: KHR Fanfiction Au
: 8059 186927 XS
: Romantic
: NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
: ยามะดาร์กใสกิ๊ง....(อะไรของมันวะนั่น?)..... ส่วนหนูฮายาโตะนิสัยจะไม่ตรงกับคาร์แรคเตอร์หลักนะตัวเอง...^ ^...ก็เค้าอยากเห็นหนูฮายาโตะเวอร์ชั่นน่ารักๆเอ๋อๆมั่งอ่ะ
.
.
.
.
.
.
เสียงรถแล่นออกไปจากบ้าน พร้อมกับเสียงนกน้อยส่งเสียงร้องก่อนออกหาอาหาร เป็นกิจวัตรประจำวันทุกๆเช้าที่เกิดขึ้นในบ้านของเขา แสงแดดอบอุ่นยังไม่ทอแสง ยามนี้มีเพียงแสงสลัวๆที่รอดเข้ามาในห้องที่อบอวลไปด้วยกลิ่นของคนที่เขาอยากสูดดมไปชั่วชีวิต....ร่างกายบอบบางในอ้อมแขนส่งมอบความอบอุ่นมาให้แก่เขา ทั้งร่างกายและจิตใจ....ร่างกายที่เป็นของเขา....
ร่างบอบบางของพี่ชายซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา ใบหน้าเนียนใสยังคงหลับพริ้ม ที่หางตายังคงมีคราบน้ำตาหลงเหลืออยู่......เห็นแล้วก็กระชับร่างกายนุ่มนิ่มนั่นให้แน่นยิ่งขึ้น กดจูบลงไปที่ขมับภายใต้กรอบผมสีเงินสว่างไสว.....จูบไล่ลงมาที่หางตาซึมซับน้ำตาให้แห้งหายไป........ถ้าฉันจะขอให้นายยกโทษให้แก่ความรักของฉัน....มันจะเห็นแก่ตัวเกินไปไหมนะ......
แสงแดดอ่อนๆเริ่มทอดลงมายังห้องที่มืดและเงียบงัน.....ตกกระทบต้องผิวกายขาวนวลและเส้นผมสีเงินเป็นประกาย.........แสงสว่างเดียวในชีวิตของฉัน.....
แสงทอประกายชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ......ทำให้มองเห็นร่องรอยแห่งบาปที่เขาเป็นผู้กระทำไว้ได้อย่างชัดเจน............แสงสว่างที่ถูกพรากความบริสุทธิ์ไป....ด้วยน้ำมือปิศาจร้ายอย่างเขา........
มือหนาของเขายกขึ้นเกลี่ยปอยผมสีเงิน คนในอ้อมแขนเริ่มขยับตัวเล็กน้อย ก่อนที่จะซุกตัวเข้าหาความอบอุ่นให้มากกว่าเดิม ถึงจะเจ็บลึกๆในใจ....แต่ภาพตรงหน้าก็เป็นภาพที่เขาฝันหาและต้องการครอบครองมันมาโดยตลอด....เขานอนอยู่นิ่งๆให้คนที่หลับสนิทกอดเขาไปเรื่อยๆ มองความงดงามตรงหน้าอย่างหลงใหล........ถ้าตื่นขึ้นมาแล้ว.....มันจะ......เกิดอะไรขึ้นนะ.........
นานจนเขาเผลอหลับไปอีกรอบ ก่อนที่จะรู้สึกตัวเพราะคนในอ้อมแขนที่ขยับร่างกาย ไอร้อนแผ่ออกมาจากร่างกายนิ่ม ทำให้เขาขยับมือของตัวเองไปยังหน้าผากมนโดยอัตโนมัติ.....ตัวร้อนอีกแล้วหรอเนี่ย.......
เขาตัดสินใจค่อยๆขยับตัวออกจากคนในอ้อมแขนอย่างแผ่วเบาที่สุด หยิบกางเกงที่กองอยู่ข้างเตียงขึ้นมาสวมลวกๆ ก่อนที่จะเดินไปหยิบยาประจำตัวของพี่ชายพร้อมแก้วน้ำ กลับมายืนอยู่ที่ข้างเตียง ไม่มีวี่แววว่าพี่ชายของเขาจะรู้สึกตัว มือหนาของเขาทาบลงไปที่หน้าผากมนอีกครั้ง เหมือนไข้จะขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่านะ.....
