Attack
on Titan. Au S.Fic [Levi x Eren] ในห้อง...ที่แสงส่องไม่ถึง : 07
:
Attack on Titan Fanfiction AU
:
Levi x Eren
:
Dark Romance
:
NC-17
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย
หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
นายทหารที่มาแจ้งข่าวกลับไปนานแล้ว
แต่แสงไฟจากตะเกียงยังคงส่องสว่างให้เห็นร่างสองร่างที่นอนเคียงข้างกันอยู่บนเตียง
จะปล่อยให้แสงสลัวๆนั้นดับลงไปไม่ได้
ตราบใดที่ดวงตาสีมรกตยังคงไม่อาจข่มให้หลับลง
อย่างน้อยๆแสงริบรี่พวกนี้ก็ยังทำให้เอเลนพอจะเห็นได้ว่าที่ข้างกายยังมีร่างของเขาอยู่เคียงข้าง...ร่างโปร่งบางนั่นไม่ได้อยู่คนเดียว....
“
นอนซะเอเลน...พรุ่งนี้เราต้องไปศูนย์บัญชาการกลางแต่เช้า” สองแขนกอดกระชับให้ร่างโปร่งบางขยับเข้ามาใกล้
ให้ใบหน้าที่ยังตาเบิกค้างซุกลงมารับความอบอุ่นจากแผงอก
ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ากอดอีกฝ่ายเอาไว้ให้แน่นที่สุด
“
หัวหน้า....ผมไม่ได้ทำ....ผมไม่ได้ทำ......”
น้ำเสียงสั่นเครือนั้นฟังดูตื่นกลัวจนน่าสงสาร
“
ชั้นรู้......” เสียงกระซิบแผ่วเบาดังออกไปพร้อมๆกับริมฝีปากที่จูบลงไปที่หัวสีน้ำตาล
“
ชั้นรู้........”
พร่ำยืนยันคำเดิมซ้ำๆหากมันจะทำให้จิตใจของเจ้าเด็กในอ้อมแขนไม่แตกสลายไปเสียก่อน
เขารู้...เขารู้ดีว่าไม่ใช่ฝีมือของเอเลน....
เพราะเขารู้ดีที่สุดถึงสภาพของเจ้าเด็กนี่ในตอนนี้....ว่าแม้แต่จะแปลงเป็นไททันก็ยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ....
จิตใจที่ขาดความมุ่งมั่นเพราะถูกริบเอาความฝันไป
อีกทั้งยังโดนบีบคั้นจากสายตาของทุกคนว่าเป็นตัวอันตราย เป็นปิศาจร้าย...อย่าว่าแต่จะแปลงเป็นไททันไปอาละวาดที่ไหนเลย....แม้แต่ลมหายใจก็ยังไม่อยากจะรักษาเอาไว้ด้วยซ้ำ
เรื่องนี้มันต้องมีเบื้องหลังอะไรแน่ๆ
และเขาก็จะไม่ยอมปล่อยให้มันมาพรากเอาเจ้าเด็กนี่ไปจากเขาแน่....
ท้องฟ้าวันนี้นัยน์ตาสีมรกตเห็นว่ามันมีแต่ความมืดมัวทั้งๆที่มันก็ยังคงสว่างใสเช่นปกติ
สองขาก้าวช้าๆไปตามระเบียงทางเดินราวกับว่ามันไม่ใช่ระเบียงทางเดินของกองบัญชาการกลางแต่เป็นทางไปสู่แดนประหาร หลายต่อหลายครั้งที่ร่างโปร่งบางหยุดเดินเอาเสียดื้อๆจนอีกคนที่เดินนำหน้าต้องหันมาลากให้เดินต่อไป
ถึงแม้ว่าใบหน้ามนจะก้มมองพื้นแทบจะตลอดทาง
ทว่านัยน์ตาสีมรกตก็มีบ้างที่เหลือบขึ้นมาสบตากับคนที่เดินสวนมา
และทุกครั้งที่เห็นสายตาของทหารพวกนั้นมันก็มีแต่จะทำให้หัวใจรู้สึกชา
แม้แต่สายตาของคนที่นี่ก็ยังหวาดกลัวเขาแบบนี้....
แม้แต่ทหารด้วยกันก็ยังไม่มีใครเชื่อใจเขา....
ขาสองคู่มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูชั้นสองของตึกกลาง
ร่างสูงใหญ่ที่คุ้นตาทำให้ใบหน้าของหัวหน้ารีไวถึงกับบึ้งตึงขึ้นมาทันที
“
เอลวิน? ทำไมนายมาอยู่ที่นี่?”
“
ทีมสำรวจถูกเรียกตัวกลับมากะทันหันน่ะ”
สองมือของหัวหน้ารีไวถึงกับกำแน่น
เพราะคงรู้ตัวแล้วว่าความเชื่อมั่นกำลังถูกสั่นคลอน.....ทั้งๆที่เรื่องของไททันหากมีตนแค่คนเดียวก็สามารถจัดการได้....แต่กับไททันตัวสุดท้ายอย่าง
เอเลน เยเกอร์....กลับไม่มีใครไว้ใจ...ว่าหัวหน้าทหารรีไวจะจัดการได้จริงๆ
บางที....การมารายงานตัวในครั้งนี้....น้ำหนักในคำพูดของหัวหน้ารีไวอาจจะไม่ได้รับความเชื่อถือเลยก็เป็นได้
เพราะดูเหมือนเบื้องบนก็จะรู้ดี...ว่าแท้ที่จริงแล้วหัวหน้ารีไวเป็นคนที่รักลูกน้องของตัวเองขนาดไหน...แล้วยิ่งกับเขาที่อยู่ด้วยกันมานาน
ถ้าจะคิดว่าหัวหน้ารีไวอาจจะเข้าข้างเขาจนยอมปกปิดเรื่องเลวร้ายของเขาเอาไว้....มันก็คงจะเป็นได้
ทั้งๆที่ความจริงมันไม่ใช่.....
เราตกลงกันเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว....ว่าหากเขาอาละวาดหรือขาดสติขึ้นมาเมื่อไหร่....หัวหน้ารีไวจะเป็นคนจัดการ....ด้วยมือของตัวเอง
คำสัญญานั้นจะไม่มีวันเปลี่ยน.....
เพราะมันคือสิ่งที่คนรักกัน....จะทำให้กันได้....
“
ไม่ต้องห่วง....ทีมสำรวจยังมีอำนาจการต่อรองเพียงพอ...อย่างน้อยก็จะไม่ให้ใครควบคุมตัวนายไว้นอกจากพวกเรา”
มือใหญ่ๆของหัวหน้าเอลวินบีบลงมาที่ไหล่ของเขา ใบหน้าที่ประดับไว้ด้วยรอยยิ้มน้อยๆทำให้รู้สึกอุ่นใจจนนัยน์ตาเบิกกว้าง
มาคิดอีกที...การที่หัวหน้าเอลวินกลับมาอาจจะดีแล้วก็ได้
เพราะสถานการณ์แบบนี้ให้คนที่ใจเย็นและเป็นผู้ใหญ่จัดการ
ย่อมดีกว่าให้คนใจร้อนสองคนต่อสู้กับพวกเบื้องบนกันเอง
ก็นับว่ายังดีที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุดยังมีความเชื่อในตัวเขาเหลืออยู่บ้าง
เพราะการมารายงานตัวครั้งนี้ไม่ได้ทำในศาลทหาร
แต่พวกเขาทั้งสามคนกลับถูกเชิญเข้าไปที่ห้องทำงานของผู้บัญชาการเอง
เขาเพียงแค่เข้าไปยืนให้อีกฝ่ายไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้า
จากนั้นก็ให้ออกมานั่งรอข้างนอกตามลำพัง
ส่วนหัวหน้าเอลวินกับหัวหน้ารีไวยังอยู่ข้างใน
จำเลยอย่างเขาคงไม่มีอะไรให้ต้องพูดมากนัก
คนที่จะโดนซักมากกว่าใครก็คงหนีไม่พ้นหัวหน้ารีไวที่ยืนยันว่าตนคือพยาน...ว่าไททันที่ก่อเหตุนั้นไม่ใช่เขา....เพราะเราอยู่ด้วยกันตลอดเวลา....
