: KHR Fanfiction Au
: 8059 186927 XS
: Romantic
: NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
: ยามะดาร์กเนียนใสกิ๊ง....(อะไรของมันวะนั่น?)..... ส่วนหนูฮายาโตะนิสัยจะไม่ตรงกับคาร์แรคเตอร์หลักนะตัวเอง...^ ^...ก็เค้าอยากเห็นหนูฮายาโตะเวอร์ชั่นน่ารักๆเอ๋อๆมั่งอ่ะ
: ขอหวานอีกซักวัน.....>.<….
.
.
.
.
กิ๊ง กิ๊ง กิ๊ง.......
เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นเนื่องจากใครบางคนเปิดประตูพรวดพราดเข้ามา วันนี้เขาและพี่ชายมาช่วยพ่ออยู่ที่ร้านเบเกอรี่ของเรา ....
เสียงของใครคนนั้นทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นจากการถูพื้น เมื่อเห็นว่าคนที่ส่งเสียงดังโครมครามนั่นเป็นใครเขาก็ได้แต่ยืนปลงตก แล้วเก็บโต๊ะเก้าอี้ตามทางที่คิดว่าหมอนั่นจะเดินผ่าน....เมื่อก่อนนี้....เขาหึงเจ้าคนพรรค์นี้ไปได้ยังไงนะ....
“ ยะ....อย่าเพิ่งต่อยฉันนะ ยามาโมะโตะคุง....” ชายผมทองหน้าตาหล่อเหลายกมือขึ้นอย่างยอมแพ้ทั้งสองข้าง ดูท่าทางหมอนี่คงยังขยาดเขาอยู่ไม่น้อย เพราะเมื่อก่อน แค่เจอหน้า เขาก็แทบจะเข้าไปอัดคนตรงหน้าโดยไม่มีเหตุผลใดๆทั้งสิ้น แต่หลังจากช่วงปิดเทอมที่เขาและพี่ชายมาช่วยพ่อที่ร้านนี้บ่อยๆ และเจ้าตัวอันตรายผมทองนี่ก็มาก่อกวนพวกเขาบ่อยๆ จึงได้ค่อยๆมองเห็นว่า....แทนที่จะมัวมาหึงหมอนี่.....เขาควรจะพาพี่ชายไปอยู่ห่างๆหมอนี่เพื่อความปลอดภัยในชีวิตจะดีกว่า.....
“ มีอะไรอีกล่ะวันนี้ ...ไอ้ม้าบ้า” เสียงพี่ชายของเขาพูดออกมาเนือยๆจากด้านหลังเคาเตอร์
“ ฉันกำลังตามหาเพื่อนคนนึง....เค้าหายออกไปจากบ้านตั้งแต่เมื่อคืน....ฮึก ฮึก.....” แล้วใบหน้าหล่อเหลาก็เริ่มมีน้ำตาไหลพราก แขนที่เต็มไปด้วยรอยสักยกขึ้นปิดจมูกสูดน้ำมูกดังไม่เกรงใจคนที่นั่งอยู่ในร้าน ประเภทร้านอาหารเลยสักนิด
“ พวกนายช่วยฉันตามหาหน่อยสิ....ตัวเล็กๆแบบนั้น....อาจจะกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ได้ ....ฮึก ฮึก” หมอนี่เห็นว่าพวกเขาสองคนว่างมากนักหรือไงกันนะ ถึงได้หาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาให้ทำได้ไม่เว้นแต่ละวัน......
“ หยุดแหกปากได้แล้ว!!! คนหายก็ไปแจ้งตำรวจสิฟะ ” ดูท่าทางพี่ชายของเขาจะเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อยกับท่าทางที่ไม่สมกับตัวของคนตรงหน้า.....
“ ไปแจ้งมาแล้ว....แต่คุณตำรวจเค้าไม่รับแจ้ง....ฮึก ฮึก.....”
“ แล้ว.....นายลองหารอบๆบ้านดูแล้วหรือยัง” เขาลองถามออกไป
“ หาแล้ว....ไม่มีวี่แววเลย....ขาสั้นๆแบบนั้น....จะไปไหนได้ไกล.....ฮึก” เขายื่นกระดาษทิชชูส่งให้คนตรงหน้า
“ น่ารำคาญจริงวุ้ย....เออๆ...จะช่วยหาให้ด้วยก็ได้ ลองบอกมาสิว่าหน้าตามันเป็นยังไง” พี่ชายของเขาตัดรำคาญด้วยรับปากชายผมทองตรงหน้าแบบส่งๆไป
“ จริงนะ....ขอบคุณมากๆเลย.....” ดีโน่เงยหน้าจากกระดาษทิชชูมามองที่พวกเขาสองคนด้วยดวงตาเป็นประกาย
“ หน้าตาหรอ.....ตัวเล็กๆเท่าฝ่ามือนี่แหละ...สีเขียว....มีสี่ขา....”
