Psycho Pass. OneShot.Fic [Kogami x Makishima] ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม : หมายเลขสิบสอง



Psycho Pass. OneShot.Fic [Kogami x Makishima]    ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม : หมายเลขสิบสอง

: Psycho Pass  Fanfiction
: Kogami Shinya x Makishima Shogo
: Dark Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ


.
.
.
.

ถ้าจะมีคนที่สามารถลงโทษผมได้ละก็....คนคนนั้นจะต้องเป็นคนที่ฆ่าคนตามความต้องการของตัวเองได้เท่านั้นแหละ

ถ้าจะมีคนที่สามารถลงโทษผมได้ละก็....คนคนนั้นจะต้องเป็น...................เท่านั้นแหละ

.
.
.
.


นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมองภาพถ่ายที่ถูกแปะอยู่ที่ฝาผนัง....

มันเป็นรูปของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีดวงตากลมโตและเส้นผมสีน้ำตาล ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขนั้นกำลังยิ้มอยู่ข้างๆเขา

.... สึเนะโมริ อาคาเนะ....

นั่นเป็นรูปถ่ายคู่เพียงใบเดียวที่อยู่บนผนังแห่งนั้น...และมันก็คงจะเป็นใบสุดท้าย...

มือที่คีบบุหรี่อยู่กำแน่นอย่างไม่รู้สึกถึงความร้อนของมวนบุหรี่ เพราะในใจของเขาตอนนี้มันมีแต่ความเคียดแค้นชิงชัง

ผู้ชายคนนั้น....มันพรากเอาสิ่งที่เขารักไปจนหมด...ไม่เหลือแม้แต่อย่างเดียว...

ใบหน้าคมหันกลับมามองผนังห้องเป็นครั้งสุดท้าย มือใหญ่กำแน่นก่อนจะตัดสินใจก้าวเดินออกไป....และจะไม่กลับมาที่นี่อีก


.
.
.
.
.
.
.


จากนี้เป็นรายงานข่าวด่วนพิเศษจากกรมความปลอดภัยค่ะ....เมื่อคืนนี้มีการปิดล้อมพื้นที่เพื่อจับกุมตัวอาชญกรแอบแฝงที่ถูกตัดสินว่าเป็นภัยคุกคาม....มาคิชิมะ โชโงะ...แต่การจับกุมยังไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จลุล่วงเนื่องจาก หน่วยปฏิบัติการณ์ที่เข้าควบคุมตัวมาคิชิมะ โชโงะได้เกิดพลัดตกลงไปในหุบเขาด้วยกันทั้งคู่ขณะที่ต่อสู้กัน....ทางกรมความปลอดภัยจึงขอประกาศแจ้งเตือนทุกคนว่า ขณะนี้พื้นที่เขต A-11เป็นเขตห้ามเข้าจนกว่าทางกรมความปลอดภัยจะสามารถยืนยันได้ว่าศพของทั้งคู่ถูกค้นพบแล้ว.....


ศพของทั้งคู่.....อย่างงั้นหรอ?


ใบหน้าเรียวซีดเซียวเบือนหน้าจากจอเสมือนติดๆดับๆที่ใครอีกคนตั้งใจเปิดเอาไว้ให้เขาดู....ในห้องที่เหมือนห้องของโรงพยาบาลร้างที่ไหนสักแห่ง


ก็แน่ละ...ตกลงมาจากหน้าผาสูงขนาดนั้นเป็นใครก็คงไม่คิดหรอกว่าคนทั้งคู่จะรอดมาได้


แต่กรมความปลอดภัยลืมไปได้ยังไงนะ....ว่าหน่วยปฏิบัติการคนที่ว่านั่นคือ โคงามิ ชินยะ....


“ หึ...”       ใบหน้าเรียวซีดเซียวยิ้มที่มุมปาก....ไม่ใช่ว่าพวกนั้นจะลืมไปหรอกว่าโคงามิ ชินยะเก่งกาจขนาดไหน...แต่เป็นเพราะว่าคนในกรมความปลอดภัยตอนนี้ไม่มีใครรู้เลยต่างหากว่า โคงามิ ชินยะ เก่งกาจขนาดไหน....นั่นก็เป็นเพราะ โคงามิ ชินยะคือหน่วยสืบสวนคดีพิเศษคนสุดท้ายที่เหลืออยู่น่ะสิ

นัยน์ตาสีน้ำตาลทองเหลือบลงไปมองแผลที่หน้าท้องซึ่งถูกเย็บให้โดยคนที่แทงเขาเองกับมือด้วยรอยยิ้มเลื่อนลอย...


มันไม่ใช่อุบัติเหตุอย่างที่ในข่าวว่าหรอก....พวกเขาทั้งคู่ไม่ได้บังเอิญพลัดตกลงมาในขณะที่ต่อสู้กัน....

