KHR AuFic HBD.Hayato [8059 1827] Ryuusei : 14



KHR AuFic HBD.Hayato [8059 1827]   Ryuusei : 14

: KHR Fanfiction Au
: 8059  1827
: Period Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ





แสงจันทร์นวลผ่องส่องหล้าเต็มท้องฟ้า

นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้จำต้องละจากดวงจันทร์กลมโตเมื่อรู้สึกได้ว่าเจ้าม้าสีดำเริ่มวิ่งไปผิดทาง....จากพื้นถนนที่ปูด้วยแผ่นหินเริ่มได้กลิ่นดินกลิ่นหญ้า...เส้นทางที่แคบลงจนไม่คิดว่านี่จะเป็นทางกลับคฤหาสน์คามาคุระทำให้ใบหน้าเล็กเงยขึ้นไปถามคนที่ยังคงนั่งซ้อนอยู่บนหลังม้าด้วยกัน

“ เจ้า....กำลังจะพาข้าไปไหน?”        แล้วรอยยิ้มที่มุมปากของฮิบาริ เคียวยะก็ทำเอาแผ่นหลังเล็กถึงกับเสียววาบ....ถึงแม้จะคืนดีกันแล้ว แต่ฮิบาริ เคียวยะก็คือฮิบาริ เคียวยะวันยังค่ำ แล้วยิ่งเรื่องที่ผ่านมาก็ถือว่าเขาเองก็มีส่วนผิดด้วยแล้ว....

“ ฮึ....ข้าก็กำลังจะพาเจ้าไปลงโทษน่ะสิ”       เสียงทุ้มกระซิบอยู่ที่ใบหูจนคนฟังได้แต่ลอบกลืนน้ำลาย...ไม่อยากจะคิดเลยจริงๆว่าคนคนนี้จะกลั่นแกล้ง จะทรมานทรกรรมเขายังไงอีก

“ เจ้าคิดว่า...เจ้าที่กล้าทรยศข้าโดยการจะหาผู้หญิงคนอื่นมาให้นั้นจะรอดพ้นจากการลงโทษไปได้รึไง?”       ใบหน้าเล็กได้แต่ก้มงุดอย่างรู้ว่าตัวเองผิด แต่น้ำเสียงได้ใจจากใบหน้าคมก็ทำเอาอยากจะดื้อขึ้นมายังไงไม่รู้

แต่ก็นับว่ายังดีที่ ฮิบาริ เคียวยะ เชื่อใจเขา....เชื่อ.....ว่าเขาไม่ได้เต็มใจที่จะต้องร่วมมือกับท่านย่า

เพราะฉะนั้นคืนนี้เขาจะยอมให้ลงโทษแต่โดยดี เพื่อตอบแทนความเชื่อใจนั้น


นัยน์ตากลมโตเพ่งมองไปในความมืด สองข้างทางนั้นไม่มีแม้แต่คบเพลิง หากคืนนี้ไม่ได้เป็นคืนเดือนเพ็ญคงไม่มีวันเห็นทางเดินแน่

เจ้าม้าสีดำชะลอความเร็วจนกระทั่งหยุดนิ่งไปในที่สุดเมื่อบานประตูไม้ดูเก่าคร่ำคร่ามองเห็นอยู่ตรงหน้า

ฮิบาริ เคียวยะ กระโดดลงจากหลังม้าก่อนจะใช้มือผลักมันเบาๆ เสียงเอี๊ยดอ๊าดดังออกมาจากบานพับสนิมเขรอะจนร่างเล็กที่ยังคงนั่งอยู่บนหลังม้าต้องลอบกลืนน้ำลาย...หรือว่าจะพาเขามาลานประหารอะไรประมาณนั้นหรือเปล่า? เพราะบรรยากาศรอบตัวมันช่างดูวังเวงเสียเหลือเกิน

มือใหญ่เอื้อมมาจูงม้าให้เดินเข้าไป ทำเอาใบหน้าใสถึงกับร้อนผ่าว....ใครจะคิดว่าคนอย่าง ฮิบาริ เคียวยะ จะมาจูงม้าให้เขานั่งแบบนี้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆก็เถอะ

ร่างเล็กถูกอุ้มลงมาจากหลังม้าก่อนที่มือใหญ่จะลากให้เดินตามไปด้วยกัน  สะพานไม้ส่งเสียงเอี๊ยดๆเช่นเดียวกับประตู มันทอดยาวข้ามบึงขนาดใหญ่ไปยังอีกฝั่งที่มีเรือนแบบญี่ปุ่นหลังขนาดกลางตั้งอย่างสง่างามท่ามกลางแสงจันทร์

นอกจากคฤหาสน์ริมน้ำของท่านย่าแล้ว เขาก็เพิ่งจะรู้ว่าคามาคุระยังมีเรือนที่ตั้งอยู่กลางน้ำแบบนี้อยู่อีก

ตัวประกันจากอิสุเดินตามแรงลากขึ้นไปบนเรือน ถึงภายนอกจะดูเก่าแก่แต่ภายในกลับสะอาดกว่าที่คิด เพราะฝ่าเท้าเปลือยเปล่าที่เหยียบลงไปบนพื้นไม้ของเรือนนั้นไม่ได้รับรู้ถึงฝุ่นผงที่เปื้อนอยู่เลย

บานประตูห้องแล้วห้องเล่าถูกเปิดออกก่อนที่ร่างทั้งสองจะเดินเข้าไป เพราะมีแสงของจันทรา ทำให้เรือนที่ร้างผู้คนนี้ไม่น่ากลัวเท่าที่คิด

ฮิบาริ เคียวยะ พาเขาเดินเข้าไปโดยไม่พูดอะไร จนกระทั่งถึงห้องสุดท้ายมือที่บีบข้อมือเขามาตลอดกลับคลายออก  ร่างแข็งแกร่งเดินไปเปิดประตูบานเลื่อนที่ติดกับสวนอย่างช้าๆ แล้วภาพตรงหน้าก็ทำเอานัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ถึงกับเบิกกว้าง

มันไม่ใช่สวน....แต่เฉลียงนั้นยื่นออกไปในบึงดำมืด.....และยิ่งมันมืดเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งสามารถมองเห็นฝูงหิ่งห้อยได้มากมายเท่านั้น ภาพของหิ่งห้อยนับร้อยนับพันทำเอาร่างกายขยับเข้าไปใกล้โดยไม่รู้ตัว แสงระยิบระยับยิ่งทำให้ดวงตาละไปไหนไม่ได้.....สวย.....ช่างเป็นสถานที่ที่งดงามอะไรเช่นนี้

“ บางครั้งแม่ข้าก็ถูกพามาอยู่ที่นี่....”         เสียงทุ้มเอ่ยออกมาพร้อมกับท่อนแขนแข็งแรงเกี่ยวกระหวัดลำตัวเล็กจากทางด้านหลัง ทุกครั้งที่ได้ฟังร่างสูงพูดถึงแม่ทีไร น้ำเสียงเรียบเฉยนั้นจะเจ็บปวดโดยที่เจ้าตัวเองก็คงจะไม่รู้ตัว

แล้วยิ่งในค่ำคืนนี้....ทำไมเขาถึงรู้สึกได้ว่ามันยิ่งหม่นหมองกว่าเดิมหลายเท่า

“ ผู้หญิงคนนั้นต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเพื่อให้กำเนิดทายาท แล้วยังต้องทนดูสามีของตัวเองไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่นเพราะที่นี่มีสองสายตระกูล....ต้องอยู่อย่างเรียกร้องอะไรไม่ได้ เป็นนายหญิงที่มีแต่ต้องทนต่อกฎเกณฑ์ซึ่งมีแต่จะทำให้ต้องตรมใจ....ข้า....ไม่อยากเห็นเจ้าเป็นเช่นนั้น”        คำพูดที่ได้ยินทำเอาร่างกายถึงกับนิ่งค้าง....นี่จะลงโทษเขาหรืออย่างไร ทำไมถึงทำให้น้ำตาจะไหลลงมาแบบนี้

สองแขนวางทาบทับลงไปบนท่อนแขนแข็งแรงที่กอดเอวตนอยู่ก่อนจะกอดกระชับมันให้แน่นขึ้น ใบหน้าใสเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข......


