: KHR Fanfiction Au
: 8059 186927 XS
: Romantic
: NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
: ยามะดาร์กใสกิ๊ง....(อะไรของมันวะนั่น?)..... ส่วนหนูฮายาโตะนิสัยจะไม่ตรงกับคาร์แรคเตอร์หลักนะตัวเอง...^ ^...ก็เค้าอยากเห็นหนูฮายาโตะเวอร์ชั่นน่ารักๆเอ๋อๆมั่งอ่ะ
.
.
.
.
.
.
.
เรื่องราวที่รับรู้มานั้นไม่ง่ายเลยที่จะตัดสินใจ จะเดินฝ่าไปข้างหน้า หรือว่าจะหนี......
ขายาวก้าวเดินไปอย่างรวดเร็ว สายตาสอดส่องหาร่างบอบบางของพี่ชายไปทั่วบริเวณโรงเรียน
“ ฮายาโตะ!!!” เอ่ยปากเรียกพี่ชายของเขาที่กำลังยืนเหม่อลอยอยู่ที่หน้าห้องชมรมเบสบอล ใบหน้าซีดขาวดูราวกับตุ๊กตาไร้จิตใจ แค่ได้เห็นมือก็คว้าร่างกายบอบบางเข้ามาไว้ในอ้อมแขนโดยที่ไม่ต้องคิดหรือใส่ใจกับอะไรอีก
“ ทาเคชิ...พ่อ....พ่อจะจับเราแยกกัน....พ่อจะให้ฉันย้ายโรงเรียน” เสียงแผ่วเบาที่บอกออกมาราวกับเครื่องช่วยยืนยันว่าเรื่องที่เขาเพิ่งจะไปพบเจอมาในห้องรับแขกคือเรื่องจริง ร่างกายที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาดูไร้เรี่ยวแรง ประกายตาที่เคยสุกใสกลับมืดมนลง
“ ไม่.........ไม่.......” เขากอดกระชับร่างบาง พร่ำกระซิบคำยืนยันหนักแน่นที่ใบหูของพี่ชาย กดจูบลงไปที่เส้นไหมสีเงิน เรียกหัวใจที่กล้าแข็งมาตลอดให้กลับมาหาร่างบอบบางอีกครั้ง
“ แล้ว...จะทำยังไง” พ่อคือคนที่เลี้ยงดูเราทั้งคู่มาตั้งแต่เกิด เป็นคนในครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของพวกเรา....ความสนิทสนม ความรัก และความเชื่อใจกันของพวกเราพ่อลูกมันจึงมีมากกว่าที่ใครจะเข้าใจ ถึงแม้ว่าเขาจะได้ทำลายความเชื่อใจของพ่อมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เขาก็เชื่อ.....เชื่อ......ว่าพ่อจะต้องเข้าใจเราสองคนในที่สุด
“ นายเชื่อฉันรึเปล่า ฮายาโตะ” เขาถามย้ำกับคนที่เขารักและแคร์มากที่สุด.... รัก...จนทำได้ทุกสิ่งแม้แต่การก้าวเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับไฟร้อนแห่งโทสะที่อาจจะพรากแม้แต่ชีวิตของเขาไป
ถ้าเพื่อให้ได้อยู่กับนาย...ถ้าเพื่อให้ได้รักนาย.....ไม่ว่าอะไรฉันก็จะทำ.....
“ อื้อ” แขนเล็กของพี่ชายกอดตอบมาที่แผ่นหลังของเขา บ่งบอกว่า...ไม่ว่าเขาจะเลือกทางไหน...ร่างบอบบางนี่ก็พร้อมที่จะเดินไปกับเขา....
“ ฉันจะกลับไปคุยกับพ่ออีกครั้ง...ไปขอนายอย่างถูกต้องตามที่พ่อต้องการ....” เขาละอ้อมแขนออกมาจากร่างบาง สายตาสบประสานไปกับนัยน์ตาสีเขียวมรกตอย่างจริงจัง มีแววตาลังเลสวนกลับมาวูบหนึ่ง แต่ในที่สุด ประกายตาสุกใสแข็งกร้าวของพี่ชายก็ส่งกลับมาหาเขาด้วยความเชื่อมั่นอีกครั้ง
“ ไม่ว่าอะไรจะมาขวาง เราก็จะต้องข้ามผ่านมันไปให้ได้....ขอแค่นายเชื่อฉัน...แล้วเราจะผ่านมันไปด้วยกัน ฮายาโตะ...” เขายิ้มให้ร่างบอบบางของพี่ชายด้วยสายตามุ่งมั่น มือใหญ่ของเขาจับสอดประสานเข้ากับมือบางของพี่ชาย ส่งยิ้มให้กันและกัน ก่อนที่จะก้าวเดินอย่างมั่นคงตรงกลับไปยังบ้านของพวกเรา....