“ ฮายาโตะ....” กระซิบแผ่วเบาเรียกคนที่อยู่ในผ้าห่ม เขานั่งลงที่ข้างเตียง มือเขย่าไหล่บางเบาๆ ....ยังคงไม่มีการตอบรับจากร่างบอบบางของพี่ชาย......เขาตัดสินใจอมยาเข้าไปในปากก่อนที่จะกลืนน้ำตามเข้าไป.....
ก้มลงจุมพิตร่างบนเตียงก่อนที่จะดุนดันเม็ดยาเข้าไปในปากสีแดงระเรื่อของพี่ชาย กวาดต้อนจนแน่ใจว่าทั้งยาและน้ำไหลลงสู่ลำคอของร่างบอบบางไปแล้ว.....
“ อึก...อื้อ......” เสียงครางปนสะอื้นถูกส่งออกมาจากปากแดงระเรื่อที่เผยอออกเล็กน้อยอย่างต้องการจะถ่ายเทอุณหภูมิร่างกายที่ร้อนผิดปกติออกสู่ภายนอก.....มือใหญ่ของเขาเกลี่ยเส้นผมสีเงินที่ปลกลงมาบนใบหน้า ลูบหัวร่างบางเบาๆอย่างปลอบโยน.......ไข้ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย.....
“ อื้อ......มะ.....ไม่.....” ผ่านไปกว่ายี่สิบนาทีแล้ว แต่ตัวของร่างบอบบางในอ้อมแขนยังไม่เย็นขึ้นเลย กลับจะร้อนกว่าเดิมด้วยซ้ำ ดวงตาสีมรกตปิดแน่น มีหยาดน้ำตาไหลลงมาที่หางตาเล็กน้อย เขาได้แต่จ้องมองอย่างเป็นกังวล มือหนาลูบใบหน้าเนียนอย่างเริ่มจะร้อนใจ......ไม่เคยเป็นแบบนี้......ปกติแค่กินยาไข้ก็จะลด.....แต่นี่มัน........
“ มะ....ไม่.....อื้อ......ไม่เอา.....ทาเค.....อื้อ......” ร่างบางเพ้อออกมา ไม่รู้ว่าด้วยพิษไข้หรือว่าเพราะเรื่องเมื่อคืนนั้นหนักหนาสาหัสเกินกว่าที่พี่ชายของเขาจะรับไหว.....เขาจับมือบางของพี่ชายเอาไว้.....ทำไงดี.....ความกังวลแล่นลิ่วเข้าเกาะกุมจิตใจของเขาอีกครั้ง.....นายเป็นอะไรฮายาโตะ.....ตอบฉันสิ....บอกฉัน.....
“ อื้อ....ไม่.......มะ.....แม่......” มือเล็กที่อยู่ในมือเขากำแน่น น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยที่ปิดสนิท เขายกมือขึ้นทาบหน้าผากคนตรงหน้าอีกครั้ง ไข้ไม่ลดลงจริงๆด้วย
เขาปล่อยมือออกจากร่างบอบบางที่เอ่ยปากเรียกหาแม่ด้วยความทรมาน วิ่งออกจากห้องอย่างเร็วที่สุดตรงไปยังโทรศัพท์ ก่อนที่จะกดเบอร์ที่เขาท่องจำอย่างขึ้นใจ......ชามาล.......
ไม่นานนัก เจ้าหมอชีกอก็กระหืดกระหอบมาถึง.....เขานั่งมองใบหน้าทีปกคลุมไปด้วยหนวดเคราของอีกฝ่ายตรวจดูพี่ชายของเขา ก่อนที่จะฉีดยาที่ลำแขนบอบบางไปเข็มหนึ่ง....ใบหน้าที่เคยทะเล้นเสมอของหมอนั่น นิ่งสนิท....ร่างบอบบางบนเตียงดูจะสงบลงได้บ้างแล้ว คิ้วที่เคยขมวดเพราะความทรมานเริ่มคลายออกจากกัน ลมหายใจที่เคยถี่กระชั้นเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ....มือที่เขาจับอยู่เริ่มคลายออก ความร้อนเริ่มลดลงไปบ้างแล้ว......
