Attack on Titan. Au S.Fic [Levi x Eren] Ich liebe dich...ภาษาเยอรมันที่แปลว่า “ฉันรักเธอ” : 04 [END]


Attack on Titan. Au S.Fic [Levi x Eren]  Ich liebe dich...ภาษาเยอรมันที่แปลว่า “ฉันรักเธอ” : 04 [END]

: Attack on Titan Fanfiction Au
: Levi x Eren
: Romantic Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
           





รีไว อัคเคอร์มันรอดตัว เสียแค่ค่าปรับ พ้นโทษแบนเพราะ รปภ.ไม่เอาเรื่อง


ดวงตาสีมรกตกลมโตไล่อ่านตัวอักษรที่พาดหัวอยู่บนหนังสือพิมพ์ฉบับเช้า จากใบหน้ายุ่งๆที่เต็มไปด้วยความกังวลกลับค่อยๆผ่องใสก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความดีใจ

คุณรีไว...

แบบนี้คุณรีไวก็ได้ลงเตะในนัดชิงแล้ว!


ร่างทั้งร่างแทบอยากจะลุกขึ้นไปกระโดดโล้ดเต้น  ริมฝีปากแทบจะลืมวิธีการหุบยิ้ม...ดีใจซะอย่างกับว่าเป็นเรื่องของตัวเอง

“ ดีใจด้วยนะเอเลน แบบนี้เยอรมันก็ยิ่งน่ากลัวเลยนะเนี่ยปีนี้”   มือใหญ่ของไรเนอร์ตบลงมาที่ไหล่ รอยยิ้มราวกับเป็นพี่ชายทำให้เขายิ้มตอบโดยไม่ต้องคิดอะไร...ต่างจากอีกคน...

“ เหอะ! จะได้ลงแน่เร้อ...ได้ข่าวว่าถูกแยกซ้อมแถมยังเล่นไม่ค่อยดี ถึงไม่โดนแบนก็อาจจะถูกดรอปก็ได้นี่?”   ปากหมาๆชอบหาเรื่องเขาแบบนี้คงไม่มีใครอีกแล้ว เขาแทบจะหันไปแยกเขี้ยวใส่ไอ้บ้าแจนทันที

“ น่าเอเลน...แจนมันก็แค่อิจฉาที่ทีมเยอรมันของนายชนะฝรั่งเศสของหมอนั่นมาได้ก็เท่านั้นแหละ อย่าไปถือสามันเลย...นะ”   ไรเนอร์ดึงเขาที่กระโจนเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างตั้งใจจะฟัดกันให้ตายไปข้างหนึ่ง

“ ใครอิจฉาฟ๊ะ! ถ้วยแบบนั้นไม่เห็นจะอยากได้ เชอะ”   ร่างสูงยาวสะบัดหน้าก่อนจะเดินหนีไปอีกทาง เขาจึงได้แต่มองตาเขียว

“ จัดร้านกันดีกว่าน่าเอเลน”   ไรเนอร์คลายแรงที่จับเขาเอาไว้แล้วแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน....คนกำลังอารมณ์ดีๆ เจ้าแจนบ้านั่นดันมาทำให้เสียบรรยากาศซะนี่!

ใบหน้ามนสะบัดอย่างหงุดหงิดก่อนจะหันไปมองงานของตน แล้วร่างโปร่งบางก็ปีนขึ้นไปยืนอยู่บนเก้าอี้ก่อนจะฉีดสเปรย์น้ำยาทำความสะอาดลงไปบนกระจกช่องแสง อันที่จริงถ้าให้ไรเนอร์หรือแจนที่ตัวสูงกว่าเป็นคนทำมันก็คงจะไม่ทุลักทุเลเท่านี้ แต่เพราะไม่อยากกวนไรเนอร์และไม่อยากพึ่งพาเจ้าบ้าแจน ร่างโปร่งจึงต้องมาเขย่งเช็ดกระจกด้วยตัวเอง

บานแรกก็ไม่มีปัญหาอะไร....

บานที่สองก็ยังคงผ่านไปด้วยดี....

แต่พอเริ่มบานที่สี่....ความอ่อนเพลียจากกิจกรรมที่ทำอย่างหนักหน่วงเมื่อคืนมันก็เริ่มจะส่งผล

นัยน์ตาที่มองแสงสลัวๆในร้านแล้วชั่ววูบที่ต้องหันไปมองแสงที่ส่องผ่านบานกระจกเข้ามา...ทุกอย่างมันจึงเหมือนจะดับวูบไป...


“ เอเลน!

“ นี่! ไหวหรือเปล่าน่ะ?”   เสียงร้องเรียกอย่างตกใจดังขึ้นมาพร้อมฝ่ามือใหญ่ๆที่รับตัวเขาเอาไว้ได้พอดี......จู่ๆก็หน้ามืด....

“ ......ไรเนอร์?....”   ฝ่ามือที่แทบจะกำรอบเอวเขาได้จับให้เขายืนนิ่งๆบนเก้าอี้ นัยน์ตาค่อยๆปรับให้ภาพทุกอย่างกลับมาชัดเจนดังเดิม

“ เป็นไงบ้าง?”

“ โอเค...ไม่เป็นไรแล้วละ”   เขายื่นมือไปเกาะไหล่หนาเอาไว้เพื่อทรงตัว

“ ไปให้หมอตรวจบ้างดีไหม? หมู่นี้สีหน้านายไม่ค่อยจะดีแถมยังดูซีดๆเหมือนคนอดนอนอีก?”  .....ก็อดนอนจริงๆนั่นแหละ...เขาได้แต่ยิ้มบางๆรับความหวังดีของไรเนอร์โดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกไป...เพราะถ้าอีกฝ่ายถามว่าทำไมถึงนอนไม่พอ...เขาก็ไม่รู้จะตอบยังไง....

“ นี่ อุ้มชั้นลงหน่อยสิไรเนอร์”  เขาเลือกที่จะกลบเกลื่อนด้วยใบหน้าเชิดๆ สองแขนกางออกแทนคำบอกให้อีกฝ่ายอุ้มจนร่างสูงใหญ่ได้แต่ยิ้มพลางส่ายหน้า เพราะว่าไรเนอร์มีบุคลิกเหมือนพี่ชายเขาถึงได้กล้าเอาแต่ใจด้วย

“ ครับๆ เจ้าหญิง”  ท่อนแขนแข็งแรงโอบมารอบเอวก่อนที่ลำตัวของเขาจะลอยอยู่ในอากาศ แต่แทนที่อีกฝ่ายจะปล่อยเขาลงที่พื้นกลับหมุนตัวไปรอบๆ ลักษณะเหมือนจะแกล้งคืนนั้นไม่ได้ทำให้เขาโมโห แต่การได้ลอยอยู่ในอากาศกลับทำให้ในหัวรู้สึกปลอดโปร่งยังไงชอบกล

“ ฮ่าๆๆๆ”  เสียงหัวเราะเปล่งออกไปในขณะที่สองมือก็ต้องเอื้อมไปโอบรอบคอแข็งแรงเอาไว้ไม่ให้ตก ไรเนอร์ยังคงก้าวขาพาเขาหมุนไปรอบๆร้าน


จนกระทั่งเสียงกระดิ่งที่ประตูดังขึ้น...


“ อะ ลูกค้ามาหรือเปล่า”  มือบางตีท่อนแขนแข็งแรงเบาๆเพื่อให้ไรเนอร์วางเขาลง

“ ขอโทษนะครับ ยังไม่ถึงเวลาร้านเปิดครับ”  ไรเนอร์เอ่ยบอกแขกที่ดูจะมาก่อนเวลาไปมากในขณะที่ปล่อยร่างโปร่งบางลง

เป็นเพราะมัวแต่ก้มมองพื้นที่ปลายเท้าเหยียบลงไป จึงไม่เห็นว่าใครเป็นคนเปิดประตูเข้ามา....


“ อะ...คุณ.....รีไว  อัคเคอร์มัน?”   แล้วเสียงอึ้งๆของไรเนอร์ก็ทำให้ใบหน้ามนตวัดเงยขึ้นไปมองคนที่ยืนขวางประตูอยู่ทันที


คุณรีไวจริงๆด้วย....

แล้ว...มาทำอะไรที่นี่ ในเวลาแบบนี้กัน....?


แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปากถาม ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครก็เดินดุ่มๆเข้ามาก่อนจะผลักไหล่ของไรเนอร์จนแทบกระเด็นแล้วกระชากข้อมือของเขาจนร่างกายได้แต่เซถลาเข้าไปหา ใบหน้าดุดันที่หันไปมองไรเนอร์ทำให้เขาได้แต่ขนลุก...เป็นอะไรไปน่ะ? จะมีเรื่องอีกไม่ได้แล้วนะ

และเหมือนคุณรีไวก็รู้ตัวดี ใบหน้าคมสบถก่อนจะสะบัดหนี สองขาก้าวเดินนำออกไปโดยลากเขาไปด้วยอย่างไม่สนใจว่าเขาพร้อมที่จะเดินตามไหม ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนแม้แต่ไรเนอร์เองก็ยังทำอะไรไม่ถูก จะห้ามก็ห้ามไม่ทัน ร่างสูงใหญ่จึงทำได้แต่ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น


“ คุณรีไว? จะพาผมไปไหนครับ?”   นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบไปมองคนที่ถูกบังคับให้เดินตามมา ใบหน้ามนกรอกตามองรอบกายเลิ่กลั่ก ใบหน้าคมจึงถอนหายใจออกมาเบาๆแต่สองขาก็ยังก้าวฉับๆไปข้างหน้าไม่หยุด

อันที่จริงก็ตั้งใจจะมาดักรอเหมือนทุกที แต่พอเห็นภาพที่เกิดขึ้นในร้านผ่านกระจกบานใหญ่...ร่างกายมันก็ตรงเข้าไปเองอย่างห้ามไม่อยู่


เพราะอะไรกันนะ....?


