Tsurune. One-Shot.Fic [Shuu x Minato] หรือรักเรียกหา : 38 : END
:
Tsurune ; kazemai koukou kyudou-bu Short Fanfiction
:
Fujiwara Shuu x Narumiya Minato
:
Warmhearted
:
NC-17
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
[ชู คืนวันสิ้นปีฉันคงอยู่กับนายไม่ได้แล้วละ
ที่ชมรมตกลงกันว่าจะไปช่วยงานที่ศาลเจ้าของมาสะซังน่ะ...ชู...โอเคใช่ไหม?]
[ต้องใส่ชุดนักบวชด้วยใช่ไหม?]
[.....รู้ได้ยังไงเนี่ย?]
[พอดีฉันมีสปาย]
[....เรียวเฮสินะ]
[มินาโตะไปช่วยงานที่ศาลเจ้าเถอะ]
[ยอมง่ายๆเลยเหรอ?]
[เพราะฉันจะไปหามินาโตะที่ศาลเจ้าเอง]
[ว่าแล้วเชียว]
[ฉันชอบชุดนักบวช]
[ที่มินาโตะใส่]
[....เจ้าหมอนี่]
[จิตใจที่คิดเรื่องอกุศล เทพเจ้าจะไม่ให้พรปีใหม่นะ]
[ถ้าอย่างนั้นฉันคงไม่ได้พรมาหลายปีแล้วละ
เพราะฉันอยู่กับมินาโตะทุกปีเลยนี่นา]
[ชู...]
และนั่นก็คือข้อความในแชทที่คุยกันเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
ก่อนที่ตอนนี้นารุมิยะ
มินาโตะในชุดนักบวชซึ่งเป็นกิโมโนสีขาวกับฮากามะสีฟ้าจะมายืนช่วยตักเหล้าหวานอยู่ในซุ้มหนึ่งของศาลเจ้ายาตะ
ที่จริง...เขาก็ไม่คิดว่าชูจะยอมง่ายขนาดนี้...เพราะช่วงนี้เขาไม่ค่อยอยู่บ้าน
ไม่ค่อยมีเวลาให้ชูเท่าไหร่ เขาต้องไปทำงานพิเศษเพื่อหาเงินเข้าชมรม
ก็นะ...ถึงจะไปแข่งระดับประเทศมาแต่ก็ใช่ว่าโรงเรียนรัฐอย่างโรงเรียนของเขาจะมีงบให้มากมาย
ช่วงปิดเทอมฤดูหนาวถ้าอยากเก็บตัวซ้อมอย่างสบายๆจึงต้องช่วยกันหาเงินค่าใช้จ่ายบางส่วนด้วยตัวเอง
สมาชิกทุกคนในชมรมเลยแยกย้ายกันไปทำงานพิเศษแล้วเอาเงินที่ได้มารวมกัน...การที่มาช่วยศาลเจ้าในวันนี้มาสะซังก็บอกว่าจะให้ค่าขนมด้วย
ที่ผ่านมาชูเลยค่อนข้างจะงอแงพอสมควร
หลายครั้งที่ไม่ยอมปล่อยเขาออกจากบ้าน และอีกหลายครั้งที่ไปนั่งเฝ้าเขาถึงที่ทำงานพิเศษ
จะจ่ายค่าจ้างให้เขาเองโดยไม่ต้องทำอะไรเลยก็มี
จะให้เขาไปทำงานที่บ้านตัวเองก็มี...สารพัดที่จะงอแงได้
ใบหน้ามนอมยิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าเย็นชาแบบงอนๆของชู...ก็น่ารักอยู่เหมือนกันนะ?
เขาเงยหน้ามองผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาในศาลเจ้า...อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะปีใหม่แล้ว…
คนที่มาไหว้พระขอพรและรอเคาต์ดาวน์ในคืนข้ามปีจึงเนืองแน่นเกือบจะเต็มลานหน้าศาลเจ้า
ต่อให้อากาศหนาวจนเกือบจะติดลบก็ไม่หวั่น
เขามองเหล่าผู้คนที่ต่างสวมเสื้อโค้ทหนายืนเอาฝ่ามือถูกันด้วยสายตาอ่อนโยน
ในซุ้มแจกเหล้าหวานของศาลเจ้าเองก็วุ่นมากเช่นกันจนเขาตักใส่แก้วไม่ทั่วไม่ทัน
และถ้าถามหาสาเหตุ…มันก็มีอยู่นะ
ว่าทำไมซุ้มเหล้าหวานของเขาถึงได้ฮอตฮิตขนาดนี้ทั้งที่ปกติแล้วคนก็ไม่ถึงกับมากมาย
ดวงตาสีเขียวเหลือบมองมือใหญ่ที่ยื่นมารับแก้วกระดาษ…เป็นรอบที่เท่าไหร่ของคืนนี้กันแล้วเนี่ย!
“ชู…ยังจะดื่มอีกเหรอ?”
ใบหน้ามนหรี่ตามองคนที่พยักหน้าตาใส
ก็เจ้าหมอนี่นี่แหละที่ทำให้คนมาต่อแถวซุ้มเหล้าหวานของเขายาวเป็นหางว่าว! แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นสาวๆ!
ถึงจะมีทั้งสาวน้อยและสาวใหญ่รุ่นลายครามอย่างพวกป้าๆน้าๆอาๆที่มาขอพรก็เถอะ!
ดวงตากลมใสตวัดมองคนที่รับแก้วไปด้วยใบหน้าไม่รู้ไม่ชี้...ก็จะไม่ให้ใครก็อยากมอง
อยากรู้อยากเห็น อยากอยู่ใกล้ได้ยังไง...ในเมื่อแฟนหนุ่มของเขาในวันนี้ดูดีมาก~
ชูไม่ได้มาแบบชุดไปรเวทเสื้อโค้ทธรรมดาทั่วไป
แต่ร่างสูงสง่านั่นใส่ชุดฮากามะสีดำแบบพิธีการมาเต็มยศ ตราประจำตระกูลฟูจิวาระก็เด่นหราอยู่บนแผ่นอกและหัวไหล่
ทั้งใบหน้าหล่อเหลานั่นก็ยังอยู่ภายใต้กรอบผมสีชาที่เซตมาอย่างดี
ต่อให้คนส่วนใหญ่ในเมืองนี้จะรู้จักฟูจิวาระ ชู แต่นี่ก็เป็นฟูจิวาระ ชูที่ดูชั้นสูงแตกต่างจากตอนปกติอย่างเห็นได้ชัด
แค่ได้มองใกล้ๆก็รู้สึกใจเต้นแล้ว มีหรือใครจะไม่อยากแย่งกันมอง
ฮึ่ม!
จะแต่งหล่อแบบนี้มาทำไม? จะแต่งหล่อแบบนี้มาเพื่ออะไร? มันแอบหวงนะ!!
ใบหน้ามนได้แต่ถอนหายใจให้กับเจ้าคนที่ยังไม่รู้สึกรู้สาอะไร...ก็นะ...ชูเคยสั่นคลอนเสียที่ไหน
เขามั่นใจได้แหละว่าดวงตาสีม่วงคู่นั้นจะมองแค่เขาคนเดียว...บางทีมันยังชัดเจนเกินไปด้วยซ้ำ...
“ถึงเหล้าหวานจะไม่ทำให้เมาแต่ดื่มเยอะขนาดนี้ก็ไม่น่าจะดีไหม?” เสียงนุ่มพูดกับคนตรงหน้า
“อื้ม ดีใจจังที่มินาโตะเป็นห่วง” ชูยิ้มบางๆและไม่มีทีท่าว่าจะออกจากแถวไปเสียที
“ไม่ห่วงนายแล้วจะให้ฉันไปห่วงใครล่ะ ชูนี่จริงๆเลย ไปนั่งรอเฉยๆก็ได้ไหม”
“เหล้าจะได้หมดไวๆ มินาโตะจะได้เลิกงานสักที
นี่ถ้ามันไม่ใช่ของแจกฉันคงเหมาหมดไปตั้งแต่เมื่อหัวค่ำแล้ว” น่ารำคาญจริงๆ
สายตานายบอกว่างั้นนะชู เจ้าคนนิสัยเสียนี่
“แล้วมารับเหล้าเองแบบนี้ก็ได้เห็นมินาโตะในชุดนี้ด้วย…”
ชูมองเขาตาเชื่อมปรอย รู้แล้วว่าชอบมากน่ะ อ้า~ น่าอายชะมัดเลย เพราะงั้นทุกครั้งที่ถึงคิวของชู
หน้าเน้อเขาถึงได้แดงไปหมดเพราะสายตาคลั่งรักที่ไม่มีปิดบังนั่น
“นี่...
ฉันต้องปักป้าย ‘ห้ามจีบนักบวช’ ไว้ตรงนี้ไหม?
รับเหล้าแล้วก็เดินไปสักทีเถอะชู” แล้วก็เป็นเซยะที่เข้ามายืนกอดอกคิ้วกระตุกขัดขวางได้ทุกรอบไป
จู่ๆก็รู้สึกหนาวที่ไขสันหลังทั้งยังรับรู้ว่ามีกระแสไฟแล่นเปรี๊ยะอยู่รอบๆ? เอ๋?
ฝนจะตกเหรอ? ถึงได้มีฟ้าแล่บแปร๊บๆ?
ก็ยังคงมีเพียงเขา
ที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น...
“ชู! รอนานไหม?” ในที่สุดเหล้าหวานก็หมดได้สักที...ทั้งที่มันไม่เคยหมดมาก่อนในประวัติการณ์
เขาได้แต่ยิ้มแห้งในใจเมื่อพวกลุงๆป้าๆที่ช่วยกันทำเหล้าอยู่ในครัวต่างบ่นกันระงมเมื่อวัตถุดิบที่เตรียมไว้นั้นหมดเกลี้ยงไม่เหลือเหรอ
ทั้งๆที่ก็เตรียมเท่านี้มาทุกปีแล้วมันก็ไม่เคยหมดเลยสักปี เรียกว่ามีพอเลี้ยงทุกคนจนกว่าจะพ้นคืนนี้ไปด้วยซ้ำ
ฟูจิวาระ
ชู ยังคงสร้างตำนานในทุกวงการต่อไป...
“.....”
ชูส่ายหน้าในขณะที่นั่งรอเขาอยู่ที่ขอบกระถางต้นไม้ต้นหนึ่ง
ร่างโปร่งบางจึงรีบวิ่งกระหืดกระหอบไปหา
“ดีจังที่ยังไม่เปลี่ยนชุด” ชูพูดด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข...ก็เพราะรู้ว่านายชอบยังไงเล่า...เขาซุกซ่อนคำพูดนั้นไว้ในใจ
เดี๋ยวเจ้าตัวชูนี่จะได้ใจ!
