Attack on Titan. Au S.Fic [Levi x Eren] ในห้อง...ที่แสงส่องไม่ถึง : 11 [Epilogue]


Attack on Titan. Au S.Fic [Levi x Eren]   ในห้อง...ที่แสงส่องไม่ถึง : 11 [Epilogue]

: Attack on Titan Fanfiction  AU
: Levi x Eren
: Dark Romance
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ






ต้นแขนบางทั้งสองข้างถูกมือแข็งแรงจับเอาไว้ก่อนจะดันแผ่นหลังให้ชิดติดผนัง

ร่างแข็งแกร่งถึงแม้จะเตี้ยกว่า ทว่าส่วนสูงแบบนั้นก็กำลังเหมาะพอดีกับการเงยหน้าเสยขึ้นมาจูบเขา ริมฝีปากแตะลงเบาๆก่อนที่ลิ้นร้อนจะไล้เลียกลีบปากให้เผลอเผยอออก

“ หัวหน้า...เดี๋ยวแม่มาเห็นเข้า.....อื้อ!”       เขาพูดออกมาได้แค่นั้นก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงครางเบาๆในลำคอ เมื่อเรียวลิ้นของอีกฝ่ายสอดใส่เข้ามาในปาก

เสียงจูบที่ผสมไปกับลมหายใจหอบหนักทำให้ใบหน้าถึงกับร้อนผ่าวราวกับถูกไฟเผา ถึงเขาจะถูกทำแบบนี้มาไม่รู้กี่ครั้งในอดีต....แต่พันปีให้หลัง....เขายังบริสุทธิ์....และจูบที่ลึกล้ำแบบนี้ก็เพิ่งจะเคยเป็นครั้งแรก

สองขาแทบจะไร้แรงยืน จนท่อนแขนแข็งแรงต้องย้ายมาโอบรอบเอวเอาไว้ให้ แต่ริมฝีปากเอาแต่ใจนั่นก็ยังคงไม่ละไปจากความหอมหวานตรงหน้า

นัยน์ตาสีมรกตที่ปิดแน่นค่อยๆหรี่ปรือขึ้นมาเห็นเพียงเสี้ยวหน้าที่ใกล้จนลมหายใจเป่ารดกัน แค่นั้นมันก็ทำให้ร่างกายรู้สึกแปลกๆได้แล้ว

ดวงตาที่พร่ามัวน้อยๆเหลือบมองข้ามแผ่นหลังของคนที่ยังคงฝังใบหน้าลงที่ซอกคอต่อจากริมฝีปาก....ตอนนี้เขายืนอยู่ในบ้าน....ถูกหัวหน้ารีไวจู่โจมอยู่ในบ้านของตัวเอง

ได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาทำให้นัยน์ตาถึงกับเบิกกว้าง มือทั้งสองข้างดันแผ่นอกของอีกฝ่ายออกไปเมื่อมองเห็นประตูห้องนั่งเล่นกำลังเปิดออกมา....ไม่ทันแน่...แม่เห็นแน่ๆ

“ เหวอ?!!


“ เอเลน?”      เสียงนุ่มนวลแต่เด็ดขาดของแม่เอ่ยเรียกอย่างสงสัยเมื่อมองไม่เห็นตัวเขาซึ่งน่าจะรับโทรศัพท์จากไรเนอร์อยู่ที่โถงบันได

หัวใจเต้นโครมครามจนแทบจะร่วงลงไปหาตาตุ่ม ยังดีที่หัวหน้ารีไวพลิกตัวของพวกเขาทั้งคู่ไปอีกมุมหนึ่งของโถงทางเดิน แม่จึงมองไม่เห็นว่าเรากำลัง....จูบกันอยู่

เขาถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะมองไปที่ใบหน้าเฉยชาซึ่งยังคงไม่รู้สึกรู้สาอะไรอย่างคาดโทษ....จู่ๆก็ทำอะไรของเค้าเนี่ย?! กำลังรับโทรศัพท์อยู่ดีๆหัวหน้าก็มาตัดสายไปซะงั้น แถมยังจู่โจมเขาแบบไม่ทันตั้งตัวอีกต่างหาก

“ เอเลน? ถ้าโทรศัพท์เสร็จแล้วไปยกถุงที่วางอยู่ในครัวมาให้แม่ด้วยนะ”

“ ครับ!!








แล้วการจู่โจมครั้งแรกก็จบลงแต่เพียงแค่นั้น.....








ในขณะที่ไอน้ำกำลังลอยกรุ่นอยู่เหนืออ่างและเขาก็กำลังนอนแช่พรางเอามือกวาดใต้น้ำให้ฝูงเป็ดว่ายไปมา เรียวขาของใครบางคนก็ก้าวเข้ามาคร่อมร่างของเขาเอาไว้

“ หัวหน้า?!”        เสียงน้ำไหลซ่าลงไปตามมวลกายที่เพิ่มขึ้นมา เขารีบขยับกายให้นั่งตัวตรงหลังจากเห็นสายตาหิวกระหายของผู้ชายร่างเล็กตรงหน้า.....มีแต่คำว่า “โดนกินแน่ๆ...โดนกินแน่ๆ”  ลอยอยู่ในหัว....

“ อ่ะ เอ่อ....จะ....แช่น้ำหรอครับ? งั้นเดี๋ยวผมออกไปก่อน....”       ยังไม่ทันจะพูดจบ ริมฝีปากของหัวหน้ารีไวก็ปิดลงมาที่ริมฝีปากของเขา คนตรงหน้ายังคงไมพูดไม่จา ทว่า จู่โจมเขาอย่างต่อเนื่อง

“ หัวหน้า....ทำในบ้านไม่ไหวหรอกครับ...อื้อ!”       เรียวลิ้นสอดแทรกเข้ามาทันทีที่เขาเปิดปากพูด ดูท่าว่าคนตรงหน้าก็จะรู้ว่าเขายังบริสุทธิ์ถึงได้ไล่ต้อนเขานัก

ที่ต้นขาเริ่มรับรู้ได้ถึงฝ่ามือที่ลูบไล้ไปมา ใบหน้านิ่งเฉยละออกไปจากริมฝีปากก่อนจะกดจูบลงที่ซอกคอจนเผลอห่อไหล่....ถึงจะถูกจู่โจม แต่ความนุ่มนวลของหัวหน้ารีไวที่มีให้ก็ไม่ทำให้รู้สึกกลัวเหมือน “ครั้งแรก” ในอดีตนั่นเลยสักนิด

จะว่าไปก็มีเซ็กส์ครั้งแรกในห้องน้ำเหมือนกันนี่นะ....

เดี๋ยว!!! ไม่เหมือนสิ!! เพราะนี่ยังไม่มี และจะปล่อยให้มีที่นี่ไม่ได้ด้วย!!

“ หัวหน้า....หยุดก่อนครับ ทำที่นี่ไม่ได้นะ....เดี๋ยวแม่...อื้อ!!”      ในขณะที่มือก็พยายามดันแผงอกแข็งแรงนั่นออกไป แต่มันกลับกดร่างกายลงมาชิดใกล้หนักกว่าเดิม เสียงร้องห้ามหายลงไปในลำคออีกครั้งพร้อมๆกับเสียงจูบที่ดังขึ้นมาแทน

กว่าจะยอมละออกมาเขาก็แทบจะตายคาอก

“ ฉันรอมาเป็นพันปี เพื่อที่จะได้ทำแบบนี้กับนายนะเอเลน คิดจะหนีไปไหนอีก?”     โธ่....อย่าทำให้เรื่องราวสุดแสนจะโรม๊านซ์นั่นต้องมัวหมองสิครับหัวหน้า

คนที่คร่อมอยู่ด้านบนยังคงรุกเร้าเขาหนักขึ้น ริมฝีปากลากไล้ไปตามลาดไหล่ก่อนจะกัดเบาๆทำเอาสะดุ้งเป็นพักๆ ฝ่ามือด้านล่างก็เริ่มขยับเข้าใกล้ส่วนอ่อนไหวเข้าไปทุกทีๆ

และในขณะที่เขากำลังหลับตาปี๋อย่างยอมจำนนอยู่นั้น.......


“ เอเลน?!”        เสียงตะโกนเรียกจากหน้าห้องน้ำของแม่ก็ทำเอาสะดุ้งโหยง เสียงน้ำไหลซ่าลงไปตามร่างกายที่ขยับหนีอีกฝ่ายอย่างร้อนลน....แม่คงไม่ได้สงสัยหรอกใช่ไหม? คงไม่คิดจะเข้ามาดูหรอกใช่ไหม?

ถ้าเห็นลูกชายอยู่ในสภาพแบบนี้กับผู้ชายอีกคนจะว่ายังไงเนี่ย?!

“ เอเลน! อย่ามัวแต่เล่นน้ำนะ!...รีบๆอาบแล้วไปนอนได้แล้ว!.....จริงๆเล้ยเด็กคนนี้....เมื่อไหร่จะโตซักทีนะ......”       เสียงบ่นของแม่ค่อยๆห่างออกไป เขาจึงได้แต่ถอนหายใจก่อนจะจ้องคนตรงหน้าด้วยสายตาคาดโทษอีกรอบ

ดีที่แม่มาขวางไว้ ไม่งั้นเจ้าผู้ชายตรงหน้าคงได้ทำให้ลูกชายของแม่ “โตเป็นผู้ใหญ่” แน่ๆ






แล้วการจู่โจมครั้งที่สองก็จบลงแต่เพียงแค่นั้น.....




นั่นรวมไปถึงครั้งที่สาม สี่ ห้า หก....และอีกนับไม่ถ้วน.....

ที่จะจบลงด้วยเสียงของแม่ทุกครั้งไป!








ก็เพราะแบบนั้นแหละเขาถึงได้เริ่มรู้สึกว่าหัวหน้ารีไวชักจะหงุดหงิดขึ้นทุกทีๆ...ถึงแม้ใบหน้าจะยังซังกะตายอยู่เหมือนเดิมก็เถอะ










พอฤดูใบไม้ผลิมาเยือน ก็เหมือนกับจะเป็นสัญญาณแห่งการเปิดภาคเรียนใหม่

นัยน์ตาสีมรกตมองใบเขียวขจีของต้นไม้ข้างทางสลับกับถนนที่รถของตนกำลังวิ่งอยู่ มือแตะพวงมาลัยเล็กน้อยก่อนจะบังคับให้มันเลี้ยวไปตามโค้งของถนน ดวงตาคู่โตเหลือบมองคนที่นั่งอยู่บนเบาะข้างๆ ใบหน้าเฉยชายังคงนิ่งสนิทตามเดิม ทำเอาไม่รู้ว่ากำลังดีใจหรือว่ายังหงุดหงิดอยู่กันแน่


วันนี้คือวันที่พวกเขาสองคนจะได้ออกมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตามลำพัง....


ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ในความเป็นจริงแล้ว เขาก็แค่เปิดเทอมและต้องกลับมาอยู่ที่คอนโดตามปกติ...ทว่า....ด้วยความที่แม่ของเขาเข้ากับหัวหน้ารีไวได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยโดยเฉพาะเรื่องทำความสะอาดบ้าน...แม่จึงฝากฝังลูกชายเพียงคนเดียวของตัวเองให้หัวหน้าดูแลด้วยการให้มาอยู่กับเขา....แม่คงหวังให้รังหนูสกปรกโสโครกกลับกลายมาเป็นห้องธรรมดาๆห้องหนึ่ง....โดยไม่ได้คำนึงเลยว่า....ตระกูลเยเกอร์กำลังจะสิ้นแล้วซึ่งผู้สืบทอด!

ทั้งๆที่ตัวเองก็อุตส่าห์ขวางเอาไว้โดยไม่รู้ตัวมาได้ตั้งหลายวันแท้ๆ

จู่ๆแก้มก็รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาก่อนจะละสายตาจากใบหน้านิ่งเฉยของหัวหน้ากลับมามองถนน....แบบนี้มัน....ก็เหมือนกับเขากำลังขับรถไปหาที่เสียตัวให้ตัวเองยังไงไม่รู้นะ?

แล้วยิ่งหงุดหงิดขนาดนี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าเขาจะโดนขนาดไหน....แค่นึกถึงภาพในอดีตที่เคยต้องรองรับอารมณ์ของผู้ชายคนนี้มาก็ทำเอาอยากจะขับรถกลับบ้านให้รู้แล้วรู้รอด


นัยน์ตาสีมรกตเหลือบไปมองคนที่เท้าแขนเอาไว้กับประตูรถอีกรอบ

ก็ยังดีที่เวลาพันกว่าปีช่วยฝึกความอดทนให้หัวหน้ารีไวได้พอสมควร ไม่อย่างงั้นคนป่าเถื่อนใจร้อนขี้รำคาญนั่นมีหรือจะยอมให้เป็นแบบนี้....ปกติเคยสนใจอะไรเสียที่ไหน เขายังจำภาพในอดีตพวกนั้นได้ว่าเคยโดนทำที่ไหนมาบ้าง....มีแต่ที่เสี่ยงๆว่าใครจะมาเห็นเข้าทั้งนั้น....

หรือที่ยอมทนเพราะอีกคนคือแม่ของเขา?

นั่นแปลว่าหัวหน้าให้เกียรติเขาจะได้ไหมนะ?

อย่างน้อยๆเขาก็รู้ว่าหัวหน้าให้ความสำคัญกับคนในครอบครัวของเขา....


สายตาละจากเสี้ยวหน้าที่ยังนิ่งสนิทกลับมามองถนน.......จู่ๆก็นึกอยากจะยิ้มขึ้นมา.....









กุญแจห้องถูกไขด้วยหัวใจที่เต้นระรัว....

มาถึงขั้นนี้แล้วอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดละนะ!!....

ทั้งๆที่พยายามทำใจแต่พอท่อนแขนแข็งแรงคว้ามาที่เอวก่อนจะดันร่างเขาให้เข้าไปในห้องด้วยความรวดเร็วราวกับว่าอีกฝ่ายกำลังจะทนไม่ไหวแล้ว มันก็ทำเอาสะดุ้งเฮือก

ประตูยังไม่ทันจะปิดดี ใบหน้านิ่งเฉยก็แนบริมฝีปากลงมาอย่างหิวกระหาย นัยน์ตาสีขี้เถ้าที่สะท้อนเงาของเขานั้นมันมีแต่ความต้องการ

“ อื้อ....”      แผ่นหลังถูกดันติดกับผนังเช่นเดียวกับภายในปากที่กำลังถูกไล่ต้อนอย่างหนักให้รู้ว่าอีกฝ่ายเก็บกักความปรารถนาเอาไว้มากมายแค่ไหน

เสียงเข็มขัดถูกปลดออกด้วยความเร่งรีบทำเอาเขาคว้ามือแข็งแรงข้างนั้นเอาไว้แทบไม่ทัน

“ ยะ ยังไงก็ไปที่เตียงเถอะครับ...หัวหน้า”        เขาพูดออกไปด้วยใบหน้าร้อนผ่าว หัวหน้ารีไวมองตอบกลับมาด้วยใบหน้านิ่งคิดก่อนจะดันร่างกายของเขาให้เข้าไปในห้องด้านใน



ทว่า....



เมื่อดวงตารีขวางเห็นเป้าหมายเข้าก็ถึงกับนัยน์ตาเบิกกว้าง ปากอ้าค้าง ร่างทั้งร่างนิ่งงันไปทันที....

“ เฮ้ย เอเลน....แกคิดว่าจะให้ฉันทำบนกองขยะแบบนี้มันเร้าใจดีหรือไงไอ้เด็กเหลือขอ?!       อ้า!....ลืมไปเลยว่าเตียงของเขาน่ะมัน.....

จะว่าไปก็ไม่ได้มีแค่เตียงหรอกที่เป็นแบบนั้น.....ต้องบอกว่าห้องทั้งห้องเลยมากกว่าที่อยู่ในสภาพดูไม่จืด

จำได้ว่าเขาเพิ่งส่ง Final Project ของเทอมที่แล้วเสร็จ แล้วก็กลับมานอนตายอยู่ในห้องได้สองวันก่อนจะต้องออกเดินทางไปทำเมชเชอร์  เพราะงั้นสภาพห้องก่อนส่งงานมันเลยยังอยู่เหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว....

