Psycho Pass. OneShot.Fic [Kogami x Tsunemori] ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม : หมายเลขสอง



Psycho Pass. OneShot.Fic [Kogami x Tsunemori]    ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม : หมายเลขสอง

: Psycho Pass  Fanfiction
: Kogami x Tsunemori
: Romantic??
: PG


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักหญิง หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ (จะเตือนทำด๋อยอะไรวะ?)






เจ้าของก็คือเจ้าของ....

สัตว์เลี้ยงก็คือสัตว์เลี้ยง.....


ขีดเส้นแบ่งให้ชัดเจนซะ อย่าให้มีสิ่งที่เรียกว่าความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง นั่นคือสิ่งที่ผู้สังเกตการณ์ควรจะทำกับหน่วยปฏิบัติการณ์ที่เป็นลูกน้องของตัวเอง




เฮ้อ....

ใบหน้าเล็กเผลอถอนหายใจทุกครั้งที่นึกถึงคำพูดเย็นชาของรุ่นพี่อย่างกิโนสะซัง....ถึงจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง ถึงจะรู้ว่าการที่โคงามิซังต้องถูกลดขั้นจากคนปกติไปเป็นอาชญากรแอบแฝงก็เพราะไม่ยอมแบ่งแยกความรู้สึกที่มีต่อลูกน้องก็เถอะ...แต่เธอก็ทำไม่ได้จริงๆที่จะปฏิบัติต่อกันแค่ผู้ร่วมงานเท่านั้น

“ กิโนสะซัง...ดูอารมณ์เสียทุกครั้งเลยเวลาที่เราออกไปไหนมาไหนกับโคงามิซังตามลำพัง...”     เสียงครางน้อยๆดังงึมงำขึ้นมาจากคนที่เกยคางเอาไว้กับโต๊ะ

หรือเธอควรจะเชื่อคำพูดของเขาดีนะ...

เพราะรู้สึกว่าหมู่นี้....เวลาที่อยู่ใกล้ๆโคงามิซังทีไร....หัวใจมันก็จะเต้นแปลกๆไปทุกที...

“ ขีดเส้นแบ่งให้ชัดเจนงั้นหรอ.....”


ตี๊ด....ตี๊ด.....ตี๊ด.....


“ หวะ....”     เสียงเตือนข้อความเข้าดังมาจากสายรัดข้อมือ...มันเป็นของหน่วยสืบสวน กรมความปลอดภัยที่เธอสังกัดอยู่.....ปลายนิ้วเรียวรีบกดรับทันทีก่อนที่ข้อความจะถูกฉายด้วยจอภาพเสมือนบนข้อมือ

“ เข้ามาที่กรมตอนนี้ได้ไหม? กินโนะที่เข้าเวรอยู่ออกไปทำคดีกับลุงมาซาโอกะ แล้วดันมีอีกคดีเข้ามา...ฉันออกไปเองไม่ได้.......จาก โคงามิ”      ชื่อที่ติดอยู่ที่ริมฝีปาก จู่ๆก็ทำให้ใบหน้าร้อนขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

“ อื้ออออ....”     ใบหน้าน่ารักสะบัดพรืด ก่อนจะกดพิมพ์ตอบกลับไปด้วยสายตามุ่งมั่น.......งานๆๆ



เพราะจำเป็นต้องย้ายมาอยู่ใกล้ๆกรมเพื่อความปลอดภัย ทำให้ร่างเล็กมายืนหอบอยู่หน้าห้องของหน่วยสืบสวนคดีพิเศษในอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงให้หลัง

“ ไปเลยไหมผู้สังเกตการณ์? รายละเอียดค่อยดูระหว่างทางแล้วกัน”     ร่างสูงใหญ่ที่ข้างในเสื้อผ้านั่นซ่อนกล้ามเป็นมัดๆเอาไว้เดินออกมาด้วยใบหน้านิ่ง

“ เอ๋??”    ทำเอาคนที่เพิ่งจะมาถึง ถึงกับร้องเสียงหลง ใบหน้าหวาดๆหันไปมองหาตัวช่วยอย่างกิโนสะซังแต่ในห้องก็ไม่มีใครอยู่เลยอย่างที่ร่างสูงบอกจริงๆ

