Attack
on Titan Au S.Fic [Levi x Eren] --
BiOS : another story B : 05 --
:
Attack on Titan AU Fanfiction
:
Levi x Eren
:
Action Horrors
:
NC-17
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย
หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
ปากกระบอกสีดำยังไม่ละไปจากตำแหน่งเดิม....
ปืนในมือเขายังคงจ่ออยู่ที่หัวของฮิโนะ
เช่นเดียวกับปืนในมือยูที่จ่ออยู่ที่หัวเขา
ถึงแม้ว่ากว่าครึ่งหนึ่งที่ทำให้เขาไม่อาจขยับมือไปไหนได้จะเป็นเพราะยังอึ้งในความรู้สึกของเพื่อนรักก็ตาม...เขาไม่รู้...ไม่รู้เลยว่าตลอดมาท่ามกลางใบหน้าจงเกลียดจงชังที่แสดงให้ใครต่อใครเห็นมันต้องซุกซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้มากมายแค่ไหน...ไม่เคยรู้เลยจนกระทั่งได้เห็นน้ำตาของผู้ชายที่ร่าเริงจนไม่คิดว่าจะมีอะไรมาทำให้ร้องไห้ออกมาได้คนนี้
ที่ผ่านมา...หมอนี่คงจะทรมานมาตลอดเลยสินะ....กับความรู้สึกที่บอกใครไม่ได้...ทำได้เพียงแค่กักเก็บมันเอาไว้ในใจ
ตระกูลโนเสะเองก็เป็นตระกูลเก่าแก่ไม่แพ้ตระกูลของเขา
แล้วที่บ้านของหมอนั่นก็เต็มไปด้วยความเข้มงวดเพราะเป็นตระกูลทหารสายตรงเลยก็ว่าได้
ทุกๆรุ่นล้วนเป็นทหารที่มีหน้ามีตามียศสูงๆกันทั้งนั้น
แล้วหมอนั่นเองก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของผู้นำตระกูลในปัจจุบัน
เรียกได้ว่าความหวังทุกอย่างแทบจะฝากเอาไว้กับ โนเสะ ยู เพียงผู้เดียว
ถ้าเกิดใครรู้ว่าหมอนั่นดันหลงรักเด็กผู้ชายที่กำลังจะก้าวขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล...กำลังจะต้องมาเป็นน้องชายของตน...คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฮิโนะกันล่ะ....
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ฮิโนะ
คงถูกกำจัดออกไปให้พ้นเส้นทางที่สวยงามของว่าที่ผู้นำตระกูลรุ่นต่อไปอย่างหมอนั่นแน่ๆ
ที่ทำเป็นเกลียด...ส่วนหนึ่งก็คงเพื่อตัวของฮิโนะเองด้วยสินะ...เพื่อที่จะทำให้เด็กคนนั้นอยู่ในตระกูลต่อไปได้โดยไม่ตกเป็นเป้าสายตาของใคร...และเพื่อให้ตัวเองได้ตัดใจไม่ถลำลึกไปมากกว่านี้
แต่คำว่า "รัก"
บางทีมันก็เข้าใจยากกว่าที่คิด...
ทั้งๆที่รู้ว่าไม่คู่ควร
ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้...แต่ก็ไม่มีที่เหลือพอให้คำว่า "ตัดใจ"
เช่นกัน...หมอนั่นถึงได้เก็บมันเอาไว้จนถึงตอนนี้
ยูยังคงเฝ้ามองฮิโนะอยู่ตลอด...
จนถึงตอนนี้...เขาเองก็ไม่แน่ใจ...ว่ายูได้บอกกับฮิโนะไปหรือยัง...
มีเวลา...ที่จะได้พูดมันออกไปหรือเปล่า...
เขาหันไปมองร่างเล็กๆที่พยายามจะกระโจนเข้ามาหาด้วยใบหน้าหิวกระหาย....มันสายเกินไปแล้ว....สายเกินไปจริงๆ....
ปลายนิ้วเตรียมจะเหนี่ยวไกต่อให้เพื่อนรักจะแทบขาดใจยังไง...สิ่งที่เขาจะทำให้ทั้งคู่ได้ก็มีแค่นี้....จะปล่อยให้ฮิโนะอยู่ในสภาพน่าเวทนาแบบนี้อีกต่อไปไม่ได้
“........กัด....ผม..........”
เสียงไม่ปะติดปะต่อดังแว่วเข้ามาในหูทำให้ปลายนิ้วชะงักงัน
“ ......กัด.....” .....นั่นไม่ใช่...เสียงของฮิโนะ?
นัยน์ตาสีขี้เถ้าไล่มองไปบนใบหน้าเล็กๆที่ไม่ได้มีวี่แววว่าจะมีสติพอจะพูดได้อีก....ไม่ใช่...คำพูดนั่นไม่ได้มาจากฮิโนะแน่ๆ...
เขาหันไปมองยูซึ่งก็กำลังมองหน้าเขาด้วยความตะลึงงันเช่นกัน...ไม่ใช่เสียงของหมอนั่น...ถ้างั้นก็....
เอเลน?
ใบหน้าของผู้มีอำนาจบังคับบัญชาสูงสุดแห่งกองบินที่
6
ฐานทัพโคมัตสึทั้งสองคนค่อยๆหันไปมองร่างโปร่งบางที่ยืนอยู่ไม่ไกล...เป็นเพราะมัวแต่จัดการกับเรื่องตรงหน้าจึงไม่ได้สังเกตเลยว่าเอเลนกำลังมีปฏิกิริยาที่แปลกไป
เด็กนั่นยกสองมือขึ้นมากุมหัว
นัยน์ตาสีมรกตเองก็เดี๋ยวปิดลงเดี๋ยวเบิกโพลง
ไหล่บางขยับขึ้นลงจากอาการหอบจนตัวโยน....นี่มันอาการเหมือนคนกำลังจะคุ้มคลั่ง?...เกิดอะไรขึ้นกันแน่?...หรือที่เขาคิดว่าไวรัสทำอะไรเอเลนไม่ได้
เขาจะคิดผิดไป?...หรือที่จริงแล้วเด็กนั่นอาจจะไม่ได้มีสภาพต่างไปจากฮิโนะเลยก็ได้?
“ กัด....ให้เขากัดผม!”
คำพูดที่ฟังไม่รู้เรื่องตะโกนออกมาจากใบหน้ามนที่เหมือนจะนึกอะไรออกจากความทรงจำที่ทำหายไป...มีอะไรแว่บเข้ามาในหัวสีน้ำตาลนั่นหรือยังไง?
และยังไม่ทันที่จะมีคำตอบให้กับคำถามมากมายของเขา...เอเลนก็พุ่งเข้าไปหาฮิโนะแบบที่เขากับยูไม่มีทางจะห้ามทัน
แขนผอมบางยื่นออกไปให้ริมฝีปากที่กำลังหิวกระหาย...
และปากที่มีน้ำลายไหลย้อยนั่นก็กัดลงไปทันที!!!
