:
KHR Fanfiction
:
6927 8059 D18
: Romantic Comedy
: PG
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
ท้องฟ้าโปร่งใส อากาศเย็นสบาย สายลมพัดเอื่อยๆ ความเงียบสงบที่ไม่เงียบเหงา...อากาศในโลกภายนอกนี่มันช่างสดชื่นจนดอกไม้พากันผลิบานอยู่รอบๆกายราวกับกำลังต้อนรับการกลับมาของซุปเปอร์สตาร์(?)ผู้ควรจะเจิดจ้าอยู่ท่ามกลางเวทีอันกว้างใหญ่มากกว่าในขวดโหล(?)เล็กๆนั่น...
นัยน์ตาสองสีทอดมองไปยังป่าดงดิบรกร้างเบื้องหน้าด้วยแววตาสุดซึ้งราวกับว่ากำลังมองทุ่งหญ้าเขียวขจีที่มีดอกไม้บานก็ไม่ปาน มือเรียวสวยแต่ซีดเซียวเพราะไม่ถูกแสงแดดมานานนับปีเอื้อมออกไปในอากาศคว้าใบไม้แห้งที่จิตนาการไปเองว่ามันคือผีเสื้อตัวสวย......นี่สินะ...อิสระที่เฝ้าถวิลหา....
“ ท่านมุคุโร่คะ....”
“ ท่านมุคุโร่” เสียงใสของเด็กสาวเรียกซ้ำอีกครั้งเมื่อไม่มีวี่แววว่า คนที่ยืนเลื่อนลอยอยู่ตรงหน้าจะหันกลับมาตามเสียงเรียกของเธอ
“ อย่ามัวแต่ยืนทำมิวสิคอยู่เลยค่ะท่านมุคุโร่...”
“ มีอะไรจะสั่งเสียก็รีบๆพูดมาเลยค่ะ...ท่านมุคุโร่คงไม่คิดนะคะ ว่าไอ้วิธีการที่ใช้หนีมานั่นจะสามารถตบตาวินดีเช่ได้?” เหมือนจะเห็นมือที่เอื้อมคว้าดาวอยู่นั่นสะดุ้งนิดหน่อย แล้วร่างสูงโปร่งก็หันกลับมาส่งรอยยิ้มละไมที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเด็กสาวคงจะเขินจนแก้มแดง...แต่ทว่า...ยิ่งรู้จักรากลึกของพืชไร่สายพันธุ์นี้มากเท่าไหร่ อาการแบบนั้นของเด็กสาวยิ่งหายไป...หายไป.....
“ คึหึหึ...โคลมครับ...ไม่เชื่อมั่นในภาพลวงตาที่แข็งแกร่งของผมแล้วหรือครับ” ใบหน้าเรียวยังคงพยายามจะส่งยิ้มละมุนละไมต่อไป แต่ใบหน้าน่ารักที่เหลือดวงตาเพียงข้างเดียวก็หาได้ใส่ใจไม่
“ เชื่อค่ะ...ถ้าท่านมุคุโร่จะใช้ร่างของคนเป็นแกนกลางของภาพลวงตา ไม่ใช่ผลสับปะรดแบบนั้น...” ดวงตากลมโตได้แต่ปิดลงอย่างปลงอนิจจังแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่...คนบ้าอะไร...จะหนีก็หนีออกมาได้แล้วแท้ๆ...แทนที่จะตั้งใจหนีให้มันรอดออกมาได้นานๆให้คุ้มกับที่พวกเธอต้องเสี่ยงเข้าไปเอาตัวออกมาซักหน่อย....เฮ้อ....คุณพ่อคุณแม่ขา..นี่หนูคิดถูกแล้วใช่ไหมที่หนีออกจากบ้านมาแล้วมาอยู่กับเจ้าคนแบบนี้เนี่ย....
“ คึหึหึ...อะไรกันครับ...ผมว่าเจ้าผลไม้น่ารักนั่นมันเหมือนผมออกนะ เหมือนจนแทบจะไม่ต้องใช้ภาพลวงตาอะไรเลยก็สามารถสับเปลี่ยนตัวกับผมได้แบบเนี๊ยนเนียน” ยังมีหน้ามาทำหน้าภาคภูมิใจอีกแน่ะ...เด็กสาวได้แต่ส่ายหน้า....ไอ้เหมือนน่ะไม่เถียง...แต่สับปะรดบ้านไหนจะมีอายุยืนนานเท่ามนุษย์บ้างล่ะ อีกสองสามวันมันก็เน่า แล้วเขาก็จะจับได้แน่ๆค่ะ...ท่านมุคุโร่...ช่วยคิดนิดนึงได้ไหม!
“ ว่าแต่ ท่านมุคุโร่ตั้งใจจะออกมาทำอะไรหรอคะ เห็นอยู่ในนั้นก็น่าจะสบายอกสบายใจดีอยู่ไม่ใช่หรอคะ” คนที่สบายใจน่ะคือพวกเธอต่างหาก....
“ จริงด้วยสินะครับ...ลืมไปเสียสนิท มัวแต่อินไปกับบรรยากาศแสนอบอุ่นตรงนี้....” สวนสนุกร้างที่เหลือแต่ซากเน่าๆกับดงหญ้าสูงท่วมหัวนี่มันอบอุ่นยังไงหรอคะท่านมุคุโร่...สงสัยจะโดนดองนานจนสมองเริ่มกระทบกระเทือนสินะคะ....
“ ผมตั้งใจจะเอาของขวัญวันวาเลนไทน์มาให้คนที่ผมรักมากที่สุดน่ะครับ” ได้แต่ภาวนาว่าคนคนนั้นจะไม่ใช่เธอ...สองมือเล็กของโคลมเผลอเอามากุมที่หน้าอกเมื่อในใจกำลังท่องบทสวดมนต์(?)อ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าอย่างเอาเป็นเอาตาย....
“ อืม...แต่ผมยังไม่รู้เลยน่ะสิ...ว่าจะให้อะไรดี? โคลมว่าไงดีล่ะครับ” ดวงตาสองสีหันมามองร่างเล็กๆตรงหน้าด้วยประกายระยิบระยับ...
“ ไม่รู้เหมือนกันค่ะ” อยากจะบอกจริงๆว่ากรุณาอย่ามาถาม เพราะเงินเดือนเดือนละ500เยนที่ต้องใช้ร่วมกันสามคนที่ท่านมุคุโร่ให้มานั้นมันไม่สามารถจะเอาไปซื้ออะไรได้หรอกค่ะ แค่จะซื้ออะไรกินทียังต้องคิดหน้าคิดหลังไปสามสี่วันกว่าจะตัดสินใจซื้อได้
“ แต่ว่านะครับ...ช็อกโกแลตน่ะมันธรรมดาเกินไป ผมว่ามันต้องเป็นอะไรที่เลิศหรูอลังการกว่านั้น จริงมั๊ยครับโคลม” เชิญท่านมุคุโร่เพ้อเจ้อไปคนเดียวเถอะค่ะ...วาเลนไทน์ที่ไหนๆเค้าก็ให้กันแต่ช็อกโกแลตที่สุดจะคลาสสิคกันทั้งนั้นแหละ....
“ อืม....งั้นเราออกไปเดินดูกันดีกว่า...ว่ามันมีอะไรที่อลังการเพียงพอสำหรับยอดรักของผมบ้าง” แล้วร่างสูงโปร่งก็เดินหายออกไปจากซากตึกรกร้างทันที โดยที่เด็กสาวก็รั้งตัวเอาไว้ไม่ทัน....อยากจะบอกเหลือเกินว่า...บอสน่ะ..คงอยากได้ของที่ธรรมดาๆอย่างช็อกโกแลตที่ซื้อมาจากร้านค้ามากกว่าไอ้ของอลังการๆที่ท่านมุคุโร่คิดจะทำเองนั่นแน่ๆค่ะ
.........................................................................................................................................................................
