คำเตือน01 : กรุณาอย่าคาดหวังอะไรทั้งนั้นกับฟิกเรื่องนี้ (แม้กระทั่งตอนจบ= =”) และมัน NC-17!!!
คำเตือน02 : เนื้อเรื่องไม่มี มีแต่ กด กด กด!!! (เพราะคนแต่งมันเก็บกดเฟ้ยยย! ตรูอยากกดมันตั้งแต่เรื่องนั้นนู้นนี้ แต่เพราะมันมีเนื้อเรื่องเลยกดม่ายด๊ายยยย >[]<)
เราเตือนคุณแล้วนะ....
KHR Au.fic [8059] บันทึกของพี่ชายคนเล็ก : 02
: Dark
: NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
ยามเช้าอันแสนสุข แสงแดดอ่อนๆที่แสนอบอุ่น สาดส่องกระทบเงาไม้ร่มรื่น กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นลอยผสมปนเปไปกับกลิ่นดอกไม้รอบๆสวนเล็กๆ บรรยากาศช่างอบอวลไปด้วยความสุขสงบของยามเช้า ...ช่วงเวลาที่หาได้ยากยิ่งของบ้านหลังนี้ ...ร่างเล็กบางของเด็กสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะเหล็กดัดลวดลายอ่อนหวานสีขาวสะอาดตาที่ตั้งอยู่ใต้ร่มไม้ มุมหนึ่งของสวน มือเล็กๆกำลังพิมพ์ข้อความลงบนแป้นคีบอร์ดโน้ตบุคอย่างขะมักเขม้น แต่ก็อย่างว่า...ความสงบสุขมักจะอยู่ได้ไม่นาน เมื่อจู่ๆก็มีเสียงดังโวยวายออกมาจากตัวเรือนใหญ่ ทันทีที่ประตูที่เชื่อมต่อมายังที่สวนนี้เปิดออก ข้าวของหลายชิ้นก็ลอยละลิ่วนำหน้าคนที่วิ่งออกมาและดูท่าว่าคนคนนั้นจะชำนาญในการหลบของที่ลอยตามมาอีกหลายชิ้นนั้นเป็นอย่างดี
“ ชิชิชิ...บอสละก็...เจ้าชายก็แค่เอาดอกไม้มาส่งตามคำสั่งของคุณเจ้าของร้านเองนะ ไม่พอใจอะไรก็ไปจัดการกันเองสิ“ ชายผมทองปิดหน้าปิดตาวิ่งหลบข้าวของนั่นมาหลบอยู่ที่ด้านหลังเด็กสาว ถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็นดวงตา แต่เด็กสาวก็รับรู้ได้ถึงความสนุกสนานของเจ้าตัวมากกว่าจะหวาดกลัวอย่างที่เจ้าตัวว่า
“ เอ้า...ถ้าขว้างมา โดนคุณหนู เจ้าชายไม่รู้ด้วยนะ“ คนที่เรียกตัวเองว่าเจ้าชายนั่น ตะโกนบอกอีกคนที่ยังอยู่ในบ้านอย่างกวนประสาท เด็กสาวมองคนผมทองตรงหน้าด้วยสายตาอ่อนโยน เธอรู้จักชายตรงหน้ามาได้พักใหญ่แล้วละ ... เบลเฟกอล....นักฆ่าที่ใช้ร้านดอกไม้บังหน้า ชายคนนี้มักจะเข้าออกบ้านของเธอเสมอๆ ส่วนใหญ่ก็เอาดอกไม้มาส่งให้พี่ชายคนโตของเธอนั่นแหละ แต่ดอกไม้ที่นักฆ่านำมามักจะไม่ธรรมดาเสมอ เหมือนกับความสัมพันธ์ของพี่ชายคนโตของเธอกับ “คุณเจ้าของร้านดอกไม้” นั่นแหละ จนกระทั่งตอนนี้เธอก็ยังไม่แน่ใจว่า ตกลงสองคนนี้จะฆ่ากันหรือว่าจะอะไรกันแน่ เอาไว้สักวัน...เธอจะลองล้วงความลับของพี่ชายคนโตของเธอดู....แต่ตอนนี้...กลับมาสนใจเรื่องของพี่ฮายาโตะต่อดีกว่า ยังพอมีเวลาจนกว่าจะปิดต้นฉบับ....เด็กสาวยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ปล่อยให้เบลวิ่งหลบข้าวของอยู่รอบๆตัวไป มันก็น่าแปลก ถึงแม้จะไม่เห็นตัวคนขว้าง แต่ข้าวของพวกนั้นก็ไม่มีเฉียดใกล้เธอเลยแม้แต่น้อย
“ หนวกหูจริงๆเลยว้อย...ดับไปซะเหอะพวกแก“ ร่างโปร่งบางของพี่ชายผมสีเงินโผล่ออกมาจากระเบียงชั้นสองพร้อมกับไดนาไมต์ที่ลอยละลิ่วลงมายังสวน คนที่ไม่ทันระวังเพราะมัวแต่สนใจอาวุธบิน(?)อย่างเจ้าชายผมทองจึงโดนเข้าไปเต็มๆ ส่วนอีกคนที่อยู่ในบ้านก็หลบไปได้ด้วยสันชาติญาณที่สั่งสมมาตั้งแต่เด็ก
“ ชริ รอดไปได้หนึ่งตัว“ ร่างบางก้มลงมองผลงานที่กองอยู่ที่พื้น ผมสีทองหยิกหยองกับควันที่ลอยออกมาจากปากที่พะงาบๆนั่นมันคงทำให้เจ้าพวกนี้หยุดส่งเสียงรบกวนผู้คนในบ้านนี้ไปได้อีกหลายวัน แล้วสายตาก็พลันเห็นร่างเล็กๆของน้องสาวที่ยืนโบกมือให้เขาอยู่บนซากเก้าอี้สีขาว