เลือดแดงฉานไหลทะลักออกมาจากปากแผลที่เนื้อแทบจะหลุดไปตามสันกรามที่กัดลงไปอย่างไม่ปรานี...จากที่ยังตื่นตะลึง...ร่างกายของเขาก็ขยับเข้าไปคว้าตัวของเอเลนออกมาแทบไม่ทัน
“ เอเลน!!!”
เขาตะโกนเรียกที่ใบหูบางพลางเขย่าลำตัวโปร่ง...นายทำบ้าอะไร?! ยังมีสติอยู่ใช่ไหม?! ทำให้หัวใจชั้นแทบจะหยุดเต้นรู้ตัวบ้างหรือเปล่า?!...อยากจะตะโกนใส่หน้าแต่ตอนนี้ก็ทำได้เพียงแค่เขย่าไหล่บางให้เด็กนั่นรู้ตัว
เคร้ง....
เสียงปืนที่ร่วงหล่นลงไปบนพื้นทำให้เขาละจากใบหน้าที่ยังงงๆของเอเลนไปมอง
ร่างสูงใหญ่ของยูเดินด้วยท่าทางลอยๆเข้าไปหาฮิโนะ
ก่อนจะค่อยๆทรุดนั่งลงตรงหน้าร่างเล็กๆที่ยังมีอาการสั่นสะท้าน
ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นมองใบหน้าใสที่บัดนี้เต็มไปด้วยรอยเลือดของเอเลน
จากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้
หมอนั่นคงจะเข้าใจแล้วสินะ...ว่าฮิโนะไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป...
ไม่มีมนุษย์ที่ไหนจะอ้าปากกัดใครจนเลือดอาบได้แบบนั้นหรอก...ฮิโนะตายไปแล้ว...สิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็เป็นเพียงเศษซากของสิ่งที่เคยมีชีวิตก็เท่านั้น
"
ฮิโนะ....."
เสียงกล้ำกลืนเอ่ยออกมาจากใบหน้าหล่อเหลาที่ก้มลงไปมองพื้น
สันกรามที่นูนขึ้นมาทำให้รู้ว่าหมอนั่นกำลังกัดฟันเพื่อระงับความเจ็บปวดในหัวใจที่คงจะรุนแรงที่สุดในชีวิต
ท่อนแขนแข็งแรงตรงเข้าไปรวบลำตัวที่เล็กกว่ามากเข้ามากอดเอาไว้แน่น
ใบหน้าใสที่ยังแยกเขี้ยวใส่ไม่หยุดเกยอยู่ที่ไหล่กว้างทำให้ไม่สามารถจะกัดยูได้
เขาได้ยินเสียงสะอื้น....
ก่อนที่คำขอร้องครั้งสุดท้ายของผู้ชายที่เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเขาจะดังออกมาให้ได้ยิน....
"
รีไว....ฆ่าชั้น...ฆ่าชั้นไปพร้อมๆกับฮิโนะให้ที...."
เขาเข้าใจ....เข้าใจความรู้สึกนี้เป็นอย่างดีเพราะเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วเขาเองก็เคยมีสภาพแบบนี้
เขาเองก็เคยตั้งใจจะตายไปพร้อมๆกับเอเลน...ตั้งใจจะตายไปพร้อมๆกับคนที่เขารักเช่นกัน...
และเพราะแบบนั้น
มือจึงยกปืนขึ้นมาอย่างไม่ลังเล ไม่ถาม ไม่คัดค้าน...
มันคงเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาจะทำให้อีกฝ่ายได้...ในฐานะเพื่อนรัก
ปากกระบอกสีดำจ่ออยู่ที่หัวของยู...ด้วยกระสุนนัดเดียวกันนี้จะดับลมหายใจของทั้งคู่ไปพร้อมๆกันได้อย่างแน่นอน
"
ขอบใจนะ...รีไว"
ใบหน้าที่ยิ้มให้เขาเสมอก็ยังคงยิ้มให้แม้วาระสุดท้าย
"
ไอ้บ้า...รีบๆไปตายซะ"
เสียงที่เคยแต่เย็นชาอยู่เสมอกลับสั่นสะท้านอย่างไม่น่าเชื่อ...เพราะเขาเอง...ก็ใช่ว่าจะไม่รู้สึกอะไรที่ต้องฆ่าเพื่อนด้วยมือของตัวเองแบบนี้...ยังไงซะหมอนี่ก็เป็นคนสำคัญคนหนึ่งของเขา
".......ลาก่อน"
ปลายนิ้วเตรียมจะลั่นไกแต่ชั่ววินาทีที่จะกดมันลงไป...
" อย่าเพิ่งครับ!!"
แรงดึงที่ต้นแขนทำให้ปากกระบอกปืนเปลี่ยนทิศทางไปจนคลาดเคลื่อนจากเป้าหมาย
เขาได้แต่หลุดออกจากภวังค์ของความเศร้าแล้วหันไปมองเอเลนที่พยายามรั้งแขนของเขาเอาไว้แบบเอาเป็นเอาตาย
" ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม
แต่ช่วยรอก่อน....สักนิดก็ยังดี...รอก่อนนะครับ!"
ใบหน้ามนเองก็ดูจะสับสนจากการกระทำของตัวเองอยู่ไม่น้อย ดูเหมือนเด็กนั่นจะทำไปเพราะภาพอะไรบางอย่างที่แว่บเข้ามาในหัว?
ทำไปโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
เขาเหลือบตาลงไปมองท่อนแขนผอมบางที่เมื่อกี้ยังมีเลือดโชก
แต่ตอนนี้กลับสมานตัวจนเลือดหยุดไหลไปแล้วทั้งๆที่แผลนั้นมันเหวอะหวะจากเนื้อที่แทบจะหลุดออกมา
ไอจางๆลอยอยู่บนปากแผลราวกับว่านั่นคือผลจากการที่เซลล์ซ่อมแซมตัวเองอย่างรวดเร็วยังไงอย่างงั้น....มันเกิดอะไรขึ้นกับเด็กนี่กันแน่?
และที่เดียวที่น่าจะให้คำตอบกับเขาได้ก็คงจะเป็นสถาบันวิจัยในนามิโมริ
นัยน์ตาสีมรกตที่มองมาอย่างเว้าวอนทำให้ปืนในมือของเขาลดระดับลง...
ร่างสูงใหญ่ที่หลับตารอรับกระสุนลืมตาขึ้นมามองเขาอย่างงงๆ
ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาของยูจะหันกลับไปมองคนที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง...ที่จู่ๆก็ดูจะสงบลง....
ริมฝีปากที่เคยแยกเขี้ยวใส่ด้วยความหิวกระหายก็มีเพียงแค่อาการสั่นระริก
ลำตัวเล็กๆที่เคยกระโจนใส่พวกเขาราวกับสัตว์ป่าก็เหมือนแรงจะลดลง
"
ฮิโนะ...?"