ขาเรียวเล็กก้าวตามแผ่นหลังกว้าง ทั้งๆที่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ดูรีบเร่งอะไรแต่ทำไมระยะห่างมันถึงค่อยๆมากขึ้นเรื่อยๆขนาดนี้ นัยน์ตากลมโตเหลือบมองขายาวๆนั่นอย่างนึกหมั่นไส้...อย่าให้มีมั่งก็แล้วกัน! ในขณะที่กำลังแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ ใบหน้านิ่งก็ดันหันมาพอดี

“ หื๋อ? กำลังอิจฉาขาของฉันอยู่รึเปล่า?”      รอยยิ้มน้อยๆปรากฏที่มุมปากทำให้ใบหน้าเล็กแดงเถือกก่อนจะก้มเหล่ไปที่พื้น

“ เปล่าค่ะ...”     อีตาคนนี้....รู้ได้ยังไงว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่....ที่สำคัญหมู่นี้ดูจะกล้าล้อเล่นกับเธอมากกว่าแต่ก่อนเยอะเลยนะ...อย่างนี้มันต้องขีดเส้นๆๆ!! ให้มันรู้กันไปบ้างว่าใครเป็นผู้บังคับบัญชา ใครเป็นลูกน้อง!

“ สแกนสาธารณะตรวจจับระดับค่าไซโครพาสในพื้นที่ได้สูงกว่าปกติน่ะ เลยให้เราไปตรวจสอบ”      เสียงทุ้มเอ่ยออกมาให้ใบหน้ามุ่ยหันไปมอง....โคงามิซังมาเดินอยู่ข้างๆตั้งแต่เมื่อไหร่?

“ นะ....ถึงแม้ว่าแถวๆนั้นมันจะเกิดจนเป็นเรื่องปกติก็เถอะ”      นัยน์ตากลมโตก้มลงจ้องมองข้อมูลจากจอภาพเสมือนที่ข้อมือก่อนจะเข้าใจได้ทันทีว่าโคงามิซังหมายถึงแถวๆไหน


แหล่งเสื่อมโทรมซึ่งเป็นที่อยู่ของคนที่มีค่าไซโครพาสซึ่งอีกไม่กี่ระดับก็จะถูกจับเป็นอาชญากรแอบแฝงอยู่แล้ว....


“ เสื้อคลุมล่ะ?”      ใบหน้าน่ารักเงยมองไปตามเสียงเรียกถึงได้เพิ่งรู้ว่านัยน์ตาสีดำกำลังจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า

“ เอ่อ....แหะแหะ....”      ไม่อยากจะบอกว่าก็เพราะรีบเลยลืม จึงได้แต่หัวเราะแห้งๆตอบกลับไป ใบหน้าคมถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะมองตรงไปข้างหน้าตามเดิม

“ เอาเถอะ...จับสายจูงหมาอย่างชั้นเอาไว้ให้ดีๆก็แล้วกัน”     เสียงลอยๆที่ดังขึ้นมาก่อนที่ร่างสูงจะกระโดดขึ้นรถขนนักโทษไปทำให้นัยน์ตากลมโตชะงักค้าง ถ้าเธอจะแปลความหมายของประโยคทีเล่นทีจริงนั้นว่า “ให้อยู่ใกล้ๆฉันซะ” มันจะเหมือนกันหรือเปล่า?



รถจอดลงอีกทีที่หน้ากลุ่มอาคารที่ดูทั้งเก่าทั้งสกปรก  ผู้สังเกตการณ์ตัวเล็กยืนกลืนน้ำลายในขณะที่มองเข้าไปในบลอคเหล่านั้น....ถึงจะไม่เหมือนกันซะทีเดียวแต่เธอก็ยังจำบรรยากาศและความตื่นกลัวในวันที่เริ่มทำงานวันแรกได้ เพราะสถานที่มันก็คล้ายๆกันนี่แหละ

เสียงฝีเท้าที่หยุดลงข้างๆจึงทำให้รู้ว่ารถขนนักโทษนั้นมาถึงเรียบร้อยแล้ว

โดมิเนเตอร์ถูกหยิบขึ้นมาก่อนที่เสียงอันคุ้นเคยจะพูดไปตามที่ระบบเขียนเอาไว้  ร่างสูงในเสื้อโค้ทสีเทาคอตั้งตัวเดิมออกเดินนำหน้า ให้ขาเรียวเล็กก้าวเดินตามไปติดๆ

นัยน์ตากลมโตลอบมองคนที่เดินเยื้องอยู่ข้างหน้าที่ยังคงมีท่าทางนิ่งเฉย ใบหน้าคมไม่มีแม้แต่เหงื่อซักเม็ด ต่างจากเธอที่หัวใจกำลังเต้นระรัวด้วยความหวาดหวั่น....คิดว่านะ