อยากจะขอบคุณท่านพ่อ...ที่ส่งข้ามาเป็นตัวประกันอยู่ที่นี่....ส่งให้มาเจอกับหัวใจดวงนี้


หิ่งห้อยตัวน้อยบินลอยไปลอยมาอยู่รอบกาย บรรยากาศละมุนละไมทำเอาอยากจะจมดิ่งลงไปในร่างกายของกันและกัน มือใหญ่เลื่อนขึ้นมาที่หัวไหล่บางก่อนจะดึงคอกิโมโนออกเล็กน้อยพอให้ใบหน้าคมจะก้มลงไปฝังร่องรอยสีกุหลาบเอาไว้ได้

เสียงครางเครือในลำคอดังออกมาให้ได้ยินเมื่อรอยจูบมันมากขึ้นเรื่อยๆ มือเริ่มเลื้อยเข้าไปตามรอยแหวกของกิโมโนก่อนจะลูบไล้ผิวเนื้อนวลเนียน

และในขณะที่ใบหน้าเล็กกำลังเคลิบเคลิ้ม ร่างกายก็ถูกตวัดลงไปนอนกับพื้นเสื่อทาทามิ แต่แล้วนัยน์ตากลมโตก็ต้องมีแววพิศวงเมื่อจู่ๆ ฮิบาริ เคียวยะ ที่ตามลงมาคร่อมเขาเอาไว้กลับพลิกตัวเขาให้ขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามนั่นแทน

แล้วคำตอบของคำถามที่ลอยอยู่เต็มหน้าก็ถูกเฉลยออกมาจากริมฝีปากของเจ้าเมืองคามาคุระ

“ วันนี้เจ้าต้องเป็นคนทำให้ข้า....นี่คือการลงโทษ”        รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เผยอยู่บนใบหน้าคมให้ร่างเล็กบางถึงกับชะงักค้าง

“ ขะ  ข้า?”      ใบหน้าใสเริ่มจะแดงระเรื่ออย่างรู้สึกอาย จะให้เขาเป็นคนทำเรื่องแบบนั้นน่ะหรอ? ใครมันจะไปทำได้!

“ ถ้าไม่ทำข้าจะไม่ยกโทษให้ แล้วก็ต้องทำจนกว่าข้าจะพอใจด้วยล่ะ”        ตอนนี้ตัวประกันจากอิสุรู้สึกอยากตายขึ้นมาทันที การลงโทษแบบนี้มันมีใครเขาทำกันบ้างเนี่ย?!

“ หึ เริ่มได้แล้วเจ้าสัตว์กินพืช....ถ้าข้าไม่พอใจ เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้กลับไปพบหน้าน้องชายสุดที่รักนั่นเลย”


โหดร้าย....

คำคำเดียวที่ลอยวนเวียนอยู่ในหัวเล็กๆ ที่พยายามเม้มปากแน่นอย่างระงับความอาย....ใบหน้าน่ารักแดงเถือกเมื่อจินตนาการถึงสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ.....จะให้เขาทิ้งตัวลงไปให้ตรงนั้นของฮิบาริ เคียวยะใส่เข้ามาด้วยตัวเอง แล้วขยับด้วยตัวเอง....อ๊า~~~~!!!

ข้าจะทำได้ยังไง?!

แค่คิดก็อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว!


โหดร้าย เจ้ามันโหดร้ายที่สุด!!!!


ท่านพ่อ...เมื่อกี้นี้ข้าขอถอนคำพูด...ข้าไม่อยากขอบคุณท่านแล้วที่ส่งข้าให้มาเจอกับเจ้าคนขี้แกล้งคนนี้!!


มือใหญ่เริ่มลูบไล้อยู่ที่ต้นขาขาวซึ่งโผล่พ้นรอยแหวกของกิโมโนเพราะนั่งคร่อมอยู่บนหน้าท้องของฮิบาริ เคียวยะ ค่ำคืนอันโหดร้ายระคนรัญจวนใจยังคงดำเนินต่อไป เช่นเดียวกับเสียงครางที่ผสมผสานไปกับเสียงหอบหายใจ


จนกระทั่งแสงของวันใหม่ได้เข้ามาแทนที่แสงริบหรี่ของหิ่งห้อยตัวน้อย...














ร่างบอบบางของเชลยศึกจากอิสุนั่งแกว่งขาอยู่ที่ชานไม้อย่างเบื่อหน่าย...หลายวันมานี้ไม่รู้ว่าเจ้าฮิบาริ เคียวยะ พาพี่ชายของเขาไปไหน ไม่ว่าจะไปแอบดูยังไงก็ไม่เห็นเงาร่างเล็กๆนั่นเลย

ใบหน้าสวยเงยมองท้องฟ้าใส...และเพราะแบบนั้นมันยิ่งทำให้เวลาของเขายิ่งยาวนานขึ้นกว่าเดิม แต่ก่อนยังไปนั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่เรือนของพี่ชายจนหมดไปได้วันนึงๆ แต่ตอนนี้กลับไม่มีแม้แต่ใครให้พูดคุยด้วย...หัวใจไม่รักดีมันเลยเผลอคิดไปถึงใครบางคนที่จากไปนานเกือบเดือน

เมื่อไหร่เจ้าจะกลับมา.....

“ อ๊ะ!”      ใบหน้าสวยผงะไปก่อนจะสะบัดหน้าไปมา....ไม่ๆๆๆ ข้าไม่ได้คิดถึงเจ้าบ้านั่น ไม่ได้อยากจะให้กลับมาเลยด้วย!


เพล้ง!!!


เสียงของหล่นลงพื้นก่อนจะแตกกระจายทำให้ไหล่บางสะดุ้งเฮือก ใบหน้าสวยหันไปมองที่ระเบียงทางเดินซึ่งเชื่อมต่อมายังเรือนของยามาโมโตะ และเมื่อมองเห็นว่าเป็นใครที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ถึงกับถอนหายใจออกมา....นี่ก็เป็นเพราะว่าทั้งพี่ชายของเขา ทั้งฮิบาริ เคียวยะ ต่างก็ไม่อยู่ทั้งคู่.....คนคนนั้นเลยหาเรื่องมากลั่นแกล้งเขาได้ทางสะดวกยิ่งกว่าเดิม

ท่านหญิงมิซึโกะกำลังยืนกรีดพัดอยู่ตรงหน้าข้ารับใช้ที่มีท่าทางลนลาน ถาดอาหารที่คงจะเป็นของเขาหล่นแตกกระจายอยู่เต็มพื้น

ใบหน้าสวยถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นเดินไปดู จะปล่อยข้ารับใช้คนนั้นเอาไว้ก็ดูจะน่าสงสารเกินไป เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของท่านหญิงคนนั้นคือเขาต่างหาก

“ เกิดอะไรขึ้น?”        เชลยศึกจากอิสุถามกับข้ารับใช้ทั้งๆที่ดูก็รู้ว่าคงถูกท่านหญิงมิซึโกะปัดถาดจนร่วงลงไป ใบหน้าสวยหันไปพูดคุยกับข้ารับใช้โดยพยายามไม่สนใจร่างระหงที่ยืนทำหน้าเหยียดๆอยู่ใกล้ๆ

“ เอ่อคือ...ดะ เดี๋ยวข้าจะไปเอามาให้ท่านใหม่ ท่านรอหน่อยได้หรือไม่?”        ข้ารับใช้พูดด้วยท่าทางกล้าๆกลัวๆ ใบหน้าซีดเซียวไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองคนสองคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น และในขณะที่เธอกำลังจะเดินกลับไปที่ครัว พัดที่อยู่ในมือของท่านหญิงก็ถูกยกมาขวางเอาไว้

“ เจ้าไม่ต้อง!!”        น้ำเสียงแข็งกระด้างเอ่ยออกมาจากริมฝีปากสีแดงสด นัยน์ตาสีดำสนิทตวัดมามองที่เชลยศึกร่างบางอย่างเหยียดหยาม

