Attack on Titan feat.KHR Au.Fic [Levi xEren , 8059] GLIDE : 16


Attack on Titan feat.KHR Au.Fic [Levi xEren , 8059]  GLIDE : 16

: Attack on Titan feat KHR Fanfiction Au
: Levi x Eren , 8059
: Romantic Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
   
        
         




เพราะอากาศที่ไหลเวียนอยู่รอบกายจู่ๆก็หายไปทำให้นัยน์ตาที่ปิดมาตลอดทางค่อยๆเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า


เอ๋?...

นี่มัน...โซฟาในบ้านคุณรีไว?


ร่างโปร่งบางยันกายลุกขึ้นนั่งช้าๆด้วยใบหน้าที่ยังมึนงง...ก็เขาไปซื้อผ้าปูเตียง...จากนั้นฝนก็ตก...เลยไปหลบอยู่ในตู้โทรศัพท์กับคุณรีไว...แล้วจากนั้นก็........

“ ตื่นแล้วหรอ?”  เสียงทุ้มที่ดังอยู่ใกล้ๆทำให้ใบหน้ามนที่กำลังชะงักค้างพลางแดงระเรื่อหันควับมามอง นักขับแห่งทีมม้าลำพองวางแก้วชาอุ่นๆลงไปบนโต๊ะเตี้ยก่อนจะนั่งลงไปข้างๆ ขายกขึ้นไขว่ห้างแล้ววางท่อนแขนลงไปบนพนักโซฟาด้วยท่วงท่าสบายๆ

“ ชานั่นจะทำให้อาการอ่อนเพลียหายไป...เจ้าเอลวินมันว่างั้น...ดื่มซะสิ”  นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองใบหน้านิ่งด้วยสายตาหวาดระแวง...นี่ไปบอกคุณเอลวินว่ายังไงถึงได้แนะนำชาลดอาการอ่อนเพลียมาเนี่ย? แล้วทำไมถึงมีแต่เขาที่เพลียส่วนคนตรงหน้ากลับดูสดใสจนน่าหมั่นไส้?...ริมฝีปากสีระเรื่อเม้มเข้าหากันก่อนมือสั่นๆจะยกแก้วชาขึ้นมาจิบ...กลิ่นหอมของมันทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้จริงๆ

“ ขับรถไหวหรือเปล่า? หรือจะให้ชั้นไปส่ง?”  ใบหน้ามนเงยขึ้นมาทำหน้างง อีกฝ่ายจึงได้แต่ถอนหายใจ

“ ก็บ้านนายไง...ไม่ได้กลับมาตั้งแต่เมื่อวาน ป่านนี้แม่นายคงเป็นห่วงแย่แล้ว”  เท่านั้นแหละ นัยน์ตาสีมรกตจึงเบิกกว้างอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้

“ จริงด้วย! วันนี้พ่อกลับบ้าน! ผมไม่อยู่ไม่ได้!”  แล้วมือบางก็รีบกวาดข้าวของของตัวเองเตรียมจะพุ่งออกไป แต่มือแข็งแรงกลับคว้าต้นแขนเอาไว้เสียก่อน

“ พรุ่งนี้ชั้นต้องไปแคนาดาแต่เช้า....”  ถึงใจความสำคัญของประโยคจะถูกตัดไปแต่ร่างโปร่งบางก็ดูเหมือนจะเข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร มือจึงวางกระเป๋าลงก่อนจะอมยิ้มน้อยๆแล้วค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปใกล้...ริมฝีปากแตะลงไปบนกลีบปากนิ่งที่รออยู่...ถึงมันจะเป็นจูบที่แผ่วเบาแต่คำขอให้โชคดีกลับอัดแน่นอยู่ในทุกรอยสัมผัส

“ ชนะ...แล้วก็กลับมาหาผมนะครับ...ผมจะรออยู่ที่นี่”  คงไม่มีคำอวยพรใดจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว....สำหรับคนที่ไม่เคยมี “บ้าน” ให้กลับ...หน้าผากภายใต้กรอบผมสีดำจึงแนบลงไปบนหน้าผากใส...ชักจะไม่อยากปล่อยให้กลับไปซะแล้วสิ....






กว่าร่างโปร่งบางจะละออกมาได้ ท้องฟ้าก็เปลี่ยนจากสีครามเป็นสีส้ม สายลมแผ่วเบาพัดเอากลิ่นดินเข้ามาแตะจมูก เสียงร่าเริงที่ลอยมาพร้อมกันทำให้เขาต้องหันไปดูอย่างไม่ได้ตั้งใจ...ที่สุดปลายเฉลียงมีเงาร่างของคนสองคนยืนอยู่...นั่นมันยามาโมโตะ ทาเคชิ กับโกคุเดระ ฮายาโตะ?

“ อ๊า~~เย็นชื่นใจจัง คนสวยนั่นเค้ามารดน้ำให้พวกเราอีกแล้วละ แล้วละ”   หื๋ม? บทสนทนานี่มันยังไงกันน่ะ?

“ เค้าจะรู้ไหมนะว่านอกจากน้ำแล้ว เค้ายังรดความรักลงมาด้วย พวกเราถึงได้โตไวขนาดนี้ ขนาดนี้”   อุ๊บ....มือบางถึงกับยกขึ้นมาปิดปากพลางกลั้นหัวเราะจนตัวสั่น...ในเมื่อนั่นมันไม่ใช่บทสนทนาของสองคนนั้น แต่มันเป็นเสียงของยามาโมโตะ ทาเคชิที่กำลังพากย์เป็นต้นกระบองเพชรสองต้นที่ถูกโกคุเดระ ฮายาโตะรดน้ำอยู่

“ อยากบอกเค้าจัง ว่าเราก็รักเค้า นายว่าเค้าจะรู้ไหมนะ ไหมนะ”   ใบหน้าแย้มบานยังคงพากย์ต่อไปถึงแม้ว่าใบหน้าสวยจะเริ่มกัดฟันกรอด...โกคุเดระที่ไม่เย็นชาแบบนี้เขาแทบจะไม่เคยเห็น...แล้วเขาก็เพิ่งรู้ด้วยว่าเพชฌฆาตของวองโกเล่จะเป็นแค่ผู้ชายอารมณ์ดีคนหนึ่งแบบนี้

“ นั่นสิคนสวย ฉันรักนายนะ รักนะ รักนะ”

“ .....เป็นต้นกระบองเพชรใช่ไหมแก?! เอาน้ำไปกิน!!  แล้วสายยางที่หมดสิ้นความอดทนก็หันไปปล่อยน้ำใส่ร่างสูงใหญ่ที่นั่งพากย์อยู่บนเฉลียง

“ เดี๋ยวสิโกคุเดระ! เดี๋ยวแผลเปียกนะ~~   เสียงหัวเราะร่าดูไม่ได้เข้ากับคำห้ามนั่นเลยสักนิด เขาได้แต่ยืนมองทั้งคู่อย่างพยายามกลั้นหัวเราะ...น่ารักจัง...

“ ฮึ...ไอ้หมีปัญญาอ่อน”  เสียงหัวเราะในลำคอทำให้เขาหันไปมอง ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครขยับมายืนใกล้ๆพลางมองสองคนนั้นด้วยสายตาที่ไม่ได้ดุดันอะไร

“ อ๊ะ! จะกลับแล้วหรอ? คุณพะ อ่า คุณรีไวไปส่งหรอ? ไปนานๆเลยนะ!   ยามาโมโตะ ทาเคชิทักทายหลังจากที่หลบสายน้ำจนหันมาเห็นพวกเขาเข้า แต่ท้ายประโยคก็ยังมิวายไปกระตุกต่อมอยากกระทืบคนของคนที่อุตส่าห์อารมณ์ดีเข้าจนได้

“ เปล่าครับ ผมขับรถไปเอง คุณรีไวจะได้ไม่ต้องหารถกลับมาที่นี่ให้ยุ่งยาก”  เขารีบตอบออกไปเพื่อตัดไฟสงครามแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไร ในเมื่อร่างสูงใหญ่ที่จงใจกวนประสาทยังครางอย่างเสียดายออกมา

“ ว้า....”


ผลั๊วะ!!


“ ชั้นรู้นะว่าแกคิดอกุศลอะไรอยู่ รีบๆไสหัวกลับป่าไปเลยไอ้หมีเหลือขอ!   คุณรีไวนี่ก็ช่างไม่ปรานีต่อคนเจ็บเลยนะ ท่อนขาแข็งแรงฟาดลงไปจนพื้นไม้สะเทือน เขาปล่อยทั้งคู่ตีกันไปอย่างหน่ายๆที่จะห้าม ใบหน้ามนหันไปหาร่างบอบบางที่ยังยืนถือสายยางรดน้ำต้นไม้ก่อนจะพูดออกไปด้วยรอยยิ้ม

“ ชั้นไปก่อนนะโกคุเดระ ขอให้การแข่งสนามนี้เป็นไปด้วยดีนะ”

“ อื้อ....ขอบใจ.....”   ใบหน้าสวยที่ตอบรับกลับมาถึงจะเย็นชาตามปกติแต่เขาก็รู้สึกดีใจ...สองขาก้าวเดินลงบันไดที่เชื่อมต่อไปยังโรงจอดรถ

“ ขับรถดีๆน้า~~~  เสียงตะโกนเริงร่านั้นเป็นของยามาโมโตะ ทาเคชิ ก่อนที่จะมีเสียงโหดๆตามมาแทบจะทันที

“ นั่นมันต้องเป็นคำพูดของชั้น! แกมาเกี่ยวอะไรด้วย ห๋า?!

ใบหน้ามนส่ายไปมาพลางยิ้มน้อยๆ นัยน์ตาสีมรกตทอดมองเงาร่างทั้งสามท่ามกลางแสงแดดยามเย็น...มันช่างเป็นภาพที่อบอุ่นจนแว่บหนึ่งก็เผลอคิดไปว่าถ้าเขาย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยจะมีความสุขขนาดไหนกันนะ...

ร่างโปร่งบางต้องพยายามห้ามจินตนาการของตัวเองก่อนจะก้าวขาเข้าไปในรถสีขาว แล้วไม่นาน Alfa Romeo 8C Spider ก็แล่นช้าๆออกจากบ้านไป













ฝ่าเท้าก้าวลงบันไดบ้านอย่างแผ่วเบา  รอบกายยังคงมืดสนิทมีเพียงแสงไฟจากเฉลียงที่ส่องลอดหน้าต่างกระจกบานใหญ่เข้ามา  มันสาดกระทบโซฟาสีขาวที่ตั้งอยู่กลางห้องนั่งเล่นทำให้มองเห็นร่างสูงใหญ่นอนเหยียดยาวอยู่บนนั้น

กระเป๋าเดินทางถูกวางลงหน้าประตูก่อนที่ร่างบอบบางจะเดินเข้าไปหาโซฟาช้าๆ

นัยน์ตาสีมรกตทอดมองคนที่ยังหลับนิ่ง ใบหน้าคมคายหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ถึงปกติจะเนียนจนน่าหมั่นไส้แล้วก็เหมือนคนไม่เคยจะทุกข์จะร้อนเรื่องอะไร แต่พอได้เห็นใบหน้ายามหลับที่ดูสงบแบบนี้มันก็ทำให้ยามาโมโตะดูเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง  มือบางเอื้อมไปดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้ถึงคอก่อนที่นัยน์ตาจะมองเลยไปยังกรอบรูปที่วางอยู่บนโต๊ะเตี้ยหน้าโซฟา มันเป็นภาพพวกเราสี่คนที่ถ่ายมาจากบนรถเมื่อวานนี้ ดูจากเศษกระดาษที่ถูกตัดวางทิ้งเอาไว้ สงสัยภาพจะใหญ่เกินไปจนใส่กรอบไม่ได้ ยามาโมโตะถึงได้ตัดขอบรอบๆมันออก แล้วก็คงจะยังไม่ทันได้เอาไปแขวนก็หลับไปซะก่อน

มือบางเอื้อมไปหยิบกรอบรูปขึ้นมาก่อนจะก้าวขาไปยังผนังข้างบันได...กรอบรูปถูกแขวนกลับไปที่เดิม

นัยน์ตาสีมรกตไล่มองกรอบรูปที่เคยว่างเปล่าแต่ตอนนี้กลับค่อยๆมีรูปเพิ่มขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย  รอยยิ้มบางๆปรากฏอยู่บนใบหน้าที่ไม่ได้ยิ้มมานานก่อนที่มันจะสะบัดไปมา...ไม่ได้ขอร้องให้ทำซักหน่อย เพราะงั้นเขาจะไม่ขอบใจไอ้บ้านั่นหรอกนะ ฮึ!

ร่างบอบบางแวะมาทำหน้าบูดใส่คนที่ยังหลับไม่รู้เรื่อง สองมือคว้ากระเป๋าแล้วเดินออกจากบ้านไป...