เข็มนาฬิกาที่เดินผ่านไปนั้นมันช่างเชื่องช้าจนแทบจะทนรอไม่ไหว
นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองไปที่ประตูตั้งไม่รู้กี่รอบ
ในใจนึกห่วงหัวหน้ารีไวมากกว่าตัวเองเสียอีก
แผ่นหลังบางเอนพิงไปกับพนักของเก้าอี้ไม้
สายตาทอดอาลัยเมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา.....
เขาไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าตัวเองจะได้มาเดินเข้าเดินออกห้องของผู้บัญชาการทหารสูงสุดแบบนี้
ไม่คิดเลยจริงๆว่าจะได้มาคลุกคลีอยู่กับคนระดับสูงอย่างหัวหน้าเอลวิน....และยิ่งไม่เคยคิด....ว่าเขาจะได้มายืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชายที่เขาหลงใหลอย่างหัวหน้าทหารรีไว
ไม่เคยคิด.....ว่าเราจะกลายมาเป็นคนรักกัน....
ใบหน้ามนเผลอยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัวเมื่อนึกถึงภาพในวันวานที่เขาเป็นเพียงแค่ทหารฝึกหัดซึ่งเคยไปชะเง้อคอมองกองทหารทีมสำรวจขี่ม้าออกนอกกำแพงไป....ได้แต่มองแผ่นหลังที่ไม่ได้ใหญ่โตทว่ากลับให้ความรู้สึกว่าจะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้ของผู้ชายร่างเล็กคนนั้นด้วยสายตาชื่นชม
ก็แค่อยากจะกล้าหาญ
อยากจะเก่งกาจแบบนั้นบ้าง....สักเสี้ยวเดียวก็ยังดี
เพราะไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นอะไรไปได้นอกจากมนุษย์ธรรมดาๆ
จึงไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งตัวเองจะกลายเป็นคนพิเศษถึงขนาดต้องให้ผู้ชายที่อยู่เกินเอื้อมคนนั้นมาคอยดูแล
ถึงจะถูกใช้กำลังบังคับสาระพัด
ถูกล่ามถูกขังถูกทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยในฐานะลูกผู้ชาย
แต่เขาก็รับรู้ความรู้สึกบางอย่างที่ส่งผ่านมากับคำว่า "นายเกลียดฉันหรือเปล่า"
นั่นได้....ว่าอีกฝ่ายทำเรื่องแบบนี้กับเขาแค่คนเดียวเท่านั้น
ครั้งหนึ่งเขาก็เคยดีใจที่ตัวเองเป็นไททัน....เพราะมันทำให้สายตาของหัวหน้ารีไว...สายตาของคนที่เขาหลงใหล....มองแต่เขาเพียงผู้เดียว
ภาพของช่วงเวลาแห่งรอยยิ้มที่มีทั้งสุขและทุกข์
ภาพที่เขาเคยร้องไห้เพราะหวาดกลัวอีกฝ่าย
ภาพที่หัวหน้ารีไวเคยใช้กำลังบังคับให้เขามีเซ็กส์ด้วย
ภาพที่เขาเอาแต่เฝ้ากังวลว่าอีกฝ่ายทำไปเพราะเห็นเขาเป็นแค่เครื่องระบายอารมณ์หรือไม่ก็เพราะการทดสอบไททัน
ภาพใบหน้าบูดๆที่กำลังโมโหกับความคิดไร้สาระของเขา ภาพที่อีกฝ่ายยอมง้อด้วยการบังคับให้เขาวิ่งไปทั่วสวนดอกไม้เพื่อตามหาดอก
Tuber
Rose
ภาพที่เขาร้องไห้จนหลับคาอกอีกฝ่ายเมื่อได้รู้ความหมายของดอกไม้ดอกนั้น
ภาพของทุกๆวันที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของเขากับเสียงติดจะรำคาญของอีกฝ่าย
ภาพที่หัวหน้ารีไวคอยปกป้องเขาจากไททันตัวอื่นๆ ภาพที่เราร่วมเป็นร่วมตายกันมาหลายต่อหลายครั้ง.....ภาพที่เราได้แต่เหม่อมองท้องฟ้ากว้างอยู่บนหลังคาปราสาทด้วยกัน
เขาอาจจะไม่ได้มีชีวิตที่ยาวนานเท่ากับคนอื่นๆ
แต่การได้รับความรักจากหัวหน้ารีไวมันก็ทำให้เขาคิดว่า
เขาได้ใช้ชีวิตที่คุ้มค่ามาเพียงพอแล้ว
ไม่ว่าคำตัดสินจะเป็นอย่างไร....เขาก็จะน้อมรับมันเอาไว้.....
ประตูไม้ที่สลักเสลาอย่างประณีตสวยงามค่อยๆแง้มออกช้าๆ
หัวหน้าเอลวินก้าวขาออกมาด้วยสีหน้าเบาใจและรอยยิ้มที่ส่งมาให้มันก็ทำให้เขาเข่าแทบทรุดด้วยความโล่งอก
"
กลับปราสาทกันเถอะเอเลน...เบื้องบนยอมเชื่อว่าไม่ใช่ฝีมือเธอ...."
เขาได้แต่มองใบหน้าของหัวหน้าเอลวินด้วยสายตาขอบคุณก่อนจะหันไปสบตากับอีกคนที่เดินตามออกมาด้วยใบหน้านิ่งเฉยตามเดิม
"
แต่ทีมสำรวจของเราก็งานเข้าไม่น้อยเลยละ
เพราะว่าหากไม่ใช่ฝีมือเธอนั่นมันก็หมายความว่า....ยังมีมนุษย์ที่สามารถแปลงเป็นไททันได้เหลืออยู่อีก"
"
เราจะต้องจับตัวมันมาลงโทษให้ได้....แล้วเธอก็จะได้พ้นมลทินจากสายตาของคนอื่นๆด้วย"
จริงสินะ...ถึงแม้เบื้องบนจะไม่สงสัย
แต่ก็ใช่ว่าคนทั่วไปจะยอมรับคำตัดสินนี้ได้ง่ายๆเสียเมื่อไหร่...ในเมื่อต่างปักใจไปแล้วว่าเขาเป็นคนทำ
รอยยิ้มจึงค่อยๆจางหายไปจากใบหน้ามนอีกครั้ง....
