Attack on Titan feat.KHR Au.Fic [Levi xEren , 8059] GLIDE : 18


Attack on Titan feat.KHR Au.Fic [Levi xEren , 8059]  GLIDE : 18

: Attack on Titan feat KHR Fanfiction Au
: Levi x Eren , 8059
: Romantic Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
           
  
       





นักขับมือสองของทีมม้าลำพองถูกย้ายจากห้องไอซียูมาอยู่ห้องพิเศษเดี่ยวท่ามกลางการดูแลอย่างใกล้ชิดของคนเป็นผู้ปกครอง

ใบหน้านิ่งของคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงมาหนึ่งวันเต็มๆหวังเพียงว่านัยน์ตาสีมรกตแสนเย็นชาคู่นั้นมันจะลืมขึ้นมาสักที  ถึงจะมีร่างโปร่งบางนั่งอยู่ข้างๆแต่การพูดจาก็แทบจะนับครั้งได้ ซึ่งความกังวลใจของอีกฝ่ายร่างโปร่งบางก็รู้ดีจึงพยายามไม่ไปกวนใจมากนัก

ทีมบอสและทีมวิศวกรบางส่วนตรงดิ่งมาที่โรงพยาบาลทันทีหลังจากที่ฝ่าเท้าเหยียบแผ่นดินอิตาลีแล้วก็แทบจะทรุดไปตามๆกันเมื่อได้ฟังผลการรักษาจากปากของคนเป็นผู้ปกครอง

ถ้าขาใช้การไม่ได้นั่นหมายความว่าอนาคตในวงการฟอร์มูล่าวันก็จบลงเช่นกัน....

ถึงจะได้ยินว่าปลอดภัยแต่ทีมบอสใหญ่ของเฟอร์รารี่ก็แทบจะลมจับ...เรื่องนี้...คงต้องเข้าที่ประชุมซึ่งก็ไม่รู้ว่าระดับพวกผู้บริหารจะเห็นว่ายังไง...จะรอ...ได้หรือเปล่า

กลุ่มคนในชุดสีแดงลากลับไปเมื่อหมดไปอีกวัน...เพราะทางนั้นเองก็มีอะไรหลายๆอย่างให้ต้องไปจัดการ ทั้งเรื่องรถที่พังยับ ทั้งเรื่องให้สัมภาษณ์สื่อ ทั้งต้องต่อรองกับทีมผู้บริหาร.....งานนี้ เอลวิน สมิธ เองคงต้องทำงานหนักเพื่อนักขับที่ตัวเองปั้นมากับมือไม่แพ้คนที่นั่งเฝ้าอยู่ข้างๆเตียงเลย



จนผ่านไปอีกสองวันเต็มๆ โกคุเดระ ฮายาโตะถึงได้ลืมตาขึ้นมา...



ใบหน้าเหนื่อยล้าของคุณรีไวจึงค่อยๆดูผ่อนคลายขึ้นเรื่อยๆ เพราะนอกจากเรื่องขาแล้ว ส่วนอื่นของร่างกายยังคงใช้งานได้ตามปกติ สมองไม่ได้มีการกระทบกระเทือนใดๆแต่ก็ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดต่อไป

ใบหน้ามนถอนหายใจในขณะที่ก้าวขาไปตามทางเดินยาวเหยียดหน้าห้องพิเศษเดี่ยว ถุงใส่น้ำและอาหารของคนเฝ้าไข้กระทบกันไปมาส่งเสียงดังแกร๊งๆ...โกคุเดระเองยังกินอาหารตามปกติไม่ได้จึงต้องให้น้ำเกลือกับอาหารเหลวไปก่อน...สภาพตอนที่เพิ่งออกมาจากห้องไอซียูทำให้เขาแทบจะก้มลงขอร้องพระผู้เป็นเจ้า...ขออย่าให้คุณรีไวต้องเจอเรื่องแบบนี้เลย....ทั้งสายเลือด สายน้ำเกลือ สายออกซิเจน มันระโยงรยางค์จนรู้สึกกลัว

นัยน์ตาสีมรกตเหลือบลงไปมองของในถุง....เป็นเพราะอยู่กันแค่สองคนไม่มีญาติที่ไหนอีก เพราะงั้นเขาเลยรับอาสาหน้าที่ออกไปซื้อของกินของใช้จำเป็นมาให้ เพราะดูท่าทางว่าคุณรีไวจะไม่อยากอยู่ห่างโกคุเดระแม้แต่วินาทีเดียว....เหมือนจะยังกังวลเรื่องคนที่จะเข้ามาลอบทำร้าย...

ในขณะที่กำลังนึกอยู่ว่าลืมอะไรไปบ้างหรือเปล่า สองขาก็เดินมาถึงที่หน้าห้องพอดี

“ อ๊ะ...”   แต่ร่างโปร่งบางก็ยังไม่ได้เปิดประตูเข้าไป เพราะนัยน์ตาเหลือบขึ้นมาเห็นร่างสูงใหญ่ในสูทสีดำที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่หน้าห้องเข้าเสียก่อน....ยามาโมโตะ ทาเคชิ?

“ ไม่เข้าไป....หรอครับ?”   นัยน์ตากลมโตช้อนขึ้นมองร่างสูงใหญ่อย่างกล้าๆกลัวๆ ใบหน้าที่เฉยชาของยามาโมโตะ ทาเคชิคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานั้นให้ความรู้สึกต่างไปจากตอนที่อยู่กับโกคุเดระโดยสิ้นเชิง แววตาขี้เล่นของผู้ชายใจดีคนนั้นมันไม่มีเหลืออยู่อีก


น่ากลัว....


“ เข้าไปแล้วละ...แต่โดนแฟนนายไล่ตะเพิดออกมา”   อ่า...คุณรีไวยังไม่ยอมให้อภัยง่ายๆสินะ ความรู้สึกของคนเป็นผู้ปกครองเขาก็พอจะเข้าใจแหละ...ถ้าเป็นเขา...พ่อของเขาก็คงจะทำเหมือนคุณรีไวเช่นกัน

แต่คำว่า ”แฟนนาย” ที่คนตรงหน้าพูดออกมาก็ทำให้รู้สึกว่าอยากจะช่วยยังไงไม่รู้ แววตาดื้อดึงปนซุกซนจึงมีประกายขึ้นมาทันที...อย่างคุณรีไวน่ะต้องเจอเขา!

“ คุณรออยู่แถวนี้ก่อนนะครับ...ผมจะช่วย”   ใบหน้าเหมือนเด็กซนๆหันมาพยักหน้าหงึกๆให้ร่างสูงที่มีท่าทางนิ่งค้างไป ก่อนที่นัยน์ตาสีเปลือกไม้จะมองตามแผ่นหลังโปร่งบางที่เดินหายเข้าไปในห้องอย่างไม่รู้ว่าเด็กนั่นตั้งใจจะทำอะไร ร่างสูงใหญ่จึงได้แต่หลบไปยืนแอบดูอยู่ที่มุมทางเดินอีกฝั่ง


นัยน์ตาสีมรกตกวาดมองเข้าไปในห้องตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าไป......โกคุเดระยังหลับอยู่ ส่วนคุณรีไวก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ฆ่าเวลา....ดีละ


ตุบ!!


ถุงที่ใส่ของมาเต็มหล่นลงกับพื้นพร้อมๆกับร่างโปร่งบางที่ทรุดลงไปกุมท้อง เสียงที่ดังขึ้นทำให้ใบหน้าที่อยู่เบื้องหลังหนังสือพิมพ์หันมามองก่อนจะมีท่าทีตกใจ

“ โฮ่ย! เจ้าเด็กเหลือขอ? เป็นอะไรไปน่ะ?”    ร่างแข็งแกร่งแทบจะพุ่งพรวดเข้ามาหาทำให้ใบหน้ามนลอบยิ้ม

“ อะ..อื้อ....ปวด...ปวดท้องจังครับ....”   คิ้วสีน้ำตาลขมวดเข้าหากันพลางขดตัวด้วยท่าทางทรมาน...ทั้งๆที่จริงแล้วน่ะ ไม่ได้เป็นอะไรเลยสักนิด

“ สงสัยเป็นเพราะกินข้าวไม่ตรงเวลาพร้อมกับชั้น?...หมอ...ต้องไปเรียกหมอ!”   ใบหน้านิ่งบ่นพึมพำก่อนทำทีจะลุกออกไปตามหมอจนเขาต้องรีบตะครุบตัวเอาไว้

“ ดะ เดี๋ยวก่อนครับ...อย่าไปเรียกหมอมาที่นี่เลยครับ...เดี๋ยวโกคุเดระจะตื่น....ถ้าไง...พาผมไปทิ้งไว้ที่ห้องตรวจ.......อื้อ!.....”   ใบหน้าที่ดูลนๆของคุณรีไวทำเหมือนเพิ่งจะนึกขึ้นได้แล้วก็เห็นด้วยโดยไม่ได้ไตร่ตรองอะไรมากมาย ท่อนแขนแข็งแรงสอดเข้ามาอุ้มลำตัวของเขาขึ้นก่อนจะก้าวขาออกไปโดยไม่สงสัยอะไรสักนิดจนเขาได้แต่ขอโทษขอโพยอยู่ในใจ


จู่ๆประตูก็เปิดพรวดออกมาจนคนที่แอบดูอยู่ข้างนอกต้องรีบหลบเข้าไปข้างหลังผนัง

ผู้ปกครองของโกคุเดระจู่ๆก็อุ้มเอเลน เยเกอร์ออกมาด้วยท่าทางตื่นๆ...ทั้งๆที่เด็กนั่นน่ะ....หันมาขยิบตาให้เขา?

