KHR Au.Fic [692718 8059] ……Yuki Shizuku Aishiteru…. : 09
: KHR Au Fanfiction
: 692718 8059
: Romance Drama Incest
: PG
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
.
.
.
.
.
.
นัยน์ตาสองสีจ้องมองกระดาษแผ่นเล็กๆในมืออย่างเลื่อนลอย ก่อนจะค่อยๆปล่อยขาของนกพิราบสีขาวให้เป็นอิสระ
เจ้านกโผบินออกไปตามที่ใจต้องการ....
เขาได้แต่เฝ้ามองตามไปจนลับสายตา....อยากเป็นอิสระ....จากทุกสิ่งทุกอย่างที่พันธนาการเขาเอาไว้....ถึงจะไม่อาจมองเห็นแต่เงาที่ตกกระทบพื้นดินก็ราวกับจะมีโซ่ตรวนเส้นใหญ่รัดพันจนแทบจะหายใจไม่ออก
โซ่ที่เรียกว่าความชิงชัง
มือเผลอยกขึ้นลูบที่ซีกแก้ม ร่องรอยและความเจ็บปวดไม่มีเหลืออยู่แล้วก็จริง แต่ทุกสัมผัสมันกลับหยั่งรากลึกเข้าไปจนไม่อาจจะลืมเลือนได้...ท่านแม่คงจะโกรธมาก.....
ท่านไม่จำเป็นต้องถาม....เพราะอย่างไรข้าก็คือลูกชายของท่าน....
เสียงวิ่งตึงตังทำให้คนที่อยู่ในภวังค์ชายตาไปมองอย่างไม่สบอารมณ์นัก....เพราะเพิ่งตื่นขึ้นมาเลยลืมเสียสนิทว่าเขายังอยู่ที่ตำหนักของเจ้าเด็กที่น่าชิงชังนั่น
“ มุคุโร่!!” ร่างเล็กๆเปิดประตูพรวดเข้ามาอย่างไม่รักษาไว้ซึ่งมารยาทของผู้ที่ขึ้นชื่อว่าองค์ชาย ก่อนจะขยับกายอย่างฝืนๆเดินเข้ามาหาร่างสูงที่ยังคงนั่งอยู่บนฟูก
“ คึหึหึ....ไร้มารยาทเสียจนข้าไม่อยากจะตำหนิเลยนะเจ้าน่ะ...แล้วมีอะไร....หากไม่ใช่ธุระจำเป็นแล้วละก็เชิญไสหัวไปได้เลยเพราะข้าจะไม่รับฟัง...” ร่างที่อยู่ในชุดยูคาตะสีขาวซึ่งเจ้าตัวให้คนนำมาจากตำหนักยกสองแขนขึ้นกอดอกก่อนจะปรับสีหน้ามายิ้มละไมแฝงไว้ด้วยความร้ายกาจ
“ เมื่อคืนนี้โกคุเดระคุงไม่ได้กลับมาที่ตำหนัก....พอไปถามท่านพี่ก็ทราบความจริงที่ว่าคนของเจ้าลอบตามโกคุเดระคุงไปด้วย...เพราะฉะนั้นข้าเลยอยากจะรู้ว่า...เจ้าพอจะทราบไหมว่ายามาโมโตะอยู่ที่ไหน” เพราะเรื่องนี้เองสินะ ถึงได้พรวดพราดเข้ามาหาแบบนี้....ร่างเล็กๆนั่นนั่งลงที่ข้างฟูกอย่างที่ไม่ได้รับเชิญให้ใบหน้าเรียวกระตุกอย่างไม่พอใจ....เขาจะรับมือเจ้าเด็กที่ไม่รู้สึกรู้สาหรือจะว่าไร้เดียงสานี่ยังไงดี...
“ หึ....คงจะพาไปสังหารที่ไหนแล้วก็ได้ละมั้ง” นัยน์ตาสองสีจ้องลึกลงไปในดวงตากลมโตอย่างพยายามจะขู่เข็ญให้หวาดกลัวสักนิดก็ยังดี
“ ไม่มีทางหรอก...ถึงข้าจะไม่รู้ว่าระหว่างสองคนนั้นรู้จักกันได้ยังไง แต่ข้ารับรู้ได้ว่าคนของเจ้าน่ะ...หลงรักโกคุเดระคุงของข้าเข้าเต็มเปาเลยละ....หรือเจ้าว่าไม่ใช่” ใบหน้าเนียนใสยังมีหน้ามายิ้มระรื่นคืนมา ให้ใบหน้าเรียวยิ้มกระตุกอย่างไม่รู้จะทำยังไงต่อไป
มันน่าโมโหนัก....
“ แต่ถึงยังไงข้าก็ยังเป็นห่วงน่ะว่า ทั้งคู่จะไปตกหลุมพรางที่ไหนอีกหรือเปล่า...เจ้ารู้อะไรบ้างไหม?” ใบหน้าเล็กยื่นเข้ามาถามใกล้ๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้เจือความห่วงใยปนสงสัยอย่างที่ว่าจริงๆ ความสดใสที่ตรงไปตรงมาแบบนี้ทำให้ร่างสูงเผลอผงะถอยหลัง
“ อย่าเอาหน้าเข้ามาใกล้...ข้ารังเกียจ” ถึงจะพูดออกไปแบบนั้นแต่ความร้อนผ่าวที่ใบหน้าเรียวก็ไม่ใช่เรื่องที่จะโกหกกันได้ และเมื่อร่างเล็กเห็นอาการแบบนั้นของคนตรงหน้าก็รู้สึกว่ามันช่างน่าแกล้ง....