มือใหญ่ๆของยูประคองใบหน้าเล็กๆที่ลดความดุร้ายเอาไว้
นัยน์ตาแดงก่ำเลื่อนลอยไปจากเหยื่ออย่างพวกเขา
" ฮิโนะ?...ฮิโนะ?!!"
ยูเขย่าไหล่เล็กที่จู่ๆก็ทรุดตัวลงไปกอดตัวเองเอาไว้
ร่างกายของฮิโนะดูทุลนทุลายเหมือนอวัยวะภายในมันจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง?...เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
"
อั่ก....อ่ะ...."
เสียงร้องขาดๆหายๆดังออกมาจากปากสีแดงที่ไม่สนใจมนุษย์อย่างพวกเขาอีก
" โฮ่ย ฮิโนะ!" ร่างสูงใหญ่ลูบหน้าลูบหลังอย่างทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นความทรมานของน้องชายต่างสายเลือด
ร่างเล็กๆนั่นลงไปดิ้นไปดิ้นมาอยู่ที่พื้น
ใบหน้าใสที่สะบัดไปมานั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เขาได้แต่ยืนมองภาพตรงหน้าด้วยสองขาที่แทบจะแข็งเป็นหิน...เกิดอะไรขึ้นกับฮิโนะ?...มีแต่คำถามนี้วนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัว...ที่ท่อนแขนรู้สึกได้ถึงมือของเอเลนที่เอื้อมมาเกาะมันเอาไว้ด้วยความตื่นตระหนกไม่ได้น้อยไปกว่าเขา
" ฮิโนะ! ฮิโนะ!!!" ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยยิ้มแย้มกวนประสาทอยู่เสมอเต็มไปด้วยแววหวาดผวาอย่างที่เขาไม่เคยเห็น
ยูยังคงร้องเรียกร่างเล็กอย่างตื่นตระหนก
สองมือใหญ่ๆยังคงเขย่าไหล่บอบบางไปเรื่อยๆ
ถึงแม้ว่าตอนนี้ฮิโนะจะเจ็บจนสลบไปแล้วก็ตาม...
ยูยังคงนั่งคุกเข่าเฝ้ามองฮิโนะที่สลบไสลอยู่ไม่ห่าง
เสื้อนอกสีเขียวขี้ม้าตัวใหญ่ถูกถอดคลุมร่างกายเล็กๆนั่นเอาไว้
เขากับเอเลนเองก็ยืนมองใบหน้าที่หลับไม่รู้เรื่องนั่นอย่างละสายตาไปไหนไม่ได้เช่นกัน...เพราะไม่มีใครรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับฮิโนะกันแน่...เท่าที่พวกเขาเคยเจอมา...ไม่มีซอมบี้ที่ไหนมีท่าทางทรมานจะเป็นจะตายแบบนี้เวลาโดนฆ่า
ต่อให้เอาเหล็กเสียบลำตัวของพวกมันเอาไว้กับผนังแต่ริมฝีปากที่หิวกระหายนั่นมันก็ไม่มีวันหยุดลงจนกว่าหัวจะโดนทำลาย...ไม่มีวันที่จะสลบไปแบบนี้แน่...
เขาไล่สายตาไปบนใบหน้าใส
จากที่เคยขาวซีดราวกับศพกลับค่อยๆมีสีเลือดขึ้นมาทีละเล็กละน้อย
ลมหายใจที่เคยหายไปก็กลับมาเข้าออกตามปกติ
นั่นมัน...
ร่างกายของมนุษย์....ไม่ใช่หรือไง?...
น้ำลายเหนียวๆถูกกลืนลงคอ
ทั้งเขาทั้งยูต่างมองภาพการเปลี่ยนแปลงตรงหน้าด้วยความตื่นตะลึงยิ่งกว่าตอนที่ฮิโนะทุลนทุลายตั้งไม่รู้กี่เท่า....ก่อนที่พวกเขาจะหันมามองเอเลนเป็นตาเดียว
เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้แน่...
เพราะนอกจากตอนที่เอเลนพุ่งเอาแขนตัวเองไปให้ฮิโนะกัดแล้ว...มันก็ไม่มีอะไรที่น่าจะเข้าข่ายเกิดขึ้นอีก
ในตัวของเด็กนี่ต้องมีอะไรบางอย่างที่สามารถต้านไวรัสได้แน่ๆ
ไม่สิ...
อาจจะมีมากกว่านั้น....
เพราะต่อให้เป็นแอนตี้ไวรัสก็ไม่น่าจะช่วยคนที่กลายเป็นซอมบี้ไปแล้วแบบนี้ได้...
เอเลน...นายเป็นอะไรกันแน่...
ในที่สุดเปลือกตาที่ปิดลงตลอดสองสามชั่วโมงที่ผ่านมาก็ค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆจนได้...และมันก็ทำให้คนที่เฝ้ามองอยู่อย่างพวกเขาถึงกับหายใจไม่ทั่วท้องเพราะไม่มีใครรู้เลยว่าฮิโนะที่ตื่นขึ้นมานั้น....เป็นมนุษย์หรือซอมบี้...
“ ฮิโนะ.....”
ยูค่อยๆคุกเข่าลงตรงหน้าร่างเล็กๆที่นอนราบอยู่ที่พื้น
นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยคู่นั้นคงทำให้ผู้เป็นน้องชายแปลกใจจนได้แต่เอ่ยเสียงแหบพร่าแบบงงๆออกมา
“ ยู...?”
......จำได้....ฮิโนะจำพี่ชายจอมร้ายกาจของตัวเองได้...นั่นก็หมายความว่า.......
“ ฮิโนะ!!!” ไม่รอช้า
ท่อนแขนแข็งแรงดึงตัวคนที่ยังนอนอยู่ขึ้นมากอดแน่นด้วยความดีใจอย่างห้ามไม่อยู่
“ ฮิโนะ” ใบหน้าหล่อเหลาซบลงไปที่ไหล่เล็กๆ
ริมฝีปากได้แต่พร่ำเรียกชื่อที่คงไม่คิดว่าจะได้เรียกอีกเป็นครั้งที่สอง...เขารู้ดีว่าตอนนี้หมอนั่นคงกำลังกลั้นน้ำตาแห่งความดีใจไม่ให้ไหลลงมาอยู่แน่ๆ
“......”
ถึงจะไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากปากของคนที่ได้แต่เกยหน้าเอาไว้กับไหล่กว้างด้วยท่าทางที่ยังจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก
แต่สองมือเล็กๆนั่นก็ค่อยๆเอื้อมไปที่แผ่นหลังใหญ่ก่อนจะค่อยๆวางลงไปราวกับไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้สัมผัสมันจริงๆ
นัยน์ตากลมโตสั่นไหวไปด้วยหยาดน้ำที่เอ่อคลอ...บางที...ฮิโนะอาจจะดีใจที่ยูยอมรับตนมากกว่าการมีชีวิตรอดจากการกลายเป็นซอมบี้ได้ด้วยซ้ำ
ทำไมเขาจะไม่รู้...ว่าฮิโนะพยายามมากแค่ไหนที่จะทำให้พี่ชายจอมร้ายกาจอย่างยูยอมรับให้ได้
แต่แล้ว...
