KHR Au.fic [8059] IF ; I LOVE [05]


KHR Au.Fic [8059]    IF ; I LOVE   [05]


: KHR Fanfiction Au
: 8059  186927  XS
: Romantic
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ 






: ยามะเนียนใสกิ๊ง(อยู่รึเปล่านะ?)  ส่วนหนูฮายาโตะนิสัยจะไม่ตรงกับคาร์แรคเตอร์หลักนะตัวเอง...^ ^...ก็เค้าอยากเห็นหนูฮายาโตะเวอร์ชั่นน่ารักๆเอ๋อๆมั่งอ่ะ
.
.
.
.
.
.


แสงแดดอ่อนๆของยามเช้าสาดส่องเข้ามาให้ความอบอุ่นแก่บ้านหลังเล็ก แว่วเสียงเครื่องยนต์ครางหึ่งค่อยๆแล่นออกจากบ้านไปอย่างแช่มช้า ความหนาวเย็นที่ยังปกคลุมไปทั่ว ทำให้ใครหลายๆคนต่างยังคงซุกตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา...ร่างบอบบางผมสีเงินเองก็เช่นกัน....



ฮายาโตะ  ตื่นเถอะ....วันนี้พ่อออกไปแต่เช้าแล้วชั้นเองก็มีซ้อมเช้า...แต่ยังไงก็คงต้องไปด้วยกันละนะ  เขาเปิดประตูห้องของพี่ชายเบาๆ แล้วแทรกตัวเข้าไปช้าๆ ค่อยๆเดินอย่างเงียบเชียบไปยังข้างเตียงที่ร่างบางของพี่ชายนอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา โผล่ออกมาแต่ใบหน้าที่ยังคงหลับตาพริ้ม....



อืม....  เปลือกตาบางค่อยๆลืมตาขึ้น เผยให้เห็นดวงตาสีเขียวสวยที่ยังคงงัวเงีย ก่อนที่เปลือกตาบางจะปิดลงอีกครั้งพร้อมกับร่างบางของพี่ชายที่ซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มมากกว่าเดิม 



ตื่นเถอะ... เขาค่อยๆนั่งลงที่ข้างเตียง รู้อยู่แล้วว่าการปลุกร่างบางนี่ต้องใช้เวลามากทีเดียว เขาจึงต้องตื่นเช้ากว่าปกติเผื่อเวลาสำหรับการต้องมาแงะร่างบางๆนี่ออกจากที่นอน



อือ... ร่างกายที่รับรู้ได้ถึงการก่อกวน จึงพลิกตัวหนีเขาไปอีกทางทั้งที่ดวงตายังคงหลับพริ้ม  ความจริงแล้วเขาไม่ได้เบื่อหน่ายกับหน้าที่ที่ต้องคอยปลุกพี่ชายของเขาทุกๆเช้าแบบนี้เลย ในทางตรงกันข้าม เขากลับชอบที่จะมองดูใบหน้าน่ารักนั้นยามงัวเงีย และท่าทางเหมือนลูกแมวน้อยๆที่ซุกและพลิกตัวไปมาเวลาถูกก่อกวนยามนอน ...ใบหน้าแบบนี้..ท่าทางแบบนี้...จะไม่มีวันให้ใครได้เห็น.....



เอ้า...ลุกได้แล้ว หลังจากมองจนเพียงพอแล้ว คงได้เวลาที่จะต้องปลุกกันอย่างจริงจังซักที เขาค่อยๆคว้าแขนบางของพี่ชาย แล้วฉุดให้เจ้าตัวลุกขึ้นมานั่งอย่างช้าๆ  ร่างบางของพี่ชายก็ยังคงหลับตาอยู่ .....นั่งปรับสภาพอยู่พักใหญ่ ดวงตาที่เคยหลับพริ้มก็ค่อยๆลืมขึ้นช้าๆ พร้อมกับมือบางที่ยกขึ้นมาปิดปากก่อนที่จะหาวหวอดใหญ่



ไหวรึเปล่า   คำถามที่เขาต้องถามคนถูกปลุกทุกครั้งที่เขาต้องปลุกแต่เช้าแบบนี้....ความดันต่ำ.....