เมื่อเสียงทุ้มต่ำอันเป็นสัญลักษณ์ของเครื่องยนต์เฟอร์รารี่ค่อยๆไกลออกไป  ร่างสูงใหญ่ที่นอนอยู่บนโซฟาจึงลุกขึ้นนั่งช้าๆ....ฝ่ามือยกขึ้นมารับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมืดมน...แววตาขี้เล่นที่มักจะมีให้ร่างบอบบางเห็นมันไม่มีเหลืออยู่อีก

เพราะเสียงของสึนะที่เพิ่งคุยกันเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมามันยังคงดังก้องอยู่ในหัว....


“ คิสึเนะน่ะ.......................”


มือใหญ่ได้แต่กำหมัดแน่น...นัยน์ตาสีเปลือกไม้เย็นเฉียบจ้องเขม็งเข้าไปในความมืดก่อนจะลุกขึ้นยืนช้าๆ...


“ ยามาโมโตะ...........ห้ามทำอะไรตามอำเภอใจนะ เราจำเป็นต้องถอนรากถอนโคนพวกมัน...นี่คืองาน...นี่คือหน้าที่ของนาย...อย่าลืมซะล่ะ”


เรียวขายาวก้าวออกจากบ้านและไม่นาน BMW 5-Series Sedan ก็ทะยานสู่สนามบิน


เขาไม่ลืมหรอก....ไม่เคยลืมแม้แต่วินาทีเดียว...

ว่าเขามาทำอะไรอยู่ที่นี่....

มาอยู่ใกล้ๆ โกคุเดระ ฮายาโตะแบบนี้เพราะอะไร....เขาไม่เคยลืม















Circuit Gilles-Villeneuve ตั้งอยู่กลางแม่น้ำ St.Laurence เช่นเดียวกับเมือง Montreal ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของแคนาดา...

ถึงจะบอกว่ามอลทรีออลเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่อยู่กลางแม่น้ำแต่เอาเข้าจริงก็แทบจะไม่รู้สึกว่ามันเป็นเกาะเพราะทุกทิศทุกทางล้วนเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพานแทบทั้งสิ้น อีกอย่างความกว้างใหญ่ของแม่น้ำเซ็นต์ลอเรนซ์ก็ทำให้ที่นี่ดูเหมือนตั้งอยู่ริมทะเลมากกว่าจะเป็นแม่น้ำเสียอีก

หนึ่งในเกาะเทียมของมอนทรีออลถูกนำมาปรับเปลี่ยนเป็นสนามแบบกึ่งสตรีทและด้วยความที่มันเป็นเกาะซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพราะฉะนั้นสนามฌิลส์ วิลเนิฟจึงนับเป็นอีกหนึ่งสนามที่มีความสวยงามมากทีเดียว

นอกจากผืนน้ำสีเขียวที่ล้อมรอบอยู่แล้วภายในสนามเองยังมีสระสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวขนานไปกับตัวเกาะทำให้พื้นที่ในเซอร์กิตนี้มีจำนวนจำกัด ทั้งแพดด็อก ทั้งพิตการาจ ทั้งมอเตอร์โฮม ถึงจะไม่ได้ตั้งใจแต่ก็ได้อยู่ริมน้ำไปโดยปริยาย

เช่นเดียวกับถนนที่ใช้แข่งก็เลาะอยู่ชายขอบของเกาะโดยมีอัฒจรรย์สำหรับผู้ชมอยู่ตรงกลางและตอนนี้ถึงจะเป็นการควอลิฟายซึ่งยังไม่ใช่วันแข่งจริงแต่คนดูก็นั่งกันอยู่เต็ม

กล้องส่องทางไกลในมือใหญ่หันตามรถฟอร์มูล่าวันคันสีแดงไปเรื่อยๆ....ดูเผินๆแล้วร่างสูงที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตสีดำก็ไม่ได้ต่างไปจากผู้ชมทั่วไปเลยสักนิด

ยามที่ไม่มีสูทอยู่บนร่างกาย...เครื่องหมายบ่งบอกว่าเป็นมาเฟียก็แทบจะหายไปด้วย

กล้องส่องทางไกลลดระดับลงเมื่อ Ferrari F138 HAYATO เข้าไปจอดในพิตการาจ...เป็นอันว่าการควอลิฟายในวันนี้กำลังจะจบลง ซึ่งผลการแข่งจะเป็นยังไงเขาก็ไม่ได้สนใจเพราะสิ่งที่อยู่ในสายตามีเพียงใบหน้าภายใต้กรอบผมสีเงินนั่นเท่านั้น


ได้เวลาไปเอาของแล้วสินะ....


แล้วร่างสูงใหญ่ก็ลุกขึ้นเดินปะปนไปกับผู้คนซึ่งต่างทยอยกันออกจากสนาม....




เพราะการแข่งเอฟวันนั้นกินเวลาหลายวันจึงทำให้ในปีหนึ่งๆ นักขับ วิศวกรและลูกทีมทุกคนต้องใช้ชีวิตร่วมกันอยู่ในสนามแข่งเสียเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมันไม่ใช่กีฬาที่มาแข่งๆกันแล้วก็จบในวันนั้น แต่วงจรของเอฟวันจะเริ่มตั้งแต่การย้ายข้าวของที่มีมากมายจากสนามหนึ่งไปยังอีกสนามหนึ่งซึ่งอยู่กันคนละประเทศ จากนั้นก็ต้องตามมาเซตอุปกรณ์รวมทั้งส่วนที่อยู่อาศัยอย่างมอเตอร์โฮมให้ใช้งานได้ เสร็จแล้วจึงเริ่มปรับแต่งรถให้เข้ากับสนามซึ่งมีโค้งและทางตรงไม่เหมือนกัน ทาง FIA กำหนดให้มีการซ้อมในวันศุกร์ วันเสาร์เป็นการควอลิฟายและแข่งจริงในวันอาทิตย์ ถึงจะดูเหมือนกับว่ามีเวลามากมาย แต่กับเกมการแข่งขันที่ความเร็ววัดกันเป็นวินาทีแบบนี้ การปรับแต่งที่ดีที่สุดจึงทำกันตั้งแต่เช้ายันค่ำ เพราะงั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทีมแข่งรถสูตรหนึ่งจึงจำเป็นต้องมีมอเตอร์โฮมซึ่งเป็นเสมือนบ้านอยู่ด้านหลังพิตการาจ...ถ้าจะออกไปนอนข้างนอกสู้เอาเวลามาปรับแต่งรถดีกว่า...ถ้าไม่บ้ารถขนาดนี้เห็นทีจะอยู่ในทีมเอฟวันไม่ได้...

เพราะงั้นต่อให้ในหนึ่งปีจะบินไปทั่วโลก แต่ก็ใช่ว่าทีมแข่งรถจะได้ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกเสียเมื่อไหร่ วันๆก็อยู่แต่ในสนามแข่ง...ปรับแต่งรถ...ง่วงก็เดินไปนอนหลังพิตการาจ...ตื่นขึ้นมาก็กลับเข้าสนามต่อ

สำหรับคนทั่วไปอาจจะดูไม่น่าจรรโลงใจ แต่สำหรับพวกที่ลมหายใจเข้าออกเป็นรถแล้วเรื่องแค่นี้ถือว่าสบายมาก อีกอย่างในมอเตอร์โฮมเองก็มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ถึงแม้มันจะเล็กกะทัดรัดพอดีตัวแต่ทุกอย่างก็ล้วนถูกคัดสรรมาอย่างดี

นอกจากนี้เหล่าบุรุษผู้หลงใหลในนวัตกรรมใหม่ๆและมีหัวใจที่ยังเป็นเด็กก็มักจะสรรหาของเล่นมาเล่นกันเพื่อคลายเครียดอยู่ตลอด โดยเฉพาะพวกนักขับที่มักจะว่างงานกว่าคนอื่นๆในทีมยามที่รถถูกปรับแต่ง และด้วยความที่สนามแต่ละสนามก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง มันจึงได้เกิดกีฬาที่ไม่ได้เกี่ยวกับเอฟวันของแต่ละสนามขึ้นมา...

อย่างเช่นที่สนามฌิลส์ วิลเนิฟซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่มีน้ำล้อมรอบและมีสระสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดมหึมา...แค่เดินๆอยู่หลังพิตการาจก็ยังแทบจะโดดลงน้ำได้...มันเลยมีคนลองเอาเศษวัสดุเหลือใช้ไปทำเป็นเรือพายเล่น...จากเริ่มแรกก็แค่หาอะไรทำฆ่าเวลา...แต่ทำไปทำมาทีมแข่งอื่นๆก็มาร่วมแจมด้วยจนมันกลายเป็นการละเล่นประจำสนามนี้ไปซะแบบนั้น


ใช่...กำลังพูดถึงสิ่งที่ทำให้หลังพิตการาจดังลั่นอยู่ในตอนนี้นี่แหละ!


คนที่ปรับแต่งรถก็ปรับกันไป ส่วนพวกว่างงานอย่างนักขับก็หันมาเล่นกันโหวกเหวกอยู่ในน้ำกับการแข่งพายเรือธรรมดาๆที่ธรรมดาเสียที่ไหน

ในเมื่อมันมีกติกาว่าชิ้นส่วนที่เอามาใช้ทำเรือจะต้องเป็นเศษวัสดุที่หาได้ในพิตการาจเท่านั้นน่ะสิ!


“ รีไว ถังนั่นมันรั่วไม่ใช่หรอ?”   ร่างบอบบางที่ท่อนล่างยังเป็นชุดหมีสีแดงแต่ปลดท่อนบนออกไปผูกเอวเอาไว้ทำให้เหลือแต่เสื้อยืดสีขาวเดินหอบกล่องโฟมขนาดใหญ่ที่ใช้ใส่อะไหล่ F138 มาด้วยใบหน้าราบเรียบ แต่ประกายสนุกสนานในดวงตาสีมรกตก็ทำให้รู้ว่าสองนักขับของเฟอร์รารี่ก็ลงแข่งในการละเล่นนี้ด้วยความสมัครใจ

“ ว่าไงนะ?! ยัยฮันซี่...ถ้ามันรั่วก็เอาไปทิ้งสิ!”  ใบหน้าคมก้มลงมองรอยปะที่ถังน้ำมันก่อนจะหันไปตะโกนใส่หัวหน้าทีมวิศวกรที่ควรจะอยู่ดูลูกน้องปรับแต่งรถแต่ดันหนีมาเล่นแข่งพายเรือกับเค้าด้วยซะงั้น....ก็นะ...นานๆทีก็ขอผ่อนคลายบ้างอะไรบ้าง

“ ไม่เป็นไรหรอกน่าๆ ถ้าน้ำหนักเบาๆอย่างโกคุเดระละก็สบายๆ”   วิศวกรสาวหาได้สนใจไม่ มือในถุงมือสีแดงตบไหล่หนาของคนที่เตี้ยกว่ารัวๆ

“ โฮ่ยยัยแว่น...แต่คนที่จะใช้ถังนี่มันเป็นชั้นซึ่งหนักกว่าเด็กนั่นหลายกิโลนะ”  ร่างสูงโปร่งหันไปยืนลูบคางพลางมองท่อประปาราวกับว่าไม่คิดจะใส่ใจสิ่งที่นักขับมือหนึ่งของทีมพูดเลยสักนิด

“ แหมรีไวละก็...ถ้าจมนายก็ว่ายน้ำเอาสิไม่เห็นจะยาก ก็อยากเตี้ยแต่หนักเองทำไมล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ”  แล้วคิ้วเหนือนัยน์ตาสีขี้เถ้าก็กระตุกขึ้นมาไม่แพ้ฝ่าเท้าเลยทีเดียว

“ อยากโดนเตะซักทีก่อนจะประกอบเรือให้ดีๆใช่ไหม?”

“ ว้ายยย นายจะเตะผู้หญิงอ่อนแออย่างชั้นรึยังไง? ใจร้ายยยย”  มันน่าเตะให้ตายจริงๆนั่นแหละไอ้ท่าทางกระแดะไม่เข้ากับหน้าแบบนั้น แต่ยังไม่ทันจะได้ง้างขาขึ้นมาเสียงโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกองผ้าขนหนูก็ดังขัดขวางการทำร้ายร่างกายในพิตการาจสีแดงเข้าเสียก่อน

“ ฮัลโหล”   เสียงทุ้มกรอกลงไปโดยไม่ต้องดูเพราะรู้ว่าใครเป็นคนโทรมา...ก็นอกจากเจ้าเด็กเหลือขอนั่นคงไม่มีใครแล้วละ

“ คุณรีไวทำอะไรอยู่ครับ? คุยได้ไหมครับ?”   ไม่รู้ทำไมแค่ได้ยินเสียงสดใสที่ดังมาตามสาย เขาถึงได้เห็นภาพเจ้าเด็กนั่นกำลังนั่งทับส้นกระดิกหางอย่างดีใจอยู่ที่อิตาลีก็ไม่รู้นะ?

