: KW Original
: Romantic??
: PG (คือ...ถ้าไปกับเอเลนอาจจะ NC // โดนตบ)
หลังจากที่เมื่อวานใช้ชีวิตเป็นคนเมือง(จีน)กันทั้งวัน วันนี้เลยออกนอกเมืองกันบ้างค่ะ555 และสถานที่ที่จะไปกันวันนี้ก็คือ เขาชิงเฉิง หรือชิงเฉิงซาน นั่นเอง เอง เอง.... // เอคโค่ทำไมย์
แต่พอพูดถึงชิงเฉิงซานก็รู้สึกคุ้นๆหู เหมือนเคยได้ยินบ่อยๆในหนังจีนยังไงก็ไม่รู้เนอะคะ 5555
โอเค วันนี้ตื่นมาด้วยความชุ่มฉ่ำ =v= ฝนตกแต่เช้าเลยจย้าาาาา คะชูซังกับยามะตันที่ตรูอุตส่าห์เปลี่ยนชุดอยู่เป็นชั่วโมงเมื่อคืนมีอันต้องอยู่แต่ในกระเป๋า เพราะไม่กล้าควักออกมา กลัวพวกนางเละถถถ ทริปนี้ฝนตกแม่งตลอดเลยค่ะ ถ้าไม่ฝนตกก็ร้อนตับแตก ก็เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเด็กๆมาเลย เสียจัย TvT แต่หอบไปด้วยทุกทีนะ5555+
มาดูวิธีการไปเขาชิงเฉิงกันดีกว่า คือว่าตอนนี้เค้ามีรถไฟความเร็วสูงไปถึงที่นั่นอย่างสะดวกสบายแล้วค่ะ แต่ด้วยความที่ไม่ค่อยเจอในรีวิวทำให้ขาไปคุณกวางกับเพื่อนเลือกที่จะไปด้วยรถบัสเพราะค่อนข้างแน่ใจว่ามันจะไปถึง คืออ่านรีวิวที่ชาวบ้านเค้าไปกันแล้วก็ทำตามอะไรประมาณนั้นแหละ555+
ส่วนขากลับด้วยความมึนๆงงๆเลยได้นั่งรถไฟความเร็วสูงกลับค่ะ *w* ซะงั้น555 ก็...ถ้าใครอยากจะไป-กลับด้วยรถไฟก็เอาวิธีของคุณกวางไปปรับใช้เอานะคะ
ขอสรุปขั้นตอนการเดินทางก่อง จะได้ไม่งงเนอะ
ขาไป ที่พัก --> นั่งรถไฟใต้ดินไปสถานีรถบัส Xinnanmen --> นั่งรถบัสจากสถานีรถบัสXinnanmenรวดเดียวลงหน้าเขาชิงเฉิงซาน --> นั่งรถกอล์ฟขึ้นเขาไปจุดซื้อตั๋วเข้าขมเขาชิงเฉิง --> เดินขึ้นเขาประมาณนึง --> นั่งเรือข้ามทะเลสาป --> นั่งกระเช้า --> เดินขึ้นเขาอีกรอบ --> พิชิตยอดเขา เย้~~
ขากลับ จากยอดเขาก็เดินลงมาถึงจุดขึ้นกระเช้า --> นั่งกระเช้าเถอะ ชีวิตจะดีย์ --> ถึงทะเลสาปจะนั่งเรือเหมือนเดิมก็ได้แต่เราไม่ เราติส เราเลยเดินเลาะทะเลสาปเอา555 --> เดินลงเขาประมาณนึงก็จะถึงทางเข้าที่เราซื้อตั๋วเข้าชม --> นั่งรถกอล์ฟลงเขา --> หารถบัสกลับเฉิงตูไม่เจอเลยนั่งรถเมล์สาย 101 ไปลงสถานีรถบัสซึ่งเป็นที่จอดรถบัสกลับเฉิงตู --> แต่ถึงสถานีรถบัสแล้วก็ยังหารถบัสไม่เจอ แต่ดันไปเจอสถานีรถไฟความเร็วสูงที่อยู่ข้างๆกันแทน --> นั่งรถไฟความเร็วสูงกลับสิย์ จะรออัลไล --> รถไฟมาจอดที่สถานี Xipu ซึ่งไม่เป็นที่รู้จัก แต่มีรถไฟใต้ดินเชื่อมกันอยู่ เสร็จคุณกวาง =v= --> นั่งรถไฟใต้ดินจากสถานี Xipu เข้าเมือง --> ถึงที่พัก ก็นวดขาอย่างบ้าคลั่งถถถ เป็นอันจบการเดินทางไปยังเขาชิงเฉิงด้วยประการละฉะนี้...
ออกเดินทางกันเลยค่ะ ก็เริ่มจากนั่งรถไฟใต้ดินหรือ metro ไปสถานีรถบัสตามนี้ค่ะ
คือจริงๆแล้วสถานีรถบัสที่มีรถไปชิงเฉิงซานมีอยู่ด้วยกัน 2ที่ ตามที่เขียนไว้นั่นแหละ แต่ Xinnanmen อยู่ใกล้ที่พักคุณกวาง ก็เลยไปจากที่นี่น่ะค่ะ ก็ออกทางออก C โผล่ขึ้นไปก็จะเจอทางเข้าสถานีรถบัสเลยค่ะ
พอเข้าตัวอาคารไปแล้วให้เลี้ยวซ้ายค่ะ ไม่ว่าคุณจะมีตั๋วมาก่อนหรือไม่ก็ตาม555 คือคุณกวางกลัวรถบัสจะเต็ม ก็เลยจองตั๋วรถบัสแบบออนไลน์ไปค่ะ เค้าก็จะส่งตั๋วออนไลน์มาให้ซึ่งเป็นภาษาจีนล้วนและดูไม่เหมือนตั๋วเพราะมีแต่ข้อความอะไรก็ไม่รู้555 เราก็ปริ๊นท์ไปค่ะ พอไปถึงก็ให้เลี้ยวเข้าห้องทางซ้ายมือซึ่งเป็นห้องขายตั๋วนั่นแหละ ยื่นแผ่นที่ปริ๊นท์ให้เจ้าหน้าที่เค้า เค้าก็จะเอาไปกรอกอะไรไม่รู้อ่ะในตู้อัตโนมัติให้(แน่นอนว่าเป็นภาษาจีนล้วน =v=b) จากนั้นเค้าก็จะให้เราไปนั่งรอค่ะ ไม่มีตั๋วแข็งนะ คือใช้แผ่นที่เราปริ๊นท์มานี่แหละขึ้นรถได้เลย....นะ...ขั้นตอนจริงๆมีอยู่แค่นี้แหละ แต่ด้วยความที่คุณกวางกับเพื่อนไม่รู้ไง ละสื่อสารกะเค้าก็ไม่เข้าใจ ของคุณกวางมันเลยเป็นแบบนี้ค่ะ.....
มาถึงสถานีรถบัส --> เดินผ่านสแกนรอบที่ 1 (ควักน้ำออกจากกระเป๋าพะรุงพะรัง)เดินเข้าไปในห้องพักคอยของผู้โดยสารแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว --> พยายามถามเจ้าหน้าที่ที่เคาเตอร์ที่เหมือนจะเป็น infomation แต่นางก็ชี้กลับไปห้องขายตั๋ว --> เดินออกไปใหม่ --> เข้าห้องขายตั๋วเอาตั๋วออนไลน์ให้เจ้าหน้าที่ดู เค้าก็เอาไปจิ้มๆข้อมูลอะไรที่ตู้อัตโนมัติแล้วส่งคืนเราพร้อมกับบอกให้ไปนั่งรอได้ --> เดินผ่านสแกนรอบที่ 2 (ควักน้ำออกจากกระเป๋าพะรุงพะรัง)เดินเข้าไปในห้องพักคอยของผู้โดยสารแบบรู้เรื่องรู้ราวขึ้นมานิดหน่อยแต่ก็ยังไม่แน่ใจเลยเอาตั๋วออนไลน์แผ่นกระดาษของเราไปให้พนักงานที่คอยตรวจตรงทางออกไปขึ้นรถดู --> นางก็ดูแล้วชี้ไม้ชี้มือไปที่ห้องขายตั๋วอีก =[ ]= ไม่พอ ยังใจดีพาเราเดินกลับไปห้องขายตั๋วพร้อมเจรจากับพนักงานในห้องขายตั๋ว(คนเดิมนั่นแหละ)ให้เราอีกต่างหาก --> พนักงานในห้องขายตั๋วเลยต้องมาบอกเราช้าๆชัดๆอีกครั้งด้วยภาษาอังกฤษว่า ให้ยูรอ แปดโมงยี่สิบ ตามเวลาของตั๋วนะ(ตั๋วคุณกวางเที่ยว 8:30) แล้วค่อยไปที่ประตู แล้วพี่สาวคนนี้จะเปิดให้ยูเข้าไปเอง จะนั่งรอในห้องนี้ก็ได้ =v="" คือเหมือนตรูเป็นตัววุ่นวายมาก5555+ ก็เค้าไม่รู้~~ แต่พนักงานเค้าใจดียินดีช่วยเหลือมากค่ะ ถึงจะพูดโผงผางดังชัดถ้อยชัดคำ(ภาษาจีน)จนตรูกลัวไปหน่อยก็เถอะ =v= นะ ก็เลยไปนั่งรอในห้องพักคอยผู้โดยสารดีกว่าค่ะ --> เดินผ่านสแกนรอบที่ 3 (ควักน้ำออกจากกระเป๋าพะรุงพะรัง) ว้อยยยยยย เริ่มรำคาญอิเครื่องสแกนนี่ละ แน่นอนว่าเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยตรงนั้นก็คงรำคาญอิสองตัวนี้เช่นกัน มันจะเข้าๆออกๆอะไรนักหนาว้า 5555+
ค่ะ ด้วยความเพลียเลยไม่ได้ถ่ายรูปในสถานีรถบัสมาเลย แต่ที่นี่โอเคนะ สะอาดและคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ไม่รู้เพราะยังเช้าอยู่หรือเปล่าอ่ะนะ ก็นั่งกินขนมปังที่เหลือจากเมื่อวานรอ คือตามสถานีรถบัสหรือรถไฟที่วิ่งทางไกลระหว่างเมืองน่ะค่ะ เค้าจะไม่ปล่อยให้เราเข้าไปในชานชลาก่อนจะถึงเวลาค่ะ อย่างตั๋วเรา 8.30น. เนี่ย ซัก 8.20น. ก็ให้เตรียมตัวไปยืนรอที่หน้าประตูทางเข้า(เหมือนทางเข้า BTS บ้านเราอ่ะแหละ เป็นช่องๆ) เค้าจะเปิดให้เข้าก่อนเวลารถออกประมาณ10-15นาทีแล้วแต่ ถ้าเป็นตั๋วก็เอาตั๋วแปะติ๊ดลงไปหรือเสียบเข้าไปนี่แหละจำไม่ได้ ไม้กั้นก็เปิด เราก็เดินเข้าไป แต่เป็นตั๋วออนไลน์กระดาษแบบคุณกวางก็เลยต้องส่งให้เจ้าหน้าที่ค่ะ นางก็จะมาจัดการเปิดไม้กั้นให้เรา เป็นอันได้เข้าแล้ว เย้~