อื้อ... ร่างบางของพี่ชายตอบรับเบาๆ พร้อมกับค่อยๆลุกจากเตียง เดินลอยละล่องเข้าห้องน้ำไป เขาเองก็อยากจะนั่งดูอยู่ตรงนี้หรอกนะ แต่ว่าอาหารเช้าที่อุ่นอยู่ข้างล่างก็เริ่มส่งกลิ่นให้เขาลงไปดูแลมันแล้วละสิ



รอข้างล่างนะฮายาโตะ   ตะโกนบอกพี่ชายที่ยังคงเงียบอยู่ในห้องน้ำ คงอีกราวๆครึ่งชั่วโมงแหละถึงจะออกมา...ก่อนจะเดินออกไปจากห้องสายตาก็เหลือบมองไปเห็น รูปๆหนึ่งที่แปะอยู่บนบอร์ดข้างโต๊ะเขียนหนังสือของพี่ชาย...รูปเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ในชุดนักเบสบอลกำลังถือไม้เบสบอลยืนอยู่กลางสนาม....รูปสีน้ำที่พี่ชายของเขาวาดขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี้เอง....ถึงแม้จะดูบิดๆเบี้ยวๆไปบ้าง แต่เขาก็แน่ใจว่าคนในรูปนั่นคือ...เขา......พลันภาพรอยยิ้มของร่างบางในยามที่กำลังวาดรูปนี้ก็ปรากฏขึ้นในใจเขา ...นายยิ้ม...ในขณะที่คิดถึงฉัน....แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ที่ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อนาย...ฮายาโตะ....



ผ่านมาอาทิตย์นึงแล้วสินะ...กับเรื่องวุ่นวายที่ ฮิบาริ เคียวยะ พยายามจะเล่นงานเขาและพี่ชายของเขา ...ผ่านมาอาทิตย์นึงแล้วสินะ...ที่เขาแทบจะไม่ได้อยู่ห่างจากร่างบางของพี่ชายเลย ไม่ว่าจะไปไหนหรือทำอะไร เขาก็จะคอยเฝ้าอยู่ตลอด เขาอยากจะทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ผู้ชายคนนั้น เลิกตอแยพี่ชายเขาสักที ทำอะไรก็ได้...ให้มันหายไปจากโลกใบนี้ ...แต่ทว่า...ตอนนี้เขายังไม่สามารถทำอะไรได้ ในเมื่อสายตาที่หวาดผวาและร่างกายที่สั่นน้อยๆนี้ยังต้องการให้เขาอยู่เคียงข้าง...เขายังทำอะไรที่มันจะเป็นสาเหตุให้เขาต้องทิ้งเส้นผมนุ่มสลวยสีเงินนี้ไป  ไม่ได้  ....นับจากวันนั้นของเมื่ออาทิตย์ก่อน...ดูเหมือน ฮิบาริ เคียวยะเองก็กำลังสนุกกับการไล่ล่าเราสองคนอยู่ หมอนั่นจะหาโอกาสเข้าใกล้พี่ชายเขาทุกครั้งที่อยู่คนเดียว แม้เพียงไม่กี่นาทีก็ตาม ราวกับว่ามันเฝ้ามองพี่ชายของเขาอยู่ตลอดเวลาก็ไม่ปาน....เขาไม่รู้หรอกนะว่า ฮิบาริ เคียวยะคิดยังไงกับพี่ชายของเขากันแน่ ...เพราะไม่ว่าจะยังไง เขาก็ไม่เคยคิดจะยกร่างบางๆนั่นให้ใครอยู่แล้ว....ไม่ว่าเจ้านั่นจะรักพี่ชายของเขาแค่ไหนก็ตาม!!!



วันนี้มีอะไรกินน่ะ   เสียงทุ้มนุ่มของพี่ชายเรียกเขาออกจากความคิดในด้านมืดของตัวเอง ก่อนที่จะหันกลับไปส่งยิ้มสดใสให้กับร่างบางที่เดินลงมาจากบันได



ข้าวต้มกุ้ง พ่อทำเอาไว้ตั้งแต่เช้าแล้วแน่ะ ร่างบางของพี่ชายนั่งลงที่เก้าอี้พร้อมกับรับชามข้าวต้มไปเป่าเบาๆก่อนที่จะลงมือกิน....