“ เดี๋ยวๆ....คนบ้าอะไรของแกตัวสีเขียว” พี่ชายของเขายกมือขัดคนที่กำลังพูดแจ๋วๆอยู่ ....นั่นสิ....เขาเองก็สงสัยเช่นกัน
“ ก็ เอ็นซิโอ้ เป็นเต่า ก็ต้องสีเขียวสิ....” เขาเริ่มเห็นเส้นเลือดปูดออกมาแถวๆขมับของพี่ชาย.....
“ เต่า......นี่แกกำลังจะให้ฉันไปตามหาเต่าให้แกเนี่ยนะ!!!!” เขารีบเดินอ้อมไปด้านหลังร่างบอบบาง เอาแขนแข็งแรงของเขาล็อคตัวร่างบางเอาไว้ก่อนที่จะพุ่งเข้าทำร้ายเจ้าคนที่ดูท่าจะไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรตรงหน้า...
“ ใช่สิ.....ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง...โฮ โฮ....เอ็นซิโอ้.......” ยัง....คนตรงหน้ายังไม่ได้รับรู้ถึงรังสีการฆ่าฟันที่ถูกส่งออกไปจากร่างบอบบางที่เขาจับตัวเอาไว้อยู่
“ ป่านนี้มันคงโดนรถทับตายไปแล้ว ไปทำสุสานให้ยังจะง่ายกว่าโว้ย!!!” เสียงพี่ชายของเขาด่าออกไปเป็นชุด....แต่ชายผมทองก็ได้หารู้ไม่ เดินยิ้มออกไปจากร้าน ก่อนที่จะหันมาโบกมือให้แล้วบอกออกมาว่า.....” ฝากด้วยนะ”........
“ แล้ว.....เอาไงกันดีล่ะ....” เขาก็ใช่ว่าจะเป็นห่วงเจ้าเต่านั่นมากเท่าไหร่หรอก แต่ที่ห่วงน่ะ...สวัสดิภาพของตัวเองและพี่ชายมากกว่า.....ตราบใดที่ยังไม่สามารถเคลียร์ด่านแต่ละด่านได้ เจ้าผู้ชายผมทองนั่นก็จะยังคงแวะเวียนมาก่อกวนสร้างความเสียหายอยู่ร่ำไป
“ ชริ....ช่วยไม่ได้....เจอก็เจอ....ไม่เจอก็ช่างหัวมันละกัน” พี่ชายของเขาบ่นอย่างหัวเสีย ก่อนจะลากเขาเดินออกจากร้านไป.....
.
..................................
.
......................
.
............
.
ที่ที่เราเลือกมาตามหาเป็นที่แรกคือบริเวณริมบึงในสวนสาธารณะของเมืองนามิโมริ
วันนี้อากาศค่อนข้างดี ท้องฟ้าโปร่งกับสายลมพัดเย็นสบาย ในบริเวณสวนสาธารณะจึงมองเห็นกลุ่มคนกระจายตัวกันไปตามม้านั่งหรือพื้นหญ้านุ่มใต้ต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา บ้างก็มากันเป็นครอบครัว พ่อแม่ลูก.....บ้างก็มากันเป็นคู่อย่างคุณตาคุณยายที่นั่งคุยกันกระหนุงกระหนิงอยู่ที่ม้านั่ง......หรือมากันเป็นคู่แบบคู่ที่เดินจูงมือกันอยู่ข้างหน้าเขา....อดไม่ได้ที่จะหันไปมองร่างบางที่เดินอยู่ข้างกาย.....คิ้วบางของพี่ชายขมวดนิดๆดวงตาสีเขียวมรกตเหลือบมอง ครอบครัว คุณตาคุณยาย และคู่รักข้างหน้าเป็นระยะๆ ....ปากบ่นอะไรขมุบขมิบ....แต่แก้มใสกลับแดงระเรื่อ.....