ท้องฟ้าโปร่งใส อากาศเย็นสบาย สายลมพัดเอื่อยๆ ความเงียบสงบที่ตามหามาหลายปี สำหรับวันทำศึกแห่งชาติ(?)เช่นวันนี้ วันที่พวกผู้หญิงต่างตบตีแย่งชิงตั้งแต่การไปคัดสรรค์วัตถุดิบชั้นดีไปจนถึงร้านขึ้นชื่อว่ารสชาติเลิศหรูที่สุด ร่างบางๆของมือขวาแห่งวองโกเล่เดินอย่างสบายใจในชุดไพรเวท โดยไม่ต้องคอยวิ่งหนีหรือคอยหลบกองทัพเด็กผู้หญิงที่มักจะมารุมกระหน่ำไม่รู้ว่าจะให้ช็อกโกแลตหรือจะให้เขาไปสวรรค์กันแน่พวกนั้น เพราะวันนี้น่ะ....มันเป็นวันวาเลนไทน์ที่เป็นวันอาทิตย์!!!!
ใบหน้าสวยอมยิ้มน้อยๆเดินฮั่มเพลงอย่างมีความสุข นัยน์ตาสีเขียวมรกตเป็นประกายสดใสยามเมื่อเหลือบมองของที่อยู่ในมือ อุตส่าห์สั่งทางเน็ตให้มันข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากประเทศเล็กๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเอามามอบให้ท่านรุ่นที่สิบที่เคารพ....สีสันสดใสของขนมในกล่องอย่างดีทำให้ริมฝีปากสีระเรื่อคลี่ยิ้มมากกว่าเดิม....ถ้าท่านรุ่นที่สิบเห็นมันละก็จะต้องชอบมันแน่ๆ...
ขาเรียวเดินไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้รู้ชะตากรรมของเจ้าขนมจากดินแดนแสนไกลนั่นเลยสักนิด...อีกแค่มุมถนนเดียวก็จะถึงบ้านของท่านรุ่นที่สิบแล้ว ความตื่นเต้นยามเมื่อจิ้นไปถึงดวงตากลมแบ๊วนั่นจะโตขึ้นอีกเมื่อมองเห็นของที่เขาไปสรรหามาให้ก็พาให้ใจเต้นจนเผลอหลับตาไปชั่วครู่ ซึ่งเป็นจังหวะอันประจวบเหมาะราวกับทำบุญตักบาตรร่วมขัน(?)กันมาก็ไม่ปาน เมื่อร่างสูงใหญ่ของใครอีกคนก็วิ่งออกมาจะอีกมุมถนนหนึ่ง
โครม!!!!
ประสางากันเข้าอย่างจัง!!!
ร่างบอบบางของโกคุเดระถึงกับล้มก้นกระแทกลงไปกองอยู่กับพื้น แต่ร่างสูงใหญ่ของคนผมดำกลับยังยืนอยู่ไม่ได้สะทกสะท้านใดๆ ใบหน้าคมหันมามองคนที่โดนตัวเองชนล้มแล้วก็ถึงกับยิ้มกว้าง
“ โกคุเดร๊า~” ร่างสูงใหญ่จับตัวร่างบางๆให้ลุกขึ้นยืนพร้อมปัดฝุ่นนู่นนี้ไปตามร่างกายบอบบางของอีกคน ถึงแม้ว่าฝุ่นจะมีอยู่แค่น้อยนิดแต่มือใหญ่ก็ยังคงเนียนจับไปตามผิวขาวใสไปเรื่อยๆ
“ แก๊!!! ไอ้บ้าเบสบอล ไอ้หมาปัญญาอ่อน!!! เวลาเดินก็หัดเปิดตาดูทางมั่งสิวะ ไม่ใช่ใช้แต่จมูกตายด้านดมกลิ่นเอาอย่างเดียว!!!” น่าน...มาเป็นคอมโบ้เซตตามคาด...อ้า...หรือว่าเขาจะเป็นมาโซ เพราะเวลาที่โดนคนคนนี้ด่า มันกลับสดชื่นเสียยิ่งกว่าอะไร...ยามาโมโตะยังคงยิ้มร่ารับคำด่า....ไม่ใช่หรอก...เค้าว่าผู้หญิงด่าแปลว่าผู้หญิงรัก...แล้วนี่เป็นผู้ชายแท้ๆก็แปลว่า รักมากกกกกเลยสินะ ฮะ ฮะ ฮะ....(คิดไปด๊ายยย)
“ อ๊ะ!!!...ขะ...ขนม....” เมื่อด่าจนพอใจ ร่างบางๆของโกคุเดระก็หันไปสนใจเจ้ากล่องที่ฝาหลุดไส้ทะลักของข้างในหล่นกระจายไปเต็มพื้นถนน ร่างบางๆทรุดลงอย่างหมดเรี่ยวหมดแรงนั่งพับเพียบคอตกน้ำตาไหลพรากอยู่ข้างกองสิ่งของหน้าตาแปลกๆ จนยามาโมโตะอดที่จะแปลกใจไม่ได้ ร่างสูงจึงทรุดลงนั่งข้างๆ
“ ฮือออออ...ขนมที่อุตส่าห์สั่งซื้อมาเละหมดแล้วอ่ะ....ฮือๆๆๆ” ร่างบางๆโผเข้ามากอดร่างสูงข้างๆพร้อมกับปล่อยโฮอย่างไม่อายใคร ถึงจะกำลังร้องไห้เสียใจอยู่ แต่สำหรับยามาโมโตะตอนนี้ สุดที่รักของเขาช่างโมเอ้ จนอยากจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงให้มากกว่านี้จริงๆ....
“ จะสั่งมาใหม่ก็ไม่ทันแล้วด้วย ต้องให้วันนี้เท่านั้นด้วย แงๆๆๆ” ห๋า?....เจ้าขนมหน้าตาแปลกๆนี่สั่งซื้อมาหรอ....สั่งมาเป็นพิเศษ?....ในวันนี้?.....ต้องให้วันนี้?....วันที่เป็นวันวาเลนไทน์?....วันแห่งความรัก?....หรือว่า.....โกคุเดระจะสั่งเจ้านี้แล้วตั้งใจจะเอามาให้เขา?.....โอ้แม่ยอดรักของพี่...เจ้าช่างเป็นคนดีเสียนี่กระไร(?).....(เข้าใจผิดไปไหนแล้วนั่นยามะ...)
“ โอ๋ๆๆ ไม่เป็นไรนะไม่เป็นไร...” มือใหญ่ลูบเส้นผมสีเงินอย่างทะนุถนอม.....นายนี่มันน่ารักจริงๆโกคุเดระ...อุตส่าห์ทำเพื่อฉันขนาดนี้....ดีใจจนแทบจะเก็บเอาไว้ไม่ไหวแล้วที่รัก...(?)
“ หยุดร้องไห้เถอะนะ ถึงมันจะเละไปแล้วแต่แค่นี้ฉันก็ดีใจจนแทบจะสิ้นชีพได้แล้วละโกคุเดระ...เอาละ นายไปรอฉันอยู่ที่บ้านสึนะก่อนนะ” ดวงตาสีเปลือกไม้เป็นประกายมุ่งมั่น...ในเมื่อนายทำให้ฉันขนาดนี้ ฉันก็จะตอบแทนความรัก(?)ที่นายมอบให้มาอย่างสาสม(?)...ฉันจะกลับไปทำเจ้าขนมนั่นมาให้นายเอง! เพื่อเป็นสิ่งยืนยันในความรักของเราในวันแห่งความรักวันนี้!
แล้วร่างสูงใหญ่ก็พาร่างบอบบางที่ยังคงร้องไห้กระซิกๆเข้าไปส่งที่บ้านของเพื่อนสนิทตัวเล็ก โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าได้ไปสร้างความมุ่งมั่นอันน่าสยองขวัญให้แก่ชายหนุ่มข้างๆกายไปเสียแล้ว....
หลังจากที่ทั้งคู่เดินเข้าสู่ตัวบ้านไปแล้ว...เงาร่างสองร่างก็ค่อยๆปรากฏกายออกมาจาก หลืบเงาของร่มไม้ใกล้เคียง....