เพราะเขา....มาคิชิมะ โชโงะ...แพ้ให้กับโคงามิ ชินยะด้วยรอยแผลถูกแทงที่หน้าท้องก่อนที่จะตกลงมาเสียอีก


ไม่ได้พลัดตกลงมาเพราะการต่อสู้ที่สูสี.....


แต่ที่ตกลงมา...เป็นเพราะความตั้งใจของ โคงามิ ชินยะ ต่างหาก...


แอด.......


ประตูเหล็กสนิมเขรอะถูกเปิดออกพร้อมกับเงาร่างสูงใหญ่ที่ก้าวเดินเข้ามาพร้อมกับจานอาหาร นัยน์ตาสีดำสนิทเหลือบลงมามองด้วยสายตาเย็นชาจนไม่อาจคิดได้ว่านั่นคือดวงตาที่เอาไว้ใช้มองมนุษย์

“ ฟื้นแล้วสินะ   มาคิชิมะ โชโงะ...”        น้ำเสียงไร้ความรู้สึกเอ่ยทักก่อนจะวางจานข้าวลงข้างๆเตียง

“ อรุณสวัสดิ์.... โคงามิ ชินยะ”       คนที่ยังลุกไม่ขึ้นเอ่ยรับออกไปด้วยรอยยิ้ม


ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร คนคนนี้ถึงได้ช่วยเขาเอาไว้....ทำไมถึงได้พาเขาหนีออกมาจากการจับกุม....


นัยน์ตาสีดำแห้งผากคู่นั้นมันฟ้องออกมาเป็นอย่างดีถึงความเกลียดชังที่มีต่อตัวเขาและทุกอย่างที่โคงามิ ชินยะทำไปนั้นก็เพื่อ....


แก้แค้น.....


ให้กับทุกๆคนในหน่วยสืบสวนคดีพิเศษ....ที่โดนเขาฆ่าตาย


เพราะถ้าเขาถูกจับตัวได้...โทษของเขาก็คงจะแค่ถูกคุมขังเอาไว้ในฐานะอาชญกรแอบแฝงหรือไม่ก็ถูกยิงตายภายในนัดเดียว

ซึ่งมันคงจะไม่สาสมเพียงพอสำหรับคนที่พรากเอาชีวิตคนอื่นไปมากมายเช่นเขา....โดยเฉพาะชีวิตของคนที่หมอนั่นรัก...


โคงามิ ชินยะ เลยทิ้งทุกอย่าง...แม้แต่ชีวิตของตัวเอง....ยอมให้ระบบระบุว่าตัวเองตายไปแล้วจากการพลัดตกเขาเพื่อจะได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ทั้งชีวิต.....


ลงโทษเขาให้สาสม....


มือใหญ่ที่ยังคงมีสายรัดข้อมือของกรมความปลอดภัยคล้องอยู่กระชากเส้นผมสีขาวให้ใบหน้าเรียวเงยขึ้นมา ก่อนใบหน้าคมจะก้มลงไปใกล้ๆ ควันบุหรี่ถูกพ่นออกไปช้าๆ...ใส่ใบหน้าซีดที่ยังคงยิ้มรับ

“ เก่งไปซะทุกเรื่องอย่างแกคงจะรู้แล้วสินะ....ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง”       ก้นบุหรี่ที่เคยอยู่ในปากของโคงามิ ชินยะ ถูกกดลงไปบนหน้าท้องแบนเรียบซึ่งเต็มไปด้วยผ้าพันแผล ความร้อนทำให้กล้ามเนื้อเกร็งรับโดยอัตโนมัติ และนั่นมันก็ทำให้แผลที่ยังไม่แห้งสนิทเกิดปริแตกจนเลือดซึมออกมาทันที

“ ลองใช้ Charisma(เสน่ห์ดึงดูด) ของแกทำให้ชั้นหลงใหลดูสิ....แบบที่ใช้มันปั่นหัวอาชญากรแอบแฝงคนอื่นๆของแกน่ะ”     รอยยิ้มยังคงฉายอยู่บนใบหน้าเรียวถึงแม้จะตกเป็นรอง

“ ถ้าอย่างงั้น...ผมจำเป็นต้องรู้ว่าสิ่งที่คุณต้องการคืออะไร”      ใบหน้าเรียวยังคงตอบออกไปด้วยท่าทางสบายๆอย่างไม่กลัวสายตาดำมืดที่จับจ้องตนอยู่นั่นเลยสักนิด