ชูตวัดอ้อมแขนแข็งแรงมาดึงเอวเขาเข้าไป...ก่อนจะซบใบหน้าลงมา...
ไออุ่นที่ส่งมาจากชูทำให้เขาลืมความหนาวเหน็บจากอุณหภูมิที่เกือบจะติดลบนี่ไปเลย
ท่อนแขนบางจึงโอบกอดรอบคอของคนที่ยังนั่งอยู่หลวมๆ
“รู้สึกเหมือนกำลังทำเรื่องผิดบาปที่แสนหอมหวานอยู่เลย”
ชูพูดทั้งที่ยังไม่ละใบหน้าออกมาจากแผ่นอกของเขา...หมายถึงที่มากอดนักบวชของศาลเจ้าแบบนี้น่ะเหรอ?
“ไม่ใช่ว่าเคยทำยิ่งกว่ากอดหรือไงนายน่ะ...” เขาหรี่ตาก้มมองใบหน้าอมยิ้มของชูที่กำลังเงยมองขึ้นมา
เขายังจำได้นะว่าถูกอุ้มขึ้นรถไปทำอะไรต่อมิอะไรทั้งๆที่ยังอยู่ในชุดนักบวชแบบนี้!
“คืนนี้ก็ทำแบบนั้นกันอีกดีไหม?” ใบหน้าที่เงยมองมาจากแผ่นอกของเขาพูดหยอกเย้า
“เดี๋ยวเถอะ” สองแขนบางกอดรัดหัวสีชานั่นอย่างหมั่นเขี้ยว
“ไปขอพรกันไหมชู? ปีที่แล้วก็ไม่ทันได้ขอพรด้วยนี่นา”
เพราะชูป่วยจนมาช้าและเขาก็เอาแต่ร้องไห้จึงไม่ได้ขอพรปีใหม่ด้วยกันเลยปีที่ผ่านมา
“อื้ม
เอาสิ” หัวสีชายังคงกอดแนบอยู่กับแผ่นอกของเขา
ชูนี่ชอบกอดเขาจริงๆ กอดแล้วยังทำหน้ามีความสุขขนาดนี้ใครจะไปผลักไสลง
“ได้ยินว่าศาลเจ้ายาตะขึ้นชื่อเรื่องความรักพอตัวเลยนะ” ใบหน้าหล่อเหลาเล่าให้ฟัง
“เอ๋?
เหรอ? ไม่เคยรู้มาก่อนเลย?” เขาอุทานอย่างแปลกใจ
“อื้ม
แอบฟังมาจากคนที่ต่อแถวรับเหล้าหวานอยู่ใกล้ๆน่ะ เค้าบอกว่าคู่รักมักจะมาขอพรที่นี่...ในคืนข้ามปี”
“ว้าว~
ไม่เห็นมาสะซังจะเคยบอกเลย” จะว่าไปเขาก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าศาลเจ้าของมาสะซังขึ้นชื่อเรื่องไหน
ปกติแล้วแต่ละศาลเจ้ามักจะมีเทพเจ้าที่ประจำอยู่ไม่เหมือนกัน
และเทพเจ้าแต่ละองค์นั้นก็มีความถนัดไม่เหมือนกันจึงบันดาลพรได้ต่างกันอย่างที่เห็น
“......คงกลัวว่ามินาโตะจะมาขอพรกับฉันละมั้ง
ทาคิกาว่าซังนั่น...” ชูพูดอะไรพึมพำทำให้เขาได้ยินไม่ถนัดนัก?
“หื๋ม?”
“เปล่าหรอก
ไม่มีอะไร ถ้างั้นก็ไปขอพรกันเถอะ”
ชูลุกขึ้นยืนก่อนจะแบมือให้เขาจับไว้
ความร้อนจากฝ่ามือของชูส่งผ่านมาถึงใบหน้าของเขาได้ยังไงกันนะ
เขาอมยิ้มบางๆก่อนจะก้าวขาเดินไปพร้อมกับชู
ยิ่งใกล้เที่ยงคืนแถวที่ต่อเพื่อขอพรก็ยิ่งยาว
พวกเขาเองก็เป็นหนึ่งในแถวนั้นเช่นกัน
และมันก็เป็นจริงดังที่ชูเล่าให้ฟัง...ในแถวล้วนเป็นคู่รัก...ไม่ก็สามีภรรยา?
เขายืนกรอกตาไปมาปลายหูรู้สึกร้อนผ่าว...
นี่เขากับชูกำลังยืนอยู่ท่ามกลางคู่รัก แล้วที่ทำให้เลิ่กลั่กไปใหญ่นั่นก็เพราะคู่รักหนุ่มสาวเหล่านี้ดูเหมือนจะอยู่ในวัยทำงาน?
ดูเป็นผู้ใหญ่ที่กำลังสร้างครอบครัวมากกว่าจะเป็นคู่รักใสๆวัยมัธยมปลายอย่างพวกเขา
ขนาดชูเองยังรู้สึกเกร็งจนต้องเงยหน้ามองฟ้าเป็นระยะๆเลย...
“วันนี้เป็นวันต่อแถวของนายรึไงกันนะชู?” เขาชวนชูคุยเพื่อทำลายความขัดเขิน
“แต่ฉันดีใจนะ
เพราะได้ยืนต่อแถวกับมินาโตะ” แต่ชูก็ดันทำให้เขาเขินหนักกว่าเดิมไปอีก
เขาขยับมือที่จับกันไว้ภายใต้ชายแขนเสื้อกิโมโนไปตีสีข้างของชูเบาๆ
แต่ใบหน้าหล่อเหลานั่นกลับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“อ้าว? พ่อหนุ่มที่ตักเหล้าหวานนี่นา
ที่มาช่วยมาซากิซัง ใช่ไหม?” จู่ๆก็มีเสียงทักดังขึ้นจากข้างๆเขาจึงหันไปมอง
อ้อ คุณป้าแม่ครัวที่ต้มเหล้าหวานนี่เอง!
“ครับ มาสะซังให้เลิกงานได้แล้วครับ ผมเลยมาต่อแถวขอพร” เขายิ้มให้คุณป้าที่กำลังเดินถือถุงดำซึ่งเต็มไปด้วยแก้วเปล่าที่เคยใส่เหล้าหวาน
คงกำลังเดินเก็บขยะกันอยู่?
“งั้นเหรอ ดีแล้วๆ” คุณป้ายิ้มอย่างใจดี
“พ่อหนุ่มรู้ไหม? ศาลเจ้านี้ขึ้นชื่อเรื่องการขอเด็กมากเลยนะ
เพราะงั้นคู่สามีภรรยาเลยชอบมาขอให้มีลูกกันน่ะช่วงปีใหม่แบบนี้” แล้วจู่ๆคุณป้าก็พูดสิ่งที่ทำให้เขาสตั๊นไปห้าวินาทีออกมา
ห๊ะ?
ห๊ะ~???
ขอลูก?
ขอลูกเนี่ยนะ?!
ไม่ใช่ขอให้รักสมหวังแต่เป็นขอลูก???!
ปุ้ง!
อย่างกับมีอะไรระเบิดอยู่บนใบหน้า!
ถึงว่าคู่รักที่ยืนต่อแถวกับเขาถึงได้ดูมีอายุกันแล้ว
ที่แท้ก็มาขอลูกนี่เอง!
“เอ่อ…ครับ…” เขาตอบคุณป้าตะกุกตะกักเหมือนตุ๊กตาที่ลานพังจากแรงระเบิด
ดวงตากลมใสเหลือบไปมองคนข้างๆและแทนที่ชูจะเขินเหมือนเขาแต่เจ้าหมอนี่กลับกำลังอมยิ้มอย่างพึงพอใจ...
แขนบางจึงกระทุ้งสีข้างไปหนึ่งที...ยิ้มอะไร~
“ไว้ปีหน้าก็พาแฟนมาขอลูกที่นี่สิ” คุณป้า~~ เขาเขินจนอ้าปากพะงาบๆ แต่ชูกลับชะโงกหน้ามาตอบคุณป้าแทน
“แฟนน่ะ วันนี้เขาก็พามาอยู่แล้วครับ” คุณป้าถึงกับชะงักไป
ดูจะไม่ได้ตกใจเรื่องที่เขาพาแฟนมาเท่าไหร่แต่ดูจะตื่นเต้นที่ได้เห็นหน้าชูใกล้ๆเสียมากกว่า
ก็นี่มันพ่อหนุ่มรูปงามขวัญใจพี่ป้าน้าอาแถวนี้เลยนี่นา
“ตายจริง งั้นเหรอ งั้นก็อย่าลืมขอลูกสาวลูกชายน่ารักๆซักคนนะ”
คุณป้าตบไหล่เขาปุๆก่อนจะเดินจากไป ท่านคงคิดไม่ถึงหรอกว่า
“แฟน” ที่ว่าน่ะก็คือเจ้าคนที่ยืนอยู่ข้างๆนี่แหละ!
“เอ่อ…ครับ…ขอบคุณครับ”
เขาโค้งให้ก่อนจะตวัดตามองเจ้าคนที่ยืนอมยิ้มอารมณ์ดีอยู่ข้างๆ
น่าหมั่นไส้จริงเชียว รู้เลยนะว่าคิดเรื่องลามกอะไรอยู่!
“มินาโตะ”
“หื๋ม?”
“อยากได้ลูกชายหรือลูกสาวล่ะ? จะได้ขอพรให้ตรงกัน”
แขนบางเลยได้กระทุ้งสีข้างไปอีกทีแต่ชูกลับหัวเราะเบาๆอย่างชอบใจ
นี่ไม่ได้รู้อยู่แล้วใช่ไหมเนี่ย? เขาชักจะไม่ไว้ใจเจ้าคนเจ้าเล่ห์นี่แล้ว!
“สรุปเมื่อกี้มินาโตะขอลูกสาวหรือลูกชายไป?”
ดวงตากลมใสถึงกับค้อนขวับใส่คนที่เดินยิ้มอยู่ข้างๆ
พวกเขาเพิ่งจะขอพรเสร็จและตอนนี้ก็กำลังเดินลงบันไดหินหน้าศาลเจ้าเพื่อรอดูพลุวันปีใหม่
“ยังจะมาแซวอีก” ดูชูจะชอบใจที่หยอกเย้าเขาได้
กลายเป็นคนนิสัยเสียแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ แย่แล้วสิ
พวกเขาเลือกขอบรั้วกั้นถนนที่อยู่ห่างไกลจากผู้คนประมาณหนึ่ง
จากตรงนี้ยังสามารถมองเห็นทั่วทั้งเมืองได้อยู่เพราะอยู่บนภูเขา
แสงไฟนัวๆของบ้านเรือนถูกเคลือบไว้ด้วยละอองหิมะที่โปรยปรายลงมาเกิดเป็นภาพที่สุดแสนจะโรแมนติก
ถึงจะหนาว...แต่หากเรามีคนรักคอยยืนเคียงข้าง
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็มีเพียงความสวยงามเท่านั้น
เขาเป่าไอสีขาวออกไปจากปากในขณะที่มองทิวทัศน์ดั่งภาพวาดที่อยู่เบื้องล่าง
เขายังรับรู้ได้ตลอดเวลาว่าชูไม่ได้ละสายตาไปจากหน้าเขาเลย
ชอบมองอะไรขนาดนั้นกันนะ?