.....ถึงแม้ว่าสิ่งที่รออยู่มันจะสาหัสแค่ไหน....เราก็จะผ่านมันไปให้ได้.......
........................................................................................
ประตูบ้านเปิดแง้มเอาไว้ ราวกับว่าคนที่อยู่ภายในล่วงรู้ว่าพวกเขาจะต้องกลับมาแน่ๆ.....ขาของเราทั้งคู่ก้าวผ่านประตูบ้านเข้าไป ภายในบ้านมืดสนิท มีเพียงแสงที่ลอดผ่านออกมาจากประตูหลังบ้านที่ถูกเปิดทิ้งไว้เท่านั้น....แสงที่ราวกับเป็นแสงเทียนส่องทาง พาพวกเขาไปยังสถานที่ที่เจ้าของบ้านต้องการ.....
......โรงฝึกของพ่อที่ไม่ได้ถูกใช้มานาน........
บานประตูไม้เก่าแก่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าเขาและพี่ชาย มือของเราสองคนยิ่งสอดประสานจับกันแน่นมากขึ้น ...เมื่อก้าวผ่านบานประตูนี้เข้าไปแล้วจะไม่มีทางถอนตัวกลับมาได้อีก.....มีแต่ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่รอคอยพวกเขาอยู่เพียงเท่านั้น
ครืด...........
เมื่อบานประตูเปิดออก....สิ่งที่มองเห็นทำเอาเหงื่อชุ่มมือของเราทั้งสองคน....
พ่อที่อยู่ในชุดฮากามะสีกรมท่ากำลังนั่งรอเราสองคนอยู่ ท่านั่งทับเข่าดูน่าเกรงขาม ใบหน้านิ่งสนิทไร้แววอ่อนโยนหรือแม้แต่ล้อเล่นใดๆ สายตาคมกริบมองมาที่พวกเรา จิตสังหารพุ่งตรงมายังเขามากมายมหาศาล กดดันจนอยากจะหันหลังแล้ววิ่งหนี....แต่มือบางที่กระชับมือเขาแน่นขึ้นก็ทำให้สติของเขากลับมาอีกครั้ง
“ พ่อ........” เขาบีบมือบางเบาๆแล้วปล่อยมือออก เดินเข้าไปเผชิญหน้ากับพ่อตัวต่อตัว
“ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น” พ่อค่อยๆยืนขึ้น แล้วโยนดาบไม้ไผ่มาตรงหน้าเขา
“ จับดาบนั่นขึ้นมาสู้กับฉันซะ ทาเคชิ” สายตาแน่วแน่ของพ่อบ่งบอกว่าทุกคำพูดของพ่อนั้น เอาจริง
“ ถ้าแกชนะก็เอาฮายาโตะไป แต่ถ้าแพ้แกก็ตายอยู่ตรงนี้ซะ....บาปที่แกก่อเอาไว้มันจะได้จบอยู่ตรงนี้” พ่อยกดาบไม้ไผ่ของตนขึ้นมา ชี้ปลายของมันมาที่เขา
“ พ่อ !!!...” พี่ชายของเขาทำท่าจะวิ่งเข้ามาขวางไว้
“ หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ ฮายาโตะ.....หยุด....แล้วยืนดูให้ดี....ว่าผู้ชายคนนี้มันคู่ควรที่แกจะรักมันรึเปล่า....ถ้ามันถอยแม้แต่ก้าวเดียว แกก็จงตัดใจจากมันซะ” น้ำเสียงเยือกเย็นของพ่อสะกดร่างกายของพี่ชายให้หยุดนิ่งลง มือบางทั้งสองข้างยกขึ้นมาประสานกันไว้ที่หน้าอก...
ไม่ต้องห่วง...ฮายาโตะ....ฉันจะไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว...ถึงแม้ว่าหนทางที่จะชนะนั้นแทบจะไม่มีเลยก็ตาม.....
ร่างกายของเขาก้มลงไปจับดาบไม้ไผ่ขึ้นมา เขาไม่เคยเรียนรู้เคนโด้มาก่อน สิ่งที่ทำได้ก็มีแค่เบสบอลเท่านั้น...แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ยังจะสู้...เขาหันปลายดาบไม้ไผ่เข้าหาผู้เป็นพ่อ...ขอครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย...ที่เขาจะอกตัญญูต่อบุพการี....อกตัญญูจนถึงกับหันดาบเข้าหาผู้ที่ให้กำเนิดเขามา....