“ คุยได้ กำลังจะแข่งพายเรือไร้สาระอยู่น่ะ”  ใบหน้าคมหันไปส่งสายตาเขม็งใส่วิศวกรสาวราวกับจะบอกว่าให้ทำเรือให้เสร็จซะ! ส่วนชั้นจะไปโทรศัพท์! และใบหน้าภายใต้กรอบแว่นก็พยักรับอย่างหนักแน่น

“ เห๋? ฟังดูน่าสนุกจังเลยนะครับ อยากไปดูบ้างจัง”

“ อือ...คราวหลังก็มาสิ”  ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครเดินออกมาจากบริเวณริมน้ำที่ยังคงเต็มไปด้วยเสียงโหวกเหวกโวยวาย

“ ได้หรอครับ?!

“ อือ...ในฐานะแฟนของนักขับละก็ จะเข้าสนามเวลาไหนก็ได้อยู่แล้ว”  เหมือนจะได้ยินเสียงระเบิดอยู่อีกฝั่งของปลายสายแหะ?

“ โฮ่ย?”

“ คะ คุณรีไวละก็...เขินนะครับ......”   แล้วก็ได้ยินเสียงสวบสาบเหมือนเจ้าลูกหมานั่นกำลังกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง?

“ จะเขินอะไรล่ะ? ยัยแว่นนั่นมาป่าวประกาศเรื่องของนายจนเจ้าพวกนี้รู้กันทั่วพิตแล้วละ”   แล้วก็ฮากันไปอีกหลายวันด้วย....เขาเลือกที่จะไม่พูดเรื่องนี้ท่าจะดีกว่าเพราะว่า

“ อ๊า~~~~!!!”   เสียงโหยหวนดังมาจากปลายสายก่อนจะตามมาด้วยเสียงเหมือนโทรศัพท์ถูกซุกลงไปในหมอน? พร้อมกับหน้าของเจ้าเด็กนั่น?

“ .............”   จู่ๆปลายสายก็เงียบไปมีเพียงเสียงลมหายใจที่ดังลอดผ่านสัญญาณโทรศัพท์มา

“ เจ้าเด็กเหลือขอ?” 

“ คิดถึงจังเลยครับ”   แล้วจู่ๆเจ้าเด็กนั่นก็พูดเรื่องน่าอายออกมาทำเอาใบหน้าของเขานิ่งไปก่อนที่รอยยิ้มน้อยๆจะเผยอยู่บนริมฝีปาก...ถ้าอยู่ใกล้ๆละก็...คืนนี้จะไม่ให้นอนเลยคอยดู!

“ คุณรีไวๆเอาโทรศัพท์แนบแก้มอยู่หรือเปล่าครับ?”

“ อือ...”   เขาตอบรับไปด้วยใบหน้างงๆ จะทำอะไรอีกล่ะเจ้าเด็กนั่น?

“ ถ้างั้นก็......จุ๊บ”   เสียงจูบผ่านทางโทรศัพท์มาและมันก็คงตรงเข้าหาแก้มของเขา?


อ้า....เจ้าเด็กบ้านั่น....


“ ฮึ....”   ใบหน้าคมเผลอหัวเราะในลำคอ รู้สึกอายแทนจนแก้มร้อนขึ้นมา

“ เอาไว้คืนนี้ชั้นโทรหา แก้ผ้ารอไว้ล่ะ”  เขาแกล้งหยอกเย้ากลับไป

“ บะ บ้า! ใครจะไปทำแบบนั้น...งั้นแค่นี้นะครับ...เรื่องพายเรือก็สู้ๆนะครับ!”   แล้วเจ้าเด็กนั่นก็วางสายไป ป่านนี้คงหน้าระเบิดเป็นภูเขาไฟได้แล้วมั้งนั่น?

ใบหน้าคมส่ายไปมาอย่างอารมณ์ดี ร่างในชุดหมีสีแดงครึ่งท่อนหันกลับไปยังที่ประกอบเรือของเหล่าม้าลำพองที่ดูท่าว่าจะเสร็จแล้ว?

นัยน์ตาขี้รำคาญกวาดมองเรือพายที่ไม่ได้มีกลไกอะไรนอกจากถังน้ำมันรั่วสองใบที่ถูกมัดติดเอาไว้กับท่อประปาที่มีแผ่นพลาสติกแปะอยู่แทนไม้พาย ดูจากภายนอกก็คงเรียกมันว่าเรือได้ละมั้งเพราะอย่างน้อยมันก็ลอยน้ำได้?...แต่เดี๋ยวก่อนนะ....ปกติไอ้เรือนี่มันก็ไม่ปกติอยู่แล้ว...แล้วใครมันยังทำให้มันดูประหลาดกว่าเดิมด้วยการเอาหัวม้าที่น่าจะเป็นโลโก้ของทีมที่ติดลังอะไรสักอย่างมา ไปติดไว้ด้านหน้าของเรือแบบนั้นเนี่ย?!

และเมื่อนักขับมือหนึ่งหันไปมองเรือของเจ้านักขับมือสองที่ทำจากแผ่นโฟมซ้อนๆกันก็เข้าใจได้ทันที...เพราะไอ้ตัวต้นเหตุมันกำลังเอาหัวม้าสัญลักษณ์ของเฟอร์รารี่ไปแปะไว้ที่หัวเรือของเจ้าฮายาโตะเช่นกัน

ใบหน้าคมมองเด็กในปกครองซึ่งกำลังยืนมองหัวม้าในมือ เอลวิน สมิธ ด้วยดวงตาเป็นประกายทำไมถึงชอบไอ้ของประหลาดๆแบบนั้นได้เนี่ย? แกควรจะห้ามไอ้บอสบ้านั่นสิฮายาโตะ ไม่ใช่ไปเห็นดีเห็นงามด้วย!

“ เอาละ เรียบร้อย...ฝากพวกนายสองคนด้วยก็แล้วกัน”   ใบหน้าหล่อเหลาของทีมบอสเฟอร์รารี่หันมายกนิ้วโป้งให้อย่างมั่นใจ ทำให้นักขับมือหนึ่งพูดอะไรไม่ออกได้แต่เหล่ตามองเรือหน้าตาประหลาดนั่นอย่างปลงตก

แล้วก็ดูท่าว่าจะไม่ได้มีแค่พิตการาจสีแดงเท่านั้นที่ส่งเรือหน้าตาหลุดโลกแบบนี้เข้าประกวด เพราะไม่ว่าจะทีมไหนๆก็ล้วนประดับประดากันมาเต็มที่...ถึงบางลำจะดูเหมือนจะจมมิจมแหล่แล้วก็เถอะนะ...

เอาเถอะ...ในหัวไอ้พวกนี้ขอแค่ความสามารถด้านศิลปะมีดีแค่ทำรถออกมาให้สวยๆเรื่องเดียวก็พอแล้ว ความงามด้านอื่นจะเป็นยังไงก็ช่างมันเถอะ

ร่างในชุดหมีสีแดงก้าวขาขึ้นไปนั่งอยู่บนถังน้ำมัน...และแค่มีน้ำหนักของเขากดลงไปก็เหมือนจะได้ยินเสียงน้ำรั่วเข้ามาทันที....ยังไม่ทันจะออกสตาร์ทก็จะจมแล้วเร๊อะ?!

“ โฮ่ย...รีบๆให้สัญญาณสตาร์ทซักทีสิ”   ไม่เห็นหรอเนี่ยว่ามันจะจมแล้ว! เขาหันไปกดดันพิธีกรจำเป็นที่ยืนมองผลงานของแต่ละทีมพลางหัวเราะร่าอยู่ริมน้ำ

“ ไม่ต้องห่วงครับคุณรีไว...มีบางลำจมไปก่อนคุณแล้วละครับ ฮ่าๆๆ”   หน้าไม่อายจริงๆ นี่มันเรือแน่หรอเนี่ย?

“ โอเค...ออกตัวได้! ไป!!!”    เสียงตะโกนก้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงเฮลั่น ลูกทีมในพิตต่างก็แว่บออกมาเชียร์กันด้วยความสนุกสนาน เพราะภาพที่นักขับต่างสู้กันสุดฤทธิ์?แบบนี้หาดูได้ง่ายๆเสียเมื่อไหร่ เป็นเพราะเรือของตัวเองกำลังจะจมเลยใช้ไม้พายสกัดคู่ต่อสู้ไม่ให้พายหนีไปได้บ้าง บางคนก็พายวนอยู่กับที่เพราะเรือมันออกแบบมาดีจัด? บางคนก็โดดลงจากเรือแล้วว่ายน้ำลากเรือเข้าเส้นชัยยังจะมีลุ้นกว่า  สารพัดวิธีที่จะครีเอท?มาสู้กันซึ่งคนที่ดูอยู่บนฝั่งนั้นหัวเราะจนท้องแข็ง

และท่ามกลางความชุลมุนก็ดูเหมือนจะมีเพียงนักขับมือสองของเฟอร์รารี่ที่พายเรือโฟมผ่านใครต่อใครไปได้ด้วยใบหน้าที่ยังเรียบเฉย ร่างบอบบางพายเรือเหมือนไม่ได้ตั้งใจแต่กลับกลายเป็นว่าไม้พายที่จะเข้ามาสกัดดันช่วยให้เรือยิ่งแล่นได้ดีกว่าเดิมซะแบบนั้น....เพราะงั้นการแข่งพายเรือคราวนี้เฟอร์รารี่เลยชนะไปแบบงงๆ



และเพราะว่าทุกความสนใจต่างพุ่งไปอยู่ที่ริมน้ำ...ร่างสูงใหญ่ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆกับทีมแข่งรถจึงแอบย่องเข้าไปในมอเตอร์โฮมของทีมม้าลำพองได้อย่างง่ายดาย...แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเข้าห้องผิด...เพราะที่หน้าห้องของนักขับทั้งคู่จะมีรูปขนาดใหญ่เท่าฝาบ้านแปะแทนวอลเปเปอร์อยู่

ใบหน้าคมส่งยิ้มสบายๆให้รูปของนักขับผมสีเงินก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไป...


เพราะพรุ่งนี้เป็นวันแข่งประกอบกับหมดแรงจากการพายเรือทำให้วันนี้นักขับมือสองของทีมม้าลำพองเข้าห้องพักไวกว่าปกติ  ร่างบอบบางในชุดนอนของเฟอร์รารี่เดินเช็ดผมเข้ามาอย่างไม่ได้สนใจว่าจะมีสิ่งผิดปกติใดอยู่ในห้อง เพราะไม่คิดว่าจะมีใครกล้าล้วงคองูเข่าเข้าถ้ำเสือดุๆที่ชื่อรีไวแบบนี้

แต่เขาก็ลืมไปว่ามันมีหมีบ้าๆอยู่ตัวหนึ่งที่กล้าทำ...

ใบหน้าสวยถึงกับผงะก่อนที่นัยน์ตาสีมรกตจะเบิกกว้างเมื่อมองเห็นว่าใครนั่งยิ้มหน้าบานอยู่บนที่นอนกึ่งโซฟาสีแดงของตน

“ ไอ้หมีบ้าแกมาได้ไง?!!”   ใบหน้าคมถึงกับหัวเราะพรืดกับคำทักทายอันอ่อนหวานที่มีให้กันเสมอมานั่น

“ ก็คิดถึงอ่ะ เลยตามมา นายก็ใจร้ายจังปล่อยให้ชั้นอยู่ในบ้านกลางป่านั่นคนเดียว ชั้นยังบาดเจ็บอยู่นะจะหาอะไรกินได้ยังไง”   เสียงทุ้มเอ่ยออดอ้อนจนอีกคนรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิดๆ มือบางยันใบหน้ายิ้มร่าที่พยายามจะเข้ามาคลอเคลียออกไป

“ ถ่อมาถึงนี่ได้ชั้นว่าแกหายเจ็บแล้วละ...อีกอย่างนะหมีอย่างแกอยู่ในป่ามันก็ถูกแล้วนี่ เด็ดใบไม้ใบหญ้ากินไปสิฟ๊ะ...ออก...ไป...นะ....”   เมื่อมือยันไม่ได้ผลฝ่าเท้าจึงช่วยยันด้วยอีกแรง


โครม!!!


ร่างสูงใหญ่จึงกลิ้งลงพื้นไปอย่างสวยงามและเพราะเสียงดังลั่นนั่นจึงทำให้คนที่อยู่ในห้องข้างๆเปิดประตูเข้ามาทันทีทั้งๆที่มีโทรศัพท์แนบหูมาด้วย....คุยกับใครอยู่ก็คงไม่ต้องถาม

“ โฮ่ย...ทำอะไรของแกอยู่น่ะฮายาโตะ?”   ใบหน้าบอกบุญไม่รับหันไปหันมาพลางกวาดตามองไปทั่วห้อง...เหมือนจะได้กลิ่นไอ้หมีวายร้ายนั่น?