เขาหัวเราะออกมาดังๆ กับความน่ารักของคนข้างๆ ร่างบางของพี่ชายหันมาค้อนให้เขา ก่อนที่จะมีเสียงโวยวายอะไรตามมาด้วย ....มือใหญ่ของเขาก็เอื้อมไปจับมือบาง นิ้วสอดประสานกับเรียวนิ้วเล็กของพี่ชาย ....วันนี้เขาใส่เสื้อแขนสั้น.....แต่คนข้างๆก็ยังคงให้เขาจับมือเดินไปด้วยกันแต่โดยดี
สายตาที่ส่งมาจากคนข้างๆมันยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ ดวงตาสดใสยังคงดูเหมือนยังคิดอะไรอยู่....แต่เขาก็จะรอ....รอจนกว่าร่างบอบบางจะยอมรับความสัมพันธ์นี้จนหมดใจ.....รอจนกว่าคำว่า “รัก” จะหลุดออกมาจากริมฝีปากสีระเรื่อนั่น......
“ ไอ้เต่าบ้านั่น.....มันไปซุกหัวอยู่ที่ไหนฟะ....แน่จริงโผล่หัวออกมาสิโว้ย” พี่ชายของเขาเริ่มจะโวยวาย เมื่อเราทั้งคู่ต่างเดินตามหาจนทั่วสวนสาธารณะแล้ว แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของสิ่งมีชีวิตที่อายุแสนยืนนานนั่นเลย......แต่จะว่าไป เจ้าเต่าตัวนี้อาจจะอายุสั้นก็ได้แหะ....มีเจ้าของแบบนั้น......
“ เอ้า.....” เขายื่นน้ำผลไม้เย็นฉ่ำที่เพิ่งเดินไปกดมาจากตู้ให้กับร่างบอบบางที่นั่งบ่นงึมงำสาปแช่งเจ้าของเต่า อยู่ที่ม้านั่งในสวนสาธารณะ ก่อนจะนั่งลงเคียงข้างกัน
“ แล้วจะไปที่ไหนต่อดีล่ะ....ดูท่า...ที่นี่คงไม่มีแล้วมั้ง” พูดออกไปก่อนจะยกกระป๋องน้ำผลไม้ขึ้นดื่ม
“ อืม.....แกว่า.....ไอ้เต่าบ้านั่นมันจะเดินไปถึงบึงหลังโรงเรียนไหม” มือบางของพี่ชายยกขึ้นมาลูบคางอย่างใช้ความคิด.....แค่คืนเดียวถ้าเป็นเต่าปกติก็ไม่น่าจะเดินไปถึงหรอกมั้ง....แต่นี่มันเป็นเต่าของ ดีโน่ คาบัคโรเน่.....มันอาจจะอยากหนีตายจากเจ้าของแสนอันตรายของมันอย่างสุดชีวิตจนเดินไปถึงนั่นก็ได้....จะว่าไป.....ไปจับมันกลับมาแบบนี้จะดีจริงๆหรือเปล่านะ.......
เขาหันไปสบตากับคนข้างๆ ราวกับว่าเรากำลังคิดเรื่องเดียวกันอยู่ เขาและร่างบางถึงกับหลุดหัวเราะออกมาพร้อมๆกัน.......
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า.....ไปดูหน่อยก็แล้วกัน” แค่นึกถึงชีวิตต้องรอดของเจ้าเต่าที่น่าสงสารนั่นมันก็อดที่จะขำปนเวทนาออกมาไม่ได้
“ งั้น....แวะไปบอกพ่อหน่อยดีกว่า ดูท่าทางจะกลับมาที่ร้านไม่ทันแล้วละ” พี่ชายของเขาพูดทั้งๆที่ยังคงอมยิ้ม เขาจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างไม่วางตา.....แสงแดดยามเย็นต้องใบหน้าสวย รอยยิ้มที่ส่งมายังเขาช่างงดงาม.....
“ เฮ้......” ใบหน้าเนียนของพี่ชายยื่นเข้ามาใกล้หน้าเขา สงสัยว่าเขาคงจะเหม่อมองภาพตรงหน้านี้นานไปหน่อย....ดวงตาสีเขียวสดใสจ้องมองมาด้วยความสงสัย
“ อยู่ดีๆก็นิ่งไป....คงไม่ได้คิดเรื่องอะไรแปลกๆอยู่หรอกนะ” แก้มใสป่องออกนิดๆ มองมาที่เขาด้วยสายตาหวาดระแวง......น่ารักชะมัด.....ฉันจะคิดก็เพราะนายทำแบบนี้นี่แหละ
เขาตั้งใจจะตะครุบตัวบางๆของคนที่นั่งอยู่ข้างกันบนม้านั่ง มาไว้ในอ้อมกอด....แต่ก็ดูเหมือนกับว่า ประสบการณ์ที่ได้พบมาของพี่ชายจะทำให้เริ่มจะรู้ทันเขามากขึ้น ก่อนที่มือเขาจะคว้าตัวบางๆนั่นได้ พี่ชายของเขาก็ลุกหนีไปซะก่อน.....