“ เข้ามา ทาเคชิ!!!” เสียงพ่อตะโกนกร้าว ไหวพริบกับปฏิกิริยาตอบโต้ของร่างกายที่เขาฝึกฝนมันมาแทบทุกวันถูกเอามาใช้ เขาวิ่งเข้าหาผู้ที่ยืนรออยู่แล้ว ถึงจะเชื่อมั่นในความเร็วของตัวเอง แต่ดาบไม้ไผ่ของพ่อก็ฟาดมาที่หน้าท้องของเขาเต็มแรง
“ อั่ก” ความเจ็บปวดปะทุขึ้นมาจนกระอักออกมาเป็นเลือด สายตามองเห็นว่ามือที่รวดเร็วของพ่อกำลังเงื้อดาบไม้ไผ่ขึ้นเหนือหัว ถึงจะเจ็บแต่ก็ไม่มีเวลาอีกแล้ว เขายกดาบของตัวเองขึ้นกันดาบที่ฟาดลงมา.... แรง....จนมือที่รับการสั่นสะเทือนนั้นถึงกับชา....
เขากระโดดถอยหลังห่างออกมาเพื่อตั้งหลัก สายตาคมกริบจ้องมองไปตรงหน้าอย่างไม่ลดละ เท้าเปลือยเปล่าของพ่อกำลังก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว เขาก้มหลบก่อนที่จะเสี่ยงฟาดดาบออกไปแต่พ่อก็รับดาบของเขาได้อย่างง่ายดาย....และสวนกลับมาด้วยเพลงดาบที่เอาจริง...ดาบที่คิดจะปลิดชีวิตเขาจริงๆ
“ อุ่ก....” เข่าทรุดลงกับพื้นมือข้างหนึ่งยันร่างกายเอาไว้ เพลงดาบเมื่อครู่รวดเร็วและรุนแรง ถ้านี่ไม่ใช่ดาบไม้ไผ่เขาคงตายไปแล้ว...แต่ถึงอย่างนั้น...สภาพเขาตอนนี้มันก็ไม่ได้ต่างกันเลย....
“ แค่ก...” ยังคงกระอักออกมาเป็นเลือด ท่อนแขนข้างที่ไม่ได้จับดาบมีรอยแดงขึ้นมาทันที เมื่อเขาใช้มันกันดาบของพ่อก่อนที่จะเข้าถึงตัวไปมากกว่านั้น...
“ หึ....จะดูแลฮายาโตะด้วยสภาพอ่อนแอของแกแค่นั้นอย่างนั้นรึ” พ่อย่างกรายเข้ามาราวกับมัจจุราชน่าสะพรึงกลัว....เขาค่อยๆยันตัวเองให้ลุกขึ้น สายตาที่เคยคมชัดเริ่มพร่ามัว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงยกดาบขึ้นมาแล้วชี้ตรงไปข้างหน้า
ขาก้าวเซน้อยๆ ยกดาบไม้ไผ่ขึ้นในท่าทางที่เขาถนัดที่สุดยามเมื่อต้องตีลูกบอลสีขาว และฟาดลงไปเต็มแรง พ่อยกดาบขึ้นมากันไว้ได้ทันแต่ก็ชะงักไปเล็กน้อย ไม่รอช้ารีบตะหวัดดาบอีกครั้ง เมื่อเห็นช่องว่าง....แต่ก่อนที่ดาบจะถึงปลายคางของพ่อ มือของเขากลับหยุดลง.....
........ทำไม่ได้......ถึงเขาจะรักร่างบางแค่ไหน...แต่เขาก็ทำร้ายคนคนนี้ไม่ได้....
จากจังหวะที่เขาหยุดชะงัก พ่อจึงใช้เพลงดาบลงมาที่ตัวเขาอีกครั้ง ดาบไม้ไผ่ในมือหลุดกระเด็นไปตกอยู่ตรงหน้าร่างบอบบางของพี่ชาย ก่อนที่ตัวเขาจะทรุดลงไปกองกับพื้น ด้วยความเจ็บแปลบไปทั่วตัว มือที่พยายามยันตัวเองขึ้นมาอีกครั้งสั่นระริก เงยหน้ามองผู้เป็นพ่อที่ยืนค้ำหัวของเขาอยู่
“ ฉันจะถามแกอีกครั้ง....จะยอมปล่อยพี่ชายของแกไปได้หรือไม่” น้ำเสียงเยือกเย็นถูกส่งมาให้เขา....สายตาละจากใบหน้าของพ่อหันไปมองร่างบางของพี่ชายที่ยืนดูอยู่ข้างๆ ร่างกายบอบบางสั่นระริก ดวงตาสีมรกตวูบไหวเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ริมฝีปากขบเม้มจนแดงช้ำ สองมือประสานกันแน่น....
