KHR AuS.Fic [692718 8059] ……Yuki Shizuku Aishiteru…. : 03
: KHR Au Fanfiction
: 692718 8059
: Romance Drama Incest
: PG
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
.
.
.
.
.
.
จงเกลียด ยิ่งเกลียด ยิ่งจงชัง
จงรัก ยิ่งรัก ยิ่งชักพา
ยิ่งจงชัง ยิ่งรัก สิเน่หา
เหมือนคู่กรรม ถูกนำพา มาพบกัน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ข้ารับใช้ในตำหนักพระสนมเอกกำลังวิ่งวุ่นไปกับการเตรียมข้าวของเครื่องใช้สำหรับงานชมดอกไม้ที่กำลังจะจัดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า....และป่านนี้พระสนมคนอื่นๆที่ได้ถูกรับเชิญมาก็คงกำลังเตรียมตัวเดินทางมายังตำหนักแห่งดอกอะจิไซแห่งนี้เช่นกัน
มิใช่มีเพียงซากุระ...แต่อะจิไซเองก็กำลังผลิบาน....
นัยน์ตาสองสีจับจ้องไปยังกลุ่มคนที่กำลังจัดเตรียมเบาะรองนั่งอยู่ที่ระเบียงชมสวนภายในตำหนักของตน ริมฝีปากคลี่ยิ้มละไมให้ใครต่อใครที่เดินผ่านไปต้องขนลุก....ทุกสิ่งทุกอย่างเตรียมพร้อมเพื่อเจ้าแล้วสึนะโยชิ....จะยังเหลือก็แค่....
“ คึหึหึ.....ช่วยจัดการกับคนสนิทตัวน้อยคนนั้นให้ทีก็แล้วกันนะ ยามาโมโตะ” สิ้นเสียงพูด เงาร่างที่ยืนพิงผนังอยู่เบื้องหลังทำเพียงยิ้มรับเยือกเย็นก่อนจะเดินจากไป
“ ดูสิว่าเจ้าจะทำเช่นไร....คึหึหึ...” อย่างเจ้า....หากไม่มีคนสนิทอยู่เคียงข้างก็คงไม่ต่างไปจากเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่ทำอะไรเองไม่เป็นเช่นนั้นหรอก สึนะโยชิ.....
กลีบซากุระพัดโปรยปรายปลิวกระจัดกระจายเข้าไปยังตัวเรือนของตำหนักชั้นในสุดที่กำลังวุ่นวายอยู่เช่นเดียวกัน....แต่ทว่าไม่ได้เกิดจาการเตรียมงานใดๆแต่เป็นเพราะ...
“ หว๋า...โกคุเดระคุง!!!” ร่างเล็กขององค์ชายเพียงหนึ่งเดียวของตำหนักแห่งนี้ตรงเข้าไปล้อมหน้าล้อมหลัง เจ้าของเส้นผมสีเงินผู้ได้ชื่อว่าคนสนิทซึ่งไม่เจียมสังขาร เท้าข้างหนึ่งถูกพันเอาไว้ด้วยผ้าพันแผลและยังเดินกะเผลกๆ อยู่แท้ๆแต่กลับลุกขึ้นมายกโกโตะสีขาวหน้าตาเฉย
“ ให้นางกำนัลยกไปเถอะ เจ้าอย่าเพิ่งขยับตัวสิ” ไปทำอีท่าไหนถึงได้กลับมาด้วยสภาพนี้ได้ก็ไม่รู้แหะ ร่างเล็กได้แต่ปลงตกกับคนสนิทจอมดื้อดึง
“ ได้ยังไงล่ะ โกโตะตัวนี้คือของสำคัญของท่าน ข้าไม่ให้ใครมาแตะได้ง่ายๆหรอก!” ใบหน้าสวยยังมีหน้าหันมาเถียงพร้อมอ้อมแขนเล็กที่กอดโกโตะตัวนั้นแน่น
“ อะ...เอาน่า....สำหรับข้า เจ้าสำคัญกว่าโกโตะนะ” แค่นั้นแหละ....เจ้าหมาน้อยยอมปล่อยโกโตะไปด้วยประกายตาวิ้งวับจนองค์ชายร่างเล็กถึงกับเหงื่อหยด
โกโตะสีขาวถูกรับไปโดยนางกำนัลคนหนึ่งซึ่งคงจะนำมันไปยังที่หมายก่อนที่ร่างเล็กจะตามไป...นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ได้แต่เหม่อมองออกไปยังกิ่งก้านซากุระที่อยู่ด้านนอก....เมื่อวานนี้เขาได้รับจดหมายเชิญมาจากทางตำหนักของพระสนมเอก ให้ไปร่วมเทศกาลชมดอกไม้ด้วยกันและยังต้องการให้เขาบรรเลงโกโตะเพื่อเป็นเกียรติแก่งานสักเพลงสองเพลง
“ ข้าไม่อยากให้ท่านไปเลยจริงๆ” เสียงเง้าหงอดปนห่วงใยเอ่ยออกมาจากคนที่อยู่ด้านหลัง โกคุเดระค้านหัวชนฝาที่จะให้เขาไปร่วมในงานนี้ แต่เขากลับคิดว่ามันอาจจะเป็นการดีที่เขาจะได้ออกไปจากตำหนักชั้นในสุดแล้วได้รู้จักกับใครๆบ้าง....ถึงแม้ว่าสถานที่แห่งนั้นมันน่าจะเป็นสถานที่ต้องห้ามสำหรับเขา
ตำหนักของพระสนมเอก...ตำหนักของมุคุโร่....
แค่นึกถึงนัยน์ตาสองสีที่มองเขาซึ่งกำลังจะจมน้ำอย่างไม่ใยดีแล้วก็ให้เจ็บใจ....เขาจะไม่มีวันยอมแพ้ให้แก่คนคนนี้!
“ ไม่เป็นไรหรอกน่า...เจ้าก็ไปกับข้าด้วยนี่...ไม่เห็นจะมีอะไรน่าเป็นห่วง” ถึงแก้มใสจะขึ้นสีแดงระเรื่อแต่ใบหน้าสวยก็ยังคงบูดบึ้งเมื่อนึกถึงที่ที่จะต้องไป
“ น่าเป็นห่วงสิ! ในเมื่อที่นั่นน่ะมี....” คำพูดกลับชะงักค้างเมื่อใบหน้าคมซึ่งมีรอยแผลเป็นที่ปลายคางแว่บเข้ามาในหัว นัยน์ตาสีมรกตสั่นระริกด้วยความโกรธ ในใจกำลังด่าชุดใหญ่แต่ก็จะให้นายเหนือหัวของตัวเองรู้ไม่ได้ว่าเขาไปพลาดท่าเสียทีไอ้เจ้าจอมวายร้ายนั่นมา นอกจากมันจะเป็นตัวการทำให้เขาบาดเจ็บแล้ววันที่มันอุ้มเขามาส่งก็ยังบังอาจแย่งชิงผ้าเช็ดหน้าที่เขาตั้งใจปักให้องค์ชายไปจากอกเสื้อของเขาเองอีกต่างหาก....คอยดูนะ....ถ้าเจอหน้ามันอีกเมื่อไหร่จะด่าให้พอใจเลยคอยดู!
“ มีองค์ชายที่สองที่จ้องจะเล่นงานท่านอยู่นะ” โกคุเดระพาดพิงไปถึงอีกคนให้นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้มีแววกังวลขึ้นมาอีก
ทำไม....คนที่ได้ชื่อว่าพี่ชายคนนั้นถึงได้จงเกลียดจงชังเขานัก...บางทีก็อยากจะรู้อยู่เหมือนกัน....ทั้งๆที่เขาไม่เคยไปทำอะไรให้เลยแม้แต่นิดเดียว
“ ยังไงก็แล้วแต่ ท่านห้ามไปไหนที่อยู่นอกสายตาของข้าล่ะ ถ้าใครกล้ามาทำร้ายท่านละก็ข้าจะตีให้หัวแบะเลย” นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้เหลือบมองคนสนิทที่ยืนถือดาบขนาดกลางด้วยท่าทางขึงขังแล้วก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้....ก่อนอื่นเจ้าหัดเอามันออกมาจากฝักให้ได้ก่อนเถอะโกคุเดระคุง....ดาบน่ะเค้าเอาไว้ฟันไม่ใช่เอาไว้ตีหัวแบะนะ
“ วันนี้ท่าทางจะลมแรง เดี๋ยวข้าไปหยิบฮาโอริให้ท่านก่อน” ถึงอยากจะห้ามว่าอย่าเดิน แต่ดูท่าเจ้าคนสนิทคงไม่ยอมฟังแน่ และตอนนี้เจ้าตัวก็เดินกะเผลกๆออกจากห้องไปแล้วอีกต่างหาก ใบหน้าน่ารักจึงหันกลับไปสนใจกลีบซากุระที่กำลังโปรยปรายลงมา ความอ่อนโยนที่ทำให้นึกถึงใบหน้าของใครบางคน....
