KHR Au.fic [185980] ความหวังครั้งสุดท้าย : 08


: KHR Fanfiction Au
: 185980  1006927  XSD
: Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ


ตอนคิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็แค่อยากอ่านฟิคที่มีสองด้าน ก็แค่นั้นเองค่ะ เพราะงั้น....นี่คือ ฟิคคู่แฝดค่ะ.....เรื่องราวที่เกิดขึ้นเหมือนๆกัน แต่ความรู้สึกนั้นช่างต่าง......พบกับอีกด้านของเรื่องนี้ได้ที่......


[AuFic][805918] The Last SNOWDROP....



.
.
.
.
.


สมการสามเส้า ของพวกเขาสามคู่

กับความรักของคน 9 คน กับความรู้สึกและเหตุผลของแต่ละคนใน 9 ด้าน

กับความต้องการและความปรารถนาที่จะครอบครองบุคคลอันเป็นที่รัก

สุดท้าย.......

ดอกไม้แห่งความหวังจะเบ่งบานแย้มยิ้มให้แก่....ผู้ใดกัน
 


By : K_Guardian_7

.
.
.
.
.
.
.
.





เจ้าต้องกลับไปกับข้า.....


.....ข้าไม่ให้เจ้าไป.......







ทำไมกัน.....ทำไมชีวิตของข้า ถึงไม่ให้ข้าเลือกเอง...ทำไมต้องเป็นพวกเจ้า ที่มากำหนดเส้นทางที่ข้าจะเดิน....






คมดาบที่ปลิดชีวิตคนมามากมายตวัดลงบนข้อมือบางอย่างไม่ลังเล เศษกิโมโนที่มัดข้อมือทั้งคู่อยู่ขาดสะบั้นลงพร้อมกับแขนข้างหนึ่งซึ่งถูกแรงมหาศาลดึงให้หันกลับไปข้างหลัง ใบหน้าคมที่เขาเฝ้ามองหามาตั้งแต่เช้ามีแววเย็นชาและโหดเหี้ยมไม่ได้แพ้อีกคนที่ยึดข้อมืออีกข้างของเขาอยู่



นัยน์ตาสีเปลือกไม้จ้องเขม็งอย่างไม่ลดละไปยังดวงตาสีดำสนิทซึ่งก็จ้องตอบกลับมาด้วยความชิงชัง ท่ามกลางบรรยากาศกดดันอันน่าอึดอัด เมื่อไม่มีใครคิดที่จะปล่อยมือ ไม่มีใครคิดที่จะถาม....ว่าเจ้าของข้อมือทั้งสองข้างนั้น....ต้องการที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าหรือว่าถอยหลังกลับมา



จิตสังหารที่ทั้งคู่ปล่อยออกมานั้นเต็มไปด้วยพลังมหาศาล ทั้งรุนแรงและกล้าแข็งด้วยความยึดมั่นว่าจะต้องช่วงชิงเอาสิ่งที่ตนรักกลับไปให้ได้....แต่ทว่า....



.....ข้าไม่ใช่สิ่งของ......



ยิ่งเวลาล่วงไปนานแค่ไหน รังสีแห่งการฆ่าฟันและจิตสังหารล้วนเพิ่มมากขึ้น แรงบีบที่ข้อมือจึงมากขึ้นเป็นเท่าทวีจนขึ้นสีแดงระเรื่อ แต่ชายทั้งสองหารู้ไม่...ว่าความเจ็บปวดทั้งหมดนั้นไปตกอยู่กับใคร....ถ้ามิใช่คนที่ตนรักและยินยอมทำทุกอย่างให้ได้มาคนนี้



....ข้าเจ็บ........     คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน เสียงนั่นทำให้ชายหนุ่มทั้งสองต่างยอมลดละ ความอ่อนโยนของแต่ละคนที่ซ่อนอยู่เผยออกมาทางสายตาที่มองมายังร่างบอบบางซึ่งอยู่ตรงกลาง มือใหญ่ทั้งคู่ยอมปล่อยข้อมือบางออกอย่างช้าๆ....




ความอ่อนโยนนี้ข้ามีไว้เพื่อเจ้าแต่เพียงผู้เดียว....