“ ไม่....ถึงผมต้องตายอยู่ตรงนี้...ผมก็....จะรักเค้า.....” หันไปสบตากับพ่อ บอกความในใจออกไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่สติที่เหลืออยู่จะทำได้
ดาบไม้ไผ่ในมือพ่อยกขึ้นมาอีกครั้ง หางตาแลเห็นร่างบางของพี่ชายกำลังจะพุ่งเข้ามาหาเขา....ไม่นะ...ฮายาโตะ!!!
เพลงดาบที่กำลังจะถูกส่งมาให้เขา ทำให้พ่อมองไม่เห็นว่ามีใครอีกคนที่วิ่งเข้ามา เขารวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายกระโดดกอดร่างบอบบางเอาไว้แล้วใช้แผ่นหลังของตัวเองรับเพลงดาบของพ่อเข้าไปเต็มๆ
“ ทาเคชิ....ทาเคชิ!!!!....ไม่นะ....ไม่!!!!” ได้ยินเสียงตะโกนของพี่ชายแว่วมาก่อนที่สติจะหลุดลอยไป.....โลกที่เขายืนอยู่นี้ช่างขาวโพลนและหนาวเย็น......
…….ขอโทษนะ...ฮายาโตะ...ทั้งๆที่สัญญากับนายเอาไว้แต่ฉันกลับทำไม่ได้.....
........แล้วฉัน....ก็คงจะทำให้นายร้องไห้อีกแล้วสินะ.......
........ขอโทษ.....ขอโทษ........ขอโทษ.............
........ถึงแม้ว่า ฉันจะต้องจากนายไป...แต่มีสิ่งเดียวที่ฉันไม่เคยเสียใจเลยนั่นก็คือ....การที่ฉันได้รักนาย......รัก....รัก.........
...............................................................................................
“ ฮึก....ฮึก.....”
“ ลืมตาขึ้นมาสิ...แกสัญญาแล้วนะว่าจะไม่ทิ้งฉัน....”
“ทาเคชิ!!!!”
ทำไม.....ทำไมกัน.........ทำไมหูของเขายังได้ยินเสียงร่ำไห้ของพี่ชายอยู่อีก......
นายอยู่ที่ไหน....ทำไมถึงมาร้องไห้อยู่ตรงนี้........ฮายาโตะ.......
มือพยายามจะยกขึ้นไปหาเจ้าของเสียง...อยากจะโอบกอด...อยากจะเช็ดคราบน้ำตาที่เขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมา...
...........อุ่น................
ความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามาที่มือของเขา สองมือเล็กๆของใครบางคนกำลังจับกุมมือของเขาอยู่
...........หนัก...............
ร่างกายรับรู้ถึงน้ำหนักที่คุ้นเคย ซึ่งโถมทับลงมาที่กลางลำตัวของเขา แขนเล็กของใครบางคนโอบกอดไปรอบตัวเขา
...........ทาเคชิ.......ทาเคชิ..........
น้ำเสียงอ่อนโยนนั้นช่างอยู่ใกล้เสียเหลือเกิน.....
...........นิ่ม...............
ความรู้สึกนุ่มนิ่มที่แนบชิดมาที่ริมฝีปากแห้งของเขา ลมหายใจอุ่นๆของใครบางคนเป่ารดมาที่ใบหน้าที่น่าจะเย็นชืดของเขา
.............สีเขียวมรกตที่สวยงาม................
ถึงจะพร่ามัว แต่ดวงตาสีเขียวมรกตที่จ้องมองเขาอยู่นั่นก็ยังคงงดงาม ใบหน้าสวยที่เขามองเห็นนั้นยิ้มให้เขาทั้งน้ำตา
.............ฉันยังมีชีวิตอยู่....................
ร่างบอบบางของพี่ชายกอดลงมาที่ตัวเขาอีกครั้ง ได้ยินเสียงปล่อยโฮอย่างโล่งใจ ใบหน้าเนียนแนบอยู่กับลำตัวของเขา น้ำตายังคงไหลลงมาเป็นสาย แต่รอยยิ้มที่ส่งมาให้เขานั้นช่างเปี่ยมไปด้วยความดีใจ
................ดีจริงๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่................