“ หมู่นี้ตื่นสายกันจังเลยนะคะ“ เด็กสาวส่งเสียงทักทายเมื่อร่างโปร่งบางของชายผมเงินกระโดดลงมาจากระเบียงชั้นสอง มายืนอยู่ต่อหน้าเธอ
“ ไม่ค่อยได้นอนน่ะ แล้วนี่โคลมกินอะไรแล้วหรือยัง“ พี่ชายเอ่ยออกมาอย่างอ่อนโยน แต่ทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่าน้ำเสียงของร่างโปร่งบางตรงหน้าฟังดูเหนื่อยๆยังไงก็ไม่รู้ ไปทำอะไรมานะ ถึงไม่ค่อยได้นอน...ตอนเย็นก็กลับมาที่บ้านด้วยกันทุกวันนี่นา
“ ยังเลยค่ะ ไปทานอาหารเช้ากันดีกว่านะคะ เดี๋ยวจะไปโรงเรียนสาย“ มือเล็กของเด็กสาวจับมือพี่ชายแล้วเดินเข้าบ้านไปพร้อมกัน..........เรื่องราวต่างๆของชายผมเงินไหลเข้าสู่สมองของเธอไปตลอดทาง.....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เสียงออดบอกเวลาพักกลางวันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้อาจารย์ที่ยืนสอนมาทั้งชั่วโมงปิดหนังสือแล้วเดินออกจากห้องไป หลายคนเลือกที่จะเดินเข้าไปจับกลุ่มพูดคุยกันเพื่อหาที่กินข้าวกลางวัน บางคนก็รีบวิ่งแจ้นออกจากห้องเพราะไม่อยากต่อแถวซื้อข้าวนาน แต่เขายังคงนั่งแช่อยู่ที่โต๊ะของตัวเอง ขาเรียวยังคงยกพาดเอาไว้กับโต๊ะ บุหรี่มวนหนึ่งถูกหยิบขึ้นมาสูบหน้าตาเฉย ไม่ได้ใส่ใจเลยว่าจะสร้างสารก่อมะเร็งให้กับคนที่อยู่รอบข้าง นัยน์ตาสีมรกตเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
ที่สนามหน้าโรงเรียนเห็นพี่ชายตัวดีคนหนึ่งกำลังไล่ฟาดเหล่านักเรียนที่คงไปกระตุกต่อมผิดระเบียบอะไรของมันเข้า เหม่อมองภาพนั้นด้วยสายตาปกติราวกับว่านั่นคือกิจวัตรประจำวัน ก่อนที่คิ้วเรียวจะเริ่มผูกเข้าหากัน เมื่อสายตาไล่มองไปที่ประตูหน้าโรงเรียน........รถสีดำคันนั้น......
เวลาเดินผ่านไปจนคาบเรียนช่วงบ่ายกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ร่างบางที่ปล่อยรังสีน่ากลัวเป็นปกติยังคงนั่งอยู่ที่เดิมโดยไม่ได้ลุกไปไหนแม้แต่ก้าวเดียว สายตายังคงจ้องมองไปยังที่หน้าประตูโรงเรียนเหมือนเดิม.....ไม่ผิดแน่.....ไอ้เจ้าของรถคันนั้นมันไม่ใช่แค่ขับผ่านมาแล้วจอดทำธุระอะไรบางอย่าง....แต่มันจอดรอ.....รอ.....
มือเรียวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหาหมายเลขของพี่ชายคนหนึ่ง.....
.......ตรู๊ดดดดดดดดดดด..........
ไอ้บ้านั่นมันยังฟาดคนไม่เสร็จอีกหรอวะ!
นิ้วเรียวเปลี่ยนเป้าหมายไปที่พี่ชายอีกคนหนึ่ง.....
“ คึหึหึ.....” น้ำเสียงที่ไม่อยากจะได้ยินที่สุดดังขึ้นมาตามสาย สร้างความแปลกใจไม่น้อย
“ ทำไมแกเป็นคนรับวะ แล้วไอ้พี่บ้านั่นอยู่ไหน”
“ คึหึหึ....กำลังวุ่นวายกับการรับมือกับเจ้าของร้านดอกไม้น่ะครับ....ส่วนผม...พอดีวันนี้รู้สึกไม่สบายเลยกลับบ้านมาก่อน ฮายาโตะคุงมีอะไรก็น่าจะบอกพี่ชายคนนี้ได้นะครับ” แกนั่นแหละที่ฉันไม่อยากให้รับรู้เรื่องอะไรของฉันมากที่สุด! ไอ้สับปะรดไม่มีหูรูดอย่างแกน่ะ นอกจากจะแบ็กเมล์มันทุกอย่าง มันยังเอาเรื่องของเขาแทบทุกเรื่องไปโพนทะนาให้ชาวบ้านชาวเมืองเค้ารับรู้กันทั่วอีก ขืนให้รู้เรื่องไอ้หมอนั่น...มีหวัง......ชาตินี้เขาคงไม่มีหน้าไปเป็นเจ้าบ่าวให้ใครได้แล้วละ
“ งั้นแกกลับมาที่โรงเรียนเดี๋ยวนี้เลย ฉันมีอะไรต้องทำนิดหน่อย วันนี้แกพาโคลมกลับบ้านด้วยแล้วกัน” รีบสั่งจะได้รีบวาง ไม่อยากคุยกับไอ้พี่บ้าคนนี้เกินความจำเป็นแม้แต่วินาทีเดียว!
