KHR Au.Fic [8059] IF ; I LOVE [03]
: KHR Fanfiction Au
: 8059 186927 XS
: Romantic
: NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
: ยามะเนียนใสกิ๊ง ส่วนหนูฮายาโตะนิสัยจะไม่ตรงกับคาร์แรคเตอร์หลักนะตัวเอง...^ ^...ก็เค้าอยากเห็นหนูฮายาโตะเวอร์ชั่นน่ารักๆเอ๋อๆมั่งอ่ะ
.
.
.
.
.
โรงพยาบาลไม่ใหญ่ไม่เล็กสมกับที่เป็นโรงพยาบาลประจำเมืองนามิโมริ เวลาเย็นแบบนี้แทบจะไม่มีผู้คน ทำให้บรรยากาศดูวังเวงเข้าไปใหญ่ พี่ชายเดินนำหน้าเขาเข้าไปในตัวอาคารด้วยความคุ้นเคย พยาบาลที่กำลังจะออกจากเวรหันมาทักทายเราสองคนอย่างเป็นกันเอง ...ก็ที่นี่น่ะพี่ชายของเขาเข้าออกเป็นว่าเล่นพอๆกับการไปโรงเรียนเลยละ ....เอาละ...เริ่มนับละนะ...หนึ่ง....สอง...สา....
“ ฮา....ยา...โตะ....จาง.....” นั่นไง ยังนับไม่ถึงสามเลยด้วยซ้ำวันนี้ ราวกับว่าเจ้าหมอชีกอนั่นแอบติดเซ็นเซอร์เอาไว้ที่ตัวพี่ชายของเขาก็ไม่ปาน เพราะไม่ว่าพี่ชายของเขาจะเหยียบเข้ามาที่นี่ในเวลาไหน เจ้าหมอชีกอนั่นก็จะรู้อย่างกับมีผีบอกแล้วก็วิ่งแจ้นออกมารับอย่างที่กำลังวิ่งออกมานี่แหละ ถ้าไม่ติดว่าหมอนั่นเป็นหมอคนเดียวที่สามารถรักษาอาการทุกอย่างของพี่ชายเขาให้หายได้ละก็ ป่านนี้เขาคงจะเอาไม้เบสบอลฟาดจนลงไปกองกับพื้นแล้วละ
“ เอาหน้าแกออกไปไกลๆเลยนะ ไอ้หมอบ้า วันนี้คนที่แกจะต้องรักษาคือทาเคชิ ไม่ใช่ฉัน“ พี่ชายของเขากำลังเอามือผลักใบหน้ารกครึ้มไปด้วยหนวดเคราของเจ้าหมอชีกอ ชามาล ออกจากใบหน้าของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ ฮือม์...ฉันไม่รักษาตัวผู้ ไปไกลๆเลยชิ้วๆ“ ยังมีหน้ามาพูดแบบนั้นอีกแน่ะ ก็แล้วพี่ชายของเขาไม่ใช่ผู้ชายรึยังไงกัน
“ เอะอะ โวยวายอะไรกัน“ เสียงเย็นๆของหญิงสาวดังขึ้นข้างหลังพวกเรา แต่แค่เสียงก็เพียงพอแล้วสำหรับพี่ชายของเขา
“ อ้าว...ฮายาโตะเองหรอ เป็นอะไรอีกล่ะวันนี้ มาให้ฉันรักษาดีกว่านะ“ ใบหน้าสวยของคุณหมอเบียงกี้ก้มลงมามองพี่ชายของเขาอย่างเป็นห่วงเป็นใย โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ตัวเองนั่นแหละที่ทำให้อาการพี่ชายของเขากำเริบขึ้นมา เมื่อตอนเด็กๆคุณหมอสาวสวยคนนี้เคยเป็นแพทย์ประจำตัวของพี่ชาย แต่ด้วยความที่คุณเธอใช้พี่ชายเขาเป็นหนูทดลองยาสารพัด ร่างกายบอบบางนั่นจึงมีปฏิกิริยาเป็นพิเศษเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณหมอคนสวยนี่
“ มะ...ไม่ต้อง....” แล้วพี่ชายก็กุมท้องที่ส่งเสียงโครกครากนั่นเข้ามาหลบอยู่ข้างหลังเขา