“ หื๋อ?....เจ้าว่าอะไรนะ?” และใบหน้าใสก็ยิ่งยื่นเข้าไปใกล้มากกว่าเดิม
“ .............” ดูเหมือนคำพูดจะถูกกลืนหายไปกับดวงตากลมโตที่จ้องอยู่ในระยะประชิด เสียงหัวใจเต้นแรงจนตัวเองยังได้ยินอย่างชัดเจน ใบหน้าเรียวรีบสะบัดไปอีกทางก่อนจะเอาแผ่นกระดาษแผ่นเล็กที่ได้รับมาจากพิราบสื่อสารแปะลงไปบนใบหน้าของเจ้าคนที่ยื่นเข้ามาใกล้แล้วยันมันออกไป แล้วพยายามสงบหัวใจที่กำลังเต้นระรัว
“ อยู่กับยามาโมโตะจริงๆด้วยสินะ...ถ้าอย่างนั้นข้าก็วางใจ...ฮะฮะ” เจ้าตัวดีก้มลงอ่านข้อความสั้นๆที่ทหารคนสนิทของเขาเขียนบอกเอาไว้
“ ถ้ารู้เรื่องแล้วก็ออกไปจากห้องนี้เสียที....ข้าไม่อยากอยู่ใกล้เจ้านานๆนักหรอกนะ” พยายามทำให้รู้ว่าชิงชัง แต่กระนั้นก็ดูเหมือนมันจะไม่ค่อยได้ผลนัก
“ เข้าใจแล้ว ถ้าเช่นนั้นข้าจะให้นางกำนัลยกอาหารมาที่นี่ก็แล้วกันนะ” เจ้าตัวดียิ้มร่าแล้วเดินกระโผลกกระเผลกออกไป.....เข้าใจว่าอะไรของเจ้ากันเนี่ย?
และไม่นานกลิ่นอาหารหอมฉุยก็ลอยเข้ามาในห้องให้คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความไม่พอใจ ร่างเล็กๆนั่งลงที่ข้างๆฟูกอีกครั้งก่อนที่ตั่งสำหรับวางอาหารจะถูกนำมาวางลงตรงหน้าคนทั้งสอง ใบหน้าเรียวของร่างสูงหันไปจ้องเขม็งบ่งบอกให้รู้ว่ากำลังไม่ชอบใจกับร่างเล็กที่ยังคงทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“ คึหึหึ...นี่มันอะไรกัน...ใครบอกว่าข้าจะกินข้าวกับเจ้า เอาออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ” ร่างสูงหันมาออกปากไล่อย่างจริงจัง
“ ช่วยไม่ได้นี่นา....ก็คนของเจ้าพาโกคุเดระคุงไป...เพราะงั้นเจ้านั่นแหละที่ต้องรับผิดชอบ” ใบหน้าน่ารักตอบมาแบบไม่รู้สึกรู้สาก่อนจะก้มลงไปมองอาหารในสำรับด้วยดวงตาเป็นประกาย
“ อะไร?” และร่างสูงก็เอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่ง ก่อนที่ใบหน้าเล็กจะเงยขึ้นมาแล้วพูดในสิ่งที่ทำให้เขาสะเทือนไปทั้งหัวใจ
“ ก็ข้าไม่เคยกินข้าวคนเดียวนี่...”
.....เจ้าไม่เคยกินข้าวคนเดียว....เพราะเป็นที่รัก.....
.....แต่ข้านั้นไม่เคยกินข้าวร่วมกับใคร....เพราะไม่มีใครรัก.....
.....ช่างน่าอิจฉาและน่าชิงชังจริงๆเลยนะ...เจ้าน่ะ.....
“ อีกอย่าง เรี่ยวแรงของเจ้าก็ยังไม่ค่อยฟื้นดีใช่ไหมล่ะ เพราะงั้นข้าจะดูแลเจ้าเอง....มากินข้าวด้วยกันเถอะนะมุคุโร่”
นัยน์ตาสองสีเบิกกว้างก่อนจะหรี่ลงอย่างช้าๆ....กับแค่คำชักชวนง่ายๆของคนที่เป็นที่รักอย่างเจ้า...ทำไมมันถึงทำให้ข้าอยากจะร้องไห้....
บางที...สิ่งที่เขาต้องการอาจจะไม่ใช่ยศถาบรรดาศักดิ์ ไม่ใช่อำนาจหรือทรัพย์สมบัติ....แต่เป็นคำง่ายๆที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำนี้
“ เป็นอะไรไปน่ะ? หรือว่าเจ้าไม่ชอบกินผัก?” ร่างเล็กพยายามตะแคงคอเพื่อมองหน้าของร่างสูงที่พยายามซุกซ่อนร่องรอยของความดีใจเอาไว้ด้วยการก้มหน้านิ่ง
“ คึหึหึ....ข้าไม่ใช่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเจ้านะ จะได้เลือกกิน” ร่างสูงยังคงเลือกใช้ถ้อยคำจิกกัดทั้งๆที่มือใหญ่ยอมหยิบตะเกียบขึ้นมาแต่โดยดี นัยน์ตาสองสีมีแววอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดจนร่างเล็กอดที่จะอมยิ้มไม่ได้
ว่าแต่...ไหนว่าจะดูแลเขา.....แล้วนี่อะไร?....
“ ฮึยย่ะ...แกะ...ไม่...ออก.....” เปลือกหอยลอยกำลังถูกตะเกียบสองอันที่จับโดยมือเล็กสองมือแงะให้หลุดออกจากกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ ...............” ร่างสูงได้แต่นั่งมองอีกคนที่กำลังใช้ความพยายามอย่างหนักด้วยไม่รู้จะสมเพชหรือจะน่าสงสารดี...ทั้งๆที่เป็นถึงตำหนักชั้นในสุด กับแค่หอยลายทำไมพ่อครัวถึงไม่เอาเปลือกออกให้....และเมื่อเจ้าตัวดีเอ่ยบอกเหตุผลออกมามันก็ทำให้เขาถึงกับอึ้งไปหลายวินาที
‘ ถ้าเอาเปลือกออกแล้วมันจะไปสนุกอะไรล่ะเวลากิน....’