พอเข้าไปในชานชลาก็จะเจอรถบัสจอดเรียงกันเป็นตับ ด้วยความที่เป็นตัววุ่นวายเลยได้รับการดูแลอย่างดีย์ 5555+ เจ้าหน้าที่ขายตั๋วก็เรียกให้เดินตามนางไปเลยค่ะ เด่วมันไปขึ้นรถผิดอีก5555+ ความจริงที่บอร์ดป้ายไฟตรงประตูเข้าชานชลาเค้าจะมีบอกนะ ว่ารอบ 8.30 ไปชิงเฉิงซานเนี่ยให้ไปขึ้นรถเลขทะเบียนนี้ๆๆ ตอนแรกคุณกวางมองแล้วไม่เข้าใจค่ะ(ภาษาจีนล้วน) พอมาถึงรถถึงได้ อ๋ออออ ไอ้รหัสยาวๆท้ายแถวบนบอร์ดนั่นมันคือเลขทะเบียนรถค่ะคู๊ณณณณ
นี่~~ คันนี้ที่จะพาเราไปชิงเฉิงซาน~~ เลขทะเบียนรถ บลาๆ(ภาษจีน)AQ7618 นั่นแหละค่ะที่มันจะขึ้นอยู่บนบอร์ด ดูซะ ละก็มาขึ้นให้ถูกคัน 5555+
อ่านะ เจ้าหน้าที่ขายตั๋วคนนั้นเค้าก็ขึ้นมาเช็คคนเช็คตั๋วบนรถอะไรไปพร้อมกำชับคนขับรถให้พานังสองตัวนี่ไปส่งที่ชิงเฉิงซานให้ด้วย 5555+ คือไม่แน่ใจว่ารถเที่ยวนี้มันเป็น Special Bus หรือเปล่า เพราะตอนอ่านรีวิวอ่ะ ส่วนใหญ่บัสเค้าจะไปจอดที่สถานีรถบัสชิงเฉิงแล้วเราต้องนั่งรถเมล์สาย 101 ต่อขึ้นเขาเอง แต่คันนี้วิ่งยาวถึงหน้าเขาเลยค่ะ โชคดีแบบงงๆไป ^ ^a
นั่นแหละค่ะ พอขึ้นรถได้ต่อให้สถานการณ์จะเป็นยังไง คุณกวางมันก็ยังหลับได้ค่ะ ก็หลับยาวๆไป ฝนก็ตกแล้วรู้สึกรถจะติดมากด้วยนะ จำไม่ได้ว่ารถวิ่งกี่ชั่วโมง แต่เหมือนจะนานกว่าที่คิดอยู่เหมือนกัน ดูความฝนตกนั่นสิย์
คือนอนเต็มอิ่มได้อ่ะ5555+ พอตื่นมาก็ยังไม่ถึง เลยนั่งดูคนจีนขับรถกันค่ะ มันส์มาก5555+ คือทางที่วิ่งอยู่เนี่ยมันอารมณ์ทางด่วนอ่ะ แล้วบางช่วงมันก็มีทางคู่ขนานบ้างใช่ป่ะ แล้วทีนี้มันก็มีรถบางคันจอดแม่งในช่องทางด่วนนี่แหละค่าาา ส่วนตัวนางวิ่งออกไปซื้อของหรือหยิบของอะไรไม่รู้แหละจากร้านข้างถนนคู่ขนานอีกทีอ่ะ 55555+ สุด แต่นี่ยังไม่เท่าไหร่ ขับๆไป เจออาเจ้ชาวจีนคร่อมมอเตอร์ไซค์จอดคุยโทรศัพท์มันดื้อๆงั้นอ่ะ เดี๋ยวนะ 5555+ คือใครนึกจะทำอะไรก็ทำมาก แต่คนที่นี่สกิลขับรถสูงมากค่ะ เจอสารพัดสารเพขนาดนั้นพี่คนขับของเราก็หลบได้เป็นงูเลื้อยเลยเหอะ ^ ^" ละนางบีบแตรด่าได้อย่างกะบรรเลงดนตรีมาก5555+
ค่ะ ขับๆไปเค้าก็มาจอดข้างถนนที่หนึ่งอ่ะก่อนจะตะโกนเป็นภาษาจีนชี้ไม้ชี้มืออะไรไม่รู้ แล้วคนก็เริ่มลงกันเกือบหมด คุณกวางกับเพื่อนก็เริ่มเลิ่กลั่ก ชั้นต้องลงตรงนี้เหรอ? ถึงสถานีรถบัสชิงเฉิงแล้วเหรอ? ไหงหน้าตาไม่เหมือนที่ตรูอ่านรีวิวมา? ซักพักพี่คนขับก็หันมาบอกเราด้วยใบหน้าใจดีและทำท่าทำทางเอาว่าพวกเจ้าไม่ต้องลง แล้วก็พูด "ชิงเฉิงซานๆ?" ไอ้เราก็ตอบกลับไป "ชิงเฉิงซานๆ" 5555+ สรุปว่ารถคันนี้เค้าจะไปจอดส่งเราให้ที่ทางขึ้นเขาเลยค่ะ ไม่ต้องเข้าไปที่สถานีรถบัสชิงเฉิง ไม่ต้องไปต่อรถเมล์สาย101ให้ยุ่งวุ่นวายนั่นเอง อร๊ายยย >////<
โอเค ในที่สุดก็มาถึงเขาชิงเฉิงจนได้ ได้ ได้......
พอมาถึงแล้วพี่คนขับก็ชี้ๆให้เราลง คือเขาชิงเฉิงเนี่ย มันจะมีทั้งด้านหน้าเขาและด้านหลังเขาค่ะ ที่เราลงมาเนี่ยคือหน้าเขา ถ้าจะไปหลังเขาต้องไปลงที่สถานีรถบัสชิงเฉิงแล้วต่อรถเมล์อะไรซักสายอ่ะไป แต่เราไม่ไปไง เราเลยไม่สนใจ~ 555
ค่ะพอมาถึงตรงนี้แล้วขั้นตอนต่อไปเราก็จะไปซื้อตั๋วรถกอล์ฟขึ้นเขากันค่ะ ก็มองหาซุ้มแบบนี้
คนละ10หยวนค่ะ เค้าก็จะให้ตั๋วเรามา เป็นตั๋วเที่ยวเดียวนะ ส่วนขากลับไปซื้อจากข้างบนเขาค่ะ พอซื้อตั๋วเสร็จก็หิวค่ะ555 แถวๆนั้นก็จะมีบูทขายอาหารง่ายๆอ่ะ เลยได้ซาลาเปาไส้อะไรก็ไม่รู้มา~
ก็กินได้นะ แต่ก็นั่นแหละ ไม่รู้ว่ามันไส้อะไร เหมือนจะเป็นเนื้ออะไรซักอย่างอ่ะ5555+ กินๆเข้าไป พวกเลือดกรุ๊ปบีแดกอะไรแล้วไม่ตายง่ายๆเพราะงั้นไม่เป็นไร 55555+ // ใช่เร๊อะะะ
เดินไปขึ้นรถกอล์ฟ~
จากนั้นรถก็จะวิ่งฉิวขึ้นเขาพาเรามาจอดตรงนี้ค่ะ
เนี่ย ตอนขากลับก็มาซื้อตั๋วรถกอล์ฟแล้วก็รอขึ้นรถกอล์ฟตรงนี้แหละ
แต่สำหรับขามา....ยัง...มันยังไม่ถึงทางเข้าชิงเฉิงซานที่แท้จริงค่ะ555 ต้องเดินต่อไปอีกหน่อยนึง ระหว่างทางก็จะเป็นแบบนี้
เริ่มเห็นประตูอยู่ริบๆแล้ว เดินต่อไปย์~
ถึงประตูด่านแรกแล้ว เฮ~~ เดินลอดมันไปค่ะะะะ
ด้านขวามือจะมีอาคารร้านค้ามาคอยหลอกล่อท่าน แต่เราไม่สนใจมันค่ะ เพราะเราไม่มีเงินค่ะ เราจงเดินตรงไปค่ะ
ในที่สุดก็เจอแล้วววว ทางเข้าชิงเฉิงซานที่แท้จริง จริง จริง.....
ด้านซ้ายมือจะมีอาคารที่ขายตั๋วอยู่ด้วยค่ะ 90 หยวนต่อคนค่ะ
พอซื้อตั๋วเสร็จก็เดินเข้าซุ้มประตูตรงกลางไปนี่แหละค่ะจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตั๋วอยู่
พอเข้าไปแล้วก็จะมีทางแยกให้เราเลือกว่าจะเดินอย่างคนชราที่เป็นพื้นลาดผ่านร้านค้า บลาๆๆ หรือว่าจะเดินอย่างวัยรุ่นไต่ไปตามสะพานไม้เลาะเขา แน่นอนว่าคุณกวางเลือกทางเดินอย่างคนชรา555+ แต่กล่อมเพื่อนไม่สำเร็จค่ะเลยได้ไปเดินเลาะเขาแทน.... // มองกะไดพวกนั้นแล้วก็อ้าปากพะงาบๆ
ระหว่างทางก็จะมีป้ายบอกแผนที่เราเป็นระยะๆ แต่~~จงจำเอาไว้ว่าแผนที่เนี่ยเค้าตัดมาเป็นส่วนๆ!
คืออิป้ายตรงนี้มันเขียนไว้แค่อาคารที่อยู่ปลายกระเช้า ตรูก็เข้าใจว่า อ๋อ ไปถึงตรงนั้นแล้วคงไม่มีอะไรแล้วมั้ง ก็เลยตั้งใจว่าจะขึ้นกระเช้าขาขึ้นขาเดียว เดี๋ยวขากลับเราเดินลงกันเน๊อะ....ที่ไหนได้...ต่อจากกระเช้าแล้วมันยังมีทางขึ้นเขาอีกไกล มีวัด มีศาลาอะไรอีกเพี้ยบเลยค่ะ =[ ]=
เดินๆๆ เดินกันต่อไปย์ ต่อให้เจอกะไดหินเราก็ต้องขึ้นไป~~ TvT
แต่เป็นทางเดินผ่านป่าที่สวยดีค่ะ เดินละนึกถึงเขตสุสานที่โคยะซัง วาคายามะ แต่ที่โคยะซังจะหลอนกว่านี้เพราะต้นไม้จะใหญ่มากแล้วสองฝั่งทางเดินก็จะมีแต่หลุมศพ =v=
มีศาลาให้แวะพักเป็นระยะๆ บรรยากาศดีมากค่ะ คือฝนเพิ่งหยุดตกแล้วยิ่งเดินขึ้นเขา หมอกก็ยิ่งลงค่ะ >////<
แล้วในที่สุดเราก็มาถึงทะเลสาปแล้วววววว
เดินผ่านมูนเกท ขึ้นกะไดไปก็จะเจอร้านค้านิดหน่อยและ....!!!