บนเตียงมีรอยแหวกเฉพาะร่างกายคนหนึ่งคนจะนอนได้อยู่เล็กน้อย นอกนั้นมันเต็มไปด้วยกระดาษขนาดใหญ่วางแผ่หลาอยู่เต็มพื้นที่ แล้วก็ไม่ได้มีอยู่แค่แผ่นเดียวแต่มันมีตั้งแต่แบบร่างครั้งแรกยันแบบพรีเซ็นต์ที่ใช้ส่งไฟนอลวางระเกะระกะซ้อนกันเป็นกองพะเนิน ยิ่งแบบร่างครั้งแรกๆก็ยิ่งยับเยินเกินกว่าจะเรียกได้ว่าแบบด้วยซ้ำ

ที่โซนหัวเตียงนอกจากหมอนที่ซุกซ่อนอยู่เพียงใบเดียวแล้ว มันถูกยึดพื้นที่ไปด้วยโมเดลอาคารตั้งแต่โปรเจคล่าสุดไปจนถึงโปรเจคแรกของเทอม วางแทรกๆอยู่กับ Mass Model หรือที่เรียกง่ายๆว่าโมเดลแบบร่างที่ถูกแกะ ถูกแงะ ถูกล้มแบบ ด้วยฝีมือเหล่าอาจารย์จนยับเยิน ถึงจะดูไม่ต่างจากกองซากอะไรบางอย่างแต่ก็มีค่าต่อการพัฒนาแบบขั้นต่อไปไม่น้อยทำให้เขายังทิ้งมันไปไม่ได้จนกว่าจะส่งโปรเจคเสร็จ

ไล่ลงมาที่พื้นข้างเตียงก็เต็มไปด้วยเศษกระดาษที่ถูกตัดคาเอาไว้อยู่บนแผ่นรองตัดขนาดใหญ่ ทั้งหลอดกาว ทั้งใบมีดที่ถูกหักเอาไว้วางเกลื่อนกลาดไปหมด กระดาษที่ใช้ตัดโมเดลเองก็แผ่อยู่เต็มพื้น มีตั้งแต่หญ้าเทียม ต้นไม้ปลอม อะครีลิคผิวส้ม ไปจนถึงไม้บัลซ่า  ฐานโมเดลที่ไม่ได้ใช้แล้วยังวางอยู่ไม่ไกล

เขาใช้ห้องนอนเป็นห้องทำงานด้วยเพราะงั้นคอมพิวเตอร์มันจึงวางอยู่อีกฝั่งของเตียง  กระดาษแบบร่างที่ใช้ดูก่อนจะขึ้นแบบใหม่ด้วยคอมพิวเตอร์ยังคงพาดห้อยลงมาจากบนโต๊ะ ถ้วยมาม่าราขึ้นกับขวดเครื่องดื่มชูกำลังยังคงตั้งอยู่ข้างๆคีบอร์ด  กระดาษขาวม้วนยาวที่เอาไว้พล็อตแบบก็ยังคาอยู่ที่ปริ๊นท์เตอร์ ตลับหมึกและกระดาษที่ปริ๊นท์เสียก็กองอยู่ข้างๆกันนั่นแหละ

โต๊ะดร๊าฟที่ไม่ได้ใช้เขียนแบบด้วยมือแล้วแต่มันยังคงทำหน้าที่ต่อไปด้วยการกลายเป็นที่วางโมเดล Site Surround ขนาดเท่าฝาบ้าน ตามขอบโต๊ะมีตั้งแต่กางเกงยีนส์ เสื้อยืด เสื้อกล้าม ยันเสื้อโค้ทพาดอยู่แทนราวแขวนเสื้อ

และมันไม่ได้หยุดอยู่แค่ในห้องนอน มันยังลามออกมาถึงห้องนั่งเล่น บริเวณใกล้ๆประตูระเบียงเต็มไปด้วยกระป๋องสเปรย์ทั้งที่เป็นกาวและเป็นสี พื้นระเบียงเต็มไปด้วยรอยพ่นจนไม่รู้ว่ารอยไหนเก่ารอยไหนใหม่ ถึงแม้จะมีกระดาษรองพ่นหลุดๆร่อนๆแปะอยู่บ้างแต่มันก็ยังเลอะออกไปข้างนอกอยู่ดี

ที่พื้นของห้องนั่งเล่นเองก็มีโมเดลเก่าๆวางอยู่ หลายชิ้นถูกห่อด้วยพลาสติก กองหนังสือเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมไหลลงมาจากตู้ลามมาจนถึงบนโซฟา ที่หน้าโทรทัศน์ก็เต็มไปด้วยตลับเกมส์ที่ยังคงถูกวางเอาไว้ในสภาพราวกับคนแอบอู้มาเล่น พื้นที่ที่แห้งหน่อยก็มีแบบเก่าๆและพิมพ์เขียววางซ้อนๆกันอยู่ไม่รู้กี่โปรเจค

ที่เคาน์เตอร์ครัวเอง นอกจากกองอาหารแห้งและถ้วยจานไม่ได้ล้างที่แห้งกรังคาอ่างล้างจาน บนเตาไฟฟ้าแทนที่จะเป็นหม้ออาหารกลับเป็นหม้อที่เลอะไปด้วยเทียนเจลที่ใช้ทำโมเดล ข้างๆเตาก็ไม่ได้มีอุปกรณ์การปรุงอาหารแต่เป็นขวดเรซิ่นกับห่อเทียนเจลที่ยังไม่ได้แกะใช้

ไม่ต้องพูดถึงถังขยะที่มีกระดาษยัดอยู่เต็มจนล้นทะลักออกมากองอยู่รอบๆ

ดูจากใบหน้าตะลึงอึ้งค้างของหัวหน้ารีไวแล้วเขาก็ถึงกับอยากจะค่อยๆแอบย่องหนี เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายรักความสะอาดขนาดไหน แล้วไอ้ของที่ไม่เคยเก็บเลยมาสามปีถ้าไม่ต้องใช้พื้นที่ทำโปรเจคใหม่แบบนี้มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะเก็บกวาด

หัวหน้าอาจจะคิดว่าให้ตนอยู่ในห้องที่แสงส่องไม่ถึงนั่นน่าจะดีกว่าต้องมาอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยกองซากอะไรไม่รู้แบบนี้ก็เป็นได้

“ เอเลน.....”       เสียงเย็นๆเอ่ยออกมาก่อนที่มือแข็งแรงจะคว้าคอเสื้อเขาที่กำลังจะเดินหนีเอาไว้

“ ทำความสะอาด....เดี๋ยวนี้เลย”



สรุปว่าวันนั้นเขาก็รอดพ้นไปได้อีกวันเพราะขยะ...ไม่ใช่สิ....เพราะข้าวของในห้องช่วยเอาไว้?










ในที่สุดเปิดเทอมปีที่สี่ของเขาก็เริ่มต้นขึ้น

หลังจากปล่อยหัวหน้ารีไวให้อยู่ในห้องตามลำพังโดยที่เขาออกไปมหาวิทยาลัย...เรียวขาก็กำลังก้าวกลับเข้ามาในคอนโดอีกครั้ง

ใบหน้ามนยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อนึกถึงคนที่อยู่ในห้อง....ไม่ต้องกลัวเลยว่าหัวหน้าจะเหงา....เพราะห้องของเขาเก็บไปอีกครึ่งเดือนก็ไม่เสร็จ

เสียงเครื่องดูดฝุ่นดังมาให้ได้ยินหลังจากที่ก้าวขาเข้ามาในห้อง...ดูเหมือนหัวหน้ารีไวจะถูกใจอุปกรณ์ทำความสะอาดของยุคนี้มากทีเดียว....เวลาไปซื้อของด้วยกันนัยน์ตาที่นิ่งสนิทอยู่เสมอมักจะเป็นประกายขึ้นมาทุกทีที่ไปยืนอยู่หน้าชั้นขายน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ

จู่ๆเสียงเครื่องดูดฝุ่นก็เงียบไปแล้วกลายเป็นเสียงโทรทัศน์?....ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าวิ่งไปมาทำให้เขาชะโงกหน้าเข้าไปมองในห้องนั่งเล่นอย่างสงสัย

หัวหน้ารีไวกำลังยืนจ้องภาพในจอเขม็งพร้อมด้วยมีดทำครัวสองเล่มในมือ ท่าที่ถืออยู่นั่นราวกับกำลังถือใบมีดที่ใช้ฆ่าไททันก็ไม่ปาน

เดี๋ยว!! กำลังจะทำอะไรโทรทัศน์ของผมเนี่ย?!!!

“ หัวหน้า?!!”     เขาไถลตัวเข้าไปขวางแทบไม่ทัน

“ จะ จะทำอะไรน่ะครับ?”   

“ ไอ้กระดานดำๆนั่นจู่ๆมันก็มีคนโผล่มา นายไม่คิดว่ามันจะเข้ามาทำร้ายบ้างหรือไง?”      ......ไม่คิดครับ......

เขาได้แต่อมยิ้มอย่างไม่กล้าจะหลุดหัวเราะออกไป เป็นเพราะว่าอยู่ด้วยกันตลอดหลายวันที่ผ่านมา เขาจึงไม่เคยได้เปิดโทรทัศน์ให้หัวหน้าดู.....หัวหน้ารีไวคงต้องเรียนรู้อะไรอีกมากทีเดียวละนะ อย่างน้อยๆก็พวกข้าวของเครื่องใช้ประจำวันเหล่านี้ที่นอกจากอุปกรณ์ทำความสะอาดซึ่งเรื่องนั้นหัวหน้าดูเหมือนจะเรียนรู้มาเป็นอย่างดีจากแม่ของเขาแล้ว

“ ชั้นรู้นะว่านายกำลังยิ้มอยู่...หัวเราะอะไรน่ะห๊า ไอ้เจ้าเด็กเหลือขอ?!”       มือแข็งแรงจับหัวของเขาโยกไปมาก่อนจะพากันล้มลงไปบนโซฟาที่เพิ่งดูดฝุ่นเสร็จใหม่ๆ ร่างกายของเขาทาบทับอยู่บนร่างของอีกฝ่าย สองมือของหัวหน้าย้ายมาดึงแก้มของเขาไปมาอย่างนึกหมั่นไส้

เขาหลุดหัวเราะออกไปจนได้ นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงโดนฝ่าเท้ากระทืบจมดินไปแล้ว

แต่ดูเหมือนหัวหน้ารีไวก็จะรู้ดีว่าตอนนี้เขาไม่ใช่ทหาร....ไม่ได้มีร่างกายที่ถูกฝึกฝนมาให้รองมือรองเท้าได้เท่าเมื่อก่อน...แล้วเขาก็ไม่ใช่ไททันที่แขนขาจะงอกขึ้นมาใหม่ได้ รวมถึงบาดแผลจะหายไปเองได้ในเวลาไม่กี่นาทีเหมือนเมื่อก่อน

แต่ตอนนี้เขาคือ เอเลน เยเกอร์ ที่เป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดาๆคนหนึ่ง

นอกจากเรื่องที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกในยุคนี้แล้ว....หัวหน้ายังต้องพยายามอย่างหนักที่จะถนอมเขาเอาไว้....เห็นได้จากตั้งแต่ที่ฟื้นขึ้นมาก็ยังไม่เคยลงไม้ลงมือกับเขาเลย



ถึงจะไม่ได้พูดออกมา แต่เราทั้งคู่ต่างก็รู้ดีว่า.....เวลาที่เหลืออยู่บนโลกใบนี้นั้นมันแสนสั้น.....หากเทียบกับเวลาพันกว่าปีที่ผ่านมา

การรอคอยที่ยาวนานขนาดนั้น มันทำให้เราต้องตักตวงเอาช่วงเวลาแห่งความสุขมาไว้ในมือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้….



เสียงหัวเราะหยุดลงไปก่อนที่สายตาทั้งสองคู่จะสบประสานกันตรงๆ เขาเกยคางเอาไว้ที่แผงอกซึ่งยังคงเต็มไปด้วยมัดกล้ามที่สวยงาม ถึงแม้จะมีเสื้อสีดำสวมทับเอาไว้ แต่ร่างกายที่แนบสนิทกันอยู่ก็ทำให้รับรู้ได้

“ หัวหน้า....”       ถึงไม่มีเรื่องอะไรจะพูดแต่เขาก็อยากจะเรียกอีกฝ่าย.....แค่ได้เรียก หัวหน้าๆๆๆๆ อยู่แบบนี้ก็เหมือนจะสุขใจจนบอกไม่ถูก

ซึ่งนั่นเขาไม่รู้หรอก....ว่ามันคือการอ้อนอีกฝ่ายอยู่...



ไม่รู้หรอก...ว่าจะทำให้สิ่งที่นิ่งสงบกลับตื่นตัวขึ้นมาได้....



" เอเลน...."         หัวหน้ารีไวเรียกเขาด้วยใบหน้าที่ยังนิ่งเฉย

" ครับ?"        และเขาก็ยังคงเกยคางเอาไว้กับแผงอกของอีกฝ่าย

" ให้ชั้นทำซะ"       

"เอ๊ะ?"       เอ๋????  จู่ๆก็พูดออกมาแบบนี้จากที่งงอยู่สองสามวินาทีเขาก็ถึงกับผงะจนอ้าปากค้าง

ร่างที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรพลิกกายของตนให้กลับมาเป็นฝ่ายคร่อมเขาเอาไว้  ใบหน้าเหรอหราของเขาหันไปมองท้องฟ้าที่ยังสว่างจ้า....กลางวันแสกๆอย่างงี้เลยหรอ? ไม่นะ....

" หัวหน้า! คือเหงื่อมันออก...."        เขารีบดันแผ่นอกที่ทาบทับลงมา ที่เขาพูดนั่นเขาหมายความว่าตัวเขาที่ออกไปตะลอนๆอยู่ข้างนอกมาทั้งวันนั้นมันเต็มไปด้วยเหงื่อ แต่ดูเหมือนนัยน์ตารีขวางนั่นก็จะก้มลงมองตัวเองด้วย

" งั้นหรอ?"      แล้วร่างแข็งแกร่งก็ละออกไป แต่เขายังไม่ทันจะได้ถอนหายใจ ลำตัวก็ลอยหวือขึ้นกลางอากาศเมื่อจู่ๆท่อนแขนของหัวหน้ารีไวก็หิ้วเขาตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำ

" อื้อ!!"       นัยน์ตาเผลอปิดลงเมื่อสายน้ำจากฝักบัวราดลดลงมาบนหัว เสื้อเชิ้ตสีขาวที่สวมอยู่เปียกลู่แนบกับลำตัว ริมฝีปากร้อนผ่าวที่ตรงข้ามกับความเย็นของน้ำแนบลงมาที่กลีบปากก่อนที่สันกรามจะถูกมือแข็งแรงบีบน้อยๆให้ค่อยๆอ้าออก ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาจนได้ ก่อนที่มันจะทำหน้าที่อย่างช่ำชอง

สองขาแทบจะทรงตัวไม่ไหวจึงได้แต่ปล่อยให้แผ่นหลังไหลครูดลงไปกับผนังกระเบื้องเย็นเฉียบ อีกฝ่ายก็ทรุดตัวตามลงมาทั้งๆที่ริมฝีปากยังคงไม่ละออกจากกัน สองมือของหัวหน้ารีไวไล่ปลดประดุมเสื้อของเขาออก

สายน้ำที่ไหลซ่าลงมาช่วยชะล้างน้ำลายที่ไหลจากมุมปากยามเมื่อริมฝีปากละออกจากกันก่อนจะเปลี่ยนมุมแนบลงมาใหม่ แค่จูบก็ทำเอาเขาแทบจะคลั่งได้ขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องในอดีตนั้นมันเคยเกิดขึ้นมาจริงๆ......ไม่งั้นหัวหน้ารีไวคงไม่เชี่ยวชาญในการทำให้เขาอ่อนระทวยได้แบบนี้

เขาได้แต่นั่งหอบหายใจให้คนที่แทรกตัวอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างกดริมฝีปากไปตามลาดไหล่ แรงกดจูบสลับกับการฝังคมเขี้ยวเอาไว้ถึงจะเจ็บก็จริงแต่ทำไมเขาถึงได้ไม่รู้สึกกลัวอีกฝ่ายเลย ยิ่งลมหายใจเป่าลดไปตามผิวหนังเท่าไหร่ก็มีแต่จะทำให้ใบหน้าร้อนผ่าวมากขึ้นเท่านั้น