“ โคลมครับ.....” ดวงตาสองสีที่เป็นประกายระยับจ้องมองเจ้าขนมที่กองเป็นซากอยู่กลางถนนด้วยความรู้สึกราวกับว่าได้ค้นพบสิ่งประดิษฐ์ชนิดแรกของโลก
“ นะ...นั่น.....ขนมนั่น.....” เด็กสาวได้แต่มาตามอย่างปลงตก...จะก่อเรื่องอะไรอีกล่ะคราวนี้...
“ ดูสิครับ....สับปะรดเล็กๆนั่น....มันช่างน่าประทับใจจนยากจะลืมเลือน....” ขนมที่ทำเลียนแบบรูปผลไม้ต่างๆนั่นก็ยังมีที่เหมือนผลไม้อย่างอื่นอยู่นะคะ ทั้งมะละกอ ส้ม กล้วย แอบเปิ้ล...แล้วทำไมถึงได้ประทับใจแต่สับปะรดเนี่ย ท่านมุคุโร่
“ ผมตัดสินใจแล้ว! นี่แหละครับ...ขนมวันวาเลนไทน์อันแสนเลิศหรูอลังการ ที่สึนะโยชิคุงจะประทับใจจนไม่อาจถอนตัวไปจากผมได้” ใช่...บอสคงจะประทับใจจนน้ำตาไหลพรากเลยแหละค่ะ
“ ผม....จะทำมันขึ้นมาใหม่ครับ!” เอาแล้วไง....ความซวยมาเยือนแล้วไหมล่ะ โคลมเอ๋ย....
................................................................................................................................................
“ ท่านมุคุโร่คะ...ลูกชุบ....มีส่วนประกอบจาก ถั่วเขียวและน้ำตาล...แล้วท่านมุคุโร่จะซื้อสับปะรดไปทำไมคะ” ร่างเล็กๆเปิดตำราทำอาหารไทย พร้อมกับเอ่ยปากห้ามคนที่กำลังจะทำให้เงินเดือน 500 เยนของพวกเธอต้องสูญไปอย่างไร้ประโยชน์
“ คึหึหึ...ผมว่าเราน่าจะต้องมีสับปะรดตัวอย่างนะครับ จะได้ปั้นออกมาได้เหมือนทุกกระเบียดนิ้ว” อย่างท่านมุคุโร่ ไม่ต้องดูมันก็ปั้นออกมาได้เหมือนเด๊ะแน่ๆค่ะ
หลังจากเดินหาซื้อวัตถุดิบจนเกือบครบแล้ว ยังเหลือแต่เพียงกะทิซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญสุดๆ ทั้งสองคนจึงมุ่งหน้าไปยังร้านขายของนำเข้าจากต่างประเทศ เพราะกะทิถือเป็นของหายาก.....ที่หน้าร้านแทบจะไม่มีผู้คน...ก็แน่ละ...คงไม่มีใครบ้ามาหาซื้อหัวกะทิในช่วงที่ช็อกโกแลตกำลังขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแบบนี้หรอก...
ร่างสองร่างเดินเข้าไปในร้าน ถามหาเจ้าสิ่งที่เรียกว่ากะทิกับเจ้าของร้าน ก่อนที่มือเหี่ยวย่นนั่นจะชี้ไปยังมุมมืดมนของร้านมุมหนึ่ง สายตาสองคู่มองตามไปก็เห็นแผ่นหลังกว้างคุ้นตา เมื่อเดินเข้าไปใกล้จึงพบว่าคือยามาโมโตะ ทาเคชิ อย่างที่คาดเอาไว้จริงๆ
“ อ้าว...พวกนายนี่เอง มาซื้ออะไรล่ะ” ใบหน้าหล่อคมยิ้มแย้มให้มาอย่างเคย
“ คึหึหึ....ผมมาซื้อกะทิครับ”
“ เอ๋?...มาซื้อเหมือนกันเลยนะ ฮะ ฮะ...แต่ว่ามันเหลือกล่องสุดท้ายแล้วละ...ฉันไปหาซื้อมาทั่วนามิโมริเลยนะ ที่อื่นไม่มีแล้วละ”
“ ถ้าอย่างนั้น ขอกล่องนั้นให้ผมก็แล้วกันนะครับ” เมื่อพูดจบก็ราวกับว่ามีประกายไฟเปรี๊ยะๆแล่นออกมาจากดวงตาของร่างสูงทั้งคู่ก่อนที่มันจะพุ่งไปชนกันอยู่กลางอากาศที่มองไม่เห็น ดวงตาที่เคยอ่อนโยนยิ้มละไมของคนทั้งคู่กลับแข็งกร้าวขึ้นมาทันที มือใหญ่ของยามาโมโตะคว้าชิงุเระคินโทคิมาถือเอาไว้ ส่วนมือของมุคุโร่ก็เรียกสามง่ามออกมาเตรียมพร้อม....
เพื่อน้องนางยอดรัก...ต่อให้ต้องตายก็จะไม่ยอมทิ้งสิ่งนี้ไป...
กะทิต้องเป็นของฉันเท่านั้น!!!!
แต่ก่อนที่ศึกแย่งชิงกะทิ จะบังเกิดขึ้น ร่างเล็กๆของเด็กสาวที่ทนต่อความเอน็จอนาถไม่ไหวแล้ว จึงเอ่ยบางอย่างออกไป
“ ทำไมไม่ไปทำด้วยกันเลยล่ะคะ ในเมื่อจะทำ ลูกชุบ เหมือนกันไม่ใช่หรอ?” เออจริง....เพราะว่าทำคนเดียวก็ใช่ว่าจะรอด...ไปช่วยกันทำกับไอ้หัวสัปป้า / ไอ้สมองเบสบอล นี่ บางทีอาจจะดีกว่าก็ได้....
แล้วคู่หูเมะลูกชุบก็ถือกำเนิดขึ้น......ทั้งสามคนต่างมุ่งหน้ากลับไปยังโกคุโยแลนด์ดินแดนแสนสุข....โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า มีใครบางคนกำลังติดตามไปมิได้ห่าง....
...........................................................................................................................................................
“ แช่ถั่วเขียวเลาะเปลือกประมาณ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำไปนึ่งและบดให้ละเอียด” เสียงทุ้มนุ่มของชายหนุ่มผมสีน้ำเงินเอ่ยออกมาตามที่ตำราทำอาหารบอกเอาไว้ ถึงแม้ว่าสิ่งที่เขียนอยู่นั้นจะดูเหมือนทำกันได้ง่ายๆ แต่ทว่า....
“ แช่ในอะไรอ่ะ น้ำ? แล้วน้ำเย็นหรือน้ำร้อน? หรือว่าแช่ในกะทิ?” เสียงเอ๋อๆถามออกมาให้มุคุโร่เริ่มได้คิด นั่นสิ? แช่ในอะไร?
หลังจากที่นิ่งกันไปพักใหญ่ เนื่องด้วยต่างฝ่ายต่างทำอาหารบ่อยจัด แถมไอ้สิ่งที่ทำอยู่นี่ก็ไม่เคยแม้แต่จะได้กินเลยสักครั้ง....
“ คึหึหึ....ในเมื่อความรักคือการหลอมรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน เพราะงั้น...” เมื่อหาเหตุผลให้กับตัวเองได้ มือเรียวก็เททั้งน้ำร้อนและน้ำเย็นและกะทิลงไปในกะละมังเดียวกันก่อนที่จะเทถั่วเขียวทั้งหมดลงไป.... ” เรียบร้อยครับ”
“ แล้วจะให้รอถึง 2 ชั่วโมงเลยหรอ กว่าจะทำเสร็จ จะทันวันนี้ไหมน้า...” แล้วเสียงเอ๋อๆก็ย้ำเตือนความจริงอีกประการให้เจ้าของนัยน์ตาสองสีได้คิดอีกครั้ง นั่นสิ? ยิ่งเสร็จช้าเขาก็จะมีเวลาสวีทหวานแหววกับที่รักของเขาน้อยลง...
“ คึหึหึ....ความรักของผมกับเขาสุกงอมจนเต็มที่แล้ว เพราะงั้นไม่ต้องรอนานขนาดนั้นก็ได้ครับ (?!)” จริงดั่งว่า เพราะเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ15นาที คุณท่านก็ยกถั่วขึ้นทันที
เคร้ง!!! เคร้ง!!! โครม!!!!