“ อ่ะ...เบียงกี้จังมาพอดีเลย ช่วยดูแลเจ้านี่แทนฉันหน่อยนะ“ เมื่อหาทางชิ่งได้ เจ้าหมอชีกอไร้ความรับผิดชอบนั่นก็โยนเขาให้คุณหมออีกคนทันที
หลังจากที่ตรวจร่างกายอยู่พักใหญ่ คุณหมอก็เอาเฝือกมาสวมที่แขนซ้ายของเขาโดยที่ไม่ได้บอกอะไรเลยซักคำ จากนั้นจึงทายาอะไรบางอย่างเหนียวๆเย็นๆที่หลังของเขาแล้วเอาผ้าพันไว้ แล้วจึงเดินไปยื่นถุงกระดาษใบหนึ่งให้พี่ชาย แล้วไล่พวกเราออกจากโรงพยาบาลทันที ตกลงคุณเธอจะไม่ให้พวกเรารู้หน่อยเลยหรือว่า ผมเป็นอะไรกันแน่
“ ในฉลากนี่เขียนเอาไว้ว่า ให้ทาวันละสองครั้งแล้วพันผ้าพันแผลเอาไว้ ส่วนนี่กินแก้อักเสบ พร้อมกับใบนัดเอาเฝือกออกอีกสองสัปดาห์“ พี่ชายของเขารื้อถุงยานั่นออกมาอ่านดังๆให้เขาได้ยิน ในระหว่างทางที่เดินกลับบ้าน ตอนนี้แผลของเขาเบาเจ็บไปเยอะแล้ว แต่ที่ยังค้างคาอยู่ในใจก็คือ สายตาและคำพูดของเจ้ากรรมการรักษาระเบียบนั่นมากกว่า เจ้านั่นต้องการอะไรกันแน่....
“ นี่ ...ฮายาโตะ“ เรียกร่างบางตรงหน้าพร้อมกับหยุดยืนอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่เหลือเพียงแต่กิ่งก้าน รอบๆตัวมีเพียงแสงสลัวๆจากไฟข้างทางที่เก่าแสนเก่า ไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิตอื่นใดในบริเวณนี้
“ อะไร“ ดวงตาสีมรกตมองมาที่เขาด้วยความสงสัย เขายื่นมือออกไปลูบใบหน้าของร่างตรงหน้าอย่างหลงใหล
“ ฉัน...ตัดสินใจแล้ว...ต่อให้ต้องเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก ฉันก็จะปกป้องนาย จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายนาย“ และจะไม่ยอมยกนายให้ใคร ....นั่นคือประโยคที่เขาเก็บซ่อนมันเอาไว้
“ เจ้าน้องบ้า แกพูดอย่างกับฉันเป็นเจ้าหญิงอย่างงั้นแหละ“ ร่างบางของพี่ชายหันหลังให้เขา เงยหน้าเหม่อมองกิ่งก้านไร้ใบของต้นไม้ใหญ่ เขาไม่รู้เลยว่าสีหน้าของพี่ชายจะเป็นอย่างไร ดีใจ...หรือ...รังเกียจ
“ แต่ฉัน...ก็ดีใจนะ...ดีใจที่ตลอดมามีแกคอยอยู่ข้างๆ....พูดตามตรง ฉันเองก็ยังจินตนาการไม่ออกเลย...วันที่ฉันไม่มีแก....” เสียงของพี่ชายแผ่วเบาลงไป
“ ถ้าฉันจะไม่ไปไหน....ถ้าฉันจะขออยู่ข้างๆนายตลอดไป จะได้ไหม“ ถ้าฉันจะรักนาย ...อีกประโยคที่เขาจะเก็บซ่อนมันเอาไว้ ให้ลึกที่สุดในหัวใจ ไม่อยากให้นายลำบากใจ ไม่อยากให้นายรังเกียจ ฉันยอมอยู่โดยที่เป็นได้แค่น้องชายของนาย ขอแค่ได้อยู่ข้างๆ ขอแค่เป็นคนสำคัญเพียงคนเดียวของนาย ....ขอแค่นั้น......มันจะมากไปไหมนะ ....ไม่สิ...สำหรับเขาแล้ว...แค่นั้น....มันจะพอไหมนะต่างหาก....ในเมื่อทุกครั้งที่นึกถึงหน้าคนที่ประกาศศึกกับเขา เขาก็แทบจะทนไม่ไหว ....หวง....
