Title: My Precious
Pairing: Kogami x Ginoza
Rate: NC – 17
Author: karnalone
คำเตือน
: เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
หมายเห็ด :
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น้องการ [karnalone]
เป็นคนแต่งให้ข้าพเจ้าในวันคล้ายวันเกิดที่ผ่านมาค่ะ คืออ่านแล้วมันโฮกจนไม่อยากเก็บไว้คนเดียวอ่ะ
น้องการส่งมาให้เป็นไฟล์เลยขอน้องเค้าว่า ขอเอามาลงที่นี่ให้เพื่อนๆอ่านด้วยนะ ขอบคุณมากๆๆเลยค่ะสำหรับของขวัญชิ้นนี้
ชอบมากกกกกกกกก ฟินสุดๆ งื้อออออ >/////<
.
.
.
.
มือแกร่งสะบัดไลท์เตอร์จ่อเข้ากับปลายบุหรี่ ทำให้ห้องที่มืดสนิทสว่างขึ้นชั่วครู่ก่อนที่มันจะกลับมามืดสลัวเช่นเดิม กลิ่นที่คุ้นเคยของบุหรี่ยี่ห้อประจำลอยอวนทั่วห้อง ร่างแกร่งนั่งอยู่ปลายเตียงด้านหนึ่ง เส้นผมที่ยุ่งเหยิงถูกเสยขึ้นเล็กน้อยพอไม่ให้บังสายตาที่กำลังจับจ้องไปยังใครคนหนึ่งที่ยังคงหลับสนิทอยู่บนเตียง นัยน์ตาสีนิลมองใบหน้าเรียวในเวลาในนี้ด้วยความรู้สึกบางอย่าง...ที่เขาเองก็ไม่อาจบอกได้ว่ามันคืออะไร
กังวล...น่าจะเป็นความรู้สึกนี้ที่ใกล้เคียงที่สุด
ชายหนุ่มค้อมศีรษะลง ศอกทั้งสองวางบนเข่า มือทั้งคู่ประสานกันหลวมๆ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันน้อยๆ ขณะที่ริมฝีปากเม้มกดปลายมวนกระดาษแน่นขึ้น
อาจจะด้วยเพราะเขาไม่ได้สวมอะไรนอกจากผ้าขนหนูที่พาดทับหน้าขาเพียงเล็กน้อย ถึงได้รู้สึกหนาวขึ้นมานิดหน่อย ทั้งๆที่ห้องที่ถูกปรับอุณหภูมิให้คงที่โดยอัตโนมัติเช่นนี้ไม่น่าเป็นไปได้
...แต่ก็ช่างมันเถอะ...
เอาเข้าจริงๆ เขาเองก็พอจะรู้ ...ว่าความรู้สึกที่มีต่อร่างที่กำลังสงบนิ่งอยู่ข้างเขาตอนนี้มันคืออะไร
แม้จะไม่อยากยอมรับแค่ไหน แต่...เขากำลังหนีมันเท่าที่จะทำได้
ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาในฐานะทั้งผู้สังเกตการณ์และผู้บังคับใช้ โคงามิ
ชินยะ ไม่เคยคิดแม้แต่น้อยว่าตนจะมีความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง....แม้จะน้อยนิดเพียงใดก็ตาม
เขากำลังกลัว...
