:
KHR Fanfiction Au
:
185980 1006927 XSD
:
Drama
: NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
: ตอนคิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็แค่อยากอ่านฟิคที่มีสองด้าน ก็แค่นั้นเองค่ะ เพราะงั้น....นี่คือ ฟิคคู่แฝดค่ะ.....เรื่องราวที่เกิดขึ้นเหมือนๆกัน แต่ความรู้สึกนั้นช่างต่าง......พบกับอีกด้านของเรื่องนี้ได้ที่......
[AuFic][805918] The Last SNOWDROP....
.
.
.
.
แสงแดดอบอุ่นทอประกายแสงอ่อนกระทบกับผืนน้ำระยิบระยับ เสียงเหล่าสรรพสัตว์เริ่มต้นชีวิตแห่งวันใหม่ดังอยู่โดยรอบ สวนที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างประณีตล้อมรอบสระน้ำที่อยู่กลางคฤหาสน์ เหล่าปลาคราฟน้อยใหญ่ต่างแหวกว่ายในน้ำใส สายลมยามรุ่งอรุณหนาวเย็นเล็กน้อย แต่กลับพัดผ่านทุกสิ่งอย่างอ่อนโยน.....
ร่างบอบบางของใครคนหนึ่งยืนอยู่ระหว่างประตูบานเลื่อนที่ถูกเปิดออกสู่สวน เส้นผมยาวสลวยสีเงินทอประกาย พลิ้วไหวไปตามสายลม มือบางกระชับกิโมโนตัวในสีขาวที่ใส่นอนให้เข้ามาหาตัวเมื่อรู้สึกถึงความเย็นของสายลม ใบหน้าสวยเรียบเฉย นัยน์ตาสีเขียวมรกตเหม่อมองภาพตรงหน้าราวกับต้องการที่จะจดจำทุกๆรายละเอียดเป็นครั้งสุดท้าย
“ ได้เวลาแล้วค่ะ นายน้อย....” เสียงของหญิงรับใช้เอ่ยเรียกมาจากทางประตูเลื่อนฝั่งตรงข้ามที่ถูกเปิดออก
“ เดี๋ยวตามไป” ร่างบอบบางหันกลับมาตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งสนิท ก่อนที่จะหันกลับมาเหม่อมองภาพตรงหน้าอีกครั้ง
........ต้องไปแล้วจริงๆ......อย่างนั้นหรือ......
เหตุการณ์เมื่อสองวันก่อนยังคงแจ่มชัด ต่อให้อยากจะแกล้งลืมเลือนแค่ไหน....ก็คงทำไม่ได้.....
.
……………………………….
.
……………………
.
…………..
.
เสียงเกือกม้ากระทบผืนดินดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ฝุ่นควันตลบอบอวนบ่งบอกจำนวนฝูงม้าที่ควบเข้ามาได้เป็นอย่างดี .....
เหล่าซามูไรในชุดสีดำกระโดดลงมาจากหลังม้า พร้อมด้วยสาสน์ จากผู้ครองเมืองที่ถูกม้วนมาอย่างดี.....
“ เนื่องจากทางหมู่บ้านของพวกเจ้า ไม่ได้ส่งเครื่องบรรณนาการมาเป็นเวลาห้าปีติดต่อกัน ข้าจึงแน่ใจว่าพวกเจ้ากำลังคิดการก่อกบฏ และข้าจะไม่มีวันปล่อยให้เจ้าพวกสัตว์กินพืชที่ไม่เจียมตัวได้มีชีวิตต่อไป.....จงส่งตัวท่านหญิงที่หนึ่งแห่งตระกูลโกคุเดระของเจ้า มาเป็นเครื่องบรรณนาการให้ข้า เพื่อเป็นหลักประกันว่า พวกเจ้ายังไม่อยากตาย.......ลงชื่อ.....ฮิบาริ เคียวยะ.....เจ้าเมืองนามิโมริ......”
