KHR Au S.Fic [8059] Blooming Heart : 02


KHR Au S.Fic [8059]    Blooming Heart : 02

: KHR  feat.Natural city  Fanfiction AU
: TYL80 x TYL59  ,  TYL80x59
: Romantic  Drama  Sci-fi
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ









พื้นมันวับของทางเดินส่งเสียงเอี๊ยดๆเมื่อถูกเสียดสีกับพื้นรองเท้าบูทที่ทำมาเป็นพิเศษเฉพาะสำหรับ MP  ขายาวก้าวเดินไปตามทางที่คุ้นเคยก่อนจะเปิดประตูห้องห้องหนึ่งเข้าไปโดยที่ไม่ได้เคาะขออนุญาติ


“ เฮย...ผู้พัน...ถึงนายจะยิ่งใหญ่แค่ไหนแต่ถ้าจะเข้ามาในห้องของผู้บังคับบัญชาละก็....ช่วยเคาะประตูนิดดดดนึง”        เสียงยานคางดังมาจากหลังกองเอกสารที่สูงท่วมหัวจนมองไม่เห็นคนที่นั่งอยู่ข้างหลังโต๊ะ ร่างสูงใหญ่เดินอ้อมไปข้างๆก่อนจะถอนใจกับสภาพของคนที่เรียกตัวเองว่าผู้บังคับบัญชา


ร่างที่ทุกอย่างเป็นสีขาวล้วนทำหน้าตาง่วงๆนอนเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้ ขาทั้งสองข้างยกขึ้นไขว้กันไว้บนกองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ...ในมือแทนที่จะถือเอกสารแต่มันกลับเป็นถุงใส่มาชมาโล....ก็เพราะแบบนี้น่ะแหละ งานมันถึงได้สุมจนจะติดเพดานอยู่แล้ว


“ เอ้านี่!....รายชื่อสถานที่ที่ได้รับแจ้งมา ช่วยจัดการให้เรียบร้อยด้วยนะยามาโมโตะคุง”      LCD ที่ถูกพัฒนาจนบางเฉียบพอๆกับกระดาษถูกยื่นมาตรงหน้า ซึ่งเขาก็รับมันเอาไว้แบบไม่ใส่ใจนัก


“ เขต 45 ?”      รายชื่อที่มองเห็นทำให้เผลอเอ่ยปากออกไปอย่างเบื่อหน่าย งานอันตรายๆแบบนี้ทำไมต้องส่งเขาไปทุกที


“ อะไรกัน...ผู้พันยามาโมโตะ...นั่นมันเขตในดวงใจนายไม่ใช่รึไง เห็นชอบไปบ่อยๆฮะฮะ”       ชอบที่ไหนกันล่ะ...ก็เพราะว่าไม่มีใครที่ไปแล้วรอดกลับมาเหมือนเขาน่ะสิ ถึงได้ส่งแต่เขาไป!


“ ลาละ...”       เขาหันหลังเตรียมจะออกจากห้องไปอย่างหน่ายๆ แต่อีกคนก็เรียกเขาเอาไว้ซะก่อน


“ เดี๋ยวสิยามาโมโตะคุง! เดี๋ยวนะๆ”      แล้วเจ้าตัวก็ก้มลงไปคุ้ยอะไรบางอย่างในกองเอกสารที่ไหลลงไปตั้งอยู่ที่พื้น


“ ระหว่างทางไปเขต 45 นายต้องผ่านสถานีวิจัยของเวลเด้สินะ...ฝากเอกสารนี่ให้หมอนั่นด้วย”       ก็แล้วทำไมไม่ส่งเมล์ไปล่ะ?  เขาคงจะทำหน้าสงสัยจนเจ้าผู้บังคับบัญชาผมขาวรู้สึกได้ ใบหน้ายิ้มแย้มจึงยื่นเอกสารชิ้นนั้นมาแทบจะชนหน้าของเขา


“ เอกสารลับทางราชการน่ะ มีชิ้นส่วนของการวิจัย MR บางตัวที่มีปัญหา เราจึงต้องเอามาตรวจสอบก่อน แต่ตอนนี้มันผ่านเรียบร้อยแล้วละ ฝากเอาไปให้ดอกเตอร์นั่นด้วยก็แล้วกัน”     LCD ที่ฉายหน้าจอขึ้นรหัสถูกรับเอามาถือไว้อีกอัน เขาหันหลังโบกมือแล้วเดินจากไป....จะว่าไปสมัยนี้เอกสารก็เหลือแค่แผ่นบางๆแบบนี้ไม่ใช่มีเป็นแฟ้มๆเหมือนเมื่อก่อน....แล้วไอ้ตั้งที่กองอยู่รอบๆโต๊ะเจ้าเบียคุรันนั่นมันจะต้องเป็นเอกสารกี่ล้านฉบับกันถึงสุมได้เยอะขนาดนั้น?


จะว่าเป็นคนที่ใส่ใจหรือไม่ใส่ใจกับอะไรรอบๆข้างดี? เพราะอย่างน้อยหมอนี่ก็คือคนที่พาฮายาโตะมาฝากเอาไว้กับเขา...