หากไปเดินอยู่ที่อื่นในเมืองคนจากกรมความปลอดภัยหรือเรียกง่ายๆว่าตำรวจอย่างพวกเขาจำเป็นจะต้องใส่ชุดโฮโลสูทเป็นอวาต้าตัวการ์ตูนเพื่อไม่ให้ใครรู้ว่ามีตำรวจเข้ามาในพื้นที่ เพื่อไม่ให้ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น...แต่ในกรณีที่ต้องมาเดินในพื้นที่อันตรายแบบนี้...ยิ่งทำตัวให้บ่งบอกว่าเป็นตำรวจจะยิ่งดี นั่นก็เพราะ...

“ ไงสาวน้อย...ถ้าเพิ่งมาอยู่ใหม่แล้วไม่มีที่จะไปละก็ ไปพักกับพวกเราก็ได้นะ”     วัยรุ่นท่าทางโทรมๆแต่ก็ยังถือดีเดินเข้ามารุมล้อมผู้สังเกตการณ์ร่างเล็กทันทีที่เธอเผลอเดินแยกจากร่างสูงเพราะอยากจะลองตรวจสอบคนจรจัดที่น่าสงสัยด้วยโดมิเนเตอร์

“ เอ๋? เอ่อ...”      ใบหน้าน่ารักได้แต่อึกๆอักๆอย่างพูดอะไรต่อไม่ถูก ขาที่จะก้าวถอยมาก็โดนล้อมเอาไว้หมด

“ น่า...”      ดูเหมือนพวกนั้นจะขยับเข้ามาใกล้ยิ่งกว่าเดิมจนร่างเล็กเริ่มหันรีหันขวางอย่างจนทางออก

“ โทษที ไม่อยากขัดจังหวะหรอกนะแต่เธอมากับฉัน”      จู่ๆเสียงทุ้มก็ทำให้วัยรุ่นกลุ่มนั้นถึงกับแตกกระเจิง ไม่ใช่ว่าใบหน้าคมนั้นจะน่ากลัวว่าปกติ แต่มันเป็นเพราะโดมิเนเตอร์ที่ถูกยกขึ้นจ่อหน้าของหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นนั่นต่างหาก

ค่าสัมประสิทธิ์อาชญากรรมต่ำกว่า 90 ไกปืนจะล็อคค่ะ.....เสียงจากระบบบอกมาว่าอย่างงั้น ถึงแม้ว่าร่างเล็กจะไม่ได้ยินด้วยแต่ใบหน้าคมที่ดูเสียดายอย่างออกนอกหน้าก็ทำให้เธอรู้ได้ทันที

ว่าแต่อีตาคนนี้ก็ยังคงเอาปืนจ่อหน้าใครต่อใครได้ง่ายๆเหมือนเดิมเลยนะ ทั้งๆที่เธออุตส่าห์ไม่ยกปืนขึ้นมาแท้ๆ

“ เหวอ...ตำรวจนี่หว่า!!”     หลังจากหายตะลึงตาค้างกลุ่มวัยรุ่นพวกนั้นต่างก็วิ่งหนีไปทันที

“ บอกให้จับสายจูงดีๆไง...แล้วคราวหน้าเสื้อคลุมน่ะ ห้ามลืม”     ใบหน้าเล็กพยักหงึกๆ ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกว่ามีวิญญาณกิโนสะซังมาสิงคนตรงหน้าอยู่ก็ไม่รู้ คงจะเป็นเพราะปกติโคงามิซังไม่เคยบ่นอะไรออกมา...จะบอกว่าไม่สนใจอะไรเลยก็ว่าได้....แล้วคราวนี้ที่บ่นเธอนี่เพราะ....เป็นห่วง?


กริ๊ก....


เสียงล็อคเบาๆทำให้คนที่กำลังคิดอะไรอยู่ต้องก้มลงไปมอง แล้วนัยน์ตากลมโตสองข้างก็ต้องเบิกกว้าง เมื่อเห็นว่าที่ข้อมือข้างหนึ่งของเธอถูกกุญแจมือล็อคเอาไว้เรียบร้อย

“ เอ๋????!”       ได้แต่อุทานด้วยอาการอ้าปากค้าง เครื่องมือจับกุมรุ่นพระเจ้าเหาแบบนี้โคงามิซังไปเอามาจากไหนเนี่ย? เพราะดูเหมือนมันจะยังใช้ระบบลูกกุญแจไขเอาอยู่เลย...ไม่สิ...มันใช่เวลาจะมาสงสัยเรื่องนั้นที่ไหนเล่า?!