ยิ่งนึกภาพในยามที่มีเจ้าคนสนิทร่างบางนั่งแกะเปลือกหอยอยู่ด้วยกันในยามปกติแล้ว....มันอาจจะดูน่ารักหรือไม่ก็อุจาดตาไปเลยก็ได้
ที่ท่านพ่อหวงเจ้าราวกับไข่ในหินไม่ยอมให้ออกไปพบเจอใครมันเป็นเพราะแบบนี้หรือเปล่า....ถ้าเช่นนั้นเขาก็รู้สึกราวกับจะหมดแรงเอาเสียดื้อๆที่ไปเฝ้าจงเกลียดจงชังเจ้าเด็กที่ไร้แก่นสารแบบนี้...
“ อ่ะ...ข้าให้เจ้า...คนป่วยต้องกินเยอะๆนะ” แล้วมือเล็กก็คีบหอยลายที่แกะเปลือกออกไม่ได้มาวางเอาไว้ในจานเขา พร้อมทั้งยังคีบชิ้นเนื้อของเขากลับไปวางในจานของตัวเองหน้าตาเฉย “ เพิ่งหายป่วยแบบนี้กินเนื้อมันไม่ดีนะ เพราะมันจะทำให้ย่อยยาก เพราะงั้นข้าจะเสียสละกินมันเองแล้วกัน” ก็แค่อยากจะกินเนื้อทั้งหมดคนเดียวละสิไม่ว่า และเมื่อใบหน้าเรียวเงยขึ้นมองก็แอบเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าเล็ก....หนอย......
มือใหญ่หยิบตะเกียบก่อนพยายามแกะเปลือกหอยลายอันนั้นให้หลุดออกจากกัน....คอยดูเถอะ....หากเขาแกะมันได้ จะกินเยาะเย้ยให้ดู!
มื้อเช้าผ่านไปด้วยเสียงต่อล้อต่อเถียงและเสียงตะเกียบที่ต่อสู้กันเหนือน่านฟ้าอาหาร นัยน์ตาสองสีลอบมองร่างเล็กๆที่นั่งเหยียดขาลูบท้องอย่างไม่นึกถึงคำว่ามารยาทอยู่ที่ข้างๆฟูก....เขาเพิ่งรู้....ว่าการกินข้าวร่วมกับใครสักคน....มันสนุกแบบนี้นี่เอง
สายลมเย็นสบายพัดโชยเข้ามาทางประตูบานเลื่อนที่ถูกเปิดเอาไว้ กลีบซากุระปลิวเข้ามาตกอยู่บนผ้าห่มที่คลุมท่อนล่างขององค์ชายที่สองให้นัยน์ตาสองสีเหลือบลงไปมองด้วยสายตาอ่อนโยน....ถึงจะเป็นตำหนักที่ทำออกมาหน้าตาเหมือนกันไม่มีผิด แต่ที่นี่กลับมีบรรยากาศที่แตกต่างไปจากตำหนักของเขาราวฟ้ากับหุบเหว
เจ้าของตำหนักหายตัวไปตั้งแต่ทานอาหารเช้าเสร็จ และไม่กลับมาก่อกวนเขาอีกเลย...ถึงจะสงบหูดีแต่บางทีก็รู้สึกว่ามันสงบเงียบเกินไป
นี่เขาเป็นอะไรไป ?
ใบหน้าเรียวสะบัดไปมา....จะหลงใหลไปกับกลิ่นที่หอมหวานนี่ไม่ได้ เขายังมีภาระและหน้าที่ที่จะต้องทำในฐานะลูกชายของท่านแม่อยู่!
ร่างสูงนั่งนิ่งอยู่บนฟูกพรางเหม่อมองออกไปที่สวนสีเขียวขจี ภายในหัวกำลังขบคิดถึงวิธีต่างๆที่จะใช้เล่นงานเจ้าเด็กที่น่าชิงชัง...แต่ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน เขาก็กลับจินตนาการออกแต่ภาพรอยยิ้มสดใสที่จะทำลายแผนการของเขาลงจนราบคาบอยู่ร่ำไป....มันน่าเจ็บใจนัก...นี่เจ้าเข้ามาปั่นป่วนอะไรในตัวข้ากัน สึนะโยชิ!
แต่แล้วในขณะที่กำลังขบกรามแน่นอยู่คนเดียว เสียงฝีเท้าก้าวไม่เป็นจังหวะนักก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เสียงเดินแบบนี้น่าจะเป็นเจ้าตัวดีที่อาการบาดเจ็บยังไม่ค่อยจะหายดีนักแน่ๆ
และเมื่อประตูถูกเปิดออก....องค์ชายที่สองก็คาดเดาไม่ผิดเลยแม้แต่นิดเดียว
ผู้ที่เดินยิ้มเข้ามาคือร่างเล็กๆนั่นจริงๆ แต่สิ่งที่ทำให้ประหลาดใจคือสิ่งของที่นางกำนัลนั้นถือเข้ามาด้วย
ห่อผ้าสีขาวถูกวางลงระหว่างประตูที่เปิดออกสู่สวน ก่อนที่ร่างเล็กจะเดินตามลงไปนั่งลงที่เบื้องหลัง ใบหน้าเนียนหันหน้าเข้ามาแล้วปรายตามามองที่อีกคนที่ยังคงจ้องไม่วางตา ห่อผ้าถูกปลายนิ้วเรียวเล็กค่อยๆรูดออกไป ให้ปรากฏเป็นสิ่งของที่ดวงตาสองสีเห็นแล้วถึงกับตะลึง
.....โกโตะสีขาวตัวนั้น.....
ภายในใจนั้นทั้งสับสนทั้งร้อนลน และยิ่งเงยหน้าขึ้นไปสบกับดวงตากลมโตที่มองมาด้วยสายตาราวกับจะเอ่ยคำว่าขอบคุณแบบนั้นมันยิ่งทำให้ร่างสูงทำอะไรไม่ถูก...ไม่อยากให้รู้...ว่าเป็นเขาเองที่ไปสั่งให้ประกอบมันขึ้นมาใหม่....แต่คงจะเป็นไปไม่ได้แล้วสินะ ในเมื่อร่างเล็กๆนั่นดูเหมือนจะจงใจยกมันออกมาเพื่อบอกเขาว่าตนนั้นรู้แล้ว
นิ้วเรียวเล็กค่อยๆถูกสวมเล็บสำหรับใช้เล่นโกโตะทีละนิ้วๆ นั่นยิ่งทำให้นัยน์ตาสองสีเบิกกว้างเข้าไปใหญ่
เขาคิดมาตลอดว่าคงไม่มีโอกาสได้เห็นเด็กนั่นเล่นโกโตะตัวนี้อีกแล้ว....