บรรยากาศแห่งความสุขก็ถูกทำลายลง...
ด้วยสัญชาตญาณของซอมบี้...ที่ไม่ได้หายไปจากร่างกายเล็กๆนั่น
“ ฮิโนะ...?” ยูละใบหน้าออกมาจากไหล่บอบบางก่อนจะมองหน้าน้องชายต่างสายเลือดด้วยดวงตาเบิกค้าง...เมื่อจู่ๆก็รู้สึกว่าโดนกัด...ที่ต้นแขน
ร่างสูงใหญ่ละออกมาจากร่างกายเล็กๆด้วยความตื่นตะลึง
ฝ่ามือยกขึ้นไปลูบต้นแขนที่ยังมีรอยกัดให้เห็นชัดๆ...
ทว่า...
มันไม่ได้สยดสยองเหมือนที่ซอมบี้ปกติกัด
ไม่เช่นนั้นป่านนี้แขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามนั่นคงจะมีแผลเหวอะหวะเลือดโชกไปแล้ว...แต่นี่มีเพียงรอยฟันจางๆเท่านั้น
เรียกว่า “งับ”
น่าจะดีกว่า
อ้า....อาการมันคุ้นเสียยิ่งกว่าคุ้น....
เขาที่เฝ้ามองอยู่ตลอดถึงกับกดปลายนิ้วลงที่หัวคิ้วของตัวเอง...ตกลงว่ามันเป็นอาการกำเริบของพวกลูกครึ่งซอมบี้หรือยังไงกัน?
“ ฮิโนะ? เฮ้...เดี๋ยว?!”
ฝ่ามือใหญ่ของยูจับหัวของฮิโนะเอาไว้ก่อนจะออกแรงดันไม่ให้ริมฝีปากสั่นระริกนั่นกัดลงไปที่ท่อนแขนของตน
ใบหน้าหล่อเหลาลอบกลืนน้ำลายอย่างช่วยไม่ได้กับใบหน้าของฮิโนะในเวลานี้
ก็นัยน์ตาเว้าวอนที่มองท่อนแขนและผิวเนื้อของผู้เป็นพี่ชาย กับริมฝีปากที่อ้าออกน้อยๆอย่างพยายามระงับความต้องการอยากกัดของตัวเองมันเซ็กซี่น้อยเสียที่ไหน...ยิ่งถ้าเป็นคนที่ตนรักด้วยแล้ว...มันก็คือบททดสอบจากพระเจ้าดีๆนี่เอง
“ รีไว....” ยูหันมามองเขาอย่างขอความช่วยเหลือ
เขาได้แต่ยักไหล่ตอบกลับไปว่าอาการแบบนั้นไม่เป็นไรหรอก...ก็แค่
“
ทำให้เหนื่อยจนหลับไป...พอตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็จะเป็นปกติ” แต่จะไปทำให้ “เหนื่อย” กันอีท่าไหนนี่ก็.....
“
จะใช้ห้องเก็บของนั่นก็ได้ เดี๋ยวชั้นจะไปเช็คสภาพเครื่องบิน”
แล้วเขาก็คว้ามือของเอเลนเดินไปยัง
F-15J/DJ ลำที่จอดอยู่ไกลสุด...
“ นั่งรออยู่ตรงนี้ อ้อ
แล้วก็...อย่าไปให้ซอมบี้ที่ไหนกัดแขนนายแบบนั้นอีกเข้าใจไหมไอ้เจ้าเด็กเหลือขอ”
เขาหันไปกำชับคนที่เงยหน้ามองเขาราวกับลูกหมาก่อนที่ใบหน้ามนจะยิ้มรับทำเอาหัวใจกระตุกไปวูบนึงเลยทีเดียว
“ ครับ” ....ไม่ไหว...เขาอาจจะตกหลุมรักเด็กนี่มากกว่าเดิมอีกก็เป็นได้
เพราะแบบนั้นเลยต้องรีบสะบัดหน้าแล้วก้าวขาไปหาเครื่องบิน...นัยน์ตาไล่มองไปตามจุดที่ต้องตรวจเช็คตามพื้นฐานของการออกบิน...ที่จริงแล้วในการจะเอาเครื่องบินรบออกไปบินในแต่ละครั้งจะต้องใช้ทหารต่อเครื่องบินแต่ละลำไม่ต่ำกว่า
3 คน จะต้องเช็คแล้วเช็คอีกว่าไม่มีอะไรผิดพลาด
เพราะทุกครั้งที่ออกไปก็หมายถึงชีวิตของนักบินเช่นกัน
สองขาก้าวลอดใต้ท้องเครื่องบินเพื่อไปเช็คปีกอีกฝั่ง
มือตบๆดันๆตัวล็อคมิดไซย์ที่ติดอยู่ใต้ปีกเพื่อเช็คให้แน่ใจว่ามันแน่นหนาและจะไม่ตกลงไปก่อนที่จะถูกสั่งยิงจริงๆ
แล้วในขณะที่กำลังจะละมือจากปีกเครื่องบิน
“ อึก...”
คมของแผ่นเหล็กที่เผยอออกมานิดหน่อยก็บาดปลายนิ้วจนได้เลือด
เขาชักมือกลับมาดู
รอยแผลเท่าแมวข่วนนั่นไม่ได้ทำให้เจ็บมากเท่าไหร่
เขาจึงไม่ได้สนใจเลือดที่ซึมออกมาแล้วก้าวขาเดินเช็คเครื่องบินต่อไป
สำหรับเขาแล้วมันเป็นแค่แผลเล็กๆที่แทบจะไม่รู้สึกอะไร...แต่กับอีกคนอาจจะไม่ใช่...
เพราะระหว่างที่เขากำลังจะก้าวขาขึ้นบันไดไปตรวจดูห้องนักบินอยู่นั้น
จู่ๆท่อนแขนก็รู้สึกถึงคมเขี้ยวงับมาเบาๆ...และเมื่อเขาก้มลงไปดูก็เห็นเพียงหัวสีน้ำตาลที่มีอาการหอบหายใจน้อยๆกำลังฝังรอยฟันเอาไว้บนแขนของเขา...จากต้นแขนค่อยๆงับลงไปเรื่อยๆ...เรื่อยๆ...พอถึงข้อมือก็ไล่งับกลับมาที่ต้นแขนใหม่
นี่มัน...อาการของซอมบี้กำเริบ?
“ อื้อ...” นัยน์ตาสีมรกตช้อนขึ้นมามองอย่างออดอ้อนเมื่อไม่มีที่ให้กัดอีก...ริมฝีปากที่อ้าออกน้อยๆกำลังพยายามต่อต้านอาการอยากกัดที่คงจะมาจากสัญชาติญาณ
ท่าทางที่ดูทรมานนั่นมันช่างยั่วเย้าทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจและมันก็กำลังทำให้ในกายของเขารู้สึกร้อนขึ้นมา...