“ .......ฉันอยากให้คนที่ชอบมองดูคนอื่นดิ้นรนอยู่บนฝ่ามือตัวเองแบบแกได้เห็น....ช่วงเวลาที่ตัวเองถูกทรมานอยู่บนฝ่ามือของคนอื่นอย่างฉัน”       ประกายสีเงินจากคมมีดที่คุ้นเคยแวววาวอยู่ในมือโคงามิ...มันคือมีดพกของเขาเอง...และบัดนี้มันก็กำลังแนบลงมาที่แก้มของเขาเอง...ความเย็นของเนื้อโลหะทำให้รู้ว่ามันค่อยๆถูกลากลงไปตามซอกคอ ลาดไหล่ แผงอก จนกระทั่งไปหยุดลงแถวๆหน้าท้อง

“ เป็นความต้องการที่น่าสนใจดีนี่........”       คิ้วสีขาวขมวดเข้าหากันน้อยๆเมื่อคมมีดถูกกดลงไปที่ใกล้ๆรอยแผลเดิม ความเจ็บปวดค่อยๆเพิ่มขึ้นตามความยาวของแผลและเมื่อเงยหน้ามองคนกระทำก็ยังคงเห็นเพียงแค่ใบหน้าคมที่นิ่งเฉย นัยน์ตาสีดำก็ยังคงไม่มีแววหวั่นไหวใดๆ ราวกับว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นเพียงการชำแหละศพคนที่ตายไปแล้วเท่านั้น

“ อึก.....”      ข้อมือเผลอกระตุกขึ้นมาตามปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเจ็บ เสียงโซ่ดังพร้อมกับแรงดึงรั้งทำให้เพิ่งรู้ว่า แขนทั้งสองข้างถูกพันธนาการเอาไว้ด้วยโซ่สนิมเขรอะ

“ ............!!!”      ที่หน้าท้องรับรู้ได้ถึงอีกรอยแผลที่เพิ่มขึ้นมาโดยที่ใบหน้าของคนกระทำยังคงนิ่งเฉยดังเดิม...ไม่แสดงออกว่าสะใจและแน่นอนว่าไม่มีความปราณีอยู่ในดวงตาดำมืดคู่นั้นที่มันถูกครอบงำเอาไว้ด้วยคำว่าชิงชัง

เหงื่อผุดพราวอยู่แถวๆไรผมสีขาว ร่างโปร่งกระตุกเกร็งเมื่อคมมีดหยุดลง แต่ถึงแม้ว่าความเจ็บปวดจะแล่นลิ่วขึ้นมา ใบหน้าที่ควรจะหวาดกลัวกลับยิ้มออกมา

“ ตอนที่กรีดมีดลงไป....กำลังนึกถึงใบหน้าของใครอยู่งั้นหรอ?...กิโนสะ โนบุจิกะ....หรือว่า....สึเนะโมริ อาคาเนะ....อึก!”    ดูเหมือนชื่อที่เอ่ยออกไปจะทำให้นัยน์ตาสีดำคู่นั้นเปลี่ยนไป จากที่เคยเฉยชากลับมามีแต่ความเคียดแค้นชิงชัง  คมมีดกรีดลงมาอีกแผล แต่คนถูกทำร้ายก็เพียงแค่กัดฟันทน

ใบหน้าเรียวเพียงแค่หอบกับความเจ็บแสบที่แทบจะทำให้สิ้นสติ แต่ก็ไม่คิดที่จะร้องไห้อ้อนวอนหรือทำท่าหวาดผวาต่ออีกฝ่าย

ในเมื่อเขาไม่ควรจะได้รับความปราณี....เขารู้ดี

“ แฮ่ก....แฮ่ก......อื้อ!!”     ใบหน้าที่ล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีขาวเผลอสะบัดไปมาเมื่ออะไรบางอย่างถูราดลงไปบนปากแผล...ไม่รู้ว่าเป็นแอลกอฮอล์ หรือยาใส่แผลแต่มันเจ็บแสบไปจนถึงไขสันหลัง ร่างที่เคยทนไหวเริ่มจะดิ้นไปมาตามปฏิกิริยาของร่างกายที่ไม่อาจทนได้

“ จะเป็นใบหน้าของใครก็แล้วแต่...แต่จะไม่มีใบหน้าของแกอยู่แน่นอน”     มือใหญ่กดลำตัวโปร่งบางที่ยังคงดิ้นจนเตียงส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด อีกมือเทขวดยาใส่แผลสดลงไปจนหมดขวด ข้อมือบางดึงรั้งจนโซ่ตึงแน่น ถึงแม้ใบหน้าเรียวจะมีปฏิกิริยาว่าเจ็บปวดแต่ริมฝีปากสีซีดนั่นก็ยังคงขบเม้มอย่างไม่ยอมร้องขออะไรออกมา

และแบบนั้นมันยิ่งทำให้คนกระทำไม่พอใจ

นัยน์ตาสีดำได้แต่จ้องมองคนที่ดิ้นพล่านอยู่บนเตียง....เขาอยากเห็นมันทรมานกว่านี้....อยากเห็นมันหวาดกลัว....อยากเห็นมันร้องไห้....อยากได้ยินมันอ้อนวอนขอชีวิต....หรือไม่ก็ขอให้เขาฆ่ามันให้ตายๆไปซะ....อยากเห็นภาพแบบนั้น...