คำประกาศิตที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจขัดขืน.....ใช่ว่าพวกเขาคิดจะแข็งข้อ....แต่ความแห้งแล้งของแต่ละปีที่ผ่านมามันก็ทำให้ความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้านยากลำบากเพียงพออยู่แล้ว หัวหน้าหมู่บ้านอย่างตระกูลของพวกเขาจึงไม่สามารถขูดรีดชาวบ้านเพื่อส่งไปเป็นเครื่องบรรณนาการได้
.
……………………………….
.
……………………
.
…………..
.
“ จะส่งนางไปไม่ได้” ร่างบอบบางผมสีเงินที่ได้ชื่อว่าเป็นนายน้อยของตระกูลเอ่ยบอกบิดาที่นั่งอยู่ข้างกัน.....นัยน์ตาสีเขียวมรกตจ้องมองไปยังฟูกนอนสีขาวบริสุทธิ์ที่มีร่างระหงของหญิงสาวคนหนึ่งนอนหลับอยู่.....
“ ข้าก็รู้ดี ว่าอาการของพี่เจ้าไม่สู้ดีนัก....แต่....จะให้ข้าทำยังไงในเมื่อ.......” ถ้อยคำกลืนหายเข้าไปในลำคอของหัวหน้าหมู่บ้านผู้เป็นบิดาของร่างบาง....ชามาล.....ใบหน้าที่ปกคลุมด้วยหนวดเคราเหม่อมองบุตรสาวที่นอนอยู่บนฟูกด้วยความสงสาร
“ ไม่ได้.....ส่งนางไปไม่ได้.....” ถึงแม้ว่าจะเป็นพี่น้องคนละแม่ ถึงแม้ว่าเวลาปกติก็ไม่ได้รักใคร่สนิทสนมอะไรกันมากนัก....แต่ถึงอย่างไร นี่ก็เป็นพี่น้องเพียงหนึ่งเดียวที่ร่างบางมี....แล้วจะส่งให้ไปตาย....มือบางกำแน่นด้วยตัดสินใจแน่วแน่......
“ ข้าจะไปเอง.....ไปในฐานะ ท่านหญิงที่ 1 ของตระกูลโกคุเดระ แทนนางเอง” ผู้เป็นพ่อตกใจยิ่งกว่าครั้งไหนๆ หันกลับมาจับไหล่บางแน่น
“ เจ้ารู้ตัวหรือเปล่า ว่าพูดอะไรออกมา....ฮายาโตะ.....”
“ ข้ารู้.....ข้ารู้ตัวดี....จะปล่อยให้หมู่บ้านเป็นอันตรายไม่ได้ และจะปล่อยให้นางไปตาย ก็ไม่ได้เช่นกัน....ข้าจะไปเอง” นัยน์ตาสีเขียวแสนสวยสบตากับดวงตาของผู้เป็นพ่อด้วยความแน่วแน่
“ แต่เจ้าจะต้องเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปนะ ฮายาโตะ” ชามาลยังไม่คิดที่จะปล่อยให้ลูกชายคนเดียวต้องเข้าไปเสี่ยงอันตราย.....เครื่องบรรณนาการ.....มันก็คือตัวประกันดีๆนี่เอง.....และ......ไม่เคยมีตัวประกันคนไหนที่จะมีชีวิตรอดกลับออกมาจากด้านหลังปราการเหล็กนั่นได้สักคน....เรื่องนี้....ใครๆต่างก็รู้กันดี
“ จะไม่มีตระกูลให้ข้าต้องดูแล ถ้าข้าไม่ไป...ท่านก็น่าจะรู้ดี” เบียงกี้...พี่สาวของเขาอาจจะตายก่อนที่ไปถึงก็เป็นได้ ดูจากสภาพร่างกายตอนนี้ของนางแล้ว.....ไม่ควรจะออกไปไหนทั้งสิ้น....