เพราะเจ้าคือคนเดียวที่จะสยบทุกๆอย่างของข้าได้....




แต่ถึงอย่างนั้น ข้าก็ไม่มีวันยอมสูญเสียเจ้าไป....

ใช่....ข้าไม่มีวันยอมปล่อยเจ้าไป....




ต่อให้ใช้จิตสังหารมากมายมากดดันกันแค่ไหน แต่ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าของแต่ละฝ่ายนั้นก็แข็งแกร่งเกินกว่าที่จะกลัวเกรง จึงเหลือเพียงหนทางสุดท้ายที่จะได้มาซึ่งดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ดอกนี้....มีแต่ต้องใช้กำลังแย่งมา!



ดาบในมือยามาโมโตะถูกปลดออกจากฝักอีกครั้งในจังหวะที่ทอนฟาของเจ้าของแผ่นดินสีดำฟาดลงมาอย่างรวดเร็ว ร่างกายแข็งแกร่งทั้งคู่ต่างกระโดดออกไปให้ไกลจากที่ที่นายน้อยแห่งโกคุเดระยืนอยู่ ร่างบอบบางที่มีท่าทีตื่นกลัวตะโกนร้องห้ามให้หยุด แต่คนทั้งคู่ก็ไม่คิดที่จะฟังเลยสักนิด อาวุธทั้งสองต่างปะทะกันจนเกิดประกายไฟ แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงและความปรารถนาอันแรงกล้าเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่รัก....



.....ข้าควรจะดีใจหรืออย่างไร ที่พวกเจ้ามาต่อสู้เพื่อข้าซึ่งอ่อนแอเช่นนี้.....



หยุดนะ!  ข้าบอกให้หยุดไง!!”     นายน้อยแห่งโกคุเดระยังคงตะโกนต่อไป ร่างบอบบางอยากจะวิ่งเข้าไปแทรกระหว่างชายสองคนนั่น แต่ก็ทำไม่ได้ เนื่องด้วยทั้งจิตสังหารและการต่อสู้ที่รวดเร็วรุนแรง ร่างกายทั้งสองต่างต่อสู้ห้ำหั่นและเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ต้นไม้ที่ต่างรายล้อมอยู่ถูกตัดขาดอย่างไม่ใยดี จนราบเป็นวงกว้าง



เวลาล่วงเลยผ่านไปนาน แต่คนทั้งคู่ก็ไม่ยอมลดละ เสียงดาบและทอนฟายังคงปะทะกันอยู่ตลอดเวลา ร่างกายของชายทั้งคู่ต่างมีบาดแผลและเลือดไหลซึมออกมา ความเหนื่อยล้าเริ่มมีปรากฏให้เห็น แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีฝ่ายไหนที่คิดที่จะหยุด



มือบางของผู้เฝ้าดูได้แต่ยกขึ้นมากอบกุมกันอยู่ที่หน้าอกด้วยความกังวล เขาไม่อยากให้ใครต้องมาบาดเจ็บล้มตายเพราะเขาอีกแล้ว ถึงแม้ว่าคนหนึ่งจะไม่เคยรู้จักแต่ก็รับรู้ได้ด้วยอะไรบางอย่างว่าชายคนนั้นคอยเฝ้าดูเขาอยู่มานานแสนนาน...แล้วยิ่งอีกคนคือคนที่ตนรัก....จึงยิ่งกลัวยิ่งกว่าครั้งใดๆ....กลัวว่าจะสูญเสีย กลัวว่าความตายจะมาพรากเราออกจากกัน



ได้โปรด....หยุดเถอะ....     ความกลัวและความกังวลถูกกลั่นออกมาทางหยาดน้ำตา ดวงตาทั้งสองข้างเริ่มพร่ามัว มือบางยกขึ้นเช็ดมันออกอย่างลวกๆ เพื่อจะได้กลับไปเฝ้ามองและร้องห้ามทั้งคู่ต่อ แต่นั่นทำให้มองไม่เห็นว่า มีกิ่งไม้ใหญ่กิ่งหนึ่งซึ่งโดนลูกหลงจากการต่อสู้ของคนทั้งคู่ กำลังจะร่วงหล่นลงมายังร่างบอบบางที่ยืนอยู่ไม่ไกล




ฮายาโตะ!!!”