“ เป็นแค่เชลยศึก อาหารของตัวเองก็ควรจะไปเอาเองสิ! อย่าได้สำคัญตัวผิด!”      ข้ารับใช้ถึงกับสะดุ้งเฮือกก่อนจะมองทั้งสองฝ่ายที่เชิดหน้าเข้าหากันด้วยใบหน้าเลิ่กลั่ก ฝ่ายหนึ่งก็เป็นท่านหญิงคนสำคัญ ส่วนอีกฝ่ายก็เป็นสินสงครามที่ท่านทาเคชิสั่งเอาไว้ให้ดูแลเป็นอย่างดี....และหากคนคนนั้นรู้เข้าว่าเธอปล่อยให้โกคุเดระ ฮายาโตะ ต้องไปยกข้าวเอง เธอคงโดนลงโทษอย่างแน่นอน

ใบหน้าสวยยังคงเชิดใส่ใบหน้างดงามที่ถูกแต่งแต้มเอาไว้ด้วยเครื่องสำอาง ถึงแม้จะไม่อยากอ่อนข้อให้กับผู้หญิงคนนี้แต่ข้ารับใช้คนนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรผิด นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองข้ารับใช้ที่มีใบหน้าราวกับจะร้องไห้พรางถอนหายใจ ถ้าเรื่องวุ่นวายนี่รู้ไปถึงหูของยามาโมโตะ หรือแม้แต่พี่ชายของเขากับฮิบาริ เคียวยะ ข้ารับใช้คนนี้ก็อาจจะถูกลงโทษได้

“ เดี๋ยวข้าไปเอาเอง”       เชลยศึกร่างบางตัดบทก่อนจะเดินเชิดหน้าผ่านท่านหญิงที่ยืนยิ้มสะใจไป  ได้ยินเสียงข้ารับใช้ทำท่าจะเดินตามมาแต่น้ำเสียงหวานปานเคลือบเอาไว้ด้วยยาพิษก็สกัดกั้นไม่ให้เธอตามมารับใช้เขาได้

มันจะอะไรกันนักกันหนานะ!!




ใบหน้าสวยยื่นเข้าไปในห้องครัวที่บัดนี้เงียบสนิท สงสัยว่าพ่อครัวคงจะกลับไปแล้วส่วนพวกข้ารับใช้ต่างก็คงจะยกอาหารไปให้เจ้านายของตัวเอง ร่างบอบบางก้าวขาเข้าไปในห้องครัวอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะจริงๆแล้วเขาเองก็ไม่ค่อยจะคุ้นเคยกับสถานที่ที่มีแต่กลิ่นอาหารแบบนี้นัก ยิ่งห้องครัวของที่นี่ก็เพิ่งเคยได้เข้ามาเป็นครั้งแรก

นัยน์ตาสีมรกตกวาดมองไปรอบกายอย่างรู้สึกเสียดายที่ไม่ยอมดึงดันพาข้ารับใช้คนนั้นมาด้วย เพราะห้องครัวที่กว้างใหญ่อะไรอยู่ตรงไหนบ้างเขาก็ไม่รู้เลย ทั้งอาหารทั้งถ้วยจาน  จะต้องไปหยิบมาจากตรงไหน แล้วอะไรเอาไว้ใส่อะไร...ตอนนี้มีแต่คำถามที่ทำเอาใบหน้าสวยต้องหน้านิ่วคิ้วขมวด

สมองเริ่มประมวลผลนึกย้อนไปถึงอาหารที่กินเข้าไปในแต่ละวัน ก่อนจะเดินเข้าไปเปิดหม้อและถาดที่เรียงรายอยู่นั้นว่ามันมีอาหารอะไรบ้าง

และกว่าจะหาจานชามมาใส่พวกมันได้ เวลาก็ล่วงเลยไปนานพอดู

มือบางยกขึ้นมาปาดเหงื่อก่อนจะยืนมองอาหารในถาดอย่างภาคภูมิใจ ถึงจะไม่ใช่คนทำขึ้นมาเองแต่อย่างน้อยก็จัดมันเองแหละน่า แค่นั้นสำหรับชนชั้นปกครองเช่นเขาก็ไม่ใช่งานง่ายๆเลยนะ

ท่อนแขนเล็กค่อยๆยกถาดก่อนจะเดินอย่างระมัดระวังเพื่อกลับเรือนของยามาโมโตะ นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองทางไปด้วยก้มดูอาหารในถาดไปด้วย ช่วยไม่ได้นะ กว่าจะได้มันมาเขาก็ลำบากไปไม่ใช่น้อยนี่นา

แต่แล้ว....อีกแค่นิดเดียวก่อนที่จะถึงทางเลี้ยวเข้าเรือน ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาขวางเอาไว้จนปลายเท้าเผลอสะดุด...แล้วถาดอาหารที่ถือมาอย่างดีก็ร่วงหล่นลงไปต่อหน้าต่อตา


เพล้ง!!!


อาหารและถ้วยจานที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะได้มาหล่นกระจายอยู่เต็มพื้น นัยน์ตาสีมรกตก้มลงไปมองด้วยสายตาสั่นพร่า

ใบหน้าสวยตวัดขึ้นมามองเจ้าของปลายเท้าที่ยืนอยู่ตรงหน้าทันที และมันก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยที่จงใจกลั่นแกล้งเขาอยู่แบบนี้

ท่านหญิงมิซึโกะ....

“ เจ้า!!”      และคราวนี้เชลยศึกจากอิสุจะไม่ยอมอีกต่อไป มือบางกระชากข้อมือของหญิงสาวขึ้นมาทันที พร้อมกับจ้องเขม็งอย่างเอาเรื่อง

แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไร สิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น


ราวกับเคราะห์ซ้ำกรรมซัด......คนที่ไม่อยู่มาเสียตั้งนานจู่ๆก็กลับมาเห็นฉากที่เขากำลังบีบข้อมือท่านหญิงอยู่แบบนี้พอดี



ร่างสูงใหญ่ของยามาโมโตะ ทาเคชิ ยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่มีใครรู้....



หรือบางที....ท่านหญิงคนนี้อาจจะรู้อยู่แล้วก็เป็นได้....ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มเอาไว้อย่างสวยงามนั่นจึงยิ้มเยาะเขาโดยที่คนที่ยืนอยู่ข้างหลังไม่มีทางได้เห็น


“ เจ้า.....กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่.....”       น้ำเสียงแผ่วเบาหลุดออกไปจากใบหน้าสวยที่ยังตะลึง มือบางปล่อยข้อมือของท่านหญิงออกไปทันที แต่มันก็ไม่ทันแล้วในเมื่อนัยน์ตาสีเปลือกไม้มืดมนเห็นฉากที่ถูกจัดขึ้นเต็มสองตา และใบหน้าคมนิ่งเย็นชานั้นมันก็บ่งบอกออกมาอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจสิ่งที่เขากระทำ

“ ข้าจะกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่สำคัญหรอก พวกเจ้าต่างหากที่ทำอะไรกันอยู่?”       ถึงจะถามว่า พวกเจ้า แต่นัยน์ตาสีเปลือกไม้กลับจ้องเขม็งมาที่เขาคนเดียว นัยน์ตาที่บ่งบอกว่าเชื่อเข้าไปแล้วเต็มเปาว่าเขาเป็นฝ่ายรังแกท่านหญิงคนนั้น

“ ข้าก็แค่จะมาเอาอาหารไปให้ท่านพี่ เพราะเห็นว่าท่านกลับมาเหนื่อยๆและยังไม่มีใครรู้ด้วย กลัวว่าข้ารับใช้จะมาเตรียมให้ไม่ทัน....แต่ไม่รู้ว่าเขาไม่พอใจอะไร ถึงได้ตามมาราวีข้าไม่เลิกแบบนี้ ดูสิท่านพี่ทาเคชิ อาหารที่ข้าเตรียมให้ท่านหกไปเสียหมดแล้ว....”        น้ำเสียงหวานเอ่ยฟ้องออกมาพร้อมกับใบหน้าน่าสงสารของท่านหญิงที่เข้าไปซบอยู่กับแผงอกกว้างมีแต่จะทำให้ร่างบอบบางสับสน ใบหน้าสวยมองทั้งสองคนสลับไปมาอย่างไม่มีจังหวะจะหาข้อแก้ตัว

นัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่เหลือบลงไปมองถาดอาหารก่อนจะไล่ขึ้นมามองหน้าเขานั้นทำเอาร่างกายชาวาบ เพราะมันทั้งเย็นชาและน่ากลัว

“ เดี๋ยวข้าจะลงโทษเขาเอง”       มือใหญ่ดันร่างระหงของหญิงสาวออกไปก่อนที่มันจะตรงเข้ามากระชากข้อมือบอบบางจนร่างของเชลยศึกจากอิสุได้แต่เซถลาตามแรงลากไป

“ ข้าไม่ได้.....”        ริมฝีปากสีระเรื่อเตรียมเอ่ยจะแก้ข้อกล่าวหาแต่ทว่าเมื่อมองไปยังเสี้ยวหน้าคมของคนที่ลากตนให้เดินตามไปอย่างไม่ยอมฟังอะไรนั้น ทิฐิมันก็ดันวิ่งขึ้นมาจุกคอ

ในเมื่อยามาโมโตะไม่คิดที่จะเชื่อเขา มันก็ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดกันอีก.....ริมฝีปากจึงได้แต่กัดฟันก่อนจะปิดลงไปโดยไม่เอ่ยอะไรออกมาอีกเลย






ภาพของเจ้าเชลยศึกที่ถูกลากไปลงโทษตามที่วางแผนเอาไว้ทำให้ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มอย่างสวยงามยิ้มเหยียดอย่างพึงพอใจ


หึ....ยังไงท่านพี่ก็ต้องเชื่อข้ามากกว่าเจ้า!


แต่แล้วเสียงที่ดังขึ้นมาจากข้างหลังก็ทำให้ใบหน้าของท่านหญิงมิซึโกะถึงกับชะงักไป

“ ท่านหญิงคะ....ปล่อยไว้แบบนี้...จะดีหรือคะ?”        เป็นข้ารับใช้คนสนิทของเธอที่เอ่ยออกมา

“ ถึงท่านยามาโมโตะจะบอกว่าจะลงโทษเอง....แต่ยังไงนั่นก็คือการที่ทั้งสองคนมีอะไรกันนะคะ....ถ้าวันหนึ่ง โกคุเดระ ฮายาโตะ เกิดเลิกพยศขึ้นมา แล้วหันไปใช้ความอ่อนหวานเข้าใส่...ท่านยามาโมโตะอาจจะหลงเอาได้ง่ายๆเลยนะคะ....คนในกองทัพเองยังลือกันไปทั่วเลยว่า นอกจากท่านยามาโมโตะจะต้องการเอาแผ่นดินของอิสุมาให้ท่านพ่อที่เสียไปแล้ว...อีกจุดประสงค์หนึ่งที่ทำให้มีความมุ่งมั่นที่จะตีอิสุให้ได้ขนาดนั้น...คือ โกคุเดระ ฮายาโตะ เจ้าค่ะ....”

“ จะเห็นว่าเป็นคนเดียวในตระกูลโกคุเดระที่ท่านยามาโมโตะไม่ยอมฆ่า แต่เอากลับมาด้วย....ข้ายังได้ยินมาจากทหารในกองทัพด้วยว่า...ในสาล์นศึกเอง ท่านยามาโมโตะยังให้เสนอขอตัวประกันจากอิสุ ซึ่งตัวประกันคนนั้นก็คือ โกคุเดระ ฮายาโตะ....มีแต่คนลือกันให้หึ่งเลยเจ้าค่ะว่า...ตอนที่ท่านยามาโมโตะไปอยู่ที่อิสุ...ทั้งสองคนอาจจะเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน....ยังมีทหารลาดตระเวนของท่านเคียวยะจำได้อยู่เลยว่า คนที่ช่วยท่านยามาโมโตะจนหนีออกมาจากอิสุได้ ก็คือ โกคุเดระ ฮายาโตะ นี่แหละ”

และเมื่อได้ฟังดังนั้น  ใบหน้าที่เคยยิ้มเยาะอย่างสะใจอยู่เมื่อครู่จึงเปลี่ยนมาเป็นเครียดขมึงทันที ริมฝีปากที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงสดขบเม้มเข้าหากันอย่างใช้ความคิด...เธอเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้ตัว...ว่าท่านพี่ทาเคชิหาได้สนใจใยดีเธอไม่....ถึงจะพูดคุยด้วยเป็นปกติแต่นัยน์ตาสีเปลือกไม้คู่นั้นก็ไม่เคยหันมามองเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว

นัยน์ตาของท่านพี่ที่มองเจ้าเชลยศึกคนนั้นเสียอีก ที่มันกลับเต็มไปด้วยความรู้สึก

“ ข้าคงต้องหารือกับท่านพ่อเรื่องนี้เสียที...”      คงต้องจัดการขั้นเด็ดขาด....ยังไงเธอก็จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาแย่งคู่หมั้นของเธอไปได้อย่างแน่นอน!






ประตูถูกเลื่อนเปิดออกด้วยความรุนแรง ก่อนที่แผ่นหลังบางจะถูกตวัดไปติดผนังภายในห้อง สองแขนแข็งแรงกางกั้นให้ลำตัวบางไม่อาจหนีไปไหนได้อีก

ใบหน้าคมจ้องมองไปที่ใบหน้าสวยที่จ้องตอบกลับมา แต่เป็นเพราะนัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่เต็มไปด้วยแววคาดคั้นนั้นมันก็ทำให้นัยน์ตาสีมรกตจำต้องเบี่ยงหลบจนได้

“ อะไรล่ะ?!!”        ไหล่บางชักจะสั่นสะท้านขึ้นมาน้อยๆ คำว่า ลงโทษพาลให้นึกไปถึงเรื่องป่าเถื่อนที่ยามาโมโตะเคยทำกับเขาเอาไว้เมื่อตอนอยู่ที่ค่ายทหารและร่างกายมันก็ยังจำได้ไม่มีวันลืม

“ เจ้าโดนเค้าแกล้งมาใช่ไหม?”       แต่แล้วร่างสูงใหญ่ก็ทำให้ร่างบอบบางถึงกับผงะ เมื่อจู่ๆความเย็นชาบนใบหน้าก็หายไปเหลือแต่แววห่วงใย

“ เอ๊ะ?!”       ใบหน้าสวยยังงงงวยว่าอีกฝ่ายรู้ได้ยังไง นัยน์ตาสีเปลือกไม้ทอดมองมายังใบหน้าใสพรางถอนหายใจ

“ ใช่จริงๆสินะ....ก็อย่างเจ้าน่ะ ไม่มีทางรังแกใครก่อนได้อยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาก็มีแต่จะโดนพวกพี่ชายแกล้งเล่นมาตลอดนี่นะ และเจ้าก็จะตอบโต้ไปแบบนี้ทุกที”        รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าคมที่พูดเหมือนรู้ทุกอย่างของร่างบางดี ทำเอานัยน์ตาสีมรกตถึงกับสั่นพร่าไปเล็กน้อย

“ ข้าไม่ได้โดนแกล้งซักหน่อย”       ร่างบอบบางบ่นงึมงำก่อนจะเสหน้าลงไปมองพื้น จึงทำให้ไม่ทันเห็นนัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่เปลี่ยนไป

“ แต่ยังไงข้าก็จะต้องลงโทษเจ้า”        ไม่ว่าเปล่า สองแขนแข็งแกร่งตรงเข้ากอดรัดลำตัวบ้างที่สะดุ้งเฮือกเพราะไม่คิดว่ายามาโมโตะจะยังโกรธเรื่องอะไรอีก


“ โทษฐานที่ทำให้ข้าคิดถึง”


“ เอ๊ะ??!       ใบหน้าสวยได้แต่สับสน มือบางยันแผ่นอกกว้างที่เบียดเข้าแนบชิด ที่ซอกคอกำลังถูกจู่โจมด้วยริมฝีปากของยามาโมโตะที่ซุกไซร้อย่างหลงใหล และไม่ว่ามือบางจะพยายามดันต่อต้านอย่างไรแต่ก็ดูเหมือนจะไม่อาจทัดทานความต้องการของคนตรงหน้าได้