เขาและชามาลนั่งมองร่างบอบบางบนเตียงที่นอนหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่ากำลังเข้าสู่ห้วงนิทราอันสงบสุข.....ชามาลถอนหายใจหนักๆแล้วมองมาที่เขาอย่างคาดคั้น.....
“ แกเป็นคนทำใช่ไหม” เขาถึงกับผงะ เมื่อจู่ๆหมอนั่นก็ถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย.....
“ ตอบมาสิ” ไม่มีแววตาขี้เล่นอย่างเคยบนใบหน้ารกครึ้มนั่น สายตาดุดันจ้องตรงมาที่เขา.....ปิดบังไปก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา......
“ ใช่….” เขาตอบออกไปด้วยความหนักแน่น.....
ผลั๊วะ!!!!!.....หมัดหนักๆของชามาลซัดเข้ามาที่หน้าเขา น้ำหนักของมันเล่นเอาเขาเซไปก้าวนึง....
“ ฉันคิดเอาไว้อยู่แล้ว....ว่าวันนึงแกต้องทำแน่......” ชามาลพูดออกมาพร้อมๆกับมือที่เก็บของและยาต่างๆลงกระเป๋า ก่อนที่จะก้าวเดินออกไปจากห้อง......แต่ก่อนที่จะพ้นประตูออกไป หมอนั่นก็หันกลับมาพูดกับเขาอีกครั้งว่า.....
“ เจ้าฮายาโตะน่ะ เป็นคนที่ฉันดูแลมาอย่างดี....คราวหลังถ้าแกจะทำก็ใช้ไอ้นี่ซะ....อย่าให้ไข้ขึ้นเพราะแผลมันอักเสบแบบนี้อีกนะว๊อยยยย....” เขาเบิกตากว้างพร้อมกับรับรู้ได้ว่ามีขวดบางอย่างตกลงมาที่หัวของเขา มือคว้าเอาไว้ก่อนที่มันจะตกลงพื้น....หันไปมองชามาลก็เห็นแผ่นหลังของหมอนั่นเดินลงบันไดไปพร้อมกับโบกมือสะบัดราวกับจะบอกว่า ไม่ต้องขอบคุณหรอกเฟ้ย.....เขาก้มลงมองขวดที่อยู่ในมือ.......เจลหล่อลื่น.........ความร้อนจากไหนไม่รู้แล่นไปยังใบหน้า........ไอ้เจ้าหมอชีกอนั่น........
“ ขอบคุณนะครับ!!!” เขาวิ่งไปตะโกนอยู่ที่หน้าบ้าน ก่อนที่แผ่นหลังในเสื้อกราวน์จะเดินหายไปจากมุมถนน
……ชามาล....นายไม่มีอะไรปิดบังพวกเราอยู่ใช่ไหม....ทำไมนายถึงรับมันได้ง่ายดายนักล่ะ.....เรื่องแบบนี้....ของพี่กับน้องอย่างพวกเราน่ะ......
.
.
.
.
ผ่านไปค่อนวันแล้วร่างบอบบางของพี่ชายยังคงหลับสนิทอยู่บนเตียงของเขา....เรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาเมื่อคืนยังคงค้างคาใจ....เขาก็รู้ดีว่าเมื่อดวงตาสีเขียวมรกตลืมตาขึ้น.....ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนคงจะไม่กลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว....เพียงแต่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่า.....มันจะดำเนินต่อไปในทิศทางไหน......ร่างที่นอนนิ่งอยู่นี่จะตอบรับ หรือว่าจะปฏิเสธเขา.....
ได้แต่นั่งเหม่อมองใบหน้านิ่งสงบของอีกฝ่าย......แล้วจมอยู่กับความคิดของตัวเอง.......
ฉันจะทำให้นายรักฉันให้ได้......
