Attack
on Titan feat.KHR and A/Z Au.Fic [Cruhteo x Slaine , Levi xEren , 8059] GLIDE : WHITE and
SILVER#02
For
HBD. Count Cruhteo
:
Attack on Titan feat KHR Fanfiction Au
:
Cruhteo x Slaine , Levi x Eren , 8059
:
Romantic Drama
:
NC-17
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย
หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
“
ขอโทษครับ!”
เจ้าของเส้นผมสีชาซึ่งกำลังก้มหัวแล้วก้มหัวอีกอยู่ตรงหน้านั้นไม่ได้ทำให้อารมณ์ของCEOหนุ่มแห่งเฟอร์รารี่ดีมาขึ้นเลย
ยิ่งหันไปมองรถเต่าสีเหลืองอ่อนที่ยังเสียบคากำแพงรั้วบ้านก็ยิ่งทำให้หงุดหงิดหนักกว่าเดิม
“
คือ...ผมอยู่บ้านข้างๆนี่...ผมจะชดใช้ค่าซ่อมรั้วให้....แต่ว่า...คงต้องขออนุญาตผลัดผ่อนไปก่อนจนกว่าผมจะได้เงินเดือนนะครับ...ขอโทษด้วยจริงๆครับ!”
ใบหน้าที่เงยขึ้นมาหลับตาปี๋ก่อนจะก้มหัวลงไปใหม่ ร่างสูงใหญ่จึงถือโอกาสเหยียดมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า...บอกว่าอยู่บ้านข้างๆเขาถ้างั้นก็เด็กบ้านเยเกอร์?
ไม่น่าใช่...อย่างเจ้าเด็กแสบที่ไม่เคยฟังใครนั่นไม่มีทางมายืนก้มหัวขอโทษเขาแบบนี้เด็ดขาด
ถึงเขาจะจำหน้าไม่ค่อยได้แต่เจ้าเด็กนั่นมันเกรียนกว่านี้แน่นอน
ได้ข่าวว่าตอนนี้ก็เป็นหนึ่งในทีมวิศวกรของเฟอร์รารี่แล้วก็เป็นแฟนรีไวด้วย?
และเพราะย้ายไปอยู่กับรีไวตั้งนานแล้วเขาจึงไม่ค่อยได้เห็นหน้า...แล้วเจ้าคนที่ขับรถห่วยแตกจนเสยทะลุกำแพงบ้านของเขาพังเป็นแถบๆนี่มันเป็นใครกันล่ะ?
“
เธอ...เป็นญาติของพวกเยเกอร์งั้นรึ?”
นัยน์ตาสีฟ้าเหยียดมองอีกฝ่ายอย่างไม่ไว้วางใจ
“
ก็...ไม่ใช่ญาติหรอกครับแต่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องมาอยู่ที่นี่...อ๊ะ!
ผมไม่ใช่พวกแอบอ้างหรือหัวขโมยนะครับ! ผมมีกุญแจบ้านที่เอเลนให้มาจริงๆ”
ร่างโปร่งบางรีบควานหากุญแจบ้านด้วยท่าทางลนลาน มือใหญ่จึงโบกมือปัดอย่างรำคาญใจ แค่คิดว่ายืนรดน้ำต้นไม้อยู่ในบ้านของตัวเองดีดี๊ก็เกือบถูกรถชนตายแถมยังต้องมาซ่อมกำแพงรั้วอีกมันก็ให้หน่ายใจพอแล้ว
ไม่อยากจะไปรับรู้เรื่องของคนข้างบ้านนักหรอก
แค่เรื่องงานเขาก็ไม่มีพื้นที่ในสมองให้มองอะไรได้อีกแล้ว
ยิ่งเจ้าเด็กปอนๆที่แม้แต่เงินค่าซ่อมรั้วยังไม่มีให้เขา
ก็ไม่มีอะไรให้ต้องสนใจอีก
“
จะไปไหนก็ไปไป...ส่วนเงินค่าซ่อมรั้วมีเมื่อไหร่ค่อยเอามาให้ก็แล้วกัน”
มือใหญ่โบกไล่อย่างรำคาญและไม่ได้คาดหวังอะไร...ไม่คิดว่าเจ้าเด็กนี่จะมีปัญญามาชดใช้ค่าหินทราโวทีนนำเข้าให้เขาได้หรอก...แค่ไม่ต้องมาเกี่ยวข้องอะไรกันอีกก็ดีถมเถ
“
ขอบคุณมากๆนะครับ แล้วก็ขอโทษด้วยจริงๆครับ...”
เจ้าเด็กนั่นเดินคอตกก่อนจะพยายามสตาร์ทรถแล้วขับเข้าบ้านของพวกเยเกอร์ไป...เขาได้แต่ภาวนาในใจขออย่าให้ต้องพบต้องเจอกันอีกเลย
แค่ครั้งแรกก็สร้างความเดือดร้อนให้เขาซะขนาดนี้ ไม่รู้ขับรถอีท่าไหน
ฝีมือแย่ชะมัด!
แต่ดูเหมือนคำภาวนาของเขามันไม่ค่อยจะได้ผลสักเท่าไหร่
หรือไม่พรหมลิขิตมันก็รุนแรงกว่าที่คิด...
เพราะแค่เช้าวันรุ่งขึ้นเท่านั้นแหละ...
“
เธอ!!!”
“
คุณ!!”
เสียงตะโกนแทบจะดังขึ้นพร้อมๆกันเมื่อคู่กรณีต้องมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง...ในสถานที่ที่
CEOหนุ่มไม่สามารถจะหลบเลี่ยงไปได้ตลอดชีวิตเพราะที่นี่ก็คือหนึ่งในที่ทำงานของเขา
สนามฟิโอราโน...
นัยน์ตาสีฟ้าเบิกค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
วันนี้เขาพอจะมีเวลาเลยว่าจะแวะมาดูนักขับคนใหม่ที่เจ้าเอลวินหัวดื้อยืนยันว่ายังไงก็ต้องเป็นเด็กคนนี้เท่านั้นสักหน่อย
อย่างน้อยก็ถือว่าเขามาดูแล้วจะได้ไม่ต้องถูกตราหน้าว่าไม่เคยมาเหยียบสนามจะรู้ได้ยังไง...แต่ที่ไหนได้พอมาถึงกลับเจอเจ้าเด็กที่ทำกำแพงรั้วบ้านเขาเป็นรูโหว่กำลังเดินไปเดินมาอยู่ในพิตการาจ!
ทำไมเจ้าเด็กนั่นถึงมาเดินอยู่ในนี้ได้
ดูจากรูปร่างหน้าตาอายุแล้วก็ไม่น่าจะเป็นวิศวกรของที่นี่?
ใบหน้าหยิ่งทระนงก้มมองอีกฝ่ายอย่างสำรวจตรวจตราโดยไม่คิดจะเกรงใจ
ชุดที่ใส่ถึงจะเป็นชุดฟอร์มสีแดงของเฟอร์รารี่เหมือนคนอื่นๆทว่าของเจ้าเด็กนี่กลับเป็นชุดหมีซึ่งปกติแล้วจะไม่มีลูกทีมคนไหนใส่ถ้าไม่ใช่เวลาแข่งหรือซ้อมเปลี่ยนยาง
ถึงจะเป็นเวลาแข่งแต่ก็จะมีเฉพาะคนที่คอยเปลี่ยนยาง 12 คนเท่านั้นที่ใส่ เพราะงั้นกรณีนั้นจึงตัดไป
จะเหลือก็แต่....