ขาทั้งสามคู่ก้าวเดินไปตามระเบียงทางเดินที่ทอดยาวไปตามความกว้างใหญ่ของอาคารศูนย์บัญชาการกลาง
แสงแดดสาดกระทบเข้ามาตามแนวเสาแบบโคโลเนียลให้เกิดจังหวะที่สวยงาม
ทั้งๆที่เดินอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่ดีแบบนี้กลับไม่ได้ช่วยทำให้จิตใจที่หม่นหมองรู้สึกสดชื่นขึ้นมาเลยสักนิด
ยังคงมีเพียงเสียงพื้นรองเท้าเสียดสีกับพื้นทางเดินเท่านั้นโดยไม่มีใครคิดจะปริปากพูดอะไรออกมา
และเพราะแบบนั้น....เมื่อยิ่งเดินเข้าใกล้บริเวณลานด้านหน้าศูนย์บัญชาการกลางมากเท่าไหร่....เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายเลยยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น
เหมือนกับมีกลุ่มคนมาประท้วงเรื่องอะไรสักอย่าง
และเมื่อฟังให้ดีๆ.....
นัยน์ตาสีมรกตก็ถึงกับต้องเบิกกว้าง
เมื่อชื่อที่ได้ยินเต็มสองหูก็คือ.....ชื่อของเขาเอง
“
ช่วยทำอะไรซักอย่างกับเด็กนั่นทีเถอะ! พวกเราจะนอนไม่หลับกันอยู่แล้วนะ!!”
“
ใช่!! ก็เห็นอยู่ว่าขังมันเอาไว้ก็ไม่มีประโยชน์ เอเลน เยเกอร์
มันยังหลุดออกไปถล่มเมืองทางใต้ได้แบบนั้น
สักวันมันคงลุกขึ้นมาอาละวาดในเมืองนี้แน่!!!”
“
ชั้นไม่อยากโดนมันจับกินนะ
เอามันออกไปไว้นอกกำแพงสิ”
“
ไม่ได้นะโว้ย! ญาติชั้นเพิ่งจะออกไปอยู่นอกกำแพง ขืนปล่อยมันออกไปพวกนั้นก็อันตรายน่ะสิ!”
“
ถ้าทหารไม่จัดการอะไรซักอย่าง ก็บอกมาว่ามันอยู่ที่ไหน?!!
เดี๋ยวพวกเราจะไปจัดการมันเอง บอกมาสิ!”
คำตะโกนด่าทอพวกนั้นทำเอาเขาถึงกับตัวชา
สองขาจู่ๆก็ก้าวไม่ออกเสียแบบนั้น ใบหน้าของผู้คนที่เขาเห็นอยู่ไม่ไกลนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ชิงชัง
หวาดกลัวในตัวเขาแทบทั้งนั้น....ไม่มีใครเชื่อ....ไม่มีใครเชื่อว่าเขาไม่ได้ทำเลยสักคน....
“
ใจเย็นๆก่อนครับ!
เรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของ เอเลน
เยเกอร์....หัวหน้าทหารรีไวที่อยู่ด้วยกันตลอดก็ยืนยันได้นะครับ!!!”
“
มันคงเกิดความเข้าใจผิดอะไรสักอย่าง ขอให้ทหารเข้าไปตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนนะครับ”
หัวหน้าทหารระดับสูงกำลังพยายามไกล่เกลี่ยให้
แต่ก็ดูไม่ค่อยจะได้ผล เสียงโวยวายยังคงดังอย่างไม่ยอมลดละ
“
มันจะต้องตรวจสอบอะไรอีกวะ?! ไอ้ตัวที่จะถล่มหมู่บ้านจนราบเป็นหน้ากองได้ภายในคืนเดียว
นอกจากไททันแล้วมันจะยังมีอะไรอีก?!!”
“
มันต้องเป็นฝีมือ ของไอ้เด็กนั่นนั่นแหละ!
ทหารพยายามปกป้องมันใช่ไหมล่ะ?!”
“
หัวหน้าทหารรีไวเชื่อได้ที่ไหน....สองคนนั้นมีความสัมพันธ์เกินเลยกันอยู่นี่!!
ยังไงก็ต้องปกป้อง เอเลน เยเกอร์ ที่มีอะไรกันนั่นอยู่แล้ว!!”
ประโยคที่ถูกตะโกนแทรกขึ้นมานั้นทำเอาหัวใจถึงกับเต้นผิดจังหวะไป
ร่างกายได้แต่นิ่งค้างก่อนจะเบิกตากว้างมองภาพตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง....มีคนรู้.....มีชาวบ้านทั่วไปรู้....ว่าเขากับหัวหน้ารีไวมีความสัมพันธ์กันแบบไหน....
ทั้งๆที่พยายามปกปิดมันเอาไว้มาตลอด
เพราะพวกเขาก็รู้ว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าใครจะรับได้ง่ายๆ จึงมีเพียงคนในไม่มากเท่านั้นที่จะรู้เรื่องนี้
อยากจะวิ่งเข้าไปปิดปากคนที่ตะโกนบอก
แต่ขาก็ไม่อาจจะขยับไปจากตรงนั้นได้ สองมือได้แต่สั่นระริกเพราะความกลัว
ไม่นะ....หยุดพูด.....หยุดเดี๋ยวนี้!
เสียงอื้ออึงลอยหึ่งอยู่ทั่วลานด้านหน้า
เพราะดูท่าว่าคนส่วนใหญ่จะเพิ่งรู้ถึงเรื่องนี้....เพราะคงไม่มีใครคิดว่าหัวหน้าทหารที่แข็งแกร่งที่สุดและเป็นความหวังของมวลมนุษยชาติจะมีอะไรกับเด็กอายุ
15 ที่ตัวเองดูแลอยู่ แถมยังเป็นเด็กผู้ชายอีกต่างหาก
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมดังขึ้นมาแทนเสียงประท้วงขับไล่เมื่อครู่แทบจะทันที
มีแต่คนว่ากล่าวในทางเสียๆหายๆ โดยไม่คิดจะพิจารณาให้ดีว่าพวกเขาก็แค่....รักกัน
โดยไม่มีพรมแดนของมนุษย์กับไททันมากั้น
ไม่มีขอบเขตของเรื่องเพศมากั้น
แล้วยิ่งเรื่องนี้ถูกใส่สีตีไข่จนแพร่กระจายไปทั่ว....ความเชื่อถือในตัวหัวหน้ารีไวเองก็คงลดลงจนแทบไม่มีเหลืออยู่อีก
เขาได้แต่เหลือบมองใบหน้าที่ยังคงนิ่งเฉยซึ่งยืนอยู่ข้างๆด้วยหัวใจที่ปวดระบม.....เพราะเรื่องของเขาทำให้หัวหน้ารีไวต้องมาพลอยชื่อเสียงเสียหายแบบนี้ไปด้วย
ในใจรู้สึกเจ็บแปลบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน....ให้เรื่องทุกอย่างมันจบอยู่ที่เขาคนเดียวเสียยังจะดีกว่า
แล้วนี่ทั้งเขาทั้งหัวหน้ารีไวยังต้องมาได้ยินเรื่องนี้เต็มสองหูของตัวเองอีก
ร่างกายมันจึงยิ่งนิ่งค้างราวกับว่าวิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้ว
ฮูดถูกดึงขึ้นมาคลุมหัวของเขา
ก่อนที่มือแข็งแรงของหัวหน้ารีไวจะพยายามดึงให้เขาเดินต่อไป
ฝ่ามือที่ประกบลงมาพร้อมกับนิ้วทุกนิ้วที่สอดประสานไปกับนิ้วของเขาทำเอานัยน์ตารู้สึกพร่ามัว
หยาดน้ำตารื้นขึ้นมาก่อนจะร่วงลงพื้นอย่างห้ามไม่อยู่
ความรู้สึกในใจของเขาตอนนี้มันสับสนวุ่นวายจนแทบจะทำให้เป็นบ้าได้....ถึงแม้หัวหน้ารีไวจะยังเฉยเมยกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ยังคงทำหน้าราวกับไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร แต่ยังไงหัวหน้าก็ยังเป็นมนุษย์
ยังมีหัวจิตหัวใจที่จะเจ็บปวดได้....แต่ถึงอย่างนั้นหัวหน้าก็ยังปลอบโยนเขาผ่านมือข้างนั้น.....เขาไม่สบายใจ
เขาทุกข์ใจ ที่ทำให้คนสำคัญที่สุดในชีวิตคนนี้ต้องมาพลอยเดือดร้อนเพราะเรื่องของเขาไปด้วย....