“ ฮายาโตะ....” ผู้เป็นพ่อได้แต่เอ่ยเสียงเบา มือใหญ่ที่จับไหล่บางแน่นได้แต่ภาวนาในใจให้ร่างตรงหน้าเปลี่ยนใจ....ยังจะพอมีวิธีอื่นอีกไหมนะ.....สมองอันชาญฉลาดพยายามจะหาทางแก้....ถึงจะส่งหญิงคนอื่นไปแทน แต่คนอย่าง ฮิบาริ เคียวยะ....คงจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดแน่ๆว่าใช่คนของตระกูลโกคุเดระจริงๆหรือเปล่า....และถ้าจับได้ว่าไม่ใช่.........เรื่องคงไม่จบง่ายๆแน่....
“ เจ้า....แน่ใจหรือ....” ถึงแม้ว่าร่างบอบบางตรงหน้าจะเป็นชาย แต่ด้วยโครงร่างที่ดูบอบบางกว่าเด็กชายทั่วไปและใบหน้าผิวพรรณที่แทบจะถอดแบบมาจากแม่ ถ้าอยู่ในชุดกิโมโนแบบผู้หญิงก็จะดูแทบไม่ออกเลยสักนิด ....และ.....ถ้าเป็นแค่เครื่องบรรณนาการ...เป็นแค่ตัวประกัน คงไม่ตรวจสอบลึกถึงขั้นว่าเป็นหญิงแท้ๆหรือไม่......ทางออกมันมีแค่ทางนี้เพียงหนทางเดียวเท่านั้นหรือ.......
“ ข้าจะไป” คำตอบสุดท้ายยืนยันสิ่งที่ตั้งใจ เพื่อสิ่งที่เขารัก เพื่อเพื่อนพ้องที่เขามี ขอแค่ชีวิตนี้ได้ปกป้องเอาไว้....มันก็คงจะดีที่สุดแล้ว......
.
………………………………
.
………………….
.
………..
.
ร่างบอบบางจนแทบจะไม่มีเค้าโครงของเด็กหนุ่มค่อยๆก้าวเดินออกมาจากประตูบ้านท่ามกลางสายตาอาลัยอาวรณ์ของเหล่าผู้คนที่เข้ามายืนส่งจนแน่นขนัด เส้นผมสีเงินยาวสลวยราวกับเส้นไหมชั้นดีถูกเกล้าขึ้นอย่างสวยงาม ปิ่นปักผมสีดำสนิทแซมด้วยดอกไม้เล็กสีแดงสั่นไหวเล็กน้อยยามร่างบางก้าวเดิน กิโมโนตัวในสีแดงสดถูกคลุมทับด้วยกิโมโนตัวนอกสีขาวบริสุทธิ์ที่ถูกถักทอมาอย่างประณีตงดงาม ลวดลายดอกซากุระแรกแย้มแช่มช้อยไม่แพ้ผู้สมใส่เลยสักนิด โอบิสีเลือดช่วยขับเน้นให้ร่างบอบบางดูน่าทะนุถนอมมากยิ่งขึ้น ผิวกายขาวละเอียดที่โผล่พ้นชายเสื้อกิโมโนนวลลออน่าสัมผัส ใบหน้าสวยนิ่งสนิทในขณะที่ก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคง
......นัยน์ตาสีเขียวมรกตไม่มีแววซึ่งความสั่นกลัวเลยสักนิด............
ได้ยินเสียงร่ำไห้จากใครสักคน...ดวงตาแห่งความมุ่งมั่นมีแววอ่อนโยนลง หันหน้ากลับไปมองผู้คนที่อยู่เบื้องหลังครั้งหนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจ ก้าวขาขึ้นรถเทียมวัวคันงามที่จอดรออยู่แล้ว…..
ขบวนรถเทียมวัวเคลื่อนที่ออกไปจากหมู่บ้านอย่างเชื่องช้า ท่ามกลางเสียงปล่อยโฮของใครอีกหลายๆคน
......ข้าไม่ได้เป็นผู้เสียสละ...แต่ข้าทำเพื่อตัวเอง...เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องเห็นคนที่รักล้มตายไปต่อหน้าต่อตา....พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องร้องไห้เพื่อข้าหรอก......
.
………………………………
.
………………….
.
………..
.
