: KHR Fanfiction Au
: 8059 186927 XS
: Romantic
: NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
: ยามะดาร์กใสกิ๊ง....(อะไรของมันวะนั่น?)..... ส่วนหนูฮายาโตะนิสัยจะไม่ตรงกับคาร์แรคเตอร์หลักนะตัวเอง...^ ^...ก็เค้าอยากเห็นหนูฮายาโตะเวอร์ชั่นน่ารักๆเอ๋อๆมั่งอ่ะ
.
.
.
.
.
.
.
จนถึงตอนนี้ เรื่องราวของเขาก็ไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไป ในเมื่อคนที่พวกเขาเคารพรักมากที่สุดก็ได้ล่วงรู้และเปิดใจที่จะยอมรับและเชื่อมั่นในตัวเขาและพี่ชาย ว่าสิ่งที่เรามีให้แก่กัน มันจะช่วยให้เราผ่านทุกอุปสรรคไปได้....แต่ถึงอย่างนั้น....เราก็ยังคงใช้ชีวิตกันตามปกติ ไม่ได้พยายามที่จะประกาศตัวให้ใครต่อใครรู้...ว่าเราเป็นอะไรกัน....ถึงแม้จะรู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าเราไม่มีสายเลือดเดียวกัน...แต่คนที่เป็นพี่น้องกันมากว่าสิบปีในสายตาคนอื่นๆ...จะให้พวกเขาเหล่านั้นมองเราใหม่ว่าเป็นคนรักกัน เพียงข้ามคืนนั้นมันคงเป็นไปไม่ได้....
เรายังคงแค่เดินจับมือกันเหมือนเมื่อก่อน แทบจะไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นให้ใครเห็น....สิ่งที่แสดงออกต่อกันนั้นค่อยเป็นค่อยไป....ให้คนรอบข้างค่อยๆมองเราด้วยสายตาที่ค่อยๆเปลี่ยนไปทีละเล็กทีละน้อย....
ถึงจะรู้ดี...ว่าสายตาที่จ้องมองมานั้นเต็มไปด้วยความสงสัยในความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ มีทั้งคนที่แค่เฉยๆ กับบางคนที่แสดงท่าทางรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด ...ถึงแม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น...เราก็ไม่คิดที่จะตอบรับหรือปฏิเสธใดๆ....ยังคงปล่อยให้พฤติกรรมแบบปกติของเราทั้งคู่ ค่อยๆซึมซับเข้าไปในสายตาของผู้คนทีละน้อย...เผื่อว่าสักวัน....พวกเขาจะค่อยๆยอมรับกันไปเอง.....
และวันนี้ก็คืออีกหนึ่งวันปกติ ที่เขาและพี่ชายของเขาต่างก็ไปใช้ชีวิตที่โรงเรียนเหมือนเดิม บาดแผลฟกช้ำตามตัวของเขาที่เกิดจากเหตุการณ์เมื่อวันนั้นเริ่มจะจางหายไป พ่อกลับมายิ้มแย้มเล่นหัวกับพวกเราตามปกติ จะมีก็แต่สายตาอ่อนโยนที่คอยมองเราอย่างเป็นห่วงเป็นใยอยู่ห่างๆที่เพิ่มมากขึ้น
…………ไม่มีอะไรจะมาเปรียบเทียบได้กับความรักที่พ่อมีให้กับพวกเรา มันช่างยิ่งใหญ่จนไม่รู้ว่าจะทดแทนยังไงได้หมด ขอบคุณอีกครั้งครับพ่อ................
ช่วงเช้าของวันนี้ไม่มีการเรียนการสอน เพราะการประชุมใหญ่ประจำปีที่นักเรียนทุกห้องทุกระดับชั้นต้องเข้าร่วม ....หอประชุมใหญ่ตรงหน้าดูเล็กไปถนัดตาเมื่อนักเรียนทั้งโรงเรียนต้องเข้าไปนั่งกันอยู่ภายใน
เรื่องราวที่อาจารย์ใหญ่ผู้ซึ่งยืนอยู่ที่กลางเวทีประกาศออกมาก็เป็นแค่เรื่องการรายงานกิจกรรมและผลการดำเนินงานของโรงเรียนประจำปีเหมือนทุกครั้ง ไม่ได้มีอะไรพิเศษ อากาศเย็นสบายกับเสียงพูดงึมงำของอาจารย์ใหญ่นั้นช่างเย้ายวนให้เปลือกตาปิดลงมายิ่งนัก...สติเริ่มจะค่อยๆหายไป.....