ใบหน้ามนเดินก้มหน้าร้องไห้ไปตามแรงลาก
ความพร่ามัวจากหยดน้ำตาทำให้ไม่อาจมองเห็นอะไรรอบๆกายได้อีกนอกจากพื้นกระเบื้องของทางเดิน
เสียงกรอบแกรบของฝ่าเท้าที่เหยียบลงไปบนกระดาษอะไรสักอย่างที่ไม่น่าจะมาอยู่บนทางเดินนี้ได้แว่วเข้ามาในหู...และเพราะก้มหน้าอยู่แบบนั้นมันเลยทำให้มองเห็นเลือนลางภายใต้น้ำตาว่ามันเป็นใบปลิวอะไรบางอย่าง
และเมื่อมองดูให้ดี....หัวใจที่มีแต่รอยร้าวอยู่แล้วก็แทบจะแตกสลาย
“
ฆ่ามันซะ! ฆ่าเอเลน เยเกอร์ เพื่อให้มวลมนุษยชาติดำรงอยู่ต่อไป! อย่าให้ไททันตัวสุดท้ายมาทำลายพวกเราได้!”
นี่มัน......ใบปลิวเรียกร้องให้ฆ่าเขาอย่างนั้นหรอ....
การที่ต้องมาเห็นใบปลิวที่เรียกร้องให้กำจัดตัวเองทิ้งแบบนี้จะมีใครรู้บ้างไหมว่ามันเจ็บเจียนตายขนาดไหน
และเมื่อใบหน้ามนเงยขึ้นไปมองตามแผ่นกระดาษที่ปลิวไปกับสายลม
ร่างทั้งร่างก็ต้องนิ่งค้าง หัวใจเจ็บแปลบจนแทบไม่อยากจะมีชีวิตอยู่
เมื่อใบปลิวนั้นมันปลิวเกลื่อนอยู่เต็มลานหน้าศูนย์บัญชาการ.....
มีคนอยากให้เขาตาย....มากมายขนาดไหนกัน......
ใบหน้าถูกดึงให้ซบไปที่หัวไหล่แข็งแรงก่อนที่น้ำตาจะร่วงลงไปอย่างไม่มีสติจะรับรู้อะไรได้อีก ขาก้าวเดินตามแรงของคนที่อยู่ข้างๆจนกลับมาถึงปราสาทได้ยังไงเขาแทบจะไม่รู้ตัวเลย
“
เอเลน....”
“
เอเลน........”
มีเพียงเสียงกระซิบเรียกชื่อกับอ้อมแขนที่กอดเขาเอาไว้ทั้งคืนเท่านั้นที่ส่งผ่านความอบอุ่นมาให้ร่างกายและหัวใจที่เหมือนกับคนตายทั้งเป็น
หากไม่มีหัวหน้ารีไว.....เขาคงปาดคอตายมันตรงนั้นให้จบๆไปแล้ว
ยังดีที่ปราสาทหลังนี้ยังถูกเก็บเป็นความลับกับคนภายนอก....ยังไม่มีใครรู้ว่า
เอเลน เยเกอร์ ถูกซุกซ่อนเอาไว้ที่นี่
“
เอเลน....อย่าคิดโง่ๆอย่างเรื่องจะฆ่าตัวตายล่ะ...เพราะคนที่จะฆ่านายได้มีแต่ฉันเท่านั้น...ถ้าฉันไม่อนุญาตนายก็ห้ามตาย
เข้าใจไหม” เพราะคำพูดของหัวหน้ารีไวทำให้เขายังคงมานั่งมองท้องฟ้าอย่างเหม่อลอยอยู่แบบนี้
เรื่องที่ไปพบเจอมามันรุนแรงเกินกว่าที่เขาจะรับได้อีก...รุนแรงจนไม่ว่าจะทำยังไงในใจก็ไม่อาจจะหยุดคิดแต่เรื่องเลวร้ายได้
ต่อให้พยายามเรียกกำลังใจกลับคืนมาแค่ไหนก็ดูเหมือนในหัวจะไม่มีเรื่องอะไรดีๆหลงเหลืออยู่อีก
“
สัญญากันเอาไว้แล้วนี่...ว่าจะออกไปนอกกำแพงด้วยกัน”
คำพูดคำนั้นของหัวหน้ารีไวยังคงดังก้องอยู่ในหัว
ทั้งๆที่เขาทำให้เดือดร้อนขนาดนี้แต่หัวหน้ารีไวกลับยังอยู่เคียงข้างเขา
ตั้งแต่วันที่กลับมาด้วยกันวันนั้น.....หัวหน้ารีไวก็ไม่เคยทิ้งเขาออกไปไหนอีกเลย
อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา
ราวกับอีกฝ่ายจะกลัวว่าหากละสายตาไปจากเขาแม้แต่วินาทีเดียวแล้วเขาจะสลายหายไป
มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้น....ที่ฉุดรั้งเขาเอาไว้ในโลกที่ไม่มีใครต้องการเขาอีกใบนี้....
แต่จะบอกว่าอยู่ด้วยกันตลอดเวลาก็คงจะไม่ถูกนัก....เพราะจะมีช่วงเช้าของวันที่จะมีทหารจากทีมสำรวจมาพบหัวหน้ารีไว
ร่างโปร่งบางได้แต่แอบอยู่หลังผนัง
นัยน์ตาสีมรกตลอบมองแผ่นหลังที่เห็นท้ายทอยชัดเจนซึ่งกำลังนั่งคุยกับทหารคนนั้นอยู่ที่เก้าอี้ในสวน....หัวหน้ารีไวไม่เคยพาทหารที่มาหาเข้ามาคุยในปราสาท.....จะเพราะไม่อยากให้เขาได้ยินหรือไม่อยากให้ใครมาพบเจอเขาก็ไม่อาจรู้ได้
เขาจึงไม่เคยรู้เลยว่ากำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่.....
แต่ดูจากลักษณะการพูดคุยแล้ว
เหมือนกับว่าทหารพวกนั้นจะมารายงานเรื่องต่างๆที่เป็นงานของหัวหน้ารีไวที่ควรจะไปทำที่กองบัญชาการทหารทีมสำรวจ....แต่นอกจากเรื่องงานแล้ว....คงจะไม่ได้มาที่นี่ทุกวันเพราะเรื่องแค่นั้นแน่
คงจะมาตรวจสอบสถานการณ์ของที่นี่ด้วย....ว่าเขายังอยู่อย่างสงบใช่ไหม?
