KHR AuFic HBD.Hayato [8059 1827] Ryuusei : 12







KHR AuFic HBD.Hayato [8059 1827]   Ryuusei : 12

: KHR Fanfiction Au
: 8059  1827
: Period Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ




นัยน์ตาสีมรกตเหม่อมองออกไปที่สระน้ำเล็กๆภายในสวน....อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ต่างไปจากตอนอยู่ที่อิสุเลย....ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ยังคงโดนขังเอาไว้ราวกับนกน้อยที่ทำได้เพียงแค่มองท้องฟ้าอยู่ในกรง

ชีวิตเขามีประโยชน์แค่เพียงให้ยามาโมโตะเอาไว้เชยชมเท่านั้นสินะ....

ใบหน้าหงอยๆถอนหายใจพรางแกว่งขาที่ห้อยอยู่บนพื้นระเบียงเล่น แล้วจู่ๆที่หางตาก็เห็นอะไรสีแดงๆแว่บเข้ามา

กังหันลมที่ทำจากกระดาษสีแดงอันน้อยถูกยื่นมาตรงหน้า...นัยน์ตาสีมรกตเบิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะสะบัดหน้าหนีทำเป็นไม่สนใจ

ใบหน้าคมของคนที่ยื่นมันมาให้ยิ้มอย่างไม่ถือโทษ ก่อนจะกระโดดลงจากพื้นระเบียง  กังหันอันน้อยถูกปักลงไปที่พื้นดินซึ่งหญ้ามอสขึ้นหนาจนดูเขียวชอุ่ม...มันถูกปักเรียงต่อจากห้าอันก่อนหน้า...กังหันสีแดงหมุนเล่นลมตัดกับสีเขียวของมอสจนดูโดดเด่นไม่ว่าจะมองจากตรงไหนของเรือนก็เห็น

นัยน์ตาสีมรกตแอบเหลือบมองกังหันอันที่หกอย่างพยายามไม่ให้ร่างสูงรู้

ข้าจะทำให้เจ้าวันละอัน...แทนคำบอกรักจากข้า...ที่อยากจะบอกเจ้าทุกวัน

นั่นคือคำพูดที่ยามาโมโตะพูดออกมาตอนที่ยื่นกังหันอันแรกมาให้....และตอนนี้มันก็มีอยู่ทั้งหมดหกอัน นั่นก็แสดงว่าเขาอยู่ที่นี่มาหกวันแล้วนั่นเอง...ใบหน้าใสต้องพยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้มันเต้นแรงไปกับการกระทำของคนตรงหน้า


ต่อให้เจ้าจะทำกังหันจนแดงเต็มคามาคุระ...มันก็ไม่อาจสู้กังหันจากกระดาษห่อยาอันนั้นได้หรอก...


“ วันนี้ข้าต้องออกไปลาดตระเวนนะโกคุเดระ”       ร่างสูงเอ่ยบอกคนที่ยังนั่งหน้าบูดอยู่ที่ระเบียง....ถ้าเป็นเมื่อก่อนร่างบอบบางคงต้องตามออกไปด้วยกันอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่คามาคุระนั้นอันตรายเกินไป....เขาไม่กล้าเสี่ยงที่จะพาโกคุเดระออกไปด้วย

ยังไงซะ ในสายตาของคนที่นี่....โกคุเดระก็เป็นเพียงแค่เชลยศึก

“ เจ้าอยู่กับสึนะได้ไหม?”      และแค่เขายอมเอ่ยนามของผู้เป็นพี่ชาย...ใบหน้าสวยก็ดูจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที....เพราะแบบนี้แหละเขาถึงไม่ค่อยอยากปล่อยให้ไปหาสึนะโยชิ

เขาอิจฉา...และอยากให้โกคุเดระเป็นของเขาแค่คนเดียวเท่านั้น...ถึงแม้สึนะจะเป็นพี่ชาย...เขาก็หวง

จะว่าไป...เขาคงจะไม่สามารถญาติดีกับพี่ชายคนไหนของโกคุเดระได้เลยสินะ...ทั้งๆที่สึนะเองก็ดูน่าจะเข้ากับเขาได้ ก็ยังมิวายเขม่นเขาแปลกๆตั้งแต่ที่เขาพาโกคุเดระมา


ช่างเป็นที่รักเสียจริงๆเลยนะเจ้าเนี่ย...โกคุเดระ




และเพราะแบบนั้น เมื่อร่างสูงใหญ่พาร่างบอบบางมาส่งให้พี่ชายแล้ว ทั้งสองคนจึงได้อยู่ด้วยกันตามลำพังเสียที

“ เจ้าอยากเดินดูภายในคฤหาสน์นี้ไหม? ข้าจะพาไป”       ผู้เป็นพี่ชายที่ตัวเล็กกว่าน้องชายนิดหน่อยถามออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม....นานแล้วที่ไม่มีเพื่อนคุยแบบนี้....ดีจริงๆที่เจ้ามาที่นี่

“ อื้อ!”      ใบหน้าสวยพยักรับรัวๆราวกับเด็กๆ นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองใบหน้าที่ส่งยิ้มมาให้ราวกับท้องฟ้าด้วยประกายตาระยิบระยับ

น่าแปลก....ที่ถึงแม้จะล่วงรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นพี่ชายต่างแม่ แต่ความรู้สึกเหินห่างมันกลับไม่เกิดขึ้นในใจเลย....เขาคุ้นเคยกับรอยยิ้ม คุ้นเคยกับความอ่อนโยนของคนตรงหน้ามาตั้งแต่ตอนที่อยู่ด้วยกัน ถึงแม้มันจะเป็นเวลาสั้นๆแค่ปีเดียว แต่มันก็เป็นอีกช่วงเวลาที่มีความสุข

“ จริงๆแล้วข้าน่ะ อยากจะฟังเจ้าเล่นโกโตะอีกนะ...เจ้ายังเล่นมันอยู่ใช่ไหม?”       ร่างบอบบางสองร่างเดินคู่กันไปบนระเบียงทางเดิน ทั้งๆที่เป็นตัวประกันกับเชลยศึกที่ถูกจับมาจากต่างบ้านต่างเมือง แต่บรรยากาศอบอุ่นที่ออกมาจากร่างทั้งสองนั้นกลับชวนมองจนข้ารับใช้ต่างก็แอบดูกันอยู่ไกลๆ

คฤหาสน์ที่เคยมืดมนกลับค่อยๆดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาเมื่อมีรอยยิ้มของสองคนที่เดินคุยกันไปตามระเบียงทางเดิน

“ ใช่...ข้ายังเล่นมันอยู่ แต่ว่านะ.....”       แล้วเรื่องราวที่ผู้เป็นพี่ถูกฮิบาริ เคียวยะ ทรมานต่างๆนานาก็ถูกเล่าให้กับผู้เป็นน้องชายฟังอย่างกับแม่บ้านนินทาสามีให้เพื่อนฟัง  ใบหน้าสวยของน้องชายฟึดฟัดไม่พอใจเมื่อได้ฟังเรื่องที่ผู้เป็นพี่ชายเล่ามา แต่ใบหน้าน่ารักของพี่ชายกลับเล่าด้วยท่าทางสบายๆผสมกับรอยยิ้ม พอผ่านมันมาได้แบบนี้แล้วกลับคิดว่ามันก็เป็นเพียงอุปสรรคหนึ่งที่ต้องข้ามผ่านเท่านั้น


เป็นอุปสรรคชั้นดีที่ทำให้เขาเข้มแข็งขึ้นได้ขนาดนี้....

เป็นบททดสอบชั้นดีว่าเขาจะเหมาะสมกับตำแน่งเจ้าของ...ของหัวใจที่เย็นชาดวงนั้นหรือไม่....


“ นี่แหละ...ห้องดนตรีที่ข้าเคยโดนพี่ชายของยามาโมโตะสั่งให้เล่นโกโตะสามวันสามคืนจนสลบไปในที่สุดน่ะ”      มือบางแง้มประตูบานเลื่อนออกให้น้องชายมองเห็นสภาพภายในห้องซึ่งถูกทำความสะอาดอย่างเรียบร้อย เครื่องดนตรีทุกชิ้นเงาวับเพราะตัวประกันจากอิสุหมั่นแวะเวียนมาดูแล แล้วตอนนี้เองห้องนี้ก็แทบจะกลายเป็นของร่างเล็กไปแล้วด้วย ฮิบาริ เคียวยะ ไม่มาสนใจมันอีก....ถึงจะไม่ได้เอ่ยปากว่ายกให้....แต่ไม่ว่าร่างเล็กจะทำอะไรกับมันก็ไม่ได้ว่าอะไร

“ ข้า....ขอโทษนะ...ที่ข้าไม่เคยรู้เลย....ว่าเจ้าต้องมาทนทุกข์ทรมานอยู่ที่นี่....”      ใบหน้าสวยสลดลง มือของผู้เป็นพี่จึงได้แต่แตะปลายนิ้วลงบนใบหน้าใสเพื่อให้มันเงยขึ้นมา

“ ข้าอยากให้เจ้าคิดในแง่ดีว่า...เพราะข้าอยู่ที่นี่ ข้าจึงยังมีชีวิตอยู่”       รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งมาให้  นัยน์ตาสีมรกตได้แต่มองใบหน้าของพี่ชายด้วยสายตาสั่นพร่า

“ และข้าก็คิดว่าดีแล้วละ...ที่คนที่ถูกส่งมาที่นี่คือข้า...ไม่ใช่เจ้า”      มือบางลูบหัวสีเงินอย่างเอ็นดู ใบหน้าสวยของฮายาโตะทำหน้าอย่างกับจะร้องไห้จนเขาเผลอยิ้มออกไป...เด็กคนนี้ยังคงเป็นห่วงใครต่อใครโดยไม่ค่อยจะนึกห่วงตัวเองเหมือนเดิมเลยนะ

“ ข้ารู้จักที่ดีๆด้วยนะ...เอาไว้ตอนกลางคืน....เราไปดูดาวด้วยกันไหมฮายาโตะ?”     ใบหน้าของน้องชายนิ่งค้างไปก่อนจะยิ้มออกมาในที่สุด มือที่ลูบเส้นผมนิ่มยังคงลูบต่อไปทั้งรอยยิ้ม


เพราะเสียงใสๆที่ตะโกนบอกข้าว่า  อธิษฐานสิ!’ ของเจ้ามันจะดังขึ้นมาทุกครั้งที่ข้าล้มลงไป...มันทำให้ข้าลุกขึ้นยืนขึ้นมาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า...

อยากจะไปนั่งดูดาวกับเจ้า...

อยากจะขอบคุณดาวตกพวกนั้น...ที่ส่งเจ้ามาหาข้าในที่สุด...




ร่างสองร่างยังคงเดินพูดคุยกันไปตามระเบียงทางเดินก่อนจะชักชวนกันดูนั่นดูนี่….มองไปแล้วก็คล้ายๆนกน้อยสองตัวที่ไม่ว่าจะขยับกายไปทางใดต่างก็น่ารักน่าเอ็นดู ข้ารับใช้หลายต่อหลายคนแอบมองกันอยู่ตามประตูหน้าต่างด้วยรอยยิ้ม....แต่ทว่า....

เมื่อมีฝ่ายที่ยิ้มให้ก็ต้องมีฝ่ายที่ไม่ต้อนรับ....