“ และต่อไปจะประกาศรายชื่อตัวแทนโรงเรียนที่อาจารย์ทั้งหลายได้ลงความเห็นแล้วว่าเหมาะสมที่จะไปเข้าร่วมแข่งขันในระดับเขต.....” คำว่าตัวแทนโรงเรียนเรียกสติของเขาให้ค่อยๆกลับคืนมา....มันอาจจะเกี่ยวอะไรกับนักเรียนที่สอบได้ที่ 1 ตลอดกาลอย่างพี่ชายของเขาก็เป็นได้....
“ และปีนี้ตัวแทนโรงเรียนของเราก็คือ.....ยามาโมโตะ ฮายาโตะคุง.......เชิญขึ้นมาบนเวทีด้วย” เสียงประกาศเรียกชื่อพี่ชายของเขานั้นเป็นไปตามคาด....
สายตาแทบจะทุกคู่ภายในหอประชุมต่างจับจ้องไปยังร่างบอบบางที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินขึ้นไปบนเวทีด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับตามเดิม แต่ถึงอย่างนั้นประกายแสงระยิบระยับที่เปล่งออกมาจากตัวบางๆนั่น มันก็ทำให้ใครหลายๆคนละสายตาจากไปไม่ได้....
ร่างบอบบางของพี่ชายเดินไปหยุดอยู่ข้างๆอาจารย์ใหญ่ที่กลางเวที เรื่องราวดูจะจบลงด้วยดี ถ้าไม่มีเสียงใครบางคนลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วยกมือขึ้นเรียกสายตาผู้คนให้หันไปมอง
“ ผมขอคัดค้านครับ!!!” เสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาจากกลุ่มเด็กเรียนของโรงเรียน ถึงเขาจะไม่เคยสนใจแต่ก็พอจะรู้มาบ้างว่า คนที่ลุกขึ้นยืนยกมือและประกาศก้องทั่วหอประชุมคนนั้น คือ เด็กหนุ่มสวมแว่นที่คงจะเรียนเก่งที่สุดในโรงเรียนเป็นแน่....ถ้าไม่มีพี่ชายของเขา.....
“ ตัวแทนของโรงเรียน....ไม่ใช่ว่าจะเรียนเก่งสอบได้คะแนนอันดับหนึ่งอย่างเดียวนี่ครับ....แต่ทางด้านความประพฤติก็ควรจะเป็นตัวอย่างที่ดีด้วยเช่นกัน” สายตาของหมอนั่นจ้องเขม็งไปที่พี่ชายของเขาที่ยืนอยู่กลางเวที ดวงตาสีมรกตก็จ้องตอบกลับมาโดยไร้ความกลัวเกรงใดๆ......
“ ใครๆในโรงเรียน....ไม่สิ....คนแทบจะทั้งเมืองนามิโมริต่างก็รู้กันดีว่ามีพี่น้องคู่หนึ่งที่ทำตัวผิดศีลธรรมประเพณี มิหนำซ้ำยังเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่.....แล้วทุกๆคนจะยอมให้คนที่พฤติกรรมไม่เหมาะสมแบบนั้น ไปเป็นตัวแทนของโรงเรียนที่แสนภาคภูมิของเราอย่างนั้นหรือครับ” เสียงประกาศก้องของหมอนั่นจบลงพร้อมด้วยเสียงอื้ออึงจากรอบทิศทั่วหอประชุมดังขึ้นมาพร้อมๆกัน สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องไปยังใบหน้าขาวเนียนสวยที่ยืนอยู่บนเวที
พี่ชายของเขาได้แต่ยืนกำหมัดแน่น สายตาที่มั่นคงส่ายมองไปรอบๆหอประชุม ถึงแม้ว่าการกระทำที่ร่างบอบบางแสดงออกมาจะทำให้ใครหลายๆคนคิดว่าไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร แต่เขา....ที่อยู่ด้วยกันมาตลอดกลับรับรู้ได้ว่า ร่างบอบบางนั่นกำลังสั่นกลัว.....