“ปีนี้…ฉันก็ยังขอพรให้ได้ยิงธนูกับชูตลอดไป” เสียงนุ่มเอ่ยทั้งที่ยังมองไปเบื้องหน้า
สิ่งที่เขาขอต่อเทพเจ้ากลายเป็นเรื่องของชูตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ขอเรื่องของตัวเองมาพักใหญ่แล้ว
นี่ก็คงจะบ่งบอกได้ว่าชูสำคัญต่อเขาขนาดไหน
“.........” ชูใช้ความเงียบแทนปากกาไฮไลท์
คำพูดที่ออกมาพร้อมกับลมหายใจสีขาวจึงถูกเน้นย้ำอยู่ในใจของเขาอย่างชัดเจน
“ไม่ว่าจะปีนี้หรือปีไหนๆ พรทุกข้อที่ฉันขอได้ก็ยังคงเป็น มินาโตะ
อยู่เหมือนเดิม” ชูพูดมันออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
พลุลูกแรกที่ถูกส่งขึ้นฟ้าฉาบไล้แสงละมุนละไมไว้บนใบหน้าหล่อเหลา มันยิ่งทำให้ทั้งประโยคนั้นเป็นยิ่งกว่าคำสารภาพรัก
“ชู…” หัวใจของเขามันคงจะถูกแช่แข็งอยู่ในฝ่ามือของชูตลอดไป
มันจะไปรักใครได้อีก? มันจะเปลี่ยนแปลงไปได้ยังไง?
ในเมื่อชูยังเอาแต่ทำให้มันหลงรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่แบบนี้
“หนาวไหม? มายืนตรงนี้สิ” ชูดึงเขาเข้าไปในอ้อมแขนก่อนจะกอดจากข้างหลัง
แค่ไออุ่นที่แผ่มามันก็กลบทับความหนาวได้หมดแล้ว
แต่ชูก็ยังปกป้องทะนุถนอมเขาโดยใช้เสื้อฮาโอริที่ตัวเองสวมอยู่ห่อตัวเขาไว้
“ไม่กลัวคนอื่นเห็นรึไงเนี่ย?”
เขาหัวเราะคิกคักอยู่ภายใต้อ้อมแขนของชู
ปลายคางของชูจึงวางลงมาบนหัวของเขาก่อนจะคลึงคลอเคลียเบาๆ
“เห็นก็ดีสิ แต่น่าเสียดายที่มันมืดขนาดนี้” ดวงตาทั้งสองคู่ต่างจับจ้องไปยังพลุปีใหม่ซึ่งเบ่งบานตระการตาเต็มน่านฟ้า
เรายืนดูมันอยู่ด้วยกัน...ถึงจะเงียบงัน...แต่ก็เพราะว่าอยู่ด้วยกันไม่ใช่เหรอ...ถึงได้เห็นโลกที่สวยงามเช่นนี้...
เสียงพลุดังขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางผู้คนที่ต่างก็ส่งเสียงชื่นชม
ทว่า...ลมหายใจของชูกลับร้อนขึ้นเรื่อยๆจนเขารู้สึกได้...?
คงไม่ได้จะเป็นไข้เหมือนปีที่แล้วหรอกนะ?
ถึงฮาโอริที่ชูสวมอยู่จะเป็นฮาโอริสำหรับฤดูหนาวที่ถูกตัดเย็บมาอย่างดี
แต่ชูก็ออกมายืนตากหิมะอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บนี่มาตั้งแต่หัวค่ำแล้วไม่ใช่หรือไง
“ชู...ไม่สบายหรือเปล่า?
ไม่ได้ตัวร้อนใช่ไหม? ไม่ต้องรอดูพลุต่อแล้วก็ได้นะ กลับบ้านไหม?”
เขาหันหน้าไปมองคนที่ยังกอดเขาจากด้านหลังอย่างห่วงใย
แต่ดูเหมือนชูจะทำให้ความเป็นห่วงของเขานั้นเสียเปล่า
เมื่อใบหน้าหล่อเหลากลับตอบมาด้วยรอยยิ้มและสายตาเชื่อมปรอยแปลกๆ?
“จริงอยู่ที่ฉันไม่สบายตัว
แต่ไม่ใช่เพราะเป็นไข้หรอก มินาโตะอยากรู้ใช่ไหม?”
ใบหน้าของชูราวกับเคลือบไว้ด้วยไอร้อน เขาจึงตอบกลับไปอย่างมึนงง
“เอ๊ะ?
อื้อ? เป็นไรเหรอ?” แล้วฝ่ามือใหญ่ก็กดลงแถวหน้าท้องของเขา...ให้ร่างกายท่อนล่างแนบชิดไปกับร่างกายของชูที่รองรับอยู่ด้านหลัง...
“อ๊ะ!”
เขาถึงกับอุทานออกมาเมื่อถูกเจ้าแท่งอะไรบางอย่างนาบลงมาแถวร่องก้น
ต่อให้เนื้อผ้ากางเกงฮากามะของเขาและชูจะหนาขนาดไหนแต่ความร้อนดั่งเหล็กไหลลนไฟนั่นก็ยังทะลุผ่านมาได้
มันทำให้รอยแดงลุกลามขึ้นบนใบหน้าเขาโดยไว
“นี่!
เดี๋ยวสิ ทำไมถึง...”
ปกติก็ไม่ใช่คนหื่นไม่เลือกที่แบบนี้นี่นา!
“ก็ฉันเป็นฮีตเตอร์รุ่นปรับระดับได้ของมินาโตะ
แล้วคืนนี้มันก็หนาวมาก เลยต้องเพิ่มความร้อนกันหน่อย จุ๊บ” ชูจูบเขาที่ข้างแก้มก่อนจะคลอเคลียเบาๆ อ๊า~
เจ้าฮีตเตอร์น่าไม่อายนี่!
“...ได้กอดมินาโตะ
ได้กลิ่นมินาโตะอยู่ใกล้ๆ คิดว่าฉันจะทนไหวได้ยังไงกัน”
ชูพูดพึมพำพร้อมกับซบใบหน้าลงบนลาดไหล่ของเขาอย่างออดอ้อน
ถึงไอร้อนที่ชูแผ่ออกมาจากร่างกายจะทำให้เขาอุ่นมากในคืนที่หนาวเย็นแบบนี้ก็เถอะ
แต่จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปก็ไม่ได้ไหม ต่อให้พลุจะสวยงามแค่ไหน
แต่ใครจะยังมีกระจิตกระใจดูมันได้อีก...
“ชู...กลับกันไหม?” เขากระซิบชวนเบาๆ
“เอางั้นเหรอ?” ชูตะแคงหน้ามามองเขาจากแถวๆซอกคอ
“อื้ม
รอฉันไปเปลี่ยนชุดแป๊บนึงนะ”
เขาทำท่าจะละออกมาจากอ้อมแขน แต่มือใหญ่กลับฉุดรั้งกันเอาไว้
“ฉันรอนานขนาดนั้นไม่ไหวหรอกมินาโตะ”
เสียงทุ้มเอ่ยออกมาพร้อมกับดึงมือเขาให้เดินตาม
“เอ๊ะ?
จะไปไหนน่ะ? นี่ ฉันต้องไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ ชู”
ร่างสูงสง่าก้าวขายาวๆเดินนำเหมือนคนกำลังเร่งรีบ...ซึ่งเขาก็เข้าใจได้
แต่นี่เขายังอยู่ในชุดนักบวชที่ยืมมาจากศาลเจ้าอยู่เลยนะ
แน่นอนว่าต่อให้เขาจะพยายามขืนตัวเองไว้ไม่ให้ก้าวไปตามแรงลากแค่ไหนมันก็ไม่เป็นผลเลย
ดูเป็นคุณชายบอบบางแท้ๆแต่ดันแรงเยอะอย่างไม่น่าเชื่อ...
เงาร่างทั้งสองของพวกเราเดินผ่านผู้คนนับพันที่ยังแหงนคอมองพลุที่กระจ่างเต็มท้องฟ้า
ชูยังคงตั้งหน้าตั้งตาเดินลงเนินต่อไปและยิ่งไกลจากศาลเจ้าผู้คนก็เริ่มบางตา
ทีแรกเขานึกว่ารถของบ้านฟูจิวาระจะจอดรออยู่ที่ถนนด้านล่าง
แต่เปล่าเลย ชูไม่ได้พาเขาไปที่รถ แต่กลับจูงมือเขาเดินเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งซึ่งไม่ได้ไกลจากศาลเจ้านัก...
มีชายในชุดสูทสีดำสองคนยืนดูแลความเรียบร้อยอยู่หน้าบ้านและหนึ่งในนั้นก็เปิดประตูให้พวกเขา
“นี่บ้านใครน่ะ?” เสียงใสเอ่ยถามพลางมองไปรอบๆบ้านหลังกระทัดรัดที่ไม่มีใครอยู่สักคน
มันดูธรรมดามากเกินกว่าจะคิดได้ว่าเป็นบ้านของพวกฟูจิวาระ
“เป็นเกสเฮ้าส์ที่ฉันจองเอาไว้เผื่อได้ใช้น่ะ
ไม่คิดว่าจะได้ใช้จริงๆ”
ชูหันมายิ้ม...เผื่ออะไรล่ะ!
นายจงใจและวางแผนเอาไว้หมดแล้วสินะ!
“เดี๋ยวก่อนชู
ฉันต้องกลับไปเปลี่ยนชุด~”
เขาพยายามขืนแรงที่ยังคงลากให้เขาเดินตามแม้จะเข้ามาในบ้านแล้ว
ครืด~
ชูเปิดประตูก่อนจะดึงเขาเข้าไปในห้องนอนที่มีฟูกปูรอไว้อยู่แล้ว
เขาไม่รู้เลยว่าชูหยิบโทรศัพท์ออกมาตอนไหน เห็นอีกทีร่างในชุดฮากามะสีดำนั่นก็กำลังโทรสั่งการใครบางคนอยู่
“ครับ
ช่วยเอาชุดที่เตรียมไว้ไปคืนทางศาลเจ้าที บอกว่าชุดที่นารุมิยะคุงใส่คงจะเปื้อนมาก
เลยส่งชุดที่สั่งตัดมาใหม่นี้มาให้แทน” เขาได้แต่ยืนอ้าปากค้าง “เปื้อน” อะไรกันเล่า!