ไม่ใช่ใบหน้าที่พราวไปด้วยเหงื่อแต่ก็ยังยิ้มให้เขาอยู่แบบนี้!

“ แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก.....เอาสิ...โคงามิ ชินยะ...ทำตามที่คุณต้องการสิ แต่น่าเสียดายที่คราวนี้ผมคงจะไม่ได้เป็นคนชี้นำ”      แม้แต่แรงจะพูดยังแทบไม่มีอยู่แล้วแต่ก็ยังกล้าท้าทาย

นัยน์ตาสีดำที่จ้องมองลงมายังเขามันมีแววว่าเอาจริงแน่นอน

เป็นแววตาที่ดี....

นี่คงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้เห็นความต้องการที่แท้จริงของมนุษย์คนหนึ่ง....คนที่จะสามารถลงโทษเขาได้จะต้องเป็นคนที่มีแววตาแบบนี้เท่านั้น



ฉันอยากเป็นตำรวจที่เก่งที่สุดในญี่ปุ่น



เสียงใสๆของใครคนหนึ่งแว่วเข้ามาในหัว....

มันเป็นเสียงของคนคนแรกที่เขาอยากจะทำให้ความต้องการที่แท้จริงของหมอนั่นสำเร็จดังที่หวัง.....เป็นเรื่องที่ผ่านมานานจนนายเองอาจจะจำไม่ได้เลยสินะ....โค



คมมีดเกี่ยวกระหวัดเข้ามาก่อนที่เข็มขัดกางเกงจะถูกดึงออกไป....ดูเหมือนโคงามิจะหาวิธีทรมานเขาได้อีกแล้วสินะ ยังไงซะหน่วยปฏิบัติการของกรมความปลอดภัยก็ได้ชื่อว่าเป็นอาชญากรแอบแฝงเหมือนกัน เพราะฉะนั้นในหัวย่อมรู้วิธีของพวกอาชญากรด้วยกันเป็นอย่างดี

กางเกงถูกกระชากออกไป คิ้วสีขาวเลิกขึ้นเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าร่างสูงใหญ่คิดจะทำอะไร....เพราะถึงเขาจะเป็นอาชญากรที่ฆ่าคนมานักต่อนัก แต่มันก็เป็นความจริงที่ว่า...เขาไม่รู้...ว่าอาชญากรจริงๆนั้นคิดอะไรอยู่ เพราะค่าสัมประสิทธิ์อาชญากรรมของเขาไม่เคยขุ่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว

“ ดี...ในเมื่อแกไม่คิดจะหวาดกลัวเพราะฉะนั้นก็ยิ้มออกมา....ยิ้มสิ!”      ฝ่ามือใหญ่บีบลงมาที่สองแก้ม ตอนนี้นัยน์ตาสีน้ำตาลทองเริ่มจะพร่ามัวด้วยพิษจากบาดแผลที่หน้าท้อง

“ อึก....”     แต่ดูเหมือนโคงามิจะไม่ยอมให้เขาสลบไปง่ายๆ ความเจ็บแสบแล่นลิ่วมาจากต้นแขนด้านหนึ่ง น้ำเหนียวๆอุ่นๆไหลลงไปจนถึงข้อมือทำให้รู้ว่าคมมีดเพิ่งจะกรีดไปอีกรอยแถวๆนั้น

“ ฉันจะทำให้แกยิ้มไม่ออก....เหมือนที่แกทำให้อาคาเนะไม่ยิ้มให้ฉันอีกต่อไป”      ใบหน้าคมขยับเข้ามาพูดใกล้ๆด้วยเสียงกดต่ำจนนัยน์ตาสีน้ำตาลทองเผลอวูบไหวไปชั่ววินาที ดวงตาของโคงามิที่มองมานั้นมันเต็มไปด้วยความแค้น

และเพราะมันบ่งบอกว่าแค้นมากขนาดนั้น นั่นแสดงว่าต้องรักเธอคนนั้นมากยิ่งกว่าอะไร



หึ......



มือใหญ่กระชากเส้นผมสีขาวให้ใบหน้าเรียวเงยขึ้นไป ก่อนที่อีกมือจะยกสะโพกของเขาขึ้นทั้งๆที่เลือดยังคงไหลออกมาจากบาดแผลที่หน้าท้อง  นัยน์ตาสีน้ำตาลทองได้แต่หรี่ปรือมองการกระทำของคนที่ขยับมาคร่อมเขาเอาไว้บนเตียงอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าโคงามิจะใช้วิธีนี้ในการทรมานเขา

เพราะมันเจ็บ...ยิ่งกว่าตายทั้งเป็น....

