Psycho Pass. OneShot.Fic [Kogami x Ginoza] ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม : หมายเลขยี่สิบสาม



Psycho Pass. OneShot.Fic [Kogami x Ginoza]    ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม : หมายเลขยี่สิบสาม

: Psycho Pass  Fanfiction
: Kogami Shinya x Ginoza Nobuchika
: กรุไม่รู้จะตั้งเรทว่าอะไรดี...= =?
: PGนะ


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ





สายฝนที่โปรยปรายลงมาพร่ำๆทำให้ร่างเล็กต้องห่อตัวเข้าหากันก่อนจะวิ่งตากหยดน้ำที่พร่างพรมลงมาจากฟากฟ้า ฝ่าเท้าย่ำน้ำที่เฉอะแฉะอยู่บนพื้นถนนอย่างไม่สนใจว่ามันจะกระเด็นมาโดนเสื้อผ้าหรือไม่ นัยน์ตากลมโตเหลือบมองทางข้างหน้าแลเห็นอาคารสูงลิ่วของกรมความปลอดภัยอยู่อีกไม่ไกล

วันนี้ ผู้สังเกตการณ์ สึเนะโมริ อาคาเนะ มีเข้าเวรตอนบ่ายโมงสามสิบนาที....

และตอนนี้มันก็เลยเวลานั้นมากว่ายี่สิบนาทีแล้ว

“ อือ....กิโนสะซังต้องทำหน้ายักษ์รออยู่แน่ๆ.....”      ในขณะที่ขาก็ยังวิ่งฝ่าสายฝนไม่มีหยุด ใบหน้าเล็กก็ร้องครางออกมาอย่างหวาดๆเมื่อนึกถึงหน้าของคนที่พูดถึง

“ ทั้งๆที่เป็นคนใจดีแท้ๆ....จะยิ้มซักหน่อยก็ไม่ได้...”      ใบหน้าหวาดๆยู่ลงเมื่อนึกถึงใบหน้าที่ไม่เคยยิ้มไม่เคยแย้มของรุ่นพี่ที่เคารพ....ทั้งๆที่ใจดี แต่ความปากร้ายและไม่ค่อยจะตรงกับใจนั้นก็ทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าใกล้ แถมยังชอบทำหน้าดุจิกกัดไปซะทุกเรื่อง....บางทีก็ทำให้เธอชักจะอยากจะรู้ขึ้นมาตะหงิดๆ

ว่าอย่าง กิโนสะ โนบุจิกะ....จะมีแฟนกับเค้าได้ไหมนะ?

นัยน์ตากลมโตก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือ เวลายังคงเดินไปเรื่อยๆเช่นเดียวกับขาที่ยังก้าวไม่ถึงสักที...

แต่ทั้งๆที่กำลังวิ่งสู้ฟัดปานนั้น ก่อนทันที่จะเลี้ยวเข้าตึกสูงชะลูด....นัยน์ตาสีน้ำตาลก็ดันเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างเข้าเสียก่อน



และมันก็ทำให้ผู้สังเกตการณ์ สึเนะโมริ อาคาเนะ...มาถึงห้องของหน่วยสืบสวนคดีพิเศษเอาตอนบ่ายสองโมงตรงพอดีเป๊ะ!


“ แฮ่ก....แฮ่ก......ขอโทษค่ะ....กิโนสะซัง....แฮ่ก.....”      เสียงขอโทษปนเสียงหอบไม่ได้ทำให้อีก 5 คนที่ยังนั่งอยู่ในห้องกันครบแปลกใจได้เท่ากับของที่อยู่ในมือของร่างเล็ก

แน่นอนว่าร่างสูงโปร่งที่เธอเข้าไปรายงานตัวด้วยนั้นกำลังทำหน้ายักษ์จ้องเขม็งมองตรงมาอย่างที่คาดเอาไว้ จะผิดจากที่คิดนิดหน่อยก็ตรงที่ว่าใบหน้าเรียวนั้นมีแววตาแปลกใจมากกว่าจะจิกกัดเธอ

“ อะไรอยู่ในมือเธอน่ะ ผู้สังเกตการณ์ สึเนะโมริ?”        เจ้าสิ่งมีชีวิตสีดำตัวเล็กๆที่กำลังเห่า บ๊อก บ๊อก อยู่นั่นดูยังไงก็ลูกหมาแน่นอน แต่ที่เขาถามเธอออกไปนั้นก็แค่อยากจะรู้ว่าเอามันมาทำไม?

“ ลูกหมาค่ะ....แฮ่ก แฮ่ก...”      ร่างเล็กก้มลงไปเอามือท้าวขาข้างหนึ่งพรางหอบตัวโยน เจ้าลูกหมาสีดำที่ขาทั้งสี่มีสีขาวเหมือนใส่ถุงเท้าถูกอุ้มไว้ด้วยมืออีกข้างหนึ่ง

“ ฉันรู้แล้ว....ที่ถามนี่จะให้เธอตอบว่าเอามันมาทำไม?”       น้ำเสียงนิ่งเอ่ยกดดันอีกฝ่ายตามนิสัยของตำรวจ แต่คนที่ไม่เคยรู้สึกสำนึกอะไรก็ยังคงไม่รู้สึกตามเดิม ใบหน้าน่ารักเงยขึ้นมายิ้มพรางหัวเราะ แหะ แหะ ก่อนจะยกมือขึ้นเกาหัว

“ เห็นมันเปียกฝนหนาวสั่นอยู่ที่หน้ากรมฯ เลยพาขึ้นมา....เผื่อว่าจะมีใครดูแลมันได้น่ะค่ะ....เอ่อ....ความจริงฉันก็อยากจะเอามันไปเลี้ยงอยู่หรอกนะ แต่ติดที่ว่าอพาทเม้นต์ที่อยู่เค้าไม่ให้เลี้ยงสัตว์....”      ใบหน้าน่ารักยังตอบออกมาฉะฉานในเรื่องไม่เป็นเรื่องได้เหมือนเดิม ทำเอาร่างสูงโปร่งได้แต่ถอนหายใจ

“ ผู้สังเกตการณ์ สึเนะโมริ...เธอคงไม่ได้สับสนนะว่าหน้าที่ของพวกเราคือดูแลความปลอดภัยของมนุษย์ ไม่ใช่ตามหาที่อยู่ให้สัตว์หลงทาง”      ปลายนิ้วเรียวขยับแว่นก่อนสายตาคู่คมจะจ้องไปยังใบหน้ายิ้มเจื่อนๆของรุ่นน้อง