นัยน์ตาสีดำกลมโตจ้องมองคนที่มาจากต่างเมืองด้วยใบหน้าบึ้งตึง....อีกคนยังไม่เท่าไหร่แต่กับเจ้าของผมสีเงินคนนั้น....แค่เห็นหน้าก็รู้สึกชิงชังขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ยิ่งคิดว่าคนที่เป็นถึงคู่หมั้นของตนนอนกกกอดมันเอาไว้ทั้งคืนก็ยิ่งเผลอกำมือแน่น

“ ไปบอกท่านสึนะโยชิ...ให้มาเอาไหมที่จะใช้ปักผ้าครั้งต่อไปทีสิ”       ริมฝีปากสีแดงที่แต่งแต้มเอาไว้ด้วยเครื่องสำอางเอ่ยบอกกับข้ารับใช้ที่นั่งอยู่ด้วยกัน

และไม่นาน....ร่างสองร่างของตัวประกันกับเชลยศึกจากอิสุ ก็เดินเข้ามายังศาลาโล่งกว้าง ที่ท่านหญิงมิซึโกะนั่งรออยู่  หญิงสาวในบ้านที่กำลังเตรียมไหมและผ้าอยู่แถวๆนั้นต่างหันไปมองสองคนที่มาใหม่เป็นตาเดียว

โดยเฉพาะร่างบอบบางเจ้าของผมสีเงิน....ที่เพิ่งจะถูกปล่อยออกมาจากเรือนของยามาโมโตะ ทาเคชิ ให้เห็นชัดๆเป็นครั้งแรกนี่แหละตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เป็นอาทิตย์แล้ว

“ เจ้าคิดหรือยังละว่าจะปักลายอะไร? หึ...แต่ไม่ว่าจะลายอะไรก็คงจะออกมาเหมือนๆกันหมดนั่นแหละ”       ร่างเพรียวระหงของท่านหญิงมิซึโกะลุกขึ้นยืนก่อนจะเอ่ยทักทายตัวประกันจากอิสุด้วยน้ำเสียงเหยียดๆตามเดิม  ใบหน้าน่ารักยิ้มเนือยๆรับแบบไม่ได้คิดจะใส่ใจอะไรอีกฝ่ายมากนัก

แต่ไหนแต่ไรก็เป็นแบบนี้มาโดยตลอด....เขาถูกหาเรื่องสารพัดจากท่านหญิงผู้ร้ายกาจคนนี้....แต่เพราะไม่ค่อยอยากจะมากเรื่อง อีกทั้งมันก็ไม่ใช่วิสัยของเขาที่จะไปต่อล้อต่อเถียงกับผู้หญิง จึงได้แต่ยอมรับคำเสียดสีอย่างไม่ตอบโต้อะไรกลับไปมาโดยตลอด

“ คราวนี้ข้าจะปักผ้าเป็นลายพยัคฆ์ให้กับท่านพี่ทาเคชิ....”        ใบหน้าเชิดหยิ่งหันไปหาโกคุเดระ ฮายาโตะ อย่างจงใจให้รู้ว่าเธอพูดประโยคนี้กับเขา....แต่ใบหน้าสวยของเชลยศึกเพียงแค่มีแววแปลกใจเล็กน้อยกับคิ้วที่ขมวดหน่อยๆเมื่อได้ยินชื่อของยามาโมโตะ ทาเคชิ อยู่ในประโยคนั้นด้วย

นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้เหลือบมองหน้าน้องชาย.....ดูเหมือนฮายาโตะจะยังไม่รู้ว่าประเพณีการปักผ้านั้นมันคืออะไร

“ เอ้า! รับไปสิ ไหมของเจ้า!”        ใบหน้าของหญิงสาวหันกลับมาหาเขาอีกครั้งก่อนที่มือของเธอจะหยิบตะกร้าใส่ไหมส่งมาให้

และมันก็ยังคงเป็นไปเหมือนเดิม....

ท่านหญิงมิซึโกะ ยังคงจงใจปล่อยตะกร้าก่อนที่มันจะมาถึงมือของเขาเหมือนเดิม....

เพราะคราวนี้เธอรู้ว่า ฮิบาริ เคียวยะ ออกไปลาดตระเวนทางเหนือ ส่วนยามาโมโตะ ทาเคชิ ไปลาดตระเวนทางใต้....ไม่มีใครอยู่ช่วยพวกเขาสองคนได้....

ใบหน้าน่ารักได้แต่ก้มมองตะกร้าไหมที่ร่วงลงไปกระทบพื้นก่อนที่กลุ่มไหมจะกระจัดกระจายเต็มไปหมด ร่างเล็กได้แต่ลอบถอนหายใจ...ทั้งๆที่รู้ว่าเขาจะไม่ตอบโต้อะไร ทำไมถึงยังได้เฝ้ากลั่นแกล้งอยู่ได้....ไม่เบื่อบ้างหรือไงนะ?

หรือจะเป็นเพราะว่าเขาไม่ตอบโต้ เลยยิ่งสนุก?


คนตระกูลนี้นี่มันยังไงกัน?


แต่แล้วในขณะที่ตัวประกันจากอิสุเตรียมจะก้มลงไปเก็บกลุ่มไหม แขนบางของคนที่ยืนอยู่ข้างๆกลับกางกั้นห้ามเอาไว้เสียก่อน

“ เจ้าไม่จำเป็นต้องก้มลงไปเก็บ”       น้ำเสียงห้วนๆของฮายาโตะเอ่ยออกมาทำให้ทั้งเขาทั้งท่านหญิงมิซึโกะผงะไป

นัยน์ตาสีมรกตจ้องเขม็งไปยังใบหน้าที่แต่งแต้มเอาไว้อย่างสวยงามของเด็กสาวอย่างไม่มีกลัวเกรง ทำให้ผู้เป็นพี่ชายอึ้งไปเล็กน้อย...คำว่าเชลยศึกไม่ได้ทำให้ร่างบอบบางหวาดผวาต่อสิ่งใด ทั้งๆที่ตอนนี้ก็แทบจะเป็นแกะขาวเพียงตัวเดียวอยู่ในฝูงแกะดำอยู่แล้ว

น้องชายคนเล็กของเขาคนนี้ก็ยังเหมือนเดิม....ไม่เคยกลัวอะไร และไม่ยอมใครถ้าตัวเองไม่ได้เป็นฝ่ายผิด

“ ใครที่เป็นคนทำมันตกลงไป  คนคนนั้นก็สมควรที่จะต้องเป็นคนเก็บสิ!”        ริมฝีปากสีระเรื่อยังคงปากกล้ากับหญิงสาวตรงหน้า และเพราะเธอไม่คิดว่าเจ้าเชลยศึกที่น่าจะกลัวหงอและยอมให้เธอกลั่นแกล้งจะกลายเป็นแบบนี้ หญิงสาวจึงได้แต่ยืนกำมือแน่นอย่างทำอะไรไม่ถูก

ใบหน้าขาวพยายามระงับอารมณ์ก่อนจะเรียกใบหน้าที่เชิดหยิ่งกลับคืนมาได้อีกครั้ง นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องตอบกลับมาที่ดวงตาสีมรกตอย่างไม่มีใครยอมใคร จนข้ารับใช้ที่ยืนอยู่รอบๆต่างเริ่มวิตกกังวล....คนนึงก็ท่านหญิง...อีกคนนึงก็สินสงครามที่ห้ามใครแตะต้อง...แล้วจะให้พวกเธอทำยังไงดี?

“ ถึงข้าจะเป็นคนทำมันตกลงไป แต่คนที่จะต้องก้มหัวลงไปเก็บก็คือเชลยศึกต่ำชั้นอย่างเจ้าไงล่ะ!”       หญิงสาวเชิดหน้าใส่ แต่คนที่ได้ชื่อว่าเชลยกลับหาได้เกรงกลัวไม่

“ ถึงข้าจะเป็นเชลย...แต่ข้าจะก้มหัวให้เฉพาะคนที่ข้าเคารพเท่านั้น และจะไม่มีวันก้มลงไปเก็บไหมให้เจ้าด้วย!”      เชลยคนสวยก็ยังคงเถียงกลับมาอย่างไม่ลดละ

“ หึ....ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ควรจะทำยิ่งกว่าก้มลงไป...อย่างเจ้าควรจะต้องคาราวะแทบเท้าข้าด้วยซ้ำ....เพราะคนที่เจ้าจะต้องเคารพคือข้า!”      หญิงสาวเริ่มจะคุมอารมณ์ไม่อยู่เมื่ออีกฝ่ายก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะกลัวหรือยอมง่ายๆ ริมฝีปากร้ายกาจจึงเอ่ยเสียดสีต่อไปเป็นชุด

“ สงสัยว่าตระกูลโกคุเดระที่ล่มสลายไปแล้วของเจ้าจะไม่ได้สั่งสอนมา ว่าอย่าบังอาจเถียงว่าที่นายหญิงอย่างข้า”       และเมื่อถูกพูดใส่หน้าแบบนั้นมีหรือที่ลูกชายคนเล็กของตระกูลโกคุเดระจะยอม

“ ตระกูลข้าสอนสั่งเอาไว้ว่า ให้เคารพผู้ที่ควรเคารพ...แล้วเจ้าเป็นใคร...ทำไมข้าต้องเคารพเจ้าด้วย....นายหญิงของบ้านเท่าที่ข้าเคยรู้จักไม่มีคนไหนที่ทำนิสัยเช่นเจ้า”    นัยน์ตาสีมรกตที่หยิ่งผยองยิ่งทำให้หญิงสาวถึงกับขบเม้มที่มุมปาก มือบางสั่นระริกก่อนพยายามระงับอารมณ์แล้วกลับมาเชิดหน้าใส่ทั้งๆที่ในใจมันกำลังลุกเป็นไฟ

ยังไงก็จะต้องทำให้มันรู้...ว่ามันไม่มีทางเทียบเธอได้!

“ ใครงั้นหรอ...หึ...ข้าจะบอกเจ้าเอาบุญ เจ้าจะได้ไม่คิดหลงตัวเองว่าสำคัญ”     ใบหน้าที่แต่งแต้มจนดูงดงามยิ้มเย้ยหยันอย่างพยายามจะบอกให้รู้ว่าตนเหนือกว่า


“ ข้าก็คือ.....คู่หมั้นของท่านพี่ทาเคชิ”


“ คือคนที่จะแต่งงานกับท่านพี่ทาเคชิ...คนที่จะเป็นนายหญิงเพียงหนึ่งเดียวของท่านพี่”

“ มิใช่สินสงคราม...ที่มีค่าเพียงแค่ใช้ระบายอารมณ์เช่นเจ้า”



ประโยคที่เน้นทุกคำพูดทำให้ใบหน้าสวยของคนที่เคยเถียงฉอดๆนิ่งค้างไป....นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างกับคำศัพท์ใหม่ที่เพิ่งเคยคิดจะบัญญัติไว้ในหัว


....คู่หมั้น.....


หมายถึงคนที่จะแต่งงานกันอย่างงั้นหรอ?  หมายถึงคนที่จะมาเป็นคู่ครองโดยชอบธรรม? หมายถึงคนที่จะเป็นที่เชิดหน้าชูตามิใช่คนที่ต้องซุกซ่อนเอาไว้ดั่งเชลยเช่นเขา?

จู่ๆร่างกายก็เหมือนจะหมดแรง....

ใบหน้าสวยยังคงนิ่งค้าง ในใจมันรู้สึกเคว้างคว้างราวกับทำที่ยึดเหนี่ยวหายไป

เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย...ไม่เคยคิดเลยว่ายามาโมโตะจะมีคู่หมั้น....

เพราะตั้งแต่เจอหน้ากัน ผู้ชายคนนั้นก็บอกเขาเพียงคำเดียวว่า....รัก....

บอกเขาแค่นั้นโดยปิดบังทุกอย่างเอาไว้


ไม่สิ...


ยามาโมโตะ เคยบอกกับเขาว่า....


“ นี่โกคุเดระ....ถึงเจ้าจะเป็นเจ้าสาวของข้าไม่ได้...แต่ข้าจะยกให้เจ้าอยู่เหนือใครๆ...ในหัวใจของข้า”


ร่างบอบบางซวนเซไปเล็กน้อยจนผู้เป็นพี่ชายต้องเข้ามาประคองไว้

เพราะแบบนี้เองน่ะหรอยามาโมโตะ....



ถึงแม้ข้าจะอยู่เหนือใครๆในหัวใจของเจ้า...แต่ข้าก็เป็นเจ้าสาวของเจ้าไม่ได้....


ทำไมในใจถึงได้เจ็บขนาดนี้....เจ้าจะต้องทำให้ข้าเจ็บอีกสักกี่ครั้งถึงจะพอใจ ยามาโมโตะ...





และยิ่งเห็นเชลยศึกร่างบางดูชะงักค้างไป ใบหน้าเชิดหยิ่งก็มีแต่จะยิ่งได้ใจ คำพูดร้ายๆถูกขุดออกมาซ้ำเติมอีกนับไม่ถ้วน

“ ข้ามาก่อนเจ้าไม่รู้ตั้งกี่ปี....คนที่เป็นมือที่สามอย่างเจ้าไม่คิดจะสำนึกในฐานะของตัวเองหน่อยหรอ?”

“ ในอนาคต.....ข้าจะเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมาย ถูกต้องตามจารีตประเพณี....เป็นนายหญิง...เป็น แม่ของลูก ให้ท่านพี่....แล้วตัวเจ้าล่ะ? เจ้าทำได้หรอ? เจ้ามีทายาทให้ท่านพี่ได้อย่างนั้นหรอ?...หึ....จะบอกเอาไว้ให้นะ....ฐานะของเจ้ามันก็แค่เอาไว้ระบายอารมณ์ของท่านพี่เท่านั้นแหละ เจ้าจะไม่มีทางได้รับการยกย่อง ไม่มีทางโงหัวออกมาจากกรงสกปรกนั่นได้หรอก!!