ไม่หรอก...คำตอบมันมีอยู่ในใจของเขานานแล้วต่างหาก...


ขาทั้งสองคู่หยุดลงบนถนนที่ผู้คนพลุกพล่าน มือแข็งแรงปล่อยมือบางแล้วขยับไปดึงหมวกไหมพรมที่สวมอยู่บนหัวให้ลงมาต่ำกว่าเดิม แว่นตากรอบหนาถูกสวมลงไปบนใบหน้าคมโดยมีสายตาสงสัยของเอเลน เยเกอร์มองอยู่...ก็แค่ทำให้คนทั่วไปไม่รู้ว่าเขาเป็นใครจะได้ไม่ยุ่งยากวุ่นวายก็เท่านั้นแหละ

“ ดูแบบนี้แล้วไม่เหมือนคุณรีไวเลยนะครับ”  เจ้าเด็กตรงหน้าหัวเราะน้อยๆหลังจากที่พูดจบ....เขาก็ไม่ได้อยากจะแต่งตัวแบบนี้หรอก แต่ถ้าไม่ทำก็เดินด้วยกันไม่ได้น่ะสิ!

“.............”   มิดฟิลด์แห่งแคมป์ทีมชาติเยอรมันเดินนำเข้าไปในถนนคนเดินซึ่งมีร้านค้าแผงลอยกางอยู่เต็มสองข้าง บรรยากาศคึกคักเพราะคนที่เดินผ่านไปมามีแต่วัยรุ่นและชาวต่างชาติ ร้านค้าเองก็เป็นสีสันด้วยมีแต่ของใช้ทำมือกระจุกกระจิกสีสดใสสมกับที่เป็นดินแดนแห่งความสนุกสนานอย่างบราซิล

ร่างโปร่งบางเดินตามคนที่ยังไม่ปริปากพูดอะไรไปเรื่อยๆ นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองมือแข็งแรงที่ปล่อยสบายๆอยู่ข้างลำตัว...มันแกว่งน้อยๆราวกับว่าถ้าเขาจะเอื้อมมือไปจับมันเอาไว้...คุณรีไวก็คงจะไม่ว่าอะไร...

นัยน์ตาสีมรกตละจากมือข้างนั้นขึ้นไปมองใบหน้าด้านข้างที่ถูกหมวกและกรอบแว่นบังไปกว่าครึ่ง...นึกถึงเรื่องในร้านเมื่อกี้ขึ้นมามันก็ทำให้สงสัย...


แบบนั้นมัน...หึง...ไม่ใช่หรือไง....?


ถึงเขาจะไม่เคยมีความรักแต่จากละครที่มิคาสะมักจะเปิดให้เขาดูเพื่อเรียนรู้โลก มันก็ทำให้เขาพอจะเข้าใจว่าอาการหึงมันเป็นยังไง....และที่คุณรีไวทำมันก็....

ใบหน้ามนก้มลงมองพื้นเพราะตอนนี้มันคงจะแดงเถือก....เขาอาจจะคิดไปเองแต่ก็ขอสักนิดเถอะที่จะมีความสุข


อยากจะมีความสุข...


ถึงแม้จะรู้ดีว่าความฝันนี้มันกำลังจะจบลง...

นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเราจะได้เจอกัน...

เพราะหลังจากจบจากการแข่งขันในวันพรุ่งนี้...ต่างคนก็ต่างต้องกลับไปเดินในเส้นทางของตัวเองและคงจะไม่ได้พบกันอีก...


จู่ๆคนที่เดินอยู่ข้างหน้าก็หยุดขาเหมือนเพิ่งจะนึกอะไรออก ร่างแข็งแกร่งหันกลับมาหาร่างโปร่งบางที่ยังเดินก้มหน้าก้มตาจึงชนเข้าที่แผงอกของอีกฝ่ายเข้าเต็มๆ

“ โฮ่ย...เดินแบบนี้จะต้องให้จูงมือด้วยไหมเจ้าเด็กเหลือขอ?”   และยิ่งพูดออกไปแบบนั้นคนที่ยังหน้าแดงเพราะคิดไปถึงไหนต่อไหนก็ยิ่งลนลานจนทำอะไรไม่ถูก  ใบหน้ามนส่ายรัวๆก่อนจะหลับตาปี๋ซึ่งนัยน์ตาสีขี้เถ้าเฝ้ามองมันด้วยอารมณ์ดีแปลกๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยังหงุดหงิดอยู่เลย แต่พอได้หยอกเย้าเจ้าเด็กตรงหน้าก็กลับรู้สึกดีขึ้นเป็นกอง

มันต่างจากตอนที่เขาอยู่กับคนอื่น...ต่าง...แม้แต่กับตอนที่อยู่กับคนที่ได้ชื่อว่าแฟน

เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้ตอนที่อยู่กับผู้หญิงคนนั้นและเธอเองก็คงจะเช่นกัน...

พวกเราก็แค่มีความสุขไปกับสิ่งของนอกกายที่หามาได้ด้วยเงิน...แต่ไม่เคยยิ้มเพราะเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้เลยสักครั้ง...


เขาก็แค่เป็นคนที่ค้นเจอหัวใจของตัวเองก่อน...


มือแข็งแรงยื่นออกไปกอบกุมมือบางข้างซ้ายของเอเลน เยเกอร์ขึ้นมา ปลายนิ้วหัวแม่มือลูบลงไปที่โคนนิ้วนางพลางครุ่นคิด.....เพราะมันว่างเปล่าแบบนี้หรือเปล่านะ ใครต่อใครถึงได้......นึกภาพเจ้าเด็กหนุ่มตัวใหญ่นั่นอุ้มเอเลนราวกับเป็นเจ้าสาวแบบนั้นแล้วมันก็ได้แต่กัดฟันกรอด...นี่ถ้าเขาไม่ติดเรื่องโดนทำโทษอยู่ละก็นะ....

จากที่จับหลวมๆกลับตวัดจับมือบางของคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้วลากเข้าไปในร้านแผงลอยข้างทาง มันเป็นร้านเครื่องประดับทำมือที่มีตั้งแต่หินสีที่ร้อยเองไปจนถึงลูกปัดสีสันสดใสและนัยน์ตาขี้รำคาญที่ไม่ได้ถนัดนักกับเรื่องเลือกเครื่องประดับก็กำลังกวาดสายตามองหาอะไรบางอย่าง

ก่อนที่มันจะไปหยุดอยู่ที่แหวนซึ่งร้อยจากลูกปัดเล็กๆวงหนึ่ง...

ถึงจะดูธรรมดาๆแต่ว่าสีสันที่เรียงร้อยกันนั้นกลับสวยงามจนละสายตาไม่ได้


ดูๆไปแล้วมันช่างคล้ายกับเด็กนี่เสียจริงๆ...


“ เอานี่”   เขาจ่ายเงินซื้อแหวนที่ถูกแสนถูกแต่สิ่งที่ย้ายจากแผงลอยมาอยู่ในกำมือของเขาในตอนนี้กลับมีค่ายิ่งกว่าเพชรน้ำงามราคาหลายล้านเสียอีก

ฝ่ามือแข็งแรงดึงมือบางข้างซ้ายขึ้นมาแล้วสวมแหวนลูกปัดวงนั้นเข้าไปในนิ้วนางช้าๆ นัยน์ตาสีขี้เถ้าเฝ้ามองมันราวกับกำลังท่องมนต์สะกด ส่วนเจ้าของนิ้วถึงจะยังไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็มองมันด้วยนัยน์ตาเบิกกว้าง


ถึงที่นี่จะตรงข้ามกับความสงบของโบสถ์ ถึงที่นี่จะเต็มไปด้วยสีสันแทนที่จะขาวบริสุทธิ์ ถึงที่นี่จะไม่มีชุดวิวาห์แสนสวย...แต่แหวนวงนี้มันก็แทนสิ่งเหล่านั้นได้แล้วไม่ใช่หรือไง...


“ ใส่ไปก่อน...แล้วจะหาที่ดีกว่านี้ให้”   ใบหน้ามนที่ก้มลงมองแหวนนั่นราวกับจะร้องไห้ทำให้เขาเผลอยิ้มออกไป มือดึงปลายคางมนเข้ามาจูบเบาๆที่ริมฝีปากอย่างไม่แคร์สายตาของใคร ยิ่งทำให้เจ้าเด็กตรงหน้าแก้มแดงแปร๊ดจนน่าแกล้งยิ่งกว่าเดิม

“ แทนปลอกคอ เจ้าพวกนั้นจะได้รู้ว่านายมีเจ้าของแล้ว”  คำพูดหยอกเย้าพร้อมด้วยเสียงหัวเราะในลำคอทำให้ใบหน้ามนทำหน้าบูดก่อนจะก้มลงไปยิ้มกับแหวนลูกปัดวงนั้นและมันทำให้เขาตัดสินใจที่จะบอกออกไป...