คว้าลมไปเต็มๆ.........ส่วนเจ้าตัวต้นเหตุกลับหนีไปยืนหัวเราะอยู่ข้างๆ..........ฝากไว้ก่อนเถอะ......
.
...................................
.
......................
.
...........
.
กว่าจะเดินมาถึงบริเวณบึงหลังโรงเรียนได้ ก็เป็นเวลาพลบค่ำ แสงแดดลาลับขอบฟ้าไปแล้ว มีเพียงแสงสลัวๆจากดวงไฟเก่าแก่จากถนนเส้นเล็กรอบๆบึงเท่านั้นที่ส่องสว่าง ไร้วี่แววของมนุษย์คนอื่นนอกจากเราสองคน.....จะบอกว่ามันเป็นบึงร้างก็คงจะได้มั้ง.....หรือจะเรียกว่าเป็นเขตหวงห้ามของใครบางคนดี.....ไม่เคยมีนักเรียนคนไหนกล้าข้ามเขตของโรงเรียนเข้ามาถึงบึงนี้ เพราะต่างก็กลัวเจ้าของทอนฟาโหดนั่นกันทั้งนั้น.....
ทั้งๆที่บรรยากาศโดยรอบนั่นสวยงามราวกับภาพวาด แสงไฟสลัวทำให้ความมืดเข้ามาปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ ดวงดาวพร่างพราวอยู่เต็มท้องฟ้า ผิวน้ำไหวระลอกตามกระแสลมบางเบา สะท้อนภาพดวงจันทร์กลมโตทอแสงนวลสวย ความเงียบสงบทำให้ได้ยินเสียงสัตว์ตัวเล็กๆบรรเลงบทเพลงแห่งชีวิต
ถ้าเป็นที่นี่.....คงไม่ต้องกลัวสายตาของใคร......ที่ที่มีเพียงแค่เราสองคน.....
เขาเดินจูงมือบอบบางเดินไปรอบๆบึง สายตาต่างช่วยกันมองหาสิ่งมีชีวิตที่คลานต้วมเตี้ยม แต่สิ่งที่พบก็มีเพียงกระต่ายตัวน้อยที่โผล่ออกมาจ้องมองพวกเราจากใต้พุ่มไม้ ก่อนที่จะกระโดดหายไปกับดวงจันทร์
เดินตามทางเล็กๆที่ลัดเลาะไปกับขอบบึงที่เว้าๆแหว่งๆ ได้ยินเสียงปลากระโดดขึ้นเหนือน้ำมาเป็นระยะๆ จนในที่สุดก็เดินมาจนครบรอบ แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของเจ้าเต่านั่นเลยสักนิด เขาและพี่ชายตัดสินใจที่จะเลิกหา ก่อนที่จะพากันเดินไปนั่งพักบนเนินหญ้า สายลมพัดเอื่อยเฉื่อยกับความนิ่งสงบของบรรยากาศโดยรอบ ทำให้เราสองคนต่างก็นั่งมองหมู่ดาวโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เขาเอื้อมมือไปวางซ้อนทับมือบางของพี่ชายที่วางอยู่บนผืนหญ้าหนานุ่ม กุมไว้หลวมๆ สายตาของพวกเราต่างยังจับจ้องอยู่ที่พระจันทร์กลมโต......งดงามราวกับจะสะกดทุกสิ่งที่จ้องมองมัน
เนิ่นนาน....กับความเงียบงัน....ถึงแม้จะไม่มีคำพูดใดๆ แต่หัวใจกลับอบอุ่นอย่างน่าประหลาด.....ความอบอุ่นที่ส่งผ่านมือข้างนั้น.....
ดวงจันทร์เคลื่อนคล้อยไปเล็กน้อย สัมผัสที่ไหล่ของเขาทำให้เขาหันไปดู.....ศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมสีเงินเป็นประกาย เอนซบมาที่ไหล่แข็งแกร่งของเขา ไหล่บางของพี่ชายแนบชิดกับลำแขนของเขา นัยน์ตาสีเขียวมรกตยังคงเหม่อมองดวงจันทร์ราวกับถูกสะกด มือที่เคยกอบกุมมือบางอยู่กระชับและยกมือบางมาวางไว้บนตัก
หันหน้าและโน้มตัวเข้าหาใบหน้าเนียนของพี่ชายที่ยังพิงอยู่ที่ไหล่เขา ใบหน้าของเราใกล้กันจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจของกันและกัน เขาสบตาสีเขียวมรกตราวกับขออนุญาต .....