นี่...ฮายาโตะ.... ไม่แน่ใจ...ว่าจะถามดีไหม...กลัวคำตอบที่จะได้รับ ...แต่บางครั้งเขาก็สงสัยจริงๆว่า พี่ชายของเขารู้สึกยังไงกันแน่



นายรำคาญรึเปล่า...ที่ฉัน....คอยเฝ้านายอยู่แบบนี้.... มือบางที่ตักข้าวต้มเข้าปากอยู่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะส่งยิ้มกวนประสาทเล็กๆมาให้เขา



แกก็เฝ้าชั้นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วนี่...ถ้าชั้นรำคาญก็คงเฉดหัวแกออกจากบ้านไปแล้วละ   รอยยิ้มสดใสนั่นทำให้เขาเบาใจไปได้อย่างน่าประหลาด ความกังวลที่เก็บอยู่ในใจมาหลายวันดูเหมือนจะผ่อนคลายลง



แล้ว...นายคิดยังไงกับหมอนั่น   มือที่ถือช้อนข้าวต้มชะงักไปอีกครั้ง...แววตาวูบไหวสั่นกลัวปรากฏขึ้นบนนัยน์ตาสีมรกตเพียงเล็กน้อย เหมือนจะพยายามปิดบังความกลัวที่ซุกซ่อนอยู่ข้างใน แต่มีหรือที่คนที่คอยเฝ้ามองนัยน์ตาคู่นั้นมาตลอดอย่างเขาจะมองไม่ออก....อย่างน้อย..นายก็ไม่ได้ชอบหมอนั่น...



ชิ....สักวันชั้นจะกระทืบมันให้เละเลยคอยดู  


ฮ่า ฮ่า ฮ่า


หัวเราะอะไรของแกน่ะ …..“  พี่ชายของเขาโวยวายอะไรตามมาอีกก็ไม่รู้....แต่ตอนนี้เขารู้สึกสบายใจอย่างที่สุด...ถึงแม้ว่าวันที่พี่ชายเขาจะทำอย่างที่ว่านั่นได้จะไม่มีทางมาถึงก็เถอะ แต่เขาล่ะ....เขาทำได้แน่...เพียงแต่...ขอให้แน่ใจเถอะว่าถ้าเขาทำ ร่างบางตรงหน้านี่จะไม่เสียใจกับความรู้สึกที่มีให้หมอนั่น...ฮิบาริ เคียวยะ
.
.
.
.
.
.
.
ยามเช้าแบบนี้ นอกจากพวกชมรมกีฬาแล้วก็คงไม่มีใครอยากเข้ามาเดินเล่นในโรงเรียนเป็นแน่....ตอนนี้เขาและบรรดาสมาชิกชมรมเบสบอลต่างก็กำลังฝึกซ้อมกันอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ท่ามกลางแสงแดดอบอุ่นยามเช้า สนามที่เต็มไปด้วยต้นหญ้าเขียวขจีดูกว้างใหญ่ แต่ภาพของร่างบางผมสีเงินสลวยพลิ้วเล็กน้อยเมื่อต้องสายลมบางเบาที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ข้างสนาม นั่นก็ไม่ไกลเกินกว่าสายตาของเขาจะมองเห็น ....



นี่แกจะต้องเฝ้าเจ้าสวะนั่นไปจนวันตายเลยหรอวะ....รีบๆจับกดแล้วประกาศให้ไอ้สวะตัวอื่นๆมันรู้ซะก็หมดเรื่อง   เสียงโหดๆและคำแนะนำแบบนี้ คงมีคนเดียวละที่จะกล้าเอ่ยออกมา....กัปตันของเขานั่นเอง....



คนอื่นน่ะ มีใครกล้าเสียที่ไหนล่ะ ...ไอ้คนที่มันกล้าก็มีอยู่รายเดียวเท่านั้นละ   เขาตอบกลับไปพอให้ได้ยินกันอยู่สองคน ...จริงอย่างที่พูด...ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงต่างก็ไม่มีใครกล้ามายุ่งกับพี่ชายของเขา เพราะนอกจากกิติศัพท์ความหวงพี่ของเขาที่ล่ำลือกันมานานแล้ว ใครจะอยากตายกล้ามายุ่งกับคนที่ ฮิบาริ  เคียวยะ  สนใจกันล่ะ