นัยน์ตาสีฟ้าไล่ลงไปมองหมวกกันน็อคที่ท่อนแขนเล็กๆนั่นโอบไว้ข้างลำตัว...นี่ก็ไม่ใช่หมวกกันน็อคที่พวกที่คอยเปลี่ยนยางใส่
แต่หมวกกันน็อคที่มีระบบซับซ้อนกว่าหมวกกันน็อคทั่วไปและราคาไม่ธรรมดาจน CEO อย่างเขาต้องเซ็นต์อนุมัติด้วยตัวเองทำให้เขารู้จักมันดี...ว่ามันเป็นหมวกกันน็อคสำหรับนักขับรถสูตรหนึ่ง
ไม่จริง...
ไม่จริงใช่ไหม?...
มือใหญ่รีบเปิดแฟ้มที่ถืออยู่...คงต้องบอกว่าเขาพลาดเองที่ไม่มีเวลาดูเพราะรู้ว่าเป็นนักขับใหม่จึงไม่มีประวัติอะไรให้ต้องอ่านแล้วคนอย่างเขาก็ไม่ได้สนใจว่าหน้าตาหมอนั่นจะเป็นยังไง...นั่นแหละความผิดพลาดครั้งใหญ่...เพราะแค่เปิดแฟ้มมา...รูปเด่นหราที่แปะอยู่ตรงหน้าใบประวัติก็ทำเอาCEOหนุ่มแทบจะกุมขมับ
มันเป็นรูปของเจ้าเด็กนี่แน่ๆ...นักขับมือสองของเฟอร์รารี่เป็นเด็กนี่แน่ๆ!
อย่างเจ้าเด็กที่ขับรถห่วยแตกถึงขนาดเสยกำแพงบ้านเขาเป็นรู
กับอีแค่จะขับบนถนนให้ตรงยังทำไม่ได้เนี่ยนะจะให้มาเป็นนักขับของเฟอร์รารี่?!
เจ้าเอลวินมันคิดอะไรของมันอยู่!
“
เอลวินอยู่ไหน?” เสียงดุดันถามออกไปอย่างไม่สนใจว่ามันจะทำให้ร่างโปร่งบางตรงหน้ารู้สึกกลัว
ร่างสูงใหญ่ในสูทเข้ารูปก้าวขาเข้าไปในพิตอย่างถือสิทธิ์
ใบหน้าบอกบุญไม่รับทำให้ทีมวิศวกรที่ปกติจะเฮฮากันตลอดถึงกับเงียบกริบ
“
ครูเทโอ? พายุอะไรหอบนายมาถึงนี่?”
ต้องพายุแน่ละ ดูหน้าของเจ้าCEOปีศาจตอนนี้ก็รู้ เอลวิน สมิธลอบถอนหายใจ
“
เจอตัวก็ดี ชั้นมีเรื่องจะต้องบอกนายเดี๋ยวนี้และนี่ถือเป็นคำขาดจาก CEO นายห้ามเถียง”
ใบหน้าหยิ่งทระนงจ้องทีมบอสของพิตการาจสีแดงอย่างจริงจัง
บรรยากาศอึมครึมลอยเข้ามาปกคลุมห้องทั้งห้องทันที
ร่างโปร่งบางของนักขับคนใหม่เดินตามร่างสูงใหญ่ของCEOหนุ่มเข้ามาทันได้ฟังประโยคที่ทำเอาชาไปทั้งหน้าได้พอดี
“
ชั้นไม่เอานักขับฝีมือห่วยแตกคนนี้!” มือใหญ่เปิดแฟ้มก่อนจะชี้ไปที่รูปของสเลน
ทรอยยาร์ด
และถึงแม้ว่านัยน์ตาสีฟ้าจะเหลือบมาเห็นว่าคนที่ถูกกล่าวถึงก็อยู่ในห้องด้วยแต่ร่างสูงใหญ่ก็ไม่คิดจะเห็นใจและไม่สนใจว่าจะทำร้ายหัวใจดวงน้อยขนาดไหน งานก็คืองาน
ถ้ามัวแต่เกรงใจก็ยิ่งใหญ่ไม่ได้
“
นายรู้ไหมว่าเด็กนี่มันเพิ่งขับรถชนรั้วบ้านของชั้นเมื่อวานนี้?
แล้วนายยังจะให้คนที่ขับรถแย่ขนาดนั้นมาขับให้เฟอร์รารี่? หึ
อย่ามาพูดให้ขำหน่อยเลย ยังไงเรื่องนี้ชั้นก็ขอค้านอย่างเด็ดขาด!
หานักขับคนใหม่ซะ!
ยังไงชั้นก็จะไม่เซ็นต์อนุมัติอะไรให้เจ้าเด็กนี่แน่ๆ!”
ไม่ว่าเปล่าปลายนิ้วยังชี้มาที่เจ้าของเส้นผมสีชาที่ได้แต่ยืนนิ่งอย่างไม่อาจไหวติงได้อีก
นัยน์ตาสีมรกตไหวระริกด้วยความเจ็บปวดที่แล่นมาจากแผ่นอกด้านซ้าย
ก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับเพราะนั่นมันก็เป็นความผิดของเขาเอง
แต่ถึงกระนั้นก็อดที่จะตัดพ้อต่อโชคชะตาไม่ได้...ทั้งๆที่พยายามมาถึงขนาดนี้
พยายามจนคว้าพวงมาลัยของเฟอร์รารี่มาไว้ในมือได้แล้วแท้ๆ
“
บนถนนกับในสนามมันต่างกัน...มีนักขับหลายคนที่ขับรถบนถนนไม่ได้แต่กลับขับในสนามได้ดี
นายได้ถามสเลนหรือยังว่าทำไมถึงขับรถไปชนรั้วบ้านนาย?” แต่กลับกลายเป็นเอลวินที่ตอบโต้อีกฝ่ายด้วยเหตุผลที่ฟังขึ้น
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาเงยขึ้นมองทีมบอสของตัวเองด้วยความซาบซึ้งต่างจากใบหน้าหยิ่งทระนงที่ยังคงไม่คิดจะรับฟังอะไรอยู่เหมือนเดิม
“
ใครจะไปอยากรู้ ชั้นดูแค่ผลลัพธ์เท่านั้นก็พอ!” CEOหนุ่มยังคงยืนยันคำเดิมที่ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ยอมให้เจ้าเด็กตรงหน้ามาเป็นนักขับให้เฟอร์รารี่แน่
“
ว่าไงสเลน?”
แต่ทีมบอสของพิตการาจสีแดงยังคงเยือกเย็น
เป็นเพราะว่าความเห็นไม่เคยตรงกันเพราะงั้นการโต้เถียงแบบนี้จึงเป็นเรื่องธรรมดาของพวกเขา
แต่กับคนที่ไม่เคยต้องรับความกดดันแบบนี้จึงมีสีหน้าตื่นๆ
“
ผม...คือว่า...ผมหลบลูกหมา...”