มือที่หนักหน่วงยกขึ้นไปลูบไล้เส้นไหมสีเงินช้าๆ....ภาพตรงหน้าเริ่มจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ....เขายังคงนอนอยู่ที่โรงฝึกของพ่อ
เงาอีกเงาที่ทาบทับลงมาช้าๆที่ร่างกายของเขา ทำให้เขาต้องค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมอง ...แค่ขยับกายนิดเดียว ความเจ็บปวดมากมายมหาศาลก็พุ่งเข้าเล่นงานร่างกายของเขาแทบจะทุกส่วน....พ่อยืนมองเขาอยู่ด้วยสายตาที่เขาไม่สามารถจะเข้าใจมันได้เลย
“ พ่อ!!!” เสียงของพี่ชายเรียกผู้ที่ยืนค้ำหัวพวกเขาอยู่อย่างตกใจ แขนเล็กๆของพี่ชายกอดเขาแน่นราวกับจะช่วยปกป้องเขาจากอะไรก็ตามที่คิดจะเข้ามาทำร้าย....ดาบไม้ไผ่ในมือพ่อพุ่งลงมาปักอยู่ที่ข้างลำคอของเขา.....
“ทาเคชิ....แกกล้าสาบานกับฉันหรือเปล่า...ว่าต่อจากนี้ไปแกจะดูแลฮายาโตะด้วยชีวิต” น้ำเสียงนิ่งสงบถูกเปล่งออกมาจากผู้ให้กำเนิด
“แกกล้าสาบานกับฉันหรือเปล่า ว่าแกจะไม่ทอดทิ้งฮายาโตะไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม” ดวงตาของพ่อแปรเปลี่ยนกลับมาเป็นดวงตาคู่เดิมที่เคยมองพวกเราสองคน....อ่อนโยน.....
“แกรู้ใช่ไหมว่า ความโหดร้ายอะไรที่กำลังรอแกอยู่...แกกล้าสาบานกับฉันได้หรือเปล่าว่าแกจะต้องผ่านมันไปให้ได้....ไม่ว่าใครจะตราหน้าแกว่ายังไงก็ตาม” แววตาที่อ่อนโยนจ้องมองมาด้วยความจริงจัง
“ ผม...สาบาน....ด้วยชีวิต” ริมฝีปากขยับได้อย่างยากเย็น แต่เขาก็พูดมันออกมาอย่างชัดเจน... ถ้อยคำที่ส่งผ่านมาจากหัวใจ...
“ ดี....ถ้าแกผิดคำสาบานที่ให้ไว้กับฉัน แกจะต้องตายด้วยคมดาบนี้.....” มือของพ่อจับด้ามดาบไม้ไผ่แล้วยกมันออกไปจากข้างลำคอของเขา
“ อย่าลืมซะล่ะ....ทาเคชิ” พ่อพูดพร้อมกับหมุนตัวกลับแล้วเดินออกไปช้าๆ
“ ฉันจะนั่งรออยู่ที่บ้าน....เรื่องที่แกอยากรู้ ฉันจะเล่าให้ฟังทั้งหมด....” พ่อพูดทิ้งท้ายเอาไว้แบบนั้นแล้วเดินหายออกไปจากโรงฝึก แสงแดดที่ส่องลอดเข้ามาจากบานประตูเก่าแก่ราวกับเป็นแสงสว่างที่ส่องลงมายังเส้นทางที่มืดมิด
“ ทาเคชิ!!!” หลังจากที่พ่อออกไปแล้ว ร่างบางของพี่ชายก็โถมเข้ากอดเขาแน่น
“ ฮะ ฮะ ฮะ....ฉันบอกแล้วไง ว่าจะไม่ทิ้งนายไป...อย่าร้องไห้เลยนะ” มือยกขึ้นปาดน้ำตาให้กับคนตรงหน้า เค้ารอยแห่งความเศร้าหมองได้จางหายไปแล้ว หลงเหลือเอาไว้แต่รอยยิ้มที่งดงาม...