ช่างเป็นความรู้สึกไม่คุ้นชินแสนทรมาน การที่ทำได้แค่มองคนตรงหน้าไปเสี่ยงอันตรายโดยไม่อาจห้ามได้
แน่นอนว่าส่วนหนึ่งนั้นเขาเองเข้าใจ และเพราะแบบนั้น...ไม่มีทางที่เขาจะบอกให้คนๆ
นี้หยุดทำในสิ่งนี้แน่ๆ
ลมหายใจยังคงสม่ำเสมอเช่นเดียวกับแผ่นอกบางที่สะท้อนขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ นิ้วเรียวยื่นไปเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าออกให้อย่างแผ่วเบา แว่นตาที่เปรียบเสมือนเกราะบางอย่าง เวลานี้
วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงเช่นเดียวกับการ์ดป้องกันตัวที่ถูกปลดออกไปเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา มือเรียวที่ดูเหมาะกับสัมผัสของแผ่นกระดาษ...ทว่าก็ใช่ว่าจะไม่เหมาะกับสัมผัสเย็นเยียบของดวงตาแห่งซิบิล แววตาเย็นชาเบื้องหลังกรอบแว่นมักมองทุกอย่างด้วยความเฉยชาหากแท้จริงแล้วกลับเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้มากมายอย่างคาดไม่ถึง แผ่นหลังที่เวลานี้นำหน้าเขาอยู่นั้นดูราวกับแบกรับสิ่งหนักหนา แต่ก็ใช่ว่าจะพังทลายได้ง่ายๆ เพราะคนๆนี้ไม่ใช่คนที่อ่อนแอถึงเพียงนั้น
กิโนสะ
โนบุจิกะที่เขารู้จัก
ไม่มีทางที่เป็นแบบนั้นอย่างแน่นอน
แต่เพราะแบบนั้น...มันยิ่งทำให้
เขากังวลมากขึ้น เป็นห่วงจนแทบบ้า กิโนสะไม่ใช่คนที่จะพูดอะไรออกมาด้วยความตั้งใจของตัวเอง ไม่ใช่คนที่จะยอมรับการพึ่งพาจากใคร
และยิ่งไม่ใช่คนที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากใคร บรรดาเหตุการณ์มากมายที่ผ่านมาในช่วงนี้นั้นยิ่งทำให้ความรู้สึกเหล่านั้นทวีคูณยิ่งขึ้น ความกดดันของงานที่เพิ่มขึ้นอย่างไร้ทางลดลงนั้นอาจจะไร้ผลสำหรับเขา เพราะถึงอย่างไรเสียก็แค่ทำให้ค่าสัมประสิทธิ์อาชญากรรมแอบแฝงของเขาเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย...แต่ไม่ใช่อะไรที่คนปกติจะรับได้ง่ายๆ
นักอย่างสึเนะโมริ
แม้กิโนสะอาจจะเป็นรุ่นพี่ของเธอแต่ก็ใช่ว่าจะชินกับเหตุการณ์เหล่านี้นัก
ร่างแกร่งพยายามอัดควันดับความฟุ้งซ่านที่ดูจะเพิ่มขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด ริมฝีปากเผยอเล็กน้อยปล่อยควันบางเบาออกมา ควันสีจางค่อยๆ เลือนหายไปท่ามกลางความสลัว แต่ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะทำอย่างไร...ความรู้สึกที่กำลังอัดแน่นในใจเขาตอนนี้ไม่อาจจะหายไปอย่างควันตรงหน้าได้
โดมิเนเตอร์...อาวุธที่เขาเคยคิดว่ามันแข็งแกร่งที่สุด
สิ่งที่เปรียบเสมือนดวงตาแห่งระบบซิบิลที่ควบคุมโลกนี้อยู่อย่างโดยสิ้นเชิง ระบบที่ไม่ว่าจะคิดยังไง...ก็ช่างใจแคบยิ่งนัก ในยุคที่เกือบจะไร้สิ่งที่ต้องตัดสินใจด้วยตัวเองนี้ช่างคล้ายโลกที่สิ้นหวังในการมีตัวตนอยู่ของมนุษย์ บ่อยครั้งที่ความคิดของเขาขัดแย้งกับมัน ความถูกต้องโดยสมบูรณ์ที่ถูกยัดเยียดไว้ในสารบบความคิดของผู้คนโดยไม่รู้ตัวนี้มันดีจริงๆยังนั้นเหรอ
? ไม่ว่าจะครุ่นคิดแค่ไหน สุดท้ายก็ได้แต่ปล่อยมันให้ไหลไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องขัดขืนราวกับสายน้ำที่ไม่มีวันย้อนกลับ
นั่น...คือความคิดของเขาก่อนหน้าจะเกิดเหตุการณ์บ้าๆ
นั่น
คดีรูปปั้นจำลองเมื่อสามปี แล้ว เป็นจุดพลิกผันของชีวิตของเขา ก็อาจจะเรียกได้ว่าจุดๆ นั้นส่งผลให้ปัจจุบันของเขาไม่เลวร้ายเกินไปนัก...อย่างน้อยเขาก็ยังสามารถตามปกป้องกิโนสะได้