กางเกงถูกดึงออกไป บนร่างกายจึงเหลือแค่เสื้อเชิ้ตเปียกแฉะที่ติดอยู่ที่หัวไหล่ ทั้งสายน้ำ ทั้งปลายลิ้น ทั้งฝ่ามือของหัวหน้ากำลังทำให้เขาบิดเร่าเมื่อมันเข้ามาครอบงำส่วนอ่อนไหวของร่างกายทั้งด้านบนและด้านล่าง....ทั้งยอดอกและแกนกลางของร่างกายกำลังถูกชักจูงไปให้เคลิบเคลิ้ม

“ อะ....หะ หัวหน้า....”       เสียงครางถูกปล่อยออกไปอย่างเผลอไผล ฝ่ามือที่ขยับขึ้นลงอยู่เบื้องล่างทำให้รู้สึกราวกับขึ้นสวรรค์ นัยน์ตาสีมรกตหรี่ปรือแลมองคนกระทำที่มีสีหน้าถูกใจกับปฏิกิริยาของเขาอยู่ไม่น้อย

รอยยิ้มที่มุมปากนั่นมันเหมือนกับหัวหน้ากำลังดีใจ....ที่ได้พรากพรมจรรย์ของเขาอีกครั้งยังไงอย่างงั้น

“ อึ๊ก!!”      แล้วนัยน์ตาก็ถึงกับต้องปิดแน่นเมื่อที่ช่องทางด้านหลังรู้สึกได้ถึงปลายนิ้ว  สองมือยันร่างที่คร่อมทับอยู่ออกไปทันทีด้วยความกลัว

“ เอเลน.....”      เสียงทุ้มเอ่ยเรียกก่อนจะแนบริมฝีปากลงมาเพื่อหลอกล่อให้เขาละความสนใจไปจากช่องทางด้านหลัง

แล้วเรียวลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดกับฝ่ามือที่ขยับไปตามแกนกายของเขาก็ทำเอาปลายนิ้วสอดแทรกเข้าไปจนได้  นิ้วแรกก็รู้สึกอึดอัดแล้วพอนิ้วที่สองกับสามตามเข้ามา ช่องทางคับแน่นก็ดูเหมือนจะไม่ไหวเสียแล้ว

“ อึก...อื้อ!”      แต่ปลายนิ้วก็ยังขยับต่อไปทั้งๆที่ดวงตาของเขาถึงกับปิดแน่น ฝ่ามือที่เคยกดปิดแกนกายของเขาเอาไว้ละออกไปจับอยู่ที่สะโพกก่อนที่มันจะถูกแทนที่ด้วยริมฝีปากของอีกฝ่าย

ความอุ่นร้อนและชุ่มแฉะของโพลงปากทำเอาดวงตาที่ปิดอยู่ถึงกับเบิกกว้างเพราะไม่คิดว่าหัวหน้ารีไวจะใช้ปากทำให้

“ อะ อ้า....”      เสียงครางดังขึ้นมาทันทีเพราะรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ร่างกายแอ่นรับกับความสุขสมที่อีกฝ่ายปรนเปรอให้จนแม้แต่ช่องทางที่เคยคับแน่นก็เริ่มผ่อนคลาย ปลายนิ้วสามารถขยับเข้าออกได้ง่ายขึ้น 

แต่แล้วทุกอย่างกลับหยุดลงเมื่อริมฝีปากที่ล่อลวงเขาจนเกือบจะถึงจุดสูงสุดจู่ๆก็ละออกไป  นัยน์ตาสีมรกตได้แต่มองอีกฝ่ายอย่างเว้าวอนขึ้นมาทันที

ดูเหมือนหัวหน้าเองก็ไม่ได้อยากจะรอช้า ถึงแม้การได้เห็นเขาทรมานจากความต้องการจะเป็นความรู้สึกดีอย่างหนึ่งของคนตรงหน้า  ทว่า  เพราะครั้งนี้ต้องอดทนมานาน มือแข็งแรงจึงปลดตะขอกางเกงของตัวเองก่อนจะรูดซิปลงทันที   แกนกายที่ใหญ่กว่านิ้วหลายเท่าทำเอาเขาถึงกับนัยน์ตาเบิกค้าง ร่างกายอยากจะถอยหนีขึ้นมาเสียดื้อๆ

แต่คนที่ต้องอดกลั้นมานานก็ไม่ปล่อยให้เขาหนีไปไหนได้ มือแข็งแรงจับยึดต้นขาของเขาให้แยกออกจากกันก่อนจะสอดใส่แกนกายของตนเข้ามาในรวดเดียว

“ อ๊า!!”       เขาถึงกับร้องเสียงหลง หน้าท้องเกร็งรับพร้อมกับร่างกายที่กระตุกเฮือก นัยน์ตาที่เบิกกว้างมีหยาดน้ำตาปริ่มออกมาก่อนจะไหลลงไปตามสองแก้ม เบื้องล่างมันเจ็บจนรู้สึกราวกับร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

ความรู้สึกตอนถูกดึงเข้าไปในอดีตเพื่อรับรู้ความเจ็บปวดของร่างกายในตอนที่ถูกทำครั้งแรกนั่นเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆตอนนี้

“ หะ หัวหน้า....เจ็บ....เจ็บครับ....”       เสียงสั่นพร่าบอกอีกฝ่ายด้วยร่างกายที่สั่นระริก ใบหน้านิ่งถึงกับกัดฟันแน่น กลิ่นคาวเลือดลอยมาแตะจมูกและเพราะพื้นกระเบื้องเป็นสีขาว เขาจึงมองเห็นน้ำสีแดงไหลลงท่อไปพร้อมๆกับสายน้ำจากฝักบัว

“ อึก!!”       นัยน์ตาสีมรกตหลับแน่นเมื่อคนที่ฝังร่างกายเข้ามาทำท่าจะขยับ แต่แทนที่หัวหน้ารีไวจะแทรกกายเข้ามาอย่างเอาแต่ใจเหมือนในอดีต ริมฝีปากร้อนกลับแนบจูบลงมาที่ปากเขาด้วยความนุ่มนวล เรียวลิ้นสอดแทรกเข้ามาเพื่อมอบความหอมหวานให้ เช่นเดียวกับฝ่ามือที่เริ่มล่อลวงเขาที่กลางร่างกายอีกครั้ง

ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าหัวหน้าต้องอดทนต่อความต้องการของตัวเองขนาดไหน ในเมื่อช่องทางของเขามันบีบรัดอีกฝ่ายเอาไว้จนรับรู้ได้

อยากจะบอกออกไปว่าไม่ต้องทน....เขาน่าจะไหวถึงแม้จะเจ็บแทบตายเลยก็เถอะ....แต่ริมฝีปากก็ถูกปากของหัวหน้าครอบครองอยู่ ที่ช่องทางด้านหลังเลยเผลอบีบรัดสิ่งที่คาอยู่แน่นเข้าไปอีกจนทั้งเขาทั้งหัวหน้ารีไวถึงกับผงะออกจากกัน

“ เอเลน”       ใบหน้านิ่งถึงกับเม้มปากเข้าหากันก่อนที่เขาจะมองเห็นเส้นความอดทนมันขาดผึงไปต่อหน้าต่อตา

“ อ๊ะ? หัวหน้า?!”      ร่างแข็งแกร่งไม่พูดไม่จาอะไรอีกและคงล้มเลิกเรื่องที่จะเล้าโลมให้เขาคล้อยตาม ฝ่ามือเลื่อนไปจับยึดที่สะโพกกับต้นขาของเขาเอาไว้ก่อนจะกระแทกกายเข้ามาอย่างหมดความอดทน

“ อึก...อ้า...หะ หัวหน้า....เจ็บ....อื้อ!”       เสียงครางดังสลับกับเสียงที่พยายามจะบอกให้อีกฝ่ายเบามือ ทว่า ร่างแข็งแกร่งกลับขยับเข้าออกตามแต่ใจของตัวเอง ความรุนแรงที่แฝงมากับความต้องการมันทำให้ร่างของเขาถึงกับโยกคลอนไปตามแรงของอีกฝ่าย ร่างกายร้อนราวกับไฟทั้งๆที่สายน้ำก็ยังรดลงมาจากเบื้องบน

แรงเสียดสีที่เคยเล่นเอาน้ำตาร่วงกลับค่อยๆรู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ ความสุขสมที่ไม่เคยพบไม่เคยเจอมาก่อนทำให้ความต้องการของเขาเองก็ทะยานสูงขึ้นจนขยับร่างกายสอดรับกับหัวหน้าไปโดยที่ไม่รู้ตัว

เสียงครางผสมผสานไปกับลมหายใจถี่กระชั้นขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดสิ้นสุดของความปรารถนาสะโพกก็ถูกมือแข็งแรงจับยึดเอาไว้ก่อนจะกดมันลงไปให้รับเอาความต้องการของอีกฝ่ายเข้าไปในตัว ร่างทั้งร่างกระตุกเกร็ง ความอุ่นวาบแผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายเช่นเดียวกับน้ำสีขาวขุ่นที่ฉีดพุ่งเลอะเต็มหน้าท้อง

เขาถึงกับทิ้งกายพิงผนังอย่างหมดแรง แผงอกขยับขึ้นลงตามลมหายใจที่หอบหนัก ท่อนแขนของหัวหน้าขยับมารวบตัวเอาเข้าไปกอดเอาไว้ ก่อนที่จะมีเสียงกระซิบแผ่วเบามาให้ได้ยิน


“ เกลียดฉันหรือเปล่า?”


นัยน์ตาสีมรกตเบิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม....สองแขนโอบรอบแผ่นหลังแข็งแรงก่อนจะกอดตอบ ใบหน้าที่เกยอยู่บนไหล่ของอีกฝ่ายเอ่ยออกไปช้าๆ


“ ก็บอกแล้วไงครับ...ว่าจากนี้ไปให้บอกผมว่า...ฉันรักนาย แทนน่ะ”









สรุปว่า “ครั้งแรก” ในโลกพันปีให้หลัง ก็ยังคงเกิดขึ้นในห้องน้ำเหมือนกันสินะ
















เสียงเครื่องดูดฝุ่นดังหึ่งๆอยู่ในห้องจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว จากที่ที่เคยรกพอๆกับรังหนูกลับกลายเป็นที่ที่สะอาดวิ้งวับเป็นประกายจนไม่น่าเชื่อว่ามันจะคือที่ที่เดียวกัน

ประตูบานเลื่อนกระจกที่ติดกับระเบียงถูกเปิดออกเพื่อให้แสงแดดอ่อนๆสาดส่องเข้ามา สายลมเอื่อยเฉื่อยพัดเบาๆให้กระดิ่งที่ผูกเอาไว้ส่งเสียงดังน้อยๆ บรรยากาศสบายๆทำให้คนที่นอนกลิ้งอยู่บนพื้นถึงกับเคลิบเคลิ้ม

หมอนใบใหญ่ถูกใบหน้ามนซุกเอาไว้ นัยน์ตาสีมรกตหลับพริ้มทั้งๆที่กองหนังสือกับกระดาษร่างที่วางอยู่ข้างๆยังมีเพียงเส้นสองสามเส้นแค่นั้นที่ขีดอยู่....ช่วงเริ่มโปรเจคก็จะชิลอย่างที่เห็น....ไม่รู้เป็นไร ถ้าไม่ใกล้จะส่งงานมันก็จะยังเฉื่อยแฉะแบบนี้นี่แหละ

เสียงเครื่องดูดฝุ่นเงียบไปก่อนที่เงาร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่จะมาทาบทับอยู่บนร่างโปร่งบางที่นอนคว่ำอยู่ นัยน์ตารีขวางจ้องมองเจ้าเด็กที่นอนกลิ้งอยู่ที่พื้นอย่างนึกหมั่นเขี้ยว....สบายใจเหลือเกินนะ ไหนว่าจะทำงาน?

ชายเสื้อเลิกขึ้นไปจนเห็นเอวบาง ร่างกายของเจ้าเด็กนี่ยังคงกระตุ้นต่อมซาดิสของเขาได้ดีจริงๆ แต่แทนที่ฝ่าเท้าจะกระทืบลงไปแรงๆ มันกลับแค่วางลงไปบนสะโพกมนก่อนจะแค่เหยียบไปมา

“ ฮะฮะฮะ  หัวหน้า....ขยับเท้าขึ้นมาบนหลังผมอีกนิดสิครับ...อื้อ...แบบนั้นแหละ”       กลายเป็นว่าเจ้าเด็กนี่มันให้เขาเหยียบนวดหลังให้ซะงั้น....ไม่รู้ว่าไม่ได้คิดอะไรหรือว่าความมาโซมันอยู่ในไขสันหลังกันแน่

“ แล้วนี่ไม่ทำงานหรือไง?”        ก่อนเขาจะเข้าไปดูดฝุ่นในห้องนอน บนกระดาษนั่นมันก็มีเส้นอยู่เท่าที่เห็นตอนนี้นี่แหละ

“ ก็มันคิดไม่ออกนี่นา.....”        เสียงสบายๆดังลอดออกมาจากหมอนใบใหญ่ให้เขานึกหมั่นไส้....ก็ดี....ถ้าไม่ทำงานจะได้ทำอย่างอื่นซะ

มือวางเครื่องดูดฝุ่นลงก่อนจะดึงผ้าปิดจมูกออกจากคอ สองขาทรุดลงไปคร่อมร่างโปร่งที่ยังนอนคว่ำอยู่ไม่รู้เรื่องรู้ราว กางเกงหลวมๆบนเอวบางถูกมือของเขาดึงลงไปจนเจ้าคนที่เพิ่งจะรู้ตัวได้แต่ร้องเสียงหลง

“ หัวหน้า?? เดี๋ยว?! อื้อ!”      ปลายนิ้วถูกสอดใส่เข้าไปในช่องทางด้านหลังราวกับจะแกล้งเล่น ทำเอาร่างโปร่งบางถึงกับสั่นระริก

“ เดี๋ยวครับ! อ่ะ!”       แล้วกิจกรรมยามว่าง? ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆก็ยังคงดำเนินต่อไป....


จากนั้น....

เอเลน เยเกอร์  คงต้องจำเอาไว้....ว่าถ้าไม่ทำงานก็อาจจะโดนทำอย่างอื่นแทนก็ได้







ช่วงวันสบายๆมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ







เพราะตอนนี้ทุกวิชาที่เด็กนั่นลงเรียนเอาไว้ต่างกระหน่ำสั่งงานจนแทบจะต้องส่งมันทุกอาทิตย์

จากท่าทางสบายๆที่กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ตามพื้นหรือไม่ก็นอนอ่านการ์ตูนอยู่บนโซฟาก็ต้องย้ายตัวเองไปนั่งอยู่หลังโต๊ะเขียนแบบไม่ก็คอมพิวเตอร์  จากใบหน้ามนที่เคยสดใสก็เริ่มสโลสเลพร้อมรอยคล้ำที่ขึ้นตามใต้ตา

จากที่เคยใช้ชีวิตอย่างคนปกติก็เริ่มกลับกลางวันเป็นกลางคืน จะตื่นจนถึงรุ่งสาง พอฟ้าสว่างร่างโปร่งบางนั่นถึงจะล้มตัวลงนอน  แล้วนอนได้ไม่เท่าไหร่เสียงนาฬิกาปลุกก็จะร้องระงมจนเขาต้องคอยไปแงะออกจากที่นอนก่อนที่เจ้าตัวดีจะวิ่งกระหืดกระหอบออกไปเรียน

มีหลายครั้งที่เอเลนออกไปทั้งๆที่ยังไม่ได้นอน ในมือถือม้วนกระดาษกับโมเดลแบบร่างไปด้วย ก่อนจะกลับมาอีกครั้งด้วยซากอะไรบางอย่างที่คล้ายๆกับที่ถือติดมือไปเมื่อเช้า ใบหน้าของเจ้าเด็กนั่นมันดูทั้งหงอย ทั้งหงุดหงิด ทั้งมุ่งมั่นในเวลาเดียวกัน จากนั้นก็จะนั่งตะบี้ตะบันทำอะไรบางอย่างอยู่หลังโต๊ะเขียนแบบ

มีหลายครั้งที่เด็กนั่นไม่ได้นอนติดต่อกันหลายวัน  แล้วก็มีหลายครั้งที่นอนยาวจนเขาคิดว่ามันตายไปแล้ว

จะว่าไปวิถีชีวิตแปลกประหลาดแบบนี้ก็ดูน่าเป็นห่วงสำหรับคนที่ต้องคอยดูแลแบบเขา แต่ก็เบาใจ....ที่นัยน์ตาสีมรกตคู่นั้นมันเต็มไปด้วยความสนุกสนานมากกว่าจะเศร้าหมองอย่างที่เคยเป็นในอดีต


“ ว่าไงนะ?!!”      เสียงตะโกนใส่โทรศัพท์มือถือดังมาให้ได้ยินจนเขาต้องเหลือบไปมอง ร่างโปร่งบางยืนขยี้หัวสีน้ำตาลยุ่งเหยิงอยู่ที่ประตูระเบียง

“ ยัยซาช่าลืมขอ สตู อีกแล้วงั้นหรอ?!!!”       ถึงเขาจะไม่รู้ว่ามันมีความหมายว่าอะไรแต่เจ้าเด็กนั่นก็วางโทรศัพท์ลงไปด้วยท่าทางหงุดหงิดน่าดู  และเมื่อหันมาเห็นว่าเขามองอยู่ ร่างโปร่งนั่นก็ถลาเข้ามาหา

“ หัวหน้า~~~”      เด็กนี่ยังคงเชื่องกับเขาเสมอต่อให้จะตะโกนด่าใครอยู่ก็ตาม  คางมนเกยลงมาที่ท่อนขาของเขาซึ่งนั่งอยู่บนโซฟา

“ คือว่า....มีเรื่องจะขอร้องน่ะครับ.......”     