กลับไปที่ของเจ้าซะ....ข้ารู้....ว่าไม่ใช่ว่าเจ้ากลับไปไม่ได้....แต่เจ้าไม่ยอมหาทางกลับไปเองต่างหาก เลิกหวังได้แล้วท่านพี่จะรักเจ้า จะเชิดชูเจ้า!....กลับไปซะ!!...ที่นี่ไม่มีที่ให้คนอย่างเจ้า!

“ พอได้หรือยังท่านหญิงมิซึโกะ!!”       แต่แล้วถ้อยคำซ้ำเติมก็ถูกหยุดลงด้วยเสียงตวาดของตัวประกันจากอิสุ ที่ไม่มีใครคิดว่าจะได้เห็นร่างเล็กที่เป็นแบบนี้ ใบหน้าน่ารักที่เคยอ่อนโยนยิ้มใจดีไม่ถือสาหาความกับใครกำลังจ้องเขม็งไปที่ท่านหญิงตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง

“ ข้าทนให้ท่านดูถูกเหยียดหยามน้องของข้ามามากพอแล้ว เพราะคิดว่าเจ้าที่เป็นถึงท่านหญิงตระกูลสูงส่งจะสำนึกได้ด้วยตนเอง....แต่ดูเหมือนว่าข้าจะคิดผิด!”       และเพราะใบหน้าที่เอาจริงซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อนแบบนั้นของสึนะโยชิ ทำให้หญิงสาวถึงกับชะงักงัน

“ หากเจ้ายังเอ่ยล่วงเกินอะไรฮายาโตะอีกละก็....อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ....ข้าสามารถทำให้หัวของเจ้าหลุดออกจากบ่าได้”      และเมื่อนัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้จ้องเขม็งเข้าใส่ ใบหน้าเชิดหยิ่งนั้นก็มีแววหวาดผวาขึ้นมาเล็กน้อย เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าร่างเล็กบางของตัวประกันจากอิสุคนนี้แหละที่เคยทำให้ ข้ารับใช้หลายคนโดนลงโทษแค่เพราะเผลอเข้าไปใกล้หรือเผลอไปถูกเนื้อต้องตัวแค่นิดเดียวเท่านั้น....และนั่นร่างเล็กก็ไม่ได้เป็นฝ่ายไปเอ่ยฟ้องเองด้วย

ฮิบาริ เคียวยะ เองก็หวงของ ไม่ได้น้อยไปกว่าน้องชายเลย

“ กลับกันเถอะฮายาโตะ....และข้าคงต้องสั่งเจ้านะท่านหญิง....”         ใบหน้าน่ารักนิ่งเฉยในยามนี้น่ากลัวเสียยิ่งกว่าทำหน้าดุๆออกมาเสียอีก

“ เก็บไหมขึ้นมา...แล้วเอาไปให้ข้าที่เรือนของ ฮิบาริ เคียวยะ ด้วย”         ปกติแล้วร่างเล็กบางจะไม่เคยสู้หรือแม้แต่จะใช้อำนาจเข้าข่มเธอทั้งๆที่สามารถทำได้ แต่คราวนี้กลับใช้มันต่อหน้าข้ารับใช้มากมาย....เพียงเพราะต้องการจะปกป้องเจ้าเชลยศึกนั่น

หญิงสาวได้แต่โกรธจนเนื้อเต้น แต่ก็ได้แต่เก็บความไม่พอใจใส่กำมือที่สั่นระริกเอาไว้

ให้เอาไปให้ที่เรือนของ ฮิบาริ เคียวยะ งั้นหรอ....จงใจพูดชื่อนั้นออกมาเพื่อให้เธอไม่สามารถจะขัดขืนหรือต่อกรได้ จงใจทำให้รู้ว่าใครที่เป็นฝ่ายเหนือกว่า

นัยน์ตาสีดำได้แต่จ้องมองสองคนที่ค่อยๆเดินจากไปด้วยใบหน้าเคียดแค้น

ก็ได้...วันนี้เธอจะยอมหยุดแค่นี้....เพราะใครๆต่างก็รู้ดีว่านอกจาก ฮิบาริ เคียวยะแล้ว คนที่ไม่ควรจะไปยุ่งเกี่ยวอีกคน ก็คือร่างเล็กๆที่ดูไร้พิษสงนี่แหละ!


วันนี้....เธอจะยอมหยุดให้แค่วันนี้เท่านั้น...ถ้าเจ้าคิดว่าจะตามปกป้องกันได้ตลอดเวลาก็ลองดู!!










“ ข้า....ไม่ควรจะอยู่ที่นี่อย่างงั้นหรอ?”        คำพูดแผ่วเบาถามลงไปกับกังหันสีแดงอันน้อยที่อยู่ในมือ

ผู้เป็นพี่ชายขอตัวกลับไปตั้งนานแล้ว ทำให้ร่างบอบบางของเชลยศึกจากอิสุนั่งเหม่อลอยอยู่ที่ชานไม้ของเรือนตามลำพัง ในหัวยังคงมีแต่ถ้อยคำของท่านหญิงคนนั้นลอยอยู่เต็มไปหมด

นอกจากคำพูดที่ทิ่มแทง ยังมีความกังวลใจ ความไม่แน่ใจ ความเชื่อมั่นที่นับวันก็จะยิ่งสั่นคลอน

ตอนนี้หัวใจมันเหมือนกับแก้วที่เต็มไปด้วยรอยร้าว



ทั้งพ่อแม่พี่ชายที่ต้องตายด้วยน้ำมือคนที่รัก

ทั้งบ้านเมืองที่ถูกทำลายจนวอดวายด้วยน้ำมือคนที่รัก

ทั้งร่างกายที่ถูกย่ำยีจนไม่เหลือชิ้นดีด้วยน้ำมือคนที่รัก

แล้วนี่หัวใจยังจะมาถูกทำร้าย.....ด้วยน้ำมือคนที่รัก....อีกอย่างนั้นหรือ



จู่ๆน้ำตาก็ไหลลงมาตามแก้มอย่างไม่อาจห้ามได้....

ความรักมันทำให้ทรมานจนเหมือนตายทั้งเป็นแบบนี้น่ะหรือ?




“ โกคุเดระ?”      แล้วเสียงที่ไม่อยากได้ยินที่สุดในตอนนี้ก็ดังอยู่ข้างหลัง ไหล่บางจึงสั่นสะท้านด้วยแรงสะอื้นอย่างช่วยไม่ได้

“ ใครทำอะไรเจ้าน่ะ? บอกข้ามาสิว่าเจ้าร้องไห้ทำไม?”       สองมือตรงเข้าประคองไหล่เล็กก่อนจะดึงเข้ามากอดเอาไว้ ใบหน้าคมพรมจูบกระหม่อมผมสีเงินด้วยความกังวล ปกติเจ้าคนดื้อจะต้องไม่ยอมให้กอดดีๆแต่ทำไมคราวนี้ถึงได้ร้องไห้แล้วยังไม่ต่อต้านอะไรด้วย

เหมือนหมดแรงจะโต้เถียง....

ยิ่งเห็นยิ่งน่าเป็นห่วง....

“ ข้าจะกลับอิสุ....”        เสียงอู้อี้ดังออกมาจากอกเสื้อโดยใบหน้าของคนที่ถูกกดให้ซุกอยู่ที่แผงอก

“ เลิกพูดเรื่องนี้ซักทีเถอะโกคุเดระ...เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่มีวันให้เจ้าไป”       ร่างสูงใหญ่พูดออกไปนิ่งๆโดยที่ยังไม่ยอมปล่อยร่างบอบบาง

“ ข้าจะหนีเจ้าไป”       โกคุเดระเถียงกลับมานิ่งๆเหมือนคนหมดแรง แต่กระนั้นอีกคนก็ยังคงดึงดันต่อไปโดยไม่สนใจว่าร่างบอบบางจะรู้สึกยังไง

“ เจ้าไม่มีวันหนีข้าได้พ้น”     

“ ไม่เชื่อก็ลองดู...และถ้าข้าจับเจ้ากลับมาได้...คงรู้นะว่าอะไรจะรอเจ้าอยู่”

คำพูดร้ายกาจทำเอาใบหน้าสวยถึงกับเม้มปากแน่น ทำไมถึงได้รู้สึกทรมานเหลือเกิน...ทรมานจนไม่อาจจะเก็บมันเอาไว้ในใจได้อีก...ทรมานจนอยากจะบ้าคลั่งไปซะให้รู้แล้วรู้รอด

“ เจ้า....จะเก็บข้าเอาไว้ทำไม?!       มือบางผลักร่างกายตัวเองออกมาจากแผงอกของอีกฝ่ายก่อนจะตะโกนใส่หน้าถามออกไปทั้งน้ำตา

“ ข้าก็บอกเจ้าอยู่ทุกวันแล้วไง ว่าเพราะข้ารักเจ้า”       รักข้าจนมองไม่เห็นน้ำตาที่ไหลลงไปของข้าเลยใช่ไหม...

“ รัก?  รักงั้นหรอ?...เจ้าบอกว่าที่เจ้าฆ่าพ่อแม่ข้าเพราะว่าเจ้ารักข้า? เจ้าทำลายบ้านเมืองข้าเพราะว่าเจ้ารักข้า? เจ้าข่มขืนข้าเพราะเจ้ารักข้า?....ถ้างั้นช่วยบอกข้าทีเถอะว่าคำว่ารักสำหรับเจ้าแล้ว...มันคืออะไรกันแน่? มันไม่เหมือนกับคำว่ารักของข้าเลยใช่ไหม?!       คำพูดที่เคยถูกกดเอาไว้ในใจมันกำลังพรั่งพรูออกมาราวกับเขื่อนแตก....ทนไม่ไหวแล้ว....ทุกความรู้สึกมันกำลังระเบิดออกมาให้ยามาโมโตะรู้ว่าเขากำลังทรมานขนาดไหน...

ร่างบอบบางดิ้นรนถอยหนีออกไปจากมือใหญ่ที่พยายามจะจับเอาไว้ ใบหน้าสวยที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดส่ายไปมาจนเส้นผมสีเงินสะบัดกระจาย ท่าทางที่ต่อต้านราวกับกำลังบ้าคลั่งมีแต่จะทำให้ร่างสูงใหญ่ต้องใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดตะครุบตัวเอาไว้

อ้อมแขนแข็งแรงกดร่างบอบบางที่ตะกุยตะกายทุลนทุลายจะออกไปให้กลับเข้ามาอยู่ภายในอ้อมแขน กอดเอาไว้แน่นๆจนอีกฝ่ายไม่อาจขยับกายได้อีก

“ เกิดอะไรขึ้นกันแน่น่ะโกคุเดระ? ทำไมวันนี้เจ้าดูขัดขืนข้ามากขนาดนี้”     แล้วก็ดูราวกับว่าจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆมากขนาดนี้.....ต้องมีใครทำอะไรหรือพูดอะไรใส่แน่ๆ....ไม่เช่นนั้นโกคุเดระที่เริ่มจะนิ่งลงบ้างแล้วคงไม่อาละวาดขนาดนี้

คิดว่าเขาไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไงที่เห็นร่างบอบบางเป็นแบบนี้  คิดว่าเขาอยากจะใช้กำลังบังคับโดยไม่สนใจความรู้สึกของโกคุเดระเลยหรือไง  คิดว่าเขาทนได้หรอกับน้ำตาที่ไหลลงมาเป็นสายเลือดแบบนั้น

แต่เพราะคิดถึงโกคุเดระมากกว่าใครๆ เขาเลยต้องทำแบบนี้....


หรือว่าจะถึงเวลา....ที่เขาควรจะสารภาพความจริงออกไปเสียที....


ว่ามีเหตุผลอะไรข้าถึงต้องทำให้เจ้า “เกลียด” ข้า


“ ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นทั้งนั้น! ข้าก็แค่ถามเจ้าว่าคำว่ารักของเจ้ามันคืออะไร?! แค่ได้ตัวข้าเอาไว้ในครอบครองเท่านั้นก็พอแล้วใช่ไหม?!!       ถึงแม้ร่างกายจะถูกกอดเอาไว้จนไม่อาจขยับได้อีก แต่ใบหน้าสวยที่ยังคงเต็มไปด้วยน้ำตาก็เงยหน้าขึ้นมาคาดคั้นไม่หยุด

“ ใช่ไหม?!!       ใบหน้าที่ตะโกนถามนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าคมจึงพยายามตอบกลับปด้วยความใจเย็น

“ มันจะไปใช่ได้ไงเล่า”

“ ทำไมจะไม่ใช่! ในเมื่อสิ่งที่เจ้าทำลงไปทุกอย่าง เจ้าก็แค่อยากได้ตัวข้า อยากได้ร่างกายของข้า!       ฝ่ามือเล็กพยายามจะดันแผงอกกว้างออกไปอีก เรี่ยวแรงที่ดูเหมือนจะหมดลงกลับฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้งจนมือใหญ่ได้แต่จับข้อมือบางเอาไว้ก่อนจะตะโกนออกไปบ้าง

“ หยุดโกคุเดระ!!