อย่าบอกนะว่ากำลังล่อพ่อเสือออกไปจากถ้ำให้น่ะ?

ร้ายเหมือนกันนะเด็กนั่น....ถ้ารีไวจับได้ขึ้นมางานนี้คงมีตายหมู่...

“ หึ....”   รอยยิ้มบางๆฉาบอยู่บนใบหน้าคมที่ไม่ได้ยิ้มมาหลายวัน ถึงในอนาคตของพวกเขากับเด็กนั่นจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ แต่ตอนที่อยู่ในบ้านของเขตอุทยานเขาก็คิดอยู่เสมอ....ว่ามันไม่ใช่แค่การเล่นเป็นครอบครัว...

ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน....มันเกิดขึ้นมาจริงๆ




ขายาวรีบก้าวเข้าไปในห้องก่อนจะไปหยุดยืนอยู่ข้างๆเตียงคนไข้ซึ่งมีร่างบอบบางที่ดูขาวซีดจนเหมือนกับจะหายไปนอนหลับสนิทอยู่บนนั้น

ฝ่ามือที่มีแต่กลิ่นคาวเลือดแตะลงไปบนใบหน้าที่ยังไม่ลืมตา...หลังจากที่ฟื้นขึ้นมาโกคุเดระก็มักจะหลับยาวแบบนี้ตลอด

ปลายนิ้วเกลี่ยไล้เส้นผมสีเงินให้พ้นออกไปจากใบหน้าสวยก่อนจะลูบแก้มใสเบาๆ ทุกสัมผัสมันเต็มไปด้วยความรักและดูเหมือนคนที่หลับอยู่ก็จะรับรู้ถึงมันได้...เปลือกตาที่ปิดสนิทจึงเริ่มขยับเล็กน้อย


ก่อนที่นัยน์ตาสีมรกตจะค่อยๆเปิดขึ้นมา....


ใบหน้าสวยมีอาการมึนเบลออยู่หลายนาที ร่างกายยังรู้สึกหนักราวกับไม่ใช่ร่างกายของตัวเอง...โดยเฉพาะที่ขา....

แพขนตากระพริบเพื่อปรับโฟกัสให้ชัดเจนขึ้น...ในห้องสีขาวดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่...ใบหน้าสวยจึงหันไปหันมาช้าๆ...รีไวเล่าทุกเรื่องให้เขาฟังทั้งหมดโดยไม่คิดจะปิดบัง ทั้งเรื่องแผนการของพวกวองโกเล่ ทั้งผลการรักษาของเขา ทั้งขาที่อาจจะใช้การไม่ได้อีก...ทั้งเรื่องของยามาโมโตะ......


เรื่องที่เขาถูกอีกฝ่ายหลอกใช้....


นัยน์ตาสีมรกตทอดมองไปยังเพดานสีขาวที่ว่างเปล่า...ถึงมันจะไม่ใช่เสียทีเดียวแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า...ยามาโมโตะเป็นคนทำลายอนาคตในวงการฟอร์มูล่าวันของเขา

ถ้าผู้ชายคนนั้นเลือกเขาแทนที่จะเป็นวองโกเล่....ขาทั้งสองข้างก็คงจะไม่เป็นแบบนี้...


รู้งี้...เชื่อรีไวตั้งแต่แรกเสียก็ดี....


ถึงข้างในจะเจ็บปวดแต่ก็ไม่มีน้ำตาไหลออกมาให้เห็น ใบหน้าสวยก็แค่กลับไปเย็นชาเหมือนเดิม...

รอยขยุกขยิกของอะไรบางอย่างที่อยู่ข้างเตียงทำให้นัยน์ตาสีมรกตเหลือบไปมองแล้วมันก็ต้องเบิกขึ้นเล็กน้อย

หัวตุ๊กตาหมีสีดำค่อยๆโผล่ขึ้นมาก่อนที่มันจะโยกไปมาพร้อมด้วยมือหมีที่โบกให้เขา....นั่นมัน......ตุ๊กตามือ?


หมีสีดำ?


แล้วคนที่จะทำเรื่องแบบนี้ก็ไม่น่าจะเป็นรีไวหรือเอเลน....ไม่น่าจะมีใครที่อยู่รอบกายเขาที่จะกล้าทำนอกจากไอ้บ้านั่น....

ใบหน้าสวยจึงเบือนหนีไปอีกฝั่งทันที

สัมผัสนิ่มๆของขนหมีไต่มาอยู่ที่ฝ่ามือ ถึงจะทำเป็นเมินเฉยแต่นัยน์ตาสีมรกตก็แอบเหลือบมองเป็นระยะๆ ใบหน้าของเจ้าหมีสีดำนั่นคลอเคลียอยู่ที่ฝ่ามือด้วยท่าทางออดอ้อนจนทำให้นึกไปถึงหน้าตาน่าหมั่นไส้ของไอ้หมีตัวใหญ่ที่กำลังบังคับตุ๊กตามืออยู่ใต้เตียงนั่นจริงๆ

“ ไสหัวไปนะ! ชั้นไม่มีทางยกโทษให้แกง่ายๆหรอก!”   เป็นเพราะฟื้นขึ้นมาวันสองวันแล้วเขาจึงพูดจาได้ชัดถ้อยชัดคำจนกลายเป็นปกติ

“ ไม่ยกโทษให้ง่ายๆ....แปลว่าคงจะมีสักวันที่นายจะยกโทษให้ชั้นใช่ไหมโกคุเดระ....นะๆ”   ใบหน้าสวยตวัดกลับมาจ้องเขม็งไปที่หัวตุ๊กตาหมีที่เงยขึ้นมามองเขาเช่นกัน น่าแปลกที่นัยน์ตาพลาสติกนั่นกลับดูเว้าวอนจนน่าสงสารชอบกล

ไม่ๆ สงสัยเขาจะเบลอเกินไปแล้วถึงได้เห็นภาพแบบนั้น ใบหน้าสวยส่ายไปมาก่อนจะตลบผ้าห่มขึ้น

“ จะนอนแล้ว!”   นัยน์ตาสีมรกตปิดลงอย่างแปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกันที่กลับไม่ได้รู้สึกโกรธอีกฝ่ายจนอยากจะฆ่าให้ตาย

เพราะส่วนลึกในใจนั้นรู้ดีว่า....จิตใจที่ต้องการล้างแค้นเรื่องเมื่อ 10 ปีก่อนมันมีมากกว่า....

เขาเอง....ก็ใช่ว่าจะไม่เคยทำใจ....ตั้งแต่ที่คิดจะแก้แค้น...รวมไปถึงเรื่องแข่งรถก็เหมือนกัน



“ โอ๊ยๆๆๆ ปวดมากกกกเลยครับ!!”   เสียงร้องของเอเลน เยเกอร์ที่ดังอยู่ไกลๆทำให้ร่างสูงใหญ่รู้ว่าหมดเวลาแล้ว

“ โฮ่ย...กลับไปให้หมอดูใหม่ไหม?”   เสียงที่ดูจะเป็นห่วงของคนที่ถูกล่อออกไปดังตามมาอยู่แถวๆหน้าห้อง

“ ไม่เป็นไรครับ...คิดว่านั่งพักก็น่าจะหาย...อื้อ....”   ใบหน้าคมของคนที่นั่งอยู่ใต้เตียงยิ้มให้ความสมบทบาทของเจ้าเด็กนั่น ก่อนจะขยับมือขึ้นไปใกล้ๆใบหน้าสวยที่ปิดตาลงอย่างไม่สนใจเขาอีก

แค่ยอมพูดด้วยก็ดีแล้วละ....


แล้วใบหน้าของตุ๊กตาหมีสีดำก็จูบลงไปที่ขมับใส...


