[Re-view] ตกหลุมรัก The Series ที่ดาวแม่ : Italia : ROME 03

: KW Original

: Romantic??

: PG (คือ...ถ้าไปกับเอเลนอาจจะ NC // โดนตบ)

จะหมดปี 2017 แต่รีวิวทริปตั้งแต่ปี 2015 ก็ยังไม่เสร็จ 5555 ก็เลยสลับกับฟิคมาเขียนรีวิวต่อบ้างไรบ้าง เรียกว่าข้อมูลอาจไม่อัพเดทเท่าไหร่แต่อ่านขำๆกับความเมาที่คุณกวางมันไปพบไปเจอมาแล้วกันเนอะ 5555

วันนี้ก็ยังอยู่ในโรมค่ะ รูปข้างบนนั่นคือยอดโดมของเซ็นต์ปีเตอร์ ก็อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนที่แล้ว บางคนอาจจะจำไม่ได้แล้วว่ามันเกริ่นอะไรไว้ นานจัดถถถถ ก็สามารถไปดูตอนก่อนหน้าของทริปนี้ได้ตามลิ้งค์เรยค่า

[Re-view] ตกหลุมรัก The Series ที่ดาวแม่ : Italia : ROME 01

[Re-view] ตกหลุมรัก The Series ที่ดาวแม่ : Italia : ROME 02


นะ...อย่างที่เกริ่นไว้ ว่าวันนี้เราจะกลับมาโบสถ์เซ็นต์ปีเตอร์กันอีกครั้งหลังจากที่เมื่อวานนี้เข้าไปดูในตัวโบสถ์ไม่สำเร็จเนื่องด้วยคนมหาศาลบานตะไท วันนี้คุณกวางกับคุณเพื่อนเลยตื่นแต่ไก่โห่เพื่อมาที่นี่อีกครั้งค่ะ คือปกติแล้วจะไม่ใช่คนย้ำคิดย้ำทำไปเที่ยวที่เดิมซ้ำๆ แต่เซ็นต์ปีเตอร์นี่ยอมมมมค่ะ 5555 แค่ได้ไปนั่งอยู่ในลานวงรีนั่นก็ฟินแบ้ว >////<

ส่วนวิธีการเดินทางก็ยังใช้วิธีเดิมค่ะ คือนั่งรถไฟใต้ดินไป และด้วยความที่วันนี้ออกเช้าเลยได้เจอกับมนุษย์อิตาลีที่ออกมาทำงานกันค่ะ โอยยยย ไม่เคยขึ้นรถไฟอะไรโหดขนาดนี้มาก่อน ด้วยความที่สถานีมันไม่ได้ใหญ่อะไรมาก ช่องทางเดินก็แคบๆ คนเลยล้นทะลักมากค่ะ แถมยังเป็นชาวยุโรปตัวสูงใหญ่ อย่างกับถูกตึกล้อมเอาไว้ถถถ คือแบบ ตรูเข้าไปในรถไฟได้ยังไงนี่ไม่รู้เรื่องเลยค่ะ โดนเบียดๆไหลๆเข้าไป 555

แต่ก็นับว่าคุ้มค่า เพราะดูความโล่งที่หน้าโบสถ์เซ็นต์ปีเตอร์สิคร้าาาาาา

อุ๊ยตายว๊ายกรี๊ด ถ่ายลานแบบไม่มีคนติดได้ด้วย อุเคี๊ยกๆๆๆ แถมฟ้าวันนี้ยังใสกิ๊งงงง คือ...นั่นตอนราวๆแปดโมงเช้าได้มั้งนะคะ สว่างอย่างกับเที่ยง =v= พระอาทิตย์พี่เลี่ยนนี่ขยันทำงานมากๆอ่ะค่ะ ตีห้านี่มาละ  กว่าจะกลับก็สองสามทุ่มถถถถ  

นอกจากกลางลานจะไม่มีคนแล้ว แถวที่ต่อเพื่อเข้าโบสถ์ยังสั้นอีกต่างหาก =////= เมื่อวานเย็นนี่หางแถวยาวเป็นกิโลมาก แต่เช้าวันนี้แถวสั้นไม่พอยังไหลอย่างไวอีกด้วยค่ะ ยืนต่อแถวแป๊บๆก็ได้เข้าแล้น แปะรูประหว่างรอ

การเข้าชมโบสถ์เซ็นต์ปีเตอร์ไม่เสียค่าเข้าค่ะแต่ก็จะมีการสแกนกระเป๋าเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวใหญ่ๆทั่วไปค่ะ พี่เลี่ยนไม่โหดร้ายเหมือนพี่จีน กระเป๋าใส่เอเลน(ตุ๊กตา)ของเราเค้าก็ไม่ขอค้นด้วย หึ!