ให้ตายเถอะ...ถ้าซอมบี้จะเซ็กซี่ขนาดนี้เขาก็ยินดีให้มันกัดไปตลอดชีวิต!
ดูเหมือนเจ้าซอมบี้นี่จะชอบกัดเฉพาะผิวเนื้อเปลือยเปล่าที่ไม่มีเสื้อผ้าปกคลุม
ร่างโปร่งบางจึงยืดตัวขึ้นพยายามยื่นหน้ามาหาต้นคอของเขาซึ่งยังยืนอยู่บนบันได
แผ่นหลังได้แต่เอนพิงลูกนอนเหล็กเอาไว้ก่อนที่มือจะยกขึ้นมาปลดผ้าพันคอออกอย่างช่วยไม่ได้
กระดุมเสื้อเชิ้ตสองสามเม็ดถูกแกะออกแล้วปล่อยให้เจ้าซอมบี้นั่นกัดตามแต่ใจ
นี่เขากำลังเลี้ยงซอมบี้ด้วยร่างกายของตัวเองอยู่หรือไงกันนะ?
นัยน์ตาสีขี้เถ้าจับจ้องใบหน้ามนที่อยู่ใกล้แค่คืบ
ริมฝีปากสีระเรื่อยังคงเพลิดเพลินไปกับการกัดตามลาดไหล่และไหปลาร้าของเขา
เสียงหอบหายใจทำเอาสุดจะทนได้จริงๆ
ฝ่ามือค่อยๆเอื้อมไปลูบบั้นท้ายมนก่อนจะกดมันให้ขยับเข้ามาหามากกว่าเดิม
โดยที่เจ้าของมันไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเพราะกำลังงับไหปลาร้าของเขาอย่างเมามัน
ตะขอกางเกงถูกปลดออกจากกัน
เป็นเพราะไม่มีเวลาหาซื้อชุดใหม่ให้เด็กนั่นจึงต้องใส่ชุดทหารของเขาไปก่อน
ถึงช่วงลำตัวจะหลวมไปบ้างแต่โดยรวมแล้วก็เหมาะดี...และเพราะเป็นชุดของเขานั่นแหละมันเลยทำให้เขารู้ดียิ่งกว่าใคร
ว่าวิธีการจะถอดมันต้องทำยังไง
ฝ่ามือที่ล้วงเข้าไปในกางเกงทำให้ร่างโปร่งบางสะดุ้งน้อยๆ
แต่ใบหน้ามนก็ยังไม่ยอมละจากลาดไหล่ของเขา ทุกครั้งที่ริมฝีปากสีระเรื่อนั้นงับลงมามีหรือที่เขาจะไม่รู้สึกอะไร
ลมหายใจหนักๆถูกเป่ารดเส้นผมสีน้ำตาล
ความต้องการเริ่มจะทำให้เป้ากางเกงรู้สึกอึดอัด
" อื้อ!" จะว่าเป็นเสียงครางหรือยังไงก็ไม่แน่ใจ
ในเมื่อเจ้าซอมบี้ยังไม่ยอมปล่อยรอยที่กัดอยู่ เพราะงั้นยิ่งเขาขยับมือที่กอบกุมอยู่รอบส่วนอ่อนไหวของเจ้าตัวมากเท่าไหร่
เสียงอื้อๆก็ยิ่งดังอยู่ข้างหูมากเท่านั้น
คมเขี้ยวที่กัดแน่นอยู่บนกล้ามเนื้อยิ่งกระตุ้นความต้องการของเขาให้ทบทวี
อยากจะสอดใส่ของของตัวเองเข้าไปในร่างกายที่แสนเย้ายวนนี่จริงๆ!
แต่ตอนนี้คงทำได้แค่ปลดปล่อยมันจากภายนอกไปก่อน...เพราะพวกเขายังต้องไปวิ่งหนีซอมบี้ข้างนอกนั่นอีกนาน
การทำให้เด็กนี่ลุกไม่ขึ้นจึงไม่ใช่หนทางที่ดีนัก
ไม่รู้ว่าพระเจ้าหรือซาตานกันแน่
ที่ส่งบททดสอบอันโหดร้ายนี้มาให้เขา
เอาไว้จบเรื่องนี้เมื่อไหร่
จะเอาคืนทั้งต้นทั้งดอกเลยคอยดู!
ปลายนิ้วปลดตะขอกางเกงของตัวเองออกเช่นกัน
ก่อนจะดึงความเป็นชายที่ขยายใหญ่ออกมาแนบไว้กับแกนกายของอีกฝ่าย ฝ่ามือกำรอบมันเอาไว้ก่อนจะขยับช้าๆ
นัยน์ตาจับจ้องใบหน้ามนที่ดูทรมานจากความต้องการทั้งๆที่ยังงับไหล่ของเขาไม่ปล่อย
ยิ่งมือขยับเพิ่มขึ้นเท่าไหร่
ที่หัวไหล่ก็ยิ่งรับรู้ถึงความหนักหน่วงของรอยกัดมากขึ้นเท่านั้น
และมันกลับเร้าอารมณ์ของเขาอย่างไม่น่าเชื่อ
เสียงหอบหายใจดังผสมผสานมากับเสียงอื้อๆ
และเพราะว่าใบหน้าอยู่ใกล้กันแค่คืบ
เขาจึงขยับมันเข้าไปคลอเคลียแก้มใสที่ส่งกลิ่นสบู่หอมอ่อนๆอย่างหลงใหล
ฝ่ามือขยับเร็วขึ้นเรื่อยๆตามอารมณ์ร้อนที่พุ่งสูงจนในที่สุดทุกความต้องการก็ถูกปลดปล่อยออกมาคามือ
เขาได้แต่ทิ้งแผ่นหลังลงไปพิงขั้นบันไดพลางหอบหายใจ...แน่นอนว่าคนที่เหนื่อยอ่อนก็เอนซบลงมาที่แผงอกแข็งแรงของเขาแทบจะทันทีเช่นกัน
ริมฝีปากที่งับไหล่เขายอมปล่อยมันออกช้าๆ
นัยน์ตาสีมรกตหรี่ปรือก่อนที่ร่างโปร่งบางจะเริ่มโงนเงน
จนในที่สุด เจ้าซอมบี้ที่ถูกทำให้เหนื่อยล้าก็หลับตาลง...
เขาวางคนในอ้อมแขนลงบนลังไม้บรรจุอะไหล่ก่อนจะจัดการแต่งกายให้เรียบร้อย
ใบหน้าที่หลับพริ้มนั้นดูไม่ออกเลยจริงๆว่าเด็กนี่มีความแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป
ไวรัสซอมบี้ในตัวเอเลนไม่ได้หายไป
แต่พร้อมจะกำเริบขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้...ที่มีอะไรไปกระตุ้น?
ถ้างั้นสิ่งที่กระตุ้นคืออะไรกันล่ะ?