“ เอเลน...ชั้น....กำลังจะเลิ-“


ปรี๊นนนนนนนนน


แตรรถเจ้ากรรมดังขึ้นมาจากไหนไม่อาจทราบได้ ทั้งๆที่มันเป็นถนนคนเดินไม่ใช่หรือไงเนี่ย?

มือแข็งแรงยกขึ้นมาเกาหัวก่อนจะสบถอย่างรำคาญแล้วก็พาลล้มเลิกความตั้งใจไป

“ คุณ...ว่าอะไรนะครับ?”  เด็กนั่นเงยหน้าขึ้นมาจากแหวนก่อนจะถามด้วยความสงสัยแต่เขาก็ไม่มีกะใจจะพูดซ้ำแล้วจึงได้แต่ปัดๆไป

“ เปล่า...ช่างมันเถอะ”  เพราะยังมีโอกาสบอกอีกเยอะ...อีกอย่าง...ไปจัดการทุกอย่างให้เสร็จก่อนก็ดีเหมือนกัน...









แล้วในที่สุดวันที่ทีมชาติเยอรมันจะลงชิงชัยในศึกฟุตบอลโลกกับทีมชาติอาร์เจนติน่าก็มาถึง

เสียงเชียร์ดังลั่นสนามแล้วความตื่นเต้นจากการที่ทั้งสองฝ่ายต่างบุกเข้าใส่กันตลอดทั้งเกมก็ทำให้ผู้ชมทั้งโลกไม่ผิดหวัง เพราะมันเป็นเกมที่ดีที่สนุกสนานถึงแม้ว่าแฟนบอลของทั้งสองชาติจะใจหายใจคว่ำแทบจะตลอดทั้ง90นาทีเลยก็ตาม

แล้วในที่สุด....ทีมชาติเยอรมันก็เอาชนะได้...ด้วยประตูชัยเพียงประตูเดียวที่เกิดขึ้นในช่วงต่อเวลาพิเศษ...

เสียงเฮจึงดังลั่นทั่วทั้งแผ่นดินอินทรีเหล็ก....

ในที่สุด...ดาวดวงที่สี่ก็ตกลงมาหาพวกเขาหลังจากที่ไม่ได้สัมผัสมันมากว่า 20 ปี








ภาพแห่งชัยชนะและช่วงเวลาขึ้นรับถ้วยฟุตบอลโลกของปี 2014 ถูกฉายรีรันซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ไม่ว่าจะไฮไลท์ช่วงไหนๆหรือรายการอะไรก็ล้วนแต่เอามาฉายกันแทบทั้งสิ้น ซึ่งคนเยอรมันอย่างเขาก็ยินดีที่จะดูมันซ้ำไปซ้ำมาอย่างไม่รู้เบื่อ

ใบหน้ามนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อเห็นมิดฟิลด์คนสำคัญของทีมชาติเยอรมันขึ้นไปรับถ้วย ผ้าที่กำลังพับลงกระเป๋าถึงได้ไม่เสร็จเสียทีเพราะพอพับเสร็จมันก็ถูกหยิบขึ้นมาบิดไปบิดมาเมื่อคนที่กำลังพับเห็นรีไว อัคเคอร์มันถือถ้วยอยู่ในจอโทรทัศน์  เขายังจำบรรยากาศในวันนั้นได้ดี เพราะเขาก็อยู่ในสนามมาราคาน่านั้นด้วย...มันยิ่งใหญ่และน่าภาคภูมิใจจนไม่รู้จะพูดยังไง....ดีใจ...ดีใจจริงๆ



ถึงจะใช้เวลานานไปหน่อยแต่ร่างโปร่งบางก็เก็บของเสร็จจนได้ มือบางวางตั๋วเครื่องบนลงไปบนกระเป๋าเสื้อผ้าเพียงใบเดียวที่มีติดตัวมา

นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองประตูห้องอย่างมีความหวังแต่ก็จำต้องถอดใจในเวลาไม่กี่วินาที...อย่าว่าแต่จะมีเวลาแอบหนีออกมาหาเขาเล้ย แม้แต่เวลากินข้าวยังแทบไม่มีเลยมั้งนักเตะทีมชาติเยอรมันตอนนี้ เพราะสื่อทุกแขนง ทั้งหนังสือพิมพ์ หนังสือกีฬา วิทยุ โทรทัศน์ นิตยสารและยังอีกมากมายล้วนต้องการบทสัมภาษณ์ของทีมแชมป์โลกกันทั้งนั้น ขนาดพวกตัวสำรองยังต้องออกไปให้สัมภาษณ์ เพราะงั้นตัวจริงจึงยิ่งเนื้อหอมกว่าอีกหลายเท่า

ใบหน้ามนก้มมองแหวนลูกปัดบนนิ้วนางข้างซ้ายก่อนจะลูบมันเบาๆ


คุณรีไวนี่ใจร้ายจริงๆ...


ทั้งๆที่เรื่องของพวกเรามันคงจะจบลงไปแล้วแต่ก็ยังสวมแหวนวงนี้ให้กับเขาอีก

เขาเพิ่งจะเข้าใจความหมายของคำว่า “ปลอกคอ” ที่อีกฝ่ายบอกเมื่อวันนั้น

เพราะหากแหวนวงนี้ยังไม่ถูกถอดออกไป...เขาก็คงจะมีความรักครั้งใหม่ไม่ได้ ดวงตาคู่นี้คงไม่อาจจะมองใครได้อีก มีเจ้าของคนใหม่ไม่ได้อีก...


ร่างโปร่งบางล้มตัวลงนอนกับพื้น ฝ่ามือยื่นขึ้นไปในอากาศ นิ้วทั้งห้ากางออกให้แสงไฟบนเพดานสาดส่องสะท้อนสีสันอันสดใสของเม็ดลูกปัดจนเป็นประกาย...จากวันพรุ่งนี้ไปทางเดินของพวกเรามันคงจะแยกออกจากกัน เขาต้องกลับเยอรมัน ส่วนคุณรีไวก็กลับสโมสรที่สเปน...


ทั้งๆที่คงไม่ได้เจอกันแต่ก็ยังจะพันธนาการเขาเอาไว้จนวินาทีสุดท้ายเลยสินะผู้ชายคนนั้น....

ใจร้ายที่สุด...








สรุปแล้วก็ไม่ได้เจอกันจริงๆจนกระทั่งร่างโปร่งบางบินกลับมาถึงกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน....

อันที่จริงเขาจะบินกลับบ้านที่มิวนิกเลยก็ได้แต่เพราะงานฉลองยิ่งใหญ่ที่จะปิดถนนจัดในใจกลางเมืองหลวงแห่งนี้ทำให้เขาเลือกที่จะอยู่ที่นี่ต่ออีกวันสองวัน

อยากมีส่วนร่วมในงานฉลองแชมป์ก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งก็แค่อยากจะเห็นหน้าคุณรีไวเป็นครั้งสุดท้าย...ถึงแม้จะมองเห็นจากที่ไกลๆก็ตาม...

เพราะหลังจากวันนี้ไป...เขาก็คงทำได้แค่ติดตามข่าวของอีกฝ่ายผ่านทางสื่ออย่างโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์เหมือนที่ผ่านๆมา...



เสียงเพลงอึกทึกเรียกสติของเขาให้ออกมาจากภวังค์ รอบกายมีแต่คนที่กำลังร้องรำไปตามจังหวะของเสียงเพลงที่บรรเลงอย่างสนุกสนาน...งานฉลองเริ่มต้นขึ้นแล้ว...

เขาพยายามแทรกกายไปในจุดที่พอจะทำให้มองเห็นถนนสายหลักที่มุ่งหน้าสู่ประตูบรันเดนบูร์กให้มากที่สุด ร่างโปร่งบางต้องเบียดเสียดผู้คนนับหมื่นนับแสนที่ต่างแห่แหนมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์เดียวกัน...นอกจากจะมาร่วมฉลองแล้วการได้ต้อนรับนักเตะกลับบ้านก็เป็นอะไรที่ทุกๆคนอยากจะทำ เพราะงั้นต่อให้ต้องเบียดกันแค่ไหนทุกคนต่างก็ยังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ไม่นานเสียงดังลั่นก็ค่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆ...รถบัสสองชั้นเปิดประทุนสีดำที่มีตัวเลข คศ.ที่พวกเขาได้แชมป์บอลโลกค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ผู้คนต่างกู้ร้องแสดงความยินดีไปกับนักเตะที่ยืนโบกมือพร้อมทั้งร้องเพลงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม บรรยากาศแห่งความชื่นมื่นกำลังปกคลุมไปทั่วเมืองเบอร์ลินแห่งนี้และเขาก็ได้แต่ยืนมองรถบัสสีดำคันนั้นเคลื่อนที่ผ่านหน้าไปช้าๆ

เขาไม่ได้เข้าไปใกล้จนถึงกับอยู่ด้านหน้า ซ้ำยังถูกคนตัวใหญ่ๆอีกหลายคนยืนบังจนเกือบมิด กว่าจะหาช่องให้มองเห็นคุณรีไวได้ก็แทบตาย...