“ อ่ะ....”        คอกิโมโนสีขาวแทบจะหลุดออกจากไหล่บางอยู่รอมร่อ ใบหน้าคมยังคงคลอเคลียอยู่ที่ลำคอระหงอย่างโหยหา ยิ่งไม่ได้เจอหน้ากันนานเท่าไหร่ก็มีแต่จะยิ่งต้องการจนไม่สามารถจะห้ามตัวเองได้อีก

“ อย่า.....”       เสียงห้ามอย่างอ่อนแรงนั้นช่างไร้พลัง แผ่นหลังบอบบางพิงอยู่กับผนัง ถึงแม้ว่าสองมือจะยังคงผลักไสอีกฝ่ายออกไปแต่นัยน์ตาสีมรกตกลับปิดลงอย่างเคลิบเคลิ้ม ริมฝีปากอุ่นร้อนมีแต่จะทำให้ใบหน้าจำต้องเอียงหลบให้อย่างช่วยไม่ได้

มือใหญ่ตรงเข้าไปที่รอยแยกของกิโมโน  ไม่แม้แต่จะแก้โอบิ ชายกิโมโนถูกแหวกขึ้นมาจนเห็นต้นขาขาว ต้นขาของยามาโมโตะบดเบียดเข้าไประหว่างหว่างขาของร่างบอบบางจนใบหน้าสวยต้องนิ่วหน้า....เพราะว่ายังบริสุทธิ์เกินกว่าจะต่อต้านการปลุกเร้าไหว ลมหายใจจึงเริ่มติดขัด

“ ฮะ...อะ....”        เสียงครางครือหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากสีระเรื่อ ถึงแม้จะพยายามเม้มแน่นแต่ทว่าท่อนขาแข็งแรงที่ก่อกวนส่วนไวต่อความรู้สึกที่กลางลำตัวนั้นมันก็ทำให้ไม่อาจจะทนไหว ส่วนใบหน้าคมก็ยังคงซุกไซร้อยู่ที่ซอกคอไม่ได้หยุด และค่อยๆไล่ลามเลียไปตามไหปลาร้าและไหล่บอบบางที่คอกิโมโนตกไปอยู่ที่ท่อนแขน

ร่างทั้งร่างทรุดลงไปตามผนังเพราะสองขาเริ่มจะสั่นระริกอย่างไร้แรงยืน ร่างสูงใหญ่ก็ไม่ฝืนให้โกคุเดระต้องอยู่ในท่ายาก  มือใหญ่ประคองแผ่นหลังบางลงวางกับพื้นเสื่อทาทามิทั้งๆที่ใบหน้ายังไม่ละออกมาจากซอกคอ...ทั้งหอมทั้งหวาน...ต่อให้ฝังร่องรอยลงไปเท่าไหร่ก็ไม่อาจเติมเต็มหัวใจที่มีแต่ความต้องการร่างบอบบางนี้ได้เต็มสักที

ยิ่งเห็น ยิ่งได้สัมผัส ก็มีแต่จะต้องการมากขึ้นไปอีก....

บางครั้ง....เขาก็อยากจะกักขังโกคุเดระเอาไว้ แล้วกกกอดอยู่อย่างนั้นทั้งวันทั้งคืน....

“ อื้อ....”     ใบหน้าสวยที่ถูกครอบงำนั้นช่างเย้ายวน คิ้วเรียวที่ขมวดเข้าหากันน้อยๆกับนัยน์ตาสีมรกตหวานเชื่อม ริมฝีปากสีระเรื่อที่ตั้งใจจะเอ่ยห้ามแต่เสียงที่ออกมาดันกลายเป็นเสียงคราง ความคิดที่สับสนปนเปยิ่งราวกับเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้ร่างสูงใหญ่ถอนตัวไม่ขึ้น

“ อะ...ยามะ...ฮะ....”         สองแขนบางยกขึ้นมากอดหัวสีดำที่ยังคงฝังใบหน้าอยู่ที่ซอกคออย่างเผลอไผล ต่างคนต่างถูกอารมณ์ร้อนพัดพาไปให้ลุ่มหลงซึ่งกันและกัน

ต้นขาขาวถูกลูบไล้โดยฝ่ามือใหญ่ ก่อนจะชันมันขึ้นทั้งๆที่กิโมโนก็ยังคงถูกสวมใส่อยู่ ใบหน้าคมระดมจูบไล่ลงมาถึงแผ่นอกบางที่ตอนนี้ไร้แรงจะต้านอีกต่อไป ฝ่ามือร้อนลากผ่านต้นขามาจนถึงกลางลำตัวที่แอ่นสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อส่วนลับของร่างกายที่ไม่เคยมีใครได้เห็นถูกกอบกุมอย่างแผ่วเบา

“ อ๊ะ  ยามะ....”       และนั่นก็ยิ่งกว่าการปลุกเร้าใดๆ เพราะมันทำให้สติที่คิดจะดื้อดึงหายไปในทันที ใบหน้าคมลอบยิ้มกับคนที่ไม่คุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้ เพราะมันช่างไร้เดียงสาจนเขาชักพาได้อย่างง่ายดาย

“ ฮะ....”        ใบหน้าสวยสะบัดขึ้นเมื่อฝ่ามือใหญ่กระชับเข้าไปก่อนจะรูดขึ้นลงช้าๆ ใบหน้าคมจุมพิตอยู่ที่กลุ่มผมสีเงินอย่างรักใคร่

“ โกคุเดระ...”       เสียงกระซิบแหบพร่ายิ่งพาให้อารมณ์เตลิดไปไกล ร่างบอบบางหอบหายใจคละเคล้าไปกับเสียงคราง และยังไม่ทันจะได้ถึงฝั่ง เรียวขาก็ถูกจับแยกออกจากกัน สิ่งแปลกปลอมที่แทรกเข้ามาทำให้ร่างที่กำลังเคลิบเคลิ้มถึงกับสะดุ้งเฮือก

“ ไม่ต้องกลัว...คราวนี้ข้าจะไม่ทำให้เจ้าเจ็บ...นะ”       น้ำเสียงอ่อนโยนนั้นทำให้อุ่นใจอย่างน่าประหลาด สองแขนยกขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆก่อนจะโอบไปที่รอบลำคอแกร่งแล้วปล่อยให้สิ่งที่สอดใส่เข้ามานั้นดำเนินต่อไป

นัยน์ตาสีมรกตเหม่อมองไปที่ท้องฟ้ายามราตรี แรงขยับถึงจะดุดันแต่กลับนุ่มนวลจนหัวสมองได้แต่ขาวโพลน

เป็นเพราะว่าห่างกันนานเป็นเดือนหรือไงนะ พอเห็นหน้าถึงได้ไม่อาจจะต้านหัวใจของตัวเองได้ขนาดนี้....ปากที่บอกว่าเกลียดถึงได้พร่ำเรียกชื่อยามาโมโตะไม่ได้หยุด

หัวใจของข้าทำไมถึงได้ไม่รักดีเช่นนี้นะ....


“ อ๊า!!”         เสียงครางดังก้องกังวานไปทั่วห้อง และมันก็ยังคงดังอยู่แบบนั้นควบคู่ไปกับราตรีที่หอมหวานและยาวนาน

ตราบจนแสงเทียนเปลี่ยนไปเป็นอรุณรุ่ง....ทุกสิ่งทุกอย่างถึงได้สงบลง...





กิโมโนตัวใหม่ถูกสวมทับไหล่กว้าง โอบิถูกมัดกระชับลำตัวหนา ก่อนที่ลูกชายคนรองของตระกูลยามาโมโตะจะขยับกายนั่งลงที่ข้างฟูกสีขาว มือใหญ่เกลี่ยไล้แผ่นหลังเนียนที่โผล่พ้นกิโมโนตัวนอกซึ่งคลุมร่างเปลือยเปล่าเอาไว้ ใบหน้าสวยยังคงหลับปุ๋ยหันตะแคงมาด้านข้าง มือย้ายจากแผ่นหลังไปแตะอยู่ที่ริมฝีปากแดงช้ำ เพราะมันเพิ่งจะถูกละจากการบดเบียดมาไม่ถึงสองชั่วยามดีด้วยซ้ำ

ยิ่งได้มองหน้า ข้าก็ยิ่งรู้ตัวว่าปรารถนาในตัวเจ้าขนาดไหน....ช่วงเวลาที่อยู่แสนไกลนั้นเจ้าคงไม่มีวันรู้หรอกว่าข้าทรมานจากการคิดถึงเจ้าแค่ไหน

ตอนนี้เจ้าอาจจะไม่สามารถเอ่ยบอกข้าว่ารักได้เต็มปาก....แต่ข้าขอเพียงอย่างเดียวก็พอแล้ว...