ความกดดันมหาศาลพุ่งไปยังคนที่ยืนอยู่กลางเวที หมัดที่กำแน่นกำลังสั่นเล็กๆ .....เสียงอื้ออึงดังขึ้นวิพากษ์วิจารณ์ข่าวลือต่างๆนานาที่เกี่ยวข้องกับเขาและพี่ชาย.....
.......เสียงที่ดังราวกับบทเพลงสวดส่งวิญญาณ กดทุกความรู้สึกให้หดหู่และสิ้นหวัง........
นัยน์ตาสีมรกตเริ่มสั่นไหว เมื่อไม่อาจสู้สายตาและแรงประณามหยามเหยียดรังเกียจและไม่ยอมรับที่ส่งมาจากสายตาเหล่านั้น ....
........สายตาที่ราวกับส่งมาจากซากศพไร้วิญญาณ ไม่มีความรัก ไม่มีความสงสาร....มีแต่ความเย็นชาจนสุดขั้วหัวใจ........
ขาเรียวก้าวถอยหลัง เมื่อกลุ่มผู้คัดค้านเริ่มส่งเสียงร้องไล่....
.........คำกู่ร้องก้องราวกับกำลังขับไล่สิ่งชั่วร้าย....สร้างความอัปยศจนไม่อยากจะพบเจอใคร......
ใบหน้าหวานส่ายหน้าไปมา เมื่อจนในที่สุดความกดดันที่ได้รับมันมากเกินกว่าจะรับไหว......
.......แรงกดดันมหาศาลราวกับผืนฟ้าที่กดทับลงมา ให้ร่างกายที่ยืนหยัดอยู่ต้องล้มจมดิน......
ร่างกายบอบบางทรุดลงคุกเข่าอยู่กับพื้นเวที มือบางยกขึ้นปิดหู ราวกับว่าไม่อยากจะได้ยินเสียงใดๆทั้งสิ้น....
และ....หยาดน้ำตาที่ค่อยๆรินไหลลงมาเมื่อจุดสุดท้ายแห่งความอดทนมาถึง........
เช่นเดียวกับเขา......
ที่ไม่อาจทนเห็นร่างบอบบางในสภาพแบบนั้นได้อีกต่อไปแล้ว.......
โครม!!!!!
เสียงคนสองสามคนล้มลงไปกับพื้นหอประชุม……
เพื่อนที่พยายามจับตัวห้ามไม่ให้เขาออกไปที่เวทีมาตลอดเมื่อครู่นี้ ถูกเขาใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักออกไป.....
สายตาทุกคู่เปลี่ยนมาจับจ้องอยู่ที่เขา.....
ขายาวของเขาก้าวย่างอย่างมั่นคงและเต็มไปด้วยจิตสังหารที่ถูกปล่อยออกไปรอบๆตัว สะกดทุกเสียงให้เงียบลงไปได้ภายในพริบตา.....ไม่นานเขาก็ก้าวขึ้นสู่บนพื้นเวที ตวัดสายตาที่ดุดันราวกับปีศาจร้ายมาที่คนที่จับจ้องมองพวกเราอยู่ ก่อนที่จะประคองร่างกายบอบบางของพี่ชายขึ้นมา.....
อ้อมกอดอบอุ่นถูกส่งไปให้คนที่กำลังสั่นกลัว......
เขาจับใบหน้าหวานให้เงยหน้ามาหาเขา ก่อนที่ริมฝีปากจะแนบลงไปที่ริมฝีปากนุ่มนิ่มของพี่ชาย.....
ทั่วทั้งหอประชุมเงียบกริบ ไม่มีแม้แต่เสียงหายใจของใครให้ได้ยิน ทุกสายตาและทุกประสาทการรับรู้ของคนที่นี่คงจะกำลังตกตะลึงให้กับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นี่เป็นแน่.....ในเมื่ออยากรู้กันนัก ในเมื่อสงสัยในความสัมพันธ์ของพวกเขา....เขาก็จะประกาศให้ทุกคนได้รับรู้...ใครจะว่ายังไงเขาจะไม่สนใจมันอีกแล้ว.....