ผู้ชายคนนั้นก็ยังคงทำหน้านิ่งๆราวกับไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับชัยชนะเหมือนเดิมเลยสินะ ทั้งๆที่ต้องกำลังดีใจมากอยู่แน่ๆแต่ก็ไม่แสดงออกถึงแม้ว่าเพื่อนร่วมทีมจะโห่ร้องกันอย่างสนุกสนานก็ตาม

“ ฮึ...”   เขาหัวเราะเบาๆพลางยิ้มกับตัวเอง...ดีแล้วที่ตัดสินใจมาที่นี่ก่อนจะกลับบ้าน....ถึงแม้รถจะเคลื่อนผ่านไปแล้วแต่ความดีใจมันก็ยังแน่นอยู่ในอกอยู่เลย


ถึงคุณรีไวจะไม่รู้ไม่เห็นเลยก็ตามว่าเขายืนอยู่ตรงนี้....

แต่แค่ได้มายืนอยู่ในผืนดินเดียวกัน แค่นี้ก็ดีใจแล้ว...




ทั้งๆที่คิดแบบนั้น....

ทั้งๆที่คิดว่าอีกฝ่ายคงไม่เห็น...




แต่คนที่ยืนอยู่บนรถบัสสองชั้นเปิดประทุนกลับมองเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างล่างได้อย่างชัดเจน

“ รีไว? จะไปไหนน่ะ?”   เพื่อร่วมทีมหันมาถามเมื่อเห็นมิดฟิลด์คนสำคัญทำท่าจะเดินลงไปที่ชั้นล่างของรถบัส

“ เหนื่อยแล้ว จะลงไปพักข้างล่าง” 

“ ฮ่าๆๆๆ ปล่อยหมอนั่นไปเถอะ สงสัยจะเมาคน”   ก็ยังดีที่ตอนนี้บรรยากาศแห่งความดีใจมันช่วยกลบเกลื่อนทุกอย่างได้และที่ชั้นล่างของรถก็แทบไม่มีคนอยู่เพราะส่วนใหญ่จะขึ้นไปฉลองอยู่ข้างบน

เพราะแบบนั้นร่างแข็งแกร่งจึงแอบหนีออกมาได้ไม่ยากเลย....



ร่างโปร่งบางหันหลังเตรียมจะกลับโรงแรมที่พักเพราะต่อให้เดินตามรถไปถึงประตูบรันเดนบูร์กคนก็คงจะเต็มแน่นไปหมดแล้ว...หน้าคุณรีไวก็ได้เห็นแล้ว เพราะงั้นกลับเลยก็แล้วกัน...

ทั้งๆที่คิดอย่างนั้น แต่มือแข็งแรงของใครบางคนที่จับลงมาที่ต้นแขนกลับไม่ยอมให้เขาทำอย่างที่ใจคิดได้

“ มีอะไร..........”   คำพูดถูกหยุดไปแค่นั้นเมื่อร่างโปร่งหันไปเห็นว่าใครเป็นคนฉุดรั้งตนเอาไว้

“ คุณรี อื้อ!”   ริมฝีปากถูกมือใหญ่ปิดลงก่อนที่ร่างกายจะถูกลากให้เดินไปด้วยกัน ถึงแม้จะต้องเดินฝ่าผู้คนมากมายแต่ก็หาได้ที่จะมีคนสนใจไม่ เพราะคงไม่มีใครคิดว่ารีไว อัคเคอร์มันจะมาเดินอยู่ตรงนี้


แผ่นหลังบางถูกกดลงกับกำแพงตึกในตรอกที่ลับตาคน ริมฝีปากถูกอีกฝ่ายจู่โจมเข้ามาทันที...มันเริ่มจากแตะเบาๆ...ก่อนจะค่อยๆขบเม้มอย่างหยอกเย้าแล้วส่งลิ้นร้อนเข้ามากวาดหาความหอมหวาน...ไม่นานก็ละออกไปแล้วประกบจูบลงมาใหม่...ให้ตายเถอะเขาไม่เคยคิดเลยว่าคนอย่างคุณรีไวจะมีจูบที่เซ็กซี่ขนาดนี้...

“ แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก....”  ทั้งเหนื่อยจากการวิ่งฝ่าผู้คนออกมา ทั้งหมดแรงจากรสจูบที่แสนจะเร่าร้อนทำให้เขาถึงกับหอบแฮ่ก

“ โรงแรมนายอยู่ที่ไหน?”   เขาชี้ไปที่ยอดตึกที่อยู่ไกล เป็นเพราะตั้งใจจะมางานฉลองนี้อย่างเดียวเลยจองโรงแรมที่อยู่ใกล้ๆเอาไว้

“ ย้ายที่กัน ชั้นไม่ได้เอาแว่นกับหมวกมา”   คุณรีไวก้มลงมากระซิบบอกก่อนจะจูบมาที่ริมฝีปากเขาอีกชุด...ต่อให้เอาแว่นกับหมวกมาก็ทำเรื่องแบบนี้ตามท้องถนนไม่ได้หรอกนะครับ!


ในที่สุดเขาก็พาคุณรีไวกลับมาถึงโรงแรมของตัวเองอย่างไม่คาดคิด...


แต่คราวนี้คุณรีไวไม่ได้จู่โจมเขาเลยแบบทุกที มือแข็งแรงกลับตรงเข้ามาคว้ามือข้างซ้ายของเขาเอาไว้ก่อนที่จะลูบลงไปบนแหวนลูกปัดที่โคนนิ้วนางของเขา....แล้วก้มลงจูบมันอย่างแผ่วเบา

ริมฝีปากร้อนค่อยๆไล่จากนิ้วนางขึ้นมาที่หลังมือ ผ่านข้อมือไล่มายังท่อนแขนจนถึงลาดไหล่ ใบหน้าคมละออกมาสบประสานสายตา ก่อนจะขยับริมฝีปากเข้ามาหากลีบปากของเขาอย่างเชื่องช้า...

“ อื้ม...”   ลาดไหล่ทั้งสองข้างขยับขึ้นลงอย่างหนักหน่วง ช่วงเวลาที่จูบอันหอมหวานนั้นดำเนินผ่านไปอย่างเนิ่นนาน....นานเสียจนคิดว่าคงจะตายคาอ้อมแขนแข็งแรงคู่นี้ไปเสียแล้ว

“ แฮ่ก...แฮ่ก...”   ริมฝีปากของคุณรีไวละออกไปอย่างอ้อยอิ่ง อันที่จริงแทบจะเรียกได้ว่ามันเป็น deep kiss เพียงครั้งเดียวที่หวานล้ำขนาดนี้ เพราะที่ผ่านมามันมักจะแฝงไว้ด้วยความเอาแต่ใจเสมอ

“ ครั้งสุดท้ายแล้ว...สินะครับ...”   นัยน์ตาสีมรกตช้อนมองอีกฝ่าย ต่อให้เว้าวอนแค่ไหน....ยังไงมันก็ต้องจบลงอยู่ดี....

“........”   ใบหน้าคมไม่ได้ตอบอะไรออกมาราวกับรู้อยู่แก่ใจ มือใหญ่เลื่อนลงไปหมายจะปลดเข็มขัดกางเกงของเขา


แต่แล้วมือบางก็เลื่อนไปจับมันเอาไว้...ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ตั้งใจออกไป


“ ครั้งสุดท้าย...ขอให้ผมเป็นคนทำให้ได้ไหมครับ...”

“ ......”   ใบหน้าของคุณรีไวอึ้งไปนิดๆ แต่ก็ยอมล้มลงไปบนที่นอนตามแรงผลักของเขา

สองขาก้าวไปคร่อมร่างหนาก่อนจะค่อยๆปลดเสื้อผ้าออกช้าๆด้วยมือของตัวเอง ใบหน้าอดที่จะร้อนผ่าวไม่ได้เมื่อนัยน์ตาสีขี้เถ้าจ้องมองเขาตาไม่กระพริบ

“ มันอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่...แต่ผมก็.....”   .....อยากจะให้คุณจำผมเอาไว้....ทั้งอายทั้งเศร้าจนทำเอาไม่สามารถจะพูดจนจบได้ นัยน์ตาสีมรกตเสไปมองที่อื่น ฝ่ามือยื่นออกไปแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำออกช้าๆจนกล้ามหน้าท้องสมชายชาตรีปรากฏแก่สายตา เขามองมันด้วยความหลงใหลก่อนจะยื่นปลายนิ้วไปแตะมันเป็นครั้งสุดท้าย

สองมือช่วยกันปลดเข็มขัดของคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ด้านล่าง เสียงซิปที่รูดลงไปทำให้รู้สึกอายอย่างบอกไม่ถูก...ยิ่งมือของเขาต้องควักมันออกมา....ใบหน้าก็ร้อนราวกับถูกไฟเผา

ถึงจะยังไม่ขยายเต็มที่แต่มันก็เริ่มที่จะแข็งตัวแล้ว ร่างเปลือยเปล่าขยับลงไปจนใบหน้าจ่ออยู่ที่ความเป็นชายของอีกฝ่าย ปลายลิ้นแลบออกไปเลียมันช้าๆ ใบหน้าที่ดูจะรู้สึกดีของคุณรีไวทำให้นัยน์ตาสีมรกตที่มองเสยขึ้นไปรู้สึกพึงพอใจ เขาไม่ได้อมมันเข้าไปเพราะอยากให้เสร็จในร่างกายไม่ใช่ในปาก...