เสียงฝีเท้าซึ่งเหยียบลงที่พื้นระเบียงนั้นช่างเงียบเชียบสมแล้วที่ถูกฝึกมาอย่างดีถึงแม้จะมีร่างกายที่ใหญ่โตแค่ไหนก็ตาม กว่าที่คนซึ่งกำลังจะตกเป็นเหยื่อจะรู้ตัวก็ต่อเมื่อมือใหญ่ตรงเข้าปิดลงไปที่ริมฝีปากสีระเรื่อ และอ้อมแขนแข็งแรงล็อคลำตัวบางให้แนบชิดมาที่แผ่นอกอุ่น
“ อื้อ!!!” ร่างบอบบางพยายามดิ้นรนจนเส้นผมสีเงินสะบัดกระจายส่งกลิ่นหอมฟุ้งจนคนที่ถือวิสาสะจับตัวเอาไว้อดที่จะสูดดมไม่ได้ ใบหน้าคมก้มลงไปกระซิบที่ข้างหู
“ ไปเดินเล่นกับข้าซักวันก็แล้วกันนะ โกคุเดระ...” รอยแผลเป็นที่ปลายคางทำเอานัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้าง ถึงแม้พยายามจะต่อต้านแต่เรี่ยวแรงก็ใช่ว่าจะสู้ไหว อ้อมแขนแข็งแรงจึงช้อนตัวบางขึ้นได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะเดินออกไปทิ้งเอาไว้แต่เสื้อคลุมฮาโอริที่ตกอยู่ที่พื้น...
ทำไมไปนานจัง....
ร่างเล็กขององค์ชายคนสุดท้องเดินวนไปวนมาอยู่ภายในห้องพร้อมกับเหลือบมองไปที่บานประตูเลื่อนเป็นระยะๆ ปกติแล้วโกคุเดระจะทำอะไรรวดเร็วสมกับที่เป็นคนใจร้อนเสมอ ถึงแม้ว่าคราวนี้จะบาดเจ็บจนเดินได้ช้าลงแต่ทว่าก็ไม่น่าจะหายไปนานขนาดนี้
ใบหน้าน่ารักหันไปมองเงาของแดดซึ่งกำลังบ่งบอกว่าใกล้เวลาที่จะต้องเดินทางไปยังตำหนักของพระสนมเอกแล้ว ร่างเล็กตัดสินใจเดินออกไปตามระเบียงทางเดินที่ดูจะเงียบเชียบผิดปกติ ก่อนที่สายตาจะแลไปเห็นกองเสื้อฮาโอริของตนซึ่งหล่นอยู่ที่พื้น......ไม่มีทางที่โกคุเดระจะทำเสื้อของเขาตกไว้แบบนี้แน่....มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?!
มือเล็กหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสำรวจดูแต่ก็ไม่พบสิ่งใด นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้จึงแลมองไปรอบๆก่อนจะเห็นท่อนแขนของใครพาดอยู่ที่มุมทางเลี้ยว ร่างทั้งร่างวิ่งเข้าไปใกล้ก่อนจะพบสาวใช้นอนสลบอยู่
“ นี่!....นี่เจ้า....เป็นอะไรหรือเปล่า?” มือเล็กเขย่าท่อนแขนจนคนที่นอนอยู่เริ่มรู้สึกตัว
“ เจ้าเห็นโกคุเดระบ้างไหม?” แต่คำตอบคือใบหน้าที่ส่ายไปมา
“ ถ้างั้นพอจะรู้หรือไม่ว่าใครทำร้ายเจ้า”
“ ข้า...ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร....หันไปอีกทีก็เห็นแค่ตัวสูงใหญ่แล้วก็....แผลเป็นที่ปลายคางเท่านั้นเองเจ้าค่ะ.....”
“ งั้นหรือ...งั้นเจ้าไปให้หมอดูเถอะ...” สาวใช้ก้มหัวให้แล้วเดินจากไป.....แผลเป็นที่ปลายคางอย่างนั้นหรือ.....ถ้าจำไม่ผิด ดูเหมือนว่าทหารคนสนิทที่ติดตามมุคุโร่อยู่ก็จะมีแผลเป็นที่ปลายคางเช่นเดียวกัน.....
“ หรือว่า.........” ความคิดเริ่มจะปะติดปะต่อ....เขาไม่คิดว่าจะมีใครกล้าทำร้ายโกคุเดระด้วยฐานะของตระกูลซึ่งเป็นชนชั้นของขุนนางที่คานอำนาจถึงครึ่งหนึ่งของประเทศ ที่แม้แต่องค์จักรพรรดิเองยังต้องเกรงใจ แต่ที่มาจับตัวโกคุเดระไปหรือมันจะเป็นเพราะ......
วันนี้เขาต้องไปตามคำเชิญซึ่งถูกประกาศให้รู้โดยทั่วกันแล้วว่าเขาจะไป......
ซึ่งถ้าหากเขากลับคำและไม่ไปนั่นอาจทำให้หลายๆคนซึ่งส่วนใหญ่มีศักดิ์ไม่น้อยเลยเกิดความไม่พอใจในตัวเขา....
และสิ่งที่จะทำให้เขาตัดสินใจไม่ไปร่วมงานนั่นก็เพราะไม่มีโกคุเดระอยู่ข้างกาย....นั่นคงจะเป็นความคิดของพี่ชายที่ชิงชังเขาเข้าไส้คนนั้น.....คงจะคิดว่าเขาก็เป็นเพียงแค่เด็กน้อยที่ไม่มีเพื่อนแล้วจะทำอะไรไม่ได้อย่างนั้นใช่ไหม.....
มือเล็กกำเสื้อฮาโอริในมือแน่น....เจ้าคิดว่าข้าคงจะไม่กล้าไปเหยียบถิ่นศัตรูด้วยตัวคนเดียวอย่างนั้นใช่หรือไม่?
ใครจะดูถูกข้าก็ช่าง....แต่ไม่ใช่เจ้า....ข้าจะไม่ยอมแพ้และไม่ยอมให้เจ้าดูถูกข้าได้เด็ดขาด มุคุโร่!
เสียงอื้ออึงเริ่มจะดังขึ้นอย่างที่คิด.....ใบหน้าเรียวหล่อเหลายิ้มละไมเมื่อได้ยินคำพูดจากบรรดานางสนมชั้นสูงที่ถูกเชิญมาร่วมงาน เมื่อต่างก็มานั่งรออยู่นานแล้วแต่แขกคนสำคัญก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะโผล่มา
“ คิดว่าเป็นลูกรัก...ถึงได้กล้าให้พวกเรามานั่งรอแบบนี้ใช่ไหม....” เสียงพูดคุยเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆตามระยะเวลาที่ต้องรอคอย หลายคนเลือกที่จะมางานนี้เพราะทราบข่าวว่าองค์ชายเล็กซึ่งถูกเลี้ยงดูราวกับไข่ในหินและแทบจะไม่ได้ออกไปไหนง่ายๆจะมางานนี้ด้วย
“ พระสนมเอก....ท่านไม่จำเป็นต้องรอเด็กนั่นหรอกนะ....มันสำคัญตัวผิดไปแล้ว” คำพูดเอ่ยออกมาจากด้านหลังพัดที่คลี่ปิดไปกว่าครึ่งใบหน้าของพระสนมคนที่นั่งใกล้ร่างสง่างามของหญิงที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่ตำแหน่งประธานของงานนี้ ใบหน้าถึงแม้จะมีริ้วรอยแห่งวัยแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความงดงามและเย่อหยิ่งถือตัวยิ้มน้อยๆที่มุมปาก แต่ก็ยังคงนิ่งเฉยไม่เอ่ยปากเปิดงานออกไป
นัยน์ตาสองสีจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความพอใจ....เท่านี้มันก็เพียงพอแล้วที่จะเป็นบ่อเกิดแห่งความเกลียดชังในตัวเจ้า สึนะโยชิ....
ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นเพื่อขอตัวออกไปจากงาน เพราะมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบนักกับการต้องมาคบค้าสมาคมกับคนพวกนี้....แต่ทว่าเพียงแค่หันหลัง เสียงที่เคยดังอยู่โดยรอบกลับเงียบสนิท
ร่างเล็กที่ตกเป็นจำเลยเดินอย่างสง่าผ่าเผยเข้ามายังระเบียงชมสวน....ให้นัยน์ตาสองสีเบิกกว้าง....และต้องเบิกกว้างยิ่งกว่าเมื่อร่างที่ตนชิงชังนั้นเดินเข้ามา....ด้วยตัวคนเดียว.....
“ โปรดให้อภัยแก่ข้าด้วย....เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับคนสนิทของข้าจึงทำให้ล่าช้า” ร่างเล็กคุกเข่าลงตรงหน้าพระสนมเอกก่อนที่จะก้มหัวจรดพื้นเพื่อขออภัยด้วยใจจริง ทั้งกริยาท่าทางที่แสดงออกถึงความอ่อนน้อมทำให้สายตาที่จ้องมองมาจากโดยรอบกลับเปลี่ยนไป....
และนั่นมันก็ทำให้แผนการที่เฝ้าวางเอาไว้พังทลาย
พร้อมกับสายตาที่มองไปที่ร่างตรงหน้าด้วยความตะลึงงัน เพราะไม่คาดฝันว่าเด็กคนนั้นจะไร้ซึ่งความอ่อนแออย่างที่คิด ร่างสูงโปร่งได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมกวาดสายตามองไปรอบๆ.....เจ้าจะมาทำไม.....ไม่รู้หรืออย่างไรว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยสำหรับเจ้า
จากใบหน้าที่เคยยิ้มละไมกลับกลายเป็นนิ่งสนิท นัยน์ตาสองสีเหลือบมองมารดาของตนเป็นระยะๆ ใบหน้านิ่งสวยนั้นยังคงนิ่งเฉยก่อนที่มือเรียวของนางจะยกขึ้นโบกเพื่อบอกเป็นทำนองว่าไม่เป็นไรให้แก่คนที่ยังคงก้มคำนับอยู่
ทั้งๆที่ควรจะไม่พอใจ แต่ด้วยเหตุอันใดเขากลับโล่งอก....
งานชมดอกไม้ดูเหมือนน่าจะผ่านไปได้ด้วยดี
แต่ทว่า....
โกโตะสีขาวที่ควรจะถูกส่งมาถึงนานแล้วกลับยังคงไร้วี่แววจนเจ้าของเริ่มรู้สึกกังวล และท่าทางลุกลี้ลุกลนราวกับเด็กๆซึ่งเริ่มจะเก็บเอาไว้ไม่อยู่ก็ถูกจับได้โดยสายตาของคนที่จับจ้องมองอยู่ตลอดเวลา
“ ข้าขอตัวสักครู่...” ร่างเล็กคลานเข้ามาขออนุญาตพระสนมเอกก่อนที่จะลุกออกไปจากงานโดยแทบไม่มีใครรู้เนื่องด้วยต่างยังคงพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เช่นเดียวกับรอยยิ้มเย็นที่มุมปากสีแดงสดที่คงจะไม่มีใครทันได้เห็นนอกจากผู้ซึ่งเป็นลูกชายที่จับตามองทั้งสองคนอยู่ตลอดเวลา
“ มุคุโร่?” นางเรียกเบาๆเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะลุกตามออกไป
“ ข้าก็แค่จะตามไปดูว่าเจ้าเด็กนั่นมันจะไม่มาทำอะไรยุ่มย่ามที่ตำหนักของเรา...ท่านแม่”
แผ่นหลังเล็กขยับไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า เนื่องด้วยนัยน์ตากลมโตคู่นั้นกำลังมองหาของสำคัญ ถึงแม้จะไม่คิดว่ามันจะถูกนำมาวางเอาไว้ตามข้างทางแบบนี้แต่ก็ดูเหมือนไม่มีที่แห่งไหนจะให้มองหาได้อีก ในเมื่อห้องทุกห้องต่างถูกปิดเอาไว้อย่างมิดชิด และร่างเล็กเองก็มีมารยาทพอที่จะไม่เปิดห้องของผู้อื่น
นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้เริ่มฉายแววกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่านางกำนัลคนนั้นยังนำโกโตะมาไม่ถึงหรือว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่...มันคือของสำคัญซึ่งได้รับมาจากผู้เป็นพ่อ...ถ้าหากเกิดอะไรขึ้น.....
ใบหน้าน่ารักหันไปหันมา หลังจากที่เดินตามระเบียงทางเดินมาเรื่อยๆจนสุดทาง ร่างเล็กก้าวลงบันไดมาเดินตามทางเดินหินที่อยู่เบื้องล่าง จะด้วยลางสังหรณ์หรืออย่างไรก็ไม่ทราบทำให้เผลอก้มลงมองหาตามใต้ถุนเรือนแทนที่จะเป็นในห้องหับด้านบน
ขาเรียวเล็กภายใต้กิโมโนตัวยาวก้าวเดินไปเรื่อยๆจนในที่สุดก็ไปสะดุดกับอะไรบางอย่าง....อะไรบางอย่างที่ทำเอาดวงตาเบิกกว้าง....เมื่อไม่ว่าจะมองจากมุมไหนสิ่งที่อยู่แทบเท้าของตนนั้นก็คือชิ้นส่วนสีขาวที่มาจากโกโตะของเขาอย่างแน่นอน มือเล็กค่อยๆแหวกพุ่มไม้ซึ่งชิ้นส่วนสีขาวนั้นโผล่ออกมาด้วยดวงตาที่เริ่มจะสั่นพร่าพอๆกับหัวใจที่เต้นอย่างรุนแรง และเมื่อพุ่มไม้ถูกแหวกออกจนหมด...สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือ...เจ้าโกโตะสีขาวที่เคยสวยสง่ากลับถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี.....
ร่างทั้งร่างนิ่งงันได้แต่ยืนมองโกโตะตัวนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บแปลบ....
เฉกเช่นเดียวกับร่างสูงโปร่งซึ่งแอบเดินตามอยู่ข้างหลังและเห็นทุกสิ่งทุกอย่างด้วยสายตาของตัวเอง....
ทั้งที่ตั้งใจจะปั้นใบหน้าเย้ยเยาะกลับทำไม่ได้เมื่อมองเห็นรอยน้ำตาบนแก้มใสที่ไหลลงมาไม่หยุด.....
และมือใหญ่ยกขึ้นไปหาไหล่บางโดยที่ไม่รู้ตัว.....
แรงขยับทำให้ร่างเล็กรู้ตัวในที่สุด ว่ามีใครอีกคนแอบเดินตามมา และเมื่อยิ่งหันกลับไปเห็นว่าคนคนนั้นเป็นใคร ภาพโกโตะที่ถูกทำลายก็ฉายชัดขึ้นมาทันที ไหล่บางเบี่ยงหลบมือที่กำลังจะเอื้อมมาจับก่อนจะหันไปเผชิญหน้า ถึงแม้ว่าน้ำตาจะยังคงไหลลงมาแต่นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ก็แข็งกร้าว
“ คงจะสาแก่ใจเจ้าแล้วสิ ที่ได้กลั่นแกล้งข้าแบบนี้!” ร่างเล็กตะโกนใส่หน้าคนที่ยังคงยืนนิ่งด้วยทำอะไรไม่ถูก
“ ไม่ได้มีแต่เจ้าเท่านั้นที่จะรู้สึกชิงชังได้หรอกนะ! เพราะข้าเอง....เพราะข้าเองก็เกลียดเจ้า! เกลียดเจ้าเช่นกัน!!!” สิ้นสุดเสียงตะโกน ร่างเล็กหมุนตัวกลับแล้ววิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว....เร็วเกินกว่าที่อีกฝ่ายจะได้พูดอะไร.....