โกคุเดระ!!!”




สองเสียงแห่งที่แข็งกร้าวต่างร้องออกมาพร้อมกัน เมื่อสายตามองเห็นว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น



ร่างสูงใหญ่ของยามาโมโตะที่อยู่ใกล้กว่ารีบพุ่งเข้าไปอย่างไม่ลังเล มือข้างที่ไม่ได้ถือดาบโอบรอบเอวบางก่อนที่จะออกแรงกระชากร่างบอบบางให้เข้ามาหาตัว ใช้แผ่นหลังกว้างของตนรับน้ำหนักทั้งหมดของกิ่งไม้ใหญ่ที่ร่วงลงมา



เมื่อทุกอย่างจบสิ้นลง ร่างกายสูงใหญ่ได้แต่ทรุดลงอยู่กับพื้น ท่ามกลางความตกตะลึงของนายน้อยแห่งโกคุเดระ....แต่การต่อสู้นั้นก็ยังมิได้จบลง....



ร่างเพรียวแข็งแกร่งของเจ้าของแผ่นดินสีดำเดินตรงเข้ามาพร้อมทอนฟาที่ยังคงอยู่ในมือ ดวงตาคมกริบสีดำสนิทคู่นั้นบ่งบอกว่าเอาจริง และจะไม่ยอมปล่อยให้ยามาโมโตะยังคงมีชีวิตอยู่ ร่างสูงใหญ่ที่ทรุดอยู่กับพื้นพยายามหยัดกายให้ลุกขึ้นด้วยดาบที่ปักลงไปยังพื้นดินของป่าสายหมอก ร่างทั้งร่างเริ่มจะสั่นเทา จากทั้งความเหนื่อยล้าของการต่อสู้มาเป็นเวลานานและแรงกระแทกที่เริ่มจะเจ็บแปลบบนแผ่นหลัง




.....แต่ถึงกายจะเจ็บเช่นไร คงมิอาจสู้เจ็บที่ใจเมื่อไม่อาจปกป้องคนที่รักได้.....

......ต่อให้ต้องตายอยู่ตรงนี้ เขาก็จะใช้ทุกอย่างที่มี ฉุดรั้งร่างบอบบางนั่นเอาไว้ให้ได้....




แต่ก่อนที่ร่างทั้งสองจะเข้าปะทะกันอีกครั้ง ร่างบอบบางที่เฝ้ามองอยู่ตั้งแต่ต้นก็กระโดดเข้ามาขวางเอาไว้ สองแขนยกขึ้นเพื่อป้องกันให้กับร่างสูงใหญ่ของยามาโมโตะที่ยืนอยู่เบื้องหลัง เรียกให้ดวงตาของคนอีกสองคนที่เหลือเบิกกว้าง



คนหนึ่งดีใจ....เพราะการกระทำนั้นได้บ่งบอกแล้วว่าร่างบอบบางคนนี้เลือกใคร

แต่อีกคนแทบหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง....




......แต่ข้าบอกเจ้าแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะรักมันหรือไม่ ข้าก็จะเอาตัวเจ้ากลับไป!.....




นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องลึกลงไปยังนัยน์ตาสีเขียวมรกตที่มองมาอย่างกล้าหาญ สองแขนเล็กๆยังคงขวางกั้นมิให้เขาก้าวเข้าไปทำร้ายคนที่อยู่เบื้องหลังอย่างไม่กลัวเกรง



ท่าน...ทั้งๆที่เราไม่รู้จักกัน เหตุใดท่านจึงต้องมาพาตัวข้ากลับไป...ท่านจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้กับเครื่องบรรณนาการทุกคนอย่างนั้นหรือ….”     นายน้อยแห่งโกคุเดระเอ่ยถามถึงสิ่งที่ค้างคาใจมาโดยตลอดกับชายที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ ถึงใบหน้าจะเย็นชาแต่สายตาที่มองมานั้นกลับทำให้คิดถึงสัมผัสที่เคยล้อมอยู่รอบๆตัวเขาเสมอมาได้อย่างน่าประหลาด