เสียงอะไรบางอย่างที่ดังขึ้นมาจากด้านนอกตัวอาคารรกร้างทำให้มือที่ยกตะแกรงตักถั่วขึ้นจำต้องปล่อยลงน้ำที่แช่อีกครั้ง ก่อนที่สองหนุ่มจะวิ่งออกไปดูทันที....ฟู่วววว...นับว่าเป็นโชคดีของเคะอีกสองคนที่อาจจะได้ของขวัญวาเลนไทน์ที่อันตรายยิ่งกว่าช็อกโกแลตของเบียงกี้ก็เป็นได้....
“ เกิดอะไรขึ้นครับ โคลม!” มุคุโร่ตะโกนถามเด็กสาวร่างเล็กที่ยืนเกาะขอบราวกั้นเหล็กขึ้นสนิมเพื่อชะโงกหน้ามองลงไปที่เบื้องล่าง
“ ดูเหมือนเคนจะไปจับตัวอะไรบางอย่างมาได้น่ะค่ะ” เสียงร้องโอดโอยกับเสียงการต่อสู้ที่เหมือนเสียงฟัดกันของสัตว์สองชนิดมากกว่าดังมาจากชั้นล่างของอาคาร ทั้งสามคนจึงวิ่งลงบันไดไปดู แล้วสิ่งที่ปรากฏแก่สายตาก็ทำเอาอึ้งไปตามๆกัน ในเมื่อสิ่งที่อยู่ในปากของเจ้าสุนัขเฝ้าโกคุโยคือ....
“ คุณดีโน่!!!” ยามาโมโตะตะโกนเรียกชายร่างสูงใหญ่ผมสีทองที่คุ้นเคย ใบหน้าหล่อเหลาหันกลับมามองพร้อมด้วยมือใหญ่ที่พยายามดันใบหน้าของเคนให้ออกไปจากขาของตัวเอง ดูจากสภาพเยินอย่างไม่มีที่ติของร่างสูงผมทองนั่นก็เดาได้ไม่ยาก ว่าคงมาที่นี่คนเดียวแหงแซะ
“ ฮะ ฮะ ฮะ...ขอโทษทีนะที่ต้องมารบกวน” บอสของคาบัคโรเน่หัวเราะแหะ แหะ มือใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลาสเตอร์ยาเกาหัวแก้เขิน หลังจากที่เจ้าของหมา(?)สั่งให้เจ้าหมานั่นยอมปล่อยเขาแต่โดยดี จึงได้มีชีวิตออกมานั่งหัวเราะอยู่ตรงนี้นี่แหละ
“ ไม่เป็นไรค่ะ” เด็กสาวร่างเล็กยังคงแปะพลาสเตอร์ยาลงตามแขนที่เต็มไปด้วยรอยสักต่อไป
“ สองคนนั่น...กำลังตั้งใจทำอะไรกันอยู่หรอ” นัยน์ตาสีทองเหลือบมองไปยังห้องอีกห้องที่อยู่ติดกัน เห็นสองผู้พิทักษ์ร่างสูงของสึนะกำลังขะมักเขม้นกับการทำอะไรบางอย่าง...ทั้งๆที่ไม่เคยคิดเลยว่า อย่างสองคนนั่นจะร่วมมือกันทำอะไรได้
“ ทำขนมวันวาเลนไทน์ให้บอสและคุณโกคุเดระอยู่ค่ะ”
“ เอ๋......” นัยน์ตาสีทองเบิกกว้างเมื่อมองเห็นรูปขนมชนิดหนึ่งในหน้าหนังสือทำอาหารที่โคลมเปิดแล้วยื่นมาให้ดูตรงหน้า ทั้งรูปลักษณ์ที่แปลกตา ทั้งสีสันที่ไม่เคยเห็น มันทำให้เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา....มือใหญ่คว้าตำราทำอาหารแล้ววิ่งตรงไปยังห้องที่มุคุโร่และยามาโมโตะอยู่ทันที
“ พวกนายสองคน! ให้ฉันทำไอ้นี่ด้วยสิ!!!”
........................................................................................................................................................................
เวลายังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ ถั่วกวนสีทองอร่ามแลดูน่ากินต่างจากสภาพห้องที่เละอนาถราวกับเพิ่งผ่านสงครามแย่งชิงดินแดนมาก็ไม่ปาน กำลังถูกพักให้เย็นอยู่ในกระทะ ใบหน้าเรียวที่มีคราบสีเหลืองๆติดอยู่ทั่วยืนกอดอกยิ้มละไมในขณะที่ดวงตาสองสีจ้องมองสิ่งที่อยู่ในกระทะอย่างภาคภูมิใจ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจนั่นกลับสร้างความหวาดหวั่นให้แก่เด็กสาวร่างเล็กผู้ติดตามยิ่งนัก….
“ เป็นยังไงบ้างครับเคน” ก็มีอย่างที่ไหน ทำขึ้นมาเองกลับไม่ยอมชิมเอง...ถึงเคนจะมีกระเพาะแบบหมาแต่ก็ใช่ว่าหมาจะท้องเสียไม่เป็นนี่คะท่านมุคุโร่
“ ฮะ ฮะ...ก็ใช้ได้นี่นา...” แต่ก่อนที่เคนจะได้ตอบอะไรออกมา หมาอีกตัวก็ตอบแทนเรียบร้อย
“ ฉันว่าเราเริ่มปั้นกันเถอะ ชักจะอยากเห็นใบหน้า(แสยะ)ยิ้มแย้มของเคียวยะเวลาเห็นมันเร็วๆแล้วละ” แค่เอ๋อเนียนกับรั่วเสื่อมนี่ก็แทบแย่แล้ว ยังมาเจอซุ่มซ่ามของตานี่เข้าให้อีกคน ห้องมันถึงได้เละแบบนี้ไงล่ะ
“ คุณดีโน่ ว่าจะถามตั้งนานแล้ว...คุณมาทำอะไรที่นี่หรอคะ?”
“ วินดีเช่ไหว้วานให้ฉันมาจับตัวมุคุโร่กลับไปน่ะ” ห๊ะ!....แล้วไหงพี่ท่านมายืนทำลูกชุบกับคนที่ต้องมาตามล่าหน้าตาเฉยงี้ล่ะ ?
“ แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน...ตอนนี้สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ฉันจะปั้นเจ้านี่เป็นฮิเบิร์ดได้ยังไง” สำคัญมากกกกเลยค่ะ....เด็กสาวร่างเล็กได้แต่ถอนหายใจแล้วค่อยๆหายตัวไปจากห้อง ปล่อยให้ทั้งสามคนทำหน้าที่สามีทาสที่ดีต่อไป....
.................................................................................................................................................................................
ในขณะที่สุดยอดเซเมะทั้งสามคนกำลังสร้างความวิบัติ ไม่สิ...กำลังทำของขวัญวันวาเลนไทน์กันอยู่นั้น....
ร่างเพรียวแต่แข็งแกร่งของหัวหน้าคณะกรรมการคุมกฎแห่งนามิโมริก็กำลังเดินหงุดหงิดงุ่นง่านปล่อยรังสีดำเมี่ยมอยู่ท่ามกลางบรรยากาศแห่งรักของผู้คนที่เดินอยู่ในเมือง คู่รักและเหล่าเด็กผู้หญิงมากมายต่างมาสุมหัวกันเพื่อเลือกซื้อของขวัญและช็อกโกแลตให้แก่คนที่ตนหมายปอง แค่เห็นกลุ่มคนมากมายมารวมกันอยู่ในร้านเล็กๆน่ารักๆแบบนั้นมันก็หงุดหงิดจนอยากจะเข้าไปขย้ำให้ตายจะแย่อยู่แล้ว แล้วนี่ยังมีเรื่องมากวนใจให้อารมณ์บูดสนิทยิ่งขึ้นไปอีก...
เมื่อเช้านี้สายของเขาซึ่งมีนามว่า โรมาริโอ้(?) ที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มของแก๊งมาเฟียข้ามชาติแก๊งใหญ่(?) รายงานมาว่า หัวหน้าของฝ่ายนั้นลอบเดินทางเข้ามาในนามิโมริแล้ว…
มาตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว....