มาคิดดูตอนนี้....เขาไม่น่าไปหลงกลรับปากเพราะดวงตาใสแจ๋วราวกับลูกหมาของเจ้าเด็กนั่นเลย ให้ตายสิ!!!



มือจับคีมก่อนจะหนีบกระดาษอย่างระมัดระวังแล้วค่อยๆเอาไปวางลงบนกระดาษอีกแผ่น...แล้วบันไดที่จะใส่ในโมเดลก็เสร็จอย่างสวยงาม.........ซะที่ไหนกันล่ะ!!

ในเมื่อมันยังเหลืออีกตั้งหลายตัวกว่าจะครบ!

กาวถูกทาลงไปบนกระดาษอย่างระมัดระวังพร้อมๆกับคิ้วที่กระตุกถี่ขึ้นเรื่อยๆของเขา.....ถึงตอนนี้จะยังไม่มีสัมมาอาชีพที่แน่ชัด แต่เมื่อพันปีที่แล้วเขาเป็นถึงหัวหน้าทหารเชียวนะ....หัวหน้าทหาร!!.....แล้วทำไมหัวหน้าทหารอย่างเขาต้องมาช่วยเจ้าเด็กเหลือขอนั่นตัดโมเดลบันไดแบบนี้ด้วยเนี่ยห๊ะ?!!



“ อาทิตย์หน้าจะส่งโปรเจคดีไซน์แล้วน่ะครับหัวหน้า...แล้วทีนี้ สตูดิโอ มันไม่เปิดให้ใช้ เพราะงั้นก็เลยต้องทำงานที่ห้องนี้....”        เด็กนั่นบอกเขาแบบนั้น ซึ่งนั่นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร

“ แล้วทีนี้....พอทำงานที่บ้าน พวกรุ่นพี่รุ่นน้องก็เลยมาช่วยไม่ได้....”       รู้สึกว่าจะมีระบบที่พี่น้องในคณะที่เรียนอยู่จะมาช่วยรุมทำไอ้งานที่มันไม่เสร็จนี่อยู่ด้วย เพราะเอเลนก็เคยต้องไปนอนค้างที่คณะเพื่อช่วยพี่รหัสน้องรหัสอยู่หลายครั้ง

“ เพราะงั้น....หัวหน้าจะช่วยผมได้ไหมครับ?......”       แล้วเขาก็โดนดวงตาที่อ้อนโดยไม่รู้ตัวคู่นั้นมัดมือชกจนตกมาอยู่ในสภาพแบบนี้นี่แหละ....




ให้ตายเถอะ...คราวหลังก็ทำให้มันสม่ำเสมอสิ จะได้ไม่ต้องมาปั่นเอาวันสุดท้ายแบบนี้!

แล้วอาคารอะไรของเจ้าเด็กนั่นมันถึงได้มีบันไดเป็นร้อยตัวแบบนี้เนี่ยห๊ะ?!

ยิ่งทำยิ่งหงุดหงิดอยากจะไปไล่ฟันไททันระบายความอัดอั้นนี่จริงๆ แล้วพอหันไปมองไอ้คนที่เคยเป็นอดีตไททันมันก็ทำเอาเส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ

ในเมื่อร่างบางที่ควรจะทำแบบให้เสร็จกลับหลับพาดอยู่ระหว่างเก้าอี้กับพื้นห้องซะแบบนั้น....ถ้าจะนอนก็ไปนอนให้มันดีๆสิเจ้าเด็กนี่!

เขาลุกเดินเข้าไปใกล้พรางถอนหายใจ....ฝ่าเท้ายกขึ้นมาตั้งท่าจะเตะเข้าให้สักที


ทว่า....มันก็ต้องยั้งเอาไว้


เขาจะใช้วิธีการรุนแรงแบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว....เพราะตอนนี้เอเลนไม่ได้เป็นทหาร....ไม่ได้มีร่างกายที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดีเหมือนเมื่อก่อน

แล้วยิ่งสภาพราวกับผีดิบแบบนี้ เตะทีเดียวคงลงโลงแน่ๆ

ร่างทั้งร่างทรุดลงไปนั่งยองๆเพื่อจ้องมองใบหน้าที่หลับไม่รู้เรื่อง ฝ่ามือยกขึ้นไปลูบไล้มันอย่างคิดถึง

ตอนนี้เอเลนทั้งอ่อนแอและบอบบาง เขาจึงต้องใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะรักษาเอาไว้ให้ดีโดยไม่เผลอทำร้ายด้วยมือของตัวเองลงไป....

ซึ่งมันยากมาก.....สำหรับคนที่ไม่ได้อ่อนโยนแบบเขา



ดูเหมือนสัมผัสจากฝ่ามือจะทำให้นัยน์ตาที่ปิดอยู่ขยับเล็กน้อยก่อนจะพยายามเปิดมันขึ้นมาด้วยท่าทางเบลอๆ

“ หัวหน้า?”       เสียงยานคางเอ่ยออกมาพร้อมๆกับร่างโปร่งบางที่ลุกนั่งอย่างงัวเงีย

“ ไปนอนดีๆที่เตียงสิ”

“ กี่โมงแล้วครับเนี่ย?”       มือบางยกขึ้นขยี้ตาก่อนจะถไลตัวขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้หน้าคอมพิวเตอร์ต่อ

“ จะตีสองแล้ว  นอนก่อนซักหน่อยสิ พรุ่งนี้ไม่ต้องไปเรียนใช่ไหม?”        ใบหน้ามนพยักเล็กน้อยก่อนจะหันไปเขียนแบบต่อ เขาได้แต่มองอย่างอ่อนใจแล้วกลับไปนั่งทำบันไดต่อ

เอเลนหลับเป็นวูบๆแบบนี้มาจะครบอาทิตย์แล้ว....เจ็ดวันที่ผ่านมาเด็กนั่นยังนอนรวมกันไม่ถึงสิบชั่วโมงด้วยซ้ำ....รู้สึกว่าไอ้การส่งโปรเจคนี่มันจะหนักกว่าไอ้ที่เรียกว่าตรวจแบบร่างอยู่เอาการทีเดียว

เพราะครั้งนี้โมเดลจำลองอาคารที่ออกแบบไว้ ทั้งสี ทั้งวัสดุ ก็ต้องทำให้เหมือนจริง....รวมทั้งแบบก็ไม่ได้มีแค่เส้นหลวมๆแต่ต้องมีทั้งผัง รูปด้าน รูปตัด และรูปสามมิติที่เขาเห็นเจ้าเด็กนั่นขึ้นจากโปรแกรมอะไรสักอย่างจนออกมาเป็นอาคารที่สวยงาม

“ หัวหน้า...ไปนอนก่อนเถอะครับ....เดี๋ยวที่เหลือผมทำต่อเอง”       เสียงงึมงำดังมาจากคนที่ยังนั่งอยู่หลังคอมพิวเตอร์ เขาแค่พยักหน้ารับก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำบันไดต่อไป....ดูจากรูปสามมิติที่เห็นในคอมพิวเตอร์เมื่อเทียบกับโมเดลที่เพิ่งจะขึ้นไปได้หน่อยเดียวแล้วคงต้องบอกว่าอาการน่าเป็นห่วงอยู่ไม่ใช่น้อย

เพราะยังเหลือเวลาแค่พรุ่งนี้อีกวันเดียวก่อนจะถึงวันส่งโปรเจค






เขาตื่นขึ้นมาอีกทีเพราะเสียงบ่นปนด่าทอของเอเลน.....และเมื่อเหลือบตาไปมองแผ่นหลังบางที่ยังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ถึงได้รู้ว่าเจ้าเด็กนั่นกำลังทะเลาะกับปริ๊นท์เตอร์อยู่

มือบางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนจะกรอกเสียงร้อนลนลงไป

“ อาร์มิน! พอจะมีกระดาษยาวเหลืออยู่บ้างไหม? อื้อ! ไม่เป็นไร ที่ยังไม่ได้ตัดก็ได้ โอเคงั้นเดี๋ยวไปเอา”       ร่างโปร่งบางทำท่าจะพุ่งพรวดออกไปแต่เขาก็เรียกเอาไว้เสียก่อน

“ เอเลน?”         เขาลุกขึ้นจากเตียง มือยกขึ้นมาเสยผมที่ปรกใบหน้า....สาบานได้ว่าเขาไม่เคยนอนทั้งๆที่ยังไม่ได้อาบน้ำแบบนี้ แต่เมื่อคืนเหมือนบันไดจะหลอกหลอนจนต้องล้มตัวลงนอนอย่างช่วยไม่ได้

“ อ่ะ! ขอโทษที่ทำให้ตื่นนะครับหัวหน้า”       ใบหน้าเบลอๆแต่ก็ออกอาการหงุดหงิดหันมาหา...ไม่ต้องถามเลยว่าเด็กนั่นนอนไปบ้างหรือยัง

“ เกิดอะไรขึ้นน่ะ? จะไปไหน?”       หันไปดูนาฬิกาที่ตอนนี้เข็มมันชี้ที่เวลาเที่ยงตรง

“ กระดาษหมดน่ะครับ จะไปเอาที่อาร์มิน”       เขาถึงกับถอนหายใจ....ดูจากสภาพของเจ้าเด็กตรงหน้ากับเวลาที่เรียกได้ว่าแทบจะไม่เหลือแล้วทำให้เขาจำต้องเอ่ยปากออกไป

“ ฉันไปเอาให้ นายอยู่ทำงานไปเถอะ”        ชีวิตยังเคยคิดจะยกให้เด็กนี่ได้ นับประสาอะไรกับอีแค่ต้องไปทำเรื่องน่ารำคาญพรรณนั้น.....แต่สาบานได้ว่าเขาไม่เคยทำเพื่อใครขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ.....ไว้ส่งงานเสร็จเมื่อไหร่จะเอาคืนให้ลุกไม่ขึ้นเลยคอยดู





แล้วหัวหน้าทหารรีไว.....ก็ต้องมาเดินหอบกระดาษม้วนใหญ่อยู่บนถนนที่ผู้คนจอแจ.....

นัยน์ตาเหลือบมองแผนที่ในมือ เพราะไม่ใช่ว่าจะแค่ไปเอากระดาษแล้วจะกลับได้....แต่เขายังต้องเอาไอ้กระดาษม้วนใหญ่นี่ไปตัดให้หน้ากว้างมันใส่เข้าไปในปริ๊นท์เตอร์ได้อีกด้วย

โรงพิมพ์เป้าหมายถูกหาเจอในที่สุด....ม้วนกระดาษถูกยื่นไปให้ตัดตามขนาดที่จดมา....ทำไมวิชาชีพของเจ้าเด็กนั่นมันถึงได้ยุ่งยากวุ่นวายขนาดนี้!

ถึงจะมีดีอยู่อย่างก็ตรงที่ทำให้เราสองคนได้เจอกันก็เถอะ!


และในขณะที่กำลังยืนรอตัดกระดาษ....ร้านสะดวกซื้อฝั่งตรงข้ามก็ทำให้เขานึกขึ้นมาได้ว่า กาแฟกระป๋องที่เจ้าเด็กนั่นดื่มอยู่มันเพิ่งจะหมดไป

ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อว่าหัวหน้าทหารรีไวจะมายืนเลือกไอ้ของพรรณนี้เพื่อใครสักคน

มันเรียกว่าอะไรนะ?

.....เอาใจใส่.....อย่างนั้นใช่หรือเปล่า?


กาแฟกระป๋องยี่ห้อคุ้นตาถูกหยิบออกมายกโหล แต่ยังไม่ทันจะได้ไปจ่ายเงินเสียงโทรศัพท์ที่เด็กนั่นบังคับให้เขาพกเอาไว้ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

“ มีอะไร?”       และก็คงจะมีอยู่คนเดียวนั่นแหละที่จะโทรมา

“ หัวหน้า! ฝากซื้อกาวกับใบมีดด้วยครับ!”       คราวนี้มีคิ้วกระตุกกันไปข้าง.....ทำไมไอ้เด็กเหลือขอนี่ไม่รู้จักเตรียมของเอาไว้ให้มันพอใช้เนี่ย?! ใจนึกอยากจะด่ากลับไปแต่ตอนนี้ก็ทำได้แค่พูดว่า

“ จะเอาอะไรอีกรึเปล่า?”






สองแขนหอบของพะรุงพะรังเข้าไปในห้อง ได้ยินเสียงสเปรย์ฉีดอยู่ที่ระเบียง

เขาถือกาแฟกระป๋องกระป๋องหนึ่งเข้าไปหาใบหน้าที่ดูเบลอๆแต่ก็ยังมีสมาธิอยู่กับงาน ในสายตาของเด็กนั่น ณ เวลานี้คงมองไม่เห็นอะไรนอกจากกระดาษและแบบที่อยู่ในหัว พอความเย็นของกระป๋องแนบเข้าไปที่แก้ม นัยน์ตาสีมรกตจึงเบิกขึ้นน้อยๆ

“ หัวหน้า.....”       แต่แทนที่จะรับกาแฟไป ใบหน้ามนกลับหลับพริ้มราวกับลูกหมาอยู่แบบนั้น

“ ทำเลอะอีกแล้วนะไอ้เด็กเหลือขอนี่”       เขากลิ้งกระป๋องไปมากับแก้มใสด้วยความหมั่นไส้ ให้เด็กนั่นหัวเราะออกมาเบาๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงประเคนท่อนขาให้ไปแล้ว



คืนนั้นทั้งคืนร่างโปร่งบางก็วิ่งวุ่นระหว่างปริ๊นท์เตอร์กับโต๊ะตัดโมเดล  ยิ่งฟ้าใกล้สว่างมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรับรู้ได้ถึงความร้อนลนของเอเลน


จนกระทั่งชิ้นส่วนสุดท้ายถูกแปะลงไปในโมเดล....ร่างโปร่งบางก็ทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรง

“ เสร็จแล้วหรอ?”        เขายื่นแก้วนมอุ่นๆไปให้ ตอนนี้ฟ้าข้างนอกสว่างใสเพราะใกล้จะแปดโมงเต็มที

“ พอแล้วครับ....”       พูดแบบนี้แปลว่าไม่ถึงกับเสร็จดี? แต่เท่าที่ดูเขาก็รู้สึกว่ามันน่าจะใช้ได้แล้วแหละนะ.....อย่างน้อยบันไดที่เขาทำไว้มันก็ถูกใช้จนครบ

“ ต้องไปส่งกี่โมง?”        เขาถามคนที่ดื่มนมด้วยสภาพไร้สติ ตอนนี้ไม่ว่ายื่นอะไรไปต่อให้เป็นของที่ไม่ชอบขนาดไหน เจ้าเด็กนั่นก็คงกินมันเข้าไปโดยไม่รู้ตัวแน่ๆ

“ เก้าโมงครับ....วันนี้แค่ส่ง....พรุ่งนี้จูลี่”       ริมฝีปากสีระเรื่อนั่นจะพึมพำอะไรออกมาก็ไม่รู้ละ แต่ว่าตอนนี้นัยน์ตาสีมรกตมันใกล้จะปิดลงเต็มที ราวกับว่าพอทำงานเสร็จก็โล่งอกจนสติและสมาธิที่ลงกับงานมานานจู่ๆมันก็ถูกปิดสวิตซ์

ร่างโปร่งบางโงนเงนก่อนจะล้มลงจนเขาขยับไปรับแทบไม่ทัน

“ เฮ้ย เอเลน......เอเลน!”       มือตบเบาๆลงไปบนแก้มใส นัยน์ตาที่กำลังจะปิดลงจึงฝืนเปิดขึ้นมาอีก

“ ไปส่งงานก่อน อย่าเพิ่งหลับ”      เขาลากร่างโปร่งเข้าไปยัดเอาไว้ในห้องน้ำ มือจับแปรงสีฟันมาทายาสีฟันแล้วยื่นไปให้

“ อย่างน้อยก็แปรงฟันซะ”        จะว่าไปเจ้าเด็กนี่ไม่ได้อาบน้ำมากี่วันแล้วนะ? ล่าสุดเขาจำได้ว่าเพิ่งจับอาบไปเมื่อสองวันก่อน?