“ ถ้าอย่างงั้น....ถ้าฉันจะเป็นคนหาบ้านให้มันเองโดยไม่เดือดร้อนคนอื่นๆในนี้ก็คงไม่เป็นไรสินะคะ?”      นัยน์ตากลมโตที่บางครั้งก็ดื้อดึงอย่างไม่น่าเชื่อนั้นมีแต่จะทำให้คิ้วของกิโนสะ โนบุจิกะกระตุกอย่างช่วยไม่ได้....แต่พักหลังๆมานี้เขาก็ชักอยากจะยอมแพ้ เลยได้แต่ปล่อยเรื่องบางเรื่องไป

“ .........อยากจะทำอะไรก็เชิญ....แต่อย่าให้มาเดือดร้อนฉันก็แล้วกัน”      แล้วศีรษะที่เต็มไปด้วยกลุ่มผมสีน้ำตาลก็ก้มหัวให้ก่อนที่ร่างเล็กๆจะเดินไปหา พวกหน่วยปฏิบัติการอีกสี่คนที่วันนี้ยังอยู่กันครบ

คงจะเป็นเพราะฝนยังตกอยู่ คนที่ออกเวรแล้วอย่างคางาริซัง กับคุนิซึกะซังเลยยังนั่งอยู่ที่นี่

คนแรกที่ร่างเล็กเดินไปหาคือคนที่มีโต๊ะอยู่ใกล้เธอมากที่สุดอย่างโคงามิ ชินยะ....

ใบหน้าคมที่ยังคงเฉยชาปรายตามามองเจ้าหมาสีดำก่อนจะยื่นมือมาหิ้วที่คอของมันเอาไว้ ก่อนจะดึงเข้าไปพิจารณาใกล้ๆ บุหรี่ในปากพ่นควันออกมาโดยไม่ได้สนใจว่ามันจะเป่าเข้าหน้าของเจ้าหมาน้อยเลยสักนิด เล่นเอาคนเก็บมันมาอย่างร่างเล็กนึกเป็นห่วง

“ เจ้านี่...น่าจะเป็นคู่ซ้อมให้ฉันได้นะ?”    และพอคุณท่านพูดออกมาเท่านั้นแหละ มือเล็กของเด็กสาวก็รีบอุ้มเจ้าหมากลับมาทันที.......ขืนโดนคนคนนี้ซ้อมมีหวังตายลูกเดียวแน่!!

“ มาเลยเจ้าหมาน้อย...”       คราวนี้เป็น คางาริ ชูเซย์ ที่เดินอ้าแขนเข้ามาราวกับว่าอยากจะได้มันไปเลี้ยงมากๆ ทำเอาเด็กสาวถึงกับยิ้มหน้าบาน

“ ชั้นจะเลี้ยงแกให้อ้วนจนกลายเป็นกับแกล้มที่แสนอร่อยเอง”       มือที่กำลังจะยื่นเจ้าหมาไปให้หดกลับมาทันที.......นี่มองเห็นมันเป็นแค่ก้อนเนื้อเท่านั้นเร๊อะ?!

“ ฉันเอาไปเลี้ยงให้ก็ได้”       น้ำเสียงนิ่งของหญิงสาวหน้าตายแห่งหน่วยสืบสวนคดีพิเศษดังขึ้นมา ให้ร่างเล็กหันไปมองด้วยดวงตาซาบซึ้ง  คุนิซึกะ ยาโยย รับเจ้าหมาไปพรางจ้องมองหน้าของมันอย่างสงสัย

“ หมานี่ต้องให้กินข้าววันละห้ามื้องั้นหรอ?”      ใบหน้าเล็กของผู้สังเกตการณ์ สึเนะโมนิ่งค้างไป.....หมานะคะ ไม่ใช่ปลาทองจะได้กินทั้งวัน....ใบหน้าน่ารักยิ้มแหยๆก่อนจะขอเจ้าหมาคืนมา.....คงจะปล่อยให้ไปอยู่กับคนที่ไม่รู้เรื่องหมาเลยแบบนี้ไม่ไหวแน่

“ มาซาโอกะซัง......”      แล้วเธอก็เดินไปส่งสายตาเหมือนลูกหมาให้กับคนที่มักจะช่วยเธอได้อยู่เสมอ....แต่ทว่า....เหมือนคราวนี้จะมีจิตสังหารรุนแรงกว่าทุกๆครั้งยังไงไม่รู้? และเมื่อค่อยๆหันไปมองที่ด้านหลัง ก็เห็นกิโนสะซังจ้องเขม็งมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ....ดูท่าว่าเธอคงจะหางานให้คุณลุงคนนี้เพิ่มไม่ได้เสียแล้ว    

“ เอ่อ...ไม่ได้สินะคะ....”       ทั้งคนถามและคนถูกถามหัวเราะแห้งๆเข้าใส่กัน ทั้งๆที่คนบงการผ่านโทรจิตนั้นเป็นอีกคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะผู้สังเกตการณ์หมายเลขหนึ่งนู้น

“ เอากลับไปวางไว้ที่เดิม....เธอก็เห็นอยู่ว่าเจ้าพวกนี้มีประสิทธิภาพที่จะดูแลอะไรได้ที่ไหน แค่จะออกไปซื้ออาหารหมายังทำไม่ได้เลย”      เสียงนิ่งเอ่ยออกมาอย่างแล้งน้ำใจจากคนที่ขยับแว่นจนเป็นประกายวิบวับ

“ แต่ว่า.......”      ใบหน้าน่ารักหงอลงอย่างน่าสงสาร เช่นเดียวกับเจ้าหมาพันทางสีดำที่ร้องหงิงๆเหมือนรู้ตัวว่าจะต้องถูกทิ้งอีกรอบ



“ ต้องกลับไปหนาวสั่น เปียกฝนอีกแล้วสินะ....”     

“ หงิง....”

“ ดีไม่ดี ถ้าโดนกรมสาธารณสุขจับได้คงโดนเอาไปฆ่าตั้งแต่ยังตัวแค่นี้แน่ๆ......”

“ หงิง.....”

“ น่าสงสารจัง แต่คงต้องบอกลากันแล้วละนะ.....”

“ หงิง......”




เฮ้อ.........