ยิ่งเห็นท่าทางที่ไม่เด็ดขาด ขาดความมั่นใจ
ตอบคำถามตะกุกตะกักของนักขับคนใหม่ก็ยิ่งทำให้CEOหนุ่มที่จ้องจะหาเรื่องอยู่แล้วรู้สึกหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม...จะไหวเหรอเนี่ย?
เด็กนี่ต่างจากรีไวกับโกคุเดระโดยสิ้นเชิง
“
แต่ในสนามแข่งไม่มีลูกหมาให้ต้องคอยหลบแบบนั้น
เพราะงั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ชั้นจะไม่ให้เค้าขับ” ทีมบอสแห่งพิตการาจสีแดงหันมาพูดกับ CEOหนุ่มอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน
“
นายบอกว่านายดูแค่ผลลัพธ์ใช่ไหมครูเทโอ?
ถ้างั้นนายก็ควรจะรอดูผลงานของเด็กนี่ก่อนจะตัดสินใจ นายไม่เคยเห็นเด็กนี่ตอนขับฟอร์มูล่าวันแล้วนายจะรู้ได้ไงว่าเขาไม่คู่ควรที่จะขับให้เฟอร์รารี่?” คำพูดของเอลวินทำเอาCEOหนุ่มแห่งเฟอร์รารี่เถียงไม่ออก
สันกรามได้แต่กัดกันแน่นเช่นเดียวกับฝ่ามือที่กำหมัดเพื่อต้องการระงับความไม่พอใจ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ใช่ผู้บริหารที่ไม่ยอมรับฟังใคร
ในเมื่อคนเป็นทีมบอสมาเป็นสิบๆปีและทำผลงานให้เฟอร์รารี่ได้ดีมาตลอดยืนยันซะขนาดนั้น
เขาก็จะยอมวางเดิมพันด้วยก็ได้
“
ก็ได้...แต่ชั้นมีข้อแม้”
ใบหน้าหยิ่งทระนงกัดฟันพูด
ถึงมันจะทำให้คนในพิตการาจพอจะโล่งใจได้บ้างแต่คำว่าข้อแม้ของอีกฝ่ายก็ทำให้ยังหายใจไม่ทั่วท้อง
“
ชั้นจะยอมให้เด็กนี่ลงแข่งก็ได้...แต่แค่สามสนามเท่านั้น...ถ้าไม่ได้ขึ้นโพเดี้ยมทั้งสามสนาม...นายต้องถอดเด็กนี่ออกจากการเป็นนักขับของเฟอร์รารี่ทันที”
นัยน์ตาสีฟ้าจ้องมองกันอย่างไม่ลดละบ่งบอกว่าตนยอมให้ได้แค่นี้
“
ตกลง” ทีมบอสแห่งพิตการาจรับคำอย่างง่ายดาย
เพราะลึกๆในใจแล้วตนก็เชื่อมั่นว่าสเลนจะทำได้...ก็นะ...ถ้าทำไม่ได้คงเป็นเขาเองนี่แหละที่อาจจะต้องพิจารณาเรื่องนี้...เขาเองก็ไม่ได้ใจดีไปกว่าครูเทโอเท่าไหร่นักหรอก
“
หึ แล้วชั้นจะคอยดู”
ใบหน้าหยิ่งทระนงกวาดสายตามามองนักขับคนใหม่ชั่ววินาทีก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะสะบัดตัวเดินออกไปจากพิตการาจและนั่นก็ทำให้ลูกทีมคนอื่นๆต่างถอนหายใจไปตามๆกัน
“
นายทำได้ใช่ไหมสเลน?”
ทีมบอสหันมาถามร่างโปร่ง ใบหน้าสวยพยักรับอย่างมุ่งมั่น
มือใหญ่จึงตบลงไปที่ไหล่บางอย่างให้กำลังใจ
“
หว๋า~~น่ากลัวชะมัด นี่บอสต้องไปสู้รบปรบมือกับผู้ชายคนนั้นตลอดเลยเหรอครับเนี่ย
เคยได้ยินแต่กิตติศัพท์เพิ่งเจอตัวจริงเป็นครั้งแรก โหดสมคำล่ำลือจริงๆ” หนึ่งในทีมวิศวกรครวญครางให้ได้ยิน
“
ว่าแต่เจ้าเอเลนนี่ละก็นะ...บ้านอยู่ข้างๆCEOนั่นก็ไม่บอก
นี่ไม่ใช่ว่าเราส่งสเลนเข้าปากเหยี่ยวปากกาเหรอครับเนี่ย?” ลูกทีมอีกคนออกความเห็นและนั่นก็ทำให้เอลวิน
สมิธคงต้องเอามาขบคิด
นัยน์ตาสีฟ้าทอดมองนักขับคนใหม่ที่กำลังยืนคุยกับวิศวกรอยู่ข้างๆรถ...อย่างเด็กนี่สู้รบปรบมือกับเจ้าครูเทโอไม่ไหวแน่ๆ
ถ้าเป็นเอเลนก็ว่าไปอย่าง เด็กนั่นยอมรีไวคนเดียวกับคนอื่นนี่ตายเป็นตายเถียงได้เถียง
เพราะงั้นเอเลนถึงได้ไม่รู้สึกว่าข้างบ้านของตัวเองมีเจ้าคนน่ากลัวนั่นอยู่
ร่างโปร่งบางของนักขับคนใหม่แห่งค่ายม้าลำพองเดินกลับไปยังห้องล็อคเกอร์เมื่อพระอาทิตย์ฉายแสงยามเย็น
ในหัวกำลังทบทวนกลยุทธต่างๆที่ทีมจะใช้ในการแข่งขันเพราะการแข่งรถเอฟวันนั้นไม่ได้มีแค่การเอารถลงไปวิ่ง
ทุกๆทีมต่างแข่งกันทั้งศักยภาพของรถ ความเก่งกาจของนักขับ
การวางหมากวางแผนของวิศวกรรถและทีมบอส นอกจากนี้ยังมีทีมเวิร์คของพิตสต็อปอีก
เขาเป็นคนใหม่ของทีมจึงต้องเรียนรู้และเข้ากับคนอื่นๆในทีมให้ได้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ถึงภาษาอังกฤษสำเนียงอิตาลีของคนที่นี่จะทำให้เขาปวดหัวบ้างในบางทีแต่โดยรวมแล้วทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี
ทุกคนในทีมต้อนรับเขา...จะมีก็แค่คนเดียวเท่านั้นแหละที่ไม่ยอมรับ...
ใบหน้าสวยถึงกับถอนหายใจเมื่อนึกถึงคนข้างบ้านขึ้นมา...เผลอไปทำให้เกลียดเข้าแล้วจนได้...จะทำยังไงดี...
เขาเองก็จะยอมแพ้แล้วกลับไปตอนนี้ไม่ได้
หากยังทำตามความฝันไม่สำเร็จเขาคงไม่มีหน้ากลับบ้านได้หรอก
เพราะว่าเขาหนีออกมา...