ร่างโปร่งเดินโซเซออกมาจากห้องน้ำอีกทีโดยมีเพียงกางเกงยีนส์ตัวเดียวที่ถูกสวมอยู่ เสื้อเชิ้ตถูกลากมากับพื้น ก่อนที่เจ้าเด็กนั่นจะมายืนนิ่งอยู่แบบนั้น

" โฮ่ย เอเลน!"       ดูเหมือนจะเบลอจนจำไม่ได้แล้วว่าต่อไปตัวเองจะต้องทำอะไร

" ใส่เสื้อซักทีสิ เดี๋ยวก็ไปไม่ทันหรอก"

" ครับ......."       แต่มือก็ยังไม่ยอมขยับไปจากกระดุมเม็ดแรก จนคนมองเริ่มทนไม่ไหว มือแข็งแรงดึงกระชับสาบเสื้อของร่างโปร่งบางเข้าหากันก่อนจะติดกระดุมให้ไล่ลงไปเรื่อยๆ

สายตาไล่มองขอบกางเกงยีนส์ที่เอวบางก่อนจะถามออกไปด้วยความสงสัย

" ใส่ชั้นในหรือยัง?"     

" ครับ....."       เสียงลอยๆที่ตอบกลับมายิ่งไม่น่าไว้ใจ มือแข็งแรงจึงล้วงลงไปที่บั้นท้ายก่อนจะพบว่าใส่แล้วอย่างที่ว่าจริงๆ

" หะ หัวหน้า?!"       ปกติจะต้องมีรีแอคชั่นมากกว่านี้ แต่เจ้าเด็กนี่ก็เพียงมองเขาด้วยสีหน้าเบลอๆ



สติที่แทบไม่มีเหลือแบบนี้คงปล่อยให้ขับรถไปเองไม่ได้แน่



ถึงจะรำคาญแต่มือก็คว้ากุญแจรถในมือของคนที่ยังยืนเหม่อขึ้นมา ก่อนจะยกโมเดลข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างหนึ่งก็ลากร่างโปร่งบางให้เดินมาด้วยกัน

แล้วหัวหน้าทหารรีไว.....ก็ต้องเป็นคนขับรถไปส่งเด็กนั่นจนได้




“ เอเลน”        

“ เอเลน!”        เสียงทุ้มเอ่ยเรียกคนที่ยังหลับเป็นตายอยู่บนเบาะข้างๆ กว่านัยน์ตาสีมรกตจะเปิดขึ้นมาเขาก็ต้องเขย่าจนหัวแทบหลุด

“ หัวหน้า?”

“ ตื่นไปส่งงานได้แล้ว! แล้วก็ถ้าเสร็จแล้วก็โทรมา เดี๋ยวชั้นมารับ”     ใบหน้ามนพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะเดินลอยๆลงจากรถไป






แต่รอเท่าไหร่ เจ้าเด็กนั่นมันก็ไม่โทรมาสักที.....

และไม่ว่าจะโทรไปกี่รอบก็ไม่รับเสียด้วยนะ

เขาเริ่มเดินหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ในห้อง...ไหนว่าวันนี้แค่ส่งงานไม่ใช่หรือไง? แล้วสภาพแบบนั้นก็ไม่น่าจะไปไหนได้?

ต่อให้จะผ่านไปพันปี แต่นิสัยใจร้อนของคนเราก็ใช่ว่าจะแก้กันได้ง่ายๆ

แล้วหัวหน้าทหารรีไว.....ก็คว้ากุญแจรถออกไปอีกรอบจนได้







ร่างแข็งแกร่งตัดสินใจบุกขึ้นไปบนตึกคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์

นัยน์ตากวาดมองรอบข้างด้วยคิ้วที่กระตุกเข้าหากัน สองมือรู้สึกคันยิบๆขึ้นมา ใบหน้านิ่งที่เหมือนอยากจะกระทืบคนทำให้บรรดาสิ่งมีชีวิตที่เดินเหมือนวิญญาณสวนไปสวนมาต่างไม่มีใครกล้าทัก

ที่นี่มันอะไรกันเนี่ย.....

เขานึกว่าสภาพดูไม่ได้แบบนี้มันจะมีอยู่แต่ในห้องของเด็กนั่นคนเดียวเสียอีก

“ นี่....เห็นเอเลน เยเกอร์ บ้างไหม?”       เขาคว้าคอของคนที่เดินสวนมาก่อนจะถามออกไปด้วยใบหน้าหงุดหงิด ปกติก็น่ากลัวอยู่แล้ว ยิ่งต่อมรักความสะอาดของเขาทำงานขึ้นมาเมื่อไหร่มันก็ยิ่งทำให้ดูน่ากลัวขึ้นอีกหลายเท่า จนเด็กหนุ่มผู้น่าสงสารคนนั้นได้แต่ตอบกลับมาด้วยท่าทางละล่ำละลัก

“ นะ น่าจะอยู่ที่สตูปีสี่ เอ่อ  ซ้ายมือนั่น”       ดูท่าทางจะเป็นที่รู้จักไม่น้อยเลยนะเจ้าเด็กนั่น....คนที่เขาคว้าคอเสื้อเอาไว้ถึงได้ตอบกลับมาทันทีแบบแทบจะไม่ต้องคิด....เป็นที่รู้จักของใครๆ.....มาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว เอเลนของเขา

เขาปล่อยคอหมอนั่นก่อนจะจ้ำอ้าวไปหาประตูที่ว่า

และเมื่อภาพตรงหน้าปรากฏแก่สายตา ใบหน้าก็ต้องถึงกับอึ้งค้างไป.....

ไอ้ความสกปรกรกรุงรังน่ะเขาทำใจเอาไว้แล้วว่าคงต้องเจอแน่ๆ แต่สิ่งที่เขาไม่คิดว่าจะเจอนั่นก็คือ.....ซากศพที่นอนตายกันเกลื่อนพื้นห้องแบบนี้!

จะว่าไปก็ไม่ได้มีแต่ที่พื้นหรอก เพราะทั้งบนเก้าอี้ บนโต๊ะ หรือแม้แต่ล็อคเกอร์ที่ล้มลงมาก็มีร่างของคนนอนอยู่ ถึงจะสงสัยอยู่หน่อยๆก็เถอะว่าไอ้ที่นอนหมอนมุ้งที่บางคนก็ปูนอนอยู่นั่นมันคือของใช้จำเป็นที่ต้องขนมาไว้ที่คณะด้วยหรือยังไงกัน?


หลังจากยืนอึ้งอยู่พักใหญ่ก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงติดต่อเอเลนไม่ได้....เจ้าเด็กนั่นก็คงจะเป็นหนึ่งในศพที่นอนตายอยู่ในห้องนี้สินะ....

เขาค่อยๆเดินข้ามสิ่งกีดขวางเข้าไปโดยพยายามไม่เฉียดเข้าไปใกล้กองอะไรต่อมิอะไรที่ดูท่าว่าจะล้มโครมลงมาได้ง่ายๆพวกนั้น

นัยน์ตาสีขี้เถ้ากวาดมองหาร่างโปร่งบางเป้าหมายของเขา.....เจ้าเด็กนั่นไปนอนอยู่ตรงไหนกัน?

ถึงแม้จะเป็นห้องโถงกว้างที่มีแต่โต๊ะเขียนแบบวางระเกะระกะ แต่มันก็ไม่ถึงกับจะใหญ่โตอะไรให้เขาต้องใช้เวลาตามหานานนัก เพราะในที่สุดเขาก็มองเห็นร่างที่คุ้นตากำลังหลับเป็นตายอยู่ตรงหน้า

แล้วก็เหมือนจะได้ยินเสียงเส้นเลือดที่ขมับขาดดังผึง

เพราะถ้าจะนอนธรรมดาๆมันก็คงไม่กระตุกต่อมโมโหของเขาเท่าไหร่....แต่นี่....


ร่างโปร่งบางของ เอเลน เยเกอร์ นอนหันข้างโดยที่ข้างหลังถูกประกบด้วยร่างสูงใหญ่หัวสีทองส่วนข้างหน้าก็เป็นร่างเล็กๆของเจ้าเด็กที่เป็นเพื่อนสนิท....แล้วมือของทั้งคู่ก็วางอยู่บนเอวของเอเลน....ยิ่งไอ้คนข้างหลังมันแทบจะสอดมือเข้าไปใต้เสื้อที่เลิกขึ้นมานั่นอยู่แล้ว!


คิ้วกระตุกถี่ขึ้นมาทันที ฝ่าเท้าเขี่ยอีกสองคนออกไปจากคนของเขา ก่อนที่จะหิ้วร่างโปร่งบางขึ้นมาพาดบ่า โดยที่ใบหน้ามนเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัว

หลับจนใครลากไปข่มขื่นก็ไม่รู้เรื่องแบบนี้มันน่าสั่งสอนให้รู้สำนึกนัก!


แล้วหัวหน้าทหารรีไว.....ก็บุกเข้ามาแบกศพศพหนึ่งออกไป โดยตัดหน้ามิคาสะไปแค่นาทีเดียว







ต้องลงโทษ....

แบบนี้มันต้องลงโทษสถานหนัก!







ร่างโปร่งบางที่พาดอยู่บนไหล่ถูกโยนลงไปบนเตียง

เสียงอืออาพึมพำออกมาเล็กน้อยก่อนที่เจ้าตัวดีจะซุกหน้าลงไปบนหมอน นัยน์ตาสีมรกตยังคงหลับพริ้มต่อไปอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว

เขาได้แต่ก้าวคร่อมร่างที่ยังแน่นิ่งนั้นเอาไว้แล้วมองลงไปจากมุมสูง


ก็รู้อยู่หรอกว่าไม่ใช่ความผิดของเด็กนี่....เพราะเท่าที่เคยฟังเอเลนเล่ามา รู้สึกว่าการใช้ชีวิตกินนอนด้วยกันแบบนี้มันจะมีมาตั้งแต่ปีแรกที่เข้าเรียน แล้วไอ้สภาพศพเกลื่อนกลาดอย่างที่เขาไปเห็นมาในวันนี้ก็ยืนยันได้เป็นอย่างดี  ว่าเจ้าเด็กพวกนี้ไม่มีใครถือ เรื่องที่ว่าจะต้องนอนรวมกัน เพราะขอแค่ให้ได้นอนเท่านั้นแหละที่มันสำคัญกว่า

ก็รู้อยู่หรอก....ว่าไม่ใช่ความผิดของเด็กนี่....แต่เขาก็แค่หงุดหงิดที่เอเลนไม่ค่อยจะระวังตัว....ปล่อยให้ใครต่อใครมาตอดมาแทะเอาได้ง่ายๆ

เพราะเป็นผู้ชายเลยไม่คิดว่าจะมีใครคิดอะไรเกินเลยกับตัวเองเกินเพื่อน?


ไม่คิดอะไร....ไม่คิดว่าใครจะสนใจ....ไม่คิดว่าตัวเองสำคัญ....นอกจากนั้นยังไม่เคยรู้ตัว....ว่าตัวเองมีคนรักที่ขี้หึงมาก!



หึ....ต้องลงโทษ.....แบบนี้มันต้องลงโทษ...


มือปลดเสื้อผ้าที่เขาเป็นคนสวมให้ออกไป ก่อนจะควานหาเจลหล่อลื่นในลิ้นชักหัวเตียงเพื่อใช้มันชะโลมที่นิ้วก่อนจะสอดใส่เข้าไปในร่างกายของคนที่ยังไร้สติ

คิ้วเรียวขมวดมุ่นแต่นัยน์ตาสีมรกตก็ง่วงงุนเกินกว่าที่จะเปิดขึ้นมา จนกระทั่งเรียวขาถูกแยกก่อนจากกัน...

“ อื้อ?!!!”       ร่างโปร่งบางสะดุ้งเฮือก สองแขนไขว่คว้าหาหลักยึดก่อนที่จะมาเจอคอของเขา มันจึงกอดเอาไว้แน่น นัยน์ตาสีมรกตเปิดขึ้นมาทันทีพร้อมกับน้ำตาปริ่ม

เมื่อจู่ๆเขาก็สอดแทรกความเป็นชายเข้าไปรวดเดียว

“ ดูเหมือนใช้วิธีนี้ปลุกจะได้ผลนะ?”       เสียงทุ้มเอ่ยหยอกเย้าทั้งๆที่ลมหายใจเริ่มจะติดขัด

“ หัวหน้า....”       เสียงเหนื่อยอ่อนเอ่ยออกมาแผ่วเบา  นัยน์ตาที่เพิ่งเปิดขึ้นมานั้นมันยังคงเหม่อน้อยๆ สติที่เลื่อนลอยทำให้ใบหน้ามนดูเซ็กซี่อย่างที่เขาคาดไม่ถึง

ลำคอลอบกลืนน้ำลายไปกับใบหน้าทรมานที่ซบลงมาที่ไหล่ ร่างกายสั่นระริกนี่ก็ยิ่งเร้าอารมณ์.....แล้วก็คงเป็นเพราะเหนื่อยเกินไป เพราะฉะนั้นไม่ว่าเขาจะให้ทำอะไรร่างโปร่งบางจึงไม่มีขัดขืน

ท่อนแขนแข็งแรงพลิกร่างโปร่งบางให้ขึ้นมานั่งคร่อมอยู่ยนหน้าตักทั้งๆที่แกนกายของเขายังคงคาอยู่ในช่องทางคับแน่น ใบหน้ามนยู่ยี่เล็กน้อยก่อนจะปล่อยเสียงคางออกมาโดยที่ไม่รู้ตัวเมื่อเขาจับสะโพกมนกดลงรับความเป็นชายให้ลึกเข้าไปอีก

ใบหน้าขยับเข้าไปคลอเคลียที่ซอกคอระหงก่อนจะกัดลงไปให้เห็นรอยฟันอย่างชัดเจน ลิ้นร้อนแล่บเลียเลือดที่ไหลซิบออกมาก่อนจะละมามองผลงานของตัวเองด้วยความพอใจ

รอยกัดเอาแค่รอยเดียวก็พอ ส่วนที่เหลือ.....

ริมฝีปากกดจูบจนขึ้นสีแดง คิสมาร์คถูกฝากเอาไว้ทั่วคอของเอเลน.....เอาให้เห็นมันทุกด้านเลย!