ร่างโปร่งบางขยับกลับมาคร่อมกลางลำตัวหนาอีกครั้ง ฝ่ามือพยายามจับแกนกายตั้งชันให้จ่ออยู่ที่ช่องทางด้านหลังของตัวเอง....แต่มันก็ไม่ง่ายเลยจริงๆที่จะเอาเข้ามา

“ อึก....”   นัยน์ตาปิดลงข้างหนึ่ง ท้องน้อยเกร็งจนร่างกายเริ่มจะสั่นระริก

“ ช่วย...ผม...อึก....ใส่เข้ามาให้หน่อย...ได้ไหมครับ...”   ความคับแน่นที่ทำยังไงก็ไม่คุ้นชินทำให้เขาต้องขอร้องอีกฝ่าย ถึงแม้ใบหน้าคมจะยังนิ่งเฉยแต่รอยแดงน้อยๆบนแก้มของคุณรีไวก็ทำให้รู้ว่าคงจะพอใจอยู่ไม่ใช่น้อย


สวบ...


“ อื้อ!!”   แล้วมันก็เข้ามาได้ภายในรวดเดียวเมื่อฝ่ามือแข็งแรงจับยืดสะโพกของเขาเอาไว้แล้วกดลงไปอย่างไม่ให้สุ่มให้เสียง นัยน์ตาสีมรกตถึงกับปิดแน่น ลมหายใจพยายามผ่อนคลายถึงแม้ว่าจะไม่ง่ายเลยยามที่มีความร้อนระอุเต้นตุบๆอยู่ในร่างกายแบบนี้

“ ฮ้า...ฮ้า....”   ลมหายใจถูกพ่นออกไปตากริมฝีปาก นัยน์ตาสีมรกตที่มีน้ำตาคลอเหลือบขึ้นไปมองหน้าของคุณรีไวที่กำลังกัดฟันแน่น...ต้องขยับ...แล้วสินะ...

ลำตัวบางยกขึ้นช้าๆ ผนังภายในที่โอบรัดอีกฝ่ายอยู่ทำให้สั่นไปทั้งตัว...จะให้เริ่มเองนี่มันยากจริงๆด้วย...และพออีกฝ่ายเห็นว่าเขาไม่ยอมกดตัวลงมาเสียที คนใจร้อนก็จับสะโพกเขากดลงมาอย่างไม่ปรานี

“ อ้า...”   ใบหน้ามนถึงกับสะบัดเงยก่อนจะเปล่งเสียงครางแทบไม่เป็นภาษา เพราะอยู่ในท่านี้ทำให้มันเข้ามาได้ลึกกว่าทุกที จุดที่ทำให้รู้สึกดีแทบจะทำให้ปลดปล่อยออกมาได้เลย

“ อึก...อื้อ...”   แต่ก็ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมให้เขาไปก่อน ฝ่ามือที่จับยึดอยู่ที่สะโพกขยับโยกมันขึ้นลงตามแต่ใจ....นี่มันปล่อยให้เขาทำเองตรงไหนเนี่ย?....

แต่คุณรีไวก็นำให้ไม่นาน เมื่อความสุขสมถูกเล่นงาน ร่างกายของเขาก็ขยับไปเองราวกับถูกปีศาจร้ายควบคุม

“ อะ...อ้า...”   ฝ่ามือยันเอาไว้ที่กล้ามหน้าท้องแข็งแกร่งเช่นเดียวกับสองขาสั่นระริกที่แทบจะทรงตัวไม่ไหว แต่ร่างกายก็ยังขยับเข้าใส่อีกฝ่ายไม่หยุด


ไม่หยุด...




ไม่หยุด....






ไม่หยุด....






“ อ๊า...!!”    จนกระทั่งต่างฝ่ายต่างถึงจุดสูงสุดของอารมณ์  น้ำสีขาวขุ่นฉีดพุ่งไปเต็มหน้าท้องของคุณรีไว เช่นเดียวกับภายในร่างกายที่รับรู้ถึงความอุ่นวาบที่แผ่ซ่านเข้ามา

ทุกอย่างมันขาวโพลนไปหมด...มือสั่นระริกยื่นไปแตะใบหน้าคมที่กำลังหอบน้อยๆ....ได้เห็นใบหน้าแบบนี้ของคุณรีไว....ดีใจจัง....

แล้วแผ่นหลังก็เอนวูบทั้งๆที่ร่างกายของอีกฝ่ายยังค้างคาอยู่ข้างใน...ไม่ไหว...เขาไม่มีแรงจะทรงตัวแล้ว

และยังไม่ทันจะหงายหลังลงไป ฝ่ามือแข็งแรงก็เอื้อมมารับไว้เสียก่อน ร่างหนาพลิกกลับมาเป็นฝ่ายคร่อมเขาเอาไว้แทน....



จนแล้วจนรอด...เขาที่บอกว่าจะทำให้ ก็ถูกอีกฝ่ายทำมากกว่าหลายเท่า....






แสงแดดยามเช้ามาเยือนตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?

นัยน์ตาสีมรกตพยายามจะเปิดขึ้นมาแต่ความเหนื่อยล้าก็ทำให้มันปิดลงไปอีกจนได้


หื๋ม? นี่มันอะไรกันน่ะ?


ความอบอุ่นที่ไม่เคยสัมผัสซึ่งกำลังกอดรัดร่างกายของเขาอยู่ทำให้ต้องพยายามลืมตาขึ้นมาใหม่ แล้วท่อนแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของคนที่ไม่คิดว่าจะยังนอนอยู่ข้างๆก็ทำเอาความง่วงงุนหายไปในทันที


คุณรีไวยังอยู่....


ทั้งๆที่ปกติจะออกไปทันทีหลังจากที่ทำเสร็จ แต่เมื่อคืนนี้กลับยังไม่ไปไหน

นัยน์ตาสุกใสจ้องใบหน้าหลับใหลของอีกฝ่ายเขม็ง...บอกตามตรงว่าเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกนี่แหละและไม่น่าเชื่อว่ามันจะทำให้มีความสุขได้ขนาดนี้....รอยยิ้มน้อยๆปรากฏอยู่บนริมฝีปากก่อนที่สองแขนจะขยับมากอดอีกฝ่ายแน่น ใบหน้าซุกไซ้คลอเคลียลงไปในแผ่นอกของอีกฝ่ายราวกับเป็นลูกหมา


อ้า....อยากอยู่แบบนี้ให้นานๆจัง....


แต่พอคิดว่ามันเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็อดที่จะกลับมาเศร้าไม่ได้....


“ อืม....”   เสียงเซ็กซี่ของคนเพิ่งตื่นครางอยู่ในลำคอเมื่อถูกเขาก่อกวน ท่อนแขนแข็งแรงตวัดทับลงมาบนตัวเขาก่อนที่อีกฝ่ายจะจงใจหลับนิ่งอยู่ในท่านั้น

ร่างโปร่งบางยกสองมือขึ้นมาเท้าคางแล้วมองใบหน้าขมวดคิ้วน้อยๆทั้งๆที่ยังหลับอย่างไม่รู้เบื่อ....ถ้าหยุดเวลาไว้ตรงนี้ได้ก็ดีสิน้า....



แต่เวลามันก็ยังคงเดินต่อไป...




ในที่สุดคุณรีไวก็ตื่น....



และกำลังยืนขึ้นแต่งตัวโดยมีเขานั่งมองอยู่บนเตียง ใบหน้าราวกับหมาหงอยทำให้ร่างแข็งแกร่งหันมาขยี้หัวสีน้ำตาลเบาๆ ก่อนจะทิ้งประโยคสุดท้ายที่ทำให้เขาได้แต่มึนงงเอาไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินออกจากห้องไป....


“ ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายหรอก...เพราะชั้นกำลังจะกลับมาเล่นในลีกเยอรมัน” 







เอ๋?









ถึงจะยังติดใจคำพูดของคุณรีไวอยู่แต่เขาก็ไม่รู้จะไปถามยังไง ในเมื่อป่านนี้อีกฝ่ายคงบินกลับไปสโมสรชื่อดังของตัวเองที่สเปนเรียบร้อยแล้ว ส่วนเขาเองก็เพิ่งจะกลับถึงบ้านที่มิวนิก

กระเป๋าเดินทางยังวางอยู่กลางห้อง แต่เขาก็ไม่มีกะใจจะรื้อมันออกมาในตอนนี้ มือบางไล่เปลี่ยนช่องโทรทัศน์ในรีโมทไปเรื่อยๆทั้งๆที่ยังมีขนมปังคาปาก

“ เดี๋ยวเถอะเอเลน! กินให้มันเรียบร้อยหน่อยสิลูกคนนี้! แบบนี้ก็ไม่มีใครรับไปเป็นเจ้าบ่าวพอดี”  .....รับไปเป็นเจ้าบ่าวนี่มันยังไงน่ะ? นัยน์ตาสีมรกตเหล่ไปมองแม่ของตัวเองก่อนจะงับขนมปังต่ออย่างไม่ใส่ใจ พอไม่ได้ฟังเสียงบ่นของแม่เป็นเดือนๆบางทีมันก็คิดถึงเหมือนกันน้า....แล้วในขณะที่กำลังคิดว่าจะปล่อยให้แม่บ่นจนพอใจ...ข่าวที่ขึ้นหราอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ก็ทำเอาขนมปังในปากถึงกับร่วงลงพื้น

“ เอเลน!!”   แม่จะบ่นว่าอะไรอีกเขาก็ไม่รู้เรื่องแล้วเพราะตอนนี้เสียงที่ก้องอยู่ในหัวคือเสียงที่มาจากภาพข่าวที่กำลังดังกระฉ่อนไปทั่วโลกตรงหน้า


นี่มันอะไรกันน่ะ?