ทำไมกันล่ะ....ทำไมเขาจะต้องไปสนใจคนที่ทำร้ายร่างกายบอบบางที่เขารักแสนรักในอ้อมแขนคนนี้กันด้วยล่ะ.....
เคยบอกเอาไว้แล้วนี่....ว่าเขาพร้อมจะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก เพื่อปกป้องร่างบอบบางในอ้อมแขนคนนี้.......
เคยบอกเอาไว้แล้ว.....ว่าจะปกป้องรอยยิ้มแสนสวยนี้เอาไว้ให้ได้ ไม่ว่าจะต้องพบเจอกับอะไรก็ตาม ไม่ว่าขวากหนามจะฉุดรั้งไม่ว่าใครจะไม่ยอมรับสักแค่ไหน เขาก็จะผ่านมันไปให้ได้......เขาเคยสัญญาเอาไว้กับพ่อของเขา.....และสาบานเอาไว้ด้วยชีวิตของตัวเอง.....
เวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ไม่อาจรับรู้ได้.....เขาละริมฝีปากออกมาจากริมฝีปากแดงระเรื่อของพี่ชาย ....อ้อมแขนกระชับร่างกายบอบบาง....แล้วส่งรอยยิ้มอบอุ่นไปให้คนในอ้อมแขน.....นัยน์ตาสีเขียวมรกตทอประกายแห่งความเชื่อมั่นส่งกลับมาให้เขา....ร่างกายที่สั่นกลัวและหนาวเย็นของพี่ชายกลับอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ.....เขาก้มลงไปจูบที่หน้าผากมน ก่อนที่จะหันไปยังหน้าเวที.....ที่ที่มีสายตาทุกคู่จับจ้องมองมา
“ เราสองคนรักกัน....” เขาประกาศก้องออกไป ท่ามกลางความเงียบเชียบราวกับไร้สิ่งมีชีวิตอยู่ ณ ที่นั้น......
“ ถ้าคิดว่าความรักที่เราสองคนมีให้แก่กันมันเป็นเรื่องที่ผิด ก็เชิญประณามหยามเหยียดกันไปเถอะ.....เพราะฉันจะไม่สนใจมันอีกแล้ว......” เขากวาดสายตาดุดันมองไปรอบๆหอประชุม พร้อมกับกระชับอ้อมแขนกอดร่างบอบบางแน่นขึ้น
“ แต่.....ถ้าใครคิดที่จะทำร้ายพี่ชายของฉันคนนี้ไม่ว่าจะทางไหน.....มันได้เจอดีแน่” เขาหยุดสายตาเย็นเยือกอยู่ที่กลุ่มเด็กเรียนพวกนั้น.....คงต้องไปขอบคุณพวกมันซักหน่อยแล้วสินะ......
เมื่อพูดจบ เขาก็โอบเอวบางแล้วพาเดินออกมาจากหอประชุมช้าๆ สายตาทุกคู่ยังจ้องมองมาที่เราทั้งสองคน.........แต่บัดนี้......มันจะไม่สามารถทำลายความรู้สึกของพวกเขาได้อีกต่อไปแล้ว.....
“ อย่าเพิ่งไป.....ยามาโมโตะทั้งคู่นั่นแหละ.....” เสียงๆหนึ่งทำให้เขาและพี่ชายหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูหอประชุม เมื่อหันกลับไปก็สบเข้ากับดวงตาสีทองส่องประกายสว่างไสว ใบหน้าหล่อเหลาและร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยสักของดีโน่ยืนอยู่กลางเวทีที่เขาทั้งสองคนเพิ่งเดินจากมา
“ ฉันว่านายสองคนยังพูดไม่จบนะ.....ทำไมไม่บอกเขาไปล่ะ....ว่า.......” ทั่วหอประชุมเงียบลงอีกครั้ง ตั้งใจฟังสิ่งที่อาจารย์เคมีคนนั้นจะพูดออกมาอย่างตั้งอกตั้งใจ
“ พวกนายไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ.....ไม่มีสายเลือดเดียวกันเลยแม้แต่น้อยน่ะ” สิ้นเสียงดีโน่....ทั่วทั้งหอประชุมกลับมาอื้ออึงอีกครั้ง สายตาบางคู่ที่ส่งมายังเราสองคนมีลักษณะที่แปรเปลี่ยนไป.....