ร่างสูงโปร่งได้แต่ยืนนิ่งด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันเกินความคาดหมาย....เกินความคาดหมายตั้งแต่ที่เห็นเจ้าเดินเข้ามาในตำหนักของข้าแล้ว.....ทั้งๆที่ข้าควรจะดีใจที่ได้เห็นเจ้าร้องไห้....แต่ทำไม.....
นัยน์ตาสองสีจับจ้องมองโกโตะสีขาวที่พังยับ ก่อนที่จะย่อตัวลงบรรจงเก็บเศษชิ้นส่วนขึ้นมาทีละชิ้น....ทีละชิ้น......
ภาพตรงหน้านั้นพร่ามัวไปหมด เรียวขาได้แต่วิ่งไปอย่างไร้ทิศทาง รู้แต่ว่าอยากจะวิ่งหนีไปจากความร้ายกาจของคนคนนั้นให้มากที่สุด ในใจทั้งเจ็บปวดและไม่เข้าใจ ทั้งเขาทั้งโกโตะตัวนั้นไม่เคยทำอะไรให้แล้วทำไมต้องมาทำร้ายทำลายกันแบบนี้ สองมือยกขึ้นมาปาดน้ำตาลวกๆให้สามารถมองเห็นทางได้บ้างแต่กระนั้นก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าตนจะวิ่งไป ณ แห่งหนใด...อยากกลับไปหาโกคุเดระ อยากกลับไปหาท่านพ่อ....อยากจะกลับไปหาใครสักคนที่จะยื่นมือมาซับน้ำตา อยากจะกลับไปหาใครสักคนที่จะยื่นมือมาโอบกอดปลอบโยน
ตุบ....
และด้วยที่เอาแต่วิ่งโดยไม่ได้รู้ทิศรู้ทาง ร่างเล็กจึงวิ่งไปชนเข้ากับแผงอกของใครบางคนเข้า
“ ข้าขอโทษ...” ใบหน้าน่ารักหลับหูหลับตาก้มหน้าขอโทษแล้วเตรียมจะวิ่งจากไปเพราะไม่อยากให้ใครเห็นสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้ของตัวเอง แต่กลับเป็นมือใหญ่ของคนที่โดนชนยื่นมาจับข้อมือเล็กเอาไว้แน่น
“ ...........” แรงบีบที่ข้อมือทำให้ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมองทั้งน้ำตา.....ใบหน้าที่มองมาด้วยแววตานิ่งสนิทแต่กลับหนักแน่นจนคนที่กำลังไร้เรี่ยวแรงถึงกับมองด้วยนัยน์ตาสั่นไหว...ถึงแม้จะไม่มีคำพูดใดๆแต่แค่ได้เห็นหน้ากลับรู้สึกอุ่นใจจนเผลอซบลงไปที่แผ่นอกกว้าง
“ ท่าน....พี่...ฮึก...ฮึก......” มือเล็กกำที่สาบเสื้อกิโมโนสีดำสนิทก่อนจะปล่อยโฮออกไป ทั้งความเจ็บปวดและเจ็บใจจึงไม่อาจอดทนอดกลั้นความรู้สึกและน้ำตาเอาไว้ได้อีก และเป็นเพราะคนตรงหน้าให้ความรู้สึกเฉกเช่นคนในครอบครัวจึงกล้าที่จะร้องไห้ไปต่อหน้า....ถึงอ้อมแขนนี้จะเย็นชาแต่สิ่งเดียวที่รับรู้ได้คือมันจะปกป้องเขาเอาไว้จากภัยอันตรายทั้งปวง
“ ..............” ร่างสูงขององค์ชายที่หนึ่งได้แต่ยืนนิ่งให้คนที่ได้ชื่อว่าน้องชายซบหน้าลงไปร้องไห้อยู่แบบนั้น.....อยากจะยกสองแขนขึ้นมากระชับร่างกายเล็กๆนี่เข้าหาตัว อยากจะโอบกอดอยากจะปลอบโยน.....แต่ก็ไม่อาจทำได้.....
ข้าไม่รู้...ว่าควรจะซับน้ำตาให้เจ้าอย่างไร....ควรจะปลอบโยนเจ้าอย่างไร....หรือควรจะพูดอะไรกับเจ้า....ข้าไม่รู้เลย....
เพราะตลอดเวลาข้าได้แต่สร้างความหวาดกลัวให้ผู้อื่น....เพราะตลอดเวลาข้าไม่เคยรู้จักว่าจะรักอย่างไร....
ยิ่งกับเจ้าด้วยแล้ว.....ข้ายิ่งไม่รู้ว่าควรจะกอดเจ้าแบบน้องชายทั้งๆที่ในใจข้าไม่ได้คิดแบบนั้นได้อย่างไร....
มือใหญ่จึงทำได้เพียงยกขึ้นไปวางไว้บนเส้นผมสีน้ำตาลก่อนจะลูบอย่างแผ่วเบา
ประตูเลื่อนถูกเปิดออกหลังจากงานชมดอกไม้นั้นสิ้นสุดลงแล้ว....ร่างสง่างามของหญิงผู้เป็นเจ้าของตำหนักเดินเข้าไปแต่ยังไม่ทันที่จะได้ปิดประตู เสียงทุ้มของผู้เป็นลูกชายก็ดังแทรกเข้ามาเสียก่อน
“ ท่านเป็นคนสั่งให้ทำลายมันใช่หรือไม่....โกโตะสีขาวตัวนั้น...” ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มอย่างงดงามหันไปมองลูกชายของตนก่อนจะแย้มรอยยิ้มแทนคำตอบ ให้ใบหน้าเรียวหล่อเหลานั้นนิ่งสนิท ร่างสูงโปร่งโค้งคำนับผู้เป็นมารดาก่อนจะหันหลังกลับไปโดยไม่พูดอะไร
“ มุคุโร่....” เสียงไพเราะแต่ก็เยียบเย็นดังเช่นยาพิษเอ่ยเรียกให้แผ่นหลังกว้างที่กำลังจะเดินจากไปต้องหยุดชะงัก
“ เจ้าอย่าได้เผลอไปเห็นใจมันอย่างเด็ดขาด....เข้าใจที่แม่พูดใช่ไหม” และคำพูดนั้นก็ได้ย้ำลงมาอีกครั้ง แต่ครานี้ร่างสูงกลับไม่ตอบอะไรและเดินจากไปในที่สุด
ม้าสีขาวปลอดวิ่งช้าๆไปตามทางที่แทบจะเรียกไม่ได้ว่าทาง ในเมื่อมันเป็นเพียงแผ่นหินแตกๆที่แทรกอยู่ระหว่างพงหญ้าสีเขียวก็เท่านั้นเอง ใบหน้าคมของคนบังคับม้ายังคงยิ้มรื่นไม่ได้รู้สึกรู้สากับร่างบอบบางที่พยศเสียยิ่งกว่าม้าที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหน้าเลยสักนิด ทั้งเสียงด่าทอทั้งมือบางที่พยายามก่อกวนและลอบทำร้ายไม่ได้ทำให้ชายชาตินักรบหวั่นเกรง ยามาโมโตะยังคงควบม้าเข้าไปยังป่าลึกขึ้นเรื่อยๆ มือหนึ่งก็จับเอวบางเอาไว้ไม่ให้ดิ้นจนเผลอตกลงไปจนได้ขาแพลงอีกข้าง กลิ่นหอมยวนใจที่หลั่งไหลออกมาจากร่างบางๆในอ้อมแขนทำให้เผลอกดจมูกลงไปที่ซอกคอด้านหลัง และแน่นอนว่า....