“ น้อมรับคำสั่งครับ คุณน้องชายที่รัก...แต่แหม...จะบอกพี่ชายที่แสนดีคนนี้ไม่ได้เชียวหรอว่าจะไปไหนกับใคร?” ไอ้น้ำเสียงอยากรู้เรื่องชาวบ้านเสียเต็มประดาแบบนั้นน่ะ ต่อให้ตายเขาก็ไม่มีทางให้มันรู้เด็ดขาดว่าเขากำลังหนีใครบางคนอยู่!
“ แค่นี้นะ!” รีบกดสายวางไปทันที จากนั้นจึงลุกเดินออกจากห้องโดยที่ไม่สนใจอาจารย์ที่กำลังยืนสอนอยู่ที่หน้าชั้นเลยสักนิด
ขาเรียวก้าวออกไปทางหลังโรงเรียน นึกถึงรถคันสีดำที่จอดดักรออยู่ที่หน้าโรงเรียนแล้วขนก็ลุกเกรียว ใบหน้าคมของหมอนั่นยังคงติดตาจนพาให้ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านไปหมด เขาไม่ได้กลัวมันหรอกนะ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าของไอ้บ้านั่น ถึงแม้จะรู้ว่าเย็นนี้น้องสาวอาจจะตกอยู่ในอันตราย แต่มันอาจจะปลอดภัยกว่าถ้าคนที่เดินอยู่ข้างๆเด็กคนนั้นจะเป็นมุคุโร่หรือพี่ชายคนอื่นๆ
กระโดดขึ้นไปบนกำแพงสูงด้านหลังโรงเรียน ก่อนจะโยนตัวลงไปยังอีกด้าน ที่ปลอดผู้คน เขาเดินไปตามซอยแคบๆอย่างระแวดระวัง เดินไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ
เอี๊ยดดดดดดด!!!
แต่ก่อนที่จะถึงถนนใหญ่อีกเพียงไม่กี่ก้าว เสียงยางรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วบดเบียดกับพื้นถนนทิ้งรอยเบรกเป็นทางยาวกับเสียงดังสนั่น รถสีดำที่ไม่คาดคิดว่าจะเจอก็หยุดอยู่ที่ตรงหน้าพอดิบพอดี
“ ไง...โดดเรียนหรอวันนี้” เสียงทุ้มที่จำขึ้นใจเอ่ยออกมาพร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่ก้าวลงมาจากรถในระยะประชิดตัว ใบหน้าหล่อคมส่งรอยยิ้มที่ดูยังไงก็เจ้าเล่ห์มาให้ รอยแผลเป็นที่ปลายคางปรากฏชัดเมื่ออยู่ท่ามกลางแสงแดดแบบนี้ โกคุเดระเงยหน้ามองอีกคนด้วยสายตาตกตะลึง ก่อนที่จะก้าวถอยหลัง
“ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน ฉันคิดถึงนายจังน้า” แต่ร่างสูงก็ไม่ปล่อยโอกาสให้เหยื่อได้หลุดมือไป มือใหญ่คว้าข้อมือที่เล็กกว่ามากเอาไว้ก่อนที่จะออกแรงลากและโยนร่างบางเข้าไปที่เบาะหลังของรถ ก่อนที่เจ้ารถสีดำคันนั้นจะพุ่งทยานออกไป
“ จอดรถเดี๋ยวนี้นะโว้ย ใครบอกว่าฉันจะไปกับแก!!” ร่างบางที่เด้งตัวขึ้นมาจากเบาะหลัง พยายามก่อกวนคนขับเต็มที่โดยที่ไม่กลัวว่ารถจะวิ่งลงข้างทางเลยแม้แต่น้อย แต่ยามาโมโตะเองก็แข็งแกร่งพอที่จะควบคุมพวงมาลัยเอาไว้ได้อย่างอยู่หมัด
“ เก็บเสียงเอาไว้หน่อยเหอะน่า...คืนนี้นายน่าจะได้ใช้มันอีกเยอะ” ใครจะไปบ้ายอมให้มันทำแบบนั้นเล่า มือบางพยายามเปิดประตูรถแต่ก็ไร้ผล เมื่อล็อคทั้งหมดถูกควบคุมด้วยคนขับแต่เพียงผู้เดียว ไอ้รถคันนี้มันตั้งใจผลิตขึ้นมาเพื่อเอาไว้ลักพาตัวโดยเฉพาะเลยใช่ไหม!