“ เปล่า...เมื่อกี้ประตูตู้เสื้อผ้ามันหลุดลงมา เลยใส่กลับไว้ที่เดิม”   ใบหน้าสวยตอบกลับมาด้วยสายตานิ่งเฉยทำให้ผู้ปกครองกวาดตามองในห้องอีกรอบนึงก่อนจะเดินโทรศัพท์จากไป...คงต้องขอบคุณสายจากแดนไกลนั่นละนะ

“ ขอบใจนะโกคุเดระ~~...นายนี่น่ารักที่สุดในโลกเลย~~~”   ร่างสูงใหญ่แง้มประตูตู้เสื้อผ้าแล้วก้าวขาออกมา ตั้งใจจะโผเข้าไปกอดคนที่นั่งหน้าบูดอยู่บนที่นอนนั่นสักทีแต่ฝ่าเท้าที่ยกรอเอาไว้ก็ทำให้เพชฌฆาตมือหนึ่งของวองโกเล่ได้แต่หยุดตัวเองไว้ก่อน

“ ชั้นจะนอนแล้ว ถ้าแกจะนอนที่นี่ก็นอนบนพื้นไป ไม่มีรถใช่ไหมล่ะ”   ร่างบอบบางล้มตัวลงนอนบนเตียงขนาดพอดีตัวสีแดงของตน อันที่จริงก็อยากจะไล่ไปอยู่หรอกเพียงแต่ที่นี่ไม่ใช่อิตาลีออกไปตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปนอนที่ไหน ปล่อยให้เป็นหมีเร่ร่อนมันก็จะเสียชื่อถึงประเทศชาติหมด....เขาไม่ได้เป็นห่วงมันหรอกนะ

“ เห๋...แต่ที่พื้นมันไม่มีทั้งหมอนทั้งผ้าห่ม จะให้นอนได้ไงอ่ะ...โกคุเดระ....”   แต่อีกฝ่ายก็ยังมิวายงอแงเป็นเด็กๆ เส้นเลือดที่ขมับบนใบหน้าสวยกระตุกถี่ๆฟังไอ้หมีบ้าที่ยังบ่นไม่หยุดจนรู้สึกอยากจะลุกขึ้นมากระทืบมันสักที

ใบหน้าสวยหันกลับมามองที่เตียงกึ่งโซฟาของตัวเอง ถ้าตัวเล็กๆแบบเขาก็ยังพอจะนอนยัดกันสองคนได้อยู่หรอก แต่ตัวใหญ่ๆอย่างไอ้บ้ายามาโมโตะคงจะไม่ไหวแน่

“ น่ารำคาญจริง!”   ร่างบอบบางลุกพรวดจากที่นอนก่อนจะลากหมอนกับผ้าห่มลงมานอนที่พื้นด้วยกัน

“ แค่นี้ก็ไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหม?”  

“ อื้อๆๆ!”   ใบหน้าคมมองคนปากร้ายแต่ใจดีด้วยใบหน้าระริกระรี้ ร่างสูงใหญ่ขยับเข้าไปนอนใกล้ๆร่างบอบบางที่ยังแยกเขี้ยวใส่เป็นระลอกๆ

“ เป็นหมีที่นอนกลางดินกินกลางทรายแท้ๆ ทำเป็นเรื่องมาก!”   ถึงใบหน้าสวยจะงอหงิกแต่ก็ยอมลงมานอนด้วย นัยน์ตาสีมรกตปิดลงท่ามกลางอ้อมแขนที่อบอุ่น ถึงไม่อยากจะยอมรับแต่ชั่ววินาทีหนึ่งเขาก็อยากจะให้เวลาหยุดลงที่ตรงนี้เหมือนกัน....


ความสุข....มันคือความรู้สึกแบบนี้หรือเปล่านะ....







ใบหน้าคมก้มลงไปจูบเบาๆที่กลุ่มผมสีเงินก่อนจะละออกมา ร่างสูงใหญ่เหลือบมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือก่อนจะพบว่ามันใกล้จะฟ้าสางเต็มที...คงต้องรีบออกไปก่อนที่ใครๆในมอเตอร์โฮมนี่จะตื่นขึ้นมา

มือใหญ่ขยับไปลูบเส้นผมนิ่มของคนที่ยังหลับปุ๋ยก่อนจะอวยพรให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี....

ร่างสูงลุกขึ้นยืนช้าๆก่อนจะก้าวขาเข้าไปหากระเป๋าเดินทางของร่างบาง...ที่จริงจะให้ไปหาที่นอนข้างนอกมันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาแต่ที่เข้ามาที่นี่เพราะยังมีอีกจุดประสงค์หนึ่ง

มือใหญ่เปิดกระเป๋าเดินทางสีแดงสดที่มีโลโก้ม้าลำพองติดอยู่ เพราะโกคุเดระเป็นพวกไม่สนใจโลกเพราะงั้นจึงไม่ได้รู้ตัวเลยว่าครั้งนี้...กระเป๋าเดินทางมันหนักกว่าเดิม

ปลายนิ้วรูดซิปสีดำด้านในกระเป๋าก่อนที่ดาบญี่ปุ่นเล่มยาวจะถูกดึงออกมา....

เป็นเพราะไม่ได้อยู่ในอิตาลี การจะเอาดาบเข้ามาในที่สาธารณะแบบนี้จึงทำได้ยาก จะใช้เส้นสายก็ลำบากแต่หากเป็นกระเป๋าของพวกทีมแข่งโดยเฉพาะนักขับของทีม การตรวจตราน่าจะน้อยกว่าคนทั่วไป....ก็อย่างที่โกคุเดระเอามันเข้ามาได้โดยที่ไม่มีใครรู้ซึ่งเห็นๆกันอยู่นี่ไง

มือใหญ่เก็บกระเป๋าเข้าที่เดิมก่อนที่ร่างสูงในชุดสีดำสนิทจะเดินออกไปจากมอเตอร์โฮมสีแดงด้วยใบหน้าที่มืดมน....










บรรยากาศของวันแข่งก็ยังคงร้อนแรงสมกับเป็นกีฬาที่เร็วที่สุดในโลก

ในพิตการาจของแต่ละทีมยังคงปรับแต่งกันจนวินาทีสุดท้าย ตั้งแต่สนามยังว่างโล่งจนกระทั่งผู้ชมต่างทยอยเข้ามาจนหนาตา และทีมวิศวกรกับนักขับของเหล่าม้าลำพองก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าถูกกล้องส่องทางไกลของใครบางคนจับตามองอย่างใกล้ชิดอยู่ทุกฝีก้าว


“ ทางนี้ไม่มีอะไรผิดปกติครับนาย”


เสียงรายงานดังมาจากหูฟังไร้สายซึ่งเสียบอยู่ที่หูก่อนที่สายจะถูกตัดไปและสายใหม่ก็ดังขึ้นมาแทบจะทันที...ทั้งๆที่เป็นคำพูดในลักษณะเดียวกัน

นัยน์ตาสีเปลือกไม้ยังคงมองผ่านเลนส์ของกล้องส่องทางไกล...ไม่มีใครรู้หรอกว่าตอนนี้รอบๆสนามฌิลส์ วิลเนิฟมีคนของวองโกเล่กระจายตัวอยู่และเกือบทั้งหมดก็เป็นเพชฌฆาตของหน่วยพิรุณ...


ถ้าไม่ใช่คนที่มีกลิ่นไอเดียวกันก็คงจะไม่รู้หรอกว่า...ผู้ชายคนนี้คือมาเฟีย


ใบหน้าคมคายไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม นัยน์ตาสีเปลือกไม้ทอดมองไปยังร่างบอบบางในชุดนักขับสีแดงซึ่งยืนอยู่ในพิตการาจด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก

มีเพียงความรู้สึกอันแรงกล้าว่าต้องปกป้องให้ได้เท่านั้นที่ชัดเจนออกมา...




“ คิสึเนะน่ะ.......”



เสียงของวองโกเล่เดซิโมยังคงดังก้องอยู่ในหัว...เรื่องที่คุยกันเมื่อวันก่อนยังคงหลอกหลอนเขาราวกับเป็นบททดสอบจากพระผู้เป็นเจ้า



“ คิสึเนะน่ะ.......”



เป็นบททดสอบที่โหดร้ายยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่เคยเจอมา....ทั้งๆที่ท่านประทานหัวใจมาให้เขาแล้ว...เหตุใดจึงมาดึงมันคืนไปอีกเล่า






“ คิสึเนะน่ะ...จะลงมือในสนามนี้...เป็นไปได้ว่ามันจะทำให้เหมือนเป็นอุบัติเหตุ....”

“ หน้าที่ของนายคือต้องปล่อยให้พวกมันลงมือแล้วจับให้ได้คาหนังคาเขา....โดยมีโกคุเดระ ฮายาโตะเป็นนกต่อที่เอาไว้ล่อพวกมันออกมา...”




มือใหญ่ได้แต่กำแน่นอย่างเจ็บแค้น...ทั้งๆที่รู้ว่าหัวใจของตัวเองกำลังจะโดนทำร้ายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

หากเป็นยามาโมโตะ ทาเคชิคนเดิมคงทำตามใจตัวเองอย่างไม่มีลังเล...แต่งานคราวนี้มันดันมีเรื่องของโกคุเดระเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย...เขาไม่อาจจะละทิ้งหน้าที่ที่มีต่อวองโกเล่เพื่อฆ่าคิสึเนะก่อนที่มันจะมาทำร้ายโกคุเดระได้เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวพันถึงอดีตของโกคุเดระเอง...หากอยากจะทำให้ใบหน้าสวยนั่นหลุดพ้นจากคำสาปจากเรื่องเมื่อ 10 ปีก่อน  เขาจำเป็นต้องทำตามคำสั่งของวองโกเล่...ถึงแม้ว่ามันจะเป็นคำสั่งที่โหดร้ายขนาดไหนก็ตาม...

เขาก็ไม่รู้เลยจริงๆว่าโกคุเดระจะยอมให้อภัยเขาหรือเปล่าหากรู้ว่าที่เขาคอยเฝ้าอยู่ใกล้ๆ....เหตุผลหนึ่งมันมาจากเรื่องงาน...


ฮึ....

ใครๆต่างก็ด่าว่ามาเฟียว่าชั่วช้าเลวทรามทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

ซึ่งเขาเพิ่งจะเข้าใจมันก็วันนี้นี่เอง...



ขอโทษนะโกคุเดระ...


ชั้นจะชดใช้ความผิดนี้ด้วยการปกป้องนายให้ถึงที่สุดเอง...







และแล้วเวลาที่จะลงชิงชัยก็ใกล้แค่เอื้อม ยางทั้งสี่ถูกถอดปลอกสีดำที่ใช้หุ้มมันออกไป ไอร้อนจากถนนพุ่งขึ้นมาจนมองด้วยตาก็เห็น รถสูตรหนึ่งทั้ง 22 คันต่างติดเครื่องรอสัญญาณสตาร์ทอยู่ในกริดใครกริดมัน เสียงทุ้มต่ำของเครื่องยนต์ทำให้เลือดในกายรู้สึกร้อนขึ้นมาเช่นเดียวกับสัญญาณไฟที่ค่อยๆแดงขึ้นทีละดวง...ทีละดวง....

จนกระทั่งถึงดวงสุดท้าย...รถเอฟวันทุกคันต่างก็พุ่งทะยานออกไปในทันที!!

เสียงดังกระหึ่มไปทั่วสนาม จังหวะแรกของการออกสตาร์ทนั้นถือว่าสำคัญมาก มีหลายต่อหลายสนามที่เกิดอุบัติเหตุแทบจะทันทีด้วยรถที่ต่างก็แย่งกันเพื่อตำแหน่งที่ดีที่สุด เพราะถึงแม้ตอนควอลิฟายจะได้อยู่หัวแถวแต่ถ้าออกสตาร์ทไม่ดีทุกอย่างก็อาจจะลำบาก

เพราะแบบนั้น Ferrari F138 ทั้งสองคันจึงใช้ทักษะทั้งหมดที่มีเพื่อไม่ให้คันอื่นๆมาอยู่หน้าตัวเองได้...รถสีแดงสดปาดหน้าคู่แข่งเพื่อป้องกันตำแหน่งในเลนส์ขวาและจากโค้งข้างหน้าจำต้องปาดซ้ายต่อเพื่อเข้าโค้ง 2 ซึ่งเป็นโค้งตัวยูซึ่งมีสองแห่งในสนามนี้ และดูเหมือนรถของเฟอร์รารี่ทั้งสองคันจะทำได้ดีทีเดียวสำหรับการออกสตาร์ท

เสียงทุ้มดังกระหึ่มทำให้ไม่ได้ยินเลยว่าข้างหลังมีรถชนกันบ้างหรือเปล่า F138 ทั้งสองคันยังคงพุ่งทะยานต่อไปอย่างต้องการทิ้งห่างคันข้างหลังให้ได้มากที่สุด...ฌิลส์ วิลเนิฟเป็นสนามที่มีทั้งหมด 14 โค้ง 3 Sector และเป็นอีกสนามหนึ่งซึ่งมีทางตรงค่อนข้างมากเพราะฉะนั้นจึงเป็นอีกสนามที่ความเร็วเกิน 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงมีให้เห็นกันบ่อยๆ

ด้วยความยาว 4.361กิโลเมตรของสนามทำให้ต้องวิ่งกันทั้งหมด 70 รอบ....และแต่ละรอบ...แต่ละรอบ...ที่รถวิ่งผ่านหน้าไปมันกลับบีบหัวใจของใครบางคนอย่างบอกไม่ถูก


อยู่ตรงไหน...