ใบหน้าสวยถอนหายใจอีกครั้งเมื่อนึกถึงคนที่บ้านในอังกฤษ...ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ
“พ่อ” ของเขา
ร่างโปร่งสะบัดหน้าไปมาก่อนจะกลับมาตั้งสติอยู่กับปัจจุบัน
วันนี้เหนื่อยมามากพอแล้ว
เลิกคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้วกลับบ้านนอนพักเอาแรงดีกว่า...เอาไว้ค่อยพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าเขาก็ทำได้ในสนามก็แล้วกัน
ฝ่ามือบางเตรียมจะผลักประตูห้องล็อคเกอร์เข้าไป
ทว่าเสียงอะไรแปลกๆก็ทำให้สองมือชะงักลงเสียก่อน
“
อ้า...คุณรีไว...เดี๋ยว...อย่าเพิ่งใส่เข้ามาสิครับ...ถุงยาง...ใส่ถุงยางก่อน...”
“
ไม่ใส่”
“
อึก...ไม่ได้นะครับ...”
“
ชั้นไม่ชอบ”
“
ไม่ชอบก็ต้องใส่ครับ! อะ....ก็ใครให้มาทำในที่แบบนี้เล่า...”
......นั่นมันเสียงของเอเลนกับคุณรีไว?
ถึงเขาจะไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนั้นนักแต่ก็พอเดาได้ว่าข้างในกำลังทำอะไรกัน...
ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
สองขารีบเดินหนีไปอีกทางก่อนจะนั่งลงบนโซฟาในห้องริมสุดที่สามารถมองเห็นประตูของห้องลอคเกอร์ได้...จะเข้าไปขัดตอนนี้ก็คงไม่ดีแต่เขาจะออกไปทั้งๆที่ไม่ได้เปลี่ยนชุดก็ไม่ได้...ก็คงต้องรอต่อไป...
“
อ้าวสเลน? ยังไม่กลับเหรอ?”
หนึ่งในทีมวิศวกรที่เดินผ่านมาทักขึ้นหลังจากที่เห็นเขานั่งอยู่ในห้องพัก
“
ยังครับ...” ใบหน้าสวยยิ้มให้
มองเห็นกระเป๋าที่สะพายไหล่อีกฝ่ายอยู่ก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมานิดหน่อยที่ได้กลับบ้านแล้ว
เพราะถึงพวกทีมวิศวกรจะอยู่ในชุดฟอร์มของเฟอร์รารี่เหมือนกันแต่มันก็เป็นชุดที่เดินออกไปไหนต่อไหนได้ไม่เหมือนกับเขาที่ใส่ชุดหมีของนักขับ
ออกไปทั้งอย่างนี้คนคงมองกันตาย
“
กลัวจะต้องกลับไปเจอท่านCEOปีศาจนั่นสินะ อ้า เป็นชั้นก็ไม่อยากกลับบ้านเร็วนักหรอก ฮ่าๆๆ” มือใหญ่ตบไหล่เขาอย่างอารมณ์ดีแล้วพากันเดินจากไป...มันก็จริงแหะ...ถ้ากลับไวอาจจะเจอเพื่อนบ้านบุกมารังควานให้เขาเลิกขับรถก็เป็นได้...ใบหน้าสวยยิ้มเจื่อนๆและได้แต่นั่งเฝ้ามองทีมวิศวกรคนแล้วคนเล่าเดินจากไป
“..............” ดูเหมือนทีมของโกคุเดระเพิ่งจะเลิก
ร่างบอบบางนั่นถึงได้มายืนส่งกระแสจิตถามเขาว่ายังไม่กลับหรือไง?
เขาจึงได้แต่ยิ้มแห้ง...จริงสิ...โกคุเดระก็เป็นนักขับเหมือนกันแล้วก็ต้องเปลี่ยนชุดเหมือนกันเพราะงั้นอาจจะมีวิธีก็ได้เพราะน่าจะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้มาบ้าง?
เจ้าของผมสีเงินเดินไปแถวๆหน้าห้องลอคเกอร์และมือบางก็ต้องชะงักไปเหมือนมือของเขา
ใบหน้าสวยหันกลับมาพยักหน้าให้ราวกับจะบอกว่าเข้าใจแล้ว แต่กลับเป็นเขาเองที่ไม่เข้าใจเจ้านักขับมือหนึ่งของเฟอร์รารี่ตอนนี้เลย
เพราะแทนที่โกคุเดระจะเดินมานั่งรอข้างๆกัน
ร่างบอบบางนั่นกลับเดินออกไปจากอาคารหน้าตาเฉย......คือว่า...จะออกไปทั้งๆอย่างงั้นน่ะนะ?
เขาชะเง้อคอมองผ่านบานหน้าต่างกระจกว่าโกคุเดระจะทำยังไงต่อไปในเมื่อไม่มีทั้งกุญแจรถและโทรศัพท์
ความหวังที่ว่าจะมีคนมานั่งเป็นเพื่อนเหลือศูนย์เมื่อโกคุเดระใช้โทรศัพท์ของส่วนออฟฟิศโทรไปที่ไหนสักแห่ง...แล้วไม่นานก็มี
BMW สีดำมาจอดตรงหน้าคนที่อยู่ในชุดหมีสีแดง
ใครกันน่ะ?
แฟนเหรอ?
เดี๋ยวนะ?
แล้วทำไมผู้ชายตัวสูงใหญ่คนนั้นถึงได้ใส่ชุดหมีมาด้วยล่ะ? ถึงมันจะเป็นสีดำก็เถอะ?
โกคุเดระโทรไปบอกว่าตัวเองเปลี่ยนชุดไม่ได้เลยใส่มาเป็นเพื่อน? จะยังไงก็ไม่รู้ละแต่เขากลับมองว่าเป็นคู่ที่น่ารักดีแหะ
ถึงจะขำดีก็เถอะ
BMW
สีดำคันนั้นกลับรถแล้วหันหัวไปในทางเข้าเมือง...อย่าบอกนะว่าจะเข้าไปซื้อของกันต่อ?
ในสภาพแบบนั้น? แต่ดูจากท่าทางทั้งสองคนก็ดูไม่ได้อายอะไร? เป็นเขาคงไม่กล้าเงยหน้าเดินไปไหนได้หรอกนั่น
รอยยิ้มจางๆเผยอยู่บนริมฝีปากเมื่อนึกถึงหมีแดงตัวเล็กกับหมีดำตัวใหญ่เดินเข็นรถเข็นในซุปเปอร์มาเก็ต...ก็น่าจะเข้ากับโกคุเดระดีนะ?
พอเสียง
BMW
หายไปทำให้ตอนนี้เขาแทบจะเหลืออยู่ตัวคนเดียว จากท้องฟ้าใสๆเปลี่ยนเป็นสีส้มและกำลังจะมืดลงทุกทีๆ....นี่มันนานแค่ไหนกันแล้วเนี่ย?
ทำไมสองคนนั้นไม่ออกมาสักที? เขารออยู่แบบนี้จะดีแน่เหรอ?