ภาพหมู่บ้านเล็กๆที่เกิดและเติบโตมาค่อยๆเล็กลงๆและเลือนหายไปในที่สุด …สถานที่ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้อุดมสมบูรณ์แต่เขาก็อยู่กับมันมาด้วยความรักความเอาใจใส่จากคนรอบข้าง...เติบโตขึ้นมาด้วย อิสระ เสรีดั่งที่ใจปรารถนา....แต่บัดนี้มันจะไม่มีอีกแล้ว....ในเมื่อรถคันนี้กำลังพาร่างกายของเขาไปยังกรงขังที่แข็งแกร่งราวปราการเหล็กที่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่สามารถหลุดพ้นมันออกมาได้อีก...ร่างกายต้องถูกจองจำไปชั่วชีวิต....
สายตาเหม่อมองออกไปไกล ราวกับกำลังจดจำรายละเอียดของโลกภายนอกเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ร่างกายบอบบางทว่ากลับตั้งตรงอย่างสง่างามท่ามกลางเสียงล้อรถเคลื่อนตัวเหยียบกรวดหินดินทรายเป็นจังหวะ จากภาพทุ่งนาแห้งแล้งค่อยๆแปรเปลี่ยนไปเป็นป่าเขาสีเขียวขจี ต้นไม้สูงใหญ่โอบล้อมอยู่รอบๆตัว ทั้งร่มรื่นและวังเวงไปด้วยกัน...
แว่วเสียงสวบสาบผ่านเข้ามาในหู ดวงตาสีเขียวมรกตเหลือบมองไปรอบๆกาย ยังคงเห็นทหารองครักษ์ที่ทำหน้าที่คุ้มกันร่างบางยังคงทำหน้าตานิ่งเฉย ...อาจจะแค่หูแว่วไปเอง...
ยิ่งนานยิ่งตรงดิ่งเข้าไปยังป่าลึกมากยิ่งขึ้น ความเย็นเหยียบแทรกเข้ามาจากทั่วทุกทิศ แต่กระนั้นใบหน้างดงามยังคงนิ่งเฉยมิได้กลัวเกรงต่อภัยอันตรายใดๆ ราวกับคนที่ได้ผ่านการเตรียมใจมาเป็นอย่างดี....
ครึก....ครึก.......
เสียงวงล้อไม้ของรถเทียมวัวฟังแปลกไปจากเดิม จู่ๆตัวรถก็ชะงักหยุดวิ่งเสียดื้อๆ ทำเอาร่างบางที่นั่งอยู่ข้างในถึงกับล้มลงกองกับพื้นรถ...เสียงสวบสาบแหวกกอไม้ดังขึ้นมาจากรอบทิศ เสียงโลหะเข้าปะทะกันดังขึ้นโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว
“ คุ้มกันท่านหญิง!!!” ได้ยินเสียงทหารองครักษ์ตะโกนดังลั่นอยู่รอบๆตัวรถ ผ้าม่านหน้าต่างที่ตกลงขณะที่ตัวรถกระแทกเมื่อครู่ทำให้ดวงตาสีเขียวมรกตไม่อาจมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกได้เลย ได้ยินเพียงแค่เสียงร้องอย่างเจ็บปวดที่ดังระงมขึ้นเรื่อยๆ ความหวั่นวิตกเริ่มเข้ามาครอบงำร่างกายที่ได้แต่นั่งนิ่ง
เวลาผ่านไปแค่อึดใจเดียวเสียงต่างๆพลันเงียบลง หลงเหลือเอาไว้แต่เสียงค้นหาข้าวของและเสียงหัวใจที่เต้นระทึกของร่างบาง....
เกิดอะไรขึ้น...หรือว่าขบวนรถของเขาโดนโจรป่าดักปล้น....ความหวาดวิตกเกาะกุมไปทั่วทั้งหัวใจ....