“ แล้วชั้นจะมาใหม่นะ โกคุเดระ”   

ไม่นาน...ร่างสูงใหญ่ก็กระโดดออกนอกหน้าต่างไปในขณะที่ประตูหน้าห้องนั้นเปิดเข้ามาพอดี


นัยน์ตาสีมรกตของคนที่นอนอยู่บนเตียงเปิดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อผู้ปกครองของตนพยุงร่างโปร่งบางของคนที่อยู่ด้วยกันมาตลอดเข้ามา

“ ตื่นแล้วหรอ? มีใครเข้ามาหรือเปล่า?”   รีไวหันมาทักเมื่อเห็นว่าเขาตื่นแล้วก่อนจะค่อยๆพาเด็กคนนั้นไปนั่งที่โซฟา

“ เปล่า....ไม่มีคนเข้ามา............มีแต่หมี....”   ท้ายเสียงงึมงำจนคนเป็นผู้ปกครองจับใจความไม่ได้ ใครบางคนเลยรอดตัวไป....

นัยน์ตาสีมรกตหันไปส่งกระแสจิตถามร่างโปร่งบางที่เพิ่งเข้ามาใหม่ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า แล้วอีกคนก็ดันเข้าใจจึงส่ายหน้าตอบกลับมาว่าไม่เป็นอะไร

ใบหน้ามนอมยิ้มเมื่อเห็นว่าโกคุเดระมีสีหน้าที่ดีขึ้น....ถึงจะเจ็บตัวขนาดนี้แต่ก็ดูเหมือนจะมีแนวโน้มว่าน่าจะอภัยให้ยามาโมโตะมากกว่าคุณรีไวหลายเท่า....ถ้างั้นเขาคงต้องคิดแผนต่อไปสินะ ว่าจะล่อคุณรีไวออกไปจากห้องได้ยังไงอีก





แต่ดูท่าว่าเขาคงจะไม่ต้องคิดอะไรมากไปกว่านี้แล้ว

เมื่อวันรุ่งขึ้นทีมบอสของเฟอร์รารี่ก็มาเยี่ยมพร้อมด้วยผลการประชุมกับกลุ่มผู้บริหาร...

“ เนื่องจากปีนี้พวกนายทำคะแนนทิ้งห่างทีมคู่แข่งเอาไว้มาก...ทางผู้บริหารจึงยอมรับฟังเรื่องที่ว่าสนามที่เหลือ...เราจะส่ง F138 LEVI ลงแข่งแค่คันเดียว....”   นัยน์ตาของสามคนที่อยู่ในห้องถึงกับเบิกขึ้นอย่างประหลาดใจ

เพราะนั่นมันหมายความว่า จะไม่หานักแข่งใหม่จนกว่าจะถึงฤดูกาลหน้า....

หมายความว่าเฟอร์รารี่จะรอ โกคุเดระ ฮายาโตะ จนถึงที่สุด...

“ นี่นายไปคุยกับตาแก่พวกนั้นยังไงเนี่ย?”   นักขับมือหนึ่งถึงกับถามออกไปอย่างอึ้งๆ เพราะมันไม่มีทางเลยที่คนพวกนั้นจะยอมเสี่ยงกับการที่อาจจะเสียแชมป์ไปเพราะเหลือรถที่ลงแข่งแค่คันเดียว....การหาใครมาแทนถึงจะไม่เท่าฮายาโตะแต่อย่างน้อยก็น่าจะช่วยทำแต้มได้บ้าง

“ ก็นะ...”   ทีมบอสของเฟอร์รารี่เลี่ยงที่จะไม่พูดถึงวิธีการแต่ดูจากใบหน้าที่ยิ้มอย่างละเหี่ยใจของเอลวิน สมิธก็รู้แล้วว่าคงไม่ง่ายเท่าไหร่หรอกที่จะต่อรองกับทีมผู้บริหารพวกนั้น นัยน์ตาสีขี้เถ้าจึงมองร่างสูงใหญ่ด้วยสายตาขอบคุณ

“ อีกเรื่อง...ชั้นคุยกับหมอเกี่ยวกับขาของโกคุเดระ ทางนั้นบอกมาว่าถึงจะมีเปอร์เซ็นต์ไม่มากแต่ก็ยังมีโอกาสหาย เพียงแต่ต้องผ่าตัดใหม่ด้วยหมอที่เก่งกว่าซึ่งไม่มีอยู่ในอิตาลี แล้วก็คงต้องทำกายภาพกันอีกพอสมควร”   แล้วสิ่งที่ทีมบอสเอ่ยออกมาก็ทำให้จิตใจที่หดหู่มาหลายวันค่อยๆพองโตขึ้น...ขอแค่รู้ว่ายังมีความหวัง...

“ ในระหว่างนี้นายจึงต้องพักผ่อนให้มากๆนะโกคุเดระ ส่วนเรื่องหมอชั้นจะลองติดต่อดู”   ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีทองหันไปมองใบหน้าสวยที่มองตอบกลับมาด้วยนัยน์ตาสั่นคลอ...คงจะดีใจสินะที่จะได้กลับมาขับรถอีก

มือใหญ่ยกขึ้นไปลูบหัวสีเงิน...นัยน์ตาสีทองจับจ้องไปที่นักขับอายุน้อยที่สุดซึ่งเขาเป็นคนไปขุดมาจากโคลนตมนั่นกับมือ...ถ้าเป็นเมื่อก่อน...ใครที่ใช้งานไม่ได้เขาไม่มีทางเอาไว้แน่...แต่ตั้งแต่ที่ต้องเข้าไปวุ่นวายกับเจ้านักขับสองคนนี้ที่สร้างแต่เรื่องปวดหัวให้ไม่เว้นแต่ละวันมันจึงทำให้เขารู้สึกราวกับว่าเป็นคนในครอบครัวที่จะปล่อยทิ้งไปไม่ได้...ก็มีเสียที่ไหนล่ะที่คนอย่างเอลวิน สมิธจะงัดทุกอย่างเพื่อไปสู้กับบรรดาผู้บริหารของเฟอร์รารี่เพื่อให้รอเด็กคนนี้ก่อนแบบนั้น

“ เพราะงั้นนะรีไว...ถึงจะมีนายแค่คนเดียวแต่ก็จะเอาแชมป์มาให้ชั้นได้ใช่ไหม?”

“ อืม!   ใบหน้านิ่งพยักรับอย่างมั่นใจ เพราะงั้นในอีกไม่กี่วันต่อจากนั้นร่างแข็งแกร่งจึงต้องเดินทางไปแข่งที่สนามถัดไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

ส่วนเอเลนเองก็ต้องกลับมาราเนลโล่เพื่อไปโรงเรียน...เพราะงั้น...มันจึงช่วยไม่ได้ที่จะ.....


ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครเปิดประตูห้องออกมาก่อนจะพบภาพที่คุ้นตา เพราะตั้งแต่วันแรกที่ฮายาโตะย้ายมาที่ห้องพิเศษเดี่ยว ที่หน้าห้องก็มีร่างสูงใหญ่ของยามาโมโตะ ทาเคชิตามมานั่งบ้างนอนบ้างอยู่บนม้านั่งยาวแทบจะไม่ไปไหน

นักขับมือหนึ่งของเฟอร์รารี่ยกท่อนแขนขึ้นมากอดอกก่อนจะปั้นหน้าไม่สบอารมณ์

“ จะนั่งอยู่ตรงนี้อีกนานไหม มันน่าสงสัยไม่ใช่รึไงไอ้หมีเหลือขอ?!   นัยน์ตารีขวางตวัดมองใบหน้าที่เงยขึ้นมายิ้มร่าให้ด้วยแววหาเรื่อง

“ ก็ว่าจะนั่งจนกว่าโกคุเดระจะออกจากโรงพยาบาลนั่นแหละ เผื่อว่านายจะเห็นใจชั้นบ้าง”  

“ ไม่มีทาง...”   คนเป็นผู้ปกครองมองไอ้คนที่พูดจาน่ากระทืบด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ....นี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในโรงพยาบาลละก็นะ เขาคงประเคนท่อนขาให้มันไปหลายๆทีแล้วละ

สองแขนที่กอดกันอยู่ที่หน้าอกสั่นกึกๆอย่างพยายามห้ามอารมณ์….ใจเย็นรีไว...เพราะยังไงก็จำเป็นต้องขอร้องมัน...ริมฝีปากกัดกันแน่นเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ยอมพูดออกมาอยู่นาน...ในหัวพยายามนึกถึงหนทางอื่นแต่ก็ไม่มีตัวเลือกอะไรให้เขาเลือกได้อีก...เจ้าฮายาโตะยังไม่แข็งแรงพอที่จะหิ้วไปด้วยได้...จะให้เอเลนมาคอยอยู่เฝ้าก็ไม่ได้เพราะเด็กนั่นก็ต้องไปโรงเรียน แค่มาอยู่กับเขาหลายวันมานี้ก็เห็นโทรศัพท์แก้ตัวกับที่บ้านพัลวัลแล้ว....อีกอย่างให้เอเลนอยู่กับฮายาโตะแค่สองคนก็อันตรายเกินไปเพราะเขาคิดว่าไอ้พวกที่ต้องการจะเก็บพวกเขามันไม่น่าจะลามือง่ายๆ ยิ่งยังลุกหนีไปไหนไม่ไหวอยู่ในโรงพยาบาลแบบนี้ยิ่งดีพอๆกับเป้านิ่งเลยเสียอีก

