KHR Au S.Fic HBD.Yama [8059] -- BiOS : 04 --


KHR Au S.Fic HBD.Yama [8059]  -- BiOS : 04 --

: KHR AU Fanfiction
: 8059
: Action  Horrors
: NC-17

คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ







ผมแหวกผ้าม่านออกเล็กน้อยเพื่อมองออกไปภายนอกที่เริ่มมืดสนิท โชคดีที่เสาไฟฟ้าหน้าบ้านของโกคุเดระยังทำงานอยู่ ถึงแม้ว่าไฟนั้นจะกระพริบติดๆดับๆอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยให้แสงโคมไฟอ่อนๆที่ผมเปิดเอาไว้ในบ้าน ไม่กลายเป็นจุดสนใจของพวกศพเดินได้ที่ยังเดินไปเดินมาอยู่ตามถนน


มือจับผ้าม่านมาติดกันตามเดิม ก่อนจะหันกลับไปมองร่างบอบบางที่ยังนอนอยู่บนโซฟา...


ยิ่งเวลาผ่านไป ใบหน้าของโกคุเดระก็ยิ่งซีดเซียว สติสัมปชัญญะก็ดูเลือนรางลงทุกที เขาได้แต่นอนเม้มปากอย่างทรมานโดยที่ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย เสียงอื้อๆดังออกมาจากลำคอระหง ราวกับว่าเขากำลังต่อต้านกับความตายที่ค่อยๆกัดกินร่างกายของเขาไปเรื่อยๆ


ผมขยับกายไปยืนมองเขาอยู่ที่ข้างๆโซฟา....ใบหน้าสวยที่ดูทรมานมันทำให้ผมเอื้อมมือเข้าไปหาโดยไม่กลัวว่าเขาจะกลายเป็นซอมบี้แล้วกระโจนเข้ามาทำร้ายผมเลยแม้แต่น้อย


มือลูบเบาๆไปที่แก้มใส ที่ถึงแม้จะซีดขาวแต่ก็ไม่หนาวเย็นเหมือนศพอย่างที่ผมคิด ร่างกายของเขายังอบอุ่น...


นัยน์ตาสีมรกตหรี่ปรือขึ้นมามองหน้าผม ริมฝีปากบางอ้าออกน้อยๆเหมือนจะพูดอะไร แต่ก็ไม่มีเสียงอะไรออกมานอกจากเสียงครางอย่างทรมาน


มือบางของเขายกขึ้นมาจับมือของผมที่ยังอยู่บนแก้มของเขาเอาไว้ มันสั่นระริกจนผมรู้สึกได้


ก่อนที่เขาจะกระชากตัวผมเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว!


" โกคุเดระ?!"      ผมเรียกเขาพร้อมกับใจหายวาบ นึกว่าเขาจะลากผมลงไปเพื่อขย้ำคอหอยผมเหมือนที่พวกซอมบี้ข้างนอกนั่นทำกัน


แต่เปล่าเลย...ผมได้แต่คร่อมทับอยู่บนตัวเขา โดยมีใบหน้าสวยอยู่ห่างแค่คืบ...ริมฝีปากที่อ้าน้อยๆนั่นสั่นอย่างพยายามจะห้ามตัวเอง นัยน์ตาสีมรกตสั่นพร่านั้นดูเย้ายวนมากกว่าจะน่ากลัว


จนผมต้องกลืนน้ำลายลงคอ


เขาพลิกตัวผมลงไปให้อยู่ใต้ร่างเขาโดยที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว เรี่ยวแรงของเขาเยอะขึ้นมากหลังจากที่โดนกัด


ดูเหมือนว่าอะไรหลายๆอย่างของเขาจะใกล้เคียงกับสภาพของซอมบี้เข้าไปทุกทีๆ




อย่างเช่นตอนนี้.....โกคุเดระกำลังกัดผมอยู่....




ในขณะที่ผมนอนหงายอยู่บนโซฟา เขาก็นอนคว่ำหน้าอยู่บนตัวผม ใบหน้าสวยแนบอยู่กับโคนแขนของผม ถึงจะมองไม่เห็นแต่ผมก็รู้สึกได้ถึงคมเขี้ยวของฟันเขา เพียงแต่มันยังไม่ได้กดลึกลงไป เขาแค่งับท่อนแขนผมจากโคนไล่ไปเรื่อยๆจนจะถึงปลายแขนอยู่แล้ว...


เสียงหอบหายใจที่ราวกับว่าเขากำลังต่อต้านสัญชาตญาณของตัวเองอย่างสุดฤทธิ์นั่นสำหรับผมแล้วมันเย้ายวนจนแทบจะทนไม่ไหว


ใบหน้าเนียนของเขาย้ายจากท่อนแขนมาซุกอยู่ที่ลำคอของผม ก่อนจะงับเบาๆให้ผิวเนื้อของผมรับรู้ถึงรอยฟันของเขา จากนั้นริมฝีปากที่แนบลงมาก็ถอนออกไป และเริ่มกัดต่อไปที่ไหปลาร้า.....ผมได้แต่นอนนิ่งๆให้เขากัดให้พอใจ


“ ฮ้า....อึก....”       ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นมาจากร่างกายของผม นัยน์ตาสีมรกตดูออดอ้อนจนผมลอบกลืนน้ำลาย


ให้ตายเถอะ....ถ้าซอมบี้มันจะเซ็กซี่ขนาดนี้ละก็ ผมยอมให้เขากัดจนตายเลย!


มือเลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกให้เขา ก่อนจะกัดฟันกดความรู้สึกที่มันเริ่มจะพลุ่งพล่านขึ้นเรื่อยๆ เป็นใครจะทนไหว ถ้าคนที่ชอบมายั่วกันขนาดนี้ 


ผมได้แต่ข่มใจ เพราะยังไงตอนนี้เขาก็เป็นคนป่วย  ได้แต่เงยหน้าขึ้นแล้วปล่อยให้เขาไล่งับไปตามแผงอกและกล้ามท้องของผม....อ๊า....อย่าต่ำลงไปมากกว่านั้นนะ...


มือรีบจับหัวสีเงินก่อนจะดึงให้ใบหน้าเขามาเริ่มกัดใหม่ที่หัวไหล่....นี่ผมไม่ได้เป็นพวกมาโซนะ เพราะว่าเขาไม่ได้กัดเจ็บอะไรเลย...แค่งับน่ะ แค่งับ!


ตามร่างกายน่ะไม่เจ็บ...แต่ไอ้ที่ปวดหน่วงๆอยู่ข้างล่างนี่สิที่มันกำลังทรมานผม!


มือผมเริ่มเลื้อยไปลูบที่สะโพกมนซึ่งอ้าขาคร่อมร่างกายของผมอยู่ ก่อนจะปลดเข็มขัดกางเกงของเขาแล้วล้วงมือเข้าไป ในขณะที่เจ้าของร่างยังคงง่วนอยู่กับการกัดผมไปเรื่อยๆ


ปลายนิ้วแตะสัมผัสส่วนอ่อนไหวในร่างกายเขา เจ้าซอมบี้สะดุ้งน้อยๆ ใบหน้าลอยๆเหลือบลงไปมองนิดหน่อยก่อนจะหันกลับไปสนใจซอกคอของผมต่อ มือผมจึงค่อยๆกอบกุมแกนกายของเขา ได้ยินเสียงครางเบาๆอยู่ที่หู


ผมขยับมือขึ้นลงช้าๆ ดูเหมือนว่าเจ้าซอมบี้จะงับผมที่หัวไหล่ไม่ยอมปล่อย เสียงครางหลุดจากลำคอมาเรื่อยๆ สองขาที่อ้าคร่อมตัวผมก็สั่นระริก ลมหายใจที่เคยนิ่งสนิทของเขาก็เริ่มหอบถี่ขึ้นเรื่อยๆ


“ อื้อ!      ผมเร่งมือไวขึ้น ไวขึ้น โกคุเดระก็กดฟันลงไปที่ไหล่ผมมากขึ้น มากขึ้น ถึงจะรู้สึกเจ็บๆคันๆอยู่บ้างแต่เสียงครางของเขาก็ทำเอาผมแทบคลั่ง


อยากจะใส่...เข้าไปจัง....


“ อึ๊ก....”       เสียงครางสั้นๆปล่อยออกมาพร้อมกับของเหลวสีขาวขุ่นที่อุ่นวาบมาเต็มมือผม เจ้าซอมบี้ดูจะหมดพิษสงได้แต่นอนราบลงมาบนตัวผมพรางหอบหายใจ


แล้วนัยน์ตาสีมรกตเหนื่อยล้าก็ปิดลงพร้อมกับลมหายใจที่ค่อยๆสม่ำเสมอมากขึ้นเรื่อยๆ....


ซอมบี้ก็หลับได้ด้วยหรอ?


ผมจับไหล่บางของเขาก่อนจะขยับตัวให้เขาลงไปนอนดีๆที่โซฟา ส่วนตัวเองไหลลงมานั่งเช็ดมืออยู่ที่พื้นข้างๆ แผ่นหลังเอนพิงไปกับโซฟา เอียงคอไปก็เห็นใบหน้าของเขากำลังหลับพริ้ม...


ขอโทษนะโกคุเดระ...แต่ฉันทนไม่ไหวแล้ว....


มือเอื้อมไปปลดเข็มขัดของตัวเองก่อนที่จะรูดซิปลง ความเป็นชายตั้งตระหง่านขึ้นมาอย่างไม่ต้องสงสัย ลมหายใจหนักๆถูกปล่อยออกมาพร้อมกับนัยน์ตาที่นิ่งสนิทหันกลับไปมองใบหน้าที่กำลังหลับของเขา


ผมเคยช่วยตัวเองในขณะที่จินตนาการถึงใบหน้าของเขา....แต่คราวนี้ดูเหมือนจะใกล้ความจริงขึ้นมาอีกนิด ในเมื่อผมไม่ต้องจินตนาการ


แต่ได้มองหน้าเขาตรงๆ ในขณะที่มือก็รูดขึ้นลงไปเรื่อยๆ


ลมหายใจติดๆขัดๆถูกระบายออกไป ในขณะที่อารมณ์ก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ...ถ้าเขาตื่นขึ้นมาตอนนี้ เขาคงไม่มีวันรับรักผมแน่....ผมได้แต่ยิ้มกับตัวเอง


มองหน้าเขาครั้งสุดท้ายก่อนที่จะปลดปล่อยออกมาเต็มฝ่ามือ หอบหายใจหนักๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นไป หัวของผมคงซุกอยู่แถวๆหน้าท้องของเขาพอดี


ผมได้แต่เฝ้าคิด....ถ้าวันพรุ่งนี้มีสำหรับเราสองคน....มันจะดีแค่ไหนกันนะ....