เสียงเหยียบหญ้าดังสวบสาบค่อยๆเยื้องย่างเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เหงื่อในมือบางผุดซึมออกมาจนชุ่ม นัยน์ตาสีเขียวมรกตจ้องมองไปที่ผืนผ้าม่านที่ปิดกั้นภายในรถเทียมวัวกับโลกภายนอกด้วยความลุ้นระทึก มือบางค่อยๆยกขึ้นดึงมีดสั้นเล่มเล็กที่ถูกซ่อนอยู่ในอกเสื้อขึ้นมาไว้ในมือ พยายามซ่อนให้มิดชิดที่สุด
ยังไงซะ เขาก็เป็นชายชาตรี...เป็นชายที่สมควรจะเป็นเจ้าบ้านคนต่อไปของตระกูลโกคุเดระ เขาจะไม่มีวันมาตายอยู่ที่นี่ ทั้งๆที่ยังไม่บรรลุจุดประสงค์ ...
ถึงแม้ว่าจะต้องเสียเลือดเนื้อ ร่างกายจะหลุดเป็นชิ้นๆยังไง ก็ต้องไปให้ถึงตัวเมืองนามิโมริให้ได้ ถึงจะต้องตาย....ก็ขอไปตายที่นั่น....พวกนั้น...จะได้ไม่มีข้ออ้างที่จะเล่นงานตระกูลของเขาอีก.....
มือที่กำด้ามมีดชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ คิ้วเรียวสวยขมวดติดกัน ทั้งความมุ่งมั่น ความหวาดกลัว และหน้าที่ เริ่มตีกันให้ยุ่งไปหมด
ฉึก....สวบ........
ประกายสีเงินของดาบยาวเล่มหนึ่งตัดขาดผ้าม่านออกจากกัน ตามมาด้วยจิตสังหารมหาศาลที่พุ่งตรงเข้ามาจนร่างที่อยู่ภายในถึงกับถูกตรึงจนแน่น มือบางสั่นระริกแต่ก็ยังคงกุมด้ามมีดสั้นเอาไว้แน่น...
รอยขาดของผ้าม่านเฉียบคม จนไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคนที่อยู่อีกฝั่งของม่านมีฝีมือมากขนาดไหน ปลายดาบตวัดขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เสียงผ้าม่านจะดังมากระทบโสตประสาทที่กำลังสั่นกลัว....รวดเร็วและแผ่วเบา.....ผืนผ้าค่อยๆสั้นขึ้นเรื่อยๆ แสงจากภายนอกสาดกระทบกับร่างกายที่กำลังยืนประจันหน้ากันอยู่ ให้เห็นเพียงแค่เงาสีดำทะมึน ร่างกายสูงใหญ่ที่มองเห็นกำลังตวัดดาบไปเรื่อยๆ ราวกับว่ากำลังหยอกล้อเหยื่อให้กลัวจนขาดใจตายไปเอง.....
ฉึก.....
ปลายดาบพุ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะไปปักลงที่ผนังด้านหลังร่างบาง นัยน์ตาสีเขียวมรกตได้แต่เบิกตากว้าง แขนข้างหนึ่งถูกมือใหญ่ของคนที่มองไม่เห็นแม้แต่ใบหน้าฉุดกระชากลากตัวให้เข้าไปชิดใกล้ร่างกายสูงใหญ่ ใบหน้าเนียนใสกระทบเข้ากับแผ่นอกแข็งแกร่ง
มือเล็กที่กุมด้ามมีดสั้น ดึงมีดออกมาหมายจะปักลงไปที่คอของผู้ที่บังอาจทำเรื่องไม่สมควรกับร่างกายของเขา แต่มือใหญ่ของอีกฝ่ายก็คว้าข้อมือเอาไว้ได้เสียก่อน ก่อนที่จะออกแรงบีบข้อมือเล็กจนมีดที่อยู่ภายในหลุดร่วงลงกระทบพื้นรถเทียมวัว
ร่างกายบอบบางถูกอีกฝ่ายกดลงกับพื้น มือเล็กรัวกำปั้นต่อสู่ดิ้นรนจนวินาทีสุดท้าย นัยน์ตาสีมรกตตื่นกลัวทว่ากร้าวแข็ง ร่างกายสูงใหญ่ของอีกฝ่ายคร่อมทับลำตัวบางเอาไว้ก่อนที่จะรวบข้อมือทั้งสองเอาไว้ด้วยมือเดียว...
