KHR S.Fic [8059] …aishiteru…


โปรดใช้เวลาในการอ่าน...ฮ่าๆๆ....แบบว่าเนื้อเรื่องไม่มีอะไรค่ะ แต่อยากให้ซึมซับความอบอุ่นของบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนมากกว่า ฮี่...


KHR S.Fic [8059]     aishiteru…  


: KHR Fanfiction
: 8059
: Warmhearted Sweet
: PG








“ ยามาโมโตะ!


“ ไม่เป็นไรนะ....อย่างนาย คราวหน้าต้องชนะแน่ๆ!        มือหลายต่อหลายข้างตบลงไปที่ไหล่ของร่างสูงที่ยืนนิ่งอยู่กลางสนาม ใบหน้าคมของกัปตันที่นำลูกทีมไปสู่ความพ่ายแพ้ได้แต่แงนมองท้องฟ้าที่ว่างเปล่า 


“ ยะ....ยามาโมโตะ....”        เสียงที่คุ้นเคยของเพื่อนสนิททำให้ร่างสูงหันหน้ากลับมามองที่ข้างตัว 


“ ปะ เป็นไงบ้าง...”         ใบหน้าของสึนะมองมาด้วยแววตากังวล นั่นเพราะรู้ดีว่าร่างสูงตรงหน้าจริงจังกับเบสบอลมากขนาดไหน


“ อื้อ...”       ใบหน้าคมส่ายหน้าพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูก็รู้ว่าฝืนเต็มที      “ ยังเหลืออีกหลายนัด ไม่เป็นไรหรอกสึนะ ขอตัวก่อนนะ...”      แผ่นหลังกว้างเดินหายเข้าไปที่ห้องชมรมซึ่งป่านนี้แล้วคงว่างเปล่าไร้เงาของผู้คน


“ รุ่นที่สิบครับ....”       เสียงเรียกดังมาจากคนที่ยืนอยู่ด้วยกันมาตลอดแต่กลับนิ่งเงียบไร้คำปลอบโยนหรือให้กำลังใจใดๆต่อร่างสูงที่เพิ่งเดินจากไป  สึนะหันมามองด้วยความสงสัยว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆไม่ห่วงยามาโมโตะบ้างหรืออย่างไร แต่แล้วก็ต้องนิ่งไปเมื่อได้เห็นนัยน์ตาสีมรกตคู่นั้น


“ เราก็กลับบ้านกันเถอะครับ”


“ อื้อ...โกคุเดระคุง...”         นัยน์ตาสีมรกตคู่นั้น...ที่ทำให้ท้องนภาได้รู้ว่า....คงไม่ต้องห่วงเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสองคน.....












บัดนี้ที่ห้องชมรมมีเพียงความเงียบเชียบกับร่างของกัปตันที่ยังคงนั่งอยู่ที่ม้านั่งกลางห้อง นัยน์ตาสีเปลือกไม้เหม่อมองพื้นคอนกรีตที่มีริ้วรอยมากมายบ่งบอกถึงกาลเวลาที่ถูกใช้งานมาอย่างยาวนาน ไม้เบสบอลอันหนึ่งวางพิงไว้กับผนังซึ่งแสงแดดยามเย็นส่องลงไปได้เพียงแค่ท่อนล่างส่วนท่อนบนนั้นราวกับจะหายไปกับความมืดของห้อง


เสียงฝีเท้าของใครบางคนแว่วเข้ามา แต่ร่างสูงก็ไม่มีแก่ใจที่จะหันกลับไปมอง...จนกระทั่งร่างกายของใครคนนั้นมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า....


“ โกคุเดระ....”       คนที่นั่งอยู่เงยหน้ามองใบหน้าสวยที่มองลงมาด้วยแววตานิ่งเฉย


“ .........”       หากอยู่ต่อหน้าใครๆ ใบหน้าคมก็คงจะส่งออกไปเพียงรอยยิ้ม แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าร่างบางคนนี้ นัยน์ตาสีเปลือกไม้กลับแสดงออกมาซึ่งความสั่นไหว มือที่เคยวางอยู่ข้างกายค่อยๆยกไปจับที่ลำตัวบางของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าก่อนจะกอดกระชับเข้าหาตัว  ใบหน้าคมซบลงไปที่แผ่นอกบาง....ที่แห่งเดียวและคนคนเดียวที่เขาจะสามารถระบายความเหน็ดเหนื่อยภายในจิตใจออกไปได้


เพราะเขาคือสายฝนที่จำต้องปลอบโยนผู้คน....
แต่สายฝนก็ไม่ใช่สิ่งที่จะไม่เหนื่อยล้าจนอ่อนแรงที่จะโปรยปราย....


“ ...............”       ถึงจะไม่มีคำพูดปลอบโยนใดๆ แต่แขนเล็กกลับยกขึ้นโอบกอดแผ่นหลังกว้างและศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมสีดำให้เข้ามาแนบชิดและสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ตนต้องการจะมอบให้ มือบางลูบเส้นผมสีดำอย่างแผ่วเบาแทนคำปลอบโยนนับร้อยนับพันที่ไม่จำเป็นอีกแล้วที่จะต้องเอ่ยออกไป  ใบหน้าสวยแนบลงไปที่ศีรษะซึ่งซุกอยู่ที่แผ่นอกของตนก่อนที่จะกระซิบแผ่วเบา....


“ กลับบ้านกันเถอะ...ไอ้บ้าเบสบอล...”        


“ ถึงจะพ่ายแพ้ แต่แกยังมีที่ให้กลับมาได้เสมอ....จำเอาไว้....”


เพราะนายคือพายุที่จะกวาดล้างทุกสิ่ง....
และนายคือที่พักพิงสำหรับสายฝนที่อ่อนแรง....
จากพายุจะกลายเป็นสายลมแผ่วเบา....
ที่จะค่อยๆพัดกระพือให้สายฝนกลับมาคงเม็ดหนาดังเดิม...









ถนนเส้นเล็กๆซึ่งทอดยาวอยู่บนคันดินกั้นแม่น้ำช่างดูเงียบสงบ เมื่อนักเรียนส่วนใหญ่ซึ่งใช้เส้นทางนี้กลับบ้านได้กลับกันไปจนหมดแล้ว....ตอนนี้จึงมีเพียงเงาสองเงาที่เดินเคียงคู่กันไปท่ามกลางเสียงน้ำที่ไหลเอื่อยๆ


หากเป็นทุกวัน คงเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยผสมปนเปไปกับเสียงด่าทอ แต่วันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับเงียบสนิท เพราะคนที่มักชวนคุยพร้อมกับหาเรื่องให้โดนอีกฝ่ายด่าว่านั้นกำลังจมอยู่กับความพ่ายแพ้ของตัวเอง และร่างบางที่เดินเยื้องอยู่ข้างหน้าก็ไม่คิดที่จะเอ่ยอะไรออกไปเพื่อทำลายความเงียบ


เพราะเขาเชื่อว่า บางทีการที่ไม่เอ่ยอะไรออกไปอาจจะดีกว่าการพูดปลอบใจที่ยิ่งเน้นย้ำให้รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นพ่ายแพ้....


ร่างบางจึงเลือกที่จะเดินตรงไปข้างหน้าตามปกติ...ให้คนที่เดินอยู่ข้างหลังได้เห็น....


.......ว่าเขายังอยู่ตรงนี้เสมอ.......





จากใบหน้าที่ก้มมองพื้นดินอย่างครุ่นคิดมาตลอดตั้งแต่ก้าวขาออกมาจากห้องชมรม บัดนี้มันค่อยๆเงยขึ้นมามองทางข้างหน้าทีละเล็กทีละน้อย สายลมแผ่วเบาที่พัดมาต้องกายทำให้รู้สึกผ่อนคลาย นัยน์ตาสีเปลือกไม้รับรู้เพียงภาพแผ่นหลังบางที่เดินด้วยท่าทางสบายๆ สองแขนเล็กไพล่มาข้างหลังสองมือบางจับอยู่ที่หูหิ้วของกระเป๋าหนังสือ เส้นผมสีเงินพลิ้วไปตามสายลมอ่อนๆ ถึงแม้จะมีเพียงความเงียบเชียบ แต่ภาพของโกคุเดระที่เดินอยู่เบื้องหน้ากลับทำให้หัวใจรู้สึกอบอุ่น


ถึงแม้จะเงียบเชียบ แต่เขาก็ไม่ได้เดินอยู่คนเดียว...


มือใหญ่เอื้อมไปดึงแขนเล็กเอาไว้ก่อนที่ร่างบางจะหันกลับมา...โกคุเดระไม่ได้ทำหน้าเห็นใจหรือสงสารในความพ่ายแพ้ของเขา....นัยน์ตาสีมรกตคู่นั้นยังคงแข็งกร้าวดังเดิม...นัยน์ตาและใบหน้าที่ไม่ว่าจะมองอีกกี่ครั้งมันก็ทำให้เขามีกำลังใจที่จะลุกขึ้นสู้....แค่ได้มองใบหน้าของโกคุเดระ....ความท้อแท้และเหนื่อยล้าก็ราวกับว่าจะหายไปทั้งหมด


ขอแค่ฉันได้เห็นหน้านาย.....
ขอแค่คนที่ยืนอยู่ข้างกายคือนาย....


ร่างสูงดึงร่างบางให้เดินตามมานั่งลงด้วยกันที่ริมแม่น้ำ แสงแดดยามเย็นส่องกระทบผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับ


“ นัดหน้า....ถ้าแพ้อีกก็คงหมดลุ้นแชมป์ปีนี้...ปีสุดท้ายของการเล่นเบสบอลของฉัน....”        ใบหน้าคมเหม่อมองไปข้างหน้า นัยน์ตาสีเปลือกไม้ไม่ได้จับจ้องอยู่ที่ใดเช่นเดียวกับคำพูดที่ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการพูดลอยๆให้คนข้างๆฟัง


“ .................”       ร่างบางที่นั่งฟังเงียบๆขยับตัวเข้ามาใกล้ก่อนที่ใบหน้าสวยจะเอนซบมาที่หัวไหล่ของร่างสูง นัยน์ตาสีเปลือกไม้ชักกลับมามองที่หัวไหล่ก่อนที่จะเผยยิ้มอบอุ่น...โกคุเดระกำลังปลอบโยนเขาด้วยท่าทางที่คงเลียนแบบมาจากอุริละมั้ง...


“ มันยังไม่หายดีใช่ไหมล่ะ....มือของแกน่ะ...”      ผลกระทบจาการจับดาบเพื่อวองโกเล่ที่เพิ่งจบลงเมื่อไม่นานมานี้เอง ถึงแม้ภายนอกจะไม่เป็นอะไรแล้ว แต่เอ็นข้อมือของยามาโมโตะก็ยังไม่สามารถที่จะขยับได้ตามใจเช่นแต่ก่อน       “กว่าจะถึงนัดหน้า แกยังมีเวลาพักให้มันหายนี่ แล้วตอนนั้นถ้าแกยังแพ้อีกก็ถือซะว่าเป็นความงี่เง่าของแกเอง”      ถึงแม้ว่าคำพูดคำจาจะเลาะร้ายแต่มือบางที่สอดประสานมาที่มือใหญ่นั่นมันทำให้รู้สึกตรงข้าม


“ ฮะฮะ นั่นสิน้า....”       ตั้งแต่ที่เสียงนกหวีดจบลงจนกระทั่งถึงตอนนี้ ใบหน้าคมเพิ่งจะยิ้มออกมาจากหัวใจได้เป็นครั้งแรก  กลิ่นหอมอ่อนๆจากกลุ่มผมสีเงินค่อยๆดึงดูดให้ใบหน้าคมขยับเข้าไปกดจูบก่อนจะแนบใบหน้าเอาไว้กับศีรษะที่ซบอยู่ที่ไหล่ของตน


สายตาทั้งสองคู่มองตรงไปยังพื้นน้ำเบื้องหน้า ปล่อยให้หัวใจซึมซับคำปลอบโยนและความอบอุ่นซึ่งกันและกัน จวบจนใบของต้นสึบากิที่ลอยตามน้ำมาเอื่อยๆค่อยๆลับสายตาไป...มันเริ่มมาจากที่ไหนและจะไปจบลงที่ใดนั้นไม่เคยรู้เลย....เรื่องที่รู้มีเพียงสิ่งเดียว คือ เราสองคนอยู่ด้วยกันเสมอ...


มือของฉันกับมือของนาย...
ไม่เคยห่างหายไปจากกัน....











พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้ามานานแล้ว ร่างสองร่างที่เฝ้ามองแสงสีแดงค่อยๆหายไปละออกจากกันอย่างช้าๆ ร่างบางเป็นฝ่ายลุกขึ้นก่อนแล้วยื่นมือมาให้ร่างสูง


ร่างทั้งสองเดินเคียงคู่กันไป จากแสงสลัวๆของไฟข้างถนนที่โดดเดี่ยวค่อยๆระยิบระยับขึ้นเรื่อยๆเมื่อทั้งคู่ใกล้เข้าไปยังย่านร้านค้าที่ต่างประดับประดาร้านต้อนรับวันแห่งความรัก


“ พิซซ่า!


“ วาเลนไทน์นะ...ไม่กินอะไรที่มันเข้ากับบรรยากาศหน่อยล่ะ?”      ร่างที่เดินเคียงข้างกันมาจากริมฝั่งแม่น้ำกำลังถกเถียงกันเรื่องอาหารเย็นที่ร่างบางเห็นสมควรว่าน่าจะหาอะไรกินจากข้างนอก เพราะซูชิควรจะเป็นอาหารที่เอาไว้ฉลองชัยชนะให้เขามากกว่าวันที่พ่ายแพ้มาอย่างนี้


“ แกจะให้ชั้นกินช็อกโกแลตเป็นอาหารเย็นหรือไง?!       ถึงจะเถียงไปก็แค่นั้น เพราะร่างบางเดินนำลิ่วๆเข้าไปในร้านพิซซ่าที่ดูจะร้างไร้ผู้คนในค่ำคืนที่แสนโรแมนติกอย่างนี้ ใบหน้าคมอมยิ้มอยู่เบื้องหลัง ตอนนี้เขาไม่รู้สึกท้อแท้เพราะความพ่ายแพ้นั่นอีกแล้ว


มีสิ่งที่ฉันต้องการจะทำ...
นั่นคือการที่จะเดินไปอยู่ข้างๆนายให้ได้ตลอดเวลา
และฉันคงจะหยุดอยู่กับความพ่ายแพ้ใดๆไม่ได้


“ เพราะวันนี้มีแข่งเลยไม่ได้หาช็อกโกแลตให้นายเลย”      ยามาโมโตะเท้าคางมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามที่ยังคงกรอกตาอยู่กับเมนูตรงหน้า


“ วันนี้ชั้นว่างมาก แต่ก็ไม่คิดจะให้ช็อกโกแลตแกหรอก”       มือบางกวักมือเรียกพนักงานด้วยดวงตาเป็นประกาย คงจะเจออะไรในเมนูนั่นละสิ...


“ ฮะฮะฮะ...”      โกคุเดระกลับมาเป็นโกคุเดระที่ปากไม่ตรงกับใจตามเดิม เช่นเดียวกับเขาที่กลับมายิ้มได้เหมือนเดิม  นัยน์ตาสีเปลือกไม้จับจ้องไปที่ใบหน้าสวยซึ่งหันไปตั้งหน้าตั้งตาสั่งอาหารแกมข่มขู่พนักงานไปในตัว......แค่ได้มองก็ราวกับพลังใจที่เหือดหายไปจะค่อยๆกลับคืนมา...


“ จะมองอีกนานไหมฟะ!       นัยน์ตาสีมรกตตวัดกลับมาพร้อมด้วยฝ่ามือบางที่สับลงมาที่หัวของร่างสูง นัยน์ตาสีเปลือกไม้ปิดลงพร้อมกับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ภาพตรงหน้ายิ่งทำให้ใบหน้าสวยแดงระเรื่อ มือบางเผลอกระชับกระเป๋านักเรียนโดยที่ไม่รู้ตัว.....เพราะที่จริงแล้วในนี้น่ะมี......


สิ่งที่ฉันต้องการจะมอบให้...
สิ่งที่นอกจากร่างกายและหัวใจ...
สิ่งที่นายจะยิ้มได้เมื่อมองเห็นมัน...
และนั่นคือสิ่งที่ฉันอยากจะเห็น....


“ หน้าแดงนะ...โกคุเดระ...”       เสียงทุ้มเอ่ยออกมาพร้อมๆกับมือใหญ่ที่ยื่นมาลูบที่แก้มใส ปลายนิ้วยาวที่สัมผัสลงมานั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยนจนอยากจะหลับตาแล้วปล่อยให้จิตใจล่องลอยไปตามความอบอุ่นที่ได้รับ


“ ตรงนี้ก็แดง......”       ปลายนิ้วลากไล้จากแก้มใสมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปาก นัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นมองมายังใบหน้าสวยด้วยความหลงใหล นัยน์ตาสีมรกตเอียงอายที่ราวกับกำลังซุกซ่อนอะไรไว้ยิ่งทำให้หลงรัก


เสียงฝีเท้าแว่วเข้ามาทำให้จำต้องละออกจากกัน มื้ออาหารผ่านไปอย่างเชื่องช้าท่ามกลางบรรยากาศที่ราวกับปุยนุ่น....อบอุ่น...ละมุนละไม....











ร่างสองร่างเดินไปตามทางเพื่อที่จะกลับบ้าน....หากแต่วันนี้กลับมีสิ่งที่ต่างออกไปจากทุกวัน....บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักของคนรอบกาย ทั้งผู้คนที่ต่างจับมือเดินกันมาเป็นคู่ๆ ทั้งย่านร้านค้าที่ต่างประดับประดาไปด้วยสิ่งของที่บ่งบอกว่าวันนี้คือวันแห่งความรัก


นัยน์ตาสีเปลือกไม้เหลือบมองร่างกายบางที่เดินอยู่ข้างๆ  ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงกลางเดือนสองแล้วแต่อากาศก็ยังคงหนาวอยู่ และดูเหมือนว่าโกคุเดระก็กำลังสั่นระริกจากสายลมเย็นที่พัดมาต้องกาย


มือใหญ่ดึงแขนเล็กให้ร่างบางหลบเข้ามาที่ข้างทางก่อนที่เขาจะวางกระเป๋าลง  เสื้อวอร์มของชมรมถูกถอดออกจากไหล่กว้างก่อนจะไปคลุมลงที่ไหล่บาง ใบหน้าสวยก้มลงมองเสื้อตัวใหญ่ที่ไหล่ตกไปเกือบคืบ


กลิ่นเหงื่อคละเคล้าไปกับไออุ่นที่ทำเอาใบหน้าสวยร้อนผ่าว และเมื่อเงยขึ้นมาก็สบกับนัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่จับจ้องมองมาด้วยสายตาอ่อนโยน จนเผลอก้มลงไปอีกครั้งด้วยใบหน้าที่ร้อนมากกว่าเก่า


ความอ่อนโยนของสายฝนกำลังทำให้สายลมเขินอาย...


ใบหน้าสวยเสไปอีกด้านก่อนที่จะก้าวเดินตามร่างสูงที่เดินอมยิ้มนำไปข้างหน้า แผ่นหลังกว้างที่มองเห็นนั้นสวมเพียงเสื้อยืดสีขาวตัวเดียว นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองที่ไหล่กว้างทางด้านหลัง ไล่ลงมาที่แขนแข็งแรงจนมาหยุดลงที่มือใหญ่ที่เคยมอบความอบอุ่นให้เขานับครั้งไม่ถ้วน


ร่างบางขยับขาเดินให้ทันร่างสูง ก่อนที่มือบางซึ่งปลายนิ้วโผล่ออกมาจากแขนเสื้อวอร์มเพียงเล็กน้อยจะค่อยๆสอดเข้าไปจับไว้ที่มือใหญ่แล้วดึงให้มันเข้ามาอยู่ภายในกระเป๋าเสื้อวอร์มที่ตนสวมอยู่  ใบหน้าคมหันมามองด้วยความแปลกใจก่อนจะอมยิ้มไปกับใบหน้าสวยแดงระเรื่อที่ยังคงเสไปมองอย่างอื่น


เพราะนายน่ารัก....ฉันจึงไม่เคยจะหยุดรักนายได้เลย...


ร่างสูงหยุดลงที่หน้าสนามเด็กเล่นซึ่งอยู่ไม่ห่างจากอพาทเม้นต์ของโกคุเดระ...เสียงเสียดสีของสายลมกับเครื่องเล่นทำให้ใบหน้าสวยหันเข้าไปมอง....ชิงช้าสองตัวซึ่งไร้เงาคนเล่นกำลังขยับไหวไปตามสายลมน้อยๆ ร่างสูงตรงดิ่งเข้าไปราวกับเด็กๆที่เห็นของเล่นเป็นไม่ได้ ร่างบางจึงถูกดึงเข้าไปด้วยกัน


ไหล่บางถูกสองมือใหญ่จับให้ยืนหันหน้าเข้าหากัน ก่อนที่ร่างสูงจะทรุดนั่งลงไปที่ชิงช้าตัวหนึ่ง สองมือใหญ่เลื่อนจากไหล่ลงมาจับที่มือบาง ใบหน้าคมเงยมองไปที่ใบหน้าสวยแดงระเรื่อที่ยังคงก้มหน้าก้มตาไม่ยอมมองเขาตรงๆ


มีอะไรจะให้ฉันไม่ใช่หรอ?       และเมื่อคำพูดหลุดออกไป นัยน์ตาสีมรกตก็เบิกกว้างอย่างพิศวง


ระ รู้ได้ไง...ไม่สิ...ไม่มีอะไรจะให้...ระ...หรอกเฟ้ย....       ดูเหมือนใบหน้าสวยจะแดงหนักกว่าเก่า และเขากลับชอบที่จะมองมัน...ใบหน้าของโกคุเดระที่ถูกเขาต้อนจนเขินอาย


ใบหน้าของนายที่แม้แต่สึนะก็ไม่เคยได้เห็น....


คิดว่าฉันเฝ้ามองนายมานานแค่ไหนกันโกคุเดระ...นัยน์ตาลุกลี้ลุกลนที่เหมือนกำลังซ่อนอะไรอยู่ของนายคิดว่าฉันจะดูไม่ออกหรือไง      ใบหน้าคมยังคงยิ้มสบายๆ ต่างจากอีกคนที่เริ่มหันไปหันมาราวกับหาตัวช่วย แต่ก็ไม่อาจหนีไปไหนหรือทำร้ายร่างกายคนตรงหน้าแล้วชิ่งไปได้ เพราะว่ามือบางทั้งสองข้างโดนจับเอาไว้


ใบหน้าสวยก้มลงก่อนจะเรียกกำลังใจแล้วเงยหน้าขึ้นมาด้วยความมุ่งมั่น มือใหญ่จึงยอมปล่อยมือบางออกแต่โดยดี


ยะ....หยิบ......ของให้หน่อย....       ร่างบางก้มหน้าก้มตายื่นกระเป๋านักเรียนมาให้ร่างสูง ใบหน้าคมอมยิ้มอย่างรู้ทัน แต่ก็อยากจะรู้เช่นกันว่าคนตรงหน้าจะให้เขาด้วยวิธีไหน


หยิบอะไรล่ะ กระเป๋านายนี่มีของเพี้ยบเลยนะ       ใบหน้าคมจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยที่ยังคงก้มเอาๆ


กะ ก็....ชะ....ช็อก.......       นอกจากใบหน้าที่แดงกล่ำ ร่างบางยังพูดจาตะกุกตะกัก


ช็อก...?


โว้ยยยย!   สีชอล์กน่ะ สีชอล์ก!!! หยิบๆไปเซ่!!!”         แล้วก็ดูเหมือนคนสวยขี้อายจะตบะแตกไปแล้วเรียบร้อย ใบหน้าแดงกล่ำเงยขึ้นมาตะโกนใส่เขาปาวๆราวกับกลับมาเป็นโกคุเดระขาวีนคนเดิม


ฮะฮะฮะ....นายซื้อสีชอล์กให้ฉันหรอ?       ใบหน้าคมหัวเราะร่าเริงกับความน่ารักและปากแข็งของอีกฝ่าย มือใหญ่ล้วงลงไปหยิบกล่องสี่เหลี่ยมแบนๆซึ่งห่อเอาไว้อย่างสวยงามด้วยกระดาษสีแดงสด


โกคุเดระ...        มือใหญ่ข้างหนึ่งโอบรอบเอวบางให้ขยับเข้ามาใกล้ส่วนมืออีกข้างโน้มต้นคอของร่างบางให้ใบหน้าสวยขยับเข้ามารับจุมพิตที่อ่อนหวาน ริมฝีปากทั้งสองแนบชิดซึ่งกันและกันอยู่เนิ่นนาน


ขอบคุณนะ....       และเมื่อใบหน้าละออกจากกัน ยามาโมโตะยังคงเงยหน้ามองใบหน้าสวยแดงระเรื่ออยู่แบบนั้น....ไม่ว่าจะอีกนานแค่ไหนแต่เขาก็ไม่เคยเบื่อกับการได้เฝ้ามองใบหน้าของโกคุเดระ


อะ...อื้อ      นัยน์ตาสีมรกตช้อนขึ้นจากพื้นมามองเล็กน้อยก่อนจะหลบไปอีกด้วยความอาย แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากจะเห็น...ใบหน้าที่ยิ้มแย้มและนัยน์ตาที่สะท้อนแต่ภาพของฉันของแก


กลับบ้านได้แล้ว....        ร่างบางดึงมือออกแล้วหันหลังเดินนำออกไป ร่างสูงได้แต่ลุกขึ้นจากชิงช้าแล้วเดินตามไป....แน่ใจได้เลยว่าป่านนี้โกคุเดระคงกำลังอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีอยู่แน่ๆ


ว่าแต่สีชอล์กของนายนี่กินได้เปล่าอ่ะ โกคุเดระ      ร่างที่เดินอยู่ข้างหลังยื่นหน้าเข้ามาถามที่ข้างใบหู มือบางเลยเผลอฟาดลงไปที่ไหล่กว้างทั้งกระเป๋า


สีชอล์กบ้านไหนกินไม่ได้ฟะ! แกหาว่าฉันทำไม่ได้เรื่องงั้นหรอ!! นี่แน่ะๆๆ!!!”        ทั้งๆที่มีกระเป๋าจากร่างบางไล่ฟาดอยู่แต่คนโดนฟาดก็ยังคงวิ่งหลบทั้งใบหน้ายิ้มแย้ม เพราะสิ่งที่หลุดออกมาจากปากของคนฟาดนั่นแหละ


ฉันไม่สามารถจะหยุดรักนายได้จริงๆด้วย โกคุเดระ....







เงาร่างทั้งสองหยุดหอบหายใจอยู่ที่หน้าบันไดทางขึ้นอพาทเม้นต์ของโกคุเดระ มือบางถอดเสื้อวอร์มส่งคืนให้ร่างสูงก่อนจะหันมามองเล็กน้อยแล้วค่อยๆเดินขึ้นบันไดไปท่ามกลางสายอ่อนโยนที่จับจ้องทุกการก้าวเดินของคนที่เป็นดั่งหัวใจ


โกคุเดระ!”       แต่ก่อนที่ร่างบางจะเดินขึ้นไปจนสุดปลายบันได เสียงตะโกนจากด้านล่างก็ดังขึ้นเรียกใบหน้าสวยให้หันไปมอง.....ใบหน้าคมยืนส่งยิ้มกว้างอยู่ที่บันไดชั้นล่างสุด....รอยยิ้มอบอุ่นที่ราวกับจะห่อหุ้มร่างกายและหัวใจของเขาเอาไว้.....




Sukidayo…”





ไม่สิ....สำหรับนายแล้ว.....








….aishiteru……”






ใบหน้าสวยแดงระเรื่อขึ้นทันที นัยน์ตาสีมรกตสั่นพร่าก่อนที่จะยิ้มออกมาจากหัวใจ....ริมฝีปากสีสดขยับน้อยๆถึงจะไม่มีเสียงแต่ก็รับรู้ได้ว่ามันคือ....คำพูดเดียวกัน





.......aishiteru……






.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.



Story never End….







ฟิกวาเลนไทน์ที่แท้จริงมันคือเรื่องนี้ค่ะ ฮ่าๆๆๆ ก่อนหน้านั้นต้มให้เปื่อยเล่น กร๊ากกกก (โดนโบก!)

แบบว่าอยู่ดีๆก็เกิดอยากแต่งฟิกหวานๆอ่านแล้วอบอุ่นหัวใจบ้าง เพราะรู้สึกว่าหมู่นี้ตัวเองจะแต่งฟิกมืดมนติดกันมาหลายเรื่อง = =” อยากจะเขียนความรู้สึกอย่างเดียวเนื้อเรื่องไม่เกี่ยวดูบ้าง แบบว่ามีแต่ฉากเบาๆไม่มีอะไรให้ต้องคิดมากมาย  ที่จริงแล้วน่ะ ข้าพเจ้าชอบแต่งฟิกแนวนี้มากถึงมากที่สุดค่ะฮ่าๆๆ

ส่วนแรงบันดาลใจของฟิกเรื่องนี้มาจากเพลง aru ga mama เพลงจบที่สองของเรื่อง Nabari no ou ค่ะ (มันก็ยังอุตส่าห์ลากมา 8059 ได้อีก = =) .....ขอแค่นั้นแหละ...ก็แค่นั้นแหละ....เป็นเพลงที่ฟังแล้วอบอุ่นปนโหยหายังไงไม่รู้....ภาพแรกที่นึกถึงคือก๊กกับยามะนั่งหันหลังชนกันอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวแล้วแหงนมองท้องฟ้าอยู่ด้วยกัน....อะไรแบบนี้เลยอ่ะ >////< เพราะงั้นก็เลยอยากแต่งฟิกอบอุ่นๆมองไปทางไหนก็มีแต่เราสองคน ^ ^


อ้า....ชอบอ่ะ....>w<....


และตอนนี้ก็กำลังสครีมอย่างหนักกับ ReboCon Red and Blue อยู่ค่ะ แบบว่าคุณอิจิ(59)ใส่แว่นน่ารักโฮกไม่ไหวแล้วววว แถมคุณอิจิ(59)กับคุณอิโนะ(80) ยังเซอวิส 8059 ได้แบบโฮกฮากมากกกกก ดูไปสครีมไปจนแทบจะหมดแรงอยู่แล้วเนี่ยค่ะ ^ ^ ใครหาในยูตูบไม่เจอหลังไมค์มาถามได้นะคะ  แอบแปะสองอัน ครึ ครึ แต่ไม่รู้จะโดนลบเมื่อไหร่นะ ยังไงก็รีบๆกันหน่อยละเน้




เพราะคอนนี้....ทำให้รู้ว่า...เสียงคุณอิโนะเหมือนเสียงน้องหลามได้อีก ฟังแล้วโฮกมากกกกกก.....คนพากย์บาจิลน่าร้ากกกกกกกกกก.....คุณอิจิเป็นเนโกะจัง(?)ที่น่ารักที่สุดในโลก โฮกกกก.....และ....Tatta Latta ก็สามารถเป็นเพลงที่เถื่อนที่สุดในโลกได้ ฮ่าๆๆๆๆ สุดยอดมากกกก คิดได้ไงให้พวกชายโฉดโหดเถื่อนอย่างวาเรียมาร้องเพลงของพวกฮารุ เคียวโกะ อี้ผิง หนูโคลม เนี่ย55555+ ฟังครั้งแรกนี่ขำจนไม่รู้จะขำยังไงได้อีกอ่ะ ชอบมากกกกกก

ยังมีให้สครีมอีกมากมาย แนะนำให้ไปหามาดูกันเน้ แล้วคุณจะหลงรักนักพากย์ของรีบอร์น แต่ละคนสุดยอดมากๆอ่ะขอบอก >w< ถ้าให้เล่าให้ฟังนี่สามวันก็ไม่จบ ฮ่าๆๆ

และ...

Mirai no Oozora E จะเพราะไปหน๊ายยยยยยย โฮกกกกกกกกกก ขอสครีมหน่อย ชอบทั้งสองเวอร์ชั่นเลยอ่ะ ทั้งแบบปกติและแบบแมนๆที่ใช้ร้องใน Blue ....ใครยังไม่รู้ เพลงนี้คือเพลงที่ร้องรวมอีกเพลงของเรื่องรีบอร์นค่ะ ออกมาซักพักนึงแล้วแหละแต่ข้าพเจ้าเพิ่งรู้ ^ ^” 

โฮกฮาก ขอไปสครีมรีโบะคอนต่อก่อนละเน้....แล้วพบกันใหม่ค่า.....










6 ความคิดเห็น:

  1. กรี๊ดดดดดดดดๆๆๆๆ อยากจะกรี๊ดดดคอมโบแบบน็อนสต๊อปปุ ??
    คนอ่านรู้สึกอบอุ่นอ่อนหวานนเหมือนบรรยากาศรอบๆตัวตอนนี้เบาๆแบบปุยนุ่น
    ยิ้มแป้น เลยอ่าาาา อ่านก่อนนอน ช่างมีความสุขอะไรแบบเน้
    คืนนี้ฝันดีแน่ๆค่ะ ฮะฮะ

    เริ่มเรื่องมาแบบน่าสงสารยามะนิดหน่อย แหม ยามะเอ้ยคนเราก็ต้องมีแพ้มีชนะเน๊อะ
    ได้คนข้างอย่างก๊กช่วยปลอบใจมันน่าอิจฉาอ่าา XD

    all the love in the world << โลกของสองคนคงจะประมาณนี้ อร๊ายยย
    มาส่งแค่ทางขึ้นบันได บอกรักแย้วก็เนียนขึ้นห้องไปเลยเซ่ // บอมสองเท่า

    ่อ่านฉากไหนๆก็น่าร๊ากกกกก สรุปว่าสีชอล์กบ้านก๊กนี่กินได้ใช่มั้ยคะ?? กร๊ากกกก
    อืมมม ซึนมิเปลี่ยนแปลงแบบนี้สิก๊กตัวจริง ^^


    “ เพราะวันนี้มีแข่งเลยไม่ได้หาช็อกโกแลตให้นายเลย”
    “ วันนี้ชั้นว่างมาก แต่ก็ไม่คิดจะให้ช็อกโกแลตแกหรอก”
    ประโยคโต้ตอบของสองคนด้านบนนี้ชอบอ่าาา โดน ฮ่าฮ่า
    แบบว่าก๊กกวนโอ๊ยได้ใจ น่าร๊ากกกกก อ๊ากกกก

    อ่านแบบช้าๆ ซึมซับเข้าสู่หัวใจ หัวใจได้รับความอบอุ่นเรียบร้อยแล้วค่ะ ฮิ้วววว
    ฟิควาเลนไทน์ตัวจริง!! << ฟิคนนี้เหมาะสมม๊ากกมากกกค่ะ
    เรื่องก่อนหน้าที่ผ่านมาแค่เรียกน้ำย่อยสินะคะ คึหึหึ

    ถ้าให้โยงบางฉากบางตอนก็นึกถึง มิฮารุโยอิเทะจริงๆนั่นละน๊าาา
    โหยหากันตลอดอ่ะ อบอุ่นแบบโหวงเหวง แต่ยังรู้ว่าเข้าใจกันอยู่ข้า้งๆกันเสมอ
    โฮกกกกกกกกก ประทับใจค่ะ

    สครีมรีโบคอนกันอีกรอบดีมั้ยค่ะ // กร๊ากกกกกก
    เซอร์วิสสกันทุ๊กกกคนน แฟนๆ แม่ยก จะละลาย เป็นคอนฯสำหรับแฟนจริงๆค่ะ
    อิจฉาคนที่ได้ไปดูจังเลยยย ว่าแต่คุฟุฟุ จะร้องหลายคนหลายรอบจริงๆน๊าา
    ยืนยันอีกเสียงว่า โนคอนโทรลเวอร์ชั่นก๊กบาจิล น่าร๊ากกกกมากกกกกถึงมากที่สุด!!

    ปล.เซรามิคนั่นสินะคะ โฮ่ แอบมีลูกเล่นน่ารักๆ แล้วจะเอาไปประกอบตรงไหนของบ้านค่ะ หรือจะบ้านเลขที่ 80/59 กร๊ากกก << ถ้าได้จริงๆก็คงกรี๊ดดสลบแน่ๆ ใช่ม๊า

    ตอบลบ
  2. อ๊ากกกกก มันหวานมาก ๆ ค่ะ น่ารักสุด ๆ
    อ่านไปยิ้มไปแก้มแทบแตก แต่ละฉากมันช่างน่ารัก อบอุ่นจริง ๆ

    ตอบลบ
  3. สนองวาเลนไทน์ปีนี้สินะเคอะ

    ถ้าให้เดาเนื้อเรื่องนี้เป็นตอนหลังจากที่ยามะแขนหักรึเปล่าเอ่ย เล่มแรกๆเลยนะ แล้วเอาเวลาไหนไปจีบกันฟระ หรือว่าตอนปัจจุบัน เอ...ก็เห็นมันออกมาวาดลวดลายได้แล้วนี่ ลิเกกว่าเดิมอีก กร๊ากกกก

    เมื่อวานจัดหนังสือเห็นเรื่อง If I เลยเอามานั่งอ่านซะหน่อย ได้บรรยากาศคล้ายๆเรื่องนี้เลย ไม่ต้องพูด ไม่ต้องปลอบ ก็เข้าใจกันได้ อิยามะได้เป็นกับตันหรือ งั้นก็คงปีสามสินะ งั้นที่เดาแรกๆมันก็ผิดน่ะสิ แอบคิดนะคะว่าโกคุนี่หยั่งกะภรรยาที่รู้ใจสามีไปซะหมดจริงๆ ไล่ต้อนสึนะกลับบ้าน แล้วแอบมาปลอบคนเดียว อิยามะก็แม่งเนียนเชียวมีโอบกันด้วย หรือว่ามันแกล้งแพ้วะ แกหลอกใช้ประโยชน์จากก๊กของช้านชิม้อยยยยยยยยยยย

    “ เพราะวันนี้มีแข่งเลยไม่ได้หาช็อกโกแลตให้นายเลย” ค่ะ รู้ค่ะว่าแกต้องแกล้งพูดเพื่อจะหลอกถามลูกรักของอิชั้นเพราะแกอยากให้เค้าเตรียมช๊อกโกแลตให้ โอ๊ยยย อยากเข้าไปตบกะโหลกสมองนิ่มๆนั่นให้แตกโพละจริงๆ แกรู้สินะ ไอ้เนียน แกรู้ว่าเค้ามีช๊อกโกแลตให้แกอ่ะ อิบ้า อ๊าก อิจฉา เออ ช่างมัน

    โอววววว โกคุทำเองเลยเหรอ ให้มันมากไปรึเปล่า มีความรู้สึกว่าเดี๋ยวมันจะวิ่งกลับเข้าห้องเพื่อสร้างฉากเอ็นและซีแน่ๆ อย่าน๊า อิยามะมันจะใช้ประโยชน์จากความน่าสงสารของมันอ๊าลูกก๊ก ระวังไว้ววววววววว







    (และแล้วก็ถูกหิ้วปีกหนีออกไปอย่างรวดเร็ว)

    ตอบลบ
  4. อ่านแล้วแอบสงสัยว่าไอ้ฟิคอบอวลสีชมพูๆนี่มันเป็นฝีมือคนแถวนี้แน่ะหรือ?????
    ก็ปกติเห็นแต่เอะอะก็ดราม่าๆเคล้าน้ำตา คุณมุตายทูน่าชั่วไรงี้ (โดนพี่กวางตบกระเด็น)

    ทั้งสองคนนั้นน่ะ โลกมันมันมีแค่เราสองแถมยังอยูในห้วงรักแบบไม่เกรงใจใครเกินไปแล้วนะ
    แล้วยามะน่ะ..นี่แกแข่งแพ้แน่หรอ ..แน่ใจนะว่าแพ้ ...
    หรือว่าแกล้งแพ้เพื่อให้อีกคนปลอบ....(ขยี้หัววิตกกังวล)
    ว่าแต่....สีชอล์กแกสองคนน่ะเซ่กินได้!!!!


    เขาว่าความรักทำให้คนตาบอด...


    อือ..


    ท่าจะจริง....

    ตอบลบ
  5. เฮ้อ!!!~ มาเม้นเอาตอนนี้จะยังทันรึเปล่านะ
    อ๊ากกกกกกกก หวานมากเลยค่า!!!

    ชอบจังเลยเรื่องแนวๆนี้ พออ่านแล้วรู้สึกเหมือนกับว่าก๊กคุงกับยามะสามารถสื่อความรู้สึกถึงกันได้ยังไงก็ไม่รู้นะค้ะ
    มันมีอะไรบางอย่างเชื่อมโยงสองคนนี้เอาไว้
    อ่านแล้วหายหนาวเลยล่ะค่ะ(เว่อร์ไปล้ะ)
    แหม...ก็ฟิคที่คุณ waketsu แต่งเรื่องนี้มันให้ความรู้สึกอบอุ่นบอกไม่ถูกเลยนี่ค้ะ

    ส่วนที่ชอบที่สุดของเรื่องนี้ก็คงจะเป็นตอนสุดท้ายล่ะค่ะ
    ตรงที่...
    ใบหน้าสวยแดงระเรื่อขึ้นทันที นัยน์ตาสีมรกตสั่นพร่าก่อนที่จะยิ้มออกมาจากหัวใจ....ริมฝีปากสีสดขยับน้อยๆถึงจะไม่มีเสียงแต่ก็รับรู้ได้ว่ามันคือ....คำพูดเดียวกัน
    .......aishiteru……
    อ๊ากกกกกก มันน่ารักมากๆเลยค่า!!!!!
    ที่แท้กล่องช๊อคก็คือช๊อคโกแลตนี่เอง
    ก๊กคุงนี่ซึนจริงๆเลยน้า......

    เป็นฟิคอีกเรื่องที่ชอบแล้วก็ประทับใจมากๆเลยค่ะ
    8059 สุดยอด banzai~!!!

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ2 สิงหาคม 2566 เวลา 08:34

    หวานมากกกก ตอนแรกซึมไปแล้ว นอยตามทาคาชิ สงสารน้อง พอมาเจอเจ้าก๊กเท่านั้นแหละ ความหวานฟุ้งมากกก หวานตัดขาา

    ตอบลบ