KHR Au S.Fic HBD.Yama [8059] -- BiOS : 05 --


KHR Au S.Fic HBD.Yama [8059]  -- BiOS : 05 --

: KHR AU Fanfiction
: 8059
: Action  Horrors
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ




  
เผื่อใครจะนึกไม่ออก เก๊าเลยไปจิ๊กภาพของคนอื่น(เฮ้ย)มาแปะให้ดูว่าเบนซ์สปอร์ตหน้าตามันเป็นยังไง








“ โกคุเดระ.....”        ผมเอ่ยเรียกคนที่นั่งอยู่ข้างๆกันให้หันมามอง เป็นเพราะเบนซ์สปอร์ตสีขาวเพิ่งจะแล่นออกมาจากบ้านได้ไม่เท่าไหร่ ถึงจะไม่อยากบอกเขาแต่เรื่องนี้มันก็สำคัญทีเดียว


“ คือว่า....ไฟเตือนน้ำมันหมดมันกระพริบมาหลายรอบแล้วน่ะนะ”      เอาแล้วไง ดูเหมือนใบหน้าใสจะมีอาการประหลาดใจเล็กน้อย เขาทำหน้าราวกับว่า...ฉันต้องทำอะไรกับมันด้วยหรอ?....ยังไงอย่างงั้นเลย


“ ปกติฉันขับอย่างเดียวนี่....เรื่องเติมน้ำมันไม่ใช่หน้าที่ของฉัน”       มันจะไม่ใช่หน้าที่ของนายได้ไงล่ะ? ว่าแต่ไอ้คำพูดแบบนี้มันคุ้นหูตะหงิดๆนะ?....ผมได้แต่ลอบถอนหายใจ....สงสัยว่าปกติแล้วพ่อของเขาจะเป็นคนจัดการให้หมด


ดูเหมือนอนาคตสามีทาสจะมาเยือนผมยังไงไม่รู้แหะ....


ผมเหลือบมองไปรอบๆ จำได้ว่าแถวๆนี้น่าจะมีปั๊มน้ำมันอยู่


" ถ้าปั๊มน้ำมันละก็...เลี้ยวซ้ายตรงแยกข้างหน้า...."      ใบหน้าสวยของโกคุเดระก้มงุดลงไปซุกอยู่กับกล่องยาบนหน้าตัก มีเพียงเสียงงึมงำดังลอดออกมา     " แต่ว่า...ฉันเติมไม่เป็นหรอกนะ...."     น้ำเสียงเขาดูจะรู้สึกผิดอยู่บ้าง ผมเลยได้แต่อมยิ้ม


" ไม่เป็นไรหรอก....ถึงนายจะทำอะไรไม่เป็นเลยก็ไม่เป็นไร"      ผมขับรถเลี้ยวไปตามที่เขาบอก  เขาเหลือบนัยน์ตาสีมรกตใสแจ๋วมามองผม


" อะไรที่นายทำไม่เป็น  ฉันจะทำให้เป็นทุกอย่าง เพราะงั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง"      ผมหันไปยิ้มให้กับใบหน้าของคนที่ลอบมองผมอยู่ แก้มใสแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีก่อนจะหันไปซุกอยู่กับกระเป๋ายาตามเดิม


บางทีผมก็ยังคิดนะว่า  เขาจะรังเกียจผมบ้างหรือเปล่า ก็ผมออกจะรุกเขาขนาดนี้  แล้วก็ถึงแม้ว่าจะดูไม่ค่อยเหมือนแต่ยังไงเขาก็เป็นผู้ชายมาตลอดชีวิตนะ  มีผู้ชายด้วยกันเองมาจีบแบบนี้จะรู้สึกไม่ดีบ้างหรือเปล่า


ตอนนี้....ผมก็ได้แต่ใช้สถานการณ์ผิดปกตินี่ฉวยโอกาสในการอยู่ข้างๆเขา...แต่หลังจากนี้ไป...หากเรื่องทุกอย่างมันจบลง


....พวกเราก็จะจบกันไปด้วยหรือเปล่า...




....ใครจะยอมให้เป็นแบบนั้นกันเล่า!....

....ยังไงเขาก็จะต้องเป็นของผม!.....



เผลอพยักหน้าให้กับตัวเองจนเขาหันหน้ามามองอย่างสงสัย  ผมหัวเราะแห้งๆตอบกลับไป...หากเขารู้ความในใจของผม....เขาคงวิ่งหนีผมก่อนซอมบี้แน่ๆ




ผมเลี้ยวรถเข้าไปในปั๊มน้ำมันที่มีสภาพไม่ต่างไปจากบ้านเรือนในแถบนี้มากนัก จะว่าไปแล้วพื้นที่แถวนี้แทบจะไม่มีซอมบี้มาเดินเพ่นพ่านกันอยู่เลย อาจจะเป็นเพราะไม่มีใครเหลือรอดอยู่แล้วพวกมันเลยไม่มีเป้าหมายที่จะอยู่ที่นี่กันต่อ....ซึ่งนับว่ามันดีกับผมมาก!


เบนซ์สปอร์ตสีขาวจอดลงที่หน้าตู้สำหรับเติมน้ำมัน ที่นี่เป็นแบบเติมเอง เพราะฉะนั้นผมจึงจำเป็นที่จะต้องลงจากรถเพื่อไปที่บูธเก็บเงินที่คอยควบคุมการปล่อยน้ำมันที่ตั้งอยู่ทางขวามือนั่นเสียก่อน ผมพยักหน้าให้โกคุเดระที่นั่งอยู่ในรถ ก่อนที่จะจับดาบมั่นแล้วเปิดประตูก้าวออกไป


สายตาคมกริบและสัญชาติญาณการเอาตัวรอดถูกเปิดใช้อีกครั้ง ในหูเงี่ยฟังทุกสรรพเสียงที่เข้ามาจากรอบด้าน พวกซอมบี้มีเสียงการเคลื่อนไหวเฉพาะตัวอยู่ ซึ่งบัดนี้มันยังคงเงียบสนิท


ผมเดินเข้าไปใกล้บูธเก็บเงินมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ หัวใจเต้นแรงเพราะยังไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง  ปกติแล้วจะมีพนักงานคอยบริการกดตัวเลขและเก็บเงินอยู่ในนั้น แต่ตอนนี้....ในนั้นมันน่าจะว่างเปล่า


แกร่ก....


เสียงของอะไรบางอย่างที่ดังขึ้นมาจากภายในบูททำให้มือที่กำลังจะเอื้อมเข้าไปในหน้าต่างซึ่งกระจกแตกละเอียดต้องหยุดชะงัก  ใบหน้าของผมเริ่มจะมีเหงื่อแตกพลั่ก


สองมือย้ายมากระชับดาบมั่น....ถึงยังไงผมก็ต้องเข้าไปกดปล่อยน้ำมันในนั้นให้ได้...ถึงแม้จะต้องลากไอ้ซอมบี้ตัวร้ายออกมาเด็ดหัวทิ้งก็ตาม...


ผมขยับเข้าไปใกล้บานหน้าต่างอีกครั้งก่อนที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ สองมือจับดาบก่อนที่จะกระโจนพรวดเข้าไปหมายจะฟันคอพวกมันให้กระเด็น


“ เอ๊ะ?!!


แล้วก็ต้องรีบหยุดมือเอาไว้เมื่อสิ่งที่สวนกลับมามันไม่ใช่ใบหน้าเละๆของพวกซอมบี้....แต่กลายเป็น.....ไม้เบสบอล


“ สึกิชิม่า?!         ดาบของผมจ่ออยู่ที่คอของเพื่อนรัก ส่วนไม้เบสบอลในมือของสึกิชิม่าก็พาดอยู่ที่คอของผมเช่นกัน ต่างคนต่างเบิกตากว้างอย่างตะลึงงัน เมื่อได้มาพบเจอกันโดยไม่คาดคิด


“ ทำไมนายมาอยู่ที่นี่?”       ผมกับเขาต่างก็ลดอาวุธลง สึกิชิม่ามีท่าทางเครียดอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ปกติแล้วหมอนี่จะเป็นคนที่ร่าเริงในระดับเดียวกับผมเลยเชียว


“ ..........คาริยะ....”         ผมชะโงกหน้าข้ามหน้าต่างเข้าไปมองตามสายตาของสึกิชิม่าที่ลดต่ำลง แล้วก็ต้องตกใจอีกรอบเมื่อคนที่อยู่ในอ้อมแขนของสึกิชิม่าซึ่งนั่งอยู่กับพื้นนั้นคือเพื่อนสนิทของผมอีกคน ใบหน้าของคาริยะนั้นซีดเซียวและมีอาการทรมานอย่างเห็นได้ชัด.....ซึ่งอาการแบบนี้....ผมรู้จักดี


“ .....คาริยะ....ถูกกัด.....”        ใช่...เพราะมันเป็นอาการของคนที่กำลังจะกลายเป็นซอมบี้!


“ ฉันเข้าใจความรู้สึกของนายเลยละยามาโมโตะ...เพราะไม่ว่ายังไงฉันก็ทิ้งให้เขาอยู่ที่นี่คนเดียวไม่ได้ ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นฉันที่โดนเขากัดจนตาย....ฉันก็ทิ้งเขาไปไม่ได้....”     อ้อมแขนที่กอดคาริยะอยู่นั้นสั่นสะท้าน คิ้วของสึกิชิม่าขมวดเข้าหากันในขณะที่ค่อยๆก้มหน้าลงไปจนหน้าผากแตะกับหน้าผากซีดเซียวของคนที่กำลังจะกลายเป็นซอมบี้ ดวงตาที่ปิดลงของสึกิชิม่าเหมือนพยายามจะกักเก็บน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลลงมา.....หมอนั่น...มีสภาพไม่ได้ต่างไปจากผมก่อนหน้านี้เลยสักนิด


“ นายไปจากที่นี่ซะเถอะยามาโมโตะ....อย่างนายคงจะเข้าใจ ว่าต่อให้พูดยังไงฉันก็ไม่มีทางทิ้งเขาไปได้”       ใช่สิ....ผมเข้าใจ....และผมก็รู้ว่ามันจะดีใจแค่ไหนหากสึกิชิม่าได้รู้ว่าคาริยะยังมีทางรักษาอยู่


“ สึกิชิม่า! อุ้มคาริยะออกมา....เดี๋ยวนี้เลย!      ผมหันไปมองรอบๆกายหาฝูงซอมบี้ที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะมาก่อนที่จะบอกเขา


“ อะไรนะ?!


