KHR Au.fic [185980] ความหวังครั้งสุดท้าย : 09


: KHR Fanfiction Au
: 185980  1006927  XSD
: Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ


ตอนคิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็แค่อยากอ่านฟิคที่มีสองด้าน ก็แค่นั้นเองค่ะ เพราะงั้น....นี่คือ ฟิคคู่แฝดค่ะ.....เรื่องราวที่เกิดขึ้นเหมือนๆกัน แต่ความรู้สึกนั้นช่างต่าง......พบกับอีกด้านของเรื่องนี้ได้ที่......


[AuFic][805918] The Last SNOWDROP....



.
.
.
.
.


สมการสามเส้า ของพวกเขาสามคู่

กับความรักของคน 9 คน กับความรู้สึกและเหตุผลของแต่ละคนใน 9 ด้าน

กับความต้องการและความปรารถนาที่จะครอบครองบุคคลอันเป็นที่รัก

สุดท้าย.......

ดอกไม้แห่งความหวังจะเบ่งบานแย้มยิ้มให้แก่....ผู้ใดกัน


By : K_Guardian_7

.
.
.
.
.
.
.
.





โกคุเดระ...ข้ากลับมาแล้วโกคุเดระ....     น้ำเสียงทุ้มกระซิบที่ใบหูทำเอานัยน์ตาสีเขียวมรกตลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อมองหาต้นเสียงนั้นด้วยความโหยหา



ขอโทษที่ทำให้เจ้ารอ เมื่อคืนนี้เจ้าหนาวหรือเปล่า...ขอโทษ....ข้าขอโทษ....    หน้าผากของร่างสูงแนบลงไปที่หน้าผากของนายน้อยแห่งโกคุเดระ สองมือใหญ่ประคองใบหน้าสวยที่ซีดเซียวก่อนที่ริมฝีปากจะบรรจงจูบลงไปที่ริมฝีปากของอีกคนด้วยความนุ่มนวล....



ข้าจะอยู่กับเจ้าตลอดไปนะ....ข้ารักเจ้าโกคุเดระ...    ดวงตาสองคู่มองสอดประสานซึ่งกันและกัน ก่อนที่นัยน์ตาสีเขียวมรกตจะสะท้อนภาพร่างกายสูงใหญ่ค่อยๆจางหายไป....










ไม่นะ ยามาโมโตะ!!!”     ร่างบอบบางลืมตาโพลงท่ามกลางแสงแดดอบอุ่น....เหงื่อยังคงไหลลงมาตามใบหน้าทั้งๆที่อากาศนั้นเย็นฉ่ำ....รอบกายยังคงเงียบสงบไร้วี่แววว่าจะมีใครกลับมายังที่แห่งนี้เลยแม้แต่คนเดียว....ฝันไปอย่างนั้นหรือ.....



ความฝันที่เกิดจากความคิดถึงนั้นเสมือนจริงจนน่ากลัว....สองแขนเล็กได้แต่นั่งกอดเข่าซบหน้าลงไป....เขานั่งอยู่แบบนี้มากี่วันแล้วนะ...ยังคงมีเพียงความเงียบเท่านั้นที่รายล้อมกาย...เงียบเสียจนหลงคิดไปว่า...บางทีที่นี่อาจจะไม่ใช่ในโลกมนุษย์



ร่างบอบบางของนายน้อยแห่งโกคุเดระลุกขึ้นยืนช้าๆ ขาเรียวสวยแหวกรอยแยกของกิโมโนออกมาตามจังหวะการก้าวเดินที่เชื่องช้าราวกับไร้เรี่ยวแรง บึงน้ำใสสะอาดตรงหน้าทอประกายล้อแสงแดดยามอรุณระยิบระยับ จิตใจที่ล่องลอยไปไกลร่างกายจึงไม่สามารถจะควบคุมได้ด้วยสมอง เท้าเปลือยเปล่ายังคงเหยียบย่ำผืนหญ้าเข้าหาผืนน้ำ....พอกันที....ในเมื่อเจ้าไม่กลับมา ข้าก็จะไปหาเจ้าเอง....



น้ำตาไหลลงมาตามพวงแก้มทั้งๆที่ใบหน้าใสนั้นยังคงเหม่อลอย ตอนนี้เขาไม่รู้แล้วจริงๆว่าจิตใจกำลังรู้สึกอย่างไรกันแน่ ความเจ็บปวดจากการสูญเสียมันทิ่มแทงจนสิ่งที่เคยเต้นอยู่ในหน้าอกด้านซ้ายมันตายด้านไปแล้ว ร่างกายจึงเพียงปล่อยให้น้ำตาไหลด้วยจิตใจที่ไร้ความรู้สึก



เท้าสีขาวสัมผัสได้ถึงความเย็นเหยียบของผืนน้ำ ...อีกไม่นาน ข้าก็จะได้มานั่งดูหิ่งห้อยอยู่ข้างๆเจ้า....



ขายังคงก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆ น้ำที่เคยสัมผัสแค่ฝ่าเท้ากำลังค่อยๆสูงขึ้นจนถึงหน้าแข้ง.....ความตายมันช่างหนาวเย็นยิ่งนัก....ความตายโดยปราศจากคนรักมันเจ็บปวดแบบนี้นี่เอง






.....ฉึก!!!!........





แต่ก่อนที่ขาเรียวจะก้าวเข้าสู่ความตาย เสียงคมกริบของอะไรบางอย่างก็พุ่งตรงเข้ามาหา....