คนเจ้าแผนการ!
“ชู...นี่มันชุดที่สองแล้วนะที่ไปเอาของศาลเจ้ามา...” เขามองคนที่กำลังกดปิดโทรศัพท์อย่างคาดโทษ
“แต่ฉันก็ซื้อใหม่ไปคืนให้หมดเลยนะ” ชูหันมาตอบตาใสอย่างน่าหมั่นไส้
นายจะสะสมชุดนักบวชพวกนี้เอาไว้ทำไมไม่ทราบ!
“มินาโตะน่ะ
ไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องพวกนั้นหรอก...”
จู่ๆชูก็ขยับมาใกล้ ชูตวัดกอดเอวเขาก่อนจะดึงเข้าไปหา
ปลายนิ้วยาวเชยปลายคางของเขาให้เงยหน้าขึ้นรับสายตาเร่าร้อนที่จ้องมองมา
ชูขยับใบหน้าเคลื่อนผ่านแก้มของเขาไปโดยทิ้งลมหายใจร้อนผ่าวไว้เป็นทาง ทุกการเคลื่อนไหวล้วนดึงดูดสายตาของเขาให้มองตาม
มันทำให้เริ่มจะหายใจไม่ทั่วท้อง...โดยเฉพาะเสียงเซ็กซี่ที่พร่ำกระซิบยามเมื่อริมฝีปากแตะอยู่ที่ใบหู
“มินาโตะน่ะ...คิดแค่ว่า...จะผ่านคืนนี้ไปได้ยังไงน่าจะดีกว่า?”
“อึก...” สองแก้มของเขาร้อนเป็นไฟราวกับถูกใครราดน้ำมันก๊าดลงมา
จะถอยหนีตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วเพราะริมฝีปากของชูกำลังกดจูบซุกไซร้อยู่ตามแก้มและซอกคอ
มันเป็นดั่งกรงขังแสนหวาน...ที่ทำเอาทั้งร่างสั่นสะท้าน
“ชู
จั๊กจี้~” เขาพยายามจะห่อไหล่และดันตัวหนีแต่ริมฝีปากนิ่มๆเหมือนเยลลี่ที่กดแตะลงมาตามลำคอกลับทำให้รู้สึกดีจนใจเต้นตึกตัก
ชูรู้ว่าจะจู่โจมเขาตรงไหนให้อ่อนระทวยไร้ทางต้าน
เขาจึงทำได้แค่เงยหน้ารับรอยจูบที่พร่างพรมลงมาราวกับห่าฝนนั้นอย่างเคลิบเคลิ้ม
สองขาจู่ๆก็ยืนไม่ไหวจึงต้องทิ้งกายลงไปในอ้อมแขนที่พร้อมรอรับอยู่แล้ว
นั่นสินะ
เขาควรจะห่วงสวัสดิภาพของตัวเองมากกว่าชุดนักบวชของศาลเจ้าจริงๆ!
เสียงจุ๊บๆคละเคล้าไปกับเสียงสวบสาบชวนสงสัย
แท่งเนื้อร้อนเป็นไฟที่เขารู้ดีว่ามันคืออะไรกำลังบดเบียดอยู่ที่ต้นขาทั้งที่ยังใส่กางเกงฮากามะทั้งคู่
ไม่สิ...ชูกำลังถูมันกับต้นขาของเขาต่างหาก...
ใบหน้าแดงระเรื่อชายตามองพลางหายใจหอบ
ชูดูลามกกว่าปกติ? เพราะชุดที่เขาใส่อยู่นี่น่ะเหรอ?
“ชอบ
อึก...ขนาดนั้นเลยเหรอ...อื้อ~”
เอวบางถูกสองมือใหญ่รวบก่อนจะยกตัวเขาขึ้นไปนั่งอยู่บนหลังตู้เตี้ยซึ่งวางชิดติดผนัง
ชูขยับใบหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์มาจ้องหน้าเขาก่อนจะเอ่ยออกมา
“ผู้ชาย...คงชอบที่จะทำให้สิ่งที่ดูบริสุทธิ์ผุดผ่องต้องแปดเปื้อนด้วยมือของตัวเองมั้ง?
มินาโตะก็ต้องระวังไว้ด้วยล่ะ”
....ฉันระวังแค่นายก็พอมั้งชู? ...เพราะหมาป่าหิวโหยที่จ้องจะจับเขากินอยู่ตลอดเวลาก็มีแค่ชูคนเดียวนั่นแหละ!
“อื้อ~” ใบหน้าหล่อเหลายังตามมาซุกไซร้ซอกคอเขาไม่ห่าง
แผ่นหลังบางถูกดันจนแทบจะจมหายไปกับผนัง
ทั้งริมฝีปากทั้งอ้อมแขนกอดนัวเนียจนเขาไม่รู้ตัวเลยว่า
ชูปลดโอบิและเชือกฮากามะของเขาออกตอนไหน?
เพราะงั้นตอนนี้ทั้งชุดที่เขาสวมอยู่จึงคลายออกจากกันเหมือนกล่องของขวัญที่ถูกแกะโบว์
แต่ชูก็ไม่ได้ถอดมันออกจนหมด...
แค่ปล่อยให้ทั้งชุดหลุดรุ่ยอยู่แบบนั้น...
“ฮ้า...”
เขาไม่กล้ามองหน้าชูที่กำลังเผยอริมฝีปากน้อยๆเพื่อหอบหายใจอย่างตรงไปตรงมาเลย
จึงทำได้แค่แอบช้อนตามองคนที่กำลังยืนอย่างมั่นคงอยู่ตรงหน้า มองมือใหญ่จับข้อเท้าที่เล็กกว่ามากของเขาซึ่งยังอยู่ในถุงเท้าก่อนจะค่อยๆดึงขาขาวให้หลุดออกจากกางเกงฮากามะ
เขามองชูที่กำลังถอดเสื้อผ้าของเขาอย่างเอียงอาย
ชั่วพริบตาชูก็ดึงขาเปลือยเปล่าของเขาขึ้นไปพาดบ่า...แล้วภาพตรงหน้าก็ทำให้สองแก้มของเขาแดงยิ่งกว่าลูกมะเขือเทศ!
จ๊วบ!
“อ๊ะ?!” ชูจูบที่ต้นขาด้านใน! แล้วก็ไม่ใช่แค่จุ๊บธรรมดา
เพราะแค่ชูละใบหน้าออกไปเขาก็มองเห็นรอยสีกุหลาบได้อย่างชัดเจน
“แฮ่ก...แฮ่ก...”
ดวงตากลมใสถึงกับสั่นสะท้านเมื่อรอยจูบพวกนั้นยังเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างต่อเนื่อง...ทุกครั้งที่ริมฝีปากร้อนของชูจรดลงไปบนผิวเนื้อนิ่มของเขา...มันก็ราวกับไฟปรารถนาถูกปลุกเร้า
มันทำให้แกนกายของเขาชูชันขึ้นมาอย่างน่าอาย
ฮื้อ~
แค่ถูกจูบเองเนี่ยนะ ทำไมเขาห้ามตัวเองไม่ได้เลยก็ไม่รู้~
ทั้งๆที่โดนกัด...
ก็ควรจะเจ็บ... แต่ดันมีอารมณ์ขึ้นมาซะได้... น่าอายชะมัด... แง้~
ชูยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นแกนกายสั่นระริกอยู่ใต้ชายเสื้อกิโมโนสีขาว
มีน้ำปริ่มซึมออกมาแน่นอนว่าชุดมันคงจะ เปื้อน อย่างที่ชูว่าไว้จริงๆ...
ดวงตากลมใสจึงมองเจ้าคนที่ทำให้มันเป็นแบบนั้นอย่างแค้นเคือง
ชูปลดเชือกรัดฮากามะสีดำของตัวเองด้วยใบหน้าที่ยังนิ่งเฉย
ทว่า ลมหายใจร้อนๆที่พ่นออกมากับรอยแดงนิดๆบนแก้มก็พอจะบอกได้ว่าชูไม่ได้สงบเยือกเย็นอย่างที่ตาเห็น
แล้วเขาก็ชอบมองชูที่เป็นแบบนั้นเพราะเขาที่สุด
มันเหมือนกับมีคลื่นลาวาไหลอยู่ใต้น้ำที่ถูกเคลือบไว้ด้วยความเย็นชา
ชูในเวลาแบบนี้ดูเซ็กซี่มาก~ในสายตาเขา
ฟึ่บ
มือใหญ่ปล่อยให้กางเกงฮากามะสีดำหล่นลงไปกองอยู่ที่พื้น
ตามมาด้วยโอบิที่เคยรัดกิโมโน...ตอนนี้...ชูเลยยืนอยู่โดยมีเพียงกิโมโนสีดำคลุมไหล่อยู่เท่านั้น
เขามองภาพตรงหน้าพร้อมกับความร้อนวูบวาบที่แล่นไปทั่วร่างกาย
แผ่นอกที่แข็งแกร่งนั่นเป็นของเขา...กล้ามหน้าท้องที่แข็งแรงก็เป็นของเขา...ต้นขาที่เต็มแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อลงไปจนถึงฝ่าเท้าเปลือยเปล่าที่เหยียบยืนอยู่บนเสื่อทาทามิก็เป็นของเขา...เรือนร่างที่หล่อเหลาขนาดนี้เป็นของเขาทั้งหมด...
แน่นอนว่าสิ่งที่กระแทกตาเขามากที่สุดก็คงไม่พ้น
“เจ้าชู(ที่ไม่)น้อยนั่น” ซึ่งตั้งตระหง่านดูคักคึกพร้อมสู้ศึกเต็มที่
เขาถึงกับลอบกลืนน้ำลาย...ไม่ใหญ่ไปเหรอเนี่ย~
ร่างกายเขารับเจ้าของแบบนี้เข้าไปได้ยังไงกันนะ? เขาสงสัยตลอดมาและคงจะตลอดไปจริงๆ
ชูไม่ปล่อยให้เขารอนาน
มือใหญ่ดึงสะโพกของเขาเข้าไปหา โคนขาจึงแทบจะแนบชิดไปกับต้นขาของชู...
ดวงตาสีเขียวเสมองพื้นอย่างเอียงอายเมื่อความเป็นชายที่ร้อนระอุนั่นทิ่มลงมาที่หน้าท้อง
ชูหยิบซองอะไรบางอย่างออกมาจากแขนเสื้อรุ่มร่าม...ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันคืออะไร...