“ ฮึก.....”       ใบหน้าสวยชะงักไปที่โดนอีกฝ่ายตะคอกใส่ ในใจยิ่งคิดไปต่างๆนานาจนในที่สุดก็ได้แต่ร้องไห้ออกมา

“ เจ้าไม่รู้จริงๆน่ะหรอ...ว่าสิ่งที่ข้าอยากได้จากตัวเจ้ามากที่สุดคืออะไร?”       น้ำเสียงทุ้มพยายามพูดอย่างนุ่มนวลที่สุดแต่ดูเหมือนในเวลานี้อะไรก็ไม่อาจส่งเข้าไปถึงจิตใจของร่างบอบบางได้อีก

“ ไม่รู้!! ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น!!        จากที่ดูเหมือนจะสงบกลับขัดขืนขึ้นมาอีก สภาพเหมือนคนที่กำลังบ้าคลั่งทำเอาหัวใจที่เคยแข็งแกร่งของยามาโมโตะเจ็บแปลบ

“ โกคุเดระ”      ร่างสูงใหญ่ต้องพยายามทำใจให้เย็นที่สุด จะเผลอใช้กำลังกับแก้วที่กำลังจะแตกแบบนี้ไม่ได้

เขาก็รู้ว่าที่โกคุเดระเป็นแบบนี้สาเหตุทั้งหมดมันเกิดจากเขาเอง....แต่บางทีมันน่าจะมีอะไรบางอย่างที่เข้าไปสะกิดใจของร่างบางเข้า ความเชื่อมั่นลึกๆในใจที่เคยมีให้เขาเลยสั่นคลอน  ซึ่งเขาต้องรีบจัดการกับมันให้ได้ก่อนที่โกคุเดระจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆไปเสียก่อนที่จะได้รู้ความจริง

“ ปล่อยข้า!! เจ้าจะบอกว่าเจ้ารักข้า อยากได้หัวใจของข้างั้นหรอ?! เจ้าจะเอาไปทำไมในเมื่อเจ้าไม่สามารถจะดูแลมันได้ ปล่อยให้มันตายอยู่กับข้าไม่ดีกว่าหรอ?!

“ เจ้าเป็นอะไรเนี่ย? พูดอะไรไม่รู้เรื่อง?!        ยิ่งเถียงกันก็ยิ่งคิดว่าเรื่องมันกำลังจะไปกันใหญ่

“ ทำไมข้าจะดูแลหัวใจของเจ้าไม่ได้? ไหนลองบอกข้ามาซิ?”

“ ไม่รู้ๆๆๆ!!        พอถามออกไปร่างบอบบางก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบ

“ ถ้าพูดด้วยปากมันไม่รู้เรื่อง ให้ข้าใช้ร่างกายพูดกับเจ้าดีไหมโกคุเดระ?!       ร่างบอบบางที่จู่ๆก็ถูกกดลงกับพื้นเสื่อทาทามิสะดุ้งเฮือก 

“ อื้อ!!        ใบหน้าคมแกล้งกดจูบลงไปที่ซอกคอยิ่งทำให้อีกฝ่ายสั่นกลัว

“ ยามะ อ๊ะ! ปล่อยข้านะ!!       มือบางพยายามรวบรวมแรงทั้งหมดก่อนจะผลักคนที่คร่อมอยู่ข้างบนออกไป ร่างกายรีบลุกขึ้นก่อนจะกระถดกระถอยหนี

“ เพราะข้าเป็นแค่เชลยใช่ไหม? เจ้าถึงได้ไม่ให้เกียรติข้าแบบนี้ นึกจะย่ำยีเมื่อไหร่ก็ได้?! ใช่สิ ข้ามันไม่ใช่คู่หมั้น ไม่ใช่เจ้าสาวที่เจ้าจะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คนที่เจ้าจะยกย่องเชิดชูให้ใครๆได้รู้....ใช่สิ...ข้ามันก็เป็นแค่คนที่อยู่เหนือใครๆแค่ในหัวใจของเจ้าเท่านั้นนี่! แค่ในใจของเจ้าที่ข้าไม่รู้แล้วว่ามันมีอยู่จริงหรือเปล่า!!


คู่หมั้น?....


ร่างสูงใหญ่ชะงักค้างไป.....ในที่สุดก็รู้แล้วว่าสาเหตุที่ทำให้โกคุเดระไม่เชื่อใจเขาจนสิ่งที่พยายามกักเก็บเอาไว้ในหัวใจที่ลึกๆยังคงรักเขาอยู่มันระเบิดออกมา


ท่านหญิงมิซึโกะ....สินะ


ใบหน้าคมฉายแววเย็นยะเยือกชั่ววูบหนึ่งก่อนจะหันมาหาคนตรงหน้าด้วยสายตาที่ราวกับกำลังถอนหายใจ



มือใหญ่กระชากมือบางข้างหนึ่งขึ้นมาก่อนจะจับมันมาวางเอาไว้บนหน้าอกข้างซ้าย....ในตำแหน่งเดียวกับหัวใจ

นัยน์ตาสีเปลือกไม้จริงจังจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีมรกตที่กำลังสั่นพร่า

จังหวะของหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ถูกส่งผ่านมือข้างนั้นไป


“ มีสิ....หัวใจของข้า.....”

“ และเจ้าเห็นหรือยัง....ว่ามือของเจ้ากำลังกุมมันเอาไว้....โกคุเดระ”


ใบหน้าสวยชะงักค้างไป...ตอนนี้ทั้งในใจและในสมองของร่างบอบบางคงกำลังตีกันยุ่ง เสียงหนึ่งคงกำลังอยากจะลองเชื่อเขาเหมือนเดิมแต่อีกหลายๆเสียงคงจะกำลังบอกว่าให้ปฏิเสธความเชื่อใจนั้นไปซะ

แขนแข็งแรงดึงร่างที่นิ่งงันเขามากอดเอาไว้เบาๆ ใบหน้าคมฝังใบหน้าเอาไว้กับเส้นผมสีเงินหอมกรุ่นก่อนจะกระซิบออกไปแผ่วเบา

“ ข้าไม่ขอให้เจ้ากลับมารักข้าในตอนนี้ แต่สิ่งเดียวที่ข้าอยากจะขอคือช่วยเชื่อใจข้าเหมือนที่เจ้าเคยเชื่อจะได้หรือไม่....”        ร่างสูงใหญ่ขยับกายออกมาเล็กน้อยเพื่อให้สามารถจ้องมองลงไปในดวงตาสีมรกตได้

“ ข้าไม่เคยรักใครนอกจากเจ้า....เรื่องคู่หมั้นนั่นมันก็เป็นแค่ธรรมเนียมของชนชั้นปกครองอย่างที่เจ้าก็รู้ว่า คนในตระกูลนักรบอย่างพวกเราไม่อาจจะรักใครได้เพราะโตขึ้นไปอาจจะถูกส่งตัวให้ไปแต่งงานเพราะการเมือง....มันเป็นเรื่องที่ถูกจัดการโดยผู้ใหญ่ตั้งแต่ที่ข้ายังไม่ทันจะจำความได้เลยด้วยซ้ำ”

“ ข้าถูกส่งไปอิสุตอนอายุเก้าปี.....เก้าปีที่อยู่ที่นี่ข้าไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนั้นอยู่ในสายตาแม้นาทีเดียว....แต่แปดปีที่ข้าอยู่ที่อิสุ ข้ากลับมีแต่เจ้าอยู่ในหัวใจทุกวินาที...และก็ใช่ว่ากลับมาจากอิสุแล้วข้าจะรักเจ้าน้อยลงเสียเมื่อไหร่....ข้าอยากให้เจ้าเชื่อ...ว่าคนที่ข้ารัก คนที่ข้ายกให้อยู่เหนือใครๆคือเจ้าคนเดียวเท่านั้น โกคุเดระ ฮายาโตะ”

ใบหน้าสวยนิ่งค้างอย่างที่ยอมสงบลง ในหัวสีเงินคงกำลังคิดอะไรต่อมิอะไรจนร้อนเป็นไฟอยู่แน่ๆ

“ แต่เจ้า....ก็จะต้องแต่งงานกับนาง.....”        ใบหน้าสวยก้มลงไปก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงงึมงำ

“ หึ....เจ้าคิดว่าอย่างข้าจะแต่งงานกับนางงั้นหรอ?....พ่อข้าไม่มีชีวิตอยู่แล้ว และไม่ต้องกลัวว่า ฮิบาริ เคียวยะ จะบงการชีวิตข้าได้”       อ้อมแขนดึงร่างบอบบางเข้ามากอดไว้หลวมๆ   ใบหน้าสวยที่แนบอยู่บนแผงอกยอมสงบลงในที่สุด

“ แต่ถึงพี่ข้าจะบงการข้าได้ก็เถอะ เจ้าคิดว่าพี่เจ้าจะไม่ช่วยอะไรเจ้าเลยงั้นหรอ?”       

“ แล้วเรื่องทายาท......”  

“ นั่นมันเป็นเรื่องของพี่ข้า....ข้าเป็นลูกชายคนรองนะ เพราะงั้นจะมีลูกหรือไม่มีก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร...แต่ถ้าเจ้าอยากมีข้าก็ยินดีทำให้จนกว่าจะมี ดีไหม?”       เสียงทุ้มพูดออกมาทีเล่นทีจริงทำเอาบรรยากาศที่เคยตึงเครียดเริ่มจะผ่อนคลาย

“ เจ้าบ้า.....จะไปมีได้ไงเล่า......”         เสียงงึมงำเอ่ยออกมา น่าแปลกที่มันกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บเหมือนตอนที่ได้ฟังผู้หญิงคนนั้นพูด


ต่อให้ถูกทำร้ายที่ร่างกายหรือที่ไหนๆ แต่ถ้าหัวใจยังคงเชื่อมั่น....อะไรก็มิอาจสั่นคลอนมันได้


“ สรุปว่าเจ้าหึงอย่างงั้นหรอโกคุเดระ?”       น้ำเสียงหยอกเย้าทำเอาใบหน้าสวยแดงเถือกเมื่อคิดถึงพฤติกรรมที่ผ่านมาของตัวเอง

“ โอ๊ย!!”       มือบางบิดเข้าไปที่ท่อนแขนแกร่งก่อนจะฝังใบหน้าร้อนผ่าวเอาไว้กับแผงอกเพื่อไม่ให้อีกคนเห็น

“ ไม่ต้องกลัว...ข้าจะปฏิเสธเรื่องนี้กับอาข้าให้ชัดเจน.....เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าก็เตรียมตัวเป็นนายหญิงของข้าให้พร้อมด้วยล่ะ รับรองว่าใครต่อใครในคามาคุระจะต้องรับรู้เรื่องนี้แน่ๆ”      ถ้อยคำหยอกเย้ายิ่งทำเอาคนที่ยังซุกหน้าอยู่ที่แผงอกยิ่งซุกเข้าไปใหญ่

ใบหน้าคมยิ้มน้อยๆเมื่อก้มลงมองกลุ่มผมสีเงินของคนที่ยังไม่ยอมละใบหน้าออกมาจากแผงอกของตน ก่อนที่นัยน์ตาสีเปลือกไม้มืดมนจะเหม่อมองออกไปที่ประตู


เห็นที....คงปล่อยเรื่องนี้เอาไว้ไม่ได้เสียแล้ว....