แล้วตรงหน้า....สิ่งที่มองเห็นก็คือ.....ประกายของอะไรบางอย่างที่ปักลงบนผืนน้ำ



ปักลงไปเพื่อขวางกั้น ไม่ให้เขาเดินต่อไป



ปักลงไปเพื่อฉุดรั้ง ให้เขายังคงมีชีวิตอยู่



ประกายสีเงินสะท้อนแสงแดดยามเช้าจนไม่สามารถจะบอกได้ว่ามันคืออะไร.....



ดาบเล่มยาว....

หรือว่า....

ทอนฟา.....



มือบางยกขึ้นเพื่อป้องแสงแดดสว่างจ้า นัยน์ตาสีมรกตเพ่งพินิจว่าสิ่งที่ฉุดรั้งเขาเอาไว้คืออะไรกันแน่....








เมื่อแสงสะท้อนเริ่มรวมเป็นจุดเดียว....


สิ่งที่สะท้อนเข้าสู่นัยน์ตาสีมรกตนั้นคือ.....








ดาบ......






ดาบยาวที่คุ้นตา.......



ดาบของยามาโมโตะ!!!!





นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างอย่างดีใจ รอยยิ้มที่หายไปค่อยๆกลับคืนมาอีกครั้ง



ยามาโมโตะ....    เสียงเบาๆลอดออกมาจากริมฝีปากสีระเรื่อ สองตาจ้องมองดาบตรงหน้าอีกครั้งเพื่อย้ำความมั่นใจ



ยามาโมโตะ!!!”    ร่างบอบบางตะโกนด้วยความดีใจก่อนที่จะหันหลังกลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วพุ่งขึ้นมาหาคนที่รออยู่บนฝั่ง














แต่ทว่า.....



คนที่ยืนรออยู่นั้นกลับไม่ใช่เจ้าของดาบ.....










ท่าน.......     นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างอีกครั้งเมื่อมองเห็นชัดๆว่าร่างสีดำที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้นั้นคือใคร....



ฮิบาริ....เคียวยะ.......     คำตะโกนก้องที่ร้องดีใจอยู่เมื่อครู่ กลับค่อยๆแผ่วเบาลงตามจิตใจที่กำลังจะค่อยๆหายไปอีกครั้ง.....



ใช่....ข้าเอง...





ความเงียบโรยตัวอยู่รอบๆ ราวกับว่ามันคือเพื่อนแท้ของความปวดร้าว



คนหนึ่งเจ็บ....ที่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าหวังและรอคอย...

คนหนึ่งเจ็บ....ที่ไม่ได้เป็นสิ่งที่เจ้าหวังและรอคอย....




ทำไม....ดาบ.....    ร่างบอบบางที่ยังคงสับสนปนเปกับความหวังที่หายไป จึงถามออกมาสั้นๆสลับกับการหันไปมองดาบเล่มยาวที่จำได้ดีว่ามันเป็นของคนที่ตนรอคอยอย่างแน่นอน



หึ....นักรบจะยอมทิ้งอาวุธคู่กายก็ต่อเมื่อไร้ซึ่งลมหายใจ    เพียงประโยคเดียวที่เจ้าของแผ่นดินสีดำเอ่ยออกมาก็ราวกับเป็นดั่งสายฟ้าฟาดลงมาที่กลางหัวใจ....



ไม่.....ไม่จริง....ยามาโมโตะ...ไม่ๆๆ    สองมือบางยกขึ้นมาปิดที่ใบหู ราวกับว่าไม่อยากจะรับรู้สิ่งใดอีกต่อไปแล้ว คราวนี้น้ำตาที่ไหลเพราะมันเจ็บที่หัวใจอย่างแท้จริง



มันตายไปแล้ว! และเจ้าก็ต้องกลับไปกับข้า!”   มือที่แข็งแกร่งราวกับคีมเหล็กจับลงไปที่ข้อมือเล็กแล้วออกแรงกระชากให้เดินตามไปทันที ไร้ซึ่งคำปลอบโยน ไร้ซึ่งความอ่อนโยน เมื่อตอนนี้ภายในจิตใจของเจ้าของแผ่นดินสีดำกำลังครุกรุ่นด้วยความโมโหและชิงชัง ถึงแม้ร่างบอบบางที่ราวกับจะไร้เรี่ยวแรงนั่นจะสั่นสะท้านสักเพียงใด ก็หาได้มีอ้อมกอดหรือความปราณีใดๆทั้งสิ้น




ไม่ได้มีเพียงเจ้าที่รู้จักความเจ็บปวด...แต่ข้าเองก็เจ็บจนแทบทนไม่ไหว...

ทุกครั้งที่ได้เห็นว่าสายตาของเจ้ามีไว้เพื่อมองเพียงเขา....

ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเจ้าที่เรียกเพียงแต่ชื่อเขา....

ทุกครั้งที่ได้เห็นน้ำตาของเจ้าที่หลั่งออกมาเพื่อเขา....

ทุกครั้งที่ได้รับรู้ว่าเจ้ายอมเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องเขา....

ทุกครั้ง....ทุกครั้ง....ทุกครั้งมันตอกย้ำให้ข้ารู้...ว่าเจ้ารักเขา....




ไม่ได้มีเพียงเจ้าที่รู้จักความสูญเสีย...เพราะตอนนี้ข้าเองก็กำลังจะเสียเจ้าไป.....