ถึงจะน่าเจ็บใจแต่เขาก็รู้ดีว่าเป็นเพราะยามาโมโตะ ทาเคชิอยู่ที่นี่ตลอด...พวกมันถึงไม่กล้าลงมือ

แล้วเขาก็มั่นใจด้วยว่าข้างนอกก็คงจะมีคนของวองโกเล่เฝ้าอยู่ไม่น้อยเช่นกัน...ไม่งั้นวองโกเล่เดซิโม่คงออกมาเดินลอยชายอยู่ที่นี่ไม่ได้

“ ชิ!”   ใบหน้าหาเรื่องสบถออกมาอย่างเจ็บใจที่ต้องพึ่งพาอีกฝ่าย แต่ก็ไม่มีทางอื่นแล้วเลยจำต้องพูดออกไป

“............ชั้นต้องไปฮังการี...แกจะเฝ้าอยู่นี่ก็เรื่องของแก...แต่ห้ามโผล่หัวเข้าไปในห้องเด็ดขาด เข้าใจไหม?!   ถึงในคำพูดจะไม่มีประโยคไหนที่สื่อให้รู้ว่านั่นมันเป็นคำขอร้องแต่เพชฌฆาตของวองโกเล่ที่รอฟังอยู่ก็ถึงกับยิ้มออกมา

จะเกลียดกันแค่ไหนก็ช่างเถอะ ขอแค่เห็นเขาเป็นที่พึ่งได้ก็พอแล้ว...

“ คร้าบๆ”   เสียงทุ้มจึงรับคำไปอย่างนั้น


นะ...ถ้าเชื่อฟังก็ไม่ใช่ยามาโมโตะ ทาเคชิแล้ว ที่ผ่านมาก็แอบย่องเข้าบ้านทั้งๆที่อุตส่าห์ติดไฟฟ้าที่รั้วมาตลอดไม่ใช่หรือไง

เพราะงั้นแค่คนเป็นผู้ปกครองก้าวขาออกไปจากโรงพยาบาล ร่างสูงใหญ่ก็ย่องเข้าไปในห้องทันที



นัยน์ตาสีมรกตเปิดขึ้นมาจากการนิทรา ภาพที่พร่ามัวค่อยๆชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แล้วรอยขยับขยุกขยิกที่อยู่ข้างเตียงก็ทำให้ใบหน้าสวยหันไปมองช้าๆ

เจ้าตุ๊กตาหมีสีดำกำลังโบกมือมาให้ก่อนที่มันจะผลุบหายลงไปใต้เตียง

แล้วมันก็กลับขึ้นมาใหม่....พร้อมด้วยกุหลาบสีขาวในมือ...

ใบหน้าสวยชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกฝั่งอย่างเมินเฉย แต่กระนั้นเลยนัยน์ตาสีมรกตก็ลอบมองเจ้าตุ๊กตาหมีสีดำที่กำลังทำท่าหงอยๆอย่างน่าสงสาร

มือนิ่มๆนั่นวางดอกกุหลาบลงข้างๆหมอนก่อนที่จะทำเป็นเดินคอตก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยขนของมันหันกลับมามองด้วยสายตาละห้อย แล้วค่อยๆขยับราวกับกำลังเดินจากไปก่อนจะหันกลับมามองอีก

ใบหน้าสวยกัดฟันกรอด...ขอบอกว่ามันไม่ได้น่าสงสารเลยสักนิด!

ปลายนิ้วจึงดีดไอ้เจ้าตุ๊กตาน่าหมั่นไส้นั่นจนมันตกเตียงไป

“ โอ๊ย!”   เสียงร้องดังขึ้นมาจากใต้เตียงแทนเสียงของเจ้าหมีนั่น แล้วไม่นานใบหน้าคมก็โผล่ขึ้นมา

“ โกคุเดระอ่า...ใจร้าย...นี่นายกะจะฆ่าชั้นให้ตายเลยใช่ไหม...”   ถึงแม้ว่าร่างสูงจะแอบเข้ามาแทบทุกวันแต่ก็ไม่มีวันไหนเลยที่จะมีเวลาพอที่จะโผล่หน้าออกมาให้เห็น นัยน์ตาสีมรกตจึงพึ่งเห็นว่าบนใบหน้าคมคายนั้นมีรอยช้ำและพลาสเตอร์ปิดอยู่ที่มุมปาก

“ คนที่ใจร้ายน่ะมันแกไม่ใช่หรือไง! ไสหัวออกไปเลย!”   แต่เพราะความปากไม่ตรงกับใจจึงเอ่ยปากไล่แทนที่จะถามว่าหน้าไปโดนอะไรมาอย่างที่ตั้งใจ

ใบหน้าคมนิ่งไปเพราะคำที่ถูกตะโกนใส่ว่าเป็นเพราะตนนั้นไปสะกิดแผลในใจเข้า นัยน์ตาสีเปลือกไม้จึงได้แต่ทอดมองไปที่สองขาซึ่งอยู่ในเฝือกอย่างรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจ   


มันเป็นเพราะเขาจริงๆนั่นแหละ...


โกคุเดระถึงได้แทบเอาชีวิตไม่รอดแบบนี้....ต่อให้รู้แต่ก็ไม่สามารถปล่อยมือไปจากคนคนนี้ได้....

โกคุเดระอาจจะบาดเจ็บเพราะเขาอีกหลายต่อหลายครั้ง....ต่อให้รู้แต่ก็ไม่สามารถจะถอยห่างออกไปมองดูอยู่ไกลๆได้

ความรักของเขามันช่างเห็นแก่ตัวจริงๆ....


ตุ้บ!!


หมอนที่ปาเข้ามาเต็มหน้าทำให้หลุดออกมาจากภวังค์ สองมือรับมันเอาไว้ก่อนจะหันไปมองคนที่นอนหน้าหงิกอยู่บนเตียงคนไข้

“ คนที่ควรจะดราม่ามันน่าจะเป็นชั้น ไม่ใช่แก!”    ใบหน้าสวยแยกเขี้ยวใส่ทำให้เขายิ้มออกไป....นั่นกำลังปลอบใจเข้าอยู่หรือไงนะ?

แต่ก็จริงอย่างที่โกคุเดระว่า....ในเมื่อเขาแก้ไขสิ่งที่ผ่านไปแล้วไม่ได้...ก็มีแต่ต้องเดินหน้าต่อไป


อนาคตของโกคุเดระที่เขาเป็นคนทำลาย...เขาจะแลกมันด้วยอนาคตของเขาเอง












Alfa Romeo 8C Spider วิ่งผ่านฟลอเรนซ์ก่อนจะมุ่งหน้าขึ้นเหนือต่อไป ถึงจะเกิดและเติบโตอยู่ในอิตาลีแต่เมืองที่ไม่ค่อยได้ไปก็ไม่คุ้นเคยเท่าไหร่ ถึงจะยังไม่ค่อยวางใจที่จะปล่อยให้คนที่ไม่คุ้นกับโรมและภาคกลางยิ่งกว่าตัวเองอยู่ตามลำพังทั้งๆที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่ถึงเขาจะอยู่ที่นั่นไปมันก็ไม่มีประโยชน์...กลับมาทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีทดแทนในส่วนที่เด็กนั่นทำไม่ได้จะดีกว่า

ใบหน้านิ่งภายใต้แว่นกันแดดสีดำมองตรงไปยังถนนทางพิเศษ Autostrada A1 Milano-Napoli มอเตอร์เวย์ที่เชื่อมต่อเมืองเหนือสุดของอิตาลีอย่างมิลานลงไปสู่แดนใต้อย่างเนเปิล ฝ่ามือแตะอยู่ที่พวงมาลัยรถด้วยท่าทางสบายๆราวกับเจ้าสิ่งที่วิ่งได้นี้เป็นแขนขาของตัวเอง แล้วเสียงหัวเราะเบาๆของคนที่นั่งอยู่เบาะข้างๆก็ทำให้นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบมอง

“ หัวเราะอะไรเจ้าเด็กเหลือขอ?”  

“ เปล่าครับ แค่คิดว่าดีจังน้า....ที่โกคุเดระมีโอกาสที่จะหายแบบนี้”   แต่ใบหน้าอมยิ้มของเจ้าเด็กหัวสีน้ำตาลนี่มันกลับทำให้เขาคิดว่าแอบไปทำอะไรเอาไว้อีกหรือเปล่า เพราะบางทีนัยน์ตาดื้อดึงที่มีแววซนๆนั่นมันก็ฟ้องออกมาโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว

หึ...อย่าให้จับได้แล้วกัน...