“ หยุดสิวะ!” ร่างเล็กบางก้าวข้ามจากเบาะหลังขึ้นมายังเบาะหน้าข้างคนขับ มือบางพยายามแย่งพวงมาลัยและเบรกมือ จนในที่สุดยามาโมโตะก็ต้องยอมเหยียบเบรกกะทันหัน
“ ถ้าไม่ยอมไปดีๆ ฉันจะเปลี่ยนเป้าหมาย ปล่อยนายลงตรงนี้ก็ได้ แต่ฉันจะกลับไปที่โรงเรียนอีกครั้ง แล้วคราวนี้.....อืม....นายคิดว่าเด็กอย่างมุคุโร่หรือว่าฮิบาริจะทำอะไรฉันได้อย่างงั้นหรอ” คำพูดที่จงใจกระซิบที่ข้างหูทำเอาร่างบางนิ่งเงียบไป
หมัดเล็กกำเข้าหากันแน่น ร่างบางบนเบาะข้างคนขับสั่นน้อยๆอย่างระงับความโกรธ ริมฝีปากสีชมพูเม้มเข้าหากันจนแทบจะเป็นเส้นตรง แต่ภาพตรงหน้ากลับเรียกรอยยิ้มถูกใจจากคนที่นั่งอยู่บนเบาะคนขับได้เป็นอย่างดี ร่างสูงของยามาโมโตะโน้มข้ามมาซุกไซร้ที่ลำคอขาว มือใหญ่ลูบต้นขาด้านในของร่างที่นั่งนิ่งราวกับจะบ่งบอกถึงสิ่งที่ต้องการ
“ เอาไงดีล่ะ...ฮายาโตะ” เสียงเรียกชื่อจริงนั่นถึงกับทำให้กรามขบกันเป็นสันนูน
“ แก.....ไอ้โรคจิต อยากทำอะไรก็เชิญ!” ชีวิตนี้ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาตกอยู่ในสภาวะแบบนี้ กับคนที่เคยแต่ข่มขู่คนอื่นๆและไม่เคยยอมใครมาตั้งแต่เด็ก กลับต้องมาโดนข่มขู่และต้องจำยอมให้เกิดเรื่องอัปยศซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนั้นเสียเอง กับคนที่รักศักดิ์ศรีและหยิ่งผยองกลับต้องโดนย่ำยีด้วยวิธีที่เจ็บปวดที่สุด เจ็บใจ เจ็บใจจนไม่รู้จะทำยังไง....
“ หึหึ....” เสียงหัวเราะในลำคอแสดงถึงความถูกใจ ร่างสูงใหญ่หันกลับไปจับพวงมาลัยอีกครั้ง โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่ากำลังทำลายจิตใจคนข้างๆให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
รถสีดำแล่นเข้าไปยังบ้านแบบญี่ปุ่นหลังหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่ไม้ที่ห่างไกลจากหมู่บ้านในละแวกนั้นพอสมควร ภายในบ้านเงียบเชียบราวกับว่าไม่มีคนอยู่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ก็คงจะไม่มีใครรู้เลย บางที...ที่ใต้ต้นไม้พวกนั้นอาจจะมีศพฝังอยู่มากมายแล้วก็เป็นได้ นัยน์ตาสีเขียวมรกตกวาดมองไปทั่ว หลังจากที่ลงมายืนอยู่ที่ข้างๆรถ ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาชิดด้านหลังทั้งที่ยังไม่ได้ตั้งตัว แขนแข็งแกร่งโอบรัดเอวบางให้ลำตัวแนบชิดกัน ใบหน้าคมซุกไซร้ลงมาที่ซอกคอหอมกรุ่น ถึงบอกว่าจะยอมแต่ร่างบางก็ยังคงดิ้นขัดขืน มือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของร่างในอ้อมแขน
“ ฉันจะยึดไอ้นี่เอาไว้ก่อน....เวลาเราอยู่ด้วยกันคงไม่จำเป็นต้องใช้มัน....” โทรศัพท์มือถือถูกล้วงเอาไป สร้างความเจ็บใจให้เพิ่มมากขึ้น หมอนั่นรู้ทันเขาทุกอย่าง รู้ว่าเขากำลังส่งสันญาณให้พี่ชายคนโตมาช่วย รู้ว่าเขากำลังจะบันทึกภาพและเสียงเอาไว้เป็นหลักฐานว่าถูกมันลักพาตัวมา
เลวร้าย.....นี่เขากำลังถูกผู้ชายที่ร้ายกาจที่สุดคนหนึ่งข่มขู่และขืนใจ....จะทำยังไง....จะทำยังไงถึงจะหลุดไปได้
“ และฉันก็แนะนำนายว่า อย่าคิดที่จะฆ่าฉันเพราะว่ามันไม่คุ้มหรอก” ใบหน้าคมหันกลับมาส่งรอยยิ้มให้ก่อนที่จะไขกุญแจบ้านเข้าไป....มันรู้....มันรู้ว่าเขาคิดที่กำลังจะทำอะไร....เจ็บใจ เจ็บใจนัก....