ใบหน้าเรียวภายใต้กรอบแว่นได้แต่ถอนหายใจออกมาอีกรอบ

เห็นภาพหมาตัวเล็กๆสองตัวนั่งคุยกันแล้วมันอดที่จะไม่รู้สึกอะไรไม่ได้ ยิ่งสายตาของไอ้หมาล่าเนื้อสี่ตัวที่จ้องมองมาราวกับว่าเขาเป็นมนุษย์ใจร้ายใจดำยิ่งทำให้ต้องถอนหายใจออกไปอีกหลายๆครั้ง

“ ผู้สังเกตการณ์ สึเนะโมริ...........”      น้ำเสียงปลงตกทำให้ใบหน้าเล็กหันกลับมาด้วยความเริงร่า แต่คนมาดมากก็ยังคงมาดมากอยู่เหมือนเดิม

“ จะให้เลี้ยงไว้ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ.....ถึงจะน่ารำคาญแต่ยังไงชั้นก็เลี้ยงหมาล่าเนื้อไว้ตั้ง 4 ตัวแล้ว เพิ่มหมาพันทางโง่ๆนี่ไปอีกตัวก็คงจะไม่เป็นไร และเธอจะต้องเป็นคนไปขอร้องผู้ดูแลคอนโดของฉันเองด้วย”       ใบหน้าเรียวเชิดขึ้นทำเหมือนว่ามันเป็นภาวะจำยอม แต่ถึงอย่างนั้นเด็กสาวก็รู้ดีว่าคนตรงหน้าจริงๆแล้วเป็นคนใจดี แน่นอนว่าเห็นเจ้าลูกหมานี่โดนทิ้งก็คงสงสารจนนึกอยากจะเอาไปเลี้ยงอยู่แล้วแหละ

ไม่รู้จะพูดให้ยืดยาวมีพิธีรีตองไปทำไม ถ้าอยากเลี้ยงก็บอกว่าจะเลี้ยงเองเท่านั้นก็จบแล้ว กิโนสะซัง

เด็กสาวมองคนที่ทำท่าเหมือนต้องรับเจ้าหมาไปเลี้ยงด้วยความจำใจ แต่ถึงอย่างนั้นฝ่ามือที่ลูบหัวสีดำอย่างอ่อนโยนนั้นมันก็โกหกสายตาของใครต่อใครในห้องนี้ไม่ได้

“ ฝากด้วยนะคะ กิโนสะซัง! แล้วก็ขอบคุณมากๆค่ะ!


สรุปว่าคนที่ไม่ยอมให้มีเรื่องเดือดร้อน  กลับเป็นคนที่เดือดร้อนที่สุดซะเองงั้นสินะ.....?









วันนี้เป็นวันหยุดเพียงวันเดียวที่มีภายในหนึ่งอาทิตย์ของ โนบุจิกะ กิโนสะ….

และมันก็กำลังจะถูกสังเวยไปกับเจ้าลูกหมาสีดำที่ร้องหงิงๆอ้อนจะกินอาหารอยู่ที่ปลายขา

“ แกเพิ่งจะกินไปไม่ใช่หรือไง?”      ใบหน้าเรียวเงยขึ้นมาจากหน้าจอโน้ตบุคที่เปิดค้างเรื่องการดูแลลูกหมาขึ้นมามองเจ้าก้อนขนสีดำที่กำลังแล่บลิ้นเลียนิ้วเท้าเขาแผล่บๆ

ถึงจะทำเป็นไม่สนใจ ถึงจะทำเป็นเลี้ยงเพราะจำใจ แต่ตอนนี้ในห้องของหนุ่มโสดร่างโปร่งคนนี้กลับเต็มไปด้วยอุปกรณ์สำหรับลูกสุนัขอยู่เต็มไปหมด

นัยน์ตาคมกริบจ้องมองเจ้าลูกหมาอย่างใช้ความคิด....ขืนปล่อยให้กินโดยที่ไม่ออกกำลังกายคงได้อ้วนตายกันพอดี....แล้วหมาจะออกกำลังกายได้ยังไง?

สายตาเหลือบไปเห็นสายจูงที่ซื้อมาในเซตอุปกรณ์การเลี้ยงหมาเข้าจึงนึกอะไรบางอย่างออก


เขาควรจะพามันออกไปเดินเล่น?





แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ....มันจะมีที่ไหนให้พาไปเดินได้บ้างล่ะ?

ก็ตั้งแต่ที่มีคดีของ มาคิชิม่า โชโกะ เกิดขึ้น ผู้สังเกตการณ์อย่างเขาเองก็จะออกไปไหนมาไหนนอกกรมตามลำพังไม่ได้เหมือนกัน...เพื่อความปลอดภัย พวกเขาตกลงกันเอาไว้แล้วว่าถ้าเขาหรือสึเนะโมริ จะออกไปไหน...จะต้องมีหน่วยปฏิบัติการณ์คนหนึ่งไปด้วยเสมอ

ถึงแม้บางทีเขาก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าใครเป็นฝ่ายดูแลใครกันแน่ก็เถอะ?

ร่างโปร่งเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องพรางจ้องมองนาฬิกา....เช้าขนาดนี้ ถ้าเขาโทรไปปลุกเจ้าคางาริ หรือไม่ก็คุนิซึกะแล้วบอกว่าจะพาหมาไปเดินเล่นเนี่ย...คิดว่ามันน่าโกรธบ้างไหม?

ยิ่งเด็กสาวร่างเล็กคนที่ให้เจ้าหมานี่เขามายิ่งไม่คิดจะโทรไปปลุกให้เสียหน้าไปใหญ่

ส่วนมาซาโอกะ โทโมมิ ก็เป็นกรณียกเว้นที่เขาไม่อยากจะอยู่ใกล้...

หึ.....ถ้างั้นก็เหลือตัวช่วยสุดท้าย ที่ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็กล้ารบกวนและหมอนั่นก็จะไม่เคยปฏิเสธ...


โคงามิ....