ฝ่ามือค่อยๆลูบไล้ไปเรื่อยๆก่อนจะจับยึดบั้นท้ายกระชับให้ขยับตัวยกขึ้นก่อนจะกดลงมาอีก เสียงครางดังขึ้นมาทันทีพร้อมๆกับใบหน้าเร้าอารมณ์ของเด็กนั่นที่ในยามนี้ไม่มีปิดบังด้วยความที่สติไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัว

“ ขยับเองสิ เอเลน.....ทำด้วยตัวของนายเอง”      เขากระซิบไปที่ใบหูแดงระเรื่อของคนที่นั่งอยู่บนหน้าตัก ถ้าเป็นปกติเด็กนี่คงอิดออดจนเป็นเขาที่หมดความอดทนไปเอง

“ อึก....อ่า.....”        แต่เพราะไม่มีสติทำให้ฝ่ามือบางจับยึดไหล่ของเขาเอาไว้ก่อนจะขยับตัวตามที่เขาชักนำ

ทั้งใบหน้าเหม่อน้อยๆกับดวงตาเลื่อยลอยที่ดูสุขสม ทั้งริมฝีปากที่เผยออ้าปล่อยเสียงครางออกมา ทั้งเหงื่อที่เกาะพราวทั่วใบหน้าและลำตัว ทั้งร่างกายที่ขยับขึ้นลงไปตามอารมณ์และความต้องการที่พุ่งสูงขึ้น ทั้งช่องทางคับแน่นที่โอบรัดรวมทั้งยินยอมให้เขาฝังเข้าไปจนลึกกว่าทุกที ผนังภายในที่อ่อนนุ่มและร้อมลุ่ม.....ทุกอย่างของเด็กนั่นมันกำลังทำให้เขาคลั่ง!!

คลั่งจนชักไม่แน่ใจว่าตกลงใครเป็นฝ่ายลงโทษใครอยู่กันแน่!


เสียงครางสูงดังขึ้นมาเมื่อร่างโปร่งบางกดตัวลงเป็นครั้งสุดท้าย ความอุ่นวาบฉีดพุ่งเข้าไปในร่างกายที่รอรับอยู่ทันที  ใบหน้าเหม่อๆขยับเข้ามาหาพร้อมด้วยปลายลิ้นที่แล่บเลียริมฝีปากของเขาเหมือนลูกหมา 

เขากดต้นคอระหงเข้ามาก่อนจะเป็นฝ่ายสอดลิ้นเข้าไปในปากของเจ้าเด็กตรงหน้า ลมหายใจที่ยังไม่ทันจะเข้าที่เลยยิ่งหอบถี่หนักกว่าเดิม....หึ...คราวหลังก็อย่ามายั่วกันแบบนี้

ร่างโปร่งแทบจะหงายหลังไปทันทีที่ละริมฝีปากออกมา เขาประคองร่างกายที่เหนื่อยล้าจนสลบไปให้นอนลงดีๆ ก่อนจะล้มตัวนอนลงเคียงข้าง

ฝ่ามือเกลี่ยไล้ใบหน้าที่รักแสนรักพรางจ้องมองแพขนตาของดวงตาที่หลับพริ้ม

ร่องรอยที่ต้นคอนั่นคงจะเพียงพอที่จะป้องกันใครต่อใครไม่ให้เข้ามาใกล้เด็กนี่ได้

ไม่น่าเชื่อเลยนะ....ว่าผ่านมาตั้งพันกว่าปี....เขายังต้องคอยมาทำเรื่องแบบนี้ให้ไอ้เจ้าเด็กที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องรู้ราวนี่เหมือนเดิม

ริมฝีปากเผลอยิ้มออกมาอย่างที่หาดูได้ยาก  ดวงตายังคงจ้องมองอยู่ที่ใบหน้าของคนเพียงคนเดียวที่จะสะท้อนเข้ามาในดวงตาของเขา ก่อนจะขยับไปจูบที่ขมับอย่างแผ่วเบา


“ ต้องให้คอยดูแลอยู่เรื่อยเลยนะ...ไอ้เด็กเหลือขอนี่.....”








.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


FIN






แถม.....




ไอ้สายตาแปลกๆที่มองมานี่มันอะไรกันนะ?

เอเลน เยเกอร์ นักศึกษาปีที่สี่ของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ กำลังเดินไปตึกคณะด้วยความรู้สึกเย็นที่แผ่นหลังชอบกล

ก็รู้อยู่หรอกว่าถูกมองมาตั้งแต่อนุบาล แต่วันนี้นอกจากมองแล้วมันยังมีรีแอคชั่นแปลกๆตามมาให้ขนแขนลุกชันยังไงไม่รู้อยู่ด้วยนี่สิ

หัวสมองพยายามนึกทบทวนว่าตั้งแต่ตื่นขึ้นมามันก็ไม่น่าจะมีอะไรผิดปกติกับตัวเขา?  ถึงจะไม่รู้ก็เถอะว่าเมื่อวานเขากลับถึงบ้านได้ยังไง แต่วันนี้หัวหน้ารีไวก็ปลุกให้เขาตื่นขึ้นมาตามเวลาปกติ

พิษจากวันส่งโปรเจคยังคงเล่นงานให้หัวมึนเบลอ เพราะงั้นหัวหน้ารีไวจึงเป็นคนจับเขาแต่งตัวแล้วหิ้วมาส่งที่หน้ามหาวิทยาลัยให้

แล้วต่อให้เขาก้มลงไปสำรวจตัวเองแค่ไหน มันก็ยังไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติ?

สองขาเดินผ่านหน้าคณะโบราณคดีเป็นที่แรก....แล้วก็ไม่ต้องแปลกใจถ้าจะเจอเจ้าแจนซึ่งสองแขนมักเต็มไปด้วยหนังสือเล่มใหญ่

“ ว่าไงไอ้เจ้าผีดิบ....วันนี้โผล่จากหลุมแต่เช้าเชียวนะ มีจูลี่หรอ?”        น้ำเสียงกวนประสาทเอ่ยออกมาทำให้ใบหน้าเขาบูดสนิท นึกอยากจะตวัดเตะท่อนขามันให้หนังสือร่วงกราวลงมาจริงๆ

“ เออ!!”       เขาตอบกลับไปด้วยใบหน้ากระฟัดกระเฟียด สองขาตั้งใจจะเดินหนีไปเพราะไม่อยากประทุษร้ายใคร ทว่า นัยน์ตาที่เบิกกว้างของเจ้าแจนที่มองมาที่เขาราวกับเห็นผีก็มีแต่จะทำให้เขาชะงักไปด้วย

“ อะ เอเลน.........”        นอกจากเสียงจะสั่นพร่าแล้วสองแขนที่หอบหนังสืออยู่ยังสั่นระริก แล้วมันก็ปล่อยให้หนังสือร่วงผล็อยลงมาทั้งๆที่เขายังไม่ได้เตะขามันเลยสักที

“ อะไรฟ๊ะ? จะหาเรื่องหรอแจน?!”      เขาขยับเข้าไปหาด้วยท่าทางที่ไม่มีกลัวเกรง.....แต่แทนที่แจนจะเข้ามาคว้าคอเสื้อของเขาอย่างทุกที ร่างสูงยาวกลับผงะถอยหลังอย่างหวาดกลัวคอเสื้อของเขา

“ กะ แก๊!! คิดว่าตอกย้ำแผลใจของคนอื่นเค้าได้แล้วจะชนะใช่ไหมวะ?! จำเอาไว้เลยนะไอ้เด็กขี้อิจฉา!!”       แล้วร่างสูงยาวนั่นก็วิ่งหนีไป  ทิ้งให้เขายืนอึ้งอย่างไม่เข้าใจเลยซักกะนิดกับสิ่งที่ไอ้บ้านั่นมันคิดอยู่แล้วก็พูดออกมา

อะไรของมันวะ?  พูดอะไรไม่เคยจะรู้เรื่อง?





สองขายังคงเดินต่อไป และคราวนี้ก็กำลังจะผ่านหน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์

แน่นอนว่าคนที่ไวต่อกลิ่นของเขายิ่งกว่าใครจนวิ่งลงมาดักเขาได้ทุกครั้งอย่างมิคาสะ คงจะส่งเสียงทักมาแน่ๆ

“ เอเลน”       นั่นไง...ว่าเอาไว้ไม่มีผิด....

เด็กสาวเดินออกมาจากตึกคณะก่อนจะมองมาที่เขาด้วยสายตาปลาบปลื้มเป็นปกติ ทว่า.....เมื่อสายตาที่มักจะจ้องมองเขาทุกกระเบียดนิ้วไล่กวาดมาตั้งแต่หัวจรดลำคอ ใบหน้าสวยนั่นก็ถึงกับตะลึงอึ้งค้างไป  รังสีดำทะมึนโชยหิ่งออกมาจากใบหน้าของเด็กสาวทำเอาเขาถึงกับผวา

แล้วสองขาของมิคาสะก็เดินดุ่มๆเข้าไปหากำแพงตึก


โครม!!!!


ก่อนที่หมัดหลุนๆจะซัดเข้าไปจนอิฐร่วงกราวลงมา

เขาได้แต่มองเด็กสาวที่พึมพำๆว่า....ไอ้เตี้ยๆ.....อะไรสักอย่างด้วยปากอ้าค้างกับขนลุกชัน

ถึงอยากจะถามเด็กสาวว่าเป็นอะไรหรือเปล่า แต่ดูท่าว่าเขาไม่ควรจะยื่นขาเข้าไปสอดตอนนี้ยังไงก็ไม่รู้

“ ชะ ชั้นไปจูลี่ก่อนนะ มิคาสะ?”       เขาเอ่ยบอกเบาๆก่อนจะเลี่ยงออกมา





จนแล้วจนรอดสองขาก็พาร่างกายของตัวเองมาถึงตึกคณะสถาปัตย์จนได้....

สองคนนั้นเป็นอะไรกันนะ....?


“ เอเลน! มาพอดีเลย มาถ่ายรูปคู่กับโปรเจคนายหน่อยสิ”      เสียงของไรเนอร์เรียกเขาให้เดินงงๆเข้าไปหา

“ อะไร? นายจะถ่ายงานก็ถ่ายไปสิ ต้องมีรูปชั้นด้วยหรอ?”     

“ จะได้รู้ว่าใครเป็นคนทำไงเล่า”       เขาพยักหน้าหงึกงักอย่างไม่ได้คิดอะไร ก่อนจะไปยืนนิ่งๆอยู่ข้างๆโมเดล

ทว่า...เลนส์กล้องที่ส่องมายังใบหน้าของเขามันก็ถึงกับนิ่งค้างไปเช่นเดียวกับดวงตาที่อยู่หลังเลนส์ จู่ๆร่างสูงใหญ่ผมทองก็ชะงักกับภาพที่เห็นผ่านเลนส์  แล้วท่าทางสลดหดหู่จนไหล่ตกลู่ก็เกิดขึ้นมาทันที ก่อนที่ไรเนอร์จะหันกล้องหนีไปจากตัวเขาแล้วก้มลงถ่ายแต่โมเดลราวกับคนอกหัก

เสียง แชะแชะ ดังเป็นจังหวะที่เชื่องช้าจนฟังดูน่าสงสารยังไงก็ไม่รู้

จู่ๆก็เป็นอะไรไปน่ะ?

แต่ยังไม่ทันจะได้ถาม เสียงของอาจารย์ที่ปรึกษาก็เรียกเขาให้เข้าไปในห้อง

“ เอเลน....จูลี่คนแรกนะ เตรียมตัวรึยัง?”       ร่างสูงใหญ่ส่งยิ้มใจดีมาให้

“ ครับ! อาจารย์เอลวิน”      เขาได้แต่ยิ้มรับให้กับความใจดีของอาจารย์ที่ปรึกษาคนนี้....ถึงจะเข้มงวดอยู่บ้างแต่ความใจเย็นของคนตรงหน้าก็ทำให้โปรเจคของเขาผ่านมาด้วยดีตลอด....เรียกว่าเป็นอาจารย์ที่ฮ็อตในหมู่นักศึกษาทีเดียวเชียวละ เพราะไม่ว่าใครก็อยากจะได้มาเป็นที่ปรึกษา

นี่เขายังคิดอยู่เลยนะว่า....วิทยานิพนธ์ที่ต้องทำในปีหน้า ถ้าได้อาจารย์คนนี้มาเป็นที่ปรึกษาให้ก็คงดี

เขาออกไปยืนอยู่หน้าห้อง.....การจูลี่ก็คือการพรีเซ็นต์แบบพร้อมกับตอบคำถามของอาจารย์ในกลุ่มที่จะรุมถามเขาเกี่ยวกับโปรเจคที่ทำมา แล้วก็ให้คะแนน ความน่ากลัวของมันก็อยู่ตรงที่ต้องคอยตอบคำถามของอาจารย์ 5 คนนี่แหละ

แต่ดูเหมือนการจูลี่ของเขาในวันนี้จะผ่านไปด้วยดีเกินคาด จะมีแปลกๆหน่อยก็ตรงที่อาจารย์หลายท่านหน้าแดงระเรื่อเหมือนจะเป็นไข้ขึ้นมาพร้อมๆกัน?


มันแปลกจริงๆด้วยแหละ....สายตาที่มองมาที่เขาในวันนี้?


สองขาก้าวเดินไปตามระเบียงหน้าห้องเรียนด้วยความครุ่นคิด  ประตูห้องตรงหน้าเปิดออกมาพร้อมด้วยเงาร่างที่คุ้นตาของอาร์มิน

“ อ้าวเอเลน จูลี่เสร็จแล้วหรอ? ไปหาไรกินกันไหม?”      เพราะอยู่คนละกลุ่มเลยจูลี่แยกกัน เขาพยักหน้าให้ก่อนที่จะเงยขึ้นมาเห็นใบหน้าที่ตกตะลึงของอาร์มิน

อีกแล้วหรอ?  มันมีอะไรติดอยู่ที่หน้าเขาหรือไง? แล้วคราวนี้คงต้องถามให้รู้เรื่อง!

“ อาร์มิน! บอกชั้นมาซิ ว่ามันมีอะไรติดอยู่ที่หน้าของชั้นหรือไง? ทำไมใครๆก็มองกันแปลกๆ?!”      เขาถามใบหน้าที่ยังอึ้งด้วยสายตาจริงจัง  ใบหน้าที่ล้อมกรอบไปด้วยผมสีทองยิ้มแหยๆก่อนจะส่ายหน้าไปมา

“ มันไม่ได้ติดอยู่ที่หน้าของนายหรอก....แต่มันติดอยู่ที่ “คอ” น่ะเอเลน”      ถ้อยคำเน้นย้ำทำให้เขาได้แต่งงงวย....


และเมื่อพาร่างกายของตัวเองไปส่องกระจกในห้องน้ำให้ความสงสัยมันหายไป


ริมฝีปากของเขาก็ต้องอ้าค้างยิ่งกว่าใครๆที่ได้เจอมา


อะ ไอ้รอยพวกนี้นี่มันอะไรกันเนี่ย?!!!


และไม่ว่าจะหันไปมองมุมไหน ก็เห็นรอยคิสมาร์คได้จากทุกด้านของคอ........


ใบหน้าถึงกับร้อนผ่าวขึ้นมาทันที....รู้สึกอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี เมื่อคิดว่าใครๆต่างก็คงเห็นรอยพวกนี้ไปกันหมดแล้วแน่ๆ


และไอ้คนที่จะทำแบบนี้ได้......คงไม่ใช่ใครที่ไหน



เสียงตะโกนโวยวายยังคงดังอยู่ในห้องน้ำไปอีกพักใหญ่   โดยที่คนกระทำได้แต่นั่งกระดิกขาสบายใจอยู่ในคอนโด….



“ อ๊ากกกกกกกก หัวหน้า!!!!!





.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


FIN กว่า







ขะ ขออภัยนะคะถ้าตอนนี้มันจะหลายรอบไปหน่อย(อะไรฟร๊ะ?!!) ฮ่าๆๆ ก็แบบ....ยิ่งเห็นหน้าเอเลน ต่อมหื่นก็เหมือนจะตื่นขึ้นมาไงก็ไม่รู้อ่ะ ทำไมถึงได้รู้สึกว่ามันน่ากระทำชำเรางี้!! เอายัยมี๊ไปเก็บทีหนูก๊ก....

ก็...ไหนๆก็เป็นตอนสุดท้ายของเรื่องฟิคเรื่องนี้แล้วเนอะ ขอหื่นหวานๆทิ้งทวนกันซักหน่อย กร๊ากกกก แต่ถึงจะบอกว่าเป็นตอนสุดท้าย แต่ก็ไม่ได้ท้ายที่สุดอ่ะนะ *w* ยังมี Sugarplum and Tuberose ตอนพิเศษที่จะว่าไปก็เหมือนจะเป็นอีกเรื่องนึงได้สำหรับคนที่ไม่ได้อ่าน ในห้อง...ที่แสงส่องไม่ถึง ค่ะ (ทำไมชอบทำอะไรให้งงอยู่เรื่อยเลยฟ๊ะ) เป็นส่วนขยายของพาร์ทในอดีต ที่จะเล่าถึงจุดเริ่มต้นของความรักกับวิธีการบอกรักของคนปากแข็ง แอร๊ยยยย แค่พูดก็เขิล >////< แต่เรื่องมันอยู่ในพาร์ทอดีตเพราะงั้นมันจะหน่วงทีเดียวค่ะ ^ ^””  ยะ ยังไงก็ฝากติดตามกันอีกหน่อยน้า


และนอกจากนี้.....หลังจากที่ตัดสินใจรวมเล่มเป็นที่แน่นอนแล้ว ตามที่ประกาศอย่างเป็นทางการ(?)ไปใน >>MAD : Attack on Titan [Levi x Eren] พลังทำลายล้างหมายเลข 14(?)