หึ...เจ้าแน่ใจหรือ...ว่าเราไม่รู้จักกัน    มือแกร่งจับลงไปที่ข้อมือบางข้างที่มีสร้อยหินสีดำแล้วกระชากมันมาตรงหน้านายน้อยแห่งโกคุเดระ



ถ้างั้นข้าจะบอกให้เจ้ารู้...ว่าข้า คือเจ้าของสร้อยเส้นนี้...และข้า...คือเจ้าของ ของเจ้า!”   นัยน์ตาสีเขียวมรกตเบิกกว้างกับถ้อยคำที่ได้ยิน กับประโยคแรกนั้นมิอาจทำให้ตกตะลึงได้เท่ากับประโยคหลัง คำว่า เจ้าของ นั้นหมายถึงสิ่งใดกัน



ข้า.....     เมื่อทุกอย่างที่ได้ฟังมานั้นกำลังประมวลอยู่ในหัวทำให้ร่างกายแข็งนิ่ง....จิ๊กซอว์ที่ขาดหายไปของเหตุการณ์เมื่อครั้งก่อนค่อยๆมาปะติดปะต่อจนเรื่องราวหลายๆอย่างที่เขาเฝ้าสงสัยมาตลอดว่าใครบางคนที่คอยดูแลเขาอยู่ในที่ที่มองไม่เห็นนั้นปรากฏเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา...เป็นชายคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า....คนนี้



ท่าน.....    



แต่ก่อนที่ทุกเรื่องราวจะเรียงร้อยจนครบถ้วน ร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหลังที่ไม่ยอมปล่อยให้มันเกิดขึ้นจึงตัดสินใจพุ่งตัวออกไป แล้ววาดดาบลงไปยังเจ้าของแผ่นดินสีดำ ทอนฟายกขึ้นมาอย่างรวดเร็วเพื่อรับความหนักหน่วงของคมดาบที่ฟาดลงมา  ใบหน้าสวยของนายน้อยแห่งโกคุเดระที่กำลังคิดคำนึงถึงเรื่องราวในวันเก่าๆแปรเปลี่ยนมาร้องเรียกทั้งสองอีกครั้ง เรื่องที่กำลังจะปะติดปะต่อถูกหยุดเอาไว้ ให้มาสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแทน



ด้วยความที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว แรงที่จะใช้รับดาบจึงยังมีไม่พอ ร่างเพรียวแข็งแกร่งเซถลาไปด้านหลัง ประกอบกับเท้าเหยียบลงไปยังก้อนกรวดเล็กๆจึงทำให้ลื่นไถล....ที่ด้านหลังคือหน้าผาที่มองไม่เห็นแม้แต่ก้นเหว....




มันไม่ได้โชคดีหรอก...แต่นี่คือสิ่งที่เจ้านั่นตั้งใจ.....




ก่อนที่เจ้าของแผ่นดินสีดำจะร่วงหล่นลงไปยังหุบเหว ทอนฟาข้างหนึ่งจึงเกี่ยวชายแขนกิโมโนของยามาโมโตะให้ล้มลงไปด้วย



ร่างทั้งสองร่างเซถลาออกไปนอกขอบเขตพื้นหินของหน้าผา เสียงกรีดร้องของนายน้อยแห่งโกคุเดระลอยแว่วเข้ามาในหู แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็รวดเร็วเกินกว่าจะหยุดหรือห้ามไม่ให้มันเกิดขึ้นได้ ดวงตาสีดำสนิทเหม่อมองไปที่ร่างกายบอบบางที่เฝ้าทะนุถนอมมานานแสนนานในขณะที่กำลังลอยคว้างอยู่กลางอากาศ....ข้าจะไม่เอ่ยคำว่าลาก่อน....เพราะว่าข้าจะไม่ยอมตาย...ไม่ยอมจากเจ้าไป....