ในเมื่อยังมีโกโตะตัวที่สมบูรณ์กว่าอย่างโกโตะสีดำตัวนั้น...แล้วทำไม.....
“ นี่เจ้า...ไหล่ยังไม่หายดีแล้วนี่คิดจะทำอะไร” เขาเอ่ยดุออกไปทั้งๆที่ในใจนั้นกำลังเต้นระรัว
“ เจ้าเป็นห่วงข้าหรอมุคุโร่?” เจ้าตัวดีเอียงคอถามอย่างน่าหมั่นไส้ เขาเบะปากพรางหันหน้าหนี พยายามปรับลมหายใจให้เป็นปกติ
“ ทำไมข้าจะต้องห่วงเจ้าด้วย ก็แค่ไม่อยากจะฟังเพลงที่เล่นไม่ได้เรื่องของเจ้าต่างหาก” ไม่ใช่เลย....เสียงโกโตะตัวนี้ที่ออกมาจากปลายนิ้วเล็กๆนั้นมันราวกับเสียงสวรรค์...เขายังจำสิ่งที่ช่างทำเครื่องดนตรีบอกได้ดี....โกโตะตัวนี้พิเศษกว่าโกโตะตัวไหนๆ....
“ มันเป็นโกโตะที่เส้นเสียงไม่สม่ำเสมอ ถ้าจะเปรียบก็คงเหมือนคนที่อารมณ์ไม่คงที่.....” นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้กลมโตทอดมองอย่างอ่อนโยนมาที่เขาราวกับจะบ่งบอกว่าสิ่งที่พูดออกมานั้นมันหมายถึงใคร
“ เป็นโกโตะที่ใช้ยากและไม่มีใครสามารถใช้มันได้....ไม่มีใครเข้าใจและมองเห็นในความอบอุ่นอ่อนโยนที่มันมี....” ดวงตากลมโตคู่นั้นยังคงมองมาราวกับว่าจะทะลุปรุโปร่ง และเพราะทุกคำพูดมันทำให้ร่างกายของเขาผ่อนคลายเหมือนในที่สุดก็มีคนรับรู้และเข้าใจ....ทำไมต้องเป็นเจ้า....ทำไม...
“ และต่อให้มันใช้ยากแค่ไหน....ข้าก็ยังคงต้องการที่จะเล่นมันมากที่สุดอยู่ดี” ร่างกายเหมือนจะนิ่งค้างด้วยถูกสะกดจากถ้อยคำนั้น ร่างสูงนั่งนิ่งงันอยู่บนฟูก นัยน์ตาสั่นไหวและใบหน้าที่ไม่รู้ว่าจะแสดงออกไปยังไงดี....เขาทำไม่เป็น....ใบหน้าที่จะยิ้มได้อย่างจริงใจ
“ นี่มุคุโร่...เจ้าดูสิ....ตั้งแต่มันกลับมาหาข้ามันก็ยิ่งใช้ยากเข้าไปใหญ่แถมจับนิดเดียวก็มีเสียงเอียดอาดอย่างกับจะพังมิพังแหล่...เพราะงั้นข้าเลยคิดว่า....สำหรับเจ้าโกโตะตัวนี้น่ะ...”
“ ข้าจะเล่นมันเพื่อเจ้าเพียงคนเดียว....”
เสียงกังวานใสดังก้องไปทั่วห้อง
เจ้าเด็กนั่น...รู้ตัวบ้างหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา...
เจ้าเด็กนั่น...รู้ตัวบ้างหรือเปล่าว่าทำให้ข้าต้องกลายเป็นลูกอกตัญญู.....
ใบหน้าที่อมยิ้มน้อยๆยามก้มลงมองปลายนิ้วของตนซึ่งกำลังบรรเลงโกโตะนั้นคลอเคลียไปด้วยเส้นผมสีน้ำตาลที่พลิ้วไหวไปตามสายลม นัยน์ตาคู่กลมโตนั้นอ่อนโยนราวกับกำลังถ่ายทอดความรักลงไปในบทเพลง ต้นซากุระใหญ่ที่กลายเป็นฉากหลังกำลังโปรยปรายกลีบสีชมพูให้เป็นประกายตัดกับสีเขียวขจีของสวน แสงอันอบอุ่นทอดมาจากทางด้านหลังให้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าราวกับภาพวาดชั้นหนึ่ง
นัยน์ตาสองสีจ้องมองภาพนั้นไม่วางตา เช่นเดียวกับใบหูที่ได้รับรู้ถึงท่วงทำนองที่ไพเราะจับใจ
มันแฝงเอาไว้ด้วยสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างน่าประหลาด
ถึงเขาจะไม่เคยรู้จัก...แต่มันอาจจะเรียกว่า “ความรัก” ก็เป็นได้
ปลายนิ้วหยุดลงเมื่อท่วงทำนองนั้นจบสิ้น นัยน์ตากลมโตเหลือบขึ้นมองคนที่เคยนั่งอยู่ตรงหน้าแล้วก็ต้องอมยิ้มกับภาพที่เห็น....ร่างสูงโปร่งของคนที่บอกว่าเกลียดเขาหนักหนากำลังเอนตัวพิงผนังแล้วหลับไปด้วยใบหน้าผ่อนคลาย ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอและคิ้วที่ไม่ผูกติดกันดังเช่นปกตินั้นทำให้อีกฝ่ายดูราวกับเด็กๆ
ร่างเล็กขยับตัวอย่างแผ่วเบาเข้าไปนั่งมองหน้าของคนหลับอยู่ใกล้ๆ.....เครื่องหน้าได้รูปยิ่งได้มองยามหลับใหลยิ่งรู้สึกได้ว่าคนตรงหน้านั้นงดงามตามแบบฉบับของชายชาตรี ไล่สายตาจากหน้าผากเนียนมาที่นัยน์ตาซึ่งปิดสนิท เจ้าดวงตาที่หากมันเปิดขึ้นก็คงจะมองเขาด้วยแววชิงชังและเจ้าเล่ห์อย่างร้ายกาจ จมูกเป็นสันนั่นก็น่าจับโยกไปมา ริมฝีปากบางที่คอยแต่จะยิ้มละไมไม่น่าไว้วางใจมาให้ยามนี้มันกลับอมยิ้มน้อยๆ
ทั้งๆที่ยามหลับเจ้าก็ดูไร้พิษภัยถึงขนาดนี้แท้ๆ...