เจ้านักฆ่าที่คิสึเนะส่งมามันอยู่ตรงไหนกัน?!!!



ร่างสูงใหญ่ในเสื้อเชิ้ตสีดำกำมือแน่น ทั้งๆที่ปกติแล้วเมื่อได้กลิ่นคาวเลือดเขาจะเยือกเย็นจนน่าขนลุกแท้ๆแต่คราวนี้ข้างในมันกลับร้อนรนจนแทบจะลุกไหม้...ยิ่งเขาหาตัวมือสังหารนั่นพบเร็วเท่าไหร่ ถึงจะต้องปล่อยให้มันจัดการไปก่อนตามคำสั่งที่ได้รับแต่มันก็ยังมีโอกาสที่เขาจะเปลี่ยนวิถีของอาวุธจนมันทำงานพลาด...และโกคุเดระก็จะปลอดภัย...

นัยน์ตาสีเปลือกไม้มองตาม F138 HAYATO ที่เพิ่งวิ่งผ่านหน้าไปอย่างใช้ความคิด...คิดสิ ยามาโมโตะ ทาเคชิ....ถ้านายเป็นมือสังหารนั่นนายจะลงมือที่ตรงไหนในสนามแห่งนี้...นัยน์ตาสีเปลือกไม้ปิดลงช้าๆ เพ่งสมาธิทั้งหมดที่มีไปที่จิตสังหารที่ค่อยๆแผ่ออกมารุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ....ถึงจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายใช้มีดหรือปืน แต่จากการที่เขาสำรวจสนามแห่งนี้มาหลายวัน...สถานที่หนึ่งซึ่งชัดเจนอยู่ในหัวเพชฌฆาตอย่างเขาก็ค่อยๆลอยขึ้นมา

ถ้าเป็นเขาคงจะเลือกที่นั่น....เพราะมันง่ายต่อการอำพรางทุกๆอย่างที่สุดแล้ว….

ร่างสูงใหญ่ลุกพรวดพราดออกจากที่นั่งของตนทันที ด้ามธงสีแดงที่มีโลโก้ม้าลำพองถูกถือติดมือไปด้วย...เพราะข้างในมันคือชิงุเระ คินโทคิ...ดาบญี่ปุ่นคู่ใจของเขาที่เพิ่งไปเอามาจากกระเป๋าของนักขับมือสองของเฟอร์รารี่นั่นเอง



“ เบรกของพวกเมอซิเดสที่ตามนายอยู่กำลังมีปัญหา เพราะงั้นให้เข้าพิตรอบหน้านะโกคุเดระ จะเปลี่ยนเป็นยางซุปเปอร์ซอฟ”  ภาษาอิตาลีดังมาตามวิทยุสื่อสารที่ติดอยู่ในตัวรถ ใบหน้าสวยภายใต้หมวกกันน็อคสีแดงตอบรับกลับไปด้วยเสียงในลำคอ...เพราะสมัยนี้ในการถ่ายทอดสดจะมีการตัดคำพูดที่นักขับของแต่ละทีมคุยกับวิศวกรสนามของตน มันจึงทำให้ทั้งคนดูทั้งทีมคู่แข่งรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับรถและทีมของตนบ้าง เพราะนักขับมีหน้าที่ต้องรายงานทั้งสภาพสนามและสภาพรถให้วิศวกรรับรู้เพื่อให้ทางทีมช่วยกันวางแผนต่อไป...เพราะแบบนั้นหลายๆทีมจึงเลือกที่จะโค้ดในการพูดคุยบ้าง หรือไม่ก็ใช้ภาษาที่ไม่ได้เป็นสากลอย่างที่ทีมสัญชาติอิตาลีอย่างเฟอร์รารี่กำลังทำอยู่

“ เราจะให้นายเข้าพิตก่อนรีไว”   แค่ทางทีมวิศวกรพูดมาแบบนี้ก็พอจะรู้แล้วว่าสนามนี้ความหวังมันอยู่ที่นักขับมือสองของทีม

“ อื้อ”   ใบหน้าสวยตอบรับไปสั้นๆก่อนจะเข้าโค้งด้วยความเร็วที่แทบจะไม่ตก ท้ายรถสีแดงของคนที่ได้ชื่อว่าผู้ปกครองนำอยู่ข้างหน้า แต่ว่าคนที่ต้องคว้าที่หนึ่งให้ทีมในสนามนี้คงต้องเป็นเขาตามแผนที่ทางทีมวางแผนเอาไว้เพราะดูเหมือนก่อนจะลงแข่ง F138 LEVI จะมีปัญหาที่เครื่องยนต์อยู่นิดหน่อย

มือบางในถุงมือสีแดงหมุนพวงมาลัยที่เต็มไปด้วยปุ่มมากมายให้ F138 HAYATO วิ่งออกทางคู่ขนานเพื่อเข้าสู่พิตเลน และเพราะไม่สามารถจะวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดได้ รถคันที่ตามมาจึงวิ่งแซงไปหลายคัน เพราะแบบนั้นการเปลี่ยนยางทั้งสี่ข้างจึงต้องทำด้วยเวลาที่น้อยที่สุดเพื่อให้รถกลับเข้าสู้แทรคโดยอันดับจะได้ไม่ตกไปมากกว่านี้

เฟอร์รารี่สีแดงสดพุ่งเข้าไปในกลุ่มก้อนที่มองเห็นมาแต่ไกลเพราะทุกอย่างของทีมม้าลำพองล้วนเป็นสีแดง จะมีใครคิดว่าในโลกนี้จะสามารถเปลี่ยนยางทั้ง 4 ล้อได้ในเวลา 2.3 วินาที แต่ในโลกของฟอร์มูล่าวันนั้นทำได้สบายๆ ด้วยล้อแต่ละข้างจะมีคนดูแลอยู่สามคน ดึงยางเก่าคนหนึ่ง ใช้เครื่องถอดน็อตคนหนึ่ง ใส่ยางใหม่เข้าไปคนหนึ่ง F138 HAYATO จึงออกไปวิ่งอีกครั้งได้โดยอันดับตกไปอยู่แค่ที่5

นัยน์ตาสีมรกตที่อยู่ในหมวกกันนอคจ้องถนนตรงหน้าด้วยสายตานิ่งสนิท รถสีแดงวิ่งเข้าไปดูดติดกับรถคันหน้าก่อนที่จะเบี่ยงออกข้างภายในชั่ววินาที ความเร็วที่นักขับทั่วไปไม่กล้าใช้เนื่องจากมันกำลังจะเข้าโค้งแต่ร่างบอบบางกลับใช้โดยไม่ลังเล

ยางของล้อหลังปาดผ่านปีกหน้าของรถทีมวิลเลี่ยมไปแบบเส้นยางแดงผ่าแปดทำเอาทั้งคนดูทั้งทีมวิศวกรของทั้งสองทีมต่างลุ้นกันใจหายใจคว่ำ...นี่ขนาดเจ้าตัวตั้งใจว่าจะขับรถอย่างระมัดระวังมากขึ้น แต่จอมทำรถพังยังไงก็ยังเป็นจอมทำรถพังอยู่วันยังค่ำ ถึงแม้จะไม่เคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงแต่พิตการาจสีแดงก็มักจะต้องเตรียมจมูกรถ ปีกหน้า ปีกหลังมาสำรองไว้ให้ F138 HAYATO ตลอด

และเป็นเพราะใช้ยางซุปเปอร์ซอฟทำให้ F138 HAYATO กลับมาไล่แซงคืนได้ทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่รถของคนเป็นผู้ปกครอง!

ทั้งสภาพเครื่องยนต์ที่ไม่พร้อม ทั้งยางที่ยังไม่ได้เปลี่ยนทำให้ F138 LEVI ถูกแซงได้ในโค้งที่ 12 และตอนนี้รถของ โกคุเดระ ฮายาโตะ ก็กำลังนำอยู่หัวแถว!

ร่างบอบบางยังคงเร่งความเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะรู้ดีว่าจะต้องเข้าพิตอีกอย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งแน่ๆเนื่องจากยางซุปเปอร์ซอฟนั้นทำความเร็วได้มากก็จริงทว่าการยึดเกาะของยางก็สึกไวกว่ายางอื่นๆด้วยเช่นกัน....ตอนนี้จึงต้องทำเวลาทิ้งห่างรถคันข้างหลังให้มากๆเอาไว้

ธงม้าลำพองสีแดงต่างโบกอยู่ทุกหัวระแหงที่ F138 HAYATO วิ่งผ่าน แฟนๆทีมเฟอร์รารี่ต่างส่งเสียงเชียร์กันเต็มที่...แต่ก็อาจจะไม่ใช่ทุกคนที่จะดีใจเมื่อเห็นรถสีแดงเพลิงคันนั้นขึ้นเป็นผู้นำ....


ถึงแม้ใบหน้าคมภายใต้กรอบผมสั้นสีดำจะยังนิ่งเฉยแต่สันกรามกลับกัดกันแน่น...ยิ่งโกคุเดระทิ้งห่างรถที่เหลือมากเท่าไหร่ก็ยิ่งตกเป็นเป้าได้ง่ายเท่านั้น....

นัยน์ตาสีเปลือกไม้กวาดมองคนทั่วทั้งอัฒจันทร์ซึ่งขนาบข้างโค้งที่ 10 ...โค้งตัวยูรอยต่อระหว่าง Sector 2 ก่อนจะเข้าสู่ Sector 3 …ที่ตรงนี้....สำหรับเพชฌฆาตอย่างเขาคิดว่ามันน่าลงมือที่สุดแล้ว เพราะแบบนั้นถึงจะไม่รู้ว่าใครเป็นใครแต่ร่างสูงใหญ่กลับเดินฝ่าผู้คนที่กำลังตั้งใจดูรถในทีมโปรดของตัวเองเข้าไป

นัยน์ตามืดมนจ้องเขม็งไปที่ชายคนหนึ่ง...ทั้งๆที่รอบข้างต่างลุ้นกันจนตัวโก่งแต่ชายคนนี้กลับนิ่งเฉยเหมือนไม่ได้มาเชียร์ทีมใดๆเลย...ใบหน้าคมยิ้มสบายๆออกมาเป็นครั้งแรกในวันนี้...ก็อย่างที่บอก....ว่าถ้าไม่ใช่คนที่มีกลิ่นไอเดียวกันก็คงจะไม่รู้หรอกว่า...ผู้ชายคนนั้นคือมือสังหาร


“ หาคิสึเนะเจอแล้ว เตรียมล้อมจับเดี๋ยวนี้” 


เสียงทุ้มสั่งการผ่านวิทยุสื่อสารที่ติดอยู่ในปกเสื้อ...ใบหน้าคมหันกลับไปมองในสนามเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเครื่องยนต์กำลังใกล้เข้ามา

แย่แล้ว....





“ ใส่เต็มที่เลยโกคุเดระ ยางชุดนี้ของนายจะใช้อีก 3 รอบเท่านั้น แล้วจะเปลี่ยนเป็นยางซอฟต์จนเข้าเส้นชัย”

เสียงคำสั่งจากพิตวอลล์ไฟเขียวให้นักขับมือสองของทีมเฟอร์รารี่ใส่ความเร็วได้เต็มที่ นั่นยิ่งทำให้ F138 HAYATO ยิ่งทิ้งห่างรถคันอื่นๆมากยิ่งขึ้น





นัยน์ตาสีเปลือกไม้นิ่งค้างเมื่อมองรถสีแดงเพลิงคันนั้นวิ่งผ่านหน้าไป ระยะห่างแค่ 0.10 วินาทีแบบที่เป็นอยู่ก็พอที่กระสุนจะทำงานได้แล้ว....แล้วถ้าเป็นรอบหน้า...เวลาก็จะยิ่งทิ้งห่างรถคันที่ตามมาออกไปอีก....