“ อึก!!!....อื้อ!!”       ร่างโปร่งแทบจะดิ้นพล่านเมื่อเรียวขาถูกรั้งขึ้นไปก่อนที่อะไรบางอย่างจะถูกสอดเข้ามาในช่องทางคับแน่นทางด้านหลัง ข้อมือที่ถูกมัดเอาไว้ด้วยโซ่สะบัดไปมาพร้อมกับคิ้วที่แทบจะขมวดติดกัน

ข้างล่างนั้นมันเจ็บยิ่งกว่าแผลที่หน้าท้องหลายเท่า

มือใหญ่บิดวนสิ่งแปลกปลอมจนมันขยับเข้าไปลึกกว่าเดิม ใบหน้าคมจ้องมองใบหน้าเรียวที่ดูทรมานยิ่งกว่าครั้งไหนๆด้วยความพึงพอใจ หยดน้ำใสๆรินไหลลงมาตามหางตาที่เคยมองคนอื่นจากเบื้องบนมาตลอดคู่นั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ ฮึก....อ่ะ...อื้อ!!!!”        ถึงลำตัวจะบิดเกร็งแต่ริมฝีปากสีซีดนั่นก็ยังไม่ยอมร้องออกมา และเมื่อพอจะปรับตัวได้นัยน์ตาสีน้ำตาลทองที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตาก็ยังคงมองตรงมาด้วยแววตาที่หาได้มีความหวาดกลัว

ทำไมถึงยังมองเขาได้ด้วยแววตาแบบนั้น

แววตาและรอยยิ้มที่ดูยังไงก็ไม่ใช่เอาไว้มองกากเดนของสังคมที่เรียกว่าอาชญากร แต่มันเป็นแววตาที่เอาไว้มองคนที่ตนปรารถนาดีด้วยต่างหาก!

มันน่าหงุดหงิด....น่าหงุดหงิดที่ไม่ว่าจะทำยังไงคนคนนี้ก็ไม่รู้สึกหวาดกลัวเขา

มือดึงขวดยาใส่แผลออกมาจากช่องทางคับแน่นก่อนจะเหวี่ยงไปกระทบผนังจนมันแตกกระจาย ขาเรียวถูกดึงรั้งขึ้นไปมากกว่าเดิม  นัยน์ตาสีน้ำตาลทองเบิกกว้างเมื่อจู่ๆสิ่งที่เข้ามาแทนที่เจ้าสิ่งแปลกปลอมนั่นมันจะกลายเป็นแกนกายของร่างสูงแทน

“ อึก....อย่า.....โค...”      ริมฝีปากรีบขบกัดกันก่อนที่มันจะเอ่ยอะไรออกไปมากกว่านั้น วูบหนึ่งที่นัยน์ตาสีน้ำตาลทองมีแววเจ็บปวดก่อนจะกลับมายิ้มรับกับสิ่งที่ร่างสูงมอบมาให้

แรงขยับหนักหน่วงจนแทบจะรั้งสติเอาไว้ไม่ได้ เพราะคนข้างบนไม่ได้คิดจะปราณีอย่างที่เขาก็รู้ดี

ถึงจะต้องถูกทำแบบนี้....แต่ถ้าหากว่ามันเป็นความต้องการของนายแล้วละก็.....



ฉันแค่กลัว....ว่ามันจะเกิดสิ่งที่เรียกว่าความผูกพัน...จนมันบดบังความต้องการที่แท้จริงของนาย



ฉันอยากเป็นตำรวจที่เก่งที่สุดในญี่ปุ่น



น้ำอุ่นๆฉีดพุ่งเข้าไปในร่างกายของคนที่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวจนสลบไปแล้ว

ร่างสูงถอนร่างกายของตัวเองออกมาจากคนที่หลับไปทั้งๆที่ใบหน้ายังยิ้มให้เขาอยู่

ไม่เห็นจะเข้าใจเลยสักนิด.....

ไม่เข้าใจ....ทั้งตัวหมอนั่น....และตัวเขาเอง


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


นัยน์ตาสีน้ำตาลทองลืมตาขึ้นมาเพราะเสียงดังโวยวายจากบรรดานางพยาบาล ใบหน้าเล็กขาวซีดหันไปมองเตียงข้างๆทั้งๆที่หัวยังหนุนอยู่บนหมอน

ได้ยินมาว่าวันนี้จะมีคนไข้คนใหม่เข้ามา...จะว่าไปเตียงเหล็กที่เคยว่างเปล่าก็ดูเหมือนจะมีข้าวของวางอยู่พอสมควร

“ หยุดเดี๋ยวนี้นะ โคงามิคุง!! ขาเธอยังหักอยู่นะจะกระโดดลงไปได้ยังไง?!