เรือนที่ใช้ว่าราชการซึ่งอยู่ด้านหน้าของคฤหาสน์เจ้าเมืองคามาคุระบัดนี้กำลังมีประชุมขุนนางและนายทหารระดับสูง

แผนที่ของเมืองอิสุถูกกางอยู่บนโต๊ะ เพื่อหารือเรื่องแนวทางในการใช้งานเมืองที่เพิ่งจะไปยึดมาได้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นัยน์ตาสีดำคู่คมของเจ้าเมืองคามาคุระจับจ้องไปบนแผนที่ก่อนจะเอ่ยสิ่งที่คิดอยู่ในหัวออกไป

“ อิสุเป็นเมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้ทะเลมาก เพราะฉะนั้นข้าจึงวางแผนให้มันกลายเป็นเมืองท่าในอนาคต”      คำพูดของ ฮิบาริ เคียวยะ เรียกเสียงหือฮาออกมาจากคนที่นั่งอยู่ในห้อง

เพราะคำว่าเมืองท่า ก็เท่ากับเป็นเมืองเศรษฐกิจซึ่งนับเป็นหัวใจของแผ่นดิน ตอนนี้คำว่าตำแหน่งหน้าที่ต่างลอยกันอยู่เต็มหัวขุนนางและนายทหาร  เพราะหากใครถูกส่งให้ไปดูแลที่นั่นก็จะมีแต่ความเจริญก้าวหน้าอย่างแน่นอน

อีกทั้งยังหวังได้ เพราะยังไงฮิบาริ เคียวยะก็ไม่มีทางส่ง ยามาโมโตะ ทาเคชิ ไปอยู่ที่นั่นเป็นการถาวรแน่นอน เนื่องจากความร้ายกาจของผู้เป็นน้องชายก็ปรากฏให้เห็นแล้ว....ยังไงก็ต้องเก็บเอาไว้ข้างกาย ด้วยไม่อาจไว้ใจได้ว่าจะไม่คิดกบฏ

“ เรื่องคนที่จะต้องไปดูแลที่นั่นข้าจะคิดอีกที แต่ในระหว่างนี้จะให้สมุหกลาโหมไปดูแลก่อน เพราะในอิสุเองก็ยังไม่ถือว่าสงบนัก อีกทั้งยังไม่เคยมีการเปิดเส้นทางที่จะใช้เชื่อมต่อไปยังทะเล คงต้องจัดตั้งคณะสำรวจและบุกเบิกการทำท่าเรือขึ้นมาเสียก่อน”

จริงอย่างที่ร่างสีดำพูด....ในอิสุที่เพิ่งถูกทำลายยังคงเต็มไปด้วยอันตรายจากสภาวะการขาดแคลนที่อยู่และอาหาร ทำให้ชาวบ้านกลายเป็นโจรก่อความวุ่นวายไม่ได้หยุดหย่อน อีกทั้งเส้นทางสายใหม่กว่าจะทำขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย  ใครที่ต้องถูกส่งไปตอนนี้จึงถือว่าเป็นงานหนักทีเดียว

“ ข้าจะให้ ยามาโมโตะ ทาเคชิ ไปกับพวกเจ้าด้วย”      และพอชื่อนั้นถูกเอ่ยออกมาก็ทำให้สมุหกลาโหมและนายทหารระดับสูงที่ต้องถูกส่งตัวไปโล่งใจทันที

เพราะนอกจากร่างสูงใหญ่นั่นจะเชี่ยวชาญเส้นทางและรู้เรื่องในอิสุเป็นอย่างดีแล้ว ชื่อเสียงของเด็กหนุ่มเองก็เป็นที่เกรงกลัวในอิสุอยู่มากทีเดียว

“ เจ้าคงไม่ขัดข้องอะไรใช่ไหม?”      ผู้เป็นพี่ชายหันไปหาผู้เป็นน้องชายด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก  สายตาดุดันยังคงถูกใช้เวลาจ้องมองกันและกัน

“ ข้าจะให้สึนะโยชิดูแล โกคุเดระ ฮายาโตะ เป็นอย่างดีในระหว่างที่เจ้าไม่อยู่”      ใบหน้าคมยกยิ้มอย่างรู้ทันคำพูดของพี่ชาย...ถ้าจะพูดให้ถูกคือ จะจับโกคุเดระเป็นตัวประกันอยู่ที่นี่ และถ้าเขาเกิดทำเรื่องน่าสงสัยที่อิสุ โกคุเดระก็จะไม่ปลอดภัยงั้นสินะ?

เจ้าดูถูกพี่น้องคู่นั้นมากไปหรือเปล่า...พี่ชายข้า

คิดหรือว่าสึนะจะยอมให้เจ้าทำอะไรโกคุเดระ หากข้าคิดกบฏขึ้นมาจริงๆน่ะ?

แต่ก็นั่นแหละ....เขาไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องแย้งเพราะเขาก็ไม่ได้คิดจะพาโกคุเดระไปด้วยอยู่แล้วเพราะมันอันตราย...แล้วอีกอย่าง...เขาเองก็มีเรื่องที่จะต้องไปทำที่อิสุ โดยเรื่องนี้แม้แต่โกคุเดระก็จะให้รู้ไม่ได้

ใบหน้าคมของผู้เป็นน้องชายจึงพยักหน้ารับด้วยท่าทางสบายๆ


ในทางกลับกัน....ถ้าโกคุเดระอยู่ที่นี่…..


จากสิ่งที่ข้าทำลงไป...ฮิบาริ เคียวยะย่อมต้องรู้ว่าเจ้าคือจุดอ่อนของข้า...เพราะฉะนั้นตราบใดที่เขายังกักขังหน่วงเหนี่ยวเจ้าเอาไว้ในคามาคุระ...ข้าจะไม่กล้าทำอะไรไม่ดีแน่    

นั่นคือเจ้าจะปลอดภัยอย่างแน่นอน โกคุเดระ....








ในระหว่างที่เรือนด้านหน้ากำลังประชุมเรื่องการบ้านการเมือง เรือนที่อยู่ด้านหลังเองก็ใช่ว่าจะไม่ได้ทำอะไร

เสียง ปึก ปึก ดังมาจากแรงเสียดสีของเส้นไหมที่ปักลงไปในเนื้อผ้าชั้นดีที่ถูกขึงจนตึงแน่น คราวที่แล้วเป็นนกกระเรียนสีทองโผบินอยู่อย่างโดดเดี่ยว แต่คราวนี้นกกระเรียนสองตัวกำลังบินคู่กันไปอยู่บนผืนผ้า

มือเล็กทุ่มเทความใส่ใจปักเส้นไหมลงไปด้วยใบหน้าอมยิ้มน้อยๆ

อย่างแรกที่ยิ้มเพราะนึกถึงใบหน้าคนที่จะต้องสวมใส่ผ้าปักผืนนี้....ส่วนอย่างที่สองที่อมยิ้มนั่นก็เพราะ....

“ ตรงนี้เว้นไว้ทำไม?”        เสียงนุ่มของคนที่นอนกลิ้งเล่นอยู่ข้างๆถามขึ้นมา นัยน์ตาสีมรกตจ้องเขม็งไปที่ลายปักบนเนื้อผ้าอย่างสนใจ  จะว่าไปตอนที่อยู่บ้านใหญ่ในอิสุก็ไม่เคยเห็นพวกผู้หญิงของที่นั่นปักผ้าแบบนี้กันเลยนี่นะ

“ จะเอาไหมสีอื่นปักลงไปน่ะสิ ถ้าปักโดยใช้สีเดียวมันก็ดูไม่มีมิติใช่ไหมล่ะ?”      ร่างเล็กของผู้เป็นพี่ชายตอบออกไปด้วยความเอ็นดู

หมู่นี้เองทั้งงานราชการ ทั้งงานลาดตระเวนก็มีให้พี่น้องแห่งคามาคุระคู่นั้นต้องออกไปสะสางไม่เว้นแต่ละวัน เพราะฉะนั้นตัวประกันและเชลยศึกที่แสนจะว่างงานจึงมานั่งเล่นอยู่ด้วยกันบ่อยๆ และเพราะแบบนั้นโกคุเดระจึงต้องนั่งมองพี่ชายปักผ้าที่จะใช้สำหรับศึกครั้งหน้าไปโดยปริยาย

“ ข้ากำลังสงสัย...ว่าทำไมเจ้าต้องปักผ้าเองด้วย? ที่คามาคุระไม่มีร้านขายผ้าหรือยังไง?”       เมื่อได้ฟัง ผู้เป็นพี่ชายจึงยิ้มออกมา

“ มันเป็นประเพณีของที่นี่น่ะ....การปักผ้ามันก็เหมือนเป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งซึ่งเอาไว้สร้างขวัญและกำลังใจให้ทหารที่กำลังจะออกไปรบ โดยผ้าผืนนี้จะถูกนำไปตัดเป็นกิโมโนตัวในให้ทหารสวมใส่ในขณะที่ออกรบ....จะได้คิดถึงคนปักแล้วอยากกลับบ้านจนมีแรงฮึกเหิมให้ทำศึกชนะยังไงล่ะ....แล้วก็คนที่จะปักผ้าให้ไม่ใช่ว่าจะเป็นใครก็ได้นะ...จะต้องเป็นหญิงสาวในบ้านเท่านั้น...ก็อย่างเช่นภรรยาปักให้สามี แม่ปักให้ลูก...ส่วนคนที่ยังไม่ได้แต่งงานก็สามารถไปร้องขอให้หญิงสาวที่ตนหลงรักปักผ้าให้ก็ได้”      ใบหน้าน่ารักอธิบายพร้อมรอยยิ้ม ทำเอาใบหน้าสวยที่กำลังคิดตามถึงกับลุกขึ้นมานั่งจ้องหน้าของผู้เป็นพี่ชาย

“ งั้นก็หมายความว่า ฮิบาริ เคียวยะ ให้เจ้าปักผ้าให้?”      พี่ชายเพียงแค่ยิ้มแทนคำตอบ และนั่นมันก็ทำให้ผู้เป็นน้องชายใบหน้าร้อนผ่าวแทนขึ้นมาทันที

ช่างน่าอิจฉาจริงๆน้า....

ร่างบอบบางล้มตัวลงไปนอนกลิ้งบนเสื่อทาทามิเหมือนเดิม เห็นคนข้างๆมีความสุขก็พลอยสุขใจไปด้วย

แต่แล้วจู่ๆร่างกายที่กำลังกลิ้งไปมาก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อดันนึกถึงคำพูดๆหนึ่งขึ้นมาได้


คราวนี้ข้าจะปักผ้าเป็นลายพยัคฆ์ให้กับท่านพี่ทาเคชิ...


นัยน์ตาสีมรกตชะงักค้างไป....ตอนนั้นเขายังไม่เข้าใจประเพณีการปักผ้าแบบนี้ เขาถึงได้ไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดของท่านหญิงคนนั้น

แต่ตอนนี้ในเมื่อรู้มันแล้ว....

ใบหน้าที่เคยอมยิ้มบูดลงอย่างแง่งอนทันทีเมื่อนึกถึงใบหน้าของยามาโมโตะ


ทำไมเจ้าไม่เคยร้องขอให้ข้าปักผ้าให้....แต่กลับไปร้องขอให้ท่านหญิงคนนั้นทำให้ ?







ประตูเลื่อนฝั่งระเบียงทางเดินถูกเปิดออกก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะเดินเข้ามา นัยน์ตาสีเปลือกไม้ปรายมองร่างบอบบางที่กำลังนั่งใช้ตะเกียบตักข้าวเข้าปาก ใบหน้าสวยไม่แม้แต่จะสนใจคนที่เดินเข้ามาใหม่จนยามาโมโตะนึกแปลกใจ

เพราะปกติต่อให้โกรธแค้นชิงชังเขาแค่ไหน แต่โกคุเดระก็มีมารยาทพอที่จะรอเขามากินข้าวพร้อมกัน

“ ทำไมวันนี้เจ้ากินข้าวไม่รอข้าเลยล่ะโกคุเดะระ?”       ริมฝีปากเอ่ยถามออกไปในขณะที่ดวงตาก็จ้องมองใบหน้างอหงิกของอีกฝ่ายอย่างพิจารณา

“ เรื่องอะไรข้าต้องรอเจ้าด้วย?!

“ งอนอะไรอีกล่ะ?”

“ อย่ามาพูดเหมือนข้าเป็นผู้หญิงนะ!”        ก็กำลังงอนเหมือนผู้หญิงเลยไม่ใช่หรือไงกัน?

ร่างสูงใหญ่นั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะอาหารด้วยรอยยิ้มน้อยๆ นัยน์ตาสีเปลือกไม้จ้องมองแก้มใสที่ยังเคี้ยวข้าวตุ้ยๆไม่พูดไม่จา....ช่วงนี้ถึงจะไม่ยิ้มไม่แย้มให้เขาอยู่แล้วแต่อย่างน้อยคิ้วเรียวนั่นก็ไม่ได้ขมวดตลอดเวลาแบบนี้

“ พรุ่งนี้ข้าต้องเดินทางไปอิสุ”       ใบหน้าสวยมีท่าทางตกใจ แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรร่างสูงใหญ่ก็ชิงพูดออกมาเสียก่อน

“ แน่นอนว่าเจ้าจะไม่ได้ไปด้วย....ฮิบาริ เคียวยะ ต้องการให้เจ้าอยู่ที่นี่....เพราะเค้ารู้ดีว่าเจ้าคือจุดอ่อนของข้า ตราบใดที่เจ้ายังอยู่ในกำมือเค้า ข้าจะไม่กล้าทำอะไรไม่ดีต่อคามาคุระแน่”       รอยแดงระเรื่อปรากฏอยู่บนแก้มใสของโกคุเดระวูบหนึ่งก่อนที่ใบหน้าสวยนั่นจะพยายามกลบเกลื่อนด้วยความบูดบึ้ง

“ ฮึ! กิโมโนที่ท่านหญิงคนนั้นปักให้อยู่ที่ไหนซะล่ะ? พรุ่งนี้เจ้าคงใส่มันออกไปสินะ?”      ใบหน้าสวยพูดจาประชดประชันก่อนจะเอาถ้วยใส่ข้าวบังหน้าเอาไว้ แต่แค่พูดออกมาแบบนั้นร่างสูงใหญ่ก็ได้แต่ยกยิ้มอย่างรู้ทัน

“ อยู่ไหนน้า.....”