หัวใจที่ไม่เคยสั่นไหวกับเรื่องอะไรกลับเต้นระรัวเป็นครั้งแรก...คงต้องโทษเลือดของนักฆ่าที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย...เขาถึงได้รู้ในสิ่งที่มือสังหารนั่นคิดจะทำ....


ใบหน้าคมหันไปมองสกอร์บอร์ดเพื่อหาตำแหน่งรถของรีไว...รถเพียงคันเดียว...ที่เป็นความหวังของเขาว่ามันจะไล่ทันรถของโกคุเดระแล้วก่อกวนให้มือสังหารนั่นลงมือได้ยากขึ้น...ทว่า...ภาพที่ขึ้นอยู่ในจอให้เห็นว่ารถของคนที่เป็นดั่งผู้ปกครองคนนั้นกำลังเปลี่ยนยางอยู่ในพิตมันก็ทำให้ความหวังพังทลาย



ภาพที่นัยน์ตาสีเปลือกไม้เห็นอยู่รอบกายนั้นราวกับภาพสโลโมชั่น....

สีสันอันหลากหลายกลับกลายเป็นแค่สีขาวกับสีดำ....



จะมัวรอลูกน้องมาไม่ทันแล้ว

ร่างสูงใหญ่จึงเริ่มออกวิ่งไปหาผู้ชายคนนั้น....

สิ่งที่ตาเห็น...สิ่งที่เป็นความรู้สึก...ทุกสิ่งทุกอย่างดูช้าไปหมดเมื่อเทียบกับเสียงทุ้มต่ำของ F138 HAYATO ที่กำลังจะวนมาหาเขาอีกรอบ....



ต้องรีบไป....ต้องรีบไปให้ถึงตัวหมอนั่น....

กระบอกปืนสีดำซึ่งใส่ที่เก็บเสียงถูกควักขึ้นมาคาตา แต่คนรอบข้างที่กำลังส่งเสียงเชียร์กลับไม่มีใครรู้ตัว...ราวกับว่ามีเพียงเขาและชายคนนั้นที่อยู่ในโลกสีขาวดำแห่งนี้....




เขาเห็น...



เขาเห็นทุกอย่างตั้งแต่ประกายสีแดงเพลิงของ F138 HAYATO ที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วเกือบๆ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เห็นปลายนิ้วหยาบกร้านลั่นไกปืน...

เห็นคมดาบของตัวเองตวัดออกไปตัดผ่านหัวกระสุนด้วยเพลงดาบสังหารที่ตกทอดกันมานานนับร้อยปี....

เห็นปลอกกระสุนร่วงลงพื้นพร้อมๆกับหัวกระสุนที่ไม่สามารถจะผ่านคมดาบของเขาไปได้...

เห็นชายคนนั้นถูกรวบตัวเอาไว้ด้วยลูกน้องของเขาเอง...







แล้วก็เห็น....








F138 HAYATO ที่เขาคิดว่าช่วยเบี่ยงวิถีกระสุนเอาไว้ได้แล้ว....พลิกคว่ำไปต่อหน้าต่อตา....






เอี๊ยดดดดดดดดด!!!!





โครม!!!!!




รถสีแดงเพลิงปัดอย่างควบคุมไม่อยู่ทั้งๆที่ไม่มีอะไรกีดขวาง แรงเหวี่ยงที่มีมากเนื่องจากรถวิ่งด้วยความเร็วสูงทำให้ F138 HAYATO กระแทกเข้ากับแบริเออร์ที่กั้นขอบถนนจนล้อและปีกฝั่งนั้นพังยับทั้งล้อหน้าและล้อหลัง แต่แรงเหวี่ยงก็ยังไม่หมดเพียงแค่นั้นยิ่งบวกกับแรงกระแทกเข้าไปทำให้รถสีแดงพลิกคว่ำอีกหลายตลบก่อนจะไปชนเข้ากับแบริเออร์ฝั่งตรงข้าม จากรถที่เคยสวยงามกลายเป็นเศษซากเละเทะไม่เหลือชิ้นดี เพราะถังน้ำมันแตกทำให้ไฟลุกท่วมที่ด้านหลัง....ทุกๆอย่างเกิดขึ้นเพียงชั่ววินาที






ชั่ววินาที...ที่เขาคิดว่าปกป้องอีกฝ่ายเอาไว้ได้แล้ว....







“ โกคุเดระ!!!!!!


เสียงตะโกนดังก้องออกไปจากปาก ความรู้สึกราวกับจะคลุ้มคลั่งเสียสติไปซะให้ได้เมื่อต้องเห็นภาพคนที่ตัวเองรักเป็นแบบนั้นไปต่อหน้าต่อตา สองขาก้าวกระโดดลงไปจากอัฒจันทร์โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันสูงขนาดไหน...



เพราะตอนนี้หัวใจของเขามันกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ



แต่แล้วเสียงขึ้นนกปืนที่หูของเพชฌฆาตอย่างเขารับรู้ได้ดีกว่าใครก็ดังขึ้นมาท่ามกลางเสียงกรีดร้องโกลาหล.....ไม่ผิดแน่......เขาเบี่ยงวิถีกระสุนนัดนั้นได้แน่นอน...เพียงแต่ที่โกคุเดระยังเป็นแบบนี้เพราะว่ามันยังมีมือสังหารอีกคน!!!

นัยน์ตาสีเปลือกไม้มืดมนยิ่งกว่าครั้งไหนๆตวัดมองไปยังต้นเสียง แล้วร่างสูงใหญ่ก็พุ่งเข้าไปหาอย่างไม่มีรีรอ คมดาบตวัดผ่านลำคอของมันจนขาดออกจากกัน ปืนที่กำลังจะยิงโกคุเดระซ้ำร่วงหล่นลงไปเช่นเดียวกับหัวของมันที่ร่วงลงกระทบพื้น....โดยไม่ทันแม้แต่จะร้องขอชีวิต...ไม่ทันคิดว่าตัวเองจะต้องตายด้วยซ้ำ!


สึนะไม่ได้บอก...ว่าต้องเก็บหัวพวกมันกลับไปทั้งสองคน...

เพราะงั้นเขาจะฆ่ามัน....

คนที่ทำให้โกคุเดระต้องเป็นแบบนั้นเขาจะฆ่ามัน!!


ถึงปากแผลจะคมกริบแต่คงจะบอกได้แค่ว่านี่คือดาบที่คลุ้มคลั่งที่สุดในชีวิตของยามาโมโตะ ทาเคชิแล้ว คำสั่งให้จับเป็นไม่มีเหลืออยู่ในหัวอีกต่อไป...มันจะต้องตาย...ต้องตายอย่างสาสม!!

ใบหน้าคมเงยขึ้นไปบนอัฒจันทร์ซึ่งมีลูกน้องของเขายืนตัวสั่นอยู่ตรงนั้น....ยังเหลือหมอนั่นอีกคน...มือสังหารคนแรกที่เขาจับกุมเอาไว้ได้

มือใหญ่กำแน่นอย่างเจ็บแค้น...ก่อนจะเอ่ยคำสั่งให้มันรู้สึกเสียใจที่ยังมีชีวิตอยู่ออกไป


“ เอามันกลับวองโกเล่...แล้วส่งให้ฮิบาริ เคียวยะ”  เสียงทุ้มเย็นยะเยือกเอ่ยบอก ถึงจะไม่ตะโกนโวยวายแต่ยามาโมโตะ ทาเคชิที่เป็นแบบนี้นั้นน่ากลัวที่สุดเหล่าลูกน้องต่างรู้กันดี...ดูจากเลือดที่กำลังไหลลงสู่ปลายดาบก็คงรู้



ร่างสูงใหญ่หันกลับไปหาใจกลางของควันไฟ


“ โกคุเดระ!!!” 


สองมือผลักเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาห้ามจนล้มลงไป ฟอร์มูล่าวันสมัยใหม่หาได้ยากมากที่นักขับจะบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในสนามเพราะจะมีการป้องกันที่ห้องนักขับเป็นเป็นอย่างดีที่สุด...แต่ดูท่าว่าในครั้งนี้มันจะไม่ได้เป็นแบบนั้น

คนที่ยังติดอยู่ใน F138 HAYATO นิ่งงันทั้งๆที่ถูกเรียกให้ออกมาจากรถ...ไฟที่กำลังโหมกระหน่ำถูกเจ้าหน้าที่ช่วยกันฉีดพ่นโฟมดับเพลิงเข้าไป ร่างสูงใหญ่ฉุดกระชากร่างที่ดูเหมือนจะหมดสติออกมาจากซากรถสีแดง



“ โกคุเดระ”

มือใหญ่ถอดหมวกกันนอคออกด้วยหัวใจที่เต้นระรัว ความกลัวที่ไม่เคยรู้จักแล่นเข้าสู่หัวใจจนร่างกายรู้สึกสั่นสะท้าน ใบหน้าสวยไม่เป็นอะไรแต่สาเหตุที่ทำให้สลบสไลก็คงเป็นเพราะเลือดที่ค่อยๆไหลลงมาตามขมับ......กับท่อนขา.....ที่ชุ่มโชกไปด้วยโลหิต


“ โกคุเดระ......”

มือสั่นระริกลูบเสี้ยวหน้าที่ไม่ได้สติด้วยใจที่เต็มไปด้วยความกังวล...ทั้งๆที่ฟอร์มูล่าวันมีการป้องกันดีเยี่ยมที่สุดในโลกแต่โกคุเดระกลับมีสภาพแบบนี้.....นี่มันไม่ใช่เล่นๆแล้วนะ....


“ โกคุเดระ....”

ไม่ใช่แค่มือเท่านั้นที่สั่นสะท้านแต่เสียงที่เรียกออกไปก็สั่นจนรับรู้ได้...ก้อนสะอื้นจุกอยู่ที่ลำคอจนต้องสูดมันเข้าไป…


ใครจะรู้ว่าเพชฌฆาตก็มีน้ำตา



ฟื้นขึ้นมาสิ...ลืมตาขึ้นมาด่าว่าชั้นสิ....


หัวใจของชั้น....





“ ฮายาโตะ!!”   เสียงทุ้มที่คุ้นหูดังมาจากทางด้านหลัง ร่างแข็งแกร่งของรีไวลุกออกมาจากรถของตัวเองที่ยังไม่ทันจะจอดดี หมวกกันนอคถูกถอดทิ้งทั้งๆที่เสียงจากวิทยุสื่อสารเรียกให้กลับไปที่กริดยังดังไม่หยุด....ตอนนี้ทั้งสนามกำลังอยู่ภายใต้ธงสีแดง....RED FLAG

“ หนวกหู!”   เสียงดุดันตะโกนใส่วิทยุอย่างไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว จะแข่งต่อไม่ได้ก็ช่างเพราะตอนนี้ความปลอดภัยของเด็กในปกครองสำคัญที่สุด

“ ยามาโมโตะ.....”   แล้วใบหน้าของนักขับมือหนึ่งก็นิ่งค้างเมื่อเห็นว่ามาเฟียอย่างเขานั่งคุกเข่ากอดร่างไร้สติของโกคุเดระอยู่ตรงนั้น...อย่างผู้ชายคนนี้....อย่างรีไว....คงรู้ได้ในทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น...

“ แก!!! ฮายาโตะเป็นแบบนี้เพราะแกใช่ไหม?!! ไอ้สารเลว!!”   คอเสื้อเชิ้ตสีดำถูกกระชากก่อนจะถูกเหวี่ยงออกไป ใบหน้าที่มักจะนิ่งสนิทกลับแสดงออกว่าโกรธจัด แต่วินาทีแห่งความเป็นความตายก็ทำให้ไม่มีเวลาจะมาทะเลาะกัน คนเป็นผู้ปกครองอุ้มร่างบอบบางขึ้นรถพยาบาลไปทันที


และสนามนี้ก็เป็นสนามแรกนับตั้งแต่ที่ได้นักขับทั้งคู่มา ที่เฟอร์รารี่ไม่มีคะแนนแม้แต่แต้มเดียว...





2 OUT…






.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be Con.





