: KHR Fanfiction Au
: 8059 186927 XS
: Romantic
: NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
: ยามะดาร์กเนียนใสกิ๊ง....(อะไรของมันวะนั่น?)..... ส่วนหนูฮายาโตะนิสัยจะไม่ตรงกับคาร์แรคเตอร์หลักนะตัวเอง...^ ^...ก็เค้าอยากเห็นหนูฮายาโตะเวอร์ชั่นน่ารักๆเอ๋อๆมั่งอ่ะ
.
.
.
.
.
“ ผ้าปูโต๊ะ 18 ผืน.......ริบบิ้นสำหรับผูกกล่องเค้ก.....อืม....เอาผ้าม่านใหม่ด้วยก็ดี.....อ้อ.....กระดาษโน้ตสำหรับแจกลูกค้าด้วย...........” มือของเขากำลังจดรายการข้าวของตามที่พ่อของเขายืนบอกออกมาเป็นหางว่าว หันไปมองอีกคนที่นอนฝังตัวอยู่บนโซฟาด้วยใบหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แทนที่จะโกรธแต่เขากลับอมยิ้มออกมา......
“ โอ้!!!! ฝากด้วยนะทาเคชิ!!!!” วันนี้เขาต้องรับหน้าที่ไปซื้อของทั้งหมดที่พ่อว่ามา ตอนนี้เขาและพี่ชายของเขายังอยู่ในช่วงปิดเทอม พ่อจึงมีความเห็นว่า ไหนๆเราก็ว่างๆกันอยู่แล้ว ก็น่าจะเปลี่ยนข้าวของที่มันเริ่มจะเก่า ภายในร้านได้ซักที
รายการที่บอกมาแต่ละอย่างมันช่างไม่เหมาะที่จะให้เด็กหนุ่มสองคนไปเดินเลือกซื้อเลยสักนิด แต่มันก็ช่วยไม่ได้ ในเมื่อที่บ้านของเขาไม่มีผู้หญิงอยู่เลย.....แล้วก็คงจะไม่มีอีกเลยก็เป็นได้
“ ไปก่อนละ....แล้วเจอกันที่ร้านนะ....” เสียงประตูหน้าบ้านปิดลงไม่นาน เสียงเครื่องยนต์ก็ดังห่างออกจากบ้านไปเรื่อยๆ.....
เขาขยับตัวไปนั่งพิงโซฟาที่มีร่างบอบบางของพี่ชายนอนอยู่ มือยกกระดาษที่จดรายการขึ้นมาอ่านทวนอีกครั้ง .....แล้วก็รู้สึกถึงมือนิ่มของใครบางคนเอื้อมมาลูบหัวเขาเบาๆ ....มือที่เคยจับกระดาษอยู่ของเขา ค่อยๆวางมันลง แล้วหันหน้าไปสบตากับนัยน์ตาสีเขียวมรกตของพี่ชาย....ส่งยิ้มไปให้พร้อมกับโน้มเข้าไปแนบริมฝีปากของตัวเองกับริมฝีปากแดงอิ่มของคนที่นอนอยู่อย่างรวดเร็ว..... แผ่วเบา.....แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่ส่งไปให้......
เมื่อละใบหน้าออกมา ก็ต้องแอบอมยิ้มกับใบหน้าแดงระเรื่อของพี่ชาย นัยน์ตาสีเขียวเบิกกว้างก่อนที่จะรีบทำเป็นขมวดคิ้วแล้วสะบัดหน้าไปอีกทางอย่างรวดเร็ว.....สีแดงระเรื่อลุกลามไปจนถึงใบหูของพี่ชาย.....
เขาค่อยๆลุกขึ้นยืนก่อนที่จะคุกเข่าคร่อมคนที่นอนอยู่บนโซฟา ใบหน้าแดงระเรื่อหันมามองเขาด้วยความตกใจ สองแขนแข็งแรงของเขาปิดกั้นทางหนีของอีกฝ่ายด้วยการยันข้อมือไว้ที่ข้างๆไหล่บางทั้งสองข้าง โน้มตัวลงไปซุกใบหน้าไว้ที่ซอกคอหอมกรุ่น แกล้งจูบลำคอระหงเบาๆเรียกรอยสะดุ้งจากคนด้านใต้ได้เป็นอย่างดี....มือบางของพี่ชายยันเข้ามาที่แผ่นอกของเขา ...แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ออกแรงต่อต้านอะไรมากมายนัก......