มอเตอร์ไซค์คันใหญ่วิ่งฝ่าถนนเรียบโล่งซึ่งสองข้างทางต่างเต็มไปด้วยโกดังร้างและซากปรักหักพังอีกทั้งยังสิ่งของสารพัดที่ถูกนำมาทิ้ง เป็นเหมือนกับสุสานของขยะปริมาณมหาศาลที่กินพื้นที่กว้างจนสุดลูกหูลูกตา เพราะแบบนั้นในย่านนี้จึงแทบจะไม่มีใครผ่านไปผ่านมา


จะว่าไปมันก็เหมือนกับเป็นเบื้องหลังของความศิวิไลซ์และสงบสุขของโลกในยุคปัจจุบัน


เสียงกระหึมทุ้มกังวานของมอเตอร์ไซค์ดังเคียงคู่ไปกับตัวถังและลูกล้อที่ดูใหญ่กว่ามอเตอร์ไซค์ทั่วไป...เขาชอบเสียงของมัน...และการได้ถลาเล่นลมเหมือนอย่างนกนางแอ่นก็เป็นอีกสภาวะที่ทำให้จิตใจของเขาผ่อนคลาย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ใช้รถยนต์อย่างที่คนอื่นๆเขาใช้กัน


ชายเสื้อคลุมตัวนอกสีเขียวอมดำซึ่งเป็นสีที่เป็นสัญลักษณ์ของ MP โบกสะบัดไปกับสายลม ตัวรถเอนเข้าโค้งซ้ายทีขวาที มือใหญ่ในถุงมือสีดำบิดคันเร่งในจังหวะสม่ำเสมอ จนกระทั่งมองเห็นอาคารสีมอหลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางซากเศษเหล็ก เขาจึงลดความเร็วลง แล้วเลี้ยวเข้าไปจอดที่ลานจอดรถเล็กๆหน้าอาคาร


สถาบันวิจัย MR ที่ 3...


ป้ายชื่อจะหลุดมิหลุดแหล่ห้อยต่องแต่งอยู่เหนือทางเข้า สถานที่นั้นดูเก่าโทรมไม่สมกับที่เป็นแหล่งวิจัยและผลิตสิ่งประดิษฐ์ที่ดูละเอียดอ่อนอย่าง MR เลยสักนิด ใบหน้าคมสะบัดไปมาหลังจากถอดหมวกกันน็อคออก ขายาวก้าวลงมาจากมอเตอร์ไซค์ก่อนจะเดินเข้าไปในทางเดินที่ไฟกระพริบติดๆดับๆ....นี่ดีนะที่เขามาตอนกลางวัน ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเป็นตอนกลางคืนมันจะหลอนขนาดไหน....


เขาไม่ต้องเสียเวลาเดินหาห้องของดอกเตอร์เวลเด้ให้เสียเวลา เพราะจะว่าไปแล้วเขาเองก็เข้านอกออกในที่นี่อยู่บ่อยๆ ....ความจริงแล้วที่โตเกียวแห่งนี้มีสถาบันวิจัยและผลิต MR อยู่ทั้งหมด 5 แห่ง แห่งที่ 1 นั้นปิดไปแล้วเนื่องจากอุบัติเหตุบางอย่างที่ไม่มีใครทราบสาเหตุแน่ชัด และนักวิทยาศาสตร์ส่วนหนึ่งของสถาบันวิจัยที่ 3 แห่งนี้ก็ย้ายมาจากที่นั่น...ดอกเตอร์เวลเด้เองก็เช่นกัน


อ่า...ดูเหมือนคนที่สร้างฮายาโตะขึ้นมา จะเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นด้วย


ท่ามกลางทางเดินที่มีเพียงแสงไฟสลัวๆ แสงไฟสว่างจ้ากลับลอดออกมาจากห้องที่อยู่ปลายสุดของทางเดิน เขาเคาะประตูสองสามทีก่อนจะถือวิสาสะเปิดเข้าไป


“ เอาของมาส่งให้ดอกเตอร์เวลเด้ครับ”      หลังจากบอกออกไปไม่นาน เสียงล้อเก้าอี้ขยับก็ดังให้ได้ยิน ชายหนุ่มในกรอบแว่นตาทรงกลมใบหน้าอิดโรยยื่นหน้าที่มีแต่หนวดเคราออกมาจากหลังกองคอมพิวเตอร์ สำหรับเขาที่ใช้แต่ร่างกายแล้วคงไม่มีวันเข้าใจคนจำพวกนี้ว่าไอ้ข้อมูลเรียงเป็นพรืดแบบนั้นอยู่ด้วยแล้วมันสนุกยังไง


“ อ้า...กำลังรออยู่พอดีเลย”      ใบหน้าที่ดูเหมือนจะไม่ได้นอนมาหลายคืนเริงร่าขึ้นมาทันทีที่เขายื่นเอกสารแผ่นนั้นให้


“ ตามสบายเลยนะ”      เจ้าตัวหันมาบอกเขาก่อนจะหายเข้าไปในห้องข้างๆพร้อมกับเอกสารแผ่นนั้น....เขาเคยอยู่รอตามมารยาท แล้วก็ได้รู้เลยว่าหมอนั่นจะไม่ออกมาจากห้องนั่นจนกว่าเรื่องที่ค้างคาใจจะหมดไป ซึ่งบางทีมันก็กินเวลาไปกว่าค่อนวัน