“อื้อ~”
เจลหล่อลื่นเหนียวหนืดแตะลงที่ปากทางเข้าด้วยปลายนิ้วยาว
แฮ่ก...เขาถึงกับต้องพ่นลมร้อนออกไปจากปาก เป็นเพราะว่าทำท่านี้ด้วยหรือไงนะ เขาถึงได้เห็นทุกขั้นทุกตอนอย่างชัดเจนขนาดนี้...
“มินาโตะ...ตกลงที่ขอพรเมื่อกี้...ได้ขอลูกสาวหรือลูกชายไปล่ะ?”
จู่ๆชูก็ถามขึ้นมาจากใบหน้าที่กำลังอดทนอดกลั้นสุดๆของชู ปลายนิ้วสอดใส่เข้าไปจนข้างในเริ่มชุ่มโชกไปด้วยเจล
“เอ๊ะ?” เขาถึงกับงง กว่าจะเข้าใจว่าชูหมายถึงเรื่องที่ศาลเจ้าก็ใช้เวลาไปหลายวินาที
แต่เพราะสองสามนิ้วที่ขยับเข้าๆออกๆอย่างเสียวกระสันทำให้เขาไม่มีสติพอจะตอบอีกต่อไป
ชูขยับโน้มตัวมาจูบตามแก้มตามขมับอย่างเอาใจทั้งที่มือยังชักนิ้วเข้าออกไม่หยุด
“ฉันจะได้จัดให้...ตามที่มินาโตะขอ” ชูยกยิ้มจูบเขาด้วยสายตาเย็นๆแบบนั้นนั่นแหละ...และนั่นมันก็น่ากลัวมากสำหรับเขา~
“อะ
อะไร?...” กึดดด
“อื้อ~” ปากทางเข้าเผลอขมิบรัดนิ้วทั้งสามเมื่อจู่ๆปลายนิ้วกลางก็ดันไปสะกิดจุดที่ไม่ควรจะไปสัมผัสเข้าเล่นเอาเขาแทบจะกระตุกไปทั้งร่าง
“ฮู่ว....” ชูเองก็เช่นกัน
เพราะถูกเขารัดเอาแบบนั้นคงจะทนไม่ไหวแล้ว...
นิ้วทั้งสามถูกดึงออกมา
เจลใสๆเหนียวหนืดยืดเชื่อมต่อจนเขาต้องเสสายตาหลบเพราะความอาย
“มินาโตะ...ฉันเข้าไปนะ”
ชูจ้องเอาๆไปที่ปากทางเข้าซึ่งชุ่มเยิ้มจนเขาเป็นฝ่ายอายแทน
และดูท่าว่าหากเขายังไม่ตอบอะไรออกไปชูก็คงจะจ้องมองมันอยู่แบบนั้น อ้า~เจ้าคนน่าไม่อาย~
ใบหน้ามนจึงผงกเบาๆ
แต่ชูกลับทำเป็นไม่เห็น มือใหญ่จับเจ้าแท่งเนื้อนั่นถูไปมากับปากทางเข้า
น้ำสีขาวขุ่นของชูที่เอ่อล้นออกมาผสมปนเปกับเจลหล่อลื่นส่งเสียงแจ๊ะๆน่าอาย
ยิ่งผิวสัมผัสเฉอะแฉะในขณะที่ส่วนหัวมันแตะกับปากทางเข้าของเขายิ่งทำเอาอยู่ไม่สุข
มันเหมือนส่วนนั้นของเขากำลังดูดดึงชูเข้ามายังไงอย่างงั้น
ฮึ่ม
จะต้องให้เขาพูดให้ได้เลยใช่ไหมเจ้าคนขี้แกล้ง!
“สะ
ใส่เข้ามาไหม...ชู...” เขาพูดพร้อมกับหอบหายใจ
ช่องทางที่เคยถูกนิ้วทั้งสามขยายอาไว้ก็รู้สึกวูบโหวงและต้องการอะไรมาเติมเต็ม
มันชุ่มเยิ้มไปด้วยเจลและเสียงแฉะๆพวกนั้นก็ดังก้องอยู่ในหู
ชูยิ้มก่อนจะยื่นหน้ามาจูบเขาอย่างเอาใจ
ปลายลิ้นสอดใส่เข้ามาพัวพันยิ่งเพิ่มเสียงแฉะๆน่าอายพวกนั้นให้ในท้องน้อยเขาเสียววูบไปหมด
ใส่...เข้ามาสักทีเถอะเขาจะทนไม่ไหวแล้ว~
ชูละใบหน้าออกไปก่อนจะแนบหน้าผากตนไว้กับหน้าผากของเขา
นัยน์ตาสีม่วงชี้ชวนให้นัยน์ตาสีเขียวเหลือบลงไปมองเบื้องล่าง...
“...ดูสิ...มินาโตะ...ฉัน...กำลังเข้าไปในตัวนาย...” มัน...กำลังเข้ามาจริงๆ...เขามองส่วนหัวนั่นผลุบหายเข้าไปในตัวเขาด้วยใบหน้าร้อนผ่าว
มองแท่งเนื้อสีแดงระเรื่อและเต็มไปด้วยเส้นเลือดนั่นค่อยๆสอดใส่เข้ามา...ขยับหายเข้ามาเรื่อยๆ...เรื่อยๆ
“เหมือนมินาโตะกำลังกลืนกินเจ้านั่นของฉันอยู่เลย”
ชูหยอกเย้าก่อนจะหัวเราะเบาๆสวนกับลมหายใจร้อนๆที่ปล่อยอออกมา อ๊า~
อย่าพูดได้ไหม เขาเพิ่งเคยเห็นตอนชูเอาเข้ามาแบบจะๆคาตาเป็นครั้งแรก
เขาอายจนแดงไปทั้งหัวแล้วเนี่ย
“อึ้ก” จู่ๆชูก็กระแทกเข้ามาสั้นๆให้เขาได้สะดุ้งเล่น
ปากทางสีแดงจัดรัดของชูแน่นจนคนที่ยิ้มอยู่ถึงกับขมวดคิ้ว
“อย่าเพิ่งรัดสิมินาโตะ
หื๋ม” ชูขยับมาจูบขมับเขา
แฮ่ก...ตัวเองเป็นฝ่ายเริ่มก่อนแท้ๆนะ!
แรงกระแทกเมื่อกี้เล่นเอาช่องท้องเสียววูบ
ฝ่ามือบางจำต้องกำผ้าสีฟ้าของกางเกงฮากามะซึ่งกลายเป็นผ้ารองนั่งไปแล้วเพื่อระบายความเสียวซ่านจนแขนเล็กสั่นระริกไปหมด
ชูยังคงกดแกนกายเข้ามาเรื่อยๆราวกับจะไม่มีวันสิ้นสุด
ใบหน้ามนจึงเงยพิงผนังไว้เพื่อผ่อนลมหายใจ
ขนาดที่ใหญ่โตของชูมันเต็มแน่นจนทำให้ถึงได้เลยถ้าเขาไม่ตั้งสติเข้าไว้ แต่ชูก็ชอบทำลายความตั้งใจของเขาตลอด~
“อ๊ะ
อื้อ!” มือใหญ่จับโคนขาที่อ้ากว้างของเขาก่อนจะกดเน้นๆเอาส่วนที่เหลือเข้ามาจนหมดในครั้งเดียว
ฮ้า...เสียวจนแทบจะปล่อยใส่หน้าไปแล้วเนี่ย!
หัวสีชาซบลงมาบนไหล่ก่อนจะพ่นลมหายใจร้อนๆลงไป
ชูกำลังสะกดกลั้นความต้องการและรอ...ให้เขาพร้อมก่อน?
บ้าเอ้ย
โคตรดีเลย!
นั่นคือคำสบถที่ดังก้องอยู่ในหัวของคุณชายแห่งตระกูลฟูจิวาระ
ไม่ใช่คำพูดของนารุมิยะ มินาโตะผู้แสนเรียบร้อยและอ่อนโยน
ฮ้า...เหมือนของของเขาถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยสำลีเปียกๆที่ร้อนรุ่ม
ปกติอวัยวะเพศของผู้ชายก็แตะแทบไม่ได้อยู่แล้ว แต่นี่...มินาโตะกำลังบีบรัดมันจากทุกทิศทุกทาง...กำลังขย๋ำมันตามจังหวะที่มินาโตะหายใจ
ฮู่ว...สองแขนจำต้องหยัดกายเท้าขอบโต๊ะเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลาซึ่งซบอยู่บนลาดไหล่บอบบางขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างหาได้ยาก
เขาต้องบังคับตัวเองแค่ไหนไม่ให้ทั้งร่างสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกดีจากการสอดใส่เข้าไปในร่างกายของมินาโตะ
เขาต้องเก็บซ่อนมันไว้ไม่ให้มินาโตะรู้ว่าเขาแทบจะทนไม่ไหวแล้ว
เขาไม่อยากเสียฟอร์มต่อหน้ามินาโตะเลยจริงๆ
ฮ้า...เขาพยายามผ่อนคลายและอดทนไว้
พยายามไม่นึกถึงฝั่งฝันแต่หันมาดื่มด่ำกับทุกย่างก้าวที่แทรกกายเข้าไปแทน
ฮ้า...แต่มันดีจนไม่อยากขยับเลยแหะ
ดูเจ้าผนังไร้เดียงสานั่นสิ มันยังสั่นกระตุกรัดเขาเบาๆไม่หยุด
ฮ้า...อยากจะฝังเอาไว้...ให้อยู่แบบนี้ตลอดไปเลยก็ยังได้
ไม่ขยับเสียดีไหม?
แค่กอดรัดแล้วใส่มันไว้เฉยๆเขาว่าเขาก็โอเค
ฮึ...แต่ดูเหมือนจะมีคนไม่โอเคนะ?
ก็ดูสิ...ผนังภายในของมินาโตะกำลังบีบรัดเขาอย่างลุกลี้ลุกลนเมื่อเขาไม่ยอมขยับสักที
ฮ้า...อย่าทำแบบนี้สิมินาโตะ
นายจะโดนหมาป่าขย้ำด้วยความหิวโหยเอาได้นะ
เขายังคงกดหัวสีชาลงไปบนลาดไหล่บาง
เบื้องล่างยังคงนิ่งค้างอยู่เช่นเดิม คนที่อดรนทนไม่ไหวจึงเอ่ยถามตะกุกตะกัก
“ชะ
ชู? มะ ไม่ขยับ...เหรอ?...” ดวงตากลมใสปรายมองเขา ทั้งร่างกายของมินาโตะสั่นระริกไปหมด
เขาจึงแกล้งถามออกไป
“อยากให้ขยับเหรอ?” เขาแสร้งเอียงคอใสซื่อ
แล้วมินาโตะก็แสดงกิริยาแสนน่ารักออกมาตามที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด
“......” ใบหน้ามนเม้มปาก สองคิ้วยู่ย่นเข้าหากัน
สองแก้มก็พองลมขึ้นเรื่อยๆ
“ฉันน่ะ...อยากจะอยู่แบบนี้ตลอดไปเลยนะ
อยากจะอยู่โดยมีมินาโตะโอบกอดไว้ อยู่ในตัวมินาโตะ” หัวของเขายังคงซบอยู่บนไหล่บาง
เขาจึงเงยหน้าสบตากับมินาโตะที่ก้มลงมาจากตรงนั้น
“ตะ
แต่ว่า...”