แล้วทำไม.....
ทำไม !!!!
ไอ้ม้าแก่นั่นมันหายหัวไปไหน! ทำไมยังไม่มาหาเขา!!!
ปกติแค่เท้าเหยียบญี่ปุ่นมันก็จะรีบแจ้นเสนอหน้ามาให้เห็นทันที แล้วนี่...มาถึงตั้งแต่เมื่อคืน แล้วทำไมป่านนี้ยังไม่โผล่หัวมาอีก!
คิดแล้วมันก็ให้หงุดหงิดจนอยากจะเข้าไปขย้ำไอ้พวกสัตว์กินพืชที่บังอาจมาสุมหัวกันเป็นคู่ๆให้เกิดออร่าสีชมพูไปทั่ว ร่างเพรียวเดินตรงดิ่งไปยังร้านๆหนึ่งซึ่งมีเด็กผู้หญิงยืนอยู่มากมาย ซึ่งต่างก็หลบกันกระจายเมื่อคุณท่านก้าวขาเข้าไปด้วยใบหน้าเยี่ยงซาตาน มือฟาดทอนฟาลงบนโต๊ะตัวหนึ่งเพื่อระบายอารมณ์ ก่อนที่ดวงตาคมกริบจะมองไปยังเจ้าของร้านที่ยืนตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกอยู่ที่เคาน์เตอร์ซึ่งมีช็อกโกแลตสวยงามวางเรียงรายเป็นประกายระยิบระยับ ริมฝีปากแสยะยิ้มก่อนที่จะพูดออกไปว่า
“ เอาช็อกโกแลตที่ดีที่สุดมาให้ฉัน “ทั้งหมด”!!!”
ในขณะเดียวกันนั้น.....
ทางฝั่งตรงข้ามของร้านที่ท่านผู้คุมกฎกำลังขู่กรรโชก...ไม่ใช่สิ....กำลังเลือกซื้อช็อกโกแลตอยู่นั้น....
“ โกคุเดระคุง...ไม่ซื้อนี่ให้ยามาโมโตะบ้างหรอ” มือเล็กของบอสมาเฟียจับลงไปที่ช็อกโกแลตรูปหัวใจสีชมพูหวานแหววซึ่งวางเรียงกันอยู่บนชั้นด้วยใบหน้าอมยิ้ม
“ ทำไมผมจะต้องซื้อให้ไอ้บ้านั่นด้วยละครับ อย่างมันน่ะ เดี๋ยวก็ได้มาจากใครๆอีกเยอะแยะ” สึนะหันไปมองมือขวาของตัวเองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม คนวงในต่างก็รู้ๆกันว่าสองผู้พิทักษ์คนสนิทของเขาทั้งคู่กำลังแอบคบกันอยู่...แล้วก็นะ....ไอ้ที่เจ้าตัวพูดมานั่นก็ใช่ว่าจะปฏิเสธความสัมพันธ์แต่มันกลับมองได้ว่ากำลังหึงอีกฝ่ายหนึ่งอยู่มากกว่า
“ ถ้างั้น...เดี๋ยวฉันมานะ” มือเล็กวางช็อกโกแลตรูปหัวใจลงไว้ที่เดิมก่อนที่จะหยิบขนมอีกชนิดหนึ่งซึ่งวางเอาไว้ที่ชั้นล่างสุด แล้วเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ให้พนักงานบรรจุเจ้าขนมที่ว่านั่นลงกล่องที่ดูเรียบๆกล่องหนึ่ง ดวงตาสีน้ำตาลไหม้มองลงไปยังของในกล่องด้วยดวงตาอบอุ่นและอ่อนโยนจนผู้พิทักษ์แห่งวายุที่แอบดูอยู่รู้สึกอิจฉาเจ้าคนน่าหมั่นไส้ที่จะได้กล่องนั่นไปอยู่ตะหงิดๆ
“ ชิ....แอบเอาขนมของอาเจ๊มาสลับใส่ดีไหมนะ” ร่างบางบ่นอุบอิบในขณะที่มือบางก็เปิดหนังสือฝึกทำช็อกโกแลตที่วางอยู่บนชั้นบนสุดดูคร่าวๆ.....เอ๋....ต้องคนในน้ำร้อนด้วยหรอ?....ถึงว่าสิ....ทำอยู่ตั้งนานไม่เห็นจะได้สักที....ดีละ!
ร่างทั้งสองเดินออกจากร้านไปพร้อมๆกัน แต่ต่างคนต่างก็เดินกลับไปยังบ้านของตัวเอง....
...........................................................................................................................................................................
วันทั้งวันล่วงเลยผ่านไป สายลมยามค่ำพัดเอื่อยๆสมกับเป็นวันที่หลายๆคนต่างรอคอย เส้นผมดำสนิทปลิวคลอเคลียไปกับใบหน้าเนียน ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยวปิดลงรับฟังสิ่งที่อยู่รอบกายจากเสียงที่นิ่งสงบ แขนเล็กแต่แข็งแกร่งทั้งคู่ยกขึ้นหนุนหัวปล่อยให้ร่างกายเพรียวบางนอนรับลมเย็นๆอยู่บนจุดสูงสุดของอาคารเรียนที่เงียบเชียบไร้ผู้คน....
แน่ละ...ใครจะมาทำบ้าอะไรที่โรงเรียนในเวลาแบบนี้...เวลาที่ควรจะอยู่ข้างๆคนที่รัก...
คนที่รักงั้นรึ…..
อีกครั้งที่ความหงุดหงิดแล่นขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ ร่างเพรียวบางพลิกกายนอนตะแคงหันหลังให้ประตูบานเดียวที่เชื่อมต่อระหว่างดาดฟ้ากับภายในอาคาร ความว้าวุ่นในจิตใจทำให้ไม่ได้รับรู้เลยว่า ใครบางคนกำลังค่อยๆเดินเข้าไปหาเรื่อยๆ เรื่อยๆ...อย่างระมัดระวัง...
“ อยู่ที่นี่จริงๆด้วยสินะ เคียวยะ” เสียงทุ้มนุ่มที่คุ้นเคยเอ่ยเรียกคนที่นอนปล่อยรังสีอำมหิตอยู่ที่พื้น ร่างเพรียวเด้งตัวขึ้นมาพร้อมทอนฟาที่ฟาดใส่คนมาใหม่ทันที
ถ้าเป็นยามปกติ ถ้าร่างสูงของเจ้าม้านั่นไม่เอาแส้ออกมารัดพันทอนฟาของเขา มันก็จะต้องสะดุดอากาศแล้วล้มฟาดลงไปกับพื้น....แต่ทว่าวันนี้มันกลับ....
“ เหวอ....เคียวย๊า....”
มันหลบได้!!!
ปรอทความหงุดหงิดยิ่งพุ่งปรี๊ดขึ้นไปจนถึงขีดสุด....หนอย...ไอ้ม้าแก่นี่มันไม่ยอมให้เขาขย้ำแต่โดยดี หงุดหงิด!!!
ดี...หลบได้หลบไป...แล้วฉันจะแสดงความรักที่มีต่อแกแบบถึงเลือดถึงเนื้อเลย!
ไม่พูดพร่ำทำเพลงเช่นเดิม มือบางตวัดทอนฟาเข้าใส่ร่างสูงใหญ่โดยไม่คิดที่จะฟังอะไรทั้งนั้น ส่วนอีกฝ่ายก็ได้แต่หลบไปมาได้อย่างน่ามหัศจรรย์ มือข้างหนึ่งคอยระวังสิ่งของบางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อตัวนอก นี่แหละ.....อานุภาพแห่งความรัก.....(?)
“ ทำไมแกไม่ยอมอยู่นิ่งๆให้ฉันขย้ำ “ .....เป็นใครก็ไม่ยอมทั้งนั้นแหละคุณท่าน!