“ กลับบ้านของเรากันเถอะ” พี่ชายบอกออกมาเบาๆ พร้อมกับค่อยๆช่วยพยุงตัวเขาขึ้น....เจ็บไปทั่วทั้งร่างราวกับกระดูกจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แต่เขาก็พยายามจะลุกขึ้นให้ได้ เพราะว่ายังไง ถ้อยคำสุดท้ายที่พ่อทิ้งเอาไว้เมื่อครู่มันก็มีค่ามากพอที่จะอดทนต่อความเจ็บปวดแล้วก้าวเดินเข้าไปฟังมัน
.................................................................
ประตูหลังบ้านถูกเปิดออกอย่างช้าๆ ขาก้าวเข้าไปในบ้านด้วยความทุลักทุเล ร่างกายบางๆกำลังพยุงร่างกายที่ใหญ่กว่าของเขาก้าวเดินไปเรื่อยๆ รอยช้ำตามตัวเริ่มจะปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน .....แล้วในที่สุดเราทั้งสองคนก็เดินมาจนถึงห้องนั่งเล่น....สายตาปะทะเข้ากับร่างกายแข็งแกร่งของพ่อที่นั่งอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่ในชุดเสื้อผ้าลำลองดูสบายๆ
เขาทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น ที่ตรงข้างๆประตู เอนหลังพิงกับผนังเอาไว้ ถึงจะไม่มีเลือดออกแต่ความเจ็บระบมก็ทำให้รู้ได้ว่าภายในร่างกายของเขาคงจะบอบช้ำมิใช่น้อย ได้ยินเสียงหอบหายใจแผ่วเบามาจากคนที่ทรุดลงนั่งอยู่ข้างๆเขา...การที่ร่างกายบางๆแบบนั้นต้องมาช่วยรับน้ำหนักจากร่างกายที่หนาหนักของเขา มันคงไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆเลย.....มือของเราทั้งสองคนสอดประสานเข้าหากัน นัยน์ตาสีเขียวมรกตสบมองมาที่ดวงตาของเขาก่อนที่สายตาของเราทั้งคู่จะหันไปหาผู้ที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว...
“ ฉันก็แค่อยากจะรู้...ว่าแกรักฮายาโตะแค่ไหน....ถ้ามันไม่มากเท่าชีวิตของแก ฉันก็จะไม่มีวันยกฮายาโตะให้” พ่อมองมาที่เราทั้งคู่ สายตาสบประสานกันตรงๆ แต่แววโกรธขึงที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ได้จางหายไปแล้ว
“ แกคงจะสงสัยสินะ...ว่าทั้งๆที่แกคือลูกชายแท้ๆของฉัน แต่ทำไมฉันถึงเลือกที่จะปกป้องลูกของคนอื่น ไม่เลือกที่จะเข้าข้างแก” แววตาของพ่อมีแววเจ็บปวดแฝงอยู่ กับสิ่งที่ตนทำลงไป
“ ผม....เข้าใจ....พ่อสัญญากับแม่เอาไว้.....ผมรู้....ว่าคำสัญญาที่ให้ไว้กับคนที่รัก มีความสำคัญมากแค่ไหน...แล้วผมก็ไม่โกรธพ่อด้วย ที่พ่อเลือกที่จะปกป้องฮายาโตะ....” เขาพูดออกไปด้วยเข้าใจความรู้สึกของพ่อดี
“ ช่วยยืนยันกับฉันอีกครั้งสิ....ว่าแกสองคนรักกัน” คำพูดและสายตาที่มองมายังเราทั้งคู่นั้นช่างอ่อนโยน....
“ ครับ...ผมรักฮายาโตะ....” เขายืนยันอย่างหนักแน่นออกไป
“ ฮึ ฮึ...นั่นสินะ....ถ้าแกไม่รักมาก อย่างแกคงจะหันดาบเข้าหาฉันไม่ได้หรอก” พ่อยิ้มออกมาน้อยๆ ดูท่าทางจะถูกใจกับอะไรบางอย่าง
“ ผม.....ก็รักเค้า...ผมรักทาเคชิ” พี่ชายของเขามองตาพ่อชั่วครู่ก่อนที่จะเสตาไปมองอย่างอื่นด้วยใบหน้าแดงจัด....
“ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ....เข้าใจละ....ตกลงทาเคชิ....ฉันจะยกฮายาโตะให้แก...แล้วก็อย่าลืมคำสาบานที่ให้ไว้กับฉันด้วยล่ะ” พ่อลุกขึ้นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา
“ พ่อ....ขอบคุณครับ....” ถึงจะยังคงเจ็บตามร่างกายอยู่ แต่ความดีใจที่ล้นปรี่ออกมาก็ทำให้เขาค่อยๆชันตัวขึ้นแล้วคุกเข่าคำนับพ่อหัวจรดพื้น....