คนขี้อายทำอะไรไม่ถูกแล้วตอนนี้
มินาโตะเองก็คงจะเริ่มทนไม่ไหวแต่ก็ขี้อายเกินกว่าจะบอกให้เขาทำนู่นทำนี่ตามใจตัวเอง
“ไม่ได้เหรอ?” เขาแกล้งอ้อน
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาก็คงจะใส่เข้าไปทันทีแล้วทดสอบความอดทนด้วยการขยับอยู่ในนั้นให้นานที่สุด
แต่พอทำกันบ่อยเข้า เขาก็ค้นพบว่าการทำให้มินาโตะบิดเร่าเพราะอยากให้เขาใส่เข้าไปหรือขยับแรงๆนั้นก็เป็นอะไรที่น่าอภิรมย์ยิ่งกว่า
“มะ
อื้อ ไม่ได้สิ” มินาโตะหอบหายใจและใบหน้าที่เว้าวอนโดยไม่รู้ตัวก็ยั่วเย้าเขามาก
จนเขาจ้องมองใบหน้านั้นไม่วางตา
“....งั้นก็ช่วยไม่ได้ละนะ
นี่...มินาโตะ...ฉันมีเรื่องที่อยากทำกับมินาโตะอยู่ ขอลองหน่อยได้ไหม?” เขากระซิบเสียงเซ็กซี่ที่ใบหูแดงก่อนจะหยัดกายถอยห่างออกมา
ปล่อยให้มีเพียงเบื้องล่างที่ยังเชื่อมต่อกัน
“เอ๋?”
“กอดคอฉันไว้สิ” มินาโตะคล้องสองแขนบางมากอดรอบคอเขาอย่างมึนงง
ฮึบ
แล้วร่างสูงสง่าก็อุ้มร่างโปร่งบางขึ้นในท่ายืน...โดยที่ส่วนนั้นยังสอดใส่ไว้
“อ๊า~~
ทำอะไรเนี่ยชู?!”
มินาโตะร้องเสียงหลง จากที่กอดคอเขาหลวมๆกลับกอดแน่นในทันที
แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่อ้อมแขนที่รัดเขาแน่น...
“อึก...” เขาถึงกับต้องกัดฟัน
บ้าไปแล้ว!
นี่มันดีโคตรๆเลย!
ทั้งน้ำหนัก
ทั้งอาการตื่นกลัว ทั้งการไม่รู้ตัวมาก่อนของมินาโตะ ทำให้ร่างบางเผลอกดตัวเองลงมา
ความเป็นชายของเขาจึงยิ่งเข้าไปลึกกว่าปกติมาก แถมมันยังรัด...สุดๆ...
“อะ
อ้า” มินาโตะกอดเขาตัวสั่นระริก
ฮ้า...ลมหายใจแห่งความกระหายที่เขาพ่นออกไปคงจะร้อนจนเอาไปหมุนหัวจักรไอน้ำได้
เขายันตัวมินาโตะไว้กับผนัง
ถึงมินาโตะจะเบาจนเขาอุ้มไปทำไปได้
แต่เขาก็กลัวว่าช่วงท้ายๆจะรั้งสติไว้ไม่ไหวจนโซเซล้มลง
เดี๋ยวมินาโตะจะเป็นอันตราย
“ชู~ มันจะไม่ตกเหรอ
อื้อ~” มินาโตะยังคงกอดคอเขาไว้ด้วยความกลัว
มินาโตะจะไม่มั่นใจก็ไม่แปลกเพราะนี่คือครั้งแรกที่เรามีเซ็กซ์กันในท่ายืนจริงๆ
“ไม่ตกหรอก...” เขาตอบด้วยรอยยิ้มของผู้ล่า
มินาโตะที่ไร้ทั้งทางสู้และทางหนีมองเขาราวกับลูกกวางน้อยที่กำลังจะโดนจับกิน
“แต่ถ้าตกลงมาแบบนี้...นั่นคือความตั้งใจของฉันเอง”
จู่ๆเขาก็ผ่อนแรงมือที่จับโคนขานิ่มในจังหวะเดียวกับที่เบื้องล่างกระแทกสวนเข้าไป
ทั้งร่างกายและสะโพกของมินาโตะต่างก็โยกคลอนจนปะทะเข้ากับผนัง
“อื้อ~! มันเข้ามา! ละ ลึกไปแล้วชู~~” มินาโตะสั่นพั่บๆแต่ก็ทำได้แค่ตวัดสองขามากอดเอวเขาเอาไว้
พอมาอยู่ในท่านี้จึงเห็นส่วนที่ยื่นนูนขึ้นมาบนหน้าท้องของมินาโตะได้อย่างชัดเจน...นั่นน่ะ
ก็ “ฟูจิวาระ ชู” ยังไงล่ะ
“อื้อ~”
มินาโตะแทบจะดิ้นพล่านเมื่อเขากดมือลงไปบนหน้าท้องที่นูนขึ้นมา
เขามองเจ้าฟูจิวาระ ชูนั่นด้วยสายตาพึงพอใจ...เข้ามาถึงตรงนี้เลยสินะ
“รู้ไหม…ว่ามีงานวิจัยอยู่นะ ฮู่ว..” เขาพูดกับมินาโตะทั้งที่เริ่มขยับกาย
ดูเหมือนท่านี้จะทำให้แรงกระแทกหนักหน่วงกว่าเดิมหลายเท่า มินาโตะจึงจำต้องแอ่นกายรับพร้อมกับเสียงครางไม่ได้ศัพท์
“อ้า~ มันลึก ชู! เอาออกไปก่อน” มินาโตะทั้งส่ายหน้าทั้งตั้งท่าจะถอยหนี...แต่กำแพงหนากับฝ่ามือของเขาก็ทำให้มินาโตะเหลือทางเลือกแค่ต้องรับมันเข้าไป
“ชู่ว~ ฟังก่อนสิ มินาโตะ ฮ้า…” ร่างกายของพวกเราเริ่มสอดประสานกันเมื่อเสียงพั่กๆดังขึ้นระยะหนึ่ง
แต่ถึงกระนั้นคนที่เริ่มจะไม่มีสติก็ยังร้องไม่หยุด
“อ๊า~ ไม่นะ อย่าดันเข้ามาอีก ท้องฉัน จะทะลุแล้ว~” ถึงความร้อนระอุจะทำให้ทุกอย่างดูพร่ามัว
แต่ช่องทางที่ตอดรัดของมินาโตะก็ทำให้ยากที่จะรั้งสติเอาไว้
เขาเองก็แทบทนไม่ไหวแล้ว ทุกครั้งที่กระแทกเข้าไปมันดีมาก ดีสุดๆ ดีให้ตาย!
“มีงานวิจัยบอกว่า…สเปิร์มเพศชาย…ฮ้า…ว่ายไว…แล้วก็…ตายไว…” เรื่องที่เขาพยายามจะบอกมินาโตะ
ก็เกี่ยวกับการขอพรให้ได้ลูกชายหรือลูกสาวนั่นแหละ
“อึ้ก อ้า~” แต่ดูเหมือนมินาโตะจะไม่มีสติพอฟังอะไรได้อีกแล้ว
ความเป็นชายที่สอดใส่เข้าไปลึกขนาดนั้นทำให้ช่องท้องของมินาโตะเสียววูบและมันก็กำลังบีบรัดของๆเขาอย่างเร้าอารมณ์สุดๆ
จากที่ว่าจะหยุดแค่นี้แต่สัญชาตญาณด้านมืดของเขากลับเร่งเร้าให้อยากจะกดกายเข้าไปอีก
เข้าไปให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้
ใบหน้าหล่อเหลาสะบัดขึ้นจนเส้นผมสีชาสาดเม็ดเหงื่อฟุ้งกระจายออกมา
มินาโตะมองภาพตรงหน้าของตัวเองด้วยดวงตาสั่นพร่า
ส่วนสองมือของเขาก็จับสะโพกมนให้มั่น
เสียงทุ้มหอบกระเส่ายังคงพูดสิ่งที่ตั้งใจออกไป
“ฮ้า…เพราะงั้น…ถ้ามินาโตะอยากมีลูกชาย…ก็...ต้องใส่ …เข้าไป …ลึกๆ!”
พูดจบเขาก็เสือกไสสอดใส่กระแทกมันเข้าไปอีกจนรู้สึกราวกับมันทะลุผ่านผนังบางๆเข้าไปยังที่ที่ไม่เคยเข้าไปถึง
“อึ๊ก! ชู! อ๊า!” มินาโตะสะดุ้งโหยงกระถดกระถอยหนีตามสัญชาตญาณ
แต่มือที่จับยึดก้นกลมมนเอาไว้ก็บีบบังคับให้มินาโตะต้องรับเขาเอาไว้ต่อไป
“ฮ้า…โคตรดีเลยมินาโตะ” มันดีจนเขาหลุดพูดถ้อยคำหยาบโลนออกไปอย่างที่ปกติเขาจะไม่พูดแบบนี้กับใครหรือแม้แต่กับมินาโตะเอง
เพราะเขาไม่อยากให้มินาโตะเห็นด้านที่เป็นสัญชาตญาณดิบของผู้ชายที่ชื่อฟูจิวาระ ชู
เขาพยายามอดทนและระงับมันได้มาตลอด แต่คราวนี้ดูจะไม่ไหวจริงๆ
มินาโตะบิดเร่าไปมา
และเมื่อเขาชักออกเล็กน้อยก่อนจะกระแทกกลับเข้าไปโดยไม่ให้ตั้งตัว
“อ๊า!!!” น้ำแห่งรักของมินาโตะก็พุ่งพรวดสาดมาจนถึงปลายคางของเขาเลยทีเดียว…?!
“อึก…แฮ่ก…แฮ่ก…”
มินาโตะหอบจนตัวโยนก่อนจะกระตุกอีกหลายที
น้ำสีขาวขุ่นไหลทะลักออกมาจากส่วนปลายไม่หยุด
สงสัยว่า…ความเป็นชายของเขาจะไปกดโดนจุดที่ทำให้รู้สึกดีเข้าสินะ?