“ แม่! หนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวันนี้ล่ะ?”  เขาแทบจะพุ่งไปตามปลายนิ้วที่ชี้ไปที่หนังสือพิมพ์อย่างงงๆของแม่ สองมือเปิดเข้าไปอ่านรายละเอียดของข่าวด้วยความอึ้งปนช็อกเหมือนๆกับคนทั่วทั้งโลก


ในเมื่อจู่ๆ รีไว อัคเคอร์มัน ก็ไม่ยอมต่อสัญญากับสโมสรยักษ์ใหญ่ในสเปนซึ่งเป็นต้นสังกัดที่อยู่มาหลายปี ทั้งๆที่ทางต้นสังกัดเองก็พร้อมจะทุ่มเงินมหาศาลเพื่อรั้งให้อยู่กับสโมสรต่อไป

ทำให้ตอนนี้ทีมสโมสรฟุตบอลชั้นนำทั่วโลกต่างก็ลงสนามมาแย่งตัวมิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมันคนนี้กันให้ควั่ก



ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายหรอก...เพราะชั้นกำลังจะกลับมาเล่นในลีกเยอรมัน



คำพูดสุดท้ายในวันที่ได้เจอกันวนกลับมาอยู่ในหัวของเขาอีกครั้ง....

ที่ว่าจะย้ายกลับมาเล่นในบุนเดสลีก้า ลีกของเยอรมัน...มันเป็นแบบนี้นี่เอง....



ร่างโปร่งบางกอดหนังสือพิมพ์ก่อนจะกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงของตัวเอง....คุณรีไวอยากจะกลับมาอยู่ใกล้ๆเขาสินะ ถึงได้บอกว่าจะกลับมาเล่นในเยอรมัน...

คิดเสร็จก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวก่อนจะกลิ้งไปกลิ้งมาอีกรอบ....ถึงจะรู้ว่ามันคงไม่ใช่...คุณรีไวก็แค่เลือกอนาคตของตัวเองและก็ยังไม่แน่ว่าจะกลับมาเล่นในเยอรมันจริงๆอย่างที่ว่าหรือเปล่า เพราะตอนนี้คงมีสโมสรนับไม่ถ้วนยินดีจะซื้อตัวด้วยราคาแพงหูฉี่แน่ๆและถ้ามีข้อเสนอที่น่าสนใจ...คุณรีอาจจะไม่กลับมาก็ได้....นะ...ถึงจะรู้แบบนั้นแต่ก็ยังขอคิดเข้าข้างตัวเองสักนิดเถอะ...ขอมีความสุขเล็กๆน้อยๆกับเขาบ้างเถอะ




แล้วปรากฏว่าเช้าวันรุ่งขึ้นก็มีข่าวที่ทำเอาเขาได้แต่อ้าปากค้างอย่างไม่คิดเลยจริงๆว่ามันจะเป็นไปได้

ในเมื่อกำลังจะมีแถลงข่าวแบบสายฟ้าแล่บจากสโมสรชื่อดังในเยอรมันว่า รีไว อัคเคอร์มัน ตัดสินใจเลือกที่จะกลับมาเล่นให้ทีมสโมสรในบ้านเกิดเมืองนอนอย่าง บาร์เยิร์น มิวนิก!!!



บาร์เยิร์น มิวนิก….



มิวนิก!!!






หนังสือพิมพ์ในมือบางถึงกับร่วงลงพื้น

บังเอิญเปล่านะ?

หรือว่าคุณรีไวจะรู้ว่าเขาอยู่ในมิวนิก? เลยเลือกที่จะมาเล่นให้สโมสรชื่อดังที่อยู่ในเมืองนี้?

แล้วร่างโปร่งบางก็ลงไปกลิ้งอยู่บนเตียงอีกวันจนได้....

ถึงจะรู้อยู่หรอกนะว่าต่อให้ย้ายมาที่นี่จริง สถานะของตัวเองก็ไม่ได้เปลี่ยนไป ยังไงเขาก็ยังคงเป็นเด็กที่ถูกอีกฝ่ายซุกซ่อนเอาไว้อยู่ดี ยังไงซะคุณรีไวก็มีแฟนสาวแสนสวยที่จะเอาไว้ออกหน้าออกตาอยู่แล้ว แต่แค่คิดว่ายังมีโอกาสได้เจอกัน ทำไมถึงดีใจได้ขนาดนี้


อ้า!!...เขานี่มันแย่และบาปหนาจริงๆ ทำตัวเหมือนกับเมียน้อยไม่ก็มือที่สามเลยไม่ใช่หรือไง แบบนี้ต่อให้ทำดีแค่ไหนก็คงไถ่บาปไม่ได้แน่ๆ


“ เฮ้อ....ทำไมต้องไปหลงรักคนที่เค้ามีเจ้าของแล้วด้วยนะ....”








ทั้งๆที่คิดว่าคงจะไม่มีข่าวอะไรช็อกโลกยิ่งกว่าข่าวเมื่อวานนี้แล้ว

แต่ข่าวพาดหัวของหนังสือพิมพ์แทบจะทุกฉบับของเช้าวันนี้กลับช็อกโลกยิ่งกว่าเมื่อวานตั้งไม่รู้กี่เท่า


เพราะคงไม่มีใครคาดคิด....ว่า รีไว อัคเคอร์มันจะเลิกกับแฟนสาวซึ่งเป็นนางแบบระดับท็อปทั้งๆที่ก็ดูจะรักกันดีและข่าวนี้ก็ดังเสียยิ่งกว่าข่าวการย้ายทีมของเจ้าตัวเสียอีก!


หนังสือพิมพ์แทบจะทุกฉบับต่างประโคมข่าวนี้จนคงจะกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ เพราะข่าวนี้มันไม่ได้ลงอยู่แต่ในหน้าข่าวกีฬา แต่ลงทั้งในหน้าข่าวบันเทิงซึ่งคนสนใจกันไปทั่ว



ใบหน้ามนถึงกับเหวอเมื่ออ่านข่าวจบ...เพราะไม่คิดว่าเรื่องที่ยังน้อยใจ ยังตัดพ้อในชีวิตอยู่เมื่อวาน วันนี้มันจะเป็นแบบนี้

ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ






นี่เขาตื่นจากความฝันหรือยัง?



ฝัน...ที่อยากให้คุณรีไวอยู่กับเขาต่อไป เป็นของเขาแค่คนเดียว....



เพราะถึงตอนนี้...เหตุการณ์ทั้งหมดมันก็อดที่จะทำให้ไม่คิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้...ทั้งการย้ายทีม ทั้งเรื่องการเลิกกับแฟนของคุณรีไว....


ช่วยบอกที...ว่าทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำเพื่อเขา....เขาจะได้ตื่นขึ้นมาจากความฝัน....







ร่างโปร่งบางเดินวนไปวนมาอยู่ในบ้านอย่างสงบสติอารมณ์ไม่ได้ จึงตัดสินใจจะเดินออกไปให้สีเขียวของสวนสาธารณะช่วยผ่อนคลายความยุ่งเหยิงในหัวให้เบาบางลงบ้าง


เสียงเอี๊ยดๆของเหล็กที่เสียดสีกันดังขึ้นทุกครั้งที่ชิงช้าถูกโยกไปมา ใบหน้ามนเหม่อมองสนามหญ้าก่อนจะก้มลงมองพื้นอย่างจมอยู่ในความคิดของตัวเองต่อไป จนกระทั่ง...

“ นี่...พอจะรู้ไหมว่าบลอค C ไปทางไหน”   เสียงทุ้มของใครบางคนถามขึ้นมา...มันช่างเป็นเสียงที่คุ้นเคยเหลือเกิน...แถมบลอค C ที่ว่ายังเป็นแถวบ้านของเขาเองอีกต่างหาก จากที่ตั้งใจจะตอบส่งๆไปเลยเงยหน้ามองอีกฝ่ายซักหน่อย


แล้วนัยน์ตาสีมรกตก็ต้องตาเบิกกว้างเมื่อมองเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า....


“ คุณรีไว.....”


ร่างทั้งร่างลุกขึ้นมาจากชิงช้าโดยไม่รู้ตัว อีกฝ่ายขยับเข้ามายืนใกล้ๆพลางยิ้มบางๆอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน....นี่เขาไม่ได้ฝันไปใช่ไหม? ยังตื่นอยู่ใช่ไหม?


“ ไง เจ้าเด็กเหลือขอ ทำหน้าอย่างกับเห็นผีนี่มันอะไร ห๋า?”   แล้วฝ่ามือที่ยื่นมาดึงสองแก้มของเขาจนรู้สึกเจ็บก็ทำให้รู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในฝัน


ทั้งหมดนี้มันคือเรื่องจริง...


“ คุณ....ทำไมมาอยู่ที่นี่ละครับ...แล้วบลอค C มัน....”

“ บ้านของนาย?”