เขาส่งรอยยิ้มน้อยๆไปให้ชายผมทองตรงหน้าแทนคำขอบคุณ
“ ว๊อยยยยย!!!ฉันก็ชักจะคันมือคันเท้าขึ้นมาตะหงิดๆ....สวะอย่างพวกแกจะไปยุ่งอะไรกับมันวะ คนมันจะรักกันจะไปเจือกอะไรด้วย โว้ยยยยย!!!” เสียงแปดหลอดของฉลามหนุ่มแห่งชมรมว่ายน้ำดังแทรกขึ้นมาจากบริเวณประตูทางออกอีกด้าน.....ดูเหมือนจะเพิ่งมาถึงสินะ.....
“ ไอ้สวะตัวไหนมันกล้ามาหาเรื่องคนของชมรมเบสบอลวะ...ขอดูหน้าหน่อย....จะได้ตามไปกระทืบถูก...” น้ำเสียงเหี้ยมที่ดังอยู่คู่กันเปล่งออกมาจากกัปตันชมรมจอมโหดของเขานั่นเอง แค่โผล่หน้ามาก็ทำให้คนขวัญผวาจนไม่มีใครกล้าหือกล้าอือแล้วละ.....
“ คึหึหึ.....นั่นสินะครับ.....ถ้าจะสงสัยในความสัมพันธ์ของสองคนนั่นละก็....มาสนใจเรื่องราวระหว่างผมกับสึนะโยชิคุงจะดีกว่านะ....เราสองคนพร้อมจะสาธยายให้หมดเปลือกเลยละครับ ….คึ หึ หึ....” เสียงหัวเราะอันเป็นเอกลักษณ์แว่วออกมาจากทางบริเวณห้องเก็บของหลังเวที ก่อนที่ร่างโปร่งบางนัยน์ตาสองสีจะค่อยๆก้าวเดินออกมาพร้อมกับร่างเล็กๆผมสีน้ำตาลฟูฟ่องที่พาดอยู่บนไหล่ในสภาพหลับสนิท....ไปทำอะไรกันมาถึงได้โผล่มาในสภาพแบบนี้กันนะ......
เขาและพี่ชายส่งยิ้มและสายตาขอบคุณไปยังทั้งห้าคนอย่างซาบซึ้ง....ไม่ว่าจะเมื่อไหร่....ไม่ว่าจะวันที่แย่แค่ไหน....คนพวกนี้ก็ยังคงเคียงข้างเขาสองคนเสมอ.....ขอบคุณจริงๆ....
และ.....อีกคนหนึ่งที่คงจะปรากฏตัวเร็วๆนี้นั่นก็ด้วย......
ขอบคุณพวกนายมากๆ.....
เขาพาร่างบอบบางของพี่ชายเดินออกมาจากหอประชุม....ตอนนี้....คงไม่มีที่ไหนจะน่ากลับไปมากเท่ากับ “บ้านของเรา” อีกแล้ว.....ขอกลับไปพัก....แล้วพรุ่งนี้เขาและร่างบอบบางนี่จะลุกขึ้นมาสู้กับทุกสิ่งทุกอย่างอีกครั้ง......
มีเสียงโครมครามดังออกมาจากจากหอประชุม....พร้อมกับคนกลุ่มหนึ่งที่โดนพวกกรรมการรักษาระเบียบลากตัวออกมา...และแน่นอนว่าคนเหล่านั้นคงไปทำอะไรบางอย่างให้หัวหน้ากรรมการรักษาระเบียบคนนั้นไม่พอใจเข้าแน่ๆ....แว่นตาหลายอันหลุดหล่นกระเด็นตกลงสู่พื้นจากการต่อสู้ดิ้นรน.....เสียงร้องอ้อนวอนขอนั่นช่างแตกต่างจากตอนลุกขึ้นคัดค้านพี่ชายของเขายิ่งนัก....ตอนนี้มันช่าง....น่าสมเพช.....
พวกนายคงเอาแต่เรียนกันอย่างเดียวเลยละสินะ....ถึงได้ไม่ได้รู้เลยว่า.....ใคร.....ที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งด้วย.....ใคร......ที่ไม่ควรจะเข้าไปแตะต้อง........