“ เจ้า!!! ไอ้เจ้าบ้า!!! ไอ้เจ้าหน้าไม่อาย เจ้าทำอะไรข้า! บอกให้หยุดม้าเดี๋ยวนี้นะ ข้าจะกลับตำหนัก” ไม่ด่าเปล่า เล็บคมยังข่วนลงมาที่ท่อนแขนแข็งแรงให้แสบๆคันๆสมกับเป็นลูกแมวจอมดื้ออีกต่างหาก
“ ถ้าข้าหยุดม้าแล้วเจ้าจะทำยังไงล่ะ? จะเดินกลับไปหรือยังไง? ไกลอยู่นะ แล้วแถวนี้ก็มีเสืออยู่เพี้ยบเลยด้วยละ” ใบหน้าสวยที่เห็นเพียงด้านข้างกำลังขมวดคิ้วแก้มป่องด้วยคงกำลังโมโหสุดขีด นอกจากโดนลักพาตัวมาแล้วยังโดนบังคับให้ขี่ม้าซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าตัวทำไม่เป็น กว่าที่เขาจะจับขึ้นม้ามาจนถึงนี่ได้ก็เล่นเอาได้แผลอยู่หลายรอย
“ เจ้าก็บอกม้ามันสิ ว่าให้พาข้ากลับ ส่วนเจ้าก็ถูกทิ้งอยู่ที่นี่แหละ!” จะมีใครยอมทำแบบนั้นให้เจ้าไหมเนี่ย...แล้วอีกอย่างข้าก็คุยกับม้าไม่รู้เรื่องหรอกนะ....เขาได้แต่หัวเราะกับความเอาแต่ใจของคนในอ้อมแขน....บรรยากาศข้างทางเริ่มจะเปลี่ยนไป....จากที่เคยมีแต่ต้นไม้ใหญ่รกทึบกลับค่อยๆบางตาลงด้วยต้นไม้พันธุ์ดีที่ดูเหมือนจะถูกปลูกขึ้นมาด้วยความตั้งใจ จากที่เคยระเกะระกะกลับค่อยๆเป็นระเบียบขึ้นเรื่อยๆ
เจ้าม้าสีขาวหยุดลงที่โคนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ก่อนที่ร่างสูงจะกระโดดลงไปแล้วอุ้มอีกคนที่อยู่บนหลังม้าลงมา แค่ฝ่าเท้าเหยียบพื้นได้เท่านั้นแหละ ร่างบอบบางก็ตั้งใจจะวิ่งหนีเต็มที่ ดีที่มือใหญ่จับเอาไว้ได้เสียก่อน
“ ปล่อยข้านะ! ไอ้เจ้าโจรใจบาปหยาบช้า ถ้าเจ้าทำอะไรข้าละก็ ปู่ข้าไม่ไว้หน้าเจ้าหรือองค์ชายของเจ้าแน่!” เจ้าลูกแมวยังคงขู่ฟ่อตามประสาแต่ร่างสูงก็ยังคงยิ้มรับ
“ อยู่นิ่งๆเถอะน่า....ขาเจ้าพิการอยู่แบบนี้ เที่ยวเดินไปเรื่อยตกเขาไปจะทำยังไง....แล้วก็ไม่ต้องห่วงหรอก ข้าน่ะรู้ดีว่าศักดิ์ของข้าต่ำกว่าเจ้าขนาดไหน...” เป็นความจริงอีกข้อที่เขาคงต้องยอมรับ....เพราะถึงแม้ตอนนี้เขาจะเป็นแม่ทัพของกองทัพแห่งองค์ชายที่สอง....แต่หากเทียบกันแล้ว โกคุเดระที่เป็นหลานชายสายตรงของสมุหกลาโหม....ไม่ว่าเขาจะพยายามขนาดไหนก็ไม่อาจเข้าใกล้ได้เลย
“ ฮึ....รู้ก็ดีแล้ว เพราะงั้นพาข้ากลับไปได้แล้ว เจ้าบ้า!” ใบหน้าสวยเชิดขึ้นก่อนจะสะบัดไปอีกทางอย่างออกคำสั่ง ใบหน้าคมลอบยิ้มก่อนจะจับมือบางแล้วลากให้เดินตามไป....
ความต่างชั้นระหว่างข้ากับเจ้าไม่เคยเปลี่ยนได้....เช่นเดียวกับหัวใจของข้าที่อยู่กับเจ้าเสมอมาและจะไม่มีวันเปลี่ยนไป
ถึงข้าจะไม่อาจเอื้อมที่จะคว้าตัวเจ้ามา....แต่ข้าก็จะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป
ขอเพียงได้เฝ้ามองและปกป้องเจ้าเท่านั้นคือสิ่งที่ข้าต้องการ
“ ข้ามีอะไรอยากให้เจ้าดู....” แน่นอนว่าคนโดนลากให้ตามมาย่อมไม่มีวันรับฟังและยังคงโวยวายไม่ได้หยุดปาก
ไม่ไกลมากนักจากจุดที่เจ้าม้าสีขาวยืนอยู่....จากป่าสีเขียวกลับกลายเป็นป่าสีชมพู....จากต้นไม้หลากหลายพันธุ์กลับกลายเป็นต้นซากุระเพียงอย่างเดียวเท่านั้น กลีบอันอ่อนโยนปลิวว่อนไปตามสายลมและบางส่วนก็ตกลงไปกระทบกับผิวน้ำใสในบึงกว้าง ความงดงามทำให้นัยน์ตาสีมรกตถึงกับเบิกกว้างด้วยแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาว่ายังมีสถานที่ราวกับสรวงสวรรค์ที่ถูกซุกซ่อนจากสายตาของผู้คนแบบนี้อยู่อีกหรือ
เสียงลมพัดซู่หอบเอากลีบซากุระมาคลอเคลียอยู่รอบกายบาง ใบหน้าสวยเผลอยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว สองแขนยกขึ้นรับสัมผัสที่ราวกับถูกโอบกอดเอาไว้ด้วยเหล่าซากุระสีหวาน ผมสีเงินพลิ้วไหวไปกับกลีบดอกที่ไหลลงไปตามความอ่อนนุ่มของเส้นผม นัยน์ตาสีมรกตเหลียวมองไปรอบกายด้วยประกายตาสุกใสสวยงามราวกับอัญมณี ให้คนที่เฝ้ามองอยู่ถึงกับลืมหายใจ นัยน์ตาสีเปลือกไม้ไม่อาจละสายตาไปจากภาพตรงหน้าได้แม้แต่วินาทีเดียว
จนกระทั่ง....
“ นั่นมัน....ผ้าเช็ดหน้าของข้า!” นัยน์ตาสีมรกตหันกลับมาจ้องมองที่ร่างสูงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ตัว ดวงตาวาววับจ้องเขม็งมาที่ผืนผ้าสีขาวซึ่งร่างสูงพันเอาไว้ที่ด้ามดาบคู่ชีวิตซึ่งตอนนี้มันเหน็บอยู่ที่เอว
“ นี่น่ะหรอ? เจ้าให้ข้าแล้วมันก็ต้องเป็นของข้าสิ ฮะฮะ” มือใหญ่ปลดผ้าเช็ดหน้าลายซากุระหน้าตาแปลกประหลาดที่ยังไม่ทันจะปักเสร็จด้วยซ้ำเอามาชูไว้เหนือหัวกันเจ้าคนที่ตัวเล็กกว่าจะแย่งกลับคืนไป
“ หน้าด้าน! ใครให้เจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เจ้าแย่งของข้าไป เอาคืนมานะ!” ร่างบอบบางพยายามกระโดดแย่งแต่ด้วยความสูงที่แตกต่างกันมากอีกทั้งขายังบาดเจ็บอยู่จึงไม่อาจคว้ามาได้ “บอกให้เอามาไงล่ะ!” ในเมื่อแย่งไม่ได้ คนสวยเอาแต่ใจจึงเปลี่ยนมายืนชี้นิ้วสั่งแทน และดูเหมือนร่างสูงเองก็คงไม่คิดที่จะคืนให้ จึงได้แต่ชูผ้าผืนน้อยเอาไว้แบบนั้น
“ หนอย.....” ใบหน้าสวยขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างหงุดหงิด....ทำไมเจ้าบ้านี่มันถึงได้กวนประสาทแบบนี้นะ....แต่แล้วสายตาก็เห็นอะไรบางอย่างเข้า....