ถึงไม่บอกก็รู้ว่าตัวเองถูกขังอยู่....ถึงจะให้อยู่ที่นี่ได้โดยอิสระ
ทว่า ก็ยังคงถูกจับตาดูอยู่ตลอดเวลา
ใบหน้ามนก้มลงมองพื้นด้วยสายตาเหม่อลอย ทั้งที่รู้ดีว่าความสงสัยแบบนี้มันน่ารังเกียจ
แต่จิตใจที่กำลังอ่อนแอก็หยุดคิดแต่ในแง่ร้ายไม่ได้
หัวหน้ารีไว.....บอกผมที...ว่าที่คุณไม่ได้ไปทำงานที่กองบัญชาการนั้นไม่ได้เกี่ยวกับคำสั่งที่ว่าให้มาคอยจับตาดูผมตลอดเวลาเหมือนกับตอนแรกที่ผมมาอยู่ในความดูแลของคุณหรอกใช่ไหม?
ช่วยยืนยันกับผมที
ว่าคุณอยู่ที่นี่โดยไม่เกี่ยวข้องกับคำสั่งใดๆทั้งสิ้น
นายทหารก้มหัวให้ก่อนจะเดินจากไป
ทิ้งให้หัวหน้าทหารนั่งอยู่ในสวนตามลำพัง
แผ่นหลังที่เคยตั้งตรงจึงเอนพิงพนักช้าๆ
นัยน์ตาที่จับจ้องแผ่นกระดาษในมือค่อยๆละออกมาก่อนมองเข้าไปในตัวปราสาท
การตามหาเบาะแสของคนที่แปลงเป็นไททันไปถล่มหมู่บ้านทางใต้ดูเหมือนจะไม่ค่อยคืบหน้านัก
ถึงจะมีร่องรอยให้พอจะตามกลิ่นได้บ้างแต่กับคนที่ใจร้อนอย่างเขาก็นับว่ามันช้ามากทีเดียว....นี่ถ้าหากเขาลงไปสืบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
บางทีอาจจะได้เรื่องได้ราวอะไรมากกว่านี้
เงาของร่างโปร่งบางวูบไหวอยู่ในปราสาท....ก็เพราะใบหน้าที่เศร้าหมองของเจ้าเด็กนั่นทำให้เขาห่างไปจากที่นี่ไม่ได้
คนอย่างเขาถึงขนาดยอมลงทุนขอร้องเอลวินว่าจะขอทำงานอยู่ที่ปราสาทเพราะไม่อยากให้เอเลนอยู่คนเดียว….กลัว...ว่าหากละสายตาไป
เขาจะไม่ได้เห็นเด็กนั่นอีก
ตอนนี้คงต้องยอมรับว่าเป็นห่วงเจ้าเด็กนั่นจนแทบจะมากกว่าหน้าที่การงานไปแล้ว
เอลวินเองก็เห็นด้วยจึงยอมอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ
เพราะต่างก็รู้กันดีว่าช่วงนี้สภาพจิตใจของเอเลนคงไม่ค่อยจะปกตินัก ความเงียบ
ความเหงา มีแต่จะยิ่งทำให้คิดมากจนอาจจะเผลอทำอะไรลงไปก็ได้
อีกอย่าง
จะให้เอเลนอยู่คนเดียวก็อันตรายเกินไป
เพราะถึงแม้ว่าปราสาทนี้จะถูกปิดเป็นความลับกับคนภายนอก
แต่คนในเองก็ใช่ว่าจะไม่มีใครรู้ว่าเอเลนถูกซ่อนอยู่ที่นี่...และหากเรื่องนี้แพร่ออกไป
หากใครจะบุกเข้ามาทำร้าย เจ้าเด็กนั่นคงไม่อาจสู้หรือหนีได้ในสภาพแบบนี้
นัยน์ตาสีขี้เถ้าทอดมองสวนเขียวขจีพรางเหยียดยิ้มให้กับตัวเอง
ไม่น่าเชื่อเลยนะ
ว่าคนที่เคยอยู่ในโลกที่มืดมนบนการเข่นฆ่า....จะมารักใครสักคนจนยอมทำให้ได้ขนาดนี้
ตัวเขาในอดีตคงจะคิดเรื่องนี้ไม่ออกเลยจริงๆ....
แสงไฟจากตะเกียงสาดส่องให้มองเห็นร่างกะทัดรัดนั่งเหยียดขาอ่านเอกสารอยู่บนเตียง
ภายใต้เสื้อคอกว้างแขนยาวสีดำนั่นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่สวยงามจนขนาดร่างกายไม่ใช่ประเด็นสำคัญไปเลย
แผ่นหลังเอนพิงไปกับหมอนใบใหญ่ นัยน์ตารีขวางยังคงจับจ้องอยู่บนตัวอักษรในกระดาษ
และเพราะแบบนั้นเลยทำให้ไม่ทันสังเกตเห็นว่าร่างโปร่งบางเดินมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องที่ไม่ได้ปิดเอาไว้
เรียวขาขาวต้องแสงไฟเพราะท่อนล่างไม่ได้ใส่อะไรมีเพียงชายเสื้อคอกว้างที่ใส่ประจำปิดลงมาถึงแค่ต้นขา
และยามที่เดินเข้าไปหาคนที่ยังนั่งอยู่บนเตียงมันก็ขยับขึ้นลงจนแทบจะไม่ได้ช่วยปกปิดอะไร
แรงยุบยวบของเตียงทำให้ใบหน้านิ่งเฉยเงยขึ้นมามอง
ก่อนจะเห็นว่าร่างโปร่งบางกำลังก้าวขาขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนต้นขาของตน
ความอ่อนนุ่มที่แนบชิดอยู่เบื้องล่างทำให้รู้ว่าเจ้าเด็กตรงหน้าไม่ได้ใส่แม้แต่ชั้นใน
ท่อนแขนบางโอบมาที่รอบคอก่อนที่สองมือจะไปประสานกันอยู่ที่ท้ายทอยซึ่งผมสั้นเกรียน นัยน์ตาสีมรกตสั่นระริกมองลึกลงไปในดวงตาสีขี้เถ้า
ก่อนที่ริมฝีปากสีระเรื่อจะเอ่ยออกมาเบาๆ
“
ช่วยกอดผมทีได้ไหมครับหัวหน้า” ทั้งๆที่ควรจะใจเต้นไปกับการยั่วเย้าของอีกฝ่าย
แต่เพราะเอเลนไม่เคยเป็นแบบนี้มันเลยมีแต่จะทำให้รีไวสงสัย
“
เป็นอะไรไปเอเลน?”
มือวางเอกสารลงที่ข้างเตียงก่อนจะย้ายมาจับไว้ที่เอวบาง
“
คนที่บอกผมว่า มีแต่มนุษย์เท่านั้นที่จะมีเซ็กส์ได้
ก็คือหัวหน้า....เพราะงั้นช่วยยืนยันกับผมที ว่าผมไม่ใช่ไททัน
ช่วยกอดผมทั้งวันทั้งคืนเลยได้ไหมครับ....หัวหน้า...” นัยน์ตาสีขี้เถ้าเบิกกว้างไปกับคำพูดของเจ้าเด็กตรงหน้า นี่จิตใจของเอเลนย่ำแย่ขนาดไหนกันถึงได้พูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้
ใบหน้านิ่งกัดฟันน้อยๆก่อนจะพลิกร่างโปร่งบางให้ลงไปนอนอยู่ใต้ร่างของตน
บอกตามตรงว่าเขาไม่ได้มีอารมณ์เลยกับคนที่กำลังทำหน้าราวกับว่าจะร้องไห้แบบนั้น...แต่หากไม่ทำ
เจ้าเด็กตรงหน้าจะยิ่งคิดมากไปขนาดไหน
ฝ่ามือลูบขึ้นมาตามต้นขาละเรื่อยจากสะโพกผ่านเอวบางจนไปหยุดลงที่แผ่นอกแบนเรียบ
ชายเสื้อถูกเลิกตามฝ่ามือขึ้นมาจนมองเห็นยอดอกรำไร
ใบหน้าก้มลงซุกไซร้ก่อนจะกดจูบฝังร่องรอยเอาไว้ที่ซอกคอและลาดไหล่ที่ไหปลาร้าขึ้นชัดเจน
เสียงครางครือดังลอดจากลำคอออกมาให้ได้ยิน เมื่อปลายลิ้นเริ่มปลุกเร้าเข้าไปที่ยอดอกสีชมพู
“
อึก....หะ....หัวหน้า....”