เสียงโทรศัพท์ดังต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ทำให้ผมหรี่ตาขึ้นมามอง...แสงสว่างที่ลอดผ่านผ้าม่านสีขาวเข้ามาทำให้ผมรู้ว่าเช้าวันใหม่มาถึงแล้ว


ตอนนี้ผมนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงของโกคุเดระโดยมีเจ้าของเตียงนอนซุกอยู่ที่ท่อนแขนของผม เมื่อคืนหลังจากที่.....นะ.....ผมก็อุ้มโกคุเดระขึ้นมานอนที่ห้องของเขาที่ชั้นสอง


ผมหันหน้าไปมองใบหน้าใสที่ยังคงหลับปุ๋ย...ตอนนี้ใบหน้าของเขาไม่ได้ใกล้เคียงกับซอมบี้เลยสักนิด


เสียงโทรศัพท์ยังคงดังขึ้นอีก ผมผงกหัวขึ้นไปและจำได้ว่ามันน่าจะอยู่ที่บันไดชั้นล่าง ผมจึงขยับร่างกายของตัวเองออกมาจากเตียงช้าๆ แล้วเดินลงบันไดมา


" อะ...สวัสดีครับ"    ผมกรอกเสียงลงไปในหูโทรศัพท์


" นั่นเธอเป็นใครน่ะ? ทำไมถึงเข้าไปในบ้านฉันได้?"        เป็นน้ำเสียงของชายวัยกลางคนที่ฟังดูแล้วน่าจะเป็นพวกหมอหรือไม่ก็นักวิชาการ เพราะวิธีการพูดมันชวนให้คิดได้แบบนั้น....นี่คือพ่อของโกคุเดระ?


" ผม...เป็นเพื่อนของโกคุเดระ"       เผลอหยุดคิดไปหลายวินาที จะตอบว่าเป็นคนที่รักลูกชายของคุณก็คงไม่ได้


" งั้นหรอ...แล้วเด็กคนนั้นอยู่ตรงนั้นไหม?"       หมายถึงโกคุเดระน่ะหรอ? ผมเงยหน้าขึ้นไปมองที่ประตูชั้นสองซึ่งยังเงียบสนิท


" อยู่ด้วยกันที่บ้านนี่แหละครับ แต่ว่าโกคุเดระยังหลับอยู่"      คำพูดของผมคงชวนเข้าใจผิด นี่ถ้าโกคุเดระเป็นผู้หญิงป่านนี้คุณพ่อคงรีบหยิบปืนมายิงผมทิ้งแน่ๆ


" .............ถ้าอย่างงั้นฝากบอกเขาหน่อยก็แล้วกัน"      พ่อของโกคุเดระนิ่งไปพักใหญ่ หวังว่าคงไม่ได้เข้าใจอะไรผิดอย่างที่ผมคิดหรอกนะ


" บอกให้เขาฉีดวิตามินทุกวันตามปกติด้วย ฉันเตรียมเอาไว้ให้เค้าเรียบร้อยแล้ว เค้ารู้ว่าอยู่ที่ไหน"      ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้ฉุนกึกขึ้นมา นี่คุณพ่อเค้าอยู่ที่ไหนกัน ถึงได้ไม่รู้เลยหรือไงว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นามิโมริ เวลาแบบนี้ยังจะมามัวนั่งกินยาตามปกติได้อยู่อีกหรอ?


" นี่คุณรู้หรือเปล่าว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่?"      ผมถามเขาออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่ง


" รู้สิ...มีซอมบี้เดินเต็มบ้านเต็มเมืองเลยใช่ไหมล่ะ?"


" ก็ในเมื่อรู้แบบนั้นแล้วยัง"


" ก็เพราะว่ามันเป็นแบบนั้นน่ะสิ เขาถึงจะขาดยาไม่ได้"        


" เขาโดนพวกมันกัดไปแล้วครับ! ถึงฉีดยาไปก็......."        ผมยกมือขึ้นปิดปากทันที...นี่ผมเผลอพูดอะไรออกไปเนี่ย....คุณพ่อเค้าโทรมาเพราะเป็นห่วงลูกชายไม่ใช่หรอ...แล้วผมยัง....ไปทำให้เค้าเสียใจอีก....เสียงที่ปลายสายเงียบหายไป...


" เอ่อ...ขอโทษนะครับ"      เพราะความเครียดที่สะสมมาหลายวัน มันทำให้ความอดทนของผมมันต่ำลงมาก ผมยอมรับผิดกับเขาแต่โดยดี


" งั้นหรอ....โดนกัดไปแล้วหรอ......"       น้ำเสียงของคนเป็นพ่อฟังดูเลื่อนลอยจนผมได้แต่นึกโทษตัวเอง


" แล้วตอนนี้ฮายาโตะเป็นยังไงบ้าง...."


" เขายังหลับอยู่จริงๆครับ และยังไม่มีทีท่าว่าจะกลายเป็นซอมบี้"    


" เขาถูกกัดมานานหรือยัง?"


" เมื่อวาน....ตอนบ่ายๆครับ...."


" งั้นหรอ.....ถ้างั้น ไปปลุกเขาขึ้นมา แล้วให้ฉีดวิตามินนั่นเข้าไปอีกที"       ดูเหมือนคุณพ่อจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์สินะ  แต่ก่อนที่ผมจะตัดสายทิ้งไปเสียดื้อๆ ปลายสายก็เอ่ยออกมาเบาๆว่า


" การที่ฮายาโตะยังไม่กลายสภาพเป็นซอมบี้ แค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่ายานั่นใช้ได้ผล"       เสียงที่เหมือนเขาจะบ่นกับตัวเองถึงกับทำให้ผมนิ่งค้าง....ว่าไงนะ?.....ยานั่นกับซอมบี้มันเกี่ยวอะไรกัน?