ร่างเล็กบางยังคงยืนกัดฟันกรอดอยู่ที่เดิม จนคนข้างในบ้านทนไม่ไหวต้องเดินย้อนกลับมายกลำตัวบางที่ต่อต้านสุดฤทธิ์ขึ้นพาดบ่าแล้วตรงดิ่งเข้าไปยังห้องด้านในสุด
คราวนี้เป็นห้องแบบญี่ปุ่น มีเพียงฟูกสีขาวผืนเดียวที่วางอยู่กลางห้อง ร่างบอบบางถูกโยนลงไปที่ตรงนั้น
นัยน์ตาสีมรกตจ้องเขม็งไปยังแผ่นหลังกว้างที่ยืนทำอะไรบางอย่างอยู่ที่ตู้ไม้เตี้ยที่มุมห้อง เชิงเทียนทำจากทองเหลืองดูเก่าแก่อันหนึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากฟูกมากนัก สัญชาตญาณสัตว์ร้ายในตัวส่งให้มือบางคว้าเชิงเทียนแล้วพุ่งเข้าหาร่างสูงที่ยังคงยืนหันหลังให้หมายจะฟาดลงไปที่ท้ายทอย แต่ทว่า....มือใหญ่กลับรับไว้ได้โดยที่ไม่ได้หันมามองเลยแม้แต่น้อย
ยามาโมโตะออกแรงดึงเชิงเทียนเข้าหาตัวทำให้ร่างบางที่จับเชิงเทียนอีกด้านหนึ่งอยู่เซถลาเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน มือใหญ่ฉุดกระชากเชิงเทียนออกจากมือบางแล้วเหวี่ยงทิ้งออกไปไกล ก่อนที่ร่างกายที่แข็งแกร่งกว่ามากจะโอบรัดร่างบางเอาไว้ได้ทั้งตัว จะดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุด
“ จริงๆแล้วฉันไม่ชอบฝืนใจใครนักหรอกนะ นายน่ะเป็นกรณียกเว้นเพียงคนเดียวนี่แหละ” ใช่...เพราะปกติแล้วผู้หญิงมากมายจะเป็นฝ่ายเชิญชวนและยินยอมเขา ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดึงดูด ทั้งอำนาจและฐานะที่ล่อหูล่อตา ไม่ว่าใครๆต่างอยากจะเกี่ยวดองด้วยทั้งนั้น....
“ กะ...แก....ปล่อยนะ! จะทำบ้าอะไร ปล่อย!!” นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างเมื่อเห็นสิ่งที่วางอยู่บนตู้ไม้เตี้ย ขวดยาบางอย่างล้มกลิ้งอยู่ ภายในขวดว่างเปล่าเพราะยาทั้งหมดถูกดูดไปไว้ในเข็มฉีดยาเรียบร้อยแล้ว
“ ฉันชอบเซ็กซ์แบบอ่อนหวาน...เพราะงั้นนายก็ช่วยอ่อนโยนกับฉันหน่อยก็แล้วกันนะ ฮายาโตะ” เข็มฉีดยาหลอดเล็กถูกจิ้มลงไปที่แขนข้างหนึ่ง นัยน์ตาสีมรกตมองมันอย่างตื่นตระหนก แต่ร่างกายก็ไม่สามารถที่จะขยับหนีได้เพราะถูกอีกฝ่ายล็อคตัวเอาไว้ได้หมด ยาในหลอดถูกฉีดเข้าสู่ร่างกายอย่างเชื่องช้า ทั้งๆที่มองเห็นแต่ก็ไม่อาจขัดขืนอะไรได้เลย
“ ไม่ต้องกลัว...มันไม่ใช่ยาเสพติด มันเป็นแค่...ยากระตุ้น” นั่นยิ่งทำให้นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างยิ่งกว่าเก่า เมื่อเริ่มจะรู้แล้วว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเองคืออะไร
เพี๊ยะ!!!
“ ไอ้สารเลว!” เมื่อร่างสูงยอมผ่อนแรงเพียงเล็กน้อย ร่างในอ้อมแขนก็หันกลับมาฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าคมทันที แต่ใบหน้าที่หันไปอีกทางนั้นก็หันกลับมาด้วยรอยยิ้มเย็นและดวงตาสีเปลือกไม้ที่ไม่สะท้อนอะไรดังเดิม
“ ฮะ ฮะ....ถ้างั้น....รอให้นายสงบสติอารมณ์อีกซักหน่อยดีกว่า.....” ร่างสูงใหญ่จงใจกระซิบและเป่าลมอุ่นร้อนลงไปที่ใบหูของอีกฝ่าย ก่อนที่จะเดินหายออกไปจากห้อง
สองมือบางกำหมัดแน่นพยายามข่มใจตัวเองให้ได้มากที่สุด ทั้งๆที่ตอนนี้ร่างทั้งร่างรู้สึกร้อนลุ่มดั่งถูกไฟเผา แค่ปลายนิ้วสัมผัสโดนผิวเพียงเล็กน้อยก็รับรู้ได้ถึงความต้องการที่ถูกปลุกเร้าขึ้นมาอย่างน่ารังเกียจ ภายในห้องนั้นมืดสลัวเพราะประตูบานเลื่อนกรุกระดาษทุกบานนั้นปิดอยู่ ได้ยินเสียงทุ้มแว่วมาจากที่ไหนก็มิอาจจับได้ ถ้อยคำที่ได้ยินนั้นก็แค่คำสั่งงานลูกน้องธรรมดาๆ แต่ร่างกายราวกับกำลังเรียกร้องเจ้าของเสียงนั่น
ใบหน้าสวยมีเหงื่อแตกพลั่ก กับการที่ต้องข่มความต้องการที่อยู่เบื้องลึก....ทรมาน.....
อยากร้องเรียกให้คนด้านนอกเข้ามาช่วย แต่คราวนี้ศักดิ์ศรีที่มีคงป่นปี้จนหมดสิ้น.....ไม่ได้......จะยอมแพ้ไม่ได้.....