อันที่จริงตั้งใจจะลงใกล้ๆวันที่ 9 เดือน 9 แต่โดนคนแถวๆนี้(?)ปาไหใส่หัว เลยแอบตัดมาลงก่อนซักตอนนึง =3= คงรู้เหตุผลแล้วชิมิว่าทำไมคุณกวางถึงอยากลงรวดเดียว TT[ ]TT อย่าทำร้ายเค้า~~~

เอ่อ อ่า...เอาเป็นว่าอธิบายศัพท์กันดีก่า // หลบ

ก่อนอื่นเลยขออธิบายเกี่ยวกับวองโกเล่ก่อน เพราะคิดว่ามีหลายๆคนไม่ได้อ่านรีบอร์นอ่ะนะ5555  วองโกเล่ก็เป็นมาเฟียอันดับหนึ่งของอิตาลีตามท้องเรื่อง ในรุ่นที่กล่าวถึงนี้เป็นรุ่นที่สิบของวองโกเล่ที่มีประวัติอันยาวนาน ซึ่งในภาษาอิตาลีสิบก็คือเดซิโม่  เพราะงั้นบอสของวองโกเล่อย่าง ซาวาดะ สึนะโยชิ // สึนะ // ทูน่า // อะไรก็ว่าไป...ก็เลยถูกเรียกด้วยภาษาอิตาลีว่า วองโกเล่เดซิโม่ค่ะ ซึ่งก็หมายถึงวองโกเล่รุ่นที่สิบนั่นเอง  // ในเรื่องออริ หนูก๊กของเราจะเรียกสึนะว่า รุ่นที่สิครับ! ตลอดเลย น่าร้ากกกก >////< // นอกจากบอสซึ่งเป็นใหญ่ที่สุด ปกติแล้ววองโกเล่แต่ละรุ่นก็จะมีผู้พิทักษ์อีก 6 คน มีชื่อเรียกตามระบบ(?)ของท้องฟ้า555  // หนูก๊กแกเป็นผู้พิทักษ์แห่งวายุ(ลมพายุ)ค่ะ // ยามะเป็นผู้พิทักษ์แห่งพิรุณ(ฝน) // คุณฮิ ฮิบาริ เคียวยะคือผู้พิทักษ์แห่งเมฆา(เมฆ) // มุคุคุ สัปป้า หรือ โรคุโด มุคุโร่คือผู้พิทักษ์แห่งหมอก(ก็หมอกนั่นแหละ) // แรมโบ้คือผู้พิทักษ์แห่งอัสนี(สายฟ้า) // เรียวเฮย์เป็นผู้พิทักษ์แห่งอรุณ(แสงตะวัน) เพราะงั้นบอสอย่างสึนะจึงเปรียบเสมือนท้องฟ้า ท้องนภา ที่คอยโอบอุ้มทุกๆสภาพอากาศเอาไว้ค่ะ

เอ่อ อ่า...ต่อไปก็เกี่ยวกับฟอร์มูล่าวันบ้าง

ตอนนี้ทั้งตอนอยู่ที่แคนาดาหมดเลยเนอะคะ อิอิ คืออันที่จริงจะไม่มีฉากแข่งพายเรือก็ได้แหละ แต่คุณกวางอยากเขียนอ่ะว่าเค้าไม่ได้ตะบี้ตะบันแข่งรถกันอย่างเดียวน้า นอกสนามเค้าก็หากิจกรรมอะไรทำกันแบบนั้นจริงๆ อย่างสนามในแคนาดานี่ก็เคยมีการแข่งเรือประเพณี(?)แบบนี้จริงๆแต่เหมือนปีหลังๆมานี้จะห้ามแข่งเพราะแต่ละทีมเริ่มจะจริงจังกับมันเหมือนจริงจังกับรถไปละ555 นอกนั้นก็มีไปเตะบอลการกุศลบ้าง เดินแบบบ้าง(อู้ววว) อะไรแบบนี้ >w<

ส่วนศัพท์เทคนิคในตอนนี้  เริ่มจากมอเตอร์โฮมก่อนเลย ก็อย่างที่เคยเล่าคร่าวๆไปบ้างแล้วว่ามันเป็นบ้านเคลื่อนที่ ปกติก็จะตั้งอยู่หลังพิตแหละ แต่ละทีมก็จะมีสองหลัง น่าจะถอดประกอบมาจากคอนเทนเนอร์อ่ะนะ ตามคุณอลองนักขับคนปัจจุบันของม้าลำพองไปทัวร์มอเตอร์โฮมกันเลยดีก่า จะได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น...คือ...เห็นแล้วจะอึ้งว่าไอ้ของแบบนี้นี่มันย้ายตามทีมไป 19 ประเทศทั่วโลกจริงๆหรอเนี่ยยยย!!! ดีกว่าบ้านตรูอีกอ่ะข้างในฟฟฟฟฟ




=w= คุณอลอง (เฟอร์นันโด อลองโซ่ สัญชาติสเปน) นี่พอโกนหนวดแบ้วอย่างวิ้งอ่ะ >////< 

ต่อไปก็เกี่ยวกับสนาม...ในแต่ละสนามก็จะมีหน้าตาไม่เหมือนกัน ทางตรง ทางโค้งก็จะไม่เท่ากัน ซึ่งเค้าก็จะมีหมายเลขของโค้งเพื่อเอาไว้สื่อสารละมั้งนะ ว่าตอนนี้รถอยู่โค้งไหนแล้ว จะให้แซงอะไรยังไงได้ที่โค้งไหน ไม่งั้นคงงงกันตาย5555 เค้าก็เลยเรียกมันง่ายๆงี้แหละว่า โค้ง 1 , 2 , 3 ,4 บลาๆๆๆ  และเค้าจะมีการแบ่งโซนในสนามค่ะเรียกว่า Sector ส่วนใหญ่ก็จะแบ่งเป็น 3 Sector ก็จะแบ่งตามความยาวถนนนั่นแหละค่ะ

อือ...มีไรอีกน้า....อ่ะ...ควอลิฟาย  ตอนนี้คุณกวางค่อนข้างเข้าใจวิธีการของมันแบ้วค่ะ  ก็อย่างที่บอกแหละว่าเวลาปล่อยรถแข่งเค้าไม่ได้ปล่อยเรียงหน้ากระดาษเพราะถนนบ้านไหนจะใหญ่เป็นสนามแบบนั้น...= =”...เค้าก็จะปล่อยตามความยาวถนนงี้แหละ ทีนี้มันก็เลยมีปัญหาใช่ป่ะว่าใครจะอยู่หน้าอยู่หลัง  เค้าก็เลยต้องมีการควอลิฟายเกิดขึ้นค่ะ  นั่นก็คือการจับเวลาเพื่อหาตำแหน่งการปล่อยรถในวันแข่งจริงนั่นเอง  การควอลิฟายจะทำกันวันนึงก่อนการแข่งซึ่งก็คือวันเสาร์นั่นเอง(วันแข่งจริงคือวันอาทิตย์) โดยที่เค้าจะมีเวลาให้ควอลิฟายทั้งหมด 3 รอบ รอบละ 15 นาที  ใน15นาทีนี้รถของแต่ละทีมจะออกไปวิ่งก็ได้ ไม่ออกก็ได้ (แต่ไม่ออกแกก็สตาร์ทอันดับบ๊วยไปแบ้วกันในวันแข่งจริงถถถ) ที่บอกว่าออกไปวิ่งนั่นก็คือเค้าจะจับเวลาค่ะ ว่าวิ่ง 1 รอบสนามเนี่ย คุณใช้เวลาไปเท่าไหร่ แล้วก็เอาเวลาพวกนี้แหละมาเรียงลำดับกัน เอาเวลาที่ดีที่สุดแค่รอบเดียวเท่านั้นของแต่ละคันอ่ะนะ  ซึ่ง!!! แล้วทำไมมันต้องให้ควอลิฟาย 3 รอบรอบละ15นาที? นั่นก็เพราะ ในQ1(การควอลิฟายรอบที่1) จะมีการตัดรถที่วิ่งช้าออกไปค่ะ คือเอาอันดับ 1-15 เท่านั้น รถที่วิ่งช้ากว่า 15 คันนี้ก็หมดสิทธิ์ในการควอลิฟายรอบที่สอง พอถึง Q2 ก็ตัดออกไปอีก...เหลือ10คันมั้งนะ  การจับเวลาหาอันดับจริงๆมันก็จะมาอยู่ใน Q3 นี่แหละค่ะ รอบนี้ก็ค่อยตะบี้ตะบันวิ่งให้เร็วที่สุดก็ยังได้มั้งนะ  ส่วนรถที่ถูกตัดออกไปก็ไม่ใช่ว่าเค้าจะไม่ให้ลงแข่ง ก็แค่อย่างน้อยก็หมดสิทธิ์ออกสตาร์ทในที่ที่ดีกว่า1ใน15เอ๊งงงง = =”

ก็....ประมาณนี้แหละค่ะ ใครงงตรงไหนก็ไม่ต้องถามนะค้า(แล้วจะบอกเพื่อ?) เพราะคุณกวางก็รู้อยู่แค่นี้แหละถถถถถ

อะ เอาเป็นว่า...ไม่ได้ต่อ GLIDE มาซะนาน อาจจะจำกันได้บ้างไม่ได้บ้าง555 (ขนาดคนแต่งยังลืม = = ) แต่จะพยายามแต่งให้จบก่อนวันที่ 9 เดือน 9 นี้ให้ได้นะคะ TTvTT หนทางยังอีกยาวไกล...ฝาก GLIDE FINAL ด้วยน้า~~~ ขอบคุณมากๆๆๆค่ะ m(_ _)m








4 ความคิดเห็น:

  1. ก๊กคุงงงงงงงง =[ ]=;;; อย่าตายนะลูก แงงงง //ถล่มไหใส่กวางซามะ
    ตอนแรกเปิดมาเป็นฉากหวานของลูกหมา ไหงตอนจบตัดไปแบบนั้นคะ ฟฟฟฟ

    คือหนูขำตรงที่อิเนียนบอกว่า “ เอามันกลับวองโกเล่...แล้วส่งให้ฮิบาริ เคียวยะ” อ่ะ
    แบบก้ากกกกก ถูกส่งตัวให้คุณฮินี่ทำให้รู้สึกเสียใจที่ยังมีชีวิตอยู่เลยใช่มั้ยคะ 5555555
    โอ๊ยตาย เอาใหมันรู้ถึงอิทธิฤทธิ์ความโหดของพี่ท่านเลอค่ะ!! 555

    ปล.แอบสงสารเนียนนินุง QvQ //แต่ความหมั่นไส้มันมีมากกว่าค่ะ #เดี๋ยวนะะะ

    ตอบลบ
  2. ฮืออออออ กวางซาม้าาา เอลวินไม่เอาตู้โทรศัพท์มาให้(?)ง้ะะะะะะะ #หล่อนจะแหกโค้งตั้งแต่บรรทัดแรกเพื่ออออ ถถถถถถถ แต่เค้าก็ระเบิดตู้ม(?)ทุกทีจริงจังนะคะเวลาที่สมองประมวลขึ้นย้อนไปถึงซีนตู้โทรศัพท์ บอกตรงๆว่าจะไปหาตู้โทรศัพท์มายัดด๋อยเข้าไปแบ้ววววว ถถถถถถถถถถ #โดนกระทืบตายอยู่หน้าตู้

    โฮรววววววววววววววววว แล้วท่านท่อนขากระหน่ำ(?)มากจนเอเลนถึงขั้นสลบไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่เมื่อวาน บ่าว(?)จิไม่ทนนนนนนน ฟหกกสวกสดดดดดดดดดาสสส แล้วไอ้ลูกอ้อนนนนนของท่านท่อนขานั้นมันอะไรรรรร คนเฉยชาที่ชอบจะเป็นฝ่ายทิ้งเจ้าลูกหมาไว้ที่เตียง(?)นั่นหายไปไหนหมดดดดดดแล้วว ฮือออ เค้าคลั่งมากๆๆเลยนะคะที่คุณรีไวคว้าต้นแขนเอเลนไว้เพื่อที่จะบอกแค่ว่า พรุ่งนี้เค้าจะไปไหน(?) ฮว๊ากกกกกกกก ฟีลนี้มันไม่ทนจริงๆ แถมคำตอบของเอเลนนี่ม้วนมรณาลงไปฟินมากๆ ฮือออ น่ารักมากๆๆๆๆ น่ารักจริงๆๆๆ จะทนไม่กดเอเลนอีกรอบได้ยังไงไหวววววฟฟฟฟฟฟ