ใบหน้าหล่อเหลาจึงยิ้มเย็นๆอย่างเจ้าเล่ห์
“ชะ ชู….ไม่นะ…อะ
อะไรที่นายกำลังคิดอยู่หยุดคิดไปเลยนะ!” มินาโตะมองเขาอย่างหวาดระแวงไม่พอยังพยายามจะหนีอีกต่างหาก
มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ? มินาโตะน่ะหนีเขาไม่พ้นหรอก
เริ่มจากเรื่องบนเตียงนี่ก่อนเลยแล้วกัน
มือใหญ่ดึงสะโพกที่ขยับออกห่างก่อนจะกดแท่งเนื้อร้อนระอุนั่นกลับเข้าไปที่เดิม
“อ้า~ ชู~” ก่อนที่มินาโตะจะต้องเอ่ยปากร้องต่อไปอีกหลายชั่วโมง….
เขาดึงความเป็นชายออกมาเมื่อฟ้าใกล้สาง…ทำเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอเลยจริงๆ
ดวงตาสีม่วงอันเฉยชาทอดมองหยาดหยดเหนียวหนืดที่เชื่อมต่อระหว่างส่วนปลายของเขาไปยังปากทางเข้าของมินาโตะอย่างพึงพอใจ
น้ำสีขาวขุ่นไหลทะลักออกมาจากช่องทางของมินาโตะไม่น้อยเลยทีเดียว
ไม่รู้กี่ครั้งที่ปลดปล่อยทิ้งไว้ในนั้น...
แต่เขาก็ชอบทำมันถึงจะรู้ว่ามินาโตะจะต้องลำบากในภายหลัง
มันเป็นเรื่องเดียวที่เขาขอเอาแต่ใจ เขาอยากฝังกลิ่นและตัวตนของเขาเอาไว้บนตัวมินาโตะให้มากที่สุด
อยากแสดงความเป็นเจ้าของ
อยากครอบครองให้ได้มากที่สุด
เพราะฉะนั้น…เขาจึงตั้งใจจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างของฟูจิวาระ
ชูให้มินาโตะเช่นกัน ไม่ว่าอะไรเขาก็จะให้ แค่บอกเขามาเขาทำให้ได้หมด
“ชู...” เสียงอันไร้เรี่ยวแรงของมินาโตะเอ่ยเรียกเขาทำให้สติกลับเข้าร่าง
มือใหญ่ขยับไปดึงผ้าห่มมาคลุมกายบางให้ก่อนจะล้มตัวนอนซ้อนด้านหลัง
สองแขนแข็งแรงกอดกระชับร่างที่อ่อนปวกเปียกเข้ามาในอ้อมแขน
แผ่นหลังของมินาโตะมีรอยรักอยู่ประปราย เขาจึงเพิ่มมันเข้าไปอีกด้วยริมฝีปากของเขา
“หื๋ม?” เสียงทุ้มตอบกลับเสียงเรียกเบาๆในขณะที่ยังพรมจูบหลังบางไปเรื่อยๆ
“ถ้าอยากมีลูกชายทำไมถึงต้องใส่เข้าไปลึกๆนะ?” มินาโตะถามอย่างติดใจสงสัย
“ฮึ ก็…สเปิร์มเพศชายจะว่ายไวแล้วก็ตายไว
เพราะงั้นยิ่งเข้าไปลึก ยิ่งปล่อยออกไปใกล้รังไข่เท่าไหร่ก็ยิ่งช่วยให้เจ้าพวกนี้ที่ว่ายไวอยู่แล้วไปถึงได้ก่อนสเปิร์มเพศหญิงที่ว่ายช้ากว่าไง
แต่ถ้าปล่อยไกลจากรังไข่สเปิร์มเพศชายก็อาจจะตายก่อนเหลือแค่สเปิร์มเพศหญิงที่ไปถึงเพราะตายช้ากว่า” เขาอธิบายตามที่เคยอ่านมา แต่เจ้าคนน่ารักกลับตอบมาแบบแสนจะน่ารัก
“เอ๋? แต่ฉันไม่มีรังไข่นี่? หรือมี?”
“คิก…คิกๆๆๆ” เขากลั้นหัวเราะจนเจ็บท้องไปหมด
อ้า~ มินาโตะน่าเอ็นดูเกินไปแล้ว~
“.....ชู…นายหลอกอะไรฉันอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย?…จริงๆเลย!” มินาโตะต้องกำลังยู่หน้าอย่างแง่งอนอยู่แน่ๆ น่าเสียดายแหะ
อยู่ท่านี้เลยอดเห็นเลย
“ขอโทษ…” มินาโตะน่ารักจริงๆ
เขาชอบความคิดใสๆไม่รู้เรื่องรู้ราวแบบนี้ของมินาโตะมาก
“ฮึ่ม” ถ้ากัดเขาได้ก็คงกัดไปแล้วไหม?
มินาโตะน่ารักจนเขาเผลอกอดแรงๆแล้วเอาหน้าถูไถคลอเคลียแผ่นหลังบางไปมา
“มินาโตะอยากมีลูกชายเหรอ?”
เขายังคงหยอกเย้ามินาโตะต่อไป เรายังคงนอนคุยเล่นเรื่อยเปื่อย
แต่ก็สืบเนื่องจากเรื่องที่ศาลเจ้านั่นแหละจึงทำให้เขาเกิดอยากรู้ขึ้นมา
“มีได้ซะที่ไหนล่ะ” มินาโตะบ่น
“ถ้าอยากมีก็มีได้ ฉันทำให้นายมีได้อยู่แล้วละ”
“ง่ะ ยังจะหลอกฉันอีกเหรอ? เดี๋ยวตีเลย” มินาโตะฟาดแขนเขาเบาๆแบบที่ไม่เจ็บไม่คันเลยสักนิด
“ไม่ใช่อย่างงั้น วิทยาการสมัยใหม่น่ะ นายไม่ต้องตั้งท้องเองก็มีลูกได้”
“เอ๋? เหรอ?”
“อื้ม ตกลงอยากมีเหรอ?” เขาชะโงกหน้าไปมองมินาโตะที่หันหน้ามาสบสายตากับเขาพอดี
มินาโตะนิ่งไปหลายวินาทีก่อนจะหันกลับไปก้มงุดกับท่อนแขนของเขาที่กอดคอมินาโตะอยู่
“....นายมาถามเรื่องแบบนี้กับเด็กม.ปลายอย่างฉันเนี่ยนะ? ฉันจะไปตอบได้ไง?” เขาหัวเราะเบาๆ
แต่ถ้ามาถามเด็กม.ปลายอย่างเขาละก็ แน่นอนว่าเขาอยากมีลูกกับมินาโตะอยู่แล้ว
เขาอยากให้มินาโตะเลี้ยงลูกของเขา...ซักสิบคนเลยเป็นไง?
มินาโตะที่เป็นแม่ของลูกเขา...แค่คิดก็ใจเต้นแล้ว
“ฉันก็แค่อยากวางแผนอนาคตร่วมกับมินาโตะเอาไว้ก่อนน่ะ” หัวสีชาหัวซุกไหล่อ้อน
“อืม…แต่ฉันก็คิดว่า
ถ้าได้เลี้ยงชูตัวน้อยๆสักคนก็คงดี ลูกที่เหมือนนายต้องน่ารักแน่ๆเลย” มินาโตะหัวเราะเบาๆ
เขามองเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนจากมุมด้านข้างจึงหยอกเย้าต่อไป
“ใช่ ฉันตอนเด็กๆน่ะน่ารักมากเลยนะ” มินาโตะถึงกับหรี่ตามอง
“....ไม่ค่อยหลงตัวเองเลยนะ ลืมไปแล้วรึไงว่าฉันเห็นนายมาตั้งแต่สิบขวบน่ะ”
“นั่นสินะ มินาโตะอยู่ในทุกช่วงชีวิตของฉันเลย” อ้อมแขนของเขายังคงกอดมินาโตะไม่ห่าง
“และจะอยู่ต่อไปด้วยนะครับ”
และมินาโตะเองก็กอดเขาไว้เช่นกัน
“ยินดีมากๆครับ ฝากด้วยนะ”
เรายังคงพูดคุยเรื่องไม่เป็นเรื่องกันต่อไปจนผลอยหลับตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ตัวเลย
รู้เพียงว่าที่ข้างกายยังคงมีไออุ่นของกันและกันอยู่เสมอ
‘สวัสดีปีใหม่นะมินาโตะ’
ขอให้ฉันได้ตื่นขึ้นมาโดยมีนายอยู่ในอ้อมแขนแบบนี้ตลอดไป
แถมๆ
บ่ายแก่ๆของวันเสาร์หนึ่ง
สมาชิกชายของชมรมยิงธนูโรงเรียนคาเซไมกำลังนัดรวมหัวกันอยู่ในร้านแมคโดนัล
ใบหน้าทั้งห้าต่างชะโงกมองบัญชีรายรับที่ถูกกางไว้กลางโต๊ะ
“ของฉัน15,000เยน” นานาโอะรับหน้าที่เป็นคนแจกแจงรายรับเหล่านั้น
ใช่แล้ว
ตอนนี้พวกเขากำลังเอาเงินที่ไปทำงานพิเศษทั้งหมดมารวมกันเพื่อเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายในช่วงเก็บตัวฝึกซ้อมของชมรมในช่วงปิดเทอมฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง
“ของเซยะ18,000เยน ของไคโตะ15,000เยน ของเรียวเฮ16,000เยน ของมินาโตะ16,000เยน รวมกับของพวกสาวๆอีก35,000เยนก็จะเป็น...115,000เยน...”
“อ๊า~
ยังขาดจากเป้าที่ตั้งไว้อีก35,000เยน!!” นานาโอะกุมหัวก่อนจะร้องออกมา
พวกเขาตั้งเป้าหมายว่าจะหาเงินให้ได้150,000เยน
“อืม...หาเพิ่มกันไหม?
แต่ก็เหลืออีกไม่กี่วันแล้วจะไปหางานพาร์ทไทม์ที่ทำระยะสั้นๆแล้วได้เงินไวๆแบบนั้นจากไหนล่ะ?” เรียวเฮเสนอก่อนจะจะทำหน้าเหยเกเสียเอง
“ฮึ่ย
ถ้าเริ่มหาเริ่มทำตั้งแต่วันนี้เลยมันก็คงพอทำอะไรได้บ้างแหละวะ”
ไคโตะสบถซึ่งเขาก็ได้แต่รับฟังคนนู้นทีคนนี้ทีอย่างไม่มีความเห็นอะไร
จะให้ไปทำงานพิเศษเพิ่มเขาก็ไม่ได้ขัดอะไรหรอก...เพียงแต่...เจ้าตัวภาระที่บ้านนี่สิ...ชูดูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ที่เขาเอาเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันไปทำงาน...