มือเล็กยกขึ้นไปลูบแก้มของคนที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่องอย่างเผลอไผล....
ทำไมเขาถึงได้สนใจคนที่ร้ายกาจแบบนี้...
ทำไมเขาถึงได้อยากอยู่ใกล้คนที่บอกและตอกย้ำคำว่าเกลียดเขา....
มือเล็กจับผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้ก่อนจะยิ้มออกมาน้อยๆ มือเกลี่ยปอยผมสีน้ำเงินออกไปจากใบหน้าที่ยังหลับสนิท แล้วค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ ประตูเลื่อนถูกเปิดออก ร่างเล็กจะหันหน้ามามองอีกครั้งก่อนจะก้าวขาออกไป
แล้วคนที่ยืนกอดอกอยู่ที่หน้าห้องก็ต้องทำให้ร่างเล็กๆสะดุ้งโหยงด้วยไม่นึกว่าคนคนนี้จะมายืนหน้าตายอยู่ที่นี่
“ ทะ...ท่านพี่?!” นัยน์ตาสีดำคมกริบตวัดมามองราวกับกำลังไม่พอใจอะไรให้ร่างเล็กถึงกับขวัญผวาเข้าไปใหญ่...สงสัยจะมาได้ยินตอนเขาเล่นโกโตะพอดีละมั้ง ทั้งๆที่อีกฝ่ายก็ย้ำแล้วย้ำอีกว่าห้ามไม่ให้เขาขยับร่างกายมากเกินไป...โดนโกรธแหงๆ...งานนี้โดนขย้ำตายแน่ๆ....และเมื่อมือใหญ่ล้วงเข้าไปในแขนเสื้อกิโมโน ร่างเล็กก็ถึงกับยกสองมือขึ้นยอมแพ้หลับตาปี๋ “ ฮี้!! ข้าเปล่านะ ข้าไม่ได้ขยับร่างกายเลยจริงจริ๊ง!!!”
“ ...............” เสียงโกโตะดังขนาดนั้นใครเชื่อก็บ้าแล้ว แต่เมื่อหลับตารอรับทอนฟาอยู่นานก็ยังไม่รู้สึกเจ็บเสียที ดวงตากลมโตจึงค่อยๆเปิดขึ้นมามองคนตรงหน้าอย่างหวาดๆ
“ เอ๋....?” แต่แทนที่สิ่งที่จ่อหน้าเขาอยู่จะเป็นทอนฟา มันกลับกลายเป็นท่อนอะไรบางอย่างที่มีขนาดเหมือนก้านธูป
“ ดอกไม้ไฟ........ข้าไปยึดมาจากไอ้พวกชอบสุมหัวที่ตลาด” ไม่ต้องสารภาพอย่างจริงใจขนาดนั้นก็ได้...เขาได้แต่ยิ้มแห้งกับวิถีชีวิตของอีกฝ่าย ก่อนจะเปลี่ยนมุมสายตากลับไปจ้องมองเจ้าสิ่งที่เรียกว่าดอกไม้ไฟอย่างไม่วางตา....
“ ดอกไม้ไฟนี่...ใช่ไอ้ที่เขาเล่นในงานเทศกาลฤดูร้อนกันหรือเปล่าท่านพี่” น้ำเสียงสดใสดูจะสนใจและตื่นเต้นไปกับของตรงหน้า เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยได้เล่นอะไรแบบนี้เลย...ใช่...เขาเคยเห็นตอนไปศาลเจ้ากับท่านพ่อเมื่อหลายปีก่อน ว่าเด็กชาวบ้านเขาเล่นอะไรบางอย่างที่มีประกายไฟสวยงาม และดูเหมือนมันจะเรียกว่า....ดอกไม้ไฟ
“ ใช่” ร่างสูงเดินออกนำไปตามระเบียงทางเดิน ก่อนจะเดินลงบันไดไปยังสวนที่อยู่ห่างออกไปจากห้องที่มุคุโร่นอนอยู่
“ ข้าอยากเล่น! สอนข้าเล่นบ้างสิท่านพี่” น้ำเสียงตื่นเต้นเป็นเด็กๆแบบนั้นมันทำให้คนเดินนำลอบยิ้มอย่างพอใจ
ร่างทั้งสองหยุดลงนั่งยองๆอยู่บนพื้นซึ่งโรยเอาไว้ด้วยกรวดสีขาวเพียงแห่งเดียวภายในสวน มือใหญ่หยิบดอกไม้ไฟขึ้นมาหนึ่งอันก่อนจะเอามันไปจี้ที่คบไฟ จนเกิดประกายฟู่ขึ้นมา
นัยน์ตากลมโตจ้องมองความงดงามของประกายไฟนั้นอย่างไม่อาจละสายตา...สวย....มันสวยจริงๆ....ขนาดตอนนี้เป็นเวลากลางวันมันยังส่องประกายสวยงามได้ขนาดนี้ แล้วหากเป็นเวลากลางคืนมันจะสวยงามขนาดไหนกัน
แต่ใบหน้าคมหาได้มองประกายไฟจากดอกไม้ไฟไม่....นัยน์ตาสีดำกลับจับจ้องไปที่ใบหน้าของคนที่ยังคงตื่นเต้นกับดอกไม้ไฟไม่วางตา
“ ท่านพี่! ข้าขอเก็บเอาไว้เล่นตอนกลางคืนบ้างได้ไหม?” ร่างเล็กยิ้มออกมาเมื่อนึกอะไรบางอย่างออก...
“ ไม่ได้” แต่เสียงทุ้มก็ตอบกลับไปในทันที
“ เอ๋?....” ใบหน้าน่ารักแสดงออกถึงความผิดหวังและแปลกใจ แต่ร่างสูงสง่าก็ยังคงวางหน้านิ่ง....เพราะใจจริงแล้วก็ตั้งใจว่า ถึงเจ้าจะไม่ขอข้าก็จะมาเล่นให้เจ้าดูในตอนกลางคืนอีกครั้งอยู่แล้ว
“ เจ้ามันซุ่มซ่าม หากเล่นคนเดียวคงทำตำหนักไหม้เสียเปล่าๆ.....ให้ข้า...” และยังไม่ทันที่จะเอ่ยความตั้งใจออกไป ร่างเล็กก็เอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน
“ ถะ ถ้าข้าเก็บเอาไว้เล่นกับโกคุเดระคุงก็ไม่เป็นไรใช่ไหมล่ะ นะนะ” และมันก็ทำให้ร่างสูงจำต้องเก็บประโยคที่จะเอ่ยออกไปเอาไว้เพียงแค่ในใจ....ในเมื่อเจ้าต้องการอย่างนั้นแล้วจะให้ข้าทำอย่างไรได้....
“ ตามใจ” ใบหน้าคมจำต้องพยักหน้าให้ ความรู้สึกในใจจำต้องกักเก็บมันลงไปให้ลึกที่สุด
“ เย้...ขอบคุณนะท่านพี่” ใบหน้าของผู้ที่ได้ชื่อว่าน้องชายยิ้มร่าอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ถึงแม้จะเจ็บปวดอยู่ลึกๆข้างในแต่หากใบหน้าสดใสที่ยิ้มมาให้ด้วยความจริงใจนั้นมันก็ทำให้เขาต้องยอมรับอย่างเลี่ยงไม่ได้....หากยังอยากจะเห็นมันต่อไป....เขาต้องยอมรับในตำแหน่ง “พี่ชาย”
“ จุดไฟที่ด้านนี้หรอ...” ร่างเล็กหันไปสนใจดอกไม้ไฟอีกครั้ง และทำให้ร่างสูงจำต้องสนใจตาม
“ ด้านนี้ต่างหาก”
ร่างทั้งสองยังคงนั่งยองๆดูดอกไม้ไฟอยู่ด้วยกัน ทั้งรอยยิ้ม ทั้งเสียงหัวเราะ มันช่างอบอวลไปด้วยความรัก
จนคนที่ยืนมองอยู่ไกลๆนั้นถึงกับกำมือแน่น...
ใบหน้าเรียวไร้ซึ่งแววของความอ่อนโยนเฉกเช่นตอนก่อนที่จะหลับไป มันกลับมาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชังอีกครั้ง นัยน์ตาสองสีจับจ้องไปที่แผ่นหลังของคนสองคนที่ดูท่าว่ากำลังสนุกสนานเต็มที่
เพราะแบบนั้นเองสินะ....
เพราะข้าคือคนเดียวที่ยังไม่ตกลงไปในหลุมแห่งความรักที่เจ้าทำเอาไว้ล่อลวงใครๆ....
เพราะข้าคือคนเดียวที่ยังไม่เคยเอ่ยออกไปว่ารักเจ้า....
เจ้าจึงได้พยายามทำทุกวิถีทางให้ข้าหลงใหล....
แต่มันไม่จำเป็นอีกแล้วสึนะโยชิ....
เพราะข้าจะไม่มีวันรักเจ้า....ไม่มีวัน!
ร่างเล็กถือดอกไม้ไฟเต็มสองกำมือมุ่งหน้าไปยังห้องที่ใครบางคนน่าจะกำลังหลับอยู่…
ริมฝีปากสีสดลอบยิ้มกับตัวเอง เมื่อนึกไปถึงใบหน้าของมุคุโร่ยามได้เห็นดอกไม้ไฟเหล่านี้ ภายในใจนั้นตื่นเต้นจนแทบรอให้ถึงคืนนี้ไม่ไหว....
อยากเห็นรอยยิ้มกับดวงตาสองสีที่จ้องมองประกายอันสวยงามของดอกไม้ไฟ....
แต่แล้วเมื่อเปิดประตูเลื่อนเข้าไป....
ภายในห้องนั้นกลับมีแต่ความว่างเปล่า...
“ มุคุโร่....?”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หิมะ....หยดน้ำ....ความรัก..... : 09 End
.
.
.
โปรดติดตามตอนต่อไป.....ไป......ไป
กรี๊ซซซซ ทันวันนี้ด้วยอ่ะ ไม่อยากจะเชื่อเลย โฮกกกกกก
เอ้อ....เหมือนเรื่องราวมันจะไม่เดินเลยเนอะ ฮ่าๆๆ ก็เพราะวันนี้มันเป็นวันเกิดสัปป้านี่แหละ แต่ไม่รู้จะให้อะไรดี ฮ่าๆ เลยเนียนไปกะฟิคเรื่องนี้ซะเลย (โดนโบก) ความจริงต้องเอาตอนที่ 8 มาลงก่อนสิน้า....(มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วสิเฮ้ย) แต่มันไม่เสร็จอ่ะ =[ ]= แต่ถึงจะข้ามไปก็ไม่มีใครรู้หรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคู่ 8059 กันแน่ (ก็ใช่น่ะเซ่!!)
เริ่มพูดจาวกวนฟังไม่รู้เรื่อง เนื่องด้วยปั่นกันหูดับตับไหม้ และหมดแรงจากการสครีมอะไรหลายอย่างอย่างต่อเนื่องเกินไป...แง๊~~~ หนูอยากนอนอ่ะ~~~ โหยหวนอย่างงี้มาตั้งแต่เมื่อคืนวันจันทร์ = =” (แอบวูบไปวันนึงด้วยเหอะ)
แล้วทำไมตรูต้องมานั่งทำอะไรแบบนี้ให้สัปป้าด้วย!! ร่างก็โดนยึดไปให้อิปู่ ปู้ยี่ปู้ยำ (TT[]TT) เลิกสนใจมันดีกว่า....ตอนหน้า 1827 โล้ด (กระโดดถีบขาคู่ลอยมาจากปากเกร็ด)
แหมๆๆ อย่าเพิ่งน้อยใจไป ยังไงเค้าก็รักสัปป้านะ คึหึหึ (ดูไม่จริงใจสุดๆเลยครับ...)