เดินผ่านเหล่าทหารสวิส =w= ใกล้แล้วๆ ตื่นเต้ลลลล

ถึงแล้นนนนนน ถ่ายย้อนกลับไปซะหน่อย อิอิ เก้าอี้มากมายน่าจะเอาไว้สำหรับพิธีของชาวคริสต์เค้าละค่ะ

แล้วพอเดินผ่านเสาต้นมหึมาด้านหน้าเข้ามาก็จะเจอกับโถงแบบนี้ค่ะ

จะมีประตูอยู่หลายประตู แต่มันปิดไว้ค่ะ เปิดเฉพาะทางที่เค้าจะให้เราเข้าแค่ช่องเดียว อันไหนมันปิดไว้ก็ไม่ต้องเข้าไปนะคะ 55555

นี่ค่ะ ทางที่เค้าจะให้เราเข้า พอมาถึงตรงนี้แล้วไม่มีแถวไม่มีอะไรหรอกค่ะ เดินเข้าไปได้เลย

แม่เจ้า พอก้าวขาเข้าไปแล้วเงยหน้าขึ้นมองข้างในโบสถ์เท่านั้นแหละ ขนลุกเกรียวเลยค่ะ โอยยยย สวยมากกกกกกกกกกกกกกกก  คือจริงๆแล้วสวยกว่าในรูปถ่ายนี้มากๆๆๆค่ะ แสงไม่มากเลยจะถ่ายยากนิดนึงค่ะ บางรูปคุณกวางก็ไปจิ๊กรูปจากกล้องของคุณเพื่อนมา 5555

ผังโบสถ์ขั้นสุดท้ายจะเป็นกากบาทแบบละตินครอส คือเป็นกากบาทรูปไม้กางเขนนั่นแหละค่ะ หลังจากผ่านมือสถาปนิกเอกของโลกมาหลายคน มีการปรับเปลี่ยนมาหลายครั้ง555 ตัวอาคารและยอดโดมเป็นสถาปัตยกรรมแบบเรเนซองส์ แต่ลานด้านหน้าและการตกแต่งบางส่วนจะผสมบาโรคเข้าไปด้วยค่ะ เสาแต่ละต้นด้านในก็จะมีรูปสลักโป๊บของวาติกันค่ะ นอกนั้นก็มีเทพเจ้าและนักบุญด้วยค่ะ แปะรูปรัวๆ

โอยยยย ดูความอลังการงานสร้างพวกนั้นสิคะะะะะะ สมเป็นดาวแม่จริงๆ ฮรือออออ สวยจนขนลุก โดยเฉพาะงานประติมากรรมที่อยู่ที่นี่ คือแบบ สวยมากกกกกกก เป็นรูปสลักสเกลเทพเจ้า ผ้าเป็นผ้า กล้ามเป็นกล้าม แล้วใบหน้านี่สวยมากๆๆเลยค่ะแต่ละคน มันเต็มไปด้วยความรู้สึก เหมือนเค้ามีชีวิตจริงๆๆ 

แต่ถ้าพูดถึงเซ็นต์ปีเตอร์ วาติกัน แล้วละก็ ทุกๆคนคงจะโฟกัสไปที่รูปสลักระดับปรมาจารย์อย่าง Pieta ผลงานชิ้นเอกของพระมหาบิดาไมเคิล แองเจลโลแน่ๆ คุณกวางกับคุณเพื่อนก็ตัดสินใจกลับมาเพื่อเข้าโบสถ์วันนี้อีกรอบก็เพราะปิเอต้านี่แหละค่ะ ขอเห็นด้วยตาซักครั้งเถอะน่าาาาา >/////< แต่....ตอนแรกหาไม่เจอค่ะ!! เดินวนจนรอบแล้วก็ไม่เห็นมีรูปสลักที่เสาไหนที่ดูเป็นปิเอต้าเลย =[ ]=?! ตอนนั้นยังง่าวอยู่ ไม่รู้ว่าปิเอต้าไม่ได้อยู่ที่เสาถถถถ   ก็เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่เต็ม เค้าเลยชี้ไปที่ทางเข้า ห๊ะ อยู่ตรงทางเข้าเลยเร๊อะ แล้วทำไมตอนเข้ามาตรูไม่เห็นถถถถ ปรากฏว่าเค้ามีฉากปิดเอาไว้ค่ะตอนที่เข้ามา แล้วตอนนี้ก็เพิ่งเปิดให้ดู คือปริมาณคนมุงนี่มหาศาลมากกกกกกก กว่าจะแทรกๆแซะๆเข้าไปส่องได้  แล้วคือ...เค้ากั้นโซนนั้นทั้งช่วงเสาเลยค่ะ ปิเอต้าอยู่ห่างออกไปราวๆสามสี่เมตรได้ =[ ]= แถมนางก็ตัวไม่ได้ใหญ่อย่างที่คิดค่ะ นางตัวเล็กค่ะะะะะ =[ ]= คือแบบ...ต้องเลนส์ซูมเท่านั้นอ่ะ ถึงจะส่องนางได้ถนัดๆ TvT