“ ฮิ ฮิ...จะอยู่ไปจนเป็นคุณปู่เลยก็ได้ ตามสบาย ตราบใดที่แกยังปั่นจักยานให้ฉันซ้อนอยู่น่ะนะ“ ร่างบางของพี่ชายหันกลับมายิ้มให้เขา รอยยิ้มที่เป็นของเขา ของเขาแต่เพียงผู้เดียว ....มือที่เผลอรวบร่างตรงหน้าเข้ามากอด ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีเงินดูแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ได้แต่ยืนนิ่งให้เขากอดเอาไว้ มือบางเลื่อนขึ้นมาลูบหัวเขาเบาๆ ...ดีแล้วละที่นายยังคงคิดว่าฉันรักนายเหมือนที่น้องชายควรจะรัก ไม่ใช่ความรู้สึกแบบที่ฉันเป็นอยู่ ....พยายามที่จะไม่เรียกร้องอะไรจากนาย...ถึงแม้ว่ามันจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากก็เถอะ ......นานเท่าไหร่กันนะ ที่เราสวมกอดกันและกันอยู่แบบนั้น กับความรู้สึกที่สวนทาง....
“ ทาเคชิ....แกเป็นอะไรหรือเปล่า....ไม่สบายใจอะไรหรอ“ ในที่สุดร่างในอ้อมกอดก็พูดออกมาเบาๆ ด้วยเป็นห่วงในตัวเขา นั่นทำให้เขาต้องยอมละจากร่างกายอันอบอุ่นและบอบบางตรงหน้า
“ ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่เป็นห่วงนาย ...สัญญาได้ไหมว่าจะไม่อยู่ใกล้เจ้าฮิบาริ เคียวยะนั่น“ ใช่ฉันเป็นห่วงนาย...แล้วฉันก็หวงนายมากด้วย ...ฉันยอมรับ
“ ฮะ ฮะ....ใครจะบ้าไปอยู่ใกล้เจ้านั่นกันล่ะ ฉันยังไม่อยากเจอหน้าเจ้าชามาลเร็วๆนี้หรอกนะ“ ร่างบางตรงหน้ายิ้มให้เขาอย่างสบายใจ รอยยิ้มที่ทำให้เขาเย็นลง
“ สัญญาอีกด้วยว่า จะไม่ไปไหนมาไหนคนเดียว“ เขามองดวงตาสีเขียวนั่นแกมบังคับ
“ สัญญาๆๆๆ สบายใจรึยัง“ ใบหน้ากวนๆของร่างบางอมยิ้มมองเขา เห็นแค่นั้นเขาก็อดที่จะยิ้มตอบกลับไปไม่ได้
“ กลับบ้านกันเถอะ มืดขนาดนี้แล้ว ร้านก็ไม่ได้ไป บ้านก็ยังกลับไม่ถึง ...ป่านนี้พ่อตามหาแย่แล้ว“ ร่างบางของพี่ชายออกเดินนำหน้าเขา ร่างของเราสองคนหายเข้าไปในแสงสลัวของเส้นทางอันมืดมัว ถึงจะมืดแค่ไหน แต่เขารู้...สักวันมันคงจะมีแสงสว่างที่จะเป็นของเขาบ้าง เขาจะอดทน...รอมัน........
.
.
.
.
.
.
.
คนที่ยังกลับไม่ถึงบ้านน่ะ ไม่ได้มีแต่สองคนนี้หรอกนะ
“ ฉันว่ามันต้องเลี้ยวขวา “
“ ก็แล้วฉันเลี้ยวมากี่ขวาแล้วละวะ!!! ไม่เห็นแม้แต่เงาบ้านแกกับบ้านฉันเลยโว้ย!!! “
“ แกนี่มันสวะจริงๆ เลี้ยวขวาไม่เจอก็เลี้ยวซ้ายไปสิวะ “
“ ขอโทษเถอะไอ้คุณแซนซัส ชั้นขอถีบแกแทนไอ้จักรยานเฮงซวยนี่ได้ไหมวะ!!! “
“ นั่นมัน...”