...ถึงแม้จะต้องคอยอยู่เบื้องหลังก็ตาม
แต่ไม่ว่าจะย้อนเวลากลับไปได้อีกกี่ครั้ง
เขาก็จะไม่แก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน การที่ยืนมองอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรย่อมแตกต่างกับการที่ยอมเสี่ยงตกลงไปในหลุมดักนั้นอย่างสิ้นเชิง
เพราะหากเขาเลือกอย่างแรก...นั่นก็คงไม่ใช่เขาอีกต่อไป แม้ว่าการทำอย่างนั้นจะเป็นสิ่งที่รู้สึกว่าควรจะทำอย่างนั้นก็ตาม
แต่ชีวิตตน...หากไม่ลิขิตเองแล้วมันจะมีความหมายอะไรกันล่ะ
ไม่ว่าจะมองย้อนกลับไปเพียงใดก็ไม่มีวันที่จะเสียใจภายหลัง จะมีก็แต่ความแค้นใจในตัวของเจ้าบ้านั่น เจ้าบ้า...ที่ตอนนี้คล้ายกับเดินมายื่นจดหมายท้าสู้ผ่านเหล่าเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้น และล่าสุด...เพื่อนสนิทของสึเนะโมริ
หมากตัวต่อไป...ตัวไหนกันนะที่จะถูกทอดทิ้ง
แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม... นิ้วเรียวคีบบุหรี่ที่บัดนี้เหลือเพียงครึ่งตัวมาถือไว้หลวมๆ นัยน์ตาคมฉายแววกร้าวยามมองไปยังภาพบนผนังอีกฝั่งของห้องพัก
ภาพที่ไม่ว่ายังไง...เขาจะลากคอคนในภาพออกมาให้ได้ จะแลกด้วยอะไรก็ตาม คนๆ นั้นต้องโดนลงโทษ จากคำบอกเล่าของสึเนะโมริ ดูเหมือนว่าโดมิเนเตอร์จะไม่มีผลต่อเจ้านั่น
แล้วไง ? ใช่ว่าฉันจะยอมปล่อยให้แกหลุดไปง่ายๆ
เพราะโดมิเนเตอร์ไม่ใช่อาวุธที่แข็งแกร่งที่สุด
ความคิดต่างหาก...ที่น่าหวาดหวั่นที่สุด
จิตใจที่ไร้ความลังเลเมื่อบวกกับร่างกายที่ฝึกปรืออยู่เสมอ ย่อมเอาชนะมันได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะคิดยังไงทางที่จะชนะเจ้านั่นได้
...คงมีแต่ทางนี้เท่านั้น
ทางนี้เท่านั้น...ที่จะรักษาสิ่งสำคัญของฉันไว้ได้
โคงามิโน้มตัวลงประทับจุมพิตแผ่วเบากลางหน้าผากเนียนก่อนจะดับบุหรี่และแทรกตัวกลับเข้าไปในผืนผ้าหนาอีกครั้ง วงแขนแกร่งกอดกายเพรียวไว้แน่น เปลือกตาบางเบาพลิ้วไหวเล็กน้อยค่อยๆ ลืมขึ้นมาสบกับนัยน์ตาสีนิลที่มองอยู่อย่างเงียบงัน รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏทาบทับริมฝีปากหยักเล็กน้อย ระยะห่างระหว่างพวกเขาลดน้อยลงเรื่อยๆ ความร้อนผ่าวถูกส่งผ่านสัมผัสอันร้อนแรงไปยังอีกคน แขนเรียวยกขึ้นโอบรอบลำคอของร่างแกร่งไว้ก่อนจะกดประทับให้ลึกล้ำยิ่งขึ้น เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันเร่งเร้าความวาบหวามที่เกิดขึ้นโดยตั้งใจ เรียกเสียงครางให้ดังแทรกความเงียบสงบหลังเที่ยงคืนเช่นนี้ โคงามิตวัดคนตรงหน้าให้ลงไปอยู่เบื้องล่างตน
มองใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความต้องการที่ถูกปลุกเร้าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็มิอาจนับได้
“โนบุจิกะ...”
กระซิบพร่าริมใบหูพร้อมกับขบเม้มให้เจ้าของชื่อเริ่มบิดตัวไปมาอย่างทรมาน นัยน์ตาฉ่ำน้ำมองสบประสานกับสายตาอ่อนโยนปนเจ้าเล่ห์ของคนเบื้องบน คิ้วเรียวอดขมวดก่อนค้อนให้
เสียไม่ได้เมื่อโคงามิเริ่มขบเม้มซอกคอเนียนที่บัดนี้เต็มไปด้วยร่องรอยมากมาย
เช่นเดียวกับมือหยาบที่เริ่มลากไล้ไปทั่วบริเวณ สัมผัสเอาความเนียนนุ่มที่แม้ไม่เท่าอิสตรี...แต่นี่ก็เป็นผิวของคนรักของเขา
“อ๊ะ...ชะ...ชินยะ..”