“ อึก.....” มือบางขยับช้าๆอย่างสั่นเทา ไปยังเป้าหมายคือส่วนอ่อนไหวกลางลำตัว จิตใจตีกันให้มั่วไปหมด สมองนั้นสั่งการอย่างเต็มที่ว่าห้ามทำ แต่สัญชาติญาณกลับเรียกร้องด้วยความทรมาน
ครืดดดดดด......
นัยน์ตาสีมรกตที่คลอไปด้วยม่านน้ำตาเหลือบมองคนที่เปิดประตูเข้ามา ใบหน้าคมยกยิ้มแบบผู้ที่อยู่เหนือกว่า เดินเข้ามาหาเรื่อยๆ
“ มีความอดทนมากกว่าที่คิดนะเนี่ย....ปกติ เวลาอะไรไม่ได้ดั่งใจก็จะโวยออกมาเลยไม่ใช่หรอ นายน่ะ” ยามาโมโตะคุกเข่าลงตรงหน้าร่างที่นั่งอยู่กับพื้นแต่ไม่ยอมแตะต้อง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ส่งให้อีกฝ่ายราวกับกำลังเย้าแหย่
“ อึก....” มือบางสั่นระริกอย่างระงับความต้องการที่กำลังแผดเผาสติสัมปชัญญะให้สูญหาย
“ อะ.....” ร่างกายร้อนผ่าวสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆลมหายใจอุ่นๆก็ปะทะเข้ามาที่ใบหู เล่นเอาความต้องการที่กดลงต่ำพุ่งทะยานสูงขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ สองมือใหญ่จงใจลูบไล้สะโพกมนผ่านเนื้อผ้ากางเกงนักเรียนสีเข้ม
“ ช่วยแสดงความน่ารัก ด้วยการร้องขอให้ฟังหน่อยสิ” ยามาโมโตะนั่งลงกับพื้นก่อนที่จะดึงร่างบางให้ตามมานั่งคร่อมอยู่ที่หน้าตัก
“ มะ....ไม่....” น้ำเสียงนั้นสั่นพร่า แต่ว่าใบหน้าสวยแดงระเรื่อนั้นก็ยังคงแสดงถึงความดื้อรั้นจนถึงที่สุด
“ อ้า....ยอมแพ้เลยแหะ แต่ยิ่งดื้อฉันยิ่งชอบ....เพราะมันไม่เบื่อง่ายดี”
“ แก....อะ....ไอ้....อ๊ะ” มือใหญ่สอดเข้าไปในเสื้อเชิ้ตลูบไล้แผ่นหลังเนียน ความร้อนจากฝ่ามือยิ่งส่งผลให้ความต้องการยิ่งพุ่งสูงขึ้น ริมฝีปากสีชมพูจึงพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้เสียงครางน่ารังเกียจหลุดรอดออกมา
“ อื้อ...” ใบขณะที่ริมฝีปากบดเบียดเข้าหาด้วยใช้กำลังบังคับ สองมือใหญ่ก็ปลดเครื่องคลุมกายร่างบางทิ้งอย่างไม่เร่งร้อน
“ แฮ่ก....อ๊ะ....” เมื่อริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระก็เมื่อร่างกายขาวที่แดงระเรื่อด้วยฤทธิ์ยานั้นเปลือยเปล่า การปลุกเร้าจากคนที่ช่ำชองทำให้สติที่พยายามรั้งเอาไว้เริ่มจะขาดหายไป ความรุ่มร้อนและความต้องการเริ่มเข้ามาครอบงำร่างกาย
“ มะ...ไม่....อื้อ....” จูบที่เร่าร้อนเริ่มชักจูงร่างบางอีกครั้ง นัยน์ตาสีมรกตปรือมองใบหน้าคมที่แนบชิดกันอยู่ด้วยแววตาเหมือนคนขาดสติ ความร้อนจากมือใหญ่ที่เคล้นคลึงตามร่างกายส่งผลไปยังส่วนอ่อนไหวที่เริ่มจะระงับความต้องการไม่อยู่นั้นเริ่มตั้งชัน ส่วนปลายเริ่มมีความชื้นแฉะไหลปริ่มออกมา สองมือใหญ่จับรั้งสะโพกมนยกให้สูงขึ้น ร่างบางจึงคุกเข่าคร่อมร่างสูงอยู่
“ อื้อ...อ๊ะ...” ในขณะที่ริมฝีปากถูกละออกมานิ้วเรียวยาวก็สอดเข้าไปที่ช่องทางคับแคบด้านหลัง ให้ร่างบางผวาเข้ากอดร่างกายแข็งแกร่งที่นั่งอยู่แทบไม่ทัน สองแขนเล็กโอบกอดไปรอบลำคอใบหน้าสวยซบอยู่ที่ไหล่กว้าง
“ อยากได้มากกว่านี้ไหม....” น้ำเสียงทุ้มยังคงเอ่ยออกมาอย่างใจเย็น ร่างในอ้อมแขนนั้นแดงระเรื่อและร้อนลุ่ม