“ จะได้ไม่ไปเดินหลงอยู่ไหนอีก”      ร่างสูงพูดขึ้นในขณะที่ล็อคกุญแจมืออีกข้างเอาไว้ที่ข้อมือของตัวเอง

ร่างสูงกระตุกข้อมือเป็นเชิงบอกให้ร่างเล็กที่ยังนิ่งอึ้งเริ่มเดินตามไป....ไอ้วิธีการแบบนี้ถึงจะดูแปลกๆแต่ก็สมกับเป็นโคงามิซังยังไงไม่รู้....ใบหน้าน่ารักได้แต่หันไปอีกทางพรางน้ำตาไหลพราก



“ น่าจะเป็นแถวๆนี้แหละ ที่สแกนสาธารณะพบว่ามีค่าระดับความเครียดสูงขึ้นอย่างผิดปกติ”      ร่างสูงยกสายรัดข้อมือขึ้นมาตรวจสอบก่อนที่สายตาดุจหมาล่าเนื้อจะกลับมากวาดมองทุกอย่างรอบตัว

ที่ชั้นหนึ่งใต้ตึกโทรมๆเหล่านี้คงจะเคยเป็นร้านค้ามาก่อน แต่ส่วนใหญ่ก็ปิดร้างไปเกือบหมดแล้ว ยังเหลือก็แค่ร้านเหล้าเก่าๆร้านหนึ่งเท่านั้นเอง

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านัยน์ตาสีดำของโคงามิซังกำลังจับจ้องไปที่อะไรถ้าไม่ใช่ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งกำลังนั่งกอดขวดเหล้าฟูมฟายราวกับคนไร้สติอยู่ที่เคาน์เตอร์....เหมือนจะเพิ่งโดนภรรยาทิ้งไป?  มือใหญ่เตรียมจะยกโดมิเนเตอร์ขึ้นมาเล็ง แต่มือเล็กก็ขวางเอาไว้เสียก่อน

“ ลองเข้าไปคุยกับเค้าดีๆก่อนค่ะ ถ้าใช้โดมิเนเตอร์ตอนนี้อาจจะกลายเป็นโหมดพิฆาตได้”     นัยน์ตากลมโตที่ส่งมาด้วยความจริงใจทำให้นัยน์ตาของหมาล่าเนื้อยอมสงบลง

“ ขอโทษค่ะ  เรามาจากกรมความปลอดภัย...ทำใจเย็นๆแล้วยอมให้เราตรวจสอบไซโครพาสด้วยค่ะ”       มือเล็กข้างที่ไม่ได้ถูกกุญแจมือพันธนาการเอาไว้ชูบัตรตำรวจให้อีกฝ่ายดู แต่แทนที่ชายคนนั้นจะยอมสงบลงกลับแตกตื่นหนักยิ่งกว่าเดิม

“ ยะ อย่าเข้ามานะ!”       ขวดเหล้าเปล่าถูกยกขึ้นมาแทนอาวุธทันที และก่อนที่มันจะถูกฟาดลงมาที่ผู้สังเกตการณ์ร่างเล็ก...

“ ชิ!!


เพล้ง!!!!


นัยน์ตากลมโตหลับตาปี๋ ในใจภาวนาว่าคงได้ไปสวรรค์แล้วแน่ๆแต่ทว่าร่างกายที่กำลังสั่นหงึกๆกลับมีลำแขนแข็งแรงมาตวัดไปก่อนจะรับรู้ได้อีกทีว่า...เธอกำลังถูกกอดเอาไว้...

โดยอ้อมแขนของคนที่ได้ชื่อว่าเป็น “หมาล่าเนื้อ” ของเธอเอง




เจ้าของก็คือเจ้าของ....

สัตว์เลี้ยงก็คือสัตว์เลี้ยง.....


ขีดเส้นแบ่งให้ชัดเจนซะ อย่าให้มีสิ่งที่เรียกว่าความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง นั่นคือสิ่งที่ผู้สังเกตการณ์ควรจะทำกับหน่วยปฏิบัติการณ์ที่เป็นลูกน้องของตัวเอง



กิโนสะซัง....