เสียงนางพยาบาลดังอยู่ที่ระเบียงข้างนอก คนที่เพิ่งจะตื่นเบือนหน้ากลับเข้ามาในห้องอย่างไม่คิดจะใส่ใจสิ่งที่กำลังเกิดอยู่ข้างนอกนัก....อะไรจะเป็นยังไงก็ช่าง เพราะอีกไม่นานเขาก็คงจะตายไปจากโลกที่น่าเบื่อใบนี้แล้ว

มือขาวซีดยกหนังสือขึ้นมาอ่าน แต่ไม่นานเสียงโครมครามก็ดังมาจากเตียงข้างๆอีก....ต่อให้เป็นคนไม่สนโลกแค่ไหนแต่เล่นดังซะขนาดนี้มันก็อดที่จะทำให้ต้องหันไปมองไม่ได้

“ ช่วยอยู่นิ่งๆหน่อยเถอะจ้ะ ไม่งั้นฉันจะมัดเธอไว้กับเตียงแน่”     นางพยาบาลสองสามคนช่วยกันจับตัวเด็กผู้ชายคนหนึ่งกลับมาวางไว้บนเตียง

นัยน์ตาสีน้ำตาลทองไล่มองเด็กคนนั้นตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะเขาไม่เคยเห็น...เด็กรุ่นราวคราวเดียวกันที่ดื้อแม้แต่กับนางพยาบาล อีกทั้งยังพยายามจะปีนระเบียงหนีออกไปอีก....จะว่ายังไงดี...คือมันแปลกสำหรับสมัยนี้ที่ยังมีคนทำอะไรตามใจตัวเองโดยที่ไม่กลัวว่าจะถูกวัดค่าไซโครพาส...ไม่กลัวว่าค่าสัมประสิทธิ์อาชญกรรมของตัวเองจะขุ่นขึ้นแบบนี้

ใบหน้ามุ่ยของเด็กคนนั้นจ้องไปที่นางพยาบาลอย่างขัดใจ เส้นผมสีดำที่ล้อมกรอบใบหน้าได้รูปก็ดูยุ่งเหยิง นัยน์ตาสีดำก็มีแววดื้อดึงราวกับว่าหากต้องการที่จะทำอะไรแล้วก็จะต้องทำมันให้ได้ ร่างกายที่ไม่ได้ใหญ่โตไปกว่าเขามากนักแต่กลับดูแข็งแรงราวกับเป็นคนที่มีสุขภาพดีมาตั้งแต่เกิด ถึงแม้ว่าที่ขาจะถูกเข้าเฝือกเอาไว้ แต่ยังไงก็ยังดูน่าอิจฉา....


ใช่.....น่าอิจฉาสำหรับคนที่ร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เกิดแบบเขา


เด็กชายที่ถูกเรียกว่า “โคงามิ” คนนั้นล้มตัวนอนลงบนเตียงข้างๆด้วยใบหน้าซังกะตาย แขนที่มีพลาสเตอร์ยาแปะเอาไว้หลายแห่งยกขึ้นมาหนุนหัว  เป็นเด็กตัวแค่นี้แต่ทำเหมือนมีอะไรต้องคิดมากมาย

“ ฮึๆ”     แล้วก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาเผลอหัวเราะน้อยๆออกไป

พ่อแม่ของเขาอาจจะคิดถูกแล้วก็ได้ที่ไม่ได้ให้เขาไปอยู่ในห้องเดี่ยวทั้งๆที่มีเงินมากเกินพอด้วยซ้ำที่จะทำแบบนั้น

“ มีอะไรน่าขำหรือไง?”      น้ำเสียงนิ่งถามออกมาจากเตียงข้างๆ


และนั่นมันก็เป็นครั้งแรก....ที่เราได้คุยกัน

เป็นครั้งแรก...ที่เขาคิดว่าดีจริงๆที่ยังมีชีวิตอยู่....



“ ทำไมถึงคิดที่จะหนีออกไปล่ะ?”      จะว่าไม่มีเงินจ่ายก็คงไม่ใช่ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นพ่อแม่ของเด็กนั่นคงไม่เลือกพามาโรงพยาบาลเอกชนที่แพงหูฉี่ขนาดนี้ตั้งแต่แรก

“ มีเรื่องที่อยากทำน่ะ”      เด็กคนนั้นเอ่ยตอบออกมาด้วยใบหน้านิ่ง หัวสีดำยุ่งๆที่หนุนหมอนอยู่เงยหน้ามองเพดานราวกับว่ากำลังคิดเรื่องอะไรบางอย่าง

ใบหน้าแบบนั้นแหละ....ที่ทำให้เขารู้สึกสนใจสิ่งที่เรียกว่า “มนุษย์” เป็นครั้งแรก





“ เรียกว่า....โค....ได้ไหม?”

“ จะเรียกอะไรก็ตามใจเถอะ”

เพราะต้องอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆนั่นด้วยกันทั้งวันทั้งคืนหรือยังไงไม่รู้...คนที่ไม่เคยมีเพื่อนแม้แต่คนเดียวแบบเขาถึงได้รู้จักการที่จะเริ่มต้นพูดคุยกับใครสักคน





“ อูย......”