ปึ้ง!!


ชามข้าวถูกกระแทกลงบนโต๊ะก่อนที่ร่างบอบบางจะลุกขึ้นเดินพรวดๆเข้าไปยังห้องด้านในด้วยใบหน้างอหงิกยิ่งกว่าเก่า

มือบางคว้ายูคาตะสีขาวเตรียมจะเข้าไปอาบน้ำให้หัวเย็นลงสักนิด ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้หงุดหงิดแบบนี้ จะว่าเป็นเพราะว่างมากเลยฟุ้งซ่านก็ไม่น่าใช่ ในเมื่อตอนถูกขังอยู่ที่อิสุเขาก็ว่างแบบนี้แต่ไม่เคยหงุดหงิดใจแบบในครั้งนี้เลย

ในหัวมีแต่คำว่าทำไมๆๆๆ

ทำไมยามาโมโตะที่บอกว่ารักเขาถึงไปให้ผู้หญิงคนอื่นปักผ้าให้ หรือจะเห็นว่ายังไงเขาก็ทำไม่ได้ เป็นแค่คนไร้ประโยชน์ที่อยู่ไปวันๆ

แล้วทำไมเขาที่บอกว่าเกลียดหมอนั่นนักหนาถึงต้องมานั่งคิดเรื่องพรรณนี้ด้วย

ทำไมๆๆ!!!

มือบางปลดโอบิออกก่อนจะแหวกคอกิโมโนให้พ้นไหล่ ผ้าเนื้อดีไหลลื่นตามผิวกายขาวผ่องลงไปกองอยู่ที่พื้นทันที เรียวขาก้าวไปยังอ่างอาบน้ำแล้วก้าวลงไปโดยไม่สนใจจะล้างตัวก่อนเลยสักนิด มือบางวักน้ำใส่หน้าจนกระเซ็นไปทั่ว

สภาพเหมือนนกน้อยลงเล่นน้ำทำให้ร่างสูงใหญ่ที่แอบตามเข้ามาอมยิ้มเจ้าเล่ห์

ดูท่าทางว่าร่างบอบบางนั่นจะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังหึง?

ถึงจะอยากให้เกลียดยังไงก็ไม่อยากให้เข้าใจผิดไปมากกว่านี้ มือใหญ่จึงปลดกิโมโนของตัวเองออกก่อนจะเดินฝ่าไอน้ำเข้าไปโดยที่เจ้าคนที่ยังคงวักน้ำล้างหน้าอย่างบ้าคลั่งนั่นไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิด

แผ่นหลังบางมาสะดุ้งเฮือกอีกทีก็ต่อเมื่อมันถูกกดแนบไปกับแผงอกแข็งแกร่ง กล้ามเนื้อได้รูปสมชายกำลังแนบไปกับผิวขาวนุ่มจนแทบจะไม่มีช่องว่าง เอวบางถูกอ้อมแขนแข็งแรงกอดกระชับเอาไว้ก่อนที่ใบหน้าคมจะก้มลงมาเกยคางไว้ที่หัวไหล่นวลเนียน

“ จะ...เจ้า!!”      ใบหน้าสวยเริ่มมีท่าทีตื่นตระหนก ร่างบอบบางพยายามจะดิ้นหนี แต่ลำตัวที่ถูกยึดเอาไว้ด้วยร่างกายของอีกฝ่ายก็ขยับไปไหนไม่ได้ง่ายๆเอาเสียเลย

ถึงแม้ร่างกายจะยังจดจำรสชาติความเจ็บร้าวของการถูกข่มเหงได้ดี แต่จากครั้งนั้นมายามาโมโตะก็ไม่ได้ทำอะไรอีก

“ ข้าทนไม่ไหวแล้วโกคุเดระ...ขอข้าเข้าไปในตัวเจ้าได้ไหม...แลกกับสิ่งที่เจ้าอยากรู้เป็นไง?”       ร่างที่กำลังดิ้นชะงักค้างก่อนจะหน้าแดงเถือกไปกับคำพูดออดอ้อนของคนที่กอดตนอยู่ข้างหลัง...วันนี้จะมาไม้ไหนกัน? ทั้งๆที่ใช้กำลังรังแกเขามาแล้ว แล้วคราวนี้ทำไมถึงมาอ้อนเหมือนลูกหมาป่า?

“ ขะ...ข้าไม่ได้อยากรู้อะไรทั้งนั้น”      

“ กิโมโนตัวนั้นข้าทิ้งมันไปตั้งนานแล้ว ข้าไม่เคยร้องขอให้ใครปักผ้าให้ เพราะประเพณีแบบนี้มันไม่มีความจำเป็นสำหรับข้าเลยโกคุเดระ”        เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบอยู่ที่ใบหู มือใหญ่รวบเส้นผมสีเงินไพล่ไปด้านข้างก่อนที่ใบหน้าคมจะก้มลงไปกดจูบที่หลังคอให้ร่างบอบบางสะดุ้งเล่น

“ กะ ก็ข้าบอกแล้วไงว่าไม่ได้อยากรู้เรื่องอะไรทั้งนั้น แล้วข้าก็ไม่มีวันยอมให้เจ้าเข้ามะ...อ๊า!!! ข้าเกลียดเจ้าได้ยินไหม!!”        ใบหน้าสวยยิ่งแดงหนักเมื่อรู้ตัวว่าพูดคำน่าอายออกไป นอกจากเจ้าบ้ายามาโมโตะแล้วตอนนี้กลับรู้สึกเกลียดตัวเองยิ่งกว่า ที่ดันรู้สึกดีไปกับสัมผัสที่คลอเคลียอยู่ที่ซอกคอ...ที่ดันรู้สึกโล่งใจไปกับคำพูดของอีกฝ่าย

“ ไม่รู้ละ ข้าบอกเจ้าไปแล้ว เพราะงั้นถือว่าการแลกเปลี่ยนเริ่มต้นขึ้นแล้ว”       น้ำเสียงเจ้าเล่ห์เอ่ยกระซิบ ร่างสูงใหญ่ไม่ปล่อยให้ร่างบอบบางปฏิเสธหรือโวยวาย มือกอบกุมไปที่ส่วนไวความรู้สึกของคนที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหน้าจนลำตัวขาวผ่องถึงกับสะดุ้งเฮือก

“ อึก....”      มือยกขึ้นมาปิดปากแทบไม่ทันเมื่อร่างกายที่ไร้เดียงสาถูกฝ่ามือใหญ่ๆนั่นลูบไล้ไปมา ถึงจะโตมาจนป่านนี้และมีพี่ชายถึงหกคน รวมทั้งยังอยู่กับผู้ชายอย่างยามาโมโตะมาตลอด แต่ดูเหมือนพวกนั้นรวมทั้งคนในตระกูลโกคุเดระจะพยายามไม่สอนอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้เขาเลย ไม่เคยรู้เลยด้วยซ้ำว่าผู้ชายกับผู้หญิงเขามีอะไรกันยังไง

“ อื้อ...”      นัยน์ตาสีมรกตจึงได้แต่ปิดแน่นเมื่อแกนกายถูกชักนำ เรี่ยวแรงที่จะใช้ต่อต้านกลับหายไปในพริบตา ใจที่บอกว่าเกลียดนักหนากลับแพ้ฝ่ามือคู่นั้น

ลมหายใจเริ่มจะติดขัดเช่นเดียวกับร่างที่เริ่มจะสั่นระริก ความรู้สึกดีที่ไม่เคยได้พบมาก่อนทำเอาต้องเม้มริมฝีปากแน่นเพราะไม่แน่ใจว่าถ้าเปิดปากออกไปมันจะมีเสียงอะไรออกไปหรือไม่

สองมือสั่นน้อยๆจับอยู่ที่ข้อมือใหญ่ที่ยังคงขยับขึ้นลง ใบหน้าคมยังคงคลอเคลียอยู่แถวๆแก้มใสกับซอกคอ ยิ่งทำเอาสติเตลิดเปิดเปิง ใบหน้าสวยดูทรมานแต่มันก็ต่างจากเมื่อตอนที่ทะเลาะกันมากมายนัก เพราะถึงแม้ว่าคิ้วเรียวจะขมวดเข้าหากันแต่ใบหน้านั้นก็ดูแฝงเอาไว้ด้วยความรู้สึกดี

“ ฮึก....อื้อ!”       ร่างขาวผ่องที่เริ่มจะแดงระเรื่อกระตุกน้อยๆเมื่อถึงจุดสูงสุดของอารมณ์ ความสุขสมที่ไม่เคยรู้จักกำลังแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ริมฝีปากสีแดงอ้าออกเพื่อผ่อนลมหายใจ นัยน์ตาสีมรกตที่กำลังหรี่ปรือต้องเบิกกว้างเมื่อมือใหญ่ยกขึ้นมาจากน้ำที่นั่งแช่กันอยู่

ของเหลวสีขาวขุ่นยังคงค่อยๆไหลลงไปจากฝ่ามือใหญ่....ของเหลวที่ดูยังไงก็ไม่ใช่น้ำที่กำลังอาบอยู่นี่แน่ๆ

แก้มใสแดงระเรื่ออย่างเต็มไปด้วยความอับอาย เพราะรู้ทั้งรู้ว่านั่นคือของของตน

“ ข้าจะค่อยๆสอนให้เจ้าเองโกคุเดระ...บทเรียนที่พี่ชายของเจ้าไม่มีใครยอมสอนให้...ข้าเลยได้ร่างกายที่แสนบริสุทธิ์ของเจ้ามาครอบครอง”        เสียงทุ้มที่กระซิบอยู่ที่ใบหูยิ่งทำเอาใบหน้าร้อนผ่าว สติที่เคยขาวโพลนยังคงเบลอๆจนเผลอเอ่ยปากถามสิ่งที่อยากรู้ออกไป

“ ทำไม...ทำไมเจ้าถึงไม่ให้ข้าปักผ้าให้เจ้าล่ะ?”      เสียงลอยๆทำให้ใบหน้าคมรู้ว่านั่นคือสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจของโกคุเดระและถ้าไม่อยู่ในสภาวะแบบนี้ ร่างบอบบางนี่จะไม่มีวันถามออกมาแน่

เจ้าน้อยใจที่ข้าไม่ให้เจ้าปักผ้าผืนนั้นให้ทั้งๆที่ใจจริงของข้าน่ะ....

“ แล้วเจ้าทำเป็นรึไง?”     ใบหน้าคมอมยิ้มก่อนจะกระซิบถามออกไป

“ ก็....ไม่เป็น”     ใบหน้าสวยก้มงุดอย่างรู้ความสามารถของตัวเองดี

“ อย่างเจ้าน่ะ คงจะฝืนทำจนมือโดนเข็มตำมีแต่แผลเต็มไปหมดแน่ๆ...”     มือใหญ่เอื้อมไปจับมือบางมากุมเอาไว้ก่อนอีกข้างจะลูบมันอย่างแผ่วเบา

“ ของที่ต้องแลกมาด้วยบาดแผลของเจ้าน่ะ...ข้าไม่เอาหรอก”       ใบหน้าสวยเงยขึ้นมาหาทันที นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างกับคำพูดที่ได้ยินก่อนที่มันจะสั่นพร่าเพราะว่าเข้าใจเหตุผลของเขาแล้ว


เพราะข้ารักเจ้า...ถึงต้องเฝ้าทะนุถนอมเอาไว้....


“ อีกอย่าง...ถึงจะไม่มีผ้านั่น...ยังไงข้าก็จะกลับมาหาแต่เจ้าอยู่ดี...เพราะหัวใจของข้าอยู่ตรงนี้”     ใบหน้าคมกระซิบเน้นย้ำลงไปที่ใบหูแดงระเรื่อเพื่อให้รู้ว่า “ตรงนี้” คือที่ไหน

“ ข้า.....”        และดูเหมือนเมื่อโล่งใจทั้งยังอ่อนเพลียที่ร่างกายทำให้จู่ๆนัยน์ตาสีมรกตก็ค่อยๆปิดลง แผ่นหลังบางทิ้งตัวอยู่ในแผงอกของร่างสูงใหญ่ที่รองรับเอาไว้

ริมฝีปากกดจูบลงไปที่แก้มใส ก่อนจะอุ้มคนที่หลับไปแล้วขึ้นจากน้ำ


ขอแค่เจ้ายังสามารถหลับตาลงได้ในอ้อมแขนของข้า....ในตอนนี้แค่นี้ก็พอแล้ว....