สำหรับค่าขึ้นเรือข้ามทะเลสาปก็เที่ยวละ 5 หยวนค่ะ ซื้อตั๋วได้ตรงบูทข้างๆทางขึ้น-ลงท่าเรือนั่นแหละ ตอนมาถึง เรือกำลังไปพอดี =////=
จริงๆมีสะพานไม้เดินเลาะริมทะเลสาปได้นะ ถ้าใครไม่อยากนั่งเรือจะเดินเอาก็ล่าย แต่คุณกวางอยากสัมผัสบรรยากาศตอนองค์ชายเก้าหลี่เว่ย(?)นั่งจิบเหล้าล่องเรือพาเจ้าลูกหมาอ้ายหลุน(?)ชมทะเลสาปไงงงงง ก็เลยจัดซะเที่ยวนึง อุฮิๆๆๆ
รอแป๊บเดียวเรือก็กลับมา~ โอ๊ยดูหมอกฝั่งนู้นสิย์ สวยอะไรขนาดนี้~~~ >////<
พอขึ้นเรือแล้วหันกลับมาก็จะเป็นแบบนี้ สวยจริงจัง >////<
ค่ะ พอเรือมาถึงท่าอีกฝั่ง เดินขึ้นบันไดไปนิดนึงก็จะเจออาคารสำหรับขึ้นกระเช้าเลยค่ะ แนะนำให้ซื้อตัวไป-กลับเลยค่ะ5555+ เพราะเท่าที่ดูๆแล้ว ระยะที่กระเช้าขึ้นเขาไปนี่ยาวไกลและเต็มไปด้วยสายหมอกพอสมควรเลยค่ะ เดินกลับเองอาจจะขาลากได้ สำหรับค่ากระเช้า เที่ยวเดียวก็ 35 หยวน , ไป-กลับ 60หยวนค่ะ
อันนี้ในกระเช้า อิอิ
ตอนคุณกวางมาถึงคนยังไม่เยอะมากค่ะ เราก็เลยยึดกระเช้านี้กันแค่สองคน อิๆๆ ดูข้างนอกมั่ง
ตอนแรกว่าจะเดินลงกันเนอะ แต่พอได้มานั่งอยู่ในกระเช้า....ทำไมกระเช้ามันยาวไกลขนาดนี้....แถมยิ่งสูงหมอกก็ยิ่งลงจัดจนมองไม่เห็นอัลไล ตรูเดินลงมาตรูจะมีชีวิตรอดไหม นั่งไปก็เริ่มคิดไปค่ะ5555 แต่ก็มีคนเดินลงกันอยู่นะ เห็นตรงปากทางข้างบนอยู่ค่ะ
พอมาถึงปลายกระเช้า จากตรงนี้แหละค่ะ ของจริง 5555+ คือสวยมว๊ากกกกกกกกกกกก ยิ่งเจอหมอกลงเข้าไปอีกนะ โอ๊ยยยยยย หนังจีนชัดๆๆๆ >/////<
ระหว่างทางก็จะมีวัดบ้าง ศาลเจ้าบ้าง ศาลาบ้างให้แวะพัก แวะทานอาหาร ไหว้เจ้าขอพรไปเรื่อยๆค่ะ เราก็เดินตามๆเค้าไป
แต่ช่วงทางเดินที่อยู่ในป่านี่สวยมากกกก สวยจริงจัง >/////< แล้วยิ่งหมอกลงแบบนี้ก็ยิ่งสวยมากอ่ะค่ะ แล้วมันไม่ได้เปลี่ยว วังเวง หลอน ไร้ผู้ไร้คนแบบในรูปที่คุณกวางถ่ายมานะ จริงๆคือคนเยอะมากกกก เดินกันไม่ขาดสาย กว่าจะได้ภาพโล่งๆแบบนี้ก็ยกมือถือรออยู่นาน 5555 แล้วดูกิ่งไม้ของพี่จีนเค้านะ ความโค้งความเอียงมันช่างพอดีเป๊ะอ่ะ นี่ต้นไม้ในป่าแน่เร๊อะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมภาพวาดของจีนถึงได้สวยๆทั้งนั้น เค้าเห็นความงามแบบนี้ สัดส่วนที่ลงตัวแบบนี้อยู่รอบๆตัวตลอดเวลาอ่ะ >////<
แล้วเดินๆไปก็จะเจอกุญแจแบบนี้ห้อยเป็นจุดๆ ไม่รู้เค้ามาขอพรหรืออะไรยังไงกันนะคะ พวงกุญแจเป็นรูปหัวใจคู่ด้วยอ่ะ ส่วนคุณกวาง เห็นอะไรแดงๆนี่ตรงดิ่งเข้าไปเลยค่ะ5555+ นี่ถ้าฝนไม่ตก น้ำไม่นองเฉอะแฉะนะ คงได้รูปคะชูซังแน่ๆมุมนี้ย์...หึๆๆ // แต่ก็เพราะฝนตกนี่แหละเลยได้ภาพบรรยากาศแบบนี้มา โอ๊ยยยย ทำใจลำบากจริงๆ // ทึ้งหัวตัวเอง >[ ]<
หมอกกกกกกก >/////< แล้วต้นแปะก๊วยเยอะมากอ่ะค่ะ ถ้ามาฤดูใบไม้ร่วงคงสวยมากแน่ๆ งื้ออออ เหลืองอร่ามทั้งต้น
เดินต่อไปก็จะเจอกลุ่มอาคารอะไรสักอย่าง เหมือนจะเป็นวัด ไม่ก็อาราม ไม่ก็ศาลเจ้าเอาซักอย่างสิเฮ้ย 5555 // บอกแล้ว ข้อมูลแน่นมากถถถ แต่สวยมากกกกอ่ะค่ะ แล้วคือตอนยืนอยู่บนชั้นสองนะ ไอหมอกขาวๆนี่ค่อยๆโปรยลงมาอย่างกับควันเลยอ่ะค่ะ โอยยยยย งามงด >/////<
มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ไหว้ให้ขอพรด้วยค่ะ หมอกกับควันธูปนี่แยกกันไม่ออก5555 แต่สวยมากค่ะกลุ่มอาคารนี้ ละดูความแดงนั่นสิย์~~~ >////<
แล้วนอกจากบริเวณลานที่เอาไว้สักการะแล้วยังมีกลุ่มอาคารอื่นๆด้วยค่ะ ตัวอาคารเก่าๆสีแดงนี่เข้ากับกระเบื้องหลังคาตะไคร่ขึ้นเขียวมากๆๆๆ ชอบบบบ
มีความต้องเอาศาลาไปตั้งไว้ตรงสุดปลายบันได ว้อยยยยย สวย! แล้วข้างๆบันไดฝั่งขวามือนี่เป็นไหล่เขาเลยนะคะ ตกลงไปนี่ไม่รู้ว่ากลิ้งไปถึงไหนเลยอ่ะ มองไม่เห็นก้นหลุมเลยเห็นแต่หมอกขาวโพลน5555
ดู ข้างล่างมองไม่เห็นอัลไลเลย มีแต่สีขาว55555 อันนี้ถ่ายส่องลงไปในหุบเขานะคะไม่ใช่ส่องขึ้นฟ้า โอย แล้วเงาต้นไม้เงากิ่งไม้ก็อย่างสวย >/////<
ลงรูปกระหน่ำมาก555+ แต่มันสวยทุกมุม คุณกวางเลือกไม่ถูกกกก >////< คือเป็นป่าเขาที่เดินแล้วรู้สึกปลอดภัยดีอ่ะค่ะ มีคนเดินไปกับเราอยู่ตลอดๆและไม่มีสัตว์เลื้อยคลานมากวนใจ เออ จะว่าไปตรูไม่เห็นแม้แต่แมลงซักตัวเลยนะเนี่ย5555 อย่างป่าที่มีตัวทากอะไรเงี้ยไม่ไหวอ่ะ กลัววววว
เดี๋ยวเราจะแวะทานอาหารกลางวันกันค่ะ มาดูซิว่าวันนี้คุณกวางมันจะได้กินอัลไล~~ 555555 ร้านก็บรรยากาศโรงเตี๊ยมมาก
แต่ดูวิวด้านที่ติดหน้าต่างซะก่อนนนนน โอ๊ยยยย พ่อขราแม่ขรามันสวยมว๊ากกกก >/////<
กินข้าวไปก็ฟินไป =v= แต่ร้านนี้ดีค่ะ มีเมนูภาษาอังกฤษล่วย ก็เลยพอจะรู้ว่าอาหารที่กินเข้าไปมันเป็นข้าวผัดหมู 5555
ออกมาหน้าตาเหมือนข้าวผัดน้ำพริกเผา5555+ รสชาติก็เหมือนใส่น้ำพริกเผาแต่อร่อยอยู่ค่ะ มันมีรสชาติเค็มๆของอะไรไม่รู้อ่ะผสมอยู่ ไอ้เนี่ยแหละอร่อย =v=b
ป่ะ กินเสร็จก็เดินกันต่อ ก็เดินผ่านอาคารนี้เข้าไป ทะลุด้านหลังจะมีทางเดินต่อค่ะ
ว๊าย เจอเมเปิลค่ะะะะะ >/////< ละนี่ทำไมใบมีสีแดงแซมแล้วละเนี่ย5555+ ในเมื่อแดงมา มีหรือคุณกวางจะพลาดด หรึ
เดินๆต่อไปก็เจอกุญแจอีกแล้ว แล้วข้างบนนี่มีสีสันด้วยนะ 55555+ เห็นมีซุ้มขายอยู่ค่ะ
เห็นหมอกลงอย่างกะอยู่ในไซเรนฮิลล์แบบนี้แต่อากาศแค่เย็นๆค่ะ ไม่ค่อยหนาวนะ คุณกวางเอาเสื้อคลุมตัวบางๆไปแต่ก็แทบไม่ได้ใส่ พอเดินๆไปมันก็อุ่นก็ร้อนไปเอง =v=
เดินต่อไปค่ะ ใกล้จะถึงยอดเขาแบ้ววววว(มั้ง)
กรี๊ด ว๊าย ในที่สุดเราก็มาถึงยอดเขาชิงเฉิงแล้วค่ะฟฟฟฟฟ
คิดว่าน่าจะยอดแล้วมั้งนะคะ คือด้วยความที่มีสิ่งกีดขวาง เค้ากำลังก่อสร้างอะไรอยู่ไม่รู้อ่ะ เลยไม่ได้เดินวนไปข้างหลัง บวกเริ่มเหนื่อยแล้ว เลยมโนเอาว่ามาถึงยอดเขาแบ้วก็แล้วกัน 55555 // ดูมัน
อัลไลคือการถ่ายรูปสิงห์แดงมามากกว่าเจดีย์55555 นี่ตัวอะไรกันแน่เนี่ย? กิเลน? บอกแล้ว ข้อมูลแน่นมาก55555+
ข้างในอาคารเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ค่ะก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่เข้าไปขอพรให้ม้าชนะ มาดามได้แชมป์โลกปีนี้ไว้แล้วค่ะ =v=b
ระเบียงที่เรายืนถ่ายรูปเจดีย์ตะกี้นี้ค่ะ
หลังจากยืนชื่นชมอยู่สักพักก็ได้เวลาลงเขากันแล้ววววว คือจริงๆเส้นทางเดินเค้าจะมีทางแยกด้วยค่ะ แต่สุดท้ายก็จะมาบรรจบกัน ขากลับนี้ก็เลยว่าจะลองไปอีกทางดูบ้างค่ะ ก็เลยจะได้เห็นกลุ่มอาคารที่ตอนขามาไม่ได้เดินผ่านเพิ่มอีกค่ะ
เดินมาเจออาคารอะไรก็ไม่รู้ค่ะ แต่ดูเหมือนบ้านร้างไม่ได้ใช้งานแล้ว คือมันแอบหลอนนะแต่มันก็สวยมากอ่ะค่ะ คุณกวางมันชอบอะไรแบบนี้ย์ 5555+ รูปข้างบนนี่ถ่ายจากเนินด้านบน เดี๋ยวเดินลงไปดูหน้าบ้านบ้าง
จินตนาการบรรเจิดมากค่ะ โอ๊ยยยยย >//////<
จากตรงนี้ก็น่าจะไปขึ้นกระเช้าลงแล้วมั้งนะ รูปก็ไม่ได้ถ่ายไว้เพราะปวดขาปวดหลังไปหมดแระ5555+ เลยจำไม่ได้ว่ายังไงต่อถถถถ แต่เอาจริงๆนะ รู้สึกว่าตอนเดินขึ้นมันไม่ปวดเมื่อยเท่าเดินลงอ่ะ =[ ]= เดินลงแม่งไม่เหนื่อยก็จริง แต่ต้องใช้กล้ามเนื้อขาและหลังและสะโพกและอะไรไม่รู้อ่ะ คือมันต้องยันตัวเองไว้ไม่ให้ไหลลงไป ณ.เวลานั้นนี่อยากได้ไม้เท้ามากค่ะ TvTแต่ไม่เอาไม้เท้าที่มีแส้อยู่ข้างในนาคะ :v ไม้เท้าจากดาวอังคารก็ไม่เอาค่ะ :v
เป็นอันว่านั่งกระเช้าลงมาเสร็จสรรพ และตอนขาลงนี่แหละที่สวนกับมนุษย์ชาวจีนมากมายมหาศาลที่กำลังเดินขึ้นเขากัน =[ ]= แม่เจ้า ดีนะที่มาไว ไม่ต้องเจอทัวร์จีนในประเทศจีน 5555+ แล้วตอนบ่าย อากาศเริ่มร้อนขึ้น หมอกนี่หายเกลี้ยงเลยค่ะข้างล่าง โอยยยย โชคดีจริงๆที่มาแต่เช้าแล้วก็มาวันที่ฝนตกนิดๆแบบนี้ กราบเทพยดาฟ้าดิน ฮรืออออ ฟินมากอ่ะค่ะภาพที่เห็นที่นี่วันนี้
ค่ะ แล้วเราก็ลงมาถึงทะเลสาปจนได้ =v= แต่เราไม่ขึ้นเรือแล้วค่ะรอบนี้ เราจะเดินเลาะทะเลสาปกัน~~~ ฟังดูยิ่งใหญ่ แต่ที่จริงเดินใกล้มากเลยค่ะ5555+ บรรยากาศทางเดินก็เป็นแบบนี้ย์
จากตรงนี้ก็เดินลงเขาไปยาวๆจนถึงประตูทางเข้าที่เราเข้ามาตอนแรกเลยน่ะค่ะ จากนั้นก็ซื้อตั๋วรถกอล์ฟ นั่งรถกอล์ฟลงเขา มันก็จะปล่อยเราลงตรงที่เราขึ้นมันมาตอนแรกนั่นแหละค่ะ และจากลานจอดรถโล่งๆเมื่อเช้า ตอนนี้ก็จะเต็มไปด้วยรถทัวร์ของทัวร์จีนค่ะ5555 เราก็มองหาป้ายรถเมล์สาย 101 ค่ะ ตอนที่คุณกวางไปมันมีรถมาจอดรออยู่ตลอดเลยนะ หาไม่ยากค่ะ แล้วก็จ่ายเงินบนรถนั่นแหละ เออ จำไม่ได้แล้วว่ากี่หยวนแต่ถูกมากอ่ะค่ะ