เช่นเดียวกับใบหน้าคมของโจรป่าที่ช่วงชิงชีวิตของผู้อื่นมานักต่อนัก...นี่อาจจะเป็นสิ่งที่เขาวางแผนเอาไว้....แต่ถึงแม้ว่ามันจะมีผิดพลาดบ้าง แต่อย่างน้อยสิ่งเดียวที่ข้าไม่เคยเสียใจคือ......การที่ได้รักเจ้า.......





โฮ...ตา...รุ.....





คำสามคำที่ปากของยามาโมโตะตั้งใจขยับอย่างเชื่องช้าเพื่อให้ดวงตาสีเขียวมรกตที่จับจ้องอย่างตกตะลึงได้รับรู้ทุกถ้อยคำ.....หิ่งห้อย ?



ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของยามาโมโตะและร่างแข็งแกร่งของเจ้าของแผ่นดินสีดำจะร่วงหล่นลงไปในหุบเหวทั้งคู่ ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของนายน้อยแห่งโกคุเดระ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันรวดเร็วจนมิอาจห้ามอะไรได้ แว่วเสียงกิ่งไม้เสียดสีและเสียงสิ่งของหนักๆที่กลิ้งลงไปอย่างไร้จุดจบ.....ถ้านั่นเป็นเพียงแค่สิ่งของ....มิใช่ร่างกายของคนที่เขารัก....หยาดน้ำตาก็คงไม่ไหลลงมามากมายขนาดนี้...











ยามาโมโตะ!!!!!”










เสียงตะโกนก้องดังไปทั่วทั้งป่าสายหมอก ไม่ว่าจะร้องเรียกอีกสักกี่ครั้ง ก็ไม่มีเสียงใดๆตอบรับกลับมา ไม่มีแม้แต่เงาของร่างสูงใหญ่ที่ทำให้หัวใจแทบจะแหลกสลาย หรือแม้แต่.....สายตาที่มองไม่เห็นซึ่งเฝ้ามองเขาอยู่ตลอดเวลาคู่นั้น......มันก็ราวกับว่ากำลังจะหายไป....



ร่างบอบบางที่อ่อนระโหยโรยแรงเดินโซเซมาทรุดลงอยู่ที่ริมขอบเหว นัยน์ตาสีเขียวมรกตแทบจะมองอะไรไม่เห็น ทุกอย่างมันพร่ามัวไปหมด น้ำอุ่นๆไหลลงมาจากสองตาแต่ความรู้สึกมันด้านชาเพราะหัวใจมันเจ็บจนเกินจะเยียวยาได้อีกแล้ว....ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน สองมือเล็กวางบนแผ่นหินที่ยื่นออกไปยังอากาศไร้แผ่นดินรองรับ น้ำตาจากแก้มใสร่วงกราวลงไปยังก้นเหว...



ได้โปรด...



กลับมา.....



ขอแค่เจ้ากลับมา...ข้ายอมแลกกับอิสระที่ข้ามี....



ข้าจะยินดีรับพันธนาการทุกอย่างจากเขา....แค่เจ้ากลับมา...ยามาโมโตะ....



ไหล่บางสั่นสะท้าน เมื่อน้ำตาและเสียงสะอื้นมิอาจกลั้นได้อีกต่อไป ร่างทั้งร่างทรุดลงปล่อยโฮอยู่ที่ริมหน้าผา ราวกับว่ามันจบสิ้นแล้วซึ่งทุกสิ่ง....ไม่มีเจ้า คนที่ข้ารัก...ไม่มีเขา ที่เฝ้ามองข้าอยู่.....ไม่มีใคร..........



นัยน์ตาสีมรกตที่เคยสดใสและหยิ่งทะนง  บัดนี้กลับหม่นหมองและเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ขอบตาแดงช้ำจากการร้องไห้อย่างหนัก เหม่อมองลงไปยังก้นเหว....ร่างบอบบางค่อยๆขยับเข้าไปใกล้.....ข้าจะไม่ให้เจ้าทิ้งข้าไป.....นายน้อยแห่งโกคุเดระค่อยๆปล่อยน้ำหนักตัวลงไปยังอากาศที่ว่างเปล่า โน้มตัวลงไปเรื่อยๆ...เรื่อยๆ...ข้างล่างนั่น...ข้าจะได้พบกับเจ้าหรือเปล่า....