“ อะไรอีกละโว้ยยยย “
“ หยุดการหลงทางของแกชั่วคราว แล้วไปกินข้าวกันก่อนดีกว่าไอ้ฉลามสวะ “
……ได้ข่าวว่าคนที่ทำให้กรูหลงคือเมิงมิใช่หรอ...ไอ้บ้าแซนซัส!!!.....
.
.
.
.
.
.
อีกนิด
“ ทา...เค...ชิ“ ได้ยินเสียงเรียกของพี่ชายจากหน้าห้องของเขา ตามมาด้วยเสียงเคาะประตูสองสามที ก่อนที่อีกคนจะถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามา เขาก็อยากจะเดินไปเปิดประตูให้อยู่หรอกนะ ถ้าเขาไม่ได้กำลังต่อสู้กับไอ้เจ้าผ้าพันแผลตัวแสบอยู่นี่น่ะ ในขณะที่เขากำลังจะแกะมันออกอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่มันก็พยายามที่จะพันตัวเขาให้แน่นขึ้นอย่างเอาเป็นเอาตายเช่นกัน
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า...เล่นอะไรของแกแต่เช้าน่ะ“ แทนที่เจ้าตัวต้นเหตุจะเข้ามาช่วยเขา ดันมายืนหัวเราะอยู่ตรงหน้าประตูซะนี่ เขาเลยทำหน้างอนใส่ไปซะทีนึง ถ้าแขนเขาใช้การได้ทั้งสองข้างละก็นะ .....
“ มานี่...เดี๋ยวฉันพันให้ รอแกพันเองแบบนี้ วันนี้คงไม่ได้ไปโรงเรียนหรอก“ ร่างบางของพี่ชายค่อยๆหย่อนตัวนั่งคุกเข่าลงบนเตียงด้านหลังเขา เตียงที่ยุบลงไปเล็กน้อยและไออุ่นจากด้านหลังทำให้เขาเผลอยิ้มออกมา มือบางของพี่ชายค่อยๆดึงผ้าพันแผลออกจากตัวเขา แผ่นอกของพี่ชายกับแผ่นหลังของเขาคงอยู่ห่างกันไม่มากนัก เขารับรู้ได้จากความนุ่มของเสื้อเชิ้ตบางเบาที่สัมผัสโดนหลังของเขาในบางครั้งที่ร่างบางเอื้อมมือมาจับผ้าพันแผลที่อยู่ด้านหน้า ก่อนที่จะบีบยาลงบนฝ่ามือบางนั่นแล้วลูบเบาๆที่หลังของเขา ....เนื้อครีมเย็นๆกับมือนุ่มๆนั่นทำให้เขารู้สึกดีไม่น้อย ....ร่างบางของพี่ชายย้ายมานั่งอยู่ข้างหน้าเขาก่อนที่จะจับผ้าพันแผลพันไปรอบๆตัวเขา การกระทำที่ราวกับจะโอบกอดเขาไว้นั้น ผสมกับกลิ่นกายหอมอ่อนๆและใบหน้าที่อยู่ใกล้แค่คืบ ทำให้เขาถึงกับเผลอกลืนน้ำลายลงคอ
“ หิวเหรอ“ น่าน...ดันได้ยินอีกแน่ะ …..ใบหน้าสวยนั่นเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
“ อืม“ หิว...นั่นสิ...เขาหิวอะไรกันแน่ อยากกินอะไรกันแน่...
“ เสร็จแล้ว ลงไปกินข้าวเหอะ พ่อเตรียมอาหารบำรุงให้แกเพี้ยบ“ ร่างบางผมเงินกระโดดลงจากเตียงของเขา แล้ววิ่งนำลงไปข้างล่าง ....บางที...เขาก็ไม่ค่อยอยากจะหายป่วยเลยแฮะ ....
ซึ ซึ คู๊......
แอร๊ยยยย อิจฉายามะ อยากกดหนูก๊ก โฮกก น่ารักไปแล้วนะ
ตอบลบโดนพันแผลด้วยท่าแบบนั้นอดทนได้ถือว่าเก่งมากยามะ 555
คู่ XS นี่คู่รั่วจริงๆแฮะ - -' ป๋าแซนตลกอ้ะ ทำเค้าหลง ฮ่าๆ
หิวอารายอ่า~
ตอบลบโฮะๆๆๆๆ มามะๆ
มาปรึกษาพี่ดีกว่าน้องยามะ555+