ไม่ใช่จะทำเรื่องแบบนั้นกันทั้งคืนในห้องนั้นหรอกนะ? ....หว๋า....ทำไงดีล่ะ
เขาไม่มีคนมารับแบบโกคุเดระเสียด้วย
แล้วในขณะที่ไฟทางเดินเริ่มกระพริบติดขึ้นตามอัตโนมัติเมื่อภายนอกมืดลง
ประตูห้องล็อคเกอร์ก็เปิดออกจนได้
หัวสีชารีบผลุบเข้ามาในห้องเพื่อไม่ให้สองคนนั้นรู้ว่าเขารออยู่...ก็นะ...มันน่าอายออกนี่นา
แต่ว่าเขาคงจะคิดไปเองเพราะดูท่าทางคุณรีไวจะไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิด
ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครแบกเอเลนที่สลบไสลพาดบ่าก่อนจะเดินออกไปด้วยใบหน้านิ่งสนิทตามเดิม
เขาได้แต่หัวเราะแห้งๆอยู่ในใจคนเดียว
กว่าจะรอจน Ferrari
F12 Berlinetta วิ่งจากไป
กว่าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ตัวเองเสร็จก็เล่นเอารอบตัวมืดสนิทไปแล้ว
มืดไม่มืดเปล่า
เสียงฟ้าร้องครืนๆดังบ่งบอกว่าอีกไม่นานฝนคงตกลงมาแน่ๆ
และนั่นทำให้สองขารีบจ้ำออกจากอาคารให้ไวกว่าเดิม...รถเต่าสีเหลืองอ่อนถูกปิดประทุนเพื่อกันฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมาได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด...อ่า...เกือบไปๆ
Volkswagen
New Beetle Cabriolet แล่นช้าๆออกไปจากลานจอดรถของเฟอร์รารี่
อันที่จริงบอสก็เสนอรถของเฟอร์รารี่ให้แต่เขาก็ยืนยันว่าจะใช้คันเดิม...เพราะเวลาที่เห็นมันทีไร
ความท้อแท้ใจก็จะกลับกลายมาเป็นความมุ่งมั่น
เขาจะต้องดีพอเพื่อที่จะกลับไปอยู่ข้างๆคนที่ให้มันกับเขามาให้ได้
รถเต่าสีเหลืองอ่อนแล่นมาจนถึงหน้าสำนักงานใหญ่ของเฟอร์รารี่ก่อนที่จะจอดลงเพราะไฟแดง...อันที่จริงก็มีเขาจอดอยู่คันเดียวนี่แหละ
ถนนเลนส์อื่นๆล้วนว่างเปล่า ถ้าจะขับฝ่าไฟแดงไปก็ทำได้แต่เพราะเป็นคนไม่ชอบฝ่าฝืนกฎอย่างเขาเลยยังคงจอดรอไฟแดงอยู่อย่างนั้น
นัยน์ตาสีมรกตทอดมองที่ปัดน้ำฝนซึ่งปัดไปมาอยู่หน้ากระจก
เม็ดฝนยังคงโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย
เวลาหัวค่ำแบบนี้ที่ที่เคยคับคั่งไปด้วยพนักงานอย่างหน้าสำนักงานใหญ่เลยไม่มีใครเหลือสักคน
ยิ่งฝนตกแถวนี้ยิ่งเงียบจนดูวังเวง
ไฟสีแดงเปลี่ยนเป็นสีเขียว
มือขยับเกียร์ตามปกติและขาก็เหยียบคันเร่งตามปกติ...แต่ที่ไม่ปกติก็คือโฟลคสวาเกนสีเหลืองของเขาเพราะแทนที่มันจะเคลื่อนที่ตามคำสั่งมันกลับนิ่งสนิทไปเสียดื้อๆ
“
เอ๋?” มือพยายามบิดกุญแจเพื่อสตาร์ทรถใหม่
ทั้งๆที่ยังมีเสียงเครื่องยนต์ทำงานทว่าเจ้ารถเต่ากลับไม่ยอมวิ่ง?!
“
อา...ขอร้องละ...อย่าเพิ่งมางอแงตอนนี้สิ...”
เสียงนุ่มบ่นออกไปเบาๆ
คิ้วสีชาเริ่มขมวดเข้าหากันเมื่อไม่มีทีท่าว่าเจ้ารถเต่าจะยอมเคลื่อนที่
สงสัยเป็นเพราะเมื่อวานเอาไปเสยกำแพงมาแน่ๆเลย
ทั้งๆที่เมื่อเช้ายังดีอยู่เลยแท้ๆแล้วทำไมถึงมาตายเอากลางถนนแบบนี้ได้เนี่ย
“
โธ่....”
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาถอนหายใจก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่น
เขาหันมองไปรอบตัวก็พบเพียงถนนว่างเปล่า...ไม่มีใครช่วยเขาได้แน่แต่จะจอดทิ้งไว้ตรงนี้ก็คงไม่ได้
มือบางจึงตัดสินใจเปิดประตูรถออกไปก่อนจะพยายามเข็นเจ้ารถเต่าจนมันไหลไปจอดอยู่ข้างทางได้สำเร็จ ฝากระโปรงถูกเปิดออกก่อนที่ใบหน้าได้รูปจะยื่นเข้าไปมองเครื่องยนต์และอะไหล่มากมายอย่างจนใจ...ถึงเขาจะเป็นนักขับรถสูตรหนึ่งแต่ก็ใช่ว่าจะซ่อมรถเป็น
ถึงเขาจะขับมันชนนู่นชนนี่บ่อยๆจนเข้าอู่พอๆกับอยู่บ้านแต่ก็ไม่เคยรู้เลยนี่นาว่าจะต้องซ่อมยังไง
ทำไมถึงได้เป็นคนแบบนี้นะนายน่ะสเลน...เอาเข้าจริงก็ไม่เคยจะทำอะไรด้วยตัวเองได้เลย
แล้วแบบนี้จะกลับบ้านไปหาคนคนนั้นได้ยังไง...
ใบหน้าสวยถอนหายใจในความไม่ได้เรื่องของตัวเอง...ไม่ได้เรื่องไม่พอยังไม่เคยมีโชคอะไรกับใครเขาเลย...วันนี้ตั้งแต่เช้ายันเย็นมีแต่เรื่องซวยซ้ำซวยซ้อนทั้งวัน...จะมีเรื่องอะไรดีๆเหมือนคนอื่นเค้าบ้างไหมนะ?
หัวสีชาสะบัดไปมา...จะมาจิตตกตอนนี้มันยังเร็วไป...ใบหน้าพยายามกลับไปมุ่งมั่นอีกครั้ง
สองมือเองก็พยายามจับๆอะไหล่และสายไฟมากมายเผื่อว่ารถอาจจะวิ่งได้ราวกับปาฏิหาริย์ขึ้นมาบ้าง
และในขณะที่นักขับคนใหม่กำลังซ่อมรถมั่วๆอย่างเอาเป็นเอาตาย
ที่หน้าตึกออฟฟิศของเฟอร์รารี่ก็มีรถประจำตำแหน่งคันหนึ่งมาจอดรออยู่...