นัยน์ตาเหลือบไปมองบาดแผลที่ปลายนิ้วของตัวเอง...นอกจากแผลนี่แล้วเขาก็นึกไม่ออกว่าระหว่างนี้มีอะไรเกิดขึ้นอีก
สิ่งกระตุ้นคือ
"เลือด" งั้นหรอ?
แต่อาจจะไม่ใช่เลือดของทุกคนที่จะทำให้เด็กนี่อาการกำเริบได้
เพราะเมื่อกี้ทั้งเลือดของฮิโนะทั้งเลือดของเจ้าตัวเองยังไม่ทำให้อาการกำเริบขึ้นมาเลย
ถ้างั้น...สำหรับเอเลนแล้ว...สิ่งที่กระตุ้นให้มีสภาพซอมบี้...ก็คือ...
เลือดของเขา?
เป็นเพราะซอมบี้ที่อยู่ในโกดังแห่งนี้ทั้งคู่ต่างก็ยังหลับไม่ตื่น
พันเอกและพันโทแห่งฐานทัพโคมัตสึจึงต้องเตรียมเครื่องบินกันตามลำพัง
ทั้งปืนทั้งกระสุนเท่าที่หาได้ถูกโยนใส่เข้าไปในห้องนักบินซึ่งมีร่างหลับใหลนั่งอยู่ในที่นั่งด้านหลังลำละคน
เขากับยูจะแยกกันไป เพราะ
F-15
มันนั่งได้แค่สองคน...
ร่างสูงใหญ่ปีนขึ้นบันไดก่อนจะโหนตัวเข้าไปในห้องนักบิน
เขาเองก็คงต้องขึ้นไปบ้างแล้วสินะ
ฝ่ามือสวมหมวกกันน็อคแล้วล็อคเข็มขัดนิรภัย
สายอากาศสำหรับหายใจถูกเช็คจนถี่ถ้วนว่ายังใช้การได้ดี
นัยน์ตากวาดมองไปรอบกายซึ่งเป็นเพียงกระจกใสทำให้รู้สึกราวกับเป็นนกที่กำลังจะโผบินสู่ฟากฟ้า
อันที่จริงก่อนที่จะได้ติดยศสูงขนาดนี้พวกเขาก็เคยเป็นนักบินอยู่ในฝูงบินโจมตี
เคยขับเครื่องบินรบแบบนี้มาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่กลับไม่เคยรู้สึกถึงความสิ้นหวังแบบนี้เลย...
ไม่รู้เลยว่าการเอาเครื่องขึ้นในครั้งนี้จะมีที่ให้ลงจอดหรือเปล่า...
เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มหลังจากที่สวิตซ์ทุกอย่างถูกเปิดจนหมด
วิทยุสื่อสารพยายามติดต่อไปยังปลายทางซึ่งมีเพียงความเงียบตอบกลับมา
ทว่า...
พวกเขาก็ต้องไป....
บันไดเหล็กถูกผลักให้ออกห่างจากตัวเครื่องบินก่อนที่ฝากระจกของห้องนักบินจะค่อยๆปิดลง
เหยี่ยวแห่งกองบินที่ 6
ฐานทัพโคมัตสึทั้งสองลำกำลังจะโผบินขึ้นสู่น่านฟ้าแห่งแดนอาทิตย์อุทัยในไม่ช้า
ในขณะที่ประตูม้วนเหล็กของโกดังค่อยๆเปิดขึ้นให้แสงภายนอกส่องเข้ามา
ใบหน้าก็หันไปหาห้องนักบินของ F-15 อีกลำที่กำลังจะทะยานออกไปพร้อมกัน ฝ่ามือใหญ่ชูนิ้วโป้งมาให้ก่อนจะได้ยินเสียงดังมาตามสายของวิทยุสื่อสาร
"
แล้วเจอกันที่ฐานมิซาว่า"
ล้อสีดำวงใหญ่ค่อยๆหมุนช้าๆ
ซากศพที่เดินเข้ามาไม่รู้กี่ตัวต่อกี่ตัวที่ถูกมันบดขยี้จนเละเทะไม่เหลือชิ้นดี
เหยี่ยวสองลำเคลื่อนที่สู่รันเวย์
ก่อนจะหยุดนิ่งเพียงชั่วครู่เพื่อปรับระดับความดัน ล้อสีดำเริ่มหมุนอีกครั้งจากความเร็วระดับรถยนต์ค่อยๆถูกเร่งขึ้นตามหลักอากาศพลศาสตร์จนในที่สุด
F-15J/DJ
ทั้งสองลำก็ทะยานขึ้นสู่น่านฟ้า....
ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหน...ก็มีแต่ควันไฟลอยอยู่!!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To be Con.
แหง่กๆๆ
กำลังพยายามปั่นเรื่องนี้ให้จบก่อนสิ้นเดือนนี้อยู่ค่ะ แต่ก็ไม่รู้จะทำได้ไหม
แง๊....
ก็อย่างที่กล่าวไว้ในเฟสบ้างไรบ้าง
ว่ามี BiOS แล้วจะไม่มี
Lipstick ได้อย่างไร เพราะงั้นมันจึงมี Lipstick LeviEren ver.งอกตามมาด้วยอีกเรื่องค่ะ555
*ทรุด* ก็....ถึงจะไปกันคนละทางแต่มันก็เป็นเรื่องเดียวกัน(?)ละนะ
^ ^""
ที่จริงของเวอร์ชั่น 8059
Lipstick
จะถูกแต่งขึ้นมาก่อนค่ะแล้วค่อยตามด้วย BiOS แต่เวอร์ชั่นรีเอนี่จะกลับกัน
เพราะงั้นเลยอยากจะจบฟิคซอมบี้ก่อนที่ฟิคเซะซี่นั่นจะลงจริงๆ ฮืออออ
BiOS
แต่งให้ในวันเกิดของยามะกับรีไวซามะ ส่วน Lipstick คือฟิคที่แต่งให้ในวันเกิดหนูก๊กกับเอเลนค่ะ
อิ๊อิ๊อิ๊ 30 มีนานี้เจอกัลลลลล
อ๊ะ!!