นะ...กล้องมือถือคุณกวางเลยหมดสิทธิ์ ทำได้แค่ยืนชื่นชมนางอยู่ไกลๆ TvT แต่งามมากกกกกค่ะ โฮวววว  อันนี้รูปจากกล้องเพื่อนค่ะ ได้แค่นี้แหละ นี่ก็ไม่ได้แบกเลนส์ไป

โอเค....พอเดินชื่นชมภายในโบสถ์เรียบร้อยแล้วเราก็จะไปขึ้นยอดโดมกันค่ะ พอเดินออกจากด้านในโบสถ์แล้วก็ไม่ต้องไปไหนไกลค่ะ ทางขึ้นอยู่ข้างๆนั่นแหละ ตอนแรกไม่รู้ค่ะ เดินลงบันไดหน้าไปเดินหาข้างนอกนู้น ถถถถ จริงๆอยู่ใกล้แค่นี้เอ๊งงงง

สำหรับการขึ้นไปชมบนยอดโดมนั้น มี2วิธีด้วยกันค่ะ คือหนึ่ง เดินขึ้นบันไดไปเองตั้งแต่ต้นจนจบ กับอีกวิธีคือ ขึ้นลิฟท์ไปถึงกลางทางแล้วเดินต่ออีกทอดนึง แน่นอนว่าชราภาพอย่างคุณกวางเลือกอย่างหลังแน่นอน 55555+

โอ๊ย! แต่บอกไว้ก่อนเลยนะคะ อย่าไปงกค่ะ ให้ขึ้นลิฟท์ค่ะ เพราะขนาดคุณกวางขึ้นลิฟท์เอา แต่ไอ้ที่ต้องเดินต่อเองยังทำเอาขาลากอ่ะถถถถ คือไม่ใช่แค่เดินต่อสองสามก้าว แต่เดินวนไต่อยู่ในโดมอันใหญ่สุดของโบสถ์คร่าาาา  แต่ตอนนี้มาดูตั๋วขึ้นยอดโดมกันก่อน น่าจะอันนี้แหละนะ คือถ่ายไว้นานแล้วก็จำไม่ได้ว่าใช่ไหม5555 ราคา 7 ยูโรค่ะ 

พอได้ตั๋วแล้วเราก็เดินไปที่ลิฟท์ เหมือนจะมีเจ้าหน้าที่คอยกดให้มั้งนะ จำไม่ได้55555 ก็ขึ้น-ลงทีเดียว ไม่มีจอดชั้นไหนอ่ะนะ5555 ค่ะ แล้วลิฟท์ก็จะพาเรามาจอดที่ชั้นหลังคาชั้นล่างค่ะ  

ผางงงงง เราก็จะได้เห็นโดมแบบระยะประชิด คือจริงๆนอกจากโดมใหญ่ที่เราต้องปีนขึ้นไปแล้วมันยังมีโดมเล็กโดมน้อยอีกมากมาย =w=

ค่ะ พอมาถึงตรงนี้แล้วเราก็จะต้องปีนบันไดขึ้นไป เพื่อเข้าไปในตัวโดมค่ะ คือโดมของ St.Peter เนี่ยเค้าเป็นโดม 2 ชั้นค่ะ ออกแบบโดยพระมหาบิดาไมเคิลแองเจลโล(โดมเองก็เหมือนกับผังค่ะที่มีสถาปนิกออกแบบปรับเปลี่ยนมาหลายต่อหลายคน) เป็นโดมระบบโครงสร้างแบบเรเนซองส์แท้ๆ คือเป็นโดมแบบ Hoop-tie system ซึ่งจะถ่ายน้ำหนักลงตามจุด ไม่ใช่ผนังรับน้ำหนักแบบโดมยุคก่อนๆ ทำให้โดมมีลักษณะเบา สามารถเจาะช่องเปิดได้ค่ะ  มาค่ะ เดินไปด้วยกัน =w=