“ อื้อ....” ในที่สุดเวลาที่ไม่อาจเรียกได้ว่ารอคอยก็มาถึง....ร่างบอบบางในผ้าห่มสีขาวเริ่มขยับตัวเหมือนลูกแมวเพิ่งตื่นนอน....เขาจ้องมองไปยังภาพนั้นด้วยใจที่เริ่มเต้นหนักหน่วงกว่าปกติเล็กน้อย
“ ...............” แล้วความเงียบงันก็เข้าปกคลุมไปทั่วห้อง เมื่อดวงตาสีมรกตเปิดขึ้นอย่างเต็มตา ร่างบางบนเตียงจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาที่สับสน ร่างบางๆนั่นพยายามจะยันตัวลุกขึ้น แต่แล้วก็ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อความเจ็บจากรอยแผลที่เขาฝากไว้คงตรงเข้าเล่นงาน นัยน์ตาสีเขียวข้างหนึ่งหลับแน่นพร้อมกับริมฝีปากสีซีดที่เม้มแน่น......ดูแล้วคงเจ็บไม่น้อย......
“ ฮายาโตะ” เป็นร่างกายของเขาที่ขยับเข้าไปประคองร่างบอบบางตรงหน้าโดยอัตโนมัติ ชั่ววินาทีที่มือของเขาสัมผัสผิวเนื้อเนียนนุ่ม มือบางของพี่ชายก็ปัดมือเขาออกราวกับเป็นสัญชาติญาณปกป้องตัวเอง ......
ใบหน้าสวยเสมองไปที่ข้างเตียง ร่างกายสั่นระริกราวกับลูกนก.....หยาดน้ำใสๆที่เริ่มคลอดวงตาแสนสวย......เขาจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่เจ็บแปลบ.....สองมือของเขาค่อยๆยื่นออกไปหาร่างบอบบางตรงหน้าอีกครั้ง.....เชื่องช้า.....ราวกับว่ากำลังวัดใจของกันและกัน.....ถ้านายจะปฏิเสธ....ก็สะบัดตัวหนีฉันไปซะ.......
ภายในห้องยังคงเงียบงัน ไม่มีเสียงพูดจาใดๆทั้งสิ้น....มีเพียงเสียงลมหายใจที่แสนอึดอัดของเราทั้งคู่......มือใหญ่ของเขาเอื้อมผ่านรอบตัวบางๆไป ก่อนที่จะรวบตัวของพี่ชายเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนทั้งตัว.....ใบหน้าเนียนใสแนบอยู่กับหน้าอกกว้างของเขา.....
ส่งอ้อมกอดที่อบอุ่นเพื่อปลอบโยนความสั่นกลัวของคนตรงหน้า....ร่างกายที่สั่นระริกของพี่ชายแนบไปกับลำตัวของเขา กอดร่างบอบบางให้แน่นขึ้น ก้มหน้าไปจูบขมับของร่างบาง ....ได้ยินเสียงสะอื้นดังรอดออกมาจากในอ้อมแขน ....ความอุ่นร้อนของหยาดน้ำตาหยดลงที่แผงอกของเขา.....มือใหญ่ของเขายกขึ้นมาลูบหัวที่เต็มไปด้วยเส้นไหมสีเงินนุ่มอย่างเบามือ.....
“ ฉันรักนาย....ฮายาโตะ.....รักนายที่สุด” เขาก้มลงกระซิบที่ข้างใบหูของร่างในอ้อมแขน แขนเล็กที่ตกอยู่ข้างลำตัวบางค่อยๆขยับโอบรอบเอวเขา....ก่อนจะค่อยๆลากไล้ไปตามแผ่นหลังของเขา แล้วจึงค่อยๆกอดเขาแน่น......
“ แต่ฉัน.......ฉัน.......ไม่......” คำแรกที่ร่างบอบบางของพี่ชายเอ่ยพูดกับเขา.....