คุณเอง...จะทำได้หรอ? ถ้าสัตว์เลี้ยงของคุณมันจะอบอุ่นแบบนี้





“ ว๊ากกกกกกกก”       เสียงสติแตกไม่ได้ดังมาจากทั้งสองคนที่โดนทำร้าย แต่ดังมาจากผู้ชายคนนั้น ร่างโงนเงนพยายามจะวิ่งหนีแต่คราวนี้โดมิเนเตอร์ก็ไม่ปล่อยให้หนีรอดไปได้อีก


ปัง!!!


“ อุก...”      นัยน์ตาสีดำหลับลงข้างหนึ่ง แขนข้างที่ใช้กันขวดเหล้ายังรู้สึกชาอยู่น้อยๆ

“ โคงามิซัง!!”     ร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนค่อยๆจับท่อนแขนที่กอดคอเธออยู่ลงมาดู เศษแก้วแตกกระจายติดอยู่เต็มแขนเสื้อโค้ท มีบางส่วนเสียบเข้าไปในเนื้อผ้าและตรงนั้นมันก็มีเลือดซึมออกมา...

“ ละ เลือด!!”      ใบหน้าน่ารักเริ่มลนลาน ทำให้ใบหน้าคมเผลอยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว

“ ไม่เป็นไรหรอกน่า...กลับกันเถอะ”     ในขณะที่มือใหญ่ปัดเศษแก้วออก มือเล็กก็รั้งข้อมือที่ถูกผูกติดกันเอาไว้

“ โคงามิซัง...ฉัน...ขอโทษค่ะ...เป็นเพราะฉันอีกแล้ว ที่ทำให้คุณบาดเจ็บ...ถ้าฉันเชื่อคุณ ถ้าชั้นยอมใช้โดมิเนเตอร์ตั้งแต่แรกมันก็คง....”      ใบหน้าน่ารักก้มลงมองที่พื้น ในใจรู้สึกว่าตัวเองนั้นช่างไร้ประโยชน์ แล้วยิ่งได้เห็นคนตรงหน้าต้องมาบาดเจ็บครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะเธอ ก็ยิ่งให้อภัยตัวเองไม่ได้

“ ผู้สังเกตการณ์...ถ้าเธอบอกให้ฉันใช้โดมิเนเตอร์ตั้งแต่แรก...ฉันก็จะไม่ยอมเป็นสัตว์เลี้ยงของเธอหรอกนะ”     มือใหญ่ที่วางลงมาบนหัวนั้นมันช่างอบอุ่น...อบอุ่นจนคิดไม่ออกเลยว่ามันมาจากมือของอาชญากรได้อย่างไร นัยน์ตากลมโตเงยขึ้นมามองใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยแววตาสั่นพร่า

“ โคงามิซัง....”      และใบหน้าคมก็ยิ้มน้อยๆรับเมื่อเธอเอ่ยเรียก “ชื่อ” ของเขา


แล้ว....

“ แง๊~~~~~”       ร่างเล็กๆก็โผกอดอีกฝ่ายพรางร้องไห้ขี้มูกโป่ง....ร่างสูงได้แต่โอบรอบคอเล็กก่อนจะยืนเหม่อมองฟ้า...ว่าจะเปลี่ยนใจเอาตอนนี้นี่ยังทันไหมนะ?




ประตูห้องของหน่วยสืบสวนคดีพิเศษถูกเปิดออกเมื่อร่างสูงกับร่างเล็กเดินเข้าไปพร้อมกัน ชายสูงวัยหันมามองด้วยรอยยิ้มต่างจากอีกคนที่ขยับแว่นด้วยสายตาดุๆก่อนจะลุกพรวดเดินตรงมาหา

“ นี่มัน...?”      ใบหน้าเรียวของผู้สังเกตการณ์หนุ่มผงะไปเล็กน้อยเมื่อมองเห็นกุญแจมือที่ยังคล้องข้อมือของคนทั้งคู่เอาไว้

“ ไม่ได้เอากุญแจไปด้วยน่ะ”      แล้วร่างสูงก็ลากร่างเล็กๆให้เดินไปที่โต๊ะของตัวเองด้วยกัน ก่อนจะหยิบลูกกุญแจออกมาไขให้ข้อมือของทั้งสองฝ่ายเป็นอิสระ สายตาดุๆหลังกรอบแว่นจ้องเขม็งมาทันที