ก็เลยยังมีตอนที่ 11.5 ที่จะอยู่ในรวมเล่มอีกตอนนึงค่ะ จริงๆก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกสำหรับ 11.5 มันก็เป็นตอนเบาๆ สบายๆ เหมือนตอน 11 นี่แหละ ^ ^

แอบแปะว่ามันเกี่ยวกับอะไร...

.
.
.

“ นี่มันคืออะไรน่ะ?”       เสียงทุ้มถามออกมาก่อนที่หน้าหนึ่งในหนังสือนิตยสารถูกวางลงมาตรงหน้า ภาพของรถไฟเหาะในสวนสนุกแห่งหนึ่งเด่นชัดขึ้นมาในสายตา....หรือว่าหัวหน้ารีไวจะสนใจอะไรที่มันเร็วๆ อีกทั้งเจ้ารถไฟเหาะนี่มันยังดิ่งลงมาจากที่สูง....บางทีอาจจะคิดถึงอุปกรณ์เคลื่อนย้ายสามมิติก็เป็นได้

.
.

“ ขอโทษนะครับ.....หัวหน้า...ทั้งๆที่มาถึงนี่แล้วแต่ผมก็ยัง.....”

“ ไม่เป็นไร....จริงๆก็ไม่ได้อยากจะขึ้นไอ้ของเด็กเล่นนั่นนักหรอก”

“ เอ๋?”

ถ้าไม่ได้อยากขึ้นแล้วจะชวนมาสวนสนุกทำไม?..........หรือว่า........!!!!

.
.
.
.


*w*

ตอนนี้กำลังตะบี้ตะบันปั่นไฟลุกกันอยู่เลยค่ะ รวมเล่มนี้5555 คือแบบ...ไม่เคยพายุเข้าขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ....ฟิคเรื่องนี้นี่ พายุตั้งแต่ตอนแต่งยันรวมเล่มเลยจริงๆ ^ ^” แต่งจบภายในเดือนเดียวได้นี่ก็ปาฏิหาริย์แล้วนะ แล้วนี่ยังรวมเล่มเสร็จในทันทีอีกด้วยอ่ะ =[ ]=!! เอเลนดาเมจจจจจจ

แอบแปะอีกหน่อย.....หน้าสารบัญของ ในห้อง...ที่แสงส่องไม่ถึง ค่ะ .....นับวัน...หน้าสารบัญก็จะอ่านยากขึ้นทุกที = =”  เป็นหน้าคู่ 2-3 ในเล่มอ่ะนะ อันนี้ยังไม่ได้ใส่เลขหน้าของตอนพิเศษกับบทส่งท้าย




^ ^” 

ก็ไว้ประกอบการตัดสินใจอ่ะเนอะ แต่ไม่อยากให้คาดหวังกับเล่มนี้มากนักนะคะ 555 ไม่รู้จะมีผิดพลาดเยอะไหม แต่เนื้อเรื่องนี่ส่วนตัวแล้วคิดว่าพลาดอยู่หลายจุดเบย แง๊~~~~ ปัญหาของฟิคที่เป็นไทม์ไลน์มันเป็นแบบนี้นี่เอง ขอโทษค่ะ TT^TT


ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆการติดตามมากๆนะคะ >w< อ่านแล้วกำลังใจพุ่งปรี๊ดมากอ่ะ แอร๊ยยยยย >/////<   แล้วเจอกันตอนหน้าค่า




30 ความคิดเห็น:

  1. มาแว้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
    น่าร้ากอ้า~~~~~~
    ความอดทนเป็นเลิศมากครับ...โดนขัดตั้งหลายทีกว่าจะได้
    มีเอเลนอยุ่ด้วยแล้วมันชวนให้ตะบะแตกจริงๆ
    หัวหน้าขี้หึงจัง....5555 ...ในขณะเดียวกันก็ขี้เป็นห่วงเหมือนกันหุๆๆๆๆๆ
    ในที่สุดก็มาอัพแว้ววว...เข้ามาดูทุกวันเลยนะเนี่ย5555 ..จะร่วมเล่มสินะครับ //ยกมือขอจองด้วยครับ

    อ่านตอนนี้แล้วนึกถึงตอนที่ต้องเรียนที่ช่างศิลปเลย ...ยิ่งกะคอมโพสปี3นี่...เป็นอะไรที่ตันทุกอาทิตย์....ถ้าไม่คนสุดท้ายก่อนส่งนี่ คิดไม่ออกแน่ว่าจะทำอะไร..พรีเซ็นอะไร(บ่งบอกมากเลยเฮ้ย..ไอหมอนี่)
    ยิ่งปลายปีส่งงานสรุป...ทำงานโต้รุ่ง อา ช่างน่าคิดถึงจัง

    อ่านฟิคพี่แล้วมันให้อะไรหลายๆอย่างจริงๆ หึๆๆๆๆๆๆๆ

    ....จะมีรีเอหรือallเอเลนไหม แต่งมาอีกซักกหลายๆเรื่องงี้//โดนพี่กวางถีบ
    จะค่อยติดตามเป็นกำลังใจให้นะเน้~~~~~~~~~~

    ตอบลบ
  2. อร๊ายยยย รอรวมเล่มนะค่ะ > < ในที่สุดก็จบจริงๆ (?) แล้ว ฮา!
    รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก
    อยากให้มีต่ออีกจังเลย แต่งคู่นี้เยอะๆ นะค่ะ (เชียร์!)
    รอรวมเล่ม จะสอยมาแน่ๆ อริ๊วววว
    อ่านแล้วมันฟินนน! เอเลนของเรายังซื่อ(บื้อ)เหมือเดิมไม่เปลี่ยนแปลงแม้จะผ่านมา 1000 ปีแล้วก็ตาม ฮะๆ
    ส่วนหัวหน้าก็ดูเหมือนจะอ่อนโยนขึ้น (รึปล่าวนะ?)

    เปิดจองรวมเล่มเมื่อไหร่บอกกันด้วยนะค่ะ♥

    ตอบลบ
  3. ยังไงก็จะซื้ออยู่ดี =w=;;
    อ่า ต้องการฝ่ายพิสูจน์อักษรมั้ยคะ เท่าที่เห็นยังมีคำผิดอยู่นะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตะ ต้องการค่ะ *จับ*

      กำลังอยากได้คน QC ที่อ่านฟิคเรื่องนี้อยู่พอดีเลยค่ะ (ตัวเองกลับไปอ่านฟิคตัวเองแล้วไม่ค่อยจะรู้เรื่อง =[ ]=!!)

      ถ้ายังไงขอเมล์ได้ไหมคะ? *w*

      ลบ
    2. bloodyoko@gmail.com ค่า
      เฟซ https://www.facebook.com/bloodyoru #อู้เช็คเมล์ประจำ

      ลบ
    3. กรี๊ซซซซ ขอบคุณมากค่า ไว้เดี๋ยวข้าพเจ้าเมล์ไปน้า >w<

      ลบ
  4. อร๊ายยยยยยยยยยยยย

    น่ารักสุดๆอ้ะ

    5555555555

    ชอบรีไวล์จัง เฮียอ่อนโยนขึ้นเป็นกองเลย

    ตอบลบ
  5. แอบตามอ่าน(?)ตั้งแต่ตอนแรกแล้วค่ะแต่ซุ่มอยู่เสียนาน มาถึงตอนนี้ไม่ไหวแล้วค่ะขอกรีดร้อง T^T
    ฮือออ เรื่องนี้พูดถึงในทวิตกันเยอะมากจริงๆค่ะ เราก็ตามมาจากทวิต...
    อ่านเรื่องนี้จบเราเข้าใจเลยค่ะว่าอาการอ่านไปกรี๊ดไปเพ้อไปกรีดร้องไปน้ำตาไหลไปเป็นยังไง
    ก๊าวทั้งน้ำตา ..พัฒนาการความยาซาชี่(?)ของเฮย์โจวทำให้ก๊าวมากค่ะ ถึงตอนแรกๆพี่ท่านจะโหดแต่ยังไงก็ยังอยู่ข้างเอเลนตลอด
    เหมือนแบบเวลาเอเลนเจอปัญหาอะไรถ้ามองไปรอบๆเฮย์โจวก็จะยังยืนอยู่
    รอมาตั้งพันปีนี่เนอะ เราอ่านแล้วหลงรักเฮย์โจวไปเลยค่ะ หนูยอมเป็นเอ็มให้เอสใส่ตามสบาย(?) *เกาะขา*
    ส่วนเอเลนด้วยความไบแอส(?)ส่วนตัว อวยมาก ชอบมาก ยิ่งตอนย้อนอดีตที่ทุกคนไม่ไว้ใจ เอเลนร้องไห้ เราอ่านแล้วอยากเอามีดแทงตัวเองตายไป อึดอัด ท้อตามไปเลยค่ะ
    (ว่าแต่อวยเอเลนแต่พิมพ์ถึงเอเลนหนึ่งบรรทัดถ้วน แงง เราโดนเฮย์โจวในเรื่องเอาใจไปแล้วค่ะ)
    ขอบคุณที่แต่งฟิคดีๆก๊าวๆแบบนี้มานะคะ อ่านแล้วปริ่มทั้งน้ำตาT__T

    ปล.รวมเล่มซื้อแน่นอนเลยค่ะ *กำหมัดแน่นทำหน้ามุ่งมั่น*

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ23 กรกฎาคม 2556 เวลา 08:39

    เปิดจองเมื่อไหร่บอกนะคะ อยากได้มากมาย เพราะคุน waketsu คนเดียวเลย ตอนนี้กลายเป้นว่าติด attack on titan ไปแล้ว

    ตอบลบ
  7. ตามอ่านฟิคนี้มานานเเล้วเเหะๆ^ ^" เพิ่งมาเม้นท์เอาตอน 11 ขออภัยด้วยค่ะOTZ!!!
    สครีมฟิคคุณพี่....สนุก!! ...สนุกอ่า^o^ อ่านไปบิด+เขิน+ปาดน้ำตาไป อ่านเเล้วให้ความรู้สึกอินมากค่ะ-///-
    ตั้งเเต่อ่านตอนเเรกยันตอน 11 รู้สึกหลงเอเลนมาก>///< น่ารักเกิ้นนนนน มีจุดโมเอะเยอะมาก ..เหมือนลูกหมาเดินตามตูดเรียกเฮย์โจวๆน่าจับปล้ำยิ่งนัก=;;= ..ถึงเมื่อพันปีก่อนจะดูซึมเศร้าเเต่ก็น่ารัก//อรั๊ยยยเขิลล ตอน 11 นี่ดูน่าทะนุถนอมขี้อ้อนขึ้นน่าจับปล้ำอีกตามเคย> < เหมือนพยายามจะหลบหลีกจากความหมกมุ่นของเฮย์โจวเเต่ก็หนีไม่พ้น555 แอบชอบตรงยั่วชาวบ้านโดยไม่รู้ตัว.......โดนสามีลงโทษเสียบตอนหลับพริ้ม//??เขิล-///-
    อ่าาาา...เฮย์โจววว อ่านมาสัมผัสได้ถึงความซาดิสต์เเละหมกมุ่น...? ตั้งเเต่พันปีก่อนยันปัจจุบันเลยนะฮัฟ (เเต่ตอน 11 ก็ถนอมเอเลนขึ้นเยอะมากเลยล่ะ^o^...หลงเอเลนอ่ะดิ็หุหุ)
    รวมเล่มรออุดหนุนนะค๊าาา
    ขอคุณที่เเต่งฟิคนี้ขึ้นมานะคะ คนอ่านคนนี้ฟิน(เเละเสียเลือด)มาก ^_____^

    ตอบลบ
  8. รวมเล่มขายเมื่อไหร่บอกด้วยนะคะ ><

    ตอบลบ
  9. กรี๊ดดดดด น่ารักมากๆเลยค่ะ

    ตอบลบ
  10. เอเลนน่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
    ครั้งแรกก็ยังคงเป็นในห้องน้ำ..หัวหน้าติดใจเสียงก้องๆ เป็ยรอบทิศทางเหรอคะ? ฮา
    แต่ฉากไส้แซนวิชนี่.. แหมมมมมม อยากเป็นอาร์มินนนน ไรเนอร์ซบหลัง อาร์มินได้ซุออกเชียวนะะะะ #มโนเองล้วนๆ

    ติดตามมานานแล้วเหมือนกันค่า แต่ไม่ค่อยได้เม้นท์เลย เพระาดูในมือถือ พอจับคอมก็ลืมทีจะเม้นหมดแล้ว ฮือออออออ

    แต่รวมเล่มขอยกมือสูงๆ ว่าเอาด้วยอีกคนค่าาาาาาา

    ตอบลบ
  11. เพิ่งมาตามอ่านค่ะ ;w; โอกกกกกกกกก ขอรวมเล่มด้วยนะคะ

    ตอบลบ
  12. รวมเล่ม รอมานานแล้วค่ะ แง

    ตอนนี้เฮย์โจวหื่นมากมาย ผ่านมาพันปีอย่างไรเฮย์โจวก็ยังเป็นคนเดิม(วอท)

    เฮย์โจวสุดยอดเลยค่ะ ทำคิสมาร์คไว้ที่คอ= =

    ถ้ารวมเล่มแล้วเราจะอุดหนุนนะคะ!!

    ตอบลบ
  13. เอเลนตอนท้ายจะยั่วไปไหนคะ ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
    หัวหน้าก็ดูแลเด็กได้สุดยอดมากค่ะ! อ่อนโยนจนอยากจะเขินแทนเอเลน

    รอเปิดจองรวมเล่มด้วยคนค่ะ!!!