ครั้งนี้เขาจึงตั้งใจจะเดินกลับออกไปเลย แต่ทว่าสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับลายเส้นหวัดๆบนแท็บเล็ตที่วางระเกะระกะอยู่บนโต๊ะรกๆนั่น ต้องยอมรับว่ารูปที่หมอนั่นวาดเขาไม่เข้าใจเลยสักนิด แต่ทว่าประโยคที่เขียนกำกับเอาไว้มันทำให้เขาไม่อาจละสายตาไปได้




....สมมติฐาน A ย้ายซีรีบรัมบางส่วนออกไปแล้วแทนที่หน่วยความจำส่วนหน้า ความทรงจำจาก MR มีความเป็นไปได้ว่าจะสามารถเชื่อมต่อกับมนุษย์ที่มีดีเอ็นเอใกล้เคียงกัน.....




หมอนั่นกำลังตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?


ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เขียนอยู่ในแต่ละส่วนมันหมายถึงอะไร แต่ความหมายโดยรวมของมันทั้งหมดมันทำให้เขาเข้าใจว่า หมอนั่นกำลังหาความเชื่อมโยงบางอย่างระหว่าง MR กับมนุษย์ ....มีความเป็นไปได้ว่าหมอนั่นกำลังคิดที่จะย้ายความทรงจำจาก MR มาใส่ในร่างของมนุษย์


ขนที่อยู่บนแขนของเขาลุกชัน....เพราะถ้าหากว่าหมอนั่นสามารถทำมันจนสำเร็จได้ บางทีเขากับฮายาโตะอาจจะ.....


“ ไม่สิ...”      เขาสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านพรรณนั้นออกไป เพราะถ้าทำแบบนั้นมันเท่ากับการฆาตกรรม...มิหนำซ้ำ ถึงแม้จะมีความทรงจำ มีนิสัยที่เป็นของฮายาโตะ แต่ทว่าถ้าใบหน้ากับร่างกายไม่ใช่....ยังไงก็ไม่ใช่ฮายาโตะ


สองมือได้แต่กำแน่น...


พยายามเดินออกไป พยายามไม่คิดอะไร...แต่ทว่าทุกประโยคที่เวลเด้เขียนเอาไว้ มันกลับฝังแน่นอยู่ในใจของเขา











เสียงกระหึ่มของมอเตอร์ไซค์และสายลมที่พัดเข้ามาปะทะกายทำให้สิ่งที่พบเห็นมาเมื่อครู่ดูเหมือนจะลืมเลือนไปได้บ้าง...เขาต้องทำใจให้ได้...และจะไม่มีวันย้ายสมองและหัวใจของฮายาโตะไปใส่ในร่างของใครก็ไม่รู้แบบนั้นแน่ๆ


ไม่มีวัน.....


มือบิดคันเร่งให้เร็วขึ้น....เพราะถึงแม้จะตั้งใจเอาไว้แบบนั้น แต่ลึกๆเพียงเสี้ยวเล็กๆของหัวใจ ก็ยังคงอยากให้ฮายาโตะอยู่กับเขาต่อไป...


มอเตอร์ไซค์หยุดลงท่ามกลางลานน้ำพุเก่าๆที่มีน้ำไหลเอื่อยๆลงมา รอบข้างเป็นอาคารสองชั้นทรุดโทรม หน้าต่างประตูแทบจะไม่มีให้เห็น ที่นี่ได้ชื่อว่าเขต 45 เป็นเขตปกครองลำดับสุดท้ายของโตเกียวซึ่งจะเรียงลำดับเลขเขตตามสภาพความเป็นอยู่ที่ดีที่สุดจนถึงเลวที่สุด


ที่นี่ยังคงมีมนุษย์อาศัยอยู่


แต่ทว่ามนุษย์ที่จะมาอาศัยอยู่ในสลัมเสื่อมโทรมขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่พวกนอกกฎหมายก็เป็นพวกอนาถา


MR.จะถูกกำจัดได้อย่างง่ายดายด้วยการกดสวิตซ์ แต่มนุษย์นั้นไม่ใช่....ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยเหล็กและคอนกรีต...อย่างน้อยๆเราก็ยังมีความเชื่อ...ว่าการฆ่าคนนั้นมัน...บาป


เพียงสิ่งเดียวที่ตกทอดกันมาทุกรุ่นของมนุษยชาตินั่นก็คือ ศาสนา....ถึงแม้วัฒนธรรมดั่งเดิมของบรรพบุรุษจะแทบไม่มีเหลือแล้ว แต่พระเจ้าก็ยังคงอยู่...ในหัวใจของมนุษย์...ที่มีเหลืออยู่น้อยเต็มที


เพราะเช่นนั้นเราจึงไม่สังหารมนุษย์ด้วยกันเอง แต่จำกัดสถานที่พักอาศัย โดยกีดกันและบีบบังคับให้พวกนอกกฎหมายเหล่านั้นมาอาศัยรวมกันอยู่ในเขตที่เรียกว่าเลวร้ายที่สุดแห่งนี้