กำลังจะสูญเสีย......หัวใจของเจ้า.....ฮายาโตะ




แค่คิด แรงบีบที่ข้อมือเล็กก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น อยากจะกำเอาไว้ อยากจะจับเอาไว้ให้แรงที่สุด เพื่อให้เจ้าอยู่กับข้า...



คนที่ถูกลากมาข้างหลังมิได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดทางร่างกายอีกต่อไป จิตใจยังคงสะอื้นไห้ให้กับคนที่จากไป เขายอมที่จะรอคอยอย่างไร้จุดหมาย ดีกว่าการรับรู้ว่าเขาคนนั้นตายจากไปแล้วจริงๆ....เจ็บ....เจ็บจนไม่รู้ว่ามันเจ็บที่ไหน....เจ็บ...



ร่างในชุดสีดำที่ดูอ่อนล้าเล็กน้อยกับรอยแผลมากมายยังคงออกแรงลากนายน้อยแห่งโกคุเดระให้เดินตามไป ถึงแม้ความแข็งแกร่งของร่างกายจะต่างกัน แต่สภาพจิตใจนั้นช่างใกล้เคียง....ความหวังทั้งหมดกำลังจะพังทลายลง.....




ไม่....

ไม่ใช่.....

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมาก็เพื่อเวลานี้มิใช่หรือ....

ตอนนี้ในมือของเขาก็มีมือของคนที่รักแสนรักอยู่แล้วมิใช่หรือ....

จะต้องไปใส่ใจทำไม ว่าหัวใจมันจะหายไปไหน....

ในเมื่อ...ทุกสิ่งทุกอย่างของเจ้าดอกไม้ดอกน้อยดอกนี้.....จะต้องเป็นของเขา!





แรงที่ออกแรงดึงยิ่งมีมากขึ้นไปอีก ขาก้าวเดินให้เร็วยิ่งกว่าเดิม จนในที่สุดก็พ้นเขตของป่าสายหมอกออกมา ป่าที่มีแต่ภาพลวงตา...หุบเหวที่เขาพลัดตกลงไปนั่นก็ด้วยเช่นกัน มันไม่ได้ลึกจนหาก้นเหวไม่เจออย่างที่ตามองเห็น เพียงแต่บาดแผลจากการกระแทกก็เล่นงานจนทำให้สลบไปไม่รู้กี่วัน



ม้าสองตัวถูกผูกเอาไว้ที่ปากทางเข้า ตัวหนึ่งคือม้าคู่ใจของเขาที่มีสีดำสนิท ส่วนอีกตัว....สีขาวสะอาดตา.....เจ้านั่น....ยังไม่ออกมาอีกรึ ?



แขนแข็งแกร่งยกร่างบอบบางของนายน้อยแห่งโกคุเดระขึ้นไปยังม้าสีดำ ที่อานม้ายังคงมีอาวุธและคันธนูผูกเอาไว้อยู่ ก่อนที่ร่างแข็งแกร่งจะกระโดดตามขึ้นไปนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง สองแขนโอบรอบลำตัวบางเพื่อจับเชือกบังคับม้า กลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างกายข้างหน้าโชยมาพร้อมกับเสียงสะอื้น แผ่นหลังบางยังสั่นสะท้านไม่หยุด



แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงไร้ซึ่งคำปลอบโยนใดๆ ไม่มีแม้แต่เสียงพูดจา



ม้าสีดำออกวิ่งทะยานไปอย่างรวดเร็ว สายลมเย็นปะทะเข้ากับใบหน้าเนียนของนายน้อยแห่งโกคุเดระที่ดูเหมือนเพิ่งจะเริ่มรู้สึกตัว ร่างบอบบางหันหลังกลับไปหาป่าสายหมอกที่กำลังจะค่อยๆเลือนรางหายไป สองมือเอื้อมไขว่คว้าพยายามจะกลับไปหาที่ที่จากมา โดยมีแขนแกร่งของคนที่ซ้อนอยู่ด้านหลังจับเอาไว้มั่น....



ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็จะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป....ข้าเคยบอกแล้ว...ว่าต่อให้ต้องเด็ดปีกของเจ้าทิ้ง ข้าก็จะทำ....ฮายาโตะ



แต่แล้ว....



จากเสียงฝีเท้าม้าที่วิ่งมาเพียงหนึ่ง ก็ค่อยๆได้ยินเสียงอีกเสียงแว่วตามมาไม่ไกล



นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างเมื่อมองเห็นว่าคนที่นั่งอยู่บนหลังม้าสีขาวที่กำลังควบตามมานั้นคือใคร....ร่างกายสูงใหญ่ที่เคยโอบกอดเขา เส้นผมสั้นสีดำสนิทที่เคยคลอเคลียอยู่ที่ใบหน้าของเขา นัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่คอยมองแต่เขา.....ไม่ผิดแน่....