ก่อนจะเวิ่นมากไป
ขอแฮปก่อง แหะแหะ คือติดไว้นานนนนนนนนนนจนเจ้าของวันเกิดคงปลงไปแล้วมั้ง ฮือออออออ
ก็หวังว่าสักวันหนูคงเข้ามาเห็นนะ T^T
สุขสันต์วันเกิดนะก๊าน้องน้ำผึ้งพลังเค
5555
มีความสุขมากๆๆๆ
ขอให้เป็นปีที่ดีๆมีซอมบี้เซะซี่(?)อยู่ข้างกาย อิอิ
ขอให้พลังล้นเหลือคิดจะทำอะไรก็สำเร็จเสร็จสมหวังทุกประการเลยนะค้า ^ ^ ขออภัยในความล่าช้าจริงๆค่ะ แหะแหะ
สำหรับฟิคซอมบี้นี่ก็มีหลายท่านส่งรูปแฟนอาร์ตมาให้
ฮืออออออ ขอบคุณมากๆๆเลยนะคะ ดีใจสุดๆเลยค่ะ
ไม่คิดว่าฟิคประหลาดๆเรื่องนี้จะดาเมจอะไรใครได้555 แปะๆๆ
จาก น้องเลิฟ ChinjiYu จ้ะ
จากน้องเฟินจ้ะ
จากน้องน้ำผึ้งจ้ะ
สองภาพนี้จากน้องโจเมะจ้า
นอกจากแฟนอาร์ตแล้วคุณกวางยังไปทำเสื่อมถ่ายภาพประกอบการจิ้นมาด้วยละค่ะ
>w<
แบบว่า...เพิ่งรับคุณรีไวเข้าบ้าน เลยเอาซะหน่อย555
หลายคนก็คงเห็นในเฟสกันไปบ้างแล้วเนอะ ขอแปะที่นี่อีกรอบ
ถ่ายกับ F-15 >/////<
ฝ่าดงซอมบี้ อิอิ
ขอบคุณทุกๆการติดตามและทุกๆคอมเม้นต์มากๆนะค้า
แล้วเจอกันตอนหน้าค่า ^ ^
มาแว้ววววววววววววววววววววววววววววว
ตอบลบเมื่อไรรีไวเฮย์โจวกะเอเลนจะได้เสียซะทีเนี้ยะ(เฮ้ย!!)
โอ้ยซอมบี้เซะซี่มากกกกกกก <3 กำเดาไหลพรากแล้วฮ้าบบบบบบบบบ
เฮย์โจวทนได้ง้ายยยยยยย มีซอมบี้แสนเซ็กซี่โมเอ้ใสซื่อเร้าใจอยู่ข้างตัวแบบนี้ผมจะไม่ทน(โดนยิงมิไซใส่)
อ้า..จะแต่งให้จบภายในเดือนนี้สินะ..นับหนุนฮับ เอาให้จบน้าเอาให้จบน้า...เอาให้จบน้า...เอาให้จบน้า....
แล้วเดี๋ยวถ้าเก๊าอู้ได้จะส่งซอมบี้ไปให้นะ
อ้าาาา ได้อ่านฟิคพี่กวางสองฟิคในวันเดียว ฟินคร้าบบบบบบบบบ <3 <3 <3
ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ
ตอบลบรอตั้งนานกว่าจะเอา เอเลน หนูววววววววววววววว์!!
น่ารักน่ากอดมากมาย มาม๊ะ มากัดคอเจ๊ซะดีๆ #โดนเฮย์โจวกระชวกไส้
อรั๊ย อยากอ่าน อีก อยากอ่าน รีเอบันซ้ายยยยย
*ซับน้ำตาแปบค่ะ* (แบบว่ามันไหลออกมาจริงๆ นะ ปลื้มอะ!)
ใส่หัวใจไปสักสิบดวง
♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥
ปล.ระบบคอมเม้นท์บล็อครองไปปรับๆ ดูน่ะค่ะ ให้มันไม่กรอกรหัสตรวจขี้เกียจใส่มากมาย = 3 =
ปล2. แวะมาดูบล็อคเรามั่งก็ได้นะค่ะแปลโด รีไว x เอเลน เพื่อมีไอเดียผุดขึ้นมาไปเขียนเรื่องใหม่ (ให้ดองต่อ?) แต่ตอนนี้กำลังดองอู้อยู่(?) ถถถถถถถ
ในที่สุด.....ตอนที่ 5! น้ำตาจะไหลรอไรท์มานานเเระขอบคุณมาเลยค่ะจะรอเเละติดตามตอนต่อไปเรื่อยๆเลยนะค่ะ //กอดไรท์เเนบเเน่น
ตอบลบอ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก > [ ] <
ตอบลบลงไปดิ้นด้วยความดีใจ อยากอ่านเรื่องนี้มากๆๆจริงจัง บอกตรงๆว่าทรมาน(?)มากค่ะ 5555555555 ด้วยความที่อ่านเรื่องนี้เวอร์ 8059 แบบรวดเดียวแล้วฟินมากกกกกกกกกกกก แต่พอเวอร์รีเอต้องรอกวางซามะมาต่อ คือคนบ้ามันจะลงแดงค่ะ 55555 แต่เพราะเราไม่มีสิ่งเร้า(?)และความมั่นใจพอที่จะไปกระตุ้น(?)คนแต่งค่ะ 55555 เลยต้องจำยอม(?)รอแบบนี้ แต่ดีใจมากจริงๆนะคะที่ได้อ่านต่อ
และคู่โนเสะ ฟินมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ในที่สุดก็มีทางออกให้ฮิโนะได้กลายเป็นลูกครึ่งซอมบี้แบ้วววว ฮือออออออออออออออออ ดีใจน้ำตาไหลพราก(?)เลยค่ะ #รู้สึกหล่อนจะฟินคู่นี้เกินหน้าเกินตาไปแล้วไหมน่ะหืออ #555555555 คือเป็นตัวละครที่กวางซามะสร้างขึ้นมาแล้วเราฟินโคตรจริงจังค่ะ!!!!!!!!