เขากวาดสายตามองไปรอบๆตัว มีเพียงความเงียบงันเท่านั้นที่ออกมาต้อนรับ เขารู้ว่ามีสายตาหลายๆคู่มองมาจากรอบทิศทาง แต่พวกนั้นคงจะรู้จักเขาดี ถึงได้ไม่มีใครกล้าโผล่หน้าออกมา และเขาก็ไม่ได้มีหน้าที่ตามล่ามนุษย์พวกนี้ด้วย ในเมื่อหน้าที่ของเขาคือการตามล่า MR ที่หนีออกมาต่างหาก



MR หากหมดสิ้นอายุขัยและถ้าไม่มีใครปิดสวิตซ์ให้...มันจะคลุ้มคลั่ง



และเจ้าของบางคนก็รักและอาลัยอาวรณ์เกินกว่าที่จะกล้าปิดสวิตซ์ให้กับมือ เพราะฉะนั้นมันจึงเกิดกรณีที่ MR คลุ้มคลั่งทำร้ายเจ้าของแล้วหนีออกมาบ่อยๆ และนั่นมันก็จะเป็นงานของเขา...ที่ต้องตามล่า MR เหล่านั้นเพื่อนำมากำจัด


เสียงกรอบแกรบของเศษซากอะหลั่ยแผงวงจรอะไรบางอย่างดังควบคู่ไปกับการก้าวเท้าของเขา ทุกพื้นที่ของทางเดินล้วนเต็มไปด้วยเศษขยะชิ้นเล็กชิ้นน้อยเพราะไม่มีใครคอยเก็บกวาดดูแล ป้ายร้านอาหารฝุ่นเขรอะเขียนบอกเมนูง่ายๆแต่เขาก็ไม่เคยสั่งกินทั้งๆที่มาที่นี่นับครั้งไม่ถ้วน ขาก้าวเดินไปตามถนนเส้นเล็กๆ จากตึกแถวใจกลางของเขตออกมาไม่ไกลมันก็จะเต็มไปด้วยเพิงที่ทำขึ้นมาง่ายๆจากสังกะสีบ้าง แผ่นป้ายโฆษณาบ้าง...ถึงแม้จะเรียกไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ที่นี่ก็คือ “บ้าน” ของคนอีกหลายร้อยหลายพันคน


ใบหน้าคมก้มลงไปดูใน LCD ที่บรรจุเนื้อหาและแผนที่ของงานที่เขาจะต้องไปทำในครั้งนี้...โซนตะวันตก...อย่างนั้นหรอ?


ถึงแม้ว่าจะมาที่เขต 45 หลายต่อหลายครั้งแล้วก็จริง แต่เขตนี้ก็ใช่ว่าจะเล็กๆเสียเมื่อไหร่ ยังมีอีกหลายโซนที่เขายังไม่เคยเหยียบย่างเข้าไป ยกตัวอย่างเช่น...โซนตะวันตก


และยิ่งถ้าต้องไปโซนใหม่ๆที่ไม่เคยไปก็จะยิ่งอันตราย เพราะผู้คนของที่นี่ไม่เคยต้อนรับคนนอก ทุกคนต่างทำได้ทุกอย่างเพื่อเอาชีวิตรอด


ร่างสูงใหญ่เดินต่อไปเรื่อยๆ มีมนุษย์โผล่หน้าออกมาให้เห็นบ้างประปราย บลอคสุดท้ายแล้วก่อนที่จะเข้าสู่โซนตะวันตกของเขตที่ 45  ใบหน้าคมถอนหายใจครั้งหนึ่งก่อนจะเรียกประสาทสัมผัสทั้งหมดให้ตื่นตัว หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงล่าด้วยความสนุกสนาน แต่ตอนนี้...ในยามที่ยังมีใครสักคนรอให้เขากลับบ้าน...เขาจะประมาทไม่ได้


เขายังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ ท่ามกลางสายตาที่มองมาอย่างไม่เป็นมิตรจากคนที่นั่งอยู่ในเพิงเก่าๆที่น่าจะเป็นร้านเหล้า เขาไม่จำเป็นจะต้องเดินเข้าไปถามใคร ว่าเห็น MR เสียสติโผล่มาแถวนี้บ้างหรือเปล่า...เพราะว่า LCD ที่เขาถือมา มันจะส่งสัญญาณเตือนทันทีที่เขาเข้าไปใกล้ MR ตัวนั้น เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาจึงทำได้แค่เดินต่อไป


จากถนนเส้นใหญ่เริ่มซอยแยกย่อยขึ้นเรื่อยๆ เขาเก็บ LCD เข้าไปข้างในเสื้อคลุม เสียงกรอบแกรบที่ไม่ได้ดังตรงจังหวะการก้าวเท้าของเขาทำให้รู้ว่ามีใครสักคนกำลังเดินตามมา


เสียงของอะไรบางอย่างแหวกอากาศมาจากทางด้านหลัง ร่างกายของเขาก้มหลบลงด้วยสัญชาตญาณทันที ท่อเหล็กที่วืดไปทำท่าจะสวนกลับมาใหม่ แต่เขาก็คงจะไม่ปล่อยให้มันทำตามใจชอบ


ผลั๊วะ!