ยามาโมโตะ!!!”    เสียงตะโกนก้องเรียกออกไปพร้อมกับลูกธนูสีดำสนิทที่พุ่งออกไปจากคันธนูสีดำ จากเสียงร้องเรียกกลายเป็นเสียงหวีดร้อง เมื่อเจ้าของแผ่นดินสีดำยังคงจับลูกธนูขึ้นมาพร้อมกับเตรียมที่จะง้างคันธนูอีก



หยุดนะ! อย่าทำอะไรเค้า!”    สองมือบางพยายามรบกวนเจ้าของแผ่นดินสีดำ ทำให้มือที่กำลังจะง้างคันธนูยอมลดมันลง ม้าสีตรงข้ามทั้งสองตัวยังคงวิ่งไล่กันไปอย่างไม่ยอมลดละ มือหนาของฮิบาริจับเชือกที่ผูกอยู่ที่อานม้ามามัดมือทั้งสองข้างที่พยายามจะปกป้องเจ้าคนที่เขาเกลียดชัง



โกคุเดระ!”    เสียงทุ้มของเจ้าคนที่พยายามจะฉุดรั้งของของเขาเอาไว้ คนที่พยายามจะแย่งสิ่งที่เขารักยิ่งกว่าชีวิต ยิ่งทำให้อารมณ์ที่กำลังครุกรุ่นอยู่แล้วยิ่งรุนแรงมากขึ้นไปอีก เชือกเส้นหนามัดแน่นจนกดลงไปในผิวเนื้อขาวจนขึ้นรอยแดง



ยามาโมโตะ!!!”    ขนาดนี้แล้วเจ้ายังร้องเรียกมัน เจ้ายังต้องการมันอยู่อีก



ดี....ยิ่งเจ้าร้องเรียกมัน ข้าก็จะฆ่ามันให้ตายไปต่อหน้าต่อตาเจ้านี่แหละ
เจ้าจะได้รู้ ว่าเจ้าไม่มีสิทธิ์รักใคร ไม่มีสิทธิ์ร้องเรียกใครนอกจาก...ข้า!



โกคุเดระ!”    ตะโกนออกไปสุดเสียง เมื่อมองเห็นว่าร่างบอบบางที่เขาสาบานว่าจะปกป้องไว้ด้วยชีวิต กำลังอยู่ในกำมือของเจ้าของแผ่นดินสีดำ ขาเคาะลงไปที่สีข้างม้าสีขาว ให้มันเร่งความเร็วให้เข้าไปใกล้ม้าตัวที่วิ่งอยู่ข้างหน้ามากขึ้น คันธนูสีขาวที่ถูกผูกติดอยู่ที่ม้าถูกมือใหญ่ง้างขึ้น......



แต่ทว่าก็ไม่สามารถที่จะยิงลูกธนูออกไปได้....ในเมื่อคนที่อยู่เบื้องหลังร่างสีดำนั่น...คือหัวใจของเขา ร่างบอบบางที่มองมาพร้อมกับเรียกหาเขา



มือใหญ่สั่นเล็กน้อย....ไม่กล้าที่จะยิง....แค่คิดว่าตนเองกำลังหันอาวุธเข้าใส่คนที่รักยิ่งกว่าชีวิต มือมันก็สั่นไปหมด



ท่าน! หยุดนะ! อย่าทำเค้า อย่า!”    เสียงที่คิดว่าจะเหือดแห้งไปตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนกลับร้องตะโกนออกมาไม่ได้หยุด ถึงแม้ว่ามือจะถูกมัด ถึงแม้ว่าจะทำอะไรไม่ได้เลย เมื่อเห็นคันธนูสีดำและสีขาวต่างหันหน้าเข้าหากัน ยามาโมโตะนั้นพร้อมนานแล้วแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะยิงลูกธนูออกมา....แค่มองเห็นสายตาที่เจ็บปวดคู่นั้นเขาก็รู้แล้ว....ว่ายามาโมโตะไม่มีทางที่จะยิง ไม่มีทางที่จะทำอะไรที่มันอาจจะเป็นการทำร้ายเขา...



แต่อีกฝ่ายหนึ่งเล่า....

คันธนูสีดำสนิทตั้งตระหง่านพร้อมกับลูกธนูสามดอกที่ถูกขึ้นเตรียมที่จะยิงออกไป นัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้นไม่มีวี่แววแห่งความลังเลใจเลยแม้แต่น้อย ความอำมหิตเย็นชาค่อยๆแผ่ออกมาจากร่างกายที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลังเขา



อย่านะ! อย่ายิง!”    ร่างทั้งร่างของนายน้อยแห่งโกคุเดระพยายามที่จะหันกลับไป สองมือที่ถูกมัดติดกันยังคงพยายามจะห้ามเจ้าของแผ่นดินสีดำ



ม้าทั้งสองยังคงวิ่งไล่กันอย่างดุเดือด แต่ความสั่นสะเทือนหรือแม้แต่เสียงร้องห้ามและร่างบางๆที่พยายามจะห้ามเขาเท่าที่จะทำได้ก็ไม่ได้ทำให้สมาธิแห่งการเข่นฆ่าที่แน่วแน่ของเขาสั่นคลอนเลยแม้แต่น้อย ร่างท่อนบนของเขาหันกลับไป มือที่จับคันธนูยังคงมั่นคงพอๆกับมืออีกข้างที่กำลังง้างลูกธนูสามดอก เขารู้ดีว่าเจ้านั่นไม่มีทางที่จะยิงธนูออกมาได้ ตราบใดที่ร่างบอบบางที่มันรักยังคงอยู่ในกำมือเขา