“ จะคืนมาดีๆไหม?!” ยามาโมโตะส่ายหน้าปฏิเสธอย่างชัดเจน ให้ร่างบางถึงกับสติหลุด มือบางคว้าไปที่ดาบที่ร่างสูงเหน็บเอาไว้ที่เอวออกมาทั้งฝักเพราะไม่ทันระวังตัว ก่อนจะหันไปโยนดาบด้ามสำคัญลงน้ำไปอย่างไม่ใยดี
“ โกคุเดระ!” ร่างสูงหันไปมองดาบที่กำลังจะจมน้ำไปด้วยแทบไม่เชื่อสายตา ส่วนตัวการกลับเดินกะเผลกๆหนีไปต่อหน้าต่อตา
“ เดี๋ยว โกคุเดระ! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงทุ้มตะโกนไล่หลังไป ทั้งห่วงดาบก็ห่วง แต่ร่างบางนั่นก็ไม่อยากจะให้คลาดสายตา ใบหน้าคมหันมาสบถก่อนที่จะตัดสินใจเดินลุยน้ำลงไปเพื่อเก็บดาบขึ้นมาก่อนแล้วค่อยไปลงโทษเจ้าตัวแสบไม่เจียมสังขารทีหลัง
“ ฮึ....สมน้ำหน้า...” ร่างบอบบางเดินกลับมาที่เจ้าม้าสีขาว แต่จนแล้วจนรอดก็จนปัญญาที่จะขี่มันกลับไปได้ ปกติแล้วม้าก็สูงกว่าตัวเองอยู่แล้ว แล้วยิ่งเจ้าม้าตัวนี้ยิ่งสูงใหญ่เป็นพิเศษ จึงไม่ใช่อะไรที่คนขาเจ็บเช่นตนจะขึ้นไปบนหลังมันได้เลย
แต่คนดื้อก็คือคนดื้อวันยังค่ำ ร่างบอบบางไม่เพียงจะยืนรอแต่กลับออกเดินไปทั้งอย่างนั้น.....ไม่รู้ละ จะเจอเสือหรืออะไรก็ช่าง แต่มันก็ยังดีกว่ารอให้เจ้าบ้านั่นมากลั่นแกล้งเขาอยู่แบบนี้....แล้วยิ่งเขาโยนดาบที่น่าจะสำคัญลงน้ำไป เจ้านั่นก็คงจะโกรธมาก เรื่องอะไรเขาจะต้องอยู่ให้ถูกลงโทษด้วย....
ขาเรียวภายใต้กิโมโนตัวยาวพยายามก้าวเดินไปให้เร็วที่สุดเท่าที่ขาซึ่งบาดเจ็บอยู่จะทำได้ ทางเดินที่แทบจะดูไม่ออกว่าทางเดินก็ทำให้ลำบากไม่น้อย กิ่งไม้ตามข้างทางเกี่ยวชายกิโมโนตัวสวยจนเส้นไหมหลุดลุ่ย แต่กระนั้นด้วยทิฐิจึงไม่ทำให้ร่างบางหยุดเดิน
เสียงฝีเท้าเดินเยาะๆตามมาที่ด้านหลังให้ใบหน้าสวยหันกลับไปมอง....เจ้าม้าสีขาวเดินตามมาโดยไร้ซึ่งเจ้าของมันบัญชา
“ เจ้าจะตามข้ามาทำไมเนี่ย....ข้าขี่เจ้าไม่เป็น แล้วก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะพาเจ้าไปหลงทางรึเปล่า เพราะงั้นกลับไปได้แล้ว...” เสียงใสยังคงพูดกับม้าหน้าตาเฉยก่อนจะหันกลับไปเดินต่อ....และดูเหมือนว่าเจ้าม้าตัวนั้นก็ยังคงเดินตามไม่ยอมกลับไป
“ ฮึ....ตื้อเหมือนเจ้านายของเจ้าเลยนะ” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ใบหน้าสวยกลับอมยิ้ม....อย่างน้อยก็คงดีกว่าเดินหลงป่าอยู่คนเดียว....
“ โกคุเดระ!!!” เสียงทุ้มตะโกนก้องไปทั่วเมื่อมองไม่เห็นแม้แต่เงาของร่างบาง....เขาไม่น่าชะล่าใจ....เพราะคิดว่ายังไงๆโกคุเดระก็ไม่มีทางขี่ม้าหนีกลับไปก่อนได้....แต่เขาคิดผิด....เพราะตอนนี้ที่ตรงหน้าของเขาไม่มีแม้แต่เงาของสิ่งมีชีวิตใดหลงเหลืออยู่....เขาคงจะประมาทความชาญฉลาดของร่างบอบบางมากเกินไป
“ .........” ใบหน้าคมนิ่งสนิทเหลียวมองไปรอบกาย ก่อนจะก้มลงมองไปที่ดาบในมือ หยดน้ำยังคงไหลลงมาเป็นทาง ปกติชิงุเระคินโทคิก็หนักอยู่แล้วยิ่งเวลานี้ยิ่งหนักขึ้นเป็นเท่าตัว....หนัก....พอๆกับสิ่งที่อยู่บนบ่าซึ่งมีชื่อว่าความรับผิดชอบ.....
“ โกคุเดระ!!!” มือใหญ่กระชับดาบแน่นก่อนจะออกวิ่งไปตามทางเดิน ป่านี้ไม่ใช่ว่าใครจะเดินเข้าออกได้ง่ายๆ เพราะมันมีทั้งสัตว์ร้ายและหลุมพรางมากมาย....นอกจากความโกรธที่ทำให้จิตใจดำมืด...สิ่งที่มีมากกว่าในตอนนี้คือความกังวลและร้อนใจด้วยเป็นห่วงความปลอดภัยของร่างบอบบาง
ขอให้เจ้ายังคงปลอดภัยทีเถอะ...โกคุเดระ.......
ร่างสูงโปร่งหอบเอาห่อผ้าซึ่งข้างในคือเศษชิ้นส่วนโกโตะสีขาวก้าวเดินไปตามตรอกซอกซอยเล็กๆในตัวเมืองย่านพักอาศัยอย่างไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเหตุใดจึงคิดที่จะทำเช่นนี้....เขาน่าจะสั่งให้เอามันไปเผาไฟมากกว่าจะนำมันมายังที่ที่คนไร้ซึ่งความอ่อนโยนอย่างเขาจะเข้าใจแห่งนี้
มือใหญ่ข้างที่ว่างเปิดประตูเลื่อนหน้าบ้านเก่าซอมซ่อก่อนจะก้าวขาเข้าไปด้วยท่าทางสง่างามตามปกติ ภายในแทบจะเรียกไม่ได้ว่าบ้านเพราะผนังทุกด้านต่างเต็มไปด้วยเครื่องดนตรีที่ดูๆไปแล้วจะไม่มีชิ้นใดที่เสร็จสมบูรณ์เลยแม้แต่ชิ้นเดียว ชายชรานั่งหันหลังให้ด้วยกำลังง่วนกับการร้อยสายของเครื่องกำเนิดเสียงบางอย่าง
และเมื่อร่างสูงวางห่อผ้าลง ถึงแม้จะยังไม่ได้พูดอะไรแต่หูที่ดียิ่งกว่าคนปกติของชายชราก็ทำให้ใบหน้าใจดีหันกลับมามองด้วยรอยยิ้ม
“ มีอะไรให้รับใช้รึ องค์ชาย...” ก็ไม่น่าแปลกใจที่ชายคนนี้จะรู้จักเขา เพราะเจ้าตัวเองก็เข้าๆออกๆที่ตำหนักชั้นในอยู่บ่อยๆด้วยตำแหน่งช่างทำเครื่องดนตรีมือหนึ่ง
“ ซ่อมมันได้หรือไม่....” มือใหญ่คลี่ห่อผ้าออกและดูเหมือนว่าชายชราตรงหน้าจะรู้จักเจ้าโกโตะสีขาวตัวนี้ดี.....คงเพราะเป็นคนสร้างมันมากับมือนั่นเอง
“ น่าสงสารน่าดู...ใครช่างใจร้ายทำลายเจ้าได้ลง...” สายตาอ่อนโยนทอดมองไปที่โกโตะสีขาวก่อนจะย้ายมามองที่ใบหน้าเรียว “ คงต้องใช้เวลานานพอดู...เพราะโกโตะตัวนี้ถูกสร้างขึ้นมาให้มีลักษณะจำเพาะ หากท่านเล่นโกโตะเป็น ท่านก็จะรู้ว่ามันไม่เหมือนโกโตะตัวไหนๆในโลก........เป็นโกโตะที่เส้นเสียงไม่สม่ำเสมอ...หากเป็นคนก็คงเปรียบเสมือนคนที่อารมณ์ไม่คงที่ มีทั้งความชิงชังริษยาแต่กระนั้นกลับเป็นคนขี้เหงา.........คนที่จะเล่นมันได้ คนที่จะทำให้มันแสดงออกมาซึ่งเสียงแห่งความรัก...คงมีแต่เจ้าของของมันเท่านั้น......” ชายชราเดินหันหลังก่อนจะกลับไปนั่งลงที่หน้าโต๊ะตัวเดิม
“ แล้วอีกอย่าง....ก่อนหน้าที่ท่านจะมา ได้มีใครอีกคนมาสั่งให้ข้าสร้างโกโตะอยู่ก่อนแล้ว....เพราะฉะนั้นท่านคงต้องรอหน่อย” และส่วนปลายของโกโตะที่ชายชรากำลังสร้างมันขึ้นมาก็ทำให้คนที่บังเอิญได้เห็นถึงกับใบหน้าชาวาบ
โกโตะสีดำสนิท.....