กิโนสะแอ่นตัวรับฝ่ามือร้อนที่เลื่อนลงไปปรนเปรอแก่นกายที่กำลังตื่นตัวของเขาอย่างเจตนากลั่นแกล้ง นิ้วเรียวจิกลงไปกลางแผ่นหลังหนาจมเล็บ ศีรษะส่ายไปมาเล็กน้อยด้วยความเสียวซ่านก่อนจะซบมันลงกับลาดไหล่ตรงหน้าเมื่อคนด้านบนเริ่มเร่งจังหวะให้
เร็วขึ้น
“ฮะ..อ๊ะ...อึ่ก...อ๊า...อิ่...อีก..เร็วอีก..”
หอบหายใจปนครางออกมาอย่างไม่สามารถอดทนได้ รู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งปะทุขึ้นในกายของเขาอย่างกำลังหาทางออก
ความเครียดเกร็งในช่องท้องเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงจุดเสร็จสมที่ใกล้เข้ามา
“อา..อา..อ๊ะ..ชินยะ..อ๊า”
เรียวขาบีบรัดเอวแกร่งไว้แน่นปลายเท้าจิกเข้าหากัน ใบหน้าเรียวเชิดหงายเช่นเดียวกับลำตัวที่แอ่นปลดปล่อยความสุขสมออกมา โคงามิดึงมือออกมาก่อนที่ปลายนิ้วจะไล้เลียของเหลวสีขาวขุ่นตรงหน้า ให้กิโนสะหน้าแดงด้วยความอาย ทว่าก็ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะเรียนรู้แล้วว่า...ไม่ว่ายังไงเจ้าคนหน้าด้านนี่ก็คงไม่ยอมทำตามที่เขาขอแน่ๆ
“...หือ ? จะไม่ขัดหน่อยรึไง ?”
“ขัด!
ฉันขัดแล้วนายจะฟังรึงะ..อ๊า..”
คนตรงหน้าตวาดแหวออกมาทว่าไม่ทันขาดคำก็หลุดเสียงครางออกมาอย่างไม่อาจทนได้ เมื่อร่างแกร่งพลันสอดแก่นกายเข้าไปในช่องทางเบื้องหลังโดยทันที เรียกให้กิโนสะตวัดแขนกอดเขาไว้แน่น เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นตามไรผมบ่งบอกถึงอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นภายในห้อง
“...ฉันรักนาย”
เสียงทุ้มกระซิบพร้อมกับขยับกายแทรกเข้าไปให้ลึกยิ่งขึ้น เรียกเอาเสียงครางหวานที่ไม่อาจสะกดกลั้นได้ออกมา ผิวเนื้อเสียดสีกันตามจังหวะที่เริ่มจากแผ่วเบาไปจนกระทั่งรวดเร็ว สะโพกมนขยับรับแรงที่กระแทกเข้ามาอย่างไม่บันยะบันยังแม้แต่น้อย คำรักถูกบอกเล่านับไม่ถ้วนตามร่องรอยที่เพิ่มขึ้นอีกมากมายบนผิวกายขาวที่ตอนนี้ระเรื่อด้วยความร้อน
“ฮะ..อ๊า..ชินยะ..ชินยะ..อ๊า”
พร้อมกับเสียงหวานที่ดังก้อง ของเหลวอุ่นร้อนถูกปลดปล่อยให้ร่างเพรียวกระตุกกายหนักๆ
หลายครั้ง ก่อนจะปลดปล่อยออกมาเลอะหน้าท้องด้านคนตรงหน้าอีกครั้ง ลมหายใจหอบหนักดังรัวเร็วเช่นเดียวกับก้อนเนื้อในอกซ้ายที่เต้นรัวเร็ว อ้อมแขนแกร่งโอบรัดคนตรงหน้าไว้แนบแน่น
“ฉันรักนาย...โนบุจิกะ”
นายคือสิ่งสำคัญ...ที่ฉันจะต้องปกป้องไว้ให้ได้
แม้จะทำได้แค่ปกป้องจากข้างหลัง แต่แค่นั้นก็พอแล้ว
ฉันจะไม่ยอมเสียนายไป ไม่มีวันเด็ดขาด
.