นัยน์ตาสีมรกตฉ่ำเยิ้มเหลือบมองลงไปที่หัวสีดำซึ่งลากไล้เรียวลิ้นลงไปตามลำตัวก่อนที่มันจะไปหยุดลงที่แกนกลางของร่างกาย
“
ฮึ๊ก!”
ไหล่บางสะดุ้งเฮือกพร้อมกับดวงตาที่เผลอหลับแน่นเมื่อริมฝีปากของอีกฝ่ายเริ่มครอบงำส่วนอ่อนไหวของเขาเอาไว้
เพราะมันแทบจะนับครั้งได้ที่หัวหน้ารีไวจะทำให้ด้วยปากแบบนี้.....ทั้งๆที่ตัวเองบังคับเขาให้ใช้ปากทำให้ตั้งไม่รู้เท่าไหร่
ลิ้นที่ช่ำชองล่อลวงเด็กน้อยให้ใกล้ถึงฝั่งได้ไม่ยาก
สองมือบางจิกแน่นลงไปบนหมอนใบใหญ่เช่นเดียวกับลำตัวที่บิดเร่าเพราะความต้องการที่พุ่งทะยานสูง
“
หะ หัวหนะ....อ๊ะ...จะ อ๊า!!” เสียงครางไม่ได้ศัพท์เปล่งออกมาเมื่อความปรารถนาถูกปลดปล่อย
น้ำสีขาวขุ่นไหลย้อยออกมาจากปากของหัวหน้ารีไว
“
แฮ่ก...แฮ่ก.....” ร่างโปร่งบางได้แต่ทิ้งตัวลงไปบนเตียงพรางหอบหายใจหนักหน่วง
นัยน์ตาสีมรกตแลมองใบหน้านิ่งที่กำลังคายของของเขาออกมาจากปาก....ก่อนที่มันจะถูกใช้แทนสารหล่อลื่น
ปลายนิ้วที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบคาวแตะสัมผัสลงไปที่ช่องทางด้านหลัง
สองขาอ้าออกให้อีกฝ่ายทำได้ถนัด ใบหน้าแดงระเรื่อหลับตาแน่นเมื่อปลายนิ้วค่อยๆถูกสอดใส่เข้ามา
“
เอเลน....”
เสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกทำให้นัยน์ตาสีมรกตค่อยๆเปิดขึ้นไปมอง
ใบหน้านิ่งเฉยขยับเข้ามาใกล้ก่อนที่จะสอดลิ้นเข้ามาในปากสีระเรื่อ
“
อื้อ....”
เสียงชุ่มแชะไม่รู้ว่าดังมาจากข้างล่างหรือข้างบน
ทั้งร่างกายทั้งใบหน้าร้อนผ่าวราวกับไฟ
ลมหายใจที่สอดประสานกันนั้นเริ่มถี่กระชั้นขึ้นทุกที
หัวหน้ารีไวถอนริมฝีปากออกไป
น้ำลายไหลลงไปตามมุมปากจนถึงลำคอ แรงกัดที่ลาดไหล่ทำเอาเผลอสะดุ้ง
นิ้วที่สามถูกตามเข้าไปในช่องทางคับแน่นที่เริ่มจะผ่อนคลาย นัยน์ตาสีมรกตเคลิบเคลิ้มไปกับรสสัมผัสของอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ
และในขณะที่กำลังปล่อยตัวปล่อยใจให้ล่องลอยไปในความสุขสม....
เสียงตะโกนอย่างชิงชังก็ดังก้องขึ้นมาในหัว
‘
สองคนนั้นมีความสัมพันธ์เกินเลยกันอยู่นี่!!’
‘
หัวหน้าทหารที่มีเซ็กส์กับเด็กผู้ชายอายุแค่ 15 คนนั้นน่ะหรอ...ทำได้ยังไง
เด็กนั่นยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ’
ร่างทั้งร่างนิ่งค้างไปกับตะกอนเสียงที่ยังฝังแน่นอยู่ในใจ
จู่ๆนัยน์ตาสีมรกตก็เบิกกว้าง
สองมือผลักร่างที่คร่อมอยู่ด้านบนออกไปให้หัวหน้ารีไวถึงกับมึนงง
“
เอเลน?”
ใบหน้าตื่นๆของเจ้าเด็กตรงหน้าทำให้ร่างแข็งแกร่งเผลอกัดฟันกรอด นัยน์ตาขี้รำคาญจ้องปฏิกิริยาของร่างโปร่งบางที่ลุกถอยหนีไปติดหัวเตียง
“
มะ ไม่เอาแล้วครับ....ผมขอโทษ แต่วันนี้พอ.....” จู่ๆมาบอกให้หยุดทั้งๆที่ไปถึงขั้นนี้แล้วเนี่ยนะ?
เกิดอะไรขึ้น? ในใจที่กำลังสับสนนั่นคิดถึงเรื่องอะไรอยู่?
“
ชิ!” ริมฝีปากสบถออกไปเล็กน้อยก่อนจะดึงชายเสื้อของตัวเองขึ้นมา...ถอดมันออกแล้วโยนลงไปที่ข้างเตียง
มือจับข้อเท้าของคนที่คิดจะหนีไปกลางคันดึงลากให้กลับมาอยู่ใต้ร่างของเขาอีกครั้ง
“
หะ หัวหน้า!”
ใบหน้ามนเพียงแค่ตกใจแต่ไม่ได้มีท่าทางหวาดกลัว....แสดงว่าไม่ได้เกี่ยวกับตัวเขา....แต่เจ้าเด็กนี่กำลังกังวลเรื่องอื่น....
หรือจะเป็นเรื่องที่ใครๆต่างเอาความสัมพันธ์ของเขากับเจ้าเด็กนี่ไปลือในทางเสียๆหายๆ?
ช่างมันปะไร....เขาไม่เห็นจะสนใจเลยสักนิด
ดีเสียอีก....พวกระดับสูงที่ซุกหัวอยู่ในกำแพงที่เล็งเจ้าเด็กนี่ไว้จะได้รู้กันไปว่ามันไม่ได้บริสุทธิ์มาตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อนแล้ว!
“
เวลานอนกันชั้น...ก็คิดแต่เรื่องของชั้นเท่านั้นเอเลน”
เสียงทุ้มเอ่ยบอกออกไปในขณะที่กดแกนกายเข้าไปในช่องทางคับแน่น ต้นขาเรียวขาวสั่นระริกเช่นเดียวกับนัยน์ตาสีมรกตที่ปิดแน่น
หัวคิ้วขมวดมุ่นแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่เขาสอดใส่ร่างกายของตัวเองเข้าไป
“
อ้า...ฮะ.....” เสียงครางไม่ได้ศัพท์ดังขึ้นมาแทนที่
เขาเริ่มปลุกเร้าเจ้าเด็กตรงหน้าจนร่างโปร่งบางได้แต่บิดเร่า
“
เอเลน....”