ก็นั่งรถเมล์สาย 101 มาแป๊บเดียว เค้าก็จะพาเรามาส่งที่สถานีรถบัสชิงเฉิง....ที่เงียบฉี่ไม่มีผู้ไม่มีคน เดินวนรอบแล้วก็ไม่เห็นรถกลับเฉิงตู ประกอบกับเคยเห็นในรีวิวแว๊บๆว่าสถานีรถไฟความเร็วสูงมันอยู่ใกล้ๆนี่แหละ เลยเดินดูค่ะ แล้วก็มีจริงๆล่วยยยยย อยู่ข้างๆกันเลยค่ะ ก็เดินเข้าไปซื้อตั๋วได้5555
คือในเฉิงตูจะมีสถานีรถไฟหลายที่นะคะ มี North มี East มี West อะไรไม่รู้อ่ะมากมาย อย่างถ้าพูดถึง Chengdu Railway Station นี่จะหมายถึง North Railway station นะ ไป East ไป West นี่ผิดที่นะ555 แล้วทีนี้ ที่คุณกวางไม่แน่ใจว่าจะใช้รถไฟไปชิงเฉิงได้ไหมเพราะมันแทบไม่มีรถไฟที่ออกจาก Chengdu North Railway Stationเลยค่ะ คือแทบทุกขบวนจะเขียนว่า Xipu หมดเลย ก็เกาหัวแกร่กๆ พยายามหาข้อมูลต่อไปก่อนจะค้นพบว่า อ๋อ~~ Xipu นี่มันก็เป็นสถานีรถไฟสถานีหนึ่งของเฉิงตูนี่แหละ ขึ้นรถไฟความเร็วสูงมาลงที่นี่ได้ และมันก็มีรถไฟใต้ดินจิ้มต่อเข้าเมืองอย่างสะดวกสบายด้วยค่ะ นะ ขากลับก็เลยลองขึ้นดูค่ะ5555
ตอนจองตั๋วก็มีความทุลักทุเลเล็กน้อย คือช่องมันก็มีมากมาย ไม่รู้จะไปช่องไหน(ภาษาจีนล้วน) คนต่อแถวก็มีอยู่บ้าง ก็เลยต่อมั่วเลยค่ะ แต่ยังดีที่เจ้าหน้าที่พอจะสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษกับเราได้บ้าง แล้วก็ดีที่คุณกวางปริ๊นท์อิแผนเที่ยวแผ่นนี้ไป เพราะมันมีรอบรถไฟพร้อมเลขขบวนเรียบร้อย ก็เลยจิ้มให้เค้าดูเอาได้เลยค่ะว่าจะไปรอบนี้ เวลานี้ =v=
ก็จ่ายเงินไป 10หยวน(50บาท=[ ]=) ถูกยิ่งกว่า BTSบ้านเราทั้งๆที่นั่นมันเป็นรถไฟความเร็วสูง มันระดับเดียวกับชินคันเซ็นนะเออ =[ ]= ก็จะได้ตั๋วมาหน้าตาแบบนี้ย์
จาก Qingchengshan ไป Xipu ขบวนเลขที่ C6126 วันที่ 17/05/2018 เวลา 17:42 โบกี้ที่ 08 ที่นั่ง 008 C เก็บตั๋วนี้ไว้ให้ดีด้วยนาคะ ไม่งั้นเราจะเข้าไปในชานชลาไม่ได้นะ555
ลืมบอกไปค่ะว่าเค้าใช้พาสปอร์ตในการซื้อตั๋วด้วย เพราะจะมีชื่อเรา เลขพาสปอร์ตเราอยู่ในตั๋ว แล้วตอนจะเข้าไปนั่งรอในห้องพักคอย เจ้าหน้าที่เค้าก็จะขอดูพาสปอร์ตด้วย ไม่ตรงกันไม่ให้เข้านะเออ =v= เข้มงวดพอๆกับสนามบิน =v= คือปกติแล้วคนจีนเค้าจะใช้บัตรประชาชนในการจองตั๋วกันค่ะ ต่างด้าวอย่างเราก็ใช้เป็นพาสปอร์ตแทน
โอเคมาดูห้องพักคอยกันบ้าง ใหญ่โตโอ่โถงมากกกกค่ะ แล้วก็สะอาดดีค่ะ
ส่วนรูปบนนี้เป็นประตูทางเข้าชานชลาค่ะ อย่างที่บอกแหละว่าปกติแล้วรถไฟหรือรถบัสที่วิ่งทางไกลในจีนเนี่ย เค้าจะไม่ปล่อยให้เราไปยืนออรอกันที่ชานชลา (นึกสภาพชานชลารถบัสที่หมอชิตช่วงวันหยุดสงกรานต์สิ คนก็ยืนกันเต็ม รถบัสบ้างก็จะเข้ามาจอด บางคันก็จะออก วุ่นวายสุดชีวิต ในจีนเราจะไม่ได้เห็นภาพแบบนั้นค่ะ555) เค้าจะปล่อยเราเข้าไปเมื่อใกล้จะถึงเวลารถออกซัก10-20นาทีอ่ะแล้วแต่ อย่างสถานีชิงเฉิงนี่เป็นสถานีเล็กๆก็จะมีเกทเดียว รถไฟคันไหนมาก็จะขึ้นอยู่ตรงบอร์ดป้ายไฟที่เห็นนั่นน่ะค่ะ แถวบนสุดถ้าใช่ขบวนของเรา ก็ให้เตรียมไปยืนต่อแถว แล้วก็ถือตั๋วเอาไว้ค่ะ พอถึงเวลาประตูเปิดเราก็เอาตั๋วสอดเข้าไปในช่องและตั๋วมันจะดีดออกมาด้านบน เราต้องดึงมันออกมานะคะ ไม่งั้นประตูมันไม่เปิดค่ะ สงสัยกันคนลืมตั๋วมั้ง 555 ตอนพูดเนี่ยมันง่าย แต่ตอนปฏิบัติจริงนี่กดดันชิบหายเลยค่ะ 5555 คือคนจีนอ่ะ เหมือนเค้าจะไม่ค่อยมีความอดทนในการต่อแถว แล้วก็จะให้คนข้างหน้าไปเร็วๆ ทำอะไรเร็วๆ ถ้าเราไปงึกงักๆหรือติดๆขัดๆอะไรเงี้ย ข้างหลังก็จะเริ่มโล้งเล้งแระ =v=" ต้องพยายามผ่านไปให้เนียนที่สุด // ปาดเหงื่อ
พอผ่านประตูเข้ามาได้แล้วก็อย่ามัวเดินชิลนะคะ วิ่งได้ก็วิ่งเถอะค่ะ5555 อ้อ ลืมบอก บนบอร์ดป้ายไฟเค้าจะมีบอกเลขชานชลาที่เราต้องไปขึ้นรถไฟเอาไว้ด้วยค่ะ ไปให้ถูกเด้อ แต่ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาพร้อมเรามันก็ไปรถไฟขบวนเดียวกับเรานี่แหละ เดินตามเค้าไปค่ะ5555
ก็อย่างที่บอกแหละว่ากว่าเค้าจะปล่อยให้เข้ามาในชานชลาก็ต่อเมื่อรถไฟจะออกในอีก10-20นาทีนี้ แล้วข้างในก็ไม่ได้มีชานชลาเดียวไงคุณ มันมีอีกเป็นตับ ต้องเดินต่อไป เพราะงั้นวิ่งเถอะค่ะ5555 คือสถานีนี้ยังดี ยังเล็กๆมีเกทเดียว เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปเจอของจริงที่สถานีรถไฟเฉิงตูค่ะ นั่นมีเป็น10เกทอ่ะ แล้วจากประตูใหญ่นี่ไกลมากกกกกกกว่าจะถึงเกทสุดท้าย วิ่งกันเป็นบ้าเป็นหลังมาก(แถมลากกระเป๋าเดินทางด้วยถถถถ) พรุ่งนี้ค่ะพรุ่งนี้ รออ่านรีวิวโหด มันส์ ไม่ฮาแต่น้ำตาจะร่วงเพราะวิ่งเหนื่อยกันได้ค่ะ 5555
แล้วก็รถไฟจีนต้องระวังนิดนึงนะคะ มันจะกระโดดขึ้นโบกี้แรกตรงที่เราลงบันไดไปเจอแล้วค่อยเดินไปโบกี้เราจากด้านในรถไฟเอาเหมือนชินคันเซ็นญี่ปุ่นไม่ได้เด้อ เพราะบางโบกี้มันไม่ต่อกันค่ะ =[ ]= เหมือนบางเที่ยวเค้าก็ใช้รถไฟสองสามขบวนมาลากต่อกันอะไรงี้อ่ะค่ะ โบกี้รถไฟมันเลยเดินเชื่อมต่อกันได้ไม่หมดน่ะค่ะ ทางที่ดีเดินไปขึ้นทางประตูโบกี้เราดีก่า
อันนี้ภาพบนชานชลาที่ถ่ายจากในรถไฟ =v=
ส่วนอันนี้ในรถไฟค่ะ ที่นั่งอย่างดี กว้างขวางหลับสบายยยย =////=
รถไฟของจีนตรงเวลามากค่ะ เพราะงั้นต่อให้ฟังไม่เข้าใจแต่ถ้าเรารู้เวลาที่รถไฟมันจะไปถึง(ดูจากตารางได้) เราก็ลงรถถูกแล้น ตั้งปลุกไว้ซะ 5555
ก็นั่งรถไฟความเร็วสูงกลับถึงเฉิงตูโดยสวัสดิภาพค่ะ =/////= สำหรับอาหารเย็นวันนี้ก็หากินแถวๆที่พักนั่นแหละค่ะ คือในรูปกับสิ่งที่ได้มานี่ต่างกันมากกกกจนคุณกวางกับเพื่อนมองหน้ากัน....เค้ามาส่งผิดโต๊ะเปล่านะ??? 5555
มาเป็นถาดหลุมอนุบาลมาก55555 ประมาณว่าพะโล้อะไรซักอย่าง แต่กินไปกินมาก็อร่อยอยู่นะ
แอบสอยเค้กมาล่วย =/////= ไม่ได้ซื้อเพราะสีแดงหรอกนะะะะ ไม่ใช่เล้ยยยยยย
วันพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางจากเฉิงตูไปสู่ฉงชิ่งแล้วค่ะ คืนนี้ก็เลยต้องโยนๆ เก็บของลงกระเป๋าซึ่งแน่นขนัดไปด้วยชานมแม่งตั้งแต่กลางทริป = = คือปกติแล้วจะไม่เคยต้องมีกระเป๋าลูกงอกออกมาจากกระเป๋าใหญ่(นอกจากตอนไปญี่ปุ่นถถถ) แต่รอบนี้ด้วยความที่เอากระเป๋าเดินทางใบเล็กมา เพราะต้องลากกระเป๋าเดินทางขึ้นรถบัสด้วยอะไรด้วย กลัวไม่สะดวก นะ เพราะงั้นเลยจำต้องมีกระเป๋าลูกอีกใบ =v=
อารุมี๊ไปเก็บของในขณะที่เค้กก็มีสองสาว(?)มาวนๆเวียนๆอยู่รอบๆ =////= ไหนๆก็ไม่ได้ออกมาถ่ายรูปข้างนอกเพราะฝนตกแระ ปิดท้ายวันด้วยคะชูซังกับยามะตันซักหน่อย >/////<
ลืมเปลี่ยนปีคศ.ถถถถ ช่างมัน
สรุปแล้วสำหรับเมืองเฉิงตูนี้เป็นเมืองจีนที่ชีวิตดีมากค่ะ ชิลๆ สงบๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวเมืองจีนแบบที่ไม่วุ่นวายโล้งเล้งมากนัก แล้วเมืองก็สะอาดมากด้วยค่ะ
ส่วนอีกครึ่งทริปที่เหลือ เราก็จะกลับสู่เมืองจีนของจริง(?)กันแล้วค่ะ 55555+ อย่างกับพลิกผ่ามือมากอ่ะเฉิงตูกับฉงชิ่ง = =" แต่ไฮไลต์ของทริปนี้เลยนาคะ หลังจากไม่ได้ไปจิ่วไจ้โกว เราก็ตั้งหน้าตั้งตาคอย อุทยานหลุมฟ้าสะพานสวรรค์ จากอู่หลงนี่แหละะะะะะ >/////<
แล้วเจอกันเอนทรี่หน้าน้า ขอบคุณทุกๆการติดตามค่า
หลังจากที่เมื่อวานใช้ชีวิตเป็นคนเมือง(จีน)กันทั้งวัน วันนี้เลยออกนอกเมืองกันบ้างค่ะ555 และสถานที่ที่จะไปกันวันนี้ก็คือ เขาชิงเฉิง หรือชิงเฉิงซาน นั่นเอง เอง เอง.... // เอคโค่ทำไมย์
แต่พอพูดถึงชิงเฉิงซานก็รู้สึกคุ้นๆหู เหมือนเคยได้ยินบ่อยๆในหนังจีนยังไงก็ไม่รู้เนอะคะ 5555
โอเค วันนี้ตื่นมาด้วยความชุ่มฉ่ำ =v= ฝนตกแต่เช้าเลยจย้าาาาา คะชูซังกับยามะตันที่ตรูอุตส่าห์เปลี่ยนชุดอยู่เป็นชั่วโมงเมื่อคืนมีอันต้องอยู่แต่ในกระเป๋า เพราะไม่กล้าควักออกมา กลัวพวกนางเละถถถ ทริปนี้ฝนตกแม่งตลอดเลยค่ะ ถ้าไม่ฝนตกก็ร้อนตับแตก ก็เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเด็กๆมาเลย เสียจัย TvT แต่หอบไปด้วยทุกทีนะ5555+
มาดูวิธีการไปเขาชิงเฉิงกันดีกว่า คือว่าตอนนี้เค้ามีรถไฟความเร็วสูงไปถึงที่นั่นอย่างสะดวกสบายแล้วค่ะ แต่ด้วยความที่ไม่ค่อยเจอในรีวิวทำให้ขาไปคุณกวางกับเพื่อนเลือกที่จะไปด้วยรถบัสเพราะค่อนข้างแน่ใจว่ามันจะไปถึง คืออ่านรีวิวที่ชาวบ้านเค้าไปกันแล้วก็ทำตามอะไรประมาณนั้นแหละ555+