.
.
Fin…
FIN….พออ่านถึงคำนี้แล้วมันฟินมากกกกกกกกกกกกกกกกเลยค่ะน้องก๊ารรรรรรรร
โอย อ่านไปก็บีบกล่องชานมจนแทบเละแล้วเนี่ยค่ะ แต่งออกมาได้ดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
ชอบช่วงบรรยายความรู้สึกของคุณโคอ่ะ
คือเอาความรู้สึกมาเรียบเรียงออกมาเป็นภาษาได้อย่างสวยงามมากๆเลยค่ะ
อ่านแล้วเข้าใจแล้วก็อินไปกับความรู้สึกกังวล ความรู้สึกกลัวของคุณโคเลย
รู้เลยว่าเป็นห่วงเจ้าคนที่นอนอยู่ข้างๆนั่นขนาดไหน
ชอบสายตาที่คุณโคมองกิโนะอย่างเข้าใจด้วย รู้ว่าอันตรายแต่ก็ห้ามไม่ได้
รู้ว่าข้างนอกแข็งแกร่งพอแต่ข้างในก็ยังอ่อนไหว อ๊ากกกกก แต่งได้ดีมากเลยอ่ะ >_<bb
ตอนที่คุณโคสอดตัวกลับลงผ้าห่มไปกอดกิโนะนั่นก็โฮกอ่ะ
คือบรรยายซะรู้สึกอบอุ่นเลย >/////<
แล้วก็ด้วยหมู่นี่ไม่ค่อยได้มีเวลาไปตามฟิคชาวบ้านเพราะงั้นเลยไม่ค่อยได้อ่านเอ็นซี....พรูดดดด....เล่นเอาเลือดตกยางออกเลยนะค้า
ง๊ากกกกกก อ่านไปก็เขินไป กิโนะน่าร้ากกกกกกกก >//////< ขัดไปก็ไม่มีความหมายนี่เนอะ กรั่กๆๆๆ
ฝากดูแลกิโนะด้วยนะคะคุณโคขรา
อยู่ในสภาวะเสี่ยงมากๆเลยอ่ะกิโนะตอนนี้ แง๊~~
เสี่ยงทั้งจากโชโกะซัง เสี่ยงทั้งค่าไซโครพาสของตัวเอง
คือตอนนี้พยายามรักเคะคุณโค(?)ทุกคนให้เท่ากันอยู่นะ
เพราะเนื้อเรื่องมันปวดตับปานนั้น ถ้ามีใครม่องไปจะได้ไม่สะเทือนใจมาก TT[
]TT (<<แล้วจะน้ำตาไหลพรากก่อนไมวะ?!) แต่ถ้าพูดถึงคู่ที่ชอบสุดตอนนี้ยกให้คุณโคกิโนะเลยอ่ะ ฮ่าๆๆๆ
ยังงงตัวเอง...ทั้งๆที่เป็นคู่ที่มาทีหลังสุด มาแบบเรื่อยๆไม่ได้จิ้นอะไรมาก
แต่หลังจากที่เจอความเกรียนซึนของกิโนะเข้าไปก็ยิ่งเห็นว่า
ไมหมอนี่มันปากร้ายแต่น่ารักจังว้า >/////< แล้วยิ่งหลังจากที่ลองแต่งฟิคของทั้งสามคู่ดูแล้ว
โดยส่วนตัวคิดว่าคู่นี้ตอนแต่งสนุกสุดเลยอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
(แน่นอนว่าของคุณโคโชโกะซังยากสุด ฮืออออ) อาจจะเป็นเพราะเราอยู่กับพวกซึนมานานก็ได้มั้งเนอะ
พอเวลาได้แกล้งเคะซึนทีไรมันถึงได้สนุกหยุดไม่อยู่งี้ทุกที แอร๊ยยยยย
ปล.ขอถมขาวหน่อย เพราะตอนนี้เปิดโกดังเป็นแบบไม่ติดเรท เนื่องจากมีหลายคนบอกว่าเข้ายาก กร๊ากกก ส่วนเรื่องก่อนหน้านี้ยังไม่มีเวลา แต่ว่าเดี๋ยวกลับไปถมนะค้า >3<
เลือดหมดตัวแล้วค่า ><
ตอบลบ