกันและกัน กับรอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งให้แก่กัน....


มันเป็นรูปที่แอบถ่ายโดยเพื่อนตัวเล็กของพี่ชาย...ซึ่งทำให้สายตาของคนมากมายมองเราสองคนในแง่ดีขึ้นมาก....




เขาเชื่อ...ว่าทุกคนคงจะรับรู้ได้ว่ารอยยิ้มที่เราส่งให้แก่กันนั้น มันอบอวลไปด้วยความสุขมากมายขนาดไหน....


เขาเชื่อ....ว่าทุกคนคงเข้าใจแล้ว ว่าทำไมเขาถึงทิ้งทุกอย่างได้ เพื่อร่างบอบบางที่อยู่ในอ้อมแขนคนนั้น.....


และเขาเชื่อ....ว่าสักวัน คงมีคนที่จะยอมรับได้ ในความสัมพันธ์ของพวกเราพี่น้องต่างสายเลือดที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน.....




จากเรื่องวุ่นวายตอนนั้นก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ภาพแอบถ่ายระหว่างเขากับพี่ชายก็ยังคงมีหลุดออกไปเรื่อยๆ โดยสำนักพิมพ์ที่ผูกขาดอยู่ก็คือที่เดิมนั่นแหละ....และคนที่ยังคงสนใจเรื่องราวของพวกเขาก็ยังคงไม่ลดลงเลย ดูได้จากยอดขายหนังสือที่เพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ....เพียงแต่สายตาที่มองมามันเปลี่ยนไปมาก จนเขาเองก็อดที่จะดีใจไม่ได้....


ทุกวันนี้เขากลายเป็นที่รู้จัก เป็นคนที่มีชื่อเสียง....พี่ชายของเขาเองก็เป็นที่รู้จักไม่แพ้กันถึงแม้ว่าเจ้าตัวเองจะไม่เคยออกไปปรากฏตัวในสื่อที่ไหนเลยก็ตาม.....




.......เป็นที่รู้จัก ในฐานะคนรักเพียงหนึ่งเดียวของเขา.....





ถึงแม้ว่าจะไม่มีสายเลือดเดียวกัน แต่นายก็คือพี่ชายเพียงคนเดียวของฉันเสมอมา….

ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่นายก็คือคนรักเพียงคนเดียวของฉันตลอดไป….

นายคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉันนะ...ฮายาโตะ.....




ขายาวยังคงก้าวเดินต่อไป รอยยิ้มน้อยๆปรากฏที่ริมฝีปากเมื่อนึกถึงใครบางคน ร้านเบเกอรี่ที่คุ้นเคยมองเห็นอยู่ตรงหน้า ยิ่งเดินเข้าไปใกล้กลิ่นไอหอมหวนของใครบางคนก็ลอยมากระทบโสตประสาท...ไม่ว่าร่างกายของฉันจะอยู่ไกลแค่ไหน...แต่ในเมื่อหัวใจของฉันอยู่ที่นี่...ไม่ว่ายังไงร่างกายก็ยังคงกลับมาหาหัวใจของมันอยู่วันยังค่ำ...ถ้าร่างกายไร้หัวใจ...แล้วจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร.....


มือหนาเปิดประตูช้าๆ เสียงกระดิ่งที่ประตูส่งเสียงดังอย่างรู้หน้าที่....


Tadaima…”      ฉันกลับมาแล้ว....กลับมาหานายไม่ว่าจะไกลแค่ไหน ลำบากแค่ไหน ฉันก็จะกลับมายืนอยู่เคียงข้างนาย....เพราะนายคือหัวใจของฉัน....


Okaeri…"     รอยยิ้มอบอุ่นถูกส่งมาจากคนที่รอคอย ร่างกายของเขาขยับเข้าไปหาร่างกายบอบบาง ก่อนที่จะโอบกอดให้ร่างกายตรงหน้าเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน ริมฝีปากแนบชิดลงไปที่ริมฝีปากนุ่ม.....




ฉันรักนาย.....

ฮายาโตะ......

ที่รักของฉัน......

พี่ชายของฉัน........

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

........................จบบริบูรณ์กว่า(?).............................






ฮึก...ฮึก....ฮึก.....จบ...จบแล้วค่ะ.....ดีใจมากๆเลยค่ะ ในที่สุดก็เขียนมาถึงตอนจบจนได้ ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยจริงๆ....

ต้องขอบคุณแรงกระตุ้น แรงเชียร์และกำลังใจจากทุกๆคนจริงๆค่ะ
  
ขอบคุณอีกครั้ง ที่ตามอ่านมากันจนถึงตอนนี้....^____^.....ขอบคุณค่ะ....

2 ความคิดเห็น:

  1. ว๊ากกก แฮปปี้เอนดิ้ง แบบแฮปปี๊แฮปปี้
    ฮิบาริน่ารักจัง น่ารักมากๆเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ
    คอยตามล้างตามเช็ดคนพวกนั้นตลอดเลยอ้ะ สะใจอยู่ลึกๆ - -
    ป๋าแซนยังได้ใจไปเหมือนเดิม ล่าออกจากทีมสวะแล้วมาตั้งทีมใหม่เอง 555
    จะกี่ปีๆพี่ท่านก็ยังสว๊ะสวะเหมือนเดิม เมื่อไหร่จะเลิกพูดเนี่ย หือออ

    ยามะน่ารักจัง ตอนนี้อ่านแล้วอบอุ่นค่ะ
    ตัวไกลแต่ใจอยู่นี่ มันอั๊ยย เขิน >_

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ14 พฤษภาคม 2556 เวลา 11:05

    💓💓💓 บอกได้แค่ว่า.... มันเขิลลล~
    อั๊ยยย อบอุ่นจังอ่ะ >///<

    ตอบลบ