ส่วนขากลับด้วยความมึนๆงงๆเลยได้นั่งรถไฟความเร็วสูงกลับค่ะ *w* ซะงั้น555 ก็...ถ้าใครอยากจะไป-กลับด้วยรถไฟก็เอาวิธีของคุณกวางไปปรับใช้เอานะคะ
ขอสรุปขั้นตอนการเดินทางก่อง จะได้ไม่งงเนอะ
ขาไป ที่พัก --> นั่งรถไฟใต้ดินไปสถานีรถบัส Xinnanmen --> นั่งรถบัสจากสถานีรถบัสXinnanmenรวดเดียวลงหน้าเขาชิงเฉิงซาน --> นั่งรถกอล์ฟขึ้นเขาไปจุดซื้อตั๋วเข้าขมเขาชิงเฉิง --> เดินขึ้นเขาประมาณนึง --> นั่งเรือข้ามทะเลสาป --> นั่งกระเช้า --> เดินขึ้นเขาอีกรอบ --> พิชิตยอดเขา เย้~~
ขากลับ จากยอดเขาก็เดินลงมาถึงจุดขึ้นกระเช้า --> นั่งกระเช้าเถอะ ชีวิตจะดีย์ --> ถึงทะเลสาปจะนั่งเรือเหมือนเดิมก็ได้แต่เราไม่ เราติส เราเลยเดินเลาะทะเลสาปเอา555 --> เดินลงเขาประมาณนึงก็จะถึงทางเข้าที่เราซื้อตั๋วเข้าชม --> นั่งรถกอล์ฟลงเขา --> หารถบัสกลับเฉิงตูไม่เจอเลยนั่งรถเมล์สาย 101 ไปลงสถานีรถบัสซึ่งเป็นที่จอดรถบัสกลับเฉิงตู --> แต่ถึงสถานีรถบัสแล้วก็ยังหารถบัสไม่เจอ แต่ดันไปเจอสถานีรถไฟความเร็วสูงที่อยู่ข้างๆกันแทน --> นั่งรถไฟความเร็วสูงกลับสิย์ จะรออัลไล --> รถไฟมาจอดที่สถานี Xipu ซึ่งไม่เป็นที่รู้จัก แต่มีรถไฟใต้ดินเชื่อมกันอยู่ เสร็จคุณกวาง =v= --> นั่งรถไฟใต้ดินจากสถานี Xipu เข้าเมือง --> ถึงที่พัก ก็นวดขาอย่างบ้าคลั่งถถถ เป็นอันจบการเดินทางไปยังเขาชิงเฉิงด้วยประการละฉะนี้...
ออกเดินทางกันเลยค่ะ ก็เริ่มจากนั่งรถไฟใต้ดินหรือ metro ไปสถานีรถบัสตามนี้ค่ะ
คือจริงๆแล้วสถานีรถบัสที่มีรถไปชิงเฉิงซานมีอยู่ด้วยกัน 2ที่ ตามที่เขียนไว้นั่นแหละ แต่ Xinnanmen อยู่ใกล้ที่พักคุณกวาง ก็เลยไปจากที่นี่น่ะค่ะ ก็ออกทางออก C โผล่ขึ้นไปก็จะเจอทางเข้าสถานีรถบัสเลยค่ะ
พอเข้าตัวอาคารไปแล้วให้เลี้ยวซ้ายค่ะ ไม่ว่าคุณจะมีตั๋วมาก่อนหรือไม่ก็ตาม555 คือคุณกวางกลัวรถบัสจะเต็ม ก็เลยจองตั๋วรถบัสแบบออนไลน์ไปค่ะ เค้าก็จะส่งตั๋วออนไลน์มาให้ซึ่งเป็นภาษาจีนล้วนและดูไม่เหมือนตั๋วเพราะมีแต่ข้อความอะไรก็ไม่รู้555 เราก็ปริ๊นท์ไปค่ะ พอไปถึงก็ให้เลี้ยวเข้าห้องทางซ้ายมือซึ่งเป็นห้องขายตั๋วนั่นแหละ ยื่นแผ่นที่ปริ๊นท์ให้เจ้าหน้าที่เค้า เค้าก็จะเอาไปกรอกอะไรไม่รู้อ่ะในตู้อัตโนมัติให้(แน่นอนว่าเป็นภาษาจีนล้วน =v=b) จากนั้นเค้าก็จะให้เราไปนั่งรอค่ะ ไม่มีตั๋วแข็งนะ คือใช้แผ่นที่เราปริ๊นท์มานี่แหละขึ้นรถได้เลย....นะ...ขั้นตอนจริงๆมีอยู่แค่นี้แหละ แต่ด้วยความที่คุณกวางกับเพื่อนไม่รู้ไง ละสื่อสารกะเค้าก็ไม่เข้าใจ ของคุณกวางมันเลยเป็นแบบนี้ค่ะ.....
มาถึงสถานีรถบัส --> เดินผ่านสแกนรอบที่ 1 (ควักน้ำออกจากกระเป๋าพะรุงพะรัง)เดินเข้าไปในห้องพักคอยของผู้โดยสารแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว --> พยายามถามเจ้าหน้าที่ที่เคาเตอร์ที่เหมือนจะเป็น infomation แต่นางก็ชี้กลับไปห้องขายตั๋ว --> เดินออกไปใหม่ --> เข้าห้องขายตั๋วเอาตั๋วออนไลน์ให้เจ้าหน้าที่ดู เค้าก็เอาไปจิ้มๆข้อมูลอะไรที่ตู้อัตโนมัติแล้วส่งคืนเราพร้อมกับบอกให้ไปนั่งรอได้ --> เดินผ่านสแกนรอบที่ 2 (ควักน้ำออกจากกระเป๋าพะรุงพะรัง)เดินเข้าไปในห้องพักคอยของผู้โดยสารแบบรู้เรื่องรู้ราวขึ้นมานิดหน่อยแต่ก็ยังไม่แน่ใจเลยเอาตั๋วออนไลน์แผ่นกระดาษของเราไปให้พนักงานที่คอยตรวจตรงทางออกไปขึ้นรถดู --> นางก็ดูแล้วชี้ไม้ชี้มือไปที่ห้องขายตั๋วอีก =[ ]= ไม่พอ ยังใจดีพาเราเดินกลับไปห้องขายตั๋วพร้อมเจรจากับพนักงานในห้องขายตั๋ว(คนเดิมนั่นแหละ)ให้เราอีกต่างหาก --> พนักงานในห้องขายตั๋วเลยต้องมาบอกเราช้าๆชัดๆอีกครั้งด้วยภาษาอังกฤษว่า ให้ยูรอ แปดโมงยี่สิบ ตามเวลาของตั๋วนะ(ตั๋วคุณกวางเที่ยว 8:30) แล้วค่อยไปที่ประตู แล้วพี่สาวคนนี้จะเปิดให้ยูเข้าไปเอง จะนั่งรอในห้องนี้ก็ได้ =v="" คือเหมือนตรูเป็นตัววุ่นวายมาก5555+ ก็เค้าไม่รู้~~ แต่พนักงานเค้าใจดียินดีช่วยเหลือมากค่ะ ถึงจะพูดโผงผางดังชัดถ้อยชัดคำ(ภาษาจีน)จนตรูกลัวไปหน่อยก็เถอะ =v= นะ ก็เลยไปนั่งรอในห้องพักคอยผู้โดยสารดีกว่าค่ะ --> เดินผ่านสแกนรอบที่ 3 (ควักน้ำออกจากกระเป๋าพะรุงพะรัง) ว้อยยยยยย เริ่มรำคาญอิเครื่องสแกนนี่ละ แน่นอนว่าเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยตรงนั้นก็คงรำคาญอิสองตัวนี้เช่นกัน มันจะเข้าๆออกๆอะไรนักหนาว้า 5555+
ค่ะ ด้วยความเพลียเลยไม่ได้ถ่ายรูปในสถานีรถบัสมาเลย แต่ที่นี่โอเคนะ สะอาดและคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ไม่รู้เพราะยังเช้าอยู่หรือเปล่าอ่ะนะ ก็นั่งกินขนมปังที่เหลือจากเมื่อวานรอ คือตามสถานีรถบัสหรือรถไฟที่วิ่งทางไกลระหว่างเมืองน่ะค่ะ เค้าจะไม่ปล่อยให้เราเข้าไปในชานชลาก่อนจะถึงเวลาค่ะ อย่างตั๋วเรา 8.30น. เนี่ย ซัก 8.20น. ก็ให้เตรียมตัวไปยืนรอที่หน้าประตูทางเข้า(เหมือนทางเข้า BTS บ้านเราอ่ะแหละ เป็นช่องๆ) เค้าจะเปิดให้เข้าก่อนเวลารถออกประมาณ10-15นาทีแล้วแต่ ถ้าเป็นตั๋วก็เอาตั๋วแปะติ๊ดลงไปหรือเสียบเข้าไปนี่แหละจำไม่ได้ ไม้กั้นก็เปิด เราก็เดินเข้าไป แต่เป็นตั๋วออนไลน์กระดาษแบบคุณกวางก็เลยต้องส่งให้เจ้าหน้าที่ค่ะ นางก็จะมาจัดการเปิดไม้กั้นให้เรา เป็นอันได้เข้าแล้ว เย้~
พอเข้าไปในชานชลาก็จะเจอรถบัสจอดเรียงกันเป็นตับ ด้วยความที่เป็นตัววุ่นวายเลยได้รับการดูแลอย่างดีย์ 5555+ เจ้าหน้าที่ขายตั๋วก็เรียกให้เดินตามนางไปเลยค่ะ เด่วมันไปขึ้นรถผิดอีก5555+ ความจริงที่บอร์ดป้ายไฟตรงประตูเข้าชานชลาเค้าจะมีบอกนะ ว่ารอบ 8.30 ไปชิงเฉิงซานเนี่ยให้ไปขึ้นรถเลขทะเบียนนี้ๆๆ ตอนแรกคุณกวางมองแล้วไม่เข้าใจค่ะ(ภาษาจีนล้วน) พอมาถึงรถถึงได้ อ๋ออออ ไอ้รหัสยาวๆท้ายแถวบนบอร์ดนั่นมันคือเลขทะเบียนรถค่ะคู๊ณณณณ
นี่~~ คันนี้ที่จะพาเราไปชิงเฉิงซาน~~ เลขทะเบียนรถ บลาๆ(ภาษจีน)AQ7618 นั่นแหละค่ะที่มันจะขึ้นอยู่บนบอร์ด ดูซะ ละก็มาขึ้นให้ถูกคัน 5555+
อ่านะ เจ้าหน้าที่ขายตั๋วคนนั้นเค้าก็ขึ้นมาเช็คคนเช็คตั๋วบนรถอะไรไปพร้อมกำชับคนขับรถให้พานังสองตัวนี่ไปส่งที่ชิงเฉิงซานให้ด้วย 5555+ คือไม่แน่ใจว่ารถเที่ยวนี้มันเป็น Special Bus หรือเปล่า เพราะตอนอ่านรีวิวอ่ะ ส่วนใหญ่บัสเค้าจะไปจอดที่สถานีรถบัสชิงเฉิงแล้วเราต้องนั่งรถเมล์สาย 101 ต่อขึ้นเขาเอง แต่คันนี้วิ่งยาวถึงหน้าเขาเลยค่ะ โชคดีแบบงงๆไป ^ ^a
นั่นแหละค่ะ พอขึ้นรถได้ต่อให้สถานการณ์จะเป็นยังไง คุณกวางมันก็ยังหลับได้ค่ะ ก็หลับยาวๆไป ฝนก็ตกแล้วรู้สึกรถจะติดมากด้วยนะ จำไม่ได้ว่ารถวิ่งกี่ชั่วโมง แต่เหมือนจะนานกว่าที่คิดอยู่เหมือนกัน ดูความฝนตกนั่นสิย์
คือนอนเต็มอิ่มได้อ่ะ5555+ พอตื่นมาก็ยังไม่ถึง เลยนั่งดูคนจีนขับรถกันค่ะ มันส์มาก5555+ คือทางที่วิ่งอยู่เนี่ยมันอารมณ์ทางด่วนอ่ะ แล้วบางช่วงมันก็มีทางคู่ขนานบ้างใช่ป่ะ แล้วทีนี้มันก็มีรถบางคันจอดแม่งในช่องทางด่วนนี่แหละค่าาา ส่วนตัวนางวิ่งออกไปซื้อของหรือหยิบของอะไรไม่รู้แหละจากร้านข้างถนนคู่ขนานอีกทีอ่ะ 55555+ สุด แต่นี่ยังไม่เท่าไหร่ ขับๆไป เจออาเจ้ชาวจีนคร่อมมอเตอร์ไซค์จอดคุยโทรศัพท์มันดื้อๆงั้นอ่ะ เดี๋ยวนะ 5555+ คือใครนึกจะทำอะไรก็ทำมาก แต่คนที่นี่สกิลขับรถสูงมากค่ะ เจอสารพัดสารเพขนาดนั้นพี่คนขับของเราก็หลบได้เป็นงูเลื้อยเลยเหอะ ^ ^" ละนางบีบแตรด่าได้อย่างกะบรรเลงดนตรีมาก5555+
ค่ะ ขับๆไปเค้าก็มาจอดข้างถนนที่หนึ่งอ่ะก่อนจะตะโกนเป็นภาษาจีนชี้ไม้ชี้มืออะไรไม่รู้ แล้วคนก็เริ่มลงกันเกือบหมด คุณกวางกับเพื่อนก็เริ่มเลิ่กลั่ก ชั้นต้องลงตรงนี้เหรอ? ถึงสถานีรถบัสชิงเฉิงแล้วเหรอ? ไหงหน้าตาไม่เหมือนที่ตรูอ่านรีวิวมา? ซักพักพี่คนขับก็หันมาบอกเราด้วยใบหน้าใจดีและทำท่าทำทางเอาว่าพวกเจ้าไม่ต้องลง แล้วก็พูด "ชิงเฉิงซานๆ?" ไอ้เราก็ตอบกลับไป "ชิงเฉิงซานๆ" 5555+ สรุปว่ารถคันนี้เค้าจะไปจอดส่งเราให้ที่ทางขึ้นเขาเลยค่ะ ไม่ต้องเข้าไปที่สถานีรถบัสชิงเฉิง ไม่ต้องไปต่อรถเมล์สาย101ให้ยุ่งวุ่นวายนั่นเอง อร๊ายยย >////<
โอเค ในที่สุดก็มาถึงเขาชิงเฉิงจนได้ ได้ ได้......
พอมาถึงแล้วพี่คนขับก็ชี้ๆให้เราลง คือเขาชิงเฉิงเนี่ย มันจะมีทั้งด้านหน้าเขาและด้านหลังเขาค่ะ ที่เราลงมาเนี่ยคือหน้าเขา ถ้าจะไปหลังเขาต้องไปลงที่สถานีรถบัสชิงเฉิงแล้วต่อรถเมล์อะไรซักสายอ่ะไป แต่เราไม่ไปไง เราเลยไม่สนใจ~ 555
ค่ะพอมาถึงตรงนี้แล้วขั้นตอนต่อไปเราก็จะไปซื้อตั๋วรถกอล์ฟขึ้นเขากันค่ะ ก็มองหาซุ้มแบบนี้
คนละ10หยวนค่ะ เค้าก็จะให้ตั๋วเรามา เป็นตั๋วเที่ยวเดียวนะ ส่วนขากลับไปซื้อจากข้างบนเขาค่ะ พอซื้อตั๋วเสร็จก็หิวค่ะ555 แถวๆนั้นก็จะมีบูทขายอาหารง่ายๆอ่ะ เลยได้ซาลาเปาไส้อะไรก็ไม่รู้มา~
ก็กินได้นะ แต่ก็นั่นแหละ ไม่รู้ว่ามันไส้อะไร เหมือนจะเป็นเนื้ออะไรซักอย่างอ่ะ5555+ กินๆเข้าไป พวกเลือดกรุ๊ปบีแดกอะไรแล้วไม่ตายง่ายๆเพราะงั้นไม่เป็นไร 55555+ // ใช่เร๊อะะะ
เดินไปขึ้นรถกอล์ฟ~
จากนั้นรถก็จะวิ่งฉิวขึ้นเขาพาเรามาจอดตรงนี้ค่ะ
เนี่ย ตอนขากลับก็มาซื้อตั๋วรถกอล์ฟแล้วก็รอขึ้นรถกอล์ฟตรงนี้แหละ
แต่สำหรับขามา....ยัง...มันยังไม่ถึงทางเข้าชิงเฉิงซานที่แท้จริงค่ะ555 ต้องเดินต่อไปอีกหน่อยนึง ระหว่างทางก็จะเป็นแบบนี้
เริ่มเห็นประตูอยู่ริบๆแล้ว เดินต่อไปย์~
ถึงประตูด่านแรกแล้ว เฮ~~ เดินลอดมันไปค่ะะะะ
ด้านขวามือจะมีอาคารร้านค้ามาคอยหลอกล่อท่าน แต่เราไม่สนใจมันค่ะ เพราะเราไม่มีเงินค่ะ เราจงเดินตรงไปค่ะ
ในที่สุดก็เจอแล้วววว ทางเข้าชิงเฉิงซานที่แท้จริง จริง จริง.....
ด้านซ้ายมือจะมีอาคารที่ขายตั๋วอยู่ด้วยค่ะ 90 หยวนต่อคนค่ะ
พอซื้อตั๋วเสร็จก็เดินเข้าซุ้มประตูตรงกลางไปนี่แหละค่ะจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตั๋วอยู่
พอเข้าไปแล้วก็จะมีทางแยกให้เราเลือกว่าจะเดินอย่างคนชราที่เป็นพื้นลาดผ่านร้านค้า บลาๆๆ หรือว่าจะเดินอย่างวัยรุ่นไต่ไปตามสะพานไม้เลาะเขา แน่นอนว่าคุณกวางเลือกทางเดินอย่างคนชรา555+ แต่กล่อมเพื่อนไม่สำเร็จค่ะเลยได้ไปเดินเลาะเขาแทน.... // มองกะไดพวกนั้นแล้วก็อ้าปากพะงาบๆ
ระหว่างทางก็จะมีป้ายบอกแผนที่เราเป็นระยะๆ แต่~~จงจำเอาไว้ว่าแผนที่เนี่ยเค้าตัดมาเป็นส่วนๆ!
คืออิป้ายตรงนี้มันเขียนไว้แค่อาคารที่อยู่ปลายกระเช้า ตรูก็เข้าใจว่า อ๋อ ไปถึงตรงนั้นแล้วคงไม่มีอะไรแล้วมั้ง ก็เลยตั้งใจว่าจะขึ้นกระเช้าขาขึ้นขาเดียว เดี๋ยวขากลับเราเดินลงกันเน๊อะ....ที่ไหนได้...ต่อจากกระเช้าแล้วมันยังมีทางขึ้นเขาอีกไกล มีวัด มีศาลาอะไรอีกเพี้ยบเลยค่ะ =[ ]=
เดินๆๆ เดินกันต่อไปย์ ต่อให้เจอกะไดหินเราก็ต้องขึ้นไป~~ TvT
แต่เป็นทางเดินผ่านป่าที่สวยดีค่ะ เดินละนึกถึงเขตสุสานที่โคยะซัง วาคายามะ แต่ที่โคยะซังจะหลอนกว่านี้เพราะต้นไม้จะใหญ่มากแล้วสองฝั่งทางเดินก็จะมีแต่หลุมศพ =v=
มีศาลาให้แวะพักเป็นระยะๆ บรรยากาศดีมากค่ะ คือฝนเพิ่งหยุดตกแล้วยิ่งเดินขึ้นเขา หมอกก็ยิ่งลงค่ะ >////<
แล้วในที่สุดเราก็มาถึงทะเลสาปแล้วววววว
เดินผ่านมูนเกท ขึ้นกะไดไปก็จะเจอร้านค้านิดหน่อยและ....!!!
แพนด้าาาาา 5555+
สำหรับค่าขึ้นเรือข้ามทะเลสาปก็เที่ยวละ 5 หยวนค่ะ ซื้อตั๋วได้ตรงบูทข้างๆทางขึ้น-ลงท่าเรือนั่นแหละ ตอนมาถึง เรือกำลังไปพอดี =////=
จริงๆมีสะพานไม้เดินเลาะริมทะเลสาปได้นะ ถ้าใครไม่อยากนั่งเรือจะเดินเอาก็ล่าย แต่คุณกวางอยากสัมผัสบรรยากาศตอนองค์ชายเก้าหลี่เว่ย(?)นั่งจิบเหล้าล่องเรือพาเจ้าลูกหมาอ้ายหลุน(?)ชมทะเลสาปไงงงงง ก็เลยจัดซะเที่ยวนึง อุฮิๆๆๆ
รอแป๊บเดียวเรือก็กลับมา~ โอ๊ยดูหมอกฝั่งนู้นสิย์ สวยอะไรขนาดนี้~~~ >////<
พอขึ้นเรือแล้วหันกลับมาก็จะเป็นแบบนี้ สวยจริงจัง >////<
ค่ะ พอเรือมาถึงท่าอีกฝั่ง เดินขึ้นบันไดไปนิดนึงก็จะเจออาคารสำหรับขึ้นกระเช้าเลยค่ะ แนะนำให้ซื้อตัวไป-กลับเลยค่ะ5555+ เพราะเท่าที่ดูๆแล้ว ระยะที่กระเช้าขึ้นเขาไปนี่ยาวไกลและเต็มไปด้วยสายหมอกพอสมควรเลยค่ะ เดินกลับเองอาจจะขาลากได้ สำหรับค่ากระเช้า เที่ยวเดียวก็ 35 หยวน , ไป-กลับ 60หยวนค่ะ
อันนี้ในกระเช้า อิอิ
ตอนคุณกวางมาถึงคนยังไม่เยอะมากค่ะ เราก็เลยยึดกระเช้านี้กันแค่สองคน อิๆๆ ดูข้างนอกมั่ง
ตอนแรกว่าจะเดินลงกันเนอะ แต่พอได้มานั่งอยู่ในกระเช้า....ทำไมกระเช้ามันยาวไกลขนาดนี้....แถมยิ่งสูงหมอกก็ยิ่งลงจัดจนมองไม่เห็นอัลไล ตรูเดินลงมาตรูจะมีชีวิตรอดไหม นั่งไปก็เริ่มคิดไปค่ะ5555 แต่ก็มีคนเดินลงกันอยู่นะ เห็นตรงปากทางข้างบนอยู่ค่ะ
พอมาถึงปลายกระเช้า จากตรงนี้แหละค่ะ ของจริง 5555+ คือสวยมว๊ากกกกกกกกกกกก ยิ่งเจอหมอกลงเข้าไปอีกนะ โอ๊ยยยยยย หนังจีนชัดๆๆๆ >/////<
ระหว่างทางก็จะมีวัดบ้าง ศาลเจ้าบ้าง ศาลาบ้างให้แวะพัก แวะทานอาหาร ไหว้เจ้าขอพรไปเรื่อยๆค่ะ เราก็เดินตามๆเค้าไป
แต่ช่วงทางเดินที่อยู่ในป่านี่สวยมากกกก สวยจริงจัง >/////< แล้วยิ่งหมอกลงแบบนี้ก็ยิ่งสวยมากอ่ะค่ะ แล้วมันไม่ได้เปลี่ยว วังเวง หลอน ไร้ผู้ไร้คนแบบในรูปที่คุณกวางถ่ายมานะ จริงๆคือคนเยอะมากกกก เดินกันไม่ขาดสาย กว่าจะได้ภาพโล่งๆแบบนี้ก็ยกมือถือรออยู่นาน 5555 แล้วดูกิ่งไม้ของพี่จีนเค้านะ ความโค้งความเอียงมันช่างพอดีเป๊ะอ่ะ นี่ต้นไม้ในป่าแน่เร๊อะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมภาพวาดของจีนถึงได้สวยๆทั้งนั้น เค้าเห็นความงามแบบนี้ สัดส่วนที่ลงตัวแบบนี้อยู่รอบๆตัวตลอดเวลาอ่ะ >////<
เดินๆไปก็จะเจอจุดให้แวะพักตลอดเส้นทาง ไม่ต้องกลัวว่าหิวแล้วจะไม่มีอะไรให้กินนะคะ5555 ราคาก็ไม่ได้แพงเว่อร์ต่างจากข้างล่างมากนัก รับได้ๆ
แล้วเดินๆไปก็จะเจอกุญแจแบบนี้ห้อยเป็นจุดๆ ไม่รู้เค้ามาขอพรหรืออะไรยังไงกันนะคะ พวงกุญแจเป็นรูปหัวใจคู่ด้วยอ่ะ ส่วนคุณกวาง เห็นอะไรแดงๆนี่ตรงดิ่งเข้าไปเลยค่ะ5555+ นี่ถ้าฝนไม่ตก น้ำไม่นองเฉอะแฉะนะ คงได้รูปคะชูซังแน่ๆมุมนี้ย์...หึๆๆ // แต่ก็เพราะฝนตกนี่แหละเลยได้ภาพบรรยากาศแบบนี้มา โอ๊ยยยย ทำใจลำบากจริงๆ // ทึ้งหัวตัวเอง >[ ]<
หมอกกกกกกก >/////< แล้วต้นแปะก๊วยเยอะมากอ่ะค่ะ ถ้ามาฤดูใบไม้ร่วงคงสวยมากแน่ๆ งื้ออออ เหลืองอร่ามทั้งต้น
เดินต่อไปก็จะเจอกลุ่มอาคารอะไรสักอย่าง เหมือนจะเป็นวัด ไม่ก็อาราม ไม่ก็ศาลเจ้า
มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ไหว้ให้ขอพรด้วยค่ะ หมอกกับควันธูปนี่แยกกันไม่ออก5555 แต่สวยมากค่ะกลุ่มอาคารนี้ ละดูความแดงนั่นสิย์~~~ >////<
แล้วนอกจากบริเวณลานที่เอาไว้สักการะแล้วยังมีกลุ่มอาคารอื่นๆด้วยค่ะ ตัวอาคารเก่าๆสีแดงนี่เข้ากับกระเบื้องหลังคาตะไคร่ขึ้นเขียวมากๆๆๆ ชอบบบบ
มีภาพตัวอักษรแบบนี้ติดเต็มผนังเลยค่ะ ไม่รู้ว่าคืออะไร 5555
คือตั้งใจปลูกให้มันเอียงๆงี้เปล่านะ ถ้าเป็นเราคงปักจึ้กลงไปกลางกระถางเลยป่ะ แต่ดูพี่จีนเค้าทำ แล้วต้นมันก็งอกงามขึ้นไปเป็นทรงที่สวยมากอ่ะ >////<
จากตรงนี้ไปก็เดินเข้าป่ากันอีกยาวๆ แต่วิวข้างทางนี่สวยมาก เดินชิลๆไปเรื่อยๆไม่มีเบื่อเลยค่ะ
มีความต้องเอาศาลาไปตั้งไว้ตรงสุดปลายบันได ว้อยยยยย สวย! แล้วข้างๆบันไดฝั่งขวามือนี่เป็นไหล่เขาเลยนะคะ ตกลงไปนี่ไม่รู้ว่ากลิ้งไปถึงไหนเลยอ่ะ มองไม่เห็นก้นหลุมเลยเห็นแต่หมอกขาวโพลน5555
ดู ข้างล่างมองไม่เห็นอัลไลเลย มีแต่สีขาว55555 อันนี้ถ่ายส่องลงไปในหุบเขานะคะไม่ใช่ส่องขึ้นฟ้า โอย แล้วเงาต้นไม้เงากิ่งไม้ก็อย่างสวย >/////<
ลงรูปกระหน่ำมาก555+ แต่มันสวยทุกมุม คุณกวางเลือกไม่ถูกกกก >////< คือเป็นป่าเขาที่เดินแล้วรู้สึกปลอดภัยดีอ่ะค่ะ มีคนเดินไปกับเราอยู่ตลอดๆและไม่มีสัตว์เลื้อยคลานมากวนใจ เออ จะว่าไปตรูไม่เห็นแม้แต่แมลงซักตัวเลยนะเนี่ย5555 อย่างป่าที่มีตัวทากอะไรเงี้ยไม่ไหวอ่ะ กลัววววว
เดี๋ยวเราจะแวะทานอาหารกลางวันกันค่ะ มาดูซิว่าวันนี้คุณกวางมันจะได้กินอัลไล~~ 555555 ร้านก็บรรยากาศโรงเตี๊ยมมาก
แต่ดูวิวด้านที่ติดหน้าต่างซะก่อนนนนน โอ๊ยยยย พ่อขราแม่ขรามันสวยมว๊ากกกก >/////<
กินข้าวไปก็ฟินไป =v= แต่ร้านนี้ดีค่ะ มีเมนูภาษาอังกฤษล่วย ก็เลยพอจะรู้ว่าอาหารที่กินเข้าไปมันเป็นข้าวผัดหมู 5555
ออกมาหน้าตาเหมือนข้าวผัดน้ำพริกเผา5555+ รสชาติก็เหมือนใส่น้ำพริกเผาแต่อร่อยอยู่ค่ะ มันมีรสชาติเค็มๆของอะไรไม่รู้อ่ะผสมอยู่ ไอ้เนี่ยแหละอร่อย =v=b
ป่ะ กินเสร็จก็เดินกันต่อ ก็เดินผ่านอาคารนี้เข้าไป ทะลุด้านหลังจะมีทางเดินต่อค่ะ
ว๊าย เจอเมเปิลค่ะะะะะ >/////< ละนี่ทำไมใบมีสีแดงแซมแล้วละเนี่ย5555+ ในเมื่อแดงมา มีหรือคุณกวางจะพลาดด หรึ
=////////=
>///////<
เดินๆต่อไปก็เจอกุญแจอีกแล้ว แล้วข้างบนนี่มีสีสันด้วยนะ 55555+ เห็นมีซุ้มขายอยู่ค่ะ
เห็นหมอกลงอย่างกะอยู่ในไซเรนฮิลล์แบบนี้แต่อากาศแค่เย็นๆค่ะ ไม่ค่อยหนาวนะ คุณกวางเอาเสื้อคลุมตัวบางๆไปแต่ก็แทบไม่ได้ใส่ พอเดินๆไปมันก็อุ่นก็ร้อนไปเอง =v=
น่าน คราวนี้มาเต็มแผง55555
เดินต่อไปค่ะ ใกล้จะถึงยอดเขาแบ้ววววว(มั้ง)
กรี๊ด ว๊าย ในที่สุดเราก็มาถึงยอดเขาชิงเฉิงแล้วค่ะฟฟฟฟฟ
อัลไลคือการถ่ายรูปสิงห์แดงมามากกว่าเจดีย์55555 นี่ตัวอะไรกันแน่เนี่ย? กิเลน? บอกแล้ว ข้อมูลแน่นมาก55555+
ข้างในอาคารเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ค่ะก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่เข้าไปขอพรให้ม้าชนะ มาดามได้แชมป์โลกปีนี้ไว้แล้วค่ะ =v=b
ระเบียงที่เรายืนถ่ายรูปเจดีย์ตะกี้นี้ค่ะ
หลังจากยืนชื่นชมอยู่สักพักก็ได้เวลาลงเขากันแล้ววววว คือจริงๆเส้นทางเดินเค้าจะมีทางแยกด้วยค่ะ แต่สุดท้ายก็จะมาบรรจบกัน ขากลับนี้ก็เลยว่าจะลองไปอีกทางดูบ้างค่ะ ก็เลยจะได้เห็นกลุ่มอาคารที่ตอนขามาไม่ได้เดินผ่านเพิ่มอีกค่ะ
หันไปโบกมือลา~~ ก่อนจะเดินลงเขาต่อไปย์
กลองไทโกะยักษ์ =q=....
ตรงนี้เป็นสเต็ปสามชั้น แล้วลานตรงนี้เป็นชั้นกลางค่ะ อาคารที่ขนาบอยู่สองฝั่งก็จะเป็นห้องเล็กๆงี้อ่ะ ไม่แน่ใจว่าขายรูปหรือเปล่าไม่ได้เดินเข้าไปดู แต่ตรงนี้สวยดีอ่ะ ชอบๆ
เดินมาเจออาคารอะไรก็ไม่รู้ค่ะ แต่ดูเหมือนบ้านร้างไม่ได้ใช้งานแล้ว คือมันแอบหลอนนะแต่มันก็สวยมากอ่ะค่ะ คุณกวางมันชอบอะไรแบบนี้ย์ 5555+ รูปข้างบนนี่ถ่ายจากเนินด้านบน เดี๋ยวเดินลงไปดูหน้าบ้านบ้าง
จินตนาการบรรเจิดมากค่ะ โอ๊ยยยยย >//////<
จากตรงนี้ก็น่าจะไปขึ้นกระเช้าลงแล้วมั้งนะ รูปก็ไม่ได้ถ่ายไว้เพราะปวดขาปวดหลังไปหมดแระ5555+ เลยจำไม่ได้ว่ายังไงต่อถถถถ แต่เอาจริงๆนะ รู้สึกว่าตอนเดินขึ้นมันไม่ปวดเมื่อยเท่าเดินลงอ่ะ =[ ]= เดินลงแม่งไม่เหนื่อยก็จริง แต่ต้องใช้กล้ามเนื้อขาและหลังและสะโพกและอะไรไม่รู้อ่ะ คือมันต้องยันตัวเองไว้ไม่ให้ไหลลงไป ณ.เวลานั้นนี่อยากได้ไม้เท้ามากค่ะ TvT
เป็นอันว่านั่งกระเช้าลงมาเสร็จสรรพ และตอนขาลงนี่แหละที่สวนกับมนุษย์ชาวจีนมากมายมหาศาลที่กำลังเดินขึ้นเขากัน =[ ]= แม่เจ้า ดีนะที่มาไว ไม่ต้องเจอทัวร์จีนในประเทศจีน 5555+ แล้วตอนบ่าย อากาศเริ่มร้อนขึ้น หมอกนี่หายเกลี้ยงเลยค่ะข้างล่าง โอยยยย โชคดีจริงๆที่มาแต่เช้าแล้วก็มาวันที่ฝนตกนิดๆแบบนี้ กราบเทพยดาฟ้าดิน ฮรืออออ ฟินมากอ่ะค่ะภาพที่เห็นที่นี่วันนี้
ค่ะ แล้วเราก็ลงมาถึงทะเลสาปจนได้ =v= แต่เราไม่ขึ้นเรือแล้วค่ะรอบนี้ เราจะเดินเลาะทะเลสาปกัน~~~ ฟังดูยิ่งใหญ่ แต่ที่จริงเดินใกล้มากเลยค่ะ5555+ บรรยากาศทางเดินก็เป็นแบบนี้ย์
เปล่าค่ะ เราไม่ได้ลงไปเดินบนดินริมน้ำตรงนั้นนะ เค้าให้เราเดินบนสะพานไม้อย่างดีค่ะ555 ที่เห็นอยู่ไกลๆนั่นแหละ
แบบนี้ =/////=
ตรงนั้นคือที่ที่เราไปขึ้นกระเช้ากันค่ะ ที่ตอนขามาหมอกลงแทบไม่เห็นอัลไลนั่นแหละ
จากตรงนี้ก็เดินลงเขาไปยาวๆจนถึงประตูทางเข้าที่เราเข้ามาตอนแรกเลยน่ะค่ะ จากนั้นก็ซื้อตั๋วรถกอล์ฟ นั่งรถกอล์ฟลงเขา มันก็จะปล่อยเราลงตรงที่เราขึ้นมันมาตอนแรกนั่นแหละค่ะ และจากลานจอดรถโล่งๆเมื่อเช้า ตอนนี้ก็จะเต็มไปด้วยรถทัวร์ของทัวร์จีนค่ะ5555 เราก็มองหาป้ายรถเมล์สาย 101 ค่ะ ตอนที่คุณกวางไปมันมีรถมาจอดรออยู่ตลอดเลยนะ หาไม่ยากค่ะ แล้วก็จ่ายเงินบนรถนั่นแหละ เออ จำไม่ได้แล้วว่ากี่หยวนแต่ถูกมากอ่ะค่ะ
ก็นั่งรถเมล์สาย 101 มาแป๊บเดียว เค้าก็จะพาเรามาส่งที่สถานีรถบัสชิงเฉิง....ที่เงียบฉี่ไม่มีผู้ไม่มีคน เดินวนรอบแล้วก็ไม่เห็นรถกลับเฉิงตู ประกอบกับเคยเห็นในรีวิวแว๊บๆว่าสถานีรถไฟความเร็วสูงมันอยู่ใกล้ๆนี่แหละ เลยเดินดูค่ะ แล้วก็มีจริงๆล่วยยยยย อยู่ข้างๆกันเลยค่ะ ก็เดินเข้าไปซื้อตั๋วได้5555
คือในเฉิงตูจะมีสถานีรถไฟหลายที่นะคะ มี North มี East มี West อะไรไม่รู้อ่ะมากมาย อย่างถ้าพูดถึง Chengdu Railway Station นี่จะหมายถึง North Railway station นะ ไป East ไป West นี่ผิดที่นะ555 แล้วทีนี้ ที่คุณกวางไม่แน่ใจว่าจะใช้รถไฟไปชิงเฉิงได้ไหมเพราะมันแทบไม่มีรถไฟที่ออกจาก Chengdu North Railway Stationเลยค่ะ คือแทบทุกขบวนจะเขียนว่า Xipu หมดเลย ก็เกาหัวแกร่กๆ พยายามหาข้อมูลต่อไปก่อนจะค้นพบว่า อ๋อ~~ Xipu นี่มันก็เป็นสถานีรถไฟสถานีหนึ่งของเฉิงตูนี่แหละ ขึ้นรถไฟความเร็วสูงมาลงที่นี่ได้ และมันก็มีรถไฟใต้ดินจิ้มต่อเข้าเมืองอย่างสะดวกสบายด้วยค่ะ นะ ขากลับก็เลยลองขึ้นดูค่ะ5555
ตอนจองตั๋วก็มีความทุลักทุเลเล็กน้อย คือช่องมันก็มีมากมาย ไม่รู้จะไปช่องไหน(ภาษาจีนล้วน) คนต่อแถวก็มีอยู่บ้าง ก็เลยต่อมั่วเลยค่ะ แต่ยังดีที่เจ้าหน้าที่พอจะสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษกับเราได้บ้าง แล้วก็ดีที่คุณกวางปริ๊นท์อิแผนเที่ยวแผ่นนี้ไป เพราะมันมีรอบรถไฟพร้อมเลขขบวนเรียบร้อย ก็เลยจิ้มให้เค้าดูเอาได้เลยค่ะว่าจะไปรอบนี้ เวลานี้ =v=
ก็จ่ายเงินไป 10หยวน(50บาท=[ ]=) ถูกยิ่งกว่า BTSบ้านเราทั้งๆที่นั่นมันเป็นรถไฟความเร็วสูง มันระดับเดียวกับชินคันเซ็นนะเออ =[ ]= ก็จะได้ตั๋วมาหน้าตาแบบนี้ย์
จาก Qingchengshan ไป Xipu ขบวนเลขที่ C6126 วันที่ 17/05/2018 เวลา 17:42 โบกี้ที่ 08 ที่นั่ง 008 C เก็บตั๋วนี้ไว้ให้ดีด้วยนาคะ ไม่งั้นเราจะเข้าไปในชานชลาไม่ได้นะ555
ลืมบอกไปค่ะว่าเค้าใช้พาสปอร์ตในการซื้อตั๋วด้วย เพราะจะมีชื่อเรา เลขพาสปอร์ตเราอยู่ในตั๋ว แล้วตอนจะเข้าไปนั่งรอในห้องพักคอย เจ้าหน้าที่เค้าก็จะขอดูพาสปอร์ตด้วย ไม่ตรงกันไม่ให้เข้านะเออ =v= เข้มงวดพอๆกับสนามบิน =v= คือปกติแล้วคนจีนเค้าจะใช้บัตรประชาชนในการจองตั๋วกันค่ะ ต่างด้าวอย่างเราก็ใช้เป็นพาสปอร์ตแทน
โอเคมาดูห้องพักคอยกันบ้าง ใหญ่โตโอ่โถงมากกกกค่ะ แล้วก็สะอาดดีค่ะ
ส่วนรูปบนนี้เป็นประตูทางเข้าชานชลาค่ะ อย่างที่บอกแหละว่าปกติแล้วรถไฟหรือรถบัสที่วิ่งทางไกลในจีนเนี่ย เค้าจะไม่ปล่อยให้เราไปยืนออรอกันที่ชานชลา (นึกสภาพชานชลารถบัสที่หมอชิตช่วงวันหยุดสงกรานต์สิ คนก็ยืนกันเต็ม รถบัสบ้างก็จะเข้ามาจอด บางคันก็จะออก วุ่นวายสุดชีวิต ในจีนเราจะไม่ได้เห็นภาพแบบนั้นค่ะ555) เค้าจะปล่อยเราเข้าไปเมื่อใกล้จะถึงเวลารถออกซัก10-20นาทีอ่ะแล้วแต่ อย่างสถานีชิงเฉิงนี่เป็นสถานีเล็กๆก็จะมีเกทเดียว รถไฟคันไหนมาก็จะขึ้นอยู่ตรงบอร์ดป้ายไฟที่เห็นนั่นน่ะค่ะ แถวบนสุดถ้าใช่ขบวนของเรา ก็ให้เตรียมไปยืนต่อแถว แล้วก็ถือตั๋วเอาไว้ค่ะ พอถึงเวลาประตูเปิดเราก็เอาตั๋วสอดเข้าไปในช่องและตั๋วมันจะดีดออกมาด้านบน เราต้องดึงมันออกมานะคะ ไม่งั้นประตูมันไม่เปิดค่ะ สงสัยกันคนลืมตั๋วมั้ง 555 ตอนพูดเนี่ยมันง่าย แต่ตอนปฏิบัติจริงนี่กดดันชิบหายเลยค่ะ 5555 คือคนจีนอ่ะ เหมือนเค้าจะไม่ค่อยมีความอดทนในการต่อแถว แล้วก็จะให้คนข้างหน้าไปเร็วๆ ทำอะไรเร็วๆ ถ้าเราไปงึกงักๆหรือติดๆขัดๆอะไรเงี้ย ข้างหลังก็จะเริ่มโล้งเล้งแระ =v=" ต้องพยายามผ่านไปให้เนียนที่สุด // ปาดเหงื่อ
พอผ่านประตูเข้ามาได้แล้วก็อย่ามัวเดินชิลนะคะ วิ่งได้ก็วิ่งเถอะค่ะ5555 อ้อ ลืมบอก บนบอร์ดป้ายไฟเค้าจะมีบอกเลขชานชลาที่เราต้องไปขึ้นรถไฟเอาไว้ด้วยค่ะ ไปให้ถูกเด้อ แต่ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาพร้อมเรามันก็ไปรถไฟขบวนเดียวกับเรานี่แหละ เดินตามเค้าไปค่ะ5555
ก็อย่างที่บอกแหละว่ากว่าเค้าจะปล่อยให้เข้ามาในชานชลาก็ต่อเมื่อรถไฟจะออกในอีก10-20นาทีนี้ แล้วข้างในก็ไม่ได้มีชานชลาเดียวไงคุณ มันมีอีกเป็นตับ ต้องเดินต่อไป เพราะงั้นวิ่งเถอะค่ะ5555 คือสถานีนี้ยังดี ยังเล็กๆมีเกทเดียว เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปเจอของจริงที่สถานีรถไฟเฉิงตูค่ะ นั่นมีเป็น10เกทอ่ะ แล้วจากประตูใหญ่นี่ไกลมากกกกกกกว่าจะถึงเกทสุดท้าย วิ่งกันเป็นบ้าเป็นหลังมาก(แถมลากกระเป๋าเดินทางด้วยถถถถ) พรุ่งนี้ค่ะพรุ่งนี้ รออ่านรีวิวโหด มันส์ ไม่ฮาแต่น้ำตาจะร่วงเพราะวิ่งเหนื่อยกันได้ค่ะ 5555
แล้วก็รถไฟจีนต้องระวังนิดนึงนะคะ มันจะกระโดดขึ้นโบกี้แรกตรงที่เราลงบันไดไปเจอแล้วค่อยเดินไปโบกี้เราจากด้านในรถไฟเอาเหมือนชินคันเซ็นญี่ปุ่นไม่ได้เด้อ เพราะบางโบกี้มันไม่ต่อกันค่ะ =[ ]= เหมือนบางเที่ยวเค้าก็ใช้รถไฟสองสามขบวนมาลากต่อกันอะไรงี้อ่ะค่ะ โบกี้รถไฟมันเลยเดินเชื่อมต่อกันได้ไม่หมดน่ะค่ะ ทางที่ดีเดินไปขึ้นทางประตูโบกี้เราดีก่า
อันนี้ภาพบนชานชลาที่ถ่ายจากในรถไฟ =v=
ส่วนอันนี้ในรถไฟค่ะ ที่นั่งอย่างดี กว้างขวางหลับสบายยยย =////=
รถไฟของจีนตรงเวลามากค่ะ เพราะงั้นต่อให้ฟังไม่เข้าใจแต่ถ้าเรารู้เวลาที่รถไฟมันจะไปถึง(ดูจากตารางได้) เราก็ลงรถถูกแล้น ตั้งปลุกไว้ซะ 5555
ก็นั่งรถไฟความเร็วสูงกลับถึงเฉิงตูโดยสวัสดิภาพค่ะ =/////= สำหรับอาหารเย็นวันนี้ก็หากินแถวๆที่พักนั่นแหละค่ะ คือในรูปกับสิ่งที่ได้มานี่ต่างกันมากกกกจนคุณกวางกับเพื่อนมองหน้ากัน....เค้ามาส่งผิดโต๊ะเปล่านะ??? 5555
มาเป็นถาดหลุมอนุบาลมาก55555 ประมาณว่าพะโล้อะไรซักอย่าง แต่กินไปกินมาก็อร่อยอยู่นะ
เนื้อหมูมั้ง???
แอบสอยเค้กมาล่วย =/////= ไม่ได้ซื้อเพราะสีแดงหรอกนะะะะ ไม่ใช่เล้ยยยยยย
วันพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางจากเฉิงตูไปสู่ฉงชิ่งแล้วค่ะ คืนนี้ก็เลยต้อง
อารุมี๊ไปเก็บของในขณะที่เค้กก็มีสองสาว(?)มาวนๆเวียนๆอยู่รอบๆ =////= ไหนๆก็ไม่ได้ออกมาถ่ายรูปข้างนอกเพราะฝนตกแระ ปิดท้ายวันด้วยคะชูซังกับยามะตันซักหน่อย >/////<
ลืมเปลี่ยนปีคศ.ถถถถ ช่างมัน
สรุปแล้วสำหรับเมืองเฉิงตูนี้เป็นเมืองจีนที่ชีวิตดีมากค่ะ ชิลๆ สงบๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวเมืองจีนแบบที่ไม่วุ่นวายโล้งเล้งมากนัก แล้วเมืองก็สะอาดมากด้วยค่ะ
ส่วนอีกครึ่งทริปที่เหลือ เราก็จะกลับสู่เมืองจีนของจริง(?)กันแล้วค่ะ 55555+ อย่างกับพลิกผ่ามือมากอ่ะเฉิงตูกับฉงชิ่ง = =" แต่ไฮไลต์ของทริปนี้เลยนาคะ หลังจากไม่ได้ไปจิ่วไจ้โกว เราก็ตั้งหน้าตั้งตาคอย อุทยานหลุมฟ้าสะพานสวรรค์ จากอู่หลงนี่แหละะะะะะ >/////<
แล้วเจอกันเอนทรี่หน้าน้า ขอบคุณทุกๆการติดตามค่า
คือสนใจจองหนังสือ Last Word จะจองแล้วซื้อประมาณปีหน้า่น่ะค่ะ ยังมีเหลืออยู่ไหมคะ? ส่งแบบฟอร์มและรายละเอียดไปแล้วได้ไหมคะ
ตอบลบปล เหตุผลอยู่ในแบบฟอร์มค่ะ
ตอบลบ