“ ยังไม่เลิกคิดที่จะปีนหนีลงไปอีกหรอ?”

“ ระเบียงแค่นี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก นายคอยดูแล้วกัน”

ทุกครั้งที่เขาได้เห็นใบหน้าดื้อรั้นแต่ก็จริงจังแบบนั้นมันกลับทำให้เขายิ้มออกมาได้....หัวเราะออกมาได้...





“ ฮะ ฮะ ฮะ”

“ อย่ามัวแต่หัวเราะสิ! ดึงมือฉันขึ้นไปหน่อยจะตกแล้วๆ”

“ รู้แบบนั้นแล้วก็ยังจะปีนลงไปอีกนะนายน่ะ”

“ ฉันไม่ยอมโดนขังอยู่ในนี้หรอกน่า...นายเองก็ไปด้วยกันสิ”

นายจะรู้บ้างไหม...ว่าคำชวนคำนั้นของนาย คือ คำพูดที่ทำให้ความสิ้นหวังของฉันมลายหายไป....อยากจะมีชีวิตอยู่ อยากจะออกไปดูโลกที่นายมองเห็น...





“ อาทิตย์หน้าฉันกำลังจะเข้าผ่าตัดใหญ่ที่หัวใจ....”

“ ถ้างั้นเวลาที่นายออกมา เราคงไม่ได้เจอกันแล้ว เพราะฉันเองก็จะถอดไอ้เฝือกบ้าๆนี่ได้แล้วเหมือนกัน”

“ ฉันจะออกมาได้หรอ...”

“ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?”

คำพูดของนายมันทำให้ฉันมีความหวัง....






“ ฉันอยากเป็นตำรวจที่เก่งที่สุดในญี่ปุ่น”

“ ตำรวจ? หมายถึงหน่วยสืบสวนในกรมความปลอดภัยน่ะหรอ?”

“ ใช่!      ใบหน้าของโคดูสดใสมากเมื่อพูดถึงความตั้งใจของตัวเอง

มันทั้งสดใส ทั้งเป็นประกาย ทั้งเต็มไปด้วยความหวัง....จนคนที่ทิ้งความหวังไปแล้วอย่างเขายังรู้สึกได้....

ว่าถ้าหากช่วยทำให้ความหวังนั้นเป็นจริงได้ก็คงจะดี...



ถ้าหากฉันช่วยทำให้นายเป็น “ตำรวจที่เก่งที่สุดในญี่ปุ่นได้” ก็คงจะดี



นั่นคือคนคนแรก....และคนคนเดียว...ที่เขาอยากจะช่วยให้ความต้องการของหมอนั่นเป็นจริง



จะมีเพียงตำรวจที่เก่งที่สุดเท่านั้น...ที่จะจับอาชญากรอย่างเขามาลงโทษได้


ในโลกที่ตำรวจแทบจะไม่ต้องทำอะไรเพราะมี โดมิเนเตอร์....


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


ถ้าจะมีคนที่สามารถลงโทษผมได้ละก็....คนคนนั้นจะต้องเป็น......โคงามิ ชินยะ.....เท่านั้นแหละ



.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


To be Continue





จะขยันสร้างไหไปไหน...= =”””….

*หลบหน้าหลบตา*

แล้วก็ไม่ต้องถามนะค้า ว่า...แล้วหมายเลขสามถึงสิบเอ็ดมันหายไปไหน?....ฮ่าๆๆๆ เก๊าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ^ ^ (โดนโดมิเนเตอร์ยิงดับ!)

โอย....หนีดีกว่า แบบว่าฟิคเรื่องนี้มันชั่ววูบมาก ง๊ากกกกกกก ส่วนไอ้เรื่องที่กลั่นแล้วกลั่นอีกนั่นก็ไม่เสร็จซักที ขออภัยคนที่ทวงถามมาด้วยนะคะ *กระซิกๆ*

เข้าป่าไปหาสะเก็ดดาวตก(?)ดีกว่า ฮืออออออออ  แล้วเจอกัน...หวังว่าจะกลับมาทันปีใหม่นะคะ >A<


สำหรับใครที่หลงเข้ามาอ่านแต่ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตาของคุณโคกับโชโงะซังละก็...แว่บไปดูได้ที่ Mad กะได้ค่ะ...พ่อหัวขาวที่แอบสโตรก(?)เค้าอยู่น่ะ คือโชโงะซัง ส่วนพ่อหนุ่มหล่อล่ำกล้ามน่ากัดนั่นคือคุณโคเองค่า >////<  แบบว่าขอแปะอันที่อัพในเฟสก่อนแล้วกันนะ เพราะว่ายังไม่ได้เอนโค้ดใหม่เพื่ออัพในบลอคนี่เลยค่ะ แหะแหะ รอสักครู่

ตอนนี้ก็ตามไปดูที่นี่ก่อนแล้วกันนะเคอะ   http://www.facebook.com/photo.php?v=400544870027367


เพิ่งอัพเสร็จ แหะแหะ...
