“ แกบาดเจ็บด้วยนี่โคงามิ?”      นัยน์ตากลมโตเหลือบมองผู้เป็นรุ่นพี่...บางทีก็ดูไม่ออกบอกไม่รู้เลยว่ากิโนสะซังเป็นห่วงเธออยู่หรือว่าโกรธแค้นเธออยู่กันแน่ ก็คำพูดร้ายๆที่ไม่ค่อยตรงกับใจพวกนั้นบางทีมันก็บั่นทอนกำลังใจนี่นา

“ ไม่เป็นไรมากหรอกน่า”     ร่างสูงบอกปัดด้วยท่าทางสบายๆ

“ ไม่เป็นไรก็ดี ชั้นมีเรื่องจะคุยกับแก ไปด้วยกันหน่อย”     แล้วร่างสูงโปร่งก็ออกเดินนำโคงามิซังไปทันที แบบนี้แปลว่าห้ามปฏิเสธสินะ

ใบหน้าคมหันมายักไหล่ให้ก่อนจะเดินตามออกไป แต่ยังไม่ทันจะพ้นประตูห้อง ร่างสูงก็หันกลับมาก่อนจะพูดกับเธอว่า

“ ขอบใจนะ...ที่ไปด้วยกันวันนี้”



ทุกถ้อยคำล้วนดังก้องอยู่ในจิตใจจนใบหน้าเล็กนิ่งค้าง คนที่จะต้องเอ่ยขอบคุณเขา คือเธอเองต่างหาก

อยู่ๆน้ำตาก็ไหลลงมาเฉยเลย...

กระดาษทิชชูถูกยื่นมาให้จากชายวัยกลางคนที่มองมาด้วยสายตาเอ็นดู

“ คุณหนู....ฉันจะบอกไว้ก่อนนะ ว่าอาชีพอย่างพวกเราน่ะตายเร็ว...เพราะงั้นถ้ามีอะไรที่อยากทำละก็...ตัดสินใจแล้วก็ทำลงไปเลย”

นัยน์ตากลมโตเบิกกว้างกับคำพูดอ่อนโยนที่ได้ยิน...และเพราะว่าคำพูดของมาซาโอกะซังในตอนนั้น...

มันทำให้ฉันตัดสินใจแล้วว่า.....



ฉันจะบอกกับเขา...ว่าเขาไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของฉัน...

ฉันจะเรียกชื่อเขา...ในฐานะคนที่ฉันรัก....




.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


สายลมแรงๆที่พัดมาปะทะใบหน้าทำให้ผมสีดำที่ยุ่งอยู่แล้วยิ่งยุ่งหนักเข้าไปใหญ่ นัยน์ตาสีดำเหลือบมองไปที่แขนของตัวเอง

...แผลแค่นี้ไม่ได้เจ็บอะไรหรอก...ตอนที่เห็นว่ายัยเด็กนั่นจะโดนทำร้ายยังเจ็บกว่าซะอีก


ใบหน้าคมยิ้มเหยียดก่อนจะเงยหน้าเหม่อมองท้องฟ้าในขณะที่ปล่อยแผ่นหลังให้เอนพิงไปกับผนังกันตกของดาดฟ้า

คำพูดของกินโนะยังคงดังก้องอยู่ในหัวทั้งๆที่เจ้าตัวเดินจากไปตั้งนานแล้ว...


“ โคงามิ....ฉันอยากจะเตือนแกทั้งในฐานะหัวหน้าและในฐานะ.....เพื่อน....”

“ ครั้งนี้แกจำเป็นต้องขีดเส้นแบ่งให้ได้...เพราะคนที่จะเจ็บปวดไม่ได้มีแต่แก....แกก็รู้ตัวดีว่าสิทธิ์ของอาชญากรแอบแฝงมันมีอยู่แค่ไหน...แล้วแกจะทำให้คนปกติแบบเธอมีความสุขได้อย่างงั้นหรอ ช่วยคิดอย่างจริงจังหน่อยเถอะ”




ควันบุหรี่พวยพุ่งออกไปบนท้องฟ้า ก่อนที่นัยน์ตาสีดำจะปิดลง...


เขาลืมไปได้ยังไงนะ....ว่าเขาไม่ได้เป็นแค่หมาล่าเนื้อ...


แต่ว่า....ที่สำคัญกว่านั้น...





เขาคือ อาชญากร.....