เพราะงั้น....
สุขสันต์วันเกิดค่ะ ท่านมุคุโร่!
ขอให้อายุมั่นขวัญยืนเป็นหมื่นๆปีแล้วไปยึดร่างอิปู่มันบ้างถ้ามันกลับชาติไปเกิดใหม่! (นี่แค้นอะไรอิปู่มันมากขนาดนี้เนี่ย = =”) ขอให้ปลารักนกหลง(?)นะคะ ที่สำคัญขอให้อ.อามาโนะขามีเงินเยอะๆจะได้ไปจ่ายค่าตัวคุณท่านได้ มีบทออกมามากมายนะคะ ฮิ้ววววว
ชนแก้วฉลองให้สัปป้าด้วยน้ำแข็งแดง(?)รูปสับปะรด!!
กร๊ากกก ฮ่าๆๆ
ไม่มีอะไรค่ะ แค่สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง...แบบว่า เมื่อวันก่อนไปเจอที่ทำน้ำแข็งรูปสับปะรดเข้าเลยซื้อมาอย่างไม่ลังเล พอแช่ออกมาแล้วมันก็เป็นสัปป้าจริงๆด้วยอ่ะ (แหงละ ถ้ามันออกมาเป็นกระต่ายคงได้หลอนกันทั้งบ้านละ) น่ารักง่า....ก็เลยเอาน้ำแดงมาแช่เป็นน้ำแข็ง.....จะกินน้ำแข็งไปชั่วชีวิต >w< (อนาคตเบาหวานมาเยือนแน่ๆ)
เพ้อ.....
ฉันอยากจะข้ามพ้นหนึ่งพันราตรี เพื่อไปบอกกับเธอ.....
บอกว่า “ฉันรักเธอ” ผู้ซึ่งเป็นที่รักของฉัน....
ตัดสินใจแล้วว่าฟิคเรื่องหน้าที่จะลง คือเรื่องนี้!!! “ Sen no Yoru wo Koete : ข้ามพ้นพันราตรี”
โฮกกกกกกกกกกก ฟังเพลงแล้วมันเพ้อค่ะ! พี่เบียกับเร็นจิร้องออกมาได้โดนสุดๆอ่ะ เสียงพี่เบียอ้อนได้อีก โฮกกก คือถ้าเป็นคนอื่นร้องจะไม่โดนเท่านี้อ่ะ ให้ตายเหอะเค้าเลือกเพลงให้ร้องได้สุดยอดมากกก จากอัลบั้ม Bleach Concept Covers ซึ่งเอาเพลงเปิดเพลงปิดของเรื่อง Bleach มาให้ตัวละครในเรื่องร้อง นักพากย์ของเรื่องนี้ก็ร้องกันได้สุดตรีนทุกคนทุกเพลงเลย สุดยอดมากกกก แต่เพลงที่ฟังแล้วเพ้อมากสุดก็เพลงของพี่เบียกับเร็นจินี่แหละ...ฮ่าๆ ชาวบ้านเค้าจะจิ้นคู่นี้ยังไงอะไรตรูไม่สน เพราะที่ฉันจิ้นอยู่น่ะ คือสองคนนี้กำลังร้องเพลงเพลงนี้ให้อิหนูลูเคียลูกมี๊อยู่สินะ...สินะ....แบบว่าเนื้อเพลงมันใช่อ่า >w<...
ประมาณว่าอยากจะก้าวพ้นคืนวันที่ได้แต่มองเธอโดยไม่อาจบอกรักได้.....เพราะเร็นจิก็เป็นเพื่อนสนิทของลูเคียที่ได้แต่มองมานานแสนนานไม่อาจบอกรักได้เพราะคำว่า “เพื่อนสนิท” มันค้ำคอ....ส่วนพี่เบียนี่ยิ่งหนัก....เพราะลูเคียคือน้องเมีย...ภรรยาที่เสียไปแล้วฝากฝังเอาไว้ให้ดูแลถึงจะมีความรู้สึกอะไรให้ก็ไม่อาจจะบอกไปได้ ได้แต่ปกป้องให้ปลอดภัยจากทุกอย่างเพียงแค่นั้น >w< .....และเนื้อมันยังมีท่อนที่ประมาณว่า...ฉันได้แต่เจ็บปวดเมื่อมองย้อนไปวันข้างหลังที่ไม่ใยดีในตัวเธอ....โฮกกกกกกกกกก ใช่เลยอ่ะ เพราะสองคนนี้ครั้งหนึ่งก็เคยทำเป็นไม่สนใจจนลูเคียต้องร้องไห้มาแล้ว
เพ้อว่ะค่ะ!!
แต่จะว่าก็ว่าเหอะนะ เสียงพี่เบียจะหล่อโฮกไปไหนค๊า.....ส่วนเสียงเร็นจิเพลงนี้ก็ร้องได้นุ่มขาดใจ โฮกกกกก ฟังแต่เสียงนี่นึกไม่ออกเลยนะว่าเร็นจิมันจะเป็นพ่อหนุ่มร่างยักษ์จอมบ้าพลังขี้โวยวายอ่ะ(วันไหนมันหน้ามืดกดลูกสาวตรูขึ้นมานี่มีหักเป็นสองท่อนอ่ะ ขนาดตัวต่างกันมากกกก55)
ที่สำคัญคือ...นึกไม่ถึงเลยว่า Kentaro ซัง คนพากย์เร็นจิสุดยอดจอมบ้าพลังนี่จะเป็นคนเดียวกับคนที่พากย์ คามิโจว ฮิโรกิ หรือฮิโระซัง เคะจอมซึนของ Junjou Romanticaอ่ะ =[ ]= คาเรกเตอร์ต่างกันไปไหมคะ?