“ ถ้าเป็นวันอื่น...ฉันจะยอมให้เคียวยะขย้ำทั้งตัวทั้งหัวใจเลย แต่วันนี้ไม่ได้จริงๆ” .......เฮ้ย! นี่มันมาโซตัวพ่อนี่หว่า
หลังจากไล่ขย้ำแสดงความรัก(?)จนท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีเข้มสนิท ร่างเพรียวที่เริ่มหายหงุดหงิดไปได้บ้าง จู่ๆก็ทิ้งตัวนั่งลงยังพื้นขัดมันของดาดฟ้า ร่างสูงใหญ่จึงนั่งลงที่ข้างกาย บรรยากาศรอบข้างสงบนิ่ง เสียงที่พูดคุยกันเบาๆจึงแจ่มชัด
“ เพราะว่าถ้าฉันโดนนายขย้ำ เจ้านี่ก็จะเละไปด้วย” มือใหญ่ที่มีรอยสักยื่นกล่องใสใบหนึ่งไปตรงหน้าฮิบาริ เคียวยะ นัยน์ตาสีดำคมกริบเหลือบมองของในกล่องก่อนที่แววตาที่เคยเย็นชาจะเปลี่ยนเป็นประกายระยิบระยับ อย่างที่เจ้าตัวก็ไม่มีทางรู้ว่ามันเป็นแบบนั้น สิ่งที่มองเห็นทำเอาดีโน่ถึงกับยิ้มกว้างออกมา
“ ที่ฉันหายไปทั้งวัน เพราะไปทำเจ้านี่มาให้นายนั่นแหละ ลองกินดูสิ อร่อยนะ” มือใหญ่เปิดกล่องออก ลูกชุบที่ถูกปั้นเป็นก้อนกลมๆมีดวงตาเล็กๆ ปากเล็กๆ และปีกกับหางสีเหลือง....ฮิเบิร์ด....มากมายหลายตัว
ใบหน้าใสของหัวหน้ากรรมการคุมกฎ ขึ้นสีแดงระเรื่อ เมื่อนึกถึงสิ่งที่ชายผู้เป็นทั้งอาจารย์และคนรักตั้งใจทำมาให้ เพราะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าม้าพยศดีโน่เป็นคนไม่ได้เรื่องขนาดไหน การทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าออกมาได้ขนาดนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก นัยน์ตาสีดำสนิทเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ....เหมือนหมาโกลเด้นมากกว่าจะเป็นม้าแหะ...
“ งี่เง่า! ฉันไม่ชอบสัตว์กินพืชมาสุมหัวกัน แกก็รู้” ถึงปากจะบอกแบบนั้น แต่แก้มใสแดงระเรื่อกับนัยน์ตาสีดำที่เหลือบมองของในกล่องนั่น...สำหรับคนที่อยู่ด้วยกันมานานอย่างเขา...ก็เข้าใจดีว่าคนคนนี้กำลังปากไม่ตรงกับใจ....
“ งั้นนายก็กินให้เหลือแค่ตัวเดียวสิ มันจะได้ไม่สุมหัวกัน”
“ แกจะให้ฉันกินนกที่เลี้ยงไว้งั้นหรอ”
“ นี่....ฉันปั้นม้ามาด้วยนะ”
“ อะไร”
“ กินฉันก็ได้เคียวยะ....” ผลั๊วะ! หมัดนิ่มๆเสยเข้าปลายคางพ่อม้าหื่นเต็มๆ เมื่อฮิบาริตีความความหมายของประโยคส่อเรทนั่นออก
ใบหน้าเนียนแดงหนักกว่าเดิม...มือที่เคยแต่จับทอนฟาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนที่จะปากล่องสีดำสนิทเล็กๆใส่ใบหน้าหล่อเหลาของคนข้างๆ กล่องเจ้ากรรมกระแทกหน้าพ่อม้าก่อนที่จะหล่นปุ๊ลงไปบนมือใหญ่ที่ยื่นมารับไว้แทบไม่ทัน
“ ขอบใจ” ร่างเพรียวเอ่ยออกมาเบาๆก่อนที่จะกอดกล่องใส่ลูกชุบแน่นแล้วหันใบหน้าแดงๆไปอีกทาง ดีโน่ได้แต่มองการกระทำนั้นของคนรักด้วยความรู้สึกดีใจจนไม่รู้จะพูดออกมายังไง....นายนี่มันน่ารักจริงๆเคียวยะ...นัยน์ตาสีทองก้มมองของที่อยู่ในมือ ฝากล่องค่อยๆถูกเปิดออก ดาร์กช็อกโกแลตชิ้นที่ดีที่สุดถูกบรรจงวางเอาไว้อย่างสวยงาม
“ เคียวย๊า....” ความเต็มตื้นในหัวใจทำเอาร่างกายสูงใหญ่โผเข้ากอดร่างเพรียวจนทั้งสองร่างล้มลงไปกับพื้นดาดฟ้า
“ ฉันดีใจมากๆเลย ขอบใจนะเคียวยะ” ใบหน้าหล่อเหลาซบอยู่ที่แผ่นอกบาง ก่อนที่จะปล่อยโฮด้วยความดีใจเหมือนกับเด็กๆ ใบหน้าเนียนที่เย็นชาเสมอมาถึงกับอมยิ้ม มือบางยกขึ้นลูบเส้นผมสีทองแผ่วเบา....ฉันเองก็ดีใจ...ที่มีแกคอยอยู่ข้างๆ....
“ ฉันรักนายที่สุดในโลกเลยเคียวยะ!!!” .....ฉันก็รักแกไอ้ม้าบ้า....
.
.
.
.
.
.
“ เลิกร้องไห้ขี้มูกโป่งได้แล้วไอ้ม้างี่เง่า ลุกไป! กล่องนี่มันจะเละหมดแล้ว”
“ อ๋า...ลูกชุบ!”
“ มะ...มันก็อร่อยงั้นๆแหละ”
“ จริงหรอ~....”
“ อะ เออ...แค่งั้นๆแหละ”
.
.
.
.
.
.
.
........................................................................................................................................................................
เรียวขาเล็กก้าวเดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้เหลียวมองรอบกาย ถนนเบื้องหน้าทอดไปสุดสายตา ไม่มีใคร ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆบนเส้นทางแห่งนี้เลย มันช่างเงียบสงบจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมที่พัดมาได้อย่างชัดเจน เสียงต้นไม้ที่อยู่สองข้างทางไหวเอน เสียงใบไม้เสียดสีบ้างหลุดร่วงโปรยปรายไปทั่วทั้งถนน...ใบไม้ที่มีสีแดงดั่งโลหิต...ใบเมเปิล....
เมเปิล ?....
เมเปิลบ้าอะไรจะเปลี่ยนใบเป็นสีแดงในช่วงเวลานี้! ถ้าเป็นซากุระก็ว่าไปอย่าง!
“ มุคุโร่!!!” เสียงนุ่มตะโกนออกไป ทั้งๆที่ไม่มีคู่สนทนาใดๆ
“ พาฉันออกไปจากความฝันของนายเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!” จะหลอกเขาทั้งทีทำไมไม่ทำให้มันเนียนกว่านี้เนี่ย สงสัยว่าจะถูกดองนานไปหน่อยจนหลงวันหลงคืน ถึงได้จำไม่ได้ว่าเมเปิลมันเปลี่ยนสีใบช่วงฤดูใบไม้ร่วงไม่ใช่ฤดูใบไม้ผลิอย่างเช่นตอนนี้!