“ประธาน
ว่าไง?”
นานาโอะหันไปถามเซยะที่กำลังลูบคางครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
ดวงตาภายใต้กรอบแว่นจับจ้องอยู่ที่หน้าจอมือถือของนานาโอะที่เปิดคาไว้
มันเป็นอัลบั้มรูปถ่ายเบื้องหลังการทำงานพิเศษของพวกเขาที่ถ่ายเอาไว้ดูเล่นๆกัน...หนึ่งในนั้นก็มีรูปที่ศาลเจ้าตอนวันปีใหม่ด้วย...
“ฉันรู้แล้วว่าเราจะหาเงินสามหมื่นนั่นมาจากไหน”
เซยะยิ้มเย็นๆพลางหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมา
“สมเป็นกัปตันทีมของเรา!
ยังไงล่ะๆ” นานาโอะไชโยอย่างตื่นเต้น
“ช่วยส่งรูปนั้น
รูปนั้น แล้วก็รูปนั้นให้ฉันหน่อยสินานาโอะ”
นิ้วเรียวจิ้มไปที่รูปสามรูปที่อยู่ในอัลบั้ม
มันเป็นรูปเดี่ยวๆของเขาเอง?
รูปแรกคือรูปเขาในชุดนักบวชกำลังถือถาดเครื่องสักการะ
รูปถัดมาคือรูปเขาในชุดนักบวชกำลังช่วยผูกเชือกชิเมะนาวะที่คานของศาลเจ้า
รูปถัดมาก็ยังเป็นรูปเขาในชุดนักบวชตอนกำลังนั่งพักดูดน้ำหวานแล้วชูสองนิ้วมาให้กล้อง
และยังมีรูปเขาในอิริยาบถต่างๆอีกหลายรูป
แน่นอนว่าทุกรูปล้วนอยู่ในชุดนักบวชทั้งสิ้น
“เอ๋?
รูปพวกนี้เหรอ? ได้สิ ว่าแต่จะเอาไปทำไมน่ะ?”
นานาโอะได้ถามแทนเขาไปหมดแล้ว นั่นสิ...จะ...เอาไปทำไม....?
“ขาย” เซยะตอบหน้าตาเฉย
“ห๊ะ?” ไคโตะตกใจจนเฟรนช์ฟรายส์หล่น
“เอ๊ะ?”
เขาหันไปอุทานก่อนตะครุบแก้วที่ร่วงจากมือ
“อู้ว”
นานาโอะยิ้มปากแมวอย่างชอบอกชอบใจ
“โอ้”
เรียวเฮหัวเราะร่าอย่างไม่คิดอะไร
“ใครมันจะไปซื้อฟ๊ะ
ฮ่าๆๆๆ” แล้วไคโตะก็ปิดจบด้วยการหัวเราะลั่น
เขาเหล่มองเซยะอย่างไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะทำเรื่องบ้าๆแบบนี้
“มีก็แล้วกันน่า” เซยะยังคงตอบอย่างมั่นใจ ทั้งห้าคนจึงยื่นหน้ามองหน้าจอโทรศัพท์ที่เซยะพิมพ์ไลน์ส่งหาใครบางคน
เอ๋?
นี่มันแชทที่คุยกับชู?
เดี๋ยวนะ!
[ขายรูปเซตนี้35,000เยน]
[พอดีเงินของชมรมที่จะใช้ช่วงปิดเทอมไม่ถึงเป้าน่ะ ถ้าไม่มีคนซื้อก็คงต้องไปทำงานพิเศษกันเพิ่ม]
ขายกันโต้งๆไม่พอยังจะไฮไลต์อีกว่าถ้าไม่ซื้อจะให้เขาไปทำงานพิเศษอีก! แล้วอย่างชูน่ะเหรอจะยอม!
นี่มันรีดไถกันชัดๆ! คุณตำรวจ~!
[เลขที่บัญชี xxx xx xxxx โอนแล้วจะส่งไฟล์ใหญ่ให้]
“ชู?
ชูนี่หมายถึง ฟูจิวาระ ชูนั่นน่ะเหรอ?” ไคโตะถามเมื่อมองเห็นชื่อ “ชู” คู่สนทนาของเซยะ
“อื้ม” เซยะตอบพลางแสยะยิ้ม... เหี้ยมโหดมาก ฮื้อ~
“ห๊ะ?
หมอนั่นจะซื้อรูปแบบนี้ไปทำไมฟ๊ะ แถมราคาก็ไม่ใช่ถูกๆเลยนะ ฮ่าๆๆๆ
นายเพี้ยนไปแล้วรึไงท่านประธาน~” ไคโตะหัวเราะก๊ากอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ส่วนเขาก็ได้แต่เสสายตามองอย่างอื่นด้วยสีหน้าอายๆ
“คอยดูก็แล้วกัน” เซยะยังคงยกยิ้มอย่างมั่นใจ
แล้วสักพักข้อความก็ถูกขึ้นว่า
“อ่านแล้ว” ทั้งห้าคนทางนี้ต่างลุ้นจนตัวโก่งเมื่อปลายสายนิ่งไปไม่ตอบอะไรกลับมา
ทว่า
ผ่านไปยังไม่ถึงหนึ่งนาทีดี...
ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!
ติ๊งแรก
คือเสียงเตือนว่ามียอดเงินโอนเข้า35,000เยนจากแอพของธนาคาร
ติ๊งที่สอง
คือเสียงจากไลน์ว่าอีกฝ่ายส่งรูปสลิปมาให้
ติ๊งที่สาม
คือข้อความว่า [โอนเงินแล้ว ส่งรูปมา]
ติ๊งที่สี่
คือข้อความว่า [ห้ามมินาโตะไปทำงานพิเศษอีก!]
เล่นเอาสี่คนที่นั่งอยู่ตรงนั้นถึงกับอ้าปากค้างไม่เว้นแม้แต่คนที่ถูกขายอย่างนารุมิยะ
มินาโตะเอง...
“เรียบร้อย
ทีนี้ก็หาเงินที่จะใช้ฝึกช่วงปิดเทอมฤดูหนาวได้ครบแล้วนะ” เซยะหันมายิ้มสบายใจ เดี๋ยวสิ~
“อะ
อื้ม...มีคน...ซื้อจริงๆด้วยแหะ...”
นานาโอะที่เพิ่งจะหายอึ้งถึงกับหัวเราะแห้ง
“เฮ้ย
แล้วอย่างงี้พวกเราจะทำงานหลังขดหลังแข็งกันทำไมวะ?
แค่ถ่ายรูปเจ้าหมอนี่ส่งไปขายฟูจิวาระก็พอแล้วไม่ใช่หรือไงเนี่ย~
แถมโอนเงินตั้งสามหมื่นเยนง่ายๆเลยด้วยนะโว้ย~” ไคโตะโวยวาย...อืม...รูปก็เป็นส่วนหนึ่งแหละแต่ที่ชูยอมจ่ายขนาดนี้น่าจะเป็นเพราะไม่อยากให้เขาไปทำงานพิเศษมากกว่านะ
ฮะฮะ
“มินาโตะคุง~
สนใจมาเป็นนายแบบให้ผมไหมครับ รับรองจะถ่ายให้น่ารักสุดๆไปเลย~”
นานาโอะกับเรียวเฮหันมาจับมือเขาด้วยดวงตาเป็นประกายที่เห็นหนทางหารายได้เป็นกอบเป็นกำ
“อ่า...ฮ่ะๆๆ” ซึ่งใบหน้ามนก็ได้แต่ยิ้มแห้ง
โธ่~
ชูนะชู~~!!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Story
never End
เซยะฮีรว้ายยยย
นานๆจะได้เอาคืนคุณชายเค้าซักทีนะคะ 55555
และใช่ค่ะ คุณกวางมันเริ่มแต่งตอนนี้ตั้งแต่ปีใหม่
ห้าเดือนผ่านไปเพิ่งจะเสร็จค่ะ 5555 นานอะไรขนาดนั้น ว้อยยยย
เอาจริงๆถ้าไม่มีวันเกิดคุณชายชูมากดดันก็อาจจะยังไม่เสร็จก็เป็นได้
ต้องขอบคุณวันเกิดคุณชายเค้านาคะ กร๊ากกก //สำนึกบ้างคุณกวาง
//หลบไห
เอาเป็นว่ามาแฮปวันเกิดคุณชายชูกันก่อนดีกว่านะคะ
^
^”
สุขสันต์วันเกิดนะคะชายชู
อย่างคุณชายคงไม่ต้องการอัลไลเพราะมีครบหมดทุกอย่างแล้ว
ไม่ว่าจะรูปร่าง หน้าตา ฐานะ เงินทอง
เพราะงั้นมัมมี๊เลยอวยพรข้อเดียวแบบเน้นๆเลยแล้วกันนาคะ ขอให้พิชูได้เป็นพระเอก...เอก...เอก...
ขอให้ได้คู่กับน้องมินางเอก(?)นาคะ~~5555
ส่วนฟิคตอนนี้ที่เห็นว่ากลับไปโลกปัจจุบัน(?)
ไม่ต้องห่วงนาคะ พาร์ทหนึ่งร้อยคืนกับหมื่นคำรัก หรือ Yesterday Today
and Tomorrow มีกลับมาต่อแน่นอนค่ะ ขอพักแป๊บนุง~
ให้ชายชูได้กลับปัจจุบันไปเรียนรู้วิธีผลิตลูกชาย(?)บ้าง~ 55555 //แกก็หาแต่งเหลือเกินนะคุมกวาง
และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับกำลังใจชิ้นสำคัญในช่วงที่ผ่านมา
โดจินชูมิ ของคุมมิก~~ ซื้อกันรึยัง? ซื้อกันรึยางงงง ในวันที่ท้อแท้ยังมีโด18+ เอ้ย ยังมีโดพิชูน้องมิแสนน่ารักอยู่ข้างกาย
ต้องการกะลังจัยก็หยิบอ่านวนไปนะคะ แฮ่กๆๆ รูปสวยฮีลใจมากเลยค่ะ ฮื้ออออ
เล่มยังมีเหลือไหมลองถามที่เพจคุมมิกดูนะคะ (FB : ide-mictzz)
หรือไม่ก็รอเล่มใหม่พร้อมกันก็ได้ อิๆๆ
ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกันมาอย่างยาวนาน
ขอบคุณทุกๆเสียงทวงและหัวใจทุกดวงที่ส่งมาตบตีให้คุณกวางมันลุกขึ้นมามีไฟอีกครั้งนะคะ
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และโดเนทด้วยน้า แล้วเจอกันตอนหน้าค่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น