ตรงนี้อ่านซักหน่อยนะก๊ะ จะได้ไม่งง


เอาละ.....มาอธิบายกันหน่อย เกี่ยวกับไอ้ฟิคงงๆที่ชื่อว่า   ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม  นี่น่ะ

จริงๆแล้วมันเป็นฟิคสั้นจบในตอนค่ะ (ยกเว้นของอิคู่ดราม่าประจำซอย) และ....เนื้อเรื่องมันไม่ได้ต่อกัน แต่ละพาร์ทแต่ละคู่ไม่เกี่ยวข้องกันโดยสิ้นเชิง!!  ความจริงคือต้องแยกไปเป็นคนละเรื่อง ไปตั้งชื่อของใครของมันไปเลยด้วยซ้ำ...แต่ด้วยความที่มันเป็นฟิคสั้นแบบ One Shot แล้วตรูก็ขี้เกียจตั้งชื่อ เลยให้มันอยู่ภายในร่มคันเดียวกันไปซะ โดยใช้ชื่อเรื่องว่า  ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม  โดย...

ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม  หมายเลข 1-11 จะเป็นหมายเลขตอนที่จะเอาไว้ลงคู่  Kogami x Tsunemori
ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม  หมายเลข 12-22 จะเป็นหมายเลขตอนที่จะเอาไว้ลงคู่  Kogami x Makishima
ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม  หมายเลข 23-33 จะเป็นหมายเลขตอนที่จะเอาไว้ลงคู่  Kogami x Ginoza

ซึ่งแต่ละคู่ก็อาจจะไม่ได้ลงจนครบจำนวนตอนก็ได้ อย่างที่บอกแหละมันเป็นฟิคสั้นจบในตอน เพราะงั้นจะต่อหรือไม่ต่อมันก็จบของมันอยู่แล้ว (ก็ยกเว้นอิคู่ดราม่าที่ไม่จบในตอนแน่นอน55)  จึงเรียนมาเพื่อทราบ ^ ^






5 ความคิดเห็น:

  1. หุหุ แนวนี้ก้อไม่เลวเลยคร่ ....ชอบมว๊ากกกก!!! >.,< [แบบว่า โชโงะ แอบ M นะ o.O ? ]
    แต่เล่นทรมานตั้งแต่ตอนนี้ ต่อไปจะเลิฟ..ๆๆ กันยังไงหว่าาา ?? [แอบลุ้นว่าฉาก nc จะเป้นไง หุหุหุ]
    รอตอนต่อไปคร่ ! ^^

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ28 ธันวาคม 2555 เวลา 05:17

    มันเกิดไรขึ้นกะช่องว่างที่หายไป ?!
    เปิดมาก็งี้เลยเร้อะ รู้สึกสงสารสึเนะแหะ ในเรื่องไม่ตายแต่ชีวิตเริ่มรันทดซะแล้ว มานี่ ...ตายแล้ว
    เดี๋ยวๆๆๆๆ ใจเย็นก้อนนนนนน เร็วไปแว้ววววว

    โชงะเอ๋ย...นี่เจ้าเป็นมาโซรึเนี่ย.... กว่า80%อยู่กันสองต่อสองแบบนี้.... ลง.... แน่ๆ

    ตอบลบ
  3. ฟิคหมายเลขสิบสองเลยทีเดียว -0-
    อ่านแล้วโชโกะทีก่ออาชญากรรมนี่เพื่อคุณโคใช่ม๊ายยยยยยยยยยย TT___TT
    อากาเนะหนูไปซะแล้ว แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    คุณโคเริ่มไม่เข้าใจตัวเองซะแหละ Nc ไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เข้าใจเองแหละคุณโค 555+

    ตอบลบ
  4. อ่านแรกๆ นี่ สะใจค่ะ

    มาคิชิมะทำไว้เยอะนี่ ถ้าแค่โดนจับมันก็น้อยไป
    ฉะนั้นเอามาแก้แค้นเองแบบนี้...สาสมแล้ว

    แต่พออ่านไปหลังๆ

    ...นี่นายทำแบบนี้เพื่อโคงามิเหรอเนี่ย จะเสียสละเกินไปแล้วน้า

    แต่ยังไงถ้าเทียบกับการที่ไปฆ่าคนในหน่วยของโคงามิทั้งหมดแล้วก็....นะ

    เฮ้ออออ สงสารคุณโคชะมัด

    ตอบลบ
  5. มาต่อเถอะค่ะ*^* ชอบคู่นี้

    ตอบลบ