ขายกขึ้นเตะเต็มแรงไปที่ลำตัวซึ่งมีแต่กระดูกของคนที่คิดจะเล่นงานเขา ชายผู้นั้นล้มกลิ้งไปกับพื้นก่อนจะเอามือกุมท้องดูท่าทางจะจุกไม่ใช่น้อย...ก็บอกแล้วว่าเขาน่ะ แข็งแกร่งกว่า MR ...ชายอีกสองสามคนที่ยังมีท่อเหล็กในมือดูจะหวาดผวา แต่กระนั้นเพื่อความอยู่รอดจึงคิดจะช่วยกันเข้ามารุม


ท่อเหล็กในมือของใครสักคนกวาดมาที่พื้นหวังจะให้เขาลื่นล้ม แต่ขาที่ควรจะล้มกลับสปริงตัวไปข้างหน้าก่อนจะใช้สองมือยันพื้นเอาไว้ และใช้ขาคู่นั้นแหละเตะกวาดเข้าไปที่ก้านคอของคนที่มีอาวุธในมือ เขาตีลังกากลับมายืนอีกครั้งก่อนจะฟาดท่อนแขนเข้าที่ปลายคางของอีกคนที่ยังยืนสับสนอยู่ข้างๆ ร่างทั้งสามร่างล้มลงไปในพริบตาพร้อมๆกันทันที


ยังไม่ทันจะได้เหงื่อเลยด้วยซ้ำ....


มือยกสังกะสีที่วางเกะกะขวางทางเดินออกให้พ้นก่อนจะก้าวต่อไป แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งน้อยๆเมื่อมีเสียงเตือนเบาๆดังลอดออกมาจาก LCD ที่เสียบอยู่ภายในเสื้อ นัยน์ตาสีเปลือกไม้กวาดมองไปรอบกายทันที แล้วมันก็ต้องสะดุดตากับเงาร่างของใครบางคนที่สุดปลายตรอกแคบๆ เขาดูไม่ออกว่านั่นมันผู้หญิงหรือผู้ชาย เด็กหรือผู้ใหญ่ เพราะร่างทั้งร่างถูกคลุมเอาไว้ด้วยเศษผ้าเก่าๆสีมอซอ แม้แต่ศีรษะก็มีผ้าคลุมอยู่ ร่างๆนั้นเดินมาตามตรอกด้วยท่าทางปกติ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เรื่อยๆ และยิ่งเข้ามาใกล้เขาก็รู้ได้ว่าร่างนั้นสูงยังไม่ถึงหัวไหล่ของเขาด้วยซ้ำ


และก่อนที่จะเดินสวนกันไป ร่างน่าสงสัยนั่นก็ซวนเซเข้ามาชนเขาก่อนจะรีบผละออกไป


“ ขะ ขอโทษ...พอดีว่าไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน...”      เสียงเล็กๆลอดออกมาจากใต้ผ้าที่คลุมหัวอยู่ ก่อนจะก้มหน้าให้น้อยๆแล้วหันหลังเดินจากไป


จะบอกว่าไม่ได้กินอะไรจนหมดแรงอย่างงั้นสิถึงได้เซมาชนเขา?....รอยยิ้มดาร์กเผยขึ้นที่มุมปาก....เสียงเตือนจาก LCD ก็ยังดังไม่ได้หยุด....ฮึ...ถ้าหมดแรงจริงทำไมถึงได้...


ร่างสูงใหญ่สะบัดใบหน้ามองไปตามทางที่ร่างน่าสงสัยนั่นเดินไป ใบหน้ายิ้มพรายราวกับกำลังจะได้เล่นสนุก ขายาวหันกลับมาวิ่งตามไปทันที แล้วเจ้าคนที่บอกว่าหมดแรงนั่นก็เหมือนจะรู้ตัว ร่างในผ้าคลุมสกปรกจึงออกวิ่งหนีเช่นกัน


“ หยุดนะ! บอกให้หยุดไง!       เขาตะโกนออกไปด้วยเสียงข่มขู่ ร่างเล็กๆนั่นเร็วพอดู และก็เพราะตัวที่เล็กกว่าแถมยังชำนาญพื้นที่ ลำตัวที่มีผ้าคลุมรุ่มร่ามจึงมุดหายเข้าไปในรอยแยกเล็กๆของผนังที่ผุพัง


“ ฮึ”       คิดว่าผนังแค่นี่จะขวางเขาได้รึไง?  ฝ่าเท้ายกขึ้นมาก่อนจะถีบเข้าใส่ผนังนั่นเต็มแรง เสียงปูนร่วงกราวลงมาทันที ถึงแม้ว่าภายในจะมืดสนิทแต่แสงที่ลอดมาตามรอยแยกที่ฝั่งตรงข้ามก็ทำให้รู้ได้ทันทีว่าเจ้านั่นลอดผ่านออกไปทางนั้นแล้ว


