KHR Au Fic [8059] Blooming Heart : 03



KHR Au Fic [8059]    Blooming Heart : 03

: KHR  feat.Natural city  Fanfiction AU
: TYL80 x TYL59  ,  TYL80x59
: Romantic  Drama  Sci-fi
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
 






“ ผ่านเรียบร้อยแล้วจ้า...เด็กนั่นเป็นมนุษย์แน่นอน! มีลำไส้มีตับไต แถมในหัวใจก็มีเส้นเลือดด้วย”        ใบหน้าขาวยิ้มแย้มอ่านรายงานในมือให้ฟัง หลังจากที่เขาพาเด็กคนนั้นกลับมาที่สำนักงานใหญ่ของ MP แล้วจับยัดใส่เครื่องสแกนของหน่วยตรวจสอบ


“ แหม...ไม่เห็นต้องทำอะไรให้ยุ่งยากเลยนะยามาโมโตะคุง...แค่จับจูบไปซักทีสองทีก็รู้แล้วน่า ว่าเป็นมนุษย์หรือเปล่า?”       ใครจะไปทำแบบนั้นกับคนไม่รู้จักกัน! เขาได้แต่ส่ายหน้าให้กับผู้บังคับบัญชาที่ดีแต่ทำตัวเอื่อยเฉื่อยคนนี้


“ แต่ว่านะผู้พันยามาโมโตะ...เดือนนี้นายก็ทำ LCD พังไปแล้ว 26 เครื่อง ถึงการที่เด็กที่นายจับมาจะเป็นเรื่องน่ายินดีว่าเป็นมนุษย์แต่นั่นก็เท่ากับว่านายจับมาผิดตัว หรือก็คือไปจับ MR ที่ว่านี่ไม่ได้...เพราะงั้นนะ...”


“ ฉันขอตัวพาเด็กนั่นกลับไปส่งก่อนก็แล้วกัน”       เขารีบตัดบทเตรียมจะหันหลังให้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเริ่มบ่นไปมากกว่านั้น


“ เอ๋?! เดี๋ยวสิ...จะไม่อยู่ฟังก่อนหรอว่าฉันจะหักเงินเดือนนายเท่าไหร่?”      เขาส่ายหน้าเตรียมจะเดินหนี  แต่ก่อนที่จะก้าวพ้นประตูออกไปเขาก็เอ่ยถามอีกฝ่ายทั้งๆที่ไม่ได้หันหน้ามามอง


“ นี่....นายคิดว่าไง?...เรื่องที่เด็กคนนั้นมีใบหน้าเหมือนฮายาโตะอย่างกับแกะแบบนี้...”


“ อื้อ...นี่สินะสาเหตุหลักที่นายจงใจพาเด็กคนนั้นกลับมาที่นี่....”


“ อ้า....สงสัยว่าฉันคงต้องไปดูซักหน่อยแล้วละน้า...ว่าที่สถาบันวิจัยที่ 1 มันซ่อนอะไรเอาไว้...”        เขาลอบยิ้มที่มุมปากกับคำตอบที่ได้ยินแล้วโบกมือลา








เจ้าเด็กหน้าตามอมแมมนั่งแกว่งขาเคี้ยวขนมปังตุ้ยๆรอเขาอยู่ที่โถงทางเดิน...เด็กนี่ไม่มีแม้แต่ ID ที่จะบ่งบอกว่าตัวเองเป็นใคร แถมถามชื่อไปก็ไม่ยอมบอก


“ เฮ้...ไปกันได้แล้ว จะพากลับไปส่งบ้าน”


“ ฉันก็บอกแกแล้วว่าเสียเวลาเปล่า ฮึ”        ใบหน้าเล็กหันมายิ้มเยาะ ทั้งรูปหน้าทั้งสายตาและรอยยิ้มเย่อหยิ่งอวดดีนั่นมันทำให้เขาแทบจะเห็นเป็นภาพซ้อนของฮายาโตะ...ถ้าไม่เห็นกับตาเขาคงไม่มีวันเชื่อแน่ๆว่าจะมีคนสองคนที่ไม่รู้จักกันแต่ดันเหมือนกันได้ขนาดนี้


ร่างสูงเดินนำร่างเล็กบางไปตามทางเดินมันวับของกองพันทหารสำนักงานใหญ่ นัยน์ตาสีเปลือกไม้ลอบมองคนที่เดินอยู่ข้างหลัง นัยน์ตาสีมรกตคู่นั้นไม่มีแววตื่นกลัวเลยแม้แต่น้อยที่ต้องมาเดินอยู่ในหน่วยงานที่ได้ชื่อว่าโหดที่สุดในโตเกียว...แล้วยิ่งตัวเองมาจากเขตที่ 45 ยิ่งน่าจะกลัว...แต่ใบหน้าสวยนั่นกลับหันไปหันมา มองนู่นมองนี่อย่างสนอกสนใจ


แสดงว่าคงจะผ่านอะไรมามาก...อะไรที่อาจจะอันตรายกว่าตัวอันตรายอย่างเขา


“ นี่...นายใช้วิธีแบบนั้นในการหาเงินตลอดเลยหรอ? แล้วไม่โดนไอ้พวกโหดๆนั่นเล่นงานเอาบ้างหรือไง?”         เขาหันไปถามคนที่เปลี่ยนมาทำหน้าฟึดฟัด


“ ก็แล้วทำไมชั้นต้องบอกแกด้วยล่ะ? อย่างชั้นน่ะ ไม่กระจอกอย่างที่แกคิดหรอกนะ!       ใบหน้าสวยเชิดสะบัดขึ้นพรางกอดอก


“ ฮ่าๆ แต่นายก็โดนฉันจับกลับมาได้ง่ายๆเลยนี่นา”       


“ แก๊!! ก็แกขี้โกงเล่นใช้ปืนนี่! และอีกอย่างนะ ฉันก็ยอมให้แกพามาเพราะว่าอยากรู้ว่าเขตที่ 1 เป็นยังไงก็แค่นั้นแหละเฟ้ย ไม่ได้เป็นเพราะฉันแพ้แกซักหน่อย”       ร่างเล็กบางเถียงข้างๆคูๆ ก็เห็นๆอยู่ว่าสู้เขาไม่ได้


“ ฮ่าๆๆๆ”     


“ จะหัวเราะทำบ้าอะไรเล่า!!         บรรยากาศแบบนี้มันยิ่งทำให้เขานึกถึงตอนที่เจอฮายาโตะใหม่ๆ แล้วยิ่งเสียงสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้นี่ก็ยิ่งทำให้นึกถึงวันแรกที่พวกเขาเจอกัน....วันนั้นฝนก็ตกราวกับฟ้าจะถล่มลงมาแบบนี้เหมือนกัน...


“ อ่า...ทำยังไงดีละเนี่ย...”        เขาได้แต่ยืนมองสายฝนที่บดบังทุกสิ่งทุกอย่างจนมองไม่เห็นแม้แต่ถนน


“ ก็เอารถยนต์ไปส่งเซ่ะ...แค่นี้ก็คิดไม่ได้ ฮึ”       เสียงเล็กๆของเจ้าเด็กเมื่อวานซืนดังอยู่ข้างๆให้เขาเหยียดยิ้มอย่างนึกหมั่นไส้


“ โทษทีนะ  แต่ฉันไม่มีรถยนต์หรอก”


“ ว่าไงนะ!! ก็ไอ้พวกนั้นมันเรียกแกว่าผู้พันไม่ใช่หรอ? แล้วทำไมกะอีแค่รถยนต์ถึงไม่มีปัญญาซื้อละวะ?!        ปากคอเราะร้ายแบบนี้ จับมาสั่งสอนซักหน่อยดีไหมนะ? แต่จะว่าไปเด็กนี่ก็ฉลาดใช่ย่อย นี่คงจะคอยแอบฟังอยู่ละสิ ตอนที่เขาคุยกับคนอื่นๆ


เขาได้แต่ยืนมองสายฝนที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดอย่างครุ่นคิด จะให้ขับมอเตอร์ไซค์ฝ่าสายฝนไปก็ใช่ว่าเขาจะทำไม่ได้ แต่ก็เพราะเจ้าตัวดีที่ยืนสบถอยู่ข้างๆนั้นเป็น “มนุษย์” ถ้าจะให้ตากฝนนานขนาดนั้นก็กลัวว่าจะหนาวตายไปซะก่อน


“ มานี่...”       เขาจับข้อมือเล็กแล้วออกแรงลากให้เดินตาม


“ แกจะพาชั้นไปไหนเนี่ย? ปล่อยนะ!!       


“ ถ้ายังไม่เลิกโวยวาย นายได้ไปนอนในคุกแน่คืนนี้”      เขาหันไปส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แกมข่มขู่ ดูเหมือนจะได้ผลอยู่หน่อยๆตรงที่ปากดีนั่นเงียบไปทันที


“ หนอย....”        ได้ยินเสียงกัดฟันกรอดกับนัยน์ตาสีมรกตหาเรื่องมองมาแทน...สงสัยว่าคราวหน้าถ้าเขาต้องไปโซนตะวันตกของเขต 45 คงต้องระวังตัวมากกว่าเดิมเป็นสองเท่าซะแล้วแหะ


เสียงรองเท้าของเขาดังเสียดสีกับพื้นมันวับท่ามกลางความเงียบงันของทางเดิน ชั้นบนสุดนี้มีห้องทำงานของ MP ยศนายพันอยู่หลายห้องก็จริง แต่ตอนนี้ “ผู้พัน” ที่ทำงานได้โดยที่ยังครบ32อยู่ก็มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น เพราะงั้นมันจึงแทบจะไม่มีใครขึ้นมา....อ้อ....ถ้าจะถามถึงห้องของท่านผู้บังคับบัญชาของเขาละก็ อยู่ชั้นใต้ดินไกลผู้ไกลคนโน่นละ


เขาเปิดห้องทำงานประจำตำแหน่งของตัวเองเข้าไป...ในนั้นมันก็ไม่มีอะไรมากเพราะจะว่าไปแล้วเขาก็แทบจะไม่ได้อยู่ที่นี่


“ เอ้า...คืนนี้นอนที่นี่ไปก่อนแล้วกัน...มีห้องน้ำอยู่ตรงนั้น”      เขาปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระ แต่ใบหน้าสวยดูจะสนใจหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่มองเห็นได้ทั่วโตเกียวนั่นเสียมากกว่าจะฟังอะไร


“ แล้วก็อย่าทำห้องฉันพังล่ะ”


“ อือ”      มีเพียงเสียงตอบรับสั้นๆดังมาจากแผ่นหลังของคนที่กำลังเอามือเกาะกระจกมองออกไปข้างนอกโดยไม่สนใจเขาอีก


เขาส่ายหน้าก่อนจะปิดประตูห้องแล้วเดินจากมา...ความจริงแล้วเขาไม่ควรจะปล่อยเด็กคนนั้นไว้ที่นั่น เพราะมันเต็มไปด้วยความลับทางราชการของ MP ....เขาควรจะพาเด็กคนนั้นกลับไปที่บ้านของเขา เขาควรจะรับผิดชอบที่จับตัวเด็กคนนั้นมาผิด....ถ้าหากว่าเด็กคนนั้นไม่ได้มีใบหน้าที่เหมือนกับฮายาโตะ...เขาก็คงจะทำแบบนั้นได้โดยที่ไม่คิดอะไร...


เสียงลิฟท์บ่งบอกว่าเขากำลังยืนอยู่ที่ชั้นหนึ่ง หลังจากก้าวขาออกมา สายตาก็ดันเหลือบไปเห็นตู้กดทุกอย่างอัตโนมัติ...จริงสิ...เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าควรจะหาอะไรไปให้เจ้าเสือหิวนั่นกินด้วย....เขาลืมนึกไป ก็เพราะว่าฮายาโตะไม่จำเป็นต้องกินอะไร....


หลังจากที่ใส่ ID การ์ดของเขาเข้าไป สายตาก็ไล่มองรายการที่แปะอยู่หน้าตู้...อย่างเจ้าเด็กนั่นควรจะกินผักซักหน่อยนะจะได้โตไวๆ...แล้วมือเขาก็จิ้มไปที่ลาซานญ่าผักโขมกับน้ำผลไม้หนึ่งชุด...อ้อ....ควรจะให้เจ้าเด็กนั่นล้างหน้ามอมๆนั่นซักหน่อยก็ดี....แล้วอุปกรณ์ชุดอาบน้ำก็ไหลลงมาในช่องรับของ


เขาเดินกลับเข้าไปในลิฟท์อีกรอบก่อนจะเดินมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องทำงานของตัวเอง เสียงเคาะประตูไม่มีการตอบรับจากคนที่อยู่ข้างในทำให้เขาเปิดเข้าไปอย่างถือวิสาสะ...ก็นี่มันห้องเขาเองนี่ จะต้องไปเกรงใจใคร....


เขาวางของลงบนโต๊ะข้างโซฟาอย่างแผ่วเบาก่อนจะยืนเต็มความสูงเพื่อจ้องมองภาพของคนที่อยู่ตรงหน้า


เจ้าเด็กที่มีใบหน้าเหมือนฮายาโตะกำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่บนโซฟา ร่างเล็กบางตะแคงข้างขดตัวราวกับกำลังหนาว ใบหน้ายามหลับนั้นดูเป็นสุขจนเขาเผลอยิ้มตาม ความแสบสันยามที่ลืมตาตื่นนั้นดูจะเลือนหายไปเหลือเอาไว้เพียงความไร้เดียงสา


เขาไล่สายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้า ร่างกายบางๆสวมกางเกงขาสั้นกับรองเท้าบูทสูงถึงเข่าและเจ้าตัวดีก็ยังไม่ยอมถอดแม้แต่ตอนที่ขึ้นไปนอนบนโซฟาราคาแพงของเขา ข้างบนก็เป็นเสื้อมีฮูทสีขาวแขนสั้น...ก็นับว่าภายใต้ผ้าคลุมสีมอซอนั่นมันก็ไม่ได้สกปรกอย่างที่เขาคิด


“ อือ...”      เสียงงึมงำที่ดังลอดออกมาจากแก้มป่องทำให้เขารู้สึกตัว สะบัดหน้าสองสามทีก่อนจะตัดสินใจถอดเสื้อคลุมสีเขียวอมดำของเขาออกแล้วไปคลุมไว้บนร่างเล็กบาง ก็นะ...ถ้าจะปล่อยให้หนาวตายอยู่ที่นี่ สู้พาขี่มอเตอร์ไซค์ไปหนาวตายที่เขต 45 น่าจะดีกว่า


เขาเหลือบตาไปมองร่างที่นอนขดตัวอยู่ใต้เสื้อคลุมของเขาพรางถอนหายใจก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไป....


เขาไม่ควรจะรู้จักและไม่ควรจะจดจำเด็กคนนี้มากไปกว่านี้




ภาพของสถาบันวิจัยที่ 3 ผ่านแว่บเข้ามาในหัวให้เขารีบสะบัดไล่มันทิ้งอย่างรุนแรง




เขาไม่ควรจะรู้จักและไม่ควรจะจดจำเด็กคนนี้มากไปกว่านี้


....เพื่อตัวของเด็กนั่นเอง....










สายฝนยังคงเทลงมาไม่ได้หยุดหย่อน แต่ถ้าเป็นการเดินไปเรื่อยๆก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่เขาจะเดินกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย


หยดน้ำไหลมากองอยู่ที่พื้นหน้าห้องทันทีที่เขามายืนเตรียมยกนิ้วขึ้นสแกน เนื้อตัวเปียกโชกกลับมาแบบนี้ถ้าคนข้างในเห็นเข้าคงจะโดนบ่นเป็นหางว่าวแน่ๆ


“ กลับมาแล้วจ้า...”     ดูเหมือนมาด MP สุดโหดจะถูกกองเอาไว้ที่หน้าห้อง


“ อ๊า!!! หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ!!       นั่นไง...แม่บ้านของบ้านยามาโมโตะส่งเสียงทันทีที่เห็นสภาพของเขา


“ ตายแล้ว...นี่แกทำไมไม่รอให้ฝนมันหยุดก่อนห๊ะแล้วค่อยกลับมาน่ะ แล้วนี่เสื้อคลุมของแกที่มันกันฝนได้มันไปไหน? อย่าบอกนะว่าทำขาดอีก แล้วก็ทิ้งไปแล้วน่ะ?”      บ่นเป็นชุดอย่างที่คิดจริงๆ ร่างเพรียวบางวิ่งปรู๊ดเข้าไปในห้องนอนก่อนจะกลับมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนใหญ่  ถึงจะบ่นไปแต่สายตาที่มองมาที่เขานั้นก็เต็มไปด้วยความห่วงใย


“ ถอดกางเกงออกเดี๋ยวนี้เลย!      ในขณะที่สั่งเขาแบบนั้นมือบางก็เอื้อมมาช่วยปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้


“ ฮะฮะ...ก็ฉันอยากรีบกลับมาหานายน่ะสิ เลยเดินฝ่าสายฝนมา”       เขาถอดรองเท้าบูทออกรวกๆ ก่อนจะปลดเข็มขัดแล้วดึงกางเกงลงไป


“ ฮึ...คิดว่าเป็นพระเอกมิวสิคหรือไงฟ๊ะ อย่างแกน่ะ ไม่น่าสงสารเลยซักนิด”      มือบางเอื้อมมาพันผ้าขนหนูให้ที่รอบเอวเขา ใบหน้าสวยรับกับเส้นผมสีเงินนั้นอยู่ใกล้ไม่ถึงคืบ...ใบหน้าที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเด็กนั่น....ใบหน้าของคนที่เขารักเพียงหนึ่งเดียว


“ อ๊ะ!      เขารวบเอวบางก่อนจะกดร่างของฮายาโตะไปที่ผนังห้อง ริมฝีปากเตะลงไปที่ริมฝีปากสีระเรื่ออย่างแผ่วเบา


“ อะ...อะไร...”       นัยน์ตาของเขายังคงจ้องมองตรงไปที่คนตรงหน้าอย่างแน่วแน่ จนใบหน้าสวยแดงแจ๋ทนไม่ไหวต้องเสไปมองอย่างอื่น


“ ฉันไม่อยากเป็นพระเอกมิวสิคหรอก แต่อยากเป็นพระเอกในหัวใจของนายคนเดียว ฮายาโตะ”        เขาพูดไปพรางอมยิ้ม


“ มันก็หวานดีหรอกนะ...แต่ว่าฉันอยากจะอ้วกว่ะ...ไปๆๆ ไปอาบน้ำได้แล้วไอ้บ้ายามาโมโตะ”       มือบางผลักไสอ้อมแขนของเขาออกไป ใบหน้าสวยยังคงแดงไม่หาย เขายอมปล่อยร่างโปร่งบางแต่โดยดีก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ


“ สระผมด้วยนะ!       เสียงตะโกนดังตามมาจากข้างนอกให้เขาเผลอยิ้ม


“ จ้า...แต่ถ้าจะให้ดีนะ นายน่าจะเข้ามาสระให้ฉันน้าฮายาโตะ”         เขาหยอกล้อกลับไปแล้วก็ได้ยินเหมือนเสียงหมอนปามากระทบประตูห้องน้ำก่อนจะตกแปะอยู่ตรงนั้น


เขาลืมตามองฝ่าสายน้ำอุ่นๆที่ไหลรดลงมาที่หัว...มันอบอุ่นเหมือนกับความรู้สึกที่เขาได้รับจากคนที่มีหัวใจเป็นไมโครชิพ...มันผิดด้วยหรือที่ชั่ววูบหนึ่งเขาก็อยากจะฉุดรั้งความอบอุ่นนี้เอาไว้กับตัวเองให้นานเท่านาน....


มือยกขึ้นมาลูบหยดน้ำที่เกาะพราวทั่วใบหน้าให้หมดไป ก่อนจะปรับสีหน้าที่ดูเย็นชาให้กลับมายิ้มแย้มแล้วเดินออกไปจากห้องน้ำ


เขาเปิดตู้เย็นแล้วหยิบเบียร์ออกมากระป๋องหนึ่งทั้งๆที่ผ้าขนหนูผืนเล็กก็ยังพาดอยู่บนหัว แน่นอนว่าน้ำยังคงหยดเป็นทางให้คนที่นั่งจ้องอยู่ส่งสายตาดุๆมาให้


ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปนั่งลงระหว่างขาของคนที่นั่งอยู่บนโซฟา ก่อนจะเงยหน้ามองตาแป๋วไปที่ใบหน้าสวยซึ่งก้มลงมาประสานสายตา ถึงแม้ริมฝีปากสีระเรื่อจะบ่นขมุบขมิบแต่มือบางก็ยกขึ้นมาจับผ้าขนหนูก่อนจะขยับมันเช็ดหยดน้ำที่เส้นผมสีดำสนิทให้อย่างเบามือ


ถึงแม้ผมจะแห้งแล้วแต่เขาก็ยังคงนั่งอยู่แบบนั้น เอนศีรษะไปซุกไว้กับหน้าท้องแบนราบ มือบางลูบหัวเขาอย่างแผ่วเบา


มันอบอุ่น...


อบอุ่นเหลือเกิน....


อบอุ่นจนไม่อยากจะละทิ้งมันไป....



“ นี่ฮายาโตะ...”        เขาละใบหน้าออกมาก่อนจะเงยหน้ามองไปยังสายตาที่ก้มลงมา


“ แต่งงาน....กันไหม....”         คำพูดของเขาทำเอานัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้าง


“ อะ...เอ๋...?”       ร่างบอบบางพูดอะไรไม่ออกนอกจากคำที่แสดงถึงความมึนงง


“ ครั้งหนึ่งในชีวิตของฉัน...กับนาย....เรามา...แต่งงานกันนะ”        ตอนนี้ภาพในดวงตาของเขามันเต็มไปด้วยนัยน์ตาสีมรกตที่กำลังสั่นพร่า



MR นั้นร้องไห้ไม่ได้



แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่า ฮายาโตะกำลังหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจ...



ถ้าเพื่อให้นายมีความสุขก่อนที่จะจากไปแล้ว....อะไรฉันก็จะทำ





เขาเคยคิดเอาไว้แบบนั้น...





จนกระทั่ง...






“ นี่! ถ้าเสื้อคลุมมันขาดไม่เยอะแกก็เอากลับมานะ เดี๋ยวฉันเย็บให้”      ฮายาโตะออกมายืนส่งเขาไปทำงานตอนเช้าเหมือนทุกๆวัน


“ จ้า...”      เขาก้มลงไปจูบแก้มใสเบาๆก่อนจะวิ่งหนีเสียงด่าที่ไล่หลังมา


เมื่อก้าวพ้นประตูบ้าน ใบหน้าของ MP ก็กลับคืนมาอีกครั้ง...เขานึกถึงร่างเล็กบางที่ป่านนี้คงรอเขาอยู่ที่ห้องทำงาน...




....เราไม่น่ามาพบกันเลยจริงๆ....











มือใหญ่เคาะประตูสองสามทีแล้วเปิดเข้าไปเลยโดยไม่ฟังคำอนุญาติจากคนที่อยู่ข้างใน ใบหน้าเนียนใสหันควับกลับมาจากบานหน้าต่าง แล้วจากที่ดูเหมือนจะตื่นตาตื่นใจกับโลกภายนอกอยู่มันก็บูดลงทันทีที่เห็นหน้าเขา


" ล้างหน้าล้างตาแบบนี้ค่อยหายมอมแมมขึ้นมาหน่อย"        เขาเอ่ยทัก...ไม่ได้อยากจะยิ้มให้แต่พอเห็นใบหน้าของเจ้าเด็กที่ยืนฟึดฟัดอยู่ตรงหน้าแล้วมันก็อดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มออกมา นัยน์ตาสีมรกตแข็งกร้าวยังคงมองเขาอย่างหาเรื่องและไม่ไว้ใจ


" ฮึ...คนเค้าพรางตัวหรอกถึงต้องทำให้หน้ามันเลอะๆแบบนั้น แค่นี้ก็ไม่เข้าใจ!"        แล้วปากอวดดีนั่นก็ทักทายเขาแบบนั้นแทนคำว่าอรุณสวัสดิ์...


" ไปกันได้แล้วมั้ง"       เขาก้มลงไปมองนาฬิกาข้อมือ วันนี้เขาไม่ต้องเข้าไปรับภารกิจใหม่เพราะภารกิจเดิมก็ยังไม่สำเร็จ และวันนี้ข้อมูลทุกอย่างที่เคยอยู่ใน LCD ที่แตกไปก็ถูกย้ายมาอยู่ในนาฬิกาข้อมือประจำตัวแทน


เขาหันไปมองเสื้อคลุมสีเขียวอมดำของเขาที่ถูกพับเอาไว้อย่างเรียบร้อยบนโซฟา...ถึงจะเป็นการกระทำเล็กๆน้อยๆ แต่สำหรับคนที่มาจากเขตที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดอย่างเขตที่ 45 เรื่องแบบนี้ถือว่าไม่ธรรมดา...เด็กคนนี้ต้องเคยถูกอบรมมารยาท นิสัยและระเบียบวินัยมาอย่างดีแน่ๆ....แล้วทำไมถึงไปอยู่ในที่แบบนั้นได้?


เขาหยิบเสื้อที่ถูกพับเอาไว้โยนไปคลุมหัวสีเงิน


" ใส่ซะสิ ถ้าต้องซ้อนท้ายฉันไปโดยไม่เอาอะไรคลุมกว่าจะไปถึงนายคงกินได้พอดี"      มีเสียงจิ๊ปากดังมาจากใบหน้ามุ่ย แต่เจ้าเด็กดื้อก็ยอมใส่เสื้อคลุมของเขาเข้าไปแต่โดยดี ขนาดตัวที่ต่างกันหลายคืบ ทำให้เสื้อที่ปกติแล้วเขาใส่ได้พอดีตัวความยาวก็ยังไม่ถึงหัวเข่าดี แต่เจ้าเด็กนั่นใส่แล้วแทบจะลากพื้น


" ฮะฮะ"      เผลอหัวเราะให้กับภาพที่เห็น


" เป็นก็อตซิล่าหรือไงแกน่ะ ชิ"     




เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ก้องกังวานไปทั่วท้องทุ่งของเศษซากความศิวิไลซ์ ท่ามกลางท่อนเหล็กใช้การไม่ได้ที่สะท้อนแสงอาทิตย์เป็นประกายสวยงามแทนท้องทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา มือบางกอดกระชับเอวของเขาเอาไว้เช่นเดียวกับใบหน้าใสที่แนบอยู่ที่แผ่นหลัง จังหวะการเต้นของหัวใจที่อยู่ไม่ไกลกันทำให้เขารู้ว่าคนข้างหลังนั้นมีตัวตนจริงๆ


ภาพของตึกคอนกรีตสีมอซึ่งตั้งโดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางกองเศษเหล็กกำลังค่อยๆปรากฏเข้ามาในสายตา


มือใหญ่เผลอบิดคันเร่งให้เร็วยิ่งขึ้นโดยไม่รู้ตัว...อยากวิ่งผ่านมันไปให้เร็วที่สุด....สถาบันวิจัยที่ 3.....




วันนี้เขาไม่ได้จอดมอเตอร์ไซค์เอาไว้ที่ลานน้ำพุเก่าผุ แต่กลับขับมันตรงไปยังโซนตะวันตกของเขตที่ 45 ท่ามกลางสายตาแห้งผากของหลายต่อหลายคนที่มองมาจากสองข้างทางที่เขาขับผ่าน คนพวกนี้ไม่เคยเป็นมิตร ที่ไม่เข้ามาทำอะไรเขาเพราะหวาดกลัวกำลังที่เหนือกว่า...แต่สำหรับเด็กตัวเล็กบางอย่างเจ้าคนที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหลังเขา...มันน่าสงสัยจริงๆว่าเจ้าตัวใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้อย่างไรจนโตมาจนอายุสิบสี่สิบห้าแบบนี้


“ บ้านนายอยู่ไหนล่ะ? จะไปส่ง”        เขาจอดรถลงที่หน้าเขตสลัม และเจ้าตัวดีก็ปีนลงไปยืนอยู่ข้างล่างเป็นที่เรียบร้อย


“ ฮึ!...บ้านน่ะไม่มีหรอก...ถ้าเป็นที่ซุกหัวนอนละก็คงพอจะเรียกได้”      เจ้าเด็กอวดดียืนกอดอกพูดราวกับว่าเรื่องแบบนั้นมันคือเรื่องที่ไม่มีอะไรให้ต้องน่าใส่ใจ...แต่เขาว่า...กว่าการที่ใครสักคนจะพูดถึงเรื่องแบบนี้โดยไม่สะทกสะท้านได้ มันคงต้องผ่านอะไรๆมาพอสมควรเลยละ


เขาคงทนไม่ได้แน่ๆถ้าฮายาโตะของเขาจะต้องมาอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้...ขนาดกับเจ้าเด็กที่มีแค่หน้าตาที่เหมือนกัน ชั่ววูบความคิดหนึ่งเขายังอยากจะพาออกไปจากที่นี่ให้รู้แล้วรู้รอด 


ร่างสูงใหญ่ก้าวขาเดินตามร่างเล็กบางไปตามทางเดินแคบๆ ไม่นานก็มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าเพิงไม้ง่ายๆหลังหนึ่ง...ข้างฝาของมันกรุด้วยแผ่นป้ายโฆษณาเก่าๆมีรูขนาดที่หนูตัวเล็กๆคงวิ่งเข้าไปได้ ทางเข้าก็มีเพียงฝาไม้พิงปิดเอาไว้แค่นั้น


“ ถึงแล้ว! จะเข้าไปดื่มชาก่อนไหมล่ะคุณผู้พัน”        น้ำเสียงประชดประชันดังมาจากใบหน้าที่เชิดขึ้น...เป็นเด็กที่เข้มแข็งกว่าที่เขาคิดเพราะในแววตาสีมรกตคู่นั้นมันไม่มีแววเศร้าสร้อยน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองเลย ถึงจะจมอยู่ในโคลนตมแต่อัญมณีสีมรกตก็ยังคงสดใสแวววาว



....แล้วจะให้เขาทำลายชีวิตของคนที่ยังไม่คิดจะตายแบบนี้ได้ยังไง.....



“ ถ้างั้นก็ไม่เกรงใจละนะ”       ปรับสีหน้าพยายามไม่ให้แสดงอะไรออกไปก่อนจะหันมาเย้าแหย่คนตรงหน้า


“ ฉันประชดเฟ้ยไอ้บ้า! กลับบ้านแกไปเลยป่ะ”      ใบหน้าหงิกสะบัดก่อนที่จะหันตัวเตรียมจะเดินไปเปิดฝาที่พิงปิดทางเข้าบ้านเอาไว้  แต่แล้วเสียงเตือนเบาๆก็ดังขึ้นที่นาฬิกาของเขา


“ เฮ้!       เขาเอื้อมมือออกไปคว้าไหล่เล็กเอาไว้ ก่อนที่สัญชาติญาณจะบอกว่าให้กระชากร่างของคนที่ยังมึนงงให้ก้มหลบลง



โครม!!!



ฝาไม้ที่ใช้แทนประตูถูกแรงกระแทกจากภายในจนกระเด็นหลุดออกมาเฉียดหน้าพวกเขาสองคนไปแค่ไม่กี่เซ็นต์ เขาคว้าลำตัวเล็กๆให้ไปยืนหลบอยู่ข้างหลัง เสียงเตือนจากนาฬิกายิ่งดังขึ้นเรื่อยๆๆ บ่งบอกว่าไอ้ตัวที่กำลังเดินออกมาจากบ้านของเด็กนั่นคือ MR ที่เขากำลังตามล่าตัวอยู่


“ เฮ้ยนั่นมัน....”       เสียงตกใจดังขึ้นมาจากข้างหลังเขา นัยน์ตาสีเปลือกไม้มองไล่ตามสายตาที่เด็กนั่นมองไป ในที่สุดมันก็ไปหยุดอยู่ตรงข้อมือของ MR ตรงหน้า....นาฬิกาข้อมือซึ่งเป็นของประจำตัวของผู้คนในยุคสมัยนี้ เพราะมันจะมีรหัสผ่านสถานที่ต่างๆ มีเครื่องมือสื่อสารและรับข้อมูลจากทางหน่วยงาน และมีแม้กระทั่ง ID ประจำตัว


“ ของนายหรอ?”       เขาเอ่ยถามทั้งๆที่สายตายังคงจ้อง MR ตรงหน้าตาไม่กระพริบ


“ เออเซ่ะ! มันเข้าไปเอาได้ไงฟ๊ะ อุตส่าห์ซ่อนไว้อย่างดี”        มิน่าล่ะ...ไม่ใช่ว่าเจ้าเด็กนี่จะไม่มี ID  ไม่ใช่ว่าเป็นคนนอกกฎหมาย เพียงแต่ว่าเอาเครื่องหมายที่จะบ่งบอกว่าตัวเองเป็นใครไปซ่อนเอาไว้....เขานึกพรางลอบถอนหายใจ เมื่อวานนี้เขาอุตส่าห์ซักประวัติแทบตายแต่ก็ไม่ได้อะไรมาแม้แต่ชื่อของเด็กนี่......มันน่านัก


“ อยู่เฉยๆล่ะ”       เขากระซิบบอกคนข้างหลัง ก่อนจะอาศัยช่วงทีเผลอขยับตัวด้วยความรวดเร็วเข้าไปประชิดตัวของเจ้า MR นั่น


ถึงแม้จะบอกว่ามันคลุ้มคลั่ง แต่ก็ใช่ว่ามันจะเสียสติจนเข้าทำร้ายใครต่อใครไปทั่ว...ที่มันหนี...ก็เพราะสัญชาติญาณที่คงจะได้รับมาจากความทรงจำว่าอยากจะมีชีวิตรอด...ไม่อยากถูกกำจัด...เพราะงั้นเจ้า MR ตัวนี้จึงพยายามมาขโมย ID ของเด็กนี่อย่างนั้นสินะ


เขากวาดขาเตะให้มันล้มลง และในขณะที่มันเด้งตัวลุกขึ้นมาอีกครั้ง ประกายแวววับของคมมีดในมือก็แว่บเข้ามาในตาของเขา เขาก้มหลบคมมีดที่วาดมาเหนือหัวก่อนจะใช้ข้อมือที่แข็งแรงกว่าสับเข้าไปที่ข้อมือที่ถือมีดจนมันกระเด็นหลุดมือไป


MR นั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ติดอาวุธไว้ในร่างกาย เพราะงั้นถึงมันจะคลุ้มคลั่งแค่ไหนมันก็จะต่อสู้ได้ด้วยแค่มือกับเท้าเหมือนๆคนเรานี่แหละ


เรียวขาที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาหมายจะเตะเข้าที่ก้านคอของเขา แต่ท่อนแขนก็ยกขึ้นกันเอาไว้ได้ไม่ยาก ก่อนจะจัดการตลบพลิกตัวไปข้างหลัง แล้วรวบมือทั้งคู่เข้าหากันให้มันไพล่หลังเอาไว้


สับสันมือลงไปที่ท้ายทอยในตำแหน่งของสวิตซ์....


เสียงวูบของเครื่องยนต์และแผงวงจรต่างๆดังขึ้นเพียงไม่นาน นัยน์ตาที่ไม่อยากลาจากโลกนี้ไปเหลือบขึ้นมามองเขาก่อนที่มันจะค่อยๆเลือนหายไป...


แล้วอีกหนึ่งชีวิตก็ปิดฉากลง....





เขาจับร่างที่แน่นิ่งเอาไปพิงไว้กับกำแพง รอให้หน่วยเก็บกวาดมาจัดการเคลื่อนย้ายไปอีกที


เขาทำแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน เพราะงั้นจึงไม่รู้สึกอะไร แต่กับคนที่ยืนอยู่ข้างหลังแล้วมันไม่ใช่...นัยน์ตาสีมรกตดูจะตกใจอยู่ไม่ใช่น้อย....เขาหันกลับมายิ้มเยาะให้กับตัวเอง...แต่จะให้ทำยังไงได้ ในเมื่อนี่มันคือหน้าที่ของเขา


มือใหญ่เอื้อมออกไปปลดนาฬิกาที่ข้อมือของ MR ตัวนั้นก่อนจะหันไปปั้นหน้าเหยียดยิ้มให้กับร่างเล็กบาง


“ ต้องขอบใจฉันนะเนี่ย...”        นาฬิกาข้อมือถูกชูแกว่งไปมา ให้เจ้าของมันสะดุ้งเฮือก


“ เอาคืนมานะโว้ย!!!      ร่างบางหายจากความตกใจในเรื่องของ MR ก่อนจะหันมากระโดดคว้านาฬิกาอันนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย


“ ไหนๆ...ให้ฉันดูหน่อยซิ ว่าชื่อของนายคืออะไร”       เขาหยอกล้อให้เจ้าเด็กนั่นยิ่งขู่ฟ่อเข้าไปใหญ่ ร่างเล็กบางกระโดดยังไงก็ไม่อาจแย่งนาฬิกานั่นไปจากเขาได้ด้วยส่วนสูงที่ต่างกัน มือบางจึงคิดที่จะประทุษร้ายเขาแทนแต่มันก็ไม่อาจทำได้ในเมื่อเขารวบมันเอาไว้เรียบร้อย


“ ใครอนุญาตให้แกเปิดดูฟ๊ะ ไอ้คนไร้มารยาท!       ใบหน้าบูดแทบจะแยกเขี้ยวใส่ แต่เขาก็ยังยิ้มร่ากวนประสาทกลับไปให้  ความจริงก็ไม่ได้ตั้งใจจะเปิดดูหรอก แต่ในเมื่อเจ้าเด็กนี่มันน่าแกล้งซะขนาดนั้น มือข้างที่เหลือจากการจับกุมอีกฝ่ายจึงยกนาฬิกาขึ้นมากดช้าๆ


“ กรุณาใส่พาสเวิร์ด”        เสียงดิจิตอลดังขึ้นทันทีที่กดเปิด....น่าน...ล็อคเอาไว้ด้วย ท่าทางจะฉลาดไม่เบา....แต่กับไอ้เรื่องแบบนี้ก็ไม่ใช่งานยากสำหรับ MP อย่างเขา


“ ฮึ...มีปัญญาเปิดได้เร๊อะ”       เขายิ้มให้เจ้าคนที่กำลังเยาะเย้ยเขา ก่อนจะใส่รหัสกลางของเขาลงไป....และมันก็ใช้เปิดนาฬิกาของทุกคนในโตเกียวได้สบายๆ


“ กรุณาเลือกหมวดการรับรู้”         เสียงยังดังขึ้นต่อเนื่องตามปกติ เขาหันไปมองใบหน้าสวยที่กำลังอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อว่าเขาจะเปิดมันได้ง่ายๆขนาดนี้ ใบหน้าของเจ้าเด็กนี่ทำให้เขาอยากจะหัวเราะออกมาให้รู้แล้วรู้รอด เขาหันไปสั่งกับนาฬิกาเพราะถ้ายิ่งได้รู้ชื่อที่เจ้าเด็กนี่พยายามจะปิดบัง เขาคงถือว่าได้รับชัยชนะ


“ เปิด ID        เขาอมยิ้มให้ใบหน้าที่เริ่มจะกลับมาหงิกตามเดิม....ก็แค่อยากจะแกล้งเล่นก่อนที่จะไม่ได้พบกันอีกก็เท่านั้น



เขาตั้งใจแล้วว่า....ถึงแม้ตัวเองจะต้องร้องไห้จากการที่จะต้องพลัดพรากจากคนที่รัก.....เขาก็จะไม่ทำลายชีวิตของเด็กคนนี้




จนกระทั่ง...




“ เปิด ID เรียบร้อย...”      เสียงดิจิตอลดังขึ้นมาให้เขาก้มหน้าลงไปดู....




ข้อความที่ฉายขึ้นมาเหนือหน้าจอนั้นทำให้นัยน์ตาของเขาเบิกกว้าง...





ทุกอย่างในหัวสมองดูราวกับถูกหยุดเวลาเอาไว้...






นี่มันอะไรกัน.....






ไม่ใช่....มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆที่เด็กนี่จะมีใบหน้าที่เหมือนกับฮายาโตะของเขา....







เพราะชื่อเจ้าของ ID ที่ฉายขึ้นมานั้นมันคือคำว่า....











GOKUDERA……....HAYATO….







.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be Con.







เอาแล้วไง...นอกจากหน้าจะเหมือนกัน ชื่อยังเหมือนกันอีกต่างหาก...ก๊กเล็กกับก๊กใหญ่จะมีความเกี่ยงข้องกันหรือไม่? แล้วยามะจะทำเช่นไรต่อไป?


คุฟุฟุ... =3=....(โดนโบก!)


^ ^" จากสองตอนที่ผ่านมามีคนถามว่า ตกลงก๊กคนไหนคือคนโตคนเล็กกันแน่...ขะ ขออภัยที่สร้างความสับสนนะคะ สรุปคือ ฮายาโตะที่เป็น MR ที่อยู่(กิน)กับยามะคือ ก๊ก24ค่ะ   ส่วนฮายาโตะที่เป็นมนุษย์ที่อยู่ที่เขต 45 คือ ก๊ก14 ....ส่วนก๊กที่อยู่กับหม่ามี๊คือ ก๊ก8 (ผลั๊วะ!! นอกเรื่อง!)

แล้วก็....ขออนุญาติ เอาตัว S. ออกจากเฮดฟิคนะคะ เพราะว่าจากโครงเรื่องแล้วน่าจะสิบ(กว่า)ตอนจบ ฮ่าๆๆ (ยังมีหน้ามาหัวเราะ...= =) ขะ ขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านด้วยนะคะ >/////<  ดีใจมากๆสำหรับทุกเสียงเย้วๆ(?)ที่ส่งมาทางหลังไมค์และหน้าไมค์ทุกคนเลยค่ะ แหะแหะ ปั่นหูดับตับไหม้ก็เพราะแบบนี้แหละ *พราก*

ว่าแต่ตอนหน้า....คะ คงทันวาเลนไทน์เนอะ...ทันสินะ....ทันสิ.....อ๊ากกกกกกกกก ใครอย่าเพิ่งเอาอะไรมาล่อลวงตรูเชียว จะลงหลุมไปจำศีล(?)แต่งเรื่องนี้ให้จบให้จงได้!! (นานๆทีจะมุ่งมั่นแบบนี้ซักที55 ดีใจด้วยนะคะคุณอ้อม กร๊ากกก) เอ๊ะ...แต่ถ้าจะเอารีโบะคอน 5 มาล่อลวงอาจจะปั่นแบบติดเทอร์โบเลยก็เป็นได้...ใครได้มาแล้วส่งมาม่างงงงง อยากดูใจจะขาดแล้วเว้ยค่าาาาาาา 


วันนี้เป็นการเวิ่นที่ไร้สาระมากทีเดียว 555 เอาเป็นว่า... Another มันหลอนสลัดเลยพ่อแม่พี่น้องงงงง(?)......แล้วเจอกันตอนหน้าค่าาาาา



3 ความคิดเห็น:

  1. ก๊กไหน ก็จะงงไปกับไรเตอร์แล้วค่ะ
    แต่ชอบมากเลย ถึงตอนนี้ก็เป็นกำลังใจช่วยค่ะ

    ตอบลบ
  2. คนสร้างโกคุเป็นพ่อเด็กนี่รึเปล่าเนี่ย

    -0-

    อ้ากกกก

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ4 สิงหาคม 2566 เวลา 08:15

    ขอร้องไห้รอเลยได้ไหมคะ

    ตอบลบ