    แล้วคือเค้าฟินมากกกกกกก อะไรคือความมุ้งมิ้งน่าต้นกระบองเพชรที่ไร้ซึ่งความหวานนอก(?) ต้นกระบองเพชรเค้าหวานเยิ้มกันข้างในนนนน อ๊ากกกกก ฟีลหมีเนียนมันเนียนมากกกก ยิ่งเป็นเวอร์พ่อเนียนโตกว่าแล้วมาตะล่อมจีบเด็ก(?)แบบนี้ยิ่งไม่ทนนนนนนนน เพชฌฆาตที่ไม่มีหัวใจกับการสังหารคนมานับต่อนัก แต่กลับมายืนพากย์ต้นกระบองเพชรด้วยหน้ายิ้มแย้มแป้นแล้นว่าได้รับความรักด้วยการรดน้ำจากคนสวย ไม่ไหวแล้วค่ะกวางซามะ คือไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกอยากลงไปม้วนหลังที่ม้วนให้ตายยังไงก็ไม่ไป(?)ยังไงเลยยยย ยิ่งพอคิดถึงเบื้องหลังของยามะมากแค่ไหน ฉากแค่นี้เค้าก็ยิ่งฟินนนนนน ขนาดไม่แตะเนื้อต้องตัว(?)เค้ายังฟินขนาดนี้ถ้าหนูก๊กโดนกดสักที(?)เค้าได้ตายตาหลับ #โดนท่านท่อนขาเตะเสยฟฟฟฟฟฟฟ แล้วคือหนูก๊กน่ารักมากกกกกง่ะกวางซามะ คือเพราะหนูก๊กเป็นแบบนี้ถึงได้ไปไหนไม่รอดจริงๆๆ ทั้งๆที่ปากก็บอกว่าไม่ชอบ บอกว่ารำคาญ แต่ก็ยังปล่อยให้มีหมีดำมาป้วนเปี้ยนอยู่ข้างๆตลอดเวลาแบบนี้ จะให้ทนยังไงไหววววว ยิ่งตอนที่คนปากไม่ตรงกับใจหาทางออกไม่ได้กับอาการเขิน(?)ที่จะข่มไม่อยู่จนต้องหันไปสาดน้ำใส่เพชฌฆาตด้วยการบอกว่าเป็นกระบองเพชรใช่มั้ยเอาน้ำไปกิน หนูก๊กน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ชอบมากกกกกกกกกก ฮืออออออออออออออออออ สครีมไม่เลิกจริงจัง

    ฉากครอบครัวสี่คนเค้าฟินมากจริงๆนะคะ ถ้าหากว่าอนาคตภาพพวกนี้จะยังอยู่ต่อไปเรื่อยๆก็ดี หากกรอบรูปจะถูกเติมจนเต็มไม่มีที่ให้กับความว่างเปล่าเหมือนก่อนหน้านี้ มันคงจะเป็นอะไรที่มีความสุขมากๆ และตอนนี้ถึงเค้าจะฟินมากที่เนื้อเรื่องเริ่มโฟกัสไปที่คู่ยามะก๊กบ้างแล้ว แต่เค้าก็ยังทำใจไม่ได้กับความดราม่าที่ก่อตัวจนใกล้ได้ระเบิดแล้วอยู่ดี แงงงง ถึงแม้ว่ากวางซามะจะปูทาง(?)ให้ทำใจตั้งแต่ตอน VIRGINแล้วก็เถอะนะคะ ฮืออออออออ แต่มันบีบหัวใจจจจจจจริงๆๆๆนะคะ ว่าท้ายที่สุดแล้วหนูก๊กจะต้องอยู่ในสภาพแบบไหน อะไรที่มันยังไม่กระจ่างชัดเจนทำให้คนอ่านจะน้ำลายฟูมปากนำแบ้ววว ฮือออออ กวางซามะอย่าทำร้ายบ่าว(?)น้ำลายฟูมปากด้วยความปวดใจกับความมาม่ามากนะคะ ฮือออออ อายุเยอะแล้ว(?)หัวใจมันต้อแต้ #อันนี้ฉันแซะตัวเองงงงงท่อนขาประเคนมาทำม้ายยยยยฟฟฟฟฟ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เค้าชอบฉากแข่งพายเรือเวอร์ตามมีตามเกิด(?)จากนักขับรถสูตรหนึ่งนี้มากมายยยยยทำไมมันอะฮิ้งงงงกันได้ขนาดนี้ พวกคุณๆๆนักแข่งมีมุมแบบนี้ด้วยยยยยยย โอ่ยยยยยยยย จะไปทนยังไงไหวววววววว กวางซามะบรรยายดีมากๆๆจริงๆนะคะ เหมือนเค้าได้เข้าไปอยู่ในพิตการาจสีแดง(?)นี่ด้วยจริงๆ คือจากที่แต่ก่อนไม่เคยมีความคิดที่จะสนใจเรื่องราวในพิต(?)เลยแม้แต่น้อย ตอนนี้กลับคิดว่ามันเป็นสถานที่น่าสนใจโฮกกกกกกกกกกกกกกกกก ได้ฟีลเอเลนพยายามอยากจะลักลอบเข้าไป(?)มากมาย ฮืออออ ชาบูกวางซามะมากจริงๆค่ะ ขอบคุณจริงๆเลยที่แต่งฉากนี้ให้อ่าน อ่านแล้วรื่นเริงมากๆๆ มากจนอยากจะไปเจาะรูเรือท่านท่อนขาให้จมเร็วๆ(?) ถถถถถถถถถถถถถถ เตี้ยแต่หนัก!!!!!!!!! กร๊ากกกมากกก คือชาบูฮันซี่ที่โดนกระทืบรายแรก(?) 55555555555 ก็คนมันอยากเห็นท่านท่อนขาเซ็กซี่(?)กับการว่ายน้ำ(?)บ้างอะไรบ้าง อะฮิ้งงเลยยยย อ่ะ แต่ก่อนจะไปเจาะรู(?) ขอน้วยหนูก๊กในชุดชวนโฮก(?)อย่างการถอดชุดหมีครึ่งบนแล้วผูกไว้ที่เอวก่อนนนนนะคะ ไม่ไหวแล้วววววววชุดนี้ไม่ไหววแล้ววววว ยามะ!!!!!!!!!!!ที่บอกว่ามาเอาของนี่ คือจะมาถอดชุดหนูก๊ก(?)ออกใช่ม้ายยยย มาด่วนนนนน #เดี๋ยววววหล่อนนนนนนจะชนกวาดกำแพงพังไปถึงไหนนนนฟฟฟฟฟฟ คือได้ข่าวว่าตอนนี้กำลังนำไปสู่ผลลัพธ์ดราม่าคนอ่านก็สติพังอยู่เนี่ยล่ะค่ะ TT

      แล้วก็กลับมาตายยยยยยกับคู่รีเอ…..อะไรคือการที่ลูกหมาโทรมาแล้วพ่อคุณยอมทิ้งเรื่องไร้สาระแต่โคตะระจริงจังนิดๆ(?)ตรงหน้าเพื่อหลบไปคุยเงียบๆกานนนนนนนนนน่ะหาาาา เป็นฉากการคุยโทรศัพท์ที่เค้าไม่ทนมากๆๆๆจริงๆๆนะคะ ฮืออออ เอเลนท่านั่งทับส้นมีหางกระดิกมันน่าฟัดมากๆๆๆๆๆ ไม่ทนนนนแล้วไหนฟีลความอบอุ่นใจดีของท่านท่อนขาที่แผ่ซ่าน(?)ออกมาหลังจากที่ยอมรับว่าคบกับเจ้าเด็กเหลือขอนี่ชัดเจน โฮรกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไหนจะไอ้การจุ๊บกันผ่านโทรศัพท์ โฮรวววววววววววววววววววว ความสุขนี้อยู่นานๆไม่ได้เหรอ TT

      อ่าแล้วก็เค้าฟินกับผู้ชนะการพายเรือตามมีตามเกิดนี้มากจริงๆนะคะ 5555555555555 อะไรคือหนูก๊กชนะเพราะคนพยายามขัดขวางแต่ดันกลายเป็นช่วงส่งเสริมให้เรือเข้าเส้นชัยแทน โอ่ยยยยย น่ารักกกกกกกกกมากง้าาาาาา
      และเหนือสิ่งอื่นใดของพาร์ทนี้ ถ้าไม่พูดถึงฉากเข้านอนของคู่หมีเนียนแมวซึน(?)ก็ไม่ใช่แม่ยก 8059แบ้ววววววววววว อะไรคือการที่คนสวยยอมลากทั้งหมอนทั้งผ้าห่มลงมานอนที่พื้นกับหมีทีต้องนอนกลางดินกลางทรายกินเจ้าของทุกคืน(?)กานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แล้วพ่อเนียนยังได้กอดหนูก๊กหลับอีกกกกกกกกกกกกก จะมีอะไรฟินไปกว่านี้กานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน ขอสครีมแบบนอนสต๊อปปปปุเลยยยยย ฮืออออ รักคู่นี้จริงจังงงง

      แล้วก็ท้ายตอนของพาร์ทนี้สอนให้รู้ว่าควรตัดเล็บ(?)ก่อนอ่าน TT #ประเด็นอะไรของหล่อนกันนนนนนนน แต่เค้าลุ้นจนเล็บจิกเข้าอุ้งมือตัวเองช้ำเบย อ่านไปกำมือไปแบบไม่รู้ตัวเลยจริงๆ ฮือออออออ ปวดใจมากกกจริงๆกับฉากรถพลิกคว่ำ ฉากที่ F138 HAYATO กลายเป็นเศษซากเละเทะทั้งๆที่หนูก๊กยังนั่งอยู่ในนั้น TT ________ TT กวางซาม้าาาาาาา มาปลอบใจเค้าด้วยฟิคสั้นคู่นี้หวานๆ(?)เลยนะคะ ฮืออออออ นี่คือการอ้อนวอน(?)หน้าแนบพื้น(?)เบยยย #ท่านท่อนขาค่ะกรุณายกท่อนนขาออกค่ะอย่าเหยียบซ้ำให้หน้าจมดิน(?)ค่ะต้องการแค่แนบพอนะคะแนบบบบพอ ถถถถถถถ บอกตรงๆว่าลุ้นยามะมากๆๆ ลุ้นแม้ว่าในหัวนี่ไม่อยากรับรู้เหตุผลที่ยามะเลือกที่จะจับคนร้ายมากกว่าให้หนูก๊กปลอดภัยแล้วก็ตาม ลุ้นว่าอย่างน้อยก็ขอให้มันไม่ต้องรุนแรงมาก แต่แล้วภาพที่ว่า F138 HAYATO พลิกคว่ำก็ทำเค้าช็อค ฮือออออออออออออออออ นายทำอะไรรรรรรรรร ยามะะะะะ แกทำอะไรอยู่กันนนนนนน แกจะแลกชีวิตหนูก๊กกับเรื่องนี้ มันดีแล้วใช่มั้ยยยยยามะ ถ้าหนูก๊กไม่หายใจแล้วแกจะยังอยากหายใจอยู่ต่อไปไหมมมมมมมม ถ้าหากว่าโชคชะตาที่เล่นตลกเมื่อสิบปีที่แล้วได้เวลากลับมาช่วงชิงเอาชีวิตหนูก๊กอีกครั้ง นายจะทำยังไงกัน T __ T อ๊ากกกกกกกกกกกก อินมากกกกกกก ปวดใจมากกกกกกก และชาบูกวางซามะมากๆๆๆๆ เค้าไม่ชอบความดราม่าก็จริงแต่ว่า พลอตเรื่องนี้มันสุดยอดจริงๆนะคะ ในขณะที่เค้าคิดว่ายามะจับคนร้ายได้แน่ๆ หยุดหัวกระสุนที่ยิงออกไปได้แล้วแท้ๆ แต่คนร้ายกลับมีสองคนซะแบบนั้น คือจุดนี้เป็นจุดหักมุมที่แบบต้องเอามือทึ้งหัวตัวเองกันเลยทีเดียว TT ชอบบมากกกกและปวดใจมากกจริงๆๆ

      ขอพูดถึงฟีลคลั่งของเพชฌฆาตที่หลังน้ำตาในตอนท้ายก่อนไปอ่านต่อ > < #นี่หล่อนจะพิมพ์ยาวจนกลายเป็นเรียงความวันบุพการีแล้ววว แต่เค้าคลั่งตามยามะจริงๆนะคะ เพราะการแสดงอารมณ์ของหมอนี่เลยทำให้เค้าน้ำตาคลอ TT คือการเรียกชื่อของเนียนตอนที่พาหนูก๊กออกมาจากซากรถ ทั้งการคุกเข่ากอดร่างไร้สติเอาไว้ ทั้งน้ำตาเพชฌฆาต ฮืออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ เค้าเสียใจจจจจจง่ะกวางซาม้าาา อย่าลืมฟิคปลอบขวัญ(?)ให้เค้าด้วยนะก๊ะ ฮืออออออ เค้าขวัญเสีย(?)จริงๆนะคะ ฮืออออออ

      ลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ10 ธันวาคม 2557 เวลา 06:55

    ช่วงต้นของตอนนี้อะไรๆก็ดูใสๆมุ้งมิ้งไปหมด
    แต่พอเจอฉากแข่งรถเท่านั้น!!!!
    สงสารหนูก๊ก
    คือยามะพยายามเต็มที่แล้วแต่มันสุดกำลังจริงๆ
    แล้วเจ็บหนักแบบนี้คิดว่าพักยาวอ่ะ
    ทั้งรักษาทั้งฟื้นฟูสภาพร่างกาย
    ยามะแทบใจสลายอ่ะ
    ไหนจะต้องทนรับแรงกดดันจากรีไวล์อีก
    หนักข้อล่ะงานนี้

    ปล คนเขียนข้อมูลแน่นปึ้กมากอ่ะ ^^

    ตอบลบ