เขาไม่คิดจะยอมรับในน้ำใจลูกผู้ชายของมัน เพราะถ้ามันคิดที่จะหันคมดาบหรืออาวุธใดๆเข้าใส่ร่างบอบบางคนนี้ นั่นหมายความว่า...มันไม่ได้รักดอกไม้บริสุทธิ์ดอกนี้ยิ่งกว่าชีวิตเหมือนที่เขารัก และเขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไว้ชีวิตมันอย่างแน่นอน



อย่าทำเค้า...ข้าขอร้อง...ข้ายอมแล้ว ข้ายอมท่านทุกอย่าง ขอแค่ท่านปล่อยเค้าไป....ท่านฮิบาริ....ข้าขอร้อง....    ดวงตาสีมรกตมองมาอย่างอ้อนวอน คำร้องขอยิ่งมีแต่จะทำให้เขาเกลียดชังชายผู้นั้นมากยิ่งขึ้น มือที่จับคันธนูยังคงมั่นคงและไม่คิดที่จะลดมันลงอย่างแน่นอน



อย่า!!!!!”     เสียงหวีดร้องดังพร้อมๆกับเสียงแหวกอากาศของลูกธนูสามดอก มันพุ่งตรงไปยังเป้าหมายเดียวกัน....คนที่อยู่บนหลังม้าสีขาวนั่น



ยามาโมโตะ!!!!”    นายน้อยแห่งโกคุเดระตะโกนสุดเสียง ร่างบอบบางพยายามตะเกียกตะกายที่จะกลับไปหาแต่แขนแข็งแกร่งก็โอบรัดที่รอบเอวเอาไว้มั่น น้ำตาไหลพรากเมื่อเห็นม้าสีขาวตัวนั้นล้มลง  คมดาบปัดได้สำหรับธนูดอกหนึ่ง อีกดอกหนึ่งปักเข้าที่ขาข้างหนึ่งของเจ้าม้าสีขาว และอีกดอก.....ที่กลางลำตัวของยามาโมโตะ



เขาเคยคิด....ว่าเขายอมที่จะรอคอยไปทั้งชีวิต ดีกว่าได้รู้ว่าคนคนนั้นได้ตายจากไปแล้ว

แต่ตอนนี้....เขายอมที่จะเพียงแค่รับรู้ว่าคนคนนั้นได้ตายจากไปแล้ว ดีกว่าได้มาเห็นด้วยตาของตัวเองว่าคนคนนั้นกำลังจะตายไปแล้วจริงๆ



ไม่นะ....ยามาโมโตะ!!!!!!!”



เสียงร้องเรียกและเสียงร่ำไห้ ยิ่งกระตุ้นให้เจ้าของแผ่นดินสีดำเร่งควบม้าให้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม ร่างที่อยู่ภายในอ้อมแขนยังคงหันหลังและพยายามที่จะกลับไปหาเจ้านั่น มันยิ่งพัดกระพืออารมณ์ร้ายที่ถูกฝังอยู่ในจิตใจให้ลุกโหมมากยิ่งขึ้น รังสีดำทะมึนกระจายออกไปรอบๆกาย ใบหน้าคมเย็นชากำลังสะกดกลั้นอารมณ์ มือข้างหนึ่งกุมบังเหียนให้ม้าสีดำควบไปอย่างที่ใจต้องการ ส่วนแขนอีกข้างยังคงพันธนาการร่างที่พยายามดิ้นรนด้วยน้ำตานองหน้า.....น้ำตาของเจ้า....คือสิ่งที่ข้าไม่อยากเห็น









โก....คุ.....เด....ระ......     มือที่เต็มไปด้วยเลือดของตัวเองเอื้อมออกไปยังด้านหน้า ฝุ่นจากฝีเท้าม้าสีดำยังคงตลบอบอวล บดบังให้มองแทบไม่เห็น เมื่อฝุ่นเริ่มจางหาย ร่างบอบบางที่เป็นดั่งดวงใจนั่นก็หายไปด้วย เจ้าม้าสีดำวิ่งไปไกลสุดสายตา ร่างสูงใหญ่ที่พยายามจะลุกขึ้นยืนนั้นจำต้องทรุดลงมาอีกครั้ง เลือดยังคงไหลออกมาจากปากแผลที่ถูกลูกธนูเจาะทะลุร่าง



ข้าจะไม่ยอม...ปล่อยเจ้า....ไป    มือใหญ่หักปลายธนูจนหักสะบั้น ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะล้มลงไปนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นดินเย็นเชียบ.....



สายฝนที่ไม่มีวี่แววว่าจะตกมาก่อน กลับโปรยปรายลงมายังร่างที่ไร้สติ.....สายฝนที่ไม่มีวันขาดสายลมได้....







.......................................................................................................................................................................






ประตูเมืองมองเห็นอยู่ไม่ไกลนัก ม้าสีดำที่ควบผ่านป่าเขาและหมู่บ้านเล็กๆมากมายมาตลอดทั้งวันแบบไม่ได้พักกำลังวิ่งตรงเข้าไป โดยที่ไม่แม้แต่จะหยุดรอเหล่าทหารที่วิ่งมาต้อนรับ มันยังคงวิ่งตรงดิ่งเข้าไปในประตูเมืองตามที่เจ้าของของมันต้องการด้วยความเร็วที่ไม่ยอมลดลงเลย ได้ยินเสียงชาวเมืองส่งเสียงร้องและต่างวิ่งหลบกันให้จ้าละหวั่น เมื่อม้าสีดำที่ต่างก็รู้จักกันดีวิ่งผ่าน ไม่มีใครกล้าสบตาหรือกล้าเข้ามาขวาง หลายคนยืนมองด้วยความแปลกใจที่เห็นร่างของใครอีกคนอยู่บนหลังม้าตัวนั้นด้วย



ในที่สุดเจ้าม้าสีดำก็หยุดอย่างกะทันหันเมื่อมันวิ่งเข้ามาถึงยังที่แห่งหนึ่ง....ตำหนักของเจ้าเมือง.....