เสียงทุ้มกระซิบเรียกที่ใบหู
ความสุขสมที่ปรนเปรอให้กะจะเอาให้ลืมความทุกข์ใจกันไปข้าง
แรงขยับเข้าออกหนักหน่วงถี่กระชั้นจนร่างข้างใต้ไม่รับรู้เรื่องอะไรอีกนอกจากความรู้สึกดีที่ส่งผ่านมาจากทุกอณูของร่างกาย
“
อึก...อ๊า!” น้ำสีขาวขุ่นพวยพุ่งออกไปเต็มหน้าท้องเมื่อถึงจุดสิ้นสุดของความต้องการ
เช่นเดียวกับผนังภายในที่รองรับความอุ่นร้อนของเขาเอาไว้
“
แฮ่ก...แฮ่ก...หัวหน้า....”
นัยน์ตาสีมรกตมองมาด้วยสายตาปรือปรอย ลมหายใจยังไม่ทันจะเข้าที่ ร่างโปร่งบางก็ถูกพลิกตัวให้หันหลัง
“
หัวหน้า? อึ๊!” แกนกายใหญ่สอดใส่เข้าไปอีก ก่อนที่ริมฝีปากจะพรมจูบไปทั่วแผ่นหลัง
สลับกับฝังรอยกัดเอาไว้บ้าง....แล้วเสียงครางก็ยังคงดังต่อไป
จะทำ.....ทำต่อไปจนกว่าจ้าเด็กนั่นจะหลับใหลไปคาอ้อมแขน
ถ้าหากความสุขสมทางร่างกายมันจะทำให้ลืมเรื่องร้ายๆไปได้บ้าง....เขาก็ยินดีที่จะกอดให้....ทั้งวันทั้งคืน
ใบหน้ามนหลับพริ้มหนุนท่อนแขนแข็งแรงเอาไว้
เขาได้แต่นอนมองใบหน้าใสที่ดูยังไงก็ไม่มีพิษไม่มีภัยให้ใครต้องหวาดกลัวเลยสักนิด มือยกขึ้นมาเกลี่ยเส้นผมที่ละใบหน้าออกไป
ในหัวเล็กๆนี่กำลังคิดอะไรอยู่นะ....เป็นแค่เด็กแท้ๆไม่เห็นจะต้องคิดอะไรให้มากมายเลย....
ใช่....เอเลน
เยเกอร์ ยังเด็กนัก....นัยน์ตาสีมรกตเพิ่งจะมองดูโลกได้แค่ 19
ปี.....ยังเด็ก....เกินกว่าจะปล่อยให้ถูกทำร้ายจนตายไปแบบนี้
มือลูบลงไปที่เส้นผมสีน้ำตาลซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นัยน์ตาอ่อนโยนทอดมองใบหน้าที่หลับสนิทก่อนจะกระซิบออกมาแผ่วเบา
“
ฉันจะพานายไปทะเลให้ได้ เอเลน.....”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To
be Con.
เอิ่บ....บางทีอาจจะไม่ใช่
8 ตอนจบแล้วค่ะ โฮวววววววว ทำไมตรูเป็นคนแบบนี้ >[ ]< ก็ซาวาโนะซังอ่ะ! ความผิดซาวาโนะซังเลย!! ทำเพลง Original
Sound Track ของ Attack on Titan
ได้อลังการเกินไปแล้ว!!!!
คือแบบ
ฟังแล้วจิ้นไม่หยุดเลยค่ะ ทำไงดี๊~~~~~
เพิ่งเคยพบเคยเห็นอัลบั้มเพลงประกอบอนิเมะที่อลังการทุกเพลงขนาดนี้อ่ะ
ทุกเพลงเลยจริงๆ โฮวววววววว หลังจากที่ไม่ได้สั่งซีดีมาเป็นปี
ในที่สุดก็เสร็จซาวาโนะซังจนได้ ชาบูๆๆเลยค่ะ
เพลงเฮย์โจว
(The
Reluctant Heroes) แม่งสุดยอดมากอ่ะ ฟังแล้วทั้งจิ้นทั้งขนลุกได้อีก
เป็นเพลงที่เท่ห์โคตรๆเลยค่ะ ส่วนอีกเพลงที่ชอบมากๆก็ Track ที่
12 Bauklotze เพราะอ่า...ชอบจังหวะแบบนี้สุดๆเลยค่ะ.....คือจริงๆแม่งชอบหลายเพลงมากค่ะ
สาธยายไม่หมดจริงๆอ่ะ ลองหามาฟังกันดูนะคะ Trackที่ 5
ก็อลังโคตรๆ โอย...ขนลุก!
ก็นั่นแหละ....ดาวตก
ตรูจะไม่เสร็จก็เพราะแบบนี้แหละ!! ตอนต้นอาทิตย์อุตส่าห์บิ๊วตัวเองให้กลับไปปั่นดาวตกได้อยู่แล้วแท้ๆเชียว
ปลายอาทิตย์เจอซาวาโนะซังทำพิษเข้าไปซะจนได้ ฮือออออ
สำหรับฟิคตอนนี้อาจจะปวดตับเล็กน้อยอ่ะเนอะ
แหะแหะ ไม่ต้องห่วงค่ะ ยังคงปวดยาวไปจนถึงตอนหน้า (<<อยากโดนกระซวกเร๊อะ?!) ตอนแรกว่าจะลงยาวแต่แต่งไปแต่งมา แม่งยาวเกินไปละ เลยตัดเอามาแค่นี้ก่อน
^ ^””
แล้วก็ Tuber Rose มิใช่ดอกกุหลาบแต่อย่างใด
แต่มันคือดอกซ่อนกลิ่นของไทยนี่เอง อิอิ มีความหมายว่า "ฉันหยิ่งเกินกว่าจะเอ่ยปากบอกรักกับเธอก่อน"
ค่ะ อุฮิ้วววว เฮียแกก็บอกรักได้โรแมนติกดีนะ ^ ^””
อยากเขียนฉากตอนนั้นอ่า~~~ (พอเหอะ
กลับไปแต่งที่เหลือนี่ให้จบก่อนป่ะ)
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์และทุกการติดตามนะค้า
บางทีแอบอู้อยู่เห็นเม้นต์เด้งเข้ามาถึงขั้นสะดุ้งเฮือกจนต้องกลับมาปั่นต่อ555
แล้วเจอกันตอนหน้าค่า
ฟินนนนนน
ตอบลบอร๊างงงงงง
ชอบคู่นี้มากค่า
ฟิคยาวๆน่ะของชอบค่ะ (ฮา)
ตอบลบไหนๆ เจ้าพวกเบื้องบนคนไหนที่บังอาจเล็งเอเลนน้อยไว้ฮะ!!! อย่าทำร้ายเอเลนกันนะ! เอเลนเป็นของหัวหน้าน้า!!! =//////=
เบื่อพวกชาวบ้านเสียจริง เวลามีประโยชน์ก็พึ่ง เวลาหมดประโยชน์ก็ทิ้ง เอเลนไม่ใช้ทิชชู่นะ!