สีที่ราวกับเป็นสัญลักษณ์ของคนคนนั้น.....
ใบหน้าเรียวก้มลงอย่างที่ไม่สามารถระบุได้ว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกอย่างไรกันแน่....มันไม่ใช่ความอิจฉาเหมือนที่เป็นมา....มันไม่ใช่ความเคียดแค้นชิงชัง....แต่ตอนนี้เขารู้สึกราวกับกำลังพ่ายแพ้....
แต่เขาไม่รู้ว่ากำลังพ่ายแพ้ให้แก่สิ่งใด....
เคียวยะ....สึนะโยชิ....หรือว่าพ่ายแพ้ให้แก่หัวใจของตัวเอง....
“ คึหึหึ......เสร็จเมื่อไหร่ข้าวานท่านเอามันไปส่งให้แก่เจ้าของเขาด้วยก็แล้วกัน....”
ถึงแม้ว่าเจ้าอาจจะไม่ต้องการมันแล้วก็ตาม.....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หิมะ....หยดน้ำ....ความรัก..... : 03 End
.
.
.
โปรดติดตามตอนต่อไป.....ไป......ไป
อ่านจบแล้วว แบบว่าอ่านรวด2ตอนแล้วค่อยแวะมาเม้นท์ หล่ะ แหะๆ
ตอบลบตอนที่อ่านเจอดอกอะจิไซก็สงสัยว่าเป็นยังไงน๊า ไปหารูปมาด้วยล่ะ
เห็นว่ามีสีขาว สีฟ้า สีม่วงหล่ะ (พี่กวางจะให้เป็นดอกไม้แทนตัวใครหรือป่าวคะ ^^)
ก๊กก็ยังเป็นก๊กวันยังค่ำ ขาเจ็บก็ยังจะพยาย๊ามมพยายามเน้อออ น่าร๊ากกกจริงๆเชียว
แต่เกรงว่าถ้าให้ก๊กอุ้มโกโตะไปอาจจะเสียหายได้กว่าคนอื่นอุ้มไปนะ
ตอนที่ยามะลักพาก๊กก็แอบคิดว่าคราวที่แล้วตกต้นไม้..
คราวนี้ก๊กจะเจ็บตัวอีท่าไหนกลับมาอีกมั้ยน้อ คิดเล่นๆแต่กลับเป็นว่า..
ตกหลุมพลางง!! กร๊ากกกก เอ้อ ระหว่างก๊กหลงทางนี่ฮามากเจ้าค่ะ
เอ็นดูความน่ารักของก๊กมากๆๆๆๆ ^o^
แถมยามะยังเนียนสูดกลิ่นหอมโอบเอวจับนั่นนี่ไปถึงไหนแว้ววอ่าาา
แอบรักเค้าข้างเดียวอีกแล้วยามะเอ๊ย ไปแอบมองเค้ามาตั้งกะตอนไหนย่ะ ฮะฮะ
ก๊กทำไมซนงี้ละลูก แต่ม้าก็ยังเดินตามไปเป็นเพื่อน มีเสน่ห์แม้กระทั่งม้า
อ๊ะ กลับมาพูดถึงสึนะกันก่อนนนน ด้วยแรงฮึด ไม่ยอมแพ้
ในที่สุดทูน่าก็เข้าโหมดไฮเปอร์?แล้ววว ลุยมุคุโร่ไปเล๊ยยย สู้ๆเค้า
ชอบใจคุณมุผิดหวัง กร๊ากกกก << FC คุณมุแน่เร๊อะ
แบบว่าๆ เกลียดเค้ามากๆอย่ามาหลงรักเค้านะเออ...
ว่าแล้วๆๆคุณมุต้องไม่ใช่คนไม่ดี?อะไรขนาดน้านน?
ท่านแม่ของท่านมุนี่เองที่คอยเสี้ยมสอน ยุแยง ใส่ไฟ เป่าหู ฯลฯ
ให้คุณมุคอยอิจฉาทูน่าน้อยๆตัววนี้ ฮ่าฮ่า
แถม คุณมุไม่ได้เป็นคนทำโกโตะพังด้วยล่าาา ฮิ้วววว
เรื่องเสียการทรงตัว เอ๊ยควบคุมใจตัวเองแว้วววว
กรี๊ดดดดดดดดดดด ใกล้แล้วสินะ สินะ
ว่าแต่ฉากนั้นนทูน่าาวิ่งไปจ๊ะเอ๋กับคุณฮิ!!
โฮกกกกกก คุณพระ บทคุณท่านช่างพระเอก?หรือพระรอง? อะไรเช่นนี้
ท่านพี่ ท่านพี่ ท่านพี่ คึหึหึ ตอกย้ำใส่หูคุณฮิเข้าไป //พี่พิชเอาทอนฟาเสย ฮะฮะ
แต่ชอบนะ เอามือลูบหัว ข้างนอกดุดันแค่ไหนแต่แสดงออกมาอบอุ่นดีจัง ^^
ตอนท้ายๆนั่นน !! คุณมุเอาโกโตะมาซ่อมม แต่ คุณฮิดันสั่งทำอันใหม่!!
ว๊ากกกกกกก ช้าไปแล้วค๊าคุณมุ โดนคุณท่านตัดหน้าไปซะแว้ววววว
แอบใจแป้วไปกับคุณมุ ไอ้อาการโหว่งๆ น้อยใจ นี่มันอะไรก๊านนน
ลุ้นๆ โกโตะสีขาวตัวเก่า กับโกโตะสีดำตัวใหม่ สึนะจะรับอันไหน อร๊ายยยย
หรือจะเหมาสอง //พี่กวางเสยย แต่เค้าเชียร์ให้รับสีขาวนะ อิอิ
ก็แหม ความในใจคุณมุเค้า บอกขนาดน้าน ...