แสงจากภายนอกสาดส่องเข้ามาภายในรถเทียมวัว เผยให้เห็นใบหน้าคมผมสั้นสีดำสนิท นัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่จ้องมองมายังคนที่อยู่ภายใต้ร่างมีแววชอบใจราวกับกำลังเจอของเล่นใหม่ ริมฝีปากบางยกยิ้มจนคนมองถึงกับขนลุก
“ ปล่อยข้า!!!” แต่ถึงอย่างนั้นร่างบอบบางข้างใต้ก็มิได้กลัวเกรง ยังคงดิ้นรนต่อไป แต่ยิ่งดิ้นคนที่กดทับก็มีแต่จะยิ่งพึงพอใจ ใบหน้าคมหล่อเหลาก้มลงมาสูดดมความหอมหวานที่ซอกคอระหงก่อนที่จะจงใจฝังร่องรอยลงไป ร่างบางข้างใต้ถึงกับสะดุ้งเฮือก
“ ข้าไม่ฆ่าเจ้าดีกว่า....” เสียงทุ้มต่ำกระซิบลงที่ใบหูของร่างบาง ขนทั่วทั้งร่างพากันลุกชัน....ราวกับรับรู้ได้ถึงสันญาณอันตรายที่ตายไปเสียตอนนี้คงจะดีกว่า...
“ แต่ตอนนี้....” แล้วเสียงก็ขาดหายไปพร้อมๆกับสติสัมปชัญญะของร่างบาง การต่อสู้ดิ้นรนทุกอย่างยุติลงไปกับใบหน้างดงามที่หลับตาพริ้ม
ร่างสูงใหญ่หันไปเก็บดาบเข้าฝัก ก่อนที่จะโอบอุ้มยกลำตัวบางๆของอีกคนที่สลบสไลด้วยฝีมือตนขึ้น ก่อนก้าวเท้าออกไปจากรถเทียมวัวที่กลายเป็นแค่เศษซากอย่างเยือกเย็น สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ ริมฝีปากยิ้มเหยียดให้กับความหายนะที่พวกเขามอบให้กับร่างบอบบางในกำมือคนนี้
เราไม่ได้มีความแค้นต่อกัน นี่มันก็เป็นวิถีแห่งการมีชีวิตรอดของเขาและพวกพ้องเท่านั้น.....
ก้มลงมามองใบหน้าที่หลับพริ้มอยู่ในอ้อมแขน ....ดวงตาที่แข็งกร้าวแบบนั้น....จะมีวันได้เห็นมันอีกไหมนะ....
“ คึ หึ หึ....ระวังแก้วเจียระไนจะแตกกระจายจนมาทิ่มคอตัวเองนะครับ ยามาโมโตะคุง” น้ำเสียงเหยียบเย็นชวนขนลุกจากเพื่อนพ้องร่วมเป็นร่วมตายของเขาดังขึ้นอยู่เคียงข้าง นัยน์ตาสองสีจ้องมอง ตุ๊กตาแก้วชั้นดีที่อยู่ในมือร่างสูงไม่วางตา.....งดงาม.....แล้วสิ่งที่งดงามแบบนี้ก็ไม่เคยเป็นของที่ธรรมดา.....
“ ฮึ....กลับกันเถอะ” ถึงจะรู้ว่าอันตรายแต่ก็ยังอยากได้มาเชยชม...มนุษย์...มันก็คงเป็นแบบนี้แหละ....
ฝูงม้าเคลื่อนที่จากไปอย่างรวดเร็ว สู่เมืองแห่งสายหมอกที่ไม่มีใครเคยค้นพบ....แหล่งกลบดานชั้นดีของกองโจรเยี่ยงพวกเขา........
……….เหลือทิ้งเอาไว้แต่ร่องรอยความแค้นและการแย่งชิงที่ไม่มีวันจบสิ้น ตราบที่ลมหายใจไม่สูญสลาย.................