“ ฉัน.....ไม่รู้......” เสียงอู้อี้ดังรอดออกมาจากแผ่นอกของเขา
เขาจับไหล่บาง ดึงตัวของพี่ชายที่หยุดสั่นกลัวแล้วออกมาจากอ้อมแขน ดวงตาของเราทั้งสองคนสบตากัน จ้องมองภาพของกันและกันที่ปรากฏอยู่ในดวงตาของอีกฝ่าย
“ ไม่เป็นไร ฮายาโตะ.....ฉันสาบานว่า....ฉันจะทำให้นายรักฉันให้ได้” มือใหญ่จับไปที่ข้างแก้มของพี่ชายก่อนที่จะค่อยๆโน้มตัวลงไปให้ริมฝีปากสัมผัสกัน ....แผ่วเบา....แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่ถูกถ่ายทอดไปยังคนตรงหน้า
“ ฉันรู้ดี.....ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเรามันเป็นเรื่องที่ผิด....เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ว่าใครก็ไม่มีทางยอมรับ....” เขาดึงร่างบางของพี่ชายเข้ามาในอ้อมแขนอีกครั้ง
“ ฉันรู้ดี....ว่ามันจะทำให้เราทั้งคู่ต้องทรมานมากแค่ไหน.....ฉันรู้ดี......ฉันพยายามอดทนมาตลอด....อดทนต่อความรักที่มีให้กับนาย.....อดทนที่จะไม่เรียกร้อง....แค่ได้อยู่เคียงข้างกัน แค่นั้นก็พอ......ฉันพยายามบอกตัวเองแบบนั้นมาตลอด......ทั้งๆที่ในใจลึกๆแล้วก็รู้ดี....ว่ามันไม่เพียงพอ.......”
“ เพราะความรักของฉันมันไม่ได้บริสุทธิ์เหมือนในนิยาม มันไม่ใช่การให้แต่เพียงฝ่ายเดียว.......แต่นับวัน..... ฉันมีแต่จะรักนายมากขึ้น และก็.....ต้องการนายมากขึ้นด้วย.....”
“ ทั้งๆที่รู้ดี.....ว่านายจะต้องเจ็บปวดกับการกระทำของฉัน.....แต่ฮายาโตะ......”
“ ได้โปรด....ยกโทษให้กับความรักที่เห็นแก่ตัวของฉันด้วยเถอะ.....”
“ ฉันรักนาย.....พี่ชายของฉัน......” ถ้อยคำทั้งหมดถูกถ่ายทอดไปยังคนในอ้อมแขน มีเพียงลำแขนบางที่กอดกระชับรอบตัวเขาตอบกลับมา.....
“ ขอเวลาหน่อย.......ตอนนี้ฉัน.......” นายกำลังสับสน.....อย่างงั้นใช่ไหม.....ฉันรอได้เสมอ ไม่ว่านานแค่ไหนฉันก็จะรอ......
เขากอดร่างบางๆนั่นแน่นขึ้นทีนึง ก่อนที่จะดึงตัวร่างบางของพี่ชายออกจากอ้อมแขน ส่งยิ้มสดใสให้กับใบหน้าสวย สิ่งที่ค้างคาใจเขามาตลอด....สิ่งที่อัดแน่นอยู่ในใจมาตลอดเป็นเวลาหลายต่อหลายปี ได้ถูกปลดปล่อยออกไป ความสบายใจราวกับยกพายุฝนคลั่งออกจากจิตใจไปจนหมด ทำให้รอยยิ้มของเขาในตอนนี้คงเพียงพอที่จะทำให้คนตรงหน้าพลอยยิ้มตามไปด้วย....
รอยยิ้มของกันและกันถูกส่งให้กันและกัน....วันนี้เขาไม่นึกเสียใจอีกแล้วที่ได้สร้างบาปนี้ขึ้น.....เขาจะเดินหน้าต่อไป....ไม่ว่าใครจะคัดค้าน ไม่ว่าขวากหนามจะเกี่ยวดึงมากมายเพียงไร.....เขาก็จะปกป้องรอยยิ้มตรงหน้า แล้วฝ่าฟันมันไปให้ถึงที่สุด.......
อีกพักใหญ่ทีเดียวที่เขาและร่างบางของพี่ชายยังคงนั่งอยู่บนเตียงที่ยับยู่ยี่นั่น.....คำถามมากมายของคนตรงหน้าและคำตอบถึงจุดเริ่มต้นและความทรมานต่างๆที่เขาพบเจอ ถูกบอกกล่าวออกไปราวกับเป็นคำสารภาพ....ตอนนี้เขาไม่มีอะไรปิดบังร่างบอบบางตรงหน้านี้อีกแล้ว.......