สแกนเนอร์ที่ติดอยู่หน้าห้องของโคงามิ ชินยะ ตอบรับกับสายรัดข้อมือทันทีที่ยื่นเข้าไปใกล้ ยังไงซะเขาก็เป็นผู้บังคับบัญชาของอีกฝ่าย ปกติอาชญากรแอบแฝงก็ถูกจำกัดสิทธิอยู่แล้ว เพราะงั้นการที่เขาจะเข้าไปในห้องของอีกฝ่ายโดยไม่ต้องขออนุญาตมันจึงเป็นเรื่องที่ทำได้

นิ้วเรียวยาวผูกสายจูงเจ้าลูกหมาเอาไว้ที่โถงโล่งๆของห้องซึ่งเต็มไปด้วยกระสอบทรายและเครื่องออกกำลังกาย

ก็แค่ทำตามที่โดมิเนเตอร์สั่งก็พอ...ไม่เห็นจะต้องฟิตร่างกายอะไรขนาดนั้นเลยแท้ๆแต่หมอนั่นก็ยังทำ

แต่ก็เพราะมีแนวคิดที่ต่างกันแบบนี้แหละ ร่างกายของโคงามิถึงได้เต็มไปด้วยมัดกล้ามและแข็งแรงบึกบึน ต่างจากเขาที่ถึงแม้จะสูงกว่าเล็กน้อยแต่ร่างกายกลับโปร่งบาง

เรียวขาก้าวเข้าไปที่ห้องด้านในอย่างคุ้นเคย ถึงแม้จะโดนลดขั้นจากผู้สังเกตการณ์มาเป็นหน่วยปฏิบัติการ แต่นิสัยพื้นฐานของโคงามิก็ไม่ได้เปลี่ยนไป....ต่อให้ย้ายที่อยู่กี่ครั้ง ผังห้องของหมอนั่นก็ยังจัดเหมือนเดิม

ห้องนอนของหมอนั่นยังคงเต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่ แสงแดดสลัวๆที่ลอดผ่านม่านเข้ามาทำให้เห็นว่าร่างหนายังคงซุกตัวอยู่ในผ้าห่มในสภาพหลับสนิท


หมอนี่....ถอดเสื้อนอนอีกแล้วหรอ?

ด่ากี่ครั้งก็ไม่เคยคิดจะจำเลยสินะ?


ก็ไม่ได้เป็นห่วงอะไรมากหรอก แต่ถ้าเกิดเป็นหวัดขึ้นมา งานของเขาก็จะลำบากไปด้วย

ใบหน้าเรียวจ้องมองลงไปยังคนที่นอนคว่ำเอาหน้าเกยหมอนใบใหญ่เอาไว้ ท่อนแขนแข็งแรงพาดออกมากอดหมอนหนานุ่มทำให้ผ้าห่มเปิดให้เห็นหัวไหล่และแผ่นหลังกว้างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ผมสีดำยุ่งเหยิงช่างชวนให้ยื่นมือไปยีเล่น นัยน์ตาสีดำที่มีแต่แววเฉยชายังคงปิดสนิท ใบหน้าคมจมหายไปในหมอนกว่าครึ่งนั่นก็ยังหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ

ภาพตรงหน้าชวนให้นึกถึงวันเวลาเก่าๆตอนที่พวกเขายังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน....

แต่ตอนนี้ก็ไม่อาจจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว....คนปกติอย่างเขาไม่สามารถจะอยู่ร่วมกับอาชญากรอย่างอีกฝ่ายได้อีก....

และถึงแม้จะทำได้....แต่กับคนที่เลือกที่จะทิ้งเขาไปอย่างหมอนั่น...มันสมควรแล้วหรอที่เขาจะให้อภัย




เลิกกัน....

จึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด....



ปลายนิ้วแตะลงไปบนใบหน้าคมของคนที่หลับสนิทอย่างลืมตัว

แล้วจู่ๆ....เจ้าคนที่คิดว่าหลับสนิทอยู่นั่นก็คว้ามือเรียวก่อนจะกระชากร่างโปร่งลงไปบนที่นอนโดยที่ไม่ทันตั้งตัว เตียงหนายุบตัวลงไปตามน้ำหนักที่มากขึ้น แผ่นหลังบางถูกกดลงไปจนแทบจะจมหายไปกับที่นอน  ใบหน้าเรียวภายใต้กรอบแว่นเหวอไปเล็กน้อยเมื่อมองเห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของคนที่พลิกตัวมานอนทับตนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

“ มายั่วกันแต่เช้าเลยหรือไง กิโนะ?”     รอยยิ้มกวนๆถูกส่งมาให้ ทำให้ใบหน้าเรียวพยายามทำหน้าดุก่อนจะสะบัดไปข้างๆ

“ ชั้นแค่พาหมามาเดินเล่น....”     นัยน์ตาคู่คมเสมองไปที่ข้างเตียงอย่างไม่กล้าที่จะสบตาอีกฝ่ายตรงๆ....กลัวเจ้าโคงามิจะรู้...ว่าหัวใจของเขามันกำลังเต้นแรง

“ หึ....พาลูกหมามาเดินเล่นในห้องของหมาล่าเนื้อ...ระวังจะโดนกินล่ะ”       ถ้อยคำกำกวมถูกเอ่ยออกมาพร้อมกับใบหน้าคมที่ซุกลงไปที่ซอกคอทำให้คนโดนกระทำถึงกับสะดุ้งเฮือก มือเรียวผลักอีกฝ่ายออกไปในทันที

แผ่นหลังกว้างปะทะเข้ากับผนังเสียงดัง ทำให้ร่างโปร่งถึงกับชะงัก.....เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำรุนแรงแบบนั้น....แต่มันก็ไม่เคยจะห้ามตัวเองได้

ไม่เคยจะทำให้ร่างกายทำตามที่หัวใจต้องการได้สักที...

ใบหน้าเรียวยังคงมองไปที่ร่างหนาอย่างไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ต่างจากโคงามิที่ดูจะไม่ได้ใส่ใจกับปฏิกิริยาแบบนั้นของเขานัก ใบหน้าคมเพียงแค่ยิ้มบางๆก่อนจะควานหาบุหรี่มาสูบทั้งๆที่เพิ่งจะลืมตาขึ้นมาแท้ๆ

ห้องนี้มันถึงได้มีแต่กลิ่นบุหรี่!

“ นี่แกสูบมากกว่าเดิมหรือเปล่า? แค่กระสุนปืนมันยังทำให้แกตายเร็วไม่พอใช่ไหม?”         นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นจ้องเขม็งไปที่ใบหน้าคมที่ยกยิ้มมุมปากอย่างถูกใจที่โดนบ่น

“ ก็ตั้งแต่ที่อยู่คนเดียว....พอไม่มีคนบ่น มือมันเลยเผลอหยิบมาสูบเรื่อยเลย....ถ้านายไม่อยากให้ชั้นสูบมัน....ก็มาอยู่ด้วยกันสิ”       จู่ๆใบหน้าคมก็ขยับเข้ามาชิดก่อนจะจ้องตาเขา  ให้ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที

“ ฉะ ฉันจะพาหมาไปเดินเล่น....ถึงจะน่ารำคาญแต่แกก็ต้องไปด้วย”       ใบหน้าเรียวอึกๆอักๆเปลี่ยนเรื่องก่อนจะเสมองไปทางอื่น....ทั้งๆที่พยายามจะทำหน้าให้มันเรียบเฉย แต่คำพูดของโคงามิก็ทำให้หัวใจอดเต้นแรงไม่ได้....เวลาอยู่ด้วยกันสองคนทีไรก็เป็นแบบนี้ทุกที

ทั้งๆที่โดนเขาปฏิเสธอย่างไม่ไยดี...แต่หมอนั่นก็ไม่เคยละความพยายาม



ร่างแข็งแกร่งเดินหายเข้าไปในห้องน้ำสักพักก็กลับออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนหัวเปียกโชก ร่างกายท่อนบนถึงจะสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเอาไว้แต่กระดุมก็ยังไม่ได้ติดเลยสักเม็ด ยังดีที่ท่อนล่างใส่กางเกงขาวยาวสีดำเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

เจ้าของใบหน้าเฉยเมยเดินมาทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงให้คนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วหันไปมองตาขวาง

“ ติดให้หน่อยสิ”      ร่างหนาเอนกายไปข้างหลังพร้อมกับใช้สองแขนยันพื้นที่นอนเอาไว้ ใบหน้าเรียบเฉยปรายตามามองอย่างจะบอกให้รู้ว่าถ้าเขาไม่ทำ เจ้าตัวก็จะไม่ยอมติดกระดุมเองแน่ๆ

“ เมื่อก่อนก็เคยทำให้ไม่ใช่หรอ?....หื๋มห์...กิโนะ”       ไอ้ใบหน้านิ่งๆที่เงยมองเพดานอย่างกวนประสาทนั้นมันได้แต่ทำให้เจ้าของชื่อขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเรียวสะบัดไปข้างๆอย่างพยายามบอกให้ร่างหนารู้ว่าเขาไม่ได้เต็มใจทำหรอกนะ

“ ก็แค่อยากจะรีบๆพาเจ้าหมานั่นออกไปเดินเล่นหรอก!”        มือเรียวกระชากสาบเสื้อเชิ้ตทั้งสองข้างเข้าหากัน ก่อนจะค่อยๆติดกระดุมให้โดยไม่ได้รู้เลยว่าใบหน้าคมกำลังอมยิ้มให้กับใบหน้าแดงๆของตนอยู่

หยดน้ำที่หยดลงจากปลายผมสีดำกำลังไหลลงไปตามกล้ามหน้าท้องที่เป็นมัดๆ มือที่กำลังติดกระดุมอยู่ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะกลับมาติดมันอย่างพยายามไม่สนใจร่างกายที่สมชายสุดๆของอีกฝ่าย นัยน์ตาคมกริบเหลือบมองหัวยุ่งๆที่ยังเปียกโชกอย่างนึกหงุดหงิด

ทำไมเวลาอยู่กับเขาทีไรถึงได้ทำตัวเป็นง่อยได้อย่างหน้าไม่อายขนาดนี้

หมอนี่เห็นเขาเป็นแม่มันหรือยังไง?

มือเรียวจับผ้าขนหนูก่อนจะขยี้หัวสีดำนั่นอย่างมันมือ ใบหน้าบึ้งๆถูกจ้องมองด้วยใบหน้าอมยิ้มน้อยๆที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบ

และก่อนที่ผมจะทันได้แห้ง....ริมฝีปากที่มีแต่กลิ่นบุหรี่ก็แตะลงไปบนกลีบปากของร่างโปร่งที่ไม่ทันตั้งตัว

ดวงตาภายใต้กรอบแว่นเบิกกว้าง มือบางผลักแผงอกแข็งแรงออกไปด้วยใบหน้าแดงเถือก

“ โคงามิ แก....”        แต่ร่างแข็งแรงก็ไม่ได้นั่งฟังคำด่า แต่กลับลุกเดินออกไปด้วยใบหน้าสบายๆ





สายจูงเจ้าลูกหมาอยู่ในมือของหมาล่าเนื้อตัวใหญ่

ผมสีดำยุ่งๆนั่นมันให้ความรู้สึกว่าช่างคล้ายกับขนฟูๆของสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่ตัวเองจูงอยู่ยังไงก็ไม่รู้

ใบหน้าเรียวลอบยิ้มยามที่มองคนที่เดินอยู่ข้างๆสลับกับลูกหมาที่วิ่งอยู่ข้างหน้าด้วยท่าทางร่าเริง

“ หมาล่าเนื้อมาจูงหมาบ้านแบบนี้มันน่าหัวเราะนักหรือไง กิโนะ?”       ใบหน้าเรียบเฉยเอ่ยออกมาทั้งๆที่ดวงตายังคงมองไปข้างหน้า


จะว่าไป.....นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ไม่ได้ออกมาเดินเล่นด้วยกันแบบนี้....

ถึงแม้จะเจอหน้ากันทุกวัน....แต่ที่ทำงานกับที่บ้าน....ยังไงมันก็ไม่มีทางเหมือนกันได้อยู่ดี



ชายหนุ่มสองคนพาหมามาเดินเล่นคงจะเป็นภาพที่ดูแปลกตา จนบรรดาแม่บ้านที่พาลูกมาเล่นที่สนามเด็กเล่นต่างก็มองมาที่พวกเขาเป็นตาเดียว...แน่นอนว่าคนที่ไม่เคยสนใจอะไรหรือสายตาใครอย่างโคงามิ ชินยะ ย่อมไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้าน

ร่างสูงกลับยังคงเดินจูงหมาเดินวนไปรอบๆสวนสาธารณะด้วยใบหน้าเรียบเฉยตามเดิม

ต่างจากร่างโปร่งที่รู้สึกราวกับจะมีไข้เพราะสายตาที่มองมาด้วยความสงสัยพวกนั้น

“ โคงามิ....ฉันนั่งรออยู่ตรงนั้นนะ แกพาเจ้านั่นไปเดินซะ”       นิ้วเรียวชี้ไปที่เก้าอี้ไม้ก่อนจะชี้ไปที่เจ้าหมาน้อยอีกรอบ  ใบหน้าคมพยักรับอย่างไม่ได้ถามอะไร แต่อย่างหมอนั่นต้องรู้อยู่แล้ว...ว่าเขารู้สึกยังไง....