"ถึงแม้ว่าเจ้าอาจจะไม่ต้องการมันแล้วก็ตาม....." << หงอยเชียว น่าสงสาร T^T
โอ๊ะ จบตอนละ วิ่งไปอีกตอนโดยเร็ว
ชอบคำโปรยตอนนี้จังค่ะ ได้อารมณ์มากมาย
ตอบลบทูน่าตอนนี้ได้ใจมาก มันต้องให้ได้อย่างนี้สิ เข้มแข็งเข้าไว้หนู
แต่แอบหมั่นไส้สนมเอกอ่ะคนอะไรก็ไม่รู้ใจร้ายที่สุด
ส่วนท่านมุก็ท่าทางจะทั้งรักทั้งเกลียดทูน่าหละสินะฮ้า ห่วงเหลือเกิน ฮิ้วววววว
เหมือนตอนนี้จะเป็นตอนซวยของท่านมุหรือย่างไร ไหนจะแผนพัง โดนทูน่าตอกใส่หน้า และที่สำคัญ โดนท่านฮิชิงตัดหน้าทำโกโตะตัวใหม่ให้สึนะ เป็นไงหละ หน้าชาเลยไหมล่า โถๆน่าสงสาร พยายามเข้าแล้วกันนะท่านมุ
ชอบอารมณ์ของท่านฮิตอนนี้จังค่ะ สับสนๆไม่รู้จะรักแบบไหนดี อร๊ายยย
ทูน่าก็อ้อนเสียเหลือเกิน มีน้องน่ารักอย่างนี้ใครมันจะไปทนไหวล่ะค้า
ส่วนทางยามะกับโกคุก็ โกคุน่ารักที่สุด เด็กอะไรก็ไม่รู้ น่าปราบพยศจริง ๆ
ฉากท่ามกลางซากุระนั้นจิ้นตามแล้วอยากไปยืนแทนที่ยามะจังเลยน้า
เห็นว่าอัพซักพักแล้ว ดิ้นๆดีใจ แต่เพิ่งได้มาอ่าน รู้สึกบทนี้กีกจะน่ารักเกินสึนะ XD แหะๆ คงเป็นเพราะตอนเจอยามะแล้วดิ้นๆละมั้ง ชอบ เอิ่ม ยามะ นั่นไปเดินเล่นเหรอคะ? หรือลักพาตัว มุดูใจร้ายดีเนาะT^T(?) ไม่เป็นไรๆ ให้สึนะมาให้ฮิปลอบใจ ฮิไม่รู้จะทำไงก็ให้สึนะก่อดไปงั้นก็โอเคแล้ว >< เหมือนมุโดนตัดหน้าอีกแล้ว อ่า แต่บทนี้เราชอบอารมณ์ก๊กกับสึนะนะ น่ารักดี ใครมารังแกท่านจะฟาดให้หัวแบะ ฮา คิดอะไรได้น่ารักจริงเชียว ถ้าสึนะเมะก๊กคงโดนกดไปแล้ว ...คิดอะไรของตรูเนี่ย =3=
ตอบลบอนึ่ง ตอน 3 และตอน 4 ได้มาแอบ(?)อ่านเมื่อนานมาแล้ว แต่เพราะว่ายังไม่ได้คอมเม้นท์เพราะมันเป็นช่วยจุดไต่อารมณ์พัฒนาการของตัวละครในเรื่อง ขออนุญาตกลับมาเม้นท์ย้อนข้ามชาติเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจไซโคให้ผู้แต่งค่ะ คึหึหึ << ฟังเสียงหัวเราะแล้วคงรู้สินะว่าตอน 3 นี้มาอวยใคร ๕๕๕ (นั่งอ่านใหม่อีกรอบเลยนะ ฮา)
ตอบลบพูดแล้วก็อยากบอกอีกว่าเรื่องของการบรรยายนามธรรมในฟิกรสชาติแบบนี้ ชอบจริงๆให้ดิ้นตายสิน่า จะว่าไปแล้วเหมือนจะอินกว่าแฝดน้องด้วยแฮะ
มานั่งคิดๆดูแล้ว เรื่องนี้รู้สึกจะเน้นไปที่อารมณ์ความรู้สึกและรูปแบบความสัมพันธ์ของตัวละครมากกว่าปมเนื้อเรื่องที่ผูกคนอ่านให้ตายได้ของแฝด ซึ่งกี้ชอบมาก(//หลบทรีนคนเขียน)
ที่โดดเด่นในเรื่องนี้(เฉพาะตอนนี้นะ เค้าไล่อ่านแล้วเม้นทืไปด้วยอ่ะ อ่านรวดเดียวเม้นท์ทีเดียวแล้วลืม) คิดว่าหนีไม่พ้นเรื่องของการใช้สัญญลักษณ์ที่อานแล้วสะดุดใจมีแล้วคิดว่าให้สัญญะกับตัวละครได้เข้าใจง่าย และช่วยในการสื่อความมากเลยค่ะ อย่างการใช้ตัวดอกไม้ทีนี่ปกติเราจะรู้อยู่ว่าดอกซากุระ ถ้านึกถึงตัวละครในรีบอร์นจะเชื่อมโยงไปถึงคุณเคียวซึ่งมีมีความเป๊นยุ่นลิซึ่มสูงและ(ก็มีความหลังที่เคยแพ้ดอกไม้นี่ด้วย) แถมเพลงที่เคยร้องคู่กับมุก็ยังเป็นอะไรซากุระได้อีก ส่วนมุคุโร่ว(นานๆทีจะเรียกเธอเต็มยศแฮะ ขำๆไงไม่รู้) ดึงเอาสัญญะแทนด้วยดอกไม้เป็นดอกอะจิไซถึงถ้าถามว่าเหมาะไหมก็ก็ว่าเหมาะนะคะ ดอกไม้ที่เย็นชา (จะว่าไปก็อุปมานไปได้ถึงทั้งคุณเคียวและมุคุ) และอาจจะเพราะยิ่งสิ่งถ้านึกถึงสีน้ำเงินแสนเศร้าของอะจิไซแล้วยิ่งนึกถึงพ่อสัปป้าฟัวน้ำเงินเข้าไปใหญ่อ่ะเนอะ แล้วก็เรื่องของสีประจำตัวน่ะแหละ โกโตะสีดำ สีที่แทนตัวคุณเคียว ส่วนโกโตะสีขาวที่แหลกละเอียด ที่ว่า"คงเปรียบเสมือนคนที่อารมณ์ไม่คงที่ มีทั้งความชิงชังริษยาแต่กระนั้นกลับเป็นคนขี้เหงา." ก็เปรียบได้เป็นมุคุที่ตอนนี้อารมณ์ทั้งรักทั้งชังสินะ
ตอนนี้อ่านแล้วกลับสะเทือนใจแทนมุคุค่ะ ท่าทางจะเศร้าและสัยสนไม่แพ้ทูน่า คุณแม่มุคุคุก็แสนจะผูกใจแค้นเคืองสึนะมาก รู้เลยว่าคุณชายมุคุต้องถูกเลี้ยงมาแบบเพราะรากความชังไว้ทุกวันๆสะสมจนทำให้แสดงออกเป็นเด็ก?เกเรแบบนี้
ตอนนี้อ่านแล้วเหมือนจะมุ่งประเด็นไปที่ความรู้สึกกระอักกระอ่วนของมุคุแฮะ แล้วคุณเคียวก็เปิดเผยความรู้สึกรักน้องกันให้คนอ่านไม่ต้องเดาเลยอ่ะเนอะ แต่ชอบคุณเคียวเรื่องนี้ไม่แพ้มุคุคุเลยนะ ถึงจะดูเงียบๆ สูงศักดิ์เกินเอื้อม แต่จริงๆแล้วก็แค่คนไร้เดียงสาในเรื่องของความรัก แค่แสดงออกไม่เก่งเท่านั้นเอง เลือกไม่ถูกเลยจริงๆ อยากให้จบแบบไม่ต้องม่ีใครเสียใจเพราะทั้งสองคนคู่ควรกับน้องนางทูน่าทุกประการ (พูดแล้วปวดใจ กลัวจะมีใครต้องชีช้ำค่ะ T^T ) แต่เอาจริงๆรู้สึกว่าตอนนี้พี่กวางก็แอบจัดให้รสชาติขมขื่นนำโดยสัปป้าสินะ (เดาจากอินโทรตอนอ่ะ)
มาพูดถึงคู่8059บ้าง อ่านแล้วอิจฉาคู่นี้ จะน่ารักมีความสุขหงุงหงิงไปหน๊าย ๕๕๕ อ่านไปยิ้มไป คืออิเนียนก็เนียนได้อีก หาเศษหาเลยกับก๊กเด็กน้อยได้ตลอดอ่ะ ๕๕๕ ก๊กก็น่ารักมาก (ปลื้มมม) มีการหันไปคุยกับม้าด้วย ๕๕๕ แล้วที่ว่าให้ทิ้งเนียนไว้กลางป่านั่นน่ะ ๕๕๕๕ ฮ่าๆ คิดไปได้ นั่นเซ่ ใครมันจะไปย๊อมถูกทิ้งอ่ะเนอะ คุ่นี้นี้หวานเบรคความเศร้า ความระทมของอีกคู่?นึงจริงๆค่ะ
โอ๊ยยยยยย คิดว่ามุคุทำซะอีก ที่แท้เป็นแม่ของมุ
ตอบลบโอ๊ยยยยยยยยย แม่นางงงง จิตใจทำด้วยอัลไลฟร้า
โกโตะสีดำคงเปนฮิสั่งให้ทำ คริคริ ท่านฮิน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกก
เพราะมุคุนั่นล่ะไม่ยอมรับหัวใจตัวเอง แล้วยังทำร้ายจิตใจสึ
อภัยให้ไม่ด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย