Psycho
Pass. OneShot.Fic [Kogami x Tsunemori] ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม :
หมายเลขหนึ่ง
:
Psycho Pass Fanfiction
:
Kogami x Tsunemori
:
Romantic?
:
PG
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักหญิง
หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ (จะเตือนทำด๋อยอะไรวะ?)
“
โคงามิซัง....”
“
โคงามิซัง!......”
ไม่ว่าจะเรียกหรือตะโกนก็ยังคงมีแต่ความเงียบตอบกลับมา....
เด็กสาวในชุดลำลองขาสั้นยืนทำหน้ายู่ใส่ประตูเหล็กที่ยังคงปิดสนิท
ผมหน้าม้าส่ายไปมาเมื่อใบหน้าน่ารักชะเง้อชะแง้ขึ้นไปเพื่อพยายามส่องที่ตาแมวของประตู
เผื่อว่าเจ้าคนที่เธอพยายามเรียกอยู่จะแกล้งไม่ยอมเปิดให้แล้วหลบอยู่ตรงนั้น
“
โค...งา...มิ...ซาง.......”
แต่ไม่ว่าจะเรียกสั้นๆหรือยานคาง
ก็ยังคงไม่มีเสียงตอบรับใดๆ
“
หรือจะโดนใครย่องมาฆ่าตายไปแล้วนะ?”
ดวงตากลมโตหรี่ลงอย่างสงสัย....ถึงเรื่องที่พูดมาจะแทบเป็นไปไม่ได้เลยก็เถอะ....อย่างคนคนนั้นต่อให้สิบรุมหนึ่งก็ยังไหว...ใคร๊
จะไปทำอะไรได้
ใบหน้าน่ารักหันไปหันมา
ตอนนี้เธอยืนอยู่ที่หน้าห้องพักของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นอาชญากรแอบแฝง
ถึงแม้จะมีตำแหน่งเป็นถึงนักสืบของกรมความปลอดภัยก็เถอะ แต่ที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ที่คนอย่างเธอจะมายืนอยู่ได้นานนักหรอก...
“
ยังไงก็คงต้องขอเข้าไปข้างในห้องก่อนละนะ....ขอโทษนะคะ โคงามิซัง”
ข้อมือเล็กถูกยกขึ้นมาก่อนจะแนบสายรัดข้อมือลงไปที่สแกนเนอร์ข้างประตู...เพราะว่าเธอคือผู้บังคับบัญชาของเขา
เรื่องที่จะขอผ่านเข้าไปในห้องก็เลยไม่ใช่เรื่องยาก
จริงอยู่ที่ว่าอาชญากรแอบแฝงแทบจะไม่มีสิทธิใดๆ
แต่หากไม่รู้จักกันในระดับหนึ่งแล้ว เธอคงไม่กล้าบุกเข้าห้องของคนที่ขึ้นชื่อว่า “หมาล่าเนื้อ”
คนนั้นตามลำพังแน่ๆ
“
หวะ...ยังเต็มไปด้วยกระสอบทรายเหมือนเดิมเลยน้า”
ร่างเล็กเดินหลบหลีกกองกระสอบทรายและอุปกรณ์ออกกำลังกายมากมายที่ตั้งอยู่อย่างกระจัดกระจายในห้องโล่งๆ
ถึงแม้จะดูแมนสมกับเป็นห้องของผู้ชาย
แต่นอกจากพวกเครื่องออกกำลังกายแล้วอย่างอื่นกลับดูเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะกองเอกสารหรือชั้นหนังสือต่างก็ถูกจัดเรียงอย่างเรียบร้อย
จะมีก็แต่ที่เขี่ยบุหรี่ที่มีแต่ก้นบุหรี่ยัดแน่นกับเสื้อเชิ้ตที่พาดเกะกะอยู่บนโซฟาเท่านั้นที่ดูขวางลูกตาอยู่เล็กน้อย
“
โคงามิซัง!”
เพราะนอกจากเสื้อเชิ้ตแล้ว
เสื้อโค้ทคอปกตั้งสีเทาซึ่งมีขนสีขาวๆอยู่ด้านในซึ่งโคงามิซังมักใส่เป็นประจำยังถูกพาดอยู่ด้วยกัน
นั่นก็แสดงว่าเจ้าตัวน่าจะยังอยู่ในห้องนี่แหละ
ริมฝีปากอิ่มที่ไร้การตกแต่งใดๆจึงร้องเรียกออกไปอีกที
ขาเล็กก้าวเดินเข้าไปที่ห้องด้านในสุดซึ่งมีแต่ความมืดสลัว
เสียงเอี๊ยดอ๊าดของพัดลมเพดานเก่าๆดังช้าๆ....เป็นไปได้ว่า....
“
ไม่จริงน่า?....โคงามิซัง?.....”
เด็กสาวร้องเรียกเบาๆก่อนจะเดินอ้อมไปยังหัวเตียงเหล็กที่มีร่างคุ้นตานอนนิ่งอยู่....ที่บอกว่าไม่อยากจะเชื่อนั่นก็เพราะว่า
เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มีโอกาสได้เห็นใบหน้ายามหลับของคนคนนี้นอกจากเวลาที่บาดเจ็บ
เขาจะไม่รู้ตัวเลยหรอ
ว่าเธอเข้ามาใกล้ขนาดนี้ ทั้งๆที่ปกติแล้วจะเป็นคนที่ระวังตัวอยู่ตลอดเวลาแท้ๆ
ใบหน้าน่ารักชะโงกมองใบหน้าคมที่ยังหลับสนิทจากทางหัวเตียง
เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอในจังหวะเดียวกับแผ่นอกกว้างที่ขยับขึ้นลง
รอยยิ้มน้อยๆปรากฏอยู่บนใบหน้าของคนที่จ้องมอง....นานๆทีเธอถึงจะได้มีโอกาสแกล้งเขาบ้าง
และเพราะตั้งใจจะทำให้ตกใจเล่น
สองแขนเล็กจึงกางกั้นก่อนจะเท้าลงไปที่พื้นเตียง
ใบหน้าของเธอคร่อมอยู่บนใบหน้าของเขา ก่อนที่เสียงเรียกเบาๆจะเอ่ยออกไป
“
โคงามิซัง.......”
.
.
.
.
“
โคงามิซัง.......”
....เสียงใคร?.....
“
ได้โปรดหยุดเถอะค่ะ...โคงามิซัง...”
มือที่สั่นสะท้านยังคงจำรสชาติของ
Paralyzer
ได้ดี และเสียงๆนี้ก็เป็นคนหยุดเขา....หยุดความหิวกระหายจากการออกล่าของหมาอย่างเขา
เสียงกรีดร้องดังก้องแทรกเข้ามา
ก่อนที่ภาพติดตาของเหยื่อครั้งล่าสุดจะฉายชัดท่ามกลางความมืดมิด
ถึงแม้จะไม่ปะติดปะต่อแต่อวัยวะที่ฉีกขาดออกจากกันนั้นก็ยังฝังอยู่ในหัวไม่ยอมหาย....ผู้หญิงคนนั้นต้องตายเพราะเขา.....
“
โคงามิซัง...”
ต้องตายไปเพราะเขา......
“
โคงามิซัง...”
เสียงนั้นยังคงเรียกซ้ำไปซ้ำมา
เพื่อตอกย้ำตัวตนของคนที่ชื่อ โคงามิ ชินยะ
เสียงใคร.....?
“
โคงามิซัง...”
“
โค....”
ซาซายาม่า
?
“
โคงามิ....ชินยะ....”
นัยน์ตาสีดำเบิกโพลงขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อท่วมตัว
เสียงทุ้มต่ำที่เคยได้ยินแค่ครั้งเดียวกลับทำให้รู้สึกสั่นสะท้านว่าใครคนนั้นมันอยู่ใกล้แค่เอื้อม
มือคว้าไปที่เงาดำๆตรงหน้าแล้วออกแรงตวัดจนร่างมันลอยหวือข้ามหัวเตียงมา
ก่อนจะกดร่างนั้นไว้ใต้ร่างของตัวเอง
“
อ่อก....คะ โคงามิ...ซัง.....”
เสียงไอแค่กๆดังมาจากร่างเล็กๆที่ถูกมือใหญ่จับลำคอกดเอาไว้
นัยน์ตาสีดำที่เพิ่งปรับโฟกัสได้จึงเพิ่งเห็นว่าเงาดำๆนั้นเป็นใคร
ฝันอย่างงั้นหรอ...?
“
เธอเองหรอ...ผู้สังเกตการณ์” มือใหญ่คลายออกก่อนจะลุกออกไปจากร่างที่กดเอาไว้ให้
‘เธอเองหรอ’ ที่ว่านั่นได้แต่อ้าปากพะงาบๆ...ทำไมอีตาคนนี้เป็นแบบนี้ทุกทีเลยนะ!
ร่างสูงใหญ่นั่งลงที่ข้างเตียง
มือหนึ่งเสยผมขึ้นมา ส่วนอีกมือก็ควานหาบุหรี่ที่วางเอาไว้ไม่ไกล พอได้อัดบุหรี่เข้าไปความปั่นป่วนในใจที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะสงบลงได้บ้าง
หมู่นี้คดีมันเยอะจริงๆ
แล้วส่วนใหญ่มันก็เป็นคดีที่พุ่งเป้ามาที่คนรอบตัวของเขาทั้งนั้น
ทำให้สายตาที่ไม่เคยมองอะไร
ไม่เคยสนใจใครของเขายิ่งพุ่งเป้าไปที่คนคนเดียวหนักกว่าเดิม...อย่างที่มันเอง...ก็คงจ้องมองอยู่ที่เขาอย่างเดียวเช่นกัน
คิดจะเล่น
Russian
Rulet กับเขาสินะ
“
นี่!!
โคงามิซัง!!” น้ำเสียงที่เหมือนจะขึ้นเสียงดังมาจากคนที่นั่งหัวยุ่งไม่แพ้กันอยู่ข้างๆ
และเมื่อใบหน้าคมหันกลับไปมอง ร่างเล็กๆนั่นก็สะดุ้งเฮือกแล้วถอยครูดห่างออกไปพร้อมตั้งการ์ดรับ
อยู่ๆก็อยากจะหัวเราะขึ้นมาเมื่อได้เห็นท่าทางแบบนั้น
“
รอยยิ้มนั่นมันอะไรน่ะ?...ละ แล้วก็....ยังมีหน้ามานั่งสูบบุหรี่สบายใจอยู่ได้นะคะ
คิดว่านี่มันกี่โมงแล้ว?!” นัยน์ตากลมโตที่จ้องเขม็งกลับมาทำให้สายตาที่เหม่อลอยนิดๆเหลือบลงไปมองชุดลำลองที่ร่างเล็กๆนั้นสวมใส่อยู่....ดูเหมือนวันนี้เขานัดกับเธอเอาไว้สินะ
ว่าจะออกไปซื้อของด้วยกัน
ประตูเหล็กปิดลงอีกครั้งเมื่อหนึ่งชั่วโมงให้หลัง...
นัยน์ตากลมโตเหลือบมองคนที่เดินอยู่ข้างๆอย่างรู้สึกแปลกตานิดๆ
เพราะปกติต่อให้ออกเวรแล้วแต่โคงามิซังก็จะยังคงใส่แต่เสื้อเชิ้ตกับสูท แต่วันนี้กลับใส่เสื้อยืดคอวีสีขาวกับกางเกงยีนส์ง่ายๆ
ถึงแม้จะยังคงมีไอ้โค้ทสีเทาปกตั้งตัวเดิมคลุมอยู่ก็เถอะ
และเมื่อถูกจ้องนานเข้า
นัยน์ตาสีดำก็เหลือบกลับมามองบ้าง ทำให้ใบหน้าน่ารักถึงกับผงะก่อนจะแดงเถือกแล้วหันหนีทำทีไม่รู้เรื่อง
นัยน์ตาสีดำเหลือบกลับมามองทางข้างหน้าอย่างพยายามกลั้นหัวเราะ...นานแล้ว...ที่ไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตก็ยังมีสิ่งที่เรียกว่า...รอยยิ้ม
เช่นเดียวกับความรู้สึกที่ว่า...นานแล้ว...ที่เขาไม่ได้ออกมาเดินเล่นสบายๆในวันหยุด
บรรยากาศจำลองของสวนน้ำพุที่ถูกรายล้อมไว้ด้วยร้านค้ามากมายนั้นเต็มไปด้วยผู้คน
ถึงแม้จะมาที่นี่ไม่รู้กี่ครั้ง
แต่การมาปฏิบัติหน้าที่กับการมาในครั้งนี้มันก็ให้ความรู้สึกที่ต่างกันจริงๆ ถึงแม้ว่ามนุษย์ที่ซื้อของทุกอย่างจากร้านค้าสวัสดิการของกรมอย่างเขาจะเคยออกมาซื้อของเองบ้างตอนที่ยังไม่ได้เป็นอาชญากรแอบแฝง....แต่ก็จำได้ว่าความรู้สึกมันไม่ได้ผ่อนคลายขนาดนี้
เป็นเพราะร่างเล็กๆที่ยืนเกาะกระจกร้านดวงตาเป็นประกายนี่หรือไงกัน?
“
นี่...ถ้าอยากดูขนาดนั้นก็เข้าไปดูสิ”
เสียงทุ้มเอ่ยทักถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะว่าไอ้ตุ๊กตาปลาหมึกนั่นมันน่ารักยังไง
แต่นัยน์ตากลมโตที่หันกลับมามองก็เต็มไปด้วยประกายจนอดขำไม่ได้
ร่างเล็กๆเดินเข้าไปดูในร้านโดยที่ร่างสูงยังคงยืนเฝ้าอยู่ข้างนอก
นัยน์ตาสีดำมองผ่านกระจกใสเข้าไปถึงแม้จะทำเป็นดูของในร้านแต่ที่จริงเขากำลังจ้องร่างเล็กๆนั่นอยู่ต่างหาก
จะปล่อยให้คลาดสายตาไม่ได้....
เพราะคดีส่วนใหญ่ที่เกิดในช่วงนี้ล้วนแล้วแต่เป็นคดีที่เกิดขึ้นกับคนรอบตัวของพวกเขา
เพราะฉะนั้นคนสองคนในหน่วยสืบสวนที่ยังสามารถออกไปไหนมาไหนนอกกรมได้จึงถูกลงมติว่า
ยังไงก็ต้องมี ‘หมาล่าเนื้อ’ ตามไปด้วยทุกครั้ง
หึ...ป่านนี้เจ้ากินโนะคงกำลังหัวเสียอยู่กับใครสักคนในหน่วยปฏิบัติการณ์ที่ต้องไปด้วยกันอยู่แน่ๆ
จะว่าไปก็ดูยากเหมือนกันนะ ว่าใครต้องดูแลใครกันแน่?
ร่างเล็กออกมาอีกครั้งพร้อมกับถุงกระดาษใบใหญ่...ตกลงว่านั่นมันของแถมจากการมาซื้อของใช้ประจำวันสินะ?...ใบหน้าคมลอบถอนหายใจว่าเขาจะต้องถือไอ้ของน่าอายแบบนั้นใช่ไหม
ก่อนจะยกมือแบไว้ตรงหน้าเด็กสาวเพื่อให้ส่งถุงนั่นมาให้เขาถือ
แต่สิ่งที่ถูกวางลงมากลับเป็นตุ๊กตาปลาหมึกขนาดจิ๋วที่มีผิวนุ่มนิ่มเพราะทำด้วยผ้าขนฟู...ดูเหมือนจะเป็นพวงกุญแจ?
“
แคนดี้คุงมินิ....เพื่อขอบคุณที่มาเป็นเพื่อนค่ะ” ใบหน้าน่ารักที่ยิ้มแก้มปริส่งมาให้ทำให้หัวใจที่เคยเต้นอย่างราบเรียบมาตลอดกลับมีจังหวะที่แปลกไป
“
ถึงจะไม่ใช้ก็ต้องเก็บไว้ด้วยล่ะ โคงามิซัง! เพราะนี่เป็นตุ๊กตาแมงกะพรุนรุ่นหายากสุดๆเลยนะ!”
นัยน์ตาสีดำจ้องมองตุ๊กตาบนฝ่ามือด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยเป็นมาก่อน....ไม่เคยคิด...ว่าจะได้รับอะไรแบบนี้จากใครมาก่อน
“
โคงามิซัง?”
ใบหน้าน่ารักที่เงยมองหน้าเขาจากด้านล่างทำให้สติกลับคืนมา
มือเก็บเจ้าแมงกะพรุนนั่นลงประเป๋าเสื้อโค้ทก่อนจะคว้าถุงกระดาษใบใหญ่มาถือไว้แล้วออกเดินนำหน้า
เพราะไม่อยากให้เด็กนั่นเห็น...ใบหน้าที่ทำเป็นเฉยชาไม่ไหวอีกต่อไปของเขา....
ถุงกระดาษใบใหญ่ถูกวางเอาไว้ในรถเข็นของซุปเปอร์มาเก็ต....ตกลงไอ้นี่มันเป็นแมงกะพรุน?
ไม่ใช่ปลาหมึก?
ใบหน้าคมยังคงจับจ้องหนวดสีชมพูข้างหนึ่งที่โผล่พ้นถุงออกมาด้วยความสงสัย
ในขณะที่เข็นรถเดินตามร่างเล็กๆที่กำลังเลือกของใช้ในชีวิตประจำวันที่ถูกเรียงอย่างเป็นระเบียบอยู่บนชั้นวางซึ่งสูงเต็มผนัง
“
อือ....”
ปลายนิ้วเรียวจิ้มอยู่ที่ริมฝีปากอิ่มบนใบหน้าที่กำลังเงยมองของที่อยู่บนชั้นสูงสุดอย่างจนปัญญา
ก่อนที่จะหันหน้ามามองร่างสูงด้วยสายตาเหมือนลูกหมา
“
......”
ใบหน้าคมถอนหายใจก่อนจะเอื้อมมือออกไปหยิบขวดครีมอาบน้ำสีชมพูลงมาให้.....เพราะเด็กนี่เป็นแบบนี้หรือเปล่านะ
เขาถึงได้ไปไหนมาไหนด้วยได้อย่างสบายใจ...จะบอกว่าไม่ค่อยตะขิดตะขวงใจเท่าไหร่ว่าเด็กนี่เป็นผู้หญิงก็คงจะได้
ก็ถ้าเป็นผู้หญิงทั่วไปก็น่าจะเขินอยู่แล้วละที่ต้องมาเดินซื้อของใช้ส่วนตัวแบบนี้กับผู้ชายที่ไม่ได้เป็นแฟนหรือสามี...นี่เท่ากับว่าเขารู้ทุกอย่างเลยนะ
ว่าร่างเล็กๆตรงหน้านี่ใช้ครีมอาบน้ำกลิ่นอะไร ใช้ยาสระผมยี่ห้อไหน ใช้อะไรยังไง
“
แล้วโคงามิซังไม่ซื้ออะไรบ้างหรอ?”
ใบหน้าน่ารักยังมีหน้าหันกลับมาถาม....เอาเถอะ...เป็นแบบนี้เขาก็สบายใจดี
“
ไม่ละ...เลือกของเธอไปเถอะ”
ถ้าจะมีที่อยากได้ตอนนี้ก็คงจะเป็นบุหรี่
ใบหน้าจึงหันไปมองชั้นวางบุหรี่ที่อยู่แถวๆเคาน์เตอร์
“
เอ่อ....โคงามิซังคือว่า....จากตรงนี้ไปให้ฉันเดินไปคนเดียวแล้วกัน” และเมื่อใบหน้าคมหันกลับมาอีกทีก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมผู้สังเกตการณ์ของเขาถึงพูดออกมาแบบนั้น...เพราะข้างหน้าเป็นดงผ้าอนามัยน่ะสิ....อย่างน้อยก็ยังมีความเป็นผู้หญิงอยู่บ้างละนะ
“
ถ้างั้นฉันรออยู่แถวนั้นแล้วกัน”
มือชี้ไปที่ชั้นวางบุหรี่
ร่างเล็กพยักหน้ารับแล้วเดินหายเข้าไปในทางเดินแคบๆที่ถูกขนาบด้วยสรรพสิ่งของทั้งสองข้าง
ร่างสูงเข็นรถไปรออยู่แถวๆทางออก
ก่อนจะสอดส่ายสายตามองไปรอบๆ ยิ่งเป็นที่ที่คนเยอะยิ่งไว้ใจไม่ได้....
แต่ไม่ว่าจะยืนมองจนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปหลายร้อยคน.....แต่ร่างเล็กๆนั่นก็ยังไม่กลับมา
ช้าไปแล้วหรือเปล่า
กับการซื้อของแค่นั้น?
ร่างกายเริ่มจะอยู่นิ่งไม่ไหว...ในใจเริ่มจะเป็นห่วงขึ้นมาจนตัดสินใจที่จะเดินไปดู
แต่ชั้นที่ร่างเล็กควรจะอยู่กลับว่างโล่งไม่มีแม้แต่เงาของใคร
จู่ๆขาทั้งคู่ก็รู้สึกหนักขึ้นมา
พร้อมกับภาพของซาซายาม่าที่แว่บเข้ามาในหัวอย่างห้ามไม่ได้
มือกำแน่นอย่างพยายามตั้งสติ
ใบหน้าคมตึงเครียดขึ้นมาทันทีก่อนที่จะก้าวขาเร็วๆเดินดูทุกๆช่องทางเดินระหว่างชั้นวางของ...ที่ช่องอื่นๆนั้นมีคนอยู่กันเต็ม
ยิ่งทำให้ลำบากเวลาต้องเดินฝ่าเข้าไป
แต่หัวใจที่เริ่มร้อนลนก็ทำให้ร่างสูงยังคงก้าวขาต่อไป
จากที่เดินเร็วๆเริ่มออกวิ่ง
ใบหน้าหันไปหันมาเพื่อมองหาร่างเล็กๆที่ดูราวกับจะกลืนหายไปกับฝูงชนจนเขาอาจจะไม่ได้เห็นมันอีก
ไม่นะ....
ทั้งๆที่ปกติแล้วจะมีเพียงแค่ความเจ็บใจที่ไม่อาจจะช่วยเหยื่อได้
เหมือนคนที่เจ็บใจเวลาที่พ่ายแพ้ต่อเกมส์สักเกมส์หนึ่ง
แต่ถ้าหากกลายเป็นเด็กคนนั้นที่ต้องหายไป
ในหัวใจของเขามันกลับร่ำร้องว่ามันมีอะไรบางอย่าง
ที่มากกว่าความเจ็บใจ ถ้าจะต้องสูญเสียเธอไป
นัยน์ตาคมกล้าดั่งหมาล่าเนื้อกวาดมองแล้วมองอีก
พยายามทำให้ตัวเองใจเย็นลง แล้วคิดซะว่ายัยเด็กนั่นก็คงแค่เดินหลงไปไหน...คงไม่ได้เกิดอะไรขึ้นหรอก.....
แต่มันก็คิดแบบนั้นได้ไม่กี่นาที
สัญชาตญาณอาชญากรก็กลับมาทำงานตามเดิม
ทั้งห่วง
ทั้งกังวลจนใจมันไม่สามารถทำให้สงบลงได้แบบที่เขาเคยทำได้ทุกครั้ง
เพราะเป็นเด็กคนนั้น....เพราะเป็น
สึเนะโมริ อาคาเนะ?
มือที่ล้วงลงไปในกระเป๋าเสื้อโค้ทสัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มของเจ้าแมงกะพรุนตัวน้อย
เธอหายไปไหนกัน
สึเนะโมริ?!
ขอให้เรื่องเลวร้ายในหัวชั้นตอนนี้เป็นเพียงเรื่องเดียวที่จะไม่มีวันเกิดกับเธอ!
ร่างสูงใหญ่เริ่มกระวนกระวายจนคนที่ผ่านไปผ่านมาหันมามอง
เพราะไม่ว่าจะเดินย้อนไปย้อนมากวาดตามองหากี่รอบๆก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่กำลังตามหาอยู่
จะทำยังไงดี? เรียกกำลังเสริมมาดีไหม? หรือว่าจะลองประกาศเรียก?
ใจเย็นๆ...ค่อยๆคิดสิ....จะมีทางไหนได้บ้างที่ไอ้พวกนั้นมันจะมาจับตัวเธอไปได้โดยที่เขาซึ่งเฝ้าอยู่ที่ทางออกจะมองไม่เห็น
ประตูของพนักงานทางด้านหลัง?!
ขายาวก้าวฉับๆเพื่อจะไปยังบานประตูที่ว่า
แต่มันก็ยากกว่าที่คิด ในเมื่อมันต้องเดินผ่านโซนที่ขายอาหารสดซึ่งในเวลาของลดราคาแบบนี้ทุกพื้นที่ต่างเต็มไปด้วยบรรดาแม่บ้าน
“
โธ่โว้ย!! ช่วยหลบกันหน่อยได้ไหม!” ร่างสูงตะโกนออกไปด้วยความหงุดหงิด ทำให้ทุกสายตาต่างหันมามอง
“
โคงามิซัง ?”
แล้วเสียงของคนที่เขาตามหาก็ดังมาจากข้างหลัง
ความโล่งใจราวกับขึ้นสวรรค์นี่มันอะไรกัน.....
ร่างทั้งร่างนิ่งค้างอยู่แบบนั้นจนกระทั่งแรงกระตุกน้อยๆถูกส่งมาจากแขนเสื้อโค้ท
ไม่ไหวแล้ว...ความรู้สึกที่กำลังล้นทะลักออกมาแบบนี้
มีแต่เธอเท่านั้นที่ต้องรับมันไป!
“
โค....เอ๊ะ?”
เสียงนุ่มยังไม่ทันจะเรียกชื่อของคนตรงหน้าจนครบ นัยน์ตากลมโตก็ต้องเบิกกว้างเมื่อจู่ๆร่างสูงที่ยืนหันหลังให้ก็หันกลับมาแล้วคว้าตัวเธอเข้าไปกอดเอาไว้
ท่อนแขนแข็งแรงกดลำตัวเล็กให้แนบลงไปจนแทบจะจมหายไปกับแผ่นอกกว้าง
ใบหน้าน่ารักได้แต่เงยมองกลุ่มผมสีดำยุ่งๆด้วยความตกตะลึง เมื่อเขากดใบหน้าเอาไว้ที่หัวไหล่ของเธอ...ทั้งเสียงเต้นของหัวใจ
ทั้งกลิ่นกายที่ให้ความรู้สึกขมๆผสมกลิ่นบุหรี่ ทุกสิ่งทุกอย่างของเขา...มันกำลังซึมซาบลงไปในตัวเธอ
“
เรียกชื่อชั้นที...”
เสียงทุ้มที่กระซิบอยู่ที่ใบหูนั้นให้ความรู้สึกราวกับว่า เขาเป็นหมาล่าเนื้อที่กำลังหลงทาง...เป็นหมาล่าเนื้อที่หาเจ้าของไม่เจอ
“
โคงามิซัง....”
“
โคงามิซัง........”
“
โคงามิซัง.............”
และทุกๆครั้งที่เธอเรียกเขาแรงกดที่ร่างกายก็ยิ่งมากขึ้นจนรู้สึกอึดอัด...แต่ทว่า...มันกลับเป็นความอึดอัดที่อบอุ่น
ทุกๆครั้งที่เธอเรียกเขา....หัวใจก็เต้นราวกับมนุษย์ที่มีชีวิต
ไม่ใช่เป็นเพียงหมาล่าเนื้อที่มีดวงตาเพียงเพื่อฆ่าเหยื่อ
คงต้องยอมรับเสียที...
ว่าจากนี้ไป
ดวงตาของเขาจะไม่ได้มองไปที่หมอนั่นเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว
.
.
.
.
.
.
.
.
“
ไปไหนมา?” ร่างสูงถามคนที่เดินอยู่ข้างๆอย่างพยายามจะไม่มองหน้า...ไม่เคยคิดเลยว่าคนอย่างเขาจะทำเรื่องน่าอายแบบนั้นได้กลางซุปเปอร์แถมยังเป็นท่ามกลางสายตาแม่บ้านนับล้านอีกต่างหาก
“
พอดีพนักงานที่ห่อของนี่ไปเข้าห้องน้ำค่ะ แล้วคนก็ต่อแถวรอห่อของกันอยู่ก็เยอะมากเลย....อยู่ทางด้านนู้นน่ะ”
นิ้วเรียวชี้ไปทางซอกด้านหลังที่บัดนี้ยังมีคนต่อแถวยาวเฟื้อย
ถ้าเป็นตรงนั้นก็ไม่แปลกละที่เขาจะหาไม่เจอ
มือเล็กวางห่อกระดาษที่ด้านในคงเป็นของใช้ของผู้หญิงลงไปในรถเข็นก่อนจะหันหน้ากลับมาถามว่า
“
เย็นนี้กินอะไรดีโคงามิซัง? คุณน่ะ ควรจะต้องกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆบ้างนะ
เดี๋ยวฉันทำให้เอง นี่อุตส่าห์ไปฝึกกับคางาริซังมาเลยนะ” นัยน์ตากลมโตจ้องเขม็งมาอย่างสั่งสอนก่อนจะหันไปยืดอย่างภาคภูมิใจที่สามารถทำอาหารให้เขากินได้...ถึงแม้จะไม่ค่อยน่าไว้ใจว่าอาหารที่เจ้าคางาริสอนมามันอาจจะมีแต่กับแกล้มก็เถอะ
“
แล้วแต่เธอเถอะ”
นัยน์ตาสีดำมองใบหน้าบูดน้อยๆด้วยดวงตาอ่อนโยน....จากนี้ไปจะไม่ปล่อยให้คลาดสายตาอีก
เขาจะได้ไม่ต้องมากระวนกระวายและเสียใจในภายหลัง
ร่างเล็กๆเดินดูชั้นที่วางผักสดอยู่เต็มไปหมดโดยมีร่างสูงเดินอยู่ข้างๆไม่ห่าง
ในขณะที่นัยน์ตากลมโตจ้องต้นหอมอวบอ้วน
นัยน์ตาสีดำกลับหันไปมองท้องฟ้านอกหน้าต่างบานกระจก
สายตาที่ราวกับว่ากำลังจ้องมองใครบางคนอยู่มันกำลังท้าทายและบ่งบอกให้คนคนนั้นรู้ว่า
ถ้าคิดว่าจะทำร้ายเจ้าของของหมาล่าเนื้ออย่างเขาได้ก็ลองดู!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To
be Continue ไหม?
=[
]= มันเกิดความสงสัยว่านี่ตรูนั่งทำอะไรอยู่ตั้งแต่หลังจากดู Psycho
Pass ตอนที่ 10 จบแล้วค่ะ
โอกกกกก
นี่มันอะร๊ายยยย ฟิคนี่มันโผล่มายังง๊ายยยย ได้ข่าวว่าตรูนั่งปั่น ดาวตก กับ
ทอนฟาลิลลี่(?)อยู่ดีๆ >[
]<!!!
มันชั่ววูบมากค่ะ
อ่านไปก็ทำใจหน่อยนะ 555 จริงๆก็ไม่มีอะไรหรอก เป็นแค่ One Shot สนองนี้ดตัวเอง อย่างที่ว่านั่นจริงๆ ^ ^” (ทำพิษตรูจนได้สินะเมิง
ไอ่ตอนที่ 10!!) คือฟิคเรื่องนี้จะมาแนวเดียวกับ Kiss
me Oniisan ฟิค Ao Ex น่ะค่ะ...นั่นก็คือว่า
อาจจะมีตอนต่อไปหรือไม่มีก็ได้ เพราะมันจบในตอน ฮ่าๆๆๆ บางทีตอนต่อไปที่โผล่มา
สมการอาจจะสลับกลับไปเป็น คุณโคxโชโงะซัง หรือ คุณโคxกินโนะ
ไปก็ได้นะ ^ ^” (ถ้าเข้าสายวายเมื่อไหร่น่าจะมันส์(?)เลยเนอะฟิคของเรื่องนี้
ตอนแรกนี่เป็นสายนอมอลเลยขอแบบน่ารักๆดีก่า คึหึหึ)
ปล.ถึงทุกเสียงทวงของดาวตก
ใกล้แล้วค่ะ อย่าฆ่าหนูเลย *พราก* แต่ซึ้งใจมากกับคนที่ขอ “ฝนดาวตก” มา ฮ่าๆๆ แค่ดาวตกดวงเดียวมันยังไม่ค่อยจะเสร็จเลยลูกเอ้ย
นี่ขอเป็นฝนดาวตกเลยเร๊อะ =[
]= จะ จะพยายามค่ะ อึก...
แล้วเจอกันอีกวันสองวัน
ฮี่..
ตรงนี้อ่านซักหน่อยนะก๊ะ จะได้ไม่งง
เอาละ.....มาอธิบายกันหน่อย เกี่ยวกับไอ้ฟิคงงๆที่ชื่อว่า ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม นี่น่ะ
จริงๆแล้วมันเป็นฟิคสั้นจบในตอนค่ะ (ยกเว้นของอิคู่ดราม่าประจำซอย) และ....เนื้อเรื่องมันไม่ได้ต่อกัน แต่ละพาร์ทแต่ละคู่ไม่เกี่ยวข้องกันโดยสิ้นเชิง!! ความจริงคือต้องแยกไปเป็นคนละเรื่อง ไปตั้งชื่อของใครของมันไปเลยด้วยซ้ำ...แต่ด้วยความที่มันเป็นฟิคสั้นแบบ One Shot แล้วตรูก็ขี้เกียจตั้งชื่อ เลยให้มันอยู่ภายในร่มคันเดียวกันไปซะ โดยใช้ชื่อเรื่องว่า ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม โดย...
ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม หมายเลข 1-11 จะเป็นหมายเลขตอนที่จะเอาไว้ลงคู่ Kogami x Tsunemori
ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม หมายเลข 12-22 จะเป็นหมายเลขตอนที่จะเอาไว้ลงคู่ Kogami x Makishima
ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม หมายเลข 23-33 จะเป็นหมายเลขตอนที่จะเอาไว้ลงคู่ Kogami x Ginoza
ซึ่งแต่ละคู่ก็อาจจะไม่ได้ลงจนครบจำนวนตอนก็ได้ อย่างที่บอกแหละมันเป็นฟิคสั้นจบในตอน เพราะงั้นจะต่อหรือไม่ต่อมันก็จบของมันอยู่แล้ว (ก็ยกเว้นอิคู่ดราม่าที่ไม่จบในตอนแน่นอน55) จึงเรียนมาเพื่อทราบ ^ ^
แอร๊ยยยยยยยยยยย เพิ่งมาคอมเมนต์เป็นครั้งแรกหลังจากเป็นนักอ่านเงามานาน -___- ในที่สุดพี่ก็แต่งฟิคคู่นี้ นอมอล >//////< แต่งได้น่ารัก ใสมากๆๆๆ ถ้าเข้าสายวายเมื่อไหร่คงโทนดาร์ก 555+ ชื่อเรื่องนี้ได้มาจากเพลง Ending ของ psycho pass ซินะคะ >W< ติดตามและเป็นกำลังใจๆๆๆๆ
ตอบลบอยากอ่านคู่อากาเนะจังกับโคกามิอีกเยอะๆเลยค่ะะ!!!♪───O(≧∇≦)O────♪ไม่แต่งต่อแล้วหรอออ......ヽ(´o`;
ตอบลบ