แฟ้มเอกสารหลายเล่มถูกโยนไว้ในท้ายรถและคนที่อยู่ทำงานจนมืดค่ำนั้นก็ไม่ใช่ใครเลย
“
แวะที่ไหนก่อนหรือเปล่าครับ?” คนขับรถเอ่ยถามCEOหนุ่มแห่งเฟอร์รารี่ที่นั่งอยู่ด้านหลัง
ในมือใหญ่ยังคงไม่ละจากแฟ้มเอกสารเล่มหนึ่งที่ถือติดมาด้วย
“
ตรงกลับบ้านเลย”
สิ้นคำสั่งรถประจำตำแหน่งก็แล่นออกจากสำนักงานใหญ่ของเฟอร์รารี่แทบจะเป็นคันสุดท้าย
ในลานจอดรถที่เคยแน่นขนัดบัดนี้กลับว่างเปล่า
จู่ๆก็รู้สึกว่าโรงงานขนาดใหญ่ของเขานั้นช่างวังเวงน่ากลัว
มือปิดแฟ้มลงเมื่ออ่านจนถึงบรรทัดสุดท้าย
ขอพักสายตาด้วยการเหม่อมองสายฝนเสียหน่อยก็น่าจะดี
ทว่า...
กลับมีเจ้ารถเต่าสีเหลืองอ่อนคุ้นแสนคุ้นโผล่เข้ามาในสายตา?
ยิ่งรถประจำตำแหน่งจอดติดไฟแดงอยู่ก็ยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่านั่นมันเป็นโฟลคสวาเกนที่เพิ่งจะเสยรั้วบ้านเขาพังเมื่อวานนี้จริงๆ!
ใบหน้าหยิ่งทระนงเบือนไปมองร่างโปร่งบางของเจ้าเด็กนั่นที่กำลังตากฝนอยู่ใต้กระโปรงรถ...เสียหรือยังไงเจ้ารถเต่านั่น?
แต่มันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขา
ไม่จำเป็นต้องไปสนใจเจ้าเด็กไม่ได้เรื่องนั่นหรอก
ดีเสียอีกถ้าตากฝนจนเป็นหวัดแล้วลงแข่งไม่ได้
เขาจะได้ไม่ต้องไปวุ่นวายเถียงกับเจ้าเอลวินให้คอแทบแตก
“
ขับต่อไปสิ”
เสียงทุ้มนิ่งสนิทเอ่ยสั่งคนขับรถที่เหลือบตามามองผ่านกระจกมองหลัง
คนขับรถเองก็คงจะเห็นแล้วว่ามีรถจอดเสียอยู่และถ้าคนกลุ่มสุดท้ายอย่างพวกเขาไม่ลงไปช่วยเด็กนั่นก็ต้องติดแหงกอยู่ที่นี่ทั้งคืนแน่
เพราะโรงงานของเฟอร์รารี่ก็ไม่ได้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมาราเนลโลเสียทีเดียว
ต้องขับรถผ่านป่าที่ล้อมรอบกลุ่มก้อนโรงงานของเฟอร์รารี่ไปพอสมควร
แต่เมื่อได้ฟังคำสั่งของเขาคนขับรถก็จำต้องออกรถอย่างช่วยไม่ได้...
และก็ไม่ได้มีแค่คนขับรถเท่านั้นที่รู้เห็นว่ามีรถอีกคันอยู่ใกล้ๆกัน...ร่างโปร่งบางของนักขับคนใหม่ของทีมม้าลำพองเองก็เห็นเช่นกันว่ามีรถมาจอดติดไฟแดงอยู่
ทว่าพอรู้ว่าเป็นรถใคร...สองขาก็ไม่กล้าจะวิ่งไปขอความช่วยเหลือ...ร่างโปร่งจึงต้องจำใจยืนมองรถประจำตำแหน่งคันนั้นแล่นผ่านหน้าไป...
คงจะถูกเกลียดจริงๆด้วยสินะ...
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาหม่นหมองลงยิ่งกว่าตอนที่รู้ว่ารถเสียเสียอีก...ทั้งๆที่ก่อนจะมาที่นี่ก็มีคนไม่ชอบใจเขาอยู่มากมาย
แต่ทำไมถึงได้ไม่อยากให้ผู้ชายคนนั้นเกลียดเขากันนะ?
ไหล่บางห่อเหี่ยวรู้สึกไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาทันที
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้สองมือจึงต้องหันกลับไปจับๆดึงๆอะไหล่ที่ไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาเลยสักนิด...บอกตามตรงว่าเรื่องร้ายๆที่เจอมาทั้งวันนี้ยังไม่เท่ากับเสี้ยววินาทีที่รถประจำตำแหน่งคันนั้นแล่นออกไปโดยไม่ชายตาแลเขาด้วยซ้ำ
น้ำตา...ห้ามไหลลงมาเด็ดขาดเลยนะสเลน...
และเพราะดวงตานั้นพร่ามัวไปหมดจึงมองไม่เห็นรถที่จอดลงข้างๆอย่างนิ่มนวล...
“
ขึ้นมา” น้ำเสียงดุดันปนรำคาญทำให้ไหล่บางถึงกับสะดุ้งโหยง
คราบน้ำตาไหลหายไปกับสายฝนตอนนี้เขาจึงมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนที่คิดว่าจากไปนานแล้วได้หวนกลับมาอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง...นั่นมัน...คุณครูเทโอจริงๆ
“
เอ่อ...แต่ว่า........” และเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกลับมา
ร่างโปร่งจึงได้แต่เงอะงะอย่างทำอะไรไม่ถูก
“
............” ใบหน้าหยิ่งทระนงถอนหายใจออกไปอย่างไม่คิดจะปิดบัง
ทำไมเจ้าเด็กนี่จะต้องหาเรื่องเดือดร้อนมาให้เขาตลอดแบบนี้ด้วย แย่จริงๆ
มือใหญ่เปิดประตูรถลงไปเพราะไม่อยากจะเสียเวลามากไปกว่านี้
เขายังมีงานที่หอบกลับไปเคลียร์ที่บ้านรออีกเป็นตั้งและที่กลับมานี่ก็เพราะว่าเขาเป็นคนดี!
มือใหญ่จับลงไปที่ข้อมือบางของคนที่เนื้อตัวเปียกโชกและมอมแมมก่อนจะลากมาเหวี่ยงเข้าไปในรถ
ร่างสูงใหญ่ก้าวขาเข้าไปนั่งข้างๆจากนั้นรถจึงขับออกไป
ใบหน้าหยิ่งทระนงหันมาเหยียดมองคนที่นั่งสั่นเป็นลูกนก
นัยน์ตาสีมรกตนั่นมองมาอย่างกล้าๆกลัวๆ...น่ารำคาญจริงๆ
สูทเนื้อดีถูกถอดออกก่อนจะโยนใส่เจ้าคนที่กำลังเปียกโชก
นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างก่อนจะมองไปที่ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีทองที่ยังคงเมินใส่ตน
“
นอกจากค่าซ่อมรั้วแล้วก็ยังมีค่าสูท Armani ตัวนี้อีกล่ะ
อย่าลืม”
ถึงคำพูดจะทำเอาสเลนถึงกับหนาวๆร้อนๆแต่การกระทำกลับตรงกันข้าม ใบหน้าสวยก้มลงไปซุกอยู่บนสูทราคาแพงระยับก่อนจะอมยิ้มอย่างไม่ให้อีกฝ่ายเห็น
ถึงจะโหดไปบ้างแต่ก็คงไม่ใช่คนร้ายกาจอะไร ไม่งั้นคงไม่ช่วยเขาแบบนี้
“
ขอบคุณครับ....”