“ กะ....แกบอกว่า.....จะไม่ทำ.....ถ้าฉันไม่ยอม....แกสัญญาแล้วนะ” เสียงเบาเอ่ยตะกุกตะกักออกมาจากคนที่ความแดงระเรื่อเริ่มลุกลามมายังลำคอ เขาแกล้งหยุดการกระทำทุกอย่างลง.....
“ ทำไมล่ะ....นายรังเกียจฉันหรอ...” แกล้งทำเป็นหยุดนิ่งแล้วเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงหงอยเหงา....
“ มะ...ไม่ใช่.....ตะ...แต่....ฉัน....” น้ำเสียงตะกุกตะกักเอ่ยบอกออกมาจากร่างด้านใต้ แค่ฟังก็รู้...ว่าป่านนี้รอยแดงระเรื่อนั่นคงลามไปทั่วคอแล้วแน่ๆ.....
“ มะ....มันยัง.....เจ็บ.....อยู่......” น้ำเสียงสุดท้ายเบาหวิวแทบจะกลืนหายไปกับอากาศ เหลือบมองใบหน้าสวยก็ต้องอมยิ้มเมื่อดวงตาสีสวยหลับตาปี๋....
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า......เพราะนายน่ารักแบบนี้น่ะสิฉันถึงห้ามตัวเองไม่อยู่.....” เขาละออกจากลำตัวคนที่นอนหลับตาแน่นลงไปนั่งหัวเราะอยู่ที่พื้น คนข้างบนโซฟารู้สึกตัวว่าโดนแกล้งเลยฟาดข้อมือบางมาที่เขาไม่ยั้ง.....
“ แก๊.....อย่าหวังจะได้ทำอีกเลย!!!” มือบางชี้หน้าเขาพร้อมกับลุกขึ้นจากโซฟา เตรียมจะเดินปึงปังหนีออกไปจากห้อง ลำแขนแข็งแกร่งของเขาก็คว้าตัวบางเข้ามาสู่อ้อมแขนได้ก่อน
“ ฉันรักนาย ฮายาโตะ...” ก้มลงกระซิบที่ใบหูภายใต้เส้นผมสีเงินนุ่มสลวย
“ ระ...รู้แล้ว....จะบอกอะไรกันทุกวันเล่า” รอยสีแดงระเรื่อกลับมาอยู่บนใบหน้าเนียนอีกครั้ง
“ จะบอกไปจนวันตายเลย” จูบที่ขมับของร่างบอบบางเบาๆ พร้อมกับส่งรอยยิ้มกว้างให้กับคนในอ้อมแขน สายตาคนตรงหน้ามองมาที่เขาเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
“ เอาละ....ไปซื้อของกันดีกว่า....ว่าแต่นายยังเจ็บอยู่แล้วจะเดินไหวไหมเนี่ย” เขาปล่อยร่างบอบบางของพี่ชายออกจากอ้อมแขน ก่อนที่จะเอ่ยแซวออกไป มือบางซัดผลั๊วะมาที่เขา
“ คิดว่าเป็นเพราะใครกันฟะ” เสียงบ่นงึมงำเดินนำออกไปที่ประตูบ้าน เขาได้แต่อมยิ้ม.....
จะมีสักวันไหม.....ที่คำว่า.....รัก......จะถูกพูดออกมา โดยที่ไม่ใช่จากปากของเขา.....
อยากได้ยิน......
ฉันจะทำให้ได้......
.
......................................
.
.........................
.
.............
.
ถึงจะเป็นช่วงเวลากลางวันที่ไม่น่าจะมีคนออกมาเดินจับจ่ายซื้อของ แต่ปิดเทอมแบบนี้ ตามย่านร้านค้ากลับคลาคล่ำไปด้วยผู้คน เด็กนักเรียนที่ไม่ได้ไปโรงเรียน ต่างออกจากบ้านมาเดินเล่น หรือรวมกลุ่มกันอยู่ตามเกมเซ็นเตอร์ ไม่ก็มาซื้อของเหมือนอย่างพวกเขาสองคน
อากาศที่ออกจะร้อนแบบนี้ทำให้ในร้านต่างๆที่ติดแอร์เย็นฉ่ำเต็มไปด้วยผู้คน เขาและพี่ชายค่อยๆฝ่ากลุ่มเด็กผู้หญิงเข้าไปในร้านผ้าม่านและผ้าปูโต๊ะ สายตาที่จ้องมองมานับไม่ถ้วน เสียงกรี๊ดกร๊าดที่ตามมาเป็นระยะๆ ได้แต่ทำให้พวกเขาเหงื่อตก.....การที่ผู้ชายสองคนมาเดินเลือกซื้อผ้าม่านและผ้าปูโต๊ะราวกับว่ากำลังจะตกแต่งเรือนหอแบบนี้ คงจะน่าแปลกสำหรับสายตาคนทั่วไปไม่น้อย
พี่ชายของเขาเริ่มจะขมวดคิ้วแน่นขึ้น ก่อนที่ร่างบอบบางของพี่ชายจะหันไปตวาดกลุ่มเด็กผู้หญิงพวกนั้น เขาก็รีบคว้าไปที่เอวบางแล้วดันให้เดินไปในมุมที่ไม่ค่อยจะมีผู้คน เสียงกรี๊ดกร๊าดยังคงดังตามมาเป็นระลอก......
กว่าจะเลือกลายและสีที่คิดว่าน่าจะใช้ได้ ก็กินเวลาไปพักใหญ่ ผ้าส่วนใหญ่มีแต่ลวดลายสีหวานๆ พวกเขาถือของทั้งหมดที่จะซื้อตรงไปยังเคาร์เตอร์เพื่อจ่ายเงิน....สายตาจากรอบข้างยังคงจ้องมองมาที่เราทั้งสองคนไม่หยุด....แต่ก็รู้สึกว่า....เหมือนมันจะน้อยลง......
เมื่อเดินผ่านโซนหนึ่งของร้านจึงเข้าใจได้ทันที ว่าสายตาที่มองเราน้อยลงนั่นเปลี่ยนเป้าหมายมาอยู่ที่นี่นี่เอง.....
“ หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่เอา!!!” เสียงจากคนตัวเล็กผมสีน้ำตาลฟูฟ่องปฏิเสธเสียงแข็ง
“ อะไรกันครับ....ผมว่าผืนนี้เหมาะกับบ้านของเราที่สุดเลยนะครับ....ดูสิ ระบายสีชมพูนี่มันช่างเข้ากับลายสับปะรดน่ารักๆนี่จะตายไป” ผ้าม่านสีชมพูอ่อนถูกมือของร่างโปร่งบางผมสีน้ำเงินเข้มยกขึ้นมาถูไถกับใบหน้าเนียนสวยของตัวเอง
“ บ้านของเราที่ไหนกัน บ้านของฉันต่างหาก!!!! ถ้าอยากได้นักก็เอาไปติดที่บ้านของนายเองสิ......”
ดูท่าทางว่าสองคนนั้นคงจะอยู่ที่ร้านนี้อีกพักใหญ่....พี่ชายของเขาทำท่าจะเดินเข้าไปทัก แต่ดูจากเวลาและรายการของอีกมากมายที่ยังไม่ได้ไปซื้อ ทำให้เขาดันหลังร่างบางของพี่ชายให้เดินไปที่เคาเตอร์แทน.....อีกอย่าง......ปล่อยสองคนนั้นเอาไว้แบบนั้น น่าจะสงบสุขกับชีวิตของพวกเขามากกว่า....
.
..............................
.
..............
.
.......
เราสองคนยังคงเดินเข้าออกร้านนู้นร้านนี้ อีกหลายร้าน คนรู้จักหลายคนต่างทักทายพวกเรา ด้วยความเอ็นดู ....จะมีใครรู้บ้างไหมนะ....ว่าวันนี้เราสองคนเดินเคียงข้างกันและกันในรูปแบบไหน....
“ ว่าไง....ลูกชายบ้านยามาโมโตะ....วันนี้ก็ “เป็นพี่น้อง” ที่รักกันดีอีกแล้วนะ.....เห็นแล้วมันน่าภูมิใจแทนคุณพ่อจริงๆนะ.....ไม่เหมือนลูกชายป้า....ตีกันได้ทุกวัน” เขายังคงยิ้มรับคำทักทายเป็นปกติ แต่สายตาอดที่จะเหลือบมองร่างบอบบางข้างๆไม่ได้....ใบหน้าเฉยๆเป็นปกติเวลาที่ถูกทัก แต่นัยน์ตาสีเขียวมรกตกลับฉายแววของความกังวลออกมาอย่างปิดไม่มิด.....
เขาจับแขนเล็กดึงออกจากตรงนั้นไปช้าๆ เดินต่อไปตามถนนไม่กว้างนักที่ขนาบไปด้วยร้านรวงมากมาย ผู้คนต่างเดินสวนกับพวกเราไปมา ....ในใจของพี่ชายจะคิดอะไรอยู่ .....นายจะทนได้ไหมกับสายตาและถ้อยคำของคนที่อยู่รอบๆตัว.....คนที่ไม่รู้จัก.....ที่ต่างจ้องมองมาด้วยความสงสัยในความสัมพันธ์ของเราสองคน.....คนรู้จัก.....ที่ทักทายชื่นชมกับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของพี่น้อง ซึ่งบัดนี้มันกลายเป็นแค่เปลือกนอก.....
เราสองคนยังเดินเคียงคู่กันไปด้วยความเงียบงันเพราะต่างก็จมอยู่กับความคิดของตัวเอง.....
.
....................................
.
........................
.
............
.
“ โว้ยยยย!!! ไอ้ตัวตุ่นสวะ ตายซะเถอะแก!!!!” และแล้วเสียงๆหนึ่งก็ทำให้เราทั้งคู่หลุดออกจากห้วงความคิดของตัวเอง หันหน้าไปมองจึงได้รู้ตัวว่าเราทั้งสองคนเดินมาจนถึงย่านร้านเกมส์ประจำเมือง
“ สวะอย่างแกนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ....” คนสองคนกำลังยืนแหกปากอย่างไม่อายสายตาประชาชี เสียงดังสนั่นหลุดลอดออกมาจากร้านได้ไม่ยาก แม้ว่าจะโดนจ้องมอง แต่สองคนนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเลยสักนิด
“ แกต้องรอให้มันโผล่หัวออกมาเยอะๆก่อน แล้วจากนั้น.........” ร่างสูงผมสั้นสีดำถือค้อนพลาสติกไว้ในมือใหญ่ กับร่างโปร่งบางผมสีเงินยาวที่วันนี้ดูเหมือนจะโดนจับทำทรงผมแปลกๆ ที่ยืนอยู่เคียงคู่กัน.....เหลือบมองไปรอบๆก็พบกับสายตามากมายที่จับจ้องไปยังสองคนนั้น ....เช่นเดียวกับที่พวกเขาสองคนเคยโดนมา.....
“ ตายซะ ไอ้ตุ่นสวะ!!!” มือหนาของอดีตกัปตันของเขาฟาดค้อนพลาสติกลงไปไม่ได้ยั้งมือ ....ตู้เกมคงกลัวว่าตัวเองจะพังเข้าซะก่อน จึงรีบป่าวประกาศทันทีว่าเกมนี้ร่างสูงใหญ่นั่นเป็นฝ่ายชนะ......บอกตามตรงว่าหน้าตาพี่ท่านไม่ได้เหมาะที่จะมาเล่นเกมแบบนี้เลย......
“ ฮ่ะ ฮ่า...เป็นไงล่ะ.....” เจ้าของร้านเกมส่งของรางวัลให้อดีตกัปตันของเขาด้วยเหงื่อที่เกาะพราวทั่วใบหน้า ก่อนที่มือใหญ่จะโยนเจ้าตุ๊กตาของรางวัลนั่นไปให้ร่างโปร่งบางที่ยืนอยู่คู่กัน......
เห็นภาพตรงหน้าเขาก็ได้แต่ยิ้มในใจ.....จริงสินะ....เขาอาจจะกังวลมากไป เขาอาจจะคิดมากไป.....ไม่เห็นจำเป็นจะต้องแคร์สายตาของใคร....ใครจะเข้าใจว่ายังไงก็ช่างมันเถอะ.....ตัดสินใจได้ดังนั้น เขาก็จับมือบางของคนข้างๆแล้วก้าวเดินต่อไป.....
นัยน์ตาสีเขียวมรกตก้มลงมองมือใหญ่ของเขาที่จับมือของตนอยู่ ก่อนที่จะเงยหน้ามามองหน้าเขาอีกครั้ง .....เขาส่งรอยยิ้มอบอุ่นให้ใบหน้าสวย บีบมือบางเบาๆ......สายตาแห่งความกังวลที่ส่งมายังเขาค่อยๆจางหายไป.....
“ ทำแบบนี้ ก็จะได้ไม่มีใครรู้....” เขากระซิบบอกร่างบางของพี่ชาย พร้อมกับมืออีกข้างที่คลายแขนเสื้อเชิ้ตที่พับไว้ถึงข้อศอกลง แขนเสื้อใหญ่และยาวพอที่จะปิดบัง มือของเราสองคนที่อยู่ภายใน.....
ใบหน้าเนียนของพี่ชายหันกลับไปมองทางเดินข้างหน้า รอยสีแดงระเรื่อปรากฏอยู่บนแก้มใส มือบางกระชับจับมือของเขาแน่นขึ้น.......
เราจะเดินไปด้วยกัน......
.
……………………
.
…………….
.
………..
.
เสียงกระดิ่งหน้าร้านส่งเสียงดัง เขาเปิดประตูเข้าไปพร้อมกับร่างบางของพี่ชายที่เดินตามมาติดๆ ของพะรุงพะรังที่เราทั้งคู่ถืออยู่ถูกวางลงบนโต๊ะตัวที่อยู่ใกล้ๆ ช่วงเวลาบ่ายแก่ๆแบบนี้คนยังไม่เยอะมากนัก เขาและพี่ชายจึงสามารถจัดการกับของที่ซื้อมาได้อย่างไม่ยากเย็น.....
เปลี่ยนผ้าม่าน ผ้าปูโต๊ะ และจัดข้าวของต่างๆให้เข้าที่ ....ในที่สุดงานวันนี้ก็สิ้นสุดลง....เขากับพี่ชายเข้ามานั่งพักอยู่ในห้องด้านหลังร้าน ตอนนี้พ่อของเขากำลังคุยอย่างออกรสอยู่กับพ่อของเพื่อนตัวเล็กของพี่ชายอยู่ที่หน้าร้าน
“ เอาน้ำไหม ฮายาโตะ” เขาหันมาถามร่างบอบบางของพี่ชายที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ ก่อนที่จะกรอกน้ำลงคออย่างรวดเร็ว พี่ชายของเขาส่ายหน้าไปมาแล้วกลับไปจ้องกาวกับกระดาษตรงหน้าต่อ มือบางกำลังซ่อมกล่องที่หลุดอยู่
เขามองภาพของคนที่เขารัก มือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบ สร้อยเงินเส้นเล็กที่แอบไปซื้อเมื่อกลางวันออกมา ....เดินเข้าไปใกล้ๆร่างบอบบางที่ยังคงใช้สมาธิไปกับกล่องกระดาษ จึงไม่ได้รู้ตัวว่าเขานั่งคุกเข่าลงตรงหน้า มือเขาจับข้อเท้าของคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เข้ามาหาตัว พับขากางเกงขึ้น แล้วจึงบรรจงสวมสร้อยข้อเท้าเส้นเล็กลงไป.....
สายตาสีเขียวสดใสเบิกกว้าง มองมาที่เขา เขาเพียงแค่หัวเราะและส่งรอยยิ้มไปให้......
บางที.....อาจจะไม่ต้องพูดอะไร......
เพราะทุกความรู้สึกของฉัน....นายคงอ่านได้จากการกระทำทั้งหมดนั่น.....
รัก........
.
.
.
.
.
.
.
ซึ ซึ คู๊......
ฮ้า....กระชุ่มกระชวย....ได้น้ำตาลเข้ากระแสเลือดแบบเต็มอัตรา....
ไม่หวานเกินไปใช่ไหมน้า......>.<….
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกท่านที่ติดตามนะคะ...^___^....
ว๊ากกก ตอนนี้หวานเจี๊ยบมากเลยค่ะ มดขึ้นจอแล้ววว
ตอบลบหวานตั้งแต่เริ่มตอนยันจบตอน
ยามะแกล้งพี่อ่ะ พี่เขินหน้าแดงหมดแล้วเห็นม๊ายยย 555
ก๊กน่ารักมากเลยค่ะ น่ารักน่าทะนุถนอมมากๆ อ๊ากก
XS ฮาอีกแล้ว ไปตีตุ่นกัน ไอ้ตุ่นสวะ!
ป๋าน่ากลัวแหะ สควอลจังไม่อายชาวบ้านเค้าบ้างรึไงนะ = =;
สัปป้าเอาอีกล่ะ ผ้ากันเปื้อนลายนั้น แกเป็นอะไรกับสีชมพูมากม๊ายย
สัปปะรดนี่ก็พอจะเข้าใจนะมุคุ เฮ่อ = ='
เห็นด้วยๆ
ตอบลบดูท่าสัปป้าจะเป็นเอามาก