.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


To be Continue แน่ๆ






ว๊ากกกก!!! หมายเลขหนึ่ง สอง สาม นี่มันจะต่อกันนะคะ!! >_<  ส่วนหมายเลข สี่ อาจจะเป็นตอนของคุณโคโชโงะซัง....คือ....อาจจะงงแต่ต้องบอกว่าของทั้งสองคู่มันจะเป็นคนละเรื่องกันน่ะ คือ...เก๊าจะแต่งฟิคสั้นของ Psycho Pass ในชื่อเรื่อง [ชื่อ....ของสัตว์ที่ไร้นาม] เพียงชื่อเดียวน่ะค่ะ  คือขี้เกียจตั้งชื่อใหม่น่ะ  เพราะชอบชื่อนี้มากๆยังไงไม่รู้ฮ่าๆ

ตอนที่แล้วมีคน(ชื่อน้องเมย์?)ถามมาด้วยว่า ชื่อเรื่อง เอามาจากเพลงปิดของ Psycho Pass ใช่ไหมคะ?...ตอบว่าใช่เลยค่า....Namae no Nai Kaibutsu ของ EGOIST....เพลงเพราะดีเนอะคะ เท่ห์มากโดยเฉพาะเวอร์ชั่นปั่นมะเขือเทศ(?) ฮ่าๆๆ


สำหรับฟิคตอนนี้รีบปั่นแซงหน้าทุกอย่างให้เลยค่ะ 555 (โดนน้องๆที่ติดเค้าอยู่เพี้ยบโบกดับ...แง๊ รอหน่อยน้า)


สุขสันต์วันเกิดนะค้า คุณ Chanatmas


มีความสุขมากๆๆๆน้า ฮ่าๆๆ รู้สึกว่าเพิ่งได้คุยกันจริงจัง(?)ก็ตอนสครีมไซโครพาสนี่เอง แหะแหะ จะว่าไปยังไม่รู้ชื่อเล่นหนูเลยอ่ะให้เรียกยังไงดีนะ? เมย์? (=[ ]= คุยกันอีท่าไหนเนี่ย?!!) เอาของขวัญมึนๆชิ้นนี้มาส่งให้ ยังไงก็ขอให้เป็นปีที่ดีๆนะคะ สุขภาพร่างกายแข็งแรง จะได้มาลุ้นลงตับไปกับ Psycho Pass ด้วยกัน ฮา


ส่วนฟิคพาร์ทนี้เป็นของสึเนะโมริไปแล้ว...พาร์ทหน้ามาดูคุณโคกันมั่ง ว่าคุณโคจะตัดสินใจยังไง จะยอมตัดใจแล้วไปหาอาชญากร(?)ด้วยกันหรือว่าจะยึดมั่นในความรักต่อไป โฮ้วววววววว ยังไงก็รักคุณโคนะคะ (<<ผิด!)

แล้วเจอกันตอนหน้าค่า >w<


ปล.มีคนทวง Blooming Heart มาแล้วอ่ะ *w* เป็นเรื่องที่อยากจะเขียนต่อมากถึงมากที่สุดเลย แอร๊ยยย (<<โดนฝนดาวตกถล่มใส่ไปซะเถอะแก!!)








ตรงนี้อ่านซักหน่อยนะก๊ะ จะได้ไม่งง


เอาละ.....มาอธิบายกันหน่อย เกี่ยวกับไอ้ฟิคงงๆที่ชื่อว่า   ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม  นี่น่ะ

จริงๆแล้วมันเป็นฟิคสั้นจบในตอนค่ะ (ยกเว้นของอิคู่ดราม่าประจำซอย) และ....เนื้อเรื่องมันไม่ได้ต่อกัน แต่ละพาร์ทแต่ละคู่ไม่เกี่ยวข้องกันโดยสิ้นเชิง!!  ความจริงคือต้องแยกไปเป็นคนละเรื่อง ไปตั้งชื่อของใครของมันไปเลยด้วยซ้ำ...แต่ด้วยความที่มันเป็นฟิคสั้นแบบ One Shot แล้วตรูก็ขี้เกียจตั้งชื่อ เลยให้มันอยู่ภายในร่มคันเดียวกันไปซะ โดยใช้ชื่อเรื่องว่า  ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม  โดย...

ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม  หมายเลข 1-11 จะเป็นหมายเลขตอนที่จะเอาไว้ลงคู่  Kogami x Tsunemori
ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม  หมายเลข 12-22 จะเป็นหมายเลขตอนที่จะเอาไว้ลงคู่  Kogami x Makishima
ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม  หมายเลข 23-33 จะเป็นหมายเลขตอนที่จะเอาไว้ลงคู่  Kogami x Ginoza

ซึ่งแต่ละคู่ก็อาจจะไม่ได้ลงจนครบจำนวนตอนก็ได้ อย่างที่บอกแหละมันเป็นฟิคสั้นจบในตอน เพราะงั้นจะต่อหรือไม่ต่อมันก็จบของมันอยู่แล้ว (ก็ยกเว้นอิคู่ดราม่าที่ไม่จบในตอนแน่นอน55)  จึงเรียนมาเพื่อทราบ ^ ^









3 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณสำหรับฟิคค่ะ (>____<)// ปกติเป็นนักอ่านเงา ทำตัวเงียบๆๆ แต่ตามสโตกฟิคพี่ตลอดเลย =___=" เพิ่งได้คุยกันจริงๆ ก็เพราะ psycho pass นี่แหละ นานๆที่จะเพ้อออออออออออออการ์ตูนได้ขนาดนี่ >___< ดีใจมักๆๆๆได้คุยกับพี่ซะที สมัครบลอกมาเพื่อเม้นฟิคพี่โดยเฉพาะ -0-
    ฟิคเรื่องนี้จะแบ่งหลายๆคู่ซินะคะ >___< คุณโคเปลี่ยนคู่บ่อย 555+ ตอนนี้น่ารักมาก เขียนถึงมุมมองของสึเนะโมริ ท่าทางเธอจะตกหลุมรักคุณโคเข้าแล้ว 555+ ส่วนคุณโครวดร้าวววววววววววว....อยากจะรัก แต่ทำไม่ได้ TT^TT แต่ชอบความสัมพันธ์ของคู่นี้นะคะ นานๆทีจะชอบคู่นอมอล (หรือเป็นเพราะพอเห็นคู่นี้แล้วนึกถึง 1827 ) อากาเนะกับคุณโคเหมือนรุ่นพี่รุ่นน้อง เจ้านายสัตว์เลี้ยง คุณโคออกจะเอ็นดูอากาเนะมากเลยนะในอนิเมะ อากาเนะโดนคุณโคหยอกตลอดดดดดด ฟิคตอนหน้าจะปวดตับแข่งกับอนิเมะตอนที่ 11 มั้ย หรือพี่จะแต่งเรื่องปวดตับแข่งกับจอมมารรรรรรรร ติดตามอยู่นะค่าาาาา (>W<)//

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ18 ธันวาคม 2555 เวลา 06:52

    มาใหม่....
    หลังจากที่พี่สุดที่เลิฟแนะนำพี่มาได้พักใหญ่ก็เข้ามาอ่าน แล้วก็พึงได้คอมเม้นเอง ...มัลติพลายมันโพสไม่ได้อาา

    แต่งได้หนุกมากพี่ครับ เนี่ยคู่นี้เป็นคู่แรกเลยที่กลับมาอ่าน(แบบนอมอลอ่ะ)หลังจากอยู่แดนสุขวะดีสีม่วงมานาน(และก็จะอยู่ต่อไป)พอได้กลับมาอ่านแบบนี้แล้วเล่นเอากระตุกไปเหมือนกัน ...แบบมันไม่คุ้นเท่าไร แต่คู่นี้เป็นคู่นอมอลหลักที่เชียร์เหมือนกัน ฮุๆ

    เป็นคู่ที่ให้อารมณ์ฮิบะสึนะจังเลยยยย

    ....กินโนซะจะกลายเป็นตัวเสียมซะแล้วเหรอ โคจังเริ่มเกิดอาการค้ำคอร์ซะล่ะ แบบนี้จะปฏิเสธสึเนะจังที่จะมาสารภาพรักรึเปล่าวา อา...ไม่นะ ถ้าจะรันทด อย่ารัดทดนักเลย ไหนๆฮิกะซือ...ได้โคจรมารักกันอีกครั้ง(หา?) ในภาครุ่นพี่รุ่นน้องสุดโมเอ้ให้เขาสมหวังกันเถอะ อย่าไปแข่งปวดตับมารธอนกะอนิเมะเลยยยย อันนั้นซีเรียสเกิ้นนนนนนน
    จะค่อยติดตามนะฮัฝฝฝฝฝฝ

    ตอบลบ
  3. ค้างคามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
    ได้โปรดอัพต่อเถอะนะคะ
    เรื่องแรกเลยที่จะขาดใจแบบนี้ ได้โปรดดดดดดดดดดดดดด 555

    ตอบลบ