ถึงแม้ในรถจะเงียบงันไปตลอดทางทว่ากลับมีความรู้สึกหนึ่งที่เขารับรู้...ผ่านสูทตัวใหญ่ที่คลุมไหล่อยู่
อุ่นจัง...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To
be Con.
ไหนๆ
A/Z ก็จบแล้ว เอาซะหน่อย555
คือสเลนลูกขราคงหนีจากชีวิตจำเลยรัก(?)ไม่พ้นเลยใช่ไหมชีวิตนี้
*ซับน้ำตาด้วยความปลื้มใจ//เดี๋ยว*
ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆการติดตามจากเมื่อตอนที่แล้วมากๆๆๆนะคะ
ฮือออออ ดีใจ ไว้เจอกันตอนหน้านะค้า คุณกวางง่วงสลัดแต่อยากปั่นต่อมาก 5555
อย่างที่บอกว่าไฟเริ่มจะกลับมาแล้วจาก F1 ฤดูกาลใหม่ แอร๊ยยยยย
ม้าแดงของเราขึ้นโพเดี้ยมมาสองสนามติดแบ้วค่า ยิ่งสนามล่าสุดนี่ได้ที่ 1
ด้วยฟฟฟฟฟฟฟฟ ดีใจแทนเลยอ่า ฮืออออ *ซับน้ำตา*
อ่านไปกริ้ดไป คิดตาม โอ้ว รีไวล์ยังคงเสมอต้นเสมอปลายเล่นซะ อเลนสลบเลย
ตอบลบคู่หมีดำแดงก็น่ารัก คุณกวางบรรยายทีเห็นภาพเลย ค่ะ
ส่วนครูเทโอ้กับสเลน..กริ้ด!! ท่านครูเทโอ้ปากร้ายแบบนี้ทำความ Sในตัวตื่นค่ะ อ๊าก สเลนก็น่าแกล้ง สเลนน่ารักสุด ท่านครูเทโอ้ก็เท่ห์สุด
พูดถึงอนิเม สงสัยสเลนนี้คงไม่พ้นบ่วงจริงๆค่ะ น้ำตาแอบไหล ทำไมต้องโดนขัง ไม่มีอิสระตั้งแต่ภาค1ยันจบเรื่อง ปวดตับเลยค่ะ
คุณกวางสู้ๆนะค่ะ อย่าหักโหมนะค่ะ จะติดตามผลงานทุกเรื่องไปตลอดเลยค่ะ สู้ๆ ระวังสุขภาพด้วยนะค่ะ ^^ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกสดชื่นแจ่มใสมากค่ะ ฮาาา
ตอบลบสเลนนี่โดนซ้ำตลอดเลยค่ะ ตั้งแต่ในอนิเม
แต่ยังไงก็ต้องเอ็มนี่ละค่ะ เหมาะสุดๆละ ><
รอติดตามอยู่นะคะ
วั่ยยยยยยยยยยย ใจเต้นเลยค่ะ ครูสเลน /////-//// ปากบอกว่าเกลียด ใจจริงก็แอบชอบเขา วั่ยยยยยยยย
ตอบลบตอนที่ที่บ้านฝนตก??
ตอบลบฮ่ะๆๆๆ...ไม่ใช่อะไรนาค๊ะแบบกำลังจะซื่อว่ามะวานเก๊าก็ตากฝนเข้าบ้าน
เหมือนสเลนเบยค่ะ!///เอ็งไปเกี่ยวอารายกับเค้าเฮ้ย!?//
คึคึ...คุณท่านยังไม่แรงเหลือเฟือมาถึงอนาตคเลยเหรอคร๊าาาากร้ากกกตอนนี้มันตอนของสเลนแต่คุณท่านกลับทำให้น้องต้องมานั่งจิ้นรอแบบนี้ได้ไงอ่ะ??...แล้วเจเาหมีแดงดำเข็นรถเข็นนั่นมัน???
น่าร๊ากกกก~~~ถึงจะโผล่มาแค่สามวิแต่คนทางนี้แม่มฟินเว่อร์ค่ะ!!
อิเนียนก๊กอิเนียนก๊กๆๆๆๆๆๆๆ~~~~
เห็นแล้วอยากให้ทั้งปีมีแต่เมษากับกันยาเลยว้อยยยค๊าาาาา~~~~~
คุณ.ค.เนี้ยแกใจดีมากเลยเน้อะคะ?...แบบให้สูทมาห่มแต่คิดตังส์ด้วยฮ่าๆๆๆๆของแพงอีกต่างหากเผลอคิดว่าตอนที่น้องแอบยิ้มเนี้ยเพราะขำใครบางคนซะอีกค่ะแต่ก็นะถึงจะซึนสนิทแต่ก็มีมุมใจดีตามแบบฉบับของท่านจริงๆเป็นกำลังใจให้ค่ะรีบๆมาต่อไวๆนาคะ
ป.ลิง.เมื่อตอนที่แล้วขุ่นพี่บอกหมดไฟอินี่แม่มเตรียมเบนซินกะไฟเช็คไว้เลยค่ะฮ่าๆๆ
คือว่า…..คือว่า………………………….ยิ่งอ่านยิ่งรักสเลนนนนนนนนนนนนนนนอ่ะค่ะกวางซาม๊าาค๊าาา > [ ] < ทำไมสเลนให้ฟีลอยากแกล้งเพิ่ม(?)ขึ้นเรื่อยๆแบบนี้!!!!!!ถถถถถถ #สเลนอย่าเพิ่งร้องไห้ลูกถถถถ แต่จริงจังนะคะ ยิ่งเห็นสเลนหูลู่(?)บอบบางขี้กลัวแล้วอยากจะฟัดมากกกกกกกกกกก ท่าทางที่เข้าไปขอโทษท่านเคานต์ที่ไปชนประตูใจ(?) #มันก็ยังไม่เลิกเรื่องประตูถถถถถ นี่คือสเลนนนนน่ารักมากกกกก ถ้าเป็นสองสาว(?)อย่างเอเลนหนูก๊กนี้คงไม่ใช่ฟีลนี้แน่นอน เจ้าลูกหมาคงได้มาโวยวายเถียงคอเป็นเอ็นว่ามีความจำเป็นไม่ได้อยากจะชนซะหน่อย ส่วนเจ้าแมวป่าคงพูดเรียบๆอย่างไม่คิดจะใส่ใจว่าทำไมรั้วไม่หลบ(?)แหงๆ ถถถถถถถถถ ฮืออออ สาวๆ(?)ค่าย(?)เฟอร์รารี่จะดาเมจมากไปแล้ววววนะคะโฮรววววววววววววววววว