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ งั้นรึ....” มือแข็งแกร่งกำแผ่นกระดาษในมือจนไม่เหลือชิ้นดี กับข่าวที่ได้ยินจากลูกน้องคนสนิท......
ที่ที่เจ้าจะต้องมาให้ถึงต้องเป็นที่นี่เท่านั้น....โกคุเดระ ฮายาโตะ.....ทางที่มันอ้อมค้อมหรือเศษหญ้าที่มันฉุดรั้งเจ้าเอาไว้ ข้าจะไปถางมันให้ไม่เหลือแม้แต่รากเหง้า!!!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
โปรดติดตามตอนต่อไป...ไป...ไป.....
.
.
.
.
.
เพราะมีหัวใจ ข้าจึงริษยา
เพราะมีหัวใจ ข้าจึงตะกละตะกลาม
เพราะมีหัวใจ ข้าจึงละโมบช่วงชิง
เพราะมีหัวใจ ข้าจึงหยิ่งผยอง
เพราะมีหัวใจ ข้าจึงดูแคลน
เพราะมีหัวใจ ข้าจึงโกรธเกรี้ยว
เพราะมีหัวใจ ข้าจึงปรารถนาทุกสิ่งที่เป็นเจ้า....
ผู้แต่ง : TITE KUBO [ BLEACH 40 ]
ผู้แปล : คุณอิศเรศ ทองปัสโณว์ (ขอซะหน่อย...อยากบอกว่าชอบทุกถ้อยคำที่คุณแปลในเรื่องนี้มากๆ เป็นนักแปลในดวงใจคนนึงเลยจริงๆค่ะ...โดยเฉพาะ “มารยาสาไถ” ชอบสุดๆ...>.<...)
*** อัญเชิญมาจากคำโปรยของ BLEACH เล่ม 40 ทั้งดุ้นเลยค่ะ อ่านแล้วชอบมาก....เป็นแรงบันดาลใจให้กลับมาปั่นเรื่องนี้ต่อหลังจากที่หมดไฟไปพักใหญ่
.....เพราะมีหัวใจ ข้าจึงปรารถนาทุกสิ่งที่เป็นเจ้า......
อุลคิ ฮิเมะ ...ถึงจะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้แต่ข้าก็เชียร์พวกเจ้าขาดใจเลยละ
อ่า...มาพูดถึง ฟิคของอิฉันกันบ้าง....
คนละอารมณ์กับแฝดพี่เลยแฮะ....ฮะ ฮะ ฮะ....
เรื่องนี้เป็นแฝดน้องค่ะ เพราะแต่งขึ้นมาทีหลัง (คนบ้าอะไรแต่งของรั่วๆขึ้นมาก่อน แล้วมาแต่งดราม่าๆตามเนี่ยนะ....)
ยังไงก็....ฝากด้วยนะคะ
ปล. คนที่ดาร์กน่ะ ไม่ใช่ยามะนะค้าเรื่องนี้....อาร๊ายยย...ยามะของเค้า(ตั้งกะเมื่อไหร่)ออกจะเป็นคนดี ใครมาเชียร์ให้ดาร์กเดี๋ยวตีตายเลย หึ หึ หึ....
ถ้าเมะมันร่วมใจกันดาร์ก เดี๋ยวลูกสาวหม่ามี๊ก็ตายกันพอดีสิค้า....=[]=...
หมายเห็ด....สามารถรับชมภาพประกอบได้ที่ PIC : ภาพปลากรอบฟิก : ความหวังครั้งสุดท้าย
คุณพระน้องก๊กโดนฉุด ก้สวยขนาดนี้นี่ลูกสาว
ตอบลบยามะเอ้ยยยยย ดูแลดีๆหน่อยนะ ระวังที่มุคุเตือนนิดนะ ธรรมดาซะที่ไหนคนนี้
ชุดกิโมโนสวยมากเลยค่ะ เข้ามากเลย
><
คุณฮิอย่าพึ่งมาาาาาาา