เขาหันกลับมาหาร่างบอบบางที่ยืนอยู่ข้างๆ....มือหนาเอื้อมไปจับมือบาง....ส่งยิ้มให้กันและกัน......
ก้าวเดินต่อไปพร้อมๆกัน.....
วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร....เขาไม่อาจจะล่วงรู้ได้....รู้แต่ว่าตอนนี้ ภายในจิตใจของพวกเขาทั้งสองคนมันช่างโล่งสบาย....ราวกับว่าไม่มีสิ่งใดที่ค้างคาตกตะกอนอยู่ในหัวใจของเราสองคนอีกแล้ว.....
เขาจะจับมือคู่นี้เดินไปด้วยกันภายใต้แสงตะวันได้แล้วสินะ.......
.
.
.
.
.
.
ซึ ซึ คู๊.......
อ๊า.....แต่งตอนนี้แล้วมันช่างสาแก่ใจจริงๆค่ะ หึ หึ หึ....ยาม๊า!!! เท่ห์ที่สุด!!!...>[]<....
อยากจะบอกว่า อ่านตอนนี้แล้วสะใจค่ะ สะใจมากๆ 5555555555555
ตอบลบอยากจะหัวเราะก๊ากให้ลั่นโลก ไอ้แว่นเอ๊ยยยยยยยยยยยยย
แต่สงสารฮายาโตะตอนที่โดนคัดค้าน ที่ไอ้แว่นคนไหนซักคนมันพูด
แล้วทั้งกลุ่มก็โห่ไล่ สงสารฮายาโตะจ๊างงงงง
ฮื่อ ทรุดลงร้องไห้ปิดหูแบบนั้น ถ้าเป็นทาเคชิเองคงทำยิ่งกว่านั้น
คงเดินเข้าไปชกหน้าพวกนั้นแล้วลากคอไปกระทืบๆๆๆ - -^
แต่ทุกคนในหอประชุมดูจะสนใจเรื่องนี้มาก ฮ่าๆ
ทอล์กออฟเดอะสคูลนี่เนอะคู่นี้ = =' ทาเคชินายเจ๋งมาก
จับจูบโชว์โลด โอ๊วเย ตอนนั้นแอบขัดใจทำไมมันไม่บอกไปเล้ยยย
ว่าไม่ได้เป็นพี่น้องกันโว่ยยยยย ผู้ชายทั้งคู่แล้วไง
มันเกี่ยวอะไรกับไปแข่งระดับเขตล่ะฟะ ((อินจัด))
อยากกอดพ่อม้าแรงๆหลายๆที ว่าแต่ไปรู้มาได้ไงเนี่ยดีโน่ - -'
อยากจะฮาคู่ XS อีกแล้ว ก๊ากกกกกก
เสียงน้องหลามคงสะเทือนรูหูใครหลายๆคนในที่ประชุม
บวกกับป๋าแซนนี่ไม่ต้องพูดถึง ว่าแต่มุคุนายเกี่ยวอะไรด้วย
ใครเค้าอยากฟ๊างงง ภูมิใจนำเสนอจริงๆเลยแก =___=
ฮาฮิบาิริอีกคน กรรมการคุมกฏต้องรักษากฎระเบียบสิ
มาชกต่อยเองได้ไงอ้ะ 555555555555555555
ชอบอ่ะๆๆๆ อ่านมาถึงตอนนี้รู้สึกคันไม้คันมือ ทนไม่ไหวจำต้องเม้นให้
ตอบลบอันเนื่องมาจาก สะใจมวากกกกกกกกกก กร๊ากกกกกก
ชอบก๊กคุงเวอชั่นนี้อ่ะ > < ป๋าแซนซัสกะน้องหลามนี้ได้อีกอ๊าาา ถถถถ
(มันมีปุ่มกดไลค์มะ อยากกกระทืบให้เม้นแรกนี้สุดๆอ่ะ =[]=)~
ต้องขอบคุณ ท่านฮิ สัปป้า ทูน่า ป๋าแซน นุ้งหลาม พี่โน่ อร๊ายข้าน้อยขอคาราวะเจ้าค่า
ตอบลบแต่ชอบท่านฮิ ไอ้ตัวไหนที่ทำให้หนูก๊กเสียใจ ท่านพี่คงขย้ำให้ไม่เหลือซาก