เขาวิ่งตามออกไปยังซอยแคบๆ มองเห็นแผ่นหลังเล็กไวๆ จึงตัดสินใจกระโดดโหนตัวขึ้นไปยืนอยู่บนกำแพงที่มีแต่คราบสกปรกและนั่นมันก็ทำให้เขามองเห็นเจ้านั่นได้อย่างชัดเจนและรู้ได้ว่าเจ้านั่นกำลังจะวิ่งหรือจะเลี้ยวไปทางไหน เขากระโดดลงไปที่ฝั่งตรงข้ามกับที่ยืนอยู่และพังกำแพงไม้ผุๆเพื่อออกไปขวางทางเจ้านั่นเอาไว้


“ เฮ้ย!      เสียงอุทานอย่างตกใจดังลอดออกมาจากใต้ผ้าคลุม ในขณะที่เขากำลังเอื้อมมือจะไปคว้าคอเจ้านั่นเอาไว้ ท่อนไม้ที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุมก็ฟาดมาที่หน้าอกของเขาเต็มแรง


เพล้ง!!!!


ได้ยินเสียงแตกชัดเจน และสิ่งที่ถูกตีจนแหลกละเอียดนั่นก็ไม่ใช่อะไรเลย....LCD ที่จะเอาไว้จับเจ้า MR บ้าคลั่งตัวนี้นี่แหละ


ในขณะที่เขากำลังสบถเพราะกำลังนึกภาพตัวเองที่ต้องกลับไปฟังเสียงบ่นของเจ้าเบียคุรันเพราะดันทำ LCD พังเป็นครั้งที่ 25 ในรอบเดือน เจ้าร่างในผ้าคลุมนั่นก็ตวัดตัวคิดจะหนีไปอีกทาง...ไม่มีวันซะหรอก....เพราะถ้าหากเขาทำ LCD พังแล้วยังจับ MR ไม่ได้ด้วยเนี่ย...รู้ไหมว่าหูมันจะชาแค่ไหน


ปัง!!!


เสียงปืนดังก้องพร้อมๆกับร่างที่กำลังจะหนีล้มลงไปกับพื้นทันที เขากระโดดขึ้นคร่อมพร้อมกับล็อคสองแขนเล็กเอาไว้ด้วยกุญแจมือ เขารู้ว่าเจ้านี่ไม่ได้รับบาดเจ็บ เพราะที่เขายิงคือชายผ้าคลุมรุ่มร่ามนี่ต่างหาก


“ โอ๊ย! มะ ไม่เห็นต้องถึงกับยิงกันเลยไอ้บ้า! ไอ้โรคจิต! ฉะ ฉันก็แค่ฉกกระเป๋าตังค์แกมา ถ้าอยากได้นักก็เอาคืนไปเซ่!       เสียงเล็กด่าทอออกมาจากใต้ผ้าคลุม...อือ...ก็นั่นสินะ ที่เขารู้ว่าเจ้านี่ไม่ได้หมดแรงก็เพราะกระเป๋าที่ควรจะอยู่ในกางเกงของเขาถูกฉกไปนี่แหละ


“ ได้ของคืนแล้วก็ปล่อยเซ่!      ร่างข้างใต้ยังคงดิ้นรน


“ ขอโทษที...แต่นี่มันคือหน้าที่ของฉันที่ต้องกำจัดนาย”       ร่างข้างใต้สะดุ้งเฮือกก่อนจะตอบกลับมาอย่างละล่ำละลัก


“ วะ ว่าไงนะ? แค่ขโมยกระเป๋าตังค์ถึงกับต้องกำจัดกันเลยงั้นหรอ? อย่ามามั่วนะ! ใครจะยอมฟ๊ะ!       จริงดังว่า เพราะร่างเล็กๆนั่นทั้งเตะทั้งต่อยเท่าที่จะทำได้


“ ไอ้ขโมยของน่ะมันไม่มีโทษสำหรับเขต 45 นี่หรอก แต่ที่ฉันต้องกำจัดนายก็เพราะว่าคงจะปล่อยให้ MR ที่ทำร้ายเจ้านายตัวเองอยู่ต่อไปไม่ได้ต่างหาก”     


MR ?!


“ ก็ MR น่ะสินายน่ะ”


“ แกจะบ้าหรอ!! ฉันไม่ใช่ MR !!!


“ หื๋ม...MR ที่จะถูกกำจัดมันก็พูดแบบนี้กันทุกตัวนั่นแหละ หันหลังมา!         เขาพลิกร่างเจ้านั่นให้หันหลังก่อนที่มือจะลูบไปที่ต้นคอ


“ เป็นรุ่นที่สวิตซ์อยู่ข้างในหรอเนี่ย...”        ปกติ MR จะมีสวิตซ์อยู่ที่หลังคอ แต่ก็มีบางรุ่นที่สวิตซ์จะอยู่ข้างใน หากต้องการจะปิดมันต้องใช้สันมือฟาดเข้าไปแรงๆ


“ ก็บอกแล้วไงว่าชั้นไม่ใช่”       ร่างเล็กๆดิ้นรนจนพลิกตัวกลับมาได้อีกครั้ง และชายผ้าคลุมที่สะบัดไปมาก็เผยให้เห็นเส้นผมสีเงินที่ระอยู่ที่ต้นคอ



เส้นผมสีเงิน.....



ที่เหมือนกับเส้นผมของฮายาโตะ....