แสงน้อยๆของอะไรบางอย่าง ลอยอย่างเชื่องช้าขึ้นมาจากก้นเหว....



ก่อนที่น้ำหนักตัวทั้งหมดจะถูกปล่อยลงไป นัยน์ตาสีมรกตก็เหลือบไปเห็นแสงนั่นเข้าเสียก่อน...มือบางทั้งคู่ค่อยๆยื่นออกไปแล้วประคองเจ้าแสงระเรื่อเล็กๆนั่นเอาไว้...



......หิ่งห้อย........



พลันภาพของใบหน้าคมที่เขามองเห็นเป็นครั้งสุดท้ายก็ปรากฏขึ้นมาในมโนภาพ นัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่มองมาอย่างอ่อนโยนขัดกับการกระทำที่กำลังห้ำหั่นกันถึงชีวิต ริมฝีปากนั้นเน้นย้ำคำสามคำอย่างชัดเจน.....โฮ...ตา....รุ.....



......หิ่งห้อย........



อีกครั้งกับภาพของวันวานที่ปรากฏขึ้นมาซ้อนทับ ทำเอาน้ำตาไหลลงมาไม่หยุด....




ยามาโมโตะ....

ถ้าเจ้าจะทิ้งข้าไป....แล้วเจ้าจะมาทำให้ข้ารักทำไม.....

เจ้าเองไม่ใช่หรือที่สัญญากับข้า...ว่าปีหน้าเราจะมาดูหิ่งห้อยด้วยกัน....

เจ้าสัญญากับข้า...ว่าเจ้าจะพาข้ามา....




เจ้าหิ่งห้อยตัวน้อยค่อยๆลอยละล่องออกจากมือบางอย่างช้าๆ บนวนเวียนอยู่รอบๆกายราวกับกำลังเอ่ยคำปลอบใจ ใบหน้าเนียนซึ่งก้มหน้าปล่อยให้น้ำตารินไหลลงไปค่อยๆเงยหน้ามองแสงสว่างเล็กๆนั่นช้าๆ เจ้าหิ่งห้อยกำลังลอยห่างออกไปเรื่อยๆ แต่ก็มิได้บินหนีไป ทำเหมือนกับกำลังจะบอกให้เขาตามมันไปแบบนั้น....



ร่างบอบบางลุกขึ้นเดินโซเซ ตามแสงเล็กๆนั่นไป...จะเป็นไปได้ไหม......ที่ความหมายของคำสามคำนั้นคือ ให้ข้าไปรอเจ้าอยู่ที่บึงหิ่งห้อยแห่งนั้น....




ข้าจะลองเชื่อ...

ข้าจะไปรอเจ้าอยู่ที่นั่น....

ข้าจะเชื่อว่าเจ้าจะกลับมา....นะ.....ยามาโมโตะ....





................................................................................................................................................................





ความเจ็บแปลบยังคงแล่นลิ่วขึ้นมาตามทุกส่วนของร่างกาย ถึงแม้ว่าจะได้นอนพักมาบ้างแล้ว แต่มันก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น ยิ่งสภาพจิตใจด้วยแล้ว...ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่



แต่ถึงจะเจ็บมากมายเพียงใด แต่เขาก็จะไม่ยอมอยู่ที่นี่ ที่ที่มีคนที่เกลียดแสนเกลียด คนที่พรากครึ่งหนึ่งของชีวิตของเขาไป....ทั้งๆที่อาจจะเรียกได้ว่า ชายผู้โหดเหี้ยมเสมอคนนั้นดูแลเขาอย่างดี มอบความอ่อนโยนที่ไม่น่าจะมีมาให้...แต่นั่น....มันคือสิ่งที่ทำเพื่ออีกคนหนึ่ง...ทำเพื่อพี่ชายฝาแฝดของเขา...มิใช่ทำเพื่อเขา



ตอนนี้ข้ารู้แล้ว....ว่าทำไมเจ้าถึงได้ยอมมอบชีวิตให้แก่มัน....พี่ชายของข้า....