ใบหน้ามนพยักรับ....ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ถูกแล้วจริงๆ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้ดีใจจนไม่สามารถจะเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้...ทั้งๆที่ถ้าเทียบกันแล้ว...คนที่ช่างเจรจากว่าน่าจะเป็นเขา...แต่ในตอนนี้กลับมีแต่คุณรีไวเท่านั้นที่ยังพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น


“ ชั้นก็แค่จะมาบอก...เรื่องที่ชั้นลืมบอกนายไป....”

“ ตามมาบอก...หลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว”




EREN….Ich Liebe Dich…




ร่างโปร่งบางโผเข้าไปกอดร่างแข็งแกร่งที่อ้าแขนรับด้วยน้ำตา เพราะว่าคำคำนี้มันคือคำที่อยากได้ยินมากกว่าคำไหนๆ ใบไม้สีเขียวต่างโบกสะบัดไปตามสายลมราวกับกำลังร่วมยินดี ถึงจะเป็นที่ที่เห็นอยู่ทุกวันแต่ในวันนี้มันกลับงดงามยิ่งกว่าสถานที่ใดในโลก




“ ผมก็รักคุณ....”




ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายจะมีคำคำนี้คอยหล่อเลี้ยงให้อยู่เคียงข้างกันไปตราบนานเท่านาน




ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของเรามันจะเริ่มมาจากความผิดบาป แต่หลังจากวันนี้ไป ทุกอย่างจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง....ด้วยความรักที่โลกจะรับรู้...









.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

Ich Liebe Dich
FIN






ง๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก จบไปอีกเรื่องแบ้วจนได้ ฮือออออออออออ ในที่สุด TTvTT ถึงแม้ว่ามันจะเป็นไหแบบไม่ได้ตั้งใจก็เถอะนะ กร๊ากกกกกก แต่ยังไงก็ดีใจที่เขียนเรื่องนี้จบได้นะคะ TvT


ก่อนจะเวิ่น ขอแฮปย้อนหลังแป๊บบบบ


สุขสันต์วันเกิดนะค้าน้องเตย


เหะเหะเหะ ย้อนหลังไปหลายอาทิตย์เบย TvT กราบขอประทานอภัยในความล่าช้า มีความสุขมากๆๆนะค้า ขอให้เล่นดนตรีเทพขึ้นเรื่อยๆ จิได้มาเล่นดาวตกและ GLIDEให้เก๊าฟังอีก >////< ไม่ว่าจะไวโอลิน เปียโน อยากเล่นอัลไลก็ขอให้เล่นประสบความสำเร็จดังใจหวังทุกอย่าง เรื่องอื่นๆเองก็เช่นกัน ขอให้เป็นปีที่ดีๆ มีแต่เรื่องดีๆเข้ามาในชีวิตนะคะ *w* ที่ผ่านมาก็ต้องขอขอบคุณมากๆ ทักทายกันมาตลอดเรย แถมยังแกะเพลงที่เก๊าชอบมาเล่นให้ฟังอีก ปลื้มจนไม่รู้จะพูดยังไง ขอบคุณมากๆๆๆๆเลยค่ะ >w<


เวิ่นถึงฟิคกันบ้าง....ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกๆการติดตาม ทุกๆคอมเม้นต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงทวงและแรงกดดันที่ส่งให้กันมาไม่หยุดเบยนะคะ ถึงขนาดจับเอเลนไปเป็นตัวประกันเรยก็มี TvT จบแบ้วแบบนี้ koto คงส่งตรงมาบ้านเค้าแบ้วสินะ จริงๆมันควรจะจบไปตั้งแต่ตอนที่แล้วแล้วค่ะ ในพล็อตตอนแรกไม่ได้จะมีฉากมาต่อกันในเยอรมันแบบนี้หรอก555 แต่ก็ยาวออกมาเพราะใครบางคนส่งภาพงานฉลองของทีมเยอรมันมาให้นี่แหละ ก็เลยคิดว่าอยากจะลองแต่งฉากหนีตามกันไป(?)แบบนี้เหมือนกันน้า.....ก็เลยเพ้อออกมาได้อีกตอนนึงเต็มๆ....*ทรุด* ก็ต้องขอขอบคุณที่ติดตามกันมาถึงตอนจบนี้นะค้า ^ ^

โอเค...ต่อไปกลับไปต่อฟิคหมายเลขหนึ่งของตอนนี้กันได้ซักที ออกนอกอ่าวมานาน ฮืออออออออ

ก็อย่างที่รู้กันว่าเดือน 8 จะเป็นเดือนที่คุณกวางลงฟิคน้อยมากมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่จะไปไหแตกช่วงเดือน 9 เพราะหนึ่งเดือนเต็มๆจะเป็นช่วงเวลาที่ใช้เขียนค่ะ และสำหรับปีนี้ ฟิควันที่ 9 เดือน 9 จะยกให้ GLIDE ไป จบแน่นอนรับประกันได้5555 เพราะไม่มีฟิควันที่ 9 เดือน 9 เรื่องไหนไม่จบ!!

ยังไงก็ฝากติดตามกันต่ออีกหน่อยน้า....อาจจะขอดูก่องว่าจะทยอยลงหรือรวดเดียวเลย น่าจะเหลืออีกประมาณ 6-7 ตอนได้สำหรับ GLIDE FINAL

แล้วเจอกันค่า ^ ^




8 ความคิดเห็น:

  1. :) อะไรส่งถึงบ้านคะ ของขวัญวันเกิดพี่มิใช่รึ.....พี่เกิดเดือน 9..........

    ตอบลบ
  2. จบแว้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว//ไถลตัวไปกับสนามหญ้า

    ยังไงพี่ก็เป็นคนที่แต่ฟิคเรทได้เห็นภาพทุกช็อตดีจริงๆนั่นแหละ5555(ความจริงฉากอื่นก็ด้วยนั่นแหละ//บทจีบมุ้งมิ้งดีจัง)
    งานนี่รีไวกำไรงามน่าดู เพราะหนุเอเลนเข้าใจว่าเป็นครั้งสุดท้ายรีไวเลยได้OTเลย55555555555

    สารภาพว่าแอบนอกใจนิดนึงตอนไรเนอร์อุ้มเอเลน55(บอลมาจากไผ//กุมหัวที่เลือดอาบ)

    ยังไงผมก็ยังรอแปลนบ้านจากพี่อยู่นะเด้อออออออ//ตีปีก(?)เนิบๆ

    รักษาสุขภาพควบคู่ไปกับแต่ฟิคให้สม่ำเสมอนะเน้อออออออออ

    ตอบลบ
  3. ขอสารภาพว่าเราชอบตอนไรเนอร์อุ้มเอเลนมากๆเจ้าคะ
    แต่ชอบมากกว่าคือตอนที่รีไวล์บอกรักเอเลนน่ะเจ้าคะ~~>w<
    แต่ขอทวงนิดนึง...เมือไรจะมาอัพคู่ไรเนอร์xเอเลน เสียทีอะเจ้าคะ(พอมาเจอฉากไรเนอร์อุ้มเอเลนปุ๋บนึกออกปั๋บทันที)...แต่อย่างไรเสียก็จะรอนะเจ้าคะ~ =w=

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ29 กรกฎาคม 2557 เวลา 09:40

    โอ๊ยยยยยยยยยยยยย พี่กวางคะ คือบับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
    ดีงามมากกกกกกกกกกก น้องติ่งเยอรมันอยู่แล้วค่ะมาเจอแบบนี้ โอ๊ย เฮโจกับเยอรมัน คือลงตัว คือดีงามมากค่ะ แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ติ่งมาก
    ฮือ สงสารเอเลนมากเลยค่ะตอนแรกๆ แต่อ่านไปแล้วเขิลไป บุคลิกของรีไวแบบนี้แหล่ะค่ะถึงจะสมเป็นรีไว ฮือออ รักนะแต่ไม่แสดงออกทางวาจา แต่การกระทำคือบับบบบ แงงงงงงงงงง แม่ขาผช.คนนี้หนูขออออ /หยาบคาย
    ติดฟิคพี่กวางมากๆค่ะ เข้ามาทุกวันเช้าเย็น 555555 รอเรื่องต่อๆไปนะคะ GLIDE ก็รอ ก๊าก
    ขอบคุณที่แต่งฟิคฟินๆออกมาให้เชยชมนะคะ

    ตอบลบ
  5. บอกเลยว่าฟินกับเรื่องนี้มากกก
    ชอบมากกกกก
    แบบว่า รีไวล์หวานมากกก เขินเลย
    ณ จุดๆ นี้อยากเรียนภาษาเยอรเลยค่า
    เป็นกำลังใจให้นะคะคุณกวาง
    รอติดตามเรื่องต่อไป =..=
    คุณกวางสู้ๆ

    ตอบลบ
  6. แล้วก็จบด้วยความฟินเช่นเคย
    น้องเลนแบบว่าเซะชี่มากเรย เฮย์โจวถึงกับจ้องตาไม่กระพริบ....คือแบบ อร๊ายยยยย ชอบตรงที่จ้องตาไม่กระพริบ =v=b
    จัดการเคลียร์ตัวเองซะเรียบร้อย แถมตามมากดต่อถึงบ้านอีก สุโค่ยมากเรยค่า
    สู้ๆนะคะคุณกวาง รอติดตาม GLIDE และเรื่องต่อๆไปคร่าาา



    ตอบลบ
  7. เริ่มต้นมาก็คิดถึง beLIEve (?)จับจิตเลยค่ะกวางซาม๊า
    ถถถถถถถถถถถถถถถ [#โดนท่านท่อนขายันติดกำแพง = . , =]

    กลับมาที่พระเอก(?)ในตอนนี้(?)นะคะ [#มันก็ยังวอนต่อไปค่ะ55555]
    และแล้วฟีลความอดทนต่ำ(?)ก็มาแล้ววววววววววว โปรยดอกไม้ ถถถถถ
    ท่านท่อนขาที่คุ้นเคย(?)มันต้องแบบเน้~~~~ ถถถถถถ
    การไปฉุดลากหญิง(?)ที่ไม่เคยรู้เสน่ห์ของตัวเอง(?)แบบนั้นมาถูกต้องแล้ววววนะคะท่านท่อนขาาา
    ฟินมากกกกกกกกกกก จริงๆในขณะที่กำลังเคลิ้ม(?)ไปกับบรรยากาศคนอบอุ่น(?)ความลับเยอะ(?)อย่างไรเนอร์
    ก็เป็นอันลงไปนอนก๊าวใจ(?)เลยจริงจัง กำลังคิดอยู่ว่าไม่ใช่ท่านท่อนขามาเห็นแล้วติสท์แตก(?)เมินเจ้าลูกหมาอีก
    มีหวังพอดีได้คว้าไมค์มาร้องเพลงนิวจิ๋ว(?)ทั้งน้ำตา(?)
    [#มันจะมีสักครั้งไหมที่มันจะเม้นท์ให้เป็นผู้เป็นคน]
    แต่การเข้ามาแสดงความหึงหวงแบบชัดเจนแบบนี้ มันจะไม่ให้ลงไปดิ้นยังไงไหววววววว
    แถมเจ้าลูกหมาก็ยังรู้ความหมายของการกระทำครั้งนี้ด้วย
    เรื่องนี้ต้องไปขอบคุณมิคาสะที่คอยเปิดละคร(?)ให้เอเลนเรียนรู้โลก ถถถถถถถถ


    เค้าชอบฟีลตอนที่หยอกล้อกันหลังจากให้แหวนเจ้าลูกหมามากๆ > ___ <
    ฮืออออออ ถึงจะคลุมครือ แต่มันก็เบิกบาน(?)จริงๆนะคะ
    อ่านแล้วรู้สึกว่าหน้าตาตัวเองอิ่มเอิบมากๆจริง ถถถถ แถมแตรรถนั่นก็มาได้จังหวะมากๆๆค่ะ
    ฟีลเค้าเค้าอยากให้พ่อคุณเคลียร์ทุกอย่างให้จบก่อนจะมาบอกเอเลนจริงๆ ถึงจะดูสบายใจเกินไป
    แต่ฟีลท่านท่อนขาที่ถ้าถึงขั้นใส่ปลอกคอ(?)ให้เจ้าลูกหมาขนาดนี้
    แสดงความเป็นเจ้าของชัดเจนแบบนี้ คงยากที่เจ้าลูกหมาจะหลุดรอด(?)ได้เจ้าของคนใหม่แน่นอน
    โฮกกกกกกกกก เพราะงั้นพลอตตรงนี้โดนใจเค้ามากๆๆๆจริงๆนะคะ > <
    แถมอ่านต่อไปยังเจอฉากเอเลนตัดพ้อว่าเฮย์โจวใจร้าย โฮกกกกกกกกกกกกกก
    ยิ่งตบเข่าฉาด(?)อย่างโดนใจ ก็ยอมให้เค้าเป็นเจ้าของ(?)อย่างเต็มใจ
    แถมไม่คิดจะหาเจ้าของใหม่(?) แล้วจะมางอนอะไรละหืออออหนูเลนนน > ___ <


    แล้วอะไรคือการที่เจ้าลูกหมาตามมาแอบดู(?)ถึงขบวนแห่นักเตะ(?)
    ก่อนจะบินกลับบ้านนนนนนนนนนนน และฉากนี้ทำให้เรารู้ว่าท่านท่อนขามีสกิล(?)
    การใช้สายตาจากอายุ(?)ให้เป็นประโยชน์เพื่อมองเห็นหัวใจตัวเองจากที่ไกล(?)ได้อย่างชัดเจน!!!
    ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ [#ขอให้ได้แซะะะะะะะจริงจังงงงง 5555555]


    และ…..ตายคากองเลือดตัวเอง(?)หลังจากที่วนอ่านสามสี่ตลบ(?)
    กับฉากแสดงความรักของเจ้าลูกหมาและเจ้าของ

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
    ไม่ทนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

    ถ้าท่านท่อนขาจะเป็นนักบอลได้เซะซี่(?)ร้อนเร่า(?)และรุนแรง(?)ได้ขนาดนี้ละก็นะ
    ฮืออออออออ เยอรมันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน [#การสครีมชื่อประเทศนี้ต้องการอะไรก็ยังไม่เข้าใจตัวเองค่ะ55555555]
    ฮืออออออ กวางซาม๊าาาาทำเค้าคลั่งคู่นี้ขึ้นทุกวันๆๆจริงจังงงงเลยค่ะ รักพลอตฟิคเรื่องนี้ง๊าาาา > ___ <

    แล้วเค้าก็ชอบฟีลการตื่นนอนของเอเลนแล้วเจอท่านท่อนขาจริงๆนะคะ
    การได้ลืมตามาเจอหน้าเจ้าของ(?) จะมีอะไรสุขใจไปกว่านี้~~ > ___ <
    แถมครั้งนี้ก็ได้เห็นท่านท่อนขามุมเซ็กซี่(?)ยามก่อนตื่นด้วย
    ชอบมากๆเลยค่ะกวางซาม๊า อ๊ากกกกกกก
    อะไรคือการครางเสียงต่ำแล้วตวัดแขนกอดเอเลนนนนกานนนนนนนนน

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. และที่ชอบสุดๆก็คือการที่เอเลนเป็นบ้า(?)กับพาดหัวข่าวบนหนังสือพิมพ์
      ถถถถถถถถถถถถ เอเลนน่ารักมากๆๆ น่าฟัดโฮกกกกกกกกกก
      ใครจะทนไหวกันนนนละอีแบบนี้น่ะ ตามข่าวเฮย์โจวแล้วกลิ้งบนเตียง(?)
      โฮกกกกกกกกกกกกก กวางซาม๊านี่มันดาเมจโฮกกกจริงจังนะคะ
      ยิ่งคิดว่าเป็นเตียงผ้าลายดอกมีลูกไม้(?)ยิ่งโฮกกกก 5555555555 อยากจิตะกุย(?)ขึ้นไปกลิ้งด้วย(?)
      [#โดนยันก่อนจะได้ฟินแม้กระทั่งความคิด(?)ถถถถ]

      ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ชอบบบบบจริงๆนะคะฟิคเรื่องนี้
      เยอรมันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
      [#ปีนี้ท่าทางจะตะโกนชื่อประเทศนี้อีกหลายรอบเลยค่ะ ถถถถถถ]
      ขอบคุณกวางซามะจริงจังที่เขียนฟิคฉลองให้กับเยอรมันได้ก๊าวใจขนาดนี้ > _ <
      จากที่ไม่จริงจัง(?)กับเรื่องบอล อ่านฟิคเรื่องนี้แล้วบอกตรงๆว่าจริงจังโฮกฮากเลยค่ะ 55555555555555
      [#ประเด็นหล่อนมันไม่เคยมีเลยยยยใช่มั้ยยย] ฮืออออออ ฟินมากกับฉากจบ
      เป็นอะไรที่ทั้งหมดที่รอคอยจริงๆ ถึงจะก๊าวใจกับคำว่าขอโทษ(?)
      แต่ประโยคบอกรักมันก็ต้องฟินาเล่กว่าล้านเท่า

      เรื่องนี้….ความรู้สึกลึกๆเค้าอยากพูดว่าเป็นความรักที่ Christ the Redeemer ได้กำหนดให้เป็นมากๆเลย TT
      ดูเป็นพวกคนบาปที่ไม่เจียมกะลาหัวมากๆเลย แต่มันก็ได้ฟีลแบบนี้จริงๆนะ ความรักเป็นสิ่งที่มอมเมา
      แต่หากพบรักแท้แล้ว มันจะกลายเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวให้มีชีวิตอยู่บนโลกต่อไปเพื่อการเริ่มต้นในทุกๆวันใหม่ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
      ฮือออ ฟินนมากๆๆๆเลยจริงๆค่ะ ขอบคุณที่แต่งเรื่องนี้จนจบให้เค้าฟินขนาดนี้นะคะ
      รักฟิคกวางซามะมากๆ แม้เค้าจะมาช้าแต่เค้าก็มาแน่นอน(?)นะคะ
      เป็นกำลังใจให้เรื่อง GLIDE เต็มกำลังเลยค่ะ แล้วก็เรื่องใหม่ที่ลงอินโทรแล้วด้วยยยยย
      โฮกกกกทำไมวันหยุดพิเศษวันแม่ข้าพเจ้าไม่ได้หยุด TT
      อยากจะอ่านแล้วเม้นท์ให้ทันช่วงบ้างอะไรบ้าง Orz

      ปล. เค้าเป็นกำลังใจให้กวางซามะอยู่เสมอนะคะ คนบ้าคนนี้รักฟิคกวางซามะมากๆจริงจังค่ะ!

      ลบ