มือที่จับตัวเล็กบางนั่นอยู่ชะงักไปทันที ปลายคางมนที่เผยออกมาจากใต้ผ้าคลุมยิ่งทำให้หัวใจของเขาเต้นไม่ถูกจังหวะ  มือข้างหนึ่งค่อยๆย้ายไปจับไว้ที่หัวไหล่ของคนที่อยู่ข้างใต้ ส่วนอีกข้างตัดสินใจกระชากผ้าคลุมหน้านั่นออกทันที



แล้วก็ราวว่ากับหัวใจกำลังจะหยุดเต้น...




เพราะใบหน้าของคนที่เขาตามล่าตัวอยู่นั้น....




มันราวกับว่า....




ถอดออกมาจากพิมพ์เดียวกันกับ ฮายาโตะ....





เหมือน...





เหมือนกันมาก....





ขั่ววูบหนึ่งความคิดที่เคยเกิดขึ้นที่สถาบันวิจัยที่ 3 มันแล่นเข้าสู่สมองอย่างห้ามไม่ได้...






เขาสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆนั่นออกไป ก่อนจะหันมาสนใจร่างตรงหน้า ถึงแม้จะบอกว่าเหมือนฮายาโตะมาก แต่ที่จริงอาจจะต้องบอกว่าเด็กนี่ดูจะเด็กกว่าฮายาโตะของเขาอยู่ราวๆแปดเก้าปี ใบหน้ามอมแมมนั่นไม่ได้เรียวสวยแบบผู้ใหญ่ แต่กลับกลมป่องเหมือนใบหน้าของเด็กช่วงวัยรุ่น นัยน์ตาสีมรกตก็ไม่ได้ดูลึกซึ้งแต่กลับดูดื้อดึงเอาแต่ใจ ร่างกายก็ไม่ได้แบบบางเซ็กซี่แต่กลับเล็กกว่าทั้งแขนและขา


“ บอกให้ปล่อยไงวะ ไอ้บ้าสมองกลวง!       อ่า...แต่มีปากคอเราะร้ายนี่แหละที่เหมือนกันเป๊ะ


“ บอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่ MR!        เขายอมปล่อยร่างเล็กบางนั่นออกมาจากใต้ร่างของตัวเอง เขาไล่มองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า...มีความเป็นไปได้สูงมากว่าเด็กนี่จะเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา....แต่เขาคงไม่อาจจะปล่อยไปได้ง่ายๆ เพราะยังมีเรื่องสองสามเรื่องที่ยังคงติดใจอยู่


ปกติแล้ว MR ก่อนที่จะสร้างออกมา จะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วว่าหน้าตาจะไม่ไปซ้ำซ้อนกับมนุษย์ที่มีชื่อขึ้นทะเบียนอยู่ในโลก....เพราะแบบนั้นแล้วทำไมเด็กนี่ถึงยังมีหน้าเหมือนกับฮายาโตะของเขาอย่างกับแกะ...เพราะถึงแม้จะเป็นคนละช่วงอายุกันแต่การตรวจสอบของ MR นั้นไม่ใช่แค่ผิวเผิน แต่มันจะต้องมีการจำลองโครงหน้าของมนุษย์ทุกคนตั้งแต่เกิดจนโต เพื่อไม่ให้สร้างใบหน้าของ MR มาซ้ำไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุใด....เพราะเช่นนั้นจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมี MR หน้าเหมือนมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่


“ นายทำเครื่องตรวจสอบของฉันพัง เพราะงั้นคงต้องพาตัวกลับไปตรวจสอบละนะ ว่านายไม่ใช่ MR         เขาจับไปที่ข้อมือเล็กที่ยังคงถูกล่ามติดกันเอาไว้ด้วยกุญแจมือ


“ แกก็แค่ไปซื้อข้าวให้ฉันกิน  MR บ้านไหนมันกินข้าวได้กันบ้างล่ะวะ”       ปากดีนั่นยังคงเถียงต่อต้านสุดขีด ทั้งๆที่ตัวบางๆก็ถูกเขาลากติดมือมาด้วยแล้วเรียบร้อย


“ ก็ MR ที่กำลังหนีการตามล่าไงล่ะ  มันทำได้ทุกอย่างแหละ”        ....เขาโกหก....MR ไม่มีวันกินข้าวได้อย่างที่เด็กนั่นพูดจริงๆ


“ ฉันไม่ไปกับแกหรอก ปล่อยนะโว้ย!!       ขัดขืนไปเถอะ ยังไงก็สู้แรงเขาไม่ได้อยู่แล้ว ลำตัวเล็กๆถูกอุ้มขึ้นไปนั่งบนหลังมอเตอร์ไซค์


“ ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็นั่งไปดีๆ”       เขาหันไปทำเสียงเย็นๆขู่ และดูเหมือนจะได้ผล เด็กนั่นยอมอยู่นิ่งก่อนจะมองรถของเขาด้วยสายตาหวาดระแวง


เสียงกระหึ่มดังขึ้นก่อนที่มอเตอร์ไซค์จะกระชากตัวออกไปให้คนซ้อนผวาจนต้องขยับมากอดเอวของเขาเอาไว้อย่างช่วยไม่ได้  เขาได้ยินเสียงสบถดังมาเป็นระยะๆให้เผลอยิ้มที่มุมปาก....