“ อยู่เคียงข้างข้านะ....โกคุเดระ”       ใบหน้าคมก้มลงไปกระซิบที่ใบหูของคนที่ยังหลับสนิท ริมฝีปากจุมพิตลงไปที่ขมับภายใต้เส้นผมสีเงิน


เจ้าจะดื้อดึงแค่ไหนข้าไม่ว่า....ขอเพียงอย่าคิดหนีไปจากข้า...




เสียงประตูปิดลงทำให้นัยน์ตาสีมรกตค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆ ถ้อยคำที่เสียงทุ้มนั้นพูดออกมาเขาได้ยินเต็มสองหู

ให้อยู่ข้างๆอย่างนั้นหรือ.....

ใบหน้าสวยหม่นหมองลงเล็กน้อย ก่อนจะพยายามสะบัดไล่หมอกควันที่อยู่ในจิตใจออกไป ร่างกายบางพลิกอย่างยากลำบากไปอีกฝั่ง นัยน์ตาสีมรกตเหม่อมองกังหันสีแดงที่ปักอยู่เต็มสวนมอสสีเขียว

อยากจะรัก....อยากจะอยู่เคียงข้าง.....


แต่ว่า.....



เสียงกอกแกกที่ดังอยู่ด้านหลังเรือนทำให้ใบหน้าสวยจำต้องละจากกังหันอันน้อยมามอง เป็นเพราะประตูถูกปิดเอาไว้จึงมองไม่เห็นว่าเป็นใคร

ร่างบอบบางลุกขึ้นนั่งด้วยความเชื่องช้า ใบหน้าสวยจำต้องนิ่วหน้าอยู่หลายครั้งเพราะอาการที่ประท้วงขึ้นมาจากเบื้องล่าง....ถึงแม้ว่าเมื่อคืนยามาโมโตะจะอ่อนโยนให้ แต่เจ้าบ้านั่นก็ทำยันเช้าแล้วเขาจะไปไหวได้ยังไง

มือบางคว้ากิโมโนที่กองอยู่ข้างกายมาสวมใส่ลวกๆ ก่อนจะพยายามพยุงตัวเองออกไปดูว่าใครมาส่งเสียงอะไรอยู่ตรงนั้น

ร่างบอบบางชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะได้เปิดประตู ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างรบกวนจิตใจ....คนข้างนอกนั้นช่างน่าสงสัย....เพราะแทนที่จะรายงานตัวว่าเป็นใครแล้วให้เขาออกไปพบตามปกติ แต่นี่กลับมาทำลับๆล่อๆ อีกทั้งเสียงมันก็เพิ่งจะดังขึ้นหลังจากที่ยามาโมโตะออกไปแล้วนี่เอง

นัยน์ตาสีมรกตเหลือบไปมองที่แท่นวางดาบ....ดาบประจำตระกูลยามาโมโตะไม่ได้วางอยู่บนนั้นแล้ว....แต่ดาบเล่มใหม่ที่วางเอาไว้แทนก็ทำให้เขารู้สึกแปลกใจ....เพราะมันคือดาบของแม่ของยามาโมโตะ...ดาบที่เคยให้เขาเอาไว้แล้วเขาก็ไม่ได้เอามันมาจากอิสุ

ยามาโมโตะไปเอามันมาให้เขางั้นหรอ?

ได้ยังไงกัน? ในเมื่อช่วงที่เขาถูกกักบริเวณอยู่ที่นั่นเขาฝากมันเอาไว้กับท่านแม่ของเขา?

ถึงจะยังค้างคาใจแต่เสียงที่ดังอยู่ข้างนอกก็ทำให้ไม่สามารถจะมัวมาสงสัยเรื่องดาบได้ ร่างบอบบางหยิบดาบที่พันด้ามจับด้วยสีแดงสดขึ้นมาก่อนจะค่อยๆแง้มประตูออกไปดู และยังไม่ทันจะเปิดออกได้เท่าไหร่ ฝ่ามือหยาบกร้านของใครบางคนก็จับขอบประตูแล้วเลื่อนเปิดออกให้เจ้าของห้องได้แต่ยืนตะลึง

ทหารเดนตายหรือชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่จะอย่างไหนเขาก็ไม่อาจระบุได้ รู้แต่ว่าดวงตาของทุกคนต่างก็หิวกระหาย และจำนวนมันก็มีมากจนไม่คิดว่าร่างกายที่อ่อนเพลียจะเอาชนะได้ง่ายๆเลย

ใบหน้าสวยได้แต่มองกลุ่มคนเหล่านั้นอย่างใช้ความคิด

คนพวกนี้...ต้องคุ้นเคยกับที่นี่หรือไม่ก็คงถูกใครบงการมาแน่ๆ เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่กล้าบุกเข้ามาในเรือนของ ยามาโมโตะ ทาเคชิ แบบนี้หรอก

“ พวกเจ้าต้องการอะไร?”        ใบหน้าสวยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้กลัวเกรง  แต่แล้วคำตอบของพวกมันก็ทำเอาร่างบอบบางถึงกับนัยน์ตาเบิกกว้าง


“ ข้าจะมาช่วยพาท่านหนีไปไง....ท่านโกคุเดระ ฮายาโตะแห่งอิสุ”











เวลาล่วงไปจนบ่ายคล้อย....ร่างสูงใหญ่ถึงได้เดินสบายๆกลับมายังเรือนของตัวเอง....เป็นเพราะเมื่อวานกลับมาอย่างกะทันหันจึงยังไม่ทันเข้าไปรายงานต่อผู้เป็นพี่ชาย และวันนี้กว่าจะได้เจอตัวก็ต้องตามไปถึงตำหนักกลางน้ำของตระกูลฮิบารินู่น

ใบหน้าคมลอบยิ้มเมื่อนึกถึงคนที่คงจะนอนลุกไม่ขึ้นอยู่ในห้อง หากเขาเปิดประตูเข้าไป ใบหน้าสวยนั่นคงจะหันมาแยกเขี้ยวใส่แน่ๆ

แต่แล้ว.....ก่อนจะได้ทันเดินเข้าถึงเรือนของตัวเอง ท่านหญิงมิซึโกะก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามาหา

“ ท่านพี่ทาเคชิ!”       ร่างระหงถลาเข้ามาเกาะแขน ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มเอาไว้ดูตื่นตระหนกแต่ก็ยังอ้ำอึ้งเหมือนไม่กล้าที่จะพูดออกมา

“ มีอะไร?”      เขาถามออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่ง

“ คะ คือว่า...คือ....”

“ พูดมาสิ?”

“ ข้า....ข้าก็ไม่แน่ใจนัก.....แต่ว่าข้ารับใช้ของข้าเห็น.....เมื่อตอนสายๆ....”       เธอพูดจาอึกๆอักๆจนร่างสูงเริ่มจะสงสัย

“ เห็นอะไรล่ะ?”

“ เห็น....เห็นโกคุเดระ ฮายาโตะ....หนีออกไปทางด้านหลังของเรือนค่ะ!!”        ใบหน้างดงามหลับหูหลับตาตะโกนออกมา และนั่นก็ทำให้ใบหน้าคมถึงกับชะงักงัน


ไม่จริง.....


ฝ่ามือใหญ่ผลักร่างระหงออกไปให้พ้นทาง ก่อนที่จะเดินก้าวยาวๆไปตามระเบียงทางเดิน นัยน์ตาสีเปลือกไม้ดำมืดจ้องเขม็งไปที่ประตูเรือนที่เห็นอยู่ไม่ไกล


ไม่จริง......


ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะหนีข้าไป....


เงาร่างสูงใหญ่ทาบทับอยู่ที่บานประตู ลมหายใจเข้าออกอย่างหนักหน่วง เพราะหวังว่าข้างหลังบานประตูจะยังมีร่างของโกคุเดระนอนอยู่


ครืด!!!!


แล้วประตูก็ถูกเลื่อนออก....ให้นัยน์ตาสีเปลือกไม้มองเห็นเพียงความว่างเปล่า....

ไม่มีแม้แต่เงาของใครสักคน....ไม่มีแม้แต่เงาของดาบสีแดงเล่มนั้นเช่นกัน.....



โกคุเดระ...เจ้า.......



ทั้งๆที่ข้าเฝ้าเตือนเจ้าหนักหนา ว่าอย่าหนีข้าไป เพราะเจ้าจะไม่มีวันหนีข้าพ้น และหากข้าจับเจ้ากลับมาได้ละก็......



นัยน์ตาสีเปลือกไม้เปลี่ยนเป็นแววมืดมนทันที รังสีอำมหิตแผ่ออกจากร่างกายจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ร่างสูงใหญ่วิ่งไปทางด้านหลังเรือนทันที


เจ้าไม่มีวันหนีข้าพ้น....ไม่มีวัน!!










แสงแดดร้อนแรงทะลุผ่านม่านป่าไผ่ลงมาต้องใบหน้าราวกับมัจจุราชของยามาโมโตะ ทาเคชิ

นัยน์ตาสีเปลือกไม้เหลือบมองที่พื้นดินซึ่งเต็มไปด้วยใบไผ่แห้งกองทับถม และเพราะแบบนั้นมันจึงยังพอจะมองเห็นรอยเท้าจางๆ....เท่าที่ได้ฟังมาจากมิซึโกะ....ดูเหมือนว่าจะมีข้ารับใช้เห็นโกคุเดระหนีออกไป เธอจึงสั่งให้ทหารกลุ่มหนึ่งตามไปแล้ว

ฝ่าเท้าเร่งความเร็วให้มากเท่าที่จะมากได้ ในจิตใจตอนนี้มันเต็มไปด้วยความมืดมนจนยิ่งกว่าสีดำ

ความรู้สึกของการทรยศหักหลังนั้นมันรุนแรงยิ่งกว่าความรู้สึกอื่นใด


ต่อให้ลงโทษก็คงจะไม่สาสมสินะ.....


ใบหน้าคมเย็นชาจนน่ากลัวหันไปหันมาเมื่อได้ยินเสียงแว่วมาไกลๆ

ไม่ใช่เสียงเพียงเสียงเดียว แต่ดูเหมือนจะเป็นกลุ่มคน?  แสดงว่าทหารไล่ตามโกคุเดระทันแล้ว?

มันก็แน่ละ ต่อให้ฉลาดขนาดไหน แต่โกคุเดระก็ไม่เคยได้ออกมาเดินอยู่ในป่าไผ่แบบนี้ หน้าตาที่เหมือนกันไปหมด หากไม่ใช่คนที่คุ้นเคยแล้วก็ใช่ว่าจะหาทางออกได้ง่ายๆ

ฝ่าเท้ารีบสาวเท้าเข้าไปให้ไวกว่าเดิม จนกระทั่งแนวไผ่สุดท้ายที่ขวางหน้าเอาไว้ผ่านเลยไป นัยน์ตาสีเปลือกไม้จึงได้มองเห็นว่าร่างบอบบางกำลังถูกยื้อยุดโดยทหารเดนตายของคามาคุระ

“ ปล่อยข้านะ!!”       เสียงแข็งกร้าวตะโกนออกมาจากเชลยศึกร่างบาง ถึงแม้ข้อมือทั้งสองข้างจะถูกจับเอาไว้แต่ลูกชายคนเล็กของตระกูลโกคุเดระก็หาได้ยอมง่ายๆ ลำตัวบางยังคงพยายามสะบัดตัวให้หลุดจากการจับกุม และเมื่อร่างสูงใหญ่ของยามาโมโตะ ทาเคชิ เดินเข้าไปด้วยไออำมหิต  นัยน์ตาสีมรกตคู่นั้นก็ต้องเบิกกว้าง

ข้าบอกเจ้าแล้วใช่ไหม....ว่าเจ้าเป็นสินสงครามของข้า....

ของข้า!!!


“ โกคุเดระ ฮายาโตะกำลังจะหนีไป...พวกข้าเลยออกมาช่วยท่านเอาตัวกลับไปตามคำสั่งของท่านหญิงมิซึโกะขอรับ”       ร่างบอบบางถูกจับให้คุกเข่าลงกับพื้นดิน ทหารเดนตายคนหนึ่งเอ่ยรายงานต่อยามาโมโตะ ทาเคชิ ที่บัดนี้แทบไม่เหลือเค้าหน้าของมนุษย์อีกต่อไป 

นัยน์ตาสีเปลือกไม้เย็นชาจ้องมองไปที่ใบหน้าสวยก่อนจะยกมือขึ้นบีบปลายคางมนนั้นเอาไว้

“ ข้าไม่ได้หนี! แต่คนพวกนี้ลากข้าออกมาเพื่อจะฆ่า”        ร่างบอบบางตะโกนออกมาทั้งๆที่ยังโดนจับกุมอยู่....ทหารเดนตายพวกนั้นอ้างว่าจะมาช่วยพาเขาหนี แต่พอเขาไม่ยอมไปด้วยพวกมันก็เปลี่ยนใจแล้วใช้กำลังลากตัวเขาออกมา ถ้าหากว่ายามาโมโตะไม่มาเจอเข้าพวกมันคงฆ่าเขาแน่ๆ แต่เมื่อเจอแล้วแบบนี้ก็โยนความผิดว่าที่ต้องจับตัวเขาไว้เพราะว่าเขากำลังคิดจะหนีไป

นัยน์ตาสีมรกตที่มองขึ้นไปที่ใบหน้าคมเต็มไปด้วยแววเว้าวอน


แต่แล้วหัวใจดวงน้อยก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันที เมื่อนัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่มองลงมานั้น มันมีแต่ความเฉยชา ราวกับว่ามันไม่อยากจะมองมาที่เขาอีกต่อไป

ริมฝีปากสีแดงได้แต่เม้มแน่น ร่างกายที่ขัดขืนมาตลอดทางกลับนิ่งลงอย่างหมดแรง


มือใหญ่ปล่อยปลายคางมนออกก่อนที่ร่างสูงจะยืนขึ้น ดาบสีดำที่คาดอยู่ที่เอวค่อยๆถูกชักออกมาจากฝักท่ามกลางสายตาของทหารที่ล้อมเอาไว้นับสิบ

ประกายเงาวับของคมดาบกระหายเลือดถูกชี้ปลายมาที่แผ่นอกบาง


ดาบ....ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยใช้มัน...



นัยน์ตาสีมรกตมองตรงไปยังใบหน้าเย็นชาอีกครั้ง....อยากจะแก้ตัว อยากจะบอกว่าเขาไม่ได้หนี



อยากจะบอกว่าแท้จริงแล้ว ข้ารักเจ้าแค่ไหน....





ยามาโมโตะ......







ครั้งนี้....เจ้าจะเชื่อข้าหรือไม่.......






.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

โปรดติดตามตอนต่อไป....






สะ สุขสันต์ วันวาเลนไทน์ค่ะ  = =””””

สงสัยจะได้วาเลนไทน์เลือดมาแล้วซะละมั้งตรู อึกๆๆ

ขอให้ความรักอยู่รอบตัวทุกๆคนเลยนะคะ >w< และถ้าไม่รู้จะรักใคร อนุญาตให้รักเก๊าได้ (<<เน่ามาก!!)

แล้วเจอกันค่า











11 ความคิดเห็น:

  1. ยามาโมโตะ ชั้นเชื่อว่าแกไม่มีทางฆ่าโกคุเดระแน่นอน

    นั่นน่ะ...หัวใจของแกไม่ใช่รึไง

    อย่าทำให้ผิดหวังนะ ไม่งั้นร้อยชีวิตก็ไม่พอหรอกเฟ้ย!!!