น่าน....แล้ววันนี้ตรูก็เวิ่นลืมตัวอีกแล้ว....
พอดีกว่า...
แต่ว่านะ....อย่าลืมดู Sekai ichi Hatsukoi ตอนที่ 10 เช้า(สินะ)วันอาทิตย์กันนะค้า~~~ คู่หลักเค้าจะออกมาอีกแล้ววววววว ฮาโตรี๊ จิอากี้~~~ (คู่หลักบ้านป้าเอ็งเด่ะ!!)
ก่อนไป...ขอหน่อยเหอะ.....
สุดยอดไปไหมมุมนี้....สครีมบ้านแตกเมื่อคืนก่อนค่ะ โฮกกกกกกกกกกกกกกกก
ปล. ตอนนี้ก็ไม่ผ่าน QC อีกเช่นเคย = =”
ตะ..ตอน 8 หายไปไหนเจ้าค่ะ??
ตอบลบตอนแรกแอบงง แต่ก็อ่านไปเรื่อยๆก่อน ค่อยมาอ่านช่วงทอล์กถึงได้รู้ว่า..
ตอนที่หายมันคือตอนของ 8059 ว๊ากกกกก อยากกอ่าน
เค้าหายไปสวีทกันที่หนายยยยย ยย ยยย ยย..
อ่ะ เพราะวันเกิดคุณมุถึงได้แซงตอน 9 มาก่อนเลยสิน๊าาา
ประมวลผลหลังอ่านจบ อ๊ากกก ชอบฉากไหนดีน๊าาา
ก็แบบว่ามีแต่สัปป้าและทูน่าาา กระหนุงกระหนิง?กันหลายฉากเลยอ่า ฮ่าฮ่า
อ๊ะ แต่ว่าชอบฉากสึนะเอาโกโตะสีขาวมาเล่นให้คุณมุฟังอ่ะ >///<
คุณมุหลุดดดดหลายรอบเลยยย ฮ่าฮ่า น่ารักเฟ้ยยย แอบหน้าแดงบ่อยๆแบบนี้
เดี๋ยวก็แอบเชียร์ 2769 !!?? ซะหรอก < เฮ้ยย ฮะฮะ
อ่ะแล้วก็ฉากกแกะหอยลายนั่นหน่ะ เหตุผลที่ไม่ให้พ่อครัวแกะเปลือกให้..
มันช่างสมกับเป็นทูน่าจริงๆ คาดว่าถ้าก๊กอยู่คงจะแกะเละเทะพอๆกับเจ้านาย?แน่ๆ
แกะไม่ได้ยังจะเอาไปให้ชาวบ้านเค้าอีก นึกว่าแกะได้แล้วยกให้คุณมุกิน
แต่ขยี้ตาแล้วอ่านใหม่อีกรอบ เฮ้ยยยังไม่ได้แกะแต่เอาไปแลกอย่างอื่นมากินซะงั้น
กร๊ากกกกก ทูน่า ทำแต้มได้อีกแว้วว
สุดท้ายฉากทูน่าแอบแต๊ะอั๋งคุณมุอ่ะ ไปลูบหน้าลูบหน้าตาได้ยังไงค๊าาา
แหม แค่ลูบมันจะไปได้?อะไร๊ ต้องแอบหอมแก้ม?ไปเลยเซ่ ฮ่าฮ่า
พ่อนกผมดำนั่นก็มาแอบสโตรกกันอีกแล้ว เห็นภาพบาดใจ
ยังจะนิ่งๆ ชวนไปเล่นดอกไม้ไฟ(ที่ไปยึดชาวบ้านเค้ามา)ซะงั้นอ่ะ
ท้ายสุดกลับกลายเป็นคุณมุกลับมาทำหน้าบึ้ง อิจฉาเค้าอยู่ห่างๆอีกแล้ว
ว๊ากกกกก จบซะละ มางอนหึงเค้าแบบนี้แล้วก็หนีไปแบบนี้ ...
เดี๋ยวก็เชียร์ให้นกคาบทูน่าไปซะหรอก กร๊ากกกก
ทูน่าเอ้ยยย สู้เค้าลูก จู่โจมความโมเอะเข้าไปเรื่อยๆเดี๋ยวท่านมุก็หลงรักแน่ๆ
ง่าาา ในที่สุดก็ลงทันวันเกิดเน้ออออ สุดยอดเลยค่าาา
ขนาดว่ามีอะไรมาล่อลวง ก่อกวนน ให้หลงเพ้ออ
เผลอใจออกนอกลู่นอกทางไปตั้งเยอะ ก็ยังแต่ได้ทันอ่ะ ฮ่าฮ่า
เพราะงั้นก็ สุขสันต์วันเกิดนะคะ คุณมุ !!
สู้เค้าอย่าไปยอมให้ปู่เดม่อนยึดร่างนานๆ ทวงร่างคืนได้แว้ววว โฮกกก
ภาพหนุ่มใส่ฮู๊ดดนั่น แคปทันจริงๆด้วยอ่ะ
มะวานเค้าลองกดแคปเล่นๆไม่ทันอ่ะ กี่รอบก็ไม่ทัน กร๊ากกกก
เอ่ออ พอได้อ่านจบ ก็หมดห่วง ตาจะปิดแล้ว ขอตัวไปนอนล่ะค๊าา
แวะมาดู =w= แต่ยังไม่ได้อ่าน ช่วงนี้อ่านหน้าคอมนานไม่ค่อยได้ ง่า เรื่องนี้กวางจะรวมเล่มมั้ย? อยากรู้ ถ้ารวมเราจะได้รอสอยเล่ม ชอบอ่านเป็ฯนเล่มมากกว่า เอะ เห็นแว่บๆ ตอนหน้า 1827 ล้วน!? สงสัยเราคงได้มาแอบส่องก่อนแน่ XD สู้ๆนะกวาง ทั้งเรื่องเขียนเรื่องอะไร
ตอบลบ