มือใหญ่เอื้อมไปวางเอาไว้บนมือบางของคนที่นั่งอยู่ข้างๆพร้อมกับเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงชัดเจน

“ ขอบใจ”   ใบหน้ามนหันไปมองคนที่ยังคงมองตรงไปข้างหน้าด้วยนัยน์ตาเบิกกว้าง....หมายถึงเรื่องคราวนี้ที่เขาคอยอยู่ใกล้ๆช่วยเหลืออะไรเล็กๆน้อยๆนั่นน่ะหรอ....มืออีกข้างวางลงไปบนมือแข็งแรงพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความดีใจ...ไม่ใช่แค่ได้รับคำชม แต่เขาดีใจที่พอจะช่วยอะไรคุณรีไวได้ก็เท่านั้นเอง



รถสีขาวเลี้ยวออกจากมอเตอร์เวย์เพื่อมุ่งหน้าสู่มาราเนลโล่...กลับไปยังบ้านในเขตอุทยานที่ปิดตายอยู่หลายวัน....ถึงที่ผ่านมาเวลาไปแข่งก็ต้องทิ้งมันไว้แบบนั้นเป็นอาทิตย์ๆแต่มันกลับไม่ได้รู้สึกอ้างว้างเหมือนคราวนี้...เพราะรู้ดีว่าที่บ้านฝั่งขวาจะไม่มีคนอยู่ไปอีกเป็นเดือนหรือไม่ก็อาจจะเป็นปี....

อัลฟ่าโรเมโอวิ่งเข้าไปจอดข้างๆเฟอร์รารี่แคลิฟอร์เนียที่จอดอยู่ตามลำพังเพราะเขายังไม่ได้ไปเอารถกลับมาจากสำนักงานใหญ่ของเฟอร์รารี่...ก็ตั้งแต่กลับมาจากแคนาดาเขาก็อยู่ที่โรงพยาบาลมาตลอด

แล้ววันนี้ก็ต้องบินไปฮังการี สนามที่จะแข่งต่อไป...

ร่างแข็งแกร่งก้าวขาลงมาจากรถ......BMW ของไอ้หมีวายร้ายนั่นก็ไม่อยู่แหะ คงจะเป็นเพราะมันมาเนียนจอดอยู่ในบ้านมานานจนคุ้นตา พอหายไปอะไรๆมันเลยดูโล่งกว่าปกติ

เขาเพิ่งจะรู้ตัว...ว่ารถมันเยอะขึ้นขนาดนี้ ทั้งๆที่ตอนแรกก็มีกันอยู่แค่สองคัน....

“ หึ...”   สงสัยต้องให้เจ้าเอลวินต่อโรงรถเพิ่มให้


“ เดี๋ยวชั้นจะไปอาบน้ำ ส่วนนายจัดกระเป๋าให้ชั้นซะ”   มือแข็งแรงโยนกุญแจรถและกระเป๋าเงินที่พกติดตัวอยู่แค่นั้นลงบนเตียงก่อนจะนึกขำกับใบหน้าเหวอๆของเจ้าลูกหมาที่ลากขึ้นมาด้วย

“ เอ๋?!....จัด...กระเป๋า....?”

“ ก็ใช่น่ะสิ จะได้ไม่เสียเวลา ชั้นต้องรีบไป”   ใบหน้ามนของเจ้าเด็กตรงหน้าอ้าปากพะงาบๆก่อนจะขึ้นสีชวนมอง...ทีตัวเองทำอะไรน่าอายอยู่บ่อยๆแท้ๆแต่กลับมาเขินกับแค่เรื่องให้จัดกระเป๋าให้...เขาเผลอยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไป

ร่างโปร่งบางจึงได้แต่ยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า...เวลาตัวเองไปแข่งรถทามิย่าต่างบ้านต่างเมืองก็เคยจัดกระเป๋าเองอยู่หรอก แต่จะให้มาจัดให้คุณรีไวแบบนี้....มันเหมือนกับภรรยาเลยไม่ใช่หรือไง?

ใบหน้ามนสะบัดไปมาก่อนจะพยายามเก็บความดีใจจนแทบกระโดดโล้ดเต้นไว้ข้างในแล้วเปิดตู้เสื้อผ้าที่มีแต่เสื้อของเฟอร์รารี่เรียงเป็นตับ....จะว่าไปหยิบตัวไหนก็เหมือนกันสินะ...

“ โฮ่ย”   ใบหน้านิ่งที่ยื่นออกมาจากหลังประตูห้องน้ำทำให้เขาหันไปมอง

“ ครับ?”   ต้องเอาอะไรไปเป็นพิเศษงั้นหรอ? ใบหน้ามนจึงตั้งใจฟังที่อีกฝ่ายจะบอกออกมา

“ ชั้นในอยู่ในลิ้นชักข้างล่างนะ”


อะ....


เหมือนจะได้ยินเสียงใบหน้าระเบิดเพราะมันทนความร้อนผ่าวที่พุ่งขึ้นไปไม่ไหว แล้วก็ได้ยินเสียงคุณรีไวหัวเราะอยู่ในห้องน้ำด้วย!

แกล้งกันใช่ไหมเนี่ย?!

แต่มันก็เป็นของที่ต้องเอาไปจริงๆนั่นแหละ!

ร่างโปร่งพยายามจัดของช้าๆเพื่อรอให้อีกฝ่ายออกมาหยิบของส่วนตัวนั่นเอง...แต่ทว่าคนที่ปกติจะอาบน้ำเร็วมากกลับไม่ยอมออกมาจากห้องน้ำเสียทีในวันนี้! 

ใบหน้ามนหันไปมองประตูห้องน้ำที่ยังปิดสนิทก่อนจะหันกลับมามองกระเป๋าที่มีเสื้อผ้าพับอยู่เรียบร้อย  ของใช้ทุกๆอย่างเขาก็เอาใส่ไว้ให้หมดแล้วจะเหลือก็แค่.......

นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองลิ้นชักล่างด้วยท่าทางอายๆ....แต่ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากจะนั่งลงไปแล้วค่อยๆดึงมันออกมา...อ้า!!! คุณรีไวบ้าที่สุด!

ใบหน้าแดงแปร๊ดค่อยแอบมองของที่อยู่ข้างใน...ทั้งๆที่ก็เป็นชั้นในชายสีดำมีขอบธรรมดาๆที่ผู้ชายคนไหนก็ใส่กันแต่ทำไมพอคิดว่ามันเป็นของคุณรีไวแล้วเขาก็อดที่จะรู้สึกอายไม่ได้...ร่างโปร่งจึงหลับหูหลับตาหยิบมันออกมา....ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นซักหน่อย!

“ แค่ชั้นในยังหน้าแดงเลยหรือไงไอ้เจ้าเด็กลามก”   แล้วเสียงกระซิบเจ้าเล่ห์ที่ดังอยู่ด้านหลังก็ทำเอาของที่ถืออยู่ในมือร่วงลงพื้นทันที

“ ถ้าออกมาแล้วก็มาหยิบเองสิครับ!”   ใบหน้ามนตะโกนออกไปด้วยความอาย แต่ก่อนจะได้ต่อว่าอะไรข้อมือบางก็ถูกคนที่ออกมาจากห้องน้ำทั้งๆผ้าขนหนูผืนเดียวดึงให้ลุกขึ้นไป

รู้ตัวอีกที...แผ่นหลังก็แนบอยู่กับพื้นเตียงนิ่มๆไปแล้ว...

“ ไหนว่ารีบไงครับ...”   ใบหน้ามนเบี่ยงหลบใบหน้านิ่งที่ซุกไซร้ลงมาที่ซอกคอ ผิวเนื้ออ่อนนุ่มรับรู้ได้ถึงแรงขบเม้มก่อนจะกัดเบาๆทิ้งร่องรอยเอาไว้

“ ก็รีบแหละ...แต่พอคิดว่าจะไม่ได้เจอนายอีกตั้งอาทิตย์นึงมันก็....”   ที่ต้นขารับรู้ถึงความเป็นชายที่ขยายใหญ่อยู่ใต้ผ้าขนหนูของคนที่คร่อมอยู่ด้านบน ใบหน้ามนที่แดงอยู่แล้วเลยยิ่งแดงหนักกว่าเก่า...

พอหายเครียดหายกังวลก็กลับมาหื่นเหมือนเดิมเลยนะ! เขาลืมไปได้ยังไงว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่กดเขาในตู้โทรศัพท์!

“ เอเลน....”   นั่นไง  ถ้าลองเรียกชื่อเขาแบบนี้ละก็....

ฝ่ามือแข็งแรงสอดเข้ามาใต้เสื้อตัวบาง กางเกงถูกดึงลงไปด้วยความช่ำชองจนน่าหมั่นไส้...ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงได้คล่องนักนะ!