ตอบลบเอาจริงๆคู่นี้พรหมลิขิตน่ารักมากกกจริงจังงงง่ะ เป็นเหมือนบุคคลสองคนที่ไม่อยากจะเจอกันแท้ๆ แต่เหมือนคนบนฟ้า(?)เค้าจะอยากให้เจอกันบ่อยๆถี่ๆนะคะ > __ < อะไรคือบ้านก็ยังได้มาอยู่ข้างกันนนนน แล้วไหนจะต้องมาสู้รบตบมือกันที่ทำงานอีก ก๊าววววววววววกับพลอตแบบนี้นะคะ > __ < เอาจริงๆที่ทำงานนี่เค้าหายห่วงนะคะ เพราะยังมีปีศาจ(?)ทีมบอสคอยปกป้อง แต่ถ้าอยู่ที่บ้านคนเดียวแล้วใครจะปกป้องสเลนกันนนนนนนนนถถถถ นี่ถ้าเอลวินบ้าจี้(?)ห่วงใยสเลนมากขึ้นอีกนิดจนพาสัมโนครัวซูทั้งหลาย(?)มาอยู่เป็นเพื่อนสเลนด้วย สงครามปีศาจฉะกันคงจะมีทั้งวัน > __ < คิดแล้วมันก็น่าให้เอลวินแกล้งแหย่ให้คนอายุเท่ากัน(?)หึงซะจริง > __ < #โดนไม้เท้าฟาดหน้าหงาย
แล้วที่ลงไปสครีมคือฉากในห้องล็อคเกอร์นี่อะไรรรรรคะะะ ขอส่วนขยายความ(?)เพิ่มสักย่อหน้า(?)ได้มั้ยยยยคะกวางซาม๊าา แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก #ไอ้นี่ก็หื่นจริ๊งถถถถถถถถ แต่สครีมจนไม่รู้จะสครีมยังไงงงจริงจังนะคะะ ฮือออ รักที่คุณรีไวเสมอต้นเสมอปลายยยยย(?) คุณรีไวอ้ะะะ กระดูกกระเดี้ยวไม่ดีแล้วยังไม่เลิกหื่นอีก แล้วนี่มันยังไม่ถึงกลางคืนเลยไม่ใช่หรือยังไงก๊านนนนนนน ฮืออออ อย่างว่าตู้โทรศัพท์ก็ยังไม่รอดนี่เนาะ เอลวิ๊นนนนนนนนนจะเอาตู้โทรศัพท์อ้ะะะะยังไม่ได้อ้ะะะถถถถถถ #เอลวินบอกเลิกยุ่งกับตรูซักทีเถ๊อะะะ
เค้าชอบสองสาวคุยทางกระแสจิต(?)มากกกกกกกกกกกกกกกกกก ฮือออออออออออออ ไม่คิดว่าจะได้เห็นหนูก๊กคุยกับสเลนทางกระแสจิตมากมายยย ฟินนนนนถถถถถ #จุดฟินไอ้นี่มันแปลกตลอดเว แต่เค้าชอบมากจริงจังงงอ้ะ จุดนี้เป็นจุดดาเมจพ้อยท์จุดนึงของเค้าเลยนะคะ ฮืออออ หนูก๊กน่ารักน่ากดโฮกกกกกกกกก ไม่ช่างพูดยังไงก็ยังคงใช้แต่กระแสจิตแบบนั้นนน จะน่ารักไปถึงไหนก๊านนนนน ก่อนที่เค้าจะมาตายกับหมีแดงตัวเล็กกับหมีดำตัวใหญ่ ตายยยยสนิททททททททท มาแค่นี้เค้าก็ฟินโฮกกกกกกกกนะคะ คือมันใช่!!!!! เพราะกับฮายาโตะมันค่อนข้างจะเป็นหมีที่ปัญญาอ่อนทีเดียว ถถถถถถถถถถถถถถ ประโยคนี้เค้าจะพูดไปอีกยาวๆเลยค่ะเพราะเค้าชอบมากจริงจังถถถถถถถถถถ #แหมกระหน่ำแทงมาเลยนะพ่อพิรุนนนนนน แต่อะไรคือโทรกริ๊งเดียวสารถี(?)มาแบบด่วนจี๋ขนาดนี้ก๊านนนนนนนนนนคะะะ แถมยังมาในชุดเหมือนกันแต่คนละสีอีกกกกกก โอ่ยยยยเนียนนนนนนนนนนนนนนนน ตกลงเอ็งเป็นเพชฌฆาตว่างงาน(?)ใช่มั้ยยยยยยยย ฮือออออออ รักคู่นี้มากกกกง่ะ ฮือออออยากได้แฟนอาร์ตชอตนี้มาก ฮือออ เพราะถ้าไม่ใช่เนียนคงคิดไอ้เรื่องแบบนี้(?)ไม่ได้แน่ๆ ก็พอจะเข้าใจอยากใส่ชุดคู่(?)อยู่หรอกนะ แต่ไอ้ชุดหมีคู่ไปสวีทกันที่ซุปเปอร์มาเก็ตเข็นรถเข็นนี่ไม่ทนนนนนนนนนนนนนนนนนนจริงจังงงงงง โอ่ยยยยยยยยน่ารักมากกกกกกกกกกกอ่ะค่ะกวางซาม๊าาา
คุณรีไวนะคุณรีไวฮัดช่า(?)ซะเอเลนสลบไม่พอ ยังทำให้สเลนต้องมานั่งหน้าแดงรอจนเย็นย่ำแถมฝนตกด้วยอีก > __ < แต่เค้ายืนยันจริงจังว่าทำไมสเลนถึงได้น่าแกล้งแบบนี้กันนน แม้กระทั่งรถก็ยังงอแงใส่เลยยยยย > __ < แล้วฉากที่รถของท่านเคานต์ขับผ่านไปแบบไม่ใยดี แถมสเลนก็ได้แต่ยืนมองปล่อยให้รถคันนั้นแล่นผ่านหน้าไปอย่างเข้าใจสถานะนี่เค้าจะตายยยยยย อยากกอดสเลนนนนนนนนนนนนนน แต่กอดไม่ทันนะคะรถคุณท่านวกกลับมาเร็วซะงั้นค่ะถถถถถถถถถ โอ่ยยยย จะร้ายหรือจะใจดีก็เลือกเอาซักอย่างงงเถอะคุณท่านนนน ยอมรับมาว่าเด็กนี่มันชนประตูหัวใจ(?)จนเข้าไปนั่งอยู่ข้างใน(?)แล้วใช่มั้ยยยเล่าถถถถถ #โดนไม้เท้าฟาดระรัว แต่เค้าก๊าววววมากกก ทั้งๆที่แสดงท่าทางไม่ชอบขนาดนั้นแต่ก็ยังจะใจดีพาขึ้นรถ ซ้ำยังถอดสูทราคาแพงนั้นให้อีก จะปล่อยให้นั่งสั่นแบบนั้นก็ได้ใช่หรือยังไงนะะ ฮือออ ท่านเคานต์คนบ้า(?)อย่ามาดาเมจคนอื่นแบบนี้นะถถถถถถ โอ่ยยยยเรื่องนี้น่ารักมากจริงจังค่ะกวางซามะ เค้าหยุดเพ้อไม่ได้เลยยยย