“ ไม่.....อ้า......” ถึงแม้จะยังดื้อดึงแต่เสียงครางก็เริ่มจะหลุดออกมาจากการควบคุมมากยิ่งขึ้น นิ้วเรียวยาวรับรู้ถึงความอ่อนนุ่มและร้อนลุ่มของผนังด้านในที่บีบรัดเข้ามาจนแน่นเริ่มขยับอย่างเชื่องช้า เน้นย้ำ และเรียกร้องความต้องการของร่างบางให้เพิ่มมากขึ้น.....จนในที่สุด
“ อ้า....ลึก....อ่ะ....” ถ้อยคำที่ยามาโมโตะตั้งใจคอยอย่างใจเย็นเริ่มจะหลุดออกมาแล้ว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏที่ริมฝีปาก
“ งั้นนายต้องอ้าขาออกอีกหน่อยนะฮายาโตะ” แล้วเจ้าลูกแมวน้อยก็ยอมทำตามแต่โดยดี เรียวนิ้วสอดเพิ่มเข้าไปอีก เสียงครางเครือยิ่งหลุดลอดออกมามากขึ้น ดูท่าทางฤทธิ์ยาจะกระตุ้นอารมณ์จนอยู่เหนือสติได้อย่างสมบูรณ์
“ อ้า....” นัยน์ตาสีมรกตหวานเชื่อมไร้แววแห่งความดื้อดึง ร่างบางที่เร่าร้อนกำลังขยับตามจังหวะที่แกนกายใหญ่สอดใส่เข้าหา เสียงครางแห่งความสุขสมดังก้องกังวานไปทั่วบ้าน จนในที่สุดความหนักหน่วงรุนแรงของร่างกายที่ขยับเข้าหากันมาเนิ่นนานก็ยุติลงเมื่อแรงกระแทกครั้งสุดท้ายได้ปลดปล่อยความอบอุ่นแผ่ซ่านของหยดน้ำสีขาวขุ่นเข้าไปในร่างกายขาวผ่อง
“ ฮ้า.....” ความเหนื่อยล้าของทั้งจิตใจและร่างกายที่ต่อสู้กันมานานทำให้ความรู้สึกทั้งหมดดับวูบลง ร่างบางสลบไสลลงไปในอ้อมแขนแกร่งที่รองรับอยู่แทบจะทันที
มือใหญ่เกลี่ยปอยผมสีเงินให้พ้นใบหน้าหวานที่หลับพริ้ม....สวย.....และหอมหวานยิ่งกว่าใครๆที่เคยพบเจอ....ยิ่งเสพก็ยิ่งติด....
ถ้าร่างบางในอ้อมแขนคนนี้รู้ว่า...เป้าหมายของเขาไม่ใช่เด็กผู้หญิงคนนั้น แต่เป็นเจ้าของนัยน์ตาสีมรกตคนนี้ตั้งแต่แรกล่ะ......
เขาจะโดนเจ้าลูกแมวตัวน้อยนี่ขู่ฟ่อยังไงบ้างนะ....
และที่สำคัญ......จะบอกเจ้าพี่ชายคนโตนั่นว่ายังไงดี.....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
แบบนี้นี่เอง......
ใบหน้าน่ารักของเด็กสาวเหลือบมองใบหน้าสวยของพี่ชายคนเล็ก.....ก็ไม่แปลกใจหรอกนะที่คนอย่างยามาโมโตะ ทาเคชิ จะหลงใหลพี่ชายคนนี้ของเธอ...บุคลิกน่ารังแกซะขนาดนั้น....ถึงแม้พี่ฮายาโตะจะไม่รู้ตัวก็เถอะ....ไม่งั้นพี่ชายคนรองของเธอจะชอบแกล้งแหย่เล่นเป็นประจำหรอ
“ จริงสิโคลม...ใกล้จะสอบแล้วนี่ คืนนี้พี่ติวให้เอาไหม” พี่ชายผมเงินถามออกมาเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้
“ ไม่เป็นไรค่ะ...พี่ฮายาโตะควรจะนอนพักผ่อนให้เยอะๆนะคะ เดี๋ยวจะหมดแรงเอาซะก่อน” ....เพราะว่าพล็อตแค่นี้ยังไม่พอที่จะเอามารวมเล่มได้หรอกค่ะ มันต้องยาวกว่านี้และก็คิดว่ายามาโมโตะ ทาเคชิน่าจะทำได้ด้วย จะมีก็แต่พี่นี่แหละว่าจะไหวหรือเปล่า....
ในขณะที่อีกคนนั้นกำลังซาบซึ้งน้ำตาแทบจะไหลพรากเพราะคิดไปว่า........โคลม คงจะห่วงพี่มากเลยสินะ....ช่างเป็นเด็กดีจริงๆ.....
ในขณะที่ร่างบางผมสีเงินกำลังจูงมือน้องสาวไปกินข้าวเช้าอยู่นั้น....
สายตาเหลือบไปเห็นที่สวนเล็กๆของอีกเรือนหนึ่งที่ตั้งแยกออกไป เป็นอาคารแบบญี่ปุ่นที่ดูยังง๊ายยังไงก็ไม่เข้ากับส่วนอื่นๆของบ้านเลยซักนิด แต่ไอ้เจ้าของมันก็ยังดันทุรังสร้างไปโดยไม่สนใจสายตาประชาชีที่ต่างมองไปยังส่วนที่ไม่เข้าพวกนั่นแบบแปลกๆเลยแม้แต่น้อย ก็ในเมื่อกฎของมันคือข้าเป็นใหญ่ แล้วใครจะไปทำอะไรมันได้ล่ะ....
อ้อ...อาจจะยกเว้นอยู่คนนึง.....