“ อื้อ...”   หน้าท้องแบนเรียบแอ่นรับสัมผัสที่กลางลำตัว เป็นเพราะมีเวลาไม่มากคุณรีไวจึงจู่โจมตรงจุดทันที จะว่าห่างหายไปนานก็ไม่น่าจะใช่แต่คงจะเป็นร่างกายของเขาเองมากกว่าที่เชื่อฟังคำสั่งของมือแข็งแรงข้างนั้น มันถึงได้ถูกล่อลวงให้ไปถึงจุดสูงสุดได้ไม่ยากนัก

“ จะ.....อ๊ะ!”   น้ำสีขาวขุ่นพุ่งทะลักเต็มมือ คุณรีไวก็แค่อยากได้สารหล่อลื่นเพราะไม่นานสิ่งที่เขาปล่อยออกไปมันก็กลับเข้ามาอยู่ในร่างกายของเขาอีกครั้ง

สองขาถูกจับแยกออกจากกันก่อนที่มันจะถูกพาดไว้บนบ่า ท่วงท่าที่ง่ายต่อการสอดใส่ทำให้โคนขาแนบชิดกับหน้าท้องของอีกฝ่ายภายในรวดเดียว

“ อือ”   ริมฝีปากสีระเรื่อเม้มแน่นเมื่อความเสียวซ่านพุ่งพล่านอยู่ภายใน คุณรีไวขยับทันทีโดยไม่ได้เริ่มจากจังหวะช้าๆก่อนเหมือนทุกที...เซ็กส์ครั้งนี้เลยจบลงในเวลาไม่นาน

“ แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก....”   ร่างโปร่งบางนอนหอบอยู่บนเตียง นัยน์ตาสีมรกตทอดมองร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามซึ่งกำลังสวมกางเกงอยู่ข้างๆ ถึงแม้ว่าลมหายใจจะยังไม่เข้าที่แต่คุณรีไวก็สวมเสื้อเชิ้ตสีแดงเลือดนกของเฟอร์รารี่โดยที่ไม่ได้สนใจมัน นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบมองนาฬิกาเป็นระยะๆก่อนจะพลิกตัวเขาขึ้นแล้วสวมเสื้อผ้าให้...อาการรีบร้อนแบบนั้นมันทำให้เขาเริ่มจะสงสัยขึ้นมาตะหงิดๆ

“ คุณรีไว...ขึ้นเครื่องกี่โมงครับ?”   ร่างกายที่ยังสั่นระริกจากการออกกำลังลุกขึ้นมานั่งให้มือแข็งแรงติดกระดุมเสื้อให้ แล้วคำตอบของอีกฝ่ายก็มีแต่จะทำให้เขาอ้าปากค้าง

“ บ่ายสอง”   

“ ห๊ะ?! บ่ายสอง?!”   มันก็สมควรแล้วละที่เขาจะอ้าปากค้างในเมื่อตอนนี้นาฬิกาที่ข้างเตียงมันบอกว่าเที่ยงกว่าไปแล้ว

“ ไปกันได้แล้วเจ้าเด็กเหลือขอ”   มือแข็งแรงข้างหนึ่งคว้ากระเป๋าเดินทาง ส่วนอีกข้างก็คว้าข้อมือของเขา...มันควรจะไปได้ตั้งนานแล้วละครับ! คิดว่าต้องใช้เวลาขับรถไปถึงสนามบินกี่นาทีกันแล้วกว่าจะเช็คอินกว่าจะตรวจหนังสือเดินทางอีก! คนทั่วไปเค้าถึงสนามบินกันก่อนออกเดินทางมากกว่าสองชั่วโมงทั้งนั้นแหละ!


ยิ่งมาราเนลโลไม่มีสนามบินของตัวเองแต่ต้องไปขึ้นที่โบโลญญ่า เพราะงั้นจึงต้องเผื่อเวลาไว้มากหน่อย แต่คุณรีไวก็เหยียบไปเกือบ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง Alfa Romeo 8C Spider ที่ปกติจะขับแค่ 80 จึงเพิ่งได้รู้จักสมรรถนะของตัวเองเป็นครั้งแรก

ร่างโปร่งบางนั่งหน้าซีดอยู่ที่เบาะข้างคนขับในขณะที่รถสีขาวเลี้ยวเข้าไปในสนามบิน Bologna Guglielmo Marconi สนามบินระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในเมืองโบโลญญ่า อันที่จริงถ้าเป็นปกติคุณรีไวจะเอารถไปจอดทิ้งไว้ที่สำนักงานใหญ่ของเฟอร์รารี่แล้วขึ้นรถโค้ทมาพร้อมกับลูกทีมคนอื่น แต่เนื่องจากคราวนี้คุณรีไวขอตามไปทีหลังเพราะยังห่วงโกคุเดระอยู่จึงต้องเดินทางตามลำพัง

“ โฮ่ย...ขับรถกลับไหวหรือเปล่า?”  มาถามเอาป่านนี้เนี่ยนะครับ! เขาส่ายหน้าว่าไม่เป็นไรอย่างละเหี่ยใจ ถึงจะยังรู้สึกเพลียๆอยู่บ้างแต่ก็คิดว่าขับรถกลับเองได้

“ ถ้าขับไม่ไหวก็จอดรถไว้นี่แล้วนั่งแท็กซี่กลับนะ อย่าฝืนล่ะ”   มือแข็งแรงยกขึ้นมาขยี้หัวเขาก่อนจะดึงไปจูบเบาๆทำเอาเขินจนอยากจะม้วนเป็นก้อน...คุณรีไวคงจะยังกลัว...จากอุบัติเหตุของโกคุเดระเลยย้ำเขามากเป็นพิเศษ

“ ครับ...คุณเองก็เดินทางดีๆแล้วก็ตอนแข่งก็ระวังด้วยนะครับ ผมเป็นห่วง”   ใบหน้านิ่งพยักรับก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางเข้าสนามบินขาออกไป เขาได้แต่นั่งมองแผ่นหลังในชุดลำลองของเฟอร์รารี่จนมันลับสายตา ในใจได้แต่ภาวนาให้คุณรีไวปลอดภัยและกลับมาหาเขาหลังจากที่แข่งจบ

ถึงแม้ว่าตอนนี้เรื่องที่ว่าไปให้ทันเครื่องบินขึ้นก่อนมันจะน่าเอาใจช่วยมากกว่าก็เถอะนะ...

ถ้าตกเครื่องเพราะมัวแต่ทำเรื่องอย่างว่านี่คงจะฮาไม่ออกเลยทีเดียว!









อัลฟ่าโรเมโอกลับมาถึงบ้านของตัวเองในที่สุด....วันนี้เป็นวันที่พ่อจะกลับจึงไม่แปลกใจที่จะเห็นลีมูซีนสีดำจอดอยู่ที่หน้าบ้าน

“ กลับมาแล้วครับ”  แล้วทันทีที่ก้าวขาเข้าไปในบ้าน ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นของพ่อก็เงยขึ้นมาจากปึกเอกสารในมือทันที

“ เอเลน? มานี่ซิ เห็นแม่บอกว่าไปนอนค้างที่ไหนมาเป็นอาทิตย์? พอพ่อไม่อยู่ก็หนีเที่ยวแล้วหรอ?”  พ่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงสบายๆอย่างไม่ได้ตั้งใจจะคาดคั้นเอาให้ตายกันไปข้างหนึ่งเหมือนแม่ เพราะงั้นเขาจึงเดินเข้าไปอ้อนด้วยใบหน้ายิ้มๆ

“ ก็ซ้อมแข่งปกตินั่นแหละ คราวนี้ไปที่โรม แม่ฟังไม่รู้เรื่องเอง”   ร่างโปร่งโกหกไปเสียครึ่งนึงแต่พ่อก็ดูเหมือนจะไม่ได้ติดใจสงสัย โชคดีที่ปกติแล้วรถแข่งทามิย่าก็เวียนสนามแข่งไปทั่วประเทศอยู่แล้ว เขาจึงไปค้างตอนแข่งอยู่บ่อยๆ แต่ก็มีคราวนี้แหละที่ไปนานหน่อยจนแม่สงสัย...

“ เดี๋ยวเถอะเด็กคนนี้! สนามแข่งอะไรมีประกาศเรียกให้ไปรับยาด้วยล่ะ?”   แม่หันมาทำตาเขียวก่อนจะฟ้องออกมาจนใบหน้ามนเริ่มมีเหงื่อแตก

“ กะ ก็...เพื่อนที่ไปด้วยกันปวดท้องกะทันหัน เลยพาไปโรงพยาบาล แล้วแม่ก็โทรมาตอนนั้นพอดี...หว๋า ไม่คุยด้วยละ แม่ชอบหาเรื่อง!....ผมไปอาบน้ำก่อนนะครับพ่อ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว”   เขารีบตัดบทก่อนที่แม่จะฟ้องอะไรอีก ร่างโปร่งสะบัดตัวปลิวเตรียมจะเดินออกไปจากห้อง ทว่าฝ่ามือใหญ่ๆของพ่อก็คว้าข้อมือบางเอาไว้เสียก่อน

“ มีอะไรหรือเปล่าครับพ่อ?”   ใบหน้ามนหันไปถามด้วยความสงสัย ก่อนที่ทั่วร่างจะชาวาบไปกับคำถามของพ่อ

“ เอเลน...รอยที่คอนั่นอะไร?....”