กองทัพสีดำที่คราวนี้ไม่ได้มีแต่ทหารกับอาวุธเพียงเท่านั้น ที่ด้านหลังของขบวนยังเต็มไปด้วยอุปกรณ์การก่อสร้างมากมาย ทั้งยังข้าวของเครื่องใช้ที่บ่งบอกให้รู้ว่าคนที่กำลังจะเดินทางไปในกองทัพครั้งนี้คงอีกนานเลยกว่าจะได้กลับมา


ร่างบอบบางของเชลยศึกจากอิสุรวบเสื้อคุลมฮาโอริให้อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนจะวิ่งไปตามระเบียงทางเดินอย่างไม่สนใจว่าใครจะคิดว่าไร้มารยาท

เจ้าบ้ายามาโมโตะนั่นออกไปโดยไม่ยอมปลุกเขา!

ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมตัวเองจะต้องมาวิ่งอยู่แบบนี้ แต่หากไม่ยอมก้าวขาออกมา...กว่าจะได้เห็นหน้าเจ้าคนที่เกลียดแสนเกลียดนั่นก็คงจะอีกหลายเดือน

ร่างบอบบางหยุดหอบแฮ่กอยู่ที่ระเบียงทางเดินไกลๆแต่ยังพอจะมองเห็นขบวนม้าที่จะออกจากคฤหาสน์คามาคุระเพื่อไปสมทบกับกองทัพหลักที่ประตูเมืองได้....ดูเหมือนจะทันเวลาพอดี เพราะตอนนี้ม้าสีดำซึ่งมีร่างสูงใหญ่ที่คุ้นตาของยามาโมโตะนั่งอยู่กำลังก้าวขาออกเดิน

ใบหน้าคมหันกลับไปมองด้านในเรือนอย่างไม่ได้คาดหวังอะไร แต่แล้วนัยน์ตาสีเปลือกไม้ก็ต้องเบิกกว้างเมื่อมองเห็นร่างบอบบางที่ผลุบๆโผล่ๆอยู่หลังเสาต้นหนึ่ง

มาส่งข้าหรอโกคุเดระ...

รอยยิ้มน้อยๆปรากฏอยู่บนใบหน้าคมอย่างหาดูได้ยากสำหรับเหล่าทหาร


ถึงจะบอกเจ้าออกไปตอนนี้ไม่ได้ แต่ข้าจะฝากสายลมช่วยบอกเจ้าที....ว่าข้าจะรีบกลับมา








ขบวนม้าหายลับสายตาไปนานแล้ว คนที่ออกมายืนส่งจึงทยอยกันกลับเข้าสู่ตัวเรือน

และดูเหมือนจะไม่ใช่ยามาโมโตะคนเดียวที่รับรู้ว่า โกคุเดระ ฮายาโตะออกมายืนส่งกองทัพด้วย

“ ท่านพ่อ....”         น้ำเสียงเย็นๆของท่านหญิงมิซึโกะเอ่ยเรียกร่างท้วมที่เดินอยู่ด้านหน้า ใบหน้าอวบอูมหันมามองด้วยสายตาสงสัยทำให้ผู้เป็นลูกสาวพูดต่อไป

“ ในระหว่างที่ท่านพี่ทาเคชิไม่อยู่...ทำไมเราไม่จัดงานชิงดาบของปีนี้ขึ้นมาเสียตอนนี้เลยละคะ?”        รอยยิ้มร้ายถูกส่งให้ผู้เป็นพ่ออย่างรู้ทันกัน ใบหน้าอวบอูมพยักลงรับช้าๆ


ข้าจะทำให้เจ้าอับอายจนไม่มีหน้ามาเดินอยู่ในบ้านนี้ได้อีกเลยละ เจ้าเชลยศึก!




.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

โปรดติดตามตอนต่อไป....




มะ  ไม่ได้ตั้งใจเก็บตอนที่ 12 ไว้ลงวันที่ 12 หรอกนะ  แต่ว่ามันเพิ่งเสร็จ = =””

เอาเป็นว่าสุขสันต์มากๆละกันนะตัวฉัน 55555 (<<คนแบบนี้ก็มีด้วย =[ ]=) แหม...คนเราถ้าไม่ให้ของขวัญตัวเองก่อนแล้วจะไปมีแรงให้ใครได้ง๊ายยยยย เพราะงั้นขอลาไปหาเค้กกินซักสองเดือนนะ //โดนตบรัวๆ

ละ ล้อเล่นกะได้....

สำหรับฟิค...ช่วงนี้ก็ทนหมั่นไส้ในความดาร์กของอิเนียนไปก่อนนะ ^ ^” อย่าเพิ่งปาหม้อไหอะไรมาให้คนแต่งนะคะ กลัวแล้วๆๆ  ต้องสารภาพว่าที่ตอน 11 มันออกมาช้าเพราะว่าตัดสินใจไม่ได้นี่แหละค่ะ ว่าจะให้ยามะมันเก็บความลับไว้แล้วดาร์กต่อไป หรือให้มันบอกความจริงหนูก๊กแล้วหวานๆกันไป สำหรับใครที่ไม่ชอบยามะที่เป็นแบบนี้ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ m(_ _)m ทั้งๆที่ก๊กร้องไห้แล้วทำไมแกยังข่มเหงเค้าอีก! เลวที่สุด! ยัยคนแต่งก็แต่งออกมาได้ ชั่วร้ายไม่มีใครจะเกิน!   เอ่อ....ไว้เรื่องหน้าจะให้ยามะมาอย่างฮีโร่เลยเค่อะ >/\<


ต้องขอขอบคุณของขวัญที่ส่งมาให้กันแต่หัววันเลยนะคะ ดีใจมากๆเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็แล้วแต่แค่ตั้งใจให้เก๊ามาก็ดีใจมากๆๆแล้วค่ะ *กอดรัด* รวมถึงคำอวยพรในเฟสด้วยนะคะ แหะแหะ เขิลเลย >////<

ใครสนใจฟิคของขวัญของเก๊าที่น้องมิยะเขียนให้มา ก็เชิญอ่านกันโล้ดที่ >> [8059] Skyfall by Miya

รับรองความเพอร์เฟ็ค(?!!) 555 (ที่ข้าพเจ้าลิ้งค์ไว้เป็นตอน intro นะก๊ะ ความจริงน้องมิยะยังลงต่ออีกสองพาร์ทน่ะ อย่าลืมเปิดดูนะ *w*

ขอบคุณฟิคที่ส่งมาทางหลังไมค์จากน้องนันดากับน้องเฟย์ด้วยนะค้า ไว้เก๊าอ่านแล้วจะเม้นต์เป็นหางว่าวกลับไปเลย รอฟังเสียงสครีมให้ดี ฮี่ๆ



ปล.ตอนแรกตั้งใจว่าจะแต่งฟิคเถื่อน(?)ให้ตัวเองอีกซักเรื่อง...ทว่า....สามสี่วันมานี้โดนรูปแฟนอาร์ตของ 7menzippo ล่อลวงค่ะ โฮรกกกกก คุณโคกิโนะ!!! ไม่ไหวแล้วอ่ะ ตบะแตกจากฟิคเถื่อนขอกลับไปฟิครักเพื่อน(?)เรื่องเดิม ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม หมายเลขยี่สิบห้า เร็วๆนี้ >////< ตามไปดูรูปที่ว่าได้ที่นี่ก๊ะ >> คุณโคกิโนะ  

ปล.2 Psycho Pass ตอนที่ 12 มันโฮกมากกกกกก กิโนะสมัยยังเด็กๆโคตรน่ารักเลยว้อยค่า...สครีมในเฟสยังไม่พอ เอามาต่อที่นี่อีก กรั่กๆๆๆ ผมสั้นอย่างน่ารักอ่า >/////<


 อีกซักรูป....





มาอีดิทแบบสดๆร้อนๆก่อนจะไปนอน เมื่อกี้มีเพื่อนรักส่งของขวัญวันเกิดมาให้อีกชิ้น โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เก๊าดีใจมากเลยอ่ะ ใครสนใจเชิญไปอ่านได้นะก๊ะ เจ้าตัวเค้าว่าเป็นฟิคโชตะนะ(น้ำลายไหลพราก) ที่นี่เลยก๊ะ  >> [8059] A Thousand Wish by kuwa[R]i...

กรี๊ดๆๆๆๆๆๆ >/////<







10 ความคิดเห็น:

  1. กรี๊ดดดดดด!! มาให้ได้อ่านแล้ววววว!!

    ตอนนี้หวานเนอะ หุหุ>.,<!!! แอบอิจฉาลึกๆๆ

    ท่านหญิงนี่ร้ายไม่เบานะคร่ๆ แต่คุนเทอประมาทฝีมือของหนูก๊กเราไปรึป่าวๆ

    บอกว่าจะให้อับอายน่ะ ไม่ใช่หนูก๊กหรอกนะจร่ ฮิฮิ เทอน่ะแหละที่ต้องอับอาย

    โฮะ โฮะๆๆๆ ^[]^!!

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  3. มาแล้วๆๆ ><

    สนุกเหมือนเดิมเลยค่ะ

    ตอนนี้ก๊กเริ่มเผยความรู้สึกตัวเองแล้ว น่ารักจริงๆ -////-

    ติดตามตลอดนะคะ ></

    ตอบลบ
  4. มาสครีมด้วยคนเน้ออออ><

    ชอบมากอ่ะพี่กวางง หนูก๊กซึนได้ซึนดี ทูน่าเท่ห์มว๊ากกก อ๊ากกกก พี่น้องคุ่นี้ มันโมเอ้ไม่ไหวแล้วอ่าาาา>///<
    แถมยังมีฉากเรียกเลือดในอ่างน้ำ(?)นิดๆให้เชยชม ยามะ ายพูดอย่างไม่อายเลยนะ ขอเข้าไปในตัววว กรี๊ดหลายรอบ 5555

    แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะค้าพี่กวางง มีความสุขนะคะ>..<
    กำลังสครีมอยู่ดี มาเจอเนื้อเรื่องตอนสุดท้ายปุ๊บ!! โอ้... ไอคุณหญิงมันน่าฆาตกรรม=[]=

    รีบๆมาอัพเน้อพี่กวางง มุกรออยู่ค่าา><

    ตอบลบ
  5. โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อ่านไปอินไป น้ำตาจะไหล จะกรี๊ด จะบิด อยากทำทุกอย่างในเวลาเดียวกันเลยค่า!!! >/////< เพราะตอนนี้ทำให้เราได้รู้อะไรหลายๆอย่างเลยอ่ะ อย่างแรกเลยที่อยากจะสครีมคือ ความรู้สึกของหนูก๊ก!!

