Gintama S.Fic [Takasugi x Katsura] -- หัวใจสีเลือด --


น่าจะซาดิสสุดเท่าที่เคยเขียนมาแล้วมั้งนี่ เพราะงั้นเด็กดีทั้งหลาย อย่าอ่านเลยนะจ๊ะ ^ ^


Gintama S.Fic [Takasugi x Katsura]     --- หัวใจสีเลือด ---

: Gintama Fanfiction
: Takasugi x Katsura
: Romance Angst
: NC-17 ++




คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ











....คนคนนั้นสอนทุกสิ่งทุกอย่างให้...แม้แต่การมีชีวิตอยู่.....

....แต่คนคนนั้นกลับลืมสอนไปว่า  หากตนเองไม่มีชีวิตอยู่แล้ว....

....จะให้เขาอยู่ต่อไปได้อย่างไร....

....เพราะเช่นนั้น....เขาจึงได้เลือก....ที่จะทำลายทุกอย่าง....

....ทำลายโลกใบนี้ที่มันพรากท่านไปจากข้า....

....อาจารย์โชโย....












สีแห่งชีวิตแดงฉานฉาบไล้ไปทั่วทั้งเอโดะ



ท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดครึ้มไปด้วยควันไฟและสายฝนที่โปรยปรายลงมาราวกับว่าจะไว้อาลัยนั้นเต็มไปด้วยเงาดำทะมึนของเรือรบที่ลอยอยู่เหนือหัวของทุกคนราวกับกำลังประกาศชัยชนะ....เรือของสลัดอากาศฮารุซาเมะ



ซากปรักหักพังของสิ่งที่เคยเรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงกำลังทลายลงมาจนไม่เหลือเค้าเดิม ทุกอย่างพังพินาศไม่เหลืออะไรแม้แต่อย่างเดียว...คงถึงเวลาจบสิ้นของโลกใบนี้ดั่งที่ใจของใครบางคนต้องการเสียที



แต่ก็ยังคงมีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งยังยืนหยัดต่อสู้ แม้จะไอออกมาเป็นเลือด แม้จะพยุงตัวยืนก็ยังแทบจะไม่ไหว แต่พวกเขาก็ยังคงไม่ถอยหนี....มือที่สั่นระริกยังคงกำดาบเอาไว้มั่น...ถึงแม้อาวุธสุดท้ายที่เหลืออยู่จะมีเพียงแค่ดาบเล่มเดียวแต่พวกเขาก็ยังคงไม่ไปไหน......กลุ่มผู้สละชีพขับไล่ต่างแดน



สายตาชอบใจมองลงมาจากดาดฟ้าเรือลำหนึ่ง ใบหน้าคมยิ้มหยันน้อยๆก่อนจะปล่อยควันยาสูบให้ลอยออกไปในท้องฟ้า นัยน์ตาที่เหลือเพียงข้างเดียวหันกลับมาจับจ้องร่างเพรียวโปร่งบางที่ยืนหยัดอยู่เหนือทุกคนในกองกำลังที่อ่อนล้านั้นไม่วางตา



“ จะให้ยิงปืนใหญ่ถล่มพวกมันให้ราบในทีเดียวเลยไหมครับ”      ลูกน้องคนสนิทผู้ได้ชื่อว่าเป็นจอมวางแผนของกองทหารอสุราหรืออีกชื่อหนึ่งว่ากลุ่มคิเฮไท เดินเข้ามาถามผู้เป็นนายของตน ใบหน้าเรียบเฉยเพียงแต่ยกยิ้มที่มุมปาก



“ ก็แค่หนูที่ต่อสู้เพื่อปกป้องกองขยะของตัวเองน่ะ...หนูตัวแค่นั้น ฉันจะลงไปจัดการเอง”       ร่างแข็งแกร่งของผู้นำกลุ่มคิเฮไทเดินทอดน่องสบายๆไปยังทางลงจากเรือ ลูกน้องคนสนิทเพียงแต่มองตามไปโดยไม่คิดที่จะเข้าไปช่วย พวกเขารู้ดีว่า ทากาสุงิ ชินสุเกะคนนั้นสามารถจัดการกับกองกำลังที่อ่อนแอได้ด้วยตัวคนเดียว....แต่ที่เหนือกว่านั้น เป็นเพราะในกองกำลังสุดท้ายที่เหลืออยู่ในโลกมีคนที่พวกเขาไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวอย่าง คาซึระ โคทาโร่ อยู่ด้วย



คนที่ต่างก็รู้กันดีภายในกองทหารอสุราว่า.....จะต้องตายด้วยมือของ ทากาสุงิ ชินสุเกะเท่านั้น












ร่างโปร่งบางยืนหอบหายใจอยู่ท่ามกลางฝุ่นควันและกองเพลิง สิ่งที่มองเห็นทำให้แทบหมดกำลังใจที่จะต่อสู้ ใบหน้าสวยสง่าเงยมองไปบนท้องฟ้าที่ถูกบดบังด้วยเรือรบขนาดใหญ่มากมาย ไม่ว่าจะอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีทางที่จะชนะได้เลย ใบหน้าสวยหันไปมาจนเส้นผมสีดำยาวสลวยเป็นมันสะบัดคลอเคลียไปกับแก้มใสที่เลอะฝุ่นผง......แม้แต่หนทางที่จะหนี ยังแทบไม่มี......



อ๊ากกกก      เสียงร้องโหยหวนของลูกน้องที่เหลืออยู่ดังขึ้นจนคนทั้งหมดหันไปมอง แต่ยังไม่ทันที่จะได้กระพริบตา ประกายดาบคมกล้าก็ถูกตวัดให้เข้าสู่สายตาอย่างรวดเร็ว



ท่วงท่าดั่งเพชฌฆาตที่ไร้ความปราณี  กำลังเคลื่อนไหวราวกับสายลมอยู่ในกองเพลิง มีเพียงสายตาเท่านั้นที่ทันมองเห็นกิโมโนสีม่วงฉูดฉาด ส่วนร่างกายนั้นราวกับจะถูกจิตสังหารบีบรัดให้ไม่อาจขยับไปไหนได้....เพียงไม่นานกลุ่มคนที่เหลืออยู่น้อยนิดก็สิ้นลมหายใจไปเกือบทั้งหมด



ไง....คาซึระ....



เพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตรอด....ร่างโปร่งบางยืนเกร็งตัวอย่างตกตะลึง ทั้งๆที่กำลังคิดจะถอยหนีเพื่อปกป้องชีวิตของลูกน้องที่เหลืออยู่เอาไว้ แต่กลับไม่ทันเสียแล้ว ใบหน้าสวยกัดฟันกรอดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าคมที่คุ้นเคย



คนคนนี้ทำลายทุกอย่าง ฆ่าทุกคนไม่มีเหลือ....ความเคียดแค้นทำให้ดาบในมือถูกยกขึ้นแล้วร่างทั้งร่างก็พุ่งตรงเข้าไปเล่นงานอีกฝ่ายที่ขยับหนีด้วยท่าทางสนุกสนาน



อะไรกันซึระ....แรงไม่มีเหลือแล้วรึไง ดาบของแกมันถึงได้เบาเหมือนนุ่นแบบนี้น่ะ      ใบหน้าคมส่งยิ้มร้ายมาให้ ถ้อยคำที่เน้นย้ำถึงความเป็นจริง ถึงแม้จะไม่บอกออกมาคาซึระเองก็รู้ตัวดีว่าไม่อาจยืนหยัดต่อสู้ได้อีกต่อไปแล้ว แต่ที่ร่างกายยังคงขยับฟาดฟันอีกฝ่ายนั้นมีเพียงแรงแค้นที่ขับเคลื่อนอยู่เพียงเท่านั้น



แก....ทากาสุงิ       เสียงรอดไรฟันออกมานั้นเต็มไปด้วยความชิงชัง ทั้งๆที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เคยเป็นพวกพ้องที่ร่วมยืนหยัดต่อสู้ด้วยกันมา....แล้วทำไม.......ทำไม.......



ทำไมแกถึงต้องทำอย่างนี้ ทากาสุงิ!!”      ร่างโปร่งบางตะโกนออกไปอย่างเหลืออด ทุกความรู้สึกที่ถูกสั่งสมอยู่ในจิตใจมานานกำลังระเบิดออกไปเมื่อได้เห็นหน้าคนที่เป็นสาเหตุ    ทำไมต้องทำลายสถานที่ที่ทุกคนต่างช่วยกันปกป้องเอาไว้ ทำไมต้องฆ่าฟันไม่ให้ใครมีชีวิตอยู่ ทำไม ทำไม!!!”      ทั้งความเหนื่อยล้าและความสิ้นหวังทำให้คนที่เคยได้ชื่อว่าสุขุมเยือกเย็นนั้นแทบจะคลุ้มคลั่งเสียสติ  



ทากาสุงิมองภาพตรงหน้าอย่างถูกใจ ร่างแข็งแกร่งขยับเข้าไปใกล้ก่อนที่จะกระซิบแผ่วเบาที่ใบหู
                     


แกอยากรู้เหตุผลจริงๆน่ะหรอ....ซึระ        ก่อนที่จะขยับกายหนีคมดาบที่ตวัดมาอย่างรวดเร็ว ผู้นำกลุ่มคิเฮไทยืนยิ้มหยันอยู่ไม่ไกลก่อนจะขยับดาบชี้ไปยังร่างโปร่งบางที่แทบจะทรงตัวไม่อยู่



ถ้างั้นก็มาทำให้มันจบไปเสียทีเถอะ ซึระ        เขาจงใจยิ้มอ่อนโยนให้กับคนตรงหน้า แว่บหนึ่งที่เห็นว่านัยน์ตาสีดำของคาซึระนั้นสั่นไหว....คงจะกำลังนึกถึงความหลังโง่ๆพวกนั้นอีกแล้วสินะ



แต่ฉันน่ะ....ไม่เหมือนแกหรอกคาซึระ



ร่างโปร่งบางยกดาบขึ้นตรงหน้าก่อนจะมองมาด้วยสายตามุ่งมั่น เท้าทั้งสองข้างค่อยๆขยับเข้ามาก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นรวดเร็วจนจับทางแทบจะไม่ได้ ร่างกายหมุนตวัดไปเฉกเช่นเดียวกับคมดาบ โดยที่ทากาสุงิยังคงยืนอยู่นิ่งดังเดิม



ประกายของคมดาบส่องแสงวาบอยู่ที่ด้านข้าง ให้ใบหน้าคมเพียงแค่หันไปมอง แต่แล้ว....



ปลายดาบที่มันควรจะมาถึงตัวเขากลับหยุดนิ่งลงดื้อๆ และนั่นมันทำให้เขาเผลอยิ้มเย้ยหยันออกไป....ซึระ....เพราะคำว่าเพื่อน คำว่าพวกพ้องมันทำให้แกใจอ่อนไม่กล้าลงดาบในวินาทีสุดท้าย....แต่สำหรับฉัน คำคำนั้นมันไม่มีความหมายเลย....ไอ้คำว่าพวกพ้องที่ทำให้แกต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และจบชีวิตลงอย่างน่าสมเพชแบบนี้น่ะ



ฉึก!!!



คมดาบเสียบทะลุกลางลำตัวโปร่งบางก่อนที่มันจะถูกชักออกมาให้เลือดสีแดงฉานพุ่งกระฉูดทาทั่วพื้นดิน



ใบหน้าสวยเงยหน้ามองอย่างอ่อนล้า ก่อนจะค่อยๆเซถลาหงายหลังล้มลงไป



แต่มันเป็นเพราะรอยยิ้มเลื่อนลอยนั่นหรืออย่างไรจึงทำให้มือคู่ที่เคยลงดาบไปไม่นานกลับตรงเข้ามารับร่างโปร่งเอาไว้ไม่ให้ล้มลงกระแทกพื้น



ทั้งๆที่แกบอกฉันมาตลอดว่า แกเกลียดฉัน...แล้วทำไมถึงยังเห็นว่าฉันเป็นเพื่อนพ้องอีก....ทั้งๆที่ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นกับแกเลยซึระ....



ใบหน้าที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กนั้นแน่นิ่งอยู่ภายในอ้อมแขน ความเหนียวเหนอะที่ซึมเนื้อผ้าออกมากำลังบ่งบอกว่าอีกไม่นานคนคนนี้กำลังจะตาย สายตาเย็นชาที่แลมองลงไปเหลือบขึ้นมองไปรอบๆกาย...บัดนี้ไม่มีสิ่งใดเหลือให้แกปกป้องอีกแล้วซึระ....ดูสิ...ทุกอย่างมอดไหม้พังทลายและกำลังจะหายไปเหมือนลมหายใจของแกนั่นแหละ



แขนแข็งแรงยกตัวคนหมดสติขึ้นพาดบ่า เส้นผมยาวปลิวระไปกับแผ่นหลังกว้าง ถึงแม้จะอยู่ในความโสมมของคาวเลือด....แต่กลิ่นเส้นผมของแกมันก็ยังคงหอมฟุ้งอยู่เหมือนเดิมเลยนะซึระ....เพราะกลิ่นแบบนี้ ฉันถึงได้รู้ไง ว่าแกอยู่ที่ไหน











“ นี่ขนาดเพื่อนเก่าแก่มาตั้งแต่เด็กแบบนั้นก็ลงมือได้ไม่รู้สึกรู้สาเลยนะ....ผู้นำของเรา”      จอมวางแผนผู้เป็นดั่งหัวสมองของกองทหารอสุราเอ่ยออกมาลอยๆ สายตายังคงจับจ้องไปยัง ร่างที่ห่อหุ้มไปด้วยความมืดของผู้ซึ่งเป็นผู้นำของตนที่กำลังเก็บดาบเข้าฝักและเดินกลับมายังเรือรบ



“ คนคนนั้นน่ะไม่เคยมีอะไรอยู่ในสายตาหรอก....นอกเสียจาก...”        หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวมองภาพที่ชวนให้รู้สึกเศร้าใจด้วยใบหน้านิ่งเฉยต่างจากความดุดันในแบบปกติของเธอ 



“ อาจารย์....คนที่ทำให้เขากลายเป็นแบบนี่สินะครับ”      ความน่าประหวั่นพรั่นพรึงของ ทากาสุงิ ชินสุเกะ นั้นไม่ใช่เพียงที่ฝีมือ...แต่กลับเป็นที่...ความไร้หัวใจต่างหาก







“ จะเอากลับมาทำอะไรหรือครับ ซากศพแบบนั้น”        จอมวางแผนเอ่ยทักเมื่อคนที่เฝ้ามองอยู่ตั้งแต่เมื่อครู่กลับขึ้นมาถึงบนดาดฟ้าเรือ บนไหล่แข็งแรงนั้นมีร่างที่ไร้สติของ คาซึระ โคทาโร่ พาดอยู่



“ จะทิ้งไปก็น่าเสียดายน่ะ หึ...”     รอยยิ้มน่าสยดสยองเผยออกมาตามปกติ ขายาวก้าวเดินเข้าไปในตัวเรืออย่างไม่รีบร้อน ได้แต่ปล่อยให้สองคนยืนมองด้วยใบหน้าที่ไม่รู้จะแสดงออกมาอย่างไรดี....เลือดที่หยดไปตามทางนั้นมากมายพอดู แต่กระนั้นใบหน้าสวยของคนที่ถูกทำร้ายกลับนิ่งสนิทไร้แววของความทุกข์ทรมาน....หากมิใช่ตายไปแล้ว...ก็คงมีอยู่ทางเดียว...ถูกทำให้หลับไป....และซามูไรที่มีฝีมือพอที่จะทำอย่างนั้นได้ ณ ที่นี้ก็มีเพียงท่านคนเดียวเท่านั้น...ท่านชินสุเกะ



เสียงประตูห้องด้านในสุดปิดลงเพื่อบ่งบอกว่า    ห้ามใครเข้าไปยุ่งโดยเด็ดขาด












ห้องที่เคยมืดสนิทค่อยๆสว่างขึ้นเล็กน้อยจากแสงเทียนที่ถูกจุดขึ้นที่มุมห้อง แสงสลัวสาดกระทบร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่บนฟูกกลางห้องให้คนที่หันไปมองเผยรอยยิ้มร้ายออกมา ริมฝีปากที่ยกยิ้มเป่าก้านไม้ขีดให้ดับลง แล้วเดินตรงไปยังคนที่ไม่ได้สติ



ลมหายใจที่เคยเข้าออกอย่างสม่ำเสมอสะดุดลงเมื่อความเจ็บแปลบแล่นลิ่วมาจากปากแผลที่หน้าท้อง นัยน์ตาสีดำจำต้องเปิดขึ้นพร้อมคิ้วที่ขมวดแน่น สิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาคือมือใหญ่ของใครบางคนกำลังกดปากแผลของตนจนเลือดไหลทะลัก



อึก....       และแทบไม่ต้องเงยหน้ามองก็รู้ได้ทันทีว่าคนที่ทำกับเขาแบบนี้เป็นใครกัน เมื่อแลเห็นชายกิโมโนสีฉูดฉาดระอยู่ที่พื้น



คนที่เป็นเชลยน่ะ...สามารถนอนหลับด้วยใบหน้าสงบสุขแบบนั้นได้ด้วยหรอซึระ...       น้ำเสียงเย็นเหยียบเอ่ยออกมา จากมือเปล่าที่กดลงที่ปากแผลตอนนี้มันถูกแทนที่ด้วยผ้าสีขาวสะอาดตา เลือดยังคงไหลออกมาย้อมมันจนแดงฉาน



อึก...ทากา...สุงิ....      วิธีการทำแผลนั้นเล่นเอาน้ำตาไหล อีกคนนั้นไม่ได้เบาแรงแม้แต่น้อย ร่างกายโปร่งบางจึงเผลอต่อต้านโดยการจะถอยหนี แต่มือใหญ่อีกข้างกลับยึดลำตัวคนเจ็บเอาไว้แน่น



อึก...ฮ่ะ...      น้ำตาที่ปริ่มออกมาจากหางตาไหลลงไปตามแก้มใส ใบหน้าสวยสง่ามีเหงื่อแตกพลั่ก ริมฝีปากที่ถูกกัดเม้มเริ่มจะขึ้นสีช้ำ



ร้องออกมาสิซึระ...หึหึ       นัยน์ตาดำมืดที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวจับจ้องเหยื่อตรงหน้าไม่วางตา เสียงหัวเราะจากลำคอดูเหมือนจะถูกใจกับสภาพของคนตรงหน้า



ในยามปกติ คาซึระ โคทาโร่ จะมีท่าทางราวกับคุณหนูผู้สูงส่ง ใบหน้าสวยนั่นจะนิ่งเฉยไม่เคยแม้แต่จะยิ้มแย้ม แต่มันก็กลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ทุกท่วงท่านั้นเต็มไปด้วยความสง่าผ่าเผยแต่มันก็แฝงเอาไว้ด้วยความเย้ายวนโดยที่เจ้าตัวเองคงไม่ได้รู้ตัว ถึงแม้เหล่าลูกน้องจะมองว่า คาซึระ โคทาโร่ จะเป็นสุภาพบุรุษที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี มีทั้งฝีมือดาบและมันสมองพร้อมที่จะเป็นผู้นำ....แต่สำหรับเขา...สำหรับทากาสุงิ ชินสุเกะคนนี้....ที่เห็นท่าทางนิ่งๆหยิ่งยโสแบบนั้นมาตั้งแต่เด็กๆ มันกลับไม่มีอะไรน่าดึงดูดความรู้สึกของเขามากไปกว่าการได้ทำลายความงดงามสง่าผ่าเผยนั้นลงด้วยมือของตัวเอง...อยากทำให้ใบหน้านิ่งๆนั่นร้องไห้ทุกข์ทรมาน อยากทำให้ริมฝีปากที่บอกเขามาตั้งแต่ไหนแต่ไรว่าเกลียดหนักหนานั่นร้องอ้อนวอน...



“ ร้องออกมาสิ....ตอนนี้แกไม่ต้องกลัวว่าจะมีลูกน้องคนไหนมาได้ยินหรือเห็นความอ่อนแอของแกอีกแล้วซึระ....เพราะว่าคนของแกไม่มีใครเหลือรอดแม้แต่คนเดียว...พวกมันตายหมดแล้วซึระ.....ตายหมด....”       ใบหน้าคมเอ่ยออกไปด้วยรอยยิ้มร้ายเย้ยหยันให้คนฟังได้แต่นิ่งงัน ดวงตาที่เคยมองทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความหวังกลับกำลังสั่นไหวด้วยหมดกำลังใจ.....ยัง.....แค่นี้มันยังไม่พอ....เขาอยากเห็นมากกว่านี้....อยากเห็นใบหน้านิ่งๆนี่แสดงอาการมากกว่านี้



“ ทำไม...ทำไมแกต้องทำ...แบบนี้...อึ๊ก”       น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยออกมาอย่างไม่เข้าใจและไม่อาจรับได้ แต่ก่อนที่จะพูดจบแผลก็ถูกกดจนเจ็บแปลบ



“ ฉันไม่คิดจะบอกแกซ้ำสองหรอกซึระ”       ร่างโปร่งบางยันตัวขึ้นมามองที่ปากแผลของตนเอง ใบหน้าสวยที่มีเหงื่อเกาะพราวเริ่มจะซีดลงด้วยเสียเลือดไปไม่ใช่น้อย สายตาเองก็เริ่มจะพร่ามัว........ในหัวสมองนึกถึงภาพในอดีต....บนดาดฟ้าของเรือสลัดอากาศฮารุซาเมะ ชายคนนี้เคยบอกว่าสิ่งที่ทำลงไปเพื่อแก้แค้นให้แก่อาจารย์โชโย....ทั้งๆที่เขาเองก็รักอาจารย์ที่เป็นผู้ให้ทุกอย่างแก่เขา....แต่พอคำพูดนั้นมันเอ่ยออกมาจากปากของชายผู้เหลือนัยน์ตาเพียงข้างเดียวคนนี้....มันก็อดที่จะเจ็บแปลบในใจไม่ได้



“ อาจารย์....คงจะไม่....ดีใจแน่....ที่แก....ทำแบบนี้....”      เสียงพูดเริ่มจะแผ่วเบาลงเรื่อยๆ นัยน์ตาเริ่มจะหรี่ปรือ ร่างกายกำลังถูกฉุดให้นอนลงไปด้วยความเหนื่อยล้าเต็มที



“ ทากา....สุงิ.....”       ลมหายใจดูเหมือนกำลังจะขาดห้วงได้ทุกชั่วขณะ แต่สายตาที่มองลงมานั้นก็ไม่ได้มีแม้แต่ความสงสาร



ร่างแข็งแกร่งโน้มตัวลงมาใกล้จนใบหน้าแทบจะชิดกัน มือข้างหนึ่งลูบไปที่แก้มเนียนอย่างแผ่วเบาก่อนจะเลื่อนไปทัดเส้นผมยาวเอาไว้กับใบหู รอยยิ้มที่ส่งมาให้ไม่ได้มีแววอ่อนโยนแต่มันกลับแฝงไว้ด้วยความวิปริต ร่างที่อ่อนล้าและอ่อนแรงนั้นไม่คิดจะต่อต้านอีกต่อไป เมื่อใบหน้าคมเลื่อนไปที่ลำคอระหงก่อนจะกดจูบลงไป  ไม่มีแม้แต่แรงจะต่อต้าน...มือใหญ่อีกข้างลูบไล้ลงไปตามแผ่นอกขาวเนียนที่แทบจะไม่ขยับเขยื้อนจากลมหายใจที่แผ่วเบา สัมผัสผิวเนื้อนิ่มไปเรื่อยๆจนไปหยุดวนเวียนอยู่ที่รอบปากแผล



สัมผัสเบาหวิวที่ได้รับทำให้สติที่ไม่ค่อยจะมีหลงเหลือนั้นยิ่งลอยไปไกล.....คงจะมาได้แค่นี้เองสินะ คาซึระ.....



“ อึก...อ้า...อื้อ!!!!!       แต่จิตใจที่ลอยไปไกลกลับถูกฉุดกระชากลงมาอย่างรวดเร็วด้วยความร้อนและเจ็บแสบอย่างที่สุดบนปากแผล เหล็กร้อนถูกนาบลงไปที่ผิวขาวใสเพื่อให้แผลปิดสนิท แต่การกระทำที่ป่าเถื่อนก็ทำเอาคนเจ็บถึงกับดิ้นพล่าน มือแข็งแรงกดร่างโปร่งบางเอาไว้ส่วนมืออีกข้างก็ยังคงกดแผ่นเหล็กลงไปด้วยใบหน้าที่ไม่สะทกสะท้าน



“ ฮ้า....อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!!!       แผ่นเหล็กถูกถอนออกไปลนไฟให้ผู้ถูกกระทำได้พักหายใจ แต่ไม่นานความร้อนราวกับจะมอดไหม้นั้นก็กลับมาอีกครั้ง มือบางข้างหนึ่งกำอยู่ที่ฟูกส่วนอีกข้างเกาะอยู่ที่แขนแข็งแรงของคนที่กดตนเอาไว้ เล็บจิกลงไปในผิวเนื้อจนเลือดซิบเพื่อระบายความเจ็บปวด



“ อ๊ากกกกก อึก.....ฮ้า...ฮ้า.....”      เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทรมานดังก้องไปทั่วห้อง ใบหน้าสวยสะบัดไปมาทั้งน้ำตา ผมยาวแผ่สยายไปเต็มฟูก ความสงบเยือกเย็นที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ของชายที่ชื่อคาซึระ ดูเหมือนในยามนี้จะไม่มีหลงเหลือบนร่างโปร่งบางอีกต่อไป เสียงหอบหายใจผสมปนเปกับคราบน้ำตาและหยาดเหงื่อที่เกาะพราวไปทั่วใบหน้า ความเจ็บแสบที่ได้รับทำเอาสิ้นสติไปในที่สุด



ร่างโปร่งบางแน่นิ่งไปทันทีที่แผ่นเหล็กถูกดึงออกไปจากปากแผลที่ดูเหมือนจะปิดสนิท



“ ถ้าแกตายง่ายๆ ฉันก็หมดสนุกน่ะสิซึระ....”      ใบหน้าคมยิ้มที่มุมปากในขณะที่จับอีกฝ่ายนอนลงที่บนฟูกให้ดีๆ ยาสมุนไพรถูกทาให้ที่ปากแผลก่อนที่ผืนผ้าขาวสะอาดจะถูกพันไปที่รอบเอวและแผ่นอกบาง มือใหญ่รวบเส้นผมที่กระจัดกระจายเข้าไว้ด้วยกัน ก่อนที่ร่างแข็งแกร่งจะนอนตะแคงลงเคียงข้างแล้วสางเส้นผมนิ่มเล่นอย่างเพลินมือ



“ แล้วก็นะซึระ......ถ้าแกตาย...ทุกอย่างมันก็จะกลายเป็นสูญเปล่า.....”        เสียงนั้นเพียงกระซิบ....ไม่อาจให้อีกฝ่ายได้ยิน และอีกฝ่ายเองก็ไม่อาจได้ยิน....













ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองนั้นอยู่ ณ แห่งหนใด....

สวรรค์....

หรือว่า......นรก




เปลือกตาบางเปิดขึ้นอีกครั้งอย่างเหนื่อยล้า....รอบกายยังคงรายล้อมไปด้วยความมืด....หากไม่นานสายตาก็ฉายชัดถึงใบหน้าของใครอีกคนที่อยู่ไม่ห่าง นัยน์ตาที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวนั้นมองมาด้วยสายตายิ้มเยาะ ริมฝีปากบางนั้นยกยิ้มร้ายกาจ มือใหญ่ยังคงลูบไล้เส้นผมให้คนที่เพิ่งฟื้นถึงกับสะดุ้งถอยหลังเมื่อเริ่มจะระลึกได้ว่าโดนทำอะไรไปบ้างก่อนที่จะสลบไป



“ เฮ้ๆ ขยับแบบนั้นเดี๋ยวแผลที่ฉันอุตส่าห์ปิดให้ก็เปิดขึ้นมาอีกหรอก”       เสียงทุ้มเอ่ยราวกำลังหยอกล้อ และเพราะว่าเป็นคนที่คุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็กทำให้ร่างโปร่งบางไม่ได้หวาดกลัวมากนัก



“ ถอยไปห่างๆเลย...ไม่รู้หรอกนะว่าแกจะช่วยฉันไว้ทำไม แต่ฉันจะไม่ขอบใจในสิ่งที่แกทำแน่ ทากาสุงิ”       คาซึระลากมือไปกุมไว้ที่แผลก่อนจะพลิกร่างหนีไปอีกทาง ตอนนี้เขาเหนื่อยล้าเกินกว่าจะมาต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่ายเหมือนที่เป็นมาตั้งแต่เด็ก



“ นี่ซึระ....ไม่อยากรู้จริงๆหรอ....ว่าฉันเก็บนายเอาไว้ทำไม....”        เสียงกระซิบที่ใบหูพร้อมกับร่างกายแกร่งที่โน้มเข้ามาใกล้ทำให้ใบหน้าสวยหันไปมองอย่างสงสัย แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรก็ถูกริมฝีปากประกบลงมาอย่างรวดเร็ว



“ อื้อ!!!      ริมฝีปากของทากาสุงิบดเบียดลงไปที่ริมฝีปากที่ยังซีดเซียว ลมหายใจที่มีเพียงแผ่วเบาถูกกระตุ้นให้หายใจเข้าออกรุนแรงมากขึ้นเมื่อกำลังจะขาดอากาศหายใจ



“ อ้า...จะทำ...อื้อ!!      ริมฝีปากถูกปล่อยเพียงชั่วครู่ก่อนที่มือใหญ่จะดึงไหล่บางให้พลิกมานอนหงายแล้วคร่อมกายลงไป ริมฝีปากตามไปประกบจูบอีกครั้งแล้วคราวนี้มืออีกข้างตามไปบีบบังคับให้คาซึระต้องอ้าริมฝีปากออก ลิ้นร้อนบดเบียดแทรกเข้าไปในโพรงปากอย่างไม่ได้รับการยินยอม แต่เพราะมือที่บีบกรามเอาไว้ทำให้ไม่อาจขัดขืนอะไรได้



“ อุ...อื้อ..อื้อ....”       ลิ้นของทากาสุงิกวาดต้อนเกี่ยวพันที่ภายใน มันไม่ได้อ่อนหวานแต่กลับเต็มไปด้วยการรุกรานที่ป่าเถื่อนจนคนถูกกระทำแทบทนไม่ไหว ทั้งริมฝีปากแสบร้อนไปหมดจากการถูกบดเบียด และมันคงจะบวมช้ำอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อผู้รุกรานนั้นละออกไป



“ แฮ่ก...แฮ่ก....แก...เป็นบ้าอะไรของแก...”      ใบหน้าสวยหอบหายใจหนักหน่วง เพราะร่างกายเองก็ยังไม่ฟื้นแถมยังมาโดนบังคับให้ทำเรื่องน่าบัดสีแบบนี้อีก นัยน์ตาสีดำจ้องเขม็งอย่างหาเรื่องไปยังใบหน้าคมที่ทำเพียงยิ้มเย็นส่งมาให้



“ ทำยังไงดีล่ะซึระ....ตอนนี้มันไม่มีอะไรให้ฉันทำลายแล้ว.....เพราะในโลกนี้....เหลือแค่นายอยู่คนเดียว....”      ทุกคำพูดค่อยๆเอ่ยออกมาพร้อมๆกับใบหน้าคมที่โน้มลงมาที่ลำคอระหงเรื่อยๆ และเมื่อมันจบสิ้นทุกประโยคก็มีเพียงนัยน์ตาสีดำของคาซึระที่เบิกโพลงอยู่ท่ามกลางความมืดและแสงสลัวของเปลวเทียน



“ อึ๊ก!     แรงกัดที่ต้นคอทำเอาร่างทั้งร่างสะดุ้งเฮือก คาซึระฉลาดพอที่จะเข้าใจความหมายของอีกฝ่ายแล้ว ร่างทั้งร่างจึงดิ้นต่อต้านทันที



“ บอกให้อยู่นิ่งๆไง เดี๋ยวแผลก็เปิดหรอก”      แต่คนที่มีแรงมากกว่าก็เงยหน้าขึ้นมาพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน



“ ถ้างั้นก็ปล่อยฉันสิ ทากาสุงิ!!        ร่างโปร่งพยายามตะโกนเรียกสติของอีกฝ่าย แต่รอยยิ้มและสายตาเจ้าเล่ห์ที่มองมานั้นก็ทำให้รับรู้ได้ว่า ทากาสุงิยังมีสติครบถ้วน และสิ่งที่กำลังกระทำกับเขานั้นคือสิ่งที่อีกฝ่ายตั้งใจที่จะทำ



“ หึหึ....ฉันไม่ให้แกทำแผลของตัวเองแตก แต่ไม่ได้หมายความว่าตัวฉันจะไม่มีสิทธิ์ทำนะซึระ....ยังไม่เข้าใจหน้าที่ของแกอีกหรอ....บนเรือลำนี้...หน้าที่ของแกคือ....ถูกฉันทำลาย....ซ้ำแล้วซ้ำเล่ายังไงล่ะ”



ถึงแม้เรี่ยวแรงจะไม่มีเหลือ แต่เมื่อได้ฟังถ้อยคำนั้นร่างโปร่งบางก็ผลักร่างด้านบนออกไปแล้วพลิกตัวเตรียมจะคลานหนี   “แกมันวิปริตไปแล้ว ทากาสุงิ...”     เสียงที่พยายามเปล่งออกไปไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้ยินหรือไม่ แต่มือใหญ่กระชากเส้นผมยาวจนคาซึระต้องเงยหน้าขึ้นตามแรงดึง แผ่นหลังบางปะทะเข้ากับแผงอกแข็งแกร่ง แรงกระทบทำเอาความเจ็บแปลบพุ่งมาจากบริเวณปากแผล



ใบหน้าคมก้มลงไปที่ลำคอระหงอีกข้างก่อนจะกัดฝังร่องรอยเอาไว้ทั้งๆที่มือยังคงจับเส้นผมของอีกฝ่ายอยู่  เสียงครางอย่างหวาดๆในลำคอระหงทำให้ใบหน้าของผู้กระทำยกยิ้ม มือใหญ่อีกข้างอ้อมไปด้านหน้าก่อนจะกระตุกโอบิออกช้าๆ โดยมีมือบางที่สั่นระริกเข้ามาขัดขวางแต่เพราะแรงดึงที่หัวจึงไม่อาจทำอะไรได้มาก



“ อะ....ทากา....อึก...”      ไหล่บางสะดุ้งห่อเข้าหากันเมื่อยูกาตะที่ใส่อยู่ถูกเปิดออกข้างหนึ่ง ใบหน้าคมก้มลงไปจูบที่ไหล่เนียนพร้อมกับฝังร่องรอยเอาไว้ให้คนได้รับสะดุ้งทุกครั้ง ขาเรียวที่คุกเข่าอยู่ถูกโคนขาแข็งแกร่งข้างหนึ่งแทรกเข้าไปไม่รู้ว่าจะช่วยพยุงเรียวขาที่เริ่มจะสั่นระริกจากเรี่ยวแรงที่ยังไม่กลับมาหรือว่าจะจงใจเข้าเสียดสีกับส่วนไวต่อความรู้สึกที่ด้านหน้ากันแน่



“ อย่า.....อะ...”       มือปล่อยศีรษะที่เต็มไปด้วยเส้นผมยาวสลวยให้เป็นอิสระ ก่อนจะลากไล้ไปที่ลำตัวบาง แรงกดจูบที่ซอกคอทำเอาสติและเรี่ยวแรงของคาซึระยิ่งกระเจิดกระเจิงมากขึ้น ถึงแม้ศีรษะจะถูกปล่อยเป็นอิสระแล้วแต่มันก็ยังคงเอนหลังไปพิงไว้กับไหล่กว้าง



“ ฉันจะทำลายแกไม่ให้เหลือชิ้นดี....”      ถ้อยคำร้ายกาจถูกกระซิบอยู่ที่ใบหู แต่คนถูกกระทำก็ไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน ถึงแม้จะพยายามขัดขวางมือใหญ่ที่ลากไล้แหวกยูกาตะเข้าไปยังส่วนไวต่อความรู้สึกด้วยมือที่สั่นระริกของตัวเองก็ตามที



“ หึหึ....ดูไม่ได้เลยนะซึระ”      ปากร้ายๆยังคงทำร้ายจิตใจอย่างต่อเนื่อง คาซึระได้แต่หอบหายใจเมื่อมือใหญ่จงใจปัดผ่านไม่ยอมสัมผัสโดยตรง แบบนั้นมันยิ่งทำให้ทรมาน



“ ฮ่า....ฮ้า.......อ่า....”       ใบหน้าสวยในตอนนี้เป็นแบบที่คงไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน เหงื่อที่เกาะพราวนั้นระยิบระยับเมื่อต้องแสงเทียน ริมฝีปากแดงช้ำอ้าออกน้อยๆเพื่อหอบหายใจ นัยน์ตาอ่อนล้าแต่ก็เต็มไปด้วยความเย้ายวน  มือใหญ่จับที่คางมนก่อนจะบังคับให้ใบหน้าเนียนหันมารับจูบที่เร่าร้อนรุนแรง



“ แฮ่ก แฮ่ก....อื้อ อึก...อ้า!!!      และเมื่อถูกล่อลวงด้วยรสจูบจนเผลอไผล ไม่นานเมื่อถูกปล่อยริมฝีปากให้เป็นอิสระมันก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อช่องทางที่ไม่เคยได้รับการทำให้เคยชินถูกสอดใส่เข้าไปด้วยแกนกายที่ใหญ่โตที่ดึงดันเข้าไปในครั้งเดียว



“ อ๊า!!...เจ็บ!!!....เอาออก...ปะ อ๊ะ!!       ยิ่งร้องห้ามแต่ก็ดูเหมือนผู้กระทำจะยิ่งชอบใจ อ้อมแขนแข็งแรงโอบรัดบังคับให้ร่างโปร่งบางนอนคว่ำหน้าลงไปกับฟูก ทั้งๆที่ร่างยังคงเชื่อมต่อกัน ความคับแน่นนั้นทำเอาอีกคนเจ็บจนแทบสิ้นสติ แต่กับอีกคนที่ได้เข้าไปอยู่ในความอ่อนนุ่มนั้นกลับกำลังใกล้จะคลั่ง ผนังด้านในของคาซึระทั้งร้อนทั้งรัดแน่นจนทากาสุงิแทบจะทนไม่ไหว



“ อย่า...อะ อ๊ะ....อึก อ๊า!!      เสียงครางนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเมื่อทุกอย่างนั้นไม่ได้ผ่านการเล้าโลมมาเลย แต่ร่างด้านหลังกลับกระแทกกายเข้าใส่ตามแต่ใจของตน ได้ยินเสียงของเหลวไหลหล่อลื่นซึ่งกลิ่นของมันคือกลิ่นคาวของเลือด ใบหน้าสวยได้แต่กัดฟันแน่น ถึงจะเจ็บน้อยกว่าตอนที่ทำแผลแต่ที่เจ็บลึกลงไปคือที่หัวใจมากกว่า



ใช่....แกกำลังทำลายฉันจนย่อยยับ....ทากาสุงิ



มือร้อนๆของคนที่ยังคงแทรกกายเข้ามาไม่หยุดเกลี่ยไล้เส้นผมที่แผ่นหลังเนียน ก่อนจะจูบฝังร่องรอยลงไป แล้วสิ่งที่น่าอับอายอย่างที่อีกฝ่ายไม่อาจคิดก็ถูกทำให้เกิดขึ้น เมื่อมือใหญ่คู่นั้นพลิกกายโปร่งบางให้หันหน้านอนหงายทั้งๆที่ร่างกายท่อนล่างยังไม่หยุดขยับ แรงพลิกตัวทำเอาน้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาสีดำถึงกับไหลลงมาเป็นทางด้วยห้ามต่อไปไม่ไหว แรงเสียดสีทำเอาเจ็บร้าวจนได้กลิ่นคาวเลือดหนักหน่วงมากขึ้น แต่ที่เจ็บมากกว่าคือสายตาเย็นชาที่จ้องมองลงมาราวกับว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยนั่นมากกว่า



ใบหน้าสวยได้แต่สะบัดหนีพร้อมทั้งหลับตาแน่น ริมฝีปากขบเม้มจนห้อเลือดเพื่อไม่ให้ส่งเสียงน่าอายออกไปให้เจ็บใจไปมากกว่านี้ ปล่อยให้คนด้านบนทำลายเขาให้พอใจ....เพราะยังไงก็ไม่อาจหนีไปไหนได้อยู่แล้ว ยิ่งคิดแบบนั้นก็ยิ่งรู้สึกเจ็บเป็นเท่าทวีคูณ



และถึงแม้จะแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกไปแค่ไหนแต่แรงกระทำก็มิได้ลดลงเลย ร่างกายของทากาสุงิยังคงกระหน่ำกระแทกเข้ามามากขึ้น หนักหน่วงและรุนแรงจนร่างที่ต้องเป็นฝ่ายรับเริ่มจะมีเลือดซึมออกมาที่ปากแผลที่หน้าท้องที่คิดว่าปิดสนิทไปแล้ว ความบอบช้ำเกิดขึ้นแทบจะทุกส่วนของร่างกาย



จนในที่สุดก็รับมันต่อไปอีกไม่ไหว...



ร่างกายของคาซึระกระตุกเฮือกก่อนที่ทุกอย่างจะขาวโพลนแล้วดับวูบไป ภายในจิตใจร่ำร้องแต่เพียงว่า........ไม่อยากจะตื่นขึ้นมาอีกต่อไปแล้ว.....












แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ตื่นขึ้นมาอีกจนได้....



นัยน์ตาไร้ชีวิตเปิดขึ้นอย่างช้าๆ แขนขาไม่ยอมขยับตามที่สมองสั่งการ มีแต่ความร้อนดั่งไฟสุมเท่านั้นที่รู้สึกได้ ร่างโปร่งบางนอนหายใจรวยริน เหลียวมองไปรอบกายซึ่งสว่างไสวต่างจากทุกครั้งที่ลืมตาตื่นขึ้นมา



ตอนนี้คงเป็นตอนกลางวัน และเรือคงกำลังลงมาแล่นอยู่ในทะเลเพราะได้ยินเสียงคลื่นและกลิ่นของน้ำเค็ม....สายตากวาดมองไปอีกด้านแลเห็นท้องฟ้าใสที่ราวกับว่าไม่ได้พบเจอมานาน อยากจะเอื้อมมือไปคว้าเอาไว้แต่เมื่อสายตาไล่ลงมามองเห็นร่างของผู้นำกลุ่มคิเฮไทที่นั่งพิงหลังอยู่กับผนังในท่วงท่าสบายๆในมือมีกล้องยาสูบควันลอยกรุ่นแล้วก็ให้อยากเบือนหน้าหนี....ทั้งๆที่ทำร้ายเขาเอาไว้ขนาดนั้นยังมีหน้ามานั่งอยู่ได้



แต่ก็นั่นแหละ.....หน้าที่ของเขาบนเรือลำนี้คือ ถูกทำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่านี่นะ....แล้วใยหมอนั่นจะต้องมาใส่ใจว่าเขาจะเป็นจะตายยังไงด้วยล่ะ



เมื่อสำนึกได้เช่นนั้นก็ให้อยากร้องไห้กับโชคชะตาที่ทำให้ต้องเกิดมาเป็นแบบนี้....ทั้งๆที่พยายามมานักต่อนัก....แต่กลับไม่มีค่าอะไรเลย....



ร่างโปร่งบางพลิกตัวไปอีกทาง ทำให้คนที่นั่งมองกลุ่มเมฆเคลื่อนตัวไปมาหันกลับมาสนใจ มือเคาะเอาผงในกล้องยาสูบทิ้งไป ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้ามาหาร่างโปร่งบางอย่างแผ่วเบา มือเอื้อมไปสัมผัสที่หน้าผากของคนที่ยังหันหลังให้



“ ตัวยังร้อนอยู่นี่นะ”       มือถูกปัดออกมาโดยมือบาง ไหล่ที่สั่นระริกนั้นทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายคงกำลังร้องไห้ ซึ่งทากาสุงิเองไม่คิดที่จะปล่อยให้อะไรค้างคาใจ มือใหญ่จึงจับไหล่บางให้หันหน้ามาหา แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเมื่อใบหน้าสวยนั้นมีแต่คราบน้ำตา



นัยน์ตาสีดำที่มองมานั้นมีแต่แววตัดพ้อแต่ที่เหนือสิ่งอื่นใดคือมันไม่ใช่แววตาของคนที่อยากจะมีชีวิตอยู่



มือบางปัดมือที่จับไหล่ตนไว้ออกไปก่อนจะพลิกตัวกลับไปตามเดิม สองแขนได้แต่กอดตัวเองแน่น เส้นผมยาวสลวยราวกับจะช่วยห่อหุ้มร่างกายที่เจ็บช้ำไม่ให้ใครเข้ามาทำร้ายซ้ำได้อีก....ตอนนี้ไม่ใช่จะมีแต่ร่างกายที่โดนทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี แต่ที่จิตใจก็เหมือนกับกำลังจะแตกสลาย...



ทำไม...




ทำไมกัน......



ทั้งๆที่พยายามแทบตาย แต่ก็ไม่อาจเป็นตัวแทนของอาจารย์โชโยให้แกได้....


คิดว่าฉันไว้ผมยาวแบบนี้เพื่ออะไร....


คิดว่าที่ฉันทำเป็นเยือกเย็นอยู่ตลอดนั้นเพื่ออะไร....


คิดว่าฉันทำไปเพื่ออะไร....


แต่สุดท้ายแกก็ไม่เคยที่จะหันมามอง.....ไม่เคยหันมามอง.....




หากคนที่มีชีวิตมีลมหายใจอย่างฉันยังไม่อาจแทนคนที่ตายไปแล้วได้




“ ทำไมไม่ฆ่าฉันเสียเลยล่ะ....ทากาสุงิ”



คำพูดที่หลุดออกมาจากร่างตรงหน้าทำให้นัยน์ตาที่เหลือเพียงข้างเดียวนั้นทอดอาลัย ใบหน้าคมถอนหายใจออกมาช้าๆก่อนจะนั่งลงข้างๆร่างที่ยังคงนอนหันหลังให้



“ ซึระ....แกน่ะ...ไม่เคยรู้อะไรเลย...”         ใบหน้าคมเอ่ยออกไปทั้งๆที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่แผ่นหลังบาง เขาไม่เคยคิดที่จะบอกเรื่องนี้กับคนตรงหน้า เพราะเข้ารู้ดีว่า คาซึระจะไม่อาจรับได้อย่างแน่นอน และวันใดที่เขาเอ่ยมันออกไปคงจะเป็นวันที่เขาได้เตรียมใจเอาไว้แล้วว่าจะตาย...



แผ่นหลังนั้นยังคงแน่นิ่ง ไม่มีแววว่าจะยอมหันกลับมา....มันคงเป็นบาปกรรมของคนที่ทำลายชีวิตและความหวังของคนอื่นเช่นเขา....ที่ทำให้เสพติดการทำลายล้างจนเผลอทำลายสิ่งที่ไม่อยากทำร้ายมากที่สุดด้วยมือของตัวเอง



“ กับคนที่ตายไปแล้วอย่างอาจารย์โชโยน่ะ...ต่อให้ฉันทำลายโลกใบนี้จนเป็นผุยผง อาจารย์ก็ไม่ฟื้นคืนกลับมา...”      มือเอื้อมออกไปแตะไหล่บางก่อนจะพยายามดึงรั้งให้หันหน้ากลับมาหาอย่างเบามือ เรียวนิ้วเช็ดคราบน้ำตาให้กับคนที่ยังคงงงกับการกระทำเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของเขาอยู่ ก่อนที่นัยน์ตาจะจ้องลงไปที่นัยน์ตาสีดำคู่นั้นอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก



เพราะถ้อยคำหลังจากนี้......ฉันคงจะได้พูดมันเพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิต...



“ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันทำลงไป...ไม่ใช่เพื่อคนที่ตายไปแล้วแบบนั้นหรอก...”



“ ที่ฉันทำไป....เพื่อคนที่ยังมีลมหายใจ...เพื่อแกต่างหาก คาซึระ โคทาโร่”



เป็นไปตามที่คิด...คาซึระนัยน์ตาเบิกกว้างก่อนจะพยายามลุกขึ้นมานั่ง ใบหน้าสวยนั้นมีแววไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าที่แสดงอาการสับสนและจับต้นชนปลายไม่ถูกนั่นก็เพราะตลอดมายี่สิบกว่าปี เขาไม่เคยแสดงออกเลยสักครั้งว่าความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อคนตรงหน้านั้นเป็นอย่างไร



“ มะ...ไม่จริง....”      ริมฝีปากที่ยังแดงช้ำเอ่ยออกมาได้แค่นั้นท่ามกลางความตกตะลึง



“ เพราะหากไม่มีโลกเน่าๆใบนั้นแล้ว  แกก็จะหลุดพ้นจากพันธนาการทุกอย่าง ไม่ต้องมาคอยแบกรับภาระและความคาดหวังจากใคร....ไม่ต้องบาดเจ็บ ไม่ต้องคอยแต่หลบหนี และไม่ต้องมีใบหน้าที่เศร้าสร้อยแบบนี้...”     มือยื่นออกไปลูบแผ่วเบาที่แก้มใสก่อนจะดึงรั้งร่างโปร่งบางเข้ามาไว้ในอ้อมแขน



ตลอดมาเขาเพียงแค่อยากจะโอบกอดเอาไว้แบบนี้.....ไม่เคยมีใครรู้หรอกว่าเขารู้สึกอย่างไรที่ต้องคอยมองคนที่รักแต่ก็ไม่สามารถบอกออกไปได้ต้องตกอยู่ในอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า...เพราะคาซึระเป็นที่รัก เขาถึงได้ไม่ชอบใจและไม่อยากให้ใครเข้าใกล้....เพราะคาซึระมีความสามารถและเก่งกาจพอที่จะเป็นผู้นำ เขาถึงได้แยกตัวออกมาและคอยขัดขวางไม่ให้กลุ่มของคาซึระก้าวหน้าต่อไปเพราะนั่นจะหมายถึงอันตรายที่มากยิ่งขึ้น.....และเพราะคาซึระเป็นความหวังของคนพวกนั้น เขาถึงได้คิดที่จะทำลายมันซะ ทำลายทุกอย่างที่ฉุดรั้งคาซึระเอาไว้



แค่อยากให้แกเป็นอิสระ.....คาซึระ



“ ซึระ....แกคงไม่เคยรู้เลย...”



“ อาจารย์โชโยคือคนที่สอนให้ฉันมีชีวิต.....แต่แก....คือคนที่สอนให้ฉันมีหัวใจ....คาซึระ”




สิ่งที่ร่างแข็งแกร่งพูดออกไปทำให้แรงสะอื้นในอ้อมแขนยิ่งหนักหน่วงมากกว่าเดิม



ตอนนี้ร่างโปร่งบางไม่สับสนอีกต่อไปแล้ว เขารู้แล้วว่าทำไมทากาสุงิถึงได้ทำลงไปแบบนั้น....ทุกอย่างเป็นเพราะตัวเขาเอง....เพราะความรักที่เขาไม่เคยได้รับรู้....ทั้งๆที่แสวงหามันมาเนิ่นนาน ต้องการให้คนคนนี้มองเขาถึงได้พยายามเป็นที่รัก เป็นที่พึ่งพิง พยายามที่จะเป็นผู้นำเพื่อสักวันมันจะทำให้ทากาสุงิหันมามอง แต่สิ่งที่เขาทำยิ่งกลับทำให้ทากาสุงิถลำลึกลงไปมากกว่าเดิม ยิ่งเขากลายเป็นความหวังของใครๆ ทากาสุงิจึงมีแต่ต้องทำลายทุกอย่างเพื่อให้เขาปลอดภัยและเป็นอิสระ



ถ้าหากเขาได้รับรู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายได้เร็วกว่านี้.....



สองมือกอบกำสาบเสื้อกิโมโนของอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนที่จะซุกหน้าลงไปที่แผงอกซึ่งในยามนี้มันกลับอบอุ่นเหลือเกิน ยิ่งอบอุ่นมากเท่าไหร่ก็มีแต่จะยิ่งน้ำตาไหลมากเท่านั้น แขนแข็งแรงโอบกอดมาที่แผ่นหลังก่อนที่อีกมือจะลูบหัวอย่างแผ่วเบา



เนิ่นนานที่ต่างก็จมอยู่ในอ้อมแขนของกันและกัน พยายามที่จะจดจำทุกความอ่อนโยนให้มากที่สุด







ใบหน้าสวยขยับออกจากอ้อมอกเล็กน้อย ร่างแข็งแกร่งก็ดูเหมือนจะรู้ตัวดีทุกอย่าง....


มือบางเอื้อมออกไปจับดาบที่วางอยู่ไม่ไกล ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปจุมพิตลงที่ริมฝีปากของร่างแข็งแกร่ง...






ใบหน้าคมก้มลงมามองโดยที่ไม่ได้ขัดขืนอะไร



ดาบนั้นกดลงมาที่ด้านหลังไหล่ซ้ายเสียบทะลุออกไปที่แผ่นหลังของคนที่เขากอดเอาไว้.....เขาไม่รู้สึกเคียดแค้นชิงชัง...ที่ความรู้สึกที่เขาทุ่มเทลงไป จะถูกตอบแทนด้วยคมดาบเช่นนี้



“ ฉันรู้อยู่แล้ว...ว่าแกต้องทำแบบนี้...ซึระ....”       เสียงกระซิบแผ่วเบาดังอยู่ที่ใบหูของคนในอ้อมแขน ดาบที่เสียบทะลุร่างกายของกันและกัน อย่างน้อยมันก็ทำให้เราอยู่ด้วยกันไปจนสิ้นลมหายใจ



“ ทำไม....ทำไมแกถึงไม่บอกฉัน....ทำไมแกถึงไม่เลือกวิธีที่ฉันจะอภัยให้แกได้....ทากาสุงิ.....ทำไม....”       เขารู้อยู่แล้วว่าคาซึระจะต้องรับไม่ได้ที่สาเหตุของการทำลายล้างทุกอย่างของเขานั้นเป็นการทำเพื่อให้เจ้าตัวได้เป็นอิสระ...เขาไม่คิดอยู่แล้วว่าคาซึระจะยอมรับความรักที่เห็นแก่ตัวของเขาได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเขาไม่เคยรู้เลยว่าคาซึระจะรู้สึกกับเขาเช่นไร



“ ซึระ...?”



“ เพราะหากแกบอกฉันสักคำ....ว่าแกรักฉัน.....ฉันก็จะวางมือจากทุกอย่าง”     และนั่นมันก็ทำให้เขาเป็นฝ่ายที่นัยน์ตาเบิกกว้างบ้าง เพราะนี่คือสิ่งที่เขาไม่เคยรู้เลย คาซึระไม่เคยบอกและไม่เคยแสดงออก นอกจากสิ่งที่เจ้าตัวชอบพูดว่าเกลียดเขาเท่านั้นที่เขารับรู้



“ ซึระ....นี่แก ?!



“ อาจารย์โชโยคือคนที่สอนให้ฉันมีชีวิต.....แต่แก....คือคนที่สอนให้ฉันมี.....หัวใจ....ทากา....สุงิ........”



เสียงขาดหายไปพร้อมกับมือที่เคยกำด้ามดาบตกลงที่ข้างตัว....เขาเพิ่งรู้....ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำลงไปมันเปล่าประโยชน์ ในเมื่อเพียงแค่คำพูดคำเดียวเท่านั้น....หากแค่พูดออกไปเท่านั้น....



“ ซึระ....คนที่ไม่รู้อะไรเลยน่ะ...คือฉันเอง...”



ในใจนั้นทั้งเจ็บร้าวทั้งมีความสุขจนไม่อาจแยกได้ว่าเขากำลังจะตายด้วยความรู้สึกเช่นใดกันแน่



รอยยิ้มอ่อนโยนเผยออกมาท่ามกลางสายตาที่เริ่มจะพร่ามัว  สองแขนตระคองกอดร่างที่ความอบอุ่นเริ่มจะหายไปเอาไว้แน่น....ขอให้ฉันได้บอกสิ่งที่ยังคงค้างคาใจกับแกเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเถอะ....ขอให้ริมฝีปากของฉันยังคงมีแรงที่จะบอกแกว่า....






“ ฉันรักแก.....คาซึระ......”




.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


FIN









ตายทั้งคู่ค่ะ ไม่ต้องถาม ฮ่าๆๆๆ บอกแล้วว่าซาดิสสุดเท่าที่เคยแต่งมา TT[ ]TT



ว่าแต่...มันมาได้ยังไงอีกแล้วสินะฟิคเรื่องนี้ = =” คือ...หมู่นี้โดนคุณกินครอบงำอยู่ค่ะ...ต้องสไลด์ตัวลงพื้นพร้อมกราบขอขมาท่าน อ.โซราจิที่ข้าพเจ้าบังอาจเอาพ่อสุภาพบุรุษก้นรั่วของอาจารย์มาปู้ยี่ปู้ยำนะเจ้าคะ....(ถ้ารู้เข้านี่คงโดนจิกกัดจนชั่วลูกชั่วหลานแน่ๆ5555).....ความจริงก็อ่านกินทามะมาได้พักใหญ่แล้วละ บอกตามตรงว่าไม่เคยจิ้นวายเล้ยยยยย (แต่จิ้นโซโกะคางุระนะ555) เพราะคุณท่านแต่ละคนรั่วเสื่อมกันบัดซบอ่ะ เล่นเอามัวแต่นั่งหัวเราะจนต่อมจิ้นไม่ทำงาน5555    แต่ทว่าล่าสุดนี้เพิ่งได้ดูคุณกินมูฟวี่ ภาค เบนิซากุระ พอดูจบแล้วแบบว่า......ต่อมจิ้นแตกกระจาย โฮกกกกกกกกกกกก ซึระมันน่ารักแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะคะ (ปกติก็มองว่ามันน่ารักอยู่แล้วแต่มักจะโดนความรั่วมาบดบังไปซะก่อน555) ทั้งเท่ห์ทั้งน่ารักอ่ะ แล้วก็ชอบฉากที่ซึระยืนคุยกับทากาสุงิมากๆๆๆรวมทั้งฉากตอนเด็กๆที่ทั้งสองคนยังอยู่ด้วยกัน มันเลย.........


อีกอย่างเพิ่งเห็นความโฮกของทากาสุงิค่ะ....ก็เพราะคุณกินอนิเมะตอน 209 ที่มีตัวอย่างมูฟวี่ภาค2(ที่จะมีรึเปล่าก็ไม่รู้นั่นน่ะ) มันเป็นภาคกำเนิดชิโร่ยาฉะ  แต่ทว่า...สายตากลับไปโฟกัสที่พ่อหนุ่มหล่อเลวทากาสุงิ...อ๊ากกกกก ทำไมแกหล่อโฮกแบบนี้ไม่บอกกล่าวตรูมั่งฟะ! แล้วทำไงเนี่ย ฟิกเกอร์แกที่เคยเจอก็ปล่อยให้หลุดมือไปแล้ว แล้วจะไปหาซื้อมันจากที่ไหนได้อี๊กกกกก (ตอนนั้นไปเจอคู่กับซึระเลยนะ แต่ตอนนั้นไม่ค่อยชอบหน้ามันเลยสอยซึระมาตัวเดียว....ตอนนี้อยากมีไทม์แมชชีนมากกกกกเลยอ่ะ ฮือๆๆๆ)


เฮ้อ......


แปะรูปที่ไปขโมยคุณเปามาเพื่อประกอบการจิ้นซักหน่อยอิอิ  เห็นแล้วอยากสครีมมากกกกรูปนี้ >w<





นอกนั้นก็มี คลิปอีกสองตัวที่เป็นบ่อเกิดของฟิคเรื่องนี่ คึหึหึ.....






จะว่าไปหมู่นี้ก็ไม่ได้เอาอะไรที่เป็น 8059 มาลงเลยน้า....ไม่ต้องสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า เพราะถึงฉากหน้าจะไม่ได้พูดถึงเลยแต่เบื้องหลังของเบื้องหลังน่ะ กำลังจะจมกอง 8059 ตายอยู่แล้วค่ะ

หลายคนคงรู้อยู่แล้วแหละมั้งว่ากำลังจะมีงาน Double Date D18+8059 เกิดขึ้นในเดือน 11 ปีนี้ [ใครไม่รู้เชิญที่ http://d18-8059.exteen.com/ ] เพราะงั้นเลยกำลังผลิต Madและแอนโธแบบเอาเป็นเอาตายอยู่เลยค่ะ เหม็นขี้หน้ายามะกันไปข้างเลยงานนี้  555 คุณประจักษ์ยามะรีเทิร์น!!


เข้าไปที่บลอคของคุณอิจิมา รู้สึกว่าเค้ากำลังจะออก รีบอร์นซีดี Box อะไรซักอย่างกัน ...มันคืออะร๊ายยยย ใครรู้ช่วยบอกหนูด้วยยยยยย แต่ถึงจะเป็นอะไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า....8059 น่าจะยังได้ออกด้วยกันอยู่ละสินะ...สินะ...สินะ....ครึ ครึ ไม่งั้นจะไปห้องอัดวันเดียวกันหยอ >w< (ถึงจะมีคุณพี่มาเป็น กขค.ตลอดกาล ก็บ่ยั้น กร๊ากกกก)






ก่อนไปขอแปะอีกซักหน่อย อิอิ




  
เพลงคาแรคเตอร์ของจิอากิค่ะ!!! >w< เพิ่งออกสดๆร้อนๆเมื่อวานนี้เอง ใครสนใจเชิญได้ที่บลอคคุณเปา pao6927 อิอิ รู้สึกว่าจะมีอะไรเกี่ยวกับ Sekai ichi มาลงอีกเพี้ยบเลยนา....

แล้วเจอกันค่า....ขอลงหลุมสักพัก โฮกกกกกกกกกกกกกกก Dir en grey ลุคใหม่ไฉไลสุดยอดดดดดดด สงสัยจะดู HOTD กันมากไปหน่อยมั่ง 5555












6 ความคิดเห็น:

  1. อ่านจบต้องตั้งสติเม้นท์
    เพราะว่า หลังอ่านจบมีแต่ภาพซึระลอยไปลอยมา
    ฉากนั้นฉากนี้ หนุ่มหน้าสวยผมสวย นิ่งสุภาพเท่ห์ กับเลือดสีแดง
    กร๊าซซซซซ เธอสวยย สง่างาม น่าหลงใหล >___<

    แต่พอมานึกถึงหน้าตาของทากาสุงิ มันหลอนและจิตได้ใจมากอ่ะ
    แต่หลงรักภาพสมัยเด็กๆ ช่างขี้เก็กจริงๆเล๊ยยย
    ไอ้ฉากที่น่าจะอยู่ในมูฟวี่สองนั่นก็ทำเอาจิ้นคนหล่อเลวเข้าไปอีก

    อ่าา สึกว่าคิดไปคนเดียวว่า อ.ของพวกเขาหน่ะ เหมือนซึระมากก
    ทั้งบุคลิกท่าทองการแต่งกายทรงผม เหมือนทุ๊กอย่าง
    หรือซึระเอาต้นแบบมาจากอาจารย์อยากเป็นเหมือนอาจารย์จริงๆนะ

    ต่างคนต่างไม่แสดงออกทางคำพูด มันก็ลงเอยยแบบนี้น่ะเซ่
    โธ่ ก็ยังคิดว่า ถ้าหากได้บอกความจริงออกไปแล้วทำไมแกต้องตายฟร่ะ
    ที่แท้ ก็คิดไว้แล้วว่าซึระจะทำแบบนี้งั้นหรอออ
    (แต่ก็ยุให้ฆ่าทิ้งซะ บังอาจมาทำซึระคนสวยซะสบักสบอม โหดร้ายT^T
    เอาแผ่นเหล็กร้อนๆแนบแผล โฮกก ถึงจะเพื่อรักษาก็เถอะ รุนแรงไปแว้วนะ)
    ว๊ากกก แล้วทำไมซึระไม่ให้อภัยแล้วก็มีความสุขด้วยกันเล่า!
    ก็ไปมีความสุขกันในโลกหลังจากนี้ไงหล่ะ??

    โฮกกกก นึกว่าจะตายตั้งกะเสียเลือดมากจากฉากนั้นกิจกรรมนั้นซะอีก
    ถ้าเป็นงั้นจริงจะโหยหวนมากกว่าเน้ แล้วก็จะเศร้ามากกว่านี้แน่ๆ
    อันนี้ยังดีที่ได้บอกและเคลียร์ความในใจกันไปแล้ว

    โฮฮฮฮกกกกก แต่ก็ไม่ค่อยจะรู้จักทากาสุงิซักเท่าไหร่ด้วยสิ
    เพราะงั้นสครีมทางซึระมากกกว่า โฮกกก
    คุณกินไปอยู่ไหนปล่อยซึระมาแบบนี้ได้ไง กร๊าซซซ
    อยากเชียร์ให้ 3P ร้าวรานนซะมากกว่าอีก เพื่อนวัยเด็กสามคน คึหึหึ
    นึกไปถึง โทริ จิอากิ ยู กร๊ากกกกก

    อ่านฟิคคู่นี้ครั้งแรกเลยมั้งเนี่ย ซึระเท่ห์ น่าหลงใหลไม่เปลี่ยนแปลงเลยย
    แต่อีกคนไม่ค่อยรู้คาแร็คเตอร์เลยเม้นท์ไม่ถูก ฮะฮะ
    รู้สึกว่าคุณท่านจะเป็นคนเดียวของเรื่องที่ไม่รั่ว ไม่บ้าหรือป่าวเนี่ย
    นอกนั้น ไม่ปกติกันซะหมด มีทากาสุงิคนเดียวที่ยังเป็นผู้เป็นคน(จิตๆ)แบบนี้อยู่

    ปล.คุยตอนท้ายนั่น เรื่องนักพาย์ก็รอข่าวรอพี่กวางสครีมต่อปาย
    แล้วก็นะ ซอมบี้หน่ะแอบไปเห็นที่เฟสพี่คุมาแล้ว
    อย่างเหมือนอ่ะ แล้วก็อย่างหลอนอ่ะ แล้วก็น่ากลัวมากด้วย ฮะฮะ

    ตอบลบ
  2. ครึ้มจัดเลยค่ะ แบบว่าทนไม่ไหวแล้ว อยากอ่านฟิคกินทามะมาก เลยเข้ามาที่นี่เป็นที่แรก
    โต้รู้นะ ว่าพี่กวางแต่งอะไรไว้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ไม่พูดกันให้มากความ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
    หากไม่ประสงค์จะได้ยินเสียงบาดหู กรุณาปิดหูแน่นๆนะคะพี่

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    เค้าชอบแบบเน้!!!! ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ชอบแบบเน้!!!! สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดด อารมณ์มันสุดยอดดดดดดดดดดดดดด ถูกสเปคเจ้าค่าเอ๊ยยยยยยย ให้มันได้อย่างนี้สิ น้ำตาสุโก้ยยยยยยยยย (มันบ้าไปแล้ว)

    อยากบอกพี่กวางว่า ขอบคุณมากสำหรับแหล่งโหลด จะโหลดเก็บไว้ดูออย่างดีค่ะ แต่เมื่อเย็นใจร้อนจัด เลยไปเซิร์ฟๆหาออนไลน์ดูสักหน่อย แล้วเกิดอารมณ์พุ่งพรวดดดดดดดดดด อยากอ่านฟิคคู่ทากาซึระพอดิบพอดี สองคนนี้เป็นอะไรที่ถูกต้องในสไตล์การชอบโต้มาก เมะโหด โฉด หล่อ เลว และร้ายลึก ส่วนเคะที่รัก สวย สง่า ลึกซึ้ง ร่างบาง ฉลาด ซึนและรั่ว

    สำหรับฟิคเรื่องนี้ต้องบอกว่า สมกับเป็นเรื่องที่ซาดิสม์ที่สุดของพี่กวาง โหหหหหหหห โผล่มาตอนแรกๆก็กลิ่นโชยมาเลย ทิ้งไปก็เสียดาย เก็บไว้เล่นดีกว่างั้นเรอะ! สมกับเป็นทาคาสุงิค่ะ อารมณ์นี้มันใช่มาก มันเป๊ะมาก หมอนี่แหล่ะ ทาคาสุงิ แล้วก็ตอนที่ซึระจังบอกว่าเกลียดทาคาสุงิน่ะ เป็นอะไรที่โต้แอบปิดปากกรี๊ดเงียบๆ ฮ่าๆๆ มันจิ้นได้ใจจริงๆเลย

    เข้าใจความรู้สึกซึระจัง โดนทรมานทรกรรมไม่รู้จักจบจักสิ้น ไม่อยากตื่นมา แต่ก็ต้องตื่นและมาพบอะไรแบบนี้ โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ น้ำตามันจะไหลแล้วค่ะ แต่ต้องบอกว่าพี่กวางบรรยายซึระจังได้สวยมากกกกกกกกก ชอบมากๆเลยค่ะ เห็นแล้วอยากเข้าไปกอดดดดด ฉากที่ซึระจังกอดเข่าตัวเองแล้วผมย้อยลงมาปรกๆตัวน่ะ เป็นอะไรที่ชอบมาก มันเห็นภาพ เห็นความรู้สึกความสิ้นหวัง แต่ก็พึงจะรักษาร่างกายและเยียวยาหัวใจตัวเองที่บอบช้ำ งืออออออ เศร้าค่ะ

    ตอนสุดท้ายนี่ไม่ไหวแล้ว ต้องสงบสติอารมณ์สักพัก มัน...เศร้าอ่ะ อ่านแล้วมันจุกเลยค่ะ ในอ้อมกอด พร้อมกับได้รับฟังความจริงทั้งสองฝ่าย นั่นสินะ อาจารย์มองเผินๆแล้วคล้ายซึระจังเลย ก็ว่าอยู่ว่าจะมีที่มาที่ไปไหมน้อ และดูว่าทั้งคุณกินและทาคาสุงิก็รักเคารพอาจารย์มากเลยนะคะ

    ขอบคุณมากค่ะพี่กวางสำหรับฟิคได้อารมณ์สนุกๆแบบนี้ เป็นฟิคกินทามะเรื่องแรกเลยค่ะ โฮฮฮฮฮฮฮ
    กินทามะ สุดยอดดดดดดดดดดดดดด

    ปล. อยากแต่งฟีคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค

    ตอบลบ
  3. อ...อ่านจบแล้วววววว
    ไม่ได้อ่านฟิคคุณกวางนานมาก มาอ่านวันนี้ ตอนนี้ คู่นี้ พีเคจะตายค่ะ แอร๊ยยยยยยยยยยยยย>w<

    แต่ละคนต่างมีเหตุผลของตัวเองเนอะคะ การแสดงออกทางความรักก็ต่างกันออกไป เรื่องนี้อ่านแล้วทำให้รู้ว่า ถึงการกระทำจะสำคัญกว่าคำพูด แต่บางทีการไม่พูดอะไรออกไปเลย อีกฝ่ายก็ไม่มีทางที่จะเข้าใจเราได้ทั้งหมดล่ะเนอะ เพราะเรากับเค้าเป็นคนละคนกัน ขนาดฝาแฝดยังคิดไม่เหมือนกันทั้งหมดเลยนี่นา

    สงสารทากะคุงสงสารซึระด้วย ทำเพื่อกันและกันขนาดนี้แท้ๆ แต่เพราะความไม่เข้าใจกันแท้ๆเชียว เสียดายจังค่ะ เสียดายความรักของทั้งสองคน

    คุณกวางเขียนทั้งสองคนออกมาได้โดนใจมากเลย ตัวละครเรื่องนี้ถ้าตัดความรั่วออกไปก็น่าจะประมาณนี้ล่ะนะคะ ทุกคนล้วนมีปมในใจ

    สุดท้ายนี้...พีเครักซึระค่ะ♥ 555555555555555

    ตอบลบ
  4. ชอบคู่นี้ อารมณ์แบบนี้ยิ่งชอบ อ่านจบแล้วไม่รู้จะเม้นท์อะไรดี
    รู้เพียงแต่ว่ามีแต่คำว่าชอบๆๆๆลอยเต็มหัวไปหมดเลย
    ทากาสุงิเอสได้ใจมากกก ทั้งคำพูด ทั้งการกระทำแต่ละอย่าง
    คิดอยู่ตลอดว่าอาจารย์โชโยแม่งโคตรเหมือนซึระ
    ที่จริงแล้วเพราะอย่างนี้เองสินะซึระ หึหึ

    จะว่าไปคู่นี้หาเสพยากเหมือนกันน้า ส่วนใหญ่เจอแต่ กินฮิจิ ฮิจิกิน อะไรอย่างนี้
    ขอบคุณมาก ๆ เลยนะค้า

    ตอบลบ
  5. แทบอ่านไม่ออกx_xทำไมทำแบบสีดำล่ะ
    แต่ไม่เป็นไรหรอก^_^สนุกดี

    ตอบลบ
  6. ^
    ^
    ขอบคุณค่า..

    แหะแหะ ที่ต้องถมดำเพราะเนื้อหาของฟิคเรท NC ค่อนข้างรุนแรง เลยไม่อยากแปะโจ่งแจ้งน่ะค่ะ แต่ถ้าหากใช้ Ctrl+A น่าจะอ่านไม่ยากนะ หรือไม่ก็ก๊อปไปแปะใน word แล้วเปลี่ยนสีเอาตามใจชอบเลยค่ะ 55 (ชอบสร้างความลำบากให้คนอื่น กร๊ากกก โปรดให้อภัย ^ ^)

    ความจริงฟิคที่แปะเรทไว้ว่า NC-17 จะถมดำฉากเรทเอาไว้ทุกเรื่องค่ะ กลัวกองเซ็นเซอร์มาเจอเดี๋ยวจะโดนแจ้งลบหายไปทั้งโกดังเอาได้55

    ตอบลบ