คนแก่จะกินเด็กมันผิดตรงไหน คำว่ารักไม่มีขอบเขตหรอกนะ อย่ามากำหนดกฎเกณฑ์คำว่ารักด้วยความหวาดกลัวเลยของพวกเจ้าที่มีต่อเอเลน
ปล.แอบจิ้นเห็นเป็นภาพตอนเอเลนยั่วแหละค่ะ =.,= ม...มันจะโมเอะโมเอ้ คาวาอิคาวาอี้เกินไปแล้วนะคะ รีไวกล้าพูดได้ยังไงว่าเห็นเอเลนยั่วแล้วไม่เกิดอารมณ์เลยน่ะ อ้อยอุตส่าห์อยู่ตรงหน้าทั้งที (นานๆทีเอเลนจะยั่วนะคะ ถึงสภาพจิตใจจะ...ก็เถอะ) บางทีรีไวอาจจะเครียดเกินไปจนทำให้เป็น ED(ช้างน้อยไม่ตั้ง) รึเปล่าเอ่ย // โดนรีไวถือมีดไล่เจื๋อน =[]=;;;;
ถึงกับทุบโต๊ะเเละชูกำปั้น
ตอบลบฟิคเเนวนี้เเหละที่รอคอย
โอ้เเม่เจ้า (พับเพียบเเล้วกราบงามๆ)
ตอนนี้นี่มันดาร์กช็อกโกแลตสินะ.....
ตอบลบหวานอมขม(ขื่น)จริงๆ
เอเลนจ๊ะ....หนูไม่ต้องคิดมากกกก สามีหนูเค้ายังไม่คิดมากเลยมองว่าเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำที่มีคนประกาศความเป็นของในตัวหนูให้
มีคนเล็งหนูเอเลนด้วยเร้อะ......ฟีโรโมนจะดีเวอร์ไปไหนจ๊ะหนูจ้า
เพียงแค่นึกภาพไปถึงตอนที่เอเลนยั่วมันก็.................................................................//กำเดาพุ่ง.....มือเริ่มอยากกระดิบๆไปหากระดาษแว้ววววววววววววว
เพลงOSTที่ฟังไปอ่านไปก็ทำฟินทะลุโลกมาก.....โดยเฉพาะเพลง15ฟังคู่กับตอนนี้แล้วมัน......อ้ากกกกกกกกกกก ยิ่งเสริมให้เฮย์โจวตัวสูงขึ้น...เอ้ยเท่ขึ้นมากๆเลยอ้าาาาาาาาาาาาา
แต่งยาวขึ้นก็ดีครับ....ผมจะได้มีอะไรได้อ่านได้เรื่อยๆกร้ากกกก//โดนพี่กวางทีบ
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อแม้ว่ามันจะดราม่า..... รู้สึกตัวเองเป็นคนที่มีภูมิคุ้มกันเรื่องนี้ดีขึ้นจมเลยแหะเพราะช่วงนี้เจอแนวนี้เยอะ....... ถ้าเป็นเมื่อก่อนปานนี้บ่อน้ำตาแตกทิชชูหมดไป1ส่วน4ม้วนนานแล้ว.....ตราบได้ที่ยังแฮปปี้เอนก็โอล่ะ
=.,= พึ่งเจอค่ะ !!
ตอบลบคือแบบอ่านไป...อินตามไปด้วย สนุกมากเลยค่ะ!!! <3
โอ๊ยยย อ่านไประทวยไป
คืออ่านตอนแรก เหมือนจะ (?) ออกแนว SM มาก..แต่ไปๆมาๆทำไมมันแลดูดราม่าจัง
เป็นฟิคยาวที่สนุกที่สุดเลยค่ะ!!
อ่านไปฟินไปค่ะตอนแรกๆ พอเริ่มเฉลยความจริง?บางอย่างแล้วเริ่มกลัวหัวหน้ารีไวขึ้นมาว่าเป็นอะไรกันแน่? จะหึงโหดไปหน๊ายยยยยยย
ตอบลบแต่ก็ต้องเข้าใจว่ารอมาเป็นพันปีน่ะนะ TTATT
พาร์ทอดีตเศร้ามากเลยค่ะ พวกชาวบ้านในเรื่องนี้นี่..ตั้งแต่ในมังงะแหละทั้งทีมสำรวจทั้งตัวเอเลน ไม่เคยมองดีๆ เลยอะ ฮืออออออออ
ถ้าคนเขียนไม่บอกว่าแฮปปี้เอนด์นี้ เราจะเตรียมถังไว้รองน้ำตาแล้วค่ะะะะ
//จริงก็คลอๆ ตั้งแต่มีคนมาด่าเรื่องความสัมพันธ์ของหัวหน้ากะเอเลนแล้วล่ะค่ะ TTATT
ฟิคเรื่องนี้เขียนดีมากเลยค่ะ ทั้งสำนวน พล็อตเรื่อง
ฟิคดีมากเลยค่ะ อ่านแล้วอินมากกกกกกก ปมยิ่งคลายยิ่งทำให้เรื่อง(ค่อด)น่าติดตามเลยค่ะ แถมยิ่งช่วงตอนหลังๆเนี่ย พีคมากจริงๆ อ่านแล้วปวดหนึบไปทั้งใจ (มันแน่นอกอยากยกออก #ผิด) หยุดอ่านไม่ได้เลย รีบมาต่อเร็วๆนะคะ อ่อ ไรท์จะทำเป็นรวมเล่มไหมคะ อยากเก็บไว้อ่านน ถ้าทำขอจองล่วงหน้าเล่มนึงเลยค่ะ TwT
ตอบลบเป็นแฟนฟิคที่ดีๆมากเรื่องนึงของคู่นี้เลยค่ะ
ตอบลบอ่านแล้วได้อารมณ์ทั้งสุขเศร้าเคล้าน้ำตา
อ่านตอนแรกๆแอบกลัวและหลอนเฮย์โจวสุดๆ
สงสารเอเลนและแอบด่าเฮย์โจวในใจด้วยนะ
แต่อ่านตอนนี้แล้วสงสารเฮย์โจวมากๆ
คิดว่าคงเจ็บเหมือนกันเพราะต้องมาเห็นคนที่ตัวเองรักอยุ่ในสภาพนั้น
แล้วไหนจะต้องมาคอยปลอบด้วยแถมไม่ปริปากบ่นซักคำว่าตัวเองสภาพจิตใจเป็นไง
หัวใจนายหล่อมากอ่ะเฮย์โจว
มันก็ยังคงหน่วงและปวดตับได้เช่นเคย สงสารเอเลนมากนะตอนนี้
ตอบลบว่าแต่รีไวบอกรักได้น่ารักมากมาย ซ่อนกลิ่นภาษาดอกไม้มันช่างเข้ากับเฮย์โจวจริงเลยนะเนี่ย
ฟิน ปวดตับ และชินไปเอง
ตอบลบหน่วงสุดๆ อุตส่านึกว่าจะดีขึ้น
กลับพีคลงกว่าเดิมเศร้ามากอ่ะ
มันพีคเกิน ยิ่งไรท์บอกมีตอนหน้าอีก
โอ้ววว เครียดจริงๆเชียว
แล้วไอ้ไททันตัวใหม่จะทำไง
ถ้าเอเลนตาย = =
หรือยอมตายเพื่อปกป้องรีไวล์
แง๊ มันเศร้ามาก พีคเวอร์
แต่อยากรู้มากว่าในฟิคนี้
พวกเพื่อนๆ เอเลนตายหายไปไหนกันหมด
ตอนสู้กับไททันไม่มีสักกะคน
หรือไม่ได้แต่งไว้ว่ามีพวกนั้นอยู่ ; w ;
ถ้ามีนะ เอเลนปัจจุบันคงตกใจอยู่มาก
เพื่อนๆ เอเลนน่าจะมาช่วยเอเลนบ้าง แง้วๆๆ ผมเศร้า