“ ผมจะทำตามคำสาบานที่ให้พ่อไว้ แน่นอนครับ” เขาพูดด้วยใจจริง ทั้งๆที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากพื้น
“ พ่อ.....” พี่ชายของเขาก็โค้งให้พ่อเช่นกัน ก่อนที่ร่างกายบอบบางจะกระโดดเข้ากอดผู้เป็นพ่อจนล้มลงไปกับพื้น พ่อกลับมายิ้มแย้มและหัวเราะร่วน มือใหญ่ของพ่อยกขึ้นขยี้หัวพี่ชายของเขาไปมา อีกมือเอื้อมมาจับหัวเขา เขาขยับตัวเข้าไปกอดพ่อช้าๆ....
แค่พ่อเข้าใจ แค่พ่อให้อภัยกับเรื่องที่พวกเขาสร้างขึ้น...แค่นั้นมันก็เหมือนกับมีพลังอันยิ่งใหญ่ที่คอยค้ำจุนพวกเราอยู่ ไม่ว่าอะไรเขาก็จะไม่กลัวมันอีกต่อไปแล้ว....
“ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ.....ฉันดีใจนะ ทาเคชิ...ที่แกมีความกล้าพอที่จะเดินเข้ามาเผชิญหน้ากับฉัน” พ่อส่งยิ้มกว้างมาให้เขา
“ เรื่องที่ฉันจะบอกต่อไปนี้ ถือว่าเป็นของขวัญจากฉันก็แล้วกัน...” พ่อก้มลงมามองเราทั้งคู่ด้วยสายตาจริงจังอีกครั้ง
“ ที่จริงแล้วฉันโกหกแก.....”
“ โก....หก......?” โกหกเรื่องอะไร...คงไม่ใช่เรื่องที่บอกว่าจะยกพี่ชายให้เขาหรอกนะ.....มือเขารีบคว้าร่างบอบบางของพี่ชายเข้ามาหาตัวทันที....เมื่อพ่อเห็นปฏิกิริยาดังกล่าวก็ถึงกับหัวเราะไม่หยุด
“ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ.....ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก.....เรื่องโกหกที่ฉันว่าน่ะก็คือ.........” พ่อเว้นระยะห่างไปนานมาก....เขาและพี่ชายต่างก็ตั้งใจฟังเรื่องราวที่พ่อกำลังจะบอก...ไม่ว่าความจริงที่จะค้นพบนั้นจะคืออะไร พวกเขาก็พร้อมที่จะยอมรับมัน
“ แกกับฮายาโตะ....ไม่ใช่พี่น้องกัน.....ไม่มีสายเลือดเดียวกันเลยแม้แต่น้อย......” คำพูดที่แสนจะเรียบง่ายของพ่อ แต่มันกลับเป็นถ้อยคำที่สำคัญมากที่สุดสำหรับเขากับร่างบาง ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ความดีใจอย่างสุดแสนที่ได้รับมาโดยไม่ทันตั้งตัวทำเอาร่างกายนิ่งงันไปทั้งหมด
“ ผม....ไม่ได้ฝันไป....ใช่ไหม” คำพูดแผ่วเบาหลุดออกไปจากปาก หันไปมองคนข้างๆก็พบกับดวงตาสีเขียวมรกตเบิกกว้าง น้ำตาใสไหลลงมาเป็นทาง ......”ฮายาโตะ”.......เขากระซิบเรียกร่างบางเบาๆ
“ ทาเคชิ!!!” ร่างบางโผเข้ามากอดเขาแน่น น้ำตาแห่งความดีใจของเราทั้งคู่ไหลออกไป...มากมายจนไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร....ร่างบางร่ำไห้อยู่ภายในอ้อมกอดของเขา .....ถึงแม้ว่าร่างกายจะสั่นระริก แต่เสียงกระซิบที่เราต่างเรียกชื่อของกันและกัน มันก็บ่งบอกได้อย่างดีที่สุด ว่าตอนนี้ความรู้สึกมันเต็มตื้นแค่ไหน.....
เพราะมันคือสิ่งเดียว....ที่ทิ่มแทงจิตใจของพวกเขามาโดยตลอด....ถึงจะพร่ำบอกรักกันมากแค่ไหน...แต่เราก็ไม่เคยหนีพ้นจากคำว่า “พี่น้อง” เพราะฉะนั้น....ความจริงที่ได้ล่วงรู้มาในวันนี้ จึงราวกับของขวัญที่สรวงสวรรค์ประทานมาให้
ดีใจจนไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีแล้ว........