    ตอบลบ
  14. ไม่ระบุชื่อ25 กรกฎาคม 2556 เวลา 09:27

    เลือดท่วมจอ
    ฟินตายตาหลับเลยค่ะตอนนี้
    รอมาตั้งพันปีเลยจัดหนักประกาศศักดากันเลยสินะคะเฮย์โจว

    ตอบลบ
  15. จะบอกว่าเห็นฟิคนี้แว่บๆอยู่ในเฟซแล้วก็ซุ่มอ่านมาซักพักแล้วค่ะแต่พึ่งว่างมาเม้น -.,-
    เป็นอะไรที่ฟหกด่าสวมากค่ะ อ่านแล้วอินมว้ากกก สงสารเอเลนในอดีตมาก รันทดจนน้ำตาจะไหล ไม่สิ... ไหลไปแย้วว T___T
    ส่วนเฮย์โจวก็แบบ... น่ารักอ่ะ -////- ชอบเฮย์โจวตรงที่ถึงแกจะเอสจะโหดยังไง เอเลนก็เป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งเสมอ ยอมทำทุกอย่างเพื่อนางที่รักจริงๆค่ะ กราบเลย อิ___อิ เพราะเฮย์โจวแกอบอุ่นส่วนเอเลนก็โมเอ้ดาเมจกันไม่ยั้งแบบนี้ ถึงบรรยากาศรอบข้างจะชวนหดหู่ยังไงแต่พอสองคนนี้อยู่ด้วยกันแล้วแม้แต่กำแพงยังกลายเป็นสีชมพูเลย 55555
    แล้วก็ๆๆ ชอบตอนพิเศษมากค่ะ ถ่ายทอดชีวิตเด็กถาปัดออกมาได้อินยิ่งกว่าเนื้อเรื่องหลักอีก (ไม่ใช่ละ) ตอนนี้ก็กำลังเรียนถาปัดอยู่เลยค่ะแต่พึ่งปีแรก ถึงยังงั้นก็เริ่มเข้าใจวิถีชีวิตของเด็กคณะนี้ขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ (;____;) เฮย์โจวขราาา อยากได้มาช่วยตัดโมจังเลยอ่ะ ฮ่าาาาาาา

    ตอบลบ
  16. Facebook prim_0678@hotmail.com แปะเฟชไว้เพื่อดีกว่าค่ะเพราะเราไม่ค่อยเช็คเมล์;^;

    ตอบลบ
  17. อ๊ายยยยน่ารักที่สุด เปิดจองเมื่อไหร่คะเนี่ยยย ป.ล.นู๋เป็นคนนึงที่บอกว่าขอจองไว้แต่ไม่ได้ระบุชื่อจากเอนทรี่ที่แล้วนะคะ ><

    ป.ล.2.เห็นฟิคนี้แล้วนึกถึงเพลง a thousand years ของ Christina Perri ขึ้นมาทันใด ฉันรักเธอมาตลอดพันปีงี้ >//<

    ตอบลบ
  18. น่ารักกกกกกกกกก
    น่ารักมากกกกกกกกก มากจริงๆนะคะกวางซามะ~~~ T [ ] T
    โดยเฉพาะเฮย์โจว!!!! คนๆนี้ทำให้เราอ่านที่จบแล้ว ฟินแล้ว
    ต้องวนกลับไปอ่านอีกรอบให้ฟินเพิ่ม(?) > <
    อาจจะเพราะที่ผ่านมาเฮย์โจวเอะอะเตะ(?) เอะอะเสย(?)
    ชินกับท่าทางที่พี่แกโหดมาตลอด
    พอมาเจอเวอร์ชั่นหมอนวด(?)บั้นท้าย(?) (โดนโบกกระเด็น)
    อ่า....หมายถึงเวอร์ชั่นอ่อนโยน (ลากซากกลับมาพิมพ์ 5555)
    มันจะลงไปดิ้นให้ได้เลยอ้ะ !!!! น่ารักอ่ะ น่ารักกกกก ฮืออออออ
    มีแอบ(?)หงุดหงิดไปกับเฮย์โจวที่โดนขัดเวลาฮัดช่า(?)
    555555 คุณแม่เอเลนเข้าใจเลือกเวลาได้ใจจริงๆ

    แต่ว่ากวางซามะก็จัดให้คนอ่านลงไปนอนจมกองเลือด
    หลังจากที่ผ่านพ้นช่วงในห้องที่แสงส่องไม่ถึง
    ก็มาต่อในห้องที่น้ำ..........
    เราว่าเราควรละการคอมเม้นท์ฉากนี้ได้แล้ว
    555555 อยู่ๆนิ้วก็หยุดพิมพ์เพราะเขิน(?)

    แล้วก็ชอบมาก ชอบการบรรยายของชีวิตเด็กสถาปัตย์ปีสี่
    ยิ่งตอนบรรยายสภาพห้องที่ดูไม่จืดในตอนแรก อ่านมันส์มากๆเลย
    หัวเราะตามอย่างแรง ถึงจะไม่ได้เรียนสถาปัตย์แต่พอคิดถึงสภาพตัวเอง
    ที่เคยทิ้งกระดาษรายงาน กระดาษหนังสือพิมพ์ต่างประเทศแหว่งๆที่ตัดเละเทะ
    ให้ปลิวว่อน(?)ไปทั่วห้อง ซากก้อนกระดาษที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องขยำ(?)เป็นดง
    ของตัวเองตอนเรียนปีสามปีสี่แล้วเข้าใจเอเลน(?)ดีมากๆ 55555
    อารมณ์ตอนนั้นมันคิดได้อย่างเดียวว่า ให้งานมันเสร็จเถ๊อะ - _ -
    ห้องเละช่างมัน ไฟไม่ไหม้(?)เป็นพอ(?) = _ =
    (เฮย์โจวไม่ต้องโบก เดี๋ยวกลิ้งไปกระแทกกำแพง(?)เองได้(?))

    อ่า แล้วก็ถึงเราจะยังไม่ได้ดูไททันก็ตาม
    แต่เห็นเขาแซะ(?)เฮย์โจวฉากทำความสะอาดกัน
    ไอ้ผ้าปิดจมูกสีขาวนี่มันช่างเหมาะ(?)กับทรงผม(?)ที่สุด
    ยิ่งได้มาอ่านแล้วมันได้ใจจริงๆๆๆ!!!! 55555555 โอ่ย ชอบบ
    (เฮย์โจวปามีดทั้งครัวปามาปัก(?)หัว(?) = __ =)

    พันปีของความทรมานของเฮย์โจว ทำให้คนอ่าน......
    ชอบใจ(?)กับความไม่เข้าใจกับเทคโนโลยี(?)มากๆ
    5555555555 เฮย์โจวจะเฉาะคนในโทรทัศน์ด้วยมีดทำครัว
    โอ่ยยยยย อยากให้มีคนวาดฉากนี้(?) 555555
    ฉากเฮย์โจวนั่งทำโมเดลบันได อ่านแล้วตบเข่าฉาด(?)
    มันน่ารักมากจริงๆๆนะคะกวางซามะ มันน่ารักมากจริงๆๆ (หัวเราะไม่เลิก(?))
    ชอบอ่ะ เป็นคนที่ถ้าฟิคที่อ่านมันไม่หน่วง(?) เราจะเส้นตื้น(?)มาก
    รู้สึกดีที่ได้หัวเราะ(?)มากๆเลยนะ 555555
    ทำไมนับวันเรายิ่งไม่มีสาระ T - T

    ขอเน้นอีกฉาก(?) ฉากเช็คชั้นใน!!!!!!!!!!!!!!!!!!
    ชอบบบบบบบบบบบบ ลงไปดิ้นพร้อมกับหัวเราะ(?) > __ <

    แล้วก็บทลงโทษที่ทำให้ฟินจนทำให้เราอ่านวนเป็นวังวน!!!!!
    เฮย์โจวลงโทษได้ใจ ชอบบบ ชอบบบคนขี้หึง(?)
    อ่านแล้วก็มีหน้ายามะลอยมา(?) 55555
    ยามะหึงก๊กมันมาพ่วงกันได้ยังไงกับเรื่องนี้มิทราบค่ะฉัน = _ =
    แต่ก็นั่นล่ะ ชอบมากๆ น่ารัก T _ T ดีใจที่ได้อ่าน
    ดีใจที่ได้แฮปปี้กับคู่นี้ ดีใจมากๆๆเลย ยิ่งได้มาอ่านเวอร์ชั่นแบบนี้ยิ่งดีใจ
    อยากให้อ้อน(?)กันเยอะกว่านี้ชะมัดเลยค่ะ (ลงไปดิ้น(?)) 55555

    เป็นกำลังใจให้กวางซามะตลอดเวลาน้า~~~
    ฟิคเรื่องหน้าถึงจะหน่วงเราก็จะติดตาม!!!!! * ^ * และจองล่วงหน้า!!!!
    #ห๊ะ!!!??? มันจะล่วงหน้าไปไหน 5555
    คิดซะว่ามันคือสัญญาว่าเราจะยังอยู่(?)นะคะ
    #มันบ้าแล้วมันยังเสี่ยว(?) 55555555 - ___ -

    ปล.เอเลนดาเมจจจจจจจจจจจจริงจัง > [ ] <
    ไม่ได้ดูไททัน แต่อ่านฟิคกวางซามะ
    แล้วสามารถไปสอยแฟ้ม(?)เอเลนได้!!!! เอเลนดาเมจจจ 5555

    ตอบลบ
  19. โฮกฮากมาก อ่านลืมวันลืมคืนจริงๆ ที่จริงคืนนี้ต้องอ่านหนังสือมีสอบชี้ชะตา แต่ก็นึกขึ้นได้ เอ..ตอนพิเศษมันจะออกยังหว่าก็เลยแวะมาดู ออกแล้วจริงๆด้วยเว้ยเฮ้ย แทบจะกระโดดเกาะคอม ชีทเชิรทไม่องไม่อ่านมันล่ะ อ่านเฮย์โจวดีกว่า
    ชอบมากบรรยากาศมันดูผ่อนคลาย กลิ่นความสุขคละคลุ้ง โลกสวยสายรุ้งพาดผ่านมากขอบอก
    การรอคอยพันปีที่ยาวนานก็เติมเต็มกันให้เต็มที่นะ รีบตักตวงความสุขไว้เยอะๆ เฮย์โจวก็ได้ไปเยอะเหมือนกันเนอะ เข้าใจว่าเฮียเก็บกดมาพันปี ๕๕๕
    คุณแม่นี่ตัวขัดลาภตลอดเลย ไอ้เราก็ลุ้นๆอยู่ว่าเมื่อไรจะได้.. เอ่อ แต่สุดท้ายก็ส่งอ้อยเข้าปากช้าง ไปเองเลยนะคุณแม่
    พอตอนคอนโดอยากบอกว่าสงสารเฮย์โจวมาก สำหรับคนรักความสะอาด มันคงเป็นอะไรที่โคตรจะช็อคสินะ เอเลนเลยรอด แต่สุดท้ายก็ห้องน้ำอีกแล้วอ่ะ
    รีไวเวอร์ชันพันปีต่อมาเนี่ย ดูอบอุ่น อ่อนโยนขึ้นมากๆเลย อานุภาพแห่งรักนี่มันสุดยอดจริงๆเลยเนอะ รวมทั้งเวลาที่ผ่านมาสองคนนี้โดยเฉพาะรีไวเองก็ผ่านอะไรมาก็เยอะ ก็ต้องถนอมช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันไว้นานๆ
    ตอนแถมนี่เล่นได้แสบมากเลยนะ เอเลนก็รู้ตัวช้าไปเนอะ นี่มันรู้กันหลายคณะเลยนะเนี่ย แต่ดีรีไวจะได้ไม่ต้องมาคอยเหนื่อย ทำไงได้ก็คนรักขี้หึงอ่ะ ๕๕๕ มันฟินอ่ะฟิน ชอบอ่ะ รักมากฟิคเรื่องนี้มีกำลังใจไปสอบต่อล่ะ
    มาอ่านชีวิตของเอเลน เล่าได้แบบเห็นภาพอ่ะ เพื่อนที่เรียนสภาพมันใช่เลย ซอมบี้ชัดๆ จริงๆเราเก็เคยคิดจะเรียนถาปัตย์นะ แต่มาตอนนี้ก็เอิ่ม ตูโชคดีแล้วมั้งที่ไม่เรียน..รึเปล่า!!? ไอ้ที่เรียนอยู่ตอนนี้ก็แทบตายเหมือนกันนะ (แต่ก็ยังมีเวลามานั่งอ่านฟิค ทั้งๆที่ก็ไม่สบาย ใจรักจริงๆ)
    อุดหนุนรวมเล่มแน่นอนขอรับ แต่งเร็ว รวมเล่มเร็ว งี้ สุดยอดมากเลย อดใจรอตอนซ่อนกลิ่นไม่ไหวแล้ววว

    ตอบลบ
  20. ไม่ระบุชื่อ31 กรกฎาคม 2556 เวลา 09:01

    อ่ะแง้~//ปาดน้ำตา//ผมจะได้รวมเล่มกับเขารึเปล่าน๊า~//นั่งเพ้อ//........เฮ้อ~ ขอนั่งฟินแปปนะครับ.....#1000ปีผ่านไป(อินมาก = = )
    คืนชีพแล้วว~!!! ได้เอเลนช่วยไว้แหละ~!!//หลบคัตเตอร์//ติดตามมานานแล้วล่ะครับ ผมกับเพื่อนเปิดวงสนทนากันเกี่ยวกับฟิพเรื่องนี้ในชั่วโมงเรียนด้วยคะรับ คือแบบอาจารย์มองเลยค่าาา~ ^0^; เฮย์โจวอ่ะ.......อกรี๊ดดดดด~!!!//ฟินค้างอีก3วินาที//ต่อค่ะ ชอบตอนที่เฮย์โจวแกหึงอ่ะ ตอนลงโทษด้วย ตอนที่มาถึงคอนโดแรกๆ ก็ลุ้นว่าจะทำแบบไม่ปิดประตูห้องแล้วมิคาสะบังเอิญเดินมาขัดรึเปล่า อะไรประมาณนั้น(คิดตื้นๆ) ไอ้ฉากที่ไอ้คุณแจนเห็นเอเลนนี่มันช่างงง....อยากสมน้ำหน้ามันว่ะ 55555//หัวเราะอย่างชั่วร้าย//แล้วก็เปิดจองตอนไหนก็บอกด้วยนะคะ ติดมากเลยถ้าได้ไปนี่คงจะมีความสุขมากเลยล่ะค่ะ ปล.สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้แต่งต่อไปค่ะ ทั้งเรี่องนี้และเรี่องหน้า คู่นี้และคู่อื่นค่ะ~!!! >w<b

    ตอบลบ
  21. โอ๊ย เป็นฟิคที่สนุกมากเลยค่ะ เพิ่งจะมาเริ่มบ้าไททัน พอเจอฟิคนี้เข้าเลยนั่งอ่านมันรวดเดียวเลย ชอบมากๆเลยค่ะ จะรอซื้อรวมเล่มนะคะ จะรออย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ!

    ตอบลบ
  22. ชอบสเปของตอนนี้มากๆ อ่ะขอบอก
    คนอื่นๆ นี้อกหักกันไปตามระเบียบ
    ส่วนเอเลนก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวกับเขาเลยของบอก
    เป็นฟิคที่สุดยอดจริงๆ บทจะพีคก็พีคด้วย
    ทั้งบีบทั้งหน่วงจิต แต่ไม่ถึงที่สุดนะ
    แต่ผมว่าก้อโอเคอยู่
    ตอนนี้ฟินสุดๆอ่ะบอกได้คำเดียว
    คู่นี้มันน่ารักเกิ๊นนน

    ตอบลบ
  23. อ่านฟิคนี้แล้วมันทำให้ความรู้สึกเวลาหนูเข้าห้องน้ำมันเปลี่ยนไป! #รอสอย

    ตอบลบ
  24. ไม่ระบุชื่อ12 สิงหาคม 2556 เวลา 04:56

    ยังไม่ออกจากโรงบาลค่ะ อ่านในมือถือลำบากดีจริง ๆ ฮ่าๆ แต่เพราะขาดสารความวายมานานมันเลยอดไม่ได้ค่ะ กำลังอ่านถึงช่วงในห้องน้ำที่บ้านเอเลนกำลังลุ้นเลยค่ะว่าเอเลนจะถูกเฮย์โจวเรารับประทานได้หรือเปล่า พยาบาลเข้ามาวัดความดันพอดี พยาบาลถึงกับถาม ทำไมวันนี้ชีพจรเต็นเร็วจังคะ มีไข้รึเปล่า ฮ่าๆ ฟิคพี่กวางนี่มีผลต่อหัวใจจริง ๆ ค่ะ 555 พออ่านจบทั้งตอนแล้วก็ต้องของเลือดด่วนค่า เอเลนเซ็กซี่เกินไปแล้ว (-.,-)
    รวมเล่มหนูเอาแน่นอนค่ะ เปิดจองเมื่อไหร่ไม่รู้แต่เก็บไว้ให้หนูด้วยน้า.........
    เค้าเอง barrinny ^^

    ตอบลบ
  25. พี่คะ อยากรู้ว่ารวมเล่มนี่จะมีภาค TYL อีกมั้ยคะ...^^;;

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. รวมเล่มมีถึงตอน 11 (ตอนนี้นี่แหละ) ค่ะ

      ส่วนภาค TYL ถ้าจะรวมคงแยกไปอีกเล่มนึงค่ะ555

      ลบ
  26. ไม่ระบุชื่อ17 ตุลาคม 2556 เวลา 07:18

    ฮี้ฮี้~~~~~~♥ ตะเองงงงงงงงงมีความคืบหน้าเกี่ยวกับหนังสือไหมอ่ะ เรารออยู่นะะะะะ เปิดจองบอกทางเฟสด้วยจิ จุ๊บๆ

    ปล.แค่แวะมาหาน่ะ คิดถึงฟิคเรื่องนี้เลยมารำลึกซะหน่อย
    ปล2.ตอนนี้ฟิคเรื่องโปรดเค้าเป็น TYL ล่ะ ก็ตัวเองแต่งเหมือนกันน้าาาาาา
    ปล3.เอิ่มมมมมมม ช่างเถอะ ที่จริงเข้ามาพล่ามน่ะ 555555555

    ตอบลบ