ฮิบาริกระโดดลงจากหลังม้าด้วยใบหน้าเย็นชาและอารมณ์ที่มืดมัว มือข้างหนึ่งจับที่ลำแขนบาง พยายามจะดึงร่างบอบบางนั่นลงจากหลังม้า แต่นายน้อยแห่งโกคุเดระก็ยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติง ใบหน้าสวยยังคงก้มหน้าเม้มปากนิ่ง สองมือที่ยังคงถูกมัดกำแน่น



เจ้าคงจะโกรธข้า เจ้าคงจะเกลียดข้า ที่ข้าฆ่าชายคนนั้น...

แต่เจ้ารู้ไหม...ว่าข้าเองก็โกรธและเกลียดชายคนนั้น ที่มันบังอาจมาแย่งเจ้าไปจากข้าเช่นกัน



ด้วยความโมโห สองแขนแข็งแกร่งจึงยกตัวบางๆของนายน้อยแห่งโกคุเดระลงจากหลังม้า แต่ขาเรียวนั่นก็ยังไม่ยอมเดินตามมาแต่โดยดี ปกติเขาก็ไม่ใช่คนที่มีความอดทนอยู่แล้ว แล้วนี่ยังต้องมาเห็นคนที่ตัวเองเฝ้ารักเฝ้าทะนุถนอมมาอย่างดี กลับไปร้องหาแต่ชายอื่น กำแพงที่พยายามสกัดกลั้นอารมณ์ร้ายได้พังทลายลงอย่างไม่เหลือชิ้นดี



ในเมื่อเจ้าไม่เห็นค่าของความรักความอ่อนโยนของข้า แล้วทำไมข้ายังจะต้องอดทนเฝ้าถนอมเจ้าไว้กันด้วยเล่า....



แขนแข็งแรงจับลำตัวบอบบางของนายน้อยแห่งโกคุเดระยกขึ้นพาดบ่า ท่ามกลางการดิ้นรนและเสียงร้องห้ามของร่างบอบบางบนไหล่ แต่ยามนี้ ยามที่อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลทั้งปวง ก็มิอาจห้ามสิ่งใดได้ ร่างแข็งแกร่งของเจ้าของแผ่นดินสีดำเดินตรงไปยังเรือนส่วนตัวของตัวเองอย่างรวดเร็ว  ความน่ากลัวและรังสีดำมืดที่ถูกปล่อยออกมาจากคนที่กำลังโมโหร้าย ทำให้เหล่าสาวใช้ที่กำลังจะออกมาต้อนรับ ต่างรีบหลบไปให้พ้นจากบริเวณนั้นทันที



สายตาใคร่รู้หลายๆคู่ต่างจ้องมองร่างบอบบางที่อยู่บนไหล่ของคนที่ขึ้นชื่อว่าเย็นชาโหดร้ายและน่ากลัวที่สุดในแผ่นดินอย่างสงสัย พวกเธอก็เพียงแต่รู้กันมาว่าท่านหญิงแห่งตระกูลโกคุเดระผู้ถูกส่งตัวมานั้นถูกลักพาตัวไประหว่างทาง แต่ก็ไม่มีใครคิดเลย...ว่าเจ้าของแผ่นดินสีดำที่โหดร้ายคนนั้นจะออกไปตามหาตัวด้วยตัวเอง แถมยังพาตัวกลับมาในสภาพที่มิอาจเรียกได้ว่าเป็นแค่เครื่องบรรณาการธรรมดาๆ แต่ถึงจะสงสัยแค่ไหน ก็ไม่มีใครกล้าที่จะถามออกไป....



ร่างแข็งแกร่งเปิดประตูเลื่อนเข้าไปยังห้องนอนของตน ก่อนที่จะโยนร่างที่ยังคงดิ้นไม่หยุดบนไหล่ลงไปที่พื้นเสื้อทาทามิ ร่างที่ลงไปกองอยู่ที่พื้นถอยหนีด้วยรับรู้ถึงสัญญาณอันตรายที่คนตรงหน้าส่งมาให้ ใบหน้าเนียนยังคงมีร่องรอยแดงระเรื่อเนื่องจากผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก นัยน์ตาสีเขียวมรกตคู่นั้นไม่มีแววของความลังเลสงสัยอย่างที่เคยเป็นมาตลอดตอนพบหน้ากันก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้มันกลับเต็มไปด้วยความเกลียดชังมากมายที่ส่งมาให้



แววตาแบบนั้น.....ทำให้เขาแทบทนไม่ได้....



ร่างแข็งแกร่งเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ แผ่นหลังบางชนเข้ากับฝาผนังด้านหนึ่ง....เจ้าไม่มีทางหนีข้ารอด....เจ้าก็น่าจะรู้ดี



อย่าเข้ามานะ!”   



เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครถึงได้คิดจะสั่งข้า....ตอนนี้...เจ้ามันก็เป็นแค่เครื่องบรรณาการที่เอาไว้สนองความต้องการของข้าก็เท่านั้นแหละ



นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้าง ไม่เข้าใจอะไรเลยจริงๆ ความคุ้นเคยที่ราวกับรู้จักกันมานานนั่นมันก็แค่ความลวงอย่างนั้นหรือ เงาที่คอยเฝ้ามองเฝ้าติดตามเขามาตลอด แท้จริงแล้วมันไม่ใช่ชายคนนี้อย่างนั้นหรือ แล้วมันคืออะไรกัน...ไม่เข้าใจ...ไม่เข้าใจเลยสักนิด



แต่ภาพที่ติดอยู่ในหัวสมองอย่างชัดเจนจนมิอาจลืมเลือนได้ คือภาพของชายคนนี้ที่ง้างคันธนูใส่ยามาโมโตะโดยไร้ซึ่งความลังเล ชายที่ไม่คิดจะฟังคำขอร้องของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว



ข้าเกลียดท่าน....เกลียด!”     คำเพียงสั้นๆ แต่คมกริบยิ่งกว่าคมดาบเล่มไหน คำที่สามารถตัดกำแพงแห่งความยับยั้งชั่งใจให้มลายหายไปจนสิ้น



มือที่แข็งแกร่งราวกับคีมเหล็กจับข้อมือทั้งสองที่ยังคงถูกมัดติดกันแล้วกระชากให้ร่างบอบบางเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน มืออีกข้างกระชากโอบิจนขาดออกจากกัน ชุดกิโมโนหลุดลุ่ยออกจากกันแทบจะทันที ร่องรอยจางๆที่ลาดไหล่ยิ่งกระตุ้นความรู้สึกมากมายที่อัดแน่นอยู่ในใจให้ปลดปล่อยออกมา....อยากจะครอบครองร่างตรงหน้า อยากจะทำให้เจ้าเป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว อยากจะลบร่องรอยของคนอื่นออกไปจากตัวเจ้าให้หมดสิ้น



ปล่อยข้านะ  ข้าเกลียดท่าน เกลียดที่สุด!”    ถ้อยคำที่ยิ่งกว่ายาพิษกำลังกรีดลงไปฝังลึกในจิตใจ



มันคือคำเพียงคำเดียวที่ทำให้ข้าแทบตายทั้งเป็น....เจ้ารู้บ้างไหม...ว่าเจ้ากำลังจะทำร้ายข้าอย่างสาหัสที่สุดเท่าที่จะมีใครทำได้

คำว่า เกลียด จากปากคนที่รักที่สุด คนเพียงคนเดียวที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง



มันกำลังทำลายความเป็นมนุษย์แล้วปลุกปิศาจร้ายในกายข้าขึ้นมา....



ริมฝีปากประกบลงไปที่ริมฝีปากแดงระเรื่ออย่างถือสิทธิ์ ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความรุนแรงและจาบจ้วง ใบหน้าสวยพยายามสะบัดหนี สองมือเล็กทุบตีที่แผงอกแกร่งเมื่อลิ้นร้อนของคนที่กำลังจะกลายเป็นปีศาจร้ายได้กล้ำกลายเข้ามาตักตวงความหอมหวานที่ด้านใน






มือหนาบีบไหล่บางทั้งสองแน่น ก่อนที่จะกดร่างที่ต่อต้านอย่างเต็มกำลังลงไปกับพื้นเสื่อทาทามิ แล้วคุกเข่าตามลงไปแทรกอยู่ระหว่างเรียวขาขาวที่โผล่พ้นกิโมโนออกมา ร่างท่อนบนโน้มตามลงไปกดจูบที่ริมฝีปากแดงช้ำของร่างบอบบางที่ไม่สามารถจะสู้อะไรได้เลย ลิ้นร้อนยังคงบุกรุกเข้าไปช่วงชิงสิ่งที่ต้องการโดยไม่ฟังคำทัดทานหรือแรงต่อต้านใดๆทั้งสิ้น



เมื่อริมฝีปากยอมละออกมา ร่างข้างใต้ถึงกับหอบจนตัวโยน นัยน์ตาสีมรกตคู่นั้นมองมาด้วยแววแข็งกร้าวและเต็มไปด้วยความชิงชังที่เขารู้สึกได้ สองมือเล็กที่ถูกมัดอยู่ติดกันยกขึ้นเช็ดถูที่ริมฝีปากที่แดงช้ำ....สัมผัสของข้ามันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยหรือ



มือหนากระชากข้อมือทั้งสองข้างของนายน้อยแห่งโกคุเดระแล้วจับกดเอาไว้ที่เหนือหัว มืออีกข้างกระชากกิโมโนออกจากร่างกายบอบบาง แสงสลัวๆภายในห้องยิ่งทำให้ความขาวนวลของผิวเนื้อนุ่มยิ่งดูน่าสัมผัสมากยิ่งขึ้นไปอีก



ยังคงมีเพียงสายตาแข็งกร้าวไม่ยอมแพ้ที่ส่งมาให้เท่านั้น ไร้ซึ่งคำขอร้องหรือเสียงอ้อนวอนใดๆ ร่างบอบบางรู้ดีถึงสถานะของตน ที่ไม่อาจต่อต้านร่างสูงกว่าที่ทาบทับอยู่ได้เลย ถึงแม้จะเจ็บใจในพละกำลังของตนและโชคชะตาที่ทำให้เขาต้องยอมทำตามความต้องการของคนคนนี้...แต่ที่เจ็บปวดที่สุดคือ มือคู่นั้น มือที่กำลังจะล่วงเกินเขา มันคือมือคู่เดียวกันกับมือคู่ที่พรากชีวิตของคนที่เขารักมากที่สุดไป.....