เพราะท่ามกลางความโหดร้ายป่าเถื่อน ก็มีเพียงเจ้าที่ได้รับความรักจากคนที่เรียกได้ว่านภาทมิฬ....ท้องฟ้าดำมืดที่จะอบอุ่นเมื่อโอบล้อมสายฝนสีเลือดเอาไว้



แต่ข้าไม่ใช่เจ้า....ข้าจึงต้องหนี....หนีไปจากความอ่อนโยนนั่น เพื่อไม่ให้ความเกลียดชังนั้นถูกบดบัง เพื่อไม่ให้ข้าลังเลที่จะปลิดชีวิตมัน



สควอลโล่เดินโซเซออกจากป่าสายหมอก มือเรียวเกาะยึดต้นไม้ตามรายทางเพื่อพักพิงยามเมื่อเดินผ่าน......ต้องหนี....หนีไปให้ไกล......



เสียงหอบหายใจดังเป็นระยะๆ ทั้งที่ร่างกายแทบจะพยุงตัวไม่ไหว แต่จิตใจที่มุ่งมั่นก็ทำให้ยังคงยืนหยัดอยู่ได้ เขาไม่รู้เลยว่าชายคนนั้นจะโมโหแค่ไหนเมื่อกลับมาแล้วไม่พบว่าเขายังอยู่...หรืออาจจะแค่เฉยชาแล้วปล่อยให้เขาไปเพราะยังไงเขาก็....ไม่ใช่....คนที่ตัวเองรัก



ทำไมถึงรู้สึกเจ็บ....



ขาเรียวก้าวเดินออกมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ นี่ก็พ้นเขตของป่าสายหมอกมาได้พอสมควรแล้ว แว่วเสียงสายน้ำไหลเอื่อยเฉื่อยดังอยู่ไม่ไกล ขาก้าวเดินตรงไปยังธารน้ำก่อนที่สมองจะได้สั่งการ แต่ก่อนที่จะก้าวถึงความเย็นฉ่ำของสายน้ำ ภาพทุกอย่างตรงหน้ากลับพร่ามัว สติที่พยายามเยื้อเอาไว้กำลังค่อยๆจะหลุดลอย ร่างทั้งร่างค่อยๆทรุดลงกับพื้นกรวดกลมเกลี้ยง



ประกายสีทองของอะไรบางอย่างแว่บเข้ามาในหัว พร้อมด้วยเสียงของใครบางคนที่ไม่คุ้นเคย....ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะดับลง



เจ้า!!! เป็นอะไรหรือเปล่า!!!”




................................................................................................................................................................





เจ้าจะให้ข้ารอไปถึงเมื่อไหร่......



เมื่อไหร่เจ้าจะกลับมา......



ทั้งๆที่เมื่อคืนก็อยู่ท่ามกลางป่าเขาแบบนี้แต่กลับไม่รู้สึกหนาวเย็นและน่ากลัวขนาดนี้....เพราะเมื่อคืนข้ามีเจ้าอยู่เคียงข้าง แต่บัดนี้....



ร่างบอบบางของนายน้อยแห่งโกคุเดระนั่งกอดเข่าอยู่ที่ข้างบึงที่เคยมาเมื่อวาน หยาดน้ำตาเหือดแห้งไปแล้วแต่จิตใจยังคงแหลกสลาย นัยน์ตาสีเขียวมรกตเหม่อมองไปยังความมืดเบื้องหน้า เสียงลมพัดยอดไม้ไหวปลิว เสียงนกกลางคืนหวีดร้องโหยหวน เสียงพุ่มไม้ขยับไหว....เพิ่งเคยได้รับรู้ว่าผืนป่ายามค่ำคืนนั้นน่ากลัวขนาดนี้ สองแขนเล็กกอดกระชับร่างกายให้เข้าหากันมากขึ้น คิ้วเรียวขมวด ดวงตาทั้งสองข้างพยายามกดให้ปิดลงเพื่อปิดกั้นการรับรู้ถึงสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่อยู่รายล้อมร่างกาย...



ความมืดที่มองสิ่งใดไม่เห็น ความหนาวเย็นที่มากล้ำกลาย ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนน่ากลัวและกดดันจิตใจให้ร่างกายลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีไป




แต่ที่นี่คือ ความหวังเดียวที่ข้ามีเหลืออยู่....