ภาพของสถาบันวิจัยที่ 3 ผ่านเข้ามาในสายตา....




ก่อนที่เขาจะขับผ่านมันไป....





.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be Con.







…=w=...ไม่บอกหรอกว่าตอนจบจะเป็นไง แล้วใครถามวะ?


เอาละสิ...มีก๊กโผล่มาอีกคน...หนทางที่ดูจะเป็นไปไม่ได้มันกลับมีแสงรำไรขึ้นมา...ความดราม่าก็กำลังจะบังเกิด โอ้ววววว ขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องมาติดตามกันต่อไปว่าเรื่องนี้มันจะไปจบลงที่ตรงไหน? เหะเหะ

ความจริงตั้งใจจะลงตอนที่ 3 ต่อกันเลย แต่ทว่าเพราะว่าวันนี้ไปนั่งขายแอนโธในงานคอมมิคสีสันมา ก็เลยหมดเรี่ยวหมดแรงมาปั่นต่อไม่ทัน TT^TT ไหนๆก็ไหนๆละ...มาโฆษณากันอีกซักรอบ *w* ยังมีอยู่นะค้าสำหรับแอนโธ 8059 เล่มนี้ แต่ก็มีเหลือไม่มากแล้วละน้า






โบกมือหยอยๆ ช่วยรับฟิคน้อยๆเล่มนี้ไปดูแลกันหน่อยน้า... เก๊าจะได้ไม่ต้องไปนั่งขายในงานแล้วเอาเวลามาปั่นฟิคให้อ่านดีก่า (ผลั๊วะ)




และก่อนจะลาจากจร...วันนี้คุณปั่นจักรยาน(?)กันแล้วหรือยังคะ?



โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ตอน 371 ค่ะ หลังจากที่ทิ้งไว้ให้จิ้นเมื่อสองตอนก่อน ว่าอิจักรยานสุดหล่อ(?)คันนี้มันจะปั่นไปถึงสวรรค์(?)ได้อย่างไร ใครจะปั่นใครจะซ้อน..และแล้ววันนี้ อ.อามาโนะขราก็มาเฉลยด้วยตัวเองแล้วค่ะ....อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก มัน 8059 มาก!!!! หนูก๊กซ้อนอ่ะ...หนูก๊กซ้อนด้วยละ >//////< ตกลงปลงใจกับเค้าไปแล้วใช่ไหมลูกมี๊ ปกติหนูต้องไม่เคยยอมใครนอกจากจูไดเมะดิค้า แล้วไมพักหลังๆมานี้ถึงได้ยอมเนียนมันจัง คราวนี้ยังยอมให้มันนำอีกน่ะ อร๊ายยยยย

ชาบูๆๆๆๆสุดหูรูดเลยค่ะ อ.อามาโนะขรา....




อีกนิด...สำหรับคนที่คิดถึงเสียงของหนูก๊ก....

ตอนนี้คุณอิจิ เค้าพากย์อนิเมะเด็กอยู่เรื่องนึงค่ะ ชื่อว่า Poyopoyo Kansatsu Nikki ว่างๆก็ไปหามาดูกันนะค้า ข้าพเจ้ากำลังติดมากๆเลยอ่ะ น่าร้ากกกกกกกกกกก คือคุณอิจิเค้าพากย์เป็น Sato Hide ค่ะ จะบอกว่าคล้ายก๊กมากกกกกกกก อาจจะไม่ซึนเท่าแต่ความน่าแกล้งนี่เหมือนกันเลยค่ะ 5555 หน้าตายังมาเค้าโครงเดียวกันด้วยอ่ะ >w< แต่มันเป็นอนิเมะเด็กอ่ะนะ ลายเส้นเลยง่ายๆสบายๆ ดูแล้วยิ้มกับหัวเราะอย่างเดียวเลยค่ะ 555 ตอนละไม่กี่นาทีเอง โอ๊ยยยย อยากให้ฉายทุกวันจริงเชียว!

ปกติจะฉายวันอาทิตย์นะคะ ลองหามาดูกันเน้...>w<...



 คนผมยาวที่กำลังเปิดกระเป๋าอยู่นั่นแหละค่ะ >w<




3 ความคิดเห็น:

  1. ................= ="

    ชักจะงงแล้วสิว่า ก๊กไหนคือคนโต ก๊กไหนคือคนเล็ก =[ ]=!

    ตอนที่ยามะเห็นหนูก๊กอีกคนนึง ข้าน้อยก็เกิดอาการคิดว่า ยามะกินตับบบบบบบ!

    ตอบลบ
  2. โอ้วววววววววว
    เริ่มจะซับซ้อนซ่อนเงื่อน -..-
    รอติดตามว่าใครจะเป็นนายเอกจริงๆ กันแน่
    //แต่เก๊าก็เชียร์ก๊กแบบบอทมากกว่านะ
    รู้สึกว่าชอบก๊กแบบบอทมากกว่าไงไม่รู้อ่ะ ฮือ T T

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ4 สิงหาคม 2566 เวลา 08:08

    ดราม่าไหมคะะ

    ตอบลบ