นัยน์ตาที่เคยเฉียบคมและดุดันอยู่เสมอบัดนี้กลับมองตรงไปที่ชายหนุ่มผมดำด้วยสายตาเหม่อลอย  ร่างแข็งแกร่งกำลังก้มตัวลงไปลูบหัวเด็กเล็กๆสองสามคนที่เข้ามาเล่นกับลูกหมา ถึงแม้ใบหน้าคมนั่นจะยังนิ่งเฉยแต่รอยยิ้มน้อยๆก็ปรากฏอยู่บนริมฝีปาก

หมอนั่นเป็นแบบนี้เสมอ...

เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร....

ถ้านัยน์ตาสีดำคู่นั้นจ้องมองไปที่อะไรก็จะไม่มีวันปล่อยจนกว่าจะได้มันมาหรือทำสิ่งนั้นจนสำเร็จลุล่วง....

เขาดีใจ....ที่เขาเองก็เคยเป็นสิ่งหนึ่งที่ถูกดวงตาคู่นั้นจ้องมอง และหมอนั่นก็ตื้อเอาไปจนได้....

แต่ก็เพราะนิสัยแบบนั้นของหมอนั่นมันกลับทำให้เขาเคยเสียใจจนแทบจะเป็นบ้า....

ในวันที่ซาซายาม่าถูกฆ่าตาย....สายตาของโคงามิก็ไม่ยอมละจากศัตรูที่มองไม่เห็น....จนไม่ว่าเขาจะขอร้องจะอ้อนวอนยังไง

หมอนั่นก็ไม่ยอมรับการบำบัดจนปล่อยให้ค่าไซโครพาสไต่ระดับจนเกินเยียวยา

ปล่อยให้ตัวเองต้องกลายเป็นอาชญากร


ปล่อยเขาทิ้งไว้ในโลกที่เคยบอกว่าจะอยู่ด้วยกัน.....เพียงลำพัง


บางทีเขาก็อยากจะรู้...

ว่าตอนนี้....

สายตาของโคงามิยังจ้องมองเขาอยู่หรือเปล่า?

ยังคิดที่จะทำให้เขากลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมอีกหรือเปล่า?

แล้วสายตาคู่นั้นจะไม่ยอมปล่อยเขาไปเหมือนที่ไม่เคยปล่อยอะไรจนกว่าจะได้มาอยู่อีกหรือเปล่า?



ในขณะที่ภายในหัวเริ่มมีแต่ความกังวล อะไรบางอย่างเย็นๆก็แตะมาที่ริมฝีปากให้นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นเหลือบลงไปมอง

มันไม่ใช่ลิ้นของเจ้าลูกหมา แต่ว่ามันคือซอฟครีม....

ดวงตาภายใต้กรอบแว่นเหลือบขึ้นไปมองเจ้าของมือใหญ่ที่จับโคนของซอฟครีมจิ้มมาที่ริมฝีปากของเขาด้วยใบหน้าแดงเถือก

ตกลงไอ้บ้านี่มันรู้หรือเปล่าว่าที่เขาหลบมานั่งอยู่ตรงนี้เพราะไม่อยากให้ยัยป้าพวกนั้นเอาไปจิ้นน่ะ?! แล้วแกจะมาสร้างฉากให้คิดทำไม?!!

มือเขาตวัดโคนซอฟครีมในมือของโคงามิเอามาถือไว้เอง ร่างสูงใหญ่นั่งลงข้างๆบนม้านั่งก่อนจะเอนหลังพิงพนักด้วยท่าทางสบายๆ  เจ้าลูกหมาปีนป่ายขึ้นมาบนหน้าตักของเขาเพราะเห็นซอฟครีมในมือ

ถึงจะเสียดายแต่เขาก็ปล่อยให้ลิ้นเล็กๆเลียซอฟครีมอยู่บนหน้าตัก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยขนสีดำที่ดูเริงร่าทำให้คนยิ้มยากเผลอยิ้มออกมา

และกว่าจะรู้ตัวว่าเขาเองก็ถูกมองอยู่ก็ต่อเมื่อซอฟครีมถูกเลียไปจนหมด

“ กลับ....กันได้รึยัง?”       ใบหน้าเรียวทนอายต่อไปไม่ไหวจึงตัดสินใจพูดตัดบท เจ้าคนหน้าตายที่นั่งอยู่ข้างๆยิ้มน้อยๆก่อนจะลุกขึ้นยืนโดยไม่พูดอะไร

ให้ตายเถอะ....ทำไมเขาถึงได้ไม่ชินกับสายตาของหมอนั่นเสียที....ทั้งๆที่ถูกจ้องมองมากกว่านี้ก็เคยมาแล้วแท้ๆ


ร่างของทั้งสองคนยังคงเดินเคียงข้างกันไปตามทางเดินของสวนสาธารณะ สายจูงของเจ้าลูกหมาถูกย้ายมาอยู่ในมือของเขาแทน

ในขณะที่เขากำลังจ้องมองหางสีดำที่ส่ายไปมา จู่ๆมืออุ่นๆของคนที่เดินอยู่ข้างๆก็สอดประสานเข้ามาที่มืออีกข้างที่ว่าง

นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นเบิกกว้าง และเพราะความตกใจจึงเผลอสะบัดมือของโคงามิทิ้งไป.....

“ อ่ะ....”       เขาไม่ได้ตั้งใจ.....

ริมฝีปากที่อยากจะอ้าบอกกลับปิดเงียบ....ใบหน้าคมของโคงามิทำเพียงแค่นิ่งเฉยแล้วเดินนำหน้าไป...

นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นจึงได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างนั้นไปด้วยหัวใจที่วูบโหวง

โคงามิคงจะเหนื่อยหน่ายกับเขาเต็มที....เพราะทุกๆครั้งเขาก็มักจะปฏิเสธอีกฝ่ายอย่างไร้เยื้อไยแบบนี้เสมอ....

ทั้งๆที่จริงไม่ได้อยากจะทำแบบนี้....

ในใจมันอยากจะทำสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ร่างกายแสดงออกมาต่างหาก....

นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นแอบเหลือบมองมือใหญ่ๆของโคงามิที่เดินอยู่ข้างหน้า...แต่ก็ไม่กล้าที่จะยื่นมือของตัวเองออกไปจับมืออีกฝ่ายก่อน

ใบหน้าเรียวได้แต่ก้มหน้ามองพื้นอย่างนึกหงุดหงิดตัวเอง....ทำไมเขาถึงได้เป็นคนแบบนี้...