ดวงตาที่จ้องตอบมาค่อยๆหลับพริ้มลง ริมฝีปากของเราเข้าใกล้กันมากขึ้น จนในที่สุดก็รับรู้ได้ถึงความนุ่มนิ่มของอีกฝ่าย เขาบรรจงจูบที่ริมฝีปากล่างของพี่ชายขบเม้มเบาๆ ร่างบางเผยอริมฝีปากเล็กน้อย ลิ้นร้อนของเขาจึงล้วงล้ำเข้าไปควานหาความหวานล้ำที่อีกฝ่ายพยายามส่งมาให้ .....จูบที่อ่อนโยนท่ามกลางจันทราและหมู่ดาราที่เป็นพยานให้กับเรา
ถึงแม้ว่าใครๆจะไม่ยอมรับ........
แต่แสงนวลตาและดวงดาวที่ทอประกายระยิบระยับเหล่านี้คงมองเห็น.....
และ......คงให้อภัยพวกเรา......
.
.
.
.
.
ซึ ซึ คู๊.......
ของหวานนี่มันดีต่อสุขภาพ(จิต)จริงๆน้า......^ ^….
จะมีตู้เย็นบ้านไหนน่าตกใจเท่าของเราไหมนะ.....เพื่อนที่เผลอมาเปิดมันเข้าถึงกับขอถ่ายรูปไปประจานเลยค่ะ....
ของที่ไม่มีน้ำตาลไม่มีสิทธิ์เข้ามาอยู่ในตู้เย็นของชั้น!!!!
55555 เป็นตู้เย็นที่ไม่มีแม้แต่ผักซักต้นเนื้อซักก้อนจริงๆ.....มันมีแต่ขนมและของหวาน!!!!
ว่าแต่....ใครอยากรู้เรื่องตู้เย็นของแกเนี่ย.....-_-“….
ก็นะ.....จะได้รู้ว่าความหวานมันมาจากไหนไง.....ที่แท้ก็มาจากตู้เย็นนี่เอง อืมๆๆ.....ไม่ใช่แล้วโว้ย!!!!
.
.
.
.
.
เหมือนเราจะลืมอะไรไป……
แถม.....
.
.
.
.
“ ฮัลโหล บอส....โทรมาดึกดื่นแบบนี้มีอะไรหรือครับ….”
“ โรมาริโอ้...ฮึกๆ......”
“ อย่าเพิ่งร้องไห้สิครับ.....พูดให้รู้เรื่องก่อน.....นี่ผมไม่อยู่บ้านแค่วันเดียวเกิดอะไรขึ้นครับ”
“ ก็เอ็นซิโอ้น่ะสิ.....เอ็นซิโอ้หายไปแล้ว.....ฮือออออ…..”
“ เอ่อ......อย่าบอกนะครับว่าจำไม่ได้....”
“ จำอะไรอ่ะ.....ฮึก....”
“ ก็บอสให้ผมเอาเอ็นซิโอ้มาเลี้ยงด้วยระหว่างเดินทางมาพักผ่อนนี่ไงล่ะครับ”
“ อ้าว......งั้นเองหรอ....”
“ งั้นแหละครับ....”
“ เย้ๆๆ....เอ็นซิโอ้ปลอดภัยแล้ว ขอบใจมากนะโรมาริโอ้!!!”
.
.
.
งานนี้คงได้มีคนถึงฆาตจริงๆแน่.....เหอ เหอ.......พ่อม้า.....>[]<…..น่าร้ากกกก.....
อิตาม้าบ้าาา !!!!! แล้วที่สองพี่น้องเค้าช่วยตามหานั่นมันมีประโยชน์บ้างมั้ยเนี่ย
ตอบลบให้ตายเถอะดีโน่ หาไปทั้งชาติคงไม่มีทางเจอแน่นอน = =^
แต่ตอนนี้หวานจริงๆค่ะ ตอนที่แล้วว่าหวานแล้ว
ตอนนี้หวานม๊ากกก อ๊ากก ชอบฉากในบึงมากเลย
มันเห็นภาพเลยอ่า โรแมนติก จูบท่ามกลางแสงจันทร์ แอร๊ก
เขิน โกคุจังยอมง่ายๆแบบนี้ บอกรักยามะซะทีเถอะนะ