.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be Con.





เอาละสิ...ขุ่นพ่อขราจะจับได้ไหมเนี่ยว่าลูกชายเสียความบริสุทธิ์ให้เจ้าผู้ชายคนนั้นไปแล้ว >///<


พูดถึงภูมิประเทศของอิตาลีกันนิดนึงค่ะ เพราะปกติเราจะอยู่กันแต่ทางเหนือ แต่สองสามตอนมานี้ก็เริ่มจะลงมาที่ภาคกลางกันบ้างแล้ว ก็อย่างที่เห็นว่าคุณกวางตั้งใจให้วองโกเล่อยู่ทางภาคกลางซึ่งศูนย์กลางเลยเลือกที่โรมเมืองหลวงของอิตาลีไปเลย ดูเจ้าพ่อดี(ไม่เห็นจะเกี่ยว = =a)

โรมเป็นทั้งเมืองหลวงของอิตาลีและเมืองสำคัญของแคว้นลาซิโอซึ่งอยู่ตอนกลางของอิตาลีอ่ะนะ ที่นี่ก็แทบจะเรียกได้ว่ายานแม่(?)ในแง่ศิลปะและสถาปัตยกรรมเลยทีเดียว จะว่าไปอาคารและศิลปะชิ้นสำคัญๆตั้งแต่ยุคโรมันก็อยู่ที่นี่ไม่น้อยเลยค่ะ ทั้งมหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ รูปปั้นของ ไมเคิล แองเจอโล่ โคลอสเซี่ยม บันไดสเปน น้ำพุเทรวี่ แล้วยังสถาปัตยกรรมสมัยโรมันอีก

ถัดจากโรมขึ้นไปทางเหนือก็จะเป็นฟลอเรนซ์หรือฟิเรนซี่ อีกเมืองที่สวยงามและเต็มไปด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมเช่นกัน นึกอะไรไม่ออกก็นั่นไง หอเอนเมืองปิซ่า แต่ว่าคุณกวางสนใจรูปปั้นเดวิดมากกว่า(โดนตบ!) =w= เป็นเมืองสำคัญของแคว้นทัสคานีเค้าแหละ

ส่วนโบโลญญ่าก็จะอยู่เหนือฟลอเรนซ์ขึ้นมาอีกค่ะ ซึ่งมาราเนลโล่จะเป็นเมืองทางเหนือของโบโลญญ่าอีกที 

แล้วที่เหนือสุดๆก็มิลานนั่นเอง โดยทางตะวันออกเฉียงใต้(เริ่มมั่วทิศ) ของมิลานก็จะเป็นแคว้นเวเนโตซึ่งเป็นที่ตั้งของเวโรน่าและเวนิชนั่นเอง

ก็นะ...ถ้าเรียงไม่ถูกก็เปิดอากู๋ดูแบ้วกันเด้อ555 จะว่าไปแล้วทางใต้ของอิตาลีอย่างเนเปิลหรือเกาะซิซิลีก็น่าเขียนถึงมากเลยอ่ะ TvT เลือกไม่ถูกเรยทีเดียว เป็นประเทศที่สวยไปหมดฟฟฟฟฟ ก็นะ ขนาดเมืองเล็กๆอย่างมาราเนลโล่ที่ไม่มีอะไรมันยังเขียนมาได้เป็นเรื่องๆขนาดนี้ ถ้าไปเมืองอื่นที่รายละเอียดพรึบขนาดนั้นคาดว่าชีวิตนี้อาจจะไม่จบ กร๊ากกกก (ยังไม่สำนึก)


ยะ ยังไงก็ขอขอบคุณทุกๆการติดตามนะคะ แล้วเจอกันตอนหน้านะก๊า ^ ^


แปะเพลงที่ฟังตอนแต่ง GLIDE ช่วงนี้ดีก่า (ไหนว่าจะไปแล้วไง!!)



เพลง Last song ร้องโดย Yamaiซัง คนคนเดียวกันนะคะ เป็นทั้งเสียงผู้หญิงและผู้ชาย แต่ชอบตอนเป็นเสียงผู้ชายมากกว่าอ่ะ >////< เท่ห์ดี ฟังแล้วนึกถึงเสียงเด็กผู้ชายยังไงไม่รู้ แวร๊ยยยย





3 ความคิดเห็น:

  1. อะไรคือฉากเอเลนช่วยเหลือคุณหมีกันค่ะะะะะะะะะะกวางซาม้าาาาาาาา จากที่ขอแอบไปปวดใจรวดร้าวทำใจกับเรื่องขาหนูก๊กหลายชั่วโมง(?) เปิดมาอ่านพาร์ทนี้ต่อทำไมไอ้ความรู้สึกมุ้งมิ้งมันอบอวลแบบเน้ก๊านนนนนนนนนนนนน > ____ < ฮือออออ ถึงจะฟินกับฉากเอเลนได้พูดคุยกับยามะเป็นเรื่องเป็นราว(?)ครั้งแรก แต่ลูกอย่าโดนหมีมันตีเนียนให้ช่วยเหลือด้วยการจงใจ(?)ใช้สรรพนามอ้างอิงท่านท่อนขาให้ลูกถูกใจ(?)แค่นั้นจิลูกกกกกกกกกก โอ่ยยยยยยยยยยยย จุดนี้คนบ้าไม่ทนนนนนนนน เจ้าลูกหมาน่ารักเกินไปปปปปปป ฮือออออออออ ขอฟัดเอเลนแปบบบ #นอนตายเพราะโดนท่อนขาฟัดเข้าหน้า(?)แทนฟฟฟฟฟ แต่เค้าชอบมากมายเลยค่ะฟีลของยามะที่จะมอบรอยยิ้มให้แค่หนูก๊กแบบนี้เนี่ยยย อ๊ากกกกก ยามะดาร์คๆๆแบบนี้คลั่งงงงงงงง เวลามองคนอื่นหัวใจนายมันไม่เบิกบานชวนให้ยิ้มเริงร่าระริกระรี้สินะหมีเนียนนนน โฮรวววววววววววว

    แล้วคือเจ้าลูกหมาเล่นละครเป็น(?)อ้ะะะะะะะ คือเค้าโฮกมากกกกกกกเลยค่ะกวางซามะ ฮืออออออ ถึงเค้าจะรู้ว่าทั้งหมดนี่ก็เพราะท่านท่อนขาเป็นคนสอนให้แอคติ้งเก่ง(?)ขนาดนี้แบบไม่รู้ตัวแท้ๆเลยก็ตามทีนะคะ ก็นะ เจ้าลูกหมาดันเลือกมาคบกับคนแก่แถมความอดทนต่ำ สกิลการแอคติ้งแถหลีกบุพการีจับผิดได้เพราะโดนลากเข้าโซน(?)จนไม่ได้กลับบ้านของเอเลนจะไม่เกือบเข้าขั้นหม่อมน้อย(?)ได้ยังไงไหววววฟฟฟฟฟฟฟฟ #ข้าพเจ้าเม้นท์บ้าอะไรกัน555555 ท่านท่อนขามีเมียเด็กที่ตัวเองเป็นคนทำให้มีสกิลแถเก่ง(?)แบบนี้เองต้องทำใจนะคะ 55555555555 #มันยังวอนโดนกระทืบแม้ว่าร่างมันจะจมหายลงดินไปแล้ว

    แล้วเค้าฟินกับจุดเล็กๆอย่างฉากคุณท่านอุ้มแฟนที่แกล้งปวดท้องเพื่อเปิดทางให้หมีเข้าไปง้อแมว(?) ฮืออออออ ฟีลนี้มันอะไรก๊านนนนนนนนน ทำไมมันถึงได้น่ารักขนาดนี้ ฮืออออ ไอ้ท่าทางตื่นๆๆของคุณรีไวมันทำเค้าอยากจะลงไปม้วนข้าง(?) #เมื่อไหร่มันจะเลิกหากินกับวิชาพละที่มันต้องซ่อม(?)ถถถถถ และถ้าคุณรีไวจับได้ตอนหลังมีหวังเอเลนไม่ได้ลุกไปทั้งอาทิตย์(?)แน่ๆอย่างที่หมีเนียนกลัว(?)เอาไว้ในหัวแน่นอนเลยฟฟฟฟฟ