ที่ชานระเบียงของเรือนหลังนั้น เจ้าของมันซึ่งก็คือพี่ชายคนกลางของเขากำลังนั่งป้อนอาหารนกตัวป้อมสีเหลืองอ๋อยทั้งๆชุดยูกาตะสีดำสนิท แล้วข้างๆกันนั่นก็มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลารูปร่างสูงใหญ่ที่แขนซ้ายมีรอยสักดูน่าเกรงขามซึ่งหมอนี่เป็นถึงหัวหน้าแก๊งค์ค้าม้าข้ามชาติ(?) กำลังจับตะเกียบคีบอาหารป้อนพี่ชายตัวดีนั่นอีกทอดหนึ่ง....
มีความสุขกันจริงจริ๊ง......เห็นแล้วมันน่าอิจฉาตายละ!!!
“ คิก คิก....” ได้ยินเสียงเล็กๆของน้องสาวหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นภาพนั้น อ้า...ช่างเป็นเด็กที่น่ารักจริงๆ นี่คงกำลังคิดถึงนิยายความรักหวานแหววแบบเด็กผู้หญิงอยู่สินะ....ไอ้แนวแบบว่า...ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม....อะไรแบบนี้สินะ.....น่ารักจริงๆ....
“ ไปกันเถอะ อย่าไปสนใจพวกมันเลย” เขากระชับมือน้องสาวที่น่ารัก....ฉันจะไม่ยอมให้ไอ้ผู้ชายสารเลวหน้าไหนมาแตะต้องเธอได้! ถึงแม้จะต้องแลกด้วยอะไรฉันก็ยอม!
“ ค่ะ” น้องสาวที่แสนดีจูงมือพี่ชายเดินไป....ทั้งๆที่ในใจ.........อืม...หรือว่าจะเขียนภาคสองของ “บันทึกของพี่ชายคนกลาง” ออกมาต่อดีนะ......
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ซึ ซึ คู๊.....
ยังจะมีต่ออีกเร๊อะ!
ฮะ ฮะ....ถ้าเคลียร์ ไหให้มีพื้นที่ได้ ก็อยากจะเขียนซีรี่ย์ “บันทึกของพี่ชาย” นี่ให้ครบทุกคู่อยู่หรอกน้า....โดยเฉพาะพี่ชายคนรองนี่...คันมือยิกๆเลยค่ะ555
(เท่าที่จิ้นอยู่ มันเหมือนจำลอง 6927 จากแฝดพี่มาเลยแหละ คุณมุแบบลื่นเป็นปลาไหลกับทูน่าแอบร้าย เหอ เหอ...)
เอ๊ะ.....ไม่ใช่เวลาจะมาพูดเรื่องนี้สิ....มันต้อง.....
HAPPY BIRTHDAY YAMAAAAAAA!!!!
หุหุ....ขอให้มีความสุขมากๆเน้....
ยามะเนี่ย...เป็นตัวละครที่น่าสนใจมากกก เพราะว่าเป็นคนที่ดูแล้วจะมีหลายบุคลิก
เพราะงั้นวันเกิดยามะทั้งที ยัยหม่ามี๊ว่างงาน(เร๊อะ) เลยปั่นฟิกรุ่นแยกแยะบุคลิกยามะมาให้อ่านเล่นๆกัน ^ ^
4 เรื่องเอ๊ง....
ยามะแบบ.....หล่อเลว ดาร์กโฉด เจ้าเล่ห์และหื่น ^ ^”...................ก็เรื่องนี้แหละ
ยามะแบบ.....อ่อนโยน อบอุ่น รักโดยไร้ข้อโต้แย้ง........................... สิ่งที่เรียกว่าหัวใจ
ยามะแบบ.....เอ๋อเนียน ดาร์กเนียน สองบุคลิก แอบรั่ว.................... Alice in Vongola world
ยามะแบบ.....รันทด เศร้าโศก น่าสงสาร ฮืออออ T^T.....................PiERROT
ละ....แล้วก็อย่าลืมไปอ่านกันด้วยล่ะ >//////<
“บันทึกของพี่ชาย” << ว๊ากกกกกกก อยากได้เลยค๊าา
ตอบลบถ้าแต่งนี่คงน้ำตาไหล 55555555
อยากอ่านบันทึกของพี่ชายคนกลาง โอ้ว
น้องโคลมจังส่งมาซะดีๆ !!
ยามะหื่น เล่นยากันเลยที่เดียว 55
อร๊ายยย
ตอบลบโคลมเธอเป็นสาววายสินะ 5555+
กระโดดกอด >_______< ชอบยามะ
ขำพ่อค้าม้าข้ามชาติ จิ้นเป็นทอดๆฉากๆเลยค่ะ ป้อนกันเนี่ย เขินนน><
ตอบลบยามะน่ารักอีกแล้ว แบบนี้แหละค่ะน่ารัก จริงๆนะ 5555555555
มุคุรั่วทำไมสัปป้าปากโทรโข่งขนาดที่ก๊กไม่ไว้ใจ 5555 เอ๊ะนั่นไม่ใช่ประเด็น
ตอบลบประเด็นอยู่ที่ไอ้ตัวดาร์กที่ถึงขนาดเล่นยาเนี่ยแหละ คุณพระ
แต่ฉากก็โฮกมากค่ะหลังจากนั้น
อยากอ่านบันทึกพี่ชายคนกลางจังเลย พ่อม้ากับแม่นก หนูโคลมเจ้จองซักเล่มสิคะ