    พี่กวางงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

    ตอนแรกหวานอยู่ดีๆ ไหงมาพลิกตอนปลายซะนี่

    ท่านฮิกับทูน่าน่ารักอีกแล้วววววววววววว คู่นี้หวานมดขึ้นจริงๆ จะหวานไปไหนเนี่ย

    พออ่านมาเจอยัยท่านหญิงนั่น หมดมู้ดเลย....ยัยนี่ ไม่ทำตัวให้คนอื่นเกลียดสักวันจะตายใช่มั้ย ? โกคุก็อุตส่าห์เป็นคนดีไม่ตอแยแท้ๆ แล้วยังไงมามารยาอีก คิดเหรอว่ายามะมันจะมองเธอน่ะ ฝันไปสักห้าชาติแล้วกันนะ น่าตบจริงๆ ชิส์!!! ใครเอายัยนี่ไปฆ่าหมกป่าทีเถอะ ไม่ไหวๆ เอาไปไกลๆ ที

    รอตอนต่อไปน้า ว่ายามะจะทำยังไง ....ลองทำโกคุสิ แล้วจะรู้ว่าแม่ยกน่ากลัวแค่ไหน หึหึ

    ปล. เค้าป่าวขู่น้า หุหุ

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. กรี๊ดดดดกราซซซซซซซซซซซซ!!!

      มาแบบนี้ให้ลุ่นอีกแย้วววววว!!!

      ยามะแก๊!!!! หากไม่เชื่อหนูก๊ก เจ้จะไปถล่มแกเล้ยยย!!

      ท่านหญิงนี่เหลือเกินนะคร่ เด่วแม่ก้อตบไม่เลี้ยงเลยหนิ > ()<!

      ยามะแกต้องเชื่อหนุก๊กนะโว้ยยย!!! อย่าไปเชื่อยัยมารยานั้นเด็ดขาดนะ ไม่งั้นได้มีการปาสากแน่ๆๆๆ!!!!

      ปล. รอตอนต่อไปนะคร่ ^^

      ลบ
  3. อ้ากกก ยามะ เราขอเชื่ออีกคนว่าแกไม่มีทางทำร้ายหนูก๊กหรอก
    แกจะตวัดดาบใส่ทหารเลวพวกนั้นแล้วเดินกลับไปแทงยัยผู้หญิงขี้อิจฉาตายใช่มั๊ย
    และเราก็เชื่อว่าแม่กวางก็จะไม่ทำร้ายหนูด้วยเช่นกัน อิอิ

    ตอบลบ
  4. ยามะ ถ้าแกทำร้ายลูกสาวเค้านะ แกร๊ตายยยย!!!

    นับวันยิ่งเกลียดไอ้คุณหญิงมิซึโกะ! ช่างกล้ามาทำร้ายลูกสาวเค้า!! ยังไงยามะก็รักลูกสาวเค้าคนเดียวอยู่แล้วหล่ะเฟร้ยยยย~!!! ความสวยนี่ไม่ได้เสี้ยวลูกสาวเค้าเลยนะ!!!!!!><!!!
    พี่กวางอัพด่วนน มันค้างมากกกT^T

    ตอบลบ
  5. ใครก้ได้เอายัยท่านหญิงนั่นไปเก็บที!!!!บรึ้มมันด้วยไดนาไมต์เลยลูกแม่ ยิ่งก๊กร้ายแม่ยกยิ่งรักนะ(ห้ะ?)
    อิเนียนไม่มีทางทำก๊กหรอกใช่มั้ยไอ้ลูกเขย!!!!!!
    ถ้าแกไม่เชื่อลูกสาวฉัน แม่จะสั่งปลดจริงๆด้วย!T[]T

    อัพต่อไวๆเถอะนะคะ ค้างงงTT

    ตอบลบ
  6. กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
    เกลียดอิคุณหญิงมิซึโกะ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!
    //โดดถีบยอดหน้าแม่ม -*-
    ทำไมไม่ยอมเลิกราซักทีฮะ !!!
    ยามะก็โง๊โง่ นี่ถ้าเชื่ออิคุณหญิงนั่นจริงๆ นะ
    จะยุให้หนูก๊กหนีเอ็งไปจริงๆ ด้วย ฮือออ T^T
    ยิ่งอ่านยิ่งอินไปกันใหญ่ ไม่ได้อยากจะติดเลยนะ แต่มันดันติดไปแล้ว แอร๊ ..
    อาทิตย์หน้าสอบ 55555555555555555555555+
    หนังสือไม่อ่าน มาไล่อ่านฟิคคุณพี่แทน (เทพจังตู ไม่อ่านหนังสือก็ไปสอบได้ -..-)
    รอตอนต่อไปค่าาาาาาาาาาาาาาาาาา ♥

    ตอบลบ
  7. อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย >o<~

    ...อิยามะมันไม่กล้าทำร้ายหนูก๊กหรอก
    (จริงไหมค่ะ ToT*)
    ...ใครก็ได้มาลากเจ๊มิซึโกะไปทิ้งที
    เอาไปทิ้งไกลๆเลยน่ะ ชิชะ
    ทำให้ครอบครัวคนอื่นร้าวฉาน ฮ่าๆ

    ...สุดท้ายต้องบอกว่ารอตอนนี้นานมากกกก
    (ถึงแม้จะรู้สึกว่าใช้คำแปลกๆ ไป ฮาๆ)
    แต่ตอนนี้ก็คุ้มค่ากับการรอมากค่ะ
    ขอบคุณค่า~ ^__________^~

    ตอบลบ
  8. เสียเลือด...เสียตับ...เสียไต...เจ็บที่หัวใจอย่างสุดซึ้ง!!!TT[]TT *มาเป็นกลอนกันเลยทีเดียว*

    เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไอ้ตอนเเรกก็เเทบจะกระโจนเข้าไปสับยัยมิซึโกะตอนที่มาซบยามะเเล้วนะ เเบบ ยัยสตรอว์เบอร์รี่!!!! หนอยยยยยยย ทำมาเป็นออดอ้อนออเซาะบีบน้ำตา เเกคิดว่าอย่างยามะน่ะเหรอจะเชื่อเเก (เเล้วก็ไม่เชื่อจริงๆด้วย โด่ๆ)

    เเละฉากเอ็นซีต่อจากนั้นทำนังริยาฟิน กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด อยู่ข้างๆข้า >////< ว๊ากๆๆๆ ยามะบ้า พูดงี้เค้าเขินนะเว้ย


    ....ฟินกันเเบบสุดๆไปได้ไม่เท่าไหร่...ไอ้ฉากต่อมานี่บอกได้คำเดียวว่า ลากเครื่องในหนูมาสับดีกว่า...

    ยัยมิซึโกะะะ ฝีมือเธอสินะ!!! ที่ส่งไอ้พวกถึกๆ(?)นั่นมาหลอกล่อน้องก๊กให้ไป เเล้วก็ไปบอกยามะ เธอนี่มันเหลือเกินจริงๆ ยัยผู้หญิงรกโลก หนักคามาคุระ !!!TT_TT //เอาปังตอมาสับหน้ายัยมิซึโกะ

    ยามะ ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เเกอย่าทำอะไรลูกสาวของพวกเรานะTT[]TT กรี๊ดดดด !!

    //ตาคากองเลือด

    ตอบลบ
  9. ยัยผู้หญิงเลวแกกล้าเอาผู้ชายเดนตายมาจับผิวขาวๆของลูกสาวชั้นเรอะแก
    ดาร์กจัดมันเลย!!!!!!!!
    ไม่มีทางทำอะไรลูกสาวแน่ก๊กไม่มาป่าไผ่หรอกสมองก๊กระดับนาซ่านะเอ็ง โกหกไม่เนียน!!!
    หลุดซึนละสินะที่รักแหมมมมใจกระชุ่มกระชวยเลยค่ะ><

    ตอบลบ
  10. หนอยยยยยยยยย นังมิสึโกะ
    ท่านฮิลงโทษได้เข้าท่ามากเจ้าค่ะ5555555555

    ตอบลบ