ต่อให้กลัวแค่ไหน ข้าก็จะเฝ้ารอเจ้าอยู่ที่นี่....

ต่อให้ต้องรออีกนับพันปี ข้าก็จะรอ....

เพราะฉะนั้น...ได้โปรด....กลับมาหาข้าเถิด.....





.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


โปรดติดตามตอนต่อไป...ไป.....ไป.......







เอวัง...พระเอกตายหมด เรื่องนี้จึงจบลงด้วยประการฉะนี้แล....
โดนโบกเหอะเอ็ง!!!

ยังนะ...มันยังไม่จ๊บบบบ นี่ยังไม่ถึงครึ่งเรื่องเล้ย อย่าเพิ่งทิ้งข้าพเจ้าไป....

เอ่อ...แฟนๆแม่ยก 1859 อย่าเพิ่งหนีหายไปนะคะ มันกำลังแล้วค่ะ ถึงแม้ว่าตอนนี้หนูก๊กเธอจะพร่ำเพ้อถึงยามะมากไปหน่อย...แหะ แหะ

ฮือออออออ Shiki นี่มันสุดยอด...TAT...เสียงโกโตะนั่นมันทำให้ใจละลายจริงๆ โอกกกก...(พยายามท่องมาตลอดว่าชั้นชอบมือเบสๆ แต่เสียงโกโตะมัน...อ้า...)
ถึงจะช้าไปนิด แต่ตอนนี้ก็กำลังจมดิ่งอยู่กับเพลงของคางุระอีกแล้วค่ะ จะเพราะไปหน๊ายยยย
ฟังเพลงนี้แล้วคิดถึงฟิกเรื่องนี้ขึ้นมาทันที นานแล้วสินะที่ไม่ได้แต่งต่อเลย แหะ แหะ...ขอโทษทุกๆคนด้วยค่ะที่ทำให้ต้องรอตลอดเลย >.<

และ...ตอนหน้าเตรียมพบกับ เอ็นซี อย่างจริงๆจังๆซักทีของเรื่องนี้...จึงเรียนมาเพื่อทราบและเตรียมสำรองทิชชู ผ้าขนหนู? กันตามสะดวก....
แต่ก็นะ...ใครเคยอ่าน เอ็นซี ของข้าพเจ้าคงรู้ดีว่า มันมิได้สวยหรูตลอดไป...คึหึหึ....?....
ส่วนจะเป็น NC ของ 1859  8059  5959(มาจากไหนฟะ!) หรือ 10069  6927  XS  DS  XD(เฮ้ย!) ก็รอลุ้นกันต่อไป...ไป....ไป....

ไปแอบบอกไว้ที่ฟิกนู้นนนน...ว่าเรื่องนี้มีตอนจบสองแพร่ง...ตอนนี้มาคิดๆดู....มันน่าจะมีทางที่สามน้า...คึหึหึ....

กำลังหาทางจบแบบ 3P ที่ไม่น่าเกลียดอยู่ 555 สนุกจริงๆ แต่งเรื่องนี้มันสนุกค่ะ เพราะงั้นไม่ต้องกังวลว่าข้าพเจ้าจะลำบากหรือจะเหนื่อยแต่ประการใด

ขอบคุณทุกๆกำลังใจ ทุกๆคอมเม้นต์ ทุกๆท่านที่เข้ามาอ่าน  ขอบคุณมากๆค่ะ!

และ...ในที่สุดพ่อม้าก็มีบทกับเค้าซักที....TwT...ซึ้งใจจริงๆ...





1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ10 มกราคม 2558 เวลา 11:52

    โอ้ยยยย อ่านไปเอามือกุมอกไปค่ะ จริงๆนะคะ
    คือมันกรีดลำมากเลย
    เค้าสงสารยามะ แต่เค้าก้สงสารคุณฮิ คือ แต่ก้กรักยามะนะคุณฮิ อย่าเจ็บไปมากกว่านี้เลย(?)อ้าว
    ไม่รู้ด้วยแล้ว TT

    ตอบลบ