“ พ่อ...ขอบคุณครับ....ขอบคุณครับพ่อ....” เราสองคนโถมเข้าไปกอดพ่อด้วยน้ำตาแห่งความดีใจ พ่อยิ้มและลูบหัวพวกเราราวกับว่ายังคงเห็นพวกเขาเป็นเด็กเล็กๆที่ต้องให้คอยดูแลอยู่เสมอ.....
“ มันคือความจริงที่ฉันปิดบังพวกแกเอาไว้ ก่อนที่ฉันกับแม่ของฮายาโตะ จะแต่งงานกัน เราทั้งคู่ต่างก็มีลูกเล็กๆติดมาด้วยกันทั้งคู่....บางที....แกเองก็อาจจะรู้ด้วยสัณชาติญาณสินะ ว่าคนคนนี้ไม่ใช่พี่ชายของแก....” พ่อมองมาที่เขาด้วยดวงตาที่ยิ้มแย้ม
“ ทาเคชิ....ฉันบอกได้เลยว่า....ต่อไปมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำให้ใครต่อใครยอมรับ ถึงแม้ว่าความจริงแล้วพวกแกจะไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆก็ตาม....แต่ฉันเชื่อมั่นเหลือเกินว่าแกจะผ่านมันไปได้.....” พ่อยิ้มให้กับเราทั้งคู่อีกครั้ง
“ ฉันขออวยพรให้พวกแกทั้งคู่....จงรักและมีชีวิตอยู่คู่กันไปจนแก่เฒ่า....เพราะแกสองคน คือลูกรักของฉันนะ จำไว้...” ไม่มีอะไรจะต้องพูดกันอีกต่อไป เมื่อความลับ ความในใจทั้งหมดที่ต่างก็ปิดบังกันเอาไว้ถูกสารภาพออกมา ความมืดครึ้มอึมครึมที่พาดผ่านบ้านหลังน้อยนี้มาตลอดไปถูกพัดผ่านไปด้วยสายลมแห่งความอบอุ่น....
ไม่ว่าจะต้องออกไปเผชิญกับลมมรสุมที่ไหน แต่อย่างน้อย เราสองคนก็ยังคงมีบ้านหลังนี้ให้กลับมาพักพิงได้เสมอ
.................ขอบคุณครับพ่อ..........................
.
.
.
.
.
.
.
ซึ ซึ คู๊.......
ยินดีด้วย...ท่านคือ “ผู้โชคร้าย” ที่ยังต้องทนอ่านไปอีกสองตอนเพื่อเดินทางสู่ Happy Ending5555
ป๊ะป๋า....เคลียร์....ฮิ้ววววว....เหลืออีกเรื่องเดียวที่ต้องเคลียร์....>.<….
อ่านต่อกันอีกสองตอนนะค้า...จะจบแล้ว....>.<....แต่คิดว่าตอนที่เหลือไม่น่าจะเลวร้ายเท่าสองสามตอนที่ผ่านมานี่หรอกค่ะ
ฮั่นแน่....ใครแอบอ่านทั้ง “ทางซ้าย” และ ”ทางขวา” บ้าง ยกมือมอบตัวโดยด่วนเลยนะ555
ฮึ่ม...อ่าน ”ทางขวา” แล้วมัน....อยากจะมีทางแยกที่สามจริงจริ๊ง.....(พอเหอะเอ็ง)...ยังคงยืนยันว่าทางที่ยามะเลือก ไม่ผิด!!!
อ่า....ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามกันมาจนถึงตอนนี้นะคะ...ขอบคุณคอมเม้นต์ทุกคอมเม้นต์ด้วยค่ะ....
แฮปปี้ โฮกกก ป๊ะป๋าตอนนี้น่ารักมากๆ
ตอบลบตอนที่พ่อบอกให้ทาเคชิถือดาบมันเป็นอะไรที่ ดูลูกผู้ชายมาก
ประหนึ่งฮายาโตะเป็นลูกสาว อยากได้ต้องมาขอพ่อก่อน 555
ชอบการตัดสินใจของทาเคชิตอนนี้มากกว่าแฮะ (แหงล่ะสิ ก็มันแฮปปี้นี่นา = =')
แต่ตอนฟาดดาบลงมาป๋าแรงมาก ทาเคชิกระอักเลือดจะตาอยู่แล๊ววว
อยากรู้ืำทำไมป๋าต้องโกหก T__T ปล่อยคนเค้าเครียดมาตั้งนาน