“ คึหึหึ......” เสียงหัวเราะโรคจิตแบบนี้....ใช่เลยสินะ
“ แหม...สึนะโยชิคุงนี่ไม่โรแมนติกเอาเสียเลยนะครับ ผมอุตส่าห์สร้างฉากแห่งรัก(?)ที่สวยสดตระการตาเอาไว้ให้” เปลือกตาบางค่อยๆลืมขึ้นช้าๆ สิ่งที่สะท้อนอยู่ในดวงตาสีน้ำตาลไหม้คือใบหน้าเรียวหล่อเหลาของผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกของตน ที่กำลังก้มลงมองมาด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ เหลียวมองไปรอบกายจึงเพิ่งรู้ตัวว่า ร่างเล็กๆของตนเองนอนอยู่บนม้านั่งตัวหนึ่งในสวนสาธารณะไร้ผู้คนและตักที่หนุนอยู่นั้นก็เป็นของร่างสูงโปร่งที่พยายามจะล่อลวงตัวเขาเข้าไปในความฝันอันผิดลู่ผิดทางของเจ้าตัวนั่นเอง
“ มืดขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย...” ร่างเล็กๆของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลฟูฟ่องค่อยๆลุกขึ้นจากการนอนช้าๆ ความมืดโรยตัวลงมาปกคลุมไปทั่ว มีเพียงแสงไฟสลัวๆไม่กี่จุดที่ส่องสว่างอยู่ท่ามกลางสวนแห่งนี้...จำได้ว่าเมื่อเย็นจู่ๆก็มีหมาหน้าตาคุ้นๆวิ่งมาคาบกล่องของขวัญของเขาไปในระหว่างที่กำลังเดินกลับบ้าน เขาจึงวิ่งตามมันมา....จนมาหยุดอยู่ที่สวนร้างของโกคุโยแลนด์อย่างที่เป็นอยู่นี่แหละ...แล้วเขา...หลับไปได้ยังไงกันนะ?
“ คิดถึงผมมากจนถึงกับมานอนรอคอยผมที่นี่....เหมือนกับภรรยามารอรับสามีที่ถูกเกณฑ์ไปรบ...อะไรแบบนั้นสินะครับ....” เป็นไอ้หมอนี่แหงแซะที่บงการทุกอย่างอยู่เบื้องหลัง..
“ ผมกลับมาแล้วครับยอดรัก...มาให้ผมโอบกอดให้หายคิดถึงสักที...” แล้วก็เป็นมือเล็กๆของแม่ยอดรักนั่นแหละที่ยันใบหน้าเรียวนั่นให้ออกไปห่างๆ....ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ยังเสี่ยวไม่เลิกอีกเร๊อะ
“ ออกไปห่างๆเลย” ร่างเล็กๆขยับตัวหนี
“ สึนะโยชิคุงใจร้าย...ไม่คิดถึงผมเลยหรอครับ...ผมนะ...เฝ้าตั้งหน้าตั้งตารอคอยวันที่เราจะได้พบกันอยู่ในที่ที่ทั้งหนาวเย็นและเงียบเหงา” อย่ามาแหล....ร่างกายแกอยู่ในที่แบบนั้นก็จริง แต่จิตวิญญาณของแกเองไม่ใช่เร๊อะที่ตามมาหลอกหลอนเขาอยู่ทุกวี่ทุกวันจนเผลอรับรักมันไปได้เนี่ย
“ ที่ผมมาวันนี้น่ะ เพียงเพราะอยากเห็นหน้าคุณ แล้วก็อยากทำตัวให้สมกับเป็นสามีที่ดี ที่กลับบ้านมาหาภรรยาในวันแห่งความรัก” รู้สึกอะไรๆบางอย่างมันจะผิดเพี้ยนไปนิดหน่อยนะ ?
“ นี่ครับ....ของขวัญวันแห่งความรัก...ที่ผมตั้งใจไปสรรหามาทุกภพชาติและทำขึ้นมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ....รับไปสิครับ” กล่องรูปหัวใจสีชมพูหวานแหววถูกวางลงบนหน้าตักเล็ก สึนะโยชิก้มมองกล่องหน้าตาไม่น่าไว้ใจนั่นอย่างหวาดระแวง มือเล็กกำแน่นอย่างไม่คิดที่จะเปิดกล่องนั่นเพราะกลัวว่าจะมีอะไรที่น่าสยดสยองโผล่ออกมา
“ ซาบซึ้งจนไม่กล้าเปิดเลยหรอครับ คึหึหึ....” ใบหน้ายิ้มละไมหัวเราะนิดๆ ไม่ได้รู้ตัวเล้ย ว่าสายตาที่อีกคนมองมานั่น เขาหวาดระแวงแค่ไหน
“ อะ...อะไรน่ะ” ถ้าเป็นแค่ช็อกโกแลตธรรมดาๆก็ดีไปนะ...แต่ไอ้ของที่คนคนนี้บอกว่าไปหามาจากทุกชาติภพนี่...?...ดูยังไงๆก็ไม่น่าไว้ใจชัดๆน่ะ
“ ลองเปิดดูสิครับ” มือเล็กจับฝากล่องอย่างกล้าๆกลัวๆ ก่อนที่จะเปิดมันออกอย่างช้าๆ
แต่สิ่งที่มองเห็นกลับไม่ใช่อะไรที่น่าสยดสยอง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนก็เถอะ แต่ก็นับว่ามันเป็นอะไรที่น่ารักทีเดียว....สับปะรดผลเล็กๆสีเหลืองที่วางเรียงรายกันอยู่ในกล่อง และดูน่ากินมิใช่น้อย
“ มันคือลูกชุบครับ...ทำออกมาได้น่ารักเหมือนผมเลยใช่ไหมล่ะ คึหึหึ...” ดูท่าทางจะภาคภูมิใจมากนะ สึนะโยชิลองหยิบเจ้าสับปะรดจิ๋วนั่นเข้าปาก
“ อร่อยแหะ” คำพูดสั้นๆแต่คนที่ได้ฟังกลับยิ้มหน้าบาน
“ ดีใจนะครับที่คุณชอบ”
“ ขอบใจนะมุคุโร่...แต่ว่าของที่ฉันเตรียมมาให้นายมัน.....” ถูกหมาคาบไปแล้วอ่ะ...
“ คึหึหึ...ผมได้รับแล้วครับ...ขอบคุณสำหรับพายสับปะรดนะครับ...คุณนี่ช่างรู้ใจผมจริงๆสึนะโยชิคุง” ว่าแล้วเชียวว่าคนบงการอยู่เบื้องหลังคือหมอนี่
สับปะรดลูกชุบอีกชิ้นถูกส่งเข้าปาก...รสชาติหวานไม่มากกำลังกลมกล่อมพอดีๆ ดูจากหน้าตาของเจ้าขนมแต่ละชิ้นก็พอจะรู้ว่าคงไม่ได้ทำขึ้นมาง่ายๆ ทุกๆรสชาติบ่งบอกได้ดีถึงความตั้งใจของคนทำ ใบหน้าน่ารักหันไปยิ้มให้กับคนที่นั่งมองอยู่ข้างๆ
“ ขอบใจนะ” แค่รอยยิ้มอ่อนโยนนั่นก็เพียงพอต่อความตั้งใจทั้งหมดที่ผมทำไปแล้วละครับ...สึนะโยชิคุง
“ เล่าให้ผมฟังหน่อยสิครับ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณบ้าง” จู่ๆร่างสูงโปร่งก็เปลี่ยนเรื่องเอาเสียดื้อๆ
“ ปกตินายก็ทำตัวเป็นวิญญาณตามฉันไปทั่วอยู่แล้วนี่ ยังจะอยากรู้เรื่องอะไรอีก” คราวนี้เป็นร่างสูงโปร่งที่ล้มตัวลงนอนอยู่บนม้านั่ง หัวทรงสับปะรดหนุนอยู่ที่หน้าตักนิ่มของอีกคน นัยน์ตาสองสีมองใบหน้าน่ารักที่อยู่เหนือหัว
“ ทุกเรื่อง...ที่คุณได้ไปสัมผัส ทุกเรื่องที่เป็นเรื่องราวของคุณ...ผมอยากรู้...โดยผ่านจากปากของคุณจริงๆ ไม่ใช่สิ่งที่ผมเห็นผ่านภาพมายา...” มือเรียวยกขึ้นลูบแก้มนิ่ม ความอบอุ่นของสิ่งที่เรียกว่าร่างกาย ความอบอุ่นจากการสัมผัสเป็นสิ่งที่คนอย่างเขาไม่นึกไม่ฝันเลยจริงๆว่าในชีวิตนี้จะได้รับมัน...
ผมอยากอยู่ข้างๆคุณ...ด้วยร่างกายไม่ใช่แค่จิตวิญญาณ...
ผมอยากรับรู้และสัมผัสคุณได้จริงๆ...ด้วยมือของผมไม่ใช่อากาศและภาพลวงตา...