งั้น...ก็ไปกระทืบไอ้สวะกรรมการนั่นกัน   เพิ่งจะโดนเค้าเล่นงานมาไม่ใช่รึนั้น...ถึงอยากจะบอกแต่ก็คงเปล่าประโยชน์ พี่โหดตรงหน้านี่เคยฟังอะไรซะที่ไหน



จะไปไหน ไอ้บ้าแซนซัส!!!   อ้อ....อาจจะฟังคนคนนี้แค่คนเดียวละมั้งแต่ถึงไม่อยากจะฟัง เสียงพี่ท่านยังไงก็ต้องเข้ามาในโสตประสาทอยู่วันยังค่ำ



มีอะไรไอ้ฉลามสวะ   พวกชมรมว่ายน้ำเองก็ต้องมาซ้อมแต่เช้าเช่นกัน ฉะนั้นภาพสมาชิกชมรมว่ายน้ำวิ่งรอบสระในชุดวอร์มจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิด ...แต่...คนทั้งสนามเบสบอลจะไม่หันมามองร่างโปร่งผมสีเงินยาวที่คุ้นตาเลย ถ้าฉลามหนุ่มจะไม่ได้ใส่ชุดวอร์ม...สีชมพูแสนสดใสนั่น....



แกไปเป่าหูอะไร แม่ฉัน...ในตู้เสื้อผ้าฉันถึงได้มีแต่ชุดวอร์มสีอุบาทนี่น่ะว้อย!!! และแล้วสาเหตุของการแต่งตัวแปลกๆของฉลามหนุ่มในวันนี้ก็ได้เปิดเผยออกมาแล้ว....สองคนนี้...ก็ยังคงรักกัน โหด มันส์ ฮา เหมือนเดิม....มองภาพทั้งสองคนตรงหน้านี้แล้วก็อดอิจฉาเล็กๆไม่ได้แฮะ....



งั้น....วันนี้เลิกซ้อมแค่นี้ละกัน   เขาหันไปสั่งสมาชิกในชมรม แทนกัปตันที่เดินปิดหูหนีเข้าห้องพักชมรมไปโดยไม่ทันได้พูดได้จาไปแล้วเรียบร้อย...พร้อมด้วยเสียงโวยวายตามหลังไปติดๆ ....แค่นี้เหล่าสมาชิกของทั้งสองชมรมต่างก็รู้กันว่า...ไม่ควรเข้าไปใกล้บริเวณห้องพักนั้นๆ ถ้าไม่อยากประสาทหูเสื่อมหรือเห็นภาพเด็กดีไม่ควรดูเข้า



ฮายาโตะ   เดินเข้าไปเรียกร่างบางที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ใต้ร่มไม้ ให้เดินตามเขาไปยังหลังตึกเรียน  ก๊อกน้ำเรียงรายอยู่บริเวณนั้น มือบางของพี่ชายรับเอาผ้าขนหนูสีขาวของเขาไปถือไว้ ก่อนที่เขาจะก้มลงไปใกล้ก๊อกน้ำ ให้น้ำที่เย็นเฉียบได้ชะล้างคราบเหงื่อที่เกาะพราวอยู่ตามใบหน้าและต้นคอ มือหนาลูบใบหน้าของตัวเองก่อนจะหันไปหาร่างบางของพี่ชายที่กระโดดขึ้นมานั่งห้อยขาอยู่บนรางน้ำคอนกรีตขัดมันนั่น ผ้าขนหนูสีขาวถูกส่งกลับมาหาเขาอีกครั้ง



สภาพแบบนี้....เหมือนแฟนกันเลยเนอะ จู่ๆเสียงนุ่มๆของคนข้างๆก็ดังขึ้น มือของเขาที่กำลังเช็ดใบหน้าอยู่ชะงักลง เพราะคำพูดที่แทบจะไม่เชื่อตัวเองว่า หูแว่วไปหรืออย่างไร เขาจึงมองใบหน้าด้านข้างของพี่ชายด้วยความตกตะลึง 



ฮิ ฮิ....ถ้าชั้นมีแฟนแบบแก...ก็คงจะดีน้า   ใบหน้าที่ยิ้มสดใส ไม่ได้คิดอะไร เหม่อมองออกไปด้านหน้าของพี่ชาย จึงไม่ได้รู้เลยว่า...ตอนนี้เขาอยากจะรวบเอาตัวบางๆนั่นเข้ามากอดซักแค่ไหน....นายกำลังจะทำให้ชั้นคลั่ง...ฮายาโตะ