เนี่ยค่ะทางเดินระหว่างชั้นทั้งสองของโดมใหญ่ ดูเหมือนกว้าง แต่ลองนึกสภาพว่าต้องเดินตามทางลาดขึ้นตลอดเวลาไม่มีพื้นราบให้พัก แล้วอากาศมันบางมากค่ะ หายใจลำบาก  แต่ระหว่างทางก็จะมีช่องเปิดให้เห็นด้านในโบสถ์ด้วยค่ะ เป็นมุมที่งามมากกกกกกกกกกกกกกกกกก

น้ำตาไหลพรากกกกก สวยอะไรขนาดนี้ ฮือออออออ จากนั้นก็เดินต่อไปค่ะ จากส่วนที่เป็นผนังสองชั้นเริ่มกลายเป็นแบบนี้

เดินเลาะโดมกันไปเลยคร่า 55555 >/////< อย่างกับจะเอื้อมถึงแล้น ว๊ายๆๆๆ

ส่องข้างล่างอีกรอบ อุกรี๊ดดด

ค่ะ จากนั้นก็ต้องออกไปเดินในผนังสองชั้นอีกครั้งมั้งนะ จำไม่ค่อยได้ แต่ส่วนที่เราจะขึ้นไปนั้นคือบนยอดโดมนู่นเลยอ่ะค่ะฟฟฟฟฟ


เดินไปเดินมาก็มาโผล่บนนี้จนได้ กรี๊ดดดดดดด

แน่นอนว่าเราลากสังขารขึ้นมาถึงบนนี้แล้วจะไม่ถ่ายมุมมหาชนได้อย่างไร โฮววววววววว ดาวแม่ของหนูววววววว ฮืออออออ ปลื้มปริ่มใจเหลือเกินนนนนนน

แปะมันสองรูปเลย เพื่อความซ้ำซ้อน555555+ >///////< จากนั้นก็ส่องบริเวณรอบๆค่ะ เราสามารถเดินได้รอบเลย ส่วนที่เราขึ้นมานี้น่าจะเป็นแลนเทิร์นมั้งนะ คือโดมในยุคเรเนซองส์มันจะมีความเบาค่ะ แล้วถ้าเอามาตั้งในที่สูงแบบนี้มันอาจจะปลิวได้ค่ะ555 เลยต้องหาอะไรหนักๆมาทับมันไว้บนยอดบนสุดซึ่งก็คือแลนเทิร์นนี่แหละค่ะ


แปะรูปรอบๆโบสถ์ >w<

หลังคาชั้นล่างนั่นเดี๋ยวเราก็จะลงไปเดินกันค่ะ มันจะอยู่ตรงบริเวณทางออกไปขึ้นลิฟท์

ดูความเป็นเมืองสีอิฐของโรม โอยยย สวยยยยย >/////<

หลังจากนั่งปริ่มอยู่บนนั้นจนพอใจ เราก็เดินวนลงกลับมาที่หลังคาชั้นล่างกันค่ะ

ไอ้ที่เราขึ้นไปมากันเมื่อกี้ก็คือบนยอดลิบๆนั่นแหละค่ะ =w= แล้วก็โดมใหญ่นี่เส้นผ่าศูนย์กลางมัน 40กว่าเมตรนะคะ วนไปจะไม่ขาลากได้อย่าางไร5555

รูปปั้นที่เราเห็นจากทางด้านล่าง =w=

ยังอยู่บนชั้นหลังคา ก่อนจะหันไปโบกมือลาสุดหล่ออีกรอบก่อนลงลิฟท์กลับมาด้านล่างค่ะ =/////=

บ๊ายบาย >3<




เสร็จสิ้นไปอีกหนึ่งภาระกิจของวันนี้ค่ะ โอ๊ยยยย ฟินมว๊ากกกกกกกก >///////<

ออกมาถึงตรงนี้นี่รู้สึกขาจะพังมากค่ะ55555+ แล้ววันนี้ยังต้องไปโรมันฟอรั่มกับโคโลเซียมต่ออีกนะ ก็เลยนั่งพักนั่งฟินกันในปีกวงรีของลานกันซะก่อน  =/////=

น้ำดื่มกินได้ =w= เพราะค่าน้ำขวดๆนี่แพงเอาการทีเดียวค่ะ

สงสัยอีกครึ่งวันที่เหลือคงต้องขึ้นเอนทรีใหม่ 55555 นี่ก็รูปเยอะ เดี๋ยวจะโหลดไม่ขึ้นถถถถ ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามชมกันนะค้า แล้วเจอกันตอนหน้าค่า