ดวงตาที่อบอุ่นอ่อนโยนมองมาที่ผมในขณะที่ริมฝีปากเล็กๆนั่นก็เล่าเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา...เสียงหยอกเย้าและแง่งอนระหว่างผมและเขาดังอยู่เรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาที่ได้คุยกัน ความไว้ใจที่ผมไม่เคยมีให้ใคร ผมกลับยกมันให้แก่ร่างเล็กๆที่ดูอ่อนแอคนนี้ได้อย่างหมดจด ความโดดเดี่ยวความหนาวเย็นที่ผมมีอยู่เสมอมากลับถูกความอบอุ่นของผืนนภาโอบอุ้มจนก้อนน้ำแข็งนั้นค่อยๆละลายหายไป หมอกควันและความมืดมิดในจิตใจค่อยๆลบเลือนไปพร้อมๆกับเรื่องราวธรรมดาๆของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกเล่าออกมาด้วยรอยยิ้ม...
ผมรักเขา....
ผมรักเขา....
ผมรักเขา....
ริมฝีปากของผมหยุดทุกคำพูดของเขาอย่างแผ่วเบา ใบหน้าของผมเคลื่อนเข้าไปใกล้เขาโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว มองเห็นใบหน้าน่ารักนั่นแดงซ่านกับดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่เบิกกว้าง ผมลุกขึ้นนั่ง มือจับคางเล็กให้อยู่นิ่งพร้อมกับบรรจงจูบลงไปอีกครั้ง...จูบด้วยร่างกายของผม...สัมผัสทุกความอบอุ่นที่มอบให้แก่กันด้วยร่างกายของผมและของเขา...
อยากจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้ให้นานที่สุด...
อ้อมแขนของผมโอบกอดร่างกายเล็กๆของเขา กระชับแน่นให้ความอบอุ่นของเขาซึมซาบเข้ามาในร่างกายของผมให้มากที่สุด
“ สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะครับ สึนะโยชิคุง” เสียงกระซิบของผมดังอยู่ที่ข้างใบหูที่แดงระเรื่อของเขา
“ ผมต้องไปแล้ว...ช่วยดูแลตัวเองให้ดีจนกว่าเราจะได้เจอกันอีกนะครับ”
นัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลไหม้แหงนหน้ามองผมอย่างไม่เข้าใจ แต่เมื่อหันไปมองที่มุมหนึ่งของสวนร้าง ก็เข้าใจได้ทันทีว่าผมหมายถึงอะไร....
ผู้คุม 3 คนจากคุกวินดีเช่มายืนรอผมอยู่ที่ตรงนั้น...
“ มุคุโร่!!!” เสียงตะโกนเรียกจากทางด้านหลัง ทำให้ผมหันกลับไปยิ้มละไมให้อีกครั้ง
“ ฉันจะรอ...รอวันที่เราจะได้พบกันด้วยร่างกายของนายอีกครั้ง...จะรอ!!!” ใบหน้าที่ยิ้มแย้มกับมือเล็กๆที่กอดกล่องของขวัญแน่นทำให้ผมเดินจากมาได้อย่างหมดกังวล...
ผมกับเขาไม่ได้จะจากกันชั่วนิรันดร์ แต่สักวัน....เราจะได้พบกันอีกอย่างแน่นอน.....
.
.
.
.
.
.
.
.
จบบริบูรณ์ (หรือยัง?)
อร๊ายยย...>////<...เมื่อวานได้รูป 6927 ของเกมส์โดจิน Altor มาจากท่าน fisher มันโฮกขนาดหนัก
ประกอบกับมีเสียงปริศนา(?)กับสัญญาที่ให้ไว้กับใครบางคน จากที่เริ่มเรื่องนี้เอาไว้แต่ไม่รู้ว่าจะแต่งจบหรือเปล่า
มันเลยปั่นกันรวด โอกกกกก ภาพนั้นมันช่าง...>/////<...น่ารักฟ่ะ
คงจะคิดกันละซี่...ว่าหน้าอย่างข้าพเจ้าน่ะหรอจะแต่ง 6927 เป็นคู่หลัก หึหึ...
แต่ก็นะ...ทำยังไงก็แต่งให้คุณมุหล่อร้ายไม่ได้ซักที...ขึ้นชื่อว่าคุณมุของข้าพเจ้า มันต้องหล่อรั่วโอตาคุ!?
(แล้วฟิกแฝดน้องนั่นมันอะไรฟะ?)
แต่อีกคู่น่ะเป็นอะไรที่ชอบมากๆนะ แต่ไม่เคยแต่งแบบจริงๆจังๆเลย “D18” >////<
ค่ะ...ใกล้จะถึงวันแห่งความรัก...เพราะงั้นจึงอยากเอาเรื่องราวของความรักแบบสนุกสนานมาให้อ่านกัน
อ่านจบแล้วก็ขอให้รักกันมากๆนะคะ...>.<...
ขอบคุณทุกท่านที่ทั้งหลงเข้ามาและตั้งใจเข้ามา (555) ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และทุกความรัก(?)ที่ทุกท่านส่งมาให้ข้าพเจ้านะคะ ขอบคุณค่ะ...^ ^...
ว่าแต่...เหมือนวันนี้จะลืมอะไรไปหรือเปล่านะ ?
[ กดกริ่งได้งี่เง่าแบบนี้มีคนเดียวเท่านั้นแหละ...ไอ้บ้าเบสบอล!!! ]
ตอนนี้น่ารักมากๆเลยค่ะ อีกอย่างอยากขอบคุณพี่กวางที่แต่ง D18 กร๊ากกกก
ตอบลบหวายชอบคู่นี้มากๆเลยอ่ะ >< ตลกสามเมะเข้าครัว
ครัวไม่แตกก็บุญแล้ว สงสารหนูโคลมจริงๆ เอ๋อเนียน รั่วเสื่อม ซุ่มซ่าม
อยู่ด้วยกันสามคนแล้วโลกใกล้ถึงกาลอวสาร - -
หนูฮิน่าร๊ากกกก ตอนโน่ยื่นฮิเบิร์ดน้อยๆไปให้ ซึนจริงๆ ฮึ๊ยยย
หน้าแดงๆแบบนี้น่าหอมเป็นที่สุด >____<
ดีโน่คงคอนเส็ปเดิม เหมือนเด็กเลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
ซึ้งคู่สัปป้ากับทูน่า แง๊ สัปป้ากลับวินดิเช่อีกแล้ว T___T
อยู่ด้วยกันนานกว่านี้ไม่ได้รึไงนะ ฮื่อ ทูน่ารอต่อไปนะลูก
ต้องมีสักวัน ต้องมีสักวัน ..
น่ารักอ่ะ D18 เฮียโน่แอ๊บเด็กน่ารักสุดๆ คู่อื่นก็น่ารักสุดหูรูด
ตอบลบเลยไม่รู้ตอนจบ 8059 เลย ^^'
ตอบลบน่ารักมากกเลยค่ะ ยิ้มไปอ่านไปตั้งแต่บรรทัดแรกเลยค่ะ
ตอบลบน่ารักทั้งสามคู่เลย
แต่คือD18 นี่ไม่ไหวแล้วค่ะ
โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เคียวย้าาาาา ม้าพยศศศ ><
น่ารักจังเลยค่ะสายซึนโหดนี่มัน เอื้ออออ มาก
แทบอยากได้หมาโกลเด้นกลับบ้าน
เสียดายตอนจบของ8059แต่ คู่นี้เค้ารักกันตลอดอยู่แล้ว เดาได้เลยค่ะฮี่ๆ
โห่......8059หายไปไหนง่าอุสาอ่านทุกคาอ่านทุกคู่นึกว่าอยุ่ท้ายสุดที่ไหนได้ไม่มี๊ีง่าาาาาาไรว้าผิดหวัง
ตอบลบต้าลล้ากง่าาาาาาาาาาาาาาาา
ตอบลบฟินนนน มุคุรั่วมากค่าาาาาาา
ขอให้ได้ออกจากคุก??ไวไวน้าาาาาาาาาา
ก๊ากกกกกกกกกก