ถ้าเขาสามารถพูดสิ่งที่ใจคิดอยู่ได้แบบผู้สังเกตการณ์สึเนะโมริบ้างก็คงดี

นัยน์ตาที่สิ้นหวังกับตัวเองเหลือบมองมือใหญ่ๆข้างนั้นอีกครั้ง.....ถ้าหากว่าโคงามิจะละสายตาไปจากเขาเข้าสักวัน....มันคงจะไม่น่าแปลกใจเลย



ถ้าจะต้องถูกทิ้งจริงๆ....มันก็ไม่ใช่ความผิดของใครเลย.....



แต่แล้วในขณะที่เอาแต่เดินมองพื้น จู่ๆมือที่คิดว่าจะปล่อยเขาทิ้งไปกลับสอดประสานเข้ามาใหม่  นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นเบิกกว้างขึ้นมาอีกครั้งเมื่อรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่สอดแทรกอยู่ทุกปลายนิ้ว


ใบหน้าเรียวหันไปมองคนข้างๆอย่างไม่เชื่อสายตา


“ ไม่ว่านายจะสะบัดมือชั้นออกกี่ครั้ง  ชั้นก็ยังจะจับมันอีก....จับมันไปเรื่อยๆ จนกว่านายจะเลิกสะบัดมันไปเอง”       นั่นคือคำพูดที่ออกมาจากปากของโคงามิ


“ เหมือนเส้นแบ่งระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงที่นายขีดมันขึ้นมา....สักวัน ฉันก็จะก้าวข้ามมันไปให้ได้...”



ยอมแพ้....


เขายอมแพ้แล้ว....





โคงามิ ชินยะ ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน.....หากนัยน์ตาสีดำคู่นั้นจ้องมองไปที่อะไรก็จะไม่มีวันปล่อยจนกว่าจะได้มันมา


และตอนนี้หมอนั่นก็กำลังจ้องมองเขาอยู่....




.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be Con.(ละมั้ง กร๊ากกก)






แต่งตอนนี้จบถึงขั้นผงะตัวเอง....=[ ]=!!!....นี่ตรูทำอะไรอยู่เนี่ย???

คือปกติจะเป็นพวก... Allคนที่ชอบ.... เพราะส่วนใหญ่จะชอบเคะ   อย่าง ....All59.... ไม่ก็ ....All Zura...  ไม่ก็ 3P แต่เป็นแบบเมะรุมเคะ อย่าง  พี่เบียxลูเคียxเร็นจิ (ฮร๊วกกกนี่มันนอมอล!!)   รอยxเอ็ดxอัล  ล่าสุดก็  ฟุชิxยาตะxคามะ(จากK)

ถึงแม้จะมีนานๆทีที่ชอบเมะบ้าง อย่างซาสึเกะ....แต่ก็ยังไม่เคยแต่งฟิคเกะxใครที่นอกจากพี่อิทาจิ (ถึงแม้จะจิ้นเกะโตะ ด้วยก็เหอะนะ ^ ^)

มี Psycho Pass นี่แหละค่าาาาา ที่ทำเอาจะเป็นบ้าเพราะว่าตรูดันชอบคุณโค แล้วสำหรับตัวเองที่จิ้นคุณโคเคะไม่ออก เพราะงั้น....มันต้องเป็นมหาเมะ(=[ ]=?) อ๊ากกกกกกก เพิ่งเคยเข้าสู่โลก  คนที่ชอบAll เป็นครั้งแรก!! คุณโคAll !!! กดแม่งให้หมด!!!(<<อาการหนัก)







ตรงนี้อ่านซักหน่อยนะก๊ะ จะได้ไม่งง


เอาละ.....มาอธิบายกันหน่อย เกี่ยวกับไอ้ฟิคงงๆที่ชื่อว่า   ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม  นี่น่ะ

จริงๆแล้วมันเป็นฟิคสั้นจบในตอนค่ะ (ยกเว้นของอิคู่ดราม่าประจำซอย) และ....เนื้อเรื่องมันไม่ได้ต่อกัน แต่ละพาร์ทแต่ละคู่ไม่เกี่ยวข้องกันโดยสิ้นเชิง!!  ความจริงคือต้องแยกไปเป็นคนละเรื่อง ไปตั้งชื่อของใครของมันไปเลยด้วยซ้ำ...แต่ด้วยความที่มันเป็นฟิคสั้นแบบ One Shot แล้วตรูก็ขี้เกียจตั้งชื่อ เลยให้มันอยู่ภายในร่มคันเดียวกันไปซะ โดยใช้ชื่อเรื่องว่า  ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม  โดย...

ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม  หมายเลข 1-11 จะเป็นหมายเลขตอนที่จะเอาไว้ลงคู่  Kogami x Tsunemori
ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม  หมายเลข 12-22 จะเป็นหมายเลขตอนที่จะเอาไว้ลงคู่  Kogami x Makishima
ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม  หมายเลข 23-33 จะเป็นหมายเลขตอนที่จะเอาไว้ลงคู่  Kogami x Ginoza

ซึ่งแต่ละคู่ก็อาจจะไม่ได้ลงจนครบจำนวนตอนก็ได้ อย่างที่บอกแหละมันเป็นฟิคสั้นจบในตอน เพราะงั้นจะต่อหรือไม่ต่อมันก็จบของมันอยู่แล้ว (ก็ยกเว้นอิคู่ดราม่าที่ไม่จบในตอนแน่นอน55)  จึงเรียนมาเพื่อทราบ ^ ^



แล้วก็ขอบคุณคอมเม้นต์ของสามตอนที่ผ่านๆมามากๆเลยนะค้า ^ ^// ดีใจที่อย่างน้อยก็ยังมีคนอ่าน ฮ่าๆๆๆ ถึงแม้ว่าพอเจออิคู่มืดนั่นแล้วอาจจะเลิกอ่านไปเลยก็เป็นได้ จะงงไปไหน = =”  แล้วเจอกันตอนหน้าค่า  *วิ่งพริ้วๆหลบดาวถล่มใส่ =[ ]=*

แอบแปะรูปพ่อหนุ่มซึนประจำเรื่อง....กิโนะซังตอนโดนลุงมาซาโอกะเหวี่ยง (ตกลงสองคนนี้เป็นพ่อลูกกันป่ะเนี่ย?) ดูหน้ากิโนะช็อตนี้ดิ....โคตรน่ารักอ่ะ....นานๆจะอ้าปากค้างกับเค้าซักที 5555







5 ความคิดเห็น:

  1. เดินเข้าสาย All ไปแล้วจนได้! ฮ่าๆๆ ยกมือว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบใครแล้วต้อง All ค่ะ แล้วตั้งแต่อ่านการ์ตูนมา ทางนี้ยังไม่เคยเผลอใจให้เมะคนใด เลยยังล่องลอยอยู่ในโลกโดนกด ฮว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก >//////< All นี่มันสุดยอดจังเลยเนอะพี่กวาง