“ เอาเถอะน่า...พาเขาออกมา เดี๋ยวนี้!       สึกิชิม่ามีท่าทางงงๆ แต่ก็ยอมลุกขึ้นแล้วอุ้มคนในอ้อมแขนออกมาจากบูธเก็บเงิน ผมเดินนำพรางหันมองความปลอดภัยรอบๆกายแล้วพาเขาไปยังเบนซ์สปอร์ตสีขาวที่จอดรออยู่


“ โกคุเดระ....เปิดกระโปรงหลังรถให้หน่อย....แล้วก็....”      ผมเอามือค้ำประตูรถด้านที่โกคุเดระนั่งอยู่ก่อนจะบอกเขาพรางเอียงคอให้เขามองเห็นสองคนที่ยืนอยู่ห่างๆ


“...................”      เขาพยักหน้า แล้วไม่นานฝากระโปรงหลังของเบนซ์สปอร์ตสีขาวก็เปิดออก


“ วางคาริยะลงไปในนั้นก่อนแล้วกัน โทษทีนะ เราไม่มีพื้นที่ที่ดีกว่านี้แล้ว”      ผมบอกสึกิชิม่าด้วยสีหน้าอ่อนโยน ถึงแม้ว่าหมอนั่นยังคงขมวดคิ้วอยู่แต่ก็ยอมวางร่างที่กอดมาทั้งคืนลง


“ คาริยะจะไม่เป็นอะไร....เชื่อฉันสิ”       ผมบีบไหล่ของเพื่อนซี้ก่อนที่จะเบี่ยงตัวให้สึกิชิม่าได้เห็นโกคุเดระที่ลงจากรถมายืนอยู่ด้านหลังผม


“ ทะ   ทำไม......”     สึกิชิม่าถึงกับนัยน์ตาเบิกกว้าง หมอนั่นทำหน้าเหว๋อเมื่อเห็นโกคุเดระจนผมเผลอหัวเราะออกมา


“ เรามีแอนตี้ไวรัส...และโกคุเดระก็จะฉีดมันให้คาริยะ”       ผมตบไหล่ที่สูงใกล้เคียงกันปุๆ ดูเหมือนตอนนี้สึกิชิม่าจะจิตใจลอยไปไกลแล้ว...เหมือนกับผม...ตอนที่รู้ว่าโกคุเดระจะไม่ต้องตายและกลายเป็นซอมบี้


ร่างบอบบางของโกคุเดระนั่งคุกเข่าลงที่หลังรถ เข็มฉีดยาในมือถูกจ่ออยู่ที่ข้อพับของคาริยะที่สติเริ่มจะเลือนหายเต็มที


“ สึกิชิม่า  ฉันต้องจัดการเรื่องน้ำมันต่อ....นายช่วยคุ้มกันสองคนนี้ที ต้องใช้เวลาและสมาธิเล็กน้อยในการฉีดยา”       ผมพูดกับสึกิชิม่าที่ยังดูงงๆ หมอนั่นพยักหน้ารับก่อนจะพยายามเรียกสติกลับมา


ผมวิ่งไปกดปล่อยน้ำมันที่บูธนั้นอีกที ก่อนจะวิ่งกลับมาที่รถเพื่อเสียบสายน้ำมันเข้าไปยังตัวถังของรถ


เคล้ง...


เสียงเหล็กหล่นดังก้องกังวานอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองทันที เหงื่อที่เพิ่งจะหยุดไหลไปเริ่มไหลย้อยลงมาตามหน้าผากอีกครั้ง....ทำไมพวกมันถึงได้ตายยากตายเย็นขนาดนี้!


“ โกคุเดระ....ใกล้เสร็จรึยัง....”       ผมถามคนที่อยู่ด้านหลังรถเบาๆทั้งๆที่สายตาก็ยังไม่ละไปจากชายที่มีสภาพร่างกายบิดเบี้ยวซึ่งกำลังค่อยๆเดินเลี้ยวเข้ามาในปั๊ม หนังหุ้มใบหน้าที่เปิดไปกว่าครึ่งทำให้ดูน่าสะอิดสะเอียนจนอยากจะอ้วกจนผมต้องยกมืออีกข้างขึ้นมาปิดปาก แต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถละสายตาไปจากซอมบี้ตัวนั้นได้


จะให้คลาดสายตาไม่ได้เด็ดขาด.....


“ อีกนิดเดียว...”       โกคุเดระตอบกลับมา ในขณะที่เสียงตัดน้ำมันดังขึ้นพอดี....เอาเป็นว่าทางผมนั้นเรียบร้อยแล้ว....ผมดึงสายน้ำมันออกไปจากตัวรถ


“ สึกิชิม่า”        ผมเรียกอีกคนที่ยืนอยู่ท้ายรถ  สายตาดุจเหยี่ยวของหมอนั่นก็กำลังจ้องเขม็งไปที่ซอมบี้ตัวนั้นเช่นกัน


“ อย่าออกห่างจากสองคนนั้นล่ะ”      ผมบอกออกไปในขณะที่ดวงตาก็จับจ้องไปที่คอหอยของเจ้าซากศพนั่น


และผมจะไม่รอให้มันเข้ามาทำร้ายพวกเราก่อน!


ปลายดาบชี้ลงพื้นด้วยสองมือซึ่งจับมันเอาไว้ ก่อนที่ขาจะก้าวออกไป จากจังหวะที่เชื่องช้า และเมื่อสายตาล็อคเป้าหมายได้ สปีดก็กลับกลายเป็นรวดเร็วราวกับพายุ ร่างทั้งร่างเทคตัวขึ้นกลางอากาศก่อนจะตวัดตัววาดคมดาบตัดฉับลงไปที่คอของซอมบี้ตัวนั้นจนขาดกระเด็น


แรงเหวี่ยงทำให้ผมต้องย่อตัวลงไปคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น ใบหน้าและดวงตานิ่งสนิทเงยขึ้นมองขาอีกหลายคู่ที่กำลังก้าวเดินอย่างเชื่องช้าเข้ามา


ดูเหมือนกับว่าพวกมันจะรู้ตัวแล้วว่าที่นี่ยังมีเลือดและเนื้อสดๆหลงเหลืออยู่!


.....เข้ามา....


.....ต่อให้จะมากมายแค่ไหน ฉันก็จะไม่มีวันให้พวกแกผ่านตรงนี้ไปได้แน่!







“ นี่...นายขึ้นไปนั่งในนี้ซะ”       ผมได้ยินเสียงของโกคุเดระบอกกับสึกิชิม่าแต่ว่าผมก็ไม่มีเวลาจะหันกลับไปมอง ในเมื่อตอนนี้ฝูงซอมบี้กำลังรุมเข้ามาไม่หยุดหย่อน


เอี๊ยด!!!!


เสียงรถออกตัวทำให้รู้ว่าโกคุเดระจัดการเรื่องฉีดยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ที่หางตาแลเห็นเบนซ์สปอร์ตสีขาวกำลังพุ่งตรงมายังผม...สองมือยังคงตวัดดาบไปเรื่อยๆ....ไม่ว่าหัวใครจะหลุดกระเด็นไปทางไหน ไม่ว่าเลือดจะสาดเลอะพื้นยังไง ผมก็จะไม่มีวันหยุด


เอี๊ยด!!!!


เสียงเบรกดังขึ้นพร้อมกับเบนซ์สปอร์ตสีขาวที่เปิดหลังคาออกจนหมดกำลังหันหัวรถกลับไปอีกด้าน....ผมได้แต่มองตาค้าง....ไม่ว่าใครจะเป็นคนขับก็ตาม แต่คนๆนั้นต้องบ้าระห่ำไม่แพ้รุ่นพี่คาซาโนริแน่ๆถึงได้ดริฟเบนซ์สปอร์ตหน้าตาเฉยแบบนี้


“ โดดขึ้นมา!!       เสียงโกคุเดระตะโกนบอกผม และผมก็ไม่มีเวลารีรอ


ฝ่ามือเท้าเอาไว้ที่ประตูรถซึ่งลดกระจกลงจนหมด ก่อนที่ขาจะกระโดดข้ามเข้าไปนั่งที่เบาะข้างคนขับ


“ ยามาโมโตะหลบ!!      ผมก้มหัวตามสัญชาติญาณ ไม้เบสบอลลอยหวือผ่านหัวผมไปก่อนจะฟาดเข้าเต็มกะโหลกของซากศพที่ตามผมมา และก็เป็นสึกิชิม่าที่นั่งอยู่ที่กระโปรงหลังเป็นคนจัดการซัดจนซอมบี้นั่นกระเด็นไป


เอี๊ยด!!!


เสียงออกตัวรถดังอีกครั้ง แรงกระชากทำให้แผ่นหลังของผมแทบจะจมหายไปกับเบาะ ได้ยินเสียงสึกิชิม่าร้องเหวอพร้อมกับมือตะกายเกาะหลังรถเอาไว้แทบไม่ทัน แต่เพราะออกตัวแรงแบบนั้นมันเลยทำให้พวกผมหลุดออกมาจากฝูงซอมบี้ได้แบบฉิวเฉียด มือเผลอจับไปที่ตำแหน่งของหัวใจที่ยังคงเต้นระรัวอย่างตื่นกลัว


เดี๋ยวก่อนนะ....ถ้าสึกิชิม่ายังนั่งอยู่ที่กระโปรงหลัง....ถ้างั้นคนที่ขับรถนี่ก็.....


“ โกคุ...เดระ ?”       ผมหันไปมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนจะก้มหัวหลบซากศพที่โดนชนกระเด็นแล้วลอยข้ามหัวผมไป


“ มีอะไร?”       เขายังมีหน้าหันมามองผมด้วยใบหน้าสงสัย...ก็ไอ้การขับรถไม่ธรรมดานี่ ใครสั่งใครสอนมาเนี่ย?! ผมได้แต่ยิ้มแห้ง


“ ไหล่นาย...ไม่เป็นไรหรอ?”


“ ไม่เจ็บอย่างที่คิดนะ ถ้าแค่ขับรถละก็ ไม่เป็นไร”      แล้วเขาก็หันไปสนใจถนนต่อ....แล้วก็สนใจแต่ถนนจริงๆ เพราะไม่ว่าซอมบี้ตัวไหนจะมาเดินขวาง เขาก็พุ่งชนอย่างไม่สนใจว่าไอ้ที่ขับอยู่น่ะมันเบนซ์สปอร์ตเชียวนะ!


สายลมแรงๆปะทะมาที่ใบหน้า จนผมเผลอหลับตาแล้วปล่อยใจให้ล่องลอยไปตามสายลม....ถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางดงซอมบี้แบบนี้ แต่สายลมก็ยังให้ความรู้สึกดี....


ดูเหมือนรถจะลดการปะทะลงไปจนแทบจะขับได้สบายๆแล้ว แถวนี้ก็อาจจะพอปลอดภัยจากฝูงซอมบี้อยู่บ้าง ผมจึงหันไปหาสึกิชิม่าที่มีใบหน้าสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


“ คาริยะเป็นไงบ้าง?”      สึกิชิม่าทอดสายตามองอีกคนที่นอนอยู่ข้างๆตนที่ท้ายรถก่อนจะตอบออกมาทั้งรอยยิ้มว่า


“ น่าจะไม่เป็นไรแล้วละ ใบหน้าเขามีสีเลือดขึ้นแถมอาการสั่นก็ไม่เหลือแล้ว น่าจะกำลังหลับอยู่....ขอบใจมากนะยามาโมโตะ...นาย...โกคุเดระด้วย!      โกคุเดระเพียงพยักหน้ารับ แต่ผมกลับรู้สึกว่าเขากำลังรู้สึกแปลกใหม่ แปลกใจ และดีใจที่มีใครสักคนขอบคุณเขา....อาจจะไม่คุ้นเคยกับคำคำนี้ หรือไม่ก็อาจจะไม่คุ้นเคยกับการได้ทำความรู้จักกับใครๆ


“ ไม่เป็นไรน่า...แล้วคนอื่นๆในรถล่ะ?”      จะว่าไปผมก็ไม่ได้ใส่ใจคนอื่นนักหรอก นอกจากเพื่อนผมสองคนนี้กับกัปตันที่ดีกับผมเสมอมา อย่างน้อยถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็อยากจะช่วยเท่าที่จะทำได้...เหมือนที่กัปตันเคยเชื่อมั่นว่าผมจะยังมีชีวิตและได้เจอกันอีกครั้ง


“ ไม่รู้เหมือนกัน.....ความจริงเราไปถึงสถาบันวิจัยกันมาแล้วนะ แต่ที่นั่นยิ่งกว่าป้อมทหารอีก ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือซอมบี้ ถ้าเข้าไปใกล้กำแพงเกินระยะร้อยเมตร ปืนกลที่ติดเอาไว้บนกำแพงนั่นก็จะยิงทันที.....พวกเราเลยได้แต่ถอยกันมาอย่างหมดหวัง....”       ผมถึงกับหน้าถอดสี เพราะยังไงก็ต้องพาโกคุเดระไปหาพ่อเขาที่นั่น....ถ้าไปโดนยิงตายทั้งๆที่อุตส่าห์รอดจากการกลายเป็นซอมบี้มาได้นี่คงจะสะเทือนใจน่าดู


“ แล้วระหว่างทาง เด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็เริ่มสติแตกทนต่อไปไม่ไหว เธอเลยกระโดดลงจากรถ....ฉันกับคาริยะไปช่วยกันลากตัวกลับมา....แต่ว่าคาริยะก็ถูกกัด.....”         พวกนั้นเลยทิ้งนายสองคนเอาไว้ เหมือนที่เคยทิ้งฉันกับโกคุเดระสินะ....นั่นคือสิ่งที่ผมได้แต่พูดอยู่ในใจ


“ จริงๆแล้วกัปตันคัดค้านแบบหัวชนฝา เค้ารู้สึกผิดมาตลอดที่ปล่อยนายกับโกคุเดระเอาไว้....แต่ว่าใครสักคนทำให้กัปตันสลบไป ก่อนจะปล่อยให้ฉันกับคาริยะลงแถวๆปั๊มน้ำมันนั่น...ตอนนั้นฉันก็ได้แต่คิดนะว่า....จะหาที่ตายสงบๆกันสองคนที่ไหนดี....”       สายตาของสึกิชิม่าที่เล่าถึงเรื่องที่ผ่านมาดูเจ็บปวดซึ่งผมก็เข้าใจความรู้สึกนั้นดี....ตอนนั้นผมเองก็คิดจริงๆนะว่า หากโกคุเดระกลายเป็นซอมบี้แล้วกัดผมขึ้นมา ผมก็จะตายไปพร้อมๆกับเขา...ในบ้านหลังนั้น...


“ แล้วนาย....ไปไงมาไงถึงได้แอนตี้ไวรัสนั่นมา?”      


“ เดี๋ยวฉันเล่าให้นายฟัง แต่ตอนนี้....โกคุเดระเลี้ยวขวาแยกหน้าที”       ผมตอบคนข้างหลังออกไปในขณะที่สายตาก็ยังคงมองตรงไปข้างหน้าพร้อมกับหัวใจที่เต้นหน่วงๆ


เพราะว่าพอพ้นแยกนี้ไปก็จะถึง.....บ้านของผม


รถจอดลงที่หน้าร้านซูชิที่ไม่เหลือสภาพเดิมเลยแม้แต่น้อย...ป้ายร้านห้อยลงมาข้างหนึ่ง เช่นเดียวกับประตูบานเลื่อนที่พังยับ บานกระจกแตกละเอียดไปจนถึงชั้นสอง และที่ผนังยังมีรอยเลือดสดๆสาดอยู่ทั่วไปหมด


น้ำลายที่กลืนลงคอถึงกับเหนียวหนืด มือชื้นเหงื่อและแม้แต่ขาก็ไม่กล้าที่จะก้าวเข้าไปในตัวบ้าน


ผมได้แต่ยืนมองสภาพหน้าร้านอย่างสิ้นหวัง.....เป็นถึงขนาดนี้แล้วแล้วพ่อของผมล่ะ.....จะเป็นยังไงบ้าง


เผลอกัดฟันโดยที่ไม่รู้ตัว มือก็สั่นระริกอย่างห้ามไม่ได้ แค่จะสั่งให้ขาก้าวเข้าไปยังทำไม่ได้เลย....


“ ยามาโมโตะ....”        เสียงเบาหวิวดังขึ้นอยู่ข้างๆกายจนนัยน์ตาที่หวาดหวั่นกลายเป็นกระตุกสั่นเมื่อรับรู้ได้ถึงมือของใครบางคนสอดเข้ามาในมือของผม


“ โกคุเดระ....?”        ผมหันไปมองหน้าเขาซึ่งหันมามองผมตรงๆ สายตาที่ไม่เคยใส่ใจอะไรของเขา บัดนี้กลับมีภาพของผมสะท้อนอยู่


แล้วความกล้าก็ไหลหลั่งมาจากมือบางๆข้างนั้น.....


“ ฉันจะเข้าไปด้วย”       เขาบอกผมด้วยสายตามุ่งมั่น


“ แต่ว่า”


“ ไม่เป็นไรหรอกน่า...ฉันคิดว่าในนั้นไม่มีพวกมันอยู่”       หื๋อ? ทำไมเขาถึงได้ดูมั่นใจนัก? หรือว่าจะเป็นการสื่อสารกันระหว่างซอมบี้? ไม่สิ เขาก็แค่เกือบจะเป็นแต่ยังไม่เป็นซักหน่อย


กลายเป็นโกคุเดระที่กระชับมือผมแล้วเดินนำเข้าไป


ภายในร้านเงียบสนิทอย่างที่เขาว่า มีเพียงแสงสลัวๆลอดจากหน้าต่างที่แตกเข้ามาเพียงแค่นั้น จากสภาพที่เหลืออยู่คงคิดได้อย่างเดียวว่า ที่นี่คงโดนซอมบี้บุกเข้ามาเล่นงานคนในนี้เป็นแน่


ผมได้แต่หันมองไปรอบๆด้วยสายตาเป็นกังวล และทุกครั้งที่เห็นรอยเลือดบนผนังในสมองก็ได้แต่เฝ้าถาม....ว่านั่นคือเลือดของพ่อผมหรือเปล่า?


ยิ่งก้าวขาเดินเข้าไปลึกเท่าไหร่ มันก็ยิ่งสั่นเทา


เศษซากของโต๊ะที่พังไม่เหลือชิ้นดียังไม่ทำให้ปวดใจเท่าหลังเคาน์เตอร์ที่มีแต่รอยเลือด มีดแร่ปลายังคงถูกวางทิ้งเอาไว้บนเขียง.....ไม่ไหว.....ในหัวของผมมันมีแต่ภาพของพ่อที่หันกลับมายิ้มให้ซ้อนทับกับภาพตรงหน้าเต็มไปหมด.....ไม่ไหว....ผมก้าวเดินต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว


ขาที่อ่อนแรงทรุดนั่งลงกับพื้นอย่างสิ้นหวัง สองมือสั่นระริกได้แต่กำแน่นอยู่บนหน้าตัก


“ ยามาโมโตะ...”       เสียงของโกคุเดระเรียกผมเบาๆก่อนที่มือของเขาจะวางลงมาบนมือของผม ผมได้แต่ก้มหน้ากักเก็บน้ำตาเอาไว้แล้วรับคำปลอบใจที่ส่งผ่านมากับนัยน์ตาสีมรกตของเขา


แต่ผมก็ยังไม่อาจลุกขึ้นยืนหยัดได้ในทันที ถึงแม้จะยังโชคดีที่พระผู้เป็นเจ้าเหลือเขาเอาไว้ให้ผม....แต่ยังไงซะ....ตลอดชีวิตที่ผ่านมาผมก็มีพ่อเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่...คงไม่มีทางทำใจได้ง่ายๆแน่นอน


ผมยังคงทรุดนั่งอยู่ตรงนั้น โกคุเดระลูบมือผมเบาๆก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายลุกขึ้นเดินสำรวจพื้นที่ในบ้านต่อ


ร่างบอบบางของเขาไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ที่มีแต่คราบเลือดก่อนที่นัยน์ตาสีมรกตจะเบิกกว้าง


“ ยามาโมโตะ...มานี่สิ...”       ถึงจะสองขาจะยังคงสั่นสะท้าน แต่มันก็ไม่อาจทัดทานน้ำเสียงตื่นเต้นของเขาที่เรียกผมเข้าไปหาได้


ผมลุกขึ้นเดินโซเซก่อนที่จะไปหยุดยืนอยู่ข้างๆเขา แล้วนัยน์ตาสีเปลือกไม้ของผมก็ต้องเบิกกว้างตามเขาไปอีกคน


หัวใจที่บีบรัดจากความเจ็บปวดดูเหมือนจะกลับมาเต้นระรัวด้วยความดีใจจนแทบจะเก็บเอาไว้ไม่อยู่ ถึงแม้จะเป็นภาพที่สยดสยองเล็กน้อย แต่ตัวอักษรที่เขียนด้วยเลือดบนเคาน์เตอร์มันกลับทำให้ผมสบายใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา


ทาเคชิ...ถ้าลูกกลับมาก็ขอให้รู้ว่าพ่อยังปลอดภัย....       พ่อลงเวลาที่เขียนบอกเอาไว้...ซึ่งมันเพิ่งจะผ่านไปเมื่อไม่นานนี้เอง


แสดงว่าพ่อคงจะอยู่ที่นี่จนถึงเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา แล้วรอยเลือดที่ข้างฝาก็คงไม่ใช่ของพ่อ


ผมเผลอจับมือของโกคุเดระแน่น ในใจรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก แรงบีบน้อยๆที่ถูกส่งกลับมาทำให้ผมหันไปมองหน้าเขา สายตาที่เคยเศร้าหมองเปลี่ยนไปเป็นคมกล้าอีกครั้ง


“ ไปกันเถอะโกคุเดระ....ถ้าพ่อว่าอย่างงั้น แปลว่าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง”      ในเมื่อพ่อยังเชื่อว่าผมจะเอาตัวรอดได้จนกลับมาเจอข้อความที่เขียนเอาไว้ ผมก็ต้องเชื่อมั่นในตัวของพ่อเช่นกัน....ว่าเราจะต้องได้พบกันอีก


ใบหน้าสวยพยักหน้าให้น้อยๆก่อนที่เราสองคนจะเดินกลับไปยังรถที่จอดรออยู่ข้างนอก


เบนซ์สปอร์ตสีขาวออกวิ่งอีกครั้ง


ผมกับโกคุเดระคิดว่าจะพาสึกิชิม่ากับคาริยะไปไว้ที่บ้านของโกคุเดระก่อนที่เราสองคนจะมุ่งหน้าไปยังสถาบันวิจัย เพราะถึงยังไงคาริยะก็ยังมีแผลที่ต้องได้รับการดูแลอยู่


แต่ทว่า....


ดูเหมือนย่านตรงหน้าจะไม่ใช่อะไรที่จะผ่านไปได้ง่ายๆเสียแล้ว!


จู่ๆซอมบี้ก็มีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โกคุเดระขับรถชนพวกมันจนลอยกระเด็นข้ามหัวไปก็ไม่ใช่น้อย แต่ดูเหมือนทางผ่านที่พวกเราต้องใช้มันจะยังคงเต็มไปด้วยฝูงซอมบี้...หรือว่าแถวๆนี้จะยังมีใครที่รอดชีวิตอยู่?


ผมพยายามสอดสายตามองหา แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนมันก็มืดครึ้มไปด้วยซากศพเดินได้ จนไม่น่าจะยังเหลือใครที่ยังมีลมหายใจอยู่อีก


กลุ่มควันไฟลอยออกมาจากสุดทางของซอกตึกๆหนึ่ง ซึ่งผมคงจะปล่อยผ่านสายตาไปถ้าไม่บังเอิญไปเห็นอะไรบางอย่างเข้าเสียก่อน


ถ้าจำไม่ผิด....นั่นมันน่าจะเป็นท้ายรถแวนที่พวกผมใช้อาศัยออกมาจากโรงเรียนนี่นา


“ โกคุเดระ หยุดรถเดี๋ยวได้ไหม”      ผมเอ่ยบอกเขาเบาๆ แล้วรถก็จอดเลยซอกตึกนั้นไปนิดหน่อย ผมกับสึกิชิม่าถึงกับขนแขนลุกชัน เมื่อพิจารณามองดูแล้วว่านั่นมันใช่ท้ายรถแวนคันนั้นจริงๆ


ควันไฟลอยออกมาจากทางหน้ารถที่นิ่งสนิท ข้างรถเองก็เสียดสีกับผนังกำแพงจนยุบไปข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างที่เป็นประตูก็เปิดอ้าอยู่


ดูเหมือนจะหนีฝูงซอมบี้จนหักชนเข้ากับทางตันของซอกตึก


ผมลอบกลืนน้ำลายลงคอ สภาพรถเป็นขนาดนี้แล้วคนข้างในจะยังเหลือรอดอยู่อีกหรอเนี่ย?


ตุบ....


อะไรบางอย่างหล่นลงมาจากประตูที่เปิดอ้าอยู่ และเมื่อมองดีๆนั่นมันคือแขนของใครบางคนซึ่งคงบอกไม่ได้ว่าเป็นของใครในเมื่อตอนนี้มันมีแต่แขนที่ร่วงอยู่ ผมถึงกับสะดุ้งโหยง


“ เอาไงดี?”       โกคุเดระถามผมในขณะที่สายตาเหลือบมองไปยังกระจกหลัง พวกเราเองก็จะมัวมาเอ้อระเหยอยู่ที่นี่ไม่ได้เสียด้วย ในเมื่อฝูงซอมบี้ก็กำลังไล่หลังมาไม่ไกล


“ ไปกันเถอะ”       ผมบอกออกไป  แต่เป็นสึกิชิม่าที่คว้าไหล่ของผมเอาไว้ก่อนจะชี้นิ้วไปยังประตูรถแวนที่ยังเปิดอ้า


ซอมบี้สองสามตัวเดินตรงไปยังประตูนั่น มือและแขนที่หลุดวิ่นไขว่คว้าพยายามที่จะเข้าไปให้ได้


แปลว่ายังมีใครอยู่ข้างในนั้น?


ผมกับสึกิชิม่ามองหน้ากันก่อนที่ต่างคนจะต่างหยิบอาวุธขึ้นมาไว้ในมือ  มีโอกาสร้อยละห้าสิบที่คนที่อยู่ในนั้นอาจจะเป็นกัปตัน....และพวกเขาก็จะไม่ทิ้งโอกาสนั้นไป!


“ โกคุเดระ...ปิดกระโปรงรถซะ ตอนนี้คาริยะยังช่วยตัวเองไม่ได้ ส่วนนาย...ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นให้ขับรถไปรอที่อีกฝั่งของทางตันนี้...เข้าใจนะ”      ผมบอกเขาเบาๆก่อนที่จะก้าวขาลงจากรถพร้อมสึกิชิม่า


ขาทั้งสองคู่วิ่งตรงเข้าไป ไม้เบสบอลและดาบในมือต่างเล็งไปที่หัวของซอมบี้ที่ยืนขวางประตูอยู่


ผลั๊วะ!!!


สองตัวถูกพวกผมจัดการ ส่วนอีกตัวก็ลอยกระเด็นออกมาจากประตูรถด้วยฝีมือใครบางคนที่ยังอยู่ข้างในอย่างที่คิด


ผมชะโงกหน้าเข้าไปมองแล้วก็ต้องนัยน์ตาเบิกกว้าง ใบหน้ายิ้มออกมาด้วยความดีใจเมื่อคนที่ยืนหอบถือไม้เบสบอลชี้หน้าผมอยู่คือรุ่นพี่วาตานาเบะ...กัปตันของผมเอง


“ กัปตัน!!!       สึกิชิม่าตะโกนเรียกพรางกระโดดเข้าไปในรถ ส่วนผมยืนคุ้มกันอยู่ที่ประตู


“ พวกนาย....ดีจังที่ยังมีชีวิตอยู่”      น้ำเสียงที่เคยเข้มงวดกับพวกผมเสมอบัดนี้กลับมีแต่ความอ่อนแรง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังแฝงเอาไว้ด้วยความดีใจ


ผมเหลือบเข้าไปมองสภาพข้างในรถ ในนั้นไม่มีใครอื่นอยู่อีกนอกจากกัปตันที่ยืนป้องกันอะไรบางอย่างอยู่แถวๆที่นั่งคนขับ....และเมื่อมองให้ดีๆ....ก็เห็นรุ่นพี่คาซาโนริฟุบอยู่กับพวงมาลัยในสภาพไม่ได้สติ


สงสัยว่าจะขับรถชนกำแพงอย่างแรง เพราะตอนนี้กระจกหน้านั้นแตกละเอียด


“ กัปตัน รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะครับ”        สึกิชิม่าเตรียมจะเข้าไปพยุง แต่ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นกลับส่ายไปมาน้อยๆ


“ พวกนายไปกันเถอะ...แล้วก็...ขอร้องละ...ช่วยพาคาซาโนริไปด้วย...เขาแค่หัวกระแทกจนสลบไป ยังไม่ได้โดนซอมบี้กัด”        ใบหน้าที่เคยเอาจริงเอาจังของกัปตันกลับดูหมองลงในขณะที่ก้มหัวขอร้องพวกเรา มือที่กำไม้เบสบอลนั้นสั่นอย่างเห็นได้ชัด


“ ถ้างั้นผมจะไปพยุงเขาเอง ส่วนกัปตันก็ออกไปด้วยกันเถอะ ที่นี่ซอมบี้เยอะเกินไป จะอยู่ไม่ได้หรอก”       สึกิชิม่าตรงเข้าไปพยุงร่างที่สลบเหมือดของรุ่นพี่คาซาโนริแล้วเดินออกมา แต่กัปตันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมขยับตาม


“ พวกนายไปเถอะ....เพราะว่าคนที่โดนกัด....คือฉัน....”        ผมกับสึกิชิม่าถึงกับนัยน์ตาเบิกกว้างอีกครั้ง เป็นเพราะอยู่กับกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นเหม็นเน่าของซากศพจนเคยชิน จนไม่ได้กลิ่นเลือดสดๆที่ลอยออกมาจากตัวของกัปตัน และเมื่อมองให้ดี ที่ขากางเกงของรุ่นพี่วาตานาเบะก็มีรอยเลือดไหลเป็นทางอย่างที่บอกจริงๆ


นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นสั่นพร่า ใบหน้ามนก้มลงก่อนจะพยายามผลักไสพวกผมให้ออกไปนอกรถแวน สงสัยว่าจะเพิ่งโดนกัดเขาถึงยังไม่แสดงอาการ....และอย่างรุ่นพี่คนนี้ถ้าคิดจะหนีก็น่าจะทำได้ ไม่น่าจะปล่อยให้ตัวเองต้องโดนกัด


แต่พอเห็นอีกคนที่ยังสลบไม่รู้เรื่อง ที่หัวมีเลือดไหลย้อยลงมาเป็นทาง ก็พอจะเข้าใจได้แล้วว่า ทำไมกัปตันถึงไม่หนีไปไหน


....ยังอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องคนคนนี้สินะ.....


“ กัปตัน....โกคุเดระกับคาริยะยังมีชีวิตอยู่....”        ผมเอ่ยบอกออกไปในขณะที่สายตาก็ระแวดระวังอะไรก็ตามที่กำลังเคลื่อนไหว ได้ยินเสียงไม้เบสบอลในมือของกัปตันหล่นลงสู่พื้นรถ ดูเหมือนร่างทั้งร่างของรุ่นพี่วาตานาเบะจะนิ่งค้างไป


“ วะ ว่าไงนะ?”       น้ำเสียงของเขาฟังดูก็รู้แล้วว่าไม่เชื่อ


“ จริงครับ...สองคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ ไม่งั้นกัปตันคงไม่เห็นผมสองคนอยู่ที่นี่หรอก”       สึกิชิม่าช่วยเสริม


“ เป็นไปได้...ยังไง?”        กัปตันถามด้วยเสียงเบาหวิว ก่อนจะดวงตาเบิกกว้างกับคำตอบของผม


“ เป็นไปได้สิครับ....ในเมื่อเรามีแอนตี้ไวรัส”







กัปตันยอมออกมากับพวกผมแต่โดยดี แต่ในขณะที่กำลังก้าวขาออกมาจะพ้นจากซอกตึก เสียงตะโกนของโกคุเดระก็ทำให้พวกผมต้องหยุดชะงัก


“ อย่าออกมา!! ข้ามออกไปทางกำแพง ฉันจะไปรอที่ฝั่งนู้น!        จริงอย่างที่โกคุเดระว่า...ว่าพวกผมไม่ควรจะออกไปมากกว่านี้ เพราะตรงหน้านั้นมีแต่ฝูงซอมบี้อยู่เต็มไปหมด และตอนนี้พวกมันก็กำลังแห่เข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว!


“ สึกิชิม่าถอยก่อน!       ผมตะโกนบอกก่อนจะก้าวถอยหลังให้พ้นฝ่ามือเน่าเฟะที่ยื่นมาหมายจะคว้าเสื้อของผมได้แบบฉิวเฉียด หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำในขณะที่ตวัดดาบออกไปอย่างยากเย็นด้วยพื้นที่ก็มีจำกัด


ผมกระโดดขึ้นไปบนหลังคารถ ก่อนจะช่วยกันลากตัวรุ่นพี่คาซาโนริขึ้นไปหลังจากนั้นจึงฉุดสึกิชิม่า โดยมีกัปตันคอยฟาดไม้เบสบอลกันซอมบี้ด้านล่างเอาไว้ให้ ชั่วอึดใจที่คิดว่าจะไม่ทัน สองมือของผมกับสึกิชิม่าก็คว้าตัวกัปตันให้ลอยหวืออยู่เหนือมือของฝูงซอมบี้ได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด


“ แฮ่ก แฮ่ก....”      พวกเราได้แต่นั่งหอบปนถอนหายใจอยู่บนหลังคารถ ท่ามกลางมือมากมายที่พยายามตะกุยตะกายอยู่รอบๆ


แหงนหน้ามองกำแพงที่สูงพอสมควรที่รถแวนพุ่งชนอยู่ ก่อนจะพยักหน้าให้แก่กัน จะมัวโอ้เอ้อยู่ที่นี่ไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าอีกฝั่งโกคุเดระกับคาริยะจะเป็นยังไงบ้าง ผมปีนป่ายขึ้นไปก่อนจะไปนั่งอยู่บนสันกำแพง อีกฝั่งนั้นดูเงียบสงบกว่าที่คิด และมองเห็นเบนซ์สปอร์ตสีขาวกำลังพุ่งเข้ามาราวกับพายุ


สองมือเอื้อมไปคว้าตัวรุ่นพี่คาซาโนริจากมือของสึกิชิม่าเอาไว้ก่อนจะพยายามยกขึ้นพาดไว้บนกำแพงอย่างทุลักทุเล เห็นสภาพยับๆเหมือนคนอดหลับอดนอนแบบนั้นแต่ก็แอบตัวใหญ่อยู่เหมือนกัน


ดูเหมือนแรงของพวกซอมบี้จะมีไม่ใช่น้อย รถแวนที่เคยอยู่นิ่งถูกแรงดันจนมันเริ่มจะโคลงเคลงไปมา ถ้าช้ามีหวังพวกมันคงจะดันจนรถพลิกไปอีกทางได้แน่ๆ


ผมจับมือของกัปตันเอาไว้ก่อนจะดึงตัวขึ้นมา และสึกิชิม่าก็โดดตามมาได้ไม่ยากนัก


ในที่สุด....ทุกคนก็ลงมานั่งยัดกันอยู่ที่ท้ายเบนซ์สปอร์ตสีขาวจนหมดจนได้




รถวิ่งออกไปอีกครั้งท่ามกลางความโล่งใจของพวกผม




ประตูรั้วสูงใหญ่สีขาวสะอาดตาเปิดขึ้นก่อนจะปิดลงเมื่อพวกเราเข้าไปเรียบร้อย โกคุเดระถึงกับนั่งถอนหายใจอยู่หลังพวงมาลัย เช่นเดียวกับสึกิชิม่าที่เผลอครางออกมาอย่างโล่งอก


ผมจัดการยกคนป่วยทั้งสามคนเข้าไปในบ้าน ก่อนอื่นก็ต้องให้โกคุเดระฉีดแอนตี้ไวรัสให้กัปตัน ส่วนรุ่นพี่คาซาโนริก็ยังคงไม่ได้สติแต่ดูเหมือนแผลที่หัวจะไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรงอะไรนัก


แสงแดดจากภายนอกเริ่มจะอ่อนแสงลงเรื่อยๆ เช่นเดียวกับร่างกายของพวกเราที่อ่อนล้าเต็มที


ผมตัดสินใจว่าคืนนี้จะนอนกันที่นี่ แล้วพรุ่งนี้ผมกับโกคุเดระค่อยมุ่งหน้าไปยังสถาบันวิจัยอีกที









โซฟาสีขาวตัวยาวถูกจับจองโดยกัปตันที่ผลอยหลับไปหลังจากที่ถูกฉีดแอนตี้ไวรัส ส่วนบนพื้นพรมหนานุ่มหน้าโซฟาก็มีรุ่นพี่คาซาโนริที่ยังไม่ได้สติหลับอยู่ พวกผมเองก็ไม่แน่ใจว่าที่พี่แกไม่ฟื้นเป็นเพราะหัวถูกกระแทกอย่างแรงหรือว่าเพราะไม่ได้นอนมาหลายคืนกันแน่


" อ่ะนี่..."       ผมยื่นถ้วยหอมกรุ่นซึ่งมีซุปอุ่นๆไปให้สึกิชิม่าที่ทำหน้าราวกับน้ำตาจะไหลพราก หมอนั่นนั่งพิงหลังเอาไว้กับเก้าที่ถูกยกมาต่อกันจนพอให้คาริยะนอนหลับได้อย่างสบายๆ


" ขอบใจนะ...ฉันจะไม่มีวันลืมอาหารมื้อนี้เลย"       ใบหน้าเริงร่ากลับมายิ้มแย้มตามปกติ คำพูดเว่อร์ๆทำเอาผมนึกหมั่นไส้ ก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมๆกัน


ผมเริ่มเล่าเรื่องราวว่าผมได้แอนตี้ไวรัสมายังไงให้สึกิชิม่าฟัง โดยมีโกคุเดระนั่งกินซุปเงียบๆอยู่ใกล้ๆ ผมรู้ว่าเขาสนใจพวกผม หลายครั้งที่นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองมาอย่างใคร่รู้.....เพราะว่าเขาไม่เคยมีเพื่อน....วิธีการพูดจาหรือว่าความสัมพันธ์ของผมกับพวกชมรมเบสบอลจึงถือว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับเขา


รวมทั้งคำขอบคุณ ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เขาได้รับ แก้มใสของเขาก็มักจะแดงระเรื่อให้เห็นอยู่เสมอ


" สึกิชิม่า...เฮ้ย...ตื่นสิ...."        ผมตบไหล่ไอ้คนที่มันหลับไปทั้งๆที่ผมยังไม่ทันจะเล่าจบ ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ เพราะรู้ดีว่าหมอนั่นเหนื่อยทั้งกายและใจมามากขนาดไหน


" บอกให้เขาไปนอนในห้องนอนแขกตรงนั้นก็ได้"       โกคุเดระบอกผมด้วยเสียงสั่นแปลกๆก่อนที่จะเดินขึ้นบันไดไปยังห้องของตนโดยไม่ยอมมองหน้าผมเวลาพูด


จู่ๆก็เป็นอะไรไป?


ผมปลุกสึกิชิม่าให้มันพาคาริยะเข้าไปนอนในห้องนอนแขกทั้งๆที่ยังค้างคาใจ ผมบอกหมอนั่นลวกๆก่อนจะเดินขึ้นบันไดตามโกคุเดระไป....มันน่าสงสัย....เพราะเมื่อกี้เขาก็ยังนั่งฟังผมอยู่ดีๆ....แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันเขาถึงได้ปลีกตัวออกไปแบบนั้น?


ผมแง้มประตูที่เปิดอ้าอยู่น้อยๆเข้าไปในห้องที่มืดสนิทของเขา รู้สึกว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในห้อง....ผมหันไปหันมาแล้วก็เห็นแสงไฟสลัวๆลอดออกมาจากประตูห้องน้ำ....ขาขยับเข้าไปใกล้ในทันที


" อื้อ....."       ได้ยินเสียงอื้อๆดังลอดออกมา ซึ่งผมแน่ใจว่านั่นคือเสียงของโกคุเดระ


น้ำเสียงครางครือฟังดูเหมือนคนที่กำลังทรมาน แต่มันก็แว่วหวานแปลกๆ....ผมลอบกลืนน้ำลายลงคอ.....หรือว่าเขากำลังทำเรื่องอย่างว่ากับตัวเอง.....ผมควรจะเดินออกไปนั่งรอเขาเงียบๆ แต่ภาพที่จิ้นอยู่ในหัวมันก็ทำให้ขาไม่ยอมก้าวถอยหลัง


" อื้อ....."        ยิ่งเสียงครางหลุดลอดออกมามากเท่าไหร่ สมองก็ต้องพยายามห้ามมือที่กำลังยกไปทาบไว้ที่บานประตูอย่างสุดฤทธิ์


ไม่ได้นะ! นายไม่ควรจะก้าวเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของคนอื่นนะ เรื่องแบบนี้ต้องรอให้เขารับรักนายก่อนสิ.....ยามาโมโตะด้านดีโผล่พรวดเข้ามาในหัว


แต่ภาพของโกคุเดระที่ใส่แค่เสื้อเชิ้ตตัวเดียวกำลังเอื้อมมือสั่นๆไปที่ส่วนอ่อนไหวของตัวเอง พรางส่งสายตาหวานเยิ้ม ริมฝีปากแดงๆนั่นอ้าออกน้อยๆพร้อมกับลมหายใจหอบหนัก....ไอ้ที่ผมกำลังจิ้นอยู่นี้....มันก็ทำให้ยามาโมโตะด้านดีตัวหดลงเท่าลูกเบสบอล


ใช่....เปิดประตูเข้าไปเลย! ถ้านายถอยก็เสียชาติที่อุตส่าห์เกิดมาแบบเนียนๆแย่นะเว้ย!.....คราวนี้เป็นยามาโมโตะด้านชั่วร้ายโผล่ออกมาในหัวและดูเหมือนมันจะตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ


นั่นสินะ...อย่างโกคุเดระอาจจะทำไม่เป็น...เพราะงั้นในฐานะว่าที่สามีที่ดี ผมก็ควรจะเข้าไปช่วยเขา!.....กำปั้นทุบลงที่ฝ่ามือ....เหมือนจะเห็นยามาโมโตะด้านดีปรบมือให้เพราะผมช่างเป็นคนดีเสียนี่กระไร


ผลสรุปจากการที่ยืนทะเลาะกับตัวเองอยู่พักใหญ่ คือมือของผมค่อยๆเปิดประตูห้องน้ำออกอย่างแผ่วเบา แล้วก็เห็นแผ่นหลังบางของเขาอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวที่หลุดลุ่ย ถึงแม้กางเกงขายาวจะยังคงอยู่ครบแต่แค่ไหล่นวลเนียนที่โผล่พ้นคอเสื้อออกมามันก็ทำให้ผมต้องลอบกลืนน้ำลาย....โกคุเดระนั่งหันหลังให้อยู่บนพื้นกระเบื้องสีขาวของห้องน้ำ


แต่ดูจากท่าทางแล้ว....เขาไม่น่าจะกำลังทำเรื่องอย่างว่ากับตัวเองอยู่นะ


“ โกคุเดระ?...อ๊ะ?! หว๋ออออ....”         และแค่เรียกเขาเท่านั้น มือบางที่มีเรี่ยวแรงมหาศาลก็ฉุดผมลงไปที่พื้นทันที ผมเซถลาจนล้มคร่อมทับเขาเอาไว้ ก่อนจะเป็นโกคุเดระเองที่พลิกร่างของผมให้ลงไปอยู่ข้างใต้


จะถามว่าชอบออนท็อป? ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่...เพราะตอนนี้ริมฝีปากสีระเรื่อกำลังอ้าออกน้อยๆ ปลายคางของเขาสั่นระริกอย่างพยายามจะห้ามตัวเอง แต่สองมือบางก็ทำตรงกันข้ามเมื่อมันยกขึ้นมาแกะกระดุมเสื้อของผมออก


แล้วริมฝีปากร้อนๆก็แนบลงไปที่ไหปลาร้าของผม คมเขี้ยวกดลงไปน้อยๆพอให้รู้ว่าเขากำลัง..... “ กัด ” ......ผมอยู่


“ โกคุเดระ ?”        ผมยกตัวเขาขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอนแผ่นหลังพิงอ่างอาบน้ำเอาไว้ ส่วนเจ้าคนที่นั่งคร่อมหน้าขาผมก็ยังคงเมามันอยู่กับต้นคอและลาดไหล่ของผม


หรือว่าเชื้อไวรัสจะยังอยู่ในร่างกายของเขา?


ทำให้เจ้าซอมบี้นี่ยังอยากจะกัดอะไรสักอย่างอยู่ตลอดเวลา?


ผมหรี่ตาลงพรางครุ่นคิด สองมือสอดเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตที่หลุดลุ่ยก่อนจะลูบเอวบางของเขาเบาๆ


“ โกคุเดระ.....นี่...นายจะเที่ยวไปกัดใครเค้าแบบนี้ไม่ได้นะ....จำเอาไว้...ถ้านายอยากกัดขึ้นมาเมื่อไหร่ ให้มากัดฉันเท่านั้น...เข้าใจไหม?”       ผมกระซิบบอกไปที่ข้างหูเขาด้วยน้ำเสียงนิ่ง


“ อื้อ”        มีเสียงตอบรับเบาๆมาจากคนที่ซุกหน้าอยู่แถวๆคอของผม......โกคุเดระยังมีสติอยู่?


ถ้าอย่างนั้นเขาคงเข้าใจ...ว่าผมกำลังผูกมัด....ไม่ให้เขาหนีไปหาใครได้อีก....


โดยยอมเอาตัวเองเข้าไปเป็นเหยื่อของซอมบี้ที่ไม่รู้ว่าวันดีคืนดีจะเสียสติจนเผลอฆ่ากันหรือเปล่า....


แต่ก็เอาเถอะ....อย่างที่บอกแหละ ว่าถ้าซอมบี้มันจะเซ็กซี่ขนาดนี้ละก็....ผมยอมให้เขากัดจนตายเลย





สองมือบางของเขาเกาะไหล่ผมเอาไว้ ส่วนใบหน้าใสกำลังก้มลงไปฝังรอยเขี้ยวอยู่ที่แผงอกของผม


ริมฝีปากนุ่มนิ่มของเขา....ลิ้นเล็กชื้นแฉะที่เผลอแตะลงมาที่ผิวของผม....คมเขี้ยวที่ไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บ....แต่ทุกรอยกัดมันกลับทำให้รู้สึกดี


ไม่ไหว....ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะไม่ทำอะไรเขาจนกว่าเรื่องทั้งหมดจะจบลง.....แต่ถ้ายั่วกันขนาดนี้แล้วละก็.....


ผมปล่อยให้เขากัดผมตามใจชอบ นัยน์ตาสีเปลือกไม้ยังคงจ้องมองทุกท่วงท่าที่เขาคงจะไม่ได้ตั้งใจแต่มันกลับยั่วเย้าเร้าอารมณ์ผมจริงๆ....เร้าจนเร่าร้อนไปหมด


นี่แค่นั่งอยู่เฉยๆให้เขากัดไปเรื่อยๆ ยังรู้สึกได้เลยว่าเจ้าน้องชายเริ่มจะขยายตัวขึ้น ลมหายใจที่เคยเข้าออกเป็นปกติเริ่มจะติดขัดจนชักจะอึดอัด


ไม่ไหวแล้วจริงๆ....เจ้าซอมบี้ผมสีเงินนี่ทำให้ผมรู้สึกดีจนทนต่อไปไม่ไหว....มือที่เคยวางเอาไว้ข้างลำตัวค่อยๆยกขึ้นมาลูบแถวๆสะโพกไล่ไปจนบั้นท้ายของเขา ถึงจะมีเนื้อผ้าบางของกางเกงกั้นมันก็ไม่ใช่อุปสรรค....ปลายนิ้วค่อยๆสอดเข้าไปใต้เนื้อผ้าโดยยังไม่มีทีท่าว่าจะถอดมันออก


ฝ่ามือของผมที่ลูบบ้าง เค้นคลึงบ้าง ทำให้เจ้าซอมบี้เผลอครางในลำคอทั้งๆที่ยังกัดผมอยู่


ตะขอกางเกงของเขาถูกปลดออกเพื่อให้มือของผมล้วงเข้าไปลูบไล้แถวๆต้นขาและบั้นท้ายได้สะดวก...โดยที่เจ้าของร่างกายก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะปฏิเสธ...เขายังคงเพลิดเพลินอยู่ที่ลาดไหล่และไหปลาร้าของผม


ผมลอบยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะค่อยๆลากนิ้วไปตามร่องก้น  มืออีกข้างขยับยกตัวเขาขึ้นเล็กน้อย แล้วค่อยๆสอดนิ้วเข้าไปในช่องทางคับแน่น


" อื้อ!"      โกคุเดระสะดุ้งเฮือก แต่แทนที่เขาจะผลักไสผม กลับกัดลงมาที่ไหล่ผมอย่างแรงราวกับว่านั่นมันคือหนทางระบายความเจ็บปวดของเขา


" เจ็บหรอ?"      ผมกระซิบถามที่ใบหูแดงระเรื่อ เขาพยักหน้าตอบกลับมา


อ้า....ก็เขาไม่เคยนี่นะ...ถึงจะแค่นิ้วเดียวก็คงเจ็บ....


ผมถอนหายใจพรางยิ้มอย่างไม่ถือสา ยังไงซะพรุ่งนี้ก็มีงานหนักที่จะต้องทำ คงปล่อยให้เขาลุกไม่ขึ้นไม่ได้...


ถ้างั้นวันนี้ฉันเอ็นดูนายแค่เบาะๆก่อนก็แล้วกันนะ โกคุเดระ...


ผมถอนนิ้วออกมา ก่อนจะย้ายมันมาคว้าส่วนอ่อนไหวของเขาเอาไว้ เจ้าซอมบี้ผวากอดไหล่ที่เพิ่งกัดไปแน่น นัยน์ตาสีมรกตหยาดเยิ้มยอมเงยหน้าจากร่างกายของผมมาสบตากันเป็นครั้งแรก


" อ๊ะ!...."         เขาร้องออกมาเมื่อผมขยับมือไปตามแกนกายของเขา ใบหน้าสวยสะบัดขึ้นและคราวนี้เป็นผมบ้างที่ย้ายใบหน้าไปซุกไซร้อยู่ที่ซอกคอระหงของเขา เวลาที่เขากัดผมมักจะไม่เหลือร่องรอยอะไรเอาไว้ ต่างจากตอนนี้ ที่ผมทิ้งรอยสีกุหลาบไว้ให้เขาแทน


มืออีกข้างค่อยๆปลดตะขอกางเกงของตัวเองแล้วรูดซิปลง ความเป็นชายที่ขยายใหญ่และแข็งตัวทำให้โกคุเดระที่เผลอก้มลงไปมองถึงกับหน้าแดงซ่าน ผมจับมันให้มาแนบชิดกับแกนกายของเขา


แล้วใช้มือของเราสองคนกอบกุมเอาไว้


ค่อยๆขยับขึ้นลงช้าๆ...ช้าๆ.....


“ อึ๊ก...อื้อ...”       เจ้าซอมบี้ปล่อยเสียงครางออกมาพร้อมกับใบหน้าแดงๆ ผมรู้ว่าเขาอายเพราะตอนนี้เขากำลังย้ายมันไปฝังเขี้ยวเอาไว้ที่ไหล่ของผมอีกครั้ง


ยิ่งขยับแรงขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งของผมกับของเขาเสียดสีกันมากขึ้นแค่ไหน รอยฟันของเขาก็จะกดลึกลงไปในผิวของผมมากขึ้นเท่านั้น


วันนี้ผมจะยอมให้เขาฝังเขี้ยวเอาไว้บนร่างกายผมก่อนก็แล้วกัน....แล้วสักวัน...ผมจะฝังร่างกายของผมเข้าไปในตัวเขาบ้าง


“ โกคุเดระ......”        ผมเรียกเขาด้วยเสียงแหบพร่า มีแต่เสียงครางเท่านั้นที่ตอบกลับมา


แค่มันสัมผัสกัน แค่มือของผมกับเขาเท่านั้นที่โอบรัด...ยังทำให้รู้สึกดีได้มากขนาดนี้....


ผมหอบหายใจหนักหน่วง เช่นเดียวกับเขาที่ย้ายริมฝีปากกัดไปตามไหล่ของผมเรื่อยๆ มือที่ขยับก็เร็วขึ้นตามแรงอารมณ์ ผมกัดฟันเมื่อความต้องการขึ้นสู่จุดสูงสุด ได้ยินเสียงครางสูงดังมาจากใบหน้าที่ซบอยู่ที่หัวไหล่ ร่างกายของผมกับเขากระตุกนิดๆก่อนที่จะปลดปล่อยออกไปให้น้ำสีขาวขุ่นแตกกระจายเต็มมือ


“ แฮ่ก...แฮ่ก....”       เขาทิ้งตัวนั่งหอบอยู่บนตัวผม


“ โก...คุเดระ...”        ลมหายใจของผมเองก็ยังไม่เข้าที่ ผมเรียกเขาด้วยเสียงออดอ้อนพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ใบหน้าใสแดงระเรื่อแต่ก็ยอมอยู่นิ่งๆ


เพื่อรับจูบจากผมแต่โดยดี....







เขานอนหลับปุ๋ยโดยไม่เหลือเค้าซอมบี้ที่อยากจะกัดผมอยู่เลยสักนิด....


ผมก้มลงไปมองรอยฟันของเขาที่ยังเหลืออยู่บนแผงอกของผม ก่อนจะย้ายไปมองใบหน้าสวยที่ซุกอยู่ที่หมอน....ตอนนี้ผมพอจะรู้แล้วว่า เขายังมีเชื้อไวรัสหลงเหลืออยู่ในร่างกาย และเมื่อไหร่ที่เขาเกิดอาการกำเริบขึ้นมา ก็เพียงแค่ทำให้เขาเหนื่อยอ่อนจนนอนหลับไปก็เท่านั้น


ผมลอบยิ้มเมื่อนึกถึงวิธีที่จะทำให้เขาเหนื่อยอ่อนอย่างได้ผลที่สุด...


นี่ผมแค่สัมผัสเขาที่ภายนอกยังรู้สึกดีได้ขนาดนี้...แล้วถ้าเข้าไปข้างในล่ะ จะรู้สึกดีขนาดไหน.....


ผมได้แต่นั่งเคลิ้ม พรางอยากจะรีบๆจัดการเรื่องวุ่นวายทั้งหลายให้มันจบลงเร็วๆ


ผมล้มตัวลงนอนข้างๆเขา


หลับตา...แล้วภาวนา......


ให้เช้าวันใหม่มาถึงในไม่ช้า.....




วันที่เรื่องเลวร้ายจะหายไปเสียที





.
.
.
.
.
.
.

To be Con.






ขะ ขอบคุณคอมเม้นต์จาก 4 ตอนที่แล้วมากๆๆเลยนะคะ >w<  เอาวะ! อย่างน้อยก็มีคนที่อ่านมาจนถึงตอนที่ 4 ถึงแม้ว่าฟิคมันจะออกแนวน่าพิศวงไปนิดก็ตาม 555 คือสำหรับเรื่องนี้ไม่ต้องพยายามหาความเกี่ยวพันหรือความหมายแฝงอะไร ในชื่อเรื่อง เนื้อเรื่อง แรงบันดาลใจ เพราะมันไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันเลยค่ะ (ได้ไงฟ๊ะ?!)


เรื่องนี้ตัวละครออริจินัลจะเยอะเลยทีเดียว ซึ่งเป็นอะไรที่ข้าพเจ้าเองก็ไม่ชิน ถึงกับต้องจดเอาไว้เพราะจำชื่อตัวละครของตัวเองไม่ได้ แต่เป็นเพราะตอนแรกกะให้แม่งตายให้เรียบเลยจะใช้ชื่อตัวละครใน KHR เดี๋ยวจะเกิดดราม่า เลยสร้างตัวละครขึ้นมาซะใหม่ดีก่า...แต่ไปๆมาๆดันฆ่าไม่ลง แถมยังจิ้นเองจนได้เป็นคู่วายมาอีกสองคู่ซะงั้น กะ...ก็...ฝากสี่คนนี้ไว้ด้วยละกันนะค้า 555


ก็นะ...บางทีนอนอ่านการ์ตูนรักใสๆ(มีด้วยเร๊อะ!) ยังจิ้นอยู่เลยว่า...อย่างยามะ ตอนอยู่ในโรงเรียนปกติหรือตอนอยู่ในชมรม มันจะเป็นยังไงน้า...บางทียังอยากให้อ.อามาโนะขราเขียนขึ้นมาเล่นๆเลยอ่ะ  ถ้าไม่มาเจอทูน่ากับหนูก๊ก มันอาจจะเป็นเด็กม.ปลายปกติๆคนนึงก็ได้ เพราะมาเจอก๊กเลยกลายเป็นหนุ่มวายไป เพราะมาเจอทูน่าเลยกลายเป็นมาเฟียไป



ยกมือถาม!!


วันอาทิตย์ที่ 13 นี้ มีใครไปงานรีบอร์นโอนลี่ไหมคะ *w*  เค้าไปนะ ถ้าไปก็แวะมาทักทายกันได้นะคะ เหะเหะ งานนี้ไปเฝ้าบูทของตัวเองค่ะ เล่มนี้ๆๆๆ



  
รายละเอียดจิ้มเลยก๊ะ




ขายข้ามปีกันเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ ใครไปงานไม่ซื้อไม่เป็นไร แวะเอาอาหารมาให้ได้ค่ะ (เป็นสวนสัตว์รึไงฟ๊ะ บูทมัน = =) เจอกันที่บูท #1559#  เน้...


แล้วก็ๆๆ (เวิ่นมากไปแล้ว!) ตอนนี้กำลังติดอนิเมะเรื่องนี้อยู่อีกเรื่องนึงค่ะ จากซีซั่นก่อนๆที่หลงรักการ์ตูนเด็กอย่าง Poyopoyo (ตอนนี้ก็ยังฉายอยู่นะ ฮิเดะคุงน่าร้ากกก) ซีซั่นนี้มาอีกแล้ว =w=    กับนี่...



 Shirokuma Café

เป็นอนิเมะที่น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ที่สำคัญคือนักพากย์....โคตรเมพเลยเว้ยค่า.....4 ตัวหลักก็อย่างเมพ ขนาดตัวประกอบยังเมพเลยค่ะ TT^TTbb นี่ถ้าได้ มิยาโนะ มาโมรุ มาอีกคนนะ....สุดยอดเลยอ่ะเรื่องนี้

พี่หมีขาว พากย์โดย Sakurai Takahiro (เสียงพี่หมีหล่อว์มากกกกกก การันตีโดย เสียงคันดะ ยู และ สุซาคุ โค้ดกีอัส)

แพนด้าคุง พากย์โดย Fukuyama Jun (พากย์ได้โคตรแพนด้าเลยค่า เทพมากกกกอ่ะ ไม่เหลือเค้า อิลู่ โค้ดกีอัส หรือ ยูคิโอะ Ao ex เลยเหอะ55)

เพนกวินซัง พากย์โดย Kamiya Hiroshi (นี่ก็พากย์อย่างเมพอ่ะ ไม่เหลือเค้า เห็บ เอ้ย อิซายะ หรือยานาเสะ ยู หรือ นัตสึเมะ เลยอ่า)

ลามะคุง พากย์โดย Ono Daisuke (กรี๊ซซซซ เอาโอโนะได มาพากย์เป็นลามะ...ช่างกล้านะค้า อร๊ายยย >w< แต่เพราะแบบนั้นแหละตรูเลยจิ้นข้ามสายพันธ์ไปแล้ว *q*)

แถมฟุคุจุนร้องเพลงปิดเองด้วย อย่างน่ารักอ่า....>w<....อ้อ..นักพากย์คนอื่นๆที่พากย์ให้เรื่องนี้ก็อย่างเช่น Katsuyuki Konishi ที่พากย์ทาคาโน่ซัง Yuichi Nakamura ที่พากย์ฮาโตริซัง ณ Sekai ichi บ้านเรานี่แหละค่ะ เหอ...คือตอนแรกที่เห็นเรื่องนี้ก็ยังเฉยๆนะ แต่พอเห็นรายชื่อนักพากย์แล้วบอกได้คำเดียวว่า....ตรูต้องดู....ฮ่าๆๆ

ว่างๆก็หามาดูกันน้า....อนิเมะดีๆที่ดูกันได้ทั้งบ้านเลยค่า ^ ^


ส่วนฟิคซอมบี้นี่...ตอนหน้าก็จบแล้วค่า....ปั่นสู้ฟัด ฮุยเล่ฮุย! เห็นหลายคนทักมา คือจะบอกว่า ข้าพเจ้าเล่น Bio Hazard หรือ Resident Evil เองไม่ได้ค่ะ โดนซอมบี้กัดตายตั้งแต่ฉากแรกเลยเหอะ = = สกิลการเล่นเกมส์ต่ำมาก....= =”....อาศัยเป็นกุนซือคอยนั่งบงการน้องชายให้เล่นให้ค่ะ(อนาถแท้) เกมส์เดียวที่เล่นได้คือ Havest Moon (= =”) ว่าแต่...คนที่จะยอมเกมส์โอเวอร์เพราะอยากเห็นฉากซอมบี้ก๊กแทะ(โลม) นี่ละก็นะ...ฮ่าๆๆๆ ขอไปนั่งดูด้วยคนเลยอ่ะ ยอมตายซ้ำซ้อนเลยแบบนั้น >w< กร๊ากกกกก

แล้วเจอกันตอนหน้าค่า



8 ความคิดเห็น:

  1. อ่านจบแล้วค่า

    เย้ๆ รอดเกือบหมดทุกคนเลยอ้ะ (แอบสงสัยว่าตัวละคร ญ หายไปไหนหมด 555+) ป๋ายามะก็รอดด้วย แหล่มๆ =w= ตอนหน้าคงได้บุกสถานีวิจัยแล้วสินะคะ ได้รู้กันทีแล้วว่าใครหนอคือเดอะลาสบอสของเรื่องนี้ ตอนทุกคนหลบอยู่ในบ้านก๊กพาลให้คิดไปว่า "บ้านก๊ก=จุดเซฟ"
    กร๊ากกกกกก

    งานรีบอร์นโอนลี่ ไปค่ะ!!! (ยกมือ)
    จะเอาโดปู่ขราไปบรรณาการให้ที่งานนะคะ ^ ^" อุดหนุนฟิคด้วย แต่เอ...งานนี้รุสึกเหมือนจะเปลี่ยนที่จัดงานงะ(เคยไปครั้งที่3) ชักไปไม่ถูก(จากอนุเสาวรีย์ไปอีกกี่ป้ายงะ - -") ได้ถามทางกันนอกรอบแน่ค่าาา

    ตอบลบ
  2. กรี๊ดดดดดดด โดปู่ขราาาา บันซายยยยย นั่งซับเลือดรอ(ผิด!)

    ใช่ค่ะ เค้าเปลี่ยนที่จัดงานใหม่ รู้สึกว่าจะตรงกันข้ามกับที่จัดเดิมนะ ป้ายที่มีสะพานลอยหรือเปล่านะ? ทางนี้เองยังไม่ค่อยแน่ใจ กะว่าไว้ใกล้ๆค่อยเข้าไปดูแผนที่อีกที ฮ่าๆๆ ดูมาตอนนี้ก็ลืม(เอิ่ม...)

    ส่วนฟิคซอมบี้...ตัวละครหญิงน่าจะโผล่มาตอนหน้านี่แหละ อิอิ ขอบคุณมากๆค่า >w< แต่เนเมซิส เดอะลาสบอสของ resident นี่อย่างสยองอ่ะ (น้องชาย)เจอทีไรตายทุกที บรึ๋ย...(ส่วนทางนี้ตายตั้งแต่เจอซอมบี้ลูกกระจ๊อกแล้วค่ะ = = เกมส์แอคชั่นๆแบบนี้มิสามารถจริงๆ55)

    แล้วเจอกันงานรีบอร์นเน้ *w*

    ตอบลบ
  3. อ่านติดๆกันแล้วตื่นเต้นมากค่ะ เหมือนนั่งลุ้นตอนดูหนังซอมบี้เลยจริงๆว่ามันจะโผล่มาตอนไหน จะโดนจับมั้ย เชียร์คู่สึกิชิม่ากับคาริยะแบบออกนอกหน้าด้วย ส่วนคู่คุณกัปตันยังไม่เท่าไหร่ค่ะ อ่านไปแล้วก็คิดขึ้นมาว่า ถ้ามันเป็นผลข้างเคียงของแอนตี้ไวรัส แล้วอีกสองคู่ที่เหลือนั่นล่ะ ถ้าตื่นมาล่ะก็ หวายยยยยยย>///<(นี่ก็เป็นคนยังไง)

    ถ้าซอมบี้จะเซ็กซี่ขนาดนี้~~~~~(อ๊ะ ไม่ใช่ซอมบี้แล้วนี่นา55555555) และถ้ายามะจะหื่นทุกขณะจิตขนาดนี้ คนสวยไม่รอดแน่ๆค่ะ สงสารคุณพ่อก๊กขึ้นมาหน่อยนึง มีแอนตี้ไวรัสให้ลูกชาย แต่ลูกชายมีโอกาสเสียเวอร์จิ้นให้ผู้ชายข้างๆได้นะคะเนี่ย กร๊ากกกก

    ไม่อยากให้จบเลยค่ะ ถ้าจบยามะจะได้ก๊กใช่ม้า อยากทรมานเจ้าตัวเนียนไปอีกสักพัก//โดนดาบกระซวก ฮา

    งานรีบอร์นถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดพีเคก็ไปค่า

    ตอบลบ
  4. อร๊ายยยยยยย ถ้าหากว่า คนที่โดนกัดเป็นยามะ แล้วเวลาอาการกำเริบ ยามะจะกัดก๊กอย่างเดียวอ่ะป่าวอ่ะ กร๊ากกกกก ทำไมจู่ๆเค้าก็คิดแบบนี้ก็ม่ายรู้ ฮ่าๆๆๆ

    นั่นเซ่ ชื่อตัวละครออริอ่ะ ตอนแรกอ่านแล้วอ่านอีกก็จำชื่อไม่ได้ ก็คิดว่าเอ้ปรกติฟิคที่ออกมาจะเป็นKHRด้วยกัน คราวนี้ก็แอบสงสัยว่าทำไมถึงเป็นชื่อละครตัวอื่น หรือว่า เอามาจากอนิเมะเรื่องไหนเป็นตัวสำรองในการเดินเรื่องอะไรแบบนี้ (นึกไปถึงฟิคผสมอีกเรื่องนึงอยู่นะ ฮ่าๆ)

    และแล้วไอ้ที่ว่าจะจัดการยัดบทให้ตายเรียบ แหมๆ จัดการหาคู่ให้เสร็จสรรพเรียบร้อย ฮ่าๆ แบบนี้ อีกสองคนที่โดนกัด เวลาอาการหรือเชื้อที่ยังหลงเหลืออาจจะกลับมาอีก ก็คงเกิดอาการอยากกัดแบบก๊กนะเซ่ ฮ่าๆ แล้วใครเป็นใครใครกดใครกันละเนี่ย ฮ่าๆ ปล่อยให้จิ้นกันต่อไป เอิ้กส์ๆ

    ฉากประทับใจในตอนนี้ ความเท่ห์ของพระเอกสุดเก่ง สองมือจับดาบเอียงลงพื้นแล้วเทคตัวกระโดดฟันคอซอมบี้ ท่าลงพื้นงอขาตั้งฉากกับพื้นไว้ข้าง โฮกกกกกกก เท่ห์ว่ะคะ อร๊ายยย ลูกเขยหล่อเท่ห์แสนดี ฮ่าๆ แบบว่าอ่านไปก็นึกภาพออกอ่า ก็เลยขอสครีมหน่อยนะก๊ะ ส่วนฉากเรียกเลือดดนั่นจิ้นตามเป็นฉากๆแล้วเสียเลือดดหมดตัวไปแล้วว ฮ่าๆ ยามาโมโตะฝ่ายหื่นชนะขาดลอยย กร๊ากกก ถ้าซอมบี้จะเซะซี่น่ากดแบบก๊ก ก็ยอมให้กัดหลายๆหนอยู่แล้ววว

    ตอนหน้าเคลียร์ปริศนา ซอมบี้อาละวาดได้ยังไงเนี่ย พ่อก๊ก กับพ่อยามะ ปลอดภัยดีใช่มั้ยน้า จะจบยังไงน้ออออ รออ่านตอนต่อไปค่าาาาา ซอมบี้ก๊กน่าฮักสุดยอดดดดด

    ปล.งานรีบอร์นเก๊าไปด้วยยย อาการป่วยหายเกลี้ยงงงงง?เอ่อคิดว่าหายแล้วนะ หรือยังเหลืออาการตกค้างแบบก๊กอยู่หรือป่าวนะ ฮ่าๆ จะรักษาตัวให้ดี แล้วเราคงได้เจอกัน กร๊ากกก จะต้องไปรับเลิฟเลสที่รักด้วยย อิอิ มีอะไรที่อยากได้มั้ยก๊ะ เดี๋ยวจัดการนำไปให้ อนิเมะเรื่องไหนอีกมั้ยที่ยังไม่ได้ล่อลวงพี่กวาง ฮ่าๆ เดี๋ยวก่อนหน้านั้นต้องแวะไปร้านหนังสือสักหน่อยเผื่อมีอันคัตอะไรที่พี่กวางตามอยู่ออกมาจะได้ฉกไปให้ ฮ่าๆ อ้อ แพนด้าโหลดมาแว้วแต่ยังไม่ได้ดูเลยอ่ะ =[]= ทำไรอยู่ก็ไม่รู้ แปปๆหมดเวลาง่วงนอนเข้านอนก็หลับโคตรไวอ่ะ สงสัยช่วงนี้เป็นช่วงชาร์ทแบตร่างกาย แฮ่

    ตอบลบ
  5. ตอนนี้ลุ้นมาก ๆ เลยค่ะ
    ให้ตายเถอะยิ่งอ่านยิ่งอยากโดนซอมบี้กัดบ้างจริง ๆ (มากัดเค้าบ้างซี่)
    บางทีเชื้อไวรัสในตัวหนูก๊กหนะ ไม่ต้องรักษาให้หายขาดก็ได้น้า ฮ่าๆๆๆ
    แอบข้องอยู่อย่าง ยามะด้านดีมันมีด้วยเหรอ

    ตอนนี้เค้าก็ติดพี่หมีขาวเหมือนกัน ตอนแรกกะเปิดหลอกให้หลานดู
    ไปๆมาๆตัวเองติดเองซะงั้น ฮ่าๆๆ เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าเสียงพี่หมีหล่อมว๊ากกกก

    ตอบลบ
  6. ตอนนี้มีหลายอารมณ์มากๆ เลย อ่านแรกๆ มันหวานกันซะ มีกดดัน มีสู้ และที่ชัดเจนคือ การเสียสละ

    ทุกคนยอมที่จะเสียสละ

    เพื่อให้ได้อยู่กับคนที่รัก คนที่ห่วง แม้ว่ารู้ว่าสุดท้ายแล้วจะต้องตาย รู้ว่าไม่มีหวัง แต่ก็ยอม แต่ละคนแน่วแน่มาก

    ชอบฟีลนี้มากๆ เลยค่ะ อ่านไปนี่แบบ แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยย

    มันใช่ค่ะ!!!!!

    เปะมาก ต้องการนิยายแบบนี้

    อยากรู้จริงว่าใครทำให้วาตานาเบะสลบ ชิ แต่คงตายไปแล้วแหละนะ

    อ่านตอนที่แต่ละคนยอมอยู่กับคนที่รัก คอยปกป้องจนนาทีสุดท้าย อย่างสึกิชิม่ากับคาริยะ วาตานาเบะกับคาซาโนริ (ยามะกับโกคุนี่ไม่ต้องพูดถึง ยกไว้บนหิ้งจ้ะ) อ่านแล้วแบบนับถือในความรักอย่างนั้นจริงๆ ฮืออออออออออออออออออออ ฟินอ่ะ ฟินนนนนนนนนน

    ยามะ โกคุ อย่างเท่ห์อ่ะ โกคุขับรถเมพมาก สุดยอดๆๆ
    ส่วนยามะตอนฟันซอมบี้นี่แบบ ให้ความรู้สึกนักฆ่าโดยกำเนิดแท้จริง
    ดีใจนะที่พ่อยามะยังอยู่ ได้รับขวัญสะใภ้โคตรน่ารักคนนี้

    พออ่านมาถึงตอนหลัง ยามะหื่นนนนนนนน มีการทะเลาะกับตัวเองด้วย สุดท้ายก็แถเนียนๆ ไปว่าทำไปในหน้าที่สามีจนได้ หึหึ ความเนียนเอ็งนี่ยังทะลุปรอทเหมือนเดิมนะ

    แอบเสียดายที่ไม่ยอมกด แต่เห็นเหตุผลก็เข้าใจ ..ลืมนึกไปว่าถ้าโดนกดนี่โกคุลุกไม่ขึ้นแหง
    ชักอยากให้โกคุมีเชื้อกำเริบบ่อยๆ จะได้มีอะไรอย่างนี้ทุกวัน หุหุหุ

    ตามตอนต่อไปจ้า

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ10 ตุลาคม 2556 เวลา 01:40

    โอ้ยไม่ไหวแล้ว ฟินสุดๆ ยามาะเอ้ยซอมบี้แกก็ไม่เว้น แต่ถ้าซอมบี้ก๊กเซะซี้ขนาดนี้ เราก็เข้าใจนายนะ =.,=

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ13 กรกฎาคม 2557 เวลา 06:06

    ก๊กใช้งานรถเบนซ์สปอร์ตได้คุ้มมากกกกก
    ทั้งในแง่ของการบรรทุกคนและการไล่กระแทกซอมบี้
    นี่ถ้าร่างกายแข็งแรงเหมือนตอนก่อนถูกฉีดแอนตี้ไวรัสนะ
    รับรองว่าซิ่งมันส์กว่านี้อีก

    ชอบประโยคนี้มาก >> " อะไรที่นายทำไม่เป็น ฉันจะทำให้เป็นทุกอย่าง เพราะงั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง"
    เคลิ้มค่ะ
    และเริ่มเห็นเค้าลางแล้วว่าเนียนจะเป็นสามีที่ดีเพราะเกรงใจภรรยา
    ฮ่าๆๆๆ

    วิธีทำให้หลับที่ได้ผลดีที่สุดก็คือ...สินะเนียน
    ไม่เป้นไร
    เราเข้าใจ

    ตอบลบ