สัมผัสเปียกชื้นที่ลำคอทำให้รู้สึกรังเกียจ รู้สึกเจ็บที่ผิวเนื้อเมื่อร่างข้างบนขบเม้มฝากฝังร่องรอยเอาไว้ เรี่ยวแรงที่จะใช้ต่อต้านเริ่มหดหายลงไปเรื่อยๆ เมื่อคนที่ถูกทุบตีกลับไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย....อยากจะร้องเรียกให้ใครมาช่วย....แต่ด้วยความหยิ่งทระนงก็ทำให้ไม่ยอมเอ่ยปากออกไป จะไม่ยอมขอร้องคนคนนี้ เพราะมันจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อเขาตกอยู่ในเงื้อมมือของอีกฝ่ายอย่างเต็มตัว....ไม่มีใครเลย....ไม่มีใครจะมาช่วยเขาได้เลย.....



ยามาโมโตะ.....    เสียงกระซิบแผ่วเบาเอ่ยออกมาจากปากของร่างบอบบางข้างใต้โดยที่ไม่รู้ตัว นัยน์ตาสีมรกตปิดแน่นที่สองแก้มมีทางน้ำตายาว



ชื่อที่ราวกับว่าจะตามมาหลอกหลอนให้เขากลายเป็นคนบ้า.... 



อึก...    ร่างบอบบางของนายน้อยแห่งโกคุเดระกระตุกเฮือก เมื่อสัมผัสหนักหน่วงที่พยายามจะเล้าโลมอยู่ที่ลำคอระหงนั้นหายไป แต่เรียวขาทั้งคู่กลับถูกแยกออกโดยไม่บอกกล่าวและตามเข้ามาด้วยแกนกายของเจ้าของแผ่นดินสีดำที่สอดใส่ดึงดันเข้ามาในคราเดียว ความเจ็บปวดแล่นลิ่วขึ้นมาจนน้ำตาเม็ดใหญ่ไหลลงไปตามพวงแก้ม



กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งขึ้นมาทันที ร่างที่ถูกครอบครองนั้นสั่นสะท้าน ลมหายใจเข้าออกหนักหน่วง แต่กระนั้นก็ยังไม่มีเสียงต่อว่าหรืออ้อนวอนใดๆทั้งสิ้น นัยน์ตาสีมรกตคู่นั้นปิดแน่น ไม่ยอมแม้แต่จะมองหน้าเขา สองมือเล็กที่ถูกกดเอาไว้กำแน่น.....



ความคับแน่นและปฏิกิริยาหลายๆอย่างสามารถบ่งบอกได้ว่า ร่างบอบบางนี้ยังไม่เคยผ่านมือของใครมาก่อน นั่นแสดงว่า....เจ้านั่นมันได้แต่หัวใจของเจ้าไป...แต่ร่างกายของเจ้ามันเป็นของข้า....



ร่างกายแข็งแกร่งขยับเข้าออกตามแต่ใจของตัวเอง ไร้ซึ่งความอ่อนโยนและความปราณี ไม่มีเสียงครางเพราะร่างด้านใต้ปิดประสาทการรับรู้ทุกอย่าง มีเพียงใบหน้าสวยที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังเจ็บปวด ทั้งหัวใจและร่างกาย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อาจหยุดมันลงได้อีกแล้ว



ทุกสิ่งทุกอย่างสิ้นสุดลงเมื่อความอุ่นวาบไหลทะลักเข้ามาในร่างกายพร้อมกับการสอดแทรกที่หนักหน่วงที่สุด ร่างทั้งร่างกระตุกเกร็ง ร่างกายและจิตใจที่อ่อนล้าพาให้สติที่มีนั้นหลุดลอยไป....ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีจริงก็คงดี....



เจ้าของแผ่นดินสีดำถอนร่างกายของตัวเองออกมาจากช่องทางคับแน่นที่แสนอ่อนนุ่ม น้ำสีขาวขุ่นไหลผสมปนเปกับเลือดสีแดงสดหยดลงที่พื้นเสื่อทาทามิเป็นวงกว้าง ร่างกายบอบบางข้างใต้สลบไสลไปในทันที







ดวงตาสีดำสนิทมองภาพตรงหน้าด้วยความเจ็บปวด สิ่งที่ทำลงไปไม่ใช่สิ่งที่อยากทำเลยแม้แต่น้อย...มือหนาเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าสวยอย่างแผ่วเบา....






ฮายาโตะ....เจ้าจะเชื่อข้าไหม....





ว่า.....ข้ารักเจ้า....






.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


โปรดติดตามตอนต่อไป...ไป.....ไป.......











1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ10 มกราคม 2558 เวลา 12:04

    คุณฮิข่มขืนที่รักฉัน ฮืออออออ สงสารที่รัก
    ร่างกายไม่สำคัญที่สำคัญคือจิตใจใช่ไหมยามะ
    โฮกกกก เศร้ามากี่ะ ฉากบนม้านี่มัน T_______T
    ยามะ ยามะ ยามะ ยามะ ฮือออออ ยามะะะะะ

    ตอบลบ