    อ่านดูรู้เลยอ่ะว่าพี่กวางกำลังสนุกกับการแต่งคู่นี้มากๆ ไม่เพียงคนแต่งหรอกที่รู้สึกว่ามันเหมือน 8059 หรือ 1859 คนอ่านทางนี้ก็เหมือนกันค่ะ โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อารมณ์มันใช่ คำพูดคำจามันโฮกมากอ่ะ เอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยย อย่างแรกเลยต้องขอบคุณสึนะ?โมริค่ะ ที่เอาไอ้ตูบตัวน้อยมาเป็นสะพานเชื่อมใจของคนทั้งสอง

    นะ กิโนะซังเขาก็ปากร้ายใจดีอย่างนี้แหล่ะนะ เห็นภาพกิโนะซังในอนิเมะเลยค่ะ พ่อคุณชอบทำหน้าจิกๆพร้อมกับวาจาเชือดเฉือน นี่ถ้าให้เฉือนแข่งกับพ่อโชโกะหัวเงินนี่คงมันส์กันน่าดู อา... (คิดอะไรน่ากลัวมากกก)


    “ หึ....พาลูกหมามาเดินเล่นในห้องของหมาล่าเนื้อ...ระวังจะโดนกินล่ะ”


    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ฮว้ากกกกกกกกกกกก อยากเห็นกิโนะซังโดนขย้ำค่า!! >////< (เห้ย!) คุณโคตอนนี้เร้าใจที่สุด เซะซี่มวากกกกกก นั่นสินะ พ่อคุณชอบถอดเสื้อเดินไปเดินมา เก๊าว่านะคะพี่กวาง นี่คือความสุขเล็กๆของอาจารย์อามาโนะ (หา!!) แบบ ตอนเขียนรีบอร์นเด็กอ่านเยอะ เลยไม่ได้เขียนฉากอย่างนี้เท่าไหร่ แต่ละคนนุ่งห่มมิดชิดเชียว (นี่เอ็งคิดอะไรอยู่ว้าาาาาาาา !!)

    ซึ้งกับตอนท้ายๆมากเลยค่ะ ชอบอารมณ์ที่แบบไม่ยอมแพ้อ่ะ คุณโคนี่ความอดทนสูงมาก เขาปฏิเสธเท่าไหร่ก็ยังไม่ยอมแพ้ หวังให้ฝ่ายกิโนะซังแพ้ไปเอง โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่รู้อะไรบ้างเลยว่าใจคนซึนๆน่ะไม่ได้แข็งพอหรอกค่า พังโครมๆแล้วคุณโค >.<

    ชอบอารมณ์ของสองคนนี้จังค่ะ ดูแบบคลุมเครือแต่เห็นสายตาคุณโคนี่ฟินกระจาย

    อย่างนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ โชโกะ! แสดงพลังความดาร์กดราม่ากดทั้งน้ำตาให้เขาเห็นซะลูก! เดี๋ยวไม่ทันนะขอบอก

    แหะๆ จะคู่ไหนจะตามหมดเลยค่ะ สู้ๆนะคะพี่กวาง

    ตอบลบ
  2. “ ไม่ว่านายจะสะบัดมือชั้นออกกี่ครั้ง ชั้นก็ยังจะจับมันอีก....จับมันไปเรื่อยๆ จนกว่านายจะเลิกสะบัดมันไปเอง” เอร้ย ชอบอ๊า ชอบคู่นี้ แอบคิดว่าหลายๆ มุมของกิโนะสะ มันไปคล้ายกับหนูก๊ก เช่น ความซึน เพียงแต่เป็นความซึนที่ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่กว่า ต่างจากหนูก๊กที่ซึนและโวยแบบวัยรุ่น (หรือเราจะคิดอยู่คนเดียว) เลยกลายเป็นชอบคู่นี้มากกว่าคู่อื่นๆ ในการ์ตูนเรื่องนี้ สู้ ๆนะคะพี่กวาง ><

    ตอบลบ
  3. กิโนะซางงงงงงง คิดมากไปนะเนี่ย โคงามิซังไม่มีทางทิ้งคุณหรอกน่า

    เรื่องนี้สองคนนี้น่ารักมาก บรรยากาศคล้ายจะใสแต่ก็ไม่ใสซะทีเดียว อีโรติคอวนๆ อยู่ชอบกล

    ซึนไปน้าาา กิโนะซัง ทั้งเรื่องลูกหมาแล้วก็เรื่องโคงามิซังด้วย

    ส่วนโคงามิซัง ขี้เล่นมากอ่ะเรื่องนี้ แบบ...น่ารักมาก หงุงหงิงกับกิโนะซังทั้งเรื่อง น่ารักๆ

    อาคาเนะจัง ตอนนี้ก็เป็นตัวประกอบไปพลางๆ ก่อนนะ ฮ่าๆๆ

    ตอบลบ
  4. ชอบคู่นี้มาก ไม่คิดว่าจะมีคนแต่งคู่นี้เลยนะเนี่ย ท่านกิโนสะ น่ารักทึ่ซู้ดดดดด!!!!

    ตอบลบ
  5. ด...ได้มาอ่านสักที พีเคลำเอียงค่ะเลยอ่านคู่นี้ก่อน ฮาา
    เค้าเป็นแฟนคลับคุณกิโนะ♥

    แบบว่า กิโนะของคุณกวางก็ซึนได้ใจ น่าร๊ากกกกก
    อยากเลี้ยงลูกหมาแต่ฟอร์มจัดสิน้าาาา

    เอ~ว่าแต่มีลูกหมาใหม่มาแล้วหมาตัวเก่าไม่งอนมั่งเร้ออ ฮะฮะ

    นึกภาพฉากในห้องนอนแล้วเขินจังค่ะ มาปลุกถึงเตียง ติดกระดุมเสื้อให้ เช็ดผมให้
    ถ้าลุกไปทำกับข้าวให้กินด้วยนี่กิโนะเป็นภรรยาตัวอย่างเลยค่าาา

    ชอบที่คุณโคพูดมากเลย ที่แบบว่าไม่ว่าจะปฏิเสธกี่ครั้งก็จะไม่ยอมแพ้
    ประทับใจจจจจ รักจริงหวังแต่งมากค่าคุณโค๊วววว>w<

    วิ่งตามไปอ่านตอนต่อ~~~~

    ตอบลบ