    พาร์ทนี้เค้าไม่ทนกับตุ๊กตามือหมีดำเนียนนนนนนนนนมากกกกจริงจังง่ะกวางซาม้า คิดพลอตแบบนี้ได้ยังไงก๊านนนนน โฮกกกกลงไปชาบูแล้วชาบูเล่า > < ฮือออออ หมีเนียนมันรู้งาน(?)ว่าถ้าเอาหน้าสด(?)ไปง้อจะไม่ได้แม้แต่เสียงตอบรับมันเลยต้องเอาตุ๊กตาหมีไปเนียนแตะมือหนูก๊กผ่านตุ๊กตาหมี(?)ก่อน โฮรวววววววววววววว ฉากนี้ไม่ทนนนนนนนนนน จริงอยู่ที่ขาของหนูก๊กเป็นเรื่องสะเทือนใจ แต่ทำไมเค้าถึงได้ฟีลว่าลึกๆแล้วหนูก๊กก็ยังจะเชื่อในตัวยามะกันล่ะเนี่ยย ถึงจะเจ็บปวดที่สุดท้ายแล้วตัวเองเป็นแบบนี้เพราะอีกฝ่ายไม่ได้เลือกตัวเองแต่เลือกวองโกเล่ T ^ T แต่ทำไมยังจะได้ฟีลที่หนูก๊กเชื่อขนาดที่ว่าถึงตัวเองจะต้องขยับไม่ได้ทั้งร่าง ยามะก็ยังอยู่ข้างๆ ฮืออออออ เชื่อทั้งๆที่อีกฝ่ายเป็นเพชฌฆาตเนี่ยยย ยามะนายใส่ยาเสน่ห์(?)ใช่มั้ยยยยย ขนาดหนูก๊กขาเดินไม่ได้แล้วแท้ๆเค้ายังห่วงหน้านายที่แปะพลาสเตอร์เนี่ยยย ถึงเค้าจะไม่ได้ถามออกไปแต่นายก็ควรจะสำนึก(?)ให้มันเยอะๆๆเลย สำนึกทั้งชีวิตที่เหลืออยู่ของนายนั่นแหละ ฮืออออออ คู่นี้มันโฮกฮากกมากจนไม่รู้จะบรรยายยังไงแบ้ววว ว่าแต่ที่ขยับไม่ได้ทั้งร่างนี่เพราะถูกกด(?)สินะลูก #ฮัลโหลลลลลลลลล(?)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. และเค้ายังยืนยันว่าเค้าชอบความสัมพันธ์(?)ของหนูก๊กกับเอเลนมากๆๆ > __ < สองคนนี้อยู่ด้วยกันแค่ประโยคเดียว(?)เค้าก็ฟินนนนนโฮกเลยค่ะ ฮือออ คนนึงส่งกระแสจิตไปถามอีกคนก็ดันเข้าใจตอบได้ด้วยซะงั้นนนนน อ๊ากกกกก อยากจะฟัดคู่เลยยยจริงๆๆ

      อยากจะยืนยันอีกเรื่องด้วยว่าเค้ารักเอลวินผู้ครองตำแหน่งป๋าเบ็ดเตล็ด(?)ที่สุดแห่งปีมากๆๆๆ #ใครปาวิกมาค๊าาา!!!!555555555 จากที่คิดหน่วงไปต่างๆนาๆกับทีมเฟอร์รารี่ว่าจะมาทำให้ชีวิตหนูก๊กยิ่งดิ่งลงเหวอีกหรือเปล่า แต่เอลวินมาเป็นพ่อนักบุญ(?)แบบนี้ไม่ทนจริงจัง ฮืออออ เอลวินนายหล่อมาก ฮืออออ เอลวินนายสุดยอดจริงๆๆ ฮือออออ เอลวินนายเหมาะกับการเป็นบอสของทีมนี้ที่สุดแล้ว ฮืออออ เอลวินนายยอมรับมาเถอะว่านายก็เสพย์ติดการซ่อมท่อ(?)ที่แตกและการเก็บซากศพหมี(?) ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ กวางซามะเค้ารักเอลวินจริงๆนะคะ 55555 เอลวินนนนตู้โทรศัพท์ฉันล่ะ(?)ถถถถถถถ

      พาร์ทลูปท้ายๆนี่ถึงจะเน้นไปทางดราม่าคู่8059 แต่เค้าก็ยังฟินกับคู่รีเอมากๆ หลายๆจุดที่เอเลนน่ารักมากๆๆ จะไม่หลงรักยังไงไหว ฮืออออ เจ้าลูกหมาที่คอยอยู่เคียงข้างท่านท่อนขาตลอดเวลา ไม่เรียกร้องอะไรให้สมกับอายุตัวเองเลยแม้แต่น้อย คิดแต่อยากจะทำอะไรที่ตัวเองจะเป็นประโยชน์ให้แก่รีไวบ้าง เค้าเชื่อเลยว่าถ้าหากท่านท่อนขาไม่มีเอเลน คุณท่านไม่มีทางสงบสติอารมณ์ได้ขนาดนี้แน่นอน เอเลนเป็นแหล่งพลังงานของพ่อคุณไปแบบไม่รู้ตัวแท้ๆ อ๊ากกกกก พิมพ์แล้วก็เขินกับความสัมพันธ์คู่นี้ ยิ่งเจอท่านท่อนขาฟีลเจ้าเล่ห์ปนอบอุ่นแบบนี้เข้าไป ตายสนิทเลยค่ะกวางซามะ ฮืออออว่าเวอร์ชั่นความอดทนต่ำไม่ทนแล้วเจอเวอร์ชั่นขยันแหย่เจ้าลูกหมาแบบนี้ ตายยยยยแล้วตายยยอีกกกกก ทั้งฉากพูดขอบคุณเอเลนในรถ ทั้งฉากความรู้สึกที่ตัวเองมีครอบครัวใหญ่ขึ้นจนลำบากเอลวินต้องมาเป็นช่างไม้เติมโรงรถอีกฟฟฟฟ และแน่นอนว่าฉากให้ศรีภรรยาจัดกระเป๋าให้จนไปจบที่การเก็บภรรยาก่อนไป(?)อีกตะหาก แวร๊ยยยยยยยยยยยย ตะกุยจอแล้วตะกุยจออีก จะเข้าไปตั้งกล้อง(?) ถถถถถถถถถถถถถถถ แล้วคือเค้าชอบฉากท่านท่อนขาแหย่เอเลนเรื่องชั้นในมากๆ ฮือออออออออ น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก น่ารักมากกกกจริงๆๆๆ ฮืออออออ ชอบบบบบ

      ตอนนี้จบที่ตัวต้นเหตุ(?)ของความดราม่าทั้งหมดดันถามซะได้เรื่องแบบนั้น โฮรวววววว ท่านท่อนขาจะไปแข่งแค่อาทิตย์เดียวแถมก่อนขึ้นเครื่องก็เวลาน้อยซะขนาดนั้น(?)ยังจะทิ้งรอยแสดงความเป็นเจ้าของเอาไว้อีก > ___ < คิดแล้วก็ไม่ทนนน #ได้ข่าวหล่อนจะพูดถึงเรื่องพ่อเอเลนถถถถถถถ คุณพ่อจับได้แบบนี้แววดราม่าคู่นี้มาถึงแล้วสินะคะ TT ฮืออออ
      ปล. เค้าชอบเพลง last song ที่กวางซามะลงไว้มากๆเลยค่ะ ฮืออออ แค่ทำนองเริ่มมาก็อ๊ากกกกแล้วววว นี่ตัดไปใช้เป็นเสียงเรียกเข้าเลย ฮืออออ เพราะมากกก เพราะทั้งสองเวอร์เลย ฮือออออออ

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ15 ธันวาคม 2557 เวลา 06:22

    วิธีการง้อก๊กของยามะมุ้งมิ้งมากกกกกกกกก
    เอาตุ๊กตามือมาง้อด้วยยยย
    เป็นใครที่ไหนก็ต้องใจอ่อนทั้งนั้นแหละ
    ก็แหมมือสังหารที่ไร้หัวใจมาทำตัวมุ้งมิ้งกับคนคนเดียวเนี่ยแสดงว่าเขาคิดไปไกลถึงอนาคตนู่นแล้วล่ะ
    รีบๆคืนดีกันเร็วๆล่ะ
    เพราะแค่มีผู้ปกครองสุดโหดคอยกันท่าอยู่ก็ลำบากจะแย่อยู่แล้ว//โดนเตะ

    รีไวล์แกล้งน้องอ่ะ
    มาทำเนียนใช้จัดกระเป๋าให้
    ที่แท้ก็.........
    แล้วนั่นขุ่นพ่อน้องสังเกตเห็นอะไรบางอย่างด้วยล่ะ
    โอ๊ย
    ลุ้นอ่ะค่ะ

    ตอบลบ