แกล่ะ...ไม่อยากมีแฟนน่ารักๆกะเค้าบ้างหรอ เห็นมากี่รายๆแกก็ปฏิเสธเรียบแบบนั้นน่ะ   ใบหน้าใสหันมาหาเขา นัยน์ตาสีเขียวที่ตอนนี้เขามองไม่ออกจริงๆว่า กำลังคิดอะไรอยู่สบมาที่ดวงตาสีน้ำตาลของเขา ......ระยะหลังๆมานี้ เขาแทบไม่ได้ห่างจากร่างบางของพี่ชายเลย เพราะฉะนั้นเวลาที่มีเด็กผู้หญิงเข้ามาสารภาพรัก พี่ชายของเขาจึงมักอยู่ด้วยและรับรู้เสมอ ......ว่าเขาจะไม่มีวันนอกใจ ไม่ว่าผู้หญิงพวกนั้นจะน่ารักแค่ไหนก็ตาม....เขาอยากให้เจ้าของเรือนผมสีเงินนั่นรับรู้ จึงมักฉุดรั้งแขนบางๆนั่นไว้ให้อยู่ฟังด้วยเสมอ



ถ้ามันเป็นเพราะฉัน...



ก็เพราะว่ายังไม่มีผู้หญิงคนไหนที่เหมือนนายน่ะสิ ฮายาโตะ   จะเรียกว่าสารภาพรักได้ไหมนะ....คนฉลาดอย่างพี่ชายเขา จะเข้าใจความหมายของมันหรือเปล่า....เขาแค่อยากจะพูดอะไรก็ได้ออกไป ก่อนที่พี่ชายของเขาจะโทษตัวเองไปมากกว่านี้ ไม่ใช่ว่าฉันต้องคอยอยู่กับนายจึงไม่มีเวลาไปหาคนรัก แต่เป็นเพราะว่าคนที่ฉันรักก็คือนายต่างหาก...ถึงอยากจะบอกให้รู้แค่ไหน แต่เขาก็ไม่กล้าพอที่จะบอกออกไป



ฮะ ฮะ....งั้นหรอ...แต่ว่านะ ทาเคชิ...บางทีฉันก็อดรู้สึกว่าเป็นเพราะตัวฉันเอง ที่ทำให้แกไม่มีเพื่อนสนิท เป็นเพราะตัวฉันเองที่ทำให้แกไม่มีเวลาให้กับคนที่แกควรจะรัก   แววของความกังวลใจฉายชัดบนใบหน้าขาวเนียนนั่น



คนที่ฉันควรจะรัก....ก็อยู่ตรงหน้าแล้วนี่ไงล่ะ   ตัวเขาก้าวเข้าไปยืนอยู่ระหว่างขาเรียวของคนที่นั่งอยู่บนรางน้ำ แขนเขาเผลอรวบร่างบางๆนั่นเข้ามากอดอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่     นายคือทุกอย่างของฉันนะ ฮายาโตะ...ฉันอยู่ข้างๆนายแบบนี้ก็ถูกแล้วนี่...ยิ่งนายกังวลมันจะยิ่งทำให้ฉันทรมานนะ... จำไว้...ฮายาโตะ   เขาละจากร่างกายอบอุ่นนั่นเพื่อที่จะจ้องมองเข้าไปที่นัยน์ตาสีเขียวสวยอย่างจริงจัง ยืนยันว่าทุกคำพูดที่เขากำลังจะเอ่ยออกไปนั้นมาจากหัวใจของเขาจริงๆ    ที่ฉันทำทุกอย่าง...ฉันเต็มใจ   แลเห็นนัยน์ตาสีเขียวเบิกกว้างก่อนที่เขาจะรวบร่างบางของพี่ชายเข้ามากอดอีกครั้งหนึ่ง...แนบแน่น...จนได้ยินแม้เสียงหัวใจที่เต้นระรัวของกันและกัน....กลิ่นหอมอ่อนๆจากเส้นผมสีเงินแสนนุ่มดึงดูดให้เขาฝังจมูกลงไป  จุมพิตที่หน้าผากมน ลากไล้ไปยังเปลือกตาบางที่ปิดลงรับสัมผัสบางเบาแต่มั่นคงที่เขาเป็นผู้กระทำ ไล่ไปยังแก้มเนียนใสก่อนที่จะไปหยุดลงที่ริมฝีปากนุ่มนิ่ม...เนิ่นนาน...ถึงแม้ว่าร่างบางในอ้อมแขนจะไม่ได้ปฏิเสธหรือขัดขืน แต่เขาก็รู้ว่าควรจะหยุดลงแค่นั้น ก่อนที่จะสูญเสียการควบคุมตัวเองไปมากกว่านี้....