เค้าคิดอยู่นานเลยค่ะว่าจะออกมาเป็นแบบไหน อย่างที่สงสัยไปครั้งที่แล้วว่าเวอร์นี้ไม่มียาเหมือนตอนหนูก๊ก แล้วจะช่วยฮิโนะยังไงฟ่ะ!!!! คือแอบคิดเหมือนกันว่าไม่ใช่กวางซามะจะดับอนาถ(?)คู่นี้ซะให้เราน้ำลายฟูมปาก(?)หรอกนะ T _ T แต่ลืมว่าเวอร์นี้ไม่มียาก็จริง แต่มีมาเป็นตัวยาทั้งตัว(?)เลย เอเลนหนูโฮกมากกกกกก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรที่เป็นความลับของหนูอยู่ แต่หนูเป็นอะไรที่โฮกมากจริงจัง > _ < คือกลายเป็นโคตะระตื่นเต้นนน(?)แบบเฮ้ยยย กัดเอเลนแล้วหาย(?)!!!!! แม่เจ้าท่านท่อนขางานหยาบ(?)สิ 555555555555 ยิ่งขี้หึงขี้หวงขั้นสูงสุด(?)แบบนี้ต่อไปอย่าได้คิดว่าจะยอมให้ใครมากัดเอเลนง่ายๆแล้วล่ะสินะ นี่ถ้าไม่ใช่ฮิโนะและเอเลนก็วิ่งเข้าไปให้กัดเอง ฮิโนะได้ตายแหงแก๋ T – T พ่อคุณเล่นจะยิงอย่างเดียวเบย
แล้วคือฮิโนะกลายเป็นลูกครึ่งซอมบี้แล้วโฮกฮากกกกกกมากกกกก ถึงจะไม่ได้บรรยายให้เค้าฟินตายแต่แค่นี้ก็ฟินเอง(?)แล้วค่ะ > ___ < จริงๆอยากให้คู่นี้ได้พูดอะไรเขินๆอายๆ(?)ใส่กันด้วยซ้ำนะคะ เค้าอยากเห็นยูบอกรัก(?)ฮิโนะบ้างง่ะ #ตกลงหล่อนจะเมนคู่ไหน 55555 #แม่เจ้าจะไปหาคนบ้าที่ไหนเอาแต่เม้นท์ตัวละครที่สร้างขึ้นมามากเกินหน้าตัวหลักแบบดิฉัน(?) #แทนที่หล่อนจะพิจารณาตัวเอง 55555555555
แต่!!!!! กวางซามะทำเขาฟินมากกกกกกกกกกกกกก ที่เอเลนแพ้กลิ่นเลือดท่านท่อนขา อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่ทนนนนนนนนนนนนนนน คือไม่อยากจะคิดว่าหลังจากนี้(?)พ่อคุณจะสรรหาทำตัวเองให้ได้เลือด(?)เพื่อล่อลวง(?)ซอมบี้ลูกหมาน้อย(?)น่ารักให้ออกอาการยั่ว(?)แบบนี้กี่รอบ(?)ต่อวัน(?) โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คิดเอง(?)ฟินเอง(?) 5555555555555
เค้าอ่านวน(?)จริงจังกว่าตอนคู่พี่น้องต่างสายเลือดอีกนะคะ เอเลนไม่ไหวแล้วว ฮือออออออ ถ้าจะเซะซี่(?)เย้ายวนกันขนาดนี้ละก็ มากัดทางนี้(?)ด้วยเถิด > __ < #แหม่ กระทืบมาซะม้ามแตก(?)เลยนะคะท่านท่อนขา เหลือให้ตูไว้ขาย(?)ซื้อของ(?)บ้างสิเฮ้ย(?)!!!!
คืออยากบอกว่า ทางนี้ก็รอไอ้ทั้งต้นทั้งดอก(?)ของท่านท่อนขาโคตรๆๆ(?)ค่ะ 5555555555 ถึงจะฟินนอนตายแล้วเด้งขึ้นมาตายใหม่(?)กับฉากฮัดช่า(?)ที่ขั้นบันไดก็เถอะ แต่ถ้ามันไม่เต็มที่(?)จะใช่ท่านท่อนขาหรือ? 555555
แล้วก็ พอคิดถึงการออกอาการของเหล่าลูกครึ่งซอมบี้แล้ว ก็ชอบที่กวางซามะจัดให้ลงตัวมากๆเลยค่ะ อย่างตอนหนูก๊กรายนั้นจะแพ้กลิ่นเลือดตัวเองตามสไตล์คนปากไม่ตรงกับใจ(?) แต่กับเอเลนแพ้กลิ่นเลือดเจ้าของ(?)นี่มันใช่เลยยย ลูกหมาชัดๆๆ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก โดดกอดกวางซามะแน่นๆ คนอะไรทำให้เก๊าฟินได้ฟินดี > /// [ ] /// <
อยากบอกว่าฟิคซอมบี้มันดาเมจหัวใจ(?)มากกว่าที่กวางซามะคิดจริงจังนะคะ ฮือออออ อย่าคิดว่ามันไม่มีอะไรน่าดาเมจสิคะ พลอตแบบนี้มันโฮกมากจริงๆๆนะคะ และก็ยังยืนยันว่าฟินตั้งแต่เวอร์ 8059มากแค่ไหน เวอร์นี้ก็ฟินไม่ต่างกันเลยจริงจัง!!!!!! ทุกๆจุดที่ใส่เข้ามาในเนื้อเรื่องเป็นอะไรที่แบบสุดยอดจริงๆนะคะ #คือเค้าพยายามอธิบายเป็นผู้เป็นคนแล้ว(?)เค้าได้เท่านี้ T _ T
แล้วเค้าประทับใจแฟนอาร์ตแทนมากๆๆเลยค่ะ > ___ < ถ้าเค้ามีสกิลเรื่องนี้เค้าคงวาดส่งให้บ้าง แต่สกิลที่มารดา(?)ให้มาดันมีแต่เขียนเรียงความวันแม่(?)ส่งประกวด(?)นะคะ #สมถุยค่ะ
คือพาร์ทนี้กวางซามะจบให้คนบ้าเดินง่อกง่อย(?)เป็นซอมบี้(?)อารมณ์ค้าง(?)มากๆ 5555555 มีอีกตั้งหลายอย่างที่ยังไม่ได้รับการเคลียร์เบยยย ฮือออ เค้าเป็นกำลังใจให้มาต่อเรื่องนี้ให้จบทันก่อนวันเกิดหนูเลน > < แบบสุดกำลังเลยค่ะ จะได้ลงลิปสติคได้อย่างสง่าผ่าเผย(?)นะคะ
ปล.เค้าดีใจที่ได้อ่านเวอร์นี้มากๆนะคะ ชอบมากๆๆจริงๆค่ะ ซอมบี้แบบนี้หาที่ไหน(?)ได้บ้างนะหือออออ(?)
ปล. เห็นรูปที่กวางซามะเอาไปทำเสื่อม(?)แล้วก็ฟินน้ำตาไหล มันสวยมากๆจริงๆนะคะ ทุกวันนี้ภาพเหล่านี้คือสิ่งจรรโลงใจในการถางป่าที่โต๊ะทำงานของเราเบยยย
ซอมบี้ทั้งสองจ๋า มากัดพี่มา มามะ //โดนกระทืบตาย
ตอบลบแหม่~~~~~~ ฟินจริงอะไรจริง <3
ซอมบี้ทั้งสองจ๋า มากัดพี่มา มามะ //โดนกระทืบตาย
ตอบลบแหม่~~~~~~ ฟินจริงอะไรจริง <3
อิ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ถ้ามีซอบบี้แบบนี้เทียร์จะไม่ทนนนนนนนนน!!!!!!!!!!!!!
ตอบลบเอเลน เอเลน เอเลน
กรีดร้องง ชอบค่ะชอบมากๆ ชอบตั้งแต่เวอร์ชั่น8059แล้วค่าา
ตอบลบอยากให้คุณกวางรวมเล่มเรื่องBIOSทุกเวอร์ชั่นมากๆคะ พออ่านแล้วกลับไปดูพวกเกมเมอร์แคสเกมเรสซิเดนท์ใหม่อีกรอบ...
"ให้ตายเถอะ...ถ้าซอมบี้จะเซ็กซี่ขนาดนี้เขาก็ยินดีให้มันกัดไปตลอดชีวิต!"
ตอบลบประโยคนี้ของเฮย์โจมันโดนมากกกก
ไหนจะเลือดของเฮย์โจที่กระตุ้นอาการซอมบี้ของเอเลนให้มางับเฮย์โจได้อีก
บอกเลยเรื่องนี้เฮย์โจกำไรชีวิตมากค่ะท่าน