" เธอเองก็ฉีดไปสักเข็มด้วย โดนกัดแล้วจะได้ไม่เป็นอะไร ถึงเลือดจะไม่เข้มข้นเท่าฮายาโตะที่ถูกฉีดแอนตี้ไวรัสทุกวันก็เถอะ"


....แอนตี้ไวรัส ?......


หมายความว่ายังไงกัน?


" ฉันไม่มีเวลาแล้ว แค่นี้ก่อนนะ"      แล้วคุณพ่อก็วางสายไป มือที่ค่อยๆวางหูโทรศัพท์ของผมชื้นเหงื่อ...หมายความว่ายังไง ที่ว่าโกคุเดระถูกฉีดแอนตี้ไวรัสอยู่แล้วทุกวัน....หรือว่าวิตามินนั่น......


ผมวิ่งตึงตังขึ้นไปบนห้องอย่างห้ามความดีใจไม่อยู่


" โกคุเดระ! นี่...ตื่นเถอะโกคุเดระ!"      มือเขย่าไหล่บางให้ซอมบี้ขี้เซาลืมตาขึ้นมา ร่างบอบบางงัวเงียลุกขึ้นนั่ง


" นี่ฉัน...ยังไม่ได้กลายเป็นซอมบี้อีกหรอ?"       เขาพูดพรางขยี้ตา 


" เกือบแล้วละ...นายกัดฉันซะเต็มตัวเลย จำไม่ได้หรอ?"      ผมเย้าแหย่จนเขาหน้าแดง ถึงความทรงจำอาจจะเลือนราง แต่ผมว่าเขาต้องจำได้แน่ๆว่าเมื่อคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้น


แต่หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมา ดูเหมือนว่าใบหน้าที่เคยซีดเซียวจะกลับมามีสีเลือดปกติ อาการอยากกัดของเขาก็เหมือนจะไม่มีเหลืออยู่แล้ว


" พ่อนายโทรมา...บอกว่าวิตามินที่นายใช้ฉีดอยู่ทุกวันน่ะ ที่จริงแล้วมันคือแอนตี้ไวรัส...ฉันก็ไม่รู้อะไรหรอกนะ แต่พ่อนายบอกว่าให้นายฉีดมันเข้าไปอีก แล้วน่าจะหายเป็นปกติ"        ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาเองก็แทบจะเป็นปกติแล้วก็เถอะนะ แต่ผมก็ไม่กล้าประมาท


" อยู่ตรงไหนล่ะ? เดี๋ยวฉันไปเอามาให้"      ในใจผมมันกำลังดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่ไหว ความรู้สึกอยากจะร้องไห้เมื่อวานนี้หายไปจนไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว  แค่คิดว่าเขาจะยังคงอยู่เคียงข้างผมไปอีกนานๆ ผมก็ดีใจจนไม่รู้จะว่ายังไง


" ยะ ยิ้มอะไรของนาย"       นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองมาพร้อมหน้าแดงๆ เขาถอดสร้อยที่คล้องคออยู่ก่อนจะยื่นมันมาให้ผม จี้ที่ห้อยอยู่ในสร้อยมันเป็นรูปกุญแจ


" ในห้องครัวมีตู้เย็นสองหลัง ใช้กุญแจนั่นไขตู้เย็นหลังสีขาว แล้วค่อยมาเปิดตู้เย็นสีดำ ชั้นที่อยู่ใต้ช่องแช่แข็งถึงจะเปิดได้ ยาอยู่ในนั้นแหละ"


" อื้อ"      ผมรับกุญแจมาด้วยใบหน้าระรื่น แต่ก่อนที่ผมจะก้าวขาลงจากเตียง มือของเขาก็รั้งชายเสื้อของผมเอาไว้เสียก่อน


" เอามาสองเข็มนะ ของฉัน....กับของนาย"


ผมหันไปมองนัยน์ตาสีมรกตที่ทำเป็นเสไปมองอย่างอื่นด้วยดวงตาเบิกกว้าง.....ผมอยากจะรวบตัวเขาเข้ามากอดเดี๋ยวนี้เลยจริงๆให้ตายเหอะ








เสียงเข็มฉีดยาว่างเปล่าถูกวางลงไปในถาดเงิน มันแทบจะไม่รู้สึกต่างจากการฉีดยาธรรมดาเลยแม้แต่น้อย...ไม่น่าเชื่อว่าเจ้ายาหลอดเล็กๆนี่จะทำให้เราไม่ต้องกลายเป็นศพเดินได้นั่นไป


" พ่อนาย...ทำงานอยู่ในสถาบันวิจัยงั้นหรอ?"       ถ้าจะรู้เรื่องแอนตี้ไวรัสดีขนาดนี้คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้


" ใช่....หมอนั่นคงจะรู้อยู่แล้วละว่าไวรัสมันอาจจะแพร่ออกมาข้างนอกเข้าสักวัน เพราะงั้นเลยฉีดวิตามิน...ไม่สิ แอนตี้ไวรัสนี่ให้ฉันตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน"       ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงได้ถามช่างแอร์....เรื่องวันที่อาวุธชีวภาพนั่นถูกสร้างขึ้น


" ทั้งๆที่รู้ถึงขนาดนั้น แล้วทำไมไม่ฉีดให้คนอื่นๆด้วยกันนะ"        เมื่อนึกถึงสภาพของเมืองนามิโมริในขณะนี้มันก็ทำให้รู้สึกหดหู่


" ก่อนหน้าที่ฉันจะฉีดมัน ร่างกายของฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนี้หรอกนะ....แต่พอฉีดมันติดต่อกันซักพัก อวัยวะภายในของฉันหลายอย่างเริ่มทำงานไม่ปกติ...อาจจะเป็นเพราะแบบนั้นหรือไม่ก็....เป็นเพราะจะให้ใครรู้ เรื่องอาวุธชีวภาพนี่ไม่ได้เด็ดขาดละมั้ง"


" อย่างงั้นเองหรอ..."       ผมมองใบหน้าที่อยู่ห่างไม่มากนักของเขา...บางทีก็ไม่เข้าใจพ่อของเขาเหมือนกันนะ ว่าตกลงเป็นเพราะรักเขามากหรือว่ายังไง ถึงได้ตัดสินใจให้เขาเป็นหนูลองยาจนร่างกายอ่อนแอขนาดนี้


“ ไปอาบน้ำเถอะโกคุเดระ เดี๋ยวฉันจะได้ทำแผลที่ไหล่ให้นายด้วย”       ถึงแม้จะไม่ได้กลายเป็นซอมบี้ แต่แผลที่ถูกกัดก็ยังคงอยู่ และมันจะหายตามสภาพร่างกายปกติ


ผมหยิบถาดเงินขึ้น กะว่าจะเอาลงไปเก็บและทำอะไรง่ายๆกิน ความสบายใจทำให้ท้องชักจะกลับมาเริ่มเรียกร้องหาอาหารอีกครั้ง แต่มือบางก็รั้งชายเสื้อของผมเอาไว้อีก


“ แล้วจากนี้....จะทำอะไรต่อ...จะอยู่ที่นี่.....ไหม..”       คำพูดขาดๆหายๆกับท่าทางอายๆของเขาทำให้ผมอยากจะโยนถาดทิ้งแล้วตรงดิ่งไปกระโดดคร่อมซะเดี๋ยวนั้นเลย


“ ฉันก็อยากจะอยู่ที่นี่กับนายหรอกนะ...แต่ว่า...”       ใช่...ยังมีอีกอย่างที่ผมอยากจะไปทำ ยังมีอีกคนที่ผมอยากจะไปเจอ


“ ฮะ ฮะ...ฉันว่าจะกลับไปดูพ่อที่บ้านซักหน่อยน่ะ”      ผมยกมือขึ้นเกาหัว ถึงใบหน้าจะหัวเราะอยู่แต่ในใจนั้นเป็นห่วงยิ่งกว่าใครๆ


“ นายอยู่ที่นี่แหละโกคุเดระ...บ้านหลังนี้...ดูท่าทางว่าพ่อของนายจะสร้างมันเอาไว้รับมือกับซอมบี้โดยเฉพาะเลยละ...นายจะปลอดภัยแน่ๆ...”      ผมยิ้มให้กับนัยน์ตาสีมรกตที่ดูเป็นกังวล


“ ไม่เป็นไรน่า...ถึงนายจะไม่อยาก แต่ฉันก็จะรีบกลับมา”        ผมยิ้มให้เขาเลิกกังวล ก่อนจะเดินออกจากห้องไป


มือวางถาดเงินไว้ในอ่างล้างจาน สายตาที่มองลงไปนั้นว่างเปล่า...ถึงผมจะบอกเขาไปแบบนั้น แต่เอาเข้าจริงก็ไม่มั่นใจเลยว่าจะได้กลับมาจริงๆหรือเปล่า...


จริงอยู่ที่ว่า ผมฉีดแอนตี้ไวรัสไปแล้ว...ถ้าซอมบี้สองสามตัวกัดคงไม่เป็นไร...แต่ถ้ามากันยกฝูง...อย่าว่าแต่แอนตี้ไวรัสเลย ผมอาจจะโดนกัดคอขาด แล้วตายไปเพราะอวัยวะกระจัดกระจายก็ได้


ผมสะบัดหัวไล่ความคิดด้านมืด ผมจะคิดแบบนั้นไม่ได้ ยังไงผมก็จะต้องกลับมา....นึกถึงใบหน้าของโกคุเดระเมื่อคืนนี้เอาไว้สิ


“ ทำกับข้าวๆๆ”        รีบห้ามตัวเองก่อนจะฟุ้งซ่านไปกันใหญ่





ผมตั้งใจจะออกไปตอนเที่ยง ความจริงแล้วบ้านของผมกับบ้านของโกคุเดระไม่ได้ไกลกันมากนัก เพียงแต่กว่าจะหลบพวกซอมบี้จนไปถึง คงกินเวลาพอสมควร


จานใบสุดท้ายถูกล้างก่อนจะวางเอาไว้บนชั้นโปร่ง ผมเช็ดมือกับผ้าเช็ดมือที่ห้อยอยู่แถวนั้น ที่หางตาแลเห็นโกคุเดระที่น่าจะนั่งอยู่ที่โซฟากำลังก้มๆเงยๆทำอะไรบางอย่างอยู่ที่หน้าตู้เย็น  ผมชะโงกหน้าไปดู ก็เห็นเขากำลังหยิบเข็มฉีดยาทีมีแอนตี้ไวรัสมาเรียงใส่กระเป๋ายา


“ นี่นาย...กำลังคิดจะทำอะไรน่ะโกคุเดระ?”       แล้วก็เป็นอีกครั้งที่เขาหันมามองหน้าผมตรงๆ นัยน์ตาสีมรกตของเขาแน่วแน่จนผมหลบเลี่ยงไม่ได้


“ ฉันจะไปกับนายด้วย”        


“ แต่ว่า...”


“ ฉันจะไป”


เห็นใบหน้าเอาแต่ใจของเขาเป็นครั้งแรก และมันก็ทำให้ผมต้องยกมือขึ้นยอมแพ้


“ นายขับรถเป็นหรือเปล่า?”        จู่ๆเขาก็ถามขึ้นมา ผมพยักหน้าไปแบบไม่ค่อยมั่นใจนัก


“ ในโรงรถมีรถอยู่คันนึง เราจะไปด้วยรถนั่น เพราะชั้นไม่คิดว่าการเดินไปจะปลอดภัยพอ...อีกอย่าง...”       เขาหยุดมือจากการเรียงเข็มฉีดยาแล้วหันมามองหน้าผม สายตาที่มองมาราวกับกำลังขอร้องอยู่กลายๆ


“ หลังจากที่นายหาพ่อเจอแล้ว...ช่วยพาฉันไปที่สถาบันวิจัยที”       จริงสินะ เขาเองก็คงเป็นห่วงพ่อของตัวเองเหมือนกัน หรือว่าผมควรจะพาเขาไปหาพ่อก่อน...ผมอ้าปากกะว่าจะถาม แต่เขาก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน


“ ฉันไม่ได้ห่วงหมอนั่นหรอก....หมอนั่นน่ะ เป็นมนุษย์ต่างดาว ซอมบี้โง่ๆพวกนี้ทำอะไรไม่ได้หรอก...เพียงแต่...ฉันแค่มีเรื่องอยากจะถาม...”       ผมแอบขำในใจ ถึงแม้จะเรียกพ่อของตัวเองแบบนั้น แต่ก็ดูท่าทางว่าเขากับพ่อจะสนิทกันดี


“ ตกลง”       ไม่ว่าเขาจะให้ผมไปลงนรกตกเหวที่ไหนผมก็จะไป


เราเก็บข้าวของที่จำเป็นใส่ท้ายรถไปด้วย ผมแทบจะน้ำตาไหลเมื่อเห็นรถที่จอดอยู่ในโรงรถ.....เบนซ์สปอร์ตสีขาว....ผมคงหมดสิทธิ์ขับชนซอมบี้อย่างที่ตั้งใจจะทำตามพระเอกหนังแล้วละ...เกิดพังขึ้นมา ผมคงไม่มีปัญญาชดใช้ให้เขาแน่


“ ขับไปเถอะน่า ไม่ต้องสนใจ ถ้าไหล่ฉันไม่เจ็บก็จะขับให้อยู่หรอก”       คันนี้เป็นรถของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะคุณพ่อจอมเนี้ยบคงไม่ขับรถแบบนี้แน่  โกคุเดระปิดหลังคาขึ้นมาคลุมทั้งหมด แหงละ จะให้เปิดประทุนวิ่งท่ามกลางฝูงซอมบี้ก็กระไรอยู่ ผมขยับเข้าไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับ ที่ข้างกายมีตุ๊กตาหน้ารถคนสวยหอบกระเป๋ายาอยู่ด้วย


ผมหันไปมองหน้าเขา ก่อนที่เราจะพยักหน้าลงพร้อมๆกัน



ประตูหน้าค่อยๆอ้าเปิดออก.....




แล้วเบนซ์สปอร์ตสีขาวก็วิ่งออกไปราวกับหงส์ที่ลอยอยู่เหนือทะเลเลือด!





.
.
.
.
.
.
.

To be Con.




อ๊ากกกกกก ถ้าซอมบี้มันจะเซะซี่ขนาดนี้...มากัดมี๊เลยมะ...*q*....


แอบแปะโฆษณาไว้ก่อน แบบว่าไม่รู้ว่าระหว่างอาทิตย์นี้จะได้มาลงอีกไหม(เฮ้ย)....วันอาทิตย์นี้เจอกันที่งาน โคโคโระนะค้า....(อย่าถามว่าจัดที่ไหน เพราะข้าพเจ้าเองก็ยังไม่รู้ =3= เค้าให้หนูไปเฝ้าบูทเฉยๆง่ะ) งานนี้เอาแอนโธ 8059 และ D18 จากงาน Double date ไปขายค่า ยังเหลืออีกไม่มากแล้วน้า มาช่วยกันรับไปเลี้ยงดูหน่อยเร้ววว

แปะหน้าปก!




  


อันนี้รายละเอียดข้างใน!



ปล. ข้าพเจ้าเป็นหนึ่งในสต๊าฟนะคะ ซึ่งนั่นหมายความว่าเล่มนี้ทำในนามของหลายคน เพราะงั้นอย่าติดต่อข้าพเจ้าทางเมล์ของ Double date เน้อ เดี๋ยวจะไม่ถึงเอา...^ ^…



9 ความคิดเห็น:

  1. ไม่เคยเสพอะไรเกี่ยวกับซอมบี้ที่มันจะเซ็กซี่ขนาดนี้มาก่อนเลย
    อยากโดนซอมบี้กัดบ้างจริง ๆ ให้ตายเถอะ (ต้องเป็นซอมบี้หัวเงินตัวนี้เท่านั้นนะ)
    สนุก ๆ มาก ๆ เลยค่ะ ลุ้นดีจริง ๆ นึกว่าหนูก๊กจะกลายเป็นซอมบี้ไปจริง ๆ เสียอีก
    เอ๊ะหรือที่หนูก๊กไม่กลายเป็นซ่อมบี้จริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นเพราะยา
    แต่เป็นเพราะว่ายามะช่วยระบายพิษ???ให้หนุก๊กได้ทัน
    จะว่าไปแล้วไอ้ตัวที่อยู่กับหนูก๊กตอนนี้นี่ท่าทางมันน่าจะอันตรายมากกว่าฝูงซอมบี้มากกว่าอีกนะ
    แล้วป่านนี้พวกเพื่อนของยามะที่ไล่หนูก๊กออกมาจะเป็นยังไงกันบ้างนะ อยากรู้จริง ๆ ชิ!!


    เห็น Antho ของ Double date แล้วก็ได้แต่เศร้าใจ ยังไม่ได้อ่านเลย
    เอาไปซุกไว้ไหนแล้วก้ไม่รู้ด้วย ก๊าซซซซซ (จิกทึ้งหัวตัวเอง) OTZ


    ปล.สุขสันต์วันเกิดนะพ่อเนียน (เกือบลืมอวยพรแหนะ) ฮ่าๆๆๆ

    ตอบลบ
  2. "ให้ตายเถอะ....ถ้าซอมบี้มันจะเซ็กซี่ขนาดนี้ละก็ ผมยอมให้เขากัดจนตายเลย"
    ขอยอมโดนกัดด้วยคนได้มั๊ยยามะ อิอิ // โดนเสยด้วยชิงุเระ
    แอร๊ยยยยยย!!! เป็นซอมบี้ที่เซะซี่จริงๆ สนุกมาก
    แอบนึกว่าก๊กจะเป็นซอมบี้ แล้วยามะก็ต้องพยายามหาทางช่วย
    แล้วทุกคืนก็ต้องยอมมาเป็นอาหารของซอมบี้(หรือเอาซอมบี้เป็นอาหารก็ไม่รู้!?!555)
    ประมาณนี้ซะอีก//นั่นมันสนองนี๊ดของตัวเองคนเดียวแล้ว!!! แหะๆ
    ยังไงก็ HBD Yamamoto(ย้อนหลัง 1วัน)นะจ๊ะ พอดีเพิ่งสอบเสร็จเพิ่งเป็นอิสระค่ะ

    เราชอบประโยคนี้จังเลย
    " ถ้าฉันบอกกับนายว่า....ฉันชอบนาย....เรื่องที่ฉันทำให้นายแบบนี้มันจะกลายเป็นเรื่องธรรมดา"
    อ่านแล้วมัน . . อะจึ๋ยยยดีค่ะ ฮ่าๆ แบบกระชุ่มกระชวยอย่างบอกไม่ถูก
    แล้วก็ชอบที่ก๊กถามยามะนี่ด้วย ให้ความรู้สึกยามะแอบเนียนผสมโรแมนติก(?)
    “ แค่เฝ้ามอง...ทำให้เกิดความรักได้ด้วยหรอ?”
    “ ถ้าอย่างงั้น....นายก็ลองมองฉันบ้างสิ....แล้วจะได้รู้...ว่ามันทำให้เกิดความรักได้จริงๆหรือเปล่า”

    จะติดตามต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ สู้ๆค่ะ ^^

    ตอบลบ
  3. อ่าน จบแล้ว =[]=
    ก๊อบไปอ่านในเวิร์ดหล่ะ อ่านไปด้วยอาการมึนๆ ตึ๊บๆ

    นึกถึง ซอมบี้ HOTD เรื่องนั้นนี่ดูไม่จบเพราะเอียนเซอร์วิส ฮ่า
    แต่ถ้าเรื่องนั้นเป็นซอมบี้เซะซี่ๆแบบก๊กคงน่าดูขึ้นเยอะอ่ะ

    นึกถึงนวนิยายไซไฟอะไรสักเรื่อง ทดลองอะไรแบบนี้หล่ะ
    แล้วตอนสุดท้ายมันจบแบบว่าไม่มีใครเหลือรอด หรือไม่ก็จบแบบทิ้งท้ายให้รู้ว่า
    ไอ้ที่ว่ากำจัดได้หมดอ่ะ ยังเหลืออีกหนึ่งหน่อ ไรประมาณนี้
    ฟิคนี่ก็ให้อารมณ์เดียวกันเลย เหอๆ =[]=

    แล้วอินี่จะแสดงความรู้สึกยังไงกับฟิคนนี้ดี ถึงจะเป็นซอมบี้แต่รู้สึกว่าเลือดจะไม่ค่อยสาด
    เอ๊ะหรือว่าสาดดกระจาย แต่อินี่กำลังมึน อ่านพรวดๆๆ เหะๆ

    กำลังระลึกอยู่ว่า มันคือวันเกิดยามะ ...
    ในฟิคก็อารมณ์ประมาณว่าแอบมองแอบหลงรักมานาน
    พอรับรู้ความรู้สึกบอกความใจใจได้ก็เกือบเป็นซอมบี้
    แล้วก็เฉลยว่ามีแอนนตี้ไวรัสพอจะรักษาได้

    กำลังจะไปข้างนอก แล้วจะรอดมั้ย งื้อออ พ่อก๊กทำอะไรอยู่ กำจัดซอมบบี้ได้มั้ยหว่า
    (อ่อ พูดถึงซอมบี้นึกไปถึงเซบาสด้วย ซอมบี้บนเรือหรู อ่ะนอกเรื่องๆ)
    รอดไม่รอด ไ่ม่รู้ แต่ที่รู้ๆซอมบี้ก๊กเซะซี่น่ากัดน่ากดมากกกกกกกกกก
    จะบอกว่า ที่อ่านมาทั้งหมดจับประเด็นได้แค่นี้ กร๊ากกกกกก // โดนโบก

    ปล.ขออภัยที่เม้นท์รวบยอดในตอนที่สี่เลยนะคะ มองจอคอมแล้วแบบว่าตัวหนังสือซ้อนกันไปซ้อนกันมา แต่มือก็รัวคีย์บอร์ดไปเรื่อยๆ ฮ่าๆ T^T เก๊าอยากกลับบ้าน หัวหน้าไปประชุม รอเวลากลับบ้านไปนอนนนน มึนหัวมากเจ้าค่ะ โอ๊ะ ไม่ได้มึนเพราะฟิคนะ มึนเพราะยาแก้หวัดแก้ไข้แก้อักเสบ ฯลฯ ตะหากเล่า

    รออ่านตอนต่อไปเน้อออ

    สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะ ยามาโมโตะ ทาเคชิ ลูกเขยสุดหล่ออออออ ^^

    ตอบลบ
  4. สนุกมากก >__< จะรอตอนต่อไปนะคะ

    ตอบลบ
  5. อ่านจบแว้วววว (ทำใจอยู่นานมาก เป็นคนกัวปี๋มากค่ะ 55) ได้ข่าวว่าไม่เกี่ยว?

    ซอมบี้สุดเซกซี่ โอ้ววว ขนาดซอมบี้ยังไม่เว้นเลยนะยามะ ฮาาาา

    ดีใจจังมีแอนตี้ไวรัสด้วย ไม่งั้นอาจเกิดเป็นดราม่าได้ 555+ ป๊ะป๋าโกคุคะ องค์กรป๋าเนี่ยช่างเป็นพิษเป็นภัยต่อมนุษย์ชาติมว้ากกก อารมณ์เกม bio hazard จริงๆค่ะ (คอเกมมาเอง ก๊ากก) แต่ในเกมโนแอนตี้ไวรัสฮร่ะ ยิงซอมบี้ดับอย่างเดียว แต่ไม่แน่ถ้าเจอซอมบี้สุดเซกซี่แบบโกคุละก้อ อาจยอมให้เกมโอเวอร์ไปเลยค่ะ 555 นั่งดูตอนแทะ(โลม?)

    ป๋ายามะจะเป็นยังไงบ้างหนอ ติดตามตอนต่อไปค่ะ ลุ้นๆ ^ ^


    ตอบลบ
  6. อ่านมาถึงตอนนี้ถึงกับกรีดร้องเป็นบ้าเลยค่ะ
    ซอมบี้อะไรเซ้กซี่ได้ถึงขนาดนี้//เลือดท่วม
    อิจฉา อิจฉายามะมากกกกกกกกกกกกก มันเป็นฟิควันเกิดเพราะหมอนั่นได้กำไรไปเต็มๆนี่ล่ะค่ะคุณกวาง โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    ปล.แต่เจ้าตัวเนียนนี่หื่นไม่ปิดไม่บังเลยนะ!

    ตอบลบ
  7. ยาม้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา แกหื่นมากกกกกกกกกกก
    ทำไมไม่กดไปเลยล่ะ!!!!!! หา!!!!!!!!!!!!!!!!

    โกคุเซ็กซ๊่มากอ่ะ ไม่แปลกที่ยามะมันจะคุมตัวเองไม่อยู่
    ถ้าซอมบี้จะน่ารักแอนด์เซ็กซี่ขนาดนี้ เป็นใครก็คงยอมให้กัดจนตายจริงๆ แหละ

    โอ้ย ยิ่งอ่านยิ่งอิจฉายามะ *วิ่งหลบดาบ*

    ฮึ่ยยยย อะไรๆ ก็เป็นใจขนาดนั้น น่าจะกดไปเลยนะ

    ดีใจที่โกคุไม่เป็นซอมบี้น้า พ่อของโกคุนี่...ชามาลรึเปล่านะ แต่ยังไงหมอนั่นนี่กล้ามากใช้ลูกเป็นหนูลองยา แต่มันก็แสดงว่ารักลูกมากเหมือนกันในอีกแง่นี่นะ

    ขอให้พ่อยามะยังปลอดภัยนะ เพี้ยงๆๆๆๆ จะได้มารับขวัญลูกสะใภ้

    ตอบลบ
  8. ว้าว *q* อิจฉายามะ ได้ขี่เบนซ์สปอร์ต//ไม่เกี่ยว = =
    อยากจะบอกยามะว่า พี่คิดฟุ้งซ่านเกินไปแล้วนะเพ่
    ในหัวมีเรื่องอย่างนั้นตลอดเวลาเรอะ!!!

    ตอบลบ
  9. ไม่ระบุชื่อ13 กรกฎาคม 2557 เวลา 05:21

    ตอนยามะคิดว่าอยากกลับไปบ้านตัวเอง
    เพื่อไปหาพ่อของตัวเองและจะต้องไปให้ได้แม้จะต้องฝ่าดงซอมบี้ไปน่ะ
    อยากจะบอกว่านายเท่มากกกกกกกกกก
    แต่ประโยคที่บอกว่านึกถึงหน้าก๊กเมื่อคืนมันคืออะไรยะ
    นายหื่นมากกกกกก
    แต่จะไปว่าเนียนฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก
    เพราะซอมบี้ก๊กเซ็กซี่เกินกว่าจะอดใจไหวสินะ
    นี่ถ้าไม่หลับไปซะก่อน
    คนอ่านคงเลือดพุ่งเป็นทิวแถว
    ตอนหน้าคงมีอะไรให้ลุ้นกันอีกล่ะ
    คู่รักเบ๊นซ์ขาวตะลุยดงซอมบี้

    ตอบลบ