ไปข้างในอาคารกันเถอะ...ตรงนี้เย็นจะตาย เดี๋ยวนายจะไม่สบายอีก   อีกเหตุผลหนึ่งที่เขาต้องหยุด เพราะหางตาแลไปเห็นเด็กผู้หญิงสองสามคนที่คงจะบังเอิญเดินผ่านมา วิ่งหน้าแดงหนีไปทางมุมตึกนั่น



เข้าใจแล้ว   แก้มใสของพี่ชายแดงระเรื่อ เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่ชายจะเข้าใจว่าอะไรกันแน่  เขาจับมือบางๆที่เริ่มจะเย็นเข้ามากุมไว้ก่อนที่จะพากันเดินเข้าไปในตัวอาคาร....



ก่อนจะเหยียบพื้นที่เงาวับของตัวอาคาร ก็ อดที่จะหันกลับมาส่งยิ้มเย็นไปยังชั้นสองของอาคารที่ตั้งขนาบกันอยู่นั่นไม่ได้ ...ห้องรับแขก....ที่ที่มีสายตาเย็นชาและจิตสังหารส่งมายังเขาอย่างรุนแรงตั้งแต่เริ่มแรกที่เขาเดินมายังบริเวณก๊อกน้ำแห่งนี้กับร่างบางของพี่ชาย.......แล้วแกจะได้รู้...ว่าแกไม่มีวันได้เค้าไป  ฮิบาริ  เคียวยะ....


.
.
.
.
.
.
.
.

ของแถมวันนี้.....ไม่ใช่ XS แฮะ....แต่จะเป็นใครนั้น....สมการใหม่กำลังจะเริ่มมีออกมาให้คำนวณ ณ บัดนี้!!!

.
.
.
.
.
รัก.....สินะครับ

........

คุณไม่คิดบ้างหรือครับ ว่าการเข้าไปแทรกระหว่างสองคนนั้นน่ะ มันก็มีแต่จะทำให้ตัวคุณเองต้องเจ็บปวด

......

เพราะถึงคุณจะแย่งเค้ามาได้สำเร็จ  แต่สายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขนาดนั้น ไม่มีทางที่จะตัดได้ขาดแน่นอน  ถึงจะได้ตัวเค้ามา แต่หัวใจที่เจ็บปวดมันจะไม่ทำให้คุณเจ็บปวดยิ่งกว่าหรอกหรือ

ไม่ใช่เรื่องที่แกจะต้องเข้ามายุ่ง...ไอ้พืชล้มลุก

มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมอยากจะเข้าไปยุ่งนักหรอกนะครับ...ถ้ามันไม่ใช่เรื่องของคนที่ผมเองก็....รัก

ใคร

คึหึหึ

ฉันถามว่าแกรัก...ใคร...

ถ้าเค้าคนนั้นไม่เคยที่จะรู้ตัว...ผมก็ไม่คิดที่จะบอกหรอกนะครับ...ผมแค่ไม่อยากให้เค้าเจ็บปวด

.......
                                                   
ผมไปนะครับ...


.
.
.
.
.
.
.
.


ซึ ซึ คู๊......



3 ความคิดเห็น:

  1. ย๊าาาาาา ยามะได้จูจุ๊บแล้ววว ><
    ก๊กโมเอ้มากเลยค๊าา น่ารักน่าปกป้องจริงๆงิ
    ตลกหลาม เสื้อสีชมพู มันนึกภาพไม่ออกเลยแฮะ
    คู่สุดท้ายนี่คง 6918 ??? โว๊ววววว =O= ~

    ตอบลบ
  2. สับป้ารักท่านฮิชัวร์

    ตอบลบ
  3. ใช่แน่ๆมุคุโร่ รักท่านฮิชัวร์

    ตอบลบ