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ในที่สุดก็แอบเผยไต๋แล้วสินะว่าหึงอิเนียนเข้าให้แล้วใช่มั้ย โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ชอบจังเลยค่ะ ชอบความคิดอิเนียนด้วยอ่ะ ตอนที่บอกว่า ต่อให้เป็นสึนะก็หวง อ๊ากกกกกกกกกกกก ขอนั่งยันนอนยันว่าไอ้พี่น้องมหาประลัยคามาคุระเนี่ย มันหวงคนของมันสุดๆจริงๆ เขินค่ะ >.<

    ชอบทุกครั้งที่สึนะกับก๊กอยู่ด้วยกัน อ่านแล้วมันอบอุ่นใจมากๆเลยค่ะพี่กวาง แบบอยากให้เป็นพี่น้องที่รักกันต่อไปอย่างนี้นานๆๆๆเลยค่ะ จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ช่วยกันให้ถึงที่สุดนะทั้งคู่ เอาใจช่วย...รู้เลยอ่ะว่าก๊กมีความสำคัญกับหนูซือมากจริงๆ เพราะคำพูดของก๊กถึงทำให้อยู่รอดมาได้ โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าก๊กโชคดีมากจริงๆค่ะที่มีพี่ชายอย่างหนูซือในเรื่องนี้ ปลื้มใจมากๆ

    ตบเข่าฉาด!! และฉากที่เค้ารอคอยมันก็มา นะ! มันต้องมีจนได้ นางเอกปะทะนางร้าย!!! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด สมกับเป็นหนูก๊ก!!! ยอดเยี่ยมที่สุดเลยลูกกกกกกกก คิดเอาไว้อยู่แล้วเชียวค่ะว่าอย่างหนูก๊กไม่มีทางก้มหน้าเก็บไหมเองแน่ๆ โฮกกกกกกกกกกกกก จิ้นภาพตามแล้ว หนูก๊กโคตรเริ่ดอ่ะ ทั้งสีหน้า ท่าทาง มั่นใจแล้วเชิดได้งามมากๆ นี่สินะนางเอกที่ไม่ยอมแพ้ แต่แม่หญิงมิซึโกะนี่ปากแม่มโคตรร้ายอ้ะ กล้าดียังไงมาพูดกับลูกสาวชั้นอย่างนั้นฟะหา!!!!!!! เดี๋ยวปั๊ดฟ้องอิเนียนสั่งตัดลิ้น!! อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก ก็ดูแต่ละคำของแม่คุณสิ! คู่หมั้นดีกว่าเครื่องระบายอารมณ์ มีทายาทได้ แต่หนูก๊กมีไม่ได้ ชิชะ!!! แต่ละคำเจ็บกระดองใจจี๊ดๆๆๆ เลยค่ะพี่กวาง

    พอเห็นหนูก๊กจิตตกเท่านั้นแหล่ะ พาลตกไปด้วยเลย ฮืออออออออ T[]T ยืนยันคำเดิมค่ะว่ารักหนูซือมากจริงๆเรื่องนี้ สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ชอบคำพูดของหนูซือมากเลยอ่ะ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ให้มันรู้ซะมั่งว่าเล่นอยู่กับใคร นายหญิงของเจ้าเมืองเชียวนะเฟ้ย อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก สครีมอีกระลอกค่ะ คือ พี่กวางแต่งให้อินจัดมากๆ มันพีคเลยอ่ะ ที่เห็นหนูซือวางอำนาจครั้งแรก แล้วมันก็ดูสูงสง่าสมกับตำแหน่งจริงๆค่ะ โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


    ต่อมาสครีมอีกระลอกกับประโยคสุดโฮกค่ะ ตอนที่อิเนียนจับมือหนูก๊กมาทาบกับหัวใจ

    “ มีสิ....หัวใจของข้า.....”

    “ และเจ้าเห็นหรือยัง....ว่ามือของเจ้ากำลังกุมมันเอาไว้....โกคุเดระ”

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ตรงนี้แต่งได้มีมิติสองมุมที่งามมากๆเลยค่ะพี่กวาง ทั้งความหมายโดยนัย และความหมายโดยตรงเลยอ่ะ ชอบบบบบบบบบบ มันยืนยันจริงๆว่ายังไงมันก็มีหนูก๊กคนเดียวในใจอ่ะ ไม่เพียงแค่ว่าเหนือกว่าใคร แต่เป็นหนึ่งในใจเลย โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อิเนียน ยอดมากกกกกก >/////< b

    ตอนที่คุยทัพกันนี่มีกรี๊ดค่ะ โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คุณฮิ นี่ตกลงยังเก็บอิสุไว้ใช่มั้ย จะไม่ทำลาย แต่จะฟื้นฟูขึ้นมาจริงๆหรือเปล่า อ๊ากกกก แอบคิดว่านี่ใช่มั้ยที่อิเนียนจะแอบเอาไปง้อหนูก๊ก แต่ว่าแผนการคุณฮินี่แพรวพราวมากๆเลยค่ะ ให้ก๊กอยู่ที่คามาคุระเพราะเป็นตัวประกันไม่ให้ไอ้น้องชายตัวดีคิดเป็นกบฏ เหอๆๆ นั่นสินะ เอ็งเก่งขนาดนี้ ใครๆเขาก็เกรงกลัวทั้งนั้นแหล่ะเฟ้ย แต่ยอมรับออกมาหน้าตาเฉยว่าหนูก๊กคือจุดอ่อนของแกนี่....โคตรเขินเลยค่ะ! โฮกกกกกก

    ส่วนฉากในอ่างน้ำไม่พูดกัน...เอาเป็นว่าพี่กวางทำให้เค้านอนจมกองเลือดตายสนิท บร๊ะ! วันรุ่งขึ้นก็กระปรี้กระเปร่าไปอิสุอย่างสบายใจล่ะสิ ชิ! >3<

    สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นแล้วเริ่มคลายปมต่างๆทีละนิดๆแล้ว และอยากรู้จริงๆว่า

    งานชิงดาบคืออะไร!!!????

    อะ อะไรอ้ะ ทำไมมิซึโกะต้องให้จัดตอนอิเนียนไม่อยู่ นี่วางแผนอะไรไว้กันแน่ แล้วงานชิงดาบคืออะไร อ๊ากกกกกกกกก สงสัยมากค่ะ เราต้องรอดาวตกงวดหน้าสินะ แต่ขอร้องล่ะ แง้ๆ ตกมาทีเถิ้ดดดดดดดดดดดดด แลกกับฟ้าร่วง เอาเปล่า (โดนพี่กวางเบิ๊ดกะโหลก)

    ขอบคุณค่ะ ที่โฆษณาฟิคเค้าด้วย >.< อ่านคอมเม้นต์แล้วดีใจมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ กระโดดกอดดดดดด เอาหน้าซุก ดีใจจริงๆที่ชอบ ตอนแต่งไปกังวลมากว่าพี่กวางจะชอบมั้ย โฮกกกกกกก เป็นกำลังใจอย่างดีเลยค่ะ เดี๋ยวตอนที่สองจะรีบไปปั่นต่อ

    สุดท้าย.....จะดาวตก จะสัตว์ไร้นาม อะไรก็ได้ ...จงมาๆๆๆ

    ตอบลบ
  6. แหม่ อยากจะตบซ้ายตบขวาท่านหญิงตาดำๆ นี่จริงๆ ทำร้ายจิตใจหนูก๊กได้
    ชอบตอนที่พี่ชายช่วยปกป้องน้องชายด้วยฝีปากจริงๆ ค่ะ สะใจ!!
    ส่วนยามะ แกก็นะ นึกจะไปก็ไป ไม่บอกไม่กล่าว ไม่อยากให้ก๊กคุงโดนรังแกตอนออกไปส่งสินะ
    ส่วนงานชิงดาบ??? ก๊กจะเป็นยังไงล่ะเนี่ย โดนกลั่นแกล้งอีกแน่ๆ เลย ท่าจะไม่เบาซะด้วย
    ติดตามตอนต่อไปค่ะ แล้วก็สุดท้าย... ... ... Happy Birthday นะคะ ^_^

    ตอบลบ
  7. ยามะหวานซะ ‘ ข้าจะทำให้เจ้าวันละอัน...แทนคำบอกรักจากข้า...ที่อยากจะบอกเจ้าทุกวัน ’ กรี๊ดดดดดดดด อิจฉา
    หนูฮายะ จุงเบย ต๊าย ปีนึงสนามหญ้าคงกลายเป็นสนามกังหัน หมั่นใส้ยัยท่านหญิงหนอย “ ข้าก็คือ.....คู่หมั้นของท่านพี่ทาเคชิ”
    ไมหนูฮายะ ไม่บอกไปละ ว่าเจ้าก็แค่คู่หมั้นแต่ข้านะเมีย หิ๊ววววว มัวแต่ตะลึงตึงตึงอยู่ แต่งานนี้ขอปรบมือให้น้องหนูทูน่าที่เริ่มมี
    ปากมีเสียง ใช้บารมีสะมีตอกซะยัยท่านหญิงหน้าหงาย ฮ่าฮ่าฮ่า มาดนายหญิงท่านเจ้าเมืองเฉียบมาก (ท่านฮิสอนมาดี)
    ความจริงก็อยากจะหนับหนุนให้หนูฮายะปักผ้าให้ยามะนะ แต่กัวแทน ว่าจะดูไม่ออกว่าปักเป็นลายอะไรนะสิ แค่ไม่ดื้อ
    ว่านอนสอนง่าย แค่นี้ยามะก็ดีใจจะแย่แล้ว ขนาดแค่รู้ว่าฮายะหึง ยามะก็ปลื้มจะตาย แต่วิธีบอกรักแก้หึงนี่ซิ หวาย หวาย
    สมเป็นดาร์กเนียนเจง ๆ พี่น้อง(ท่านฮิ) พอกัน ยัยท่านหญิงเสล่อ คิดจะทำให้ฮายะอาย คิดดีๆนะย่ะ เด๋วก็รู้ ใครจะอาย
    เอาเลยหนูฮายะ แสดงเพลงดาบ เอาให้รู้กันไปเลย ยามะบอกแล้วใช่มะ ว่ามีอะไรเกิดขึ้น (จากตอนก่อนๆ) ให้ชักดาบ
    ได้เลย แสดงดาบเพลงคู่เอาให้หน้าหงายไปเลยนะหนูฮายะ เอาให้รู้ไปเลยว่าหนูฮายะนี่แหละตัวจริงเสียงจริงของพ่อดาร์กเนียน
    รอตอนต่อไปอยู่นะค่ะ นึกว่าตอนที่สิบสามจะลงวันที่สิบสามซะอีก เอาใจช่วยนะค่ะ (^o^)V

    ตอบลบ
  8. ยะ...ยัยมิซึโกะ เธอสวยให้ได้ครึ่งน้องก๊กก่อนเถอะ เเล้วค่อยมาโวยวายย!!! ชิ อิจฉาที่ยามะมองมาที่ก๊กคนเดียวเท่านั้นก็บอกฉันมาเถอะย่ะ ฉันรู้ทัน หึ !!=3= อะไรนะ นางบำเรอ หนอย เธอว่าใครฮะ นั่นน่ะ ภรรยาน้องท่านเจ้าเมืองเชียวนะ !! เธอนั่นเเล่ะ เป็นเเค่ของเล่นที่เสนอไปให้เเล้วยามะไม่เเม้เเต่จะมองน่ะ คู่หมั้นเเล้วยังไง มันก็เเค่โซ่ล่ามเเขนล่ามขาเท่านั้นเเล่ะ คิดเหรอว่าอย่างยามะจะสนใจน่ะ โธ่ กล้าดียังไงมาว่าน้องก๊กวะคะ ดูซิก๊กน้อยใจเลยเห็นไหมTT_TT เธออย่าทำให้สามีภรรยาเขาเเตกเเยกกันสิยะ !!

    //สวดไม่เลี้ยงเลยทีเดียว...


    ชอบตอนที่ยามะมาง้อก๊กรอบเเรก(?)มาก เฮ้ยย เอาคะเเนนเต็มไปเลยค่ะ !!!TT//////TT คนอ่านเขินเเทนเลยอะ
    เจ้าเป็นเพียงคนเดียวที่ยกให้อยู่เหนือใครๆในหัวใจของข้า ว๊ากกกกกกกกกกกกกก ชาบูว์พี่กวางงงง

    //โค้งนับสิบรอบ


    ต่อมาเป็นความโหดของซือ(?) บอกได้คำเดียวว่าทูน่าตอนนี้โดนใจมากก ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร=w= เริดค่ะพี่ทูน่า !! นังริยาล่ะอยากจะพ่นไฟใส่ยัยมิซึโกะมานานเเล้ว หมั่นไส้...



    สิ่งนึงที่ชอบในฟิคคือ ตอนที่ยามะบอกว่าจะทำกังหันให้ก๊ก คือเเบบ มันต้องใช้ความอดทนนะเรื่องนี้อะ เฮ้ยยยย สุดยอดดดTT////TT ถ้าไม่รักกันจริง ทำไม่ได้ถึงขนาดนี้อะ


    เเละอีกอย่างที่โฮรกฮรากยามะเลยก็คือ ตอนที่ก๊กงอนว่าทำไมถึงไม่ยอมให้ปักผ้าให้...กลัวก๊กเจ็บสินะ เพราะก๊กเย็บผ้าไม่เป็น ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เป็นห่วงภรรยาอย่างเห็นได้ชัด T////T บ้า บ้า บ้า ก็ให้พี่สึนะเค้าสอนสิเธอ ต่อไปในภายภาคหน้าจะได้เย็บเก่งๆ //โดนดาบเฉาะหัว

    ปล.HBD ย้อนหลังนะคะTT_TT //โดนตบตี

    ตอบลบ
  9. น่ารักมากค่ะ น่ารักกกกกกกกกกกกกก
    คืออะไรงอนหรอ งอนสินะงอนใช่มั้ยยยยยยยยยยย
    ก๊กน่ารักมากเลยค่ะถึงจะบอกเกลียดๆปาวๆแต่ก็รักเค้านั่นแหละแหมมมม
    สึนะจัดการท่านหญิงนั่นทีเอาหนักๆให้รู้ว่าใครเป็นใคร!!!!!!
    อยากเห็นน้องก้กปักผ้าจังเลยค่าาาาา><

    ตอบลบ
  10. โหยยยยยยยยยยย นางคิดจิทามไรฟร้าาาาาาา

    ตอบลบ