“ ถ้าอย่างงั้น...ขอจีบอย่างเป็นทางการเลยก็แล้วกัน” เขาส่งยิ้มกว้างให้กับคนที่เขากำลังติดกระดุมเสื้อให้อยู่ ใบหน้าใสแดงระเรื่อ.....
“ ชริ.....ทำเรื่องเลวร้ายเอาไว้กับฉันแล้วเพิ่งมาเริ่มจีบเนี่ยนะ” ร่างบางสบถเบาแล้วสะบัดหน้าไปอีกทาง.....
“ ฉันไม่ใช่พวกใจง่ายแบบแกหรอกนะเฟ้ย” เขาได้แต่หัวเราะเสียงดัง กับท่าทางของคนตรงหน้า......ความหมายที่แฝงอยู่ในประโยคนั้นมันทำให้เขาเป็นสุขอย่างที่สุด......
ฉันรักนายได้แล้วใช่ไหม..........
ถึงตอนนี้มันจะยังไม่ตรงกันทั้งหมด....
แต่สักวัน.....ฉันจะทำให้ได้......
.
.
.
.
.
.
ซึ ซึ คู๊.....
Gyaaaa……ในที่สุด Drama Point ที่สองก็ผ่านพ้นไปแล้ว ไชโยโห่ฮิ้ววววว.....
ฮี่ ฮี่......จากนี้เรามาเตรียมฉลองวันเกิดลูกสาวกันด้วยบทน้ำตาลเรียกพี่กันดีก่าเน๊อะ....>.<….
( ล่วงหน้ากันเป็นเดือนงี้แหละ....ก็ปีนี้มัน 09/09/09 นินา....>.<)
จะพยายามค่ะ.....>[]<.....
.
.
.
.
แถมนิดนึง.....^ ^….
.
.
.
.
“ เฮ้ย....ไอ้ฉลามสวะ....ไอ้สองสมการนั่นมัน NC กันโครมๆ แล้วแกกับฉันไม่เอามั่งเร๊อะ”
“ อยากถูกยันโครม ก็เข้ามาเลย ไอ้บ้าแซนซัส!!!!”
“ อืม.....แต่จะว่าไปแล้วฉันก็ไม่ค่อยชอบนักหรอก ไอ้ตัว N กับ ตัว C นั่นน่ะ”
“ ห๊ะ....”
“ ฉันชอบตัว S กับ ตัว M มากกว่า....ฉันว่ามันเข้ากับเราดี แกว่ามะ”
“ เข้ากับผีแกเซ่!!!! ไปไกลๆเลยนะว้อยยยย!!!!”
.
.
.
ฮิ้วววว.....ไม่ต้องขอเพราะว่าไม่เขียนให้หรอก เค้าไม่ถนัด SM วะฮะฮ่ะ......
( แล้วแกถนัดอะไรบ้างวะ.....เออ....จะว่าไปแล้ว......นั่นดิ......?)
อ่านเป็นอย่างเดียว...แต่ถ้าให้เขียน มันคงจะกลายพันธุ์เป็นฟิคสยองขวัญสั่นประสาทซะก่อนละมั้งนั่น5555
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และผู้ติดตามทุกท่านนะคะ....>.<….
ฮายาโตะตอนละเมอน่าสงสารอ่า ยามะได้ยินคงเจ็บจี๊ดๆ
ตอบลบเป็นไข้จนได้ เฮ้อ สมกับเป็นพี่ชายผู้อ่อนแอ - -; ยากยามะหายามาให้อีกแล้ววว
แต่หมอชามาลคะ ไม่ค่อยจะสนับสนุนเลยอ่ะ 555
มันมีเบื้องหลังอะไรอีกรึเปล่าเนี่ยยยยยย
แต่เขินแทนยามะตอนที่หมอโยนเจลมาให้ กร๊ากกกกกกก
จบตอนนี้ยามะคงโล่ง สารภาพออกไปซะที จะได้จีบดีๆซะที ฮ่าๆ
XS สงสารหลามน้อย SMเลยเหรอ ยังไม่ดีมั้งคุณป๋าล่ะก็ .. - -